#พ่อมดเหล้า ★ จบแล้ว + Special Story of Rum || อัพเดท : 12/21/2016
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #พ่อมดเหล้า ★ จบแล้ว + Special Story of Rum || อัพเดท : 12/21/2016  (อ่าน 133655 ครั้ง)

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



#พ่อมดเหล้า
แฮมสเตอร์ ♡ เขียน

แด่
เซเวอร์รัส เสนป
ผู้หลงรักลิลี่ พอตเตอร์สุดหัวใจ



Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2016 18:07:50 โดย Hamzholic »

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
Re: #พ่อมดเหล้า
«ตอบ #1 เมื่อ12-05-2016 22:35:45 »

#1.1

ในขณะที่กำลังนั่งรอไอ้เอกเพื่อนรักคุยกับอาจารย์อยู่ที่ใต้ตึกคณะ สายตาของผมก็บังเอิญไปสะดุดเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังมองมา..

เขามีความน่าสนใจด้วยกันทั้งหมดสามอย่าง

คือหนึ่ง..เขาเป็นลูกครึ่งที่หล่อมาก!

ต่อให้นั่งไกลกันกว่านี้ ผมก็เชื่อว่าความหล่อเหลาบนใบหน้าของผู้ชายคนนั้นจะยังคงโดดเด่นเกินใคร จมูกก็โด่ง ผิวก็ขาว สันกรามก็สวย แถมยังมีรูปร่างสูงโปร่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดนักศึกษาของมหา’ลัยที่สวมทับด้วยเสื้อยีนส์คอปกสีเข้มนั่นอีก คนอะไรมันจะรวบรวมความดูดีเอาไว้ได้มากมายขนาดนี้!?

แล้วที่ผมบอกว่าเขาเป็นลูกครึ่งน่ะ ก็ไม่ใช่เกิดจากการที่เดาเอาสุ่มสี่สุ่มห้านะ เพราะถ้าลองมองผ่านๆ ความตะวันตกที่ฉายชัดบนใบหน้าเกินกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ รวมถึงผมสีบลอนด์สว่างตัดสั้นเข้าทรงรับกับใบหน้าเรียวยาว คงจะบอกได้ว่าเขาเป็นฝรั่งแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าลองพิจารณาให้ดี..จะพบว่าช่วงตาเรียวยาวและคิ้วเข้มๆ ของเขานั้นมีความเป็นชาวเอเชียสูงมาก ต้องเกิดจากการผสมผสานกันระหว่างพ่อแม่คนละเชื้อชาติอย่างแน่นอน ซึ่งต้องขอบอกเลยนะว่า หล่อลูกครึ่งแบบเนี้ย โคตรสเปกผมเลย ยิ่งอีกฝ่ายขยับริมฝีปากกระจับได้รูปสวยส่งยิ้มมาให้ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ความดูดีเข้าไปอีกหลายเท่า ดูดีถึงขนาดที่ผมรู้สึกว่าตัวเองเนื้อเต้น จนเกือบจะพลาดความน่าสนใจข้อที่สองของเขาไป

เพราะว่าข้อที่สองคือ..เขาเป็นพ่อมด!

ใช่ พวกคุณอ่านกันไม่ผิดหรอกครับ เขาเป็นพ่อมดตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ แล้วก็อย่างที่บอก ผมเกือบจะพลาดข้อนี้ไปแล้ว เพราะโดยปกติถ้าผมเจอ ‘พวกเขา’ สิ่งแรกที่ผมจะเห็นก่อนเลยก็คือ ‘กระแสแห่งมนตรา’ แต่เพราะว่าผม.. เอ่อ.. มัวแต่หลงอยู่กับรูป (ที่ยังไม่ได้ลิ้มชิมรส ยังไม่ได้กลิ่น และยังไม่ได้ยินเสียง) ของนายคนนี้ ก็เลยทำให้มองเห็นมันทีหลังความหล่อเหลาชวนมองน่ะครับ แหะๆ

อ้อ แล้วก็ไม่ต้องสงสัยนะว่าทำไมทุกคนถึงไม่รู้ว่าเขาเป็นพ่อมด เพราะต่อให้มีความแปลกหน้ามากกว่าแค่ไหน แต่ ‘เวทมนตร์การเข้าสังคมมนุษย์’ ของพวกพ่อมดแม่มดก็สามารถปิดบังตัวตนและอยู่ร่วมกับมนุษย์ธรรมดาทั่วไปได้โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้

ยกเว้น…มนุษย์แบบผม

แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ยังมีเรื่องให้สงสัยนะ ว่าพ่อมดรูปหล่ออย่างเขามาปลอมตัวเป็นนักศึกษาอยู่ที่นี่ทำไมกัน? สงสัยพอๆ กับที่ทำไมเขาถึงส่งยิ้มมาให้ผมนั่นแหละ?

ยิ้มอย่างเดียวไม่พอนะ... มองไม่เลิกด้วย...

ซึ่งไอ้การมองเนี่ยแหละ คือความน่าสนใจอย่างสุดท้ายของผู้ชายคนนี้ที่ผมอยากจะพูดถึง เพราะมันไม่ใช่แค่การที่มองมาแล้วผ่านไป ทว่านัยน์ตาสีม่วงอ่อนเป็นประกายแปลกตาคู่นั้นกลับจ้องมองมาที่ผมไม่วางตา มันเป็นสายตายตาการมองในแบบที่ผมไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยนัก แถมยังมีข้อความบางอย่างในนั้นที่ถูกส่งผ่านมาด้วย... จนรู้สึกได้เลยว่ามันมีผลต่อหัวใจของผมเข้าขั้นรุนแรง เพียงแต่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกหวั่นใจนักที่จะต้องตีความมันออกมาเป็นภาษาที่ผมสามารถจะเข้าใจได้ จะว่ากลัว..ก็ไม่น่าจะใช่ เรียกว่าน่าจะอยากเลี่ยงมากกว่า ผมเลยต้องสลับไปมองทางอื่นบ้าง เพราะไม่อยากจับจ้องอยู่ที่มันนานเกินไป

แต่ถึงอย่างงั้นสมองเจ้ากรรมก็ยังไม่วายสั่งการให้ริมฝีปากหยักยิ้มส่งไปให้เขา เพื่อที่ให้อีกฝ่ายเห็นว่าผมเป็นมิตรพอที่จะสามารถเดินเข้ามาคุยด้วยได้หากเขาต้องการ

นี่ไม่ได้อ่อยนะ แค่ส่งสัญญาณเฉยๆ เอง

แต่ยังไม่ทันที่พ่อมดหนุ่มหน้าลูกครึ่งจะแสดงท่าที่อะไรอื่นอีกนอกจากที่มองมาแล้วก็ยิ้มอย่างเปิดเผย สายตาผมก็เหลือบไปเห็นเอกที่กำลังเดินลงบันไดมา..

เสียดายจัง ถ้าเอกลงมาแล้ว งั้นก็คงต้องกลับแล้วล่ะ

“เอก”

ผมร้องเรียก พลางยกมือเพื่อให้เพื่อนเห็นตำแหน่งของตัวเอง แต่หางตาขวาก็ยังไม่วายเหล่มองใครอีกคนที่มีความน่าสนใจถึงสามข้อ จนเริ่มรู้สึกว่า..ตัวเองน่ะบ้าผู้ชายเกินไปแล้ว!

ที่แรกผมเห็นเอกเดินมาด้วยสีหน้าเป็นปกติมาก ถึงแม้ว่าตาเหยี่ยวของมันจะดูดุและเหมือนคนไม่สบอารมณ์อยู่ตลอดเวลาก็ตามที แต่ผมก็รู้ดีว่านั่นคือความปกติที่ติดตัวมันมาตั้งแต่เกิดแล้ว ทว่าจู่ๆ เพื่อนผมก็หยุดเดิน..ทั้งๆ ที่อีกแค่สามก้าวก็จะถึงโต๊ะที่ผมนั่ง ก่อนจะยกนิ้วขึ้นเการอยแผลเป็นบริเวณหางคิ้วข้างซ้าย สีหน้าที่เคยปกติก็ค่อยๆ เริ่มฉายแววกังวลกับบางสิ่งบางอย่างขึ้นมา ในขณะที่สายตาก็มองมาที่ผมด้วย

อะไรของมันวะ?

อยากจะถามออกไปแบบนั้น แต่ยังไม่ทันจะได้เปล่งเสียงทำเพียงแค่อ้าปาก ไอ้เอกก็พาร่างสูงใหญ่ของมันเดินเลี้ยวไปอีกทาง ทำเอาผมนี่ถึงกับเหวอไปเลย...

และก็ยิ่งเหวอหนักกว่าเก่าเข้าไปอีก เมื่อทางที่มันเดินไปดันเป็นโต๊ะของพ่อมดลูกครึ่งคนนั้น แถมยังพูดคุยกันราวกับรู้จักกันมานานแสนนาน น่ะ...นี่มันอะไรเนี่ย!?

แล้วอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้ยินด้วยนะว่าเขากำลังคุยอะไรกัน เพราะมันค่อนข้างจะไกลกันอยู่ เลยยิ่งทำให้ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของผมมันทำงานหนักเข้าไปใหญ่! แต่กว่าจะหายเอ๋อแล้วคิดขึ้นมาได้ว่าควรจะเดินเข้าไปหาเลย สองหนุ่มก็พากันพยักหน้าเหมือนตกลงอะไรบางอย่างกันเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เอกจะเดินกลับมาหาผมได้ในที่สุด

“มีอะไรรึเปล่าวะ?” ผมก็เลยรีบเอ่ยปากถามหาคำตอบจากมันทันที



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-05-2016 13:52:25 โดย Hamzholic »

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
Re: #พ่อมดเหล้า
«ตอบ #2 เมื่อ12-05-2016 22:37:15 »

#1.2

“เอ่อ... คือ...” แต่กลายเป็นว่าเอกอึกอัก สีหน้าดูค่อนข้างลำบากใจ ซึ่งนั่นทำให้ผมรู้สึกเป็นกังวลตามไปด้วย เพราะปกติคนอย่างมันไม่ใช่สไตล์ที่จะมาอึกอักอะไรแบบนี้ เวลาคิดจะพูดหรือทำอะไรมันก็จะทำไปตรงๆ เลย ไม่มีการกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมอะไรทั้งนั้น อย่างครั้งหนึ่งที่มันชมเมียเด็กช่างว่านมใหญ่จนมีเรื่องชกต่อยกันใหญ่โต ยังไม่ทำให้มันสะท้านสะเทือนเลยสักนิด แล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงได้ดูลำบากใจที่จะพูดแบบนี้?

“มีอะไรก็พูดมาเถอะ กูรับได้หมดแหละ” ด้วยความที่ไม่อยากให้มันอึกอักนาน เลยช่วยสร้างความมั่นใจให้มันเพิ่ม ซึ่งก็ได้ผลนะ เพราะหลังจากนั้นมันก็รีบพูดออกมาทันที

“โอเค คืองี้นะมึง กูว่ากูคงจะไปส่งมึงตามสัญญาไม่ได้แล้วว่ะ พอดีกูมีธุระด่วนที่ต้องรีบไปอะ” ก่อนจะตามมาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

“โธ่ กูก็นึกว่าเรื่องอะไร” เรื่องแค่นี้เอง แล้วเล่นใหญ่ซะ ไอ้เราก็นึกว่ามีเรื่องคอขาดบาดตาย! “ไปเถอะ เดี๋ยวกูเรียกคนขับรถมารับเอง”

ไม่พูดเปล่า ผมเตรียมจะหยิบไอโฟนเพื่อโทรหาคนขับรถ หลังจากที่ก่อนหน้านี้โทรไปบอกว่าไม่ต้องมารับแล้ว เพราะว่าวันนี้อาจารย์สั่งงานแล้วปล่อยเร็ว ไอ้เอกเลยอาสาไปส่งที่บ้านแทน

“เดี๋ยวก่อนมึง” แต่ยังไม่ทันที่ผมจะหยิบไอโฟนออกมาพ้นกระเป๋ากางเกงนักศึกษาเลยด้วยซ้ำ เอกก็รีบยกมือห้าม “ไม่ต้องเรียกลุงช้าง (คนขับรถ) มารับหรอก เพราะกูฝากให้ไอ้เหล้ารัมมันไปส่งมึงแล้ว” ก่อนจะชี้ไปในทิศทางที่ผมเกือบจะลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ไอ้เอกเดินไปคุยกับใครมา

ละ...แล้วจะยังไงล่ะ ก็เอ๋อสิครับ!

“เดี๋ยว นี่มึงไปสนิทกับเขาตอนไหนวะ ถึงได้กล้าฝากให้เขาไปส่งกูที่บ้านน่ะ” ไม่รู้หรือไงว่าเขาเป็นพ่อมดที่เอาแต่มองกูไม่เลิกเนี่ย!?

“อะไรของมึง กูหมายถึงไอ้เหล้ารัมสาขาเราที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งนะ ไม่ใช่คนแปลกหน้าสักหน่อย” ไอ้เอกขมวดคิ้วพลางชี้นิ้วไปที่พ่อมดลูกครึ่งคนนั้นอีกครั้ง โดยที่คราวนี้ใช้มืออีกข้างจับหน้าผมให้หันไปให้ตรงกับนิ้วของมันด้วย ราวกับต้องการให้ผมมองให้ถูกคน ซึ่งมันไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่านั่นแหละคนแปลกหน้าขนานแท้!

สงสัยเวทมนตร์การเข้าสังคมมนุษย์ของพ่อมดที่ชื่อ..เหล้ารัมอะไรนั่น จะทำให้เอกเชื่อไปว่าเขาเป็นเพื่อนคณะ’ถาปัตย์ สาขานิเทศศิลป์ปีสองที่เรียนด้วยกันมาด้วยกันตั้งแต่ปีหนึ่งสินะ

งั้นแบบนี้... ผมควรจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

“แต่ว่ามึง...”

“เฮ้ยมึง กูต้องรีบไปแล้ว ไว้เดี๋ยวเจอกันนะ”

“เฮ้ยเอก! เดี๋ยวดิ!”

แต่ในขณะที่ผมกำลังคิดว่าควรจะเอายังไงต่อดี ไอ้เอกเพื่อนผมก็คว้ากระเป๋าที่ฝากไว้ แล้ววิ่งจากไปโดยไม่สนใจเสียงร้องเรียกของผมเลย เยี่ยม!

แล้วจะยังไงต่อล่ะ งี้ก็ถึงวินาทีที่ต้องตื่นเต้นแล้วน่ะสิ!

เมื่อผมหันไปมองทางพ่อมดเหล้า..รัม (โอ๊ยยยย ชื่อเรียกยาก!) จึงได้เห็นว่าเขากำลังลุกจากที่ของตัวเอง แล้วเดินตรงมาทางผม...

ไอ้ตื่นเต้นก็ตื่นเต้นนะ แต่เชื่อมั้ย ว่าภาพที่ผมกำลังเห็นอยู่มันกลายเป็นภาพสโลโมชั่นไปเลยตอนที่เขาเดินมาหาน่ะ มันแบบ...เป็นการเดินที่ต้องใช้คำกล่าวชมว่า ‘สง่างาม’ เท่านั้นถึงจะคู่ควร ดูไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป แต่ก็ดูมีความมั่นใจในทุกย่างก้าวที่เดิน แถมหลังก็ยังตรงเป๊ะอีก อะไรมันจะสมบูรณ์แบบได้ขนาดนี้?

ความเพลินตาในการมองเขาเดินทำให้ผมรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์อย่างน่าประหลาด จนกระทั่งหัวใจเริ่มเปลี่ยนจังหวะการเต้นเป็นเร็วขึ้นเล็กน้อยเพราะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวผู้ชายตรงหน้าในระยะใกล้นั่นแหละ ถึงได้ทำให้รู้ตัวว่าตอนนี้เขาเดินมาถึงโต๊ะของผมแล้ว

ตึกตัก ตึกตัก

บอกตรงๆ เลยนะว่าสามวินาทีแรกผมทำอะไรไม่ถูกเลยนอกจากนั่งมองหน้าเขา จนเข้าวินาทีที่สี่ถึงได้รู้ว่าตัวเองควรจะคว้ากระเป๋าเป้ขึ้นสะพาย แล้วลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับผู้ชายที่สูงกว่าตัวเองตั้งหลายเซนฯ

พออยู่ใกล้กันแบบนี้ เขาตัวใหญ่กว่าผมเยอะเลยแฮะ

นั่นคือสิ่งที่ผมคิด แต่ไม่ได้พูดออกไป

“เอกบอกว่าให้เราไปส่งวาฬที่บ้าน เอากระเป๋ามาสิ เดี๋ยวเราถือให้” เหล้ารัมเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อนด้วยน้ำเสียงที่น่าฟังมาก มันไม่ได้อ่อนหวาน ออกจะเข้มไปด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าอยากจะได้ยินมันอีก ก่อนที่อีกฝ่ายจะยิ้มให้ แล้วยื่นมือมาเหมือนจะรับกระเป๋าไปช่วยถือไว้ให้ตามที่พูด

จริงๆ ผมเกือบจะส่งกระเป๋าเป้ให้เขาแล้ว เพราะท่าทางและคำพูดของพ่อมดคนนี้มันดูเป็นธรรมชาติมาก ราวกับว่าเราสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยปีหนึ่งจริงๆ แล้วเขาก็หล่อมากด้วย (?) ถ้าไม่ติดว่าผมดันมีสตินึกคิดขึ้นมาได้ซะก่อนว่าทุกอย่างนั้นเป็นเพียงสิ่งที่ผู้ชายคนนี้สร้างขึ้น ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด

“ไม่ล่ะ ผมไม่กลับกับคนแปลกหน้าหรอก” ผมจึงเลือกที่จะปฏิเสธด้วยรอยยิ้มบางๆ รู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่านิดๆ เหมือนกันที่ไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจเวทมนตร์ของเขา

ซึ่งพอได้ยินสิ่งที่ผมพูด เหล้ารัมก็ดูจะอึ้งไปเล็กน้อย ก็คงจะตกใจที่ผมไม่ถูกป้อนข้อมูลปลอมๆ เกี่ยวกับตัวเขาในสมองเหมือนเอกนั่นแหละ แต่ก็เพียงไม่นานนะ เพราะว่าหลังจากนั้นเขาก็กลับมายิ้มได้อีกครั้ง แถมยังเป็นยิ้มที่แสดงความพึงพอใจออกมาอย่างชัดเจน และมันทำให้ผมแอบกังวลไม่น้อยเลย

ก็แหม ในสถานการณ์แบบนี้มันจะมีอะไรให้น่ายิ้มพึงพอใจกันเล่า!?

“งั้นผมคงจะต้องแนะนำตัวก่อน” คราวนี้เหล้ารัมเปลี่ยนสรรพนามเรียกแทนตัวเองจากคำว่า ‘เรา’ เป็น ‘ผม’ ดูทางการ แต่ก็เป็นไปในแบบที่พวกพ่อมดแม่มดเอาไว้ใช้สนทนากับมนุษย์ที่รู้ตัวตนของพวกเขาน่ะนะ “สวัสดีครับ ผมชื่อเหล้ารัม เป็นพ่อมดจากตระกูลอัครวรกุลพิชิต ยินดีที่ได้รู้จักครับ” พลางโค้งคำนับอย่างสุภาพ จนผมต้องรีบหันไปมองรอบๆ ว่ามีใครเห็นมั้ย เพราะกลัวคนจะตกใจที่จู่ๆ ก็มีการโค้งคำนับกันเกิดขึ้น แต่ปรากฏว่าคนอื่นหายกันไปหมดแล้ว ทำให้ตอนนี้ใต้ตึกคณะมีแค่ผมกับเหล้ารัมเท่านั้น

“ผมชื่อวาฬ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน” พออีกฝ่ายกลับมายืนตัวตรงเต็มความสูง ผมก็เป็นฝ่ายแนะนำตัวบ้าง รู้นะว่ามันค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบกับของเขา แต่ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริงเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน จนกว่าผมจะได้รู้ว่าเขาเข้ามาหาผมด้วยเรื่องอะไรกันแน่?

“สั้นจัง อย่างน้อยๆ ก็น่าจะบอกนามสกุลของคุณให้ผมรู้นะ” เหล้ารัมหัวเราะ ดูไม่จริงจังอะไรกับสิ่งที่พูดนัก

"เอาเป็นว่าผมเกิดมาในครอบครัวที่เกี่ยวพันธ์กับพ่อมดแม่มดเป็นอย่างดี แต่ตระกูลอะไรนั้น เอาไว้ค่อยบอกหลังจากที่ผมได้รู้ว่าคุณเข้าหาผมทำไมจะดีกว่า” ต่างจากผมที่รีบดึงเข้าเรื่องทันที เพราะอยากรู้สาเหตุที่แท้จริงของการมาของพ่อมดคนนี้เต็มแก่แล้ว

“คุณพูดมาตรงๆ แบบนี้ก็ดี ผมจะได้ไม่ต้องอ้อมค้อม” ซึ่งก็ดูเหมือนว่าเหล้ารัมเองก็ดูจะชอบอกชอบใจไม่น้อยที่เห็นว่าผมเปิดประเด็นตรงๆ ออกไปแบบนั้น ดูได้จากสีหน้าเขาตอนนี้ที่ยิ้มซะจนตาเป็นประกาย ทว่า..นัยน์ตานั้นก็ยังสะท้อนเพียงแค่เงาของผมเหมือนเดิม

เพียงแต่สิ่งที่ผมไม่ทันได้คาดคิด...

“ดีครับ พูดกันตรงๆ ไปเลย จะได้...”
   
ผมชอบคุณครับ”

...ก็คือเขาดันพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

ละ...แล้วดูสิ่งที่เขาพูดสิ!!

“...”
   
"ได้ยินมั้ยครับวาฬ ว่าผมชอบคุณ : )”

ผมอึ้งครับ รู้สึกไปไม่เป็นถึงขนาดที่ต้องก้าวถอยหลังมาเล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายพูดคำว่า ‘ชอบ’ ออกมาได้ดูเป็นธรรมชาติขนาดนั้น น่ะ...นี่ผมไม่ได้หูฝาดไปเองใช่มั้ยเนี่ย!?

“คะ...คุณว่ายังไงนะ!?” กว่าผมจะหาเสียงของตัวเองเจอก็ปาเข้าไปเกือบห้าวินาที โดยที่สายตาก็เอาแต่จ้องจับผิดเหล้ารัม เพราะคิดว่ามันจะต้องเป็นการล้อเล่นอะไรกันแน่

แต่อีกฝ่ายกลับทำเพียงแค่หัวเราะน้อยๆ แล้วยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด “อะไรกันคุณ ผมบอกคุณไปตั้งสองรอบแล้วนะ ฮ่าๆๆ~ แต่ไม่เป็นไร ผมบอกให้ฟังชัดๆ อีกทีก็ได้” ก่อนจะเว้นจังหวะเล็กน้อย แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ส่งผลให้ผมรู้สึกร้อนๆ ที่สองข้างแก้ม! “ผมชอบคุณครับวาฬ : )”

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
Re: #พ่อมดเหล้า
«ตอบ #3 เมื่อ12-05-2016 22:57:08 »

#1.3

ตึกตัก ตึกตัก

หะ...หัวใจผมเต้นแรงขึ้นเมื่อสิ่งที่เหล้ารัมพูดยังคงเหมือนเดิม จนผมอยากจะวิ่งหนีไปตั้งหลักให้ไกลๆ เลยตอนนี้!

โอ๊ยยยย ไม่ใช่ว่านี่เป็นครั้งแรกหรอกนะที่มีผู้ชายบอกว่าอยากจะจีบผมน่ะ เพราะนอกจากหน้าจะหวาน แถมตัวก็ค่อนข้างเล็กแล้ว ใครๆ เขาก็รู้กันทั้งนั้นว่ารสนิยมของผมเองก็เป็นไปในแบบที่ตอบรับเฉพาะแค่เพศเดียวกันเท่านั้น ก็เลยเป็นเรื่องปกติมากหากว่าผมจะกลายเป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้ชายสักคน ไอ้เรื่องที่ถูกบอกชอบแบบไม่ทันตั้งตัวน่ะก็เรื่องนึง แต่สาเหตุจริงๆ ที่ผมอยากจะวิ่งหนีไปตั้งหลักตอนนี้น่ะ ก็เพราะว่า..ผมไม่เคยเจอพ่อมดที่เป็นเกย์มาก่อนเลย!

ย้ำ

ผมไม่เคยเจอพ่อมดที่เป็นเกย์มาก่อนเลย!!

มันเป็นอะไรที่อเมซิ่งมาก แล้วผมก็ตั้งรับไม่ทันด้วย!

จริงนะ ตั้งแต่เกิดจนโตมาถึงทุกวันนี้ ผมและครอบครัวมีชีวิตที่ต้องข้องเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับอย่างพ่อมดและแม่มดมาโดยตลอด เพราะฉะนั้น ผมเองก็เลยเป็นมนุษย์ที่ได้พบเจอพ่อมดแม่มดมากมายหลายต่อหลายคน แต่ก็ยังไม่เคยมีคู่รักเพศเดียวกันให้เห็นเลยสักครั้ง

แล้วนายเหล้ารัมนี่มาจากไหน ทำไมถึงมาชอบเพศเดียวกันได้ล่ะเนี่ย!?

“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่ได้ล้อผมเล่น เพราะผมไม่ตลกด้วยนะคุณ” คราวนี้ผมเริ่มถามเสียงจริงจัง รู้สึกปักใจไปนิดนึงแล้วว่าสิ่งที่เขาพูดมาจะต้องเป็นแค่การอำกันเล่นแน่ๆ แต่ดูเหมือนว่าเขาก็จะยังยืนยันตามเดิม

“ผมก็ไม่ได้พูดให้ตลกนี่ แล้วผมก็ไม่ได้ล้อเล่นด้วย”

“แต่คุณเข้าใจมั้ยว่ามันเชื่อยาก”

“เชื่อยากตรงไหนกัน” เหล้ารัมเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เหมือนว่าเขาสงสัยในสิ่งที่พูดจริงๆ

“กะ...ก็จู่ๆ คุณเดินเข้ามาหาผม บอกว่าชอบผม ทั้งที่คุณเองก็เป็นพ่อมดอะ”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่ผมเป็นพ่อมดล่ะ คนเราจะชอบใครสักคนมันเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ด้วยหรอ?”

“เกี่ยวสิ”

“ยังไง”

“ก็ผมไม่เคยเห็นพ่อมดที่เป็นเกย์มาก่อนเลยนี่!”

ทันทีที่ผมพูดจบประโยค... เหล้ารัมก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น ทำเอาผมแอบเหวอนิดๆ เพราะที่พูดน่ะไม่ได้ตั้งใจให้ขำสักหน่อย ไม่เห็นหรือไงว่าท้ายประโยคผมขึ้นเสียงดังด้วยนะ นี่มันหมายถึงว่าผมกำลังพยายามเถียงต่างหากเล่า!

แล้วเขามาหัวเราะอะไรไม่ทราบ?

“โทษที ผมไม่ได้ตั้งใจจะหัวเราะนะ เพียงแต่... คิก...” บอกไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ยังหัวเราะไม่เลิกเนี่ยนะ!? อะ...ไอ้พ่อมดบ้า! “โอเคๆ ผมไม่หัวเราะแล้ว ไม่ต้องทำตาดุแบบนั้นก็ได้ คิก.. เอ่อ.. คือ..ที่ผมหัวเราะเนี่ย ก็เพราะว่าขำที่คุณไม่เชื่อผมเพียงเพราะว่าคุณไม่เคยเห็นพ่อมดที่เป็นเกย์ไง”

“แล้วมันไม่จริงหรอ พ่อมดเขามีเกย์ซะที่ไหนกัน ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นเลย”

“ใครว่าไม่มีล่ะ เยอะแยะ เพียงแต่ว่าคุณไม่เคยเจอต่างหาก”

“แต่ว่า...” ใจจริงผมอยากจะเถียงต่อ แต่พอเห็นหน้าตามั่นอกมั่นใจของเหล้ารัมแล้ว ผมก็คิดว่าควรปิดประเด็นแค่นี้จะดีกว่า ยังไงผมเองก็เป็นมนุษย์ ไม่เคยไปเที่ยวทุกซอกทุกมุมของโลกเวทมนตร์ ทำให้อาจจะยังไม่เจอ ‘แหล่ง’ ของเพศที่สามในพวกผู้วิเศษก็ได้ การไม่รู้อะไรจริงแล้วพูดเยอะ มีแต่เสียกับเสียทั้งนั้นแหละ “โอเค มีก็มี แต่มันก็ยังเชื่อยากอยู่ดีนะ เรื่องที่คุณชอบผมน่ะ ผมว่า... คุณต้องมีเจตนาอื่นแอบแฝงแน่ๆ”

ผมทำหน้ามั่นใจในสิ่งที่พูด เผื่อว่าอีกฝ่ายจะแสดงพิรุธอะไรออกมาให้เห็น แต่เขากลับยิ้ม..

“ไม่มีหรอกไอ้เจตนาแอบแฝงอะไรนั่นน่ะ แล้วเรื่องที่ผมชอบคุณมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เชื่อยากด้วย ต่อให้เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาอย่างคุณที่ไม่มีเวทมนตร์อะไร ก็ยังสามารถพิสูจน์ได้”

“พิสูจน์?” คราวนี้สิ่งที่เขาพูดมาเป็นอะไรที่มันน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม เพราะถ้าพิสูจน์ได้จริง ผมก็อยากจะลองดูสักตั้งนะ โดยเฉพาะกับพ่อมดที่หล่อลูกครึ่งตรงสเปกผมแบบเหล้ารัมเนี่ย

“ใช่ พิสูจน์”

“ยังไง”

“มองตาผมสิ : )”

“...”

ตึกตัก ตึกตัก

พระเจ้า... ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าประโยคธรรมดาๆ อย่าง ‘มองตาผมสิ’ จะส่งผลรุนแรงต่อหัวใจผมมากมายขนาดนี้... ในขณะเดียวกัน มันก็เปรียบเสมือนคำสั่งวิเศษที่ทำให้ผมจับจ้องเข้าไปในตาของเขา...

สิ่งที่ผมเห็นคือนัยน์ตาสีม่วงอ่อนเป็นประกายคู่นั้นมีเพียงแค่เงาสะท้อนของใบหน้าผมไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ ทว่า... ข้อความที่ผมเคยกลัวที่จะตีความกลับถูกส่งผ่านมาให้อีกครั้ง ซึ่งมันทำให้ผมใจเต้นแรงขึ้นเป็นสองเท่า เพราะรู้สึกได้จากสิ่งที่เห็นว่าเขา...น่าจะไม่ได้โกหก...

จริงๆ ก็รู้นะว่าแค่นี้มันยังน้อยไป แต่คุณเคยมั้ย เมื่อมองตาใครสักคน กลับได้รับรู้ถึงสิ่งที่อยู่ภายใน ทั้งๆ ที่เขาคนนั้นอาจจะบอกว่าชื่นชมคุณ หากแต่นัยน์ตากลับเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

นั่นล่ะ มันก็คงจะเหมือนกับเหล้ารัมตอนนี้ ที่ปากบอกว่าชอบ... แล้วสายตาที่มองมาก็สื่อความหมายแบบนั้นจริงๆ...

ตึกตัก ตึกตัก

"ทีนี้คุณเชื่อผมหรือยังวาฬว่าผมชอบคุณจริงๆ : )”

“...” ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปในทีแรก ทำเพียงแค่ก้าวถอยออกมาเล็กน้อย เมื่อสังเกตเห็นว่านายพ่อมดคนนี้เหมือนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้กว่าเดิม

เฮ้อออ นี่ถ้าเขาลองพูดว่าชอบผมโดยไม่ยิ้มดูบ้าง บางทีมันอาจจะน่าเชื่อถือจนผมไม่ต้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขาเลยก็ได้นะ

“ก็...ห้าสิบห้าสิบอะ” ใจจริงไม่อยากจะตอบอะไรเขากลับไปเลยด้วยซ้ำ แต่คิดว่าถ้าเอาแต่เงียบ บทสนทนาวันนี้ก็คงไม่จบแน่

“ห้าสิบห้าสิบงั้นหรอ” แล้วจู่ๆ เหล้ารัมก็ทำหน้าเหมือนกำลังคิดคำนวณบางอย่าง ทำให้ผมแอบมองเห็นมุมของความเป็นเด็กน้อยจากหน้าเขาได้ในตอนนี้ “ก็ยังดี ดีว่าคุณไม่เชื่อผมเลยน่ะเนอะ” ก่อนที่มันจะหายลับไป แล้วแทนที่ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแบบที่เขาชอบทำ

นอกจากหล่อแล้ว ยังหน้ารักอีก คนแบบนี้เนี่ยนะที่จะมาชอบผม ไม่ใช่ว่ามีสาวๆ ตรึมแล้วหรือไง?

“แล้วยังไงล่ะ แค่จะบอกว่าชอบแค่นี้เองหรอ” ไม่ใช่ว่าอยากจะพูดจาให้ดูกวนเหมือนอยากจะหาเรื่องนะ แต่ผมแค่อยากรู้จริงๆ ว่าการที่เขามาบอกชอบแบบนี้ แล้วผมควรจะทำไงต่อดี?

“อันที่จริงแล้วไม่ใช่แค่จะมาบอกชอบหรอก แต่ว่าผมอยากจะมาขออนุญาตคุณก่อน เพราะผมไม่อยากจะบังคับจิตใจใคร”

“ขออนุญาต?” นั่นไง ผมบอกแล้วว่ามันจะต้องมีเจตนาอะไรแอบแฝง แล้วดูท่าจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ด้วย เพราะเหล้ารัมใช้คำว่า ‘ไม่อยากบังคับจิตใจใคร’ แสดงว่าต้องเป็นเรื่องที่น่าหนักใจน่าดู

โธ่ ไอ้เราก็เกือบเชื่อไปแล้วนะ ว่าเขาชอบเราจริงๆ...

“ใช่ครับ ในฐานะที่คุณเองก็ผูกพันกับพวกพ่อมดแม่มดมาตั้งแต่เกิด คุณคงจะรู้ดีว่าหัวใจของพวกเรานั้นรักใครชอบใครยาก”

อันนี้จริง เพราะในโลกของนิยาย พวกเขามักตกหลุมรักได้โดยง่าย แต่ในโลกของความเป็นจริง สิ่งมีชีวิตอย่างพวกเขานั้นไม่ใช่ว่าเอะอะก็ชอบเอะอะก็ตกหลุมรัก พ่อมดแม่มดบางคนที่เกิดและตายไปโดยไม่ได้พบเจอกับคนที่รักหรือชอบเลยก็มี ดังนั้นเวลาที่พวกเขาพบเจอคนที่ใช่ขึ้นมา จะเกิดการรุกหนักกว่าคนธรรมดาทั่วไปสองถึงสี่เท่า

หมายถึงในกรณีที่ไม่ได้มีเจตนาอะไรแอบแฝงน่ะนะ : (

ว่าแต่... “อ่าฮะ แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องที่คุณจะขออนุญาตยังไง?”

“ก็ในที่สุดผมก็ได้เจอคนที่ชอบแล้ว ผมเลยอยาก... ขออนุญาตจีบคุณได้มั้ย : )”

“...”

ตึกตัก ตึกตัก

ทะ...ที่แท้ก็จะขอจีบหรอกหรอ? งั้นที่บอกว่า ‘ไม่อยากบังคับจิตใจ’ ก็เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับใจของแต่ละคนสินะ

ละ..แล้วก่อนหน้านี้ผมไปคิดถึงประโยชน์แอบแฝงบ้าบอกอะไรล่ะเนี่ย!?

“ว่าไงครับ คุณจะอนุญาตมั้ย : )”

“เอ่อ... คือ...”

โอ๊ยยยย ไม่ได้อยากจะติดอ่างเพื่อเล่นตัวอะไรเลยนะ เพราะบอกตรงๆ ว่าถ้ามีผู้ชายอย่างเหล้ารัมมาจีบนี่ผมก็โอเคมากๆ เพราะว่าเขาเองก็ถูกใจผมอยู่ไม่น้อย เพียงแต่ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงให้ตัวเองดูไม่แรดเกินไปดี คืออย่างน้อยๆ ผมก็เป็นผู้ชายเปล่าวะ ถึงจะชอบเพศเดียวกัน แต่ยังไงก็ยังเป็นผู้ชาย ก็ควรที่ต้อวรักษาจริตหน่อยสิ ไม่ได้เผลอยิ้มเขินจนแก้มปริต่อหน้าผู้ชายอีกคนแบบนี้!

ทว่า...

จู่ๆ รอยยิ้มของผมก็หายไปในพริบตา...

เมื่อความคิดหนึ่งผุดขึ้นราวกับเป็นสัญญาณเตือนภัยอันตรายร้ายแรง...

“อ้าว เป็นอะไรไป ทำไมไม่ยิ้มแล้วล่ะ?” แม้แต่เหล้ารัมที่ปกติจะชอบยิ้มก็กลับต้องขมวดคิ้วมุ่น เพราะนอกจากรอยยิ้มของผมจะหายไปแล้ว นัยน์ตาสีน้ำตาลโศกของผมคงกลับมาทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี...

ซึ่งก็ไม่แปลกหรอกที่ผมจะเลิกยิ้ม... ไม่ใช่เพราะผมเศร้า แต่แค่รู้สึกเหมือนความฟินก่อนหน้านี้มันถูกทำลายลงจนหมดสิ้น ทำให้รอยยิ้มที่ได้รับจากความฟินนั้นถูกพังทลายลงไปด้วย เมื่อภาพในหัวมันดำเนินไปได้ไกลสุดเพียงแค่สี่เดือนเท่านั้น

ใช่ สี่เดือน

เวลาสี่เดือนน่ะ จะว่าเร็วก็เร็ว จะว่าช้าก็ช้า เพราะถ้าเกิดเหล้ารัมอยากจะจีบผมจริงๆ อย่างที่เขาพูดและแสดงออกมา แล้วผมอนุญาตไป (ซึ่งใจผมก็อยากจะอนุญาตอยู่แล้ว) มันก็ขึ้นอยู่กับเราสองคนว่าจะสามารถตักตวงความสุขจากมันได้มากน้อยแค่ไหนในเวลาอันจำกัดนั้น ทว่า.. ถ้าเหล้ารัมรู้ความจริง.. ผมคิดว่าเขาก็คงไม่อยากเสี่ยงที่จะลงทุนจีบผมหรอก ในเมื่อ...

ใครมันจะไปอยากเอาหัวใจมาลงทุนกับคนที่กำลังจะตายล่ะ..จริงมั้ย?

“ขอโทษนะ” เมื่อคิดได้ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจถอนออกมาให้ห่างจากเหล้ารัม ถึงแม้ว่า..จะไม่ได้รังเกียจเลยสักนิดที่ต้องยืนใกล้กับเขา.. ”อันที่จริงผมก็อยากจะให้คุณจีบ แต่เกรงว่าคงจะไม่สะดวก” ก่อนจะกล่าวปฏิเสธคำขออนุญาต แล้วข้ามเรื่องรอยยิ้มที่เขาถามถึงไป

ทำให้วินาทีนั้น.. ผมได้เห็นความสับสนระคนผิดหวังจากคนตรงหน้า ทว่า..ริมฝีปากยังคงยิ้ม ยิ้ม...ที่ดูออกว่าเป็นการฝืนยิ้มของคนตรงหน้า

นั่นจึงพิสูจน์ให้ผมเห็นแล้วว่า.. เราสามารถหาความจริงที่อยู่ภายในจากดวงตาของอีกฝ่ายได้..

“ทำไมล่ะ หรือว่าคุณมีคนที่ชอบอยู่แล้ว?” เหล้ารัมถามหาเหตุผล ใบหน้าหล่อเหลาสไตล์ลูกครึ่งดูหม่นหมองลงไปถนัดตา

จนผมต้องรีบส่ายหน้า เพราะอยากให้เหล้ารัมรู้ว่าสาเหตุที่พ่อมดหล่อๆ อย่างเขาต้องถูกปฏิเสธน่ะมันร้ายแรงยิ่งกว่านั้น

“เปล่าหรอก เพียงแต่ว่า... ผมกำลังจะตาย”

“...”

“...”

“...”

คำว่า ‘ตาย’ นำพาความเงียบเข้าปกคลุมเราสองคน

ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเหล้ารัมกำลังรู้สึกอะไรอยู่กับสิ่งที่ได้ยิน เพราะสีหน้าของเขาตอนนี้ค่อนข้างอ่านยาก ไม่เว้นแม้แต่นัยน์ตาคู่นั้นที่มักจะเปิดเผยบางสิ่งบางอย่างออกมา เราสองคนเลยทำเพียงแค่จ้องตากันในความเงียบ.. ซึ่งก็น่าแปลกนะ ทั้งๆ ที่เราเพิ่งจะเคยเจอกันเป็นครั้งแรก แต่ทำไมตัวผมกลับไร้ความรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องมายืนจ้องตากับเขานิ่งๆ เป็นเวลานานๆ แบบนี้

จนกระทั่ง...

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ~”

...เหล้ารัมระเบิดหัวเราะออกมาอีกครั้ง

แล้วก็เป็นอีกครั้งเช่นกันที่ไม่คิดว่าเขาจะหัวเราะในสิ่งที่ผมพูด เพราะไม่ได้ตั้งใจจะให้เขาขำเลยสักนิด แต่จะต่างจากครั้งแรกก็ตรงที่.. ผมว่าผมรู้สึกดีที่ได้เห็นเขากลับมาหัวเราะอีกครั้ง ไม่ใช่ทำหน้าตาหม่นหมองเหมือนก่อนหน้านี้

ผมว่าหน้าเศร้าๆ ไม่เหมาะกับเขาหรอก : )

เพราะเวลาที่เขายิ้ม ตาของเขาก็จะเป็นประกาย มันเป็นอะไรที่ยิ่งมอง... ก็ยิ่งยากจะละสายตา...

“คุณอำผมเล่นใช่มั้ยวาฬ จริงๆ แล้วคุณมีสาเหตุอื่น แต่บอกผมไม่ได้สินะ : )” เขายิ้มเหมือนว่ารู้ทันผม ทั้งที่จริงๆ แล้วเขากำลังเข้าใจผิดอยู่ต่างหาก

ซึ่งถึงแม้ว่าผมชอบเวลาที่เขายิ้ม และอยากจะเห็นมันนานกว่านี้อีกสักหน่อย แต่ความจริงก็คือความจริง แล้วผมก็คิดว่ามันถึงเวลาสำหรับความจริงนั้นแล้ว… “เปล่าครับ ผมพูดจริงๆ”

“แต่ว่า...”

“ไม่มีใครเขาเอาเรื่องความเป็นความตายมาล้อเล่นกันหรอกคุณ”

“…”

ใช่ ไม่มีใครเขาเรื่องความเป็นความตายมาล้อเล่นกันหรอก ถึงแม้ว่าจู่ๆ ผมก็เกิดอยากจะภาวนาให้มันเป็นเรื่องล้อเล่นระหว่างเราขึ้นมา… ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีความคิดแบบนี้เลย ไม่เคยเลยจริงๆ...

“แล้วผมก็รู้ด้วยว่ามันเป็นเรื่องที่เชื่อยาก”

“…”

“เพราะฉะนั้นคงถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องแนะนำตัวใหม่อีกครั้ง”

“…”

“ผมชื่ออรรณพ นามสกุลอลิชา ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการครับ”    ไม่ได้แค่แนะนำตัวเพียงอย่างเดียว แต่ผมเลือกที่จะโค้งคำนับตามแบบที่เหล้ารัมเคยทำด้วย

แล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อผมเงยหน้ากลับขึ้นมายืนตัวตรง ก็พบว่าสีหน้าของเหล้ารัมนั้นแปรเปลี่ยนเป็นตกใจไปเสียแล้ว จากตอนแรกที่แค่นิ่งเงียบและยืนฟังเฉยๆ เท่านั้น

ผมรู้ว่าเหล้ารัมต้องตกใจอยู่แล้ว ในเมื่อนามสกุลของผมมันเป็น..นามสกุลต้องสาป

แต่มันยังมีอีกเรื่องที่คงจะทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าเดิม...

“แล้วผมก็คือทายาทคนเล็กของตระกูล ที่ถูกถอนพันธะสัญญาไปแล้ว”

“…”

...เพราะมันคงเป็นเครื่องยืนยันอันดีว่าผมกำลังจะตายอย่างที่พูดแน่ๆ

ผมรู้นะ ว่าพอถึงตอนนี้ ผมควรจะเดินจากไปแล้ว ในเมื่อนัยน์ตาของอีกฝ่ายนั้นเต็มไปด้วยความสับสนมากมายจนยากที่จะพูดอะไรออกมา แต่ผมก็อยากจะรออีกนิด... หวังว่าเขาจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง อย่างประโยคง่ายๆ แบบว่า... ‘ไม่เป็นไร’ อะไรทำนองนั้น

“…”

ทว่า... ดูเหมือนว่าผมจะหวังมากไปสินะ : )

ก็บอกแล้ว ไม่มีใครเขาอยากจะเอาหัวใจมาลงทุนกับคนทีรู้ว่าสุดท้ายก็ต้องตายหรอก เพราะฉะนั้น... คงถึงเวลาที่ต้องบอกลากันเสียที…

“ลาก่อนครับ ยินดีที่ได้เจอนะ..เหล้ารัม”

แล้วปล่อยให้นายพ่อมดนั่นยืนอยู่ตามลำพังที่ใต้ตึกคณะ จนกว่าเขาจะพอใจ



#แฮมสเตอร์

สวัสดีครับทุกคน ก่อนอื่นเลยต้องขอฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนเลยนะครับ เพราะว่าเพิ่งจะลงนิยายเรื่องยาวที่นี่เป็นครั้งแรก เพราะปกติจะลงกับอีกเว็บ แต่ครั้งนึงเคยเอาเรื่องสั้นมาลงไว้ที่เล้า แล้วค้นพบว่า นักอ่านของที่นี่คอมเม้นท์กันได้อย่างมีคุณภาพมาก ซึ่งบอกตรงๆ ครับว่าแฮมสเตอร์ค่อนข้างประทับใจทีเดียว เลยตัดสินใจว่าจะลงนิยายเรื่องนี้เอาไว้ที่เว็บนี้เท่านั้น

ยังไงก็ขอฝาก #พ่อมดเหล้า ด้วยนะครับ
หากมีอะไรต้องการที่จะเสนอแนะหรือติชมก็บอกกันมาได้
เพราะคนเขียนเองก็อยากจะพัฒนางานเขียนให้ดีต่อไปเรื่อยๆ ครับ

แล้วก็ขอบคุณมากจริงๆ ครับ ที่อ่านกัน
บอกตรงๆ ว่ารู้สึกไม่มั่นใจเลย แต่ก็จะเอามาอัพเรื่อยๆ นะครับ
อาจจะอัพไม่เร็ว แต่ก็จะพยายามไม่ให้ช้าจนเกินไปครับ

ป.ล. หากใครอยากพูดคุยอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ใน twitter ฝาก #พ่อมดเหล้า เพื่อง่ายต่อการตามอ่านของคนเขียนนะครับ ขอบคุณมากๆ เลยครับ

my page : https://www.facebook.com/hamsterisanauthor/

 :katai5:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-05-2016 02:47:21 โดย Hamzholic »

ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
«ตอบ #4 เมื่อ12-05-2016 23:33:53 »

อ่านง่ายมากเลย พล็อตเรื่องน่าสนใจ ติดตามค่ะ  :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
«ตอบ #5 เมื่อ12-05-2016 23:39:09 »

อ่านง่ายมากเลย พล็อตเรื่องน่าสนใจ ติดตามค่ะ  :hao7: :hao7: :hao7:

ขอบคุณมากเลยนะครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ : )

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
«ตอบ #6 เมื่อ12-05-2016 23:47:11 »

อยากรู้ว่าพ่อมดจะทำยังไงต่อ
แล้วคำสาปคืออัลไลล
รอติดตามจ้า :)

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
«ตอบ #7 เมื่อ12-05-2016 23:55:55 »

นี่มันเปิดมาด้วยความฟินเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้น7แล้วก็ถีบลงมาตกแอ๊กที่ก้นเหวชัดๆ
ทำไมวาฬต้องตาย? สงสารทั้ง2คนเลย เวลา4เดือนนี่คือสั้นมากยังทำไรไม่ได้ด้วยซ้ำ
อ่านแล้วสนุกมากๆเลย ภาษก็ดี อยากรู้แล้วว่าจะเป็นไงต่อ มาต่ออีกไวๆเลยน้า รอออ

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
«ตอบ #8 เมื่อ13-05-2016 00:16:20 »

ตัดจบบทได้ดับฝันมากกกกก
แบบ อ่านไปอมยิ้มไปตั้งแต่ต้นเรื่อง พอจบบทนี่ค้างเลย

รอติดตามนะคะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
«ตอบ #9 เมื่อ13-05-2016 01:52:38 »

ความบันเทิงช่วงแรกคืออะไรคะ เหมือนโดนถีบลงมาจากยอดหอคอย คำสาปคืออะไรกันนนนน  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
« ตอบ #9 เมื่อ: 13-05-2016 01:52:38 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
«ตอบ #10 เมื่อ13-05-2016 07:23:51 »

ม่ายยยยยยยย

โดนถอนพันธะ มันคืออะไร กลับมาต่อด่วนนนน



ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
«ตอบ #11 เมื่อ13-05-2016 08:47:13 »

ทำไมไม่รู้ รู้สึกอ่านง่ายมากเลย เป็นเวทมนต์คนหล่อแน่ๆ 555 ชอบๆ

ออฟไลน์ donut4top

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
«ตอบ #12 เมื่อ13-05-2016 09:12:17 »

มาต่อเร็วๆนะคะ ทำไมต้องตายด้วยอ้ะ!!!!

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
«ตอบ #13 เมื่อ13-05-2016 13:22:32 »

อะไรอ่ะ แค่สี่เดือนยังงั้นเหรอ :ling1: :ling1: :ling1:
เหล้ารัมจะจีบต่อไหมมมมมม :katai4: :katai4: :katai4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
«ตอบ #14 เมื่อ13-05-2016 21:58:53 »

#1.4

ผมไม่ได้โกหกนะ แต่ว่าผมกำลังจะตายแล้วจริงๆ

ไม่บ่อยนักหรอกที่ผมจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตระกูลของผมให้ใครฟัง เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าจะเอามาอวดอ้าง แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ผมคิดว่าพวกคุณคงจะเข้าใจอะไรมากขึ้นจากสิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้...

ก็อย่างที่รู้กัน ตระกูลของผมมีชื่อว่า ‘อลิชา’ ในโลกมนุษย์..มันถูกรู้จักอย่างแพร่หลายในนามของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการธุรกิจมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเน่าเฟะเพียงใด แต่บริษัทอลิชาจะยังยืนหยัดได้อย่างมั่นคงอยู่เสมอ ทว่าในโลกเวทมนตร์..สิ่งเดียวที่พวกพ่อมดแม่มดพูดถึงตระกูลอลิชาคือ..เราเป็นพวกถูกสาป

ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ในยุคสมัยของการล่าแม่มดในยุโรป ตอนนั้นเชื้อสายของต้นตระกูลผมยังเป็นเยอรมันแท้ และอลิชา (Alisha) ก็เพี้ยนมาจากภาษาเยอรมันที่แปลว่ามี ‘คุณค่า’ และ ‘ชนชั้นสูง’

พ่อเล่าให้ผมฟังประจำตอนที่ยังเป็นเด็กว่าคำสาปที่เกิดขึ้นนั้นมาจากความกล้าหาญที่ต้องการจะยืนหยัดปกป้องความดีไม่ให้สูญสิ้นไป เพราะบังเอิญว่าต้นตระกูลของผมดันไปรู้จักกับครอบครัวเศรษฐีครอบครัวหนึ่งเข้า ก่อนที่จะมารู้ทีหลังว่าพวกเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา หากแต่เป็นพ่อมดแม่มดที่ลี้ภัยทางการเมืองมาจากโลกของตัวเอง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงอยู่หรอก แต่แค่ยังไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมดเท่านั้น ทว่าต้นตระกูลของผมก็พร้อมที่จะช่วยเก็บรักษาความลับเหล่านั้นเอาไว้ไม่ให้ใครล่วงรู้

จนกระทั่งวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ.1484 โปปอินโนเซนต์ที่แปดได้ออกเอกสารหรือสารตราฉบับหนึ่งที่กล่าวว่าการใช้เวทมนตร์นั้นถือเป็นการกระทำผิดร้ายแรง จนสุดท้ายก็ก่อให้เกิด ‘คู่มือล่าแม่มด’ (The Hummer of Witches) ขึ้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั้งคาทอลิกและโปเตสแตนต์ โดยหารู้ไม่ว่าหนึ่งในผู้จัดทำหนังสือนั้นมีพรรคพวกที่พวกเขาเองก็ไม่รู้เลยสักนิดว่าเป็นพ่อมดแม่มดชั่วร้ายแฝงตัวมา

ซึ่งนั่นล่ะ ที่ทำให้ต้องมาเกี่ยวข้องกับต้นตระกูลอลิชา เพราะเหล่าพ่อมดแม่มดชั่วร้ายพวกนั้นมาจากตระกูลที่มักใหญ่ใฝ่สูงในอำนาจ และต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อเพื่อจะโค่นลมอำนาจของครอบครัวพ่อมดแม่มดเศรษฐีที่มีมิตรไมตรีกับต้นตระกูลของผมมาอย่างยาวนาน ตอนนั้นเองที่ทำให้ได้รู้ความจริงว่าแท้ที่จริงแล้วครอบครัวเศรษฐีก็คือพ่อมดแม่มดเชื้อสายราชวงศ์ที่หลบหนีการลอบสังหารเข้ามาอยู่ในยุโรป

แต่ดูท่าว่าจะเป็นการหนีเสือมาปะเอากับทั้งเสือและจระเข้ เพราะการที่พวกราชวงศ์อยู่ในคราบของคนร่ำรวย แต่สืบสาวหาที่มาที่ไปของเงินทองไม่ได้ (แม่ผมแอบพูดขัดพ่อตอนท่านเล่าด้วยว่า ถ้าพวกเขาแสร้งทำเป็นทำงานทำการบ้าง ก็คงจะไม่เดือดร้อนแบบนี้) จึงถูกกลุ่มล่าแม่มดลงความเห็นว่าเกิดจากพลังเวทมนตร์อันผิดกฎหมายร้ายแรง

บวกกับการยุยงของตระกูลพ่อมดแม่มดฝ่ายชั่ว ยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้ลุกลามใหญ่โตมากขึ้นไปอีก

จริงอยู่ที่มนุษย์ไม่สามารถต่อสู้กับพลังอำนาจของพ่อมดแม่มดได้ ยิ่งเป็นพวกผู้วิเศษชนชั้นสูงยิ่งไม่มีทางใหญ่ แต่ถึงอย่างงั้นพวกเชื้อพระวงศ์เองก็ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำร้ายมนุษย์ แล้วพวกเขาก็รู้ดีด้วยว่ามันเป็นแผนการร้ายที่ต้องการสร้างภาพให้คนที่โลกเวทมนตร์เห็นว่าเชื้อพระวงศ์ก็สามารถใช้เวทมนตร์ทำร้ายมนุษย์เพื่อความอยู่รอดได้เช่นกัน นั่นจึงทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะหลบหนีกลับโลกเวทมนตร์ดังเดิม เพราะไม่ต้องการให้เป็นไปตามแผนของอีกฝ่าย ซึ่งแน่นอนว่าพ่อมดแม่มดฝ่ายชั่วพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้การหลบหนีนั้นไม่เป็นผลสำเร็จ ทว่าด้วยความชาญฉลาดของต้นตระกูลผม ก็สามารถช่วยให้เหล่าเชื้อพระวงศ์หลบหนีไปได้ โดยไม่แม้แต่จะคิดถึงความเดือดร้อนของตัวเองเลยด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าตระกูลพวกพ่อมดแม่มดฝ่ายชั่วโกรธมาก ตั้งใจจะฆ่าล้างต้นตระกูลผมให้สิ้นซาก แต่ว่าตอนนั้นมีพ่อมดแม่มดจากอีกตระกูลมาช่วยเหลือเราไว้ เกิดเป็นการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่ประวัติศาสตร์พ่อมดแม่มดจะต้องจดจำ

พ่อผมเล่าต่อไปอีกว่าผู้นำของทั้งสองตระกูลต่อสู้กันจนสุดท้ายก็ตายทั้งคู่ ทว่าก่อนที่ฝั่งผู้นำฝ่ายร้ายจะหมดลมหายใจ มันได้สาปตระกูลของผมไว้ ให้ไม่ว่ากี่รุ่นต่อกี่รุ่น พวกเราจะเกิดมามีดวงวิญญาณเพียงแค่ครึ่งเดียว และจะตายในขณะที่อายุยังน้อย

ซึ่งตระกูลของผมก็ได้พิสูจน์แล้วว่า คำสาปนั้นทำให้พวกเรามีอายุอยู่ได้เพียงแค่วันเกิดครบรอบปีที่ยี่สิบเอ็ดเท่านั้น ก่อนที่ความตายจะพาเรากลับไปสู่ที่ที่เราจากมา..

แล้วเรื่องที่โคตรจะโหดร้ายก็คือ มันเป็นคำสาปที่ไม่สามารถถอนได้ เพราะต้นตระกูลของผู้สาปนั้นได้ถูกฆ่าล้างบางในคืนที่คำสาปถือกำเนิดขึ้น

ร้อนถึงเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่ทราบข่าว ก็พยายามหาทางช่วย แต่จนแล้วจนรอด ต่อให้เก่งกาจสักเพียงใด ก็ไม่มีพ่อมดแม่มดคนไหนสามารถลบล้างคำสาปนี้ได้

ต้นตระกูลของผมต้องทนอยู่กับสิ่งชั่วร้ายนั้นหลายต่อหลายปี และเพื่อการดำรงอยู่ของอลิชา เราจึงต้องแต่งงานและให้กำเนิดทายาทกันตั้งแต่อายุยังน้อย รวมถึงการสืบเชื้อสายร่วมกับชาติอื่นด้วย โดยหวังว่าสักวันคำสาปก็คงจะหมดไป แต่จนถึงวันนี้.. ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันยังคงอยู่ และไม่เคยจืดจางไปตามกาลเวลา

แต่ก็ไม่ได้โหดร้ายอะไรขนาดนั้นหรอกนะ เพราะผมยังไม่ได้เล่าถึงตอนที่ทางราชวงศ์สามารถหาทางออกให้กับตระกูลของผมได้แล้วเลย : )

คืองี้ มันมีช่วงหนึ่งที่คนตระกูลของผมร่อยหรอลงไปทุกที เพราะไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย เนื่องจากอยู่กินกันไม่นานก็ตาย จนช่วงยุคสมัยนึงแม้แต่ในโลกมนุษย์เอง พวกเราก็ถูกมองว่าต้องสาปไม่ต่างกัน

แล้วตอนนั้นล่ะที่จู่ๆ ราชาของโลกเวทมนตร์ที่เคยถูกช่วยเหลือไว้ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อก็เกิดปิ๊งไอเดีย (นี่ผมใช้คำสมัยใหม่ไปมั้ยเนี่ย?) เกี่ยวกับการทำ ‘พันธะสัญญาเวทมนตร์’ ขึ้นมา ทำให้หลังจากนั้น ตระกูลอลิชาของผมก็ไม่มีใครต้องตายอีก

เพราะว่าการทำพันธะสัญญาเวทมนตร์นั้น จะเป็นการผูกดวงวิญญาณสองดวงระหว่างผู้วิเศษและมนุษย์เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ดวงวิญญาณที่มีเพียงครึ่งเดียวของตระกูลผมถูกเติมเต็มจนสามารถมีชีวิตต่อได้ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าการทำพันธะสัญญานั้นจะต้องทำตั้งแต่อยู่ในท้องจนยิงยาวไปถึงหลังวันเกิดปีที่ยี่สิบเอ็ดเป็นเวลาหนึ่งวัน แล้วคำสาปก็จะสูญสลายหายไป

ฟังดูดีใช่มั้ยล่ะ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดกับผมหรอกนะ : )

คือ... จริงๆ จุดเริ่มต้นของพวกเราทุกคนที่เกิดมาในตระกูลอลิชาก็ไม่ต่างกันนักหรอก เพราะทางราชวงศ์จะจัดเตรียมพ่อมดแม่มดที่จะมาเป็นคู่พันธะสัญญาให้กับเราตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว ซึ่งโดยปกติเขาก็จะจับให้เป็นคู่ที่ต่างเพศกัน ด้วยเหตุผลที่ว่าความใกล้ชิดของหนุ่มสาวนั้นมันมีบางอย่างที่ผูกพันและยึดติดกันมากกว่า (อันนี้ฟังจากเหตุผลที่พ่อผมบอกนะ) ก็เลยต้องมีการตรวจดวงชะตากันตั้งแต่สองเดือนแรกเลยว่าเด็กในท้องน่ะเพศอะไรกันแน่

ซึ่งหมอดูประจำตระกูลผมก็แม่นมาก เพราะแกสืบเชื้อสายมาจากหมอดูประจำตระกูลที่อยู่คู่กับครอบครัวผมมานาน ไม่ว่ากี่รุ่นต่อกี่รุ่น แกก็สามารถบอกได้หมดตั้งแต่อยู่ในท้องว่าเพศไหน เรียกว่าถ้าแกเปิดสำนักเรื่องนี้อย่างจริงจังนะ รับรองว่าโรงพยาบาลต้องปิดแผนกอัลตร้าซาวด์ไปเลย

แต่ไม่รู้ทำไม พอมาถึงตาผม แกกลับพลาด!

ใช่ มันเป็นความผิดพลาดครั้งแรกในชีวิตหมอดูของแก ถึงขนาดที่แกวางมือไปเลยหลังจากแม่ให้กำเนิดผมออกมา เพราะแกทำนายว่าผมจะเกิดเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน ทำให้ทางโลกเวทมนตร์ผูกดวงชะตาของผมเอาไว้กับพ่อมดที่ชื่อ..เอียน โจนส์

ซึ่งทุกคนก็คงรู้สึกแปลกที่เด็กผู้ชายสองคนต้องมาตัวติดกันอย่างกับคู่รัก แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันเป็นอะไรที่น่าอึดอัดยิ่งกว่านั้นสำหรับเราทั้งคู่

จนกระทั่งวันนึง... ในวันเกิดปีที่สิบสองของผม เอียนก็จากไป.. พร้อมกับการถอนพันธะสัญญา..

มันกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตมากในตอนนั้น เพราะถือว่าเอียนไม่ได้แค่ทำผิดต่อตระกูลผม แต่ยังขัดคำสั่งของราชาด้วย ทำให้เขาถูกตามล่าตัวอยู่เป็นเดือนๆ ก่อนที่ทุกคนจะสำนึกได้ว่า...ไร้วี่แววของพ่อมดหนุ่มคนนั้น

บ้างก็ว่าเขาตายไปแล้ว ในขณะที่อีกกระแสก็บอกว่าเขาได้รับการช่วยเหลือจากพ่อมดฝ่ายมืดคนใหม่ ไม่รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนปลอม

แต่สำหรับผม ผมรู้ดีอยู่อย่าง ว่าเขา..คงจะไม่กลับมาอีกแล้ว..

นั่นเท่ากับว่าในวันเกิดปีที่ยี่สิบเอ็ด ผมก็จะต้องตายตามคำสาปที่มีมาอย่างยาวนาน

ถือเป็นคนของตระกูลอลิชาในรอบหลายชั่วอายุคนนี้เลยที่จะต้องกลับไปตายเหมือนเมื่อครั้งเก่าก่อน

รู้สึก..คลาสสิกเป็นบ้า

ไม่ใช่ว่าพวกผู้ใหญ่ไม่ลองหาทางอื่นเพื่อช่วยชีวิตผมหรอกนะ แต่ในทุกๆ ครั้งที่เราพูดถึงการลองทำพันธะสัญญาใหม่กับพ่อมดแม่มดคนอื่นๆ ทางฝั่งโลกเวทมนตร์ก็จะเงียบ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรกลับมา

จนสุดท้าย พ่อกับแม่ของผมก็ถอดใจ และเปลี่ยนมาดูแลผมให้เหมือนกับไข่ในหินแทน คอยเฝ้าระวังทุกฝีก้าว ราวกับกลัวว่าถ้าเผลอทำผมพลาดสายตาไป ผมอาจจะตายก่อนวันเกิดอายุยี่สิบเอ็ดก็ได้

ซึ่งก็รู้ว่าเพราะรัก แต่บางที..มันก็อึดอัดเหมือนกันนะ..

“โอ้โห~ กับข้าวน่ากินทั้งนั้นเลย ฝีมือแม่หรือว่าฝีมือพี่ฟ้าครับ” แต่ต่อให้อึดอัดยังไง ผมก็รู้สึกว่ามันเปล่าประโยชน์ที่จะดราม่า ไม่ใช่ว่าให้เสแสร้งแกล้งทำเป็นร่าเริงนะ แต่ผมชอบทางนี้มากกว่า เพราะมันทำให้คนรอบข้างผมยิ้ม ไม่ใช่เอาแต่ทำหน้าเหมือนว่าผมกำลังจะตายอยู่ตลอดเวลา

ถึงมันจะเป็นแบบนั้นก็เถอะนะ ฮ่าๆๆๆ~

“วันนี้ฝีมือคุณท่านค่ะ พี่ฟ้าแค่ช่วยเตรียมของแล้วก็หุงข้าวเฉยๆ”

พี่ฟ้า..หัวหน้าแม่บ้านอายุยังน้อยกล่าวตอบรับ ก่อนจะเริ่มตักข้าวเสิร์ฟให้ให้ทุกคน

“ถามแบบนี้แสดงว่าถ้าเป็นฝีมือพี่ฟ้าจะอร่อยกว่างั้นสิ”

“โธ่~ อย่างพูดแบบนี้สิคะคุณผู้หญิง”

พี่ฟ้าทำหน้าลำบากใจ ในขณะที่ผมเอี้ยวตัวไปหอมแก้มแม่หนึ่งที เพราะรู้ว่าท่านแค่แซวเล่นไปอย่างงั้น

“ใครจะไปสู้รสมือแม่ผมได้ล่ะครับ เนอะๆ”

“ไม่ต้องทำมาปากหวานเลย” แม่แกล้งทำหน้างอนอีกระลอก ก่อนจะหลุดยิ้มออกมา แล้วเริ่มลงมือทาน

ผมเองก็หัวเราะชอบใจต่ออีกนิด ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินบ้าง โดยพยายามจะไม่สนใจพ่อที่นั่งมองมาด้วยสายตาเป็นห่วงอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม

“วาฬ” ทว่าสุดท้ายพ่อก็เป็นฝ่ายเรียก ผมเลยต้องเงยหน้าขึ้นมามอง พยายามทำตาใสซื่อให้มากที่สุด ราวกับไม่เห็นว่ามีความกังวลเต็มไปหมดในสายตาคู่นั้นของผู้ชายที่ผมรักมากที่สุดในชีวิต

“มีอะไรครับพ่อ”

“วันนี้เป็นที่มหา’ลัยเป็นไงบ้าง”

แล้วพ่อก็เปิดมื้อเย็นด้วยคำถามเดิมๆ แบบทุกวัน เหมือนต้องการจะเช็คว่าทุกอย่างเกี่ยวกับผมยังคงปกติดีอยู่ ซึ่งพ่อคงจะลืมไปว่าตอนนี้ผมอายุยี่สิบแล้ว อีกแค่สี่เดือนก็จะวันเกิดผม แล้วผมก็จะตาย เพราะฉะนั้นมันไม่มีอะไรที่ไม่ปกติหรอก ทุกวันสำหรับผมมันเหมือนๆ กันไปหมดนั่นแหละ แค่รู้ว่ายังหายใจอยู่ก็ถือว่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิตแล้ว

“ก็เหมือนเดิมครับ ไม่มีอะไร” ผมตอบเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจก็อยากมีเรื่องเล่าให้ฟังมากกว่านี้ เผื่อจะทำให้พ่อผมเปลี่ยนไปทำหน้าแบบอื่นนอกจากหน้าของพ่อขี้กังวลบ้าง แต่มันก็ไม่มีไง วันนี้ทั้งวันผมก็ไปเรียน ไปเจอเพื่อน แล้วก็...


ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.5) - 5/13/2016
«ตอบ #15 เมื่อ13-05-2016 22:06:22 »

#1.5

ตึกตัก ตึกตัก

จะ..จู่ๆ หัวใจของผมก็เต้นผิดจังหวะขึ้นมาทันที! เมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าจริงๆ แล้ววันนี้มีเรื่องที่ ‘ไม่ปกติ’ เกิดขึ้นในช่วงเย็น และเป็นอะไรที่ทำให้ผมลืมไม่ลงเลยจริงๆ

“เป็นอะไรไปวาฬ ทำไมไม่กินต่อล่ะลูก” แม่เป็นฝ่ายทักขึ้นเมื่อเห็นว่าผมถือช้อนข้าวค้างอยู่แบบนั้น ผมเลยคว่ำมันลง แล้วตัดสินใจเล่าถึงเขาคนนั้นให้พ่อฟังทันที โดยไม่ได้ตอบคำถามของแม่

“พ่อครับ ผมเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้ผมไปเจอพ่อมดคนนึงมา”

คำว่าพ่อมดไม่ได้ทำให้พ่อเท่านั้นที่ชะงัก แต่แม่กับพี่ฟ้าก็ดูจะสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

“พ่อมด? ที่ไหนกัน?”

“ที่ตึกคณะครับ เขามาแฝงตัวเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับผม”

“แล้วเขามาคุยกับลูกหรอ?” คราวนี้แม่เป็นฝ่ายถามบ้าง

“ก็ไม่เชิงครับ” ผมเว้นจังหวะ ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม แล้วพูดประโยคต่อจากนั้นด้วยรอยยิ้มกว้าง “จริงๆ แล้วเขามาจีบน่ะ : )”

เคร้ง!

พ่อทำช้อนตกทันทีที่ได้ยินสิ่งที่ผมพูด พร้อมกับหน้าตาก็ดูจะเหวอไปเลย

จะว่าผมบาปก็ได้นะ แต่รู้สึกพอใจมากทีเดียวที่ได้เห็นหน้าตาแบบอื่นของพ่อบ้าง แต่ก็เพียงไม่นานหรอก พ่อของผมก็กลับมาทำหน้ากังวลแบบเดิม แถมดูจะกังวลยิ่งกว่าเดิมด้วย เฮ้อออออ~

“แล้วคุณวาฬรู้ชื่อเขามั้ยคะ?” แต่ถึงอย่างงั้นพ่อก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา ในขณะที่แม่เองก็ดูจะอึ้งไม่เลิก เลยกลายเป็นพี่ฟ้าที่ถามออกมาแทน

“รู้ครับพี่ฟ้า เขาชื่อ...เหล้ารัม นามสกุล... เอ่อ... อ้อ! อัครวรกุลพิชิตครับ หล่อด้วย หน้าฝรั่งจ๋าเลย แต่นามสกุลไท้ไทย สงสัยจะเป็นลูกครึ่ง”

เฮ้ออออ พอพูดชื่อเขา คิดถึงรอยยิ้มของเขา.. มันก็รู้สึกใจหายแปลกๆ นะ เพราะปกติผมไม่ค่อยจะถูกใจใครง่ายๆ หรอก ก็เลย.. รู้สึกเหมือนพลาดอะไรไปบางอย่าง..

แต่แทนที่คำพูดติดตลกจะทำให้บรรยากาศดีขึ้น กลับกลายเป็นว่าพ่อแม่และพี่ฟ้าดันอึ้งกว่าเดิม อะไรกัน มีอะไรที่ผมควรจะรู้หรือเปล่า?

“อัครวรกุลพิชิต” จู่ๆ พ่อก็วางช้อน แล้วเอามือกอดอก พลางทวนนามสกุลของเหล้ารัมอีกครั้ง

“ครับ นั่นนามสกุลเขา มีอะไรหรือเปล่าพ่อ?”

“ก็.. อัครวรกุลน่ะ เป็นนามสกุลของตระกูลพ่อมดที่ปกป้องต้นตระกูลของเราเอาไว้ พ่อเองก็จำไม่ได้หรอกนะว่าแรกเริ่มเดิมทีต้นตระกูลนี้ใช้นามสกุลว่าอะไร แต่พอจะรู้มาว่าเขาเปลี่ยนเป็นอัครวรกุลพิชิตแล้ว เพราะมาผสมสายเลือดกับตระกูลพ่อมดชาวไทย”

“จะ...จริงหรอพ่อ!?”
   
“จริง”

“โห~ โลกกลมแฮะ” คราวนี้เป็นผมที่อึ้งไปบ้าง ตกใจด้วย เพราะรู้สึกตามที่พูดออกไปจริงๆ

ก็ลองคิดดูดิ จู่ๆ ผมก็ได้เจอพ่อมดคนนึงที่ถูกใจผม แล้วกลายเป็นว่าเขาเป็นทายาทของตระกูลที่เคยช่วยต้นตระกูลของผมไว้ แบบนี้ไม่ให้เรียกโลกกลมจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ?

ทว่า..

“คุณๆ คะ มีคนมาขอพบค่ะ”

..ในขณะที่โต๊ะอาหารกำลังตกอยู่ในความเงียบจากเรื่องราวที่ทุกคนเพิ่งจะได้รับรู้ พี่มดแดง..สาวใช้ตัวกลมก็เดินเข้ามาแจ้งว่าเรากำลังมีแขก

“ใครกันมดแดง?” แม่ถามพลางวางช้อนลง

แต่ยังไม่ทันที่แม่จะได้รับคำตอบ ผู้ชายคนหนึ่งที่น่าจะเป็น ‘คนมาขอพบ’ ก็เดินเข้ามาหยุดยืนที่ด้านข้างของพี่มดแดง

เขาหล่อมาก.. อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแฟชั่นแขนยาวสีน้ำเงินเข้ม กับกางเกงจ็อกเกอร์แพ้นท์สีดำสนิทดูลำลอง แต่ในขณะเดียวกันก็ดูเป็นทางการอย่างไม่น่าเชื่อ

ผมสีบลอนด์สว่างก็ดูจัดทรงเนี้ยบกว่าตอนที่เราเจอกัน

และการเจอเขาอีกครั้งก็ทำให้ผมประหลาดใจมาก เพราะว่าเขาก็คือ... “เหล้ารัม!”

เขาหันมาส่งยิ้มในแบบที่ผมกำลังคิดถึงมาให้เมื่อเห็นว่าผมร้องชื่อเขาเสียงหลง ก่อนที่เขาจะหันไปยกมือไหว้พ่อกับแม่อย่างสุภาพ แล้วพูดในสิ่งที่ทำให้ทุกคนในห้องกินข้าวอึ้งไปตามๆ กัน...

“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมชื่อเหล้ารัมนะครับ ขอโทษด้วยที่ต้องเสียมารยาทเข้ามาขัดจังหวะมื้ออาหาร แต่พอดีผมมีเรื่องสำคัญที่อยากจะแจ้งให้ทราบ”

“ระ..เรื่องอะไรคะ?”

“ผมคิดว่าลูกชายของคุณแม่ขโมยหัวใจผมไปครับ”

“...”

อ่า..... ชักสนุกแล้ว : )


จบตอนที่ 1


#แฮมสเตอร์
บอกตรงๆ ว่าไม่คิดเลยครับว่าพอลงจริงๆ จะรู้สึกว่าบทหนึ่งมันยาวมากขนาดนี้
แล้วเนื้อหาก็ค่อนข้างอัดแน่นมาก ต้องขอโทษใครหลายๆ คนที่รู้สึกว่าเนื้อหาค่อนข้างไปในเชิงเล่าและแออัดยัดเยียดมากไปนะครับ
เพราะว่าผมได้ลองดีไซน์การเล่าดูหลายๆ แบบแล้ว แต่สุดท้ายก็มาสรุปเคาะเอาแบบนี้ ที่เป็นการเล่าตรงๆ แบบให้เข้าใจกันง่ายๆ ไปเลย
เนื่องจากไม่อยากให้มีความยุ่งยากมาก ยังไงเรื่องนี้ก็ยังเป็นนิยายรักที่ยังต้องเล่าถึงความสัมพันธ์กันอีกเยอะ
เลยขอปล่อยก้อนแรกออกมาก่อนก็แล้วกันนะครับ

ยังไงก็ขอบคุณที่อ่านกันนะครับ
ขอบคุณมากจริงๆ ครับ


ป.ล. หากใครอยากพูดคุยอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ใน twitter ฝาก #พ่อมดเหล้า เพื่อง่ายต่อการตามอ่านของคนเขียนนะครับ ขอบคุณมากๆ เลยครับ

my page : https://www.facebook.com/hamsterisanauthor/

 :a5:

ออฟไลน์ dereel_nx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.5) - 5/13/2016
«ตอบ #16 เมื่อ13-05-2016 22:13:30 »

น่ารักกกก ชอบบบบบบ เรื่องราวน่าสนใจมากๆค่ะ ชื่อพี่แวมพ์อย่าเท่อ่ะ 555  :hao3: :hao3: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.5) - 5/13/2016
«ตอบ #17 เมื่อ13-05-2016 22:17:13 »

ชอบบบ เหล้ารัมดูเท่

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.5) - 5/13/2016
«ตอบ #18 เมื่อ13-05-2016 22:26:22 »

มันเป็นแฟนตาซีที่อ่านง่ายมาก ไม่ซับซ้อน
หนูชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบ  :ling1:

ปอลอ เปลี่ยนคนทำสัญญาเป็นรัมได้ไหม?

ทำแม่มตอนนี้แหละ เจ้าตัวมาแล้ว อิอิ

ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.5) - 5/13/2016
«ตอบ #19 เมื่อ13-05-2016 22:29:51 »

โอยยยยย ลุ้นนนนนนนนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.5) - 5/13/2016
« ตอบ #19 เมื่อ: 13-05-2016 22:29:51 »





ออฟไลน์ farafang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.5) - 5/13/2016
«ตอบ #20 เมื่อ13-05-2016 22:55:12 »

เหล้ารัมต้องช่วยน้องวาฬได้แน่ๆเลย คิคิ  :mew1:

ออฟไลน์ แพรวฐา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.5) - 5/13/2016
«ตอบ #21 เมื่อ13-05-2016 23:18:39 »

อร้ายยยย คือดี ชอบเหล้ารัมมากกกกกก เจา เจาๆ



จะแฮปปี้แอดดิ้งไหมน้าาาาาา :sad4: :hao5:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
«ตอบ #22 เมื่อ14-05-2016 00:14:08 »

่ต่อออออ

ออฟไลน์ Foeyyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.3) - 5/12/2016
«ตอบ #23 เมื่อ14-05-2016 00:17:04 »

ชอบบบบ  :katai2-1:  :katai2-1: ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.5) - 5/13/2016
«ตอบ #24 เมื่อ14-05-2016 00:44:39 »

แฟนตาซีแบบนี้น่าสนุกดี
มีตระกูลพ่อมดต่างๆเพียบ
หวังว่าตาเอียนที่หนีไป
จะกลับมานะ 4เดือนสุดท้ายยังมีหวัง

ออฟไลน์ obstacle

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.5) - 5/13/2016
«ตอบ #25 เมื่อ14-05-2016 05:03:18 »

สนุกครับ สำนวนดี เนื้อเรื่องน่าติดตาม
ตอนที่หนึ่งมายาวจุใจมาก รายละเอียดเยอะ ชอบครับ
โดยเฉพาะเรื่องผู้วิเศษเนี่ย ถูกใจแฟนแฮร์รี่พอตเตอร์อย่างเรามากเลย
 o13 o13

ขอบคุณนะครับ รอติดตาม เหล้ารัมมีแผนอะไรหรือเปล่า

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.5) - 5/13/2016
«ตอบ #26 เมื่อ14-05-2016 10:45:06 »

สนุกมากค่ะ อ่านง่ายและฟินนนน

ออฟไลน์ bluebread

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.5) - 5/13/2016
«ตอบ #27 เมื่อ14-05-2016 11:50:31 »

สนุกอ่ะ อิอิอิ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ GenZ

  • ummm
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 1 (1.5) - 5/13/2016
«ตอบ #28 เมื่อ14-05-2016 11:52:57 »

มาเติมเต็มให้กันก็คงดีนะคะ

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
Re: #พ่อมดเหล้า ♡ บทที่ 2 (2.1) - 5/14/2016
«ตอบ #29 เมื่อ14-05-2016 14:42:45 »

2.1

ตั้งแต่เกิดมาในชีวิต.. ผมยังไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีความอยากรู้อยากเห็นมากเท่าวันนี้มาก่อนเลย..

เพราะภายหลังจากที่ประกาศชัดเจนว่าผมขโมยหัวใจของเขาไป เหล้ารัมก็เลยขอคุยกับพ่อและแม่เป็นการส่วนตัวทันที แล้วมีหรอที่พวกท่านจะกล้าปฏิเสธ เลยกลายเป็นว่าทั้งสามคนพากันไปคุยในห้องทำงานส่วนตัวของพ่อซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของห้องนั่งเล่น พร้อมๆ กับที่พ่อสั่งห้ามไม่ให้ผมเข้าไปยุ่งโดยเด็ดขาด

อะไรกัน ทำไมมีลับลมคมในล่ะ นี่ผมเป็นลูกนะ : (

แต่ในขณะที่ผมกำลังเดินไปเดินมาเพื่อรอให้ใครสักคนเปิดประตูออกมาจากห้อง กลับกลายเป็นว่ามีใครอีกสองคนเดินเข้ามาในบ้านแทน

"คุณอาไปไหน?" คำถามที่มาพร้อมกับน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะพอใจนัก ทำให้ผมที่ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเธอเป็นใคร

พี่เบล..ลูกพี่ลูกน้องที่ประกาศชัดเจนว่าเธอเกลียดผม..

จริงๆ เราก็ไม่ได้สนิทกันมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ เพราะว่าแม่ของพี่เขา (ป้าสะใภ้ผมน่ะ) ก็ไม่ค่อยจะชอบหน้าแม่ผมสักเท่าไหร่ เหมือนว่าสมัยที่คุณย่ายังมีชีวิตอยู่ ท่านค่อนข้างเอ็นดูแม่มาก ไม่ใช่ในฐานะที่เป็นสะใภ้คนเล็ก แต่เพราะว่าแม่เป็นคนที่แต่งเข้ามาแล้วไม่เคยสร้างปัญหาอะไรให้ใครเดือดร้อน แถมยังคอยเป็นช้างเท้าหลังสนันสนุนพ่อได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ป้าผมเอาแต่ผลาญเงินลุงไปวันๆ สนใจก็แต่งานสังคมออกสื่อ เลยไม่เป็นที่พอใจของย่าเท่าไหร่นัก และมักจะถูกเอาไปเปรียบเทียบกันอยู่เสมอ เพราะแบบนั้นป้าก็เลยเลี้ยงพี่เบลให้เกลียดครอบครัวผมไปด้วย

แต่นั่นก็เป็นแค่การเกลียดขั้นพื้นฐานน่ะนะ ออกแนวเหม็นขี้หน้าผมในระดับหนึ่งมากกว่า แต่สาเหตุที่ทำให้ 'เกลียด' แบบเกลียดจริงๆ ก็คงจะเป็นตอนที่ทุกคนรู้ว่าผมต้องตายสถานเดียว เพราะว่าหาพ่อมดคู่พันธะสัญญาของผมไม่เจอแล้วแน่ๆ ก็เลยกลายเป็นว่าบรรดาญาติต่างพากันมาเฝ้าห่วงใยผม อะไรๆ ก็เอาผมเป็นที่ตั้ง ก็นะ.. หลานกำลังจะตายทั้งคน พวกเขาจะกล้าแสดงความใจร้ายออกมาได้ยังไง

แต่พี่เบลคงไม่คิดงั้น เพราะดูเหมือนว่าเธอจะไม่ชอบใจขั้นรุนแรงที่บทบาทความสำคัญของเธอในบ้านลดน้อยถอยลงไป ก็เลยเกิดเหตุการณ์วีนแตก ด่ากราดคนทั้งบ้าน พร้อมกับประกาศต่อหน้าทุกคนว่าเกลียดผมที่สุดในชีวิตเท่าที่เธอจะเกลียดได้ และรอวันที่ผมตายจากไป

แน่นอนว่าพี่เบลกลายเป็นตัวร้ายในสายตาทุกคนนับตั้งแต่นั้น

ในขณะที่ผมไม่เคยคิดจงเกลียดจงชังใคร แค่พยายามมองโลกในแง่ดีทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองจะต้องตายก็หนักมากพอแล้ว คิดดูสิ อายุเท่านั้น แต่รู้ว่าจะไม่ได้แก่ตาย บอกเลยนะว่าไม่มีเวลาจะมานั่งคิดแค้นใครหรอก

"สวัสดีครับพี่เบล สวัสดีไรเกอร์" ผมเริ่มต้นด้วยการทักทาย ไม่ได้ต้องการจะหาเรื่องทำเป็นไม่สนใจคำถามของพี่เบลหรอกนะ แต่อยากให้เห็นว่าเวลาคนเจอกันน่ะ มันต้องเริ่มจากการทักทายกันก่อน

"สวัสดีวาฬ คุณพ่อไม่อยู่หรอ?" ซึ่งแน่นอนว่ามีเพียงไรเกอร์เท่านั้นที่ทักทายกลับมา และนั่นทำให้พี่เบลตวัดสายตาไม่พอใจมาทางเขา

ไรเกอร์..เป็นพ่อมดคู่พันธะสัญญาของพี่เบลล์ จากตระกูลโดโนแมน ด้วยความที่เป็นชายชาวอังกฤษแท้ ทำให้เขาค่อนข้างที่จะตัวสูงใหญ่มาก เมื่อเทียบกับคนไทยอย่างผมและพี่เบล หน้าตาของไรเกอร์นี่ก็หล่อไม่น้อย ตาคมคิ้วเข้ม ปากสีอ่อน ไว้หนวดเคราที่ตัดแต่งอย่างสะอาดสะอ้าน แถมยังมีผมสีน้ำตาลที่ดูจะยุ่งอยู่ตลอดเวลาเพราะไม่ได้ทำการจัดให้เข้าทรง แต่ก็ไม่รู้ทำไมมันถึงได้ดูดีรับกับใบหน้าของเขานัก

จริงๆ แล้วพี่เบลโตกว่าผมสองปีนะ ซึ่งนั่นหมายความว่าเธอพ้นคำสาปของพ่อมดชั่วร้ายไปนานแล้ว แต่ไอ้ที่บอกว่าให้ทำพันธะสัญญากันจนถึงหลังวันเกิดปีที่ยี่สิบเอ็ดเป็นเวลาหนึ่งวันน่ะ มันเป็นในทางทฤษฎีเท่านั้นแหละ เพราะในทางปฏิบัติ หลังจากครบตามกำหนดแล้ว พวกเขาก็ใช้ชีวิตอยู่กันต่อเหมือนเดิมด้วยความที่ผูกพันกันมาตั้งแต่เกิด จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมีครอบครัวนั่นแหละ ถึงจะตัดสินใจถอนพันธะสัญญากันออกไป หรือไม่ก็ทำนองว่าเบื่อขี้หน้ากันแล้วอะไรแบบนั้น

ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าพี่เบลนิสัยเสียแบบนี้ ทำไมไรเกอร์ถึงไม่เบื่อสักที?

"คุณพ่อกับคุณแม่มีแขกน่ะ คุยกันอยู่ในห้องทำงาน ไม่รู้เหมือนกันว่าจะออกมาเมื่อไหร่" ที่ตอบแบบนี้นี่ไม่ใช่อะไรนะ เพราะผมเองก็กำลังรออยู่เหมือนกัน

"งั้นฉันวางของไว้ตรงนี้แล้วกัน" แล้วจู่ๆ พี่เบลก็กระแทกเสียงขึ้นมาราวกับต้องการจะเรียกร้องความสนใจจากผมและไรเกอร์ ทั้งๆ ที่เธอเองก็อยู่ในความสนใจของผมตลอด แล้วที่ตอบเมื่อกี้นี้ก็ไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่ไรเกอร์ด้วย แต่มันเป็นการตอบแบบรวมๆ ต่างหาก "พ่อดีว่าคุณพ่อฝากให้เอาของฝากจากญี่ปุ่นมาให้น่ะ"

ไม่พูดเปล่า พี่เบลวางถุงทั้งหมดที่ถือมาลงกับพื้น ก่อนจะกอดอกเชิดหน้าซะแรงจนผมยาวๆ ของเธอสะบัดตัว ร้อนถึงไรเกอร์ที่ต้องรีบหยิบถุงทั้งหมดขึ้นมา แล้วเอาไปวางบนโต๊ะอย่างที่พี่เบลควรจะทำ

"ขอบคุณมากครับพี่เบล ถ้ายังไงจะรอพบพ่อก็เชิญนั่งรอก่อนนะครับ เดี๋ยววาฬจะให้พี่ฟ้าเอาน้ำมาเสิร์ฟ" ผมพยายามไม่ใส่ใจกับสิ่งที่พี่เบลทำลงไปก่อนหน้า พลางตั้งท่าจะเดินไปบอกพี่ฟ้าในครัวให้หาน้ำมารับแขก แต่กลายเป็นว่า..

"ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากกินอะไรของคนบ้านนี้ทั้งนั้น" พี่เบลประกาศชัดเจน ก่อนจะหันไปทางไรเกอร์ "ไปกันเถอะไรเกอร์ ยิ่งอยู่ที่นี่นานยิ่งหดหู่ นายไม่รู้สึกเลยหรือไงว่าบ้านหลังนี้กำลังจะมีคนตายน่ะ"

คำว่า 'ตาย' ถูกพูดออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างจงใจ เพียงแต่มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรมากไปกว่าการที่อยากให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากบ้านผมซักที ซึ่งเป็นเรื่องดีมากที่ไรเกอร์รีบเดินไปคว้าแขนพี่เบลแล้วตั้งท่าจะพากันเดินออกไป เพราะเขาเองก็คงจะรู้สึกอึดอัดกับสิ่งที่คู่พันธะสัญญาของเขาพูด

ทว่า..

"เดี๋ยวนะ" ยังไม่ทันจะเดินได้ถึงสองก้าว พ่อมดชาวอังกฤษก็หันกลับมาพร้อมกับคิ้วที่ขมวดมุ่น

"มีอะไรหรอไรเกอร์" พี่เบลถาม

"ฉันว่าฉันเหมือนจะได้กลิ่นพ่อมดอยู่แถวนี้นะ"

แอ๊ดดดด~

แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อ ประตูที่ผมรอคอยให้มันเปิดก็ถูกเปิดออกมาจนได้ ส่งผลให้ไรเกอร์ พี่เบล แล้วก็ผมหันไปมองเป็นตาเดียว

"อ้าว เบลกับไรเกอร์มาหรอกหรอ" พ่อผมพูดด้วยสีหน้าที่ดูดีกว่าตอนเข้าไป ราวกับว่าการพูดคุยนั้นผ่านไปได้ด้วยดี

ว่าแต่..เข้าไปคุยอะไรกันอะ?

"เหล้ารัม!"

พอทุกคนเดินออกมาจากห้อง ไรเกอร์ก็ร้องชื่อของผู้ชายที่เดินออกมาเป็นคนสุดท้าย ดูท่าว่าจะตกใจมากเหมือนกัน เพราะหน้าตาของพ่อมดอังกฤษตอนนี้นี่คือตาเบิกโตไปแล้ว

"สวัสดี" ในขณะที่เจ้าของชื่อทักทายด้วยรอยยิ้ม

"นั่นพ่อมดนี่" คราวนี้เป็นพี่เบลที่พูดขึ้นบ้าง นัยน์ตาของเจ้าหล่อนมองทุกคนสลับกันด้วยความสงสัย ก่อนจะหยุดที่คนข้างๆ ตัว "นายรู้จักเขาหรอไรเกอร์"

"เอ่อ.. คือไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวหรอก แต่พอดีเราเรียนไฮสคูลที่เดียวกันตอนอยู่โลกเวทมนตร์น่ะ แล้วก็..ไม่มีพ่อมดแม่มดคนไหนไม่รู้จักเหล้ารัมด้วย"

ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองมั้ย แต่เหมือนว่าสายตาของไรเกอร์จะดูชื่นชมเหล้ารัมมากทีเดียวเลยนะ ดูท่าว่านายเหล้ารัมนี่จะไม่ใช่พ่อมดธรรมดาๆ แฮะ

"แต่ฉันรู้จักนายนะไรเกอร์ โดโนแมน นายเป็นนักเรียนดีเด่นด้านสมุนไพรวิเศษวิทยาของโรงเรียน จำได้ว่าฉันเคยดูผลงานการปลูก 'คุณนายชงชา' ของนายด้วย มันเป็นต้นที่น้อยคนจะปลูกได้ แต่นายกลับไร้ที่ติ"

ไรเกอร์ฟังสิ่งที่เหล้ารัมพูดแล้วทำหน้าทำตาราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง แต่หลังจากนั้นเขาก็รีบกล่าวขอบคุณ ดูจะตื่นเต้นและดีใจไม่น้อยเลยด้วย

"แล้วนายมาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบ" ต่างจากพี่เบลที่ดูว่าจะโฟกัสได้ตรงจุดกว่า

นั่นทำให้พ่อกับแม่ผมหันมองหน้ากัน ดูลำบากใจไม่น้อยที่จะพูด เลยกลายเป็นเหล้ารัมนั่นแหละที่ตอบคำถามของตัวเองด้วยรอยยิ้ม

"ขอโทษด้วยนะครับ แต่ผมเกรงว่านี่จะเป็นเรื่องส่วนตัวของผมกับคุณพ่อคุณพ่อของวาฬ" หากแต่เป็นรอยยิ้มที่ผมดูออกว่าถูกประดิษฐ์ขึ้น เหมือนเครื่องหมายทางการค้าอะไรแบบนั้น

แล้วพูดมาซะขนาดนี้มีหรอที่คนอย่างพี่เบลจะพอใจ เธอดูอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มกัดริมฝีปาก พลางทำหน้าเหมือนพวกตัวร้ายในละครหลังข่าว แล้วสะบัดหน้าเดินจากไปพร้อมกับเสียงกระทืบเท้าตึงตัง

ช่างดู..ขาดการอบรมสั่งสอนชะมัด

ตะ...แต่นี่ผมไม่ได้ต่อว่าพี่เบลนะ แค่พูดตามสิ่งที่เห็นเท่านั้นเอง

"งั้นผมต้องขอตัวก่อนนะครับ" แน่นอนว่าไรเกอร์เองก็ต้องตามพี่เบลไปด้วย แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะกล่าวลา

ทีนี้ก็เลยเหลือแค่พวกเรา ที่ผมจะต้องรู้ให้ได้ว่าเข้าไปคุยอะไรกันซะนานสองนานขนาดนั้น

"เข้าไปคุยอะไรกัน บอกผมมาเดี๋ยวนี้เลยนะ" ผมกอดอกอย่างเอาเรื่อง จงใจหยุดสายตาตอนพูดที่เหล้ารัม แต่ดูเขาสิ ไม่สะทกสะท้ายเลย แถมยังส่งยิ้มแบบที่เป็นยิ้มจริงๆ ให้อีก

"เอาล่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว แม่จะเป็นคนบอกวาฬเองก็แล้วกัน" แม่เป็นฝ่ายเปิดประเด็น ท่านเดินเขามาใกล้ พลางเกลี่ยเส้นผมที่มันเกาะอยู่บริเวณห่างตาของผมออกด้วยสัมผัสที่อ่อนโยน

"นี่มันเรื่องอะไรกันครับแม่" ผมถามย้ำอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าจะเค้นเอาคำตอบให้ได้เหมือนตอนแรก แต่รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่แม่ส่งผ่านมา มันเหมือนว่าแม่กำลัง..มีความสุขกับอะไรสักอย่าง..

"พวกเราคุยกันแล้ว และแม่กับพ่อตัดสินใจว่าจะให้วาฬย้ายไปอยู่ที่คอนโดกับเหล้ารัมจ้ะ" แม่ยิ้ม ในขณะที่ผม..

"อะ..อะไรนะ!?"

ร้องถามเสียงหลงด้วยความตกใจประหนึ่งว่าบ้านไฟไหม้!

"ก็ตามที่แม่บอกนั่นแหละ ย้ายไปอยู่กับเหล้ารัมซะ เดี๋ยวพ่อจะช่วยวาฬจัดกระเป๋าเอง" ทีนี้เป็นตาพ่อพูดขึ้นบ้าง นั่นยิ่งทำให้ผมอึ้งซ้ำอึ้งซ้อนเข้าไปอีก

คิดดูนะ ปกติขนาดผมขอแค่ไปกินข้าวดูหนังกับไอ้เอก พ่อกับแม่ยังแทบจะไม่อนุญาตเลย ให้คนขับรถผมไปคอยตามประกบติดตลอด ละ..แล้วนี่มันอะไรกัน! จู่ๆ ก็ให้ผมย้ายไปอยู่กับพ่อมดที่เพิ่งจะเจอกันแค่วันเดียวเนี่ยนะ!?

"ดะ..เดี๋ยวนะครับ แล้วทำไมผมจะต้องย้ายไปอยู่กับเหล้ารัมด้วย!?"

"เรื่องนั้นเหล้ารัมจะเป็นคนบอกลูกเองเมื่อไปถึงคอนโดของเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้น่ะ ลูกรีบขึ้นไปจัดกระเป๋าก่อนดีกว่า จะได้ไม่เสียงเวลา" พ่อกับแม่ตั้งท่าจะลากผมขึ้นไปบนห้อง ดูท่านทั้งสองจะตื่นตัวผิดปกติมากเมื่อเทียบกับที่แล้วๆ มา จนผมต้องรีบถอยหนี พร้อมกับประกาศจุดยืนชัดเจน

"ไม่!" ผมโวย ก่อนจะตวัดสายตาหันไปหาเหล้ารัมที่น่าจะเป็นบิ๊กบอสของเรื่องการย้ายที่อยู่ในครั้งนี้ "ผมจะไม่ย้ายไปไหนทั้งนั้น จนกว่าผมจะได้รู้สาเหตุที่ผมจะต้องย้าย เพราะฉะนั้น ขอผมคุยกับเหล้ารัมเป็นการส่วนตัวก่อน ไม่งั้นผมจะไม่ยอมทำตามคำสั่งของพ่อกับแม่เด็ดขาด!"

พูดจบแค่นั้น ผมก็หันเดินออกไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทางเดินไปยังสวนของบ้าน โดยที่มั่นใจมากว่าเหล้ารัมจะต้องเดินตามออกมาแน่นอน

ถึงผมจะอยากมีชีวิตที่แตกต่างไปจากความราบเรียบแสนน่าเบื่อจากการรอความตายที่เป็นอยู่ก็เถอะนะ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะยอมทำนั่นทำนี่เพียงเพราะว่าทุกคนบอกให้มันเป็นงั้นเป็นงี้โดยที่ไม่มีข้อมูลอะไรในหัวเลยแม่แต่นิดเดียว

เอาไว้รอฟังเหตุผลก่อน แล้วผมจะเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

จบนะ!


#แฮมสเตอร์

เหลือ 2.2 อีกหนึ่งฉาก ก็จบบทสองเลยนะครับ
อาจจะดูสั้นไป แต่คิดว่าไม่มีอะไรที่ยาวเท่าบทที่หนึ่งอีกแล้ว

คือผมคิดว่ามันเป็นสไล์ของผมนะ
แบบว่าแต่ละบทก็จะมีความยาวไม่เท่ากัน บ้างสั้นบ้างยาวสลับกันไป
เพราะผมจะเน้นที่เนื้อหาว่าอยากจะเล่าอะไรในบทนั้นๆ มากกว่า
แล้วจบตรงไหนก็คือเคาะแค่นั้น ไม่โฟกัสว่าบทนั้นบทนี้ต้องได้กี่หน้า
ส่วนบทหนึ่งจะเป็นบทที่จัดเต็มที่สุด
ทั้งๆ ที่มีเพื่อนผมหลายคนบอกว่าไม่ควรเปิดยาวแบบนั้น
แต่ผมกลับรู้สึกว่า เจอกันครั้งแรก ก็อยากให้จัดเต็มกันไปเลย
เหมือนดูซีรี่ส์ EP.1 แบบจุใจอะไรแบบนั้นน่ะครับ

ผมว่าผมพูดมากไปแล้ว
ยังไงก็ขอบคุณที่อ่านกันนะครับ


ป.ล. หากใครอยากพูดคุยอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ใน twitter ฝาก #พ่อมดเหล้า เพื่อง่ายต่อการตามอ่านของคนเขียนนะครับ ขอบคุณมากๆ เลยครับ

my page : https://www.facebook.com/hamsterisanauthor/

 :heaven

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-05-2016 17:02:14 โดย Hamzholic »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด