เรื่อง :: บอกแล้วใช่ไหม ก่อนจีบให้ดูดีๆ ::
เขียน ::
ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด ::
บทที่ 20 : เป็นผู้ชายอย่าโลเล
“อึ๊บ”
ผมกำลังยกดัมเบลหนักสิบกิโลอย่างเอาจริงเอาจัง ข้างละยี่สิบ ทีแรกวอร์มแค่ห้ากิโลก่อน ต่อมาเริ่มคึกเพราะคิดถึงหน้าคุณแก้ว ความพยายามที่จะหุ่นเฟิร์มกว่าเดิมจึงยิ่งเพิ่มพูน
“พู่ว”
“…”
“ฮึด ฮึก… แฮ่ก…” รู้สึกเหมือนมีสายตาลอบมอง พอเงยหน้าขึ้นผมถึงเห็นไอ้ฟักกำลังเหล่อยู่ “อะไร?”
“เล่นใหญ่มาก” มันสไลด์นิ้วปื้ดๆกับจอโทรศัพท์ก่อนจะปรายตามองผมอีกรอบ “เวอร์วังอลังการ กูนึกว่ามึงยกกระสอบข้าวสารหนักเป็นตันอยู่”
ออกแรงมันก็ต้องมีส่งเสียงร้องบ้างดิ แปลกตรงไหนวะ
ผมอยู่ฟิตเนสกับไอ้ฟัก ความจริงผมชอบออกกำลังกายที่บ้านมากกว่า มันดูเป็นส่วนตัวดี แต่มาอย่างนี้ก็ไม่เลวเพราะจะได้สังคมหลากหลายไปอีกแบบ แต่ไอ้ฟักมันชอบมามาก ผมว่ามันจะมาดูเด็กกับเทรนเนอร์มากกว่าจะออกกำลังกาย
เหงื่อค่อยๆออก แต่ด้วยความที่แอร์เย็นเจี๊ยบ ถ้าอยู่ในห้องพัดลม ป่านนี้ไม่เหลือพื้นที่แห้งแล้วแน่นอน ผมค่อยๆผ่อนลมหายใจ เวลาออกแรงเสียงจะฮึดตามเพื่อเรียกขวัญกำลังใจ รู้สึกกระปรี่ประเปล่ามากช่วงนี้
อาจเป็นเพราะกำลังสมหวังในรัก
ผมก้มหน้าต่ำเพื่อกลั้นขำ เสียงหัวเราะจึงออกจมูกบวกกับแก้มที่บวมใกล้จะแตก
เสียงผมหอบนิดหน่อย ขณะยกก็ยังพอคุยเล่นกับไอ้ฟักได้ เพราะผมค่อยๆยกเป็นสเต็ปช้าๆ ไม่บ้าพลังมากมาย
เสื้อบางแนบเนื้อสีเทา ยิ่งถ้าเหงื่อออกมาก มันจะยิ่งติดไปกับผิว ไอ้ฟักหลังจากถ่ายรูปตัวเองกับกระจกพร้อมถอดเสื้อโชว์นมแล้ว มันก็แอบเหล่ผมเป็นพักๆด้วยสายตาเหย่อยิ่งที่มันทำประจำ
อีกอย่างตอนเข้ามา จะมีบล็อกหนึ่งซึ่งเป็นห้องที่เล่นยิมนาสติกกับเต้นอะไรไม่รู้ ช่วงแวบหนึ่งที่เราเดินผ่าน สายตาของสาวๆหลายคนจะตกมาที่ไอ้ฟักอยู่ตลอด ซึ่งมันก็ดูภูมิอกภูมิใจมาก ผมมารู้ตอนที่มันหัวเราะในลำคอแล้วทำหน้าทำตาแปลกๆเนี่ยแหละ
ไอ้ฟักมันลุกขึ้นมาอยู่ที่ด้านหลังผม แตะไหล่แตะคอ พูดห่าอะไรของแม่งไม่รู้ไปเรื่อยเปื่อย ผมก็ฟังด้วยความที่เป็นเพื่อนที่ดี มันลูบไหล่ผมแรงๆอีกรอบแล้วยกไปปาดจมูกก่อนจะเต๊ะท่าจริงจังและบ่นเรื่องที่ผมออกกำลังกายไม่ถูกต้องในบางจุด
“กูยกอยู่มั้ย เชี้ย จั๊กจี้ มึงจะไปถ่ายรูปก็ไปเลยไป”
จริงๆเล่นอย่างนี้อันตราย แต่มันก็เล่นแบบเบาๆ ไม่แรงอะไรเลยผมแค่พูดไปงั้นกันมันแกล้งเฉยๆ
“กระจอก”
“อะไรนะ ว่าไงนะ” ผมถามอย่างแกล้งหาเรื่อง
อยากจะให้ได้ยินเสียงมันตอนพูดออกมาจริงๆ โคตรน่าถีบ “กระจอกมาก”
มันส่งสายตาดูหมิ่นในพลังกล้ามของผมอย่างรุนแรง แหมๆๆๆ
“อย่าให้ผมต้องเปิดโชว์นะครับคุณ”
“มึงยกไงก็ไม่ขึ้นหรอก แดกก็ไม่ดูแคลไม่ดูเชี้ยไรเลย เปล่าประโยชน์”
“ปากแข็ง ปากอย่าแข็งได้มั้ย จะชมเพื่อนก็ชมมา”
ผมยิ้มแหย่ เตรียมรับคำชมจากมันเต็มที่ มันคงพยายามไม่หลุดหัวเราะเลยตีหน้าบึ้งเข้าไว้แล้วกลบเกลื่อนด้วยการบีบนมผมสองที แม่งเป็นอะไรกับนมกูนักหนาวะ
อีกอย่างการหลังยอกคราวนั้นทำให้ผมรู้เลยว่าตัวเองยังโคตรอ่อนหัดนัก
หากยังปล่อยให้ร่างกายท้วมสมบูรณ์เกินไป เผื่อมีโอกาสจะได้รวบได้อุ้มคุณแก้วอีกครั้งแล้วเสือกทำพลาด หน้าแตกขายขี้หน้าเขาหมด ไม่เอา ไม่ดี ผมก็อยากเท่อยากคูลต่อหน้าแฟนบ้างอะ
ความอ่อนโยนของคุณแก้ว เหมือนเพลงที่ว่ามีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็กร่างกาย ถึงผมจะแก่กว่าไม่กี่ปี แต่แก่กว่าก็คือแก่ แล้วยิ่งผมไม่ค่อยจะได้บำรุงอะไรอย่างไอ้ฟักมัน หน้าตาจะไปก่อนวัยแน่ๆ คุณแก้วถึงเธอจะทำงานแล้วแต่แค่หน้าก็สะสวยจนนางฟ้ายังเทียบไม่ติด ไม่แปลกหรอกถ้าผมควรจะผลักตัวเองขึ้นมาบ้าง
ก็อยากให้แฟนชื่นใจไหม
ระหว่างที่ไอ้ฟักกระแดะเก๊ก ทำเป็นเดินดูเวทพอมีคนอื่นๆเดินผ่านมา ส่วนในหัวผมก็มีแต่เรื่องของคุณแก้ว
“ฟัก มึงแต่งหน้าหรือเปล่าวะ”
คล้ายกับว่าเรื่องที่ผมถามเป็นตราบาปเป็นเรื่องเลวทรามอย่างมาก เพราะทันทีที่พูดออกไป ไอ้ฟักถลึงตาใส่ผมอย่างเอาเป็นเอาตาย คิ้วนี่หงิกเชียว ก่อนจะกลอกตามองซ้ายมองขวาราวกับกลัวว่าใครจะได้ยิน โชคดีที่บล็อกนี้มีแค่ผมกับมัน และคนอื่นก็อยู่ไกลๆถัดไปอีก
“แต่งห่าไร เห็นปังๆอย่างนี้ก็หน้าจริงมั้ยล่ะ”
“กูสงสัยไง ผู้หญิงเวลาล้างเครื่องสำอางทีนึงมันต่างมากเลยเหรอวะ”
ไอ้ฟักปรายตา
“มึงแทบจะอยากให้เมียมึงนอนแต่งหน้าเลยแหละ”
“มันไม่ลำบากไปหน่อยเหรอ” ผมขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกยิ่งเห็นใจคุณแก้วยิ่งขึ้นไปอีก “นั่งแต่งหน้าก็ยากแล้วมั้ยวะ”
ไอ้ฟักสะบัดหน้า มันถอนหายใจเฮือกอย่างรำคาญ “เหนื่อยสัด”
“เหนื่อยไร กูเห็นมึงเอาแต่นั่งถ่ายรูปกับกระจก”
“เหนื่อยมึง”
“เอ้า” ผมหัวเราะก๊าก ก่อนจะวางดัมเบลลงแล้วยกเสื้อขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่จมูกด้วยความเคยชิน “มุกไงมุก”
“กูจะเลิกคบกับมึงก็เพราะแบบนี้แหละ”
“โธ่ ป่านนี้แล้วมึงจะไปก็ไปเถอะ”
“อ๋อ เมียก็มีแล้วด้วยนี่ใช่มั้ย” มันพูดประชด หน้าตาจิกกัด เป็นไก่เหรอมึง
“ถูกต้องนะครับ” ผมพยักหน้า ชี้นิ้วใส่มัน “เมียสวยด้วยครับผม”
มันกลอกตาอีกรอบ แล้วยกมือสะบัดแก้มไปหนึ่งที
“เออ แล้วมึงคบกับแฟนนานแค่ไหนถึงได้กันวะ”
พูดแล้วมันก็ชักจั๊กจี้ ผมพาลนึกไปถึงตอนที่อยู่กับคุณแก้วสองต่อสอง ขณะที่เรากำลังจูบกันอยู่หรือไม่ก็กระหนุงกระหนิง
“แฟนไหนวะ หมายถึงยังไง อ่อ ก็คืนนึง เจอกันก็ได้เลย ถ้ารวมๆแล้วดีก็คบ ทำไมวะ”
“ไอ้ห่า ไม่ใช่อย่างนั้นเว้ย”
จริงๆผมถามไปอย่างนั้น ไม่ได้คิดว่าจะได้คำตอบที่ดูมีประโยชน์อะไรหรอก กูไม่น่าไปรู้จักมึงเลยฟัก ไม่น่าทำอย่างนั้น เพราะอะไรกันนะชีวิตต๊อบแต๊บมันจะรันทดให้ได้ตลอดเลยใช่ไหม
“มึงกำลังกังวลเรื่องคุณแก้ว? ปิดไฟก็มองไม่เห็นแล้ว มึงคิดมากทำไมวะ สมยอมทั้งสองฝ่ายก็จบ คุณแก้วมึงก็ไม่ได้ต่างอะไรจากผู้หญิงอยู่แล้วนี่”
มันพูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“หรือไม่ใช่?”
“ใช่ดิ ทำไมจะไม่ใช่ คุณแก้วเขาสวยจะตาย” ผมพยักหน้าหลายที
“คนสวยก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นผู้หญิงนะมึง” ไอ้ฟักพูดเรียบๆก่อนจะปรายตามองขึ้นมา “ดูอย่างกู”
“ถุย เป็นเอามากนะมึง ไอ้ห่า” คนก็อุตส่าห์ตั้งใจฟังว่ามันจะพูดอะไร
“อะ แล้วกูไม่สวยตรงไหน”
“ซีเรียส นี่เรื่องซีเรียส” ผมเน้นย้ำ ให้มันกลับเข้าประเด็นอันมีสาระ “เออ วันก่อนนู้นกูเจอเพียวด้วย”
“อีชะนีนั่นน่ะเหรอ”
ไอ้ฟักไม่เคยชอบผู้หญิงที่ผมจีบสักคน แม่งไม่เคยชอบเลยนะเอาจริงๆตั้งแต่สมัยไหนมาแล้ว โดยเฉพาะคนนี้ที่ทำเอาผมเฮิร์ทอยู่หลายเดือน
“เป็นเด็กฝึกงานคุณแก้ว” มาถึงตอนนี้ผมก็เริ่มขมวดคิ้ว “กูงงมาก คุณแก้วดูออกได้ไงไม่รู้”
“ดูออกเรื่อง”
“ว่านั่นแฟนเก่ากู”
“มึงโง่ไงต๊อบ”
“สัด”
“จริงต๊อบ มึงโง่” ไอ้ฟักเดินมานั่งยกดัมเบลต่อจากผมแบบไม่จริงจัง มันนั่งข้างๆ “ไม่งั้นมึงจะเอาอีพวกนั้นเป็นเมียทำไม”
“ก็กูชอบไง ตอนนั้นกูชอบกูก็จีบ โอเคมะ”
“มึงก็ไม่เลือกเลยไงต๊อบ” มันพูด “ไหน เล่า”
“เล่าไร”
“เล่ามาต๊อบ”
“ก็กูไปส่งคุณแก้วที่ทำงาน แล้วก็เจอเพียวไง แต่ก็ไม่ได้คุยไรกัน ทักกันเฉยๆ แต่กูแอบช็อกเหมือนกัน แล้วพอเข้าไปอีกห้องคุณแก้วก็ถามกูตรงๆเลย กูโคตรตกใจ”
ไอ้ฟักหัวเราะในลำคอ ดูเจ้าพ่อมาก
ผมรู้ว่าไอ้ฟักไม่ชอบเพียว มันเคยบอกว่ามีรัศมีของความปลอมมาแต่ไกล มันพร่ำบ่นให้ผมฟังทุกครั้ง โดยเฉพาะทางสายตา จากนั้นก็จะไม่พูดอีก แต่ผมก็รู้ว่าในใจมันคิดอยู่ตลอด กระทั่งแจ็กพ็อตตามคาด ผมถูกทิ้งและสวมเขาสมพรปากมัน
“ระวังเถอะมึง” ไอ้ฟักเตือนบางอย่างที่ดูเป็นเรื่องใหญ่แต่ก็เป็นปริศนามาก
“ระวังไร”
“ก็เปล่า”
“เนี่ยะ แม่งชอบเล่นตัวอย่างนี้เนี่ยะ”
“คุณแก้วของมึงระแวงแล้ว ระวังอีน้องเพียวแฟนเก่ามึงจะตกงานเอา ไม่ก็มึงนั่นแหละ ระวังตัว มีปัญหาขึ้นมากูไม่รู้ด้วยนะ”
มันเหมือนจะหวังดี แต่ก็ดูสนุกมากกว่าจะเป็นห่วงผม ไอ้การบอกให้ระวังดูสะใจยังไงชอบกล
“บ้า” ผมขมวดคิ้วมุ่น “คุณแก้วเขาโตแล้ว เป็นผู้ใหญ่ กูกับคุณแก้วคุยกันแล้ว เราเข้าใจกันครับคุณฟัก”
“อีดอก”
ไอ้ฟักแทบจะตบหน้าผม ผมแค่แกล้งพูดชื่อเล่นจริงๆของมันอย่างเน้นย้ำ ไอ้ฟักไม่ชอบให้เรียกตอนอยู่ข้างนอกเท่าไร ไอ้ห่านี่ ไม่ภูมิใจในชื่อที่พ่อแม่ตั้ง กระแดะเรียกพัชอย่างนั้นคุณพัชอย่างนี้ กระดากปากฉิบหาย ก๊ากกกก
“โอเค กูจะไม่คุยประเด็นนี้อีกแล้ว เด็ดขาด อย่างเด็ดขาด เพราะในใจกูตอนนี้มีแต่คุณแก้ว” น้ำเสียงผมมีแต่ความรักและความจริงใจล้วนๆ ผมยกมือทาบอก หน้าตามีออร่าพระเอก “มึงก็เคยเห็นคุณแก้วแล้วนี่ ใช่เปล่าวะ”
“เคยเห็นรูป”
“ตอนไหน”
ผมไม่ยักจำได้ว่าให้มันดู
“ตอนมึงเมา”
“ฮะ เมื่อไร ร้ายนะมึง ไม่ใช่มึงดูแล้วชอบ มาแย่งของกูนะ”
ไอ้ฟักเบ้ปาก หน้าตงหน้าตาไปหมด ดูสารรูปเข้าสิ “รอให้กูมีมดลูกก่อนเถอะ”
ผมหัวเราะ เพราะรู้ว่ายังไงไอ้ฟักมันก็ไม่ได้ชอบผู้หญิง แกล้งให้มันพะอืดพะอมเล่นสนุกดี ท่าทางจริตจกร้านนี่ออกหมดจนเก็บกลับไม่ทัน แต่ผมก็เคยเห็นมันไปกับผู้หญิงไง สมัยเรียนก็เดือนงี้
จะว่าไปไอ้ฟักยังไม่เคยเจอคุณแก้วเลยนี่หว่า วันไหนถ้ามีจังหวะ ช่วงงานเทศกาลต่างๆไม่ก็ถ้ามีงานที่บ้านผม ช่วงเวลาเหมาะๆอาจจะได้เจอเข้าสักวันแหละ
“เออ งั้นคุยเรื่องมึงดีกว่า กับเมียเก่าถึงไหนละ อุ โอ๊ย ตบไมเนี่ย?!”
ไอ้ห่า เห็นไหม พอทีเรื่องตัวเองเสือกเก็บเงียบทำเป็นไม่พอใจ แล้วทำไมทีผมทุกคนถึงได้คาดคั้นกันหมด แถมรู้ดีอีกต่างหาก!
ไอ้ฟักกลับไปนั่งประจำที่แล้วเริ่มยกเวทเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก้าวเข้ามาในฟิตเนสแห่งนี้ ผมพยายามจะไม่ด่ามันว่าอวัยวะเพศ ผมจิบน้ำ ตอนนี้นั่งพักอยู่แล้วเดี๋ยวค่อยออกกำลังต่อ โทรศัพท์ก็ดัง
คุณแก้ว : อยู่ไหนเอ่ย
พูดถึงเมีย เมียก็มา
ฮ่า ฮ่า
ต๊อบ : ยังอยู่ที่ฟิตเนสอยู่เลยครับ
คุณแก้ว : อยากไปหาจัง คิดถึงอะ
ผมกดถ่ายรูปแลบลิ้นทำหน้าตาตลกๆไปให้คุณแก้วดูหนึ่งแชะ พร้อมข้อความ ‘พอละ เดี๋ยวหล่อไป แฟนขี้หึง’
ทว่าระหว่างที่รูปกำลังส่งอยู่ จู่ๆก็มีข้อความเด้งมา ผมไม่ได้ตั้งใจจะกดไปอ่าน
เพียว : พี่ต๊อบ
เพียว : เพียวคุยด้วยได้หรือเปล่า
จากที่ผมยิ้มๆอยู่ก็เลยค่อยๆหายไปทันที และอีกขณะหนึ่งก็คือรูปที่ผมส่งให้คุณแก้วก็ส่งเสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
คุณแก้ว : เวลาแก้วหึง ต้องปล้ำนะคะ ถึงจะหาย
ในสถานการณ์ปุบปับเช่นนี้ ผมไม่ค่อยคุ้นชินนักโดยเฉพาะการทำบางอย่างที่ดูเหมือนจะส่งผลต่อต่อมจิตสำนึก ผมเกาหัวงงๆ นิ้วค้างอยู่กับหน้าจอ โดยไม่รู้จะเริ่มอย่างไหนก่อนดี โดยเฉพาะความเผ็ดเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดของคุณแก้วที่นับวันมันยิ่งจะมากขึ้น
ในใจผมตอนนี้มีอยู่สองคำถาม
หนึ่ง ทำไมเพียวทักมา
สอง
ผมควรทำให้คุณแก้วหึงดีไหมวะ
TBC
[17/08/2559]
ทุกคำพูดของคุณแก้วครอบคลุมไปถึงอนาคตเลย พอเรื่องเฉลยมา คุณแก้วไม่ได้หลอกต๊อบ บอกหมดแล้ว เพียงแต่นังต๊อบก็คือนังต๊อบ 5555555555555

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ข่ะ ห้ามทิ้งนะข่ะ ขุมกำลังใจมีอยู่เท่านี้ หายไปคนนึงเศร้าตรัย
