ตอนที่ 27.2 ที่ปรึกษาพี่แมวน้ำยืนอ้าปากค้างอยู่กับที่ตรงนั้น พี่...ระวังนะครับเดี๋ยวแมลงวันบินเข้าปากไปจะแย่เอา ส่วนผมได้แต่ยืนอายหน้าแดงอยากจะเอานิ้วขึ้นมากัดแล้วบิดไปบิดมาเหมือนนางเอกละครเวลาเขิน
แต่มันมันเขี้ยวเหลือเกิน ไม่ไหวแล้ว...ขอกัดพี่แนทสักทีเหอะ มือไวกว่าความคิด ผมคว้ามือพี่แนทขึ้นมาแล้วเอาปากขบนิ้วเล่น (นี่แค่โดนหอมแก้มนะ มันจะเขินแรงอะไรอย่างนี้ทำเป็นไม่เคย นี่ถ้าบทเข้าพระเข้านางจริงๆ พี่แนทสงสัยจะตัวน่วมโดนเจ้าอาร์มกัดอ่วมแน่)
“โอ๊ย....อาร์มกัดนิ้วพี่ทำไมเนี่ย” พี่แนทแกล้งอุทานเหมือนเจ็บมาก แต่ผมรู้.....พี่ไม่เจ็บหรอก ก็ผมแค่ทำเบาๆเองนี่ครับ
“ก็พี่แนทอ่ะ ทำอะไรไม่ดูสถานที่ ไม่อายคนอื่นเค้าบ้างรึไง” นี่ดีนะที่ไอ้ตี๋ แมนดี้ พี่แดน พี่ฟ้า อยู่ห่างออกไปพอควร ไม่งั้นอาจจะได้เห็นภาพคนโก่งคออาเจียนเพราะบทเขินของผมเป็นแน่
“นี่อาร์ม แล้วที่อาร์มทำอยู่นี่มันไม่ยิ่งแย่กว่าที่พี่ทำเหรอ ขบนิ้วพี่แบบนี้ รู้หรือเปล่าว่า.....มันเป็นการยั่วกันชัดๆ” พี่แนทพูดทอดเสียงตรงประโยคสุดท้ายพร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้
เฮ้ย....จริงเหรอ ผมกลายเป็นนางแมวยั่วสวาทไปแล้วเหรอเนี่ย พี่อำผมเล่นเปล่า ผมแค่แสดงอาการเขินนิดๆหน่อยเองอ่ะ
“พี่แนทคะ น้ำว่าเราไปทางอื่นกันดีกว่าค่ะ” หลังจากยืนดูบทกุ๊กกิ๊กระดับอนุบาลระหว่างผมกับพี่แนท สติสตังพี่แมวน้ำคงกลับคืนมาแล้ว
พี่แกรีบเดินเข้ามายื่นกล้องกระแทกคืนใส่มือ เอาตัวเข้ามาแทรกระหว่างผมกับพี่แนท แล้วลากตัวพี่แนทเดินลิ่วๆห่างออกไป แถมมีการหันหลังมาจิกตาพร้อมสะบัดหน้าใส่ผมหนึ่งดอก แต่ผมไม่สนใจหรอก ปล่อยพี่เค้าไป เค้าคงได้ใกล้ชิดพี่แนทแค่ช่วงทริปนี้นี่แหละ ผมมันสุภาพบุรุษไม่อยากรังแกผู้หญิง พี่แนทแสดงท่าทีกับผมชัดแจ้งซะขนาดนั้น ถ้าพี่น้ำไม่โง่เกินไปก็ต้องรู้แหละว่าอะไรเป็นอะไร ฮ่า....ฮ่า.... แต่ขอหัวเราะหน่อยเหอะ สะใจตูจริงโว้ยยย
ผมเดินไปรวมกลุ่มกับพวกพี่แดนอย่างอารมณ์ดี ไปถึงแมนดี้ก็สะกิดแขนผมแล้วลากออกมาจากกลุ่ม โดยมันหันไปบอกตี๋ว่าจะให้ผมถ่ายรูปให้ตรงหาดอีกด้าน ตี๋มันก็พยักหน้าไม่ว่าอะไร เดินห่างออกมาพอควร แมนดี้ก็ยิงคำถามทันที
“อาร์ม....ร้ายเหมือนกันนะเนี่ย เมื่อกี้เราเห็นนะ” มันยิ้มท่าทางเจ้าเล่ห์ใส่ผม นี่มันตาเรดาห์รึไง ถึงรู้เห็นเรื่องชาวบ้านไปซะทุกเรื่อง นอกจากจมูกดีแล้วตายังไวอีกนะไอ้แมนดี้
“เห็นอะไร เราทำอะไร” ผมไม่ยอมรับหรอก ใครจะรู้ เผื่อมันแค่อำเพื่อหลอกถามผมก็ได้
“ไม่ต้องทำไก๋ แมนดี้เห็นนะว่าพี่แนทหอมแก้มอาร์ม แถมยังส่งสายตาหวานหยดย้อยจนมดขึ้นซะขนาดนั้น” ผมไม่ตอบมันหรอก แต่แค่คิดเรื่องเมื่อกี้ก็หน้าแดงอีกแล้ว
“นี่พี่แนทเป็นแฟนอาร์มแล้วเหรอ ถึงหอมแก้มกันแบบนั้น” ผมยังไม่ยอมพูดอะไร ก็มันเขินจะให้ตอบว่ายังไงล่ะ คนมันไม่เคยมีแฟนมาก่อนนี่ครับ
“เงียบ ไม่ยอมตอบแบบนี้แสดงว่าจริง เอ...แล้วไปกันถึงขั้นไหนแล้วนะ น่ารักๆอย่างอาร์มนี่ สงสัยจะ X….Y….Z แล้วมั้ง”
เฮ้ย...มันจะบ้าหรือเปล่า
รู้จักกันแค่อาทิตย์เดียวเอง จะให้มา XYZ อะไรกัน ผมก็ต้องรักนวลสงวนตัวเหมือนกันนะ (อ๋อ.....เหรอ ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย เห็นหนูหื่นตลอดเวลา)
“บ้าแล้ว ยังไม่ XYZ โว้ย แค่ ABC เอง” ผมรีบตอบทันที ให้ตายเถอะ....พอเห็นหน้าแมนดี้แล้วอยากจะกัดลิ้นตัวเอง
“หึ...หึ...หึ ยอมรับแล้วล่ะสิ ไม่เห็นต้องอายเลย มีแฟนเป็นเรื่องธรรมชาติจะตาย เดี๋ยวเราเป็นที่ปรึกษาให้เอง” ธรรมชาติบ้านมันอ่ะสิ มีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกันเนี่ยนะ ถ้ามีแฟนผู้หญิงผมคงไมรู้สึกตะขิดตะขวงใจแบบนี้หรอก คิดแล้วก็ชักกลุ้มกับอนาคตตัวเองเหมือนกัน
“แมนดี้คิดอย่างงั้นจริงๆเหรอ มีแฟนเพศเดียวกันมันไม่ดูแปลกๆเหรอ” ถึงถามไปแต่ผมก็รู้ใจตัวเองว่ายังไงผมก็รักพี่แนท และจะไม่ยอมเปลี่ยนใจง่ายๆ
“อาร์ม ความรักมันไม่มีเพศหรอกนะ คนเราต่างหากที่ไปกำหนดเพศให้มันเอง.....” ประโยคนี้คุ้นๆเหมือนกันแฮะ เหมือนเคยได้ยินจากที่ไหน (จากไหนเอ่ยสาวกเล้าเป็ดทั้งหลาย ติ๊กต๊อก...ติ๊กต๊อก)
“ความรักเป็นสิ่งสวยงามนะอาร์ม ไม่ใช่จะเกิดขึ้นง่ายๆ เพราะบางคนตลอดชีวิตยังไม่รู้จักเลยว่าเจ้าความรักหน้าตาเป็นยังไง” แมนดี้เข้าโหมดจริงจังแล้วครับ เอาวะ....เปิดอกคุยกับมันเลยแล้วกัน
“แต่เราก็ไม่ค่อยแน่ใจนะแมนดี้ ถึงตอนนี้เราจะแน่ใจตัวเองก็เถอะว่าเรารักพี่แนท แต่เราก็อดกลัวไม่ได้ เราได้ยินแต่คนเค้าพูดกันว่าความรักระหว่างเพศเดียวกันมันไม่ค่อยยั่งยืน”
“มันไม่เกี่ยวกับเพศหรอกอาร์ม ความรักไม่ว่ากับเพศไหนมันก็ไม่ยั่งยืนทั้งนั้นแหละถ้าใจของคนสองคนมันไม่มั่นคง อาร์มไม่เห็นเหรอ สมัยนี้ผัวเมียแต่งกันหม้อข้าวไม่ทันดำก็หย่ากันออกโครมๆ ผู้ชายผู้หญิงบางคู่รักกันแต่ก็มีกิ๊กอีกเป็นโขยง....”
“มันอยู่ที่ว่า เมื่อเรามีรักแล้วก็ต้องรักให้เป็น ความรักมันก็เหมือนกุหลาบที่มีกลิ่นหอมสีแดงสดสวยงาม ทำให้สวนทั้งสวนสดชื่น แต่เราก็ต้องเรียนรู้วิธี ว่าทำยังไงถึงจะเด็ดมันมาไว้ในมือและถือโดยไม่ให้หนามมาทิ่มเรา”
โห....ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดดีๆเหล่านี้จะออกมาจากปากแมนดี้
“ว่าแต่....อาร์มกับพี่แนทแค่ ABC กันจริงๆเหรอ เห็นพี่แดนบอกว่า ก่อนตี๋มาอาร์มพักห้องเดียวกับพี่แนทไม่ใช่เหรอ” ย๊ากก....นี่มันวกกลับมาเรื่องนี้ได้ไง เมื่อกี้ยังดูเป็นงานเป็นการอยู่แท้ๆ แล้วนี่มันไปสอดรู้สอดเห็นซอกแซกถามพี่แดนทำไม
“ทำไม...พักห้องเดียวกันจำเป็นต้องมีอะไรกันเหรอ ความรักเรามันบริสุทธิ์โว้ย ไม่มีเรื่องเซ็กซ์มาเกี่ยวข้อง” ปากตอบไปแต่ในใจชักไม่แน่ใจ เพราะรู้สึกว่าตั้งแต่รู้จักพี่แนทมาเนี่ยตัวผมเองพัฒนาไปเยอะ แบบว่า...ชักจะหื่นมากขึ้นเรื่อยๆ
“จ้า....น่าเชื่อมากเลยว่าไม่มีเซ็กซ์มาเกี่ยวข้อง คนมันรักกันชอบกันอยู่ใกล้ๆกัน มันอดใจไม่ได้หรอก โถ่....เรานึกว่าจะเป็นที่ปรึกษาให้ซะหน่อยในฐานะเป็นรุ่นพี่ในวงการ เห็นอยู่อ่ะนะว่าอาร์มไม่เคยมีประสบการณ์ ครั้งแรกมันเจ็บนะอาร์ม ยิ่งถ้าไม่รู้วิธีนะยิ่งไปกันใหญ่
” ดูมันขู่ไปอมยิ้มไป เอาไงดี...จะถามมันดีเปล่าวะ อยากรู้ก็อยากรู้ อายก็อาย
“คือว่า....เรากับพี่แนทไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อนใช่มะ ก่อนหน้านี้พี่เค้าก็ควงแต่ผู้หญิง เราก็ไม่เคยมีแฟน แล้วเรื่องอย่างว่าต่างคนก็ไม่เคยมีประสบการณ์กับผู้ชายด้วยกัน มันต้องทำยังไงเหรอ”
“ของแบบนี้ไม่ยาก เดี๋ยวเราให้คลิปวีดีโอไปศึกษา ส่วนอุปกรณ์เสริมเราก็มีนะเดี่ยวคืนนี้เอาให้ดู” แมนดี้พูดหน้าตาระรื่น
“อีกคำถามนะ เราสงสัยว่าคู่เกย์เค้าตกลงยังไงเหรอว่าใครจะรุกใครจะรับ เค้าดูที่ใครตัวใหญ่ตัวเล็กเหรอ อย่างเรากับพี่แนทเนี่ย เราเป็นรุกได้รึเปล่า คือเราไม่อยากเจ็บอ่ะ”
ผมถามไปก็กระดากปากเหมือนกันครับ ก็คนไม่อยากเจ็บนี่ ของพี่แนทตั้งขนาดนั้น ใครมันจะอยากโดน แต่ไอ้แมนดี้ฟังแล้วหัวเราะก๊าก
“มันไม่อยู่ที่ว่าใครตัวใหญ่ตัวเล็กหรอก มันอยู่ที่ประสบการณ์และ....ลีลา” มันทอดเสียงทำตาเจ้าเล่ห์
“อย่างงี้หมายความว่า เราก็เป็นรุกได้ใช่มั้ย” หน้าตาผมเริ่มมีความหวัง ผมเงยหน้ามองไปยังเส้นขอบฟ้า ตั้งจิตมุ่งมั่น....สู้.สู้....ตูจะต้องเป็นรุกให้ได้โว้ยยยย
*************************************************