จุ๊ บ ที { ตอนพิเศษ : จีบที | 30.5.2561 | Page 29 } (จบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จุ๊ บ ที { ตอนพิเศษ : จีบที | 30.5.2561 | Page 29 } (จบ)  (อ่าน 203922 ครั้ง)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4:  :pig4:

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
พี่จุ๊บหยอดกลับบ้างเลย :o8:

ออฟไลน์ Misakiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ธีร์ลูกกก หนูไม่เป็นอะไรนะคะ

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
กรี๊ด ใครทำธีร์ของพี่จุ๊บ!!

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
อ้าววว ตายละ

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
เกิดไรขึ้นนน!!? :katai1:

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
อืมมมมมม
อยากรู้ตอนต่อไปแล้วค่ะ

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
อะไรเกิดอะไรร

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
น้องธีร์ใจเย็นๆ

ออฟไลน์ funnyvix

  • hello , how are you?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
    • fb.com/viqsaiyaeh
ดีนะที่มาทันยังไม่อัพหลายตอน สนึกมากๆเลยยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: จุ๊ บ ที { จูบที่เจ็ด | UPDATE 20.7.2559 | Page 14 }
« ตอบ #459 เมื่อ: 24-07-2016 14:29:53 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
อ้าว

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
เกิดอะไรขึ้น อยากรู้แล้ว~

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
เห้ยยยยย เกิดอะไรขึ้นอ่ะ :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
น้องธีร์!!!

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ :sad4:

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
มุมโหดงั้นหรอเนี่ย

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
 :a5:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
สนุกมากกกก รอค่ะ
งานเลือดสาดก้มาา

ออฟไลน์ JessieB

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เป็นเรื่องที่พล็อตน่าสนใจ แต่งได้สนุกดีค่ะ

ติดตาม มาต่อไว ๆ นะคะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ธีร์เป็นคนเลือดร้อน แต่พยายามเย็นเพราะจุ๊บขอ อยากรู้จะเกิดอะไรขึ้นนะ

น้องรองนี่ชอบพี่จุ๊บหรือเปล่า หรือว่าชอบธีร์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-09-2016 06:51:13 โดย manami_01 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: จุ๊ บ ที { จูบที่เจ็ด | UPDATE 20.7.2559 | Page 14 }
« ตอบ #469 เมื่อ: 22-08-2016 19:17:23 »





ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ปูเสื่อรอ

ออฟไลน์ ตัวแม่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
    • เพจตัวแม่



จูบที่แปด


   ใบหน้าโชกเลือดของธีร์ทำให้ใจผมหล่นวูบไปที่ตาตุ่ม

   เขาไม่ได้สังเกตเห็นผมที่คุกเข่าอยู่ข้างๆ เพราะดวงตาแข็งกร้าวจ้องเขม็งไปยังคู่กรณีฝั่งตรงข้ามอย่างโกรธแค้น แม้ว่าสภาพจะสะบักสะบอมพอสมควร แต่คนตัวสูงก็ยังพยายามดันตัวเองขึ้นเพื่อเตรียมจะพุ่งเข้าปะทะอีกรอบ

   พี่ผู้หญิงคนหนึ่งช่วยดึงตัวผมขึ้นจากพื้น ในขณะที่ผู้ชายในเสื้อเชิ้ตสีแสดอันเป็นเอกลักษณ์ของพี่ปีสามหลายคนเข้าไปรั้งตัวธีร์ไว้ก่อนที่เขาจะเริ่มมวยยกใหม่

   “ไอ้ขี้แพ้ มึงเข้ามาสิ!” น้องผู้ชายอีกฝ่ายตะโกนก้องอย่างท้าทาย เขาเป็นประธานรุ่นปีหนึ่งชื่อโต้ง เด็กชายตัวผมสูงที่ตอนนี้โหนกแก้มแดงช้ำเพราะแรงหมัดของธีร์ เลนส์ในกรอบแว่นสี่เหลี่ยมของเขาข้างหนึ่งแตกร้าว สภาพเลวร้ายไม่ต่างจากคนเลือดโชกตอนนี้เลยสักนิด

   คนที่รั้งน้องโต้งไว้คือพี่ประธานเชียร์ปีสามที่อยู่ในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ข้างแก้มมีรอยช้ำจากการต่อสู้ สายตาฉุนเฉียวเอาเรื่องเล็งมายังธีร์ ใกล้จุดที่เขายืนอยู่มีเศษผ้าสีส้มขลิบทองที่มีรอยไหม้จากการเผาตกอยู่ผืนหนึ่ง

   ผมพอจะเดาออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

   ธีร์ไม่ได้โต้ตอบกลับ แต่ตัวเองก็พยายามทำทุกอย่างให้หลุดจากพันธนาการ ผมมองแววตาวาวโรจน์ด้วยความโมโหนั้นด้วยความตกใจ...ปนกับความกลัว ผมเคยเจอเขาที่เป็นคนกวนตีน ขี้หยอด และเอาแต่ใจ แต่กับเด็กหนุ่มขี้โมโหร้ายและไม่มีใครหยุดได้แบบนี้...ผมไม่รู้จักเขาเลย

   “แค่นี้ก็พอแล้วเหรอวะ อ่อนว่ะ”

   “มึงหุบปาก...” เขากระซิบผ่านริมฝีปากที่มุมขวามีรอยช้ำ เลือดสีแดงสดทะลักจากแผลตรงหางคิ้วเลอะตั้งแต่แก้มขาวยันเสื้อนักศึกษา

   “กูไม่หุบ เป็นดาราแล้วคิดว่าจะสั่งให้คนอื่นทำอะไรก็ได้เหรอวะ!”

   ธีร์ทำท่าจะพุ่งตัวเข้าหาฝ่ายนั้นอีกครั้ง เกิดเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจขึ้นอีกระลอกพร้อมกับแรงรั้งจากรุ่นพี่สามสี่คนด้านหลังที่พอจะยึดตัวเขาไว้ได้ คนร่างใหญ่พยายามสะบัดตัวสุดกำลัง ผมเห็นท่าไม่ดีเลยแทรกตัวเข้าไปรั้งมือเขาไว้อีกแรง
 
   “ธีร์...” ผมบีบมือเขาให้ใจเย็นลง ธีร์หันขวับมามอง พอเห็นว่าเป็นผมก็ชะงักไปเล็กๆ แต่แววตารั้นยังอยู่ ลมหายใจรุนแรงของเด็กหนุ่มเป่ากระทบใบหน้าผม คำท้าทายจากน้องโต้งยังดังมาอย่างต่อเนื่อง คนตัวสูงกัดฟันกรอด ผมส่ายหัวเป็นสัญญาณห้ามแล้วบีบย้ำที่มือเขาแรงขึ้น

   “พอ!”

   ทันใดนั้นเสียงประกาศก้องของใครบางคนก็ดังกลบเสียงเซ็งแซ่ในห้องทั้งหมด ชายในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงขายาวสีกรมก้าวเข้ามาในห้อง นั่นทำให้เราแทบทุกคนหน้าถอดสีทันที

   เขาคือคนที่สามารถกำหนดชะตาชีวิตในมหา’ลัยของเราได้...คณบดี

   “เกิดอะไรขึ้น” เขาถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ เหล่ารุ่นพี่ต่างพากันก้มหน้างุด อาจารย์ผู้เป็นใหญ่ที่สุดในคณะใช้สายตาเฉียบขาดไล่มองเราทีละคนผ่านแว่นเลนส์หนา และหยุดอยู่ที่นักศึกษาผู้เป็นใหญ่ที่สุด ร่างสูงโปร่งของชายวัยกลางคนก้าวไปอยู่ตรงหน้าผู้เป็นประธานเชียร์ นาทีนั้นรอบข้างเงียบกริบด้วยความตึงเครียด เหล่านักศึกษากว่าร้อยคนไม่มีใครกล้าปริปากออกมาอีกเลย

   “ผมถามว่าเกิดอะไรขึ้น” เสียงเย็นเยียบแต่รู้สึกถึงความคุกรุ่นภายใน พี่ประธานเชียร์กัดริมฝีปากด้วยอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาสบตาชายวัยกลางคนตรงกลาง ชั่วแวบหนึ่งก็เหลือบมองมาที่ธีร์ราวกับคาดโทษ

   เด็กหนุ่มข้างตัวผ่อนลมหายใจลง แล้วผมก็รู้สึกถึงแรงสะบัดเบาๆ ที่มือ รู้ตัวอีกทีคนข้างตัวก็เดินออกจากห้องไปแล้ว

   “ธีร์!” ผมเรียกเขาและก้าวเท้าตาม แหวกผ่านผู้คนมากมายที่ยืนมองเราตาปริบๆ ด้วยความตกตะลึง เสียงฮือฮาดังตามมา แต่ผมไม่ได้สนใจมันเท่ากับเด็กหนุ่มในเสื้อนักศึกษาเปื้อนเลือดที่ตอนนี้สาวเท้าเร็วในระดับเดียวกับการวิ่งออกจากตัวอาคาร
เขาตรงดิ่งไปยังลานจอดรถด้านหลังคณะ ถึงตัวรถฮอนด้าแจ๊สสีขาวสะอาดเจ้าตัวก็ยัดตัวเองเข้าไปด้านใน สตาร์ทเครื่องอย่างรวดเร็ว

   ผมตามไปเคาะกระจก ธีร์หันมามองผมด้วยแววตาที่มองออกว่ารู้สึกแย่ ผมสื่อสารเชิงว่าขอคุยกับเขาก่อนได้ไหม คนเป็นดาราจ้องผมนิ่งๆ สักพักแล้วหันกลับไปใส่เกียร์จะออกรถ

   ผมชะงักไปอย่างน้อยใจ ท่าทีของเขาทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรจะมาอยู่ตรงนี้เลย

   เพิ่งเคยสัมผัสความรู้สึกเวลาที่เราเป็นห่วงใครแต่เขากลับปฏิเสธความเป็นห่วงนั้น

   ...หน่วงเหมือนกันแฮะ

   รู้ว่าทำอะไรไม่ได้ ผมจึงลดมือจากกระจกแล้วถอยออกมาเงียบๆ ก้มหน้ามองพื้นและห่อไหล่คู้ รอคอยให้รถของธีร์ขับเคลื่อนออกไป

   ทว่า...มันกลับไม่เคลื่อนออกไป

   ผมเงยหน้าขึ้น จังหวะเดียวกับที่ประตูรถเปิดออกพอดี ธีร์ก้าวออกมาด้วยสีหน้าย่ำแย่กับแววตารู้สึกผิด ผมจ้องตาเขาและเม้มปาก แล้วก็เข้าใจความรู้สึกนั้นโดยไม่ต้องใช้คำพูดใดๆ เลือดสีแดงสดที่ยังไหลลงมาจากหางคิ้วไม่ขาดสายนั้นทำให้ผมเลือกพูดอะไรที่จะทำให้สถานการณ์มันดีขึ้นแทน
   
   “ไปนั่งอีกฝั่งดิ เดี๋ยวพาไปส่งโรง’บาล”



   เรานั่งเงียบกันมาตลอดทาง เพราะรู้ว่ายังไม่ใช่เวลาเหมาะสมในการพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ผมจึงเพ่งสมาธิกับการขับรถ ในขณะที่ธีร์เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง มือขวาถือผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กของผมกดรอยแผลไว้เพื่อห้ามเลือด พอถึงโรงพยาบาลทุกอย่างก็ดูเป็นเรื่องใหญ่อีกครั้ง เหล่าสาธารณชนที่นี่พากันฮือฮาเพราะการปรากฏตัวของดาราชื่อดังในสภาพโชกเลือด

   ผมนั่งรอเขาหน้าห้องฉุกเฉิน ธีร์หายเข้าไปชั่วโมงกว่าแล้วก็กลับออกมาในสภาพหน้าใสปิ๊งปกติ บนปลายคิ้วขวามีรอยเย็บอย่างปราณีตฝังอยู่ ผมเลิกคิ้วเชิงสงสัยใส่

   “อยากไปนั่งคุยกันที่อื่นไหม” เขามองซ้ายมองขวา แล้วผมก็เข้าใจว่าทำไม ทุกสายตารอบข้างตอนนี้กำลังจ้องมองเราเหมือนราชสีห์หิวเหยื่อ หรือนักข่าวหิวเรื่องฉาวโฉ่อะไรเทือกนั้น

   ผมพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินตามเขาไปช้าๆ ธีร์เจอมุมแคบข้างลิฟต์ที่เราปลอดภัยจากสายตาใคร

   คนตัวสูงทรุดตัวลงนั่งพิงผนัง ผมทำตาม มองรอยย่นบนคิ้วเขาแล้วคิ้วตัวเองก็ย่นตาม

   ธีร์ยิ้มมุมปากกลับมา “เย็บสามเข็มเอง”

   “สามเข็มเอง?”

   “ตอนมัธยมเคยเย็บมากกว่านี้อีก แค่นี้จิ๊บๆ” เขาอวด ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับตรรกะประหลาดนั่น

   “ครับพ่อคนชิลล์ พ่อคนเก่ง พ่อนักเลงโต”

   “พี่จุ๊บควายชอบพูดอะไรเหมือนคนแก่จัง”
   
   “ก็ไม่อยากพูดหรอก แต่มันเป็น…” ผมหยุดพูดกลางคันและสูดลมหายใจลึก ธีร์หันมายักคิ้วข้างที่เพิ่งโดนเย็บให้สองจึ๊ก

   “พูดก็พูดให้จบดิ”
   
   “ช่างเหอะ”

   “เป็นห่วงเหรอ”

   “...”

   “...”

   “อื้อ”

   “ก็แค่เนี้ย”

   “ก็รู้นี่”
   
   เราเงียบกันไปสักพัก คนผิวสว่างใช้นิ้ววาดอะไรสักอย่างบนพื้นกระเบื้อง มุมปากกระหยิ่ม ส่วนผมมองกำแพงอีกด้านไปเรื่อยเปื่อย

   “พูดถึงคนแก่” อยู่ๆ เขาก็โพล่งขึ้นมาเหมือนนึกอะไรออก “พี่บุ๊คต้องด่าเราตายแน่ถ้าเห็นสภาพนี้”

   “พี่บุ๊ค?”

   “ผู้จัดการส่วนตัวน่ะ”

   “เขาแก่เหรอ”

   “ก็ไม่ค่อยแก่เท่าไหร่” เขาทำหน้ายู่ “แต่ชอบบ่นเหมือนคนแก่ บ่นทีเป็นชั่วโมง แค่คิดว่าจะโดนบ่นก็เหนื่อยใจแล้ว”

   “เป็นเราเห็นแบบนี้ก็คงบ่นเหมือนกัน” ผมพยักเพยิดไปที่แผล “สรุปสามเข็มนี้มาได้ไง” ผมเปิดประเด็น ธีร์หลบสายตาจากผมด้วยความกระอักกระอ่วนทันที

   “ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะ”

   “ไม่ใช่ไม่อยากเล่า” ปากสีชมพูขยับขมุบขมิบ ผมส่งสายตาเป็นเชิงว่า ‘งั้นก็เล่าสิ’

   “ก็...” เห็นสีท่าอ้ำอึ้งแบบนี้สันนิษฐานของผมก็คงไม่ผิด จึงชิงถามออกไปให้รู้แล้วรู้รอด

   “มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับป้ายผ้าที่เราทำใช่ไหม”

   “...”

   “ใช่ไหม”

   “...”

   “ว่าแล้ว” ผมถอนหายใจ “ธีร์เริ่มก่อนด้วยใช่ไหม”

   “ก็ไอ้พี่นั่นมันเสือกเผาก่อนทำไม” เขาเถียงเสียงเขียว ผมจ้องเขากลับเคร่งเครียด

   “ธีร์จะเที่ยวต่อยคนอื่นเพราะเขาเผาป้ายผ้าไม่ได้นะ”

   “แต่มันเป็นผ้าพันคอที่นายทำ”

   “มันก็ไม่ได้พิเศษกว่าคนอื่นทำตรงไหน”

   “แต่นายอดหลับอดนอนทำ”

   “ก็ค่าเท่ากัน คือประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ใครทำหรือใช้เวลามากแค่ไหนไง ก่อนหน้านั้นเรารับปากเขา...”

   “พี่จุ๊บ” ธีร์แทรกขึ้นก่อนผมจะพูดจบ “...ไม่เคยเข้าใจอะไรเลยใช่ไหม”

   เสียงที่อ่อนลงของเขาทำให้ผมชะงักไปหลังจากที่เราถกเถียงกันแบบไม่มีใครยอมใคร เพราะต่างคนต่างยึดในความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ พอเขาตัดพ้อแบบนี้มันทำให้ผมนึกถึงช่วงเวลาตอนที่ผมเคยรู้สึกแบบเดียวกัน

   เวลาที่เราอยากทำอะไรเพื่อใคร แต่เขาไม่ได้ต้องการ

   “เราทำไปทำไม ไม่รู้เลยใช่ไหม”

   “…”

   “พี่แม่งไม่เข้าใจว่ะ”

   “โอเค…โอเค” ผมเอื้อมมือไปจับแขนเขาเบาๆ อย่างอ่อนข้อลงบ้าง ไหล่ของธีร์กระตุกอย่างฉุนเฉียว แต่ไม่ได้สะบัดแขนออก...ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี

   ผมมองหน้าด้านข้างของเขาที่มองตรงไปด้านหน้าด้วยความน้อยใจ “ขอโทษ”

   “ขอโทษทำไม ไม่ได้ทำไรผิด” แน่ะ มีตัดพ้อซ้ำด้วย

   “ขอโทษที่ตัดสินไปก่อนโดยที่ไม่ได้พยายามทำความเข้าใจอะไรเลย”

   “...”

   “เราพยายามทำความเข้าใจธีร์อยู่นะ”

   “...”

   “หายงอนยัง”

   “เก้าสิบเปอร์เซ็นต์”

   ผมหัวเราะในลำคอ ตอบติดตลกแบบนี้แสดงว่าไอ้ขี้หยอดคนเดิมกลับมาแล้ว “ต้องทำไงถึงจะเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์”

   “จุ๊บที”

   “ไม่ใช่ละ”

   เขากระตุกมุมปาก เห็นหน้าใสๆ แต่เล่ห์เหลี่ยมเยอะเกินวัยไปมากโข

   “สรุปหายยัง”

   “ก็ได้”

   “งั้นมองเราหน่อย” เขาเหล่ตามาหยั่งเชิง ผมยิ้มจ๋องๆ ให้ สุดท้ายธีร์ก็ยอมกระเถิบตัวให้หันมาทางผมแบบประจันหน้า

   “เราอยากเข้าใจ เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น เราสัญญาว่าจะไม่ขัด ถ้าธีร์สัญญาว่าจะเล่าแบบไม่มีอคติ และไม่ใส่อารมณ์ โอเคไหม”

   ผมสบตาเขาอย่างซื่อตรง ธีร์ถอนหายใจแผ่วและพยักหน้ารับคำเบาๆ แล้วเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยมีผมคอยพยักหน้ารับและไม่ขัดเขาสักคำตามสัญญา

   วันนี้เป็นวันแรกที่ธีร์เข้าห้องเชียร์ และการว้ากเพื่อจัดระเบียบน้องใหม่ไม่ใช่สิ่งที่คนเกลียดการถูกบังคับอย่างเขาโปรดปรานนัก

   เขาพยายามทน เขาใช้ความพยายามแล้ว ธีร์รู้สึกอึดอัดกับการตีกรอบความประพฤติด้วยเสียงอันไม่เป็นมิตรของรุ่นพี่จนอยากขอออกมานอกห้องหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีโอกาสเลย

   พี่เชียร์อบรมเด็กปีหนึ่งทุกคนเรื่องเพลงเชียร์ เรื่องข้อห้ามของรุ่นน้องที่เด็กหนุ่มรู้สึกว่าไร้สาระเหลือเกิน กระทั่งถึงเรื่องป้ายชื่อที่เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย

   ป้ายชื่อที่ธีร์ไม่เคยใส่ และไม่คิดจะใส่ แต่สัญญาว่าจะใส่มันเพราะผม

   ป้ายชื่อที่ผม เขา และเพื่อนอีกหลายคนนั่งหลังขดหลังแข็งทำด้วยกัน

   ปัญหามันเริ่มมาจากการที่รุ่นพี่อ้างว่าเห็นน้องบางคนไม่ใส่ป้ายชื่อ (ซึ่งรุ่นน้องคนนั้นก็คือธีร์ และวันนี้เขาก็ไม่ได้ใส่มาจริงๆ) พี่เชียร์ตีตราการกระทำนั้นว่ามันแสดงถึงการที่รุ่นน้องไม่มีความเห็นอกเห็นใจรุ่นพี่ปีสองที่ตั้งใจทำให้ (ซึ่งก็คือผม) เพราะฉะนั้น ถ้ามีคนไม่ใส่ ก็ไม่ต้องใส่แม่งเลยทั้งหมด

   แล้วรุ่นพี่ปีสามก็ตบมุขดราม่านี้ให้ถึงที่สุดด้วยการเผาโชว์หนึ่งอัน

   ทุกคนที่เคยผ่านการรับน้องคงรู้ว่าเป็นวิธีการที่เตี๊ยมกันมา แถมไอ้ป้ายที่เผาน่ะมันคืออันที่ไม่มีใครใช้ ทว่าสำหรับน้องใหม่ก็ได้รับความสะเทือนใจผสมจิตสำนึกรักป้ายชื่อกันไปตามๆ กัน

   แต่ก็นั่นแหละ ไม่ใช่กับธีร์

   คนที่นั่งเย็บผ้ามากับผมทั้งคืนยัวะขึ้นทันใด ป้ายชื่อยังถูกเผาไม่หมดผืน หมัดแรกของเขาก็ซัดเข้าที่หน้าประธานเชียร์ปีสามไปแล้ว

   ชุลมุนกันยกใหญ่ เหล่าสตาฟฟ์ต่างรีบเข้าไปห้าม แต่ธีร์กับพี่ประธานเชียร์แลกหมัดกันแบบไม่มีใครยอมใคร น้องปีหนึ่งเห็นท่าไม่ดีก็ลุกขึ้นห้ามบ้าง นำทีมโดยน้องโต้งประธานรุ่น

   คนเป็นดาราเหวี่ยงคนอื่นออก ความพลุ่งพล่านในตัวเขาพร้อมจะทำลายทุกอย่างโดยไม่สนว่าอะไร...หรือใคร...จะโดนลูกหลงบ้าง

   โชคร้าย น้องผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาห้ามโดนข้อศอกของธีร์เข้าไปเต็มๆ หน้า เธอเซไปชนกับเหลี่ยมเสาด้านหลังจนปากแตก

   ทุกอย่างชะงักไปสักพัก ธีร์เริ่มรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป คู่กรณีปีสามก็เริ่มได้สติ แต่คนที่สติหลุดไปแล้วคือน้องโต้งประธานปีหนึ่งที่ซัดหมัดเข้าแก้มขวาของธีร์แบบไม่ทันตั้งตัว

   และมวยยกใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ต่างฝ่ายแลกกำปั้นกันราวกับเกลียดขี้หน้ากันมานาน ผลที่ได้คือฝั่งดาราคิ้วแตก ส่วนฝ่ายประธานรุ่นกระจกแว่นร้าว จังหวะนั้นไม่ว่ารุ่นพี่รุ่นน้องก็ช่วยกันเข้าไปห้าม ตอนเดียวกับที่ผมเข้าไปทันเหตุการณ์พอดี
   
   “แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น”
   
   ธีร์จบเรื่องด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาย่นคิ้วมองแล้วหลบสายตาไปด้วยความไม่สบอารมณ์...ปนความรู้สึกผิด
   
   มีความรู้สึกว่าอยากดุ แต่ถ้าดุแล้วผมว่าเราคงเข้าอีหรอบเดิม และมันคงไม่มีอะไรดีขึ้น
   
   อีกอย่าง เห็นสีหน้าแบบนั้นแล้วดุไม่ลงเลยว่ะ
   
   “รู้สึกยังไง” ผมจึงเลือกที่จะไม่ทับถมหรือฟื้นฝอยเรื่องใครผิด หากแต่พูดถึงเรื่องละเอียดอ่อนแทน “ตอนนั้นน่ะ”
   
   “...โกรธ”
   
   “เราก็โกรธเหมือนกัน” ธีร์เลิกคิ้วแปลกใจ “จริงๆ นะแม่ง อุตส่าห์เย็บมาแทบตายทั้งคืน แม่งเผากันได้ลงคอ”
   
   เขาแค่นหัวเราะ
   
   “พอต่อยเขาแล้ว รู้สึกดีขึ้นไหม” ผมถามต่อ เด็กหนุ่มตรงหน้าเจอคำถามนี้ก็เงียบไปเหมือนกำลังใช้ความคิด
   
   “มันทำให้ธีร์โกรธเขาน้อยลงหรือเปล่า”
   
   “ก็ไม่” เขาตอบอ้อมแอ้ม ผมพยักหน้าเห็นด้วย

   “เราเข้าใจธีร์ และเราก็เข้าใจรุ่นพี่ปีสามเหมือนกัน จริงๆ เรารู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะทำแบบนี้...เราขอโทษที่ไม่ได้บอกนะ”
   
   “...”
   
   “แล้วตอนนี้ธีร์รู้สึกยังไง ยังโกรธพี่เขา หรือโกรธเราไหม”
   
   เด็กหนุ่มผิวขาวจัดยิ้มฝืดให้ผมแล้วส่ายหัว ลมหายใจผ่อนปรนลงแสดงอาการใจเย็น ปากกระซิบเสียงเบา “ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะไม่ทำ”
   
   ผมยิ้มจางๆ เอื้อมมือไปตบหัวเข่าเขาสองแปะอย่างเข้าใจ

   “รู้ไหมอะไรจะทำให้เรารู้สึกผิดน้อยลง”
   
   “...”
   
   “ขอโทษไง”
   


   ในสายตาทุกคนตอนนี้ นอกจากจะเป็นดาราที่ดังแล้วหยิ่ง ธีร์ยังพ่วงตำแหน่งคนเถื่อนประจำคณะนิเทศศาสตร์ จากวีรกรรมสุดพีคคือการตั๊นหน้าพี่ว้ากแถมยังตีผู้หญิงซึ่งตอนนี้กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปทั้งมหา’ลัย กอปรกับข่าวลือที่ว่ามีคนเห็นธีร์เลือดโชกหน้าที่โรงพยาบาลทำให้ข่าวแพร่กระจายไปสู่วงกว้างมากขึ้นไปอีก
   
   ผมรู้อยู่แก่ใจว่าธีร์ไม่ใช่แบบที่คนพูดกัน เขาอาจจะหุนหันไปบ้าง แต่ไม่ถึงกับเถื่อน เราตกลงกันว่าจะแก้ไขสถานการณ์ทั้งหมดในวันรุ่งขึ้น เขาจะไปยอมรับผิดกับอาจารย์และขอโทษรุ่นพี่ ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี

   แต่เราอาจลืมไปว่า ‘ทุกอย่าง’ มันมีปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้

   และปัจจัยที่ว่าก็มายืนอยู่หน้าห้องคณบดีตั้งแต่แปดโมงเช้า

   ผมเพิ่งรู้ข่าวตอนเรียนคลาสแรกเสร็จ พอเลิกคลาสก็พาตัวเองไปอยู่หน้าห้องคณบดีซึ่งตั้งอยู่บนชั้นห้าของตึกคณะ ทางเดินหน้าห้องอันกว้างขวางตอนนี้แน่นไปด้วยกลุ่มเจ้าหน้าที่และนักศึกษาที่ส่งเสียงเซ็งแซ่และชะโงกหน้าผ่านช่องกระจกเล็กๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น แล้วจู่ๆ เสียงฮือฮาก็เงียบลงเพราะประตูห้องที่เปิดออก

   ขาเรียวยาวก้าวออกมาจากห้อง ผู้หญิงวัยกลางคนปรากฏตัวขึ้นในชุดผ้าโปร่งสีขาว ไหล่เล็กมีผ้าพันคอสีกรมท่าราคาแพงพาดอยู่ ทรงผมสั้นระต้นคอถูกคาดไว้ด้วยแว่นกันแดดสีดำสนิท ใบหน้าสวยหวานที่เคยถูกยกให้เป็นนิยามความสวยของคนรุ่นพ่อเฉิดฉายออกมา ความสวยไม่สร่างที่เลขอายุกว่าห้าสิบทำอะไรเธอไม่ได้เลย

   พิมพ์ผกา ดำรงค์เดช

   นางเอกละครในตำนานของเมืองไทย

   คนที่ทำให้ธีร์ได้ฉายา ‘ไอ้ลูกดารา’ ตั้งแต่เด็ก

   ผมเคยเห็นใบหน้าเธอผ่านจอแก้ว พอมาเห็นกับตากลับรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก อาจเป็นเพราะเธอมีสีหน้านิ่งสนิทจนเดาอารมณ์ไม่ถูก หรืออาจเป็นเพราะผมตระหนักได้ว่าเธอเป็นแม่ของธีร์ และเธอเป็นดาวค้างฟ้าที่ใช้ชีวิตอยู่บนวงโคจรอันห่างไกลจากคนธรรมดาแบบผมเหลือเกิน

   “พี่ต่ายคะ!”

   ทันใดนั้นเสียงเรียกชื่อของเธอก็ดังขึ้น มันไม่ได้มาจากคนหมู่มากที่กำลังตะลึงปนอยากรู้อยากเห็น หากมาจากคนสี่คนในชุดสีดำที่กำลังวิ่งเข้าหาดาราดังด้วยความรวดเร็ว

   เสียงแฟลชถูกสาดหนึ่งฉาด การมาถึงของนักข่าวทำให้ผมรู้ว่านี่คือเรื่องใหญ่พอสมควร

   สีหน้าเรียบตึงของนางเอกใหญ่แปรเปลี่ยนเป็นหน้ายิ้มหวานทันที เธอก้าวออกมาจากประตูห้อง ตามด้วยกะเทยร่างใหญ่ในชุดสีฉูดฉาดคนหนึ่งที่ผมเดาว่าน่าจะเป็น ‘พี่บุ๊ค’ ผู้จัดการส่วนตัว ต่อด้วยคณบดีที่มีท่าทางตะลึงงันกับสถานการณ์ตรงหน้า
รั้งท้ายด้วยเขา...ดาราหนุ่มในชุดนักศึกษาที่สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาเลย

   “พี่บุ๊ค พี่ต่าย น้องธีร์คะ ขอสัมภาษณ์นิดนึงค่ะ”

   “ขอแค่หนึ่งนาทีเนอะ พอดีน้องกับคุณแม่ต้องรีบไปธุระต่อค่า” ผู้จัดการออกตัวก่อนทำให้ทีมนักข่าวผู้กระหายยิงคำถามแรกทันที

   “ที่เขาบอกว่าน้องธีร์ไปต่อยกับรุ่นพี่นี่จริงเท็จแค่ไหนคะ”

   “จริงค่ะ แต่ฝ่ายน้องไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน” พี่บุ๊คตอบ

   “ช่วยเล่านิดนึงได้ไหมคะว่าเหตุการณ์มันเป็นยังไง”

   “ตอนนี้เรื่องมันผ่านมาแล้ว เราก็อย่าไปรื้อฟื้นมันเลยเนอะ แต่บุ๊ครับรองเลยค่ะว่าน้องไม่ใช่ฝ่ายผิด”

   “แล้วข่าวที่ตีผู้หญิงล่ะคะ”

   “เอาแบบนี้นะคะ” ผู้เป็นแม่ออกโรงบ้าง เธอจับไหล่ธีร์แล้วดันให้เขาก้าวมาอยู่ประจันหน้ากับกล้อง “ใครในวงการก็รู้ว่าธีร์ไม่เคยมีข่าวเสียหาย น้องๆ นักข่าวก็รู้ว่าลูกต่ายเป็นเด็กน่ารัก การที่จะไปตีผู้หญิง ในขณะที่ต่ายพูดสอนเขาทุกวันให้เป็นสุภาพบุรุษ...การทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ ต่ายขอยืนยันว่าลูกไม่ได้เป็นคนโมโหร้าย หรือคิดทำร้ายใครแน่นอนค่ะ”

   “แล้วเรื่องนี้พี่ต่ายจะจัดการยังไงต่อคะ”

   “ใจจริงต่ายก็ไม่อยากเอาความมาก เพราะทั้งคู่ยังเป็นวัยรุ่น มีความเลือดร้อนเป็นเรื่องปกติน่ะค่ะ" เธอยิ้มหวาน "แต่เรื่องจะเป็นยังไงต่อก็คงต้องขึ้นอยู่กับทางมหาวิทยาลัยแล้วกันค่ะ”

   “น้องธีร์รู้สึกยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบ้างคะ”

   นักข่าวพุ่งประเด็นไปทางธีร์บ้าง แต่เขายังไม่ทันได้อ้าปากตอบพี่ผู้จัดการก็ขอตัวกับทุกคนและพาดาราดังทั้งสองคนออกมา ฝูงชนแหวกทางให้พวกเขาเดินผ่าน ผมไม่ละสายตาจากใบหน้าไร้อารมณ์ของธีร์ และในวินาทีที่เดินผ่าน แววตาว่างเปล่าของเขาก็เหลือบมาทางผม

   และเหลือบผ่านไปราวกับผมคืออากาศ

   ผมมองตามเขาขณะที่ทั้งสามยืนรอลิฟต์ ส่วนกลุ่มนักข่าวและฝูงชนหันไปสนใจคณบดีแทน ผมตัดสินใจยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหา ในขณะที่ตายังจับจ้องทุกการกระทำของเขา

   ธีร์รู้ว่ามีสายเข้า เขายกขึ้นมาดูแล้วหันมามองผมด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก สัญญาณรอสายดังอยู่ไม่นาน

   “เราไม่ได้คุยกันไว้แบบนี้นี่” ผมกรอกเสียงลงไปแล้วส่งสายตาขอร้องจากระยะไกล เด็กหนุ่มยังคงมองผมด้วยความนิ่งสงบ จนกระทั่งประตูลิฟต์ปิดลง

   “ธีร์…”

   
   ผมได้ยินเสียงลมหายใจ แล้วเขาก็วางสายไป โดยไม่พูดอะไรสักคำ


   






TBC*
อยากกรี๊ดอยากพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องไประบายกันที่ #จุ๊บที ในทวิตเตอร์น้า

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: จุ๊ บ ที { จูบที่แปด | UPDATE 28.9.2559 | Page 16 }
«ตอบ #472 เมื่อ28-09-2016 20:41:23 »

ธีร์นี่เป็นคนสองบุคลิกป้ะ 555

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
Re: จุ๊ บ ที { จูบที่แปด | UPDATE 28.9.2559 | Page 16 }
«ตอบ #473 เมื่อ28-09-2016 20:48:08 »

แง้ หายไปนานนึกว่าจะกลับมาหวานๆทำไมมาพร้อมดราม่าละค้า ร้องห้ายย  :hao5:

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
Re: จุ๊ บ ที { จูบที่แปด | UPDATE 28.9.2559 | Page 16 }
«ตอบ #474 เมื่อ28-09-2016 21:00:28 »

เห็นจุ๊บอัพ ตกใจรีบกดเข้ามา หงิงยังหน่วงอยู่

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: จุ๊ บ ที { จูบที่แปด | UPDATE 28.9.2559 | Page 16 }
«ตอบ #475 เมื่อ28-09-2016 21:02:12 »

ทุกอย่างมักมีเหตุผล...เดี่ยวธีร์ก็คงบอกเอง

จุ๊บเชื่อใจธีร์นะ


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: จุ๊ บ ที { จูบที่แปด | UPDATE 28.9.2559 | Page 16 }
«ตอบ #476 เมื่อ28-09-2016 21:03:49 »

 :m15:     ชีวิตดารามันก็มีสคริปแบบนี้แหละพี่จุ๊บ
เข้าใจนะแต่มันก้ออดผิดหวังไม่ได้
ว่าแต่ทำไมไม่ยอมจุ๊บกัน

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: จุ๊ บ ที { จูบที่แปด | UPDATE 28.9.2559 | Page 16 }
«ตอบ #477 เมื่อ28-09-2016 21:05:39 »

ทำไมเป็นแบบนี้ :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: จุ๊ บ ที { จูบที่แปด | UPDATE 28.9.2559 | Page 16 }
«ตอบ #478 เมื่อ28-09-2016 21:13:04 »

ฮือๆๆๆ ยิ่งค้างเข้าไปอี๊กกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ funnyvix

  • hello , how are you?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
    • fb.com/viqsaiyaeh
Re: จุ๊ บ ที { จูบที่แปด | UPDATE 28.9.2559 | Page 16 }
«ตอบ #479 เมื่อ28-09-2016 21:23:54 »

ปริ่ม จะร้องไห้ พี่จุ๊บอัพ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด