L&P 12 : หลุมที่ใหญ่ขึ้น“ใคร” ผมถามเมื่อลิงเปี๊ยกขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อย ผมมารอรับลิงเปี๊ยกกลับจากทัศนศึกษา สามวันที่ผ่านมาผมได้คุยกับ
ลิงเปี๊ยกบ้างแต่ไม่มากนัก
“อะ ผมซื้อ” ลิงเปี๊ยกไม่ตอบคำถามก้มหน้าหยิบกระเป๋าเงินออกมาเปิด ก่อนหยิบธนบัตรใบละยี่สิบยื่นมาให้ผมหนึ่งใบ
“ซื้ออะไร” ใครจะไม่งงครับ จู่ๆ ก็ยื่นเงินมาให้
“ผมขอซื้อคำพูดลุงอีกหนึ่งประโยคจะได้ฟังเข้าใจ เล่มถามใครผมจะตอบถูกไหมมีเป็นร้อยเป็นพันทั้งโรงเรียน”
“เดี๋ยวนี้กล้ากวนฉันเหรอลิงเปี๊ยก” ผมจับต้นคอของลิงเปี๊ยกเขย่าเบาๆ พอให้รู้สึก
“ไม่ได้กวนผมซื้อจริงๆ ยี่สิบบาทมันมีค่านะลุงใครจะเอามาเล่น” ผมหรี่ตามองหน้าทะเล้นของลิงเปี๊ยก อย่างนี้ต้องจัดการ
ผมคว้าเงินในมือลิงเปี๊ยกยัดเข้ากระเป๋ากางเกง ไอ้ตัวดีทำหน้าเหวอมองตามด้วยความเสียดายไม่คิดว่าผมจะหยิบไปจริง
“คนที่เดินมากับนายเมื่อกี้ใคร” ผมให้หนึ่งประโยคเต็มตามที่ลิงเปี๊ยกขอซื้อ
“ไม่ซื้อแล้วได้เปล่าลุง ผมแซวเล่นเฉยๆ เดินมาสองคนผมรู้สิว่าลุงถามถึงใคร ”
“ไม่ใช่คำตอบ” ผมไม่ยอมคืนเงินให้ง่ายๆ
“จิ๊!” ดูไอ้ตัวเล็กทำเสียงครับ ให้เองงอนเอง
“พี่ชายเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันเขามารับน้อง” ผมไม่เห็นใครนอกจากลิงเปี๊ยกกับชายหนุ่มที่ว่าเดินมาด้วยกันแค่สอง
คน ที่สำคัญอายุน่าจะอ่อนกว่าผมหลายปี
““พี่ใคร พี่ของภูมิหรือกังฟู” ผมรู้จักเพื่อนลิงเปี๊ยกแค่สองคน เจอกันบ้างแต่ไม่สนิทจึงไม่รู้ประวัติส่วนตัวเท่าไหร่
“ไม่ใช่ทั้งคู่ พี่ของนัทลุงไม่เคยเจอหรอก นัทไปเข้าห้องน้ำพี่น็อตเลยมารอที่รถก่อน”
“อืม” ผมมองรถคันที่จอดอยู่ไม่ไกล พยายามมองในแง่ดีว่าคงไม่มีอะไรมากไปกว่าเดินมาขึ้นรถพร้อมกัน
“ขอบคุณครับลุง”
“หือ?” ผมหันกลับมามองลิงเปี๊ยก ไอ้ตัวเล็กยื่นเงินพับอย่างดีมาให้ ดูจากสภาพแล้วคงไม่ได้แตะเลย
“สามพันอยู่ครบครับ ผมไม่ได้ตกหล่นที่ไหนไม่ได้ชนอะไรของใครแตก ไม่ได้เผลอทำร้ายร่างกายใครแม้แต่ร่างกายตัวเอง”
“แล้วแผลที่ปลายจมูกคืออะไร” ผมยกมือขึ้นลูบรอยเล็กๆ ที่ปลายจมูกของลิงเปี๊ยก ไอ้ตัวดียิ้มแหย หัวเราะแฮะๆ เหมือน
เพิ่งนึกขึ้นได้
“ผมเล่นมากไปหน่อยเลยไปกระแทกเข้ากับเสา ไม่เจ็บหรอกลุง”
“มีแผลแบบนี้จะไม่เจ็บได้ยังไง นายนี่ปล่อยให้ห่างสายตาไม่ได้เลย”
“ลุงพูดอย่างกับผมเป็นเด็กสามขวบ ผมดูแลตัวเองได้น่าดูแลลุงยังได้เลย” ลิงเปี๊ยกพูดอวดตัวโดยไม่ได้คิดอะไร
แต่คนฟังอย่างผมแอบอมยิ้ม โมเมเอามาเป็นคำสัญญามัดตัวลิงเปี๊ยกเสียเลย
“นายสัญญาแล้วห้ามผิดคำพูด”
“ไม่ผิด รับรอง” ลิงเปี๊ยกยืดอก พยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่เต็มที่
“ลุงไม่ต้องห่วงถ้าลุงหาแฟนไม่ได้ผมจะช่วยดูแลลุงเอง” มือที่ลดลงจากสำรวจแผลลิงเปี๊ยกถูกยกกลับขึ้นไปอีกครั้งเพื่อลูบ
ศีรษะเล็กๆ นั้น รอยยิ้มของผมปรากฎขึ้นที่มุมปาก
“ถ้าผมมีแฟน ผมก็จะให้แฟนช่วยดูลุงด้วย”
โป๊ก! “โอ๊ย!! ลุงเขกหัวผมทำไม” มือผมเปลี่ยนจากลูบศีรษะเป็นเขกลงไปเบาๆ แทนพอๆ กับรอยยิ้มที่หุบฉับเหลือเพียง
ความบึ้งตึงเอาไว้
“ถ้าฉันไม่มีแฟนนายก็ต้องไม่มี ไหนบอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนกัน”
“อะไรว้าผมอุตส่าห์ใจดีแล้วนะให้แฟนช่วยดูแลลุงเป็นคนอื่นไม่มีใครยอมหรอก”
“ยัง ยังจะพูด” ลิงเปี๊ยกรีบยกมือขึ้นบังศีรษะเอาไว้เมื่อเห็นผมยกมือขึ้น
ก๊อก ก๊อก! เสียงเคาะกระจกเบาๆ ทำให้ผมกับลิงเปี๊ยกหันไปมอง เพราะมัวแต่จ้องจะตีกันจึงไม่เห็นว่ามีคนเดินเข้ามาหาถึงรถ
ลิงเปี๊ยกลดกระจกลงก่อนส่งยิ้มให้คนที่ยืนรออยู่
“ขอโทษที พี่เห็นเปายังไม่ไปเลยเดินเอาขนมมาให้” ชายหนุ่มคนเดิมที่ผมเห็นยื่นถุงใบใหญ่ส่งลอดหน้าต่างเข้ามา
“พี่เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นมีขนมติดรถอยู่พอดี เปาเอาไปทานนะ”
“ขอบคุณครับพี่น็อต”
“แล้วเจอกัน สวัสดีครับ” ชายหนุ่มที่ชื่อน็อตหันมาโค้งศีรษะให้ผมก่อนเดินกลับไปที่รถ
“สนิทกันเหรอลิงเปี๊ยก”
“ไม่มากครับ ผมไปทำงานกลุ่มที่บ้านนัทก็เลยได้เจอกันบ้าง พี่น็อตเขารู้ว่าผมอยู่กับหลวงลุงที่วัดไม่มีญาติอยู่ใน
กรุงเทพฯ เลยใจดีกับผมเป็นพิเศษ” ผมรู้สึกไม่ชอบมาพากลกับคำว่าใจดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อเห็นแล้วว่ามัน
พิเศษแค่ไหน สายตาคู่นั้นไม่สบอารมณ์ผมเอาเสียเลย
“กลับกันเถอะ” ผมสตาร์ทรถก่อนขับเลี้ยวขวาไปตามทางของลานจอดรถ ลิงเปี๊ยกโบกมือให้กับชายหนุ่มที่ยืนกอดอก
อยู่หน้ารถเก๋งสีขาวเมื่อรถแล่นผ่าน ผมมองผ่านหางตา เห็นทีว่าการรอลิงเปี๊ยกอายุ 18 ปีอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีของผมอีกต่อไป
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“เปี๊ยก” ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างลิงเปี๊ยกที่นอนดูหนังอยู่บนพรมหน้าจอโทรทัศน์ แน่นอนว่าไม่ได้เจอกันสามวันเต็มๆ
ผมต้องพาลิงเปี๊ยกกลับมาบ้านด้วยอยู่แล้ว
“อื้อ”
“สนใจกันก่อน” ผมเอื้อมมือไปคว้ารีโมทมากดหยุดหนังที่เล่นอยู่
“ลุ้ง! กำลังสนุกเลย” ลิงเปี๊ยกตะกายขึ้นนั่งก่อนโถมตัวเข้ามาแย่งรีโมทจากมือผม ผมใช้มือข้างเดียวรวบร่างที่เล็กกว่า
เอาไว้ อีกมือยื่นรีโมทไปทางด้านหลังเพื่อกันไม่ให้ลิงเปี๊ยกเอื้อมถึง
“เปิดเถอะดูไปด้วยคุยไปก็ได้” ลิงเปี๊ยกไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พยายามป่ายมือมาจะคว้ารีโมทจนลืมสังเกตว่าทั้งตัวขึ้นมาอยู่บน
ตักของผม
“อยากเปิดก็มาหยิบไป” ผมโยนรีโมทไปซ่อนข้างหลังก่อนใช้มือกั้นไว้ไม่ให้ลิงเปี๊ยกตามไปเอาได้ เจ้าตัวดีพยายามมุดแขน
เมื่อไม่สำเร็จก็หันมาง้างนิ้วผมออกแทนแต่มีหรือจะสู้แรงผมได้
“ผมจะโกรธลุงแล้วนะ” ใช้แรงไม่ได้ผลก็เปลี่ยนมาขู่แทน หน้าง้ำปากเชิดเกือบขึ้นไปติดจมูก ผมหัวเราะเบาๆ แต่ไม่ยอม
ปล่อยมือง่ายๆ
“ไม่เอาก็ได้ไม่เห็นจะง้อ” ลิงเปี๊ยกเลิกยื้อแย่งยอมนั่งนิ่งๆ ยกมือขึ้นกอดอกทำหน้าเป็นตูดลิง
“ไม่ใช่ไม่ง้อมั้งไม่มีความสามารถมากกว่า” ผมหัวเราะอยู่ในคอทำเสียงให้รู้ว่ากำลังดูถูกซึ่งมันได้ผล ทันทีที่ผมพูดจบ
ลิงเปี๊ยกก็โถมร่างลงมาอีกครั้งหวังให้ผมเสียหลัก
แน่นอนว่าผมต้องเสียหลักอย่างที่ลิงเปี๊ยกคาดการณ์ไว้ ผิดกันก็แต่ว่าผมดึงลิงเปี๊ยกให้ล้มตามลงมาด้วย
มือหนึ่งกอดหลังมือหนึ่งแตะท้ายทอยแล้วความบังเอิญก็เกิดขึ้น ริมฝีปากของลิงเปี๊ยกทาบทับลงมาบนริมฝีปาก
ของผมพอดีเหมือนจับวาง
แรงกดจากมือผมทำให้ริมฝีปากของเราแนบชิดกันยิ่งขึ้น ลิงเปี๊ยกไม่มีทีท่าว่าจะร้องโวยวายแต่ร่างกายที่อยู่ในวง
แขนของผมแข็งทื่อจนรู้สึกได้ ผมปล่อยให้เวลาผ่านไปครู่หนึ่งก่อนยอมคลายแขนออกอย่างเสียดาย ขืนไม่ทำกลัวว่าเจ้า
ตัวดีจะช็อคตายไปเสียก่อน
“จะหลอกจูบฉันอีกนานไหม” ผมชิงพูดเมื่อลิงเปี๊ยกได้สติผละหน้าออก
“โดนดูถูกเรื่องจูบเข้าหน่อยหาทางแก้แค้นคืนเหรอเด็กเกเร”
“เปล่า เปล่าไม่ใช่นะลุง” ลิงเปี๊ยกลนลานลุกขึ้นจากตัวผมหน้าตาตื่น สีหน้าเป็นส่วนผสมระหว่างหน้าซีดและหน้าแดง
“ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ก็ลุงมาปิดหนังที่ผมดูก่อนทำไมเล่า ผมแค่จะเอารีโมทคืน ลุงอย่าโกรธเลยนะผมขอโทษ” ลิงเปี๊ยกดึง
ชายเสื้อผมเป็นเชิงง้อ ผมต้องปั้นหน้าให้เรียบที่สุดเพื่อไม่ให้ลิงเปี๊ยกจับความรู้สึกได้
“มันเป็นอุบัติเหตุเนอะลุงเนอะ” ลิงเปี๊ยกเขย่าชายเสื้อผม เห็นแล้วอยากหัวเราะออกมา ไอ้ตัวเล็กมันเขินอยู่ผมดูรู้แต่คง
กลัวว่าจะทำผมโกรธเลยต้องมาง้อ เฮ้อทำไมมันถึงน่ารักขนาดนี้
“ไม่ต้องทำหน้าจ๋อยหรอกฉันไม่ได้โกรธ เรื่องจูบฉันไม่ถือจูบผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่ต่างกัน”
“ไม่โกรธแน่นะ” ลิงเปี๊ยกหรี่ตามองผมทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ มือยังจับชายเสื้อไว้แน่นไม่ยอมปล่อย คล้ายกลัวว่าถ้าปล่อย
ผมจะลุกหนีไป
“ไม่โกรธ”
“งั้นยิ้มหน่อยสิ ลุงทำหน้าแบบนี้ผมจะนึกว่าลุงยังโกรธอยู่” ผมได้แต่ร้องเฮ้อในใจ จะยิ้มออกมาได้ยังไงขืนยิ้มความรู้สึก
ที่ซ่อนเอาไว้มันจะแสดงออกมาทางสีหน้าให้ถูกจับได้น่ะสิว่าผมรู้สึกดีแค่ไหน
“พูดไม่เชื่อถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้” ผมใช้ความเร็วดึงลิงเปี๊ยกเข้ามาชิดอีกครั้ง ประกบปากลงไปบนริมฝีปากของลิงเปี๊ยก
บดเคล้าลงไปเบาๆ พอให้ได้ริมรสหวานก่อนจะตัดใจถอนริมฝีปากออกมา
“ทีนี้เชื่อหรือยังว่าฉันไม่ได้โกรธไม่ได้รังเกียจ”
“.........”
“ลิงเปี๊ยก?”
“อื้อ..อื้อ...” ดูเหมือนผมจะทำให้สมองลิงเปี๊ยกขาดออกซิเจนไปชั่วขณะ ลิงเปี๊ยกมองหน้าผมงงๆ เหมือนยังปรับโฟกัส
สายตาไม่ได้
“ลิงเปี๊ยกเอ๊ยแล้วริอ่านมาบอกว่าจะมีแฟน แค่นี้ทำท่าจะตายไม่ได้เรื่อง” ผมขยี้ผมลิงเปี๊ยกแรงๆ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เอ้าเอาไป” ผมหันไปหยิบรีโมทแล้วโยนคืนให้กับลิงเปี๊ยก
“อย่าดูหนังจนดึกมากนายเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ พรุ่งนี้ก็ต้องไปเรียนอีก” ผมขยับตัวลุกขึ้นยืนแต่กลับโดนลิงเปี๊ยกดึงขา
กางเกงเอาไว้
“ลุง!!..เมื่อกี้ลุงจูบผมเหรอ!!” ดูเหมือนสติลิงเปี๊ยกเพิ่งกลับคืนมา จากหน้าที่ออกอาการเหวอเปลี่ยนเป็นหน้าแดงจัดตาโต
ท่าทางตื่นตกใจ
“เมื่อกี้ฉันแสดงให้นายเห็นว่าฉันไม่ได้โกรธจะได้เลิกเซ้าซี้เสียที”
“อะ..อ๋อ..”
“ทีนี้เชื่อหรือยัง ฉันจูบได้ไม่มีปัญหาอยากจูบอีกเมื่อไหร่ก็บอก”
“จะ..จะบ้าหรือไงลุงใครจะไปอยากจูบกับผู้ชายเล่า”
“เหรอ? เห็นตอนฉันคลายปากออกทำหน้าตาเสียดายเหมือนอยากให้จูบอีกเลยนึกว่าชอบ”
“ผมไปทำตอนไหน!!" ลิงเปี๊ยกตกใจจนเผลอขึ้นเสียงดัง
“ผม..ผมทำอย่างนั้นจริงๆ เหรอลุง” แต่แล้วกลับลดเสียงลงพร้อมกับสีหน้าไม่มั่นใจ
“หึหึ นายนี่มันซื่อจริงๆ ฉันแซวเล่น อย่างนายจะทำอะไรได้นอกจากนั่งตัวแข็ง เด็กไม่เคยก็แบบนี้จูบแรกสินะ”
“อุ๊บ” ลิงเปี๊ยกยกสองมือปิดปากทำหน้าตกใจหนักขึ้นไปอีก
“จริงด้วย!! แง่ง ลุง เอาจูบแรกผมคืนมาเลย ไอ้ลุงบ้า ไอ้ลุงลามก ไอ้ลุงโรคจิต”
“เดี๋ยวๆ โดนจูบจนสมองกลับหรือไง จูบแรกของนายน่ะนายจูบฉันเองลิงเปี๊ยก ฉันสิควรเป็นคนโวยวายพอไม่โกรธเข้า
หน่อยกล้าด่าฉันเหรอ”
“เออจริง ผมลืมไป แฮะๆ” ลิงเปี๊ยกหัวเราะแก้เก้อ แม้จะยังดูติดใจเรื่องที่โดนผมจูบแต่ก็ไม่กล้าโวยวายออกมาอีก
“ทีนี้ฉันไปได้หรือยังมีงานต้องทำให้เสร็จก่อนพรุ่งนี้”
“อืม.ลุงไปเถอะ” ลิงเปี๊ยกเสหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดหนังดูต่อ ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่ไม่ห่างกันนัก หยิบเอกสาร
ที่ต้องเซ็นอนุมัติขึ้นมาอ่าน ก่อนใช้มันบังหน้าเพื่อลอบสังเกตอาการของลิงเปี๊ยก
เจ้าตัวดีนั่งนิ่งอยู่บนพรมตาจับจ้องอยู่กับจอโทรทัศน์แต่มือกลับแตะอยู่บนริมฝีปาก ผมเห็นลิงเปี๊ยกไล้นิ้วไปมาช้าๆ
เสียดายที่มุมที่ผมนั่งอยู่มองเห็นเพียงด้านข้างจึงเดาสีหน้าลิงเปี๊ยกไม่ออกว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่หรือรู้สึกอย่างไร
แต่ถึงจะไม่เห็นอย่างน้อยก็พอโล่งใจได้ว่าลิงเปี๊ยกไม่ได้รังเกียจหรือขยะแขยงจูบของผม ไม่อย่างนั้นคงเผ่นกลับวัดหรือ
อาจจะต่อยผมซักหมัดไปแล้ว
ผมยกมือขึ้นแตะที่หน้าอก ภายใต้ใบหน้าที่แสร้งทำเหมือนว่าไม่รู้สึกอะไร ข้างในใจผมกลับเต้นแปลกๆ รู้สึกราวกับเป็น
เด็กหนุ่มที่เพิ่งริมีความรัก ใจเต้นแรงไปกับจูบไม่ประสีประสาของลิงเปี๊ยกและรู้สึกเหมือนว่ามันเป็นจูบที่ดีที่สุด
ผมอมยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นเสี้ยวหน้าของลิงเปี๊ยกที่หันมา มันเป็นใบหน้าของเด็กหนุ่มที่กำลังเก้อเขิน แล้วจู่ๆ เจ้าตัวก็ยกมือ
ขึ้นขยี้ผมตัวเองจนยุ่งไปหมดคล้ายกับอยากให้บางเรื่องหายไปจากในหัว ผมเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ จุดยิ้มพึงพอใจกับภาพ
ที่เห็น
แบบนั้นแหละลิงเปี๊ยกจำสัมผัสของฉันไว้ นึกถึงแค่จูบนั้นนึกถึงแต่หน้าฉัน อย่ามองคนอื่น นายเป็นของฉัน ถึงแม้ว่านายจะยังไม่รู้ตัวก็ตาม
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
**น็อตไม่ได้มาเล่นๆ เพราะจะมีมาอีกหลายตอน ^^
Darin ♥ FANPAGE