}Preoder{Contract มาเฟีย (ป๋า-มิท) P.31
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preoder{Contract มาเฟีย (ป๋า-มิท) P.31  (อ่าน 423636 ครั้ง)

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
หนูมิทก็ชอบสินะ. ฮิๆ :hao7:

ออฟไลน์ Jadd

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ ราตรีสีน้ำเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :impress2: :impress2: :impress2:

กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!!

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ชอบความนิ่งของมิทรี่จริงๆ

ว่าแต่ ครอบครัวของป๋าก็เป็นครอบครัวที่ซับซ้อนสินะ เหอะๆๆๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ตื่นเต้นไม่หยอก

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พ่อลูกคู่นี้น่ารักเนอะ  :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 เป็นเพื่อนและเป็นคนรักของน้องชายฉัน

 น้องสาว! ลูเซียสมีน้องสาวด้วย ผมหันขวับไปมอง


คือสรุปแล้วน้องสาวหรือน้องชายอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ลูเซียส มิท  :mew1: :mew1: :mew1:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 เป็นเพื่อนและเป็นคนรักของน้องชายฉัน

 น้องสาว! ลูเซียสมีน้องสาวด้วย ผมหันขวับไปมอง


คือสรุปแล้วน้องสาวหรือน้องชายอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

น้องสาวจ้า ผมพิมพ์ผิดเอง ตอนนี้แก้ไปแล้วเน้อ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เล่นกับไฟต่อไปน้องมิท
ป๋ารับเป็นลูกบุญธรรมเลยเรอะะะะะ น้องมิท โชคดีเริ่มมาละนะลูกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: อยากอ่านต่ออ่ะ มาต่อไว ๆ น้า เราคิดถึงมิทมาก ๆ เลย งวดนี้ไม่มีฉากเลิฟ ๆ ระหว่างกันเลยน่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ ShadeoftheMoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ่าห์...ความสัมพันธ์ต้องห้ามสินะ พ่อกับลูกบุญธรรม ชวนติดตามมาก

ออฟไลน์ มะเมอเมอ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นี่แปลว่าป๋าอายุห่างกับมิทเกิน 15 ปีสินะ
กินเด็กขั้นสุดยอดเลยค่ะ5555555
เชื่อว่าต้องมีพวกตัวละครที่ไม่รู้เรื่องอะไรมาด่าแน่ๆ (ฮา)

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ไปญี่ปุ่นเหรอ ยังไงก็คงไม่สงบสุขล่ะนะ  :katai1:

ออฟไลน์ ติชิลา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พ่อลูกที่มีอะไรกันเองงั้นเหรอ ผมเลียริมฝีปากที่เปื้อนน้ำลาย ดูเป็นความสัมพันธ์ต้องห้ามชวนระทึกใจไม่เลว

แบบนี้ก็เรียกป๋าได้เต็มปากเต็มคำล่ะหนูมิท

ออฟไลน์ cuteymummy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ชอบบบบบ คือมิทรี่ดีงามมากกก

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
หลงกันเข้าไป ฮ่าๆ

ออฟไลน์ repilca

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ขุ่นพระ  :z1:

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
มิทดูเป็นเด็กดีขึ้นมาบ้างแล้วหลังจากที่ผ่านเรื่องรุนแรงมา
แม้จะดูเป็นเรื่องดีที่ไม่ต้องวิ่งไล่จับกันอีก แต่คิดว่ามิทกลับมาเดินเหินเองดีกว่า
ป๋าเองก็คงคิดอย่างนั้นสินะ ดีไม่ดีอาจรอลงโทษเด็กดื้ออยู่ก็ได้ :z1:
การที่ป๋ารับมิทเป็นลูกบุญธรมมมันดีกับอะไรหลายๆอย่าง
แต่ในขณะเดียวกันก็เสี่ยงว่ามิทจะโดนอะไรจากศัตรูป๋าอีกก็ไม่รู้
ป๋าคงมีแนวทางแล้วล่ะเนอะ น้องมิทเองก็รักษาตัวให้หายดีในเร็ววันนะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
*ตรวจคำผิดแล้วจะลงซ้ำ
รอบที่11 สิ่งที่อยู่ในใจ


   คล้อยหลังอีหนูไป เหล่าหนุ่มใหญ่นั่งประจันหน้ากันในห้อง แข่งกันสร้างบรรยากาศอึมครึมจนกระทั่งลูเซียสเป็นฝ่ายถอนหายใจทำลายความเงียบก่อน ร่างใหญ่เอนหลังบนเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นเพื่อนสนิทควบตำแหน่งน้องเขย ก็ไม่จำเป็นต้องรักษามาดต่อไป พวกการ์ดจากทั้งสองฝั่งเองก็รู้จักกันดี เคยร่วมงานกันมาด้วยซ้ำ ถึงได้ส่งสายตาทักทายกันลับหลังนาย

   “มีเรื่องอะไรพูดมา”

   หนุ่มอังกฤษเป็นคนแสดงท่าทีเองนะว่ามีเรื่องอยากจะพูดได้ ลูเซียสถึงให้อีหนูออกไปทั้งที่ไม่อยากปล่อยให้ห่างสายตา

   “ก็อย่างที่บอกไปตอนแรก ฉันแวะมาหานายกระทันหัน คนของฉันเลยไม่พอ...”

   “ไม่พอแล้วยังไง” คิ้วเข้มขมวด เพื่อนเขาไม่ใช่พวกหัวหดในกระดองหลบหลังการ์ดตลอดเวลา อเล็กเซย์เข้าใจสิ่งที่ลูเซียสคิดดี เขาเลยยิ้มกว้าง

   “พอดีมีคนตามฉันมาตั้งแต่คุยธุรกิจ ตอนนี้ก็ยังหาจังหวะจัดการฉันอยู่ ที่สำคัญ น่าจะอยู่บนเรือลำนี้แล้วด้วย”

   บอสใหญ่ฟังคำอธิบายเพื่อนสนิทเสร็จ มือหนายกขึ้นกุมขมับหันไปส่งสายตาให้อาคมที่โค้งรับอย่างเข้าใจ พร้อมสั่งการ์ดบางส่วนแบ่งไปคุ้มครองอเล็กเซย์ ขณะที่เจ้าตัวยังยิ้มหน้าระรื่นไม่ทุกข์ร้อน หากบอกว่าตระกูลของลูเซียสครองอำนาจส่วนใหญ่อยู่ในรัสเซีย ตระกูลของอเล็กเซย์ก็เหมือนกัน เปลี่ยนเป็นที่อังกฤษเท่านั้น

   จากที่เห็น เพื่อนเขาคงตั้งใจรีบคุยธุรกิจให้เสร็จแล้วกลับบ้านทันทีคนพาคนมาไม่เท่าไหร่เพื่อความคล่องตัว ดันมีเหตุให้ต้องวกมาพบเขากะทันหัน เจ้าอเล็กเซย์อะไรก็ดีหมด ยกเว้นอย่างเดียว เชื่อฟังภรรยายิ่งกว่าพ่อแม่เสียอีก แต่เพราะแบบนี้แหละเขาถึงยอมรับ ด้วยเหตุนี้เจ้าคนที่จ้องจัดการอเล็กเซย์แต่แรกเลยตามมาด้วย เข้าใจว่าเป็นโอกาสดีที่จะลงมือ

   อีกอย่าง ลูเซียสไม่อยากให้น้องสาวเป็นหม้าย! และหลานไร้พ่อ!!

   “ช่วงนี้รบกวนหน่อยนะ คิดซะว่ารำลึกความหลังไง”

   “ใครมันอยากอยู่กับนาย” อยากกลับไปกกเด็กมากกว่า แม้ประโยคนี้จะไม่ได้พูด แต่สีหน้าแววตาฉายออกมาชัดเจนซะจนอเล็กเซย์หัวเราะชอบใจ การกลั่นแกล้งลูเซียสคือสิ่งที่เขาชอบทำมาตั้งแต่ตอนเป็นรูมเมทกันสมัยเรียน

   ลูเซียสถามถึงน้องกับหลานอยู่พักใหญ่ก่อนจะแยกย้ายกลับห้องพักตัวเองเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจเช็คก่อนออกเรือ ป้องกันคนตกหล่นและพวกแอบขึ้นเรือฟรี ไม่นานเรือก็เคลื่อนตัวออกจากท่า พร้อมกับบริการต่างๆ บนเรือเปิดให้ใช้บริการ

   ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร โซนสำหรับเล่นกีฬา หรือเครื่องเล่นสำหรับเด็กพร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ผมไม่ได้ออกไปดูด้วยตาตัวเอง ฟังจากที่หลงบอกว่าบนเรือมีอะไรบ้าง ขนาดละครเวที งานปาร์ตี้ยังมี เพียงแค่มีตามกำหนดเวลาเท่านั้น ไม่ต่างจากการขนแหล่งบันเทิงของทุกเพศทุกวัยมารวมเอาไว้ที่นี่

   “เมาเรือรึเปล่า”

   มือหนาไล้เรือนผมอีหนูที่นอนเล่นอยู่บนเตียง จมูกโด่งสูดกลิ่นกายเจือกลิ่นน้ำหอมราคาแพง

   “ไม่ รู้สึกเหมือนอยู่ในห้องปกติด้วยซ้ำ” คงเพราะเป็นเรือลำใหญ่(มาก) ถึงได้นิ่งแบบนี้ หากเป็นเรือลำเล็กโคลงเคลงไปมา ผมเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะไม่เมารึเปล่า

   “’งั้นหรือ...ดีแล้ว”

   เสียงทุ้มแหบกระซิบชิดลำคอ ฝ่ามือร้อนลูบสะโพกสอบผ่านผิวผ้า ผมปล่อยมือถือทิ้งทันทีอย่างรู้งาน ยังคิดด้วยซ้ำว่าลูเซียสทิ้งช่วงนานจนผิดวิสัย อาจจะเพราะทำอะไรที่โรงพยาบาลมันไม่สะดวกล่ะมั้ง

   มือปลดกระดุมเสื้อออกตามด้วยกางเกงพลางเกร็งยกสะโพกให้ป๋าถอดโดยง่าย ผมปล่อยให้ลูเซียสลูบขยำตามใจชอบก็คอยปลดอาภรณ์ให้อีกฝ่ายไปด้วย ลูเซียสเป็นพวกชอบให้บริการ เว้นแต่เจ้าตัวจะใจร้อนจนลงมือเองทั้งหมด จังหวะที่ผมกำลังจะชันตัวขึ้นเพื่อทำหน้าที่อย่างทุกที อีกฝ่ายกลับดันไหล่ให้ผมลงไปนอนแนบเตียงตามเดิม

   “ไม่ต้อง เธอขาเจ็บฉันจัดการเอง”

   “แต่...” มันเป็นหน้าที่ของผม ผมกลืนประโยคนี้ลงคอเมื่อถูกริมฝีปากได้รูปประกบปิด ลิ้นชื้นสอดลึกควานทั่วจนน้ำใสไหลมุมปาก ผมโดนจูบจนปากมันวาวกว่าลูเซียสจะยอมถอยออกคลี่ยิ้มมองสภาพผม

   “ฉันไม่อยากฟังไมค์มันมาบ่นที่หลัง ครั้งนี้เธอแค่อยู่เฉยๆ พอ”

   ในเมื่อเจ้าตัวพูดแบบนั้น ผมก็ยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กว่าง่ายนอนให้เล้าโลม ลำกายหนาถูกรูดเสียดสีไปพร้อมกับของผม มุกเรียงถูไถให้ตื่นตัวอย่างง่ายดาย เบื้องล่างที่ถูกเตรียมพร้อม ยอดอกถูกดูดหนักจนผมหลุดคราง ไม่ใช่แค่ลูเซียสที่ห่างหายไปนาน ผมเองก็ไม่ได้ปลดปล่อยเลยเช่นกัน

   ขาถูกล็อกอยู่ตรงข้อพับแขนอีกฝ่าย ด้านล่างถูกบางสิ่งจรดจ่อก่อนจะกดเข้ามาสร้างความอึดอัดจนต้องอ้าปากผ่อนลมหายใจลดอาการเกร็งตามสัญชาตญาณ มุกหายเข้ามาทีละเม็ดเสียดสีภายในให้ผมขนลุกซู่ไปทั่วร่าง มือยึดบ่ากว้างจิกเล็บระบายความทรมาน

   ลูเซียสไม่ว่าที่ผมทำร้ายร่างกายเลยสักนิด แถมยังหัวเราะเสียงทุ้มต่ำในลำคอ ค่อยๆ ฝืนกดเข้ามาจนแนบชิด พักให้หายใจเพียงเสี้ยววิก็เริ่มขยับตามความต้องการ ร่างรอบรับโยกไหวหอบกระเส่าด้วยความเสี่ยวซ่าน สะโพกบั้นท้ายถูกบีบขยำกลายเป็นรอยมือชัดเจน อกแอ่นรับสัมผัสจากลิ้นร้อน ยามคมฟันขูดชวนให้สะดุ้งเป็นพักๆ

   “อืมม...จะว่าไปตอนนี้เธออยู่ในฐานะลูกชายฉัน...” เสียงงึมงำ เจือเสียงคำรามเล็กๆ ยามของตัวเองถูกบีบรัด กระตุ้นให้ขยับกายหนักหน่วงกว่าเดิม ผมไม่มีปัญญาตอบเป็นคำนอกจากครางอืออาบ่งบอกว่าตัวเองกำลังฟัง

   “แบบนี้ก็เท่ากับ ฉันกำลังมีอะไรกับลูกชายตัวเองสินะ”

   หัวใจผมเต้นรัวยามคิดตามที่ลูเซียสบอก มันคือความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนตัวเองกำลังทำผิดอะไรบางอย่าง แต่ก็ท้าทายที่จะทำมัน ด้วยความที่ลูเซียสยังอยู่ในตัวผม ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าผมรู้สึกยังไงตามร่างกายที่กระตุกเกร็ง ใบหน้าคมเข้มกระตุกยิ้มร้าย

   “เรียกพ่อสักคำสิลูกรัก...” เสียงแหบพร่าเอ่ยอย่างล่อลวงไม่ต่างจากคำกระซิบของซาตาน ผมเผยอปากพยายามเค้นคำพูดออกมาแทนเสียงคราง

   “.อึก..พ่อ อา...”

   “ดี...แบบนี้ต้องให้รางวัล มิทรี่” ริมฝีปากประกบจูบแล้วเปลี่ยนตำแหน่งลากลิ้นไล่ลงมาดูดเม้นตรงลำคอจนเกิดรอยจ้ำแดง โดยที่เบื้องล่างยังขยับไม่เว้นช่วง ผมแหงนหน้าครวญในคอเหมือนจิ้งจอกสิ้นท่า สิ่งที่ถูกปล่อยเข้ามาในตัวเกิดความรู้สึกร้อนวูบตรงช่องท้อง ลูเซียสไม่หยุดเพียงแค่นั้น พอปลดปล่อยเสร็จเขาเริ่มขยับต่อทันที ไม่สนสิ่งที่เลอะออกมาตรงโคนขาด้านในของผม

   ลูเซียสขัดใจไม่น้อยที่ทำไม่ได้เต็มที่อย่างปกติ ถึงงั้นก็คอยระวังไม่ให้สะเทือนแผลผมเลยแม้แต่น้อย ผมที่หมดสภาพจากการรองรับอารมณ์คุณพ่อมาเป็นเวลานาน ถูกอุ้มเข้าห้องน้ำชำระตัว ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม ก่อนจะโดนจับเช็ดตัวใส่เสื้อคลุมมาปล่อยให้นอนบนเตียงรอเจ้าตัวอาบน้ำบ้าง

   ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ลูเซียสอาบน้ำให้ผม น่าปลื้มใจซะจริง ส่วนสาเหตุคงมาจากแผลที่โดนไมค์สั่งว่าห้ามโดนน้ำล่ะมั้ง

   มีสิ่งหนึ่งที่กวนใจผมคือ ลูเซียสดูเชี่ยวชาญกับการดูแลคนเจ็บซะเหลือเกิน ไม่ปล่อยให้แผลโดนน้ำเลยสักหยด ราวกับเคยดูแลใครสักคนมาก่อน เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ทำครั้งสองครั้งแล้วจะคล่องแคล่วได้ ไอ้ผมก็ไม่กล้าถาม คนที่ทำให้ลูเซียสลงทุนดูแลขนาดนี้ย่อมไม่ธรรมดา คนระดับบอสใหญ่เชียวนะ ลูกน้องมีเป็นโขยงแล้วยังรวยล้นฟ้าจะจ้างพยาบาลมาดูแลเท่าไหร่ก็ได้

   ลูเซียสออกมาเห็นผมนั่งจ้องก็เลิกคิ้วถาม “มีอะไร ปวดเอว เจ็บแผล?”

   ผมส่ายหัว “ไม่มีอะไร แค่จะบอกว่าใกล้ได้เวลาเปลี่ยนผ้าพันแผลของผมแล้ว” ผมบ่ายเบี่ยงไปเรื่องอื่น สิ่งที่อยากรู้มันเป็นเรื่องส่วนตัวมากเกินไป ผมยังไม่มีสิทธิ์มากขนาดนั้น

   ดวงตาคมดุเหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนัง บ่งบอกว่าเย็นมากแล้วเลยตัดสินใจเรียกไมค์เข้ามาดูแผลผมแล้วสั่งให้หลงจัดการเรื่องมื้อเย็น พี่อาคมยังอยู่ประจำตำแหน่งคอยคุ้มกันลูเซียสต่อไป

   ระหว่างที่ทำแผลสีหน้าไมค์ไม่เปลี่ยนเลยสักนิดตอนเห็นรอยจูบตามตัว รวมถึงรอยเล็บบนบ่าและแผ่นหลังของบอสใหญ่ ที่ยังคงนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวจิบเหล้าที่พี่อาคมรินให้ สมกับเป็นมืออาชีพ แต่ผมมั่นใจว่าไม่มีใครฮาร์ดคอได้เท่าไนท์อีกแล้ว ทางนั้นต่อให้ผมกำลังมีอะไรกับลูเซียสก็ยังสามารถยืนหน้าตายคุยงานกับบอสตัวเองได้ แล้วยังด่าได้อีกต่างหาก

   ด้วยสภาพร่างกายผมเลือกที่จะกินข้าวในห้องกับป๋า แล้วขลุกอยู่ในอ้อมแขนอุ่นๆ ทั้งคืน วันต่อมานั่นแหละถึงเริ่มโปรแกรมทัวร์บนเรือสำราญเพื่อเปิดหูเปิดตา

   เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การรองรับคนมักมากที่ต้องอดทนถึงหนึ่งเดือนมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย ต้องขอบคุณตัวเองที่ยังนั่งรถเข็น ไม่งั้นอย่าหวังว่าจะกระดิกตัวไปไหนได้ ร้าวระบมไม่หมด แลกกับความถึงใจจนแทบสำลักความสุขตาย

   หลงกับไมค์กำลังเตรียมการสำหรับพาผมทัวร์ ลูเซียสพี่อาคมพร้อมการ์ดอีกจำนวนหนึ่งแยกไปคุยธุระ บอกไว้แค่ว่าจะกลับมากินมื้อเที่ยงด้วย ระหว่างนั้นผมอยากไปไหนทำอะไรก็บอกการ์ดประจำตัวได้เลย แต่จะให้รอสองคนนั้นเถียงเรื่องที่เที่ยวผมจนเสร็จก็ออกจะน่าเบื่อไปหน่อย ผมเลยส่งสายตาบอกการ์ดชุดสูทสามคนตามมา แล้วเข็นตัวเองไปรับลมชมวิวทะเล

   เบื้องหน้าคือผืนน้ำสีครามตัดกับท้องฟ้าประดับปุยเมฆขาวลอยเอื่อยๆ ลมทะเลชวนให้เหนียวตัวแถมยังกรุ่นกลิ่นไอแดดเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบเท่าไหร่ แต่พอเจอเรื่องหนักๆ มาเยอะ การมองธรรมชาติ สัมผัสอะไรแบบนี้ผมว่ามันก็ไม่เลวร้ายอะไร

   เส้นผมถูกลมพัดจนยุ่งเหยิง เสื้อเชิ้ตสีอ่อนโต้ลมกระพือจนน่าขำ ผมยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก ว่าจะยืนเกาะราวถ่ายเอ็มวีสักหน่อย จังหวะที่กำลังจับที่วางแขนเพื่อพยุงตัวลุกขึ้น เสียงพูดคุยของคนกลุ่มหนึ่งดังเข้าโสตประสาท ดึงสายตาให้ผมละความตั้งใจกลับมานั่งลงตามเดิม

   “คาสิโนที่นี่มันห่วยแตก สู้ของบ้านฉันไม่ได้” ชายวัยรุ่นเอ่ยอย่างหงุดหงิดท่ามกลางสายตาอิจฉาปนหมั่นไส้ของพวกเพื่อนอีกสามคน เห็นมีคนเดียวที่ไม่สนใจ ออกจะรำคาญด้วยซ้ำ

   “นายมือไม่ดีเองอย่าไปโทษเครื่องสิ” เขาพูดแบบนั้น ผมเห็นด้วยนะ ของแบบนี้มันอยู่ที่เทคนิคและฝีมือ ว่าเก่งพอที่จะไม่โดนพนักงานจับได้รึเปล่า

   “คนขี้ขลาดไม่กล้าเล่นสักเกมอย่างนายไม่มีสิทธิ์พูด!” คนถูกพาลใส่เริ่มไม่พอใจมากขึ้น แต่ก่อนที่พวกเขาจะตีกัน ผู้หญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มสะกิดเพื่อนชาย กลายเป็นว่าสายตาทุกคู่มองมาทางผม

   “ชาน เรือนายเขาเปิดรับคนพิการด้วยเหรอ” เจ้าเด็กปากเสียหัวโจกแสร้งทำหน้าสงสัยถามคนที่ตั้งท่าจะตีกันเมื่อครู่ ชานชักสีหน้า

   “เรื่องของพ่อ ไม่เกี่ยวกับฉัน” หรือก็คือ ไอ้เจ้าคนพิการนี่ขึ้นมายังไงไม่เกี่ยวกับฉัน ไปถามพ่อฉันนู่น...สินะ การ์ดทั้งสามด้านหลังขยับตัวหมายจะจัดการคนที่บังอาจมาว่าร้ายคุณหนู ผมยกมือห้าม พวกเขาหยุดชะงักทันที เชื่อฟังจนบางทีผมเริ่มกลัว พวกเขาคงไม่ได้เห็นผมเป็นลูเซียสที่สองใช่ไหม

   “สงสัยคงเป็นลูกเมียน้อยใครสักคนบนเรือ ช่างเถอะพวกเราอย่าไปสนใจเลย ไปหาอะไรสนุกๆ ทำกันต่อดีกว่า” หนึ่งในนั้นบอกเพื่อนตัวเอง ดวงตาเหลือบมองการ์ดของผมเป็นระยะ ร่างสูงใหญ่ทั้งสามอยู่ในชุดดำล้วนให้ความรู้สึกคุกคามไม่น้อย ช่วงผมแรกๆ ก็มีท่าทางไม่ต่างจากเจ้าพวกนี้ แต่พอเจอตลอด 24 ชั่วโมง แถมยังอยู่กับคนที่แผ่รังสีกดดันได้ตลอดกระทั่งเวลานอนอย่างลูเซียสเลยทำให้ผมชินไป

   “จริงของนาย เซ็งชะมัด ถ้าไม่มีไอ้พวกตัวน่ากลัว เราคงไม่ต้องไปหาเรื่องสนุกไกลๆ” หัวโจกมองผมทิ้งท้าย คงเสียดายอย่างปากว่า เหล่าคนที่ด้อยกว่ามักเป็นเป้าหมายของพวกคุณหนูเอาแต่ใจ

   ตอนขึ้นเรือมาผมเจอแต่พวกผู้ดีไฮโซ ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่จะมีเจ้าพวกนี้อยู่บนเรือด้วย

   “สงบเสงี่ยมไม่สมเป็นคุณหนูเลยนะ ไม่โต้กลับสักหน่อยล่ะ หรือยังเพลียจนไม่มีแรงพูดกัน” เจ้าการ์ดปากหมาเดินมายืนข้างผมด้วยสีหน้ากวนอารมณ์ ตรงข้ามกับไมค์ด้านหลังที่ดูอารมณ์เสียนิดๆ คงจะเถียงแพ้หลงแหงๆ

   “แค่ไม่อยากลดตัวไปยุ่ง อีกอย่างฉันไม่อยากสร้างเรื่องให้ป๋า” คนถามดูจะพอใจกับคำตอบผมไม่น้อย ตบบ่าผมเบาๆ “ไม่ต้องทำหน้าเครียดตามไมค์มัน ไปกันเถอะเดี๋ยวฉันพาไปเล่นคาสิโน” หลงพูดด้วยดวงตาพราวระยับ แย่งหน้าที่เข็นวีลแชร์ ผู้ถูกพาดพิงถอนหายใจทำหน้าเอือมบ่นอุบอิบ

   “ถ้าเรื่องถึงหูพ่อซวยกันหมดแน่”

   หลงได้ยินชัดแจ๋ว ทำหูทวนลมชวนผมชมนกชมปลากลบเกลื่อน ซึ่งผมก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ผมอยากไปตั้งแต่ได้ยินว่าพวกนั้นเพิ่งออกมาจากคาสิโนแล้ว นั่นหมายถึงเด็กวัยรุ่นก็เข้าได้! มีหรือที่ผมจะพลาด

   ภาพที่เห็นตรงหน้าเหมือนได้เปิดโลกกว้าง ชายหญิงในชุดราคาแพงกระจายตัวอยู่ในคาสิโน เครื่องเล่นมากมายตั้งเป็นสัดส่วนอย่างเป็นระเบียบ ทุกจุดจะมีพนักงานในชุดยูนิฟอร์มของเรือคอยให้บริการ เสียงคนพูด เสียงเครื่องเล่นปลุกให้ผมคึกคักลืมความรวดร้าวของร่างกายไปเสียสนิท

   พื้นทุกตารางนิ้วถูกปูด้วยพรมโทนน้ำตาลแดงทำให้เข็นวีลแชร์ยากพอสมควร แต่ดูไม่เป็นอุปสรรค์ของหลงเลยสักนิด เขายังสั่งการ์ดผู้น่าสงสารให้ไปแลกชิปมาจำนวนหนึ่ง พร้อมสวมบทเป็นไกด์ในคาสิโน แนะนำเครื่องเล่นต่างๆ ตั้งแต่วิธีการเล่น กติกายันเทคนิคระดับพื้นฐาน

   ผมลองทุกอย่างเท่าที่สภาพและเวลาจะเอื้ออำนวย ได้บ้างเสียบ้างแม้ส่วนใหญ่จะเสียมากกว่า ส่วนที่ได้เพราะได้หลงช่วย

   ใช่ว่าการที่ผมมาอยู่สถานที่แบบนี้จะไม่มีคนบอก ค่อนข้างจะเป็นเป้าสายตาทีเดียว วัยรุ่นชายคนหนึ่งบนรถเข็น พร้อมการ์ดอีกสี่คนไม่ใช่ที่พบเห็นได้ทั่วไป เพียงแค่พวกผู้ใหญ่มีความคิดความอ่านมากกว่าเด็ก สิ่งไหนควรยุ่ง สิ่งไหนควรมองห่างๆ ชัดเจนกันอยู่ ถึงไมค์กับหลงจะดูผ่อนคลาย ความระมัดระวังตัวไม่ได้ลดลงเลยสักนิด ใครจงใจเข้ามาใกล้หรือคิดชวนคุยก็จะโดนพวกเขากันออกไปแบบเนียนๆ

   เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อเราเจอสิ่งที่ชอบ ผมจำต้องละจากของเล่นมากมายตรงหน้าไปตามนัดกินมื้อเที่ยงกับลูเซียส จุดหมายไม่ใช่ห้องพักอย่างที่ผมคิด แต่เป็นห้องส่วนตัวในร้านอาหาร นี่มันสถานการณ์อะไรกัน?

   โต๊ะยาวมีลูเซียสนั่งตำแหน่งประธาน ที่ของผมถูกจัดให้อยู่ถัดมาด้านขวามือ ฝั่งตรงข้ามเป็นชายวัยกลางคน ข้างกายเขามีคนชื่อชานอยู่ด้วย ล้อมโต๊ะด้วยการ์ดกับพนักงานบนเรือ

   “ขอโทษด้วยครับที่มาช้า” เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผมพูดพร้อมก้มหัวเล็กน้อย การที่คนอายุน้อยกว่ามาช้าสุด ไม่ว่าจะชนชาติไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น

   “ไม่เป็นไร” ปากบอสใหญ่กล่าวเช่นนั้นแต่แววตามองผ่านเหล่าการ์ดก่อนมาหยุดที่ขาของผม ด้วยความที่อยู่กับลูเซียสมาระยะหนึ่ง ผมเข้าใจความหมายแฝงจากการกระทำของเขา คงจะคาดโทษพวกไมค์ที่พาผมมาช้า และมองผมเพื่อจะถามอาการว่าเป็นยังไงบ้าง บอกแล้วว่าเมื่อคืนศึกนั้นช่างใหญ่หลวงนัก

   ผมยิ้มตอบกลับไปเพื่อบอกว่าตัวเองสบายดี ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที คนที่พอสังเกตได้คงมีแค่พี่อาคมที่ยืนด้านหลังเยื้องไปทางขวาของลูเซียส

   “คุณชนสรณ์ เด็กคนนี้เป็นลูกชายของผม มิทรี่ มิไรฮอฟ” ลูเซียสผายมือมาทางผมที่กำลังอึ้งเพราะเคยได้ยินนามสกุลนี้เป็นครั้งแรก ปกติผมใช้นามสกุลพ่อซึ่งเป็นภาษาไทยและนามสกุลนี้ไม่ใช่ของแม่ผมแน่นอน ถ้างั้นจะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากพ่อบุญธรรมของผม

   อยู่มาจนป่านี้ เพิ่งรู้ว่าลูเซียสนามสกุล มิไรฮอฟ...

   “สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ด้วยความเคยชินเพราะเด็กไทยถูกปลูกฝังมาตั้งแต่จำความได้ ชายตรงหน้ารับไหว้ด้วยรอยยิ้ม

   “ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชนสรณ์ ทรงภพ เป็นเจ้าของเรือลำนี้ ส่วนนี่ลูกชายฉัน เอ้าแนะนำตัวหน่อย”

   “ชวกร เรียกชานก็ได้”

   นายชานคนนี้คงจะแนะนำตัวกับลูเซียสไปแล้ว พ่อเขาถึงให้ทักทายผมเท่านั้น เขาพูดนิ่งๆ จากตอนแรกที่ตกใจเมื่อเห็นผมเข้ามา เรียกได้ว่าเป็นเด็กที่เปลี่ยนสีหน้าไวใช่เล่น ผมพยักหน้ารับรู้

   “ลูกชายมิสเตอร์ลูเซียสมารยาทงามผิดกับลูกชายผมลิบลับเลย” คุณเจ้าของเรือว่ามาแบบนั้น แววตาสงสัยใคร่รู้อย่างปิดไม่มิด ลูเซียสเพียงแค่ยิ้มจางรับคำขอบคุณแล้วไม่พูดอะไรอีก

   เมื่อบทสนทนาจบลง ก็ถึงเวลาของมื้อเที่ยง อาหารหน้าตาน่ากินถูกทยอยนำออกมาเสิร์ฟ อุปกรณ์ในการกินที่วางเรียงทำให้ผมอดที่จะรู้สึกเกร็งเล็กๆ ไม่ได้ อย่าลืมนะว่าไอ้ผมมันแค่เด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องขายตัวเองหาเงิน แม้จะวางท่าดุจคุณหนูมาเฟียก็ตาม

   พี่อาคมช่วยรินน้ำให้ผมพลางกระซิบแบบได้ยินกันแค่สองคน

   “ไม่ต้องกังวลครับคุณหนู แค่ทำเหมือนทุกที ผมเชื่อว่าคุณหนูทำได้”

   พูดจบก็ถอยฉากไปอยู่ตำแหน่งเดิม ผมลอบถอนหายใจ เอาก็เอา มาถึงขนาดนี้แล้ว ลูเซียสจงใจให้ผมมานั่งร่วมโต๊ะกึ่งทางการแบบนี้ คงมีเหตุผลบางอย่าง

   การกินดำเนินไปอย่างราบรื่นจนน่าแปลก ทั้งที่ไม่มีใครบอกหรือส่งซิก ผมเองก็ไม่ได้จ้องคนอื่นเพื่อทำตาม เหมือนมือมันเคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติทำให้อาหารมื้อนี้อร่อยขึ้นเยอะ เพราะผมไม่ต้องมานั่งกลุ้มกลัวจะทำให้ลูเซียสเสียหน้า

   หลังมื้ออาหารเวลาของลูเซียสกลายเป็นของผม พวกเรานั่งเล่นอยู่ในห้องพัก เนื่องจากยาที่ผมต้องกินมีฤทธิ์ทำให้ง่วง มาอยู่ในห้องแบบนี้พอมันออกฤทธิ์เมื่อไหร่จะได้นอนเลย

   ผมเอนหลังนอนพิงแผ่นอกกว้าง ฟังเสียงหัวใจเต้นสม่ำเสมอของลูเซียสที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง ฝ่ามือใหญ่คอยลูบวนแถวสะโพกตามนิสัย

   “ป๋า ถ้าคราวหน้าจะพาไปกินข้าวท่ามกลางบรรยากาศแบบนั้นช่วยบอกให้ผมเตรียมใจล่วงหน้าด้วยสิ” ได้ทีขอโอดครวญหน่อย

   “เปิดหูเปิดตาซะบ้าง เธอจะกังวลไปทำไม ในเมื่อเดฟคอยสอนเธอตลอดเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหาร เธอทำได้ดีกว่าเด็กวัยเดียวกันด้วยซ้ำ”

   “ผมว่าบางทีคนที่อันตรายที่สุดในแก๊งอาจจะเป็นเดฟก็ได้นะ...” นึกภาพเชฟส่วนตัวของป๋า ใบหน้ายิ้มแย้มดูใจดีมาพร้อมกับฝีมือทำอาหารสุดเทพกลับสอนผมโดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยสักนิด

   ป๋าหัวเราะหึหึในคอ “ก็อาจจะจริง ขนาดบอสใหญ่อย่างฉันบางครั้งยังต้องง้อเลยนี่” เป็นผมที่หัวเราะบ้าง เรื่องปากท้องต่อให้ยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ต้องพ่ายแพ้จริงๆ ให้ตายสิ

   ข้อนิ้วหยาบไล้โครงหน้าของผมพลางเชยคางให้มองสบตา “พักนี้ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอสงบเสงี่ยมเกินไป ยังคิดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่หรือ”

   โดนทักแบบนี้ ภาพในวันนั้นย้อนกลับมาอยู่ตรงหน้า รู้สึกแผลที่ขาเจ็บขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ จะบอกว่ามันกลายเป็นเรื่องฝังใจก็ไม่ผิดนัก เจอขนาดนั้นต่อให้เป็นผมก็ซ่าต่อไม่ออก ความตายมันไม่น่ากลัว สิ่งที่ผมหวั่นคือการถูกทรมาน ชีวิตของผมเคยย่ำแย่มามากแล้ว ไม่อยากถูกทำร้ายทั้งกายและใจ

   ผมกังวล...ระแวงไปหมด ถ้าผมเจอเรื่องแบบนั้นอีกจะเป็นยังไง จะทนไหวรึเปล่า แล้วถ้าเกิดผมที่อยู่ในฐานะลูกชายทำให้ลูเซียสเสียหน้า ร้ายกว่านั้นอาจเป็นตัวสร้างปัญหา ไม่อยากจะคิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาเลย...

   “ลืมมันไป”

   จู่ๆ ก็พูดคำนี้ ผมมองลูเซียสอย่างโง่งม

   “ลืมให้หมด ไม่สิ ต้องบอกว่าจดจำไว้เป็นบทเรียน แต่อย่าให้มันมีอิทธิพลเหนือตัวเอง”

   อ่อ...หมายความว่าอย่างงี้นี่เอง

   “มันไม่ง่ายขนาดนั้น” ผมส่ายหัวไม่เห็นด้วย เขาอาจจะทำได้ แต่ผมไม่ใช่ คนเราสภาพจิตใจไม่เหมือนกัน

   “ฉันสั่ง เธอต้องทำให้ได้ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องสนหรือแคร์สายตาใคร ฉันชอบเธอที่เป็นแบบนั้น อย่าทำให้ฉันหมดความสนใจกับเธอ...”

   ผมหลุบตาลงหนีจากแววตาคมกล้าคู่นั้น ผมเข้าใจสิ่งที่ลูเซียสต้องการบอกทุกอย่าง ริมฝีปากเปิดออกบอกคำตอบแผ่วเบา

   “ผมจะพยายาม”

   “ดี...”

   ในสายตาลูเซียส มิทรี่ตอนนี้ไม่ต่างจากลูกสัตว์ตัวจ้อยที่กำลังบาดเจ็บและเสียขวัญ วงแขนโอบกระชับแน่นขึ้น กดหัวที่ปกคลุมด้วยผมนุ่มแนบกับอกตัวเองราวกับปกป้องจากภัยอันตรายทั้งมวล มุมปากกระตุกยิ้มเมื่อนึกเรื่องบางอย่างออก

   “หลับซะมิทรี่ พักผ่อนให้เต็มที่ จะได้พร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า” ผมผงกหัวรับเสียงเตือนข้างหู

   ลูเซียสมองออกไปนอกหน้าต่าง หวังว่าปัญหาที่นายเอามาจะช่วยให้ลูกชายของเขากลับมาแสบซ่าเหมือนเดิมนะ...อเล็กเซย์   

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ ราตรีสีน้ำเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:  อื้อหืม. ป๋าคะ
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ชอบซ่าๆๆก็ไม่บอกมิทรี่จัดไป555

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด