ตอนที่ 47
“พวกพี่จะเข้าใจสิ่งที่ผมกำลังจะบอกได้รึยัง” ตะวันพูดหลังจากพยายามกล่อมโมกและแมคมาสองวันติดเพื่อไม่ให้ไปตามเมฆาที่ไร่เพียงระพี ซึ่งเมฆาให้คนที่ไร่เอารถมาคืนตะวันตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แมคแทบจะคว้ากุญแจรถไปตามน้องไม่ทันแต่ตะวันก็รั้งไว้ก่อน
ตะวันพอจะมีประสบการณ์เรื่องการคุยและการพูดกล่อมเกลามาบ้าง เพราะตะวันเองกว่าจะเอาตัวภุมรินมากอดแนบอกได้อย่างเต็มที่ก็เทียวไล้เทียวขื่อ พูดจาหว่านล้อมเพื่อนรักตั้งนานสองนานกว่าจะยอมปล่อยน้องชายสุดที่รักอย่างภุมรินให้ยอมมาอยู่บ้านเขา นึกสภาพถ้ารัชพลไม่คบกับสิตางศุ์ไม่รู้ชาตินี้ตะวันจะได้เชยชมภุมรินรึเปล่า
เพราะฉะนั้นเรื่องของเมฆาเขาเองก็อยากจะช่วยน้อย เพราะเมฆาก็เคยช่วยเขามาก่อน และอีกอย่างนี่มันก็คือความสุขของเมฆา แต่ในทางกลับกันนั้น เขาก็เข้าใจครอบครัวของเมฆาเรื่องที่เป็นห่วงว่าที่นี่มันอันตราย เขาเข้าใจว่าโมกและแมคห่วงความปลอดภัยของเมฆามากกว่าการที่เมฆาคบกับเพียงดินเสียอีก การที่เมฆาคบกับเพียงดินมันคือการเหนี่ยวรั้งเมฆาให้อยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่จะทำคือบอกให้เมฆาเลิกคบเพียงดิน แน่นอนว่าคนอย่างไอ้เมฆตัวแสบไม่มีทางยอมพี่ชายของตัวเองแน่ บทจะดื้อใครก็เอาเมฆาไม่อยู่เหมือนกัน
“ตะวันก็รู้ว่าที่นี่มันอันตราย น้องเกือบโดนพวกค้ายาฆ่าเกือบตายมาแล้วนะ คิดว่าพี่จะยอมปล่อยให้เมฆเจออะไรแบบนี้อีกเหรอ” โมกว่า เขาเริ่มระงับสติและใจเย็นขึ้นกว่าวันก่อนมาก การนั่งคิดทบทวนนั้นทำให้อารมณ์เขาเย็นลง แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะให้เมฆากลับไปกับพวกเขาอยู่ดี
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ทางตำรวจตอนนี้จับตัวการรายใหญ่ได้แล้ว ผลจากการซักทอดนี่แหละ และเรื่องอะไรพวกนี้มันอยู่ชายแดนโน้น ตัวเมฆเองก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไร ไร่เพียงระพีน่ะระบบรักษาความปลอดภัยหนาแน่นยังกับอะไร และอีกอย่างผมมั่นใจว่าพ่อเลี้ยงเพียงดินไม่ปล่อยให้เมฆเป็นอะไรหรอกครับ” ตะวันพยายามพูดเกลี้ยกล่อม ประเด็นนี้ค่อนข้างอ่อนไหว เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนภายในครอบครัว เขาเองก็เข้าใจทั้งสองฝ่าย
“แล้วทำไมตอนนั้นเมฆถึงโดนจับไปได้ล่ะ อย่ามาพูดเลยว่าดูแลได้ ถ้าเรื่องมันจะเกิดใครก็ช่วยไม่ได้หรอก” แมคว่า เขาไม่พอใจนักที่น้องของตัวเองต้องอยู่ในอันตราย แมคดูแลทุกคนอย่างดีเสมอมา และทุกคนที่เข้ามาไม่เคยทำให้เมฆาเดือดร้อนขนาดนี้ แต่กลับพ่อเลี้ยงเพียงดินอะไรนี่ เขาอุตส่าห์ยอมปล่อยให้เมฆาคบเพราะคิดว่าเมฆาเองก็โตแล้ว พ่อเลี้ยงเพลงดินก็ไม่ได้เสียหายอะไร สุดท้ายแล้วเมฆากลับต้องมาตกอยู่ในอันตราย
ตะวันเถียงเรื่องนี้ไม่ออก เหมือนกัน เพราะการที่เมฆาโดนจับไปโดยพวกค้ายาพวกนั้น ใครก็ช่วยไม่ได้จริงๆ มีแต่จะช่วยตรงปลายเหตุ ซึ่งเมฆาก็ได้รับอันตรายไปแล้ว
“เอาเป็นว่าพี่อยากตะคุยกับพ่อเลี้ยงเพียงดินอีกรอบ รวมทั้งเมฆด้วย” โมกพูด
“พี่โมก จะคุยทำไมอีก พาน้องกลับเลยสิ” แมคโวย ทำไมโมกพูดเหมือนยอมแบบนี้ล่ะ ได้ยังไง ทั้งๆที่โมกแท้ๆที่เป็นตัวตั้งตัวตีจะเอาเมฆากลับไป
“น้องแมคครับ” โมกกดเสียงต่ำลง เวลาเขาต้องการระงับสติแมคเขาชอบทำเสียงแบบนี้ และแมคก็จะเงียบลง แมคที่คอยควบคุมคนในบ้านก็จริง เขาเองก็มีมุมกลัวโมกเหมือนกัน อย่างที่บอกว่าภาพลักษณ์โมกเป็นคนใจดี แต่ดื้อเงียบ เวลาโหดขึ้นมา โมกนี่แหละโหดที่สุด
“คุยก็คุย แมคไปด้วย” แมคว่า โมกถอนหายใจอย่างคิดหนัก ถ้าถามตัวเขาเองแล้วนั้น แน่นอนว่าการที่เมฆากลับบ้านคือสิ่งที่เขาต้องการ ไม่มีอันตราย และมีงานดีๆทำโดยที่ไม่ต้องทนลำบากอยู่ในโรงพยาบาลต่างจังหวัดแบบนี้
“ผมอยากให้พวกพี่คิดถึงเมฆให้มากๆ ทุกคนมีสิ่งที่ต้องการและอยากทำ เราไม่มีสิทธิ์ไปบังคับใจใครได้หรอกนะครับ ถ้าพวกพี่อยากเห็นเมฆมีความสุข ก็ปล่อยให้เมฆได้เลือกทางของตัวเองจะดีกว่า” ตะวันว่าทิ้งท้าย
โมกนิ่งไปเล็กน้อย เขายังอยู่ในอาการที่คาดเดาอะไรไม่ได้ แมคดูจะหัวเสียและดื้ออยากจะเอาน้องกลับให้ได้ เขาไม่ฟังตะวันเท่าไหร่ เพราะคิดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้องอยู่แล้ว และแน่นอนว่าเขาก็ไม่อยากให้โมกเอนไปกับตะวัน ถ้าโมกให้เมฆาอยู่ที่นี่ต่อ มันก็ยากที่จะเขาจะเอาเมฆากลับ
“ขอยกเลิกการถ่ายละครที่นี่เหรอครับ” เพียงดินถามอย่างงงๆ อยู่ๆกองละครก็ขอยกเลิกการถ่ายละครที่ไร่ของเขาต่อ และที่สำคัญตอนนี้เหมือนนักแสดงจะกลับไปกันหมดแล้ว รวมทั้งพะพายด้วย เธอไม่แม้แต่จะมากล่าวลาเขาเลยแม้แต่น้อย นั่นทำให้เพียงดินไม่เข้าใจ
“พอดีมีเรื่องนิดหน่อยครับ เลยต้องเลื่อนการถ่ายทำออกไปอีกหน่อย” ผู้จัดละครว่า ปัญหาในกองถ่ายตอนนี้เยอะจนทางช่องบอกให้ระงับการถ่ายทำไว้ก่อน แน่นอนว่าค่าเสียหายย่อมเยอะตาม นั่นทำให้ผู้จัดเครียดไม่น้อยเช่นกัน ก็พระนางของเขาน่ะสิ ทำกองละครล่ม
“ถ้ามีอะไรให้ช่วยอีก ก็มาที่ไร่ได้นะครับ ไร่เพียงระพียินดีต้อนรับ”
“ขอบคุณครับ"
กองละครของพะพายเริ่มขนของกลับออกไปแล้ว เพียงดินไม่ค่อยเข้าใจอะไรเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อยากถามอะไรมาก เขางงตรงพะพายที่พยายามเข้าหาเขาตลอด แต่ตอนนี้กลับไม่มาล่ำลาตามประสาคนเคยรู้จักแต่อย่างใด
“ไปจนได้ ข่าวดังขนาดนั้น อยู่ต่อนี่คงต้องหน้าหนาจริง” เม้งยืนเท้าสะเอวมองกองละครที่พากันขนของขึ้นรถไป
“ข่าวอะไรวะไอ้เม้ง” เพียงดินถาม
“โหย ทำไมนายตกข่าวแบบนี้ล่ะครับ ดูทีวีอ่านหนังสือพิมพ์บ้างรึเปล่าเนี่ย เฟซบุ้กน่ะหัดเล่นซะบ้าง” เม้งว่า แล้วยืดอกอย่างภูมิใจที่ทันข่าวกว่าเพียงดินที่เป็นเจ้านาย
“มียอกย้อนนะมึงน่ะ ตกลงข่าวอะไร” เพียงดินเตะเม้งไปทีนึงอย่างหมั่นไส้
เพียงดินไม่ค่อยได้ตามข่าวอะไรมากมายเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็ข่าวการเมือง ข่าวทั่วไป ข่าวบันเทิงอะไรแบบนี้ไม่ค่อยได้ตาม และอีกอย่างสองสามวันมานี้ขลุกอยู่แต่กับเมฆา เจ้าตัวเล็กอ้อนเขาทั้งวัน กว่าจะทำใจออกมาไร่ได้นี่แทบใจจะขาด ถ้าเมฆาไม่ไล่ให้มาทำงานทำการ มีเหรอเขาจะยอมอยู่ห่างจากอีกคน ตอนนี้เมฆาคงสนุกอยู่กับการทำอาหารกลางวันมาให้คนงานในไร่ ตอนเที่ยงก็คงตามเขาเข้ามาเหมือนกัน
“ก็คุณพะพายคนสวยของนายกับพ่อพระเอกขวัญใจมหาชนน่ะสิ แฉกันเอง ข่าวนี่ดังครึกโครมเชียว เมื่อเช้าผมนั่งดูเรื่องเล่าเช้านี้กับได้งอก คนนี่ส่งข้อความมาด่ากันตรึม เห็นว่าข่าวค่อนข้างดัง ทางช่องเลยสั่งพักกองละครที่กำลังถ่ายที่ไร่เรานั่นแหละ” เม้งเล่าอย่างออกรส เรื่องนี้รู้กันทั้งไร่แล้ว มีแต่พ่อเลี้ยงหนุ่มนี่แหละไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แหม ไอ้เม้งไม่อยากจะพูดหรอกนะ ว่าพ่อเลี้ยงเอาแต่กิ๊กกั๊กกับคุณหมอทั้งวัน ที่แท้ก็คนติดเมียนี่เอง
“แฉอะไรกันวะ ถึงขั้นต้องเลิกถ่ายละครเลยเหรอ” เพียงดินเองก็เริ่มอยากรู้ ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขนาดนี้
“หูย นายนี่ตกข่าวเบอร์แรงมาก เรื่องเกี่ยวกับตัวเองแท้ๆ” เม้งว่า
“เกี่ยวกับกู?” เพียงดินยิ่งงงใหญ่
“ก็คุณพะพายคนสวยน่ะสิ โดนแฉว่ามอมเหล้านายแล้วกะจะจับ เธอเลยโมโห แฉกลับว่าพระเอกแมนนั่นไม่แมน ไม่นิยมผู้หญิง คราวนี้ก็สนุกเลย มีแต่คนรับไม่ได้ ในเฟซบุ้กไอ้เม้งนี่นะ มีแต่คนด่า” เม้งเล่า เพียงดินได้ยินก็นิ่งไปซักพัก
พะพายเหมือนอยากจะกลับมาคืนดีกับเขาอีกครั้ง เพียงดินไม่คิดไปถึงขั้นที่ว่าเธอจะมาใช้มารยาจับเขาหรืออะไร เพราเพียงดินเป็นคนที่ใครก็มามอมเหล้าไม่ได้แน่นอน เขาไม่เคยเมาถึงขั้นไม่รู้ตัว อย่างมากก็แค่มึนและนิ่ง เป็นอันรู้กันว่าเริ่มเมาแล้ว เขาไม่เคยคิดว่าพะพายเป็นคนแบบนั้น เพราะในสายตาของเขาพะพายเป็นผู้หญิงที่ดีเสมอ และการที่เธอบอกเลิกเขาก็เพราะมีเหตุผล นั่นทำให้เพียงดินยังฝังใจและไม่เคยโกรธเธอ
“เค้าคงไม่มายุ่งกับนายอีกแล้วมั้ง โดนแฉขนาดนั้นแล้ว คงไม่มีหน้ามาสู้นายหรอก ไหนจะต้องต่อสู้กับนักข่าวอีกเยอะแยะ คงเหนื่อยน่าดูเลยนะนั่น นายคงได้อิ๊อ๊ะกับคุณหมออย่างไม่ต้องกังวลแล้ว” ประโยคสุดท้ายเม้งแอบเซว
“อิ๊อ๊ะอะไรของมึงไอ้เม้ง เดี๋ยวกูศอกเลยนี่ อย่าไปพูดแบบนี้ได้เมียกูได้ยินนะ” เพียงดินทำท่าจะเสยศอกใส่เม้ง เม้งเลยเอี้ยวตัวหลบแทบไม่ทัน
“เมียเต็มปากเต็มคำเลยนะนั่น” เม้งแอบพึมพำคนเดียว
“อะไร มึงบ่นอะไรไอ้เม้ง” เพียงดินหันมาด่าอีกรอบ
“เปล่าครับนายครับ ไอ้เม้งไปแล้วครับ” พูดจบคนงานหนุ่มก็วิ่งแจ้นเข้าไร่ไป เพียงดินก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาได้แต่ถอนหายใจและปลงตกกับเรื่องของพะพาย
เรื่องมันแล้วไปแล้ว เขาก็หวังเพียงว่ามันจะไม่ย้อนกลับมาทำร้ายเขากับเมฆาอีก เพราะดูเหมือนเมฆาเองก็ไม่พอใจพะพายนัก เขาไม่อยากให้อดีตตามมาหลอกหลอนปัจจุบัน เพราะแค่นี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องรับมือต่อยังไงแล้ว
“กินข้าวกันดิน เที่ยงแล้ว” เมฆาตะโกนมาแต่ไกลพร้อมกับยิ้มกว้าง คนตัวเล็กเดินมาพร้อมกับคนงานที่เอาข้าวมาแจกคนงานในไร่ ในมือของเมฆานั้นมีปิ่นโตอันใหญ่อยู่ เมฆายิ้มอย่างสุขใจ เขาชอบอะไรแบบนี้มากที่สุดแล้ว ตอนคบกับพะพายและราตรีไม่เคยเลยที่จะมีใครมาทำแบบนี้ให้ การได้ทำงานที่ตัวเองรัก และมีคนที่รักคอยดูแลอยู่ใกล้ๆแบบนี้ เพียงดินก็ไม่ขออะไรแล้ว
“อยากกินเมฆมากกว่า” เพียงดินแอบหยด เมฆาเบ้ปากใส่ พอเขายอมใหญ่พ่อเลี้ยงตัวดีก็หยอดเช้าเย็นไม่ได้ขาด
“กินข้าวไปก่อนเหอะ เดี๋ยวเป็นลมตายกลางไร่ ไม่พาไปหาหมอจริงๆด้วยนะ” เมฆาว่าแล้วเริ่มปูเสื่อใต้ต้นองุ่นที่พอจะมีที่ว่างให้นั่ง พวงองุ่นสีม่วงแดงเรียงรายอยู่เหนือหัว ความสุขเล็กๆของเพียงดิน
“จะพาไปทำไม หมอส่วนตัวก็อยู่นี่แล้ว” เพียงดินคว้าเมฆามากอดแล้วหยดคำหวานอีกรอบ
“ใครเค้าอยากเป็นหมอส่วนตัวของพ่อเลี้ยงคอกวัวกัน” เมฆาว่ากลับ แต่ก็แอบยิ้มเล็กที่มุมปาก
“ถ้าอย่างนั้นเป็นแค่หัวใจของเพียงดินก็พอแล้วเนอะ ถ้าไม่มีหัวใจ ต่อให้หมอที่ไหนมารักษาก็ตายอยู่ดี” หยอดรอบที่ร้อยแปดของวัน ลำบากเมฆาต้องเขินหน้าแดงอีกรอบ
“ลิเกชะมัด กินข้าวไป” ยื่นกับข้าวให้คนตัวโตกว่า
เมฆาโทรไปคุยที่โรงพยาบาลแล้วเรื่องการทำงานต่อ เขาอยากทำงานที่นั่นต่อแต่เมื่อโมกจัดการเรื่องเหล่านี้ให้หมดแล้ว เมฆาก็ต้องออกจากงานที่นั่น เขาอยากไปสมัครอีกรอบ เพราะนี่คืองานที่เขารัก คงเป็นเรื่องที่ต้องคุยกันอีกที แต่ตอนนี้เพียงดินได้ให้ตำแหน่งพิเศษ คือคุณหมอประจำไร่ที่คอยดูแลคนงาน มีค่าจ้างเป็นเจ้าของไร่อย่างเพียงดิน เมฆาบ่นอุบว่าไม่เห็นจะคุ้มกันเลย มาติต่างเอาลูกเค้ามา ทางบ้านของเมฆายังไม่มีใครตอบตกลง
พูดถึงเรื่องที่บ้าน เมฆาเองก็แปลกใจไม่น้อยที่โมกและแมคไม่ตามมาคุยด้วย เพราะปกติพี่ชายของเขาต้องมาแล้ว เมฆาเตรียมรับมือไว้แล้ว เขาพร้อมจะดื้อใส่โมกและแมคแน่นอน ไม่มีทางยอมพี่ชายของตัวเองแน่ๆ
“นายครับ นาย มีคนมาหาครับ” งอกที่วิ่งหน้าตั้งมาหาพร้อมกับตะโกนลั่นทำให้เพียงดินและเมฆาต้องหันไปมอง
“อะไรของมึงเนี่ยไอ้งอก ตะโกนลั่นไร่เลย” เพียงดินว่า
“มีคนมาหาครับ มาพร้อมคุณตะวัน” งอกยืนหอบไปพูดไป
“มากับพี่ตะวันเหรอ” เมฆาหันไปมองหน้าเพียงดิน หรือจะเป็นพี่โมกพี่แมค
เพียงดินมองหน้าเมฆากลับแล้วลุกขึ้น เขาพร้อมแล้วกับการแย่งชิงเมฆากลับมา เขาไม่มีทางปล่อยเมฆาไปแน่นอน ไม่ว่าเหตุผลใดใดก็ตาม
พอมาถึงหน้าบ้านก็เจอสามหนุ่มประสิทธานนท์ยืนรออยู่ โมกมีสีหน้าที่เดายากเหมือนเคย แมคทำหน้าไม่พอใจเพียงดินอย่างเห็นได้ชัด
“เมฆไม่กลับนะพี่โมก” เมฆาแสดงเจตนารมณ์
“พ่อโทรมาหาแล้วใช่มั้ยเมฆ” โมกเข้าไปหาน้องชาย เมฆาถอยไปยืนข้างเพียงดิน
“ใช่ แล้วพ่อก็อนุญาตให้เมฆอยู่ที่นี่ต่อแล้วด้วย”
“ได้ไงอ่ะ ทำไมพ่อทำแบบนี้” แมคเริ่มโวย ทำไมทุกคนในบ้านเหมือนยอมให้เมฆาเสี่ยงตายอยู่ที่นี่
“พี่ขอพูดอีกครั้ง เมฆมีหน้าที่การงานที่ดีกว่าที่นี่ ที่บ้านเราปลอดภัย เมฆาจะยอมทิ้งสิ่งเหล่านี้เพื่อมาอยู่ที่นี่เหรอ ทุกคนเป็นห่วงเมฆนะ” โมกพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง นั่นทำให้เมฆาสัมผัสได้ถึงความใจอ่อนของพี่ชาย
“เมฆเจอสิ่งที่ดีกว่านี้ได้ก็จริงนะพี่โมก แต่เมฆอยู่ที่นี่แล้วมีความสุข เมฆชอบที่นี่ตั้งแต่เด็กๆ เมฆอยากมาแต่บ้านของพี่ตะวัน เมฆอยากเล่นกับรินกับพี่รัช มากกว่าเด็กข้างบ้านหรือเพื่อนในเมืองใหญ่ การที่เมฆเลือกเรียนหมอนั่นมันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเมฆไม่ต้องการอยู่ในความวุ่นวายอย่างที่พ่อ พี่ๆเป็น ถ้าพี่โมกคิดว่านั่นคือสิ่งที่ดีสำหรับเมฆ แล้วความสุขของเมฆล่ะพี่โมก คนเรามีความสุขไม่เหมือนกันนะ” เมฆาถอนหายใจออกมาแล้วช้อนตามองพี่ชาย
โมกนิ่งไปซักพัก แต่เล็กเมฆาค่อนข้างเป็นคนแปลกจากครอบครัว เมฆาไม่ชอบความวุ่นวาย เมฆาไม่ชอบธุรกิจ พ่อของพวกเขาพามาเที่ยวที่เชียงรายแต่เล็กเพราะภูผาย้ายมาอยู่ที่นี่ และเมฆาเป็นคนเดียวที่รักที่นี่จนต้องกลับมาทุกปี
โมกไม่พูดอะไรแต่ดึงน้องเข้าไปกอดแล้วลูบหัวเมฆา เมฆากอดพี่ชายแน่นแล้วซบหน้าลงกับไหล่กว้างนั้น น้ำตาเริ่มไหลลงมา เมฆารู้ว่าโมกเข้าใจเขาแล้ว
“เพียงดินคือความสุขของเมฆ” เมฆากระซิบแผ่ว
“ถ้าเค้าคือความสุขของน้องพี่ พี่ก็อยากให้เมฆมีความสุข” แค่นั้นเมฆาก็เข้าใจ รอยยิ้มน้อยๆนั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง
“ขอบคุณนะพี่โมกที่เข้าใจเมฆ เมฆรักพี่โมกที่สุดเลย” เมฆายิ้มร่าแล้วกอดโมกแน่นกว่าเดิม
“ผมสัญญาว่าจะดูแลเมฆอย่างดี สิ่งที่พวกคุณกังวลมันไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ” เพียงดินพูดอย่างหนักแน่น เขาพร้อมจะมีเมฆาเข้ามาในชีวิต และพร้อมจะดูแลเมฆาตลอดไป
“สิ่งที่ผมทำ ผมทำเพื่อเมฆ ผมไม่ได้มั่นใจในคำพูดของคุณ แต่ถ้าวันไหนคุณทำเมฆเสียใจ ผมไม่มีทางปล่อยให้น้องของผมอยู่ที่นี่อีกต่อไปแน่นอน” โมกลั่นวาจา เพียงดินไม่ขออะไรมากไปกว่านี้แล้ว ในเมื่อโมกไม่เชื่อ เขาก็จะทำให้โมกดูว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นทำได้จริง
“ดูแลตัวเองดีๆนะเมฆ ว่างๆพี่จะมาหาบ่อยๆ” โมกเช็ดน้ำตาให้น้องแล้วยิ้มบางให้ เมฆาพยักหน้ารับคำทั้งน้ำตา
“ได้ไงอ่ะพี่โมก พี่ยอมได้ไง” แมคโวย เมฆาและโมกหันไปมอง เมฆายังลืมไปว่ามีแมคอีกคนที่ไม่โอเคตั้งแต่แรก
“เดี๋ยวพี่คุยกับแมคเอง” โมกว่าแล้วหันไปหาน้องชายอีกคนแทน
เมฆาก็หวังแค่ว่า ทุกคนจะเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของเมฆา เขาแค่อยากเลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดและมีความสุขให้ตัวเอง มีคนมากมายบอกว่าเขาสามารถเจอสิ่งที่ดีกว่านี้ได้ แต่เมฆาไม่สนใจ เพราะความสุขของเมฆาคือเพียงดิน คือครอบครัวรักษ์นที คือตะวัน และคือทุกคนที่นี่
เพราะความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน
**************************************************
เราจะคืนความสุขให้เมฆา

ตอนนี้มึนๆนิดนึงนะคะ เบลอหนักมาก ตอนไหนที่ภาษาหรืออะไรงงๆคือหลังปั่นงานอย่างหนักหน่วงมาค่ะ 55555

น่าจะไม่เกินสองตอนนะ พยายามหาจุดจบให้มันสมูท ไม่อยากตัดแบบดื้อๆ ฝากน้องเมฆจนจบด้วยนะคะ ใกล้แล้ว
ปล. เรามีความคิดอยากเพิมเรื่อง "พนาพร่ำพิรุณ" เป็นเรื่องสั้น แต่ไม่ลงเว็บนะคะ อยากแค่ทำแถมถ้าใครซื้อหนังสือหรือบ๊อกเซตของดวงใจไร่รักครบสามเล่ม อันนี้ยังไม่ได้คุยกับสนพ. และยังไม่ตัดสินใจแต่ง แค่อยากฟังฟีดแบคจากคนอ่านว่าคิดเห็นอย่างไร
#ภมรอ้อนตะวัน #พระจันทร์ล้อนที #ปฐพีเคล้าเมฆา #พนาพร่ำพิรุณ #ภุมมากรุ่นอัสนี นี่คือห้าเรื่องที่เราคิดไว้ แต่ไม่น่าจะแต่งหมด แค่สามเรื่องก็ประทับใจตัวเองมากแล้ว 5555555555