L&P 13 : ตัวเล็ก“มีอะไรหรือเปล่า” ท่าทางกระสับกระส่ายสีหน้าไม่สบายของคนที่นั่งอยู่ใกล้ทำให้ผมต้องหันไปถามไถ่
“ลุงผมมาด้วยจะดีเหรอ” ลิงเปี๊ยกยกมือขึ้นจับชายเสื้อสูทของผม มันเป็นปฏิกิริยาที่เจ้าตัวมักทำเสมอในเวลาที่
รู้สึกไม่มั่นใจหรือต้องการกำลังใจรวมไปถึงใช้เป็นตัวช่วยในการอ้อนหรือง้อผม คนทำอาจไม่รู้ตัวแต่เพราะผมสนใจ
ทุกอย่างที่ลิงเปี๊ยกทำจึงสังเกตเห็นได้ไม่ยาก
“ดีสิ ไม่ดีจะพามาเหรอ” ผมตบมือลงบนมือของลิงเปี๊ยกข้างที่จับเสื้อผมอยู่เป็นการให้กำลังใจ วันนี้ผมพาลิงเปี๊ยกมางาน
เลี้ยงวันเกิดของลูกค้า เนื่องจากเป็นงานฉลองอายุครบ 60ปี งานจึงจัดอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรตินักธุรกิจดัง
“แต่ผมกลัวทำลุงขายหน้า ในงานมีแต่ผู้ใหญ่ถ้าผมทำอะไรไม่เข้าท่าขึ้นมาล่ะ ผมกลับก่อนดีไหมลุง” ลิงเปี๊ยกกวาดตามอง
ไปรอบๆ ห้องบอลลูมด้วยสายตาหวั่นวิตก
“นายจะทำอะไรหรือกะจะเดินชนโต๊ะอาหารล้ม” ผมแซวเพราะนึกเอ็นดูไอ้ตัวเล็ก ท่าทางมันตื่นๆ เหมือนเด็กหลงทาง
“มันก็ไม่แน่นะลุงในหนังในละครก็มี ร้อยวันพันปีไม่เคยชนพอวันสำคัญปุ๊บชนปั๊บขายหน้าทุกราย”
“ไม่ต้องห่วง” ผมยกมือตบกระเป๋ากางเกงตัวเองเบาๆ
“ฉันมีจ่าย แต่เอาแค่สองสามโต๊ะพอนะลิงเปี๊ยกเสียดายของ”
“ลุ้ง” ลิงเปี๊ยกตีหน้ายุ่งใส่ผม ออกอาการงอนที่ผมเอาเรื่องจริงจังของตนมาพูดเล่น
“เอาน่า ฉันแค่อยากให้นายผ่อนคลายอย่าคิดอะไรมาก ไม่ต้องเกร็ง”
“ลุงก็พูดได้สิลุงดูดีจะตายผมอย่างกับเด็กกะโปโล”
“นายคิดไปเองลิงเปี๊ยก” ผมไล่สายตามองลิงเปี๊ยก ชุดสูทสีน้ำเงินเข้มกับเชิ้ตสีครีมพอดีตัวส่งให้ลิงเปี๊ยกดูหล่อเหลากว่า
ปกติ ทำเอาผมนึกหวงไม่อยากให้ใส่ขึ้นมาตงิดๆ
“พี่ลมสวัสดีค่ะ” เสียงทักทายที่ดังมาก่อนตัวดึงความสนใจผมให้หันไปมอง
“สวัสดีครับ” ผมส่งยิ้มนำไปก่อนเพราะนึกชื่อไม่ออก คุ้นหน้าแต่ไม่มากพอให้จำชื่อได้
“พลอยมาเป็นเพื่อนคุณแม่ค่ะไม่นึกว่าจะได้เจอพี่ลม” พลอย..ผมพยายามนึกทบทวนแต่มั่นใจว่าผู้หญิงชื่อพลอย
ที่ผมรู้จักไม่มีสักคนที่หน้าตาแบบนี้
“อ้าว เจอกันแล้วหรือจ๊ะหนูพลอย” บุคคลที่สองและสามที่เดินมาเข้านั่งร่วมโต๊ะทำให้ผมรู้ว่าบางทีคำว่าบังเอิญก็ไม่มีอยู่จริง
“สวัสดีครับป้าสิ” “สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ป้าสิและเพื่อนตามมารยาท ลิงเปี๊ยกรู้งานรีบยกมือขึ้นไหว้ตามผม
“ลมจำไม่ได้เหรอ นี่น้าหยกกับน้องพลอยลูกท่านทูตกรัญไง ลมเคยเจอน้องบ่อยๆ ตอนเล็กๆ”
“จำได้ครับ” ผมพยักหน้า ผมจำพลอยในตอนนี้ไม่ได้แต่จำเด็กเปียพูดมากที่โดนเฟิงเอาสก็อตเทปปิดปากได้ดี
ในจำนวนพี่น้องสามคน เฟิงได้ชื่อว่าโหดที่สุด ส่วนวินไม่สนใจใครและออกไปทางดุมากกว่าแค่มองด้วยหางตาพลอยก็
เงียบกริบ จึงมีเพียงผมคนเดียวที่พลอยเข้ามาเล่นด้วยเพราะดูยิ้มแย้มและใจดีที่สุดในกลุ่ม
“น้องพลอยต้องตามท่านทูตไปอยู่เมืองนอกเสียนานเพิ่งย้ายกลับมา ลมเลยไม่ค่อยได้เจอน้อง”
“วันนั้นพลอยไปทานข้าวเช้าบ้านพี่ลมด้วยค่ะคุณป้าท่านชวนไป แต่เห็นบอกว่าพี่ลมติดธุระเรื่องงานด่วนมาก เลยไม่ได้เจอกัน”
วันนั้นนั่นเอง ผมนึกถึงวันที่เผ่นไปหาวินที่ห้องจนไปเจอกับลิงเปี๊ยกเข้า ถ้ารู้ว่าเป็นเด็กเปียพลอยก็คงไม่ต้องไป แต่..
ผมเหลือบตามองเสี้ยวหน้าของลิงเปี๊ยก ดีแล้วที่ไป
“พี่ติดงานนิดหน่อยเลยรบออกไป” ผมพยักหน้าให้รู้ว่าจำวันที่พลอยพูดถึงได้ ในขณะเดียวกันก็ใช้มือแตะไหล่ลิงเปี๊ยกเพื่อ
เตรียมแนะนำให้ผู้ร่วมวงสนทนาได้รู้จัก
“ส่วนนี่เปาเป็นหลานจ้ะ” ป้าสิชิงตัดหน้าผมแนะนำตัวลิงเปี๊ยกเสียก่อนยังทำท่าเหมือนสนิทสนมรักใคร่กันเต็มประดา
“หลานหรือคะ จำได้ว่าน้องภามีลูกสามคนหรือจะเป็นคนเล็ก”
“ไม่ใช่ค่ะคนเล็กนั่นตาวินโตกว่านี้เยอะตอนนี้เรียนหมออยู่” ป้าสิไม่เคยพลาดเรื่องอวดหลานชายโดยเฉพาะวิน
“คนนี้สนิทกันเหมือนญาติตาลมก็เอ็นดูเป็นน้องเป็นนุ่ง” สิ่งที่ป้าสิทำนั้นเข้าใจได้ไม่ยากและเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากสำหรับ ผม
“หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู” เสียงชมจริงใจดังมาจากผู้เป็นเพื่อน แต่ป้าสิกลับมองลิงเปี๊ยกด้วยหางตาและผุดรอยยิ้มเยาะ
ขึ้นที่มุมปาก
“ขอบคุณครับ” ลิงเปี๊ยกยิ้มให้เฉพาะผู้ที่เอ่ยปากชมเช่นกัน ผมเดาว่าคงเห็นเหมือนที่ผมเห็น
“พนักงานหายไปไหนหมดไม่เดินผ่านทางนี้เลย เปาไปหยิบน้ำมาให้น้าหยกกับพี่พลอยหน่อยสิ”
“ผมเรียกพนักงานให้ครับป้าสิ เปาไม่ต้องไป” ผมขัดป้าสิขึ้น ยกมือขึ้นเรียกพนักงานที่เดิมอยู่ไกลๆ ให้เข้ามาหา
“เห็นพี่สิบอกว่าลมเข้าไปช่วยพ่อบริหารงานเต็มตัวแล้วหรือจ้ะ”
“ใช่ครับ”
“เห็นไหมคะแม่ พลอยบอกแล้วว่าพี่ลมน่าทึ่งที่สุดเป็นผู้บริหารไฟแรงตั้งแต่อายุยังน้อย”
“จ้ะเชื่อแล้วว่าเก่ง เห่อพี่เขาจริงๆ ลูกคนนี้”
“ก็พี่ลมทั้งหล่อทั้งเท่นี่คะ”
“ลมอย่าไปถือสาน้องเลยนะเด็กคนนี้ไม่รู้จักเก็บอาการ”
“แหมคุณแม่ก็ มีพี่ชายเท่ๆ ก็ต้องอวดสิคะ น้องสาวอย่างพลอยจะได้ได้หน้าไปด้วย” ผมเห็นป้าสิสำลักน้ำที่เพิ่งยกดื่ม
แล้วต้องพยายามกลั้นขำ ป้าสิคงลืมไปแล้วว่าพลอยเคยเป็นลูกไล่ในกลุ่มสามพี่น้องมาก่อน จู่ๆ จะให้มาชอบกันมัน
เป็นไปไม่ได้
“แล้วนี่พี่ลมมีแฟนหรือยังคะ ถ้าไม่มีพลอยจะได้รีบไปบอกเพื่อนๆ ให้รู้ว่าพี่ลมว่างอยู่”
“ยังไม่มีจ้ะ” “ไม่เชิง” ป้าสิกับผมตอบออกมาพร้อมๆ กัน ทำเอาน้าหยกกับพลอยหันไปหันมามองหน้าผมกับป้าสิสลับกัน
“ผมกำลังจีบอยู่ครับ ป้าสิเลยยังไม่ทราบ” ผมไขข้อข้องใจให้ทั้งสองฟัง เพราะเป็นน้าหยกกับพลอยผมจึงไม่คิดจะยกเรื่อง
เป็นแฟนลิงเปี๊ยกขึ้นมาอ้างหากแต่เลือกที่จะพูดความจริงออกไป
“ว้า! เสียดายจัง ต้องสวยมากแน่ๆ เลยใช่ไหมคะพี่ลมจีบทั้งที”
“แบบนี้เรียกสวยหรือเปล่า” ผมบุ้ยใบ้ไปทางลิงเปี๊ยกที่นั่งอยู่ข้างๆ พลอยห่อปากทำตาโตแต่ป้าสิโมโหจนลมออกหู
“ตาลม! ล้อเล่นกับน้องแบบนี้ไม่ดีนะผู้ใหญ่ก็อยู่ด้วย”
“ผมไม่เคยล้อเล่นครับ” ผมยิ้มน้อยๆ แต่สายตาที่มองตอบป้าสิบอกให้รู้ว่าผมได้ตัดสินใจลงไปแล้วและใครก็เปลี่ยนมันไม่ได้
ตึ๊ง ตึ๊ง เสียงเตือนจากแอฟสีเขียวดังขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วยิ้มขำออกมาเมื่อเจอข้อความที่เขียนว่า..
“ลุงจะเปลี่ยนแผนก็บอกกันก่อนให้ทำยังไงตอบด่วน” พร้อมกับอิโมจิรูปหน้าโกรธมาเป็นแถวยาว
“ง่ายๆ นายกำลังถูกจีบ” ผมเกือบจะปิดโปรแกรมลงหลังพิมพ์เสร็จ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพิมพ์ตามไปอีกประโยคหนึ่ง
“มีใจให้ด้วยจะดีมาก”
“โอเค รับทราบพร้อมปฏิบัติ” ข้อความที่ได้กลับมาทำให้เผลอพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ทำไมเรื่องนี้ไอ้ตัวเล็กมันถึงซื่อ
นักตอบมาเสียหมดกำลังใจ ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดใช่ไหม
ผมหย่อนโทรศัทพ์ใส่กระเป๋ากางเกง เมื่อเงยหน้าขึ้นพบสายตาสามคู่กำลังมองมา คู่หนึ่งอยากรู้อยากเห็นจนปิดไม่มิด
คู่หนึ่งยิ้มอ่อนโยนคล้ายให้กำลังใจ อีกคู่ตาเขียวราวกับสีของมรกต
“ตาลม!”
“พี่สิคะ พี่ศรีสุดามาแล้วแวะไปทักทายกันหน่อยดีไหมคะ” น้าหยกขัดขึ้นเสียก่อนที่ป้าสิจะทันได้พูดอะไรกับผม
“คะ?”
“พี่ศรีสุดามาแล้วค่ะนั่งอยู่ตรงโน้นเราย้ายไปนั่งด้วยดีกว่าค่ะปล่อยให้เด็กๆ นั่งกันเอง”
“น้องหยกไปก่อนเถอะค่ะ พี่ขอคุยกับหลานชายหน่อย”
“แต่เห็นข่าววงในบอกพี่ศรีสุดาจะเปิดงานประมูลการกุศล กำลังคัดคนเป็นคณะกรรมการอยู่นะคะ อาจจะกำลังคุยกัน
เรื่องนี้อยู่ก็ได้”
“หรือคะ ตายจริงพี่ไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลย ไปค่ะน้องหยก” ป้าสิหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วลุกขึ้นเดินไปก่อนเป็นคนแรก
น้าหยกหันมาส่งยิ้มให้ผม ผมจึงค้อมศีรษะให้เพื่อเป็นการขอบคุณ
“ป้าสิไม่เห็นด้วยหรือคะพี่ลม ลำบากแย่เลย”
“ป้าสิทำใจลำบากน่ะแต่เดี๋ยวก็ชิน ว่าแต่เราเถอะเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดีค่ะ พลอยทำเรื่องโอนย้ายหน่วยกิจมาจะเข้าเรียนต่อที่นี่ ย้ายกลับมาอยู่กับคุณย่าเพราะคุณพ่อต้องย้ายประเทศ
อีกแล้ว”
“อืม”
“ว่าแต่พลอยยังไม่ได้ยินเสียงเปาสักคำเลย” พลอยหันไปพูดกับลิงเปี๊ยกที่นั่งดูดน้ำไม่พูดไม่จา
“ผมพูดนะครับผมพูดว่าสวัสดีครับ โอ๊ะ!” ลิงเปี๊ยกทำตาโตก่อนรีบส่ายมือเป็นพัลวัน
“ผมไม่ได้กวนคุณพลอยนะครับ ผมเผลอตอบตรงไปนิดเดียว”
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรแล้วก็เรียกพี่พลอยเถอะ พลอยน่าจะแก่กว่านะ”
ใช่พลอยแก่กว่าเปาสองปี” ผมเป็นคนตอบคำถามให้เพราะรู้อายุของทั้งสองฝ่าย
“งั้นก็เรียกพี่พลอยถูกแล้ว”
“ครับพี่พลอย”
“ตกลงไม่ใช่ญาติแต่เป็นแฟนกันใช่ไหมคะ” พลอยชี้นิวสลับไปมาระหว่างผมกับลิงเปี๊ยก
“จีบอยู่”
“ว้าว แล้วเปาชอบพี่ลมหรือเปล่า”
“หา?” ลิงเปี๊ยกหน้าเหรอหราคงไม่คิดว่าพลอยจะถามตรงๆ แบบนี้ ภาพเด็กเปียช่างพูดช่างซักแวบเข้ามาในหัว กี่ปีก็ไม่
เปลี่ยนจริงๆ แต่ก็ดีขอบใจนะพลอย
“ชอบหรือเปล่า”
“ผม..ผม..ผมเพิ่งถูกจีบครับยังไม่ได้คิด” ลิงเปี๊ยกเอาตัวรอดไปได้อย่างหวุดหวิด
“ขอโทษครับ เปาหรือเปล่า”
“อ้าว! พี่น็อต สวัสดีครับ” ลิงเปี๊ยกรีบยกมือไหว้คนที่เข้ามาทักจากทางด้านหลัง
“พี่ก็คิดอยู่ว่าน่าจะใช่แต่ไม่แน่ใจเห็นแต่ข้างหลัง” ผมหน้าเรียบเฉยกว่าปกติเมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่คือใคร
“พี่น็อตก็มางานนี้หรือครับ นัทมาหรือเปล่า”
“พี่มากับคุณพ่อนัทไม่ได้มา ตรงนี้ว่างหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มที่ชื่อน็อตหันมาถามผม
“ว่างค่ะ” เสียงตอบกลับรวดเร็วดังมาจากทางซ้ายมือของผม พลอยกำลังยิ้มกว้างมองชายหนุ่มผู้มาใหม่ด้วยความสนใจ
“ขอบคุณครับ” ตรงนี้คือที่นั่งข้างลิงเปี๊ยกคนละด้านกับผม
“อ๊ะ ผมแนะนำให้รู้จักก่อนนะครับ นี่พี่ลมกับพี่พลอยครับส่วนนี่พี่น็อตพี่ชายเพื่อนผม”
“สวัสดีครับ” “สวัสดีค่ะ” ส่วนผมเพียงแต่ค้อมศีรษะให้นิดนึงตามมารยาท
“เปารู้จักกับคุณลุงมนัสด้วยหรือ เมื่อกี้เห็นแวบๆ ยังแปลกใจถึงไม่ค่อยมั่นใจว่าใช่เปาหรือเปล่า”
“ผมไม่รู้จักเจ้าของงานครับมาเป็นเพื่อนพี่ลม”
“ถ้าผมจำไม่ผิดผมเคยเจอพี่ลมตอนไปรับเปาที่โรงเรียนใช่ไหมครับ”
“โรงเรียน?” พลอยเลิกคิ้วก่อนหันมามองหน้าผมแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาอธิบาย
“ครับ เราเคยเจอกันตอนผมไปรับตัวเล็ก” ลิงเปี๊ยกหันมาทำตาโตเมื่อเจอคำเรียกไม่คุ้นหูเข้า
“โอ๊ยตายเรียกกันน่ารักจังคนจีบกันก็แบบนี้น่าอิจฉา อุ๊ย!..พูดได้ไหมคะ พลอยนี่ปากไวจริงๆ เลย” พลอยยกมือขึ้นตีปาก
ตัวเองเบาๆ ก่อนส่งยิ้มแหยๆ มาให้ผม
“ได้สิพี่ไม่ได้ปิดอะไร จีบก็บอกว่าจีบ”
“มีคนจีบแล้วหรือเรา” มือหนาที่ยกขึ้นแตะไหล่ลิงเปี๊ยกแสดงออกถึงความสนิทสนม ผมหรี่ตาลงพยายามสังเกตความรู้สึก
จากสีหน้าของอีกฝ่าย
“มะ...ใช่ครับ พี่ลมเขาจีบผมอยู่ ” คำพูดทื่อๆ ของลิงเปี๊ยกจุดรอยยิ้มกว้างขึ้นบนใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู ภาพ
ที่เห็นทำให้ความหงุดหงิดเข้าครอบงำผมอย่างช่วยไม่ได้
“ทานกันเลยไหมคะ” พลอยแทรกขึ้นเมื่อพนักงานเริ่มทยอยวางอาหารลงบนโต๊ะ อย่างน้อยการที่พนักงานเข้ามาก็ทำให้
มือที่แตะลิงเปี๊ยกอยู่หลุดออก
“ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตร่วมโต๊ะด้วยคนนะครับ ขี้เกียจกลับไปที่โต๊ะผู้ใหญ่คุยกันแต่เรื่องธุรกิจ”
“ได้สิคะพลอยเข้าใจ พลอยก็ไม่ชอบเหมือนกันเวลาคุณพ่อเอาแต่คุยเรื่องานหรือคุณแม่คุยกันแต่เรื่องสังคม” ผมนึกถึง
สก็อตเทปที่เฟิงใช้ปิดปากพลอยตอนเด็ก นึกแล้วอยากจะลองทำบ้าง
“ขอบคุณครับ”
“อันนี้อร่อยค่ะลองชิมดู” พลอยชี้ชวนให้ชิมอาหารที่พนักงานเพิ่งนำมาวาง ผมเอื้อมมือไปตักแล้ววางลงบนจานของ
ลิงเปี๊ยก ลิงเปี๊ยกเงยหน้าขึ้นมายิ้มก่อนใช้ช้อนตักกุ้งราดซอสที่ผมตักให้เข้าปาก
“ตัวเล็ก” ผมเอื้อมมือไปแตะคางลิงเปี๊ยกก่อนใช้นิ้วโป้งปาดซอสที่เลอะอยู่บนริมฝีปากออกให้ ลิงเปี๊ยกชะงักค้าง
หน้าขึ้นสีแดงเรื่อ ผมส่งนิ้วเข้าปากตัวเองเพื่อดูดน้ำซอสออก ก่อนไล้ปลายนิ้วซ้ำที่ปากลิงเปี๊ยกเพื่อเช็ดส่วนที่เหลือ
“ทานดีๆ” ผมลดมือลงเช็ดกับผ้าเช็ดปากที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนตักอาหารทานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เปาอิ่มแล้วเหรอไม่เห็นทานต่อ” เสียงทักของน็อตทำให้ลิงเปี๊ยกหลุดจากอาการตัวแข็ง ก้มหน้าก้มตาตักข้าวเข้าปาก
ไม่ยอมสบตากับใคร อาการเขินของลิงเปี๊ยกทำให้ใจผมชุ่มชื้นขึ้นมาบ้าง
“ร้ายนะคะพี่ลม” เสียงกระซิบเบาๆ มาจากพลอยที่นั่งสังเกตการณ์อยู่
“งานเลิกแล้วไปไหนกันหรือเปล่าคะพลอยอยากไปเดินซื้อของ เปาไปกับพี่หรือเปล่า” พลอยเปลี่ยนมาพูดเสียงปกติ
เพื่อให้คนอื่นๆ ที่ร่วมโต๊ะได้ยินด้วย
“ผมแล้วแต่พี่ลมครับ” เปี๊ยกโยนมาให้ผมเป็นคนตัดสินใจ
“ไปนะคะพี่ลมไปเป็นเพื่อนพลอยหน่อย พลอยเพิ่งกลับมายังไม่ค่อยมีเพื่อน ที่รู้จักกันตั้งแต่เด็กก็จำเกือบไม่ได้แล้ว”
“วันหลังพี่ไปเป็นเพื่อนวันนี้ขอกลับไปทำงานก่อนหอบงานค้างมาเต็มบ้าน พลอยเอาเบอร์มาจะได้ติดต่อกันได้”
“ได้ค่ะ” พลอยบอกเบอร์ให้ผมก่อนหันไปขอเบอร์จากลิงเปี๊ยก เมื่อได้แล้วย่อมไม่พลาดคนที่สาม
“พี่น็อตล่ะคะ”
“ผม?”
“ใช่ค่ะ เบอร์อะไรคะ” น็อตดูงงๆ แต่ก็ยอมบอกเบอร์ให้พลอยไป
“เห็นคุณลมบอกว่าต้องรีบกลับไปทำงานถ้าอย่างนั้นเปากลับกับพี่ไหม พี่จะผ่านไปแถวที่เปาพักพอดี”
“หรือครับ ถ้าอย่างนั้น.. “ ลิงเปี๊ยกหันมามองหน้าผมเป็นเชิงปรึกษา
“ตัวเล็กลืมหรือเปล่าใครสัญญาว่าจะช่วยงานพี่”
“ก็...” ลิงเปี๊ยกหันไปมองทางโต๊ะที่ป้าสินั่งก่อนหันกลับมามองหน้าผม
“ผมนึกว่าเสร็จแล้ว”
“อู้เหรอ” ผมยื่นมือออกไปยีผมลิงเปี๊ยกจนเจ้าตัวต้องรีบยกมือขึ้นจับมือผมไว้ ผมพลิกฝ่ามือกุมกระชับมือนั้นก่อนลดลง
มาวางที่ต้นขาลิงเปี๊ยก
“ขอบคุณนะครับพี่น็อตแต่ผมลืมว่าต้องไปช่วยงานลุ..พี่ลมที่บ้าน”
“ไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้นพี่ขอตัวก่อนนะ คุณพ่อเรียก” น็อตพยักพเยิดให้ลิงเปี๊ยกหันไปมองทางโต๊ะvipกลางห้อง
“แล้วเจอกันนะครับทุกคน สวัสดีครับ”
“พี่น็อตอายุเท่าไหร่เปา” พลอยรอจนน็อตเดินห่างออกไปแล้วจึงหันมาซักลิงเปี๊ยก
“ยี่สิบเอ็ดหรือยี่สิบสองมั้งครับผมไม่แน่ใจ เพิ่งเรียนจบ”
“มีแฟนหรือยัง”
“น่าจะยังไม่มีครับ ผมไม่เคยเห็นสักที “
“จีบเปาอยู่หรือเปล่า”
“เฮ้ย!! ไม่ใช่ครับไม่ใช่ พี่น็อตเป็นพี่เพื่อนก็เลยเห็นผมเป็นน้องอีกคน”
“พี่ว่าไม่ใช่ อบอุ่นเกินไป ใจดีเกินไป พี่ลมอย่าไว้ใจนะ”
“โธ่ ไม่มีอะไรจริงๆ ครับพี่พลอย”
“อย่างนี้ต้องจับตา”
“พี่ลมช่วยผมพูดกับพี่พลอยหน่อยสิ” ลิงเปี๊ยกเขย่ามือผมที่วางอยู่บนตัก ไอ้ตัวเล็กมัวแต่เถียงกับพลอยจึงลืมสนใจว่า
ผมยังจับมืออยู่ไม่ปล่อย
“พูดไปก็เท่านั้น พลอยเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กโตมานึกว่าจะแก้หาย”
“พี่ลม”
“ฮ่าๆ พี่แซวน่า เป็นแบบนี้ก็น่ารักดี แต่ระวังจะหาแฟนไม่ได้”
“ได้ไม่ได้ก็ไม่เอาชายหนุ่มตระกูลวิรุฬห์ปารวี เปาระวังไว้นะแต่ละคนน่ากลัวทั้งนั้นไม่ควรเข้าใกล้” พลอยกลับคำที่เคย
สนับสนุนผมเปลี่ยนเป็นยุยงลิงเปี๊ยกแทน
“ไม่ทันแล้วพลอยพี่ของเปาเป็นแฟนนายวิน”
“อ้าวหมดกันงั้นก็ตามสบายค่ะรักกันเลย พลอยกินขนมดีกว่า” พลอยหมดความสนใจลุกขึ้นเดินไปยังซุ้มเบเกอรี่ที่มีจัดโซน
แยกไว้ให้
“พี่พลอยน่ารักดีนะครับ พี่ลมไม่เปลี่ยนใจเหรอ”
“ขืนได้พลอยเป็นแฟนคงไม่ต้องแคะหูเอง ยังไม่อิ่มใช่ไหมทานต่อเถอะพอเจ้าภาพตัดเค้กเสร็จจะได้กลับกันเลย”
“ครับ”
ผมเลื่อนจารอาหารให้ลิงเปี๊ยกจะได้ตักถนัดคอยดูให้แน่ใจว่าได้ทานครบทุกอย่าง ผมก็น่าจะเข่าข่ายใจดีเกินไป อบอุ่น
เกินไปอย่างที่พลอยพูด ทำไมไอ้ตัวเล็กมันถึงไม่หวั่นไหวเสียที
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“ลุงต่อไปผมมานอนบ่อยๆ ไม่ได้แล้วนะ หลวงลุงท่านเริ่มเตือนแล้ว” ลิงเปี๊ยกตะกายลุกขึ้นนั่งเมื่อนึกขึ้นมาได้
“เมื่อเย็นตอนผมโทรไปขอหลวงลุงท่านบอกไว้ ผมก็ลืมบอกลุง”
“จะให้ฉันไปคุยกับหลวงลุงให้ไหม” ผมจำได้ว่าตอนวินไปคุยกับหลวงลุงท่านก็อนุญาตให้มาค้างข้างนอกได้
“อย่าเลยครับมันไม่เหมือนกันพี่วินอยู่คนเดียวแต่ลุงอยู่บ้าน หลวงลุงคงไม่อยากให้ผมมารบกวนบ่อยๆ”
“งั้นหรือ” ผมเงียบเพราะเริ่มคิดหนัก ตั้งแต่ผมจ้างลิงเปี๊ยกหนึ่งเดือนผมก็หาเหตุให้ไอ้ตัวเล็กมาค้างด้วยบ่อยๆ
จนคนที่บ้านผมชินแล้วเว้นแต่ป้าสิที่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ผมเองก็ชินกับการมีคนนอนข้างๆ โดยเฉพาะคนที่ผมชอบ
“ลุงทำไมเงียบไปละ”
“คิดอะไรเพลินๆ นอนเถอะ”
“อืม” ลิงเปี๊ยกล้มตัวลงนอนบนหมอนอีกครั้ง
“ผมชักจะชินกับห้องลุงทำอย่างกับห้องตัวเองเข้าไปทุกที เสื้อผ้าก็อยู่นี่ตั้งเยอะชุดนักเรียนก็มี”
“ไม่เห็นเป็นไร”
“เป็นสิลุง นี่มันห้องลุงผมจะมาทำตัวยุ่มย่ามแบบนี้ได้ยังไง ดีแล้วที่หลวงลุงเตือน”
“ฉันอนุญาต นายอยากทำอะไรก็ทำลิงเปี๊ยกคิดเสียว่าเป็นห้องนาย ไม่ใช่สิ คิดเสียว่าเป็นห้องของเรา” ผมตะแคงข้าง
หันหน้าไปทางลิงเปี๊ยก สบตากับดวงตาที่มองมา
“ลุงอย่าพูดแปลกๆ แบบนี้สิ ผม..ผม..” แล้วลิงเปี๊ยกก็หยุดพูดไปเฉยๆ แถมพลิกตัวหันหลังให้ผมเสียดื้อๆ
“ง่วงแล้ว ลุงปิดไฟให้ด้วย”
“ราตรีสวัสดิ์ตัวเล็ก” ผมก้มลงกระซิบข้างหูเมื่อปิดไฟให้ลิงเปี๊ยกเรียบร้อย
“...........” ไม่มีเสียงตอบรับราวกับเจ้าตัวหลับไปแล้ว ผมรออยู่ครู่หนึ่งก่อนล้มตัวลงนอน ความเงียบเข้าครอบคลุม
ไปทั้งห้อง หรือว่าคงหลับไปแล้วจริงๆ
เสียงขยับตัวทำให้ผมตื่นขึ้นมากลางดึก แต่ก่อนที่ตาจะสามารถต่อสู้กับความง่วงงุนจนลืมขึ้นมาได้ อะไรบางอย่าง
ที่นุ่มและอุ่นก็แตะลงมาบนริมฝีปากของผมแผ่วเบา ก่อนที่เงาที่ทาบทับลงมาจะเด้งตัวออกราวกับสัมผัสเข้ากับของร้อน
“อ๊ากก รู้สึกจริงๆ ด้วย” เสียงพูดเบาๆ ทำให้ผมค่อยๆ หรี่ตาขึ้นมอง ลิงเปี๊ยกยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองก่อนนั่งเหมือนหมด
อาลัยตายอยาก บ่นอะไรพึมพำที่ผมจับใจความได้บ้างไม่ได้บ้าง
“ทำไมรู้สึกวะ ผู้ชายโว้ยลุงเป็นผู้ชาย”
“ไอ้งี่เง่าเปา”
ก่อนที่คำอื่นๆ จะหลุดออกมา ผมกวาดมือไปโดนตัวของลิงเปี๊ยก ทำเอาไอ้ตัวเล็กสะดุ้งเฮือกรีบล้มตัวลงนอน
หลับตาปี๋ทำเหมือนว่าตัวเองหลับสนิท
ผมลืมตาขึ้นช้าๆ รอยยิ้มฝุดขึ้นบนใบหน้า ก่อนวาดมือไปโอบรอบเอวเล็กดึงให้เข้ามานอนชิดทำเสียงอืออาเหมือนว่า
ผมไม่ได้ตื่นขึ้นมา
ลิงเปี๊ยกซุกอกผมนิ่งไม่กล้าขยับตัวแต่ผมรู้สึกได้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นถี่รัวของคนแกล้งหลับ หรือว่าเพราะแบบนี้ลิงเปี๊ยกถึง
ไม่อยากมาค้างกับผมอีก
เพราะเริ่มหวั่นไหวสินะตัวเล็ก
อีกนิด แค่อีกนิดเดียว ผมมั่นใจ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
**ตอนนี้ไม่มีเนื้อหาอะไรมาก ขอปูพื้นลักษณะนิสัยตัวละครที่เพิ่มเข้ามาก่อน
**ตอนหน้าลิงเปี๊ยกจะมาเล่าบ้าง ^^
Darin ♥ FANPAGE