เรื่อง :: บอกแล้วใช่ไหม ก่อนจีบให้ดูดีๆ ::
เขียน ::
ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด ::
บทที่ 37 : มากเมีย มากความ
คุณแก้วโอบผมเข้าไปในห้องลองชุด เสียงรูดม่านปิด จากนั้นเธอก็หันมาทำท่าจะถอดเสื้อผมออก ผมรีบคว้ามือขาวๆไว้ “คะ คุณแก้ว”
“ลองเร็ว แก้วอยากเห็นคุณต๊อบใส่ชุดนี้”
ผมยืนชิดกำแพง ภายในห้องลองเป็นสีสลัวๆ พื้นหลังเป็นม่านสีแดงกลับทำให้ภาพในกระจกออกมาดูดีเกินจริง แต่ด้วยตาเปล่าของผมการที่เห็นว่าคุณแก้ว เอ่อ หล่อเกินไป นี่ก็อาจจะเป็นภาพลวงด้วยเหมือนกัน ใช่ มันต้องใช่แน่ๆ!
“เอ่อ คุณแก้วครับ”
“หื้ม” คุณแก้วโน้มลง “คุณต๊อบก้มหน้าทำไม”
เธอจับปลายคางผมบิดไปบิดมา น้ำเสียงทุ้มต่ำ กระซิบคุยกับผม ดวงตาผมกลิ้งไปซ้ายทีขวาทีอย่างวางจุดไม่ถูก ในที่สุดผมก็กลั้นใจพูดออกไปพร้อมกับกุมมือเธอเอาไว้แนบอก
“คะ คุณแก้ว ยังไงคุณแก้วก็น่ารักที่สุดในสายตาผม คุณแก้วไม่ต้องคิดมากนะครับ คุณแก้วอยากแต่งตัวสวยแค่ไหนยังไงก็ได้ แต่อย่าฝืนตัวเอง เดรสตัวแรกที่คุณแก้วลองยังไงก็น่ารักแล้วครับ”
ผมพูดรัวไม่หยุด ผมคิดว่าคุณแก้วจะต้องน้อยใจแน่ๆที่ใส่อะไรก็ยังไม่ถูกใจเธอ ถึงได้แย่งสูทผมไปลองแบบนี้!
รอยยิ้มองคุณแก้วเนิ่นนานมาก แต่ทันที่ที่ผมพูดจบ ทุกอย่างกลับเงียบลง ผมหอบหายใจเล็กน้อยก่อนจะยกมือกุมปอด แล้วเพิ่งมาได้สติทว่ากลัวว่าเธอจะไม่เชื่อ จึงแอบแง้มๆตา เงยหน้าขึ้นมองแล้วพูดย้ำเสียงอ่อย “จริงๆนะครับ”
พูดจบปุ๊บ คุณแก้วก็อมยิ้ม เธอยกมือวางไว้ใต้คางก่อนจะหยุดที่ช่วงริมฝีปาก เป็นเสียงหัวเราะเบาๆ จากนั้นจึงค่อยๆโน้มลงมาหอมแก้มผม ผมเผลอทำหน้าเหวอๆอย่างตลก
หวังเพียงคุณแก้วจะเชื่อ ว่าการที่เธออยู่ในชุดกระโปรงนั่นน่ารักแค่ไหน ผมรู้ว่าการกอดหอมแสดงความรักกันเป็นเรื่องที่ดีและน่ารัก แต่การที่คุณแก้วอยู่ในชุดนี้ ทำให้เธอดูเหมือนผู้ชายคนหนึ่ง อีกทั้งท่าทางและความรู้สึกกลับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จะว่าสิ้นเชิงก็อาจจะใช่ แค่ว่าทำไมคุณแก้วถึงได้หล่อขนาดนั้นวะ ทำไม!
ผมเคยพยายามเก๊กแบบนั้นแต่ไม่เห็นมันจะได้! ทว่านี่คุณแก้วกลับเหมือนไม่ได้ทำอะไรแทบเป็นไปโดยธรรมชาติทั้งนั้นแต่เธอกลับดูดีฉิบ!
จุดที่โดนริมฝีปากคุณแก้วร้อนวูบๆ ผมแทบไม่อยากจะหันไปมองทางไหนแล้วนอกจากพรมด้านล่าง
ผมบ่นกระปอดกระแปด เกาต้นคออย่างไม่รู้จะทำยังไง คุณแก้วเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งยื่นใบหน้าเข้ามาแล้วถาม “หื้ม?”
ทุกอย่างเป็นไปโดยที่ผมสมยอม เมื่อออกมาอีกครั้ง คุณแก้วเปลี่ยนกลับไปใส่ชุดเดิมแล้ว เธอยื่นชุดที่เราทั้งคู่ลองแล้วชอบให้พนักงานพร้อมบัตรเครดิต คุณแก้วกอดเอวผมจูงไปนั่งรอที่โซฟา โดยที่ผมได้แต่มองทุกๆอย่างยกเว้นใบหน้าของเธอ ปิดหูปิดจมูกที่แดงๆ
คุณแก้วเอียงคอ เธอลากปรายนิ้วจิ้มบนต้นคอผมแล้วจูบเบาๆก่อนจะระบายยิ้มพออกพอใจ
เดรสสี่ตัว กับชุดสูทอีกสอง
แล้วก็หูแดงๆของผมเป็นของแถม
ยังไงผมก็ยังขอยืนยันว่าประสบการณ์การช็อปปิ้งกับคุณแก้วนั้น…ระทึกขึ้นทุกที! ฮือ!
ผมกลับไปนอนบ้าน ไปๆกลับๆระหว่างบ้านตัวเองกับไปรับไปส่งคุณแก้ว แต่ว่าตั้งแต่วันที่ผมไปซื้อเสื้อผ้าเป็นเพื่อนเธอ คุณแก้วก็กลับมาเป็นคุณแก้วคนสวยของผมอีกครั้ง ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากนั้น
ผมก็ไม่รู้ว่าผมโล่งใจเรื่องอะไร
ผมเป่าลมออกจากปาก ตอนแรกพี่ติ๊กจะไปจัดที่โรงแรมแต่มันก็เปลี่ยนใจเพราะพี่นีอยากได้งานเล็กๆ วันนี้ที่บ้านตกแต่งเตรียมงานแทบจะเสร็จแล้ว พรุ่งนี้ถึงได้ฤกษ์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ระหว่างที่คุยไปคุยมา สุดท้ายคุณแก้วจึงได้มาเป็นคนแต่งหน้าเจ้าสาวให้พี่นีแฟนพี่ติ๊ก
งานจัดไม่ใหญ่ แค่คนในครอบครัว พี่ติ๊กเชิญแค่คนที่สนิทจริงๆเท่านั้น ไอ้ฟักมาได้พรุ่งนี้ แต่มันบอกว่าจะรีบมาหาแต่ช่วงเช้ามืด
ครั้งแรกที่พี่ติ๊กเห็นคุณแก้ว มันถึงกับตาโต ไม่คิดว่าผมจะหาแฟนได้ แถมสวยด้วย ผมอดไม่ได้ที่อมยิ้ม แก้มแทบแตกแทบพัง ท่าทางภูมิใจสุดๆ เฮาะ สะใจจริงๆ!
พี่ติ๊กเดินมาข้างๆผมตอนที่อยู่กันสองคน มันมองตาผมเหมือนจะถามแต่ก็เข้าใจแล้วตบไหล่ผมเบาๆ มันเป็นความเข้าใจที่ไม่ต้องพูดกัน ผมรู้ว่ามันยอมรับในการตัดสินใจของผม
ก็ชอบไปแล้วนี่…
ผมดูไม่เป็นเรื่องการแต่งหน้าแต่งตัวของสาวๆเขา แต่การรู้จักกับคุณแก้วมาผมจึงวางใจได้ เพราะไม่ว่ามุมไหนทั้งรสนิยมการแต่งตัว คุณแก้วถือว่ากินขาด ฉะนั้นผมจึงหวังแค่ว่าคุณแก้วจะไม่สวยเกินหน้าเกินตาเจ้าสาวจนเกินไปนัก ฮี่ๆ
วันนี้คุณแก้วนอนที่ห้องผมเพราะห้องรับแขกไม่พอ ในบ้านค่อนข้างวุ่นวายเพราะมีครอบครัวมาทั้งสองฝ่าย
หลังจากกินข้าวเย็นกันเสร็จ โดยที่คุณแม่ผมดูภูมิใจในตัวลูกสะใภ้ทั้งสองคนมาก อืม ถึงคุณแก้วจะยังไม่ใช่แต่ก็ถือว่าเป็นว่าที่ละกัน…โดยปกติที่บ้านผมเป็นคนใจดี ทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี คุณแก้วก็เข้ากับผู้ใหญ่ได้จนผมไม่ต้องห่วงอะไร
ผมเข้ามาในห้อง เห็นคุณแก้วอาบน้ำเสร็จแล้ว เธอกำลังเช็ดผมเบาๆอยู่หน้ากระจก ชุดนอนคุณแก้วเป็นชุดโปร่งๆยาวดูหลวมๆ
“คุณแก้วตื่นเต้นมั้ยครับ”
“แก้วไม่ใช่เจ้าสาวสักหน่อย”
คุณแก้วหันกลับมา ผมแกล้งลงไปนั่งข้างๆเธอแล้วโอบคุณแก้วหลวมๆ “แล้วอยากเป็นเจ้าสาวมั้ยครับ”
แม้ว่าก่อนหน้านี้ผมแทบจะไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือที่ไปเล่าเรียนกับไอ้ฟักมาเมื่อครั้งนั้น ทว่าผมก็ไม่ได้ถอดใจ!
“ก็คงต้องรอเจ้าบ่าวมาขอก่อน” คุณแก้วหัวเราะ เธอดึงผมไปจูบ เราจูบกัน สัมผัสบางเบาแต่ซึมลึกอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นผมก็ถูกจับให้นอนลงโดยที่คุณแก้วเกยอยู่บนตัวผม
“ผมว่างนะ”
“ว่างจริงเหรอ”
คุณแก้วถาม เธอยิ้มละมุน ปลายนิ้วชี้กับนี้กลางไต่บนตัวผมสับไปสับมา
ผมชอบกลิ่นคุณแก้วหลังอาบน้ำมากๆ มันอดไม่ได้ที่จะคิดในทางไม่ดีไม่ร้ายกับเธอ เขาจะจับไต่มึงได้นะต๊อบ ใจเย็นไอ้หนุ่ม เดี๋ยวไม่หล่อ!
“ว่าง แต่แฟนผมดุมาก”
“อ้อ”
“แฟนผมสวยมาก”
“แล้ว?”
“แล้วผมก็คงต้องไปเป็นเจ้าบ่าวให้เขา คุณแก้วอาจจะต้องรอนะครับ”
ผมแกล้งพูดเสียงหนักใจ คุณแก้วยิ้มอย่างหมั่นไส้ เธอตะครุบผมแล้วย่ำยีแก้มผมจนน่าสงสาร
“แปลว่าคุณต๊อบจะนอกใจแฟนคุณต๊อบเหรอ?” คุณแก้วลากปลายนิ้วลงช้าๆตรงลำคอผม
“อ่า” ผมรีบเป็นฝ่ายกอดคุณแก้วแล้วหอมแก้มเธอคืน “เป็นเพราะคุณแก้วสวยมาก ผมอดใจไม่ได้จริงๆ”
แม้ว่าจะเป็นการหยอกล้อเล่นกัน แต่ผมรู้สึกได้ว่าคุณแก้วนั้นค่อนข้างจะถือสาเรื่องนี้พอตัว ฉะนั้นผมจะไม่ยอมให้ตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่คุณแก้วไม่ชอบ แม้จะเป็นแค่เรื่องล้อเล่นก็ตาม!
“พรุ่งนี้คุณแก้วต้องตื่นไปแต่งหน้าให้พี่นีกี่โมงครับ” ผมถาม รีบเปลี่ยนเรื่องไปทันที
“ประมาณตีสี่ค่ะ” คุณแก้วบอกผม แต่เธอยังอยู่บนตัวผม ในขณะที่ปอยผมค่อยๆหล่นลง คุณแก้วก็วางคางไว้ใกล้ๆจนผมรู้สึกว่าการพูดคุยของเราเป็นแค่เรื่องเรื่อยเปื่อย แต่จุดประสงค์ในเวลานี้กลับเป็นการใกล้ชิดกัน “แก้วต้องเผื่อเวลาให้ตัวเองแต่งหน้าด้วย”
ผมพยักหน้า ก่อนจะพูดกลบเกลื่อนความขัดเขินที่จู่ๆก็เข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย คุณแก้วเล่นวางคาง จ้องตากันซะชิดใกล้แบบนี้ คุณแก้วไม่เขิน แต่ผมเขิน! “แปลว่าคุณแก้วจะใส่เดรสตัวนั้นใช่มั้ยครับ”
“อือ” คุณแก้วตอบ เธอเริ่มกระซิบถามผม “คุณต๊อบคิดว่าแก้วจะใส่ตัวไหนล่ะ?”
ผมไม่อยากจะตอบว่าชุดสูทที่เราไปลองวันนั้นไง แต่ผมกลัวว่าคุณแก้วจะทำจริงๆ จึงรีบพูดอย่างเอาใจ “คุณแก้วจะต้องสวยมากแน่ๆเลย สวยจนผมหวง”
เธอหัวเราะ แววตาส่อแววเอ็นดู “แก้วก็หวงคุณต๊อบ”
คุณแก้วจูบเบาๆบนริมฝีปากผม ก่อนจะเลื่อนมาจูบปลายคาง เธอใช้นิ้วลากผ่านตอหนวดผม ในขณะที่เนื้อตัวเราสัมผัสกัน เสียดสีไปมาผ่านเสื้อผ้า “เสียดาย พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”
ผมลอบกลืนน้ำลาย จากนั้นหัวเราะแฮะๆ รีบพลิกกายเป็นฝ่ายอยู่ด้านบนก่อนจะจุ๊บหน้าผากคุณแก้วแล้วกอดเธอแน่นๆพร้อมปรับน้ำเสียงให้ห่วงใยที่สุด ตบเตียงปุๆแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมา “งั้นนอนกันดีกว่า เดี๋ยวคุณแก้วตื่นไม่ไหว”
ผมได้ยินเสียงหัวเราะน้อยๆ กับแววตาขบขันของเธอ คุณแก้วจึงกอดผมคืนแล้วหลับตาลงช้าๆอยู่ในอ้อมแขนผมอย่างเต็มใจ
คงรอไปก่อน รอให้ความรู้ตกผลึกอีกนิดหน่อย รับรองว่าวิชาความรู้ที่สั่งสมมาของผมจะต้องไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน!
พอเช้าวันใหม่ คุณแก้วตื่นก่อนผม ผมสะลึมสะลือตอนที่เห็นคุณแก้วกำลังลูบแก้มผมอยู่ จากนั้นริมฝีปากนุ่มๆก็แตะลงมาพร้อมน้ำเสียงที่เอ่ยนุ่มๆทุ้มๆ แต่ผมไม่มีสติจะสังเกตทัน “ตื่นได้แล้วเด็กดื้อ”
ผมหาว คุณแก้วจึงหอมแก้มผมอีกข้าง “ไม่ตื่นเหรอ หื้อ”
“แก้วต้องไปแต่งหน้าให้พี่นีก่อน คุณต๊อบนอนอีกหน่อยก็ได้ แล้วรีบไปอาบน้ำนะ”
ไม่นาน เมื่อรู้ว่าเป็นห้องตัวเอง และยังไม่ได้นอนคนเดียว ผมจึงค่อยๆได้สติก่อนจะรีบสะดุ้งตัว ลุกขึ้นมาแล้วขยี้ตา เห็นคุณแก้วอาบน้ำเสร็จแล้ว ยังอยู่ในชุดลำลองสบายๆ ผมรีบจัดการตัวเอง “อาบแล้วครับ อาบแล้ว”
“ไม่นอนแล้วเหรอ”
“เดี๋ยวคุณแก้วดุ”
“แก้วไม่ได้ดุสักหน่อย”
“อยากดูคุณแก้วแต่งตัวครับ”
“จะช่วยแก้วแต่ง?”
ผมยังเบลอๆ โดยเฉพาะช่วงที่ยังตื่นใหม่ๆ สุดท้ายคุณแก้วก็หัวเราะ เธอลูบหัวผมสองสามครั้ง คุณแก้วเกล้าผมขึ้น ก่อนจะแตะปากที่ฝ่ามือแล้วใช้มือข้างนั้นมาแตะที่ปากผม
“เดี๋ยวแก้วไปหาพี่นีที่ห้อง แต่งเสร็จแล้วเดี๋ยวแก้วกลับมา โอเคมั้ย ผู้ชายห้ามเข้าล่ะ ผู้หญิงเขาจะแต่งตัวแต่งหน้ากัน เข้าใจมั้ยเอ่ย”
หน้าตาบื้อๆของผมอาจทำให้คุณแก้วไม่ชอบใจอยู่บ้าง เธอจึงได้โน้มลงมาแล้วจับผมกดลงบนเตียง จากนั้นไม่เพียงแค่ริมฝีปาก แต่กลับกลายเป็นลิ้นนุ่มๆที่สอดเข้ามา
ผมหูอื้อตาลาย ได้ยินเสียงอู้อี้ของตัวเองที่พยายามหายใจ จนคุณแก้วละใบหน้าออกช้าๆก่อนจะเลียริมฝีปากแล้วยิ้ม “เด็กดื้อ นอนต่อได้”
น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนไป เป็นเสียงจริงๆของคุณแก้ว อีกทั้งยังทุ้มอ่อนโยนจนผมนึกว่าหูฝาด ได้ยินเสียงปิดประตู ผมนอนตัวเปลี้ยอยู่บนเตียง สุดท้ายก็ต้องลุกไปอาบน้ำไล่ความร้อนๆที่สุมคอจนถึงช่วงล่างออกให้หมด
ถึงขนาดนั้นแล้วใครมันจะหลับลง!
ผมอาบน้ำเสร็จจากนั้นก็แต่งตัวแล้วลงไปที่ครัว แม้ความจริงผมจะไม่สามารถช่วยใดๆในด้านนั้นได้ ผมจึงขึ้นไปหาพี่ติ๊กช่วยมันแต่งตัวแทน
“เออ ถึงจะหล่อน้อยไปกว่าผมหน่อย แต่ก็โอเคนะ”
ชุดที่มันแต่งเป็นชุดเจ้าบ่าวไทยๆ ไอ้พี่ติ๊กลากเสียงยาว ผมกับมันนั่งคุยกัน บางทีก็นึกถึงความหลังสมัยเด็กๆ ไม่ทันไรมันก็แต่งงานแล้ว เวลามันผ่านไปเร็วจริงๆ
“แต่งแล้วมีหลานเลยมั้ย”
“เดี๋ยวจัดให้” ไอ้พี่ติ๊กหัวเราะ วันนี้มันยิ้มหน้าบานมาก
“แปลว่าหลานต้องเรียกผมว่าไรวะ ลุงหรืออา โห แปบเดียวเอง แก่ฉิบหาย”
“เออ แล้วมึงล่ะ”
“ก็แบบนี้แหละ”
“มึงดูจริงจังนะต๊อบ กับคนนี้” ไอ้พี่ติ๊กตบไหล่ผม จากนั้นจู่ๆผมก็รู้สึกว่ามีบรรยากาศที่มันชวนซึ้งเกินไปจนน่าอาย แบบว่าระหว่างผมกับไอ้พี่ติ๊กจะต้องกัดกันมากกว่าจะมาชวนร้องไห้ “พี่ว่าเธอก็น่ารักดีนะ”
ผมกับพี่ติ๊กมองหน้ากัน มันยิ้มนิดๆ ยิ้มแบบเข้าใจกัน จากนั้นโทรศัพท์ผมก็ดัง เป็นไอ้ฟักที่โทรเข้ามา
“ไอ้ฟักคงจะมาแล้ว เดี๋ยวผมลงต้องไปดูมันหน่อย”
ผมพูด จากนั้นก็กอดพี่ติ๊กมัน พอลงไปด้านล่างก็เจอไอ้ฟักกำลังเดินเข้ามาพอดี มันบอกว่าไปไหว้แม่กับพ่อผมมา
“มึงแต่งตัวหล่อจังวะ เกรงใจเจ้าบ่าวทางกูด้วย”
“นี่ธรรมดาที่สุดของกูแล้วนะ”
ผมจำได้ว่าไอ้ฟักค่อนข้างชอบพี่ติ๊กมาก อาจจะเป็นพี่ติ๊กใจดี กวนๆ แถมยังเรียนเก่ง เป็นรุ่นพี่ตัวป๊อบในสมัยนั้น มันคงเห็นเป็นเหมือนพี่ชายอีกคน
“แล้วนี่มึงแต่งตัวอะไรของมึง”
ไอ้ฟักปรายตามองผม ผมเลิกคิ้วงงๆ “อ้อ กูลืมเซ็ตผม”
“ไปๆ เดี๋ยวกูทำให้” พอเดินขึ้นไปบนบ้าน ไอ้ฟักก็ถาม “พีนีอยู่ไหนวะ”
“แต่งตัวอยู่ในห้อง”
“อ๋อ เหรอ” เมื่อเข้าไปในห้องผม ไอ้ฟักมันรู้แทบทุกซอกทุกมุมอยู่แล้ว มันก็จับผมนั่งลง จากนั้นหยิบเจลขึ้นมา ตบๆแปะๆตามใจมันไป ผมไม่ได้ขัดขืนสักอย่าง รำคาญ เดี๋ยวมันบ่น “สูทนี่ซื้อที่ไหน ดูดีนะมึง พี่ติ๊กเลือกให้เหรอ”
“คุณแก้วซื้อให้ กูหล่อล่ะสิ”
“ถุย”
“ไอ้ฟัก อย่ามาถุยใส่หัวกู” ผมแกล้งชกมัน จากนั้นก็จี้เข้าที่เอว ไอ้ฟักจึงกัดฟัน กลั้นขำ ก่อนจะด่าผมใหญ่
“เดี๋ยวสูทกูยับ ไอ้ต๊อบ!” ชุดสูทมึงกับกางเกงแบรนด์ดี คิดเหรอว่าสวมแล้วมึงจะหล่อกว่ากู
ไอ้พี่ติ๊กเข้ามาในห้อง ไอ้ฟักจึงเปลี่ยนท่าทีไปในทันใด มันทำเสมือนว่าผมกำลังรังแกมัน “ต๊อบ ทำไรเพื่อนเนี่ย”
ผมปล่อยมัน ไอ้ฟักลุกขึ้นแล้วทักทายพี่ติ๊ก น้ำเสียงท่าทางเปลี่ยนไปทันที “วันนี้พี่ติ๊กดูดีมากเลยครับ”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ผมรู้สึกอยากจะอ้วกจริงๆ
หลังจากพูดคุยกันเสร็จ พี่ติ๊กจึงลงไปดูงานด้านล่าง ส่วนไอ้ฟักก็ยังยุ่งอยู่กับหนวดและเสื้อผ้าหน้าผมของผมไม่เลิก
“โว้ย พอแล้ว ลงล่างเหอะ” ผมปัดมือมันออก ไอ้ฟักหยิบขวดน้ำหอมออกมาแล้วฉีดใส่ผม
“เออ ค่อยหอมหน่อย”
“กูไม่ใช่เจ้าบ่าวนะมึง ไม่ต้องหล่อมาก” ไอ้ฟักมองผม มองนานจนผมรู้สึกสงสัย “หื้อ มีไรมึง”
ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออก พร้อมกับคุณแก้วที่เข้ามา ทีแรกคุณแก้วเหมือนมีเรื่องจะพูด แต่เธอชะงักไปเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียวในห้อง จู่ๆบรรยากาศก็เงียบลงไปอย่างประหลาด ก่อนที่ผมจะเอ่ยขึ้นมา “คุณแก้ว”
ไอ้ฟักค่อยๆเก็บมือที่วางอยู่บนปกเสื้อผมออก จากนั้นมันก็ยกขึ้นมาจัดคอเสื้อให้ผมใหม่แล้วตบเบาๆ ผมรีบลุกขึ้นไปหาคุณแก้ว “เอ่อ นี่พัช เพื่อนผมนะครับ เอ่อ ไอ้พี่พัช นี่คุณแก้ว”
ไอ้ฟักหันไปยิ้ม ท่าทีเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่ “สวัสดีครับ”
คุณแก้วยิ้มรับ ผมถามเธออย่างเอาใจ “คุณแก้วจะแต่งตัวแล้วใช่มั้ยครับ เดี๋ยวผมออกไปรอข้างนอกนะ หรือจะให้ผมอยู่ด้วย”
“คุณต๊อบอยู่ช่วยแก้วรูดซิบข้างหลังได้มั้ย” คุณแก้วพูดคล้ายจะลำบากใจ แต่ก็อ้อนผมอยู่เล็กๆ
“อ่า เอ่อ ได้สิครับ เดี๋ยว พัชๆ มึงลงไปหาพี่ติ๊กก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูตามไป”
ไอ้ฟักยิ้ม มันเดินมาตบไหล่ผมแล้วเบาๆก่อนยิ้มให้คุณแก้วอีกครั้ง แต่ไม่ได้พูดมากความอย่างตอนที่อยู่กับผมสองคน
คุณแก้วหยิกแก้มผม จากนั้นก็หอมแก้มผมเบาๆ “น่ารักมาก”
เอ ผมไม่ได้รู้สึกไปเองใช่ไหม ว่าไอ้ฟักมันดูแปลกๆ
TBC
[26/07/2560]