เรื่อง :: บอกแล้วใช่ไหม ก่อนจีบให้ดูดีๆ ::
เขียน ::
ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด ::
บทที่ 16 : ฝนตก ฟ้าร้อง กระท่อมร้าง คู่พระนางเปียกปอน
ผมยิ้มค้างเหมือนคนโง่ ดูซื่อบื้อ ฟังไม่เข้าใจว่าคุณแก้วเพิ่งถามอะไรไป ก่อนหน้าจะค่อยๆร้อนลามถึงคอ เหมือนเพิ่งถูกสาดด้วยน้ำร้อนสิบถัง
เสียงเตาอบดังกริ๊งแล้ว แต่ไม่ยักมีใครจะลุกไปเอาเค้กออกมา คุณแก้วคลึงลำคอผมช้าๆ เธอดูสบายๆไม่ได้ติดใจในคำถาม เสียงทีวีดังเรื่อยๆ แต่มันเริ่มไม่เข้าหู
“ฝนตกแปบเดียวเองครับ”
ทันทีที่ผมพูด ฝนก็พรูลงมาอย่างบ้าคลั่ง กิ่งไม้หักลงจากต้นหนึ่งที่อยู่หน้าบ้าน
ผมกระพริบตาปริบๆ
เธอหันมาทางผมโดยที่นิ้วยังไม่หยุดนวดที่ลำคอ ถึงผมจะมั่นใจว่าตัวเองโกนหนวดมาดีแล้วแต่ก็ยังรู้สึกสากๆคันๆ เหมือนหนวดมันจะระคายกับนิ้วคุณแก้ว ยิ่งนิ้วเธอนุ่มๆผมยิ่งอยากจะเอาคางถูหลายๆที
“วันนี้ฝนตกหนักนะ แก้วฟังข่าวมา เห็นว่าพายุเข้าด้วย งั้นรอจนกว่าฝนจะหยุดตกก็ได้เนอะ”
“ถ้าค้าง ผมไม่มีเสื้อเปลี่ยนนะครับ ให้ผมใส่เสื้อคุณแก้วเหรอ” ผมพูดเสียงอ่อยๆ เสียงปัญญาอ่อนแบบที่คนมีแฟนเขาทำกัน
ฮั่นหน่อ มีอวด
“ทำไมจะใส่ไม่ได้ เดี๋ยวแก้วหาให้ไงคะ” คุณแก้วยิ้ม พริบตาเดียวบรรยากาศเมื่อสักครู่ก็เปลี่ยนไปเป็นอีกบรรยากาศหนึ่ง ซึ่งผมบอกไม่ถูกว่ามันต่างกันยังไง
คุณแก้วตบแก้มผมเบาๆ “เค้กเสร็จพอดี เดี๋ยวแก้วไปดูก่อนนะ”
ผมค่อยๆลุกขึ้นจากตักคุณแก้ว แอบมีเสียดายเล็กน้อยแต่เราจะไม่ไปโฟกัสตรงจุดนั้นมากนะครับ อยากให้มองที่ผลงานจะดีกว่า
ลับหลังเธอ ผมสะบัดหัวสองสามที ขยี้หน้าขยี้ตา โอ๊ย มึน เมื่อกี้เพลินๆเกือบลืมแล้วตัวเองอยู่ที่ไหน
ผมเดินตามคุณแก้วไป กลิ่นหอมลอยหอมฟุ้ง เธอใส่ถุงมือสีชมพูหวานๆ ลายกระต่าย ดูเข้ากันที่สุด
เมื่อกี้คุณแก้วชวนผมค้างใช่ไหม
แบบ หูไม่ได้ฝาดไปเอง
ต๊อบ
ภายนอกผมพยายามสงบนิ่ง แต่ในใจใครจะรู้ว่ากำลังกรี๊ดอยู่ ในสถานการณ์แบบนี้ผมควรตอบไปยังไงดีวะ แม้ว่าผมอยากจะอยู่สองต่อสองกับเธอมากๆ แต่ว่ามันจะดูเป็นการฉวยโอกาสเกินไปไหม อีกอย่าง เอ่อ ก็แค่ค้างหรือเปล่าวะต๊อบ!
คุณแก้วเขาถามด้วยใจบริสุทธิ์ เป็นห่วง ไม่อยากให้ผมฝ่าฟันอันตรายอะไรแบบนั้น มีแต่มึงที่คิดบ้าๆบอๆ
“อ๊ะ”
ผมเหม่อๆมองคนสวย สลับกับใจที่คิดฟุ้งซ่าน พอเห็นคุณแก้วต้องการความช่วยเหลือจึงรีบเข้าไปทันที สติสตังกลับมาอยู่กับตัว “คุณแก้วระวังครับ”
“ระวังนะคะ ร้อนด้วย”
“พระเอกมาแล้วครับ”
“พระเอกอะไร ปล่อยให้แก้วยกคนเดียวตั้งนาน”
“ให้เกียรติคนสวยก่อน” ข้ออ้างหน้าไม่อายมาก หุบปากยังดูดีซะกว่า
คุณแก้วขานรับคะขาใหญ่ กึ่งหมั่นไส้กึ่งชอบ เธอบิดแก้มผมเบาๆเป็นการขอบคุณ ไอ้ผมก็เลยยิ่งชื่นใจ
หลังจากพักแป้งไว้ ฝนยังคงตกเรื่อยๆอย่างไม่มีวี่แววว่าจะหยุด ผมคิดต่อว่า การที่เธอเป็นห่วงผมขนาดนี้แล้ว หากผมปฏิเสธก็เหมือนเป็นการทำร้ายน้ำใจเธอ ในวันหน้าคุณแก้วอาจจะไม่กล่าวถึงอีกเลย ซึ่งไม่ดีแน่นอน แต่ว่ามันก็…ให้ตาย ก็ผมเขิน เกิดมาเพิ่งเคยมีสาวสวยชวนค้างบ้าน
“แก้วให้คุณต๊อบแต่งหน้าเค้กก่อนเลย”
“จะดีเหรอครับ คุณแก้วไว้ใจผมเหรอ” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ เพราะตั้งแต่เกิดมาศิลปะด้านการทำอาหารของผมไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมหมายถึงมันคงเละเทะ จากเค้กดีๆจะกินไม่ได้เอา
ผมชอบบรรยากาศรอบตัวคุณแก้วอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะผมมักคลุกอยู่กับผู้ชายและลุงๆป้าๆซะส่วนใหญ่ ทำงานร้อนๆ ใช้แรงงานมาตลอด ถึงไอ้ฟักจะสะอาดสะองแต่มันก็ยังต่างออกไป ไอ้ฟักไม่ได้หวาน มันออกแนวโล่งๆเรียบๆแพงๆอย่างไม่มีเหตุผล เหมือนจะไม่มีอะไรแต่หยิบนิดหน่อยกลายเป็นว่าผมหมดตัว มีตังค์ซะเปล่า เสือกให้กูจ่ายให้ ไอ้สันดาน
แต่คุณแก้วไม่ใช่ เธอดูเป็นผู้หญิ๊งหญิงจนผมใจเต้นตึกตักตลอด เธอคือกุลสตรี ดีพร้อมทั้งรูปกายและจิตใจ เหมือนหมีกับกระต่ายน้อย แน่นอนว่าผมเป็นหมี และผมก็พยายามจะปรับตัวเข้าหากระต่ายตัวน้อยของผมตรงหน้านี้
“คุณต๊อบ?” คุณแก้วหัวเราะ เธอยิ้มแล้วมองผม ในมือกำลังถือที่บีบครีม “อะไรคะ ยิ้มอะไร”
ผมรีบหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วเกาหัว “มีความสุขเฉยๆครับ”
คุณแก้วหลุบตา ใบหน้าติดยิ้ม กลบไม่มิด ก่อนจะทัดผมช้าๆ หลังมือเกลี่ยแก้ม “แต่งหน้าเค้กยังไงดี ช่วยแก้วคิดหน่อยเร็ว”
ผมเลยเสนอให้คุณแก้ววาดรูปแทน “ช่วยกันวาดรูปคนละตัวมั้ยครับ”
คุณแก้วเลิกคิ้ว ดูอือออและเห็นด้วย ผมไปยืนข้างๆเธอแล้วก้มลงมองเค้กราวกับกำลังพิจารณาว่าจะวาดอย่างไร เราสุ่มหัวกัน ชิดใกล้ และก็หอม ผมหมายถึงเค้กหอม กลิ่นขนมมันหอม ไม่ใช่กลิ่นกายและผมคุณแก้วเลย ไม่สิ อันนั้นยิ่งหอม
ผมตีครีมให้คุณแก้ว เราช่วยกันปาดครีมทั่วๆก้อนเค้ก ผมแอบมองคุณแก้วแล้วหลุดหัวเราะ เพราะหน้าเธอมีครีมติดอยู่ “คุณแก้วอยู่นิ่งๆนะครับ”
ผมแกล้งว่าจะเช็ดให้แต่ความจริงแล้วผมป้ายครีมเพิ่มที่แก้มขาวๆนั่นต่างหาก ฮี่ๆ
“ออกหรือยังคะ”
“อีกนิดนึงครับ”
คุณแก้วยื่นแก้มให้ผม ไปๆมาๆพอเธอเหมือนจะรู้ว่าผมแกล้ง คุณแก้วก็หยิกแก้มผมทันที “แกล้งกันเหรอ นี่”
“คุณแก้วป้ายเยอะนะเนี่ย ผมป้ายนิดเดียวเอง” แก้มผมเต็มไปด้วยครีมไม่ต่างจากตอนไปเล่นฟองสบู่ช่วงสงกรานต์
“นิดเดียวอะไร ถ้าแก้วเป็นสิวนะ”
ถึงจะมีมุมสบายๆ แต่คุณแก้วกลับรักความสวยงามมากซึ่งมาพร้อมกับความยุ่งยากทั้งหลายที่ผมไม่เคยเข้าใจ ปัญหาของสาวๆ คุณแก้วชอบเครื่องสำอาง อันนี้ผมรู้ๆ แล้วก็เธอคลั่งไคล้ลิปสติกมาก อันนี้ผมก็รู้อีก ถึงสีมันจะเหมือนๆกันหมดก็ตาม แต่ผมจะไม่พูดออกไปเด็ดขาด
“ใจร้าย ไม่รักแล้ว”
ผู้ชายตัวอย่างควาย หน้าตาโหดเหี้ยม พูดคำนี้มันน่ารักจะตายไป
“ไม่ต้องมางอแง”
ผมร้องทั้งหัวเราะ พยายามจับมือเธอไว้ จนตัวผมติดกับเคาเตอร์ทำอาหารลายหินอ่อน สักพักเราก็ค่อยๆหยุดหัวเราะแล้วเปลี่ยนมามองหน้ากันแทน คุณแก้วสบตาผม แววตาเธอไหวเป็นคลื่น เหมือนทะเล
คุณแก้วจูบริมฝีปากผมเบาๆ ก่อนจะหอมแก้มผมช้าๆ ลิ้นเลียเอาครีมเค้กขาวๆที่ติดตรงปลายคางก่อนจะหันมาจูบอีกครั้ง ผมรู้สึกวาบหวาม ปั่นป่วน และเธอก็ละเมียดเอาครีมที่ติดตามใบหน้าผมไปเสียหมดราวกับกำลังพบของที่อร่อยที่สุดก็ไม่ปาน
“หวาน” เธอพึมพำเสียงเบา ก่อนจะมองตาผม ในท่าทีแฝงความเขินอายเอาไว้
“ครีมใช่มั้ยครับ” ผมถามเสียงเบาหวิว ไม่รู้ว่าเสียงตัวเองเบาขนาดนั้นเมื่อไร
“ก็มีส่วน” คุณแก้วจูบตามแนวคาง ตอนเธอปล่อยริมฝีปาก ได้ยินเสียงเบาๆ “แต่เป็นส่วนน้อย”
ผมจูบคุณแก้วตอบ เหมือนค่อยๆเรียนรู้ซึ่งกันและกัน คุณแก้วคล้องคอผม ก่อนจะเอียงใบหน้าเข้าหา ผมพิงไปด้านหลังโดยที่อีกมือโอบเอวเธอ
ยิ่งด้านนอกฝนตกหนัก แต่ด้านในได้ยินเสียงเบาๆราวกับอยู่ในระยะไกลเพียงแค่กระจกกั้น คุณแก้วขยับเข้ามา แทรกเข้าหาและค่อยๆผลักผมขึ้นนั่งด้านบน เธอกวาดทุกอย่างที่เราทำไว้ไปข้างๆ ก่อนจะวางมือไว้ระหว่างผมที่อยู่ตรงกลาง
ผมขมวดคิ้วและรู้สึกถึงความไม่ถูกต้องบางอย่าง แต่ยังไม่ทันได้คิดมากเธอก็จูบผมอีก
ถึงผมจะเมามาก เมาครีมที่ตีจากนมจนเป็นฟอง เมาคนสวยและจูบของเธอ แต่ว่าผมว่าคุณแก้วควรจะมานั่งอยู่ฝั่งนี้และเป็นผมมากที่วางมือคร่อมเธอไว้อะไรแบบนั้น
ผมเธอหลุด ไรผมไม่เป็นระเบียบ อีกทั้งยังกลิ่นหอมหวานในโพรงปาก ผมรู้สึกเหมือนถูกอัดให้จมกับความรู้สึกนี้และไม่อยากกลับขึ้นไปสักวินาที
“อือ” คุณแก้วครางต่ำ และเสียงของเธอทำให้ผมตกใจจนเกือบหงายหลัง แต่เธอลืมตาและคว้าไว้ทันพอดี “อ๊ะ”
ผมหน้าซีด ตัวสั่น พูดไม่ถูก ลิ้นพันกันชั่วขณะ อาการเดียวกันสมัยแอบชอบน้องปีหนึ่งแล้วเผลอเจอตัวเป็นๆในวันงาน “ผม เอ่อ บนนี้มันจะดีเหรอครับ เอ่อ แหะ แหะๆ”
คุณแก้วกระพริบตาสองสามครั้ง หลุบลงและช้อนขึ้นใหม่ เธอทำหน้าเศร้า “บนนี้ไม่ได้เหรอคะ”
แขนเธอยังไม่ยอมเอาออก วางเหมาะโดยที่ผมพยายามทำตัวลีบๆ ทั้งๆที่ไม่จำเป็นแต่ผมกลับรู้สึกเหมือนถูกบังคับให้ตัวเล็กลงอย่างไม่สมเหตุสมผล!
“มันก็ เอ่อ”
“น่านะ”
ทุกศีลธรรมที่ผมมีมากำลังรบรากันอยู่ในหัว ผมกัดฟัน คิดในใจ คุณแก้วเป็นสาวเป็นนางนะครับ แบบนี้มันไม่ได้ มันไม่ใช่ ไม่
“แต่ว่าเค้ก เรา เรายังไม่ได้แต่งหน้าเค้กเลยนะครับ”
“ช่างหัวมันสิคะ”
“ฮะ” ผมตกใจ ถึงกับต้องกระพริบตาแล้วมองเธออีกรอบ
“แก้วหมายถึง…ไว้เราค่อยช่วยกันทำต่อก็ได้นี่นา”
เธอว่าพลางก้มลงจูบผมอีกครั้ง ผมเป็นแค่แขก นี่บ้านคุณแก้ว แต่มันก็ยังไงๆอยู่ดี อีกอย่างผมก็ยังคิดถึงสิ่งที่ตัวเองลั่นว่าจาซะดิบดีไว้คราวก่อนนู่นว่าอยากให้เกียรติเธอ โคตรหล่อโคตรแมนเลยแหละ
เปรี้ยง!
จู่ๆฟ้าก็ผ่า ท้องฟ้ามืดครึ้มมีแสงแวบขึ้นมาเป็นแนว ได้ยินเสียงเปรี้ยงปร้าง คุณแก้วร้องก่อนจะกระเถิบเข้ามา ผมกอดเธอตามสัญชาตญาณ คุณแก้วตัวสั่นมาก อีกทั้งยังหลับตาปี๋ซุกอยู่กับอกผมแน่น
ผมปลอบเธออย่างเป็นห่วง กำชับอ้อมกอดแล้วมองคนในอ้อมแขน “คุณแก้วกลัวฟ้าร้องเหรอครับ”
เต็มไม้เต็มมือ
คุณแก้วตัวแน่นจริงๆ
ทีแรกเธอเบียดกายเข้ามาเล็กน้อยแต่พอเริ่มตั้งสติได้จึงค่อยๆละออกมา แต่ผมไม่ได้รีบผลักไสเพียงแค่เป็นฝ่ายให้เธอละจากมาเอง
“เมื่อกี้ฟ้าลงใช่มั้ยคะ” เธอดูเขินอาย เก้อเล็กน้อย ก่อนจะพูดคลอหัวเราะ
“น่าจะใกล้ๆบ้านเลยครับ”
“จริงหรือเปล่า” แววตาเธอดูหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด กระต่ายน้อยรีบเข้ามาใกล้โดยไม่รู้ตัว
ผมลงจากเคาเตอร์หินอ่อนราคาไม่น่าเบาของคุณแก้วแล้วค่อยๆโอบเอวเธอเข้ามาก่อนพูดปลอบ “โอ๋ กลัวเหรอคะ”
เธอหน้างอ ดูไม่ชอบใจอย่างเห็นได้ชัดแต่อีกนัยก็แปลว่าอยากให้ผมง้อเธอปลอบเธอ ฮอร์โมนเพศผู้หลั่งทะลัก
“แก้วไม่ชอบฝน กลัวฟ้าผ่า ผมเปียกด้วยนะคะ เวลาขับรถก็อันตราย”
ริมฝีปากเธอจิ้มลิ้ม เวลาทำหน้าบึ้งตึงก็ยังดูน่ารักไม่หยอก จากฝ่ายถูกเขาจูบอย่างเดียวผมเลยได้ที ประคองเธอไว้ในอ้อมกอดแน่นๆ แล้หอมแก้มเธอข้างละที คุณแก้ววางมือบนไหล่ผมเธอเหมือนจะเอนพิงผมไว้นิดๆ แม้จะหนัก และรู้สึกโอบไม่หมด แต่ผมก็ยังใจเต้นตึกตามประสาใจขี้อาย เป็นจังหวะที่ทั้งทุ้มและได้ยินชัดอยู่ในหัวตัวเอง บ่งบอกว่ามีความสุขมากมาย นี่สินะความรัก
“ไว้รอฝนหยุดตกก่อนได้มั้ย”
คุณแก้วสบตา น้ำเสียงอ่อนๆแต่ก็รู้ว่ากำลังขอร้อง คืนนี้ผมคงไปไหนไม่รอด
“ครับผมครับ”
ผมยิ้มแฉ่ง ดวงตามองไม่เห็นอะไรแล้วตอนนี้ มือนุ่มๆเลื่อนแตะที่อก กลิ่นหอมกับคนสวย ใครจะไปใจร้ายได้ลงคอ ยิ่งตอนที่เธอมองผมอย่างอ้อนวอนแถมยังมีน้ำตาคลออีก
ผมล่ะแปลกใจพวกที่บอกว่าเบื่อเมีย เซ็งเมีย
เพราะพวกนั้นไม่ได้เจอคุณแก้วอย่างผมไง ฮ่า ฮ่า!
TBC
[28/06/2559]