}Preoder{Contract มาเฟีย (ป๋า-มิท) P.31
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preoder{Contract มาเฟีย (ป๋า-มิท) P.31  (อ่าน 408184 ครั้ง)

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
รอบที่8 ผลลัพธ์

   ไม่ต้องรอให้ลูเซียสสั่ง ไนท์รับหน้าที่ขับรถด้วยตัวเอง เหยียบคันเร่งเพื่อพาบอสไปถึงโรงพยาบาลให้ไวที่สุด น่าเห็นใจก็แต่เหล่าลูกน้องที่ตามหลังสามคันต้องเร่งตามกันสุดชีวิต ด้วยระดับฝีเท้าของมือขวาน่ากลัวว่าไปแข่งรถชิงที่หนึ่งได้สบายๆ

   โรงพยาบาลที่ไมค์เลือกพามิทมารักษา เป็นโรงบาลเอกชนใกล้สถานที่เกิดเหตุมากที่สุด อีกทั้งลูเซียสยังเป็นหุ้นส่วนโรงพยาบาลแห่งนี้ด้วย นับว่าไมค์เลือกได้อย่างถูกต้อง หากเป็นโรงพยาบาลอื่น เรื่องที่มิทโดนยาเสพติดเช่นนี้ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เสียเปล่าๆ

   ทันทีที่รถดำเงาวับมาจอดเทียบหน้าอาคารหลัก ยามรีบกุลีกุจอเข้ามาหมายจะเปิดประตูให้ ไม่ทันจะถึงรถดีประตูก็เปิดออกพร้อมเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ก้าวออกมาปรายตามอง เขาโบกมือไล่ยามไปไกลๆ เวลานี้เขาไม่ใจเย็นพอจะนั่งรอเยี่ยงราชาให้ใครมาปูพรมหรือเปิดประตูให้

   กลิ่นเลือดเจือจางที่ติดมากับตัวเหล่าชายชุดดำทำให้ยามอกสั่นขวัญผวา ก้มหน้าลงต่ำ พาลนึกในใจว่าตัวเองช่างซวยเหลือเกิน ตอนเขามาทำงานมีรุ่นพี่กับหัวหน้าเล่าให้ฟังว่าหุ้นส่วนของโรงพยาบาลเราไม่ใช่บุคคลธรรมดา หากเจอรถมาเป็นขบวนหรือกลุ่มคนในชุดสูทไม่ต้องแตกตื่น ให้บริการอย่างสุภาพที่สุด

   เขาไม่น่าแลกเวรกับเพื่อนอีกคนเลยจริงๆ

   “กลับไปทำงานต่อเถอะ” ไนท์ออกปากใบหน้าเจือรอยยิ้ม สำหรับยามตัวเล็กๆ ภาพที่เห็นไม่ต่างจากปีศาจมาแยกเขี้ยวตรงหน้า เขาผงกหัวรับรีบวิ่งจากไปทันที

   ลูเซียสไม่สนใจสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนนอก สองเท้าก้าวเดินผ่านประตูอัตโนมัติ แอร์เย็นมาพร้อมกับกลิ่นยาฆ่าเชื้อ สำหรับลูเซียสที่เจอเรื่องเฉียดตายมาตั้งแต่จำความได้ สิ่งนี้เขาชินแล้ว

   “บอส คุณไนท์” ไมค์ที่มายืนรอ พอเห็นพวกเขาเลยรีบตรงดิ่งเข้ามาเพื่อนำทางไปหาคนเจ็บ ระหว่างนั้นคอยรายงานอาการของมิทเป็นระยะ

   “คุณหนูมีแผลถลอกรอยฟกช้ำตามร่างกาย หัวไหล่ขวาเคลื่อนเอ็กซเรย์แล้วอาการไม่ร้ายแรงสามารถรักษาได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง ส่วนเรื่องแผลถูกยิงที่ขา โชคดีกระสุนทะลุไม่มีเศษตกค้างภายในและไม่โดนจุดสำคัญอย่างกระดูกกับเส้นเอ็น หลังจากแผลหายสามารถกลับมาเดินวิ่งได้ตามปกติครับ”

   ไมค์บอกรายละเอียดรวดเดียวจนครบ เหลืออย่างสุดท้ายที่เขายังไม่มั่นใจ ลูเซียสมองความคิดของลูกน้องออก เขาพยักหน้าเป็นเชิงให้พูดต่อ

   “เรื่องฤทธิ์ยาแม้จะไม่มีผลค้างเคียงหรือแสดงอาการแพ้ เรื่องคุณหนูจะติดรึเปล่านั้น... คงต้องรอหลังจากที่ฟื้นแล้วครับ”

   ไม่ต่างจากที่คิด ลูเซียสมองลูกน้องตัวเอง ตอบด้วยความมั่นใจ

   “คนที่ฉันสนใจ ย่อมไม่เป็นทาสของยานรกนั่นแน่”

   ได้ยินเสียงหนักแน่นจากบอสขนาดนี้ ไมค์รู้สึกพอใจที่เขาเลือกใช้คำเรียกแทนเด็กหนุ่มได้อย่างถูกต้อง ทีแรกที่เขาได้ยินเรื่องของเด็กคนนี้จากเพื่อนร่วมงาน เขาคาดเดาไปว่าบอสคงอยากเปลี่ยนบรรยากาศไม่นานก็เบื่อ พอกลับมาเจอกับตาตัวเองถึงได้รู้ว่าบอสให้ความสำคัญไม่ใช่เล่น

   ตั้งแต่เขาเข้าแก๊งมายังไม่เคยเห็นใครได้เท่ามิทรี่มาก่อน แถมยังสั่งให้มือดีถึงสามคนอย่าง พี่อาคม หลงและเขาเป็นการ์ดส่วนตัวอีก ชักจะน่าสนใจซะแล้วสิ...

   ไนท์ที่เดิมรั้งท้ายสุดเฝ้ามองปฏิกิริยาทุกคนก้าวขึ้นมาบีบบ่าไมค์เตือนเสียงเบา

   “อย่าคิดอะไรแผลงๆ จะดีกว่า คนนี้บอสหวงขนาดฉันยังไม่เว้น พูดแค่นี้น่าจะเข้าใจนะ”

   แรงบีบที่บ่าทำให้ไมค์ยิ้มแห้ง ยกมือสองข้างเป็นเชิงยอมแพ้ไม่คิดหาเรื่องใส่ตัวเด็ดขาด ไนท์มองท่าทางนั้นอย่างพึงพอใจ ไมค์กับหลงนับเป็นสองคนที่ฝีมือดีอันดับต้นๆ ของแก๊ง นิสัยเสียๆ บางอย่างไม่ทิ้งห่างจากฝีมือเท่าไหร่นัก คนที่ยอมฟังคำสั่งก็มีแค่บอส ไนท์และอาคม โดยเฉพาะคนหลังดูจะหวั่นเกรงมากเป็นพิเศษ

   มาคิดๆ ดู อาคมเลือกสองคนนี้แสดงว่าพอจะเห็นอนาคตลางๆ ไม่ต่างจากเขา ที่เหลือก็แค่เวลาว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะถูกพัฒนาไปในทางไหน

   พวกเขามายืนอยู่หน้าห้องผ่าตัดเพื่อรอฟังผล ความจริงลูเซียสไม่จำเป็นต้องมายืนรอก็ได้ ทิ้งลูกน้องไว้สักคน พอรู้เรื่องค่อยไปรายงานที่หลัง แต่ในเวลานี้ลูเซียสต้องการฟังอาการของมิทรี่ด้วยตัวเองมากกว่า

   พอไฟใช้งานห้องผ่าตัดปิดลง หมอผู้ทำการผ่าตัดเปิดประตูออกมาแอบผงะเล็กๆ กับชายต่างชาติสามคนยืนเป็นยักษ์ปักหลั่นอยู่นอกห้อง พยาบาลผู้ช่วยถึงกับตาโตถอยหลังไปหนึ่งก้าว

   “ญาติผู้ป่วยใช่ไหมครับ”

   คุณหมอดึงสติกลับมาเอ่ยถาม ลูเซียสพยักหน้ารับไม่มีความลังเลแม้เพียงเสี้ยววินาที

   “ลูกชายผมเป็นยังไงบ้าง” สรรพนามที่หลุดออกมาเรียกสายตาสองคู่ให้หันขวับไปมอง ไนท์ทำหน้าไม่อยากเชื่อ ไมค์ถึงกับคิ้วขมวดรีบคิดย้อนกลับไปว่าเจ้านายเขาเคยไปทำสาวไหนท้องมารึเปล่า

   ฝั่งหมอพอได้ยินว่าเป็นพ่อค่อยโล่งอก ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคู่กรณีกับเด็กหนุ่มคนนั้นแล้ว ชายชาวต่างชาติสวมสูทดำดูยังไงก็ไม่ใช่นักธุรกิจธรรมดากับเด็กที่ถูกยิงแถมโดนยาอันตรายมันชวนให้คิดไปถึงไหนต่อไหน ถ้าบอกว่าเป็นพ่อ ทุกอย่างก็กระจ่าง พ่อเป็นผู้มีอิทธิพล ลูกมักโดนลูกหลงไม่ใช่เรื่องแปลก

   ใจหมอเริ่มสงบ บอกอาการอย่างละเอียดซึ่งไม่ต่างจากที่ไมค์พูดนัก

   “ผู้ป่วยต้องสังเกตอาการอยู่ในห้อง ICU สักระยะครับ ผู้ป่วยอายุยังน้อยสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ ถึงยังไงหลังจากนี้รบกวนคุณพ่อช่วยดูแลลูกชายอย่างใกล้ชิดด้วยนะครับ”

   คุณหมอวัยกลางคนกำชับตามนิสัยของแพทย์ที่เห็นผู้ป่วยเป็นสำคัญ ลูเซียสทำเพียงแค่พยักหน้ารับสมองครุ่นคิดเรื่องดูแลอีหนูต่อจากนี้ ที่เหลือจึงปล่อยให้ไมค์เป็นคนจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลและอื่นๆ

   ด้านคุณหมอที่เพิ่งเดินจากไป พยาบาลผู้ช่วยมองคนข้างกายด้วยสายตาชื่นชม

   “สุดยอดไปเลยนะคะคุณหมอ กล้าพูดแบบนั้นกับท่านนั้นด้วย”

   มีพยาบาลวัยละอ่อนมาชมแบบนี้ชวนให้รู้สึกปลื้มเป็นธรรมดา

   “ธรรมดาครับ มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องน่าชื่นชมอะไร” ปากพูดใบหน้ายิ้มแย้ม หวังจะเอาเรื่องนี้ไปพูดอวดลูกสาวที่บ้านให้ชมพ่อตัวเองบ้าง

   “ไม่ใช่เรื่องธรรมดานะคะ! คุณคนนั้นเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของโรงพยาบาลแห่งนี้ แถม... เบื้องหลังเขาว่าเป็นมาเฟียที่มาทำธุรกิจในไทยด้วยค่ะ” ท้ายประโยคผู้ช่วยพยาบาลกระซิบเสียงค่อยราวกับกลัวว่าลูเซียสที่อยู่คนละทิศจะได้ยิน เห็นไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากเรื่องนี้ พอหันไปดูปรากฎว่าหมอหน้าซีดยืนโงนเงน

   “คุณหมอคะ คุณหมอ!!”

   “ผมจะเป็นลม”

   “คุณหมอทำใจดีๆ ไว้ค่ะ ใครก็ได้ช่วยด้วย คุณหมอจะเป็นลมแล้ว!”

   ความวุ่นวายเล็กๆ ช่างอยู่ห่างไกลการรับรู้ของลูเซียสที่ยังใจจดจ่อกับกำแพงสีขาวโพลนของโรงพยาบาล

   “จ้องให้ทะลุก็มองไม่เห็นเจ้าหนูหรอก อยู่ใน ICU แบบนี้เข้าไปเยี่ยมก็ไม่ได้ กว่าจะออกมาคงไม่ต่ำกว่าสามวัน”

   “งั้นกลับ มิทย้ายมาที่ห้องพักฟื้นเมื่อไหร่บอกไมค์ไปแจ้งฉันด้วย” ตัดสินใจง่ายดาย ไม่มีประโยชน์ให้อยู่ต่อ ที่สำคัญเขายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องกลับไปสะสาง


   4 วันผ่านไป คนป่วยถูกย้ายมาห้องพักฟื้น VIP ไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ ให้กังวลสร้างความโล่งอกให้กับทุกคน เพราะในที่สุดบอสก็เลิกทำหน้าเหมือนอยากฆ่าคนตลอดเวลาสักที ไมค์ได้รับหน้าที่ในการดูแลมิทระหว่างอยู่โรงพยาบาล เนื่องจากอาคมยังหัวหมุนกับงานเก็บกวาด

   มิทฟื้นขึ้นมาหลายครั้งแต่เพียงไม่นานก็หลับต่อด้วยฤทธิ์ยา กระทั่งเข้าวันที่หกสติกลับมาทีละน้อย ร่างกายเบาหวิวเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนอากาศ พอลืมตาขึ้น ทุกอย่างขาวโพลนไปหมด เจ้าตัวกระพริบตาถี่ๆ ภาพค่อยเด่นชัดขึ้นทีละน้อย สิ่งแรกที่เห็นไม่ใช่เพดานสีขาวแบบในหนังหรือหน้าคนที่รักเหมือนอย่างนิยาย แต่เป็น...

   มือถือเครื่องหนึ่ง?

   “ไมค์... นายลืมเปิดกล้อง”

   เสียงแปร่งๆ ผ่านโทรศัพท์บ่งบอกความไม่พอใจระดับหนึ่ง เจ้าของเครื่องสะดุ้งโหยง รีบกดเปิดกล้องฉายให้เห็นใบหน้าของคนปลายสาย

   “แน่ใจนะว่าฟื้นแล้ว” บอสใหญ่ถามอย่างไม่มั่นใจยามมองภาพอีหนูนอนตาปรือบนเตียงสีขาว

   มือถือถูกเบนออกไปแทนที่ด้วยหน้าของฝรั่งหัวทอง

   “ฟื้นแล้วนะครับบอส”

   “อาการ?” ลูเซียสถามเสียงเรียบ ไมค์เข้าใจว่าบอสต้องการจะถามอะไร เขาจึงตอบเข้าประเด็นทันที

   “คุณหนูไม่ติดยาแน่นอนผมรับประกัน” คำตอบของไมค์ทำให้ลูเซียสคลายความกังวลได้ทั้งหมด

   ผมมองเจ้านายลูกน้องคุยกันตาปริบๆ สภาวะเบาหวิวในตอนแรกกลายเป็นหนักอึ้งไปทั่วร่างอย่างกับมีอะไรมาตอกยึดไว้กับเตียง ไหล่ซ้ายที่หลุดยังรู้สึกปวดตุบๆ โดยเฉพาะขาขวาที่ถูกยิงผมไม่อยากขยับมันแม้แต่มิลเดียว การเคลื่อนไหวของผมทำให้เสียงสนทนาหยุดลง

   มือถือถูกหันหน้าจอมาตรงหน้าผมอีกครั้ง ดวงตาสีเข้มมองสำรวจผมอย่างละเอียด เกิดมาเพิ่งเคยเจอ เยี่ยมไข้ระยะไกล

   “น้ำ...”

   ลูเซียสไม่ทันอ้าปากพูด ผมร้องเรียกหาน้ำก่อนเป็นอันดับแรก ไม่รู้ตัวเองหลับไปกี่วัน รู้แค่ว่าตอนนี้คอแห้งมาก น้ำลายเหนียวไปหมด ต้องการน้ำด่วน

   “ดูแลมิทรี่ เดี๋ยวฉันไป” เสียงแหบแห้งทำให้ลูเซียสขมวดคิ้ว สั่งลูกน้องบริการคนป่วย ตัวเองกดวางสายลากคอไนท์มาโรงพยาบาล

   ฝ่ายชายผมทองเก็บมือถือเข้ากระเป๋าแล้วหยิบแก้วน้ำที่เตรียมไว้พร้อมหลอดมาให้

   “จิบทีละนิดนะครับ คุณหนูหลับไปหลายวัน ร่างกายต้องปรับตัวเวลามีอะไรเข้ากระเพาะอาหาร”

   ผมค่อยๆ จิบตามที่อีกฝ่ายบอก ทุกการเคลื่อนไหวของผมอยู่ในสายตาของเขาตลอด ราวกับว่าหากผมมีอะไรผิดปกติแม้แต่นิดเดียวเขาพร้อมจะเข้ามาช่วยผมทุกเมื่อ เจอสายตาแบบนี้ทันทีที่ฟื้นมาผมก็อดเกร็งไม่ได้

   “ไม่ต้องจ้องขนาดนั้นก็ได้ครับ”

   “อ่า ขอโทษที พอดีบอสสั่งให้ดูแลคุณหนูอย่างดีผมเลยเผลอไปหน่อย” เจ้าตัวยิ้มแล้วแนะนำตัว “ผมไมค์ จะมาเป็นการ์ดของคุณหนูตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ ความจริงมีอีกคน แต่เจ้านั่นมันช่วยงานพี่อาคมอยู่”

   “ครับ ฝากตัวด้วย” ผมตอบสั้นๆ อย่างไม่มีอารมณ์ ก็นะ เกิดเรื่องขนาดนี้จะให้ผมเบิกบานอยู่ผมคงไม่ใช่คน มีคนเคยบอกว่า เวลาคนเราเจอเรื่องแย่ๆ มักจะคิดแต่เรื่องด้านลบซะเป็นส่วนใหญ่ ผมเองก็กำลังเป็นแบบนั้น

   ชีวิตแต่เดิมก็บัดซบอยู่แล้ว พอมาเจอลูเซียสทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้นและแย่ลงในเวลาเดียวกัน บอกตามตรงสภาพแวดล้อมกดดันผมมาก ผมเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบเลยด้วยซ้ำ แม่เพียงคนเดียวที่รักและดูแลผมอย่างดีต้องป่วยหนักเพราะโหมทำงานมากเกินไป ญาติทางฝั่งแม่เลยบังคับพาแม่กลับไปรักษา

   แม่อยากจะพาผมไปด้วย แต่ตัวผมเป็นสิทธิ์ของพ่อ จนกว่าผมจะอายุยี่สิบถึงสามารถจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง ที่ผ่านมาเรื่องโรงเรียนผมอาศัยปลอมลายเซ็นเอาตลอด ช่วงแรกแม่ยังคงส่งเงินมาเป็นระยะ พอแม่ทรุดหนักเงินที่ได้จึงขาดไป โชคดีที่ผมยังพอมีเงินเก็บจากการทำงานพิเศษเลยพอถูๆ ไถๆ ไปบ้าง

   แต่ใครจะรู้ ญาติฝั่งแม่เองก็หมดเงินที่จะใช้รักษา ผมต้องหาทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้เงินมาส่งตัวเองเรียนและส่งให้แม่ ทีแรกผมไม่ได้ทำงานแบบนี้หรอก ผมเริ่มจากเด็กเสิร์ฟ พนักงานเซเว่น แต่เงินที่ได้มันไม่พอ จนกระทั่งวันหนึ่งผมไปหาคู่นอนในผับอย่างทุกที เพื่อนคนนี้แนะนำให้ผมลองทำงานทำนองนี้ดู

   ผมเองไม่ใช่ผู้หญิง แถมที่ผ่านมาก็ใช่จะไม่เคยนอนกับใคร สุดท้ายเลยตัดสินใจทำผสมกับหารายได้อื่นเล็กๆ น้อยๆ ไปด้วย ผมรู้ ทำแบบนี้มันไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกผมก็ต้องทำ

   สิ่งที่พอยึดเหนี่ยวตัวผมไว้ไม่ออกนอกลู่นอกทาง คงเป็นภาพแห่งความสุขในวัยเด็ก แม่ที่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน พ่อที่กอดผมอย่างอบอุ่น พวกเราสามคนเคยเป็นครอบครัวที่น่าอิจฉา ไม่มีเงินมากมาย แต่ก็ไม่ขาดแคลน ถ้าหากพ่อไม่หลงไปกับคำชวนของเพื่อน ชีวิตผมคงเหมือนกับพวกซัน

   พ่อเริ่มติดการพนัน ทีแรกยังเล่นแค่เล็กน้อยบอกว่าเป็นการผ่อนคลายหลังจากเครียดกับงาน แม่เข้าใจว่าพ่อเหนื่อยต้องมีที่ระบายบ้างจึงไม่ขัดอะไร ใครจะรู้ล่ะว่านับวันพ่อยิ่งเล่นมากขึ้นทุกทีจนต้องไปกู้หนี้ยืมสิน บ้านที่เคยเป็นของเราถูกเอาไปค้ำประกันกับธนาคาร

   กู้หนี้ในระบบยังไม่พอ พ่อดันตามเพื่อนไปกู้หนี้นอกระบบ อาศัยกู้ตรงนั้นมาโปะตรงนี้ อาการหนักมากจนบริษัทต้องเชิญออก สุดท้ายพ่อก็ไม่มีงานทำ ส่วนแม่ต้องออกหางานเพื่อหาเงินมาใช้จ่าย ความเครียดทำให้พ่อเริ่มพึ่งแอลกอฮอล์ เวลาเมาก็อาละวาดโทษคนอื่นไปทั่วทั้งที่ตัวเองเป็นคนทำให้ทุกอย่างมันแย่

   พวกเราต้องคอยหนีเจ้าหนี้ไม่เคยอยู่ที่ไหนได้นานเกินสองเดือน ผมถูกย้ายโรงเรียนเป็นว่าเล่น ในที่สุดทุกอย่างก็พังทลาย...

   แม่ที่อยู่เคียงข้างป่วยต้องไปอยู่ในที่ห่างไกล พ่อที่มีแต่สร้างปัญหาพึ่งพาอะไรไม่ได้ แม้แต่เพื่อนผมยังไม่มีเลยสักคน เคว้งคว้างอยู่เพียงลำพัง หันไปทางไหนก็ไม่มีใคร ไขว้คว้าจับมือใครก็ไม่ได้ หากไม่มีแม่เป็นที่ยึดเหนี่ยวผมคงจะฆ่าตัวตายมันให้พ้นๆ

   แล้วยังเรื่องที่เกิดขึ้นอีก ผมมีทางเลือกที่ไหน ถูกบังคับมาเป็นเด็กเลี้ยง มีเงินใช้แต่ไร้ความอิสระ พอจะขัดขืนให้รู้ว่าผมยังมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้าง ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่อยากเรียกหาเมื่อไหร่ก็เรียก ผลที่ตามมากลายเป็นแบบนี้ ผมถูกจับเพราะเป็นเด็กของลูเซียส โดนทำร้ายอย่างแสนสาหัส

   สิ่งที่ได้รับตอนโดนยามันเหมือนกับชีวิตผมได้รับการปลดปล่อย ล่องลอยไม่มีภาระ ไร้ความกังวลใดๆ ผมเกือบจะปล่อยตัวปล่อยใจไปกับมันแล้ว หากใบหน้าของแม่ไม่มาดึงตัวผมเอาไว้และระลึกได้ว่าผลเสียของยานั่นมีมากแค่ไหน

   แม่เท่านั้น... แค่แม่เพียงคนเดียวที่ผมจะไม่ยอมเสียไปเด็ดขาด

   ช่วงที่ใครบางคนกำลังเหม่อลอย มีคนเปิดประตูเข้ามา พอไมค์เห็นว่าเป็นใคร เขาแสดงสีหน้าโล่งอก ก้มหัวให้ผู้มาใหม่เล็กน้อยแล้วปลีกตัวออกไปยืนเฝ้าด้านนอกแทน ให้เวลาทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง

   ในสายตาของลูเซียส เด็กที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ไม่ใช่เด็กหนุ่มอย่างเช่นวันวาน มันเหมือนกับลูกสัตว์ตัวน้อยที่ได้รับความทรมานอย่างแสนสาหัส ราวกับจะแตกสลายไปได้ทุกเมื่อ ความรู้สึกผิดเข้าเกาะกุมจิตใจทันที นานเท่าไหร่แล้วที่ลูเซียสไม่ได้รู้สึกแบบนี้ คงตั้งแต่เรื่องอาผู้เป็นที่รักของเขาประสบอุบัติเหตุ

   มือหนายื่นไปลูบกลุ่มผมนุ่มแผ่วเบาทะนุถนอมคล้ายกับการสัมผัสสิ่งเปราะบาง มิทสะดุ้งเล็กน้อย หันมามองนิ่ง ทั้งคู่ไม่มีใครเอ่ยปากแม้แต่คำเดียว ต่างคนต่างจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง

   เขาคงลืมไปจริงๆ เด็กคนนี้แตกต่างจากเด็กคนอื่น ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมาทำให้ลูเซียสพอสังเกตได้ว่ามิทมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ ภาระหนักอึ้งที่อยู่บนบ่าเล็กๆ ถึงเขาจะไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่พอจะเดาได้ว่ามันต้องสำคัญกับอีกฝ่ายมากแน่ๆ

   ครั้งนี้เขาประมาทเกินไป เป็นความผิดของเขาเอง

   “ขอโทษ...”

   คำที่ไม่คิดว่าจะหลุดออกมาจากปากอีกฝ่ายทำให้คนฟังเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ เจ้าตัวคิดว่าลูเซียสคงจะโดนไนท์พูดอะไรมาอีกแน่ๆ ถึงได้มาขอโทษกันแบบนี้ แต่พอสบเข้าไปในดวงตาคมคู่นั้น มันมีความรู้สึกผิด ขออภัย และประกายความมุ่งมั่นบางอย่างแฝงอยู่

   “ฉันไม่ควรปล่อยให้เธอเจอเรื่องแบบนี้ ฉันขอโทษ... ต่อไปเธอไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลเธออย่างดี ส่งเสียจนกว่าจะเรียนจบ เรื่องเงินไม่จำเป็นต้องเอามาคืน ขอแค่เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ก็พอ”

   สิ่งที่อยู่ในใจตลอดห้าวันพรั่งพรูออกมา ทุกถ้อยคำ ทุกวาจากระทบจิตใจของคนฟังอย่างจัง

   “ทำไม...” เสียงแหบแห้งหลุดออกมาจากปากซีดเซียว ดวงตาของลูเซียสทอประกายอ่อนลงไม่กดดันอย่างทุกที

   “คงเพราะฉันไม่อยากทำพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง ชีวิตของฉันทำร้ายคนใกล้ตัวแค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว”

   ผมมองลูเซียสด้วยความสับสน ระหว่างที่ผมกำลังดำดิ่งอยู่กับความคิดด้านลบ เขาก็เข้ามาลูบหัวบอกว่าขอโทษ พูดเหมือนว่าต่อให้เบื่อหรือผมไม่ได้เป็นเด็กเลี้ยงอีกก็จะอุปการะดูแลจนกว่าผมจะตั้งตัวได้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น

   ความใจดีของลูเซียส นอกเหนือจากคำว่าเอ็นดูมันมีเงาของใครบางคนอยู่ สร้างความสงสัยให้แก่ผม ถ้างั้น ชีวิตผมจะเป็นแบบคนนั้นรึเปล่า ผมอยากรู้

   “เกิดอะไรขึ้นกับ... คนๆ นั้น”

   ลูเซียสยิ้มมุมปาก เปลี่ยนท่าทีจากผู้ใหญ่ที่กำลังจะอุปการะเด็กเป็นนักธุรกิจเขี้ยวลากดิน

   “ตอนนี้เธอยังไม่จำเป็นต้องรู้ เอาไว้เธออยู่กับฉันไปนานๆ แล้วเราค่อยมาคุยกันว่าสิ่งที่อยู่ในใจคืออะไร ฉันรอเธอบอกอยู่นะมิทรี่”

   ปากบอกว่ามาแลกเปลี่ยน แต่จงใจให้ผมบอกก่อนชัดๆ ผมหลับตาเอนกายพิงอกคนข้างเตียง ถึงตะกอนภายในใจของผมจะไม่ถูกกำจัดออกจนหมด แต่ก็ลดลงไปได้บ้าง อย่างน้อยๆ ก็ในตอนนี้

   ลูเซียสเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น สิ่งใดที่ลั่นวาจาออกไปแล้ว เขาไม่มีวันคืนคำเด็ดขาดและจะทำให้สำเร็จตามที่พูดไว้

   วงแขนใหญ่กอดผมเบาๆ ระวังไม่ให้กระทบกับร่างกายที่บอบช้ำ ไม่นานผมก็เริ่มเคลิ้มและผล็อยหลับไป ในอ้อมกอดนี้ เป็นสถานที่ที่ทำให้ผมหลับตาลงอย่างวางใจได้มากที่สุด...

   ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะเสียงทะเลาะกันแบบลดโวลุ่มเหมือนเสียงยุงบิน คำด่าภาษารัสเซียที่ได้ยินจนชินหูอยู่ทุกวันทำให้ผมหลุดยิ้ม

   “บอสครับ คุณหนูตื่นแล้ว” เสียงที่ไม่เคยได้ยิน? ใครอีกละเนี่ย

   บอสกับมือขวาที่กำลังเถียงกันหน้าดำหน้าแดงด้วยเสียงเบาหวิวหันหาคนป่วยที่กำลังนอนมองตาใส บอสใหญ่โยนงานทิ้งให้มือขวาแล้วตรงดิ่งมาที่เตียง

   “หลับสบายดีไหม เธอน่าจะนอนต่ออีกสักหน่อยนะ”

   “ใครจะไปนอนได้กัน บอกแล้วให้กลับไปทำงานที่ตึกค่อยมาเยี่ยม นี่อะไร ขนงานมาทำที่นี่หมด คิดจะเปลี่ยนห้องพักฟื้นเป็นห้องทำงานรึไงไม่ทราบ”

   “ไหนๆ ก็อยู่โรงพยาบาล ฉันว่านายน่าจะไปเช็คหูสักหน่อยนะ บอกแล้วว่าจะอยู่เฝ้า”

   เอาเป็นว่าผมพอจับใจความได้แล้วล่ะว่าสองคนนี้ทะเลาะเรื่องอะไรกันอีก

   “เป็นยังไงบ้างครับคุณหนู ปวดตรงไหนรึเปล่า ให้ผมช่วยเรียกพยาบาลไหม” พี่อาคมยังเป็นผู้ใหญ่ที่สุดเหมือนเคย เขาทำเป็นไม่เห็นไม่ได้ยินสองคนนั้นอย่างมืออาชีพ เอ่ยถามผมอย่างเป็นห่วง ความจริงใจที่แสดงออกมาทำให้ผมยิ้มได้

   “ต้องปวดอยู่แล้วสิครับ แต่ผมหิวมากกว่า”

   “ลุง นี่ไงซุปข้นที่นางพยาบาลหุ่นสะบึมเอามาให้” ชายคนแรกที่เห็นว่าผมตื่นส่งถ้วยซุปมาให้พี่อาคม คนรับขมวดคิ้วฉับกับน้ำเสียงยียวนนั่น

   “พูดจาดีๆ หน่อยหลง อยู่ต่อหน้าคุณหนูนะ” ไมค์ปรามแต่ตามองพี่อาคม ถ้าจะพูดเพื่อเอาใจพี่อาคมล่ะก็ไม่ต้องอ้างชื่อผมก็ได้ สองคนนี้อย่างกับเด็กแย่งความรักจากผู้ปกครอง

   “กินซุปครับ เดี๋ยวผมป้อนให้” พี่อาคมยังคงเมินเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างน่าชื่นชม

   “ไม่เป็นไร ผมกินเองได้” ผมขยับแขนขวาให้ดู พี่อาคมเลยลากโต๊ะมาใกล้เตียงวางถ้วยให้ผมตักกิน โต๊ะสำหรับกินข้าวของผู้ป่วยในโรงพยาบาล มันจะเหมือนกับโต๊ะที่มีขาเดียวติดล้อเพื่อพาดบนเตียงและเข็นไปไหนมาไหนได้สะดวก

   “ผมขอถือโอกาสนี้แนะนำตัวเลยแล้วกัน ผมชื่อหลง จะมาเป็นการ์ดให้กับคุณหนูตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ”

   คนหนึ่งหน้าตาแบบไทยแท้ อีกคนฝรั่งจ๋า คนสุดท้ายมาแนวจีนชัดเจน ที่เหมือนกันคือพวกเขาตัวสูงและหน้าตาดีมาก! ถึงงั้นพี่เดฟก็ยังเป็นที่หนึ่งในใจผมนะ อาหารฝีมือพี่ท่านอร่อยมากจริงๆ

   “ฝากตัวด้วยครับ”

   ผมผงกหัวรับแล้วนั่งกินต่อ พี่อาคมเรียกไมค์กับหลงไปเทศนาอยู่มุมห้อง เปิดช่องให้ลูเซียสกับไนท์มาล้อมเตียง ห้องพักฟื้นผมช่างครึกครื้นเหลือเกิน

   “ฟาดเคราะห์ไปนะเจ้าหนู” ผมมองไนท์ตาปริบๆ รู้จักคำแบบนี้ด้วย พี่อาคมสอนชัวร์
   
   “กินเสร็จอยากเดินเล่นไหม เดี๋ยวฉันพาไป” ลูเซียสถาม

   “ไป” ผมตอบแบบไม่คิดอะไร อยู่ห้องอย่างเดียวก็น่าเบื่อ ออกไปดูนั่นดูดีหน่อยก็ดีเหมือนกัน ใครจะไปรู้ล่ะว่า บอสใหญ่จะเป็นคนจัดการเองทุกอย่างตั้งแต่ติดต่อขอรถเข็น อุ้มผมลงจากเตียง เข็นผมไปชมสวนผ่านหน้าเหล่าการ์ดที่โค้งคำนับใช้สายตาลอบมองผมส่งรอยยิ้มเป็นมิตรให้

   ถือเป็นข้อดีหลังจากเกิดเรื่องแย่ๆ ความซื่อสัตย์ไม่ทรยศลูเซียสช่วยทำให้ลูกน้องทุกคนเปิดใจรับผมมากขึ้น อนาคตหลังจากนี้ผมคงไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป ควรจะดีใจไหมนะ มาเฟียที่ผมพยายามหลีกหนีที่สุดในชีวิต ตอนนี้กลายเป็นขุมกำลังแสนยิ่งใหญ่ของผมไปแล้ว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-07-2016 14:26:39 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :เฮ้อ:    รอดแล้วนะ ป๋าต้องดูแลน้องดีมากแน่ๆ มีคนเฝ้าตลอดๆเลย จำได้จากคราวที่สวนน้ำ

ออฟไลน์ P★RiTŸ

  • he's mine
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-5
เฮ้ออ โล่งใจดีแล้วที่ไม่ติด
ต่อไปก็เบาๆมือกับเด็กมันหน่อยนะอิป๋า

เออ สงสัย ก็รู้นะว่าป๋าแก่555
แต่ไม่คิดว่าจะแก่ขนาดอ้างว่าเป็นพ่อเด็กได้เนียนขนาดนี้

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ดีใจที่มิทไม่ติดยา เพราะจิตใจเข้มแข็ง


ป๋ารีบเอาใจรัวๆเลย   



(กำลังอ่าน ปอนด์ เฟย์ ยังไม่จบ คริๆ)

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :impress2: มิทรอดมาได้ดีจริงๆทีนี้ป๋าคงไม่ปล่อยให้ห่างตาแน่

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
รอดแล้ว  :impress2:
ต่อไปป๋าก็ดูแลอีหนูคนนี้ให้ดีๆด้วยนะ

ออฟไลน์ benbencoffee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาเร็วมาก..ขอบคุณมากค่ะ #ลุ้นๆให้ลูกมิชปลอดภัย

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เตรียมเอาใจเมียเด็กเต็มที่เลยนะป๋าาาาา

ออฟไลน์ janehh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
โล่งงงง
นี่คิดว่ามิทจะติดไอ้ยานรกนั่นซะแล้ว
ป๋าดูแลอีหนูดีๆ นะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ดีนะที่มิทไม่ติดยา

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
หวังว่าต่อไปนี้อะไร ๆ จะดีขึ้น

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
อุ้ยยยย น่ารักกก

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
ป๋าดูแลลูกตัวเองดีๆนะ  :hao7:

ออฟไลน์ chouxcream59

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ป๋าเอ็นดูเยอะๆนะ มิทรี่ต้องการกำลังใจ  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
รตอนต่อไป

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ฟาดเคราะห์ไปเนอะ

สู้ๆ นะมิท กอดดดดด

ออฟไลน์ Yysll

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หายป่วย ป๋าจัดหนักแน่ๆ :haun4:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
โล่งอกไปนะป๋านู๋มิทของเราปลอดภัยแล้วจ้า

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เรื่องร้าย ๆ ผ่านไปแล้ว
ต่อไปป๋าต้องดูแลมิท ให้ดีนาาา
เรื่องครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียน

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kiolkiol

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ป๋าน่ารักกกกกกกกก

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
สวัสดีคุณคนเขียนค่ะ
ลองเข้าอ่านดูแล้วชอบมากเลยค่ะ จึงต้องเข้ามาเม้นท์ให้กำลังใจ
เนื้อเรื่องแปลกดี ไม่ค่อยเจอที่นายเอกทำงานอย่างนี้เท่าไร
ชีวิตก็รันทด แต่ปลื้มมากๆตรงความคิดของมิทรี่นี่แหละ
อ่านแล้วก็จะร้องไห้ เด็กกตัญญูอย่างนี้ต้องได้ดีแน่นอนจ้ะ
ฝากไปถึงป๋าหน่อยค่ะ อย่าใช้งานน้องมิทหนักนะคะ
ตัวก็แค่นั้น เดี๋ยวได้เดี้ยงก่อนวัยอันควร :hao3:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
+1และเป็ดแทนคำขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
โหยยยย เด็กป๋าคนนี้นี่ทรหดสุดดดด

ออฟไลน์ cuteymummy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮืออ น่ารักก
คือก้ดีที่เอาใจแต่ก้ยังสงสารมิทอยู่นะ

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
ชอบเรื่องมาเฟียสุดๆเลยค่าา อิหนูคนนี้เป็นคนฉลาด กตัญญูมาก
รับรองป๋าต้องหลงแบบโงหัวไม่ขึ้นสักวันแน่ๆ เป็นจอมซนที่น่าเอ็นดูจริงๆ
รออ่านตอนต่อไปนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
คุณพ่อคะ ดูแลลูกชายดีๆนะคะ :hao7:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด