มนุษย์แฟนเด็ก
40
มีความอ่อนแอก็แพ้ไป
ตั้งแต่ไปเที่ยวทะเลหลังสอบเสร็จก็ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว ทุกคนยังใช้ชีวิตตามปกติ ไปเรียน ไปเล่น หาของอร่อยทานแก้เครียด จันทร์เจ้ากับทิวากาลก็ดูเหมือนจะหวานกันยิ่งขึ้นและเพื่อนก็หมั่นไส้เช่นเดิม แต่ช่วงนี้คนนิสัยไม่ดีไม่ค่อยว่าง เพราะยุ่งกับงานทั้งที่มหาวิทยาลัยและที่บ้าน ทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันทุกวัน แต่ทิวากาลยังหาเวลาว่างโทรศัพท์มาหาบ่อย ๆ
Good boy มาก ๆ
“พี่จันทร์จ้าวววววววว~~~” เจ้าของชื่อหันไปมองน้องสาวที่โผล่มาแค่หัวที่หน้าประตูห้องแต่งตัว จ๋าจ้ายิ้มกว้าง เดินเข้าไปหาพี่ “หูย! อย่างกับเทวดาแหนะ!” ยกนิ้วโป้ง เอ่ยชมพี่ชายที่อยู่ในชุดสูทสีขาวทั้งตัว ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอ่อน ๆ ริมฝีปากเงาวับดูอิ่มขึ้นด้วยลิปกลอสบาง ๆ กลุ่มผมนุ่มถูกดัดเป็นลอนเล็ก ๆ ....ตุ๊กตาดี ๆ นี่เอง
“เคยเจอเทวดาเหรอ?”
“ขอร้องค่ะ อย่ากวนเลย”
จันทร์เจ้าหัวเราะ อยากยื่นมือไปขยี้ผมน้องสักทีแต่เกรงใจทรงผมสวย ๆ ที่นั่งนิ่ง ๆ ให้ช่างทำอยู่หลายชั่วโมงมาก วันนี้น้องแต่งตัวสวยด้วยชุดเดรสสีโอลด์โรสเปิดไหล่ผ้าลูกไม้กระโปรงสั้นเหนือเข่าเล็กน้อย ตอนตัดชุดเจ้าตัวแทบร้องไห้เพราะไม่ชอบสีชมพู แต่นอกจากจะไม่ได้รับความเมตตายังถูกแกล้งด้วยการทาเล็บสีชมพูพาสเทลและแถมดอกไม้ประดับบนผมอีกด้วย
สองพี่น้องควงแขนกันลงไปชั้นล่างของบ้านเมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พบว่าคุณพ่อ คุณแม่ จริงใจและคุณตาคุณยายก็นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วย เพราะวันนี้ต้องไปงานเลี้ยงอะไรสักอย่างที่จันทร์เจ้าลืมชื่อ จึงต้องแต่งตัวให้เกียรติสถานที่และเจ้าของงาน หม่ามะอยู่ในชุดราตรียาวสีแดงเลือดนก แต่งหน้าทำผมสวยเสียจนจำแทบไม่ได้ ป่าป๊ะกับจริงใจแต่งตัวคล้าย ๆ กัน เจ้าเด็กปีศาจเซ็ทผมหน้าด้านเปิดหน้าผากแต่งด้วยเจลอวดกรอบหน้าคมอย่างที่ปกติไม่ค่อยชอบทำ ส่วนคุณตากับคุณยายนั้น ไม่ไปด้วย ท่านบอกแก่แล้ว แค่ไม่อยากไปมากกว่าล่ะซี่
ก่อนออกจากบ้าน จันทร์เจ้าวิ่งปรู้ดเข้าครัวและหาอะไรรองท้องทานจนอิ่ม ไปถึงงานต้องเป็นอาหารเป็นค็อกเทลแน่ ๆ มันไม่ใช่สไตล์เลย ฮือ การเดินทางวันนี้ใช้รถยนต์หนึ่งคันซึ่งมีคนรถผู้ซึ่งเป็นคนขับ หม่ามะ ป่าป๊ะ และจ๋าจ้า และจันทร์เจ้าไปกับจริงใจที่จะขับสปอร์ตไบค์คันโปรดไป
ยืนรออยู่หน้างาน เพราะมาถึงก่อน เอนตัวไปซบแขนน้อง ตาปรือ ไม่ได้ง่วง แค่อยากนอนเฉย ๆ
“อ๊ะ!” ลูกหมูตัวเซ เพราะจริงใจเดินไปข้างหน้าโดยไม่บอกกล่าว กำลังจะโวยวายแล้ว แต่เห็นคนที่เด็กปีศาจเดินเข้าไปหาเสียก่อน ลูกหมูตาโต รีบวิ่งแซงน้องไปกอดผู้มาใหม่ทั้งสอง
“พี่ฟ้าาาาา น้าจ้าวววววววว”
“ไง ลูกหมู”
“หนูคิดถึงที่สุดเลย!!~”
“สวัสดีครับ” จริงใจยกมือไหว้ จันทร์เจ้าชะงัก ยกมือไหว้ตาม คิดถึงมากไปหน่อย ลืมสวัสดีก่อนเลย แง
“ทำไมไม่มีใครบอกหนูว่าน้าเจ้ากับพี่ฟ้าจะมา”
“เซอร์ไพรส์ไง” น้าเจ้าพูด ส่งยิ้มหล่อมาด้วย ถึงจะเป็นหลานแต่ใจก็เต้นตึก ๆ โดนความหล่อของน้าโจมตีเข้าแล้ว หูย แย่จัง เจ้าชีวันยกแขนกอดคอหลานชาย ลูกหมูกอดเอวน้า หลับตาพริ้มเอนซบอกอุ่น
เพลิงฟ้าและจริงใจกลอกตาในจังหวะเดียวกัน ทำไมวันนี้เจ้าชีวันได้เจเจไปครอง ต้องไปเพลิงฟ้าสิ เจเจต้องมาอ้อนพี่ฟ้าสิครับ!
“ไม่เข้าไปล่ะ รออะไรกัน?”
“รอแม่ อีกสักพักคงจะถึงครับ” จริงใจตอบ
“นี่ขับมอเตอร์ไซค์กันมาเหรอครับ?”
“ครับ” ยิ้มอ้อนทันทีที่ตอบจบ เพลิงฟ้ามองตาเขียวปั๊ด ถึงจะไม่ห้ามแต่ก็ไม่ชอบให้ขี่สักเท่าไหร่ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็ก ๆ จริงใจรีบเอาใจด้วยการปัดปอยผมของพี่ฟ้าออกให้ ผมยาวถูกมัดเป็นมวยยุ่ง ๆ ไว้กลางศีรษะ ถ้าปล่อยลงก็คงยาวไปถึงกลางหลัง แถมด้วยการกอดอีกทีเน้น ๆ คนที่กำลังจะบ่นจึงได้แต่เงียบ เจ้าชีวันหัวเราะเบา ๆ เมื่อทำอะไรหลานไม่ได้คนโดนค้อนก็เจ้าชีวันไงจะใครล่ะ
“น้าเจ้าขา พี่ฟ้าขา สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ”
“เจเจ! ใครให้หนูแต่งตัวแบบนี้ครับ?!” เพลิงฟ้าหน้ายุ่ง จับไหล่หลานคนเล็กหมุนไปมา จ๋าจ้ามองงง ๆ ก่อนเข้าไปกอดเอวอ้อนอีกคน
“คุณแม่ขาให้หนูแต่งค่ะ พี่ฟ้าขาหนูไม่ชอบเลย”
“พี่จอมครับ!”
“น่า ๆ นาน ๆ ที ทำตัวเป็นจงอางหวงไข่ไปได้” คุณจอมจิตตรีเอ่ยสบาย ๆ แต่ทำเอาคนหวงหลานหัวร้อนไปหมด
“ไม่หวงได้ยังไง ดูสิ กระโปรงสั้นขนาดนี้ แถมยังเปิดไหล่แบบนี้อีก”
“หนูอยากเปลี่ยนชุดค่ะพี่ฟ้าขา”
“เดี๋ยวพี่ฟ้าพาไปเปลี่ยนครับ”
“พอ ๆ อะไรขนาดนั้น เข้างานได้แล้ว” เจ้าชีวันห้าม เพลิงฟ้ายังฮึดฮัดไม่พอใจ เมื่อทักทายและถ่ายรูปที่แบ็กดรอปร่วมกับเจ้าของงานแล้วเขาจึงถอดเสื้อสูทตัวนอกคลุมไหล่ให้จ๋าจ้าทันที
ทำเอาทุกคนส่ายหน้ากับความหวงหลานออกหน้าออกตาจนเกินพอดี แม้แต่มีผู้ชายเดินมาเฉียดก็มองตาขวาง
“พี่ดีใจมากเลยที่เป็นผู้ชาย”
“อือ” จริงใจรับคำเสียงกระซิบของพี่ชาย แต่ขนาดเป็นผู้ชายยังดราม่าน้ำตาแตกกันไปแล้ว ถ้าเป็นผู้หญิงกันทั้งสามคนคงโดนขังอยู่บนหอคอยงาช้างแน่ พี่ฟ้าหวงมาก แต่ชอบ เพราะพี่ฟ้ารักพวกเรามาก ๆ
คิคิ
“หิวจัง”
“ก่อนออกจากบ้านก็ทานไปตั้งเยอะ”
“ก็นั่นมันก่อนออกจากบ้านนี่นา...” เด็กปีศาจถอนหายใจเฮือกใหญ่ ลูกหมูขยับตัวดุ๊กดิ๊ก มองซ้ายมองขวา ทิวายังไม่มาเลย หรือจะมาไม่นะ อ๊ะ! นั่นไง โต๊ะอาหาร!
“หนูหิว” กะพริบตาปริบ ๆ อ้อน
“พี่ฟ้าพาไป”
“ทานมาก่อนออกจากบ้านแล้ว ยังหิวอีกเหรอลูกหมู”
“โธ่ จากบ้านก็จากบ้านสิครับหม่ามะ ตอนนี้เราอยู่โรงแรมแล้ว”
“ตัวบวมมากเกินไปแล้วลูกหมู”
“หนูออกจะหุ่นดี น้าเจ้าอ่ะ!” ค้อนน้าชายวงใหญ่ “ป่าป๊ะ ช่วยหนูด้วย”
“ออกกำลังกายกันหน่อยไหมครับ?”
“แง”
“สวัสดีครับ” ลูกหมูรีบหันไปมองต้นเสียงที่คุ้นเคย ก่อนจะลุกไปหาทันที “อะไร?”
“ทุกคนแกล้งเรา พี่ทิวาช่วยเราด้วย”
“อ้าว ๆ มาใส่ร้ายกันซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้ได้ยังไงลูกหมู ปรับให้งดขนมสักอาทิตย์ดีไหม”
“อู้หูย น้าเจ้าน่ะ อยากเห็นหนูเสียใจเหรอ?”
“หนูไม่เสียใจหรอก มีคนให้อ้อนแล้วนี่”
“เออ พอแฟนมาก็อ้อนแฟน ลืมพี่ฟ้ากับน้าเจ้าแล้วมั้ง?”
“โหยยยย พี่ฟ้าอ่าาา หนูไม่เคยลืม รักมาก ๆ” เพลิงฟ้าแกล้งหรี่ตามอง เจเจยิ้มหวานประจบก่อนหันกลับไปช้อนตามองอ้อนทิวากาล ทำเอาเพลิงฟ้าที่ถูกถีบหัวส่งตั้งตัวไม่ทัน เจ้าชีวันหัวเราะขำกับหน้าเหวอ ๆ ของคนรัก ก่อนรั้งศีรษะอีกฝ่ายมาซบไหล่
“พี่ทิวาพาเราไปตักอาหารหน่อย ชวนใครก็ไม่มีใครไปกับเราเลย”
“อือ ไปดิ”
“เย้เย้”
“ตามใจกันฉิบหาย” จริงใจบ่นหลังจากที่พี่ชายและแฟนพี่ชายออกไป คนอื่น ๆ เองก็พยักหน้าเห็นด้วย
“สวัสดีค่ะ คุณ ๆ”
“สวัสดีค่ะ” คุณจอมจิตตรีเอ่ยทักผู้มาใหม่พร้อมยกมือขึ้นสวัสดี
“นี่ลูก ๆ ของดิฉันค่ะ ทินกรกับรพินทร์”
“สวัสดีครับ / ค่ะ”
“ลูกชายคนกลางกับลูกสาวคนเล็กค่ะ จริงใจกับจ๋าจ้า” สองพี่น้องยกมือสวัสดี จ๋าจ้าเอนไปซบคุณพ่อเมื่อรู้สึกอายหลังจากมองหน้าทินกร “อ้าว เขินอะไรลูก”
“คุณแม่ขา....”
“หึหึ”
“น้องจริงใจ? หน้าคุ้น ๆ นะคะ” จริงใจเลิกคิ้วมองคนทัก รพินทร์คิ้วขมวดขณะมองพิจารณาน้องชายแฟนพี่ว่าเคยเจอกันที่ไหน เธอรู้สึกคุ้น แต่คิดไม่ออก
โลกจะกลมอะไรขนาดนั้น เด็กปีศาจคิดในใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป
“พินทร์รู้จักน้องเหรอลูก?”
“ไม่แน่ใจค่ะ แต่พินทร์รู้สึกคุ้น เหมือนเคยมีคนรู้จักพูดถึง...”
“หน้าผมโหลมั้งครับ”
“หูย! ขอคนหน้าหล่อ ๆ แบบนี้สักสิบคนสิคะ โหลจริงหรือเปล่า”
“พินทร์!”
“อุ๊ย... ขอโทษที่เสียมารยาทค่ะ” หญิงสาวรีบเอ่ยขอโทษ หากแต่ไม่มีใครถือสา
“ผมขอตัวนะครับ” จริงใจเอ่ย ก่อนลุกขึ้นยืน เขาจะไปหาจันทร์เจ้า อยู่ตรงนี้ก็มีแต่ผู้ใหญ่ อึดอัดเปล่า ๆ จ๋าจ้ามองตามพี่ชายตาปริบ ๆ ใจหนึ่งอยากเดินตามไปด้วย แต่อีกใจก็ขี้เกียจ คุยกับพี่พินทร์ก็สนุกดี
สาว ๆ ก็แบบนี้ มีเรื่องให้คุยเยอะแยะ แป๊บ ๆ ก็สนิทกัน
“จันทร์เจ้าไปป่วนฝั่งนั้นหรือเปล่าครับ?” คุณจิรภาสถามถึงลูกชายคนโต
“ป่วนค่ะ แต่เต็มใจให้ป่วน มีน้องจันทร์เจ้าแล้วบรรยากาศในบ้านเปลี่ยนไปเยอะเลยค่ะ”
“โล่งอกไปทีค่ะ นึกว่าเจ้าลูกหมูไปสร้างความวุ่นวายให้เสียแล้ว”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ น้องจันทร์เจ้าขโมยใจบ้านเราไปเต็ม ๆ” ทินกรว่าบ้าง โดยมีรพินทร์พยักหน้าเสริม
“ความสามารถพิเศษเขาเลยครับ”
“เห็นด้วยค่ะ น้องน่ารักมาก ๆ”
“ยังไม่ได้ทานอะไรเหรอ?” ทิวากาลเอ่ยถามเด็กข้าง ๆ ที่มองอาหารหลากหลายอย่างตาวาว
“ทานแล้วครับ แต่หิวอีก”
“เดี๋ยวก็ปวดท้อง”
“ไม่ปวด เดี๋ยวก็ย่อย ยังไม่นอนสักนอน”
“เอาเถอะ อย่าทานเยอะมากแล้วกัน”
“รับทราบ!”
“Piggy~y!”
ร่างสูงคิ้วขมวดทันทีพร้อมกับรีบจ้ำอ้าวไปดึงเด็กหัวทองแดงออกไปจากการกอดรัดลูกหมูของเขา ไอ้เด็กบ้านี่มันไปเป็นใคร มากอดแฟนเขาได้อย่างไหร่กัน แต่ผมสีทองแดงกับนัยน์ตาสีฟ้าแบบนี้เหมือนเขาเคยเห็นที่ไหน...
“Who is he, Piggy?”
“My bae.” “What!!?” เด็กฝรั่งเบิกตาขึ้นทำหน้าตกใจ มองทิวากาลตั้งแต่หัวจรดเท้าแต่ไม่ได้ทำท่าไร้มารยาทแต่อย่างใด คนตาฟ้ากะพริบตาปริบ ๆ “Seriously!?”
“More seriously.” ลูกหมูส่งยิ้มให้คนที่ทำหน้าประหลาด ทั้งที่รู้อยู่แล้วแท้ ๆ ว่าจันทร์เจ้ามีแฟน แต่ก็ยังตกใจจนโอเวอร์ไปอีก แอบเหลือบมองแฟนตัวโตหน่อย หน้าบึ้งจังเลย หึงแน่ ๆ คิคิ
“Herregud!” อืม... ก็ไม่คิดว่าจะเล่นใหญ่ถึงขนาดสบถออกมาเป็นภาษาบ้านเกิดแบบนี้ “My heart is break.”
“เตี้ย ไอ้เด็กนี่ใคร?”
“อ๋อ ลืมแนะนำ ขอโทษครับ นี่มิเกล น้องชายของวินเซนต์น่ะ มิเกล พี่กาล แฟนเรา”
“สวัสดีครับ” เด็กฝรั่งที่พ่นภาษาอังกฤษเมื่อสักครู่กลับลำมาพูดภาษาไทย ทำเอาทิวากาลแอบงงเล็กน้อย เพราะคิดว่าเจ้าเด็กนั่นเป็นชาวต่างชาติที่ไม่สามารถพูดไทยได้ แต่สำเนียงค่อนข้างดี พูดชัดมากทีเดียว อีกอย่าง... น้องชายวินเซนต์อย่างนั้นเหรอ? ถึงว่า รู้สึกคุ้น ๆ กับสีผมและดวงตาแบบนั้น
“สวัสดี”
“แฟนพิกกี้หน้าบึ้งชะมัด Don’t mad at me นะ”
ทิวากาลกดมุมปากเล็กน้อยไม่ได้พูดอะไร มิเกลส่งยิ้มสวย หันกลับมามองพิกกี้ที่กำลังให้ความสนใจกับอาหารในมือ
“ไม่นึกว่าพิกกี้จะมางานแบบนี้ด้วย”
“โดนมัดมือชก ไม่อยากมาหรอก เราก็ไม่คิดว่ามิเกลจะมา”
“ปาปามัดมือชกเหมือนกัน แด๊ดก็ไม่ช่วยเลย เซ็ง สนุกนักแกล้งลูกเนี่ย”
“แต่ดีใจที่ได้เจอนะ อยากเจอนานแล้ว คิดถึง”
“หึ! ทำไมไม่ไปหาที่บ้านเล่า หรือติดแฟน เดี๋ยวไปฟ้องเด็ก ๆ ดีกว่า” เด็ก ๆ ที่พูดถึงคืองูที่มิเกลกับวินเซนต์เลี้ยงเอาไว้ราวสี่ถึงห้าตัว
“งุ้ย เราเปล่าสักหน่อย แล้ววินเซนต์มาด้วยหรือเปล่า?”
“มาสิ นั่นไง” มิเกลชี้ไปที่พี่ชายที่กำลังเดินมาพร้อมกับเพื่อนสนิท “หมอนั่นไม่พลาดหรอก ปาปาควงออกงานบ่อยกว่าแด๊ดอีก” ไม่นานคนถูกพูดถึงก็มาถึง วินเซนต์ยกแขนกอดคอน้องชาย มืออีกข้างล้วงกระเป๋า ส่วนดไวท์พุ่งกอดจันทร์เจ้าเต็มแรง
“พิกกี้!!”
“อั่ก! ปล่อยเรา อาหารจะตก~” จันทร์เจ้าโวยวาย ตากลมโตมองไปยังจานอาหารในมืออย่างเป็นห่วงกลัวว่ามันตกกลิ้งตกไปให้ใจหายวาบ คนกอดปล่อยออกทันทีและทำหน้าเซ็ง หันไปทักแฟนเพื่อนแทน
“สวัสดีครับพี่”
“อือ ดี”
“คิดถึงพิกกี้มากอดอีกทีซิ เลิกกินก่อนได้ไหม?”
“กอดกูไหม?” ทิวากาลถามเสียงเหี้ยม ดไวท์สะดุ้ง ส่งยิ้มแหยไปให้ และก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวพร้อมยกมือขึ้นเป็นเชิงยอมแพ้
“ไม่เอาครับ”
“แฟนพิกกี้ขี้หวงมากเลย เมื่อกี้มิเกลกอดก็โดนมองแบบนี้”
“ก็เราน่ารักนี่นา พี่ทิวาเลยหวง คิคิ”
“โวะ! อ้าวจริงใจ มาด้วยเหรอ?”
“เห็นไหมล่ะ”
“กวนตีนอีกละ เบื่อจริง” ดไวท์ส่ายหน้าเซ็ง พี่น้องบ้านนี้มันกวนตีนกันทุกคน
“ไปนั่งกันดีไหมครับ พิกกี้จะได้ทานสะดวก”
“อู้หูย! Good idea มาก ๆ เลย วินเซนต์ ไป ๆ” ตาโต ยกนิ้วโป้งให้ พลางมองหาเก้าอี้ที่ถูกจัดไว้ตามมุมต่าง ๆ
“เห็นแก่กิน!”
“พูดมาก!” ถลึงตาใส่ดไวท์พร้อมยัดทาร์ตไข่ต้มใส่ปากคนพูด หัวเราะคิกคักเมื่อแกล้งเพื่อนได้ วิ่งไปหลบหลังทิวากาล โผล่หัวออกไปแลบลิ้นใส่ดไวท์
“กวนงี้อิ่มแล้วดิ”
“ไม่อิ่ม แต่ไม่หิวแล้ว คิคิ”
(มีต่อค่ะ)