[จบแล้ว]ผิดที่ใคร [Right or Wrong] บทพิเศษ เรื่องของเด็กๆ (24-10-2017)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]ผิดที่ใคร [Right or Wrong] บทพิเศษ เรื่องของเด็กๆ (24-10-2017)  (อ่าน 99967 ครั้ง)

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอย......จะจบปัญหาได้แล้ว
ตี้ ก็ทำให้เป็นปัญหาขึ้นมาซะอีก
งงๆ กับตี้  ตั้งแตชวนทานข้าว เรื่องให้พักด้วย
ทั้งที่บอกว่าเป็นบ้านอรรถ แล้วแต่อรรถ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ตี้ก็ชักจะเยอะไปล่ะ แบบ...เริ่มน่ารำคาญตี้ละ เอาจริงๆ

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11
งี่เง่า

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ถ้าคิดแบบไม่ดีก็จะเดาว่า ตี้หาเรื่องทะเลาะกับแฟนเพื่อจะหาข้ออ้างไปเจอกิ๊กเก่า 55

ออฟไลน์ yanggi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
 o22 ตี้เป็นบ้าอะไร ????
งงไปหมด  ชวนทะเลาะทำไม   ทำไมต้องหงุดหงิด  ???

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
งี่เง่าจริงๆนั่นแหละ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ถ้าคนนี้เปลี่ยนเป็นชาร์ป
แล้วปลาหรือชะเอม
..มาขอค้างคืนด้วยซักคืนสองคืน..

ตี้จะกล้างี่เง่า
แบบนี้หรือเปล่า

อยากรู้ง่ะ
หุหุ
 :katai5:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เรามีความงงในตัวละคร หมายถึงแบบ ไม่เข้าใจใครซักคน 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ต้องมีอะไรแน่ๆ อยากรู้ตี้คุยไรกับแฟนเก่าอรรถตอนที่อรรถไปทำอาหารเพิ่ม
อยู่ๆ พออรรถมา ก็ทำใจดีเฉย 555+





ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ต่างคนก็ต่างเจตนาล่ะ อรรถไม่อยากให้แฟนเก่ามาทำลายความรักของแฟนใหม่ แต่ปาร์ตี้อยากแสดงน้ำใจต่อแฟนเก่า เรื่องสนุกล่ะสิ จะทะเลาะกันหนักมั้ย รออ่านต่อคับ

ออฟไลน์ Wanatsuda

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew2: :mew2: :mew2: ทีมชาร์ป ค่ะ

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
เรามีความงงในตัวละคร หมายถึงแบบ ไม่เข้าใจใครซักคน 55555


ชอบตรง ไม่เข้าใจใครสักคน 555

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
PART II บทที่ 7
เหนื่อย


Aut’s Part


“อ้าว ไหนว่าจะไปค้างบ้านตี้กันไม่ใช่เหรอ”เสียงทักทายจากแฟนเก่า ที่ทำเอาผมกับตี้เกือบจะทะเลาะกันเข้าให้แล้ว แถมตอนนี้ก็ยึดบ้านผมยังกะบ้านตัวเองไปแล้ว ตั้งโต๊ะวางคอมพิวเตอร์ ต่อปริ้นเตอร์เสร็จสรรพ นั่งทำงานสบายใจเชียวครับ ผมละอยากจะยกข้าวของเขวี้ยงออกนอกบ้านเสียให้รู้แล้วรู้รอด ผมกะไว้แล้วเชียวว่าสิ่งที่หนุ่ยแสดงออกมามันต้องมีการเสแสร้งแกล้งเศร้าผมสมเข้าไป ทำไมนะเหรอครับ ก็ไอ้เหตุการณ์เมื่อวันก่อนนั่นนะสิครับ

“เดี๋ยวๆ หยุดก่อนเลยทั้งสองคน อย่าเพิ่งทะเลาะกัน แค่เรามารบกวนก็เกรงใจจะแย่แล้ว อย่าให้เราต้องรู้สึกผิดเพิ่มขึ้นไปอีกด้วยการเป็นต้นเหตุให้คนรักกันต้องมาทะเลาะกันเลยนะ”หนุ่ยเข้ามาห้ามทัพระหว่างผมกับตี้ที่ตอนนี้ดูเหมือนต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามนับ 1 ถึง 10 ในใจหวังให้อารมณ์ตัวเองเย็นลง ผมจะไม่ปล่อยให้เราต้องมาทะเลาะกัน แต่อารมณ์ผมตอนนี้มันก็ยังครุกรุ่นอยู่ จะทำยังไงดีละเนี่ย ตี้เองก็ยังมองมาที่ผมอย่างไม่ยอมแพ้

“โอเค ห้องนอนแขกที่ชั้น 2 ไปถูกใช่ไหม”ผมบอกอย่างไม่เต็มใจนัก แต่ก็น่าจะพอช่วยคลี่คลายสถานการณ์ไปได้บ้าง พูดจบผมก็เดินขึ้นบันไดตรงเข้าห้องนอนเลย ยอมรับครับว่ายังหงุดหงิดอยู่ แต่ไม่อยากจะเถียงกับตี้ต่อ เพราะตอนนี้ความคิดและเหตุผลของผมกับเค้ามันคงสวนทางกันอยู่ ผมเลือกที่จะยอมถอยหนึ่งก้าว เพื่อไม่ให้เรื่องมันบานปลาย แต่ผมจะไม่ยอมให้มันเป็นอย่างนี้นานแน่ๆ

ผมหยิบผ้าเช็ดตัว เข้าห้องน้ำเพื่อหวังใช้การอาบน้ำช่วยผ่อนคลายให้ผมอารมณ์เย็นลงบ้าง ผมพยายามคิดว่าทำไมตี้ถึงคล้อยตามหนุ่ย หรือเห็นใจหนุ่ยได้ขนาดนี้ โอเคตี้อาจจะเป็นคนจิตใจดี อยากช่วยเหลือคนอื่น แต่นี่ผมก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดไม่ยอมช่วยเหลือเลย แสดงว่าหนุ่ยต้องพูดโน้มน้าวตี้ด้วยอะไรสักอย่างซึ่ง คงมีน้ำหนักมากพอให้ตี้ออกปากชวนหนุ่ยค้างที่นี่

สายน้ำจากฝักบัว ช่วยบรรเทาความร้อนในอารมณ์ของผม ลงไปได้พอสมควร ทำให้มีสติพอจะคิดทบทวน และรับมือกับสถานการณ์ตอนนี้ ผมไม่ควรจะเอาไม้แข็งไปสู้กับตี้ ดูภายนอกเค้าอาจจะไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน แต่จากที่คบกันมา ผมว่าเค้าเป็นคนที่ดื้อเงียบ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าผมคงต้องเป็นฝ่ายที่เย็นลงและคุยกับเค้าด้วยเหตุผล

ผมปิดน้ำจากฝักบัว เช็ดตัวหมาดๆ ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดตัวพันกายท่อนล่าง อย่างหลวมๆ ออกจากห้องน้ำ พอเปิดประตูออกจากห้องน้ำ ผมก็พบว่าอีกคนเข้าห้องมาแล้ว เค้านั่งหย่อนขาอยู่ที่ปลายเตียง เค้าหันมามองผม ด้วยแววตาที่อ่อนลงกว่าตอนอยู่ด้านล่าง แสดงว่าเค้าเองก็คงอารมณ์เย็นลงแล้ว เช่นเดียวกัน ผมเดินไปนั่งลงข้างๆ เค้าโดยที่ไม่ได้พูดอะไร

“ขอโทษ”เป็นเค้าที่เอ่ยขึ้นก่อน

“อรรถโกรธเรารึเปล่า”ผมถอนหายใจยาว ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือเค้าไว้ ไอ้โกรธ ทีแรกมันก็โกรธอยู่แหละครับ แต่พอเค้ามาพูดด้วยน้ำเสียงหงอยๆ แบบนี้ผมจะไปใจแข็งกับเค้าได้ยังไงละครับ อีกอย่างผมเองก็มีส่วนที่แสดงอาการไม่พอใจกับเค้าเหมือนกัน

“ไม่โกรธแล้ว แต่ขอฟังเหตุผลหน่อย ว่าทำไมตี้ถึงอยากให้หนุ่ยค้างที่นี่”

“ก็เห็นหนุ่ยบอกว่ากำลังเสียใจที่เลิกกับแฟน ถ้าไปอยู่โรงแรมคนเดียวในเวลาที่อ่อนแอแบบนี้อาจจะเผลอทำอะไรบ้าๆ”ชัดเลยครับ หนุ่ยแผลงฤทธิ์อีกแล้ว คนอย่างหนุ่ยไม่มีทางทำร้ายตัวเองเด็ดขาด คือถ้าบอกว่าหนุ่ยเสียใจที่ต้องเลิกรากับแฟนอันนี้พอเป็นไปได้ แต่หนุ่ยเป็นคนที่รักตัวเองมากๆ คนนึงเช่นกัน การที่หนุ่ยจะคิดทำอะไรบ้าๆ นั่นมันแทบไม่มีโอกาสเป็นไปได้เลยสักนิด

“แล้วเค้าก็บอกว่าอรรถคงกังวล ว่าเค้าจะมาทำให้ความรักของเรามีปัญหา”แล้วที่เห็นอยู่ตอนนี้เรียกว่ามีปัญหาได้หรือยังละครับ ผมจะไม่โทษตี้หรอกนะครับว่าเชื่อคนง่าย เพียงเพราะแค่คำพูดไม่กี่นาทีของหนุ่ย เพราะผมทราบดีว่าหนุ่ยมีทักษะในการพูดให้คนคล้อยตามเป็นเลิศมากทีเดียว

“หนุ่ยพูดใช่ไหมว่าถ้าเราสองคนเชื่อใจกันและกัน ก็ไม่เห็นต้องกังวลว่าเค้าจะเข้ามาแทรกกลางระหว่างเราสองคนได้”พอผมพูดจบตี้ก็พยักหน้า ตอบรับ ชัดเลยครับ ผมว่าไอ้เรื่องกลัวหนุ่ยคิดทำอะไรบ้าๆ นั่นตี้เองก็คงไม่ได้ปักใจเท่าไหร่ แต่ไอ้การท้าทายของหนุ่ยมากกว่า ที่มันทำให้ตี้รู้สึกอยากเอาชนะ ผมเชื่อได้เลยว่าหนุ่ยคงไม่ได้พูดท้าทายออกมาตรงๆ แต่คงพูดอ้อมไปเรื่อยๆ ให้คนฟังคิดตามได้เอง และแน่นอนว่าตี้คงติดกับและเดินตามเกมของหนุ่ยเสียด้วย และผมเองก็พลาดที่มองเกมหนุ่ยไม่ออกตั้งแต่แรก ถ้าพูดไปตอนนี้ก็ไม่รู้ตี้จะยอมฟังผมหรือเปล่า เพราะหนุ่ยคงกะไว้อยู่แล้วว่าผมต้องยืนยันไม่ให้เค้าค้าง มันเลยยิ่งเหมาะจะใส่ไฟเข้าไปอีกว่าผมเองไม่มีความมั่นใจในความสัมพันธ์ นี่คือสิ่งที่ผมคาดเดา แต่ผมคงไม่จำเป็นจะต้องถามรายละเอียดอะไรจากตี้อีกแล้ว

ยังไงตอนนี้ผมคงต้องดึงตี้ให้ออกห่างจากหนุ่ยให้ได้มากที่สุดเสียแล้วครับ เพราะดูท่าแล้ว หนุ่ยคงมีจุดประสงค์บางอย่างจริงๆ คนเลิกกันไปตั้งนานอย่างผม ถ้าไม่มีจุดประสงค์อะไร เค้าคงไม่ลงทุนมาหาผมถึงบ้านแบบนี้หรอกครับ

“โอเค งั้นก็ปล่อยให้หนุ่ยอยู่นี่ไป ในระหว่างที่ เค้าเคลียร์ตัวเอง อรรถว่าเราไปอยู่บ้านตี้กันชั่วคราวไหมอ่ะ”ผมว่านี่อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะถ้าผมกับตี้ย้ายไปอยู่ที่อื่น หนุ่ยก็จะมาวุ่นวายอะไรกับเราไม่ได้อีก อยากรู้เหมือนกันว่าหนุ่ยจะทำอะไรต่อ

“อรรถก็แค่ต้องการความเป็นส่วนตัว ระหว่างเราแค่นั้นเอง อีกอย่างเราก็ไม่ได้ไปค้างบ้านตี้นานแล้ว จะได้ถือโอกาสไปดูแลบ้านด้วยไง”ไม่ว่าเค้าจะคิดยังไงผมไม่สนแล้วครับ ยังไงขอพาตัวเค้าออกห่างจากหนุ่ยก่อนแล้วกัน ป้องกันไม่ให้หนุ่ยมาปั่นหัวเค้าอีก

“ถ้ามันจะทำให้อรรถสบายใจขึ้น ก็ตามนั้น พรุ่งนี้ไปค้างบ้านโน้นกัน”นั่นแหละครับ อย่างน้อยก็ยังอุ่นใจได้บ้างที่ไม่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับหนุ่ยให้เป็นกังวล ยังไงหนุ่ยก็คงไม่ปักหลักอยู่บ้านผมนานหรอกน่า นั่นคือความคิดของผมเมื่อคืน แต่ตอนนี้

“ไปหาเอกสารยืนยันตัวตนที่บ้านมาหรือยัง”ผมย้อนถามคนที่นั่งวุ่นอยู่กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะของเค้า วันนี้ผมกับตี้ตกลงกันตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าวันนี้จะไปค้างบ้านตี้ชั่วคราว ซึ่งข้าวของ เครื่องใช้ เสื้อผ้าอะไร เราก็ไกต้องเตรียมอะไรมาก เพราะปกติก็ไปค้าง อย่างน้อย เดือนละครั้งอยู่แล้ว ซึ่งตี้เลิกงานก็คงเข้าไปเลย ส่วนผม จริงๆ ก็ตั้งใจจะไปเลยเหมือนกันแหละครับ แต่ดันลืมงานลูกค้าไว้ที่บ้านนี่สิ

“นี่ไง เพิ่งปริ้นตะกี้”เค้าชี้ให้ผมดูสำเนาบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านของเค้าที่วางอยู่ข้างๆ เครื่องปริ้นท์

“ใครส่งมาให้ละ”ผมตั้งคำถามด้วยการคาดเดาว่านี่เค้าคงให้ที่บ้านหรือใครสักคนสแกนแล้วส่งมาให้ทางอีเมล ผมกำลังนึกขอบคุณคนที่ส่งมา เพราะหนุ่ยจะได้ไปติดต่อทำเอกสารของตัวเองให้เสร็จๆ และย้ายออกจากบ้านผมไปสักที

“เปล่า มีในแลปทอปอยู่แล้ว”เจ้าของคำพูดตอบออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร แล้วนี่ในเมื่อเค้าก็มีเอกสารสำรองของตัวเองอยู่แล้วแบบนี้ ถึงมันจะไม่ใช่ของจริงก็เถอะ ยังจะมาทำเหมือนไม่มีที่พึ่งที่บ้านผมแบบนี้ทำไมอีกเนี่ย

“ต้องการอะไร”ทั้งที่รู้สึกหงุดหงิดกับคนตรงหน้านี่แล้ว แต่ผมก็ยังพยายามที่จะข่มอารมณ์เอาไว้ คนอย่างหนุ่ยถ้าเราตั้งสติไม่ดี ก็จะหลุดไปตามเกมของเค้าได้ เค้าไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจตอบคำถามของผม จนผมต้องถามย้ำอีกรอบ เค้าเงยหน้าจากจอคอม มองผมด้วยหางตา เหมือนผมผิดที่รบกวนเค้า ทั้งๆ ที่นี่มันบ้านผม แล้วเค้าต่างหากที่เป็นคนมารบกวนผม

“อย่าเพิ่งยุ่งได้ไหมอรรถ ลูกค้าตามงานเนี่ย เดี๋ยวพรุ่งนี้ส่งงานเสร็จ จะไปแจ้งความบัตรหาย ทำบัตรประชาชน บัตรเครดิต โอเคไหม”พูดจบเค้าก็ก้มลงทำงานของเค้าต่อ ตกลงนี่เห็นผมเป็นอากาศ ธาตุ หรือไงเนี่ย ผมตัดสินใจไม่คุยอะไรกับเค้าต่อ เพราะอย่างน้อย เค้าก็ออกตัวมาแล้วว่าพรุ่งนี้จะไปดำเนินการเรื่องเอกสาร และถ้าเอกสาร ของเค้าเสร็จเรียบร้อยก็คงไม่มีข้ออ้างอะไรอีก ที่จะเอามาใช้ในการอยู่บ้านผม

ผมเดินไปหยิบเอกสารที่ลืมไว้ ก่อนจะมาหยุดมองเค้าอีกครั้ง พร้อมกับถอนหายใจเบาเบา เอาน่าคงอีกแค่ไม่กี่วันผมก็คงไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้แล้ว ท้ายที่สุดแล้วหนุ่ยอาจจะแค่ต้องการที่พักชั่วคราวเฉยๆ ก็เป็นได้ หรืออาจะบอกเรื่องอยากเอาชนะผมที่ไม่ยอมให้เค้าอยู่ในทีแรก

“ไปนะ ฝากบ้านด้วย ไม่ใช่เรียกพรรคพวกที่ไหนมายกเค้าบ้านอรรถล่ะ”พูดจบผมก็เดินออกจากบ้าน พร้อมๆ กับหยิบโทรศัพท์เพื่อกดหาแฟนสุดที่รักของผม

“อรรถออกมายังอ่ะ เราคงถึงช้าหน่อย พอดีแวะซื้อพวกขอสด ไปใส่ตู้เย็นไว้หน่อย เผื่อเราอยู่กันหลายวัน”แค่ได้ยินเสียงเค้าก็ทำให้ผมยิ้มได้แล้วครับ แค่คิดว่าเดี๋ยวก็ได้เห็นรอยยิ้มของเค้าแล้ว แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วครับหวังว่าพ้นจากเรื่องของหนุ่ยไปแล้วเนี่ย จะไม่มีอะไรมาบั่นทอนความสัมพันธ์ของเราอีก นี่ตั้งแต่คุณแว่นกลับเข้ามาสะกิดนี่ ทำเอาผม ระแวงโน่นนี่นั่นไปหมด

“น่าจะถึงพอๆ กันแหละ อรรถก็เพิ่งจะออกจากบ้านเหมือนกัน”ผมวางสาย ก่อนจะขับรถออกจากบ้าน วันนี้รถก็ยังหนาแน่นเหมือนๆ ทุกวันแหละครับ ช่วงเวลาหลังเลิกงานแบบนี้ ใครๆ ก็คงเดินทางกลับบ้านกันทั้งนั้น แต่ก่อนผมก็เคยหงุดหงิดนะครับ กับการจราจรของกรุงเทพฯ แต่พอเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้ ง่ายๆ เลยก็ทำใจครับ ทำใจให้ชิน เพราะต่อให้เราเผื่อเวลาไว้ขนาดไหน บทจะติดมันก็ติดอยู่ดีนั่นแหละครับ และดูสถานการณ์แล้ว ผมคงถึงช้ากว่าตี้แน่นอน

ตามคาดครับ วันนี้ดูรถจะติดเป็นพิเศษ นี่กว่าผมจะถึงบ้านตี้ก็สองทุ่มกว่าแล้ว ไม่รู้ป่านนี้สุดที่รักผม หิวไส้กิ่วขนาดไหนแล้ว ผมรีบจอดรถรีบเข้าบ้าน อยากจะรีบทำกับข้าวให้เค้าทาน แต่พอเปิดประตูบ้านเข้ามาก็พบว่า สุดที่รักของผม หลับไปแล้ว ผมอมยิ้มมองภาพตรงหน้า นี่คงเหนื่อยจากงานมาสินะ เห็นช่วงนี้บ่นๆ เรื่องงานอยู่เหมือนกันว่าเหนื่อย นี่คงนั่งรอผมที่โซฟานี่จนผลอยหลับไป

ผมค่อยๆ นั่งลงข้างเค้า ผมชอบมองเวลาเค้านอนหลับแบบนี้ ดูน่าหลงไหล จนตอนนี้เริ่มคิดแล้วว่าเปลี่ยนจากกินข้าวมากินเค้าซะดีไหมเนี่ย ผมเอื้อมวางหลังมือแตะลงที่แก้มของเค้า ลากวนไปอย่างนึกสนุกที่ได้เล่นกับผิวเนียนของเค้า

“มาแล้วเหรอ...ชาร์ป”ผมชะงักมือกับสิ่งที่ได้ยิน เค้าขยับตัวเพียงเล็กน้อย แต่ยังหลับตาพริ้มอยู่เหมือนเดิม สงสัยแค่ละเมอ แต่สิ่งที่เค้าละเมอมันทำใจผมกระตุกวูป ตั้งแต่เค้าย้ายไปอยู่กับผม ผมไม่เคยได้ยินชื่อของผู้ชายคนนี้อีกเลย จนเจ้าของชื่อกลับเข้ามาอีกครั้ง และพวกเค้าได้เจอกัน แถมบ้านหลังนี้ ก็คงมีเรื่องระหว่างเค้าสองคนเกิดขี้นไม่มากก็น้อย

สรุปว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ในใจของเค้าก็ยังมีอีกคนอยู่จริงๆ สินะ ไม่ใช่ผมไม่รู้นะครับว่าในตอนที่ตกลงคบกัน ในใจเค้ายังตัดอีกคนออกไปไม่ได้ แต่ผมก็หวังว่าวันนึงคนๆ นั้นจะหมดไปจากใจเค้า และเกือบจะเชื่อไปแล้วว่าผมเป็นคนได้ครอบครองเค้าทั้งตัวและใจแล้ว แต่มันไม่ใช่เลย กับสิ่งที่ผมได้เจอตอนนี้ ดูมันชัดเจนเหลือเกิน ผมค่อยๆ ยกมือออกจากแก้มของเค้า และลุกออกจากโซฟาให้เบาที่สุด เพื่อไม่ให้เค้าตื่น

“เฮ้อ”ผมหยุดยืนถอนหายใจอยู่ที่ห้องครัว มันเหมือนสมองตื้อๆ เบลอๆ ไปหมด นี่ผมควรจะรู้สึกยังไง เศร้า เสียใจ น้อยใจ หึง หวง ผมว่าผมคงมีครบทุกความรู้สึกแล้วละครับในตอนนี้ ผมเปิดตู้เย็นดูของสดด้วยจิตใจที่เลื่อนลอย ความรู้สึกมันจุกๆ เหมือนไม่มีทางระบายออกมา ผมมองหม้อหุงข้าวที่ตี้คงหุงทิ้งไว้ ก่อนจะเลือกทำอะไรง่ายๆ เพราะสภาพตัวผมเองตอนนี้ไม่พร้อมจะทำอะไรที่ซับซ้อน

“อรรถมานานแล้วเหรอ”เสียงของเค้าดังมาจากด้านหลังของผม ผมไม่ได้หันไปมองเค้า ทำเพียงตอบรับสั้นๆ ผมอยากหันไปทักทายเค้าให้เหมือนปกตินะครับ แต่ตอนนี้มันบังคับตัวเองให้ทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ

“ทำไม ไม่ปลุกเราละ แล้วนี่ทำอะไรให้กิน ไหนดูซิ”เค้าเดินเข้ามาเกาะที่ไหล่ผม ชะโงกดูสิ่งที่ผมกำลังทำ ผมหันมองดูเค้าพยายามบังคับตัวเองให้ยิ้มออกมา แต่มันคงเป็นยิ้มที่ดูฝืนๆ ซึ่งเค้าอาจจะมองไม่ออก หรืออาจจะไม่ได้ใส่ใจ เพราะเค้ายังยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีมาให้ผม

“กะว่าทำเสร็จแล้วค่อยไปปลุก ตี้ไปล้างหน้าล้างตาก่อนสิ จะได้มากินข้าว แต่วันนี้อรรถทำแค่ ยำปลากระป๋อง กับ ไข่เจียวนะ กลัวจะรอนานเลยทำอะไรง่ายๆ”เค้าพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะผละออกจากผมไป ผมพยายามปรับอารมณ์ของตัวเองอีกครั้ง บอกกับตัวเองว่าในเมื่อเค้าเลือกผมแล้ว ผมควรต้องรอ รอเวลาให้เค้าตัดอีกคนออกไปจากใจ

“ทำไมไม่กินอ่ะ”หลังจากยกกับข้าวมาวาง ตักข้าวใส่จาน ตั้งใจว่าจะทานข้าวทำตัวให้ปกติ แต่มันกินไม่ลงจริงๆ ครับ เลยกลายเป็นว่าผมเอาแต่นั่งมองเค้าที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามผมด้วยความสงสัย

“ตี้ทานเถอะ อรรถไม่ค่อยหิว”ผมบอกกับเค้าด้วยอาการเหนือยๆ ตอนนี้ผมเหมือนคนเสียสมดุล ที่พยายามปรับอารมณ์แล้วแต่มันก็ยังไม่นิ่ง

“เป็นไรหรือเปล่า”เค้าเอ่ยถามผมด้วยท่าทีเป็นห่วง ผมรู้นะครับว่าเค้าคงต้องรู้สึกอะไรกับผมบ้างแหละถึงได้ยอมคบกับผม และเค้าก็เป็นแฟนที่ดีคนนึง เพียงแต่ตอนนี้ผมต้องการเป็นที่ 1 ในใจเค้า ไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่ 2 รองจากคนอื่น

“ตี้”ผมเรียกชื่อเค้า เสียงเบาจนเหมือนจะหายไปในลำคอ แต่เจ้าของชื่อก็จ้องมองผม รอฟังว่าผมจะพูดอะไร

“ตี้รักอรรถไหม”




TBC

มาต่อแว้ววว
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคร๊าบบบ

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
อยากให้อรรถหนักแน่นเข้าไว้เพื่อข้ามผ่านมันไปให้ได้

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
มาแล้ว มาแล้ว อาการความรู้สึกและอารมณ์ของอรรถ ปาร์ตี้จะทำไง อรรถจะพูดไรต่อ ลุ้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป อยากอ่านต่อคับ
 รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตี้ อะไรจะใจดีกับแฟนเก่าของตัวเองขนาดนี้
แสดงว่า ตี้รักอรรถน้อย หรือไม่รักเลยหรือเปล่า :katai1:
ขนาดอรรถเอง ยังไม่ยินดีต้อนรับหนุ่ยเลย
แต่ตี้กลับออกหน้าเพื่อให้หนุ่ยอยู่ จนเกือบทะเลาะกับอรรถ
ชาร์ป ยังมีตัวตนอยู่ในใจตี้
ตี้ ละเมอชื่อชาร์ป ออกมาให้อรรถได้ยิน
แน่ละ คนรักละเมอชื่อแฟนเก่าออกมา
ใครจะไม่รู้สึกรู้สา เป็นไปไม่ได้
อรรถ ต้องจิตตกอยู่แล้ว
รอคำตอบของตี้
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เบื่อตี้จัง :katai5:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
เบื่อตี้จัง :katai5:

คิดเหมือนกันเลยค่ะ กับผู้ชายอย่างแว่นมีอะไรดีนักหนา ทำอะไรเพื่อตี้บ้าง ยังจำฝังจิต ฝังใจ ส่วนอรรถที่อยู่ข้างๆ แสนดี ทำเพื่อตี้ ทุกอย่าง

ยอมตี้จริงๆ เบื่อ และ รำคาญ ตี้ แล้วเนี่ย

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ yanggi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
โอ้ยยยย  สงสารอรรถอ่ะ :katai1: :mew6:

ออฟไลน์ jokerluna

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไม่ไหวค่ะ.....ตอนตี้ละเมอชื่อชาร์ปนี้้เราแบบ U_U สงสารอรรถมากค่ะ ถ้าเกิดคุณแว่นจะเป็นพระเอกจริงๆก็ช่วยโผล่มาเร็วๆทีเถอะ แบบนี้มันเจ็บปวดจริงๆ สงสารอรรถ :o12:

#ความรักที่มั่นคงไม่สามารถสร้างได้ด้วยตัวคนเดียว

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
PART II บทที่ 8
คู่รัก





Sharp’s Part
“เรียบร้อยดีใช่ไหม”ผมเอ่ยถามลูกน้องที่ผมสั่งให้ไปเตรียมเรือสำหรับลูกค้าในวันนี้ เพราะวันนี้มีลูกค้าเหมาลำเรือของเราครับ ปกติส่วนใหญ่ช่วงนี้จะเป็นทริป ที่เราขายไปต่อคนมากกว่า เพราะตอนนี้เราเน้นขยายตลาดการท่องเที่ยวแนวนี้ของเราอยู่และจากที่เรามีการใช้พรีเซนเตอร์เข้ามาก็ถือว่าได้ผลตอบรับดีมากเลยทีเดียว ยอดจองแพคเกจของเรา ในวันหยุดนี่เต็มยาวข้ามปีไปแล้ว ยุคนี้มันเป็นยุคของโซเชียลอย่างแท้จริง พอจับจุดตรงนี้แล้วเอามาขยายผลต่อ ถือว่าที่ทางเราได้รับกลับมาคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มเลยครับ

“ชาร์ป ตาชาร์ปลูก วันนี้จะออกไปกับเรือเองเลยเหรอ ทำไมไม่ให้เด็กๆ เค้าจัดการละลูก”คุณแม่ผมตามมาถามไถ่ผมถึงท่าเรือ นี่สงสัยมีคนไปบอกแน่ๆ ว่าผมจะออกไปกับเรือ เพราะวันนี้แม่ผมมีเพื่อนมาเยี่ยม ซึ่งผมรู้ดีว่านั่นไม่ใช่จุดประสงค์หลักของแม่ผมหรอกครับที่แม่นัดเพื่อนมาเจอ หากแต่เพื่อนแม่ทุกคนที่มาช่วงนี้ ล้วนแล้วแต่มีลูกสาวทั้งนั้น ว่าง่ายๆ ก็เหมือนจับผมดูตัวนั่นแหละครับ นี่ขนาดยุคโซเชียลแล้ว ผมยังต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก ทั้งที่คิดว่าเรื่องนี้มีแต่ในละคร ดันมาเจอกับตัวเองเสียได้

“วันนี้มีแขกพิเศษครับแม่ ลูกค้าเหมาเรือยอร์ชเรา ไปกัน 2 คนเป็นคู่รักมาฮันนีมูน ผมไม่อยากให้มีอะไรพลาดเลยว่าจะออกไปด้วยครับ”ผมตอบออกไปอย่างอารมณ์ดี แต่นี่ก็นึกขอบคุณลูกค้าคนนี้นะครับ ที่เลือกวันได้เหมาะเจาะให้ผมใช้เป็นข้ออ้างในการหลบการจัดฉากดูตัวของแม่ผมได้อย่างแนบเนียน

“ให้คนอื่นไปแทนไม่ได้เหรอ เด็กเราทำงานดีๆ เชื่อมือได้ก็มีตั้งหลายคน ชาร์ปอยู่เจอเพื่อนแม่ดีกว่าเนอะ”ผมรู้ครับว่าแม่คงอยากให้ผมมีครอบครัวลงหลักปักฐาน ช่วงแรกๆ ก็บอกผมว่าไม่เป็นไร ไม่เร่งรัด แต่ช่วงนี้ไม่รู้ไปทำอะไรมา ถึงได้พยายามแนะนำให้ผมรู้จักสาวๆ เยอะแยะไปหมด

“แม่ครับ ลูกค้าคนนี้ผมเป็นคนประสานงานเองมาตลอด ผมก็อยากเทคแคร์ให้ดีที่สุด อีกอย่างเค้ามาฮันนีมูนด้วย เผื่อผมเห็นเค้าสวีทกันแล้วจะได้อยากหาลูกสะใภ้ ให้แม่บ้างไงครับ”ผมพยายามหว่านล้อมทำเสียงอ้อน พร้อมกับเดินเข้าไปคล้องแขนประจบ

“ให้มันจริงเถอะ สนใจแต่งานขนาดนี้ ไม่รู้เมื่อไหร่แม่จะได้อุ้มหลานสักที”แม่ผมว่าอย่างงอนๆ ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ เพราะผมอาจจะไม่มีโอกาสมีหลานให้กับแม่ก็เป็นได้

“แล้วนี่แม่นัดเพื่อนไว้กี่โมงครับ ไม่รีบไปเดี๋ยวเพื่อนรอนะครับ”ผมพยายามเปลี่ยนเรื่อง เพราะยังไม่พร้อมจะคุยกับแม่เรื่องนี้สักเท่าไหร่

“กำลังจะไปนี่แหละ เสียดายที่ชาร์ปไม่ได้ไปเจอเพื่อนแม่”เสียดายที่ผมไม่ได้ไปเจอลูกสาวเพื่อนแม่สิไม่ว่า จริงๆ บรรดาลูกสาวเพื่อนของแม่ผมนี่ก็โปรไฟล์ดีๆ กันทั้งนั้น ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมยังต้องให้บรรดาแม่ๆ ต้องอยากจับลูกๆ มาดองกันเองด้วย ผมละไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมไม่ปล่อยให้ลูกๆ หาคู่ครองเอง

แม่ผมแยกออกไปแล้ว ส่วนผมก็เข้าไปตรวจสอบความเรียบร้อยบนเรือ อีกครั้งว่าอาหารเครื่องดื่ม รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ ภายในเรือว่าเรียบร้อยดีหรือยัง งานนี้ถ้าลูกค้าประทับใจ ก็คงมีการแนะนำต่อๆ กันไปอีก ผมรออยู่พักใหญ่ลูกค้าที่ผมนัดไว้ก็มา

“สวัสดีครับคุณเชษฐ์ ทางเรายินดีอย่างยิ่งที่ให้เกียรติทางเราได้เป็นส่วนหนึ่งในทริปฮันนีมูนของคุณนะครับ”คุณเชษฐ์ที่ตอนแรกผมนึกว่าจะอายุเยอะกว่าผมพอสมควร แต่ดูๆ แล้วอายุเค้าก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับผม เค้ามาพร้อมกับผู้ชายอีกคนนึง น่าจะเป็นเพื่อนที่มาส่งเค้า เพราะที่เค้าแจ้งผมไว้คือจะไปล่องเรือสองคนกับภรรยา

“แล้วนี่ภรรยาคุณเชษฐ์ ยังมาไม่ถึงเหรอครับ”ผมเอ่ยถาม เพราะอยากให้เรือได้ออกไปตามเวลาที่กำหนด เพื่อจะได้กลับมาในเวลาที่เหมาะสม แต่เหมือนผมจะถามอะไรผิดไปหรือเปล่า เพราะผู้ชายที่มากับคุณเชษฐ์ เหมือนจะหลุดขำออกมากับสิ่งที่ผมถาม

“นี่ไงครับ ภรรยาผม”สิ่งที่เค้าบอกทำเอาผมตกใจไม่น้อย เพราะตั้งแต่คุยผ่านโทรศัพท์มา ผมก็เข้าใจมาตลอดว่าภรรยาที่คุณเชษฐ์หมายถึงเป็ยผู้หญิง ไม่คิดว่าจะเป็นชายหนุ่มที่มาด้วยกันแบบนี้

“เอ่อ...ขอโทษทีครับ ขอโทษจริงๆ ที่เสียมารยาท”ผมรีบขอโทษขอโพยยกใหญ่ที่เข้าใจผิด ก่อนจะแนะนำตัวกันเป็นทางการอีกครั้ง แฟนคุณเชษฐ์ชื่อตี๊ฟครับ ผมเพิ่งได้มีโอกาสสังเกตว่าแฟนคุณเชษฐ์นี่เวลายิ้มนี่น่ารักมากเลยทีเดียว และเค้าทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะคิดถึงอีกคน การมาอาสาขับเรือให้กับคู่รักในวันนี้ เรียกว่าสร้างเซอร์ไพรส์ให้ผมหลายอย่างเลยทีเดียว อย่างแรกคือคู่รักที่ผมมาเจอเป็นคู่ชายชาย แทนที่จะเป็นชายหญิง อย่างที่สองคือทั้งคู่ที่ดูภายนอกก็เป็นผู้ชายปกติทั่วๆ ไป แต่เป็นคู่รักชายชายที่เปิดเผย แถมดูมีความสุขกันมากๆ เสียด้วย

เห็นทั้งคู่แล้วมันก็ทำให้ผมต้องย้อนคิดถึงตัวเอง เมื่อก่อนผมเฝ้าบอกกับตัวเองเสมอว่าความสุขของผมคือการแต่งงานมีลูก สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่วันนี้สิ่งที่ผมเคยคิด มันคงไม่ถูกไปเสียหมด คำว่าครอบครัวมันคงไม่ได้จำกัดแค่ในสิ่งที่สังคมกำหนด คุณเชษฐ์กับแฟนนี่คงเป็นตัวอย่างที่ชัดที่สุดสำหรับผมแล้ว ว่าความสุขมันอยู่ที่เราเลือกเอง แต่ตอนนี้ผมคงเลือกในสิ่งที่ใจต้องการไม่ได้แล้ว

“เรียบร้อยดีนะครับ”ผมเดินเข้าไปทักทายทั้งคู่ ตอนนี้เรือออกมาได้พักใหญ่แล้ว แต่แดดยังแรงอยู่ ทั้งคู่เลยนั่งพูดคุยจิบเครื่องดื่มอยู่ภายในเรือ

“คุณเชษฐ์กับคุณตี๊ฟนี่คบกันมานานรึยังครับเนี่ย”แม้ว่าจะฟังดูเป็นคำถามที่ละลาบละล้วงไปหน่อย แต่ผมก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีแต่อย่างใด คุณตี๊ฟ ก็ดูไม่ได้มีทีท่าไม่พอใจผมแต่อย่างใด เพราะก็ยังดูยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับผมเหมือนเดิม แต่ดูคุณเชษฐ์จะออกอาการหึงผมหน่อยๆ

“คุณชาร์ปมีอะไรหรือเปล่าครับ ดูสนใจเรื่องราวความรักของเราสองคนเป็นพิเศษเลย”คุณเชษฐ์เองคงกำลังเข้าใจเจตนาของผมผิดไปอยู่แน่ๆ

“ผมต้องขอโทษ ที่ละลาบละล้วงนะครับ แค่พอดีเห็นพวกคุณสองคนแล้วทำให้ผมนึกถึงคนๆ นึงครับ”ผมรีบอธิบายให้ทั้งคู่ได้เข้าใจ ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ผมอยากพูดคุยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ คุณตี๊ฟเป็นคนเริ่มเล่าอย่างขำๆ ถึงจุดเริ่มต้นในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ พอได้ฟังเรื่องราวของทั้งคู่แล้ว ผมนับถือในตัวคุณเชษฐ์เลยครับกับการทุ่มเท ทำหลายอย่างจนได้เป็นแฟนกันในที่สุด แถมทั้งคู่ยังช่วยกันฟันฝ่าบททดสอบต่างๆ มาด้วยกันจนถึงทุกวันนี้ ที่ทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว เทียบกับทั้งคู่แล้ว ผมเองยังไม่เคยทำอะไรเพื่อใครขนาดนี้เลย

“มีอะไรอยากระบาย ก็เล่าได้นะครับ”พอพูดคุยเรื่องของทั้งคู่จบลง คุณตี๊ฟก็เอ่ยถามผมขึ้น อาจเพราะทั้งคู่เองก็ยินดีเล่าเรื่องราวของพวกเค้าให้ผมฟัง มันเลยทำให้ผมกล้าที่จะเล่าเรื่องของตัวเองให้เค้าฟังเช่นกัน แม้ทั้งผมและพวกเค้าเพิ่งจะเคยเจอกัน แต่ผมก็เล่าเรื่องราวให้พวกเค้าฟังอย่างไม่ได้นึกจะปกปิด ตั้งแต่รสนิยมทางเพศของผม ที่ได้ทั้งเพศตรงข้ามและเพศเดียวกัน และผมเคยตัดสินใจเลือกไปแล้วว่าจะเดินในทางสายไหน ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่เคยเป็นความใฝ่ฝันของผม คือการแต่งงานมีลูก สร้างครอบครัว

จนมาถึงจุดเปลี่ยนระหว่างผมกับชะเอม และมีปาร์ตี้เข้ามาในชีวิตของผม คนที่ทำให้ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าชีวิตผมจะเดินไปทางไหน แต่ท้ายที่สุดผมก็ยังเลือกทางเดิม นั่นคือการตัดสินใจคบกับน้องปลา

“ผมว่าคุณรักเค้า”คุณเชษฐ์พูดขึ้นหลังจากที่ฟังความสัมพันธ์ระหว่างผมกับปาร์ตี้ ความสัมพันธ์แรกเริ่มมันถูกตกลงให้เป็นแค่ทางกาย และผมก็เคยมั่นใจว่ามันจะไม่มีทางเกิดความรู้สึกอื่นขึ้นมาได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็เป็นผมเองอีกนั่นแหละที่คิดผิด

“มันไม่สำคัญแล้วละครับ เพราะตอนนี้เราทั้งคู่ต่างเลือกในทางเดินของตัวเองไปแล้ว”ผมบอกไปตามที่เป็นอยู่เพราะความที่ผมอยากสร้างครอบครัวเลยเลือกปลา ส่วนตี้ก็เลือกคนที่พร้อมจะเดินไปกับเค้า เรื่องราวมันควรจะจบด้วยความสุขทั้งสองฝ่าย แต่เปล่าเลย ทางที่ผมเลือกมันพังตั้งแต่ยังมาเริ่มด้วยซ้ำ

“คุณชาร์ปครับ รักมันก็คือรัก อย่าไปจำกัดหรือแบ่งแยกเลยครับว่าจะต้องเป็นใครหรือเพศไหน ถามใจตัวเองดูว่าอะไรมันคือความสุขที่ตัวเราเองต้องการ”ผมยิ้มให้กับคำพูดนั้นก่อนจะลุกออกมา ถึงทั้งคู่ไม่พูดตอนนี้ผมก็รู้ครับว่าอะไรที่จะทำให้ผมมีความสุข เพียงแต่ผมไม่มีโอกาสที่จะแก้ไขอีกแล้ว เท่านั้นเอง ผมปลีกตัวออกมาให้ทั้งคู่ได้มีเวลาส่วนตัว

ยิ่งมองภาพของทั้งคู่ ผมกลับยิ่งนึกถึงอีกคนจับใจ แต่ก็ทำได้เพียงดูความเคลื่อนไหวของเค้า จาก facebook เท่านั้นแม้บางครั้งการที่ผมเปิดเข้าไปดูแล้วจะต้องเห็นเค้าอยู่กับคนอื่น แต่อย่างน้อยขอให้ผมได้เฝ้ามองเค้าอยู่ห่างๆ แบบนี้มันก็คงดีที่สุดแล้ว

ผมละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ แล้วมองดูคู่รักที่น่าอิจฉาอีกครั้ง ผมมองเห็นภาพผมและตี้ซ้อนทับกับภาพของทั้งคู่ ผมโอบตี้ไว้ในอ้อมกอดนั่งทอดสายตาออกไปในท้องทะเลกว้าง หยอกล้อหัวเราะกันอย่างมีความสุข แต่แล้วภาพก็ค่อยๆ จางหายไป ความเป็นจริงตรงหน้าย้ำเตือนกับผมว่าสิ่งที่ผมคิดในมโนภาพ คงไม่มีวันเป็นจริงไปได้

เวลาล่วงเลยมาจนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า เราหันหัวเรือเตรียมกลับเข้าฝั่งแล้ว ส่วนคุณเชษฐ์กับแฟนก็ยังสวีทกันอยู่ ผมยิ้มกับภาพที่เห็นเค้าคลอเคลียกันอย่างมีความสุข แต่แล้วหลังจากที่เห็นเค้ากระซิบกันไปมา เสียงตะโกนของคุณตี๊ฟก็ดังขึ้น

“ไอ้หื่นนนนน”ผมแอบหัวเราะเล็กน้อย ด้วยพอจะเดาได้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน ก็เค้ามาฮันนีมูนกันนี่เนอะ แต่สิ่งที่ได้ยินนั้นก็เหมือนเป็นการปลุกความรู้สึกบางอย่างของผม ใช่แล้วครับ “เซกส์” นี่ผมไม่ได้มีอะไรกับใครมานานขนาดไหนแล้ว นี่ก็ตั้งแต่ผมกับปาร์ตี้ยุติความสัมพันธ์กันนั่นแหละครับ แต่ถ้าเรื่องการช่วยตัวเองมันก็มีบ้างเป็นธรรมดาแหละ ครับเพื่อเป็นการปลดปล่อยและผ่อนคลาย ผมยอมรับว่ายังต้องการเซกส์อยู่ แต่มันรู้สึกไม่อยากมีกับใครในตอนนี้ ผมเลยเลือกที่จะใช้จินตนาการเข้าช่วยเสียมากกว่า มันคงจะไม่ผิดอะไรที่ผมยังใช้ปาร์ตี้ในจินตนาการของผม

“ขอบคุณมากนะครับ ถ้ามีโอกาสสนใจอยากมาอีกก็ยินดีต้อนรับเสมอนะครับ”ผมกล่าวขอบคุณทั้งคู่เมื่อมาถึงฝั่ง ทั้งคู่บอกลาผมก่อนจะกอดคอกันเดินไปยังรถที่จอดไว้ ผมมองแผ่นหลังของทั้งคู่อีกครั้งด้วยความอิจฉา แต่ก็มีความสุขที่เห็นทั้งคู่ได้เจอรักแท้ ถึงขั้นได้แต่งงานอยู่ด้วยกัน แม้มันจะเป็นการแต่งงานในแบบที่จัดขึ้นมาเองและไม่ได้มีกฎหมายรองรับก็เถอะ

ผมสั่งงานลูกน้องอีกเล็กน้อย ก่อนจะกลับบ้าน คิดว่าวันนี้คงออกไปหาที่นั่งดื่มสักหน่อย ตั้งแต่ผมกลับมาบ้านที่ภูเก็ตผมก็แทบไม่ค่อยได้ออกไปดื่มที่ไหนเลย เพราะไม่ค่อยมีเพื่อนดื่ม เพื่อนๆ ที่เคยสนิทกันตอนนี้ในวัยอย่างผมเค้าก็เริ่มมีครอบครัวกันแล้ว ก็ไม่ค่อยจะสะดวกในการออกไปนั่งดื่มเหมือนตอนยังโสดสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ผมเลยเลือกที่จะดื่มคนเดียวที่บ้านเสียมากกว่า ก็มีบางครั้งที่พ่อมาดื่มเป็นเพื่อน แต่ด้วยอายุที่มากแล้วพ่อผมก็ไม่ค่อยดื่มสักเท่ไหร่แล้ว

วันนี้ที่ผมตัดสินใจจะออกไปนั่งดื่มข้างนอกเพราะไม่อยากฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว การออกไปข้างนอกแม้จะไปคนเดียวแต่มันก็ยังดูมีอะไรให้ได้เปลี่ยนมุมมองดูบ้าง ผมอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้าน ถึงร้านประมาณเกือบๆ จะ 3 ทุ่ม ร้านที่ผมเลือกเป็นร้านนั่งชิลๆ บรรยากาศ สบายๆ เรียกว่าคล้ายๆ ร้านประจำที่ผมกับไอ้เหมาและตี้ เคยไปประจำตอนที่อยู่กรุงเทพฯ วันนี้ผมดูบางตาแต่ก็ไม่ถือว่าน้อยมาก หรืออาจเพราะยังไม่ดึกมากคนเลยยังน้อยอยู่ก็ไม่รู้

ก็เขินๆ นิดๆ นะครับกับการมานั่งดื่มคนเดียวแบบนี้ แต่ในเมื่ออย่างอื่นเรายังทำคนเดียวได้ แค่มานั่งร้านเหล้าคนเดียวแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกครับ ผมสั่งเบียร์สดทาวเวอร์นึงพร้อมกับแกล้มอีก 3 อย่าง น้องคนรับออเดอร์ถามย้ำว่าเบียร์นี่เป็นเหยือกหรือเป็นทาวเวอร์ คงเพราะผมบอกว่ามาคนเดียว แต่ผมก็ยืนยันไปตามเดิม กะว่าผมน่าจะพอไหว ดื่มหมดนี่ก็คงกลับไปพักผ่อน

“ครับแม่ พอดีออกมาผ่อนคลายข้างนอกนิดหน่อยครับ คงกลับดึกแม่ไม่ต้องรอนะครับ โทษทีมัวแต่คิดอะไรเพลินๆ เลยไม่ได้บอกว่าออกมาข้างนอก”ผมบอกกับผู้เป็นแม่ที่โทรมาถามไถ่ ผมเองก็เคยชินกับการใช้ชีวิตแบบตอนที่อยู่กรุงเทพฯ เลยไม่ค่อยได้บอกแม่เวลาไปไหนมาไหน แถมตั้งแต่กลับมาอยู่นี่ผมก็ไม่ค่อยได้ไปไหนด้วย แต่พ่อแม่ ต่อให้เราอายุมากแค่ไหนก็คงยังมองเราเป็นเด็กเล็กๆ ในสายตาเค้าแหละครับ ก็คงห่วงเป็นธรรมดา นี่ก็กำชับผมว่าไม่ให้ดื่มมาก ถ้ากลับไม่ไหวก็ให้โทรหาเด็กที่โรงแรมออกมารับ ผมก็ต้องรับคำอย่างหนักแน่นและครับ เพื่อให้เค้าสบายใจ

รอเพียงไม่นานเบียร์ก็มาตั้งที่โต๊ะ บรรยากาศเก่าๆ ก็เข้ามาในความรู้สึกผมอีกแล้ว นี่ไม่ว่าผมจะทำอะไร ไปที่ไหนก็ยังคิดถึงแต่เค้าอยู่ดี ยิ่งวันนี้ผมได้เจอคู่รักอย่างคุณเชษฐ์คุณตี๊ฟ มันยิ่งทำให้ผมคิดถึงเค้า แต่ก็เท่านั้นเพราะเค้าก็มีใครอีกคนอยู่แล้ว ผมหยิบแก้วเบียร์ขึ้นดื่มเพื่อหวังให้ลืมเค้าไปบ้างแม้ชั่วขณะก็ตามที

“ชาร์ป”ผมเงยหน้าขึ้นตามเสียง ก่อนจะพบใครคนนึงยืนยิ้มให้ผมอยู่ ใครคนนึงที่ผมไม่ได้เจอมานาน และเกือบจะลืมเค้าไปแล้วเสียด้วยซ้ำ


TBC

ถ้าใครไม่รู้จักเชษฐ์ตี๊ฟลอง ไปอ่าน 45 วันพนัน(ไม่)รัก ของไรท์นะฮ่ะ อิอิ (ขายของ)

แต่ถ้ารู้จักคู่นี้แต่สงสัยว่าเค้าไปฮันนีมูนกันตอนไหน

ก็เป็นตอนพิเศษที่แต่งไว้ แต่ยังไม่เคยลงฮ่ะ 555

ส่วนใครที่โผล่มาตอนท้าย ต้องรอตอนหน้านะคร๊าบบบบ

ขอบคุณที่ติดตามนะฮ่ะ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ใครอะมาตอนท้าย คู่ขาเก่า แฟนเก่า
  รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ไม่ใช่ตี้

 :m14:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด