ตอนที่ 20 : STALKER กับ ONE FINE DAY“เป็นอะไรโต๊ะ” ผมซบหน้าลงกับโต๊ะที่กลุ่มผมใช้เป็นที่ประจำแก๊งค์มาตั้งแต่ปีหนึ่ง
“พรุ่งนี้วันศุกร์” ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตาเจ้า
“แล้ว?” ผมหันไปค้อนไอ้เจ้า ยังมีหน้ามาถาม วันศุกร์เป็นวันสำคัญอันใหญ่หลวงของผม
เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ชาติโต๊ะต้องจารึกไว้ ทำไมแค่นี้จำไม่ได้
“พี่เหนือชวนกูไปออกกำลังไง” แต่เพื่อไม่ให้การสนทนาขาดตอน ผมจะยอมตอบมันแต่โดยดี
“รู้ แล้วมันมีอะไร ทำไมทำท่าอย่างกับคนใกล้ตายแบบนี้” เจ้าลงนั่งข้างๆ ผม
“กูยังไม่พร้อมมมมม” ผมกลับลงไปซบกับท่อนแขนของตัวเองอีกครั้ง
“คิดอยู่แล้วเชียว” ผมได้ยินเสียงส้มถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ปากดี ปากเก่ง แล้วทีนี้จะเอายังไง”
“กูแคนเซิลได้ไหม แบบเลื่อนไปก่อนติดงานติดธุระอะไรก็ว่าไป”
“ตอนตกลงกับพี่เหนือเสือกไม่คิด เรื่องแบบนี้ถ้ามึงแคนเซิล คิดไหมว่าอีกฝ่ายจะเซ็งแค่ไหน ไม่ได้นัดกันไปดูหนัง
ทานข้าว ซื้อของนะมึง เป็นกูโกรธตายห่า”
“สมน้ำหน้า เจ้าไม่เห็นใจนะ นัดอะไรก็ไม่รู้พิเรนทร์”
“กูไม่ได้นัด พี่เหนือเป็นคนนัด” ผมไม่ยอมรับผิดง่ายๆ
“ก็มึงเล่นกระเหี้ยนกระหือรือขนาดนั้น วันๆ ไม่คิดอะไรหรอก คิดแต่จะปล้ำพี่เหนือท่าเดียว”
“มึงไม่ใช่กูมึงไม่เข้าใจหรอกส้ม เกิดซวยๆ พี่มันไม่ปลื้มเรื่องคบกับกูขอเลิกขึ้นมา ไม่ได้แตะสักนิด รู้ไปถึงไหนคงอายไปถึงนั่น
โอกาสทองไม่ได้มาหากูบ่อยๆ “
“กูงงกับมึงจริงๆ ค่ะคุณโต๊ะ แล้วมึงจะมาร้องแรกแหกกะเชอทำไมคะ ก็สมใจมึงแล้วนี่”
“ก็กูยังเตรียมตัวมาไม่ดีพอไง กูเลยยังไม่พร้อม”
“ไหน มึงยังไม่พร้อมอะไรว่ามา เดี๋ยวพวกกูช่วย” ส้มคงเห็นว่าเถียงกันไปก็ไม่มีประโยชน์ เลยถามเข้าประเด็น
“กูอยากเป็นยอดชายที่ดี แต่กูเตรียมตัวไม่ทัน”
“อะไรวะ?”
“ชายเหนือชายคือยอดชายไง มึงไม่รู้จริงเหรอ” ผมสบประมาทเดซี่ มันชอบผู้ชายก่อนผม แค่นี้ทำเป็นไม่รู้
“เหี้ยโต๊ะ!!”
“ไม่ใช่กูไม่รู้ แต่ก็ไม่นึกว่ามึงจะทั้งโง่ทั้งบ้าขนาดนี้ กูนึกว่ามึงคงคะนองปากพูดไปงั้นเอง
ไอ้ที่พวกกูพูดๆ กันว่ามึงจะปล้ำพี่เหนือเนี่ย พวกกูหมายถึงมึงไปยั่วให้พี่เขามีอะไรด้วย ไม่ใช่มึงจะไปปล้ำพี่เขาจริงๆ”
“มึงก็คิดถูกแล้วไง กูก็จะไปทำทั้งสองอย่างนั้นแหล่ะ โดนปล้ำและปล้ำเอง กูดูมาเยอะเค้าเรียกผลัดกันรุกผลัดกันรับเว้ย”
“มึงมาพนันกับกูค่ะคุณโต๊ะ ถ้าพี่เหนือยอมให้มึงปล้ำ กูยอมให้มึงกดตังค์กูหมดบัตร แต่ถ้ามึงทำสำเร็จกูขอสิบบาทพอ”
“พอๆ เข้าเรื่องเถอะ เจ้าชักปวดหัว ว่ามาโต๊ะอะไรที่เตรียมไม่ทัน”
ผมหันไปหยิบสมุดจดเล่มเล็กกับปากกาขึ้นมาเตรียมพร้อม ก่อนเริ่มขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ
“มึงว่ากูควรซื้อถุงยางอันไหนดี เรียบ ขรุขระ สตรอเบอรี่ คอมฟอร์ท มึงว่าพี่มันจะชอบอันไหน กูคิดยังไงก็คิดไม่ตก”
“เหี้ย!!” ส้มถีบผมจนหงายหลังตกเก้าอี้
“กูทนมันไม่ไหวแล้ว”
“มึงอย่ามาทำร้ายร่างกายกู” ผมลุกขึ้นได้ก็ชี้หน้าด่าเพื่อน
“พรุ่งนี้กูต้องใช้ร่างกายอย่างหนัก ทะนุถนอมกูหน่อย”
เดซี่ดึงส้มให้นั่งลงเหมือนเดิม ลูบหลังลูบไหล่เพื่อนเป็นการปลอบโยน แสดงสีหน้าว่าเข้าใจความรู้สึกส้มอย่างเต็มเปี่ยม
อะไรวะ ต้องมาปลอบผมนี่สิ อยู่ดีไม่ว่าดีโดนประทุษร้าย
“กูว่ามึงไม่ต้องเตรียมค่ะ พี่เหนือคงจัดการแล้ว ต่อค่ะ กูอยากจบไวๆ ก่อนที่กูนี่แหล่ะจะถีบมึงเอง”
ผมหันไปค้อนให้กับเดซี่อีกคน เดี๋ยวนี้ทำไมเพื่อนๆ ไม่ค่อยเข้าใจผมกันเลย
“มึงว่ากูควรใส่กางเกงในสีอะไรถึงจะเร้าใจ กูควรถอดเองหรือให้พี่มันถอดให้ แบบไหนจะเร้าใจกว่ากัน กูดูตัวอย่างมาทั้งสอง
แบบ กูบอกไม่ได้ว่าแบบไหนดีกว่า”
“หยุด” ไอ้เจ้าที่นั่งเงียบตั้งแต่ผมเริ่มตั้งคำถาม ยกมือขึ้นห้ามเดซี่กับส้มเอาไว้
“เจ้าตอบเอง” เจ้าเบนสายตามามองผมบ้าง จ้องตากันอยู่นาน ก่อนจะถอนใจออกมาเบาๆ
“ไม่ต้องถามอะไรเพิ่มแล้วนะ คำตอบเจ้าน่าจะครอบคลุมทั้งหมด”
อะไรกัน มีคำตอบเดียวครอบจักรวาลด้วยเหรอครับทำไมผมไม่รู้ ผมสู้อุตส่าห์นั่งศึกษามาเกือบอาทิตย์ยังไม่ค่อยจะได้อะไรเลย
“คำตอบของเจ้าคือ ไม่ต้องทำอะไร แค่มีสติเข้าไว้ อย่าเผลอไปสติแตกใส่พี่เหนือเขา ส่วนเรื่องอื่นๆ โต๊ะไม่ต้องทำอะไรเลย
พี่เหนือจะเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง เชื่อเจ้า”
“ใช่” “ถูกต้องค่ะ”
สามต่อหนึ่งเสียงจะทำอะไรได้ล่ะครับ ก็ได้แต่ปิดปากตัวเอง เอาวะเดี๋ยวคืนนี้ผมจะไปหาความรู้เพิ่มเติมอีกนิด ได้แค่ไหน
เอาแค่นั้น
“จบแล้วนะ ห้ามพูดถึงเรื่องนี้อีก ไม่งั้นเจ้ากินข้าวไม่ลงแน่ๆ”
“ กูด้วย” “กูด้วยค่ะ”
ครับ ผมมันหัวเดียวกระเทียมลีบ เพื่อนไม่รัก ไม่ช่วยเหลือ ซึ้งใจกันก็วันนี้แหละ
จำเอาไว้เลยนะ วันจันทร์เมื่อไหร่ผมจะกดบัตรเดซี่ให้หมดตูดเลยคอยดู
“เป็นอะไร”
“หะ?..ครับ?” ผมกำลังเหม่อๆ เลยจับใจความพี่เหนือไม่ได้
“พี่ถามว่าเป็นอะไร ทำหน้าคิดหนักตั้งแต่เดินลงมาจากรถพี่แล้ว”
ผมยืนหมุนอยู่กลางห้องรับแขกคอนโดพี่เหนือ ในมือถือกระเป๋าเสื้อผ้าไม่ยอมวางลง
“ไม่มีอะไรครับ”
“ไม่มีอะไรก็วางกระเป๋าลงได้แล้ว ถือไว้อย่างกับจะวิ่งหนีพี่กลับบ้าน”
“เปล๊า” ผมขึ้นเสียงสูงปรี๊ด โยนกระเป๋าลงพื้นดับตุ๊บ
“หึหึ” พี่เหนือไม่พูดอะไรต่อ เข้ามาหิ้วกระเป๋าผมเดินหายเข้าไปในห้องนอน ผมเลยเดินตามเข้าไปด้วย
“โต๊ะจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยไหม”
“ครับ?”
“ก็ชวนพี่ออกกำลังกายไม่ใช่เหรอ อยากเริ่มหรือยัง”
“เอ่อ..ผมแล้วแต่พี่เหนือครับ” ผมกลั้นใจพูด เอาวะมาถึงขึ้นนี้แล้วไอ้โต๊ะเป็นไงเป็นกัน
“งั้นก็เริ่มเลย”
“ค..ครับ”
“โต๊ะเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ จะยืนเฉยอยู่ทำไม”
โธ่เอ๊ย ไอ้โต๊ะพลาดแล้ว
ผมไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยนะครับ นอกจากชุดนอนกับชุดใส่กลับบ้านพรุ่งนี้
ชุดนักเรียน ชุดสาวใช้ ชุดแมวเหมียว ชุดกระต่าย ผมไม่มีสักอย่าง พลาดจริงๆ ไอ้โต๊ะ น่าจะคิดเผื่อไว้ว่าพี่เหนือ
อาจชอบ cosplay ก็ได้
“คราวหน้าได้ไหมครับพี่เหนือ ผมไม่ได้เอาอะไรมาด้วยเลย คิดไม่ทันจริงๆ”
“หือ? แล้วเราคิดจะออกกำลังกายยังไง เอ้า” พี่เหนือเปิดตู้เสื้อผ้า โยนเสื้อยืดกับกางเกงบอลมาให้ผม
“เอาของพี่ใส่ไปก่อน”
“ผมมองกางเกงบอลในมือตัวเองงงๆ”
“ไป เดี๋ยวพี่แนะนำเครื่องเล่นให้ คอนโดที่นี่มีสปอร์ตคลับแบบครบวงจร ได้ซิกแพคสมใจแน่ อยากได้มากไม่ใช่เหรอ”
ซิกแพค!!
“พี่เหนือ”
“อะไร?”
“ผมไม่ได้หมายถึงบริหารอย่างนั้นนะครับ” ผมร้องเสียงหลง เหมือนสวรรค์กำลังถล่มลงมา
“อ้าว วันนั้นโต๊ะมองมาที่หน้าท้องพี่แล้วบอกอยากกายบริหารส่วนนั้น แถมตอนอยู่ที่ค่ายก็นัดกันแล้วว่ากลับมา
พี่จะเป็นเทรนเนอร์ให้”
กระซิก กระซิก ก็ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นแฟนนี่ครับ ผมก็พูดหาโอกาสให้ตัวเองเท่านั้น ตอนนี้ได้เป็นแล้วใครจะ
อยากเทรนให้เสียเวลา
“แล้วโต๊ะหมายถึงตรงไหน” พี่เหนือเดินเข้ามาชิดผม
“ไม่ใช่ตรงนี้เหรอ” มือผมถูกจับไปวางบนซิกแพกแน่นๆ ของคนที่ถอดเสื้อออกไปแล้ว
“ไม่..ไม่ใช่ครับ”
“งั้นตรงไหน”
“ตรง..ตรง..เอ่อ”
“ไม่กล้าพูดก็เอามือจับสิ” พี่เหนือปล่อยมือที่ทับมือผมอยู่ออก ผมได้แต่กลืนน้ำลายมองมือตัวเองที่วางอยู่บนหน้าท้องพี่เหนือ
“ว่าไงครับ ตรงไหน”
“ต..ตรงนี้” ผมจับหมับเข้าให้ หน้าแดงซ่าน
“ไหล่?”
“ช..ใช่ครับ ไหล่ผมเล็ก เขาบอกว่ามันไม่สมชาย”
ไอ้โง่โต๊ะเอ๊ย คำตอบมีตั้งเยอะดันไม่ตอบ แล้วแค่เลื่อนมือไปจับตรงนั้นมันยากตรงไหนวะ หมดกันพอดี
อดครับ งานนี้เสียศูนย์กลับไปมือเปล่าแน่ๆ
อ้อ!! หรือ..อาจจะได้ไหล่กว้างอีกนิดกลับไปด้วย
“ได้สิ เดี๋ยวพี่เทรนให้”
“ขอบคุณครับ” ผมก้มหน้าขอบคุณหงอยๆ พังมากกับชีวิต
“แต่เมื่อกี้ พี่นึกว่าโต๊ะจะบอกว่าตรงนี้เสียอีก”
อ๊ากกกกกกก
โดยไม่ทันได้ตั้งตัว พี่เหนือจับมือผมที่วางค้างอยู่บนไหล่ ไปแปะไว้ที่กลางลำตัว ก่อนกดมือทับลงมาให้มือผมได้ทักทาย
แนบชิดกับสิ่งที่อยู่ภายใน ค่อยๆ คลึงมือช้าๆ จนผมรู้สึกได้ถึงความอวบอิ่มเต็มแน่น แม้จะมีกางเกงทั้งตัวคั่นอยู่ก็ตาม
“เสียดายที่มันไม่ใช่” พี่เหนือส่งยิ้มเข้ามาในตาผม ก่อนปล่อยมือออก ทำให้มือผมร่วงตกลงข้างตัว
หมับ
เหมือนมีแม่เหล็กดึงดูดให้มือผมกลับไปอยู่ที่เก่า แต่คราวนี้ผมจับเข้าไปแบบเต็มลำ ดูเหมือนสิ่งที่อยู่ภายใน
จะขยายตัวขึ้นนิดหน่อยจากเมื่อกี้นี้
“ว่าไงครับ?” โอ๊ยทำไมวันนี้พี่เหนือมันขี้สงสัยจังวะ ผมจับขนาดนี้แล้วยังต้องถามอะไรอีก
“เรา..เรามากายบริหารตรงนี้ก่อนก็ได้ครับ ผ..ผมก็กลัวมันจะลีบอยู่เหมือนกัน”
“จะให้พี่เทรนตรงนี้ให้ก่อนหรือ” พี่เหนือเอื้อมมือมากดทับมือผมอีกครั้ง
ผมพยักหน้าอายๆ ไม่กล้าจ้องตาคมเข้มที่มองมา
“ถ้าอย่างนั้นต้องเทรนในห้องส่วนตัวรู้ไหม”
“ค..ครับ”
“ก่อนอื่นก็เตรียมตัวให้พร้อม” พี่เหนือพูดชิดริมหูของผม ลมหายใจอุ่นๆ เป่าเบาๆ ทำเอาผมขนลุกซู่
“ถอดกางเกงให้พี่สิครับ”
เฮือก ผมใจเต้นโครมครามกับขั้นตอนการเตรียมตัว ผมจะได้เผชิญหน้ากับศัตรูหมายเลขหนึ่งแล้ว
ผู้เข้าท้าชิงกับขาโต๊ะของผม
ผมยกมืออันสั่นเทาขึ้นปลดหัวเข็มขัดออก เรื่องที่ควรทำได้ง่ายๆ แต่กลับต้องใช้เวลานานกว่าที่ควร มันเงอะงะไปหมด
“ใจเย็นๆ” พี่เหนือเอาแต่พูดไม่ยอมช่วยผมสักนิด
“นั่นแหละครับ ต่อไปก็ถอดกางเกงออก” ผมโยนเข็มขัดลงบนพื้น มองวีเชฟที่โผล่พ้นขอบกางเกงออกมา
ผมจะเป็นลมก่อนไหม ตอนนี้มันตื่นเต้นไปหมด
“อีกชิ้นครับ” พี่เหนือบอกผมเมื่อก้าวขาออกจากกางเกงที่ร่วงลงไปอยู่ที่พื้น
ผมมองกางเกงในสีดำที่พี่เหนือใส่อยู่ แล้วหายใจติดขัด แม่เจ้าโว้ย อะไรจะนูนขนาดนั้น นูนจนไม่กล้าให้มันออก
มาสูดหายใจ กลัวพื้นที่มีให้ไม่เพียงพอ
“พี่..พี่เหนือถอดเองได้ไหมครับ” ผมใจไม่ถึงจริงๆ ที่จะรูดปราการด่านสุดท้ายออก อยากจะยืนเตรียมใจอยู่ห่างๆ
ตอนมันดีดตัวออกมาสู่อิสรภาพ
“หึหึ ทำไมถึงไม่เชื่อฟังเทรนเนอร์ครับ บอกให้ทำอะไรก็ต้องทำตามสิ”
ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ ยังไม่กล้าเข้าไปใกล้อุปสรรคชิ้นสุดท้าย
“ถ้าอย่างนั้นพี่จะสาธิตให้ดูก่อน จะได้รู้ว่าต้องทำยังไง” จู่ๆ พี่เหนือก็ดึงผมเข้าไปชิด แกะกระดุมเสื้อนักศึกษาผมออก
แล้วโยนเสื้อปลิวไปตกที่เตียง ตามด้วยเข็มขัดและกางเกงขายาว
ต้องนับถือในฝีมือเทรนเนอร์ประจำตัวผมจริงๆ ครับ ลื่นไหลมาก ทุกอย่างหายไปอย่างรวดเร็ว จนเหลือกางเกงในตัวเดียว
เท่ากัน
“เห็นไหมไม่ยากเลย” ผมรีบตะครุบมือปิดขาโต๊ะทันทีที่คนสาธิตจบการสอนขั้นตอนแรก
“เอามือปิดไว้แล้วจะเอาอะไรมาถอดให้พี่ เรียนแล้วต้องลองทำด้วยตัวเองนะ”
ผมค่อยๆ ปล่อยมือข้างหนึ่งออก แต่อีกข้างยังกุมไว้อย่างเหนียวแน่น ใช้นิ้วชี้เกี่ยวเข้าไปที่ขอบกางเกงด้านข้าง
หน้าเบือนหนีไปทางอื่นโดยอัตโนมัติ จนรู้สึกได้ว่ากางเกงไม่ติดต้นขาแล้วก็ปล่อยให้มันร่วงสู่พื้นไปตามทางของมัน
“โต๊ะ”
“ค..ครับ” โอ๊ย ผมต้องนับหนึ่ง สอง สาม ในใจเพื่อบรรเทาอาการตื่นเต้น ตอนนี้ไม่กล้ายืนยันแล้วว่าจะไม่เป็นลมลงไป
เสียก่อน
“รู้ไหมว่าอะไรที่ช่วยให้มันตื่นตัวได้”
แงๆ ผมต้องมาเข้าคอร์สนี้จริงๆ เหรอครับ ไม่ไหวแล้ววววว
“ม..ไม่รู้ครับ...อื้อ”
ผมพูดไม่ทันขาดคำก็ต้องร้องออกมา เมื่อพี่เหนือจับคางผมเงยขึ้นแล้วประกบปากลงมาอย่างรวดเร็ว
พี่เหนือจูบผมอย่างเร้าร้อนและอ่อนหวานในเวลาเดียวกัน คลอเคลียดูดเม้มจนผมหัวหมุนไปหมด
ก่อนแทรกปลายลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปาก ตวัดรุกไล่ลิ้นของผมไปทั่ว ราวกับหิวกระหายมานาน
"อื้อ.."
ผมครางหวิวเมื่อมือพี่เหนืออยู่ไม่สุข นิ้วยาวกรีดวนไปมารอบหน้าท้องของผม ก่อนลากไล้ขึ้นมาตามทางจนสัมผัสกับ
ตุ่มไตเล็กๆบนหน้าอก บีบบี้ลงมาเบาๆ ทำเอาผมกระตุกเกร็งรู้สึกเสียววูบขึ้นมา
“อ๊า อ๊ะ"
“เห็นไหมว่ามันตื่นเต็มตัวแล้ว” เสียงพี่เหนือแตกพร่า ใช้มือที่จับปลายคางผมอยู่ ดึงหน้าผมให้ก้มต่ำลง
“โอ้.....มาย.....ก็อดดดดดดดดดดด”
ผมต้องขออุทานแบบฝรั่ง เผื่อให้สมกับสิ่งที่ประสบพบเจอ ไม่สามารถหาคำมาแทนค่าได้ภายในไม่กี่วินาที
มองจากมุมนี้สิ่งนั้นอยู่ใกล้กับขาโต๊ะของผมมาก มองคล้ายใครเอาท่อนฟืนกับก้านไม้ขีดมาวางคู่กัน
ผมไม่เคยคิดว่าของตัวเองเล็กมาก่อนจนกระทั่งมาถึงวันนี้ คำเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวกลวงๆ ของผมคือ...
แม่ง....โครตเหนือ!!!
“ชอบมันไหม” พี่เหนือถามชิดปากผม ก่อนจูบดูดวิญญาณผมอีกครั้งโดยไม่รอคำตอบ
“อืม..” ผมยกสองมือโอบไปรอบคอพี่เหนือ บดเบียดปากตอบรับอย่างไม่ยอมแพ้
อ๊ะ..” ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือใหญ่ช้อนอุ้มผมขึ้นไปวางบนเตียง
ผมรีบใช้มือปิดขาโต๊ะเอาไว้ นอนโล่งๆ แบบนี้ผมก็อายเป็นนะครับ
“อย่าปิดสิ ขอพี่ดูหน่อย” พี่เหนือตามลงมานอนข้างๆ ใช้มือสอดเข้าใต้แขนผมแล้วดึงออก
“อืม ต้องบริหารอีกเยอะ ท่าทางจะยังโตไม่เต็มที่”
โอ้โห อายก็อายครับ โกรธก็โกรธ ขาโต๊ะผมโชว์พลังช้างสารอยู่ แต่พี่เหนือบอกว่ายังโตไม่เต็มที่ เคืองมาก
ผมเม้มปากแน่น มองคนที่นอนอยู่ข้างๆ ตาขวาง
พี่เหนือหัวเราะออกมา ก่อนจะใช้ความเร็วประกบปากลงมาอีกครั้ง ไม่สนเลยว่าผมกำลังเคืองอยู่
คนตัวโตสาละวนกับการดูดชิมความหวานจากปากของผม ผละออกและกดย้ำลงมาใหม่ จนผมต้านทานไม่ไหว
เผลอจูบตอบกลับไป จนสุดท้ายแทบแยกไม่ออกว่าลิ้นใครเป็นลิ้นใคร
ลิ้นร้อนๆ ไล่กวาดต้อนในโพรงปาก ก่อนจะไล่ลงมาจนถึงลำคอ ดูดพอให้ขึ้นรอยแดงเรื่อแล้วลากไล้ต่อลงไปเรื่อยๆ
จนสัมผัสเข้ากับยอดอกสีชมพูเข้ม ลิ้นร้อนตวัดเลียลงไปรอบๆยอดอก ค่อยๆ ขบเม้มเบาๆ อย่างช่ำชอง ใช้มือสะกิดตุ่ม
เล็กๆ อีกข้างจนแข็งขึ้นเป็นไต คลึงขยี้ปลุกเร้าจนผมแอ่นแผ่นอกขึ้นตามหลังแทบไม่ติดพื้น
ผมหลับตาปี๋ เมื่อมือหนาเลื่อนลงไปกอบกำรอบขาโต๊ะของผมที่กำลังบวมเป่ง ลูบไล้ขึ้นลงอย่างอ่อนโยน
ก่อนวนกลับมาถูปลายนิ้ววนรอบส่วนหัวที่มีน้ำใสเยิ้มออกมา สร้างความเสียวกระสันจนผมเผลอครางลั่นออกมา
“อ้า อ้า” ผมหลับตาพริ้ม เชิดใบหน้าขึ้น เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมา
มือที่นวดคลึงแท่งร้อน ค่อยๆลูบไปตามความแข็งแรงที่ขยายพอง ขยับชักขึ้นลงเป็นจังหวะจนมันแข็งตัวเต็มที่
ก่อนจะเพิ่มความหนักหน่วง สลับช้าเร็ว ยั่วเย้าให้ผมแทบคลั่ง
“อ่า อ้า.. พี่เหนือเร็วอีก..เร็วอีกนิดครับ.. อ้า.."
ผมไม่รู้เลยว่ากล้าพูดแบบนั้นออกมาได้อย่างไร รู้แต่ว่าผมจะไม่ไหวแล้ว ร่างกายมันเหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
มือใหญ่ส่งแรงเร่งความเร็ว รูดรั้งให้ผมถี่ยิบ ผมบิดตัวส่ายไปมา ร้องลั่นก่อนกระตุกตัวเกร็ง ปลดปล่อยน้ำสีขุ่นออกมา
เต็มหน้าท้อง หมดแรงจนต้องนอนพังพาบลงไปกับเตียง นอนหอบหายใจ แผ่นอกขยับกระเพื่อมขึ้นลง
พี่เหนือก้มหน้าลงมาจูบผมเบาๆ ก่อนจับตัวผมพลิกนอนตะแคงข้างหันหลังให้ ผมเสียวสันหลังวาบ ต้องรีบเรียกพี่เหนือเสียงหลง
"เดี๋ยวๆ ครับพี่เหนือ"
"ชู่" พี่เหนือแนบแผ่นอกเข้ากับแผ่นหลังผม กดริมฝีปากลงบนต้นคอ
"พี่ยังไม่ทำอะไรโต๊ะหรอกครับ อย่ากลัว"
ผมพยักหน้ารับรู้ แต่ยังกังวลอยู่ลึกๆ ไม่ทำแล้วให้ผมหันหลังทำไมล่ะครับ
พี่เหนือเอื้อมมือมาลูบไล้ยอดยกของผมที่แข็งขึ้นเป็นไต ใช้นิ้วเกลี่ยไปมาบนยอด จนผมต้องสูดปากเพื่อบรรเทาอาการ
เสียวซ่าน ปากหนาทาบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง ลิ้นร้อนๆ ลากผ่านแนวไขสันหลัง สร้างความปั่นปวนในช่องท้องให้ผมอีกครั้ง
"คราวนี้ช่วยพี่บ้างนะครับ"
พี่เหนือจับสะโพกผมให้อยู่นิ่ง ก่อนส่งอะไรบางอย่างเข้ามาตรงหว่างขาของผม อะไรบางอย่างที่ทั้งแข็งและอุ่น
"โต๊ะหนีบขาให้พี่นิดสิครับ" พี่เหนือขยับหน้าขาตัวเองเข้าแนบชิดกับด้านหลังของผม ความร้อนที่ส่งผ่านมา ทำให้ผมอยาก
แนบชิดกับมันให้มากกว่านี้ จึงหนีบขาเข้าชิดกันตามที่พี่เหนือร้องขอ
"อ่า.." พี่เหนือเริ่มขยับสะโพกเข้าออก แรงเสียดสีของแท่งร้อนทำให้ลูกชายผมที่สงบไปแล้วผงาดตัวขึ้นมาอีกครั้ง
ผมต้องใช้นิ้วทั้งห้ากุมแนบกับขาโต๊ะของตัวเอง และสาวขึ้นลงตามจังหวะที่คนด้านหลังควบคุมอยู่
พี่เหนือดันกายเข้าออกจากช้าๆ เป็นเร็วขึ้นๆ ท่อนซุงถูกกระแทกรัวแรงจนขาผมแทบมอดไหม้ ผมหยัดตัวรับความเร่าร้อน
อย่างซาบซ่าน ออกแรงเร่งข้อมือเต็มกำลังเพื่อหวังจะปลดปล่อยไปพร้อมกับคนข้างหลัง เสียงหายใจหนักๆ ปะปนกับเสียงครางระงมดังไปทั่วห้อง
ในที่สุด ผมก็เป็นฝ่ายปลดปล่อยของเหลวแห่งความสุขออกมาก่อน พี่เหนือเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นไม่หยุด
จนปล่อยน้ำแห่งความสุขสมออกมาล้นเลอะตามท่อนขาของผม
เราหายใจหอบถี่กันอยู่หลายวินาที ก่อนพี่เหนือจะซบหน้าลงมาบนหลังผม กดจูบซ้ำๆ ลากฟันขบเม้มไปทั่ว มันเจ็บนิดๆ
แต่กลับรู้สึกดีมากๆ
“ชอบไหมครับ”
“.....”
“หื้อ? ชอบไหม ไม่เห็นตอบพี่เลย” พี่เหนือหมุนตัวผมให้หันกลับมาเผชิญหน้า
“ชอบครับ” ผมตอบแล้วรีบซุกตัวเข้ากับอกหนา ก็คนมันเขินนี่ครับ
“ชอบก็ให้รางวัลพี่หน่อยสิครับ”
แหม คนเจ้าเล่ห์นี่ตอดเล็กตอดน้อยผมตลอดเลย แต่ถือว่าได้กำไรร่วมกัน ผมก็จะยอมครับ
จุ๊บ
“เฮ้อ จูบเด็กอนุบาลชัดๆ”
“โอ๊ย” ผมกัดเนื้อตรงไหล่พี่เหนือจมเขี้ยว จูบดีๆ ไม่ชอบ สงสัยจะชอบให้กัด
“กัดพี่อย่างนี้ ระวังพี่จะกัดตรงอื่นบ้างนะ”
ผมรีบตะครุบขาโต๊ะผมไว้แทบไม่ทัน จากสายตาพี่แกที่มองต่ำแล้วไม่น่าไว้ใจครับ
“ฮ่าๆ ปิดไปคิดว่าจะรอดเหรอ”
คราวนี้ผมถอยหนีไปชิดขอบเตียงเพิ่มอีกอย่าง
“เด็กน้อย เอาไว้คราวหน้าพี่จะสอนอะไรที่มันสนุกกว่ามือให้นะ”
ผมมองหน้าพี่เหนือ มีบางอย่างที่อยากรู้ใจจะขาด จนทนเก็บเอาไว้ไม่ไหว จึงต้องตัดสินใจถามออกไปตรงๆ
“พี่เหนือไม่..เอ่อ..ไม่ทำเหรอครับ”
“ทำอะไร”
“พี่เหนือ ผมก็อายเป็นนะ ยังต้องให้พูดเอง แกล้งผมตลอดเลย”
“ฮ่าๆๆ" พี่เหนือหัวเราะชอบใจ ดึงตัวผมกลับเข้าไปซุกกับอก จูบลงเบาๆ ที่กระหม่อม
“อยากทำจะตายอยู่แล้ว แต่เอาไว้ก่อน ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป พี่ไม่อยากให้โต๊ะตกใจ อยากให้ชินกับพี่มากกว่านี้”
ผมเงยหน้าขึ้นจุ๊บปลายคางพี่เหนือ ก่อนสบตาที่มองลงมาอย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณครับ”
“ขอบคุณเหมือนกันครับ”
ผมกอดตอบอ้อมแขนอุ่นที่โอบล้อมอยู่ ก้มหน้าเข้าซุกเข้ากับแผ่นอกแข็งแรง
แอบถอนหายใจเบาๆ
โชคดีจริงๆ
โชคดีที่ผมไม่รื้อกล่องถุงยางอนามัยที่ลงทุนเหมาซื้อมาเกือบทุกแบบออกมาให้พี่เหนือเลือก
เกือบไปแล้วไอ้โต๊ะเอ๊ย พี่มันเกือบจับได้แล้วว่ามึงหื่น
แม่งต้องเนียนๆ เป็นเด็กน้อย เหมือนที่พี่เหนือเรียกเข้าไว้
ใสๆ พี่ชายชอบ
“เป็นไงบ้างวะมึง หายหัวไปเลยนะ ไลน์เลยเพื่อนไม่ตอบ ห้องไม่กลับ”
ผมเงียบเสียงไม่ตอบเพื่อนๆ นั่งลงด้วยท่วงท่าสบายๆ
“เฮ้ย ครั้งแรกทำไมหายเร็วอย่างนี้วะ ไม่เจ็บเลยเหรอ หรือว่า...”
“เหี้ยโต๊ะ!! อย่าบอกว่ามึงเป็นคนได้กดจริงๆ นะ”
“ไม่จริงค่ะ เดซี่ไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้”
เพื่อนๆ ผมเริ่มสติแตกกันทั่วหน้า โดยเฉพาะเดซี่ที่กำกระเป๋าตังค์ของตัวเองเอาไว้แน่น
“เสียใจด้วย กูไม่ได้โดนเสียบ”
“เหี้ยแล้วกู ฟ้าถล่มดินทลาย อากาศวิปริต พี่เหนือเสียซิงให้ไอ้โต๊ะ กูรับไม่ได้”
“เอาจริงๆ โต๊ะ” แม้แต่เจ้าก็ทำหน้าแปลกใจคล้ายจะช็อคไปตามๆ กัน
“พวกมึงนี่ขี้เสือก กูไม่บอกหรอก คิดกันเอาเอง”
“อ้อ” ผมหันไปจ้องเดซี่โดยเฉพาะ
“มึงเลี้ยงข้าวกูก็แล้วกัน” เดซี่จ้องผมตาค้างแต่ก็ยอมพยักหน้าหงึกๆ
หึหึ ผมไม่ได้โกงนะครับ ผมไม่ได้บอกสักหน่อยว่าผมชนะพนัน ผมบอกแค่ว่าให้เลี้ยงข้าวผมหน่อย
แล้วเดซี่ก็ตกลงยอมเลี้ยงเอง
เอาไว้ให้ผมอิ่มจนพุงกางแล้วผมค่อยเฉลย ว่าเมื่อวันก่อนผมแค่ไปเข้าเทรนครั้งแรกเท่านั้นเอง
พี่เหนือบอกว่าผมยังต้องเข้าเทรน(ทุกวันศุกร์)ไปอีกเรื่อยๆ จนกว่าจะจบคอร์ส ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคอร์สที่ว่านานแค่ไหน
เฮ้อ สงสารเพื่อนๆ จริงๆ คงคิดถึงผมแย่ เทรนเนอร์ผมค่อนข้างขยัน เคร่งครัดและระเบียบวินัยดีเสียด้วยสิ
เทรนทีข้ามยาวไปถึงวันอาทิตย์เลย
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
คำผิดเดี๋ยวมาแก้ให้อีกสักพักนะคะ ไม่มีเวลาจริงๆ ^^
Darin ♥ FANPAGE