L&P 8 : ใกล้บ้าจริง ผมสบถออกมา เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่แล้วพบว่าตนเองนอนกอดลิงเปี๊ยกไว้ทั้งตัวจากทางด้านหลัง โชคดีที่
ผมตื่นก่อนไม่อย่างนั้นคงโดนลิงเปี๊ยกโวยวายจนหูชา จะแก้ตัวว่ามากอดเองก็เห็นจะลำบากเพราะลิงเปี๊ยกดันหันหลังให้
ผมค่อยๆ เลื่อนมือที่อยู่ใต้คอลิงเปี๊ยกออกช้าๆ โชคดียังเป็นของผมเพราะลิงเปี๊ยกไม่มีท่าทีว่าจะรู้สึกตัว ยังนอนหลับสนิท
หายใจสม่ำเสมอ ผมวางมือแตะลงบนหน้าผากของลิงเปี๊ยกอีกมือทาบลงบนหน้าผากของตัวเอง ไม่มีไข้ แบบนี้คงกลับมา
ซ่าได้เหมือนเดิม
ผมกำลังจะปลุกลิงเปี๊ยกเมื่อเห็นนาฬิกาบนผนังบอกเวลาเกือบแปดนาฬิกา แต่ยังไม่ทันทำอะไรเสียงเคาะประตูห้องนอน
ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“ลมยังไม่ตื่นอีกหรือป้าเข้าไปนะ” ป้าสิมา! ไวเท่าความคิดผมถอดเสื้อยืดที่ใส่อยู่โยนทิ้งไปข้างเตียง ล้มตัวลงไปนอนบน
หมอนใบเดียวกันดึงลิงเปี๊ยกเข้ามากอดไว้แนบอก รีบหลับตาลงทันประตูห้องเปิดพอดี
โครม!! ผมได้ยินเสียงอะไรบางอย่างตกกระทบพื้น ก่อนจะเกิดแรงเขย่าขึ้นที่ต้นแขน
“ตาลม!! ตื่นเดี๋ยวนี้” ถ้าผมไม่ตื่นอยู่แล้วคงนึกว่าบ้านไฟไหม้ ความตกใจของป้าสิเทียบเท่าเหตุการณ์นั้นได้เลย
“ครับ” ผมแกล้งงัวเงียทำเหมือนเพิ่งรู้สึกตัวจากเสียงเรียกของป้าสิ
“นี่มันอะไรกัน”
“อะไรครับ?” ผมแกล้งทำหน้างงก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้าง
“โธ่ป้าสิถามอะไรแปลกๆ เล่นเอาผมเกือบตอบไม่ถูก ก็นอนไงครับเห็นๆ กันอยู่” ผมลุกขึ้นนั่งยกมือขึ้นบิดขี้เกียจไม่มีทีท่า
จะทุกข์ร้อน
“อย่ามากวนป้านะลม ตกลงเรากับเด็กนี่” แล้วป้าสิก็ทำหน้าขนลุกขนพองถึงกับไม่กล้าเอ่ยออกมาตรงๆ ผมเห็นแล้วอด
สงสารป้าตัวเองไม่ได้ ป้าสิมีนิสัยหลายอย่างที่ทำให้คนไม่ชอบ แต่อย่างน้อยผมก็รู้ว่าป้าสิรักพวกผมมากถึงแม้จะเป็นการ
รักที่ผิดวิธีไปหน่อยก็ตาม จำได้ว่าตอนเด็กๆ ถ้าพ่อกับแม่ตีผมเมื่อไหร่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับป้าสิเสมอ บางทีงอน
พ่อผมไม่คุยด้วยเป็นอาทิตย์ก็มี เพราะอย่างนั้นผมเฟิงและวินจึงไม่เคยทำอะไรรุนแรง อะไรปล่อยๆ ไปได้ก็ปล่อยไป
“เรื่องผมกับเปา ป้าสิอยากรู้จริงๆ หรือครับ” ผมยิ้มล้อเลียนผู้เป็นป้า ทำสีหน้าให้ป้าสิเดาไปในทางที่ผมต้องการ
“ตาลม เราเป็นพี่คนโตเป็นคนสืบทอดกิจการของครอบครัวจะมาทำแบบนี้ไม่ได้...ตายแล้ว!! “ ป้าสิพูดยังไม่ทันจบก็ต้อง
ร้องอุทานออกมาเมื่อลิงเปี๊ยกพลิกตัวหันหน้ามาทางด้านที่ผมนั่งแถมขยับศีรษะมาวางบนตักผมมือพาดลงบนต้นขา
“บะ..บัดสีบัดเถลิง” ป้าสิหน้าแดงกล่ำจนผมกลัวจะเป็นลมทรุดลงไป
“ผมว่าป้าสิลงไปรอข้างล่างดีไหมครับ ขอผมอาบน้ำก่อนเดี๋ยวตามลงไปเจอที่ห้องอาหาร”
“อย่าเอ้อระเหยล่ะตาลม ลงมาเร็วๆ ป้ามีเรื่องต้องพูดกับเรา”
“ครับป้าสิรับรองไม่นาน” ดูเหมือนภาพที่เห็นทำให้ป้าสิทำใจอยู่ต่อไม่ได้ถึงกับเดินเร็วๆ ออกประตูไปแบบไม่เหลียวหลัง
“หึหึ” ผมได้ยินเสียงหัวเราะลอดมาจากหน้าที่ซบอยู่กับตัก
“ขำ” ผมยีผมนุ่มของคนที่แอบหัวเราะ
“ฮ่าฮ่า” คราวนี้ลิงเปี๊ยกพลิกตัวกลับไปนอนหงายบนหมอนของตัวเอง หัวเราะออกมาดังลั่น
“โอ๊ย เสียดายที่ผมไม่ได้เห็นหน้าป้าของลุง” ลิงเปี๊ยกลืมตาขึ้นมองเพดานห้องหัวเราะไม่หยุด แค่นี้ก็ทำให้ผมรู้แล้วว่า
เจ้าตัวตั้งใจนอนหนุนตักผมให้ป้าสิเห็น
“ร้ายนักนะเรา”
“เหวอ!” จู่ๆ ลิงเปี๊ยกก็ร้องเสียงหลงหลังจากพลิกตัวกลับมาเหมือนต้องการจะคุยกับผม แต่กลับจ้องผมตาโตเหมือนเห็น
สัตว์ประหลาด
“อะไรอีก”
“ลุง..ลุงถอดเสื้อทำไม” ผมลืมไปว่าเมื่อครู่ลิงเปี๊ยกหลับตาตลอดจึงไม่เห็นว่าผมถอดเสื้อออก
“จะร้องทำไมผู้ชายเหมือนกัน ฉันแค่รู้จักใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ ต่อไปคงต้องล็อคห้องกันบ้างเล่นเคาะแล้วเข้ามาเลย
ไม่รู้จะเคาะไปทำไม”
“ลุง ผมสิบเจ็ดอยู่นะ” ลิงเปี๊ยกมีการขยับตัวหนีแถมยกมือขึ้นกอดอก สุดท้ายก็ร้องออกมาเบาๆ เพราะเจ็บแผล สมควรแล้ว
ท่ามากดีนัก
“รู้ นายเคยบอกแล้ว แล้วนั่นจะขยับอะไรนักหนาเดี๋ยวแผลก็อักเสบ” ลิงเปี๊ยกเลิกขยับเอื้อมมือไปลูบหน้าขาตัวเอง
“สิบเจ็ดยังพรากผู้เยาวน์อยู่นาลุง ลุงทำอะไรผมตำรวจจับนะเอ้า” ดูมันครับเชื่อแล้วว่าอยากเรียนกฎหมายพูดถึงอยู่นั่นแหละ
“ใครจะไปทำอะไรนายไอ้เด็กบ๊อง”
“เมื่อคืนลุงจูบผม” ลิงเปี๊ยกยกมือปิดเหม่ง ยังมีหน้ามารำลึกความหลังกับอีแค่จูบหน้าผาก
“ถ้าแค่เอาปากไปแตะหน้าผากแบบนั้นนายเรียกจูบ ก็เตรียมตัวโสดไปทั้งชาติเถอะเปี๊ยก ลุกได้แล้วหรืออยากให้ป้าสิขึ้นมา
ตามอีกรอบ”
“ผมปวดแผล” ลิงเปี๊ยกเสียงอ่อย เมื่อกี้พลิกตัวไปมาคงเจ็บอยู่ไม่ใช่เล่น
“สมควรแล้วอยากซ่าเดินกะเผลกไปทั่วดีนัก” ปากว่าแต่มือค่อยๆ ดึงขากางเกงนอนที่เปี๊ยกใส่อยู่ขึ้นเพื่อดูแผลให้
“ไม่จริงหรอกเมื่อคืนลุงแอบทับขาผมใช่ไหม” ผมสะดุ้งโหยง รีบเงยหน้าขึ้นมองลิงเปี๊ยกก่อนจะถอนใจโล่งอก ท่าทาง
ลิงเปี๊ยกจะพูดไปอย่างนั้นเองไม่ได้ตื่นขึ้นมาเห็น
“ฉันทั้งกอดทั้งห่มสาวสวยของนายทั้งคืนจะไปทับขานายทำไม นอนซนเองอย่าโทษคนอื่น”
“ก็พูดเผื่อไว้ เมื่อคืนลุงยังเผลอกลิ้งมากอดผมเลย”
“พอๆ มานี่เลย” ผมลุกขึ้นยืนจัดการอุ้มลิงเปี๊ยกขึ้นเพราะเห็นบ่นว่าปวดแผล
“ลุ้ง” ลิงเปี๊ยกร้องเสียงหลง ไม่รู้จะร้องอะไรนักหนาอุ้มกันมาทั้งคืนน่าจะชินได้แล้ว
“เลิกร้องซะทีฉันรำคาญ” ลิงเปี๊ยกเจอคำนี้เข้าไปถึงกับหุบปากฉับ แต่นิ่งไปได้นิดเดียวก็ใช้นิ้วสะกิดต้นแขนผม
“ลุงๆ”
“อะไรอีก” ผมวางลิงเปี๊ยกหน้าอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ
“เมื่อกี้นี้ผมไม่คิดตังค์นะถือเป็นการขอบคุณที่เมื่อวานลุงมาช่วยผมไว้”
“ขอบใจ” ผมพูดเสียงประชด ก่อนหยิบแปรงสีฟ้นของตัวเองและส่งของลิงเปี๊ยกไปให้
“แต่ถ้ามีคราวหน้าผมคิดสองพันห้านะลุง มากขึ้นห้าร้อยค่าถึงเนื้อถึงตัว” ผมที่กำลังก้มหน้าบ้านปากถึงกับสำลักน้ำ
จนเผลอกลืนลงคอ
“จะงกเกินไปแล้วเจ้าเปี๊ยก”
“เห็นใจผมเถอะลุง หนี้ผมเยอะไม่รู้เมื่อไหร่จะใช้ลุงหมด” ลิงเปี๊ยกเข้าใจคิดไหมครับหาเงินจากผมมาใช้หนี้ผมเอง
“ได้ เอาไว้บิลทั้งหมดมาเมื่อไหร่ฉันจะเรียกนายมารับทราบจำนวน” ความจริงผมไม่เคยคิดจะเก็บเงินคืนจากลิงเปี๊ยก
แม้แต่น้อยที่พูดไปเพราะความหมั่นไส้มากกว่า
“รับทราบครับ” ลิงเปี๊ยกพยักหน้ารับทำสีหน้าจริงจัง เห็นแบบนี้แล้วรู้ทันทีว่าเจ้าตัวดีไม่ยอมให้ผมจ่ายให้แน่ๆ เดิมก็ไม่รู้จะ
หาอะไรให้ทำอยู่แล้วนี่เงินอีกหลายหมื่นจะอ้างอะไรดีล่ะลมเอ๋ย หาเรื่องให้ตัวเองแท้ๆ
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“สวัสดีครับพี่ลม” ผมอุ้มลิงเปี๊ยกมาที่ห้องอาหาร เหตุผลเพราะหนึ่งผมกลัวแผลเจ้าตัวดีอักเสบ สองผมอยากให้ป้าสิมั่นใจ
ในสิ่งที่คิด
“พี่นิว” ลิงเปี๊ยกเรียกพี่ชายด้วยน้ำเสียงดีใจจนออกนอกหน้า รีบสะกิดผมให้พาไปนั่งเก้าอี้ว่างที่ตั้งอยู่ข้างนิว
“มานานหรือยัง” ผมถามนิวเพราะวินนั่งก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
“ไม่นานครับ”
“ป้าสิไปไหนครับเห็นบอกมีเรื่องจะคุยกับผม” ผมถามเพราะมองไปรอบโต๊ะ มีแค่ นิว วินและคุณแม่ของผมนั่งอยู่
“อิ่มแล้วเลยขึ้นห้องก่อน” แม่ผมแอบบุ้ยใบ้ไปทางนิว ผมจึงระงับปากระงับคำรู้ได้ทันทีว่าเพราะนิวมาป้าสิถึงไม่ยอมอยู่รอ
“ให้แม่บอกลมว่ากินข้าวเสร็จแล้วให้ขึ้นไปหาด้วย”
“ฝากแม่บอกป้าสิให้ทีครับว่าผมมีธุระ เอาไว้กลับมาแล้วจะแวะขึ้นไปหา”
“ได้ ลมไปทำธุระเถอะ เดี๋ยวแม่บอกป้าเองว่าไม่ทัน” แม่ผมคงพอรู้ว่าป้าสิจะพูดถึงเรื่องอะไร จึงไม่ได้คะยั้นคะยอให้ขึ้นไป
พบก่อน
“วินอยู่รอกินข้าวเย็นด้วยกันฉันจะรีบกลับมา”
“นั่นสิ มาแล้วก็อยู่ให้ถึงเย็นพ่อเขาบ่นคิดถึง นี่ออกไปตีกอล์ฟตั้งแต่เช้า บ่ายๆ ถึงจะกลับ” แม่ผมสนับสนุนอีกแรง
“คิดถึงผม?” วินถามแม่ยิ้มๆ
“ก็ใช่นะสิ ไม่คิดถึงลูกแล้วจะคิดถึงใคร พ่อเขาคิดถึงเราอยู่แล้วถึงจะบ่นหานิวมากกว่าก็เถอะ” แม่ผมยอมเฉลยในที่สุด
เพราะนิวเป็นเด็กน่ารักนิสัยดีมาก พอนานวันเข้าแม่ผมก็ทำใจรับได้และรักนิวเหมือนลูกคนหนึ่งส่วนพ่อผมไม่ต้องพูดถึง
เปิดกว้างตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
“ได้ครับแม่ จุกเป็นยังไงบ้างเจ็บมากหรือเปล่า” นิวมองสำรวจน้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่มองไม่เห็นบาดแผลเพราะลิงเปี๊ยก
ใส่กางเกงตัวโคร่งของผม ต้องใช้หนังยางมัดเอวและพับขาขึ้นมาม้วนโตถึงจะเอาอยู่
“ไม่เป็นไรแล้วครับพี่นิว ปวดขานิดหน่อยแต่หมอให้ยาไว้ทานเลยไม่ปวดมาก”
“ค่อยยั่งชั่ว เมื่อวานแบตโทรศัพท์พี่หมดตั้งแต่เย็นลืมหยิบออกมาชาร์จ ดีว่าพี่ลมโทรเข้าเครื่องหมอวินพี่ถึงรู้เรื่อง ขอโทษ
นะจุกพี่รู้สึกแย่จริงๆ”
“จะคิดมากทำไมนิวพี่อยู่ทั้งคน เปี๊ยกโทรหานิวไม่ได้ก็โทรหาพี่เอง”
“ใช่ครับพี่นิว” ลิงเปี๊ยกพยักหน้าเห็นด้วยไม่อยากให้นิวไม่สบายใจ
“ช่วยพูดทีเถอะ พูดมาทั้งคืนไม่ฟังกันสักนิด” วินพับหนังสือพิมพ์ลง บ่นแฟนตนเองให้ฟัง
“หมอวินขี้ฟ้อง” นิวพึมพำเบาๆ แถมแอบย่นจมูกใส่วิน
“บ่นฉันเหรอ” วินบีบปลายจมูกของนิวจนเจ้าตัวพูดเสียงอู้อี้ พอเห็นแบบนี้ผมถึงรู้ว่านิวกับลิงเปี๊ยกมีส่วนคล้ายกันอยู่มาก
“พอๆ วินอย่าแกล้งน้อง” แม่ผมรีบห้ามเดี๋ยวนี้เข้าข้างสะใภ้อย่างเห็นได้ชัด แม้แต่พ่อผมก็เอ็นดูนิวมาก
นิวยกมือขึ้นจับจมูกแดงๆ ของตัวเอง สักพักจึงหันมาคุยกับลิงเปี๊ยกต่อ
“จุกย้ายไปพักกับพี่ไหม”
“ไปครับ”
“อย่าเลยนิว” ผมตัดความหวังของลิงเปี๊ยก พอรู้ตัวว่าดีใจเก้อก็หันมาแอบแยกเขี้ยวให้ผม
“นั่นสิอยู่ที่นี่มีพวกเด็กๆ ในบ้านช่วยดูแล นิวไม่ต้องห่วงน้องเดี๋ยวแม่ช่วยดูให้อีกแรงรับรองว่าจะไม่ให้ลมรังแก”
แม่ผมมองมาทำตาแปลกๆ ถ้าให้เดาป้าสิคงอาละวาดกับแม่ไปเรียบร้อยแล้วก่อนวินจะมา
“ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้นครับ ผมเกรงใจพี่ลมกับคุณแม่”
“เกรงใจทำไมล่ะลูก น้องของนิวก็เหมือนน้องของวินคนกันเองทั้งนั้นทำไมจะดูแลไม่ได้”
“ขอบคุณครับ” “ขอบคุณครับ” นิวกับลิงเปี๊ยกพูดขึ้นเกือบพร้อมกันและต่างก็ยกมือขึ้นไหว้แม่ผมทั้งคู่
“เอาตามนี้ให้น้องอยู่นี่สบายหายดีแล้วแม่จะให้ลมไปส่งที่วัด” เมื่อแม่ผมออกโรงเองทุกคนจึงจำเป็นต้องเห็นด้วย
“ส่วนลมกลับมาแล้วไปหาป้าสิอย่าทำเป็นแกล้งลืม”
“ไม่ลืมครับผม”
“ถ้าอย่างนั้นก็คุยกันไปตามประสาเด็กๆ แม่ขึ้นไปหาป้าก่อน ป่านนี้คงนั่งไม่ติดแล้วรอหลานชายขึ้นไปหา”
“ขอบคุณครับแม่”
“ทำอะไรทิ้งไว้บอกมาลม ฉันจะได้ตั้งรับป้าสิถูก” วินรอจนแน่ใจว่าแม่เดินห่างออกไปแล้วจึงถามขึ้นมา
“ทำให้แน่ใจว่าป้าสิจะเลิกยุ่งกับฉันเหมือนที่เลิกยุ่งกับนาย”
“เล่นแรงไปหรือเปล่า”
“ห้ามวิจารณ์ ความผิดนายเลยนะวินชิงเอาตัวรอดไปก่อน ป้าสิเลยหันมาเพ่งเล็งฉันแทนเพราะไม่มีคุณชายผู้เพียบพร้อม
ให้นำเสนอเหลือแต่หลานชายจอมเจ้าชู้อย่างฉัน”
“รู้ตัวด้วย”
“พูดอะไรเปี๊ยก”
“ลุงมีธุระไม่ใช่เหรอ รีบๆ ไปได้แล้วเดี๋ยวสาวรอแย่”
“ใครนัดสาวพูดดีๆ ฉันออกไปเรื่องงาน”
“เหอะ” ลิงเปี๊ยกทำเสียงขึ้นจมูกแถมทำหน้าไม่เชื่อถือผม
“ลิงเปี๊ยก!”
“ถ้าไม่รีบไประวังจะสาย” วินขัดขึ้นเมื่อเห็นผมทำท่าจะเอ้อระเหยอยู่จัดการลิงเปี๊ยก
“เอาไว้กลับมาฉันจะจัดการนาย” ผมยีหัวลิงเปี๊ยกส่งท้ายปล่อยแขนที่ล็อคคอออก
“แน่ใจนะว่าลุงกลับมาแล้วยังจำได้ ได้ข่าวว่าคนแก่ชอบขี้หลงขี้ลืม”
“ลม” วินลงเสียงหนัก ทำให้ผมชะงักความคิดที่จะจัดการลิงเปี๊ยกอีกรอบ
“ฝากไว้ก่อน” ผมคาดโทษเจ้าตัวดี
“วินนายอยู่รอจนฉันกลับมาแล้วค่อยกลับนะ อย่ากลับไปก่อน”
“รู้แล้วน่าไม่ต้องห่วง” ผมบอกวินไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่าผมมีธุระเช้านี้และไม่อยากให้ลิงเปี๊ยกอยู่กับคนไม่คุ้นเพียงลำพัง
จึงขอให้วินกับนิวมาอยู่เป็นเพื่อนซึ่งตรงกับความต้องการของนิวที่อยากมาเยี่ยมน้องอยู่แล้ว
“เปี๊ยกทานยาให้ตรงเวลา อย่าซนให้มากพักขาอย่าไปใช้งานมันหนักเข้าใจไหม” ผมสั่งไอ้ตัวเล็กสีหน้าจริงจัง
“ครับ” เสียงตอบรับจริงจังพอกันทำให้ผมอุ่นใจว่าลิงเปี๊ยกจะไม่หาเรื่องให้ตัวเองเจ็บตัวเพิ่มขึ้น
“อย่า..” ผมกำลังจะสั่งเพิ่มเติมถ้าไม่ถูกวินขัดขึ้นเสียก่อน
“นายคงไม่ลืมว่าฉันเรียนแพทย์”
“ฮึฮึ” มันน่าไหมครับ เสียงแอบหัวเราะในลำคอของลิงเปี๊ยกกับแววตาล้อเลียนที่ส่งมา ทำให้นึกอยากจับมาฟัดแบบที่
เจ้าตัวกลัวนักกลัวหนาเสียให้เข็ด
“ตอนเย็นเจอกัน” ผมทำอย่างที่นึกไม่ได้เพราะพี่ชายลิงเปี๊ยกอยู่ด้วย จึงทำได้แค่ลุกขึ้นยืนหยิบกุญแจรถที่วางไว้และเดิน
ออกจากห้องอาหารไป
“เมื่อไหร่ก็ได้ลุง”
เสียงตะโกนตามหลังมีร่องรอยของความขบขัน เจ้าลิงเปี๊ยกคงไม่รู้จักคำว่าแก้คืนสิบปียังไม่สาย ผมรับรองว่าเดี๋ยวลิงเปี๊ยก
จะได้รู้จักแน่นอน
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“ลุงให้ผมกลับวัดเลยก็ได้นะผมว่าผมดีขึ้นเยอะแล้ว” ลิงเปี๊ยกผู้ไม่เจียมตัวพูดขึ้น เมื่อผมพยุงขึ้นมานั่งพักที่โซฟาในห้อง
วินกับนิวเพิ่งกลับไปได้สักครู่
ผมไปพบป้าสิตั้งแต่กลับมาถึง เรื่องราวเดิมๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เรื่องความรับผิดชอบของลูกชายคนโต เรื่องที่วินเป็น
แบบนั้นไปคนหนึ่งแล้ว เรื่องผมควรได้แต่งงานกับผู้หญิงดีๆ ที่มีหน้ามีตาเท่าเทียมกัน ผมนั่งฟังป้าสิยิ้มๆ ไม่ได้ต่อล้อต่อ
เถียงอะไร เพียงแต่พูดทิ้งท้ายก่อนออกมาว่า บางทีมันอาจเป็นกรรมพันธุ์ก็ได้ผมถึงห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ทำเอาป้าสิเงียบกริบ
จนแม้ผมเดินออกจากห้องมาแล้วก็ยังไม่ได้ยินเสียงแม้แต่น้อย
“กลับวัดแล้วใครจะคอยช่วยพยุง ไหนบอกว่าไม่อยากให้หลวงลุงรู้”
“พี่นิวบอกไปเรียบร้อยแล้ว หลวงลุงฝากมาบอกว่ากลับไปค่อยคุยกัน” มิน่าลิงเปี๊ยกถึงคิดจะกลับวัดเพราะไม่จำเป็นต้อง
ปิดบังแล้ว
“อยู่ก่อนเถอะเดินได้สะดวกค่อยกลับ”
“แต่วันจันทร์ลุงก็ต้องไปทำงาน” ลิงเปี๊ยกมีสีหน้าอึดอัด
“ถ้าอย่างนั้นก็อยู่พรุ่งนี้อีกคืน วันจันทร์เช้าฉันจะขับไปส่งนายที่วัดก่อนไปทำงาน ถึงอย่างไรนายก็ต้องหยุดเรียนอยู่ดี”
“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ ขอบคุณครับ” ลิงเปี๊ยกยกมือขึ้นไหว้ ผมพยักหน้ารับก่อนเดินไปหยิบของบนโต๊ะถือกลับมาที่โซฟา
“ของนาย” ผมส่งถุงที่อยู่ในมือให้ลิงเปี๊ยก
“อะไรครับ” ลิงเปี๊ยกยื่นมือมารับทำหน้าสงสัยแต่ไม่ยอมเปิดดู
“เปิดดูก็รู้”
“นี่..นี่..” ลิงเปี๊ยกพูดตะกุกตะกักเมื่อดึงของในถุงออกมา
“พอดีไหมฉันไม่น่าจะกะผิด”
“....” ลิงเปี๊ยกเอาแต่อ้าปากหุบปากเป็นปลาต้องการออกซิเจน เมื่อเห็นว่าของในถุงคือกางเกงในสองแพ็คและบ็อกเซอร์
สองแพ็คจากแบรนด์ที่ผมใช้ประจำ
“ของนายมันเก่าจนเอาไปทำเป็นผ้าขี้ริ้วยังไม่ได้ ไหนดูสิพอดีไหม” ผมแย่งกล่องกางเกงในมาจากมือของลิงเปี๊ยก หยิบ
ออกมาตัวหนึ่งแล้วคลี่ออกจับทาบลงบนตำแหน่ง
“อ๊ากก” ลิงเปี๊ยกร้องลั่น ขยับตัวถอยแต่ติดที่นั่งอยู่ชิดมุมโซฟาจึงหนีไปไหนไม่ได้
“จะร้องทำไมฉันแค่อยากรู้ว่ามันพอดีไหม” ผมปั้นสีหน้าเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ขยับตัวเข้าไปนั่งชิดยกมือขึ้นแตะ
ลงบนสะโพกของลิงเปี๊ยก
“พอดีเป๊ะ ดีหน่อยยังหาไซส์นี้ได้หุ่นเหมือนเด็กสิบขวบนึกว่าต้องไปแผนกเด็ก”
“ลุง เอามือออกไป” ลิงเปี๊ยกนั่งตัวแข็งไม่กล้ากระดุกกระดิก
“ทำไม?” ผมเลิกคิ้วท้าทาย เลื่อนมือที่วางบนสะโพกไปทาบทับอยู่บนหน้าท้องเหนือขอบกางเกงใน
“ไม่เคยโดยสัมผัสมาก่อนสินะเด็กแท้ๆ” ผมลูบมือวนเป็นวงกลมเบาๆ ลิงเปี๊ยกแขม่วท้องหนีหน้าตาตื่น
“ใครมันจะบ้าเคยโดนผู้ชายลูบเล่า”
“พูดเหมือนเคยโดนผู้หญิงลูบ ถ้าเคยก็ต้องรู้สิว่ามันให้ความรู้สึกเดียวกัน” ผมยังไม่หยุดมือถึงแม้ลิงเปี๊ยกจะใช้ทั้งสองมือ
จับไว้และพยายามผลักออก
“ฉันจะสอนอะไรให้” ผมใช้แรงที่มากกว่ารวบมือทั้งสองข้างของลิงเปี๊ยกยกขึ้นเหนือศีรษะก่อนใช้มือเพียงข้างเดียวล็อค
ข้อมือเอาไว้
“ไม่ใช่แค่ผู้หญิงหรอกที่ไวต่อสัมผัส ผู้ชายก็เหมือนกัน” ผมลูบมือเข้าไปใต้เสื้อตัวใหญ่ของลิงเปี๊ยก สะกิดนิ้วเข้ากับยอดอก
เจ้าตัวดีสะดุ้งเฮือกหน้าแดงซ่าน ผมย้ายนิ้วไปสะกิดกับยอดอกอีกข้าง คราวนี้ลิงเปี๊ยกอ่อนระทวยทิ้งตัวลงกับโซฟาหมด
แรงขัดขืนได้แต่หลับตาปี๋
“ฮ่าๆๆ “ ผมปล่อยมือที่ล็อคไว้ ขยี้ผมลิงเปี๊ยกที่นอนซบหน้าหมดแรงอยู่กับหมอนอิง
“ไหนบอกเมื่อไหร่ก็ได้ ซ่าดีนัก”
ลิงเปี๊ยกลืมตากว้างเมื่อรู้ว่านี่คือการเอาคืนของผม
“จำเอาไว้ทีหลังอย่าท้าทายฉันอีก” ผมตบมือบนแก้มของลิงเปี๊ยกเบาๆ ก่อนผิวปากลุกขึ้นยืนอย่างสบายใจ
“อย่าให้ถึงตาผมบ้างนะลุง ลุงโดนแน่” ลิงเปี๊ยกโวยวายตามหลัง ผมเดินยังไม่ถึงประตูห้องนอนก็มีบางอย่างปลิวหวือมา
ตกลงบนศีรษะ มันคือกางเกงในตัวที่ผมเอาออกมาแกล้งลิงเปี๊ยกนั่นเอง
“ไม่เข็ดใช่ไหม” ผมพุ่งตัวกลับไปหาลิงเปี๊ยก เจ้าตัวดีรีบยกมือขึ้นห้าม
“เข็ดแล้วเข็ดแล้วครับ ไม่ทำอีกแล้ว”
“โยนกางเกงในใส่หัวผู้ใหญ่แบบนี้เหรอ”
“ก็มันเป็นของใหม่ยังไม่มีใครใส่เลยลุง” ลิงเปี๊ยกทำเสียงอ่อย ทำตาน่าสงสาร
“แล้วมันถูกต้องไหม แบบนี้ต้องโดนทำโทษเสียให้เข็ด” ผมใช้มือจับต้นแขนของลิงเปี๊ยกไว้ทั้งข้าง ก้มหน้าลงไปใกล้
ตามองริมฝีปากอิ่ม
“ไม่เอาลุง ไม่เอา ไม่เล่นแบบนี้”
“ลิงเปี๊ยกร้องลั่น ยิ่งร้องปากผมยิ่งเข้าไปใกล้มากขึ้น ใกล้จนลิงเปี๊ยกเม้มปากตัวเองแน่นไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ หลับาตาปี๋
“หึหึ” ผมถอนหน้าออก หลังจากทิ้งเวลาไว้ชั่วครู่
“คราวนี้ฉันยกให้มีครั้งหน้านายเจอหนักกว่านี้” ผมเปิดหัวเหม่งของลิงเปี๊ยกก่อนกดริมฝีปากลงไปหนักๆ แทน แค่นี้ก็คง
กลัวจนหัวหดแล้ว
“นายไม่ทันฉันหรอกลิงเปี๊ยกอย่าพยายาม มันคนละชั้นกัน”
“ภูมิใจเหลือเกิน” ลิงเปี๊ยกยกมือสองข้างขึ้นปิดเหม่ง ยังมีแรงค่อนคอดผม
“เปี๊ยก! ผมลงเสียงหนัก คราวนี้เจ้าตัวดีรีบเลื่อนมือจากหน้าผากมาปิดปากไว้แทน สายตามองผมด้วยความหวาดระแวง
“ลุงอย่าเล่นอย่างนี้สิ อย่าขี้โกง” เสียงพูดอู้อี้ดังมาจากใต้มือ
“แล้วทำไมฉันต้องเล่นตรงๆ ในเมื่อแบบนี้ฉันชนะนายเห็นๆ หรือจะลองอีกที”
ลิงเปี๊ยกส่ายหน้าจนผมบนหมอนกระจาย ดูสงบเสงี่ยมขึ้นมาไม่กล้าแผลงฤทธิ์อีก
“ผมปวดขา” ไม้ตายของลิงเปี๊ยกทำเอาผมชะงัก ถึงจะแน่ใจว่าไม่ได้โดนแผลสักนิด แต่ลิงเปี๊ยกขยับตัวไปมาน่าจะทำให้
ปวดขาขึ้นมาได้
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปอาบน้ำจะได้ทานยาแล้วนอนพัก มาฉันอุ้มเอง”
“ไม่ต้องๆ” ลิงเปี๊ยกขยับตัวหนีมือผม
“ก็ไหนบอกว่าปวดขาจะเดินเองได้ยังไง”
“ถ้าอย่างนั้นอุ้มอย่างเดียวนะลุง”
“ไอ้นี่ใครจะทำอะไร ถ้าเมื่อกี้นายไม่ขว้างกางเกงนั่นมาฉันจะโกรธเหรอ”
“ขอโทษครับ” ลิงเปี๊ยกก้มหน้าท่าทางสำนึกผิดจริงๆ
“ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะลุง มือมันไปเองตามอารมณ์ผมไม่ทันหยุดคิดให้ดี”
“ ช่างเถอะ อย่าทำอีกก็แล้วกัน” ผมช้อนตัวลิงเปี๊ยกขึ้นอุ้ม พาเดินไปยังห้องนอน
“ไม่ทำแล้วครับ ผมจะทำตัวดีๆ ทำดีแล้วลุงไม่แกล้งใช่ไหม”
“หึหึ” ผมอดขำไม่ได้ ดูลิงเปี๊ยกทำหน้าเข้า เห็นแล้วนึกอยากจูบปากเล็กๆ ช่างเจรจานั่น
อยาก..จูบ..ปากเล็กๆ..
“ลุงเป็นอะไร วางผมลงได้แล้วถึงแล้ว”
“หะ?” ผมตอบรับงงๆ เพิ่งดึงสติกลับมาได้
“ผมจะอาบน้ำ ลุงวางผมลงได้แล้ว” ลิงเปี๊ยกพูดซ้ำอีกครั้ง
“อ๋อ..อืม” ผมวางลิงเปี๊ยกลง รีบเดินออกจากห้องน้ำไปทันที เมื่อกี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน
“ทำไมโทรมาหาเมย์ได้ล่ะคะลม”
“ผมจะโทรมาคอนเฟิร์มเรื่องไปฮ่องกง เดี๋ยวผมจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินกับโรงแรมให้เอง”
“เฮ้อ โล่งอก เมย์เห็นเบอร์คุณใจไม่ดีเลยค่ะนึกว่าลมจะโทรมายกเลิกนัด ไม่เคยเห็นโทรหาเมย์เวลานี้มาก่อน”
“ผม..ไม่มีอะไรหรอกเมย์ แค่นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้โทรบอกคุณ”
“รับทราบค่ะ ถ้าอย่างนั้นเมย์ฝากลมจัดการให้ทั้งหมดเลยนะคะ”
“ได้ครับ แล้วเจอกัน”
“ค่ะ คิดถึงลมนะคะ”
“ครับ เหมือนกัน”
.
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
Darin ♥ FANPAGE