ตอนที่ 12
เย็นวันศุกร์
“คืนนี้มึงต้องไปร้องเพลงหรือเปล่าว่ะ”
“ถามทำไม อยากไปด้วยเหรอไง”
“ก็แค่ถามดูว่ะ”
“คืนนี้ไม่ได้ไปว่ะ ตอนนี้ที่ร้านปิดปรับปรุง ตกแต่งร้านใหม่น่ะ คงได้พักยาวๆ เลย แต่ว่าเย็นนี้ไปธุระด้วยกันหน่อยนะ”
“ไปไหนว่ะ???”
“เหอะนะ อย่าถามมาก” เกียร์เดินกอดคอขลุ่ยออกจากมหาลัย
“จะไปไหนไม่ขึ้นห้องหรือไง” ขลุ่ยเอ่ยถามเมื่อเกียร์ทำท่าจะเดินเลยคอนโดของเขาไป
“ไปทำธุระเป็นเพื่อนกูก่อน เร็วดิ”
“เออๆ ไปไหนว่ะ”
“ไปบ้านกูไง”
“บ้านมึง??? ไปทำไมว่ะ”
“มึงหยุดสงสัยบ้างก็ดีนะ”
เกียร์เดินนำหน้าเข้าซอยไปยังบ้านของเขา
ณ บ้านของเกียร์
“หวัดดีครับป้า คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่หรือครับ”
“ค่ะ ท่านไปงานเลี้ยงคงกลับดึกค่ะ คุณหนูไม่กลับบ้านหลายวันเลยนะค่ะ เอ๊ะ นั่นพาใครมาด้วยค่ะเนี่ยะ”
“เพื่อนสนิทครับป้า” เกียร์เดินเข้ามากอดคอแน่น บ่งบอกให้รู้ว่าสนิทกันมาก
“สวัสดีครับป้า” ขลุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม
“สวัสดีค่ะ ตามสบายเลยนะค่ะ หน้าตาน่ารักเชียวพ่อหนุ่ม ชื่ออะไรจ๊ะ”
“ขอบคุณครับป้า ผมชื่อขลุ่ยครับ”
“ค่ะ ตามสบายเลยค่ะ ป้าไม่กวนแล้ว”
“ไปๆ ไปดิ”
“ไปไหนว่ะ”
“กูชักรำคาญมึงแล้วนะ พูดมากจริงๆ” เกียร์เดินขึ้นบันไดไปด้านบน
“รอด้วยดิว่ะ พากูมาบ้านมึงทำไมเนี่ยะ”
“มาช่วยกูเก็บของไง” เกียร์เปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนอนของเขา
“เก็บของเหรอ เก็บไปไหนว่ะ”
“นี่ชาติก่อนมึงเกิดเป็นเจ้าหนูจำไม หรือไงว่ะ ขี้สงสัยจริง”
“ก็เก็บของไปอยู่กับมึงไง มึงจะให้กูใส่เสื้อผ้าของมึงตลอดไปเลยเหรอไง”
“ไปอยู่กับกูเนี่ยะนะ” ขลุ่ยทำหน้างงๆ
“เออ อยู่ไม่ได้เหรอว่ะ เด่วกูให้ค่าเช่าก็ได้”
“เออ แล้วแต่มึงละกัน นี่ห้องนอนมึงเหรอ ทำไมเรียบร้อยจังว่ะ โครตเป็นระเบียบเลย” ขลุ่ยเริ่มเดินสำรวจในห้อง
“มึงคิดว่าห้องเรียบร้อยขนาดนี้ เป็นฝีมือกูเหรอไง”
“เออว่ะ คนอย่างมึงไม่น่าใช่คนละเอียดอ่อน คงเป็นฝีมือแม่บ้านซินะ”
“เออ แต่ที่ว่าอย่างกูไม่ใช่คนละเอียดอ่อน นี่หมายความว่ายังไงว่ะ”
“ปล่อยผ่านละกัน ช่างมันเหอะ”
“ทำไมห้องมึงมีขลุ่ยเยอะจังว่ะ”
“ทำไมกูจะมีไม่ได้ว่ะ กูเรียนดนตรีน่ะเว้ย”
“เออจริงว่ะ เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก เห็นมันสวยดีน่ะ เรียนดนตรีต้องมีขลุ่ยเยอะขนาดนี้เลยเหรอว่ะ”
“เปล่าหรอก ของสะสมกูน่ะ กูชอบขลุ่ย”
“เออดี แอบชอบกูมานานยัง?”
“นานล่ะ!!!!!!! เห้ยยยย กูหมายถึงขลุ่ยที่เป็นเครื่องดนตรีนะ สะสมมานานล่ะ มึงเล่นมุกกับเขาเป็นด้วยเหรอว่ะ”
“ก็หัดๆ เล่นดู เผื่อจะเวิร์ค”
“เออๆ แล้วแต่มึงล่ะกัน กูเก็บของเสร็จล่ะ ไปกันได้ล่ะ”
“เอาขลุ่ยไปด้วยดิว่ะ กูอยากเห็นมึงเป่าว่ะ”
“อยากให้กูเป่าขลุ่ยให้…………………………..ฟัง หรอว่ะ เออๆ ก็ได้ ว่างๆ เดี๋ยวเป่าให้ฟังนะ” เกียร์หยิบขลุ่ยแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี
“เฮ้ยยย รอด้วยดิว่ะ” ขลุ่ยรีบเดินตามออกไป
คอนโดของขลุ่ย
“นี่มึงขนของมาเยอะขนาดนี้ กะจะมาอยู่ถาวรเลยหรือไงว่ะ”
“เออ กูจะอยู่กับมึงจนกว่ามึงจะไล่กูออกไป โอเคมั๊ย”
“กูไล่เลยได้เปล่าว่ะ???”
“จริงดิ กูไม่ไปว่ะ กูหน้าด้าน” เกียร์กระโดดขึ้นนอนบนเตียงของขลุ่ยหน้าตาเฉย
“เอาที่มึงสบายใจเลยล่ะกัน เออ แล้วจะกินข้าวหรือเปล่าว่ะ จะสองทุ่มแล้วเนี่ยะ ว่าไง จะกินหรือเปล่า” ขลุ่ยหันมาเพื่อหาคำตอบ เขาพบว่าเกียร์เผลอหลับไปซะแล้ว
“อ้าววว อะไรว่ะ หลับจริงเหรอเนี่ยะ เฮ้ยยยเกียร์ เกียร์”
ขลุ่ยเดินออกจากห้องนอนมุ่งหน้าไปที่ตู้เย็นเพื่อดูว่ามีอะไรที่พอจะกินได้บ้าง
ขลุ่ยมองดูตู้เย็นของเขา ที่อัดแน่นไปด้วยของกิน อย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“โห!! ทำไมของกินเยอะขนาดนี้ว่ะเนี่ยะ ต้องเป็นฝีมือไอ้ลูกพี่เกียร์แน่นอน มันแอบซื้อมาตอนไหนว่ะ
เออแต่ก็ดีเหมือนกัน กำลังหิวเลย กินอะไรดีว่ะ”
ขลุ่ยค้นหาของกินในตู้เย็น เห็นอาหารแช่แข็งหลายอย่าง จึงเอาไปอุ่นในไมโครเวฟ
“เกียร์ เกียร์ ไอ้เกียร์” ขลุ่ยตะโกนเรียกเสียงดัง
“เห้ย อะไรว่ะ เสียงดังโวยวายอะไรเนี่ยะ คนกำลังนอนสบายๆ”
“กินข้าวกัน อุ่นไว้ให้แล้ว วางไว้ที่โต๊ะนะ”
“เออๆ ขอบใจว่ะ น่ารักจริงๆ เลย” เกียร์ลุกขึ้นจากเตียง เอามือสองข้างหยิกแก้มขลุ่ยเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
“เฮ้ยย ทำอะไรของมึงเนี่ยะ” ขลุ่ยปัดมือเกียร์ออก
“กูมึงทำตัวน่ารักนี่หว่า”
เกียร์เดินตรงไปยังโต๊ะอาหาร แล้วนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย
“ไม่รอกูเลยนะ”
“เดินช้าเด่วกูกินหมดไม่รู้นะเว้ย”
“เอ้ยยยยยยยยยเด่ว รอก่อน ของใครของมันดิว่ะ”
สองหนุ่มแย่งกันกินอย่างสนุกสนาน
“อิ่มมากเลยว่ะ ขอบใจนะที่ทำตัวเป็นเมียที่ดี”
“ไอ้สัx ใครเมียมึง?”
“กูล้อเล่นน่ะ จะบอกว่าเป็นเพื่อนที่ดีน่ะ พูดเล่นนิดเดียวต้องดุด้วยหรือว่ะ”
“ก็มึงมันปากหมานี่หว่า”
“เออ กูขอโทษ มึงนี่ขี้งอนอย่างกับผู้หญิงเลยนะ”
“เริ่มปากเสียอีกแล้วนะมึง”
“ก็พูดเล่นหน่า ใจน้อยจังมึง เออพรุ่งนี้ไปเที่ยวทะเลกันนะ”
“พรุ่งนี้เหรอว่ะ จะไปที่ไหนว่ะ”
“เออนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้ กูไปอาบน้ำนอนก่อนนะ เริ่มง่วงละ”
“อะไรของมึง ความลับเยอะจริงเลยมึง”
“เออน่า รีบๆ อาบน้ำนอน พรุ่งนี้ไปแต่เช้า”
“เออ ถ้ารีบขนาดนั้นให้กูเข้าไปอาบน้ำพร้อมมึงเลยมั๊ย” ขลุ่ยตะโกนตามหลัง
เกียร์โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ
“เข้ามาซิจ๊ะที่ร๊ากกกกกกกกกกกกก”
ขลุ่ยยกเท้าใส่เกียร์
“แค่นี้ต้องโหดใส่กูด้วย ก็ถามเผื่อฟรุ๊คว่ะ”
“ฟรุ๊คห่าไรของมึง”
“เปล่าๆ” เกียร์รีบปิดประตูห้องน้ำ
เวลาผ่านไปเกือบ 20 นาที
“อาบน้ำโครตนานเลยมึง กูเกือบหลับแล้วเนี่ยะ”
“โทษทีว่ะ เพลินไปหน่อย มึงรีบอาบดิ จะได้มาเก็บเสื้อผ้า”
“ตกลงจะไปจริงหรอว่ะ?”
“ก็เออดิว่ะ พูดมากตลอดมึง ไป ไป รีบอาบน้ำ”
เกียร์เดินมาผลักขลุ่ยให้เข้าไปอาบน้ำ
“ไม่ต้องดัน เดินเองได้ รู้แล้ว รู้แล้ว”
“รู้แล้วก็รีบไปดิ ถ้าช้ากูจะเข้าไปอาบให้แล้วนะ”
“โอเค ไปแล้ว”
อาบน้ำเสร็จ ขลุ่ยเดินออกมาจากห้องน้ำ
“เฮ้ยย มึงทำอะไรว่ะ”
“เก็บเสื้อผ้าให้มึงไง รอมึงเก็บไม่ต้องไปพอดี กูเก็บเรียบร้อยแล้วนะ รีบๆ นอนพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า”
“เก็บหมดแล้วเหรอ หมายความว่าไง”
“กูเก็บเสื้อผ้ามึง ของใช้จำเป็นทุกอย่างใส่กระเป๋าใบนี้เรียบร้อยแล้วไง” เกียร์พูดพร้อมตบเบาๆ ที่กระเป๋าเป้ที่วางอยู่ข้างเตียง
“แล้วพวกของใช้ส่วนตัวละ” ขลุ่ยทำหน้าเขินๆ
“หมายถึงอะไรว่ะ อ๋อๆ หมายถึงกางเกงในเหรอ ไม่ต้องห่วง กูเตรียมไว้ให้พร้อมแล้ว พอใส่แน่นอน ไม่ต้องกลับหน้าเอ หน้าบี ชัวร์”
“เฮ้ยย นี่มึงยุ่งกับของกูทำไมเนี่ยะ” ขลุ่ยรีบหยิบกระเป๋าเป้มาเปิดดู เขาพบว่าภายในกระเป๋าถูกจัดอย่างเรียบร้อย มีของใช้และเสื้อผ้าครบถ้วน
“ทำไมว่ะ ก็ว่างๆ อยู่ก็ช่วยจัดให้ นี่มึงเขินอะไรกูเนี่ยะ หน้าแดงเชียว”
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”
“หรือว่ามึงเขินกางเกงในสายหวานของมึงเหรอ กูไม่บอกใครหรอก”
ขลุ่ยหน้าและหูแดงเอามากๆ
“สายหวานห่าไรของมึง ตลกละ”
“กูเห็นนะในตู้เสื้อผ้ามีแต่สีหวานๆ สีชมพู สีแดง สีฟ้า ออกแนวพาสเทล เลยนะ กูเลยจัดให้มึงครบทุกสี คิดว่ามึงคงชอบ”
“ชอบห่าไรละ กูไม่ได้ชอบเว้ย พอดี มีคนซื้อมาให้เว้ย ไม่ค่อยได้ใส่หรอก”
“ใครว่ะ????? ซื้อกางเกงในให้มึง แฟนคลับเหรอ โรคจิตเปล่าว่ะ?
“โรคจิตกะผีอะไร แม่กูเอง ซื้อส่งมาให้จากเมืองนอก ชอบคิดว่ากูเป็นเด็กๆ”
เกียร์กลั้นขำไว้ไม่อยู่ ขำออกมาชุดใหญ่ จนขลุ่ยออกอาการหมั่นไส้
“เล่นใหญ่ไปล่ะ จะขำอะไรขนาดนั้น อย่าให้กูรู้ความลับของมึงบ้างนะ กูจะล้อสามวันสามคืนไม่เลิกเลย”
“แล้วแต่ละกัน แต่ที่แน่ๆ กูไม่มีกางเกงในสายมุ้งมิ้งเหมือนมึงแน่นอน”
“กวนตีนกูล่ะ!!”
“นอนกันเหอะ พรุ่งนี้ตื่นเช้า”
“ตกลงจะไปไหนเนี่ยะ บอกกูได้ยัง”
“มึงนี่ขี้สงสัยจนน่ารำคาญเนอะ พรุ่งนี้ก็รู้เองแร่ะ แล้วนั่นมึงทำอะไร จะเอากางเกงในสายหวานไปไหนว่ะ ใส่นี่แร่ะน่ารักดีกูชอบ” เกียร์คว้ากางเกงในสายหวานจากมือของขลุ่ยยัดใส่กระเป๋าตามเดิม
“เออๆ กูว่ามึงนี่แร่ะโรคจิต”
“กูก็เริ่มสงสัยตัวเองแล้วว่ะ ว่าอาการโรคจิตของกูอยู่ขั้นไหนแล้ว เพราะตอนนี้กูกำลังจินตนาการตอนมึงใส่กางเกงในสายหวานอยู่ว่ะ”
“ไอ้สัxx มึงยังไม่เลิกพูดอีกใช่มั้ย” ขลุ่ยวิ่งมาเตะตูดเกียร์
สองหนุ่มกลายเป็นวิ่งไล่จับ วิ่งวนกันในห้องนอน
“พอ พอ กูเหนื่อยแล้ว ขี้เกียจอาบน้ำใหม่”
“งั้นมึงก็หยุดล้อกูได้ล่ะ ไม่งั้นกูไม่ปลง ไม่ไปแม่งล่ะ”
“โอเค โอเค ไม่ล้อแล้ว พักรบนะ นอนนะ”
“เออ กูจะเริ่มร้อนแล้ว เพราะมึงคนเดียว”
“เออ กูขอโทษนะ นอนกันเถอะ ตื่นมาพรุ่งนี้จะได้มีแรงซึมซับรรยากาศริมทะเลเต็มที่
“เออ เอาที่มึงสบายใจว่ะ กูปิดไฟนะ”
“ตามนั้น” เกียร์กระโดดลงนอนบนเตียง
สองหนุ่มนอนหงายอยู่คนละฝั่งของเตียง ดวงตายังคงเบิกโพลง ไม่ยอมหลับ มือไม้ไม่รู้จะเอาไปวางตรงไหน
“ขลุ่ย หลับยัง”
“ยัง ทำไมมึงยังไม่นอน ขยับตัวอยู่นั่นแร่ะ แล้วกูจะหลับได้ยังไง”
เกียร์เบี่ยงตัวหันมานอนตะแคงหันหน้ามาทางขลุ่ย
“มึง มึง”
“อะไรของมึงว่ะเกียร์” ขลุ่ยตะแคงข้างหันหน้ามาทางเกียร์
ทั้งสองมองหน้ากัน สายตาจับจ้องที่กันและกัน
“นี่มึงมานอนมองหน้ากูทำไมเนี่ยะ” ขลุ่ยทนไม่ไหว เอ่ยขึ้นก่อน
“ไม่รู้ว่ะ นอนไม่หลับ” เกียร์ค่อยๆ เขยิบตัวเข้ามาใกล้กับขลุ่ย
“ขยับเข้ามาทำไมเนี่ยะ”
“ปกติกูนอนที่ห้องต้องกอดหมอนข้างว่ะ มึงไม่เห็นเหรอบนห้องนอนกูมีหมอนบนเตียงเยอะมากกกกก”
“เออ ก็จริงว่ะ” ขลุ่ยนึกย้อนตามที่เกียร์พูด “แล้วไงว่ะ”
“เป็นหมอนข้างให้กูหน่อยดิ”
“ไม่เอา จะบ้าเหรอไง”
“นะ นะ หน่อยนะ” เกียร์พูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าออดอ้อน
“มึงอย่ามาทำเสียงแบบนี้ กูขนลุกว่ะ”
“ถ้ามึงไม่ยอม กูจะพูดแบบนี้ทั้งคืนเลย นะนะ มาเป็นหมอนข้างให้กูหน่อยนะ”
“หยุดเลยๆ พอๆ ไม่ไหวว่ะ ขนลุกไปหมดแล้ว หยุดเหอะ”
“ตกลงจะเป็นหรือเปล่าล่ะ”
“แล้วทำไมคืนอื่น มึงก็นอนได้”
“ก็คืนอื่นกูเหนื่อย เพลีย เลยเผลอหลับไป แต่คืนนี้นอนไม่หลับว่ะ แล้วมึงลืมไปแล้วเหรอ ตื่นมาทีไรกูก็นอนกอดมึงทุกที”
“เอ่อออออออออออออออออออออออออออออออออออออ” ขลุ่ยนิ่งอึ้งไป
“มึงนี่เล่นตัวชะมัดเลยว่ะ”
“เออ แล้วแต่มึงละกัน” ขลุ่ยพูดจบ นอนหันหลังให้เกียร์ ด้วยสีหน้าเขินอาย
“จริงดิ” เกียร์พูดพร้อมกับขยับเข้ามาประชิดตัวขลุ่ยจากด้านหลัง เขายื่นแขนมาโอบกอดขลุ่ย พร้อมขาที่ก่ายตัวขลุ่ยเอาไว้ด้วย
“เยอะไปแล้วป่ะเนี่ยะ” ขลุ่ยบิด สะบัดตัวเล็กน้อย
“อย่าดิ้นดิว่ะ คนกำลังจะหลับ” เกียร์กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก
ขลุ่ยนอนอมยิ้ม ไม่มีทีท่าจะสะบัดมือของเกียร์ออกอีก ส่วนเกียร์เองก็ดูเหมือนจะนอนหลับฝันดีไปซะแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++