จุ๊ บ ที { ตอนพิเศษ : จีบที | 30.5.2561 | Page 29 } (จบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จุ๊ บ ที { ตอนพิเศษ : จีบที | 30.5.2561 | Page 29 } (จบ)  (อ่าน 203847 ครั้ง)

ออฟไลน์ Lalaleega

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ธีร์มีแฟนละปะ มาส่งสายตาอะไรร
ขอโทษค่ะอินไปหน่อย รีบมาอัพนะคะ

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ธีร์เด็กอะ สไตล์แบบกุไม่ได้คนก็ก็ไม่ได้ปะ หวงก้าง

ออฟไลน์ Fahsaizzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เอาที่ธีร์สบายใจเลย

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
โอ้ยยย ธีร์ อย่าประชดดิ้ อีพี่จุ๊บก็กล้าๆหน่อย เปิดใจกันไปเลย ต้องการอะไรยังไง แฟร์ๆ (อินมากพูดเลย)

ออฟไลน์ Supak-davil

  • สาว Y = Why I don't have a boyfriend ??????????
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อุปสรรค รูปแบบ มนุษย์แฟน
ทำใจยากนะเนี่ย

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
อัพเถอะ ได้โปรด
อุตส่าห์ไล่อ่านถึงตอนปัจจุบัน อย่าให้เราค้างงงงงงงงงงงงง
 :z3:

ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
กรี๊ดดดดด บ้าจริงงง ธีร์เอ๊ย ไม่รู้จะเชียร์ดีไหมม  :hao7:

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
มาอัพต่อเถอะค่า ฮืออออ

ออฟไลน์ Missmu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สนุกมากเลยค่ะ มารอตอนต่อไป  :sad4:

ออฟไลน์ ตัวแม่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
    • เพจตัวแม่



จูบที่สิบสี่



   “และตอนนี้ทุกคนก็มีเจี๊ยวเหมือนกัน เย้ยยยย หมายถึงเจี๊ยวทุกคนยาวเท่ากัน เย้ยยยยย ยิ่งพูดก็ยิ่งเหี้ย ไม่แก้ละ เอาเป็นว่าทุกคนพร้อมแล้วนะคะ!”

   ไอ้โฟกัสเพื่อนสนิทผู้รับหน้าที่เป็นกรรมการของเกมนี้ประกาศเสียงเจื้อยแจ้วผ่านโทรโข่งเพื่อเช็คความพร้อมของผู้เข้าแข่งขันทั้งสิบสองคน ทั้งหมดยืนเรียงหน้ากระดานคละชายหญิงอยู่หลังเส้นสีขาว มือของแต่ละคนถูกผูกผ้าไว้ด้านหลังเพื่อป้องกันการใช้มือช่วย ส่วนหว่างขามีมะเขือยาวขนาดเท่ากันห้อยโทงเทงอยู่ และตรงหน้ามีลูกปิงปองวางประจำจุดไว้ให้คนละหนึ่งลูก

   “กติกาง่ายมาก ใช้เจี๊ยวของตัวเองเตะลูกปิงปองให้มาถึงขวดน้ำ” เพื่อนผมม้าเต่อเดินมาชี้ที่แนวขวดน้ำประจำตัวของคนแข่งซึ่งอยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นราวหนึ่งร้อยเมตร “อ้อมขวด แล้วตีกลับไป ใครถึงเส้นชัยก่อนชนะ!”

   ผมรัวกลอง ได้ยินเสียงกู่ร้องด้วยความคึกจากผู้เข้าแข่งขันทุกคน โดยเฉพาะคนตัวเล็กที่คำรามไม่พอ ยังดีดซ้ายดีดขวาจนผมอยากถามว่าน้องไปโดนตัวไหนมาเหรอครับ ต่างจากดาราตัวสูงข้างๆ ที่ยืนเอามือกุมเจี๊ยว...หมายถึงมะเขือยาว...นิ่งๆ และเหล่ไปคนข้างๆ ด้วยสายตารำคาญ จากนั้นก็หันมามองผมแล้วเลิกคิ้ว แถมยังกระพริบตาให้ปริบๆ

   อะไร...หน้าขอกำลังใจเหรอ

   “ธีร์สู้สู้!!” เอิงเอยที่พาตัวเองมาแจมอยู่ในวงกองเชียร์ตะโกนเชียร์แฟนตัวเองอย่างแข็งขันอยู่ด้านหน้าผม เรียกความสนใจของเขาได้สำเร็จ ธีร์ส่งยิ้มให้เธอแล้วชูสองนิ้วกลับ ไม่บอกก็รู้ว่ากำลังใจเต็มเปี่ยม

   หรือผมอาจจะคิดไปเอง เขาส่งสายตาให้แฟนเขานู่น ไม่ใช่ผมซะหน่อย

   เซ็งแต่ทำอะไรไม่ได้วุ้ย

   “เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว เริ่มเกมหลังเสียงนกหวีดนะ” โฟกัสให้สัญญาณ “สาม! สอง! หนึ่ง!”

   ปี้ดดดดดดดดดดดดดดดด!

   ทันทีที่เสียงแหลมปรี๊ดสิ้นสุด ผมเริ่มบรรเลงจังหวะกลองไปพร้อมกับเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม คนที่นำโด่งมาคนแรกคือรองที่ดูแล้ววงสวิงก็ไม่ได้เหวี่ยงหนักมาก แต่เนื่องจากขาสั้นเกินมาตรฐานชายไทย มะเขือยาวของเขาจึงใกล้พื้นที่สุด และนั่นทำให้เขาสะดวกในการเหวี่ยงมันไปหาลูกปิงปองได้ดีที่สุด แค่ไม่กี่วินาทีรองก็สามารถเลี้ยงลูกได้มาแล้วครึ่งสนาม...เชี่ย อะเมซิ่งร้อยหกสิบเซ็นต์มากๆ

   คนที่ตามมาเป็นลำดับที่สองคือธีร์ เขาไม่ได้ซอยเอวถี่มากจนมะเขือยาวเสียการควบคุม แต่คนตัวสูงค่อยๆ กะองศาการตีลูก ย่อเข่าลง แล้วเหวี่ยงมะเขือช้าๆ ปรากฏว่าเขาสามารถตีลูกไปได้ไกลทีละเกือบสองเมตร ทั้งคู่ห่างกันแค่ช่วงตัวเดียวเท่านั้น

   “สู้เขา แปะแปะแปะ เอาชัยชนะ แปะแปะแปะ อย่าลดอย่าละ แปะแปะแปะ มานะเข้าไว้ แปะแปะแปะ อดทน แปะแปะแปะ และมีวินัย แปะแปะแปะ เอาชิงเอาชัย แปะแปะแปะ มาให้น้องธีร์ แปะแปะแปะ”

   โฟกัสร้องเพลงนำเชียร์ได้เป็นกลางมากๆ จนผมอยากเอาไม้กลองไปแปะที่หน้าผากมันสักป้าบ มึงไม่สงสารผู้เข้าแข่งขันคนอื่นเลยน่ออออ

   “ธีร์!!!!” น้องเอิงเอยนางเอกดังก็ส่งเสียงเชียร์อย่างไม่น้อยหน้าเมื่อถึงคราวที่ธีร์ขึ้นนำบ้าง จู่ๆ เขาก็ใช้เจี๊ยวเตะลูกปิงปองจนลอยหวือมาที่จุดยูเทิร์นได้ในที่สุด รองที่กลายเป็นผู้ตามเห็นดังนั้นก็รีบอัพสกิลบั้นเด้าของตัวเองตาม เอาจริงๆ เหมือนตอนนี้แข่งกันอยู่สองคน เพราะผู้เข้าแข่งขันคนอื่นยังไม่ถึงครึ่งทางกันเลยอะ

   “เอออย่างนั้น เอียงตัวอีกหน่อย เจี๊ยวน้องมันเบ้ขวาอะ เอียงอีกนี้ดดดด”

   “ค่อยๆ ค่ะค่อยๆ เออ ตรงแล้ว น้องธีร์เด้งเลย เด้ง! กรี๊ด!”

   “อ๊าาาาา จัดเต็มไปเลยค่ะลูกขาาาาาา”

   เกลียดเสียงกองเชียร์จะได้ไหม ถ้าหลับตาฟังนี่นึกว่าพากย์หนังโป๊นะ ฮือ

   “ธีร์สู้เขา!”

   “อีกนิดๆ ได้แล้ว ไปเลยยยยย” ทุกคนต่างก็ตะโกนเชียร์พ่อพระเอกซีรีส์อย่างไม่เกรงอกเกรงใจแฟนเขาที่ยืนหัวโด่อยู่ตรงนั้นเลยสักนิด แต่กระนั้นมันกลับเป็นผลดีกับธีร์...คนผิวขาวสว่างยิ่งได้ยินเสียงเร่งก็เหมือนมีแรงฮึดให้เอาใหญ่ ใช้เจี๊ยวตีลูกให้ดีดไปไกลหลายครั้งติดกัน ต่างจากน้องรองที่ยังเงอะๆ งะๆ กับการยูเทิร์นลูกปิงปองอยู่สองนาน ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ก็ระยะห่างของเขากับธีร์ก็ยิ่งลดลงเท่านั้น

   ผมเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ชั่วขณะนั้นก็รู้สึกเหมือนผีบางตัวเข้าสิง ผมจึงตัดสินใจหยุดตีกลองไปไม่กี่วินาทีแล้วตะโกนเชียร์น้องรองจนสุดเสียง

   “รองสู้สู้ววววววววว!!!!!!!!!”

   ขวับ!

   ทันใดนั้นเพื่อนกองเชียร์ทุกคนหันมามองผม...แล้วแสยะยิ้มเหมือนรู้ทัน

   “แง้ว” ผมร้องแล้วบรรเลงจังหวะกลองต่อ ทุกคนจึงหันกลับไปเชียร์กันได้ และวินาทีนั้นเองที่สองอันดับแรกในสนามสร้างความแปลกใจให้เราได้อีกครั้ง อาจเพราะเสียงตะโกนของผมที่ทำให้รองฮึด เขาจึงสามารถเอี้ยวตัวผ่านจุดยูเทิร์นได้ที่สุด และกำลังไต่ระดับไปหาคนเป็นดาราที่อยู่กึ่งกลางของสนาม ขณะที่ฝ่ายธีร์เหมือนมีปัญหากับการกะระยะการเหวี่ยงชั่วคราว จู่ๆ เขาก็กลายเป็นคนที่เหวี่ยงพลาดไปเสียเฉยๆ ซะอย่างนั้น

   ธีร์หันมามองรองที่ไล่ประชิดเข้ามาเป็นระยะแล้วเด้งเอวรัวเหมือนเร่งตัวเองเต็มที่ แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่มะเขือยาวของเขาจะปะทะลูกปิงปอง

   เหมือนจู่ๆ เขาก็สมาธิหลุดจากสิ่งที่ทำ

   “และตอนนี้น้องรองก็ตีตื้นมาได้แล้วนะคะ น้องธีร์ฮึบเร็วลูกกกก” โฟกัสรบเร้า นั่นยิ่งทำให้ธีร์พยายามจะเอาชนะยิ่งขึ้นไปอีก เขาลนลานอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นว่ารองเตะลูกปิงปองเลยเขาไปราวหนึ่งช่วงตัว

   “น้องรองใกล้จะถึงเส้นชัยแล้วนะคะ น้องรองชนะแน่เลยอ่าาาาา”

   ทันใดนั้นธีร์เตะลูกได้ในที่สุด ลูกปิงปองของเขากระดอนไปอยู่ในระดับเดียวกับของรองที่ห่างออกไปราวสองเมตร

   “กรี๊ดดดดดดดด ธีร์มาแล้วววว สู้เขาลูก”

   เสียงกองเชียร์เฮลั่น ธีร์ขยับตัวได้หลังจากติดอยู่กับที่มานานรีบวิ่งไปหาลูกปิงปองเพื่อจะได้เลี้ยงลูกในช็อตต่อไป แต่ตอนนั้นเขาอาจจะวิ่งเร็วเกินไปจนขัดขาตัวเองหรือยังไงผมก็ไม่รู้...

   ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก อาจเพราะการก้าวขาที่ผิดท่าทาง อยู่ๆ ธีร์ก็สะดุดล้ม มือทั้งสองไม่ได้ยันป้องกันตัวเองเพราะถูกมัดไว้ด้านหลัง ทำให้ทั้งตัวของเขาล้มคะมำลงกับพื้นหญ้าไปเต็มแรง

   ไม้กลองของผมหลุดมือ เกิดเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจจากทุกทิศ กว่าจะรู้ตัวว่าทำอะไรขาของผมก็รีบก้าวออกจากหลังกลองเพราะอยากไปดูอาการของเขา แม้แต่รองและผู้เข้าแข่งขันคนอื่นก็หยุดเล่นแล้วทำท่าจะเข้าไปช่วยธีร์ เช่นเดียวกับกรรมการและฝ่ายพยาบาลหลายๆ คนที่รีบตรงดิ่งเข้าไปหา

   “น้องธีร์!”

   “ไม่ต้องครับ!”

   หากเสียงประกาศกร้าวของธีร์ก็หยุดทุกคนไว้ก่อน เขาตะโกนก้องออกมาทั้งๆ ที่กำลังนอนอยู่แอ้งแม้งอยู่อย่างนั้น “ผมไม่เป็นไร!”

   “น้องธีร์ ไม่ไหวแล้วมั้งคะ”

   “ผมจะเล่นต่อ...จะเล่นต่อ” ธีร์บอกแล้วรีบยันตัวเองขึ้นอย่างทุลักทุเล ด้วยความที่มือทั้งสองยังถูกมัดไว้เขาจึงต้องพยุงตัวเองขึ้นด้วยกำลังขาล้วนๆ ท่ามกลางการเอาใจช่วยจากทุกคนที่หยุดยืนนิ่ง รวมถึงผมที่แม้อยากวิ่งเข้าไปช่วยแค่ไหน แต่ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเขา

   ดาราหนุ่มพยุงตัวขึ้นได้ แล้วล้มลงไปอีกรอบ แต่แค่ไม่กี่วินาทีเขาก็พยายามลุกขึ้นใหม่จนยืนได้ในที่สุด เขาทรงตัวขึ้นมาพร้อมใบหน้าเปื้อนฝุ่นที่ยิ้มสู้ ทุกคนในสนามอ้าปากหวอ ก่อนจะพากันปรบมือชื่นชมในความพยายามนั้น

   “เล่นต่อเลยครับ” ธีร์พูดออกมา แล้วเกมก็ดำเนินต่อไปโดยสองคนสุดท้ายอยู่ห่างจากเส้นชัยในระยะไม่ไกลกัน  รองที่ดูจะเหวอมากกว่าใครหันกลับไปตีลูกอย่างผิดๆ ถูกๆ ขณะที่ธีร์ก้าวเข้าไปหาลูกปิงปองด้วยการก้าวแบบกะเผลก...ดูก็รู้ว่าขาแพลงแน่นอน

   “น้องธีร์ไหวไหมลูก”

   ไอ้บ้าเอ๊ย เกมปัญญาอ่อนแค่นี้ก็ยังจะไฝว้...ธีร์นี่มันธีร์จริงๆ เลยให้ตาย

   “ไหว” เขาตะโกนก้อง กะองศาของการเหวี่ยงครั้งสุดท้าย ขณะที่รองก็เร่งบั้นเอวของตัวเองเต็มที่ ช่วงเวลานั้นเป็นเหมือนฉากสโลว์โมชั่นในภาพกีฬามันส์ๆ ที่ใครสักคนหนึ่งกำลังจะชนะ ท่ามกลางแรงกดดันจากกองเชียร์รอบข้าง และแรงดึงดันภายในใจของทั้งคู่

   “เข้า! เข้า! เข้า! เข้า! เข้า!”

   “กรี๊ดดดดดด!!”

   “เข้าแล้ว!!!”

   ปี้ด!!!!!!!!!!!!!!!!

   เสียงนกหวีดบอกผู้ชนะดังขึ้นในที่สุด

   “ลูกปิงปองน้องธีร์เข้าเส้นชัยไปแล้วค่า!!”

   วินาทีนั้นผมกระโดดดีใจจนตัวลอย ก่อนจะรู้ตัวว่าตัวเองไม่ควรจะรู้สึกดีใจขนาดนี้ด้วยซ้ำ โชคดีที่ทุกคนมัวแต่กรี๊ดและรีบวิ่งเข้าไปรุมผู้ชนะกันใหญ่ทำให้ไม่มีใครทันสังเกต ผมมองภาพนั้นแล้วยิ้มบางๆ ออกมา

   และในขณะที่ทุกคนกำลังมะรุมมะตุ้มนั้นเอง ธีร์เหลือบสายตามาทางผม

   เขามองผมแน่คราวนี้ เพราะเอิงเอยก็เป็นหนึ่งในหลายคนที่ไปรุมเขาอยู่ตรงนั้น ธีร์ยิ้มมุมปากและยักคิ้วเหมือนกำลังอวดว่า ‘ไงล่ะ’ ส่งมา ผมเลยแกล้งทำหน้านิ่งกลับไป...แม้ว่าจริงๆ จะอยากยิ้มให้ก็ตาม

   การที่รู้สึกยังไงแต่แสดงออกไม่ได้นี่มันอึดอัดชะมัด



   ธีร์ถูกยกเข้าไปเต็นท์พยาบาลหลังจากนั้น ผมฝากกลองไว้กับเพื่อนสันทนาการอีกคนแล้วกะจะตามไปดูอาการเขาต่อขณะที่กิจกรรมก็ดำเนินต่อไป เมื่อเข้าไปในเต็นท์ทรงสี่เหลี่ยมสีขาวก็เห็นเพื่อนฝ่ายพยาบาลหลายคนยืนดูอยู่ห่างๆ โดยแหวกตรงกลางไว้เป็นรูปครึ่งวงกลม

   ผมเดาออกเลยว่าตรงกลางนั้นคือใคร

   “คิดยังไงฝืนเล่นขนาดนี้น่ะ เห็นไหมขาแพลงเลยเนี่ย” ผมชะโงกหน้าขึ้นมองเหนือกลุ่มคน เห็นเอิงเอยบ่นเสียงเล็กขณะกำลังใช้น้ำแข็งประคบแผลตรงข้อเท้าของเขาอย่างแผ่วเบา ธีร์มองเธอกลับตาเยิ้ม ท่ามกลางเสียงซุบซิบของผู้คนรอบกายที่กำลังอินกับภาพตรงหน้าราวกับดูละคร ตอนนางเอกกำลังทำแผลให้พระเอกอะไรเทือกนั้น

   ผมมองภาพนั้นแล้วนึกไปถึงตอนที่ธีร์โดนต่อยคิ้วแตก แผลจากตอนนั้นถูกสมานจนหายดีเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น และตอนนี้เขามีคนทำแผลให้แทน...ซึ่งก็ดีแล้ว...แต่ความรู้สึกว่า ‘ผมเคยอยู่ตรงนั้น’ มันกลับทำให้ปวดแปลบที่ใจขึ้นมาเฉยๆ

   ผมกะเดินออกจากตรงนั้น ทว่าแรงสะกิดที่สีข้างจากใครบางคนก็รั้งไว้ซะก่อน

   “พี่จุ๊บ” รองโผล่มาพร้อมยกเข่าที่ถลอกปอกเปิกขึ้นมาให้ดู ผมตาโตด้วยความตกใจทันที “ตอนเข้าเส้นชัยผมสะดุดล้มเหมือนกัน แต่ไม่มีใครมาดูเลย พี่จุ๊บทำแผลให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”

   “ได้ๆ สบายมาก” ผมรีบพาเขาที่เดินกะเผลกๆ เข้าเต็นท์พยาบาลไป ส่งเสียงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนฝ่ายพยาบาลให้เอายามาให้ กลายเป็นว่าตอนนี้มีคนอยู่สองคู่ที่กำลังทำแผลให้กัน และนั่นทำให้เสียงซุบซิบดังขึ้นเป็นทวีคูณ

   ผมรู้สึกว่ากำลังถูกคนอีกคู่มองอยู่ แต่ตัวเองก็ง่วนกับแผลของรองจนไม่มีเวลาจะสนใจ รับแอลกอฮอล์มาจากฝ่ายพยาบาลแล้วราดลงบนเข่าโชกเลือดของรองจนเขาร้องซี้ดออกมาเบาๆ

   “โทษที” ผมบอกเมื่อเห็นสีหน้าเหยเกของคนตรงหน้า

   “ไม่เป็นไรครับ” รองกระซิบ เมื่อเห็นว่าเขาโอเคแล้วผมก็จัดการเช็ดสำลีลงไปช้าๆ “พี่จุ๊บมือเบาดีจัง น่าจะไปเรียนหมอนะ”

   ‘มือเบาขนาดนี้ทำไมไม่ไปเรียนหมอ’

   คำพูดของธีร์ที่เคยกล่าวไว้แบบเดียวกันทำให้ผมเผลอเหลือบตาขึ้นไปมองเขาแวบหนึ่ง...และพบว่าอีกฝ่ายมองตอบมาเหมือนกันราวกับรู้ว่าคิดอะไร

   “อือ...” ผมยิ้มตอบรอง แล้วถามต่อ “ไม่เจ็บใช่ไหม”

   “ไม่ฮะ”

   “โอเค...” ผมทำต่อไป รู้สึกถึงบรรยากาศมาคุที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในเต็นท์

   “พี่จุ๊บ ผมแพ้อีกแล้วรอบนี้” รองบ่นด้วยน้ำเสียงเวทนาตัวเอง “ขนาดแข่งกีฬากากๆ ยังแพ้คิดดู ไอ้รองนี่มันเป็นรองคนอื่นตลอดจริงๆ น้อ”

   “เก่งแล้ว” ผมปลอบ แล้วเหลือบสายตาไปมองธีร์อีกรอบ สังเกตว่าสีเขาหน้าไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัดตอนผมชมคนหน้าสวย

   “อดไปดูหนังกับพี่จุ๊บเลย”

   “เหี้ย!” อยู่ๆ ธีร์ก็โพล่งออกมาเสียงดังจนคนในเต็นท์และคนที่ยืนมองอยู่ตกใจ แม้แต่ตัวเอิงเอยซึ่งกำลังแผลให้เขาอยู่ยังหยุดชะงักไป ไม่ต้องพูดถึงรองกับผมที่เหมือนโดนขัดจังหวะการสนทนา

   ผมเงยหน้ามองเขาอย่างสนใจอย่างที่เขาอยากให้เป็น คนเป็นดาราตีหน้านิ่งและกระแอมออกมา “โทษที เจ็บแผล”

   เหอะ แหงล่ะ

   “เสียดาย เกือบชนะแล้วแท้ๆ” รองบ่นกะปริบกะปรอยต่อ ผมหันไปยิ้มบางๆ ให้เขา

   “คราวหน้าเอาใหม่”

   “คราวหน้าผมพนันด้วยการดูหนังอีกได้ไหม”   

   “เอิง” แล้วคนผิวสว่างก็ขัดคอของเราอีกครั้ง จู่ๆ เขาก็ชวนเอิงเอยคุยหลังจากปล่อยให้เธอเจื้อยแจ้วคนเดียวมานานสองนาน แถมยังเสียงดังฟังชัดจนดูรู้ว่าอยากให้ผมกับรองได้ยินแน่ๆ

   “เอาจริงวันนี้เราจะยอมแพ้ก็ได้” ธีร์เปรยด้วยน้ำเสียงไม่ได้กระแทก แต่แดกดัน “แต่ที่เราอยากชนะ เพราะเธอเชียร์เราอยู่นะ”

   “ขากกกกกกกกกกกกก” ไม่ทันทำอะไร เพื่อนผู้ชายฝ่ายพยาบาลคนหนึ่งก็ส่งเสียงเดียวกับเสียงในใจผมออกมาแล้ว แม้มันจะถูกกลบด้วยเสียงวีดวิ้วจากฝูงชนในไม่กี่วินาทีต่อมาก็เถอะ ผมแค่นหัวเราะ หันมองธีร์ที่จ้องผมอย่างท้าทาย เขาพูดกับแฟนอยู่แต่ไม่ได้สบตาเธอด้วยซ้ำ

   ทันใดเสียงระฆังยกใหม่ในเกมดวลประสาทของเขาดังขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้มันแปรเปลี่ยนความร้าวรานของผมกลายเป็นความหงุดหงิดในทันใด ผมรู้ว่าตามมารยาทของการเล่นเกมแล้ว เมื่อผู้เล่นฝ่ายหนึ่งเดินหมาก ผู้เล่นอีกฝ่ายจะต้องพยายามทำทุกทางที่จะโค่นคู่แข่งขันลงให้ได้ และทำแบบนี้สลับกันไปจนกระทั่งได้ผู้ชนะ

    “ไม่ต้องพนันอะไรแล้วรอง” ผมทิ้งสายตาไว้ที่คู่รักดาราสักพักก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมาอย่างชัดเจน “ไม่ชนะไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปดูหนังกัน”

   แต่สำหรับคนที่ยอมแพ้ตั้งแต่เริ่ม มันคือการนับเวลาถอยหลังรอให้เกมจบลง...ซึ่งระหว่างนั้นผมคงทนเห็นตัวเองถูกโค่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ไหว...

   ไม่อยากสู้ แต่ผมจำเป็นต้องป้องกันตัวเอง รู้ว่าทำแบบนี้มันไม่สนุก เกมนี้มันไม่สนุกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ถ้าธีร์ยังจงใจจะใจร้ายกับผมต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้ ผมก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกังวลว่าตัวเองจะทำอะไรใจร้ายกับเขาใช่ไหม...

   อย่างที่คาด แววตาของดาราหนุ่มวาวโรจน์ขึ้นด้วยความไม่พอใจทันทีหลังจากประโยคนั้น ผมปั้นยิ้มออกมา ละสายตาจากเขาแล้วหันไปมองคนเพิ่งถูกชวนซึ่งกำลังแสดงความดีใจอย่างออกนอกหน้า

   “จริงเหรอครับพี่จุ๊บ”

   “จริง...” ผมยืนยัน “สไปเดอร์แมนภาคใหม่กำลังจะเข้าแล้ว พี่หาคนไปดูด้วยอยู่พอดี”

   และเสียงระฆังครั้งใหม่ก็ดังขึ้น โดยมีผมเป็นผู้กระตุกเชือกนั้นเอง


(ต่อด้านล่าง)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ตัวแม่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
    • เพจตัวแม่
(ต่อจากด้านบน)


   สองวันต่อมา ผมมาดูหนังกับรองตามสัญญา

   ยอมรับว่าตอนพูดไปผมไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดมากขนาดนั้น แต่รองหาบัตรสไปเดอร์แมนภาคใหม่มาให้ผมจนได้ แถมมันยังเป็นรอบปฐมทัศน์ที่เราจะได้ดูก่อนใครในโลก (อู้วว้าว) ซึ่งน้องรหัสได้บัตรมาแบบฟลุ๊คๆ จากการเล่มเกมกดไลก์กดแชร์ในเพจรีวิวหนังชื่อดังเพจหนึ่ง

   ผมมีเรียนถึงเย็นในวันพุธ จึงนัดกับรองไว้ที่ห้างดังกลางเมืองตอนหกโมง น้องส่งข้อความมาบอกว่าถึงตั้งแต่ยังไม่ห้าโมงดี พอเลิกเรียนเสร็จผมก็รีบฝ่าการจราจรอันติดขัดของมหานครไปหาเขา ระหว่างทางก็เกิดความสงสัยในใจว่างานนี้มันแจกบัตรฟรีเยอะขนาดนั้นเลยเหรอวะ เพราะดูเหมือนคนที่ไปทางเดียวกับผมนั้นมีมากเหลือเกิน

   มาถึงงานในเวลาที่หนังใกล้เข้าฉายเต็มที และพอมาถึงเท่านั้นก็เข้าใจว่าทำไมคนถึงเยอะ

   หน้าโรงหนังคับคั่งไปด้วยมวลชนที่ล้นออกมาจนถึงศูนย์อาหารที่อยู่ใกล้ๆ ทั้งผู้ใหญ่ เยาวชน หรือกระทั่งเด็กเล็กวัยประถมซึ่งต่างยกกล้องและโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป ‘สไปเดอร์แมน’ ที่ปรากฏตัวบนเวทีถึงสามคน ขนาบข้างด้วยคนแต่งตัวเป็นผู้หญิงเจ้าของหัวใจไอ้แมงมุมอีกหนึ่ง มันเป็นเรื่องปกติที่งานเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์จะมีดารามาร่วมงานเพื่อดึงความสนใจจากสื่อและชาวประชา แต่จำนวนคนมหาศาลขนาดนี้มันเกินความปกติไปมากโข

   เขาไม่ได้แจกบัตรฟรีกันเยอะหรอก แต่เป็นเพราะพวกเขา...เซตนักแสดงจากซีรีส์ที่ดังเป็นพลุแตกเรื่องนั้น

   สไปเดอร์แมนทั้งสามบนเวทีสวมชุดรัดรูปสีแดงน้ำเงินเหมือนกัน และทุกคนไม่ได้สวมหน้ากาก คนแรกมีรูปร่างผอมสูง ผิวขาวสะอาด มีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนที่มักจะยุ่งเหยิงอยู่เสมอ และมีแก้มน่าหยิกที่สุดในโลก เขาชื่อ ‘ต๊อด’ ผู้รับบทเกย์มัธยมผู้สับสนในตัวเองจาก ‘วัยรุ่นวุ่นรัก’ แท็กทีมมาโชว์ตัวกับ ‘ฮัท’ สไปเดอร์แมนอีกคนที่ตัวสูงกว่า หุ่นดีกว่า ผิวเข้มกว่า และหน้าตาเจ้าชู้ (ซึ่งเขามีข่าวเจ้าชู้บ่อยจริงๆ)...สองคนนี้ถูกจับให้เป็นคู่จิ้นกันจนเกิดกระแส #ฮอท ดังขึ้นในช่วงซีรีส์ฉาย และต่อยอดมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ ว่ากันว่ารายได้จากงานแฟนมีตติ้งของคู่นี้ได้เป็นหลักสิบล้านเลยทีเดียว

   ส่วนสไปเดอร์แมนคนที่สาม ถึงจะมีกล้ามเนื้อแน่นไม่เท่าฮัท แต่ด้วยหน้าตาน่ามอง รูปร่างสมส่วน บวกกับความสูงที่มีมากกว่าเพื่อนและผิวขาวสว่างกว่าใครทำให้เขากลายเป็นคนที่ได้รับเสียงกรี๊ดเยอะที่สุดโดยปริยาย…แน่ล่ะ ก็เขาเป็นพระเอกซีรีส์นี่หว่า

   ใช่ครับ เรากำลังพูดถึงธีร์ ดำรงเดช ส่วนคนที่แต่งเป็นแฟนสาวของสไปเดอร์แมนตรงนั้นคงหนีไม่พ้นใครที่ไหนไปไม่ได้นอกจากเอิงเอย...นางเอกคู่บุญและแฟนสาว(ที่ยังไม่ได้บอกสื่อ)ของเขา

   ดาราทั้งสี่คนกำลังเล่นเกมแจกของรางวัลกันอยู่บนเวที ซึ่งทำให้แฟนคลับของทั้งสี่แทบจะตีกันตายเพื่อขึ้นไปจนการ์ดและผู้จัดการของธีร์ที่ผมจำได้ว่าชื่อ ‘บุ๊ค’ เข้ามากั้นไว้ ผมแอบสังเกตเห็นไอ้จีบ ลูกพี่ลูกน้องของตัวเองไปกระจองอแงอยู่ตรงหน้าเวที (เป็นเด็กเป็นเล็กไม่กลับบ้านกลับช่องนะไอ้นี่) รวมไปถึงเพื่อนสนิทอย่างโฟกัสที่บอกผมว่ามาธุระสำคัญตอนเย็นก็เป็นหนึ่งในนั้น

   ธีร์กับแฟนก็อยู่ คนรู้จักก็เยอะ กูกลับบ้านเลยดีไหมว้า

   ผมสูดหายใจลึก แล้วต่อสายถึงเขา รองรับสายในไม่กี่วินาที

   [ครับพี่จุ๊บ]

   “พี่มาถึงแล้วนะ”

   [ครับ เข้ามาเลย ผมอยู่หน้าเวทีเลยครับผม]

   “เอ่อ...” ผมชั่งใจ อยากจะบอกรองไปตรงๆ แต่ความเกรงใจต่อน้องก็ขวางคออยู่ “เดี๋ยว...หนังเข้ากี่โมงนะ”

   [อีกประมาณสิบนาทีครับ]

   “อ่า...งั้นพี่รอแถวนี้ก่อนได้ไหม คนเยอะมากอะ ขอเข้าไปตอนดาราเข้าไปแล้วได้ไหม” ผมขอ รองเงียบไปสักพักแล้วตอบกลับมา

   [กลัวธีร์เห็นใช่ม้า]

   “...”

   [ฮะๆ ล้อเล่นครับ ได้สิพี่จุ๊บ เอางี้ไหม เดี๋ยวผมไปหา]

   “อ่า อยู่ตรงหน้าแม็คนะ”

   [ครับผม]

   ผมวางสายจากรอง ไม่แน่ใจว่าควรจะตอบยังไงกับคำพูดของเขาดี

   เรารออยู่จนกิจกรรมดำเนินไปถึงช่วงเกณฑ์คนเข้าโรง เหล่าดาราและสื่อมวลชนทั้งหมดถูกต้อนให้เข้าไปเป็นอันดับแรก ตามด้วยผู้โชคดีจากกิจกรรมที่ส่วนมากเป็นเหล่าสาวๆ แฟนคลับดาราทั้งสี่ที่พากันกรี๊ดกร๊าดใหญ่เพราะนอกจากจะได้ดูสไปเดอร์แมนฟรีแล้วยังได้ใช้อากาศในโรงหนังโรงเดียวกับดาราที่ชอบอีกต่างหาก คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม! (สาบานว่าผมได้ยินพวกเธอพูดกันแบบนี้จริงๆ) ผมรอจนแน่ใจว่าคนพร่องตาแล้วจึงเดินช้าๆ เข้าโรงไปกับรอง ผู้ที่ตอนนี้หอบของกินพะรุงพะรังเพื่อเอาใจผมราวกับเรามาออกเดทกันครั้งแรก

   เขาดีกับผมมากจนผมแอบรู้สึกผิดเรื่องที่ชวนมา เพราะสำหรับผมมันเป็นแค่การทำให้ธีร์เจ็บใจเท่านั้น...ผมไม่ได้อยากมากับเขาจริงๆ

   กระนั้นการยอมมาดูหนังกับรองก็ยังดูเล็กน้อยไปเลยถ้าเทียบกับความหนักใจเมื่อผม ‘อาจ’ จะเจอธีร์ในโรงหนัง ทั้งๆ ที่ความจริงผมไม่จำเป็นต้องหนักใจขนาดนี้ด้วยซ้ำเพราะไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด...ใช่ไหม ผมไม่ได้ทำอะไรผิดใช่ไหม
   แต่ไม่ว่าจะผิดหรือไม่ ภาวนาให้ผมนั่งคนละแถวกับเขาทีเถ้อออออ

   “เรานั่งอะไรนะ” ผมกระซิบถามคนตัวเล็กเมื่อเราเข้ามาในโรงหนังเรียบร้อย ตอนนี้ทั้งโรงยังเปิดไฟสว่างโร่เพราะรอคนเข้ามาให้ครบ ผมพยายามไม่กวาดสายตามองใครหรือทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจ

   “D8-9 ครับ”

   “โอเค” ผมกระซิบ แล้วค่อยๆ แทรกตัวเข้าไปจนถึงที่นั่งของตัวเอง ทิ้งตูดลงได้ก็ถอนหายใจอย่างรอดตัว

   “แฮ่ม”

   ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกระแอม

   “อึฮื่ม!”

   กระแอมครั้งที่สอง...จากตำแหน่งที่นั่งเหนือขึ้นไปหนึ่งแถว คราวนี้มาพร้อมกับแรงสะกิดที่ไหล่จากมือกว้าง

   ผมปรนลมหายใจอย่างยอมแพ้ จริงๆ จำเสียงนั้นได้ตั้งแต่แรกแล้วแต่ไม่อยากยอมรับ สุดท้ายก็หันขึ้นมองด้านซ้ายบนของตัวเอง สบตากับสไปเดอร์แมนตัวที่หล่อที่สุดผู้ยิ้มเยาะกลับมาอย่างร้ายกาจ

   “ฟิ้วววววว” เขาทำท่ายิงใยทักทาย ผมกรอกตา อย่างน้อยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่เกลียดผมมากถึงขนาดจะดลบันดาลให้ไปนั่งแถวเดียวกับเขา

   แต่...สิ่งศักดิ์สิทธิ์คงเกลียดผมโคตร! เพราะเขาดันได้นั่งที่สูงกว่า พูดให้ถูกก็คือสูงกว่ารอง ติดกับสไปเดอร์แมนอีกสองตัวและแฟนสาวกระโปรงบาน

   รองหันมองบ้างแล้วก็ชะงักไปเหมือนกันเมื่อรู้ว่าด้านบนนั้นคือธีร์ ทั้งสองทักทายกันตามประสาเพื่อนร่วมรุ่น แต่เหมือนมันมีรังสีของความไม่ถูกกันแผ่ออกมาจนผมรู้สึกได้

   วินาทีนั้นผมรู้เลยว่าการดูหนังครั้งนี้จะต้องหรรษาแน่นอน

   ไม่นานไฟก็ดับลง แสงจากเครื่องฉายภาพยนตร์สาดทับลงบนจอกว้าง เพลงประจำสตูดิโอดังถูกบรรเลงขึ้น พร้อมๆ กับเพลงของสงครามระหว่างเราที่ดังขึ้นในจินตนาการ สิบนาทีแรกของหนังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งรองหยิบป๊อบคอร์นออกจากถัง และยื่นมาจ่อตรงหน้าผมเหมือนจะป้อน

   ปึก!

   แรงถีบเบาะจากด้านหลังทำให้ป๊อบคอร์นอันนั้นกระเด้งออกจากมือเขา รองและผมหันไปมองต้นเหตุด้วยความสงสัย

   “โทษที” สไปเดอร์แมนหน้าหล่อยิ้มบาง ยกมือเป็นสัญญาณว่าไม่ได้ตั้งใจ “ตกใจซาวน์เอฟเฟกต์”

   ใครเชื่อก็ง่าวเต็มทีแล้ว

   “เดี๋ยวพี่หยิบกินเองก็ได้” ผมบอกรอง แล้วเอื้อมมือหยิบป๊อบคอร์นออกจากกล่อง หนังดำเนินไปได้อีกราวยี่สิบนาที รองยกน้ำขึ้นมาดื่มยาวอาจเพราะคอแห้ง พอเสร็จก็หันมาถามผมว่าจะดื่มต่อหรือเปล่าเพราะเราซื้อน้ำมาแค่แก้วเดียว ผมมองหลอดที่เขาเพิ่งดูดสลับกับดวงตาใสแป๋วของเขาที่เรืองแรงในความมืด ถ้าไม่คิดมากก็จะไม่อะไร แต่ถ้าคิดมาก...การทำแบบนี้มันก็เหมือนจูบทางอ้อม

   ยังไม่ทันจะดูดต่อ แรงดันจากด้านหลังก็ชะงักเราไว้อีกครั้ง

   “อะไรวะ” รองสบถออกมาเบาๆ แล้วหันไปมองธีร์อย่างเอาเรื่อง หากคนเตะเบาะลอยหน้าลอยตามองจอนิ่ง ผมเอื้อมมือแตะแขนรองเหมือนห้าม

   “ดูหนังต่อกัน” ผมชวน แล้วก็ดูดน้ำจากหลอดของรอง เหลือบมองธีร์ซึ่งมีสีหน้าไม่พอใจเป็นระยะ

   ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่สไปเดอร์แมนบนจอก็ทำให้เราเพลิดเพลินเกินกว่าจะสนใจสไปเดอร์แมนหน้าบึ้งด้านหลัง ผมกับรองรับสารตรงหน้าด้วยความสนุกสนาน เราหัวเราะคักและกระซิบคุยกันเบาๆ ถึงบันเทิงที่หนังมอบให้ กระทั่งจังหวะหนึ่งที่รองหันมากระซิบอีกครั้ง แต่เสียงจากลำโพงดังเกินไปจนผมต้องเงี่ยหูเข้าไปฟังใกล้กว่าเดิม

   จังหวะนั้นเองที่น้ำเป๊บซี่ราวครึ่งแก้วถูกราดลงบนตัวเขาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

   “เชี่ยยยยย!” รองร้องออกมาเสียงดัง แล้วลุกยืนขึ้นทันที ผมผงะออกแล้วหันไปมองต้นเหตุของปัญหาคนเดิมที่มือถือแก้วเป๊บซี่ค้างไว้...คาหนังคาเขาสัดๆ

   “อะไรวะ!” คนตัวเล็กโวยวายจนคนนั่งแถวเราได้ยิน “ตั้งแต่ตะกี้แล้วนะมึงอะ”

   คนเป็นดารายังทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว กระซิบออกมาเบาๆ ว่า “อย่าเสียงดังสิ มันแค่หลุดมือ”

   เชื่อเขาเลย

   “หลุดมือเชี่ยอะไรจะราดลงมาขนาดนี้ นี่มันตั้งใจแล้ว” คำพูดของธีร์ยิ่งทำให้คนมากับผมมีน้ำโห “ไม่พอใจอะไรก็พูดมาเลยสิวะ”

   คราวนี้รองเสียงดังจนเรียกความสนใจได้จากคนทั้งโรง รวมไปถึงพี่บุ๊คผู้จัดการที่นั่งถัดออกไปไม่กี่ที่

   “เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะน้องธีร์”

   “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ” คนตัวเล็กยังพูดต่อ “อยู่ดีๆ เขาก็ราดเป๊บซี่ลงมา”

   “รอง...” ผมเห็นท่าไม่ทีเลยจับแขนเปียกโชกของเขาไว้เผื่อว่าจะสงบลง

   “น้องมีหลักฐานหรือเปล่าคะ”

   “ก็คามือเขานั่นไง พี่เห็นปะค้าบบบบ” แต่รองก็ยังไม่หยุดเสียงดัง จนคนที่นั่งอยู่ใกล้เราเริ่มซุบซิบกันเรื่องนี้ ผมได้ยินคนจากแถวหน้าๆ ตะโกนมาว่าให้ไปทะเลาะกันนอกโรงนู่น...เรื่องมันชักจะใหญ่เกินไปแล้ว

   “รอง มากับพี่...ถือว่าพี่ขอนะ”

   “แต่พี่จุ๊บ...”

   “มาเถอะ” ผมมองเขาด้วยแววตาขอร้องแล้วดึงมือเขาออกมา รองดื้อดึงในตอนแรก แต่สุดท้ายก็ยอมปลีกตัวออกมาด้วยสภาพเปียกโชก ผมดึงรองเข้ามาในห้องน้ำทันที ยอมถอดเสื้อแจ๊กเก็ตของตัวเองออกเพื่อให้เขาเปลี่ยนชั่วคราว

   ไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนตามมา แล้วมือหนาก็ลากแขนข้างหนึ่งของผมเข้าห้องส้วมที่ใกล้ที่สุด เร็วเกินกว่าที่จะออกแรงปฏิเสธ

   “พอได้หรือยะ...”

   ริมฝีปากหนาพุ่งเข้าจู่โจมผมก่อนจะพูดจบ แนนแน่บและเนิ่นนาน ท่อนลิ้นซุกไซ้เขาไปในช่องปากถ่ายทอดความคุกรุ่นในจิตใจจนผมรู้สึกได้ถึงความเกรี้ยวกราด ผมลืมตาโพลง พยายามดันร่างอันแข็งแกร่งตรงหน้าออกแต่ก็ต้านแรงไม่ไหว เลยปล่อยให้เขาทำอยู่แบบนั้นจนกว่าจะพอใจ...ราวกับคนไร้ความรู้สึก

   พอเขาถอนริมฝีปากออกเวลาก็หยุด ผมเงยหน้าสบตาคนที่วิ่งออกมาจากโรงทั้งๆ ที่ยังอยู่ในชุดสไปเดอร์แมนอย่างนิ่งเฉย ถามคำถามเดิมก่อนที่เขาจะประทับรอยจูบลงมา

   “พอได้หรือยัง”

   เขาจ้องผมกลับด้วยแววตาของความโกรธ “ทำไมทำแบบนั้น”

   “แบบไหน”

   “ชวนไอ้เตี้ยนั่นมาดูหนัง จู๋จี๋กัน”

   อยากจะเถียงว่าไม่ได้จู๋จี๋ แต่บอกไปเขาก็คงไม่ฟังอยู่ดี “เรานึกว่าเราทำแบบนั้นได้ซะอีก”

   “แบบไหน”

   “ทำแบบที่ธีร์ไปทำกับเอิงเอยไง”

   เจอตอกกลับแบบนั้นก็ถึงกับชะงัก “มัน...ไม่เหมือนกัน”

   “ไม่เหมือนกันตรงไหน ธีร์เป็นคนบอกเราเองแท้ๆ ว่าเราทำได้”

   “ไม่เหมือนกันก็คือไม่เหมือนกัน พี่จุ๊บอาจจะไม่รู้สึกไร แต่เรา...”

   “...”

   “เราหึง”

   “ธีร์” ผมถอนหายใจ “เราเหนื่อยว่ะ”

   “...”

   “พอได้หรือยัง”

   “พี่จุ๊บหมายถึง...”

   “เรารู้ว่าธีร์รู้ว่าเราหมายถึงอะไร เราถึงถามว่าพอได้หรือยัง”

   “...”

   “เรารักธีร์ เราบอกไปแล้ว แต่ถ้ารักแล้วยังเจอธีร์ที่ทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตแบบนี้ เราก็ไม่อยากรู้สึกอะไรกับธีร์อีกแล้วว่ะ”

   คู่ชีวิตอึ้งไป ผมไม่พูดอะไรต่อแต่มองเขาเพื่อบอกว่าผมจริงจังในคำพูดนั้น ในใจภาวนาให้อีกฝ่ายถอดใจ...

   “ทุกอย่างที่เราทำ เพราะเรารักพี่จุ๊บ”

   “ถ้าธีร์จะรักเราจนคนอื่นเดือดร้อน ก็อย่ารักเราเลย” ผมยืนยัน ยอมแพ้ต่อความสัมพันธ์อย่างศิโรราบและโอบแขนรอบคอของเขาแล้วดึงลงมาจนริมฝีปากเราปะทะกันเบาๆ เพื่อให้เวลากลับมาเดินต่อ...ทุกอย่างควรจะเดินต่อ และเราไม่ควรจะมาติดอยู่ในวังวนของความสัมพันธ์ที่คาราคาซังอย่างนี้

   ทว่าคนเป็นดาราก็ยังดึงดัน เขายื่นปากมาจูบผมอีกครั้งหวังให้เวลาหยุดเดิน แต่ผมถอนริมฝีปากออกจากเขาอย่างรวดเร็วและกดย้ำไปอีกครั้งด้วยความฉุนเฉียว ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ปล่อยให้ผมผละออก ธีร์ใช้มือขวากดหัวผมให้แนบชิดอยู่อย่างนั้นจนผมไม่เหลือทางเลือก สุดท้ายก็ต้องกัดปากเขาอย่างแรงให้เราหลุดจากกันในที่สุด

   “โอ๊ย!” ธีร์ร้องออกมาและยกมือขึ้นจับปากตัวเอง ผมไม่สนใจแม้จะรับรู้ถึงกลิ่นคาวเลือดในช่องปากของตัวเองที่มาพร้อมรสปะแล่ม เปิดประตูออกไปทันทีที่เข็มนาฬิกาดิ้น

   เจอกับรองที่เปิดประตูออกมาพร้อมกันพอดี

   “พี่จุ๊บ ผมได้ยินเสียงใครร้อง มีอะไรหรือปะ...” ร้องเงิบไปเมื่อมองเห็นคนในห้องน้ำด้านหลังผม และก่อนที่เขาจะพูดอะไร ผมรีบเดินเข้าไปคว้าคอของน้องรหัสแล้วจัดการประกบริมฝีปากลงทันที

   การจูบครั้งนี้ไม่มีจังหวะหัวใจที่วูบไหว แต่กลับสร้างความร้าวรานภายในอย่างหนักหนา ทั้งความโกรธ ความเสียใจ และความเหนื่อยล้าประดับประเดเข้ามา

   นี่ไม่ใช่การประชด แต่สิ่งที่ผมคิดเพียงอย่างเดียวคืออยากให้เรื่องพวกนี้มันจบสักที

   ผมถอนจูบออก ไม่สนใจความรู้สึกที่ว่าวันนี้แม่งใช้ปากเปลืองเกินกว่าคนทั่วไปจริงๆ รองอึ้งไปอย่างที่ผมอยากให้เป็นทันทีจนสามารถลากเขาออกจากที่นั่นได้ง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงคนด้านหลังที่คงจะตะลึงกับจูบคาดเดาไม่ได้นั้นจนทำอะไรไม่ถูก

   อันที่จริง ทั้งเขาและผมก็ไม่มีใครทำสิ่งที่ถูกต้องเลยสักคน


   ความร้าวรานอาจเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ คำว่าคู่ชีวิตอาจไม่ได้รับประกันว่าจะมีความสุข ตราบใดที่เราเลือกจะปฏิบัติต่อกันเหมือนไม่ใช่คนรัก


      






โปรดติดตามตอนต่อไป



ตม. Talks: อยากให้อัพเร็วๆ เม้นท์กันด้วยนะ
หรืออยากติชมหรือกรี๊ดกร๊าดไปที่แท็ก #จุ๊บที ในทวิตเตอร์นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-11-2017 22:26:57 โดย ตัวแม่ »

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ธีร์นี่น้าา

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
สุดท้ายก็ทำเพราะประชดจุ๊บ รำคาญทั้งคู่เลยอ่ะ แต่รำธีร์มากกว่า ไหนบอกจุ้บไม่ให้เป็นแฟนเลยจะไปทำกับคนอื่น คบกับเอิงเอยจริงจัง ก็ไปสิ ไปทำกับแฟนเธอ ไปปปปปปป๊ หงุดหงิดดดดดด  :m31: :fire: :angry2:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ต่างก็รู้ตัว แต่ก็ยังดึงคนอื่นเข้ามาในความสัมพันธ์ นอกจากจะทำร้ายกันเองแล้วยังทำร้ายคนอื่นอีก 2 คน
เมื่อไหร่จะพอเสียที ไม่ชอบการกระทำของทั้งคู่แหละ
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Chattcha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาม่าหม้อใหญ่จัง เมื่อไหร่จะหมดอ่ะ อยากเห็นทั้งคู่มีความสุขมากกว่า :mew6:

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
คนเขียนทุ่มเทมาก
เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ  :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ลากคนอื่นมาวุ่นวายด้วยเนี่ยไม่สนุกเลยนะ

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
โอ้ยยย

อึดอัดเด้อ

สงสารจุ๊บ

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ธีร์ไม่น่ารักเลย ประชดเพื่อ แล้วตัวเองก็มาร้อนรน ธีร์บังเด็กมาก สองคนยังต้องเนียนรู้กันอีกเยอะ
เอาน้ำราดรองนี่ก็เกินไป รองเองน่าจะรู้อยู่ว่าเขาชอบกันตัดอกตัดใจซะเถอะ นานไปยิ่งน่าสงสาร

ขอยคุณค่ะ

ออฟไลน์ Supansahn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ประชดกันไปมา คนที่เจ็บไม่ได้มีเเค่สองคนนะ รอตอนต่อไปป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Himbeere20

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ธีร์ทำตัวแย่มากตอนนี้
แต่ผิดหวังกับจุ๊บมากกว่า เหมือนว่าพอมันไม่เหมือนกับที่คิดหวังไว้แล้วจุ๊บก็พร้อมจะตัดความรักทิ้งโดยที่ยังไม่ได้พยายามจะกลับมาปรับความเข้าใจกับธีร์เลย
คิดว่าจุ๊บได้คุยกับแม่แล้วจะ.......คือไม่ไช่แบบนี้ วุ้ย!อธิบายไม่ถูก



ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
ทั้งคู่นั่นแหละจ้า ไปปรับปรุงตัวเนาะ ไม่ชอบที่จุ๊บไปจูบรองอ่ะ รู้สึกแปลกๆ หยึยๆ 5555555555555

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เอ้อ มันจะอีรุงตุงนังกันไปเยอะละนะลากคนโน้นคนนี้เข้ามา มันจะไม่ได้เจ็บแค่สองคนแล้วไง ธีร์นี่เด็กจริงๆแหละอยากเอาชนะจนไม่สนอะไรคือเหมือนที่ธีร์ทำประชดเพราะคิดว่าตัวเองเหนือกว่าจุ๊บจะต่อรองยังไงก็ได้ ส่วนพี่จุ๊บเราเข้าใจนะว่าพี่จุ๊บหงุดหงิดที่โดนธีร์ปั่นหัวแบบนี้ก็ไม่แปลกหรอกที่จะถอดใจแต่ไม่เห็นด้วยที่ไปดึงรองเข้ามาอีก แบบนี้มันจะวุ่นกันไปไม่จบหรอก

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ธีร์กับจุ๊บเล่นอะไรกัน มันตลกนะ ที่จะประชดแล้วลากคนอื่นมาเจ็บด้วย เด็กทั้งคู่ จุ๊บเองไม่ควรลงเล่นเกมส์นี้ นอกจากจะอยากคบกับรองจริงๆ สงสารรอง

ออฟไลน์ AutoAngels

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบมากกกกกสงสารใครดีละเนีย...มาต่ออีกนะคะ :katai1:

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
ตั้งสติดีๆแล้วคุยกันได้มั้ยอ่ะ ฮืออออออ อย่าประชดกันอีกเลยนะ :hao5:

ออฟไลน์ Fahsaizzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สงสารแต่คนอื่นที่โดนลากมา ใช้ิอารทณ์ทั้งคู่
แล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นได้ไงล่ะ เฮ้อออ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด