L&P 11 : ทุกอย่าง“เปี๊ยกทำอะไรอยู่”
“คุยโทรศัพท์อยู่ครับ”
“มุกแป้กขนาดนี้ยังกล้าเล่นอีกเหรอ”
“แป้กแต่ก็ทำให้ลุงหงุดหงิดได้ละน่า ฮ่าๆ” ลิงเปี๊ยกหัวเราะชอบใจเพราะได้ยินเสียงผมถอนใจออกมาเฮือกใหญ่
“เอาดีๆ ทำอะไรอยู่”
“นั่งเฉยๆ ครับ อ๊ะ!ผมไม่ได้กวนนะลุงไม่ต้องถอนใจซ้ำ ผมเพิ่งทำความสะอาดกุฏิหลวงลุงเสร็จเลยมานั่งพักให้หายเหนื่อย”
“ถ้าอย่างนั้นก็ว่างใช่ไหม” “ครับ”
“ออกมาเจอกันหน่อย ฉันทานข้าวอยู่กับเพื่อนเดี๋ยวจะส่งสถานที่ไปให้”
“ให้ไปทำอะไรบอกด้วยสิครับ”
“ทำงาน” ผมตอบสั้นๆ ไม่อธิบายรายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น
“ไอ้ทำงานผมรู้อยู่แล้วแต่จะให้ทำอะไรครับผมจะได้แต่งตัวถูก อย่างลุงไม่ชวนผมออกไปเที่ยวเล่นหรอก ต้องสาวๆ
สวยๆ โน่น” ผมสะดุดหูกับคำพูดของลิงเปี๊ยก จะเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่าลิงเปี๊ยกเริ่มสนใจผมเช่นกัน
“ใส่ชุดที่ฉันซื้อให้ชุดไหนก็ได้”
“ครับๆ ไม่บอกก็ไม่บอกความลับเยอะจริง” ลิงเปี๊ยกบ่นแต่ก็ยอมออกมาแต่โดยดี ผมวางโทรศัพท์ลงลอบถอนใจ
ต้องนัดเจอแบบมีข้ออ้างไปอีกสักกี่ครั้งเพราะนอกจากอยากเจอหน้าลิงเปี๊ยกแล้วผมไม่มีเหตุผลอื่นใด
“ถึงกับต้องถอนใจเลยเหรอพ่อคาสโนว่า” เสียงแซวดังมาจากคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม อินเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาลัยของผม
“เฮ้ยอย่าแซว เห็นใจลมมันหน่อย” ปืนพูดยิ้มๆ คล้ายปกป้องแต่ดูจากสีหน้าแล้วผมว่าไม่ใช่
“เอาจริงหรือวะลม นายแน่ใจนะ” พรตที่นั่งฟังเงียบๆ มาตลอดถามในสิ่งที่อยากรู้
ผมนัดเพื่อนยกก๊วนออกมาสังสรรค์และตัดสินใจบอกเล่าความรู้สึกที่เกิดขึ้น เมื่อมั่นใจแล้วผมไม่คิดจะปิดบังโดยเฉพาะกับ
เพื่อนสนิท
“จริง”
“ถาวรหรือเปล่าวะ”
“อะไรคือถาวรของนายวะพรต ถามมาเลยอย่ากำกวม” ผมรู้ว่าเพื่อนลำบากใจที่จะพูดจึงเอ่ยปากอนุญาตให้ถามตรงๆ ได้
“หมายถึงนายเปลี่ยนมาชอบผู้ชายแล้วหรือวะ ไม่ชอบผู้หญิงแล้ว”
“อืม..เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันไม่มีผู้หญิงที่ชอบ และไม่ชอบผู้ชายคนไหนนอกจากเปี๊ยก”
“ขอเคลียร์ๆ ได้ไหมวะ ตกลงนายเป็นหรือไม่เป็น” อินอดรนทนไม่ไหวต้องถามขึ้นมาเอง
“อยากตอบว่าเป็นไบเซ็กชวลแต่กับผู้ชายคนอื่นก็ไม่นึกพิศวาสว่ะ มันเลยตอบยากว่าเป็นหรือไม่เป็น”
“สรุปคือกับน้องคนนี้คนเดียว”
“ใช่” ผมตอบคำถามอิน
“อาการหนักแล้วเพื่อน หลงเด็กเต็มขั้น” ปืนส่ายหัว ปืนเป็นคนเดียวที่ดูไม่แปลกใจเมื่อได้ยินความจริงจากปากผม
“เป็นไปได้ไหมว่านายอาจจะอินมาจากคู่ของวิน”
“เออ พรตมันพูดน่าคิด ลองดูๆ ไปก่อนไหมลม อย่างนายบอกตรงๆ ว่าทำใจเชื่อยากว่ะ ไม่คิดดีๆ นายจะทำเด็กมันเสียใจ
เอานะ” อินเป็นห่วงลิงเปี๊ยกเพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาของผมทำให้เชื่อได้ยากว่าผมจะเปลี่ยนใจมาชอบผู้ชาย
“คิดยิ่งกว่าคิด อะไรที่ควรทำก็ทำไปหมดแล้วมันต้องคนนี้จริงๆ”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันถึงอยากจะเห็นตัวเป็นๆ ว่าจะน่ารักขนาดไหนถึงเอาคาสโนว่าตัวพ่ออยู่” ปืนออกปากตั้งแต่แรกรู้
ข่าวว่าอยากให้ผมโทรเรียกลิงเปี๊ยกออกมาร่วมกลุ่มเพราะยังไม่มีใครเคยเจอ
“พูดตอนนี้ได้แต่ตอนเปี๊ยกมาห้ามแซวเรื่องผู้หญิงเด็ดขาด” ผมสั่งห้ามทุกคนเพราะไม่อยากให้ลิงเปี๊ยกขยาดผมเสียก่อน
“หึหึ ปืนมันพูดถูกว่ะนายเป็นหนักจริงๆ ด้วยลม ไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้มาก่อนดูไม่เหลือความมั่นใจ”
“เดี๋ยวนายเห็นก็รู้เองอิน” ผมไม่อยากอธิบายมากเชื่อว่าเมื่อทุกคนได้เห็นลิงเปี๊ยกจะรู้คำตอบเอง
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“สวัสดีครับ” ลิงเปี๊ยกยกมือไหว้ ปืน พรตและอินตามที่ผมแนะนำให้รู้จัก
“นี่เปี๊ยก” ผมพูดหน้านิ่งๆ ไอ้ตัวเล็กหันขวับมาทำตาโตใส่ ก่อนจะหันไปยิ้มแหยๆ ให้คนที่เหลือ
“ไม่ใช่นะครับ ไม่ใช่” ปฏิเสธด้วยคำพูดไม่พอลิงเปี๊ยกถึงกับโบกมือสองข้างไปมาเป็นพัลวัน
“ผมไม่ได้ชื่อเปี๊ยกครับผมชื่อเปาลุงชอบเรียกผิดอยู่เรื่อย”
“ลุง?!!” ประกายระยิบระยับในตาทำให้รู้ว่าแต่ละคนกลั้นขำกันแค่ไหน ผมทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก อย่านึกว่าผมไม่
รู้นะว่าไอ้ตัวดีมันตั้งใจ ปกติเคยหลุดเรียกผมว่าลุงต่อหน้าคนอื่นที่ไหน เป็นการเอาคืนที่ผมเรียกว่าเปี๊ยกแน่นอนผมมั่นใจ
“อ๊ะ!! ขอโทษครับ ลุงบอกว่าต่อหน้าคนอื่นให้เรียกว่าพี่ลม” ลิงเปี๊ยกทำหน้าตกใจก่อนหันมาทำหน้าขอโทษขอโพยผม
เด็กบ้าอะไรเล่นละครเก่งชะมัด
“เฮ้ยต่อหน้าพวกพี่ไม่เป็นไร เรียกตามสบายเลยเปา” พรตเอ่ยปากอนุญาตก่อนส่งสายตาล้อเลียนมาให้ผม
“พี่พรตใจดีเนอะลุง” ลิงเปี๊ยกยิ้มกว้างทำตาซื่อทั้งที่เพิ่งเน้นคำว่าพี่กับลุงให้ผมได้ยินเต็มสองหู
“ใช่น้องเปา พี่พรตใจดีมากมานั่งกับพี่พรตดีกว่า” พรตเลื่อนเก้าอี้ว่างข้างตัวออก กวักมือเรียกเปาให้ย้ายไปนั่งด้วยกัน
“เบาๆ เอ็งจะเล่นอะไรดูหน้าลมมันบ้าง” อินสะกิดเพื่อนด้วยคำพูด พยักพเยิดให้หันมาทางผม
“จะหวงอะไรนักหนาวะ เป็นน้องไม่ใช่เหรอ” พรตแซวในสิ่งที่รู้กันดี
“ไม่ใช่น้อง แฟน” ผมตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ลิงเปี๊ยกถึงกับหันมาทำตาโตใส่
“มองอะไร ตอนนี้นายรับจ้างเป็นแฟนฉันอยู่จำไม่ได้เหรอ”
“อ๋อ” ลิงเพียงพยักหน้ารับรู้ ก่อนหันไปมองคนอื่นที่นั่งฟังบทสนทนาระหว่างลิงเปี๊ยกกับผมอย่างตั้งใจ
“ลุงเขากลัวจะได้แต่งกับคนดีๆ น่ะครับเลยต้องหาแฟนปลอมๆ มาบังหน้า”
“ฮ่าๆ” เป็นอินที่หลุดเสียงหัวเราะแบบเต็มเสียงออกมาเป็นคนแรก ก่อนจะตามมาด้วยคนอื่นๆ ที่ขำกันไม่หยุด
“น่าคิดน่ะลม” ปืนพูดเสียงขลุกขลักเพราะยังหยุดหัวเราะไม่ได้ สาเหตุที่ทำให้ทุกคนขำหนักไม่ใช่แค่คำพูดแต่เป็น
เพราะสีหน้าของลิงเปี๊ยกที่มองมาด้วยสายตาซื่อๆ ที่ใครดูก็รู้ว่าแกล้งทำ
“อย่างนายจะไปรู้อะไร” ผมดีดหน้าผากลิงเปี๊ยยกจนหน้าหงายเพราะเจ้าตัวไม่ทันตั้งหลัก ได้แต่คลำหน้าผากตัวเอง
ป้อยๆ
“ผมไม่รู้หรอก ไม่ได้เจ้าชู้อย่างลุงนี่”
“จริง” “ใช่” “เห็นด้วย” ไม่ทันพ้นชั่วโมงลิงเปี๊ยกก็ได้พวกไปหมดโต๊ะ ดูเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
“คิดดีๆ นายปืนว่าจะเข้าข้างใคร อย่าให้ฉันปูดวีรกรรมของนายให้ฝ้ายฟัง แฟนนายทำงานกับฉันอย่าลืมสิ”
“ลุงขี้ฟ้อง”
“หึหึ โทษว่ะลมฉันทนไม่ไหว” อินยกมือขึ้นเป็นเชิงขอโทษผมที่หลุดหัวเราะออกมาติดๆ กัน
“เห็นฤทธิ์หรือยังผิดจากที่ฉันพูดไหม”
“แน่ะ ลุงนินทาผมกับเพื่อนเหรอ” ลิงเปี๊ยกหันมาทำหน้าเอาเรื่อง
“ไม่ได้นินทาฉันชมให้เพื่อนฟังว่ามีแฟนน่ารัก น่ารักมาก” ผมลากเสียงคำสุดท้ายยาวให้รู้ว่าน่ารักมากแค่ไหน
“ลุงก็เป็นแฟนที่น่ารักมากครับ” ลิงเปี๊ยกกลัวน้อยหน้าลากเสียงยาวยิ่งกว่าผม
“พอกันทั้งคู่ แล้วนี่เปาเรียนปีไหนแล้ว เรียนคณะอะไร”
“ผมเรียนมอห้าครับ”
“หะ!!” พรตถึงกับผงะเมื่อได้รับคำตอบที่ไม่คาดคิด หันมามองหน้าผมเป็นคำถาม
“สิบเจ็ดปี” ผมบอกก่อนจะถูกถามเพราะรู้ดีว่าเพื่อนคิดอะไรอยู่
“สิบเจ็ด!! นี่มันพรากผู้เยาว์เลยนะเว้ยลม”
“ไม่ใช่ครับ ลุงแค่ใช้ผมเป็นข้ออ้างไม่นับเป็นพรากผู้เยาว์ครับ” ลิงเปี๊ยกรีบช่วยผมอธิบายสีหน้าเดือดร้อนแทน ทำให้ผม
อดยิ้มออกมาไม่ได้ ถึงลิงเปี๊ยกจะชอนตีกับผมแค่ไหนแต่สุดท้ายก็จะช่วยปกป้องผมทุกครั้ง
“เปานี่นามบัตรพี่” อินยื่นนามบัตรให้เปา อินเป็นเพื่อนต่างคณะของผมแต่สนิทกันตั้งแต่ชั้นมัธยมปลาย อินจบนิติศาสตร์
และเข้าบริหารงานที่สำนักงานกฎหมายและทนายความของผู้เป็นพ่อ
“พี่อินเป็นทนายเหรอครับ ผมก็อยากเรียนนิติฯเหมือนกัน”
“มีอะไรปรึกษาพี่ได้” อินพูดกับลิงเปี๊ยกแต่กลับส่งสายตาล้อเลียนมาให้ผมแทน
“ดีเลยครับ ผมยังกลัวบรรดาแฟนๆ ลุงจะมาตบถึงโรงเรียน ลุงเล่นไม่ชอบคนไหนก็ใช้ผมอ้างตลอด” ลิงเปี๊ยกไม่รู้ตัวเลย
ว่าพูดถึงคนละเรื่องกับอิน สร้างความเอ็นดูให้กับผู้ที่ฟังอยู่
“อย่าไปยอมง่ายๆ เปา เราต้องใจแข็งไว้”
“เอ๋? พี่ปืนพูดถึงเรื่องไหนครับ” ลิงเปี๊ยกเริ่มจับได้ว่าบทสนทนาฟังแปร่งหู สายตากวาดมองเพื่อนๆ ผมทีละคน
“ก็เรื่อง....ถ้ามีสาวมาอาละวาดกับเราไง อย่าไปยอมนะยอมง่ายๆ ก็ไม่สนุกสิเชื่อพี่”
ผมกระแอมออกมาดังๆ สถานการณ์ชักไม่สู้ดี ดูเหมือนทุกคนจะสนุกกันใหญ่เมื่อจับได้ว่าผมคิดจะเลี้ยงต้อย นี่เป็นสาเหตุ
ที่ทำให้ผมไม่คิดจะบอก
“เปี๊ยกหิวไหมสั่งอาหารสิ” ผมยื่นเมนูที่พนักงานไม่ได้เก็บกลับไปให้ลิงเปี๊ยก เป็นการหันเหความสนใจ
“ขอบคุณครับ” ลิงเปี๊ยกรับเมนูไปเปิดดู ผมค่อยมีเวลาได้พักหายใจหายคอกับเขาบ้าง แต่ก็ได้แค่อึดใจเดียวจริงๆ
เมื่อเพื่อนตัวดีของผมไม่ยอมเลิกรา
“เปาสั่งข้าวผัดด้วย”
“พี่อินจะเอาข้าวผัดอะไรครับ มีหมู ปู กุ้ง ทะเล” ลิงเปี๊ยกพาซื่อเปิดเมนูไปหน้าข้าวผัดอ่านออกเสียงให้อินฟัง
“ถามลมเถอะว่าอยากกินอันไหนพี่ให้สั่งให้ลมมัน “
“ลุงอยากทานข้าวผัดหรือครับ” เปาเงยหน้าจากเมนูขึ้นมามองผม แปลกใจเพราะไม่เคยเห็นผมสั่งข้าวผัดทานมาก่อน
“เชื่อพี่สิเปา ลมมันชอบทานมาก ฮ่าๆ” พรตช่วยสนับสนุนอินอีกแรง ลิงเปี๊ยกทำหน้างง มองหน้าคนโน้นทีคนนี้ทีแต่ไม่ได้
รับคำอธิบายจากใคร สุดท้ายทำท่าจะสั่งมาให้จริงๆ จนผมต้องรีบห้ามเอาไว้
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อลิงเปี๊ยกขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ผมก็ได้รับการตอบรับจากเพื่อนๆ ว่าเข้าใจแล้วว่าผมทำไม
ถึงหนักใจนัก การจีบลิงเปี๊ยกไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเจ้าตัวดีทั้งฉลาดและซื่อมากในเวลาเดียวกัน แต่ทั้งหมดก็ทำให้ทุกคน
ลงความเห็นว่าลิงเปี๊ยกเป็นเด็กน่ารักมาก นั่นยิ่งทำให้ผมกลุ้มใจเข้าไปใหญ่ ขนาดเพื่อนผมยังเห็นเหมือนกันแล้วคนอื่นจะ
ไม่เห็นได้อย่างไร ผมไม่อยากให้ใครเห็นว่าลิงเปี๊ยกน่ารักนอกจากผมเพียงคนเดียว
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“อ๊ะ ผมเกือบลืมบอกลุง” ลิงเปี๊ยกอุทานออกมาในรถ ระหว่างเดินทางกลับวัด
“ศุกร์เสาร์อาทิตย์หน้าผมไม่อยู่นะครับ”
“ไปไหน” ผมผ่อนความเร็วของรถลงเพราะต้องการมุ่งความสนใจไปที่การสนทนา
“ไปทัศนศึกษากับทางโรงเรียน ที่จริงผมเกือบจะไม่ได้ไปแล้วไม่มีเงิน ดีที่ได้เงินค่าจ้างจากลุงตอนโน้นเลยได้ไป ครูบอกว่า
ผมจ่ายเป็นคนสุดท้ายของทริป” ลิงเปี๊ยกดีใจจนออกนอกหน้าทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้ อะไรที่ทำให้ลิงเปี๊ยกมีความสุขมันเป็น
เรื่องดีทั้งนั้น
“ครูพาไปไหนแล้วไปกับเพื่อนที่ห้องเหรอ”
“ไปกาญจนบุรี ครูเขาจัดให้นักเรียนชั้นม.4ถึงม.6 ไป แล้วแต่ว่าใครจะสนใจ เห็นบอกว่าเช่ารถบัส 3คัน” ผมนิ่งไปครู่ใหญ่
สายตามองตรงไปยังถนนข้างหน้า แต่มือที่กำพวงมาลัยบีบแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“เปี๊ยก นายมีคนที่ชอบอยู่หรือเปล่า”
“เอ๋? ทำไมจู่ๆ ลุงถามเรื่องนี้ขึ้นมา” ผมหันไปสบตาลิงเปี๊ยกแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปมองถนนอีกครั้ง มันเป็นแค่ลางสังหรณ์
ในใจ ลิงเปี๊ยกอยู่มอห้าเป็นไปได้หรือที่ไม่เคยชอบใครสักคน
“ฉันรู้แต่ว่านายยังไม่มีแฟน แต่ไม่เคยถามว่ามีคนที่ชอบอยู่หรือเปล่า ฉัน....อยากรู้”
“มีครับ” รถกระตุกวูบจนลิงเปี๊ยกร้องอุทานออกมา ผมพยายามกลับมาตั้งสมาธิกับการขับรถทั้งที่ในใจร้อนรุ่ม
“นายชอบใคร เขาไปเที่ยวด้วยไหม สนิทกันหรือเปล่า เจอกันบ่อยแค่ไหน...”
“เดี๋ยวๆ ลุง เอาทีละคำถามสิ มาเป็นชุดผมจะตอบทันไหม แล้วลุงจะอยากรู้ไปทำไม”
“ตอบมาเถอะ” ผมพยายามรักษาระดับของน้ำเสียงไม่ให้อีกฝ่ายจับได้ว่าผมร้อนรนแค่ไหน ลิงเปี๊ยกมีคนที่ชอบแล้ว
คนที่ไม่ใช่ผม
“ก็ได้ๆ ซักประวัติกันจริง ผมชอบน้องน้ำอยู่มอสี่หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก น้องน้ำไปเที่ยวด้วย สนิทกันประมาณนึง แล้วอะไร
อีกนะลุงผมจำคำถามไม่ได้”
“เจอกันบ่อยไหม ผู้หญิงรู้หรือเปล่าว่านายชอบ”
“เจอบ่อยก็อยู่โรงเรียนเดียวกัน น้องน้ำรู้ไหมผมไม่รู้แต่เพื่อนผมรู้กันหมดแหละ”
“งั้นหรือ”
“ผมมีรูปแต่อยู่ในมือถือเครื่องเก่า เครื่องที่ลุงซื้อให้ไม่มีไม่อย่างนั้นจะเอาให้ดู ลุงต้องชอบแน่โคตรน่ารักเลย
เฮ้ย!!! ลุงจะไปไหน” ลิงเปี๊ยกร้องลั่นเมื่อจู่ๆ ผมก็ตวัดรถเข้าเลนขวาและกลับรถในเวลาต่อมา
“กลับบ้าน”
“อ้าวแล้วผมล่ะ ลุงไปส่งผมก่อนสิ”
“ฉันเหนื่อยปวดหัวขี้เกียจขับนายไปค้างที่บ้านก็แล้วกัน พรุ่งนี้วันอาทิตย์ไม่ต้องไปโรงเรียน”
“แต่ผมไม่ได้บอกหลวงลุงไว้นะครับ โทรบอกบ่อยๆ มันไม่ดี”
“โทรอีกครั้งเถอะนะเปี๊ยกถือว่าฉันขอ ได้ไหมไปค้างกับฉัน”
“อ่า..ก็ได้ครับ” ลิงเปี๊ยกตอบรับ สายตามองผมเหมือนสงสัยว่าทำไมผมถึงดูจริงจังนัก ผมไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมนอกจาก
บอกให้ลิงเปี๊ยกโทรหาหลวงลุงตอนนี้เลยท่านจะได้ไม่เป็นห่วง
หลังจากลิงเปี๊ยกวางโทรศัพท์ ผมขับรถไปเงียบๆ ไม่ได้ซักถามอะไรเรื่องไปทัศนศึกษาอีก ดูเหมือนลิงเปี๊ยกจะรู้ว่าไม่ควร
กวนผมตอนนี้จึงเปิดวิทยุในรถฟังเบาๆ ไปตลอดทาง
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“ลุงเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมเงียบๆ” ลิงเปี๊ยกลุกจากพรมขึ้นมานั่งใกล้ๆ ผมบนโซฟา
“ขยับไปหน่อยสิ”
“ขยับเหรอครับ ได้ๆ “ ลิงเปี๊ยกคงนึกว่าผมอึดอัดเพราะเข้ามานั่งใกล้ไป จึงขยับตัวไปนั่งชิดมุมของโซฟาเพื่อทิ้งระยะห่าง
ผมรอจนลิงเปี๊ยกนั่งดีแล้วจึงเอนตัวลงนอน หนุนหัวไปบนตักของลิงเปี๊ยกก่อนหลับตาลง
“วันนี้มันเพลียๆ ชอบกลเหมือนจะเป็นไข้” ผมยกมือลิงเปี๊ยกมาวางบนหน้าผากของตัวเอง รู้ว่าถ้าอ้างเรื่องนี้ลิงเปี๊ยกจะมัว
แต่เป็นห่วงจนลืมโวยวายเรื่องผมนอนตัก
“มีไหม?”
“อุ่นๆ ครับ ลุงกินยากันไว้หน่อยดีไหม อยู่ตรงไหนเดี๋ยวผมไปหยิบให้”
“ฉันไม่ชอบกินยา”
“อ้าวทำเป็นเด็กไปได้ลุง ป่วยก็ต้องกินยาสิ”
“อย่าเลย นอนพักสักหน่อยก็ดีขึ้นเอง”
“เอาหมอนไหมลุงจะได้นอนสบายๆ “
“แบบนี้ก็สบายดีแล้วเป็นหมอนให้เดี๋ยวนะ เวลาไม่สบายฉันชอบอยู่ใกล้ๆ คน”
“ได้ๆ เสียดายผมนวดหัวให้ไม่เป็นกลัวทำแล้วจะยิ่งปวด ต้องพี่นิวโน่นนวดเก่งมาก ผมปวดหัวทีไรนวดให้ทุกที”
“เปี๊ยก”
“ครับ?”
“นายต้องเล่นเป็นแฟนฉันมีถึงเนื้อถึงตัวกันบ่อยๆ นายพอรับได้ไหมหรือรู้สึกไม่ดี”
“อืม..แรกๆ มันก็ขนลุกบ้างแต่ตอนนี้เริ่มชินแล้วมั้งครับ แล้วลุงล่ะทำเองรู้สึกไม่ดีเองไหม”
“ไม่ เรื่องพวกนี้มันธรรมดาสำหรับฉัน แล้วนายเคยจูบใครหรือยังลิงเปี๊ยก”
“คะ..ใครจะไปเคยเล่าผมเพิ่งมอห้าเองนะลุง” ผมลืมตายกมือขึ้นแตะคางลิงเปี๊ยกบังคับให้ก้มลงมา จึงเห็นว่าใบหน้าอ่อน
เยาว์กำลังขึ้นสีแดงเรื่อไปทั้งหน้า
“หึ อย่าบอกว่าเด็กมอห้ายังไม่เคยมีใครจูบเป็นสักคนฉันไม่เชื่อ ฉันยังจูบตั้งแต่มอสาม”
“ก็ผมไม่ได้ลามกเหมือนลุงนี่จะได้เคยแต่เด็ก”
“นายอยากจูบกับผู้หญิงคนที่นายชอบไหม”
“โธ่เอ๊ยจะไปอยากจูบได้ยังไง น้องน้ำเขามีแฟนแล้วแฟนเป็นนักกีฬาด้วยจะได้มาอัดผมตายสิตัวอย่างกับยักษ์”
“มีแฟนแล้ว! แล้วทำไมเมื่อกี้ถึงไม่บอกฉัน”
“อ้าวก็ลุงไม่ได้ถาม ลุงถามแต่ว่ามีคนที่ชอบหรือยังผมก็ตอบว่ามี ว่าแต่ลุงยังไม่ได้บอกเลยว่าถามเรื่องนี้ทำไม แล้ววันนี้อีก
ให้ผมไปทำอะไรไม่เห็นได้ทำงานสักอย่าง”
“ถามมากจริง” ผมอารมณ์ดีขึ้นทันตาเห็น มันโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่มีคู่แข่ง
“เพื่อนฉันอยากเจอนายกันเลยต้องขอให้นายออกไป ฉันถือว่าเป็นการทำงานเพราะนายเสียเวลา ส่วนที่ถามเรื่องคนที่
นายชอบเพราะตอนนี้นายเป็นแฟนฉัน ฉันต้องรู้ข้อมูลไว้บ้าง”
“ไม่เห็นเกี่ยวกัน”
“เกี่ยวสิ ตอนนี้ห้ามนายไปจีบใครทั้งนั้นจนกว่านายจะทำงานให้ฉันเสร็จ”
“โหยลุง ยิ่งไม่เกี่ยวกันเข้าไปใหญ่ โรงเรียนผมก็โรงเรียนธรรมดาไม่ใช่โรงเรียนลูกคุณหนูหาคนรู้จักลุงยากแน่”
“เกี่ยวสิ ถ้านายจีบใครอยู่นายจะเล่นเป็นแฟนฉันได้เหรอผู้หญิงรู้เข้านายจะไปไม่รอด อีกอย่างเรื่องเวลาก็สำคัญ
เกิดฉันเรียกแล้วนายติดนัดขึ้นมาจะทำยังไง เสียงานฉันอีก”
“อืม..มันก็จริง” ลิงเปี๊ยกทำหน้าคิดหนัก เจ้าตัวดีจริงจังกับงานเสมอ แม้เป็นงานที่ไม่เข้าท่าเลยสักนิดก็ตาม
“เอ้ายอมก็ได้ จนกว่างานลุงจะเสร็จผมไม่จีบใครทั้งนั้น”
“ดีมาก ห้ามเด็ดขาดเข้าใจไหมใครมาจีบก็ไม่ได้”
“ลุงก็พูดไปโน่น ที่จริงผมรับปากง่ายเพราะผมไม่ได้คิดจะจีบใครอยู่แล้ว แม่ส่งมาเรียนต้องเรียนก่อน”
“เด็กดี” ผมโล่งอกไปเปราะหนึ่งแต่ก็ยังมีเรื่องที่ค้างคาใจอยู่
“นายไปเที่ยวเพราะอยากตามน้องน้ำน้องฟ้าอะไรนั่นไปหรือเปล่า”
“จะอยากไปกับเขาทำไมล่ะลุงแฟนเขาก็ไป ผมชอบเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย ที่ไปเพราะไม่เคยไปเที่ยวไหนต่างหาก
ไปเองมันแพง แล้วภูมิกับกังฟูก็ไปผมเลยอยากไปเที่ยวกับเพื่อนด้วย”
“มีเงินติดกระเป๋าหรือเปล่า”
“มีครับ ลุงไม่ต้องให้นะผมมีพอ” ลิงเปี๊ยกรีบห้ามเหมือนรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่
“เอาติดกระเป๋าไปด้วยเผื่อฉุกเฉิน ไม่ได้ใช้ก็เอามาคืน”
“แต่..”
“อย่าเถียงผู้ใหญ่ นายมันตัวเรียกอุบัติเหตุเดี๋ยวเตะโน่นเดี๋ยวชนนี่ เอาไปด้วยฉันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง แค่นี้ทำให้ฉันไม่ได้เหรอ”
“ได้สิลุง พูดแบบนี้ใครจะไม่ทำให้เล่า”
“ดีมาก” ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่ง แบมือไปข้างหน้าลิงเปี๊ยก
“อะไรครับ”
“เอากระเป๋าตังค์มา” ผมรู้ว่าขืนยื่นเงินให้พอลิงเปี๊ยกเห็นจำนวนจะไม่อยากรับขึ้นมาอีก
“ลุงอะ”
“เปี๊ยกเราคุยกันแล้ว”
“ครับๆ “ ลิงเปี๊ยกยอมล้วงกระเป๋าตังค์ออกมาให้ผมแต่โดยดี ผมหยิบเงินสามพันบาทใส่เข้าไปให้ ความจริงอยากให้มาก
กว่านี้แต่กลัวลิงเปี๊ยกโวยวาย
“โหลุง เยอะไปแล้วพันเดียวก็พอครับ”
“ไม่พอ ต้องเผื่อนายไม่สบาย เผื่อนายตกรถ เผื่อหลงกับเพื่อน”
“ลุ้ง!! ผมไม่ใช่เด็กอีกอย่างครูก็ไป”
“ก็เอาไปให้ฉันอุ่นใจ มีอะไรก็โทรมารู้ไหมกี่โมงก็ช่าง” ผมสำทับ พอพูดถึงก็เริ่มเป็นห่วงขึ้นมา
“ลุง”
“ว่าไง” ผมถามเพราะเห็นลิงเปี๊ยกเรียกแล้วเงียบไปแถมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
ทำไมลุงดีกับผมจัง”
“มันทำให้นายอึดอัดไหมเปี๊ยก” ผมถามกลับสบตากับดวงตาที่มองมา ก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะหลุบต่ำลง
“ไม่ครับ ผม..ผมอุ่นใจที่มีลุงอยู่”
“ฉันอยู่กับนายเสมอลิงเปี๊ยกนายพึ่งพาฉันได้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม จำเอาไว้นะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
“มานี่” ผมดึงลิงเปี๊ยกเข้ามากอด พยายามถ่ายทอดความอบอุ่นลงไปในสัมผัสให้มากที่สุด
“ลุง” ลิงเปี๊ยกกระซิบชิดอกโดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา
“ครับ?”
“ลุงพูดเพราะจัง”
“ใช่เรื่องไหม” ผมยีผมนุ่มในอ้อมแขนเบาๆ เมื่อลิงเปี๊ยกแซวคำขานรับของผม
“มีอะไรอยากพูดหรือเปล่า” ผมถามเพราะลิงเปี๊ยกเงียบไปเสียเฉยๆ
“ถ้าอีกหน่อยลุงมีแฟนขึ้นมามันจะเป็นยังไงนะ ผมว่าผมต้องเหงามากแน่ๆ ลุงทำผมเคยตัวแล้วรู้ไหม” จู่ๆ ผมก็รับรู้ถึงแรง
สะดุ้งจากร่างในอ้อมแขน
“ แต่..แต่ลุงมีได้นะ ผมพูดไปอย่างนั้นเองลุงอย่าสนใจ ลุงมีแฟนก็ดีแล้วจะได้มีคนดูแล” ลิงเปี๊ยกขยับตัวขึ้นมองผมหน้าตาตื่น
คล้ายเจ้าตัวเพิ่งนึกได้ว่าพูดสิ่งที่ไม่สมควรออกมา
“ฉันมีแล้ว นายไง”
“ผมหมายถึงแฟนจริงๆ ผู้หญิงสวยๆ ที่เหมาะสมกับลุง ไม่ใช่ตัวหลอกอย่างผม”
“พูดแบบนี้แปลว่านายจะไม่ดูแลฉันหรือลิงเปี๊ยก ถ้าฉันไม่สบายถ้าฉันมีเรื่องกลุ้มใจนายจะไม่อยู่ข้างๆ ฉันใช่ไหม”
“ไม่สิ ไม่ ผมต้องอยู่กับลุงอยู่แล้ว” มือที่เล็กกว่ายึดชายเสื้อผมไว้แน่น แววตาที่มองมาบอกความจริงใจได้มากกว่าคำพูด
มากมายนัก
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่ต้องการใครอีก”
“ลุงพูดแปลกๆ”
“ไม่ชอบเหรอ”
“...........”
“ว่าไงลิงเปี๊ยกไม่ชอบให้ฉันพูดแบบนี้เหรอ” ผมก้มหน้าเข้าไปใกล้อีกนิด จมูกอยู่ห่างหน้าผากลิงเปี๊ยกไม่ถึงสองนิ้ว
“เปล่า” ลิงเปี๊ยกส่ายหน้าจนผมสะบัด ใบหน้าก้มต่ำมองมือตัวเองที่จับเสื้อผมอยู่
“ผมรู้แล้วทำไมผู้หญิงถึงชอบลุงกัน”
“นายชอบฉัน?”
“..........”
“ใช่ไหม?”
“ชะ.ชอบสิก็ลุงเป็นลุงผมนี่ถึงจะชอบแกล้งผมไปหน่อยก็เถอะ”
“ใช่ฉันเป็นลุงนาย เป็นพี่นาย เป็นคนอยู่ข้างๆ นาย เป็นคนดูแลนาย ฉันเป็นทุกอย่างนั่นแหละลิงเปี๊ยก นายต้องชอบฉัน
ให้มากๆ รู้ไหมเพราะฉันเป็นทุกอย่างของนาย”
“อะ..อืม” ลิงเปี๊ยกพยักหน้าแรงๆ
“เด็กดี” ผมอดใจไม่ไหวคว้าลิงเปี๊ยกเข้ามากอดอีกครั้ง กดริมฝีปากลงบนหน้าผากทิ้งน้ำหนักลงไปเบาๆ ก่อนถอนออกมา
ลิงเปี๊ยกไม่โวยวายแต่กลับส่งยิ้มให้ผมเป็นรอยยิ้มที่บอกถึงความไว้เนื้อเชื่อใจ ความศรัทธา และผมหวังว่าสักวันมันจะมี
ความรักรวมอยู่ในนั้นเหมือนที่ผมมี
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
สปอย**
-ใครรอพี่ลมรุกหนักตอนหน้าเจอกันค่ะ
- ส่วนpartของลิงเปี๊ยกอีกสามสี่ตอนจะมีเขียนค่ะ
Darin ♥ FANPAGE