#HappyAprilfool'sday
{สุขสันต์วันเมษาหน้าโง่}
โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน... รักแรกพบ… วลีเด็ดจากหลายยุคหลายสมัยที่ผู้คนมักหยิบยกขึ้นพูดถึงกันมากที่สุด
สำหรับเขาเมื่อวันวาน คำๆนี้ดูเชื่อยาก ไร้สาระ อะไรต่อมิอะไรที่เขาจะต้องยกเหตุผลมาคัดค้านมัน
แต่ไม่ใช่ตัวเองในปัจจุบันนี้ ณ เวลานี้ เวลาที่กระจกตาปรากฏภาพชายคนหนึ่งตรงหน้า
วลีเด็ดอย่าง ‘รักแรกพบ’ คงไม่ไกลเกินไปหากจะนำมาใช้อธิบายความรู้สึกของเขาตอนนี้
“สวัสดีครับ ผมสงกรานต์ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับ”
เขาเจอมันในฤดูร้อนเดือนมีนาคมที่ร้านเหล้า มันถูกพี่ข้าวฉกตัวมาจากโต๊ะข้างๆ พี่รหัสเขาลากตัวมันมาที่โต๊ะเรา แล้วบังคับให้สงกรานต์นั่งดื่มด้วยกัน
“สงกรานต์ คุณกิน เอ่อ โอ๊ย กูกระดากปากฉิบ”
“กูกิน”
สงกรานต์เป็นคนกวนตีน…มันยักคิ้วหลิ่วตาให้เพื่อนเขาคราหนึ่ง เป็นอันรู้กัน ในวงเหล้า ความสนิทมันดูข้ามขั้นเร็วเหลือเชื่อจริงๆ
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ นานแค่ไหนที่เขาคอยแต่จ้องมองคนตรงหน้า
จนมันหันมาประสานสายตากับเขานั่นแหละ
เบือนหน้าหนีก็ไม่ทันแล้วด้วยสิ
“รับประทานมั้ยครับ คุณเมษา” มันพูดกับเขา
“พูดกับกูให้เหมือนคนอื่นก็ได้” เขาพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น
“ก็ผมไม่ได้สนิทอะไรกับคุณขนาดนั้นซะหน่อย”
เขาบอกแล้ว…ว่ามัน กวนตีน
“เหี้ย”
“ไม่สุภาพเลยครับ คุณเมษา”
ยียวนกวนประสาท เขาสะบัดหน้าหันหนีมันเฉยเลย
ได้ยินเสียงคนลุกขึ้น สงกรานต์นั่นเอง มันจะกลับไปโต๊ะเดิมของมันแล้ว?
“ขยับหน่อยครับ คุณเมษา”
เปล่า…มันลุกมานั่งเบียดเสียดข้างเขาเนี่ย จนไอ้คิมเพื่อนอีกคนต้องลุกหนีให้เลย
“นั่งที่เดิมก็ดีอยู่แล้ว”
“ตรงนี้มุมดีน่ะครับ คุณเมษา”
รำคาญ…คุณเมษาอยู่ได้
ใจเขาเต้นแรงไปหมดแล้วนะ ตอนมันพูดชื่อเขาทุกครั้ง
“คุณเมษา หน้าแดงนะครับ”
“มืดขนาดนี้ยังเห็น…อุ๊บ” เขายกมือปิดปากแทบไม่ทัน
เสียรู้คนขี้แกล้งจนได้ มันหัวเราะชอบใจ
“เอ เป็นไข้ หรือว่า…เขินผม รึเปล่าครับ” มันยื่นหน้ามาใกล้
“เหี้ย”
“ติดจะใช้คำนี้บ่อยไปนะครับ คุณเมษา”
“…”
ไม่มีอะไรจะพูด เขาก็เงียบ อีกฝ่ายเงียบ จนเราดำดิ่งไปกับห้วงคำนึง
“อู้ววววว ว่าแล้ว ตรงนี้วิวดี”
เสียงสงกรานต์นำสติเขากลับมา หันไปมองตามสายตามัน หึ ว่าแล้ว มานั่งดูสาวๆโต๊ะข้างๆนั่นเอง
ไอ้เหี้ย…สงกรานต์
ปล่อยเขาคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ได้
ว่ามัน…อยากมานั่งข้างเขาน่ะ
นั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้เจอกัน
แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
หลังจากนั้นเขาพบสงกรานต์อีกหลายครั้ง
แต่ก็ไม่มีโอกาสได้คุยกันจริงๆจังๆ ส่วนมากก็แค่ทักทาย จะหวังอะไรกับแค่คนรู้จักกัน
แต่มันมีเหตุการณ์หนึ่ง ที่ทำให้เขากับมัน…ใกล้ชิดกันมากขึ้น
ในวันฝนพรำ นักศึกษาต่างเร่งรีบกลับหอ อยู่รอไปก็มีแต่จะติดฝนจนดึกดื่น เพราะสังเกตจากสีของท้องฟ้าที่มืดครึ้มอุ้มน้ำฝนไว้อีกมากมายแล้ว เห็นท่าจะไม่ดี เขาเองก็กุลีกุจอกางร่มฝ่าสายฝนกลับหอเช่นกัน
สายฝนเริ่มโปรยลงมาหนักขึ้นทุกที
แอบคิดว่าถ้ามีคนตากฝนกลับหอ ไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนคงได้ไข้กินแน่ๆ
แต่ใครจะคิดล่ะ ว่ามีคนแบบนั้นอยู่จริงๆ
ไอ้สงกรานต์
“เจ้าหมาน้อย แกเป็นอะไรน่ะ”
เขาเดินเข้าไปใกล้อีกนิด ก็พบว่ามันกำลังใช้เสื้อนักศึกษาของมันบังสายฝนให้เจ้าหมาตัวหนึ่ง มืออีกข้างก็แตะๆมันเบาๆ เขาสังเกตเห็นอีกว่าขาข้างหนึ่งของหมาตัวนี้ได้รับบาดเจ็บ
“สงกรานต์”
“คุณเมษา”
“เถิบหน่อย เดี๋ยวดูให้”
เขาก็บ้านะ…ก้มลงดูหมากับไอ้สงกรานต์กลางสายฝนที่เทกระหน่ำ
“เอาไปหอกู”
“ครับ”
มันรับคำอย่างว่าง่าย สงสัยจะเป็นห่วงหมามากจริงๆ
สงกรานต์อุ้มหมาน้อยตามเขามา
“เรียบร้อยแล้ว”
“ขอบคุณนะ คุณเมษา”
“ตัดคุณออกได้แล้วมั้ง” เผื่อฟลุค
“ไม่ครับ คุณเมษา” มันลอยหน้าลอยตาพูด
ความกวนตีนก็คือความกวนตีนวันยังค่ำ
“แล้วจะกลับเลยเหรอ ไม่รอฝนซาล่ะ”
“ผมก็รอคุณเมษาจะกรุณา ยื่นผ้าเช็ดตัว หรือผ้าขี้ริ้วก็ได้ ให้ผมเช็ดหัวสักผืน จะเป็นพระคุณมาก”
เออ เขาลืมไปเลย
“อ่ะ ใช้ของกูไปก่อน มีผืนเดียวจริงๆ ไม่รังเกียจนะ” แอบลุ้น
“อืม หอมดี ใช้น้ำยาสระผมยี่ห้อไรอ่ะ”
“ไม่บอก”
“งั้นขอพิสูจน์หน่อยนะครับ”
มันลุกขึ้น กดหัวเขาลงนิดๆ แล้วฝังจมูกลงบนกระหม่อมเขา
“เฮ้ย” เขาตกใจไม่น้อย
“อืม ไว้จะลองซื้อมาใช้นะครับ”
เขินอยู่ เงียบ
“ฮัดเช้ย”
นั่นไง หวัดถามหาแล้ว ไอ้คุณสงกรานต์
เขาเอื้อมมือไปอังแถวหน้าผากมัน
“เหมือนจะมีไข้”
“ผมไม่เป็นไร” มันพูดเสียงแผ่ว
“กินยานี่ซะ แล้วนอนพักผ่อน”
“ผมเป็นคนหลับยากน่ะ”
“…”
“คุณเมษาช่วยฟังผมเล่าเรื่องก่อนได้มั้ย”
หือ ปกติจะต้อง คุณช่วยเล่านิทานให้ผมฟังหน่อยได้มั้ย รึเปล่า
“ผมชอบเล่าเรื่องก่อนนอน”
“…”
“แล้วจะหลับไปเอง”
แบบนี้ก็มีด้วย
“ผมรักหมามาก ผมเคยมีหมาอยู่ตัวหนึ่ง แต่มันถูกรถชนตาย วันนั้นผมวิ่งออกไปหามัน มันนอนหายใจแผ่วอยู่กลางถนน เพราะผมยังเด็ก ผมเลยไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ผมนั่งลูบหัวมันแล้วร้องไห้ ก็ไม่รู้ป่ะวะต้องโทรเรียกใคร อะไร”
มีพาลตัวเองด้วย
“วันนี้ผมเลยกลัวมาก ผมกลัวว่าเจ้าตัวน้อยจะตาย ผมได้รู้ว่าถึงต่อให้โตแค่ไหน ผมก็ยังไม่รู้ว่าต้องทำยังไงอยู่ดี ผมรู้สึกขอบคุณคุณเมษาจากใจจริงเลยนะเว้ย นี่ใสๆไม่ตอแหล คุณมึงเป็นคนดีมากอ่ะ”
เป็นความตั้งใจและปณิธานของนักศึกษาคณะสัตวแพทย์ของเขาอยู่แล้ว
“ทำไมรู้สึกง่วง”
ไม่ได้วางยาอะไรมันนะ
“ผมหลับแล้วนะ ถ้าฝนหยุดตก คุณเมษาช่วยปลุกหน่อยนะ”
“อืม”
หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอกับสงกรานต์อีกนับอาทิตย์ได้
เจ้าตัวเอาหมาตัวนั้นไป บอกว่าจะเลี้ยงมันเอง พร้อมๆกับโพสต์ลงเฟสตัวเองตามหาเจ้าของที่แท้จริง เขากดไลค์สเตตัสมันไป
ภาพเจ้าหมาน้อยคลอเคลียอยู่ที่ไหล่ของสงกรานต์
ไม่รู้ทำไม…อิจฉาหมาว่ะ
‘หมาใครคะนั่น พี่สงกรานต์’
‘ไม่รู้ครับ’
นอกจากเจ้าของเฟสจะเป็นคนกวนตีนแล้ว ข้อดีอย่างเดียวคือไม่หยิ่ง ตอบทุกเม้น
‘หมาน่ารัก คนก็หล่อ’
‘ชอบคนก็บอก’
‘อร๊ายยยยยยยย >///<’
‘น้องครับ…น้องเป็นไข้รึเปล่าครับ’
นอกจากจะกวนตีน ไม่หยิ่งแล้ว ยังขี้อ่อยไปทั่ว
‘อยากเป็นหมา’
‘เป็นหมาแล้วได้อะไร คนข้างกายพี่ยังว่าง’
‘กรี๊ด จีบเลย’
‘มามะ’
ขี้อ่อย ขี้อ่อย ขี้อ่อย
‘บุญคุณมั้ย’
เขาตัดสินใจพิมพ์ส่งไป
‘อะไรเรียกว่าบุญคุณ’
ตั้งใจจะเงียบหายไปละ แต่เจ้าของเฟสยังตามตอแยไม่เลิก
เม้นตอบคอมเมนต์ของเขาใต้โพสต์มันรัวๆ
‘เงียบทำไม’
‘ไม่ตอบว่ะ ป๊อด’
‘คุณเมษา คุณเมษาคร้าบบบบบบบบ’
‘ตอบดิ ขี้เกียจพิมพ์แล้วนะ’
‘เฮ้ย เร็วตอบ จารย์มาแล้ว’
‘ตอบกูที’
ตึ๊ง
‘ใช้คำว่า ‘กู’ กับเราได้แล้วเหรอ’ โอ๊ย เขาก็กระแดะใช้คำว่า ‘เรา’ นะ 555
‘ก็อยากให้ใช้มั้ยล่ะ’
‘อืม’
‘ค่อยว่ากันครับ คุณเมษา’
กวนตีนไม่เลิกจริงๆ
‘เงียบอีกแล้ว อะไรคือเงียบ มือเป็นง่อย’
‘หายไปสิบวิ นี่ถือว่าเงียบ’
‘เงียบว่ะ’ คราวนี้เป็นเขาที่แกล้งมันกลับบ้าง
เฮ้ย มันหายไปจริงๆคราวนี้
สิบวินาทีผ่านไป
สามสิบวินาทีผ่านไป
หนึ่งนาทีผ่านไป
‘เจ้าของหมาค่ะ ติดต่อรับคืนได้ที่ไหนคะ’
‘โหย เจ้าของหมาน่ารัก’
‘เขินอ่ะ’
‘จีบได้มั้ยครับ’
‘ก็ได้นะ’
อ๋อ ตอบคนอื่นอยู่นี่เอง
เมษาปิดเฟสไปโดยไม่รู้ว่า
‘จะจีบจริงดิ’
‘แซวเล่นๆอ่ะครับ’
คนกวนตีนอย่างสงกรานต์ แถมขี้อ่อยไปทั่ว
มันก็แค่…อ่อยกับคนอื่นเท่านั้นเอง
ก็ยังไม่วายตัดใจนะเรา เขาพบว่าตัวเองมายืนแอบมุมอยู่ตรงซอกตึก ข้างหน้าคือสถานที่คืนคุณน้องหมาให้เจ้าของที่ไอ้สงกรานต์มันนัดสาวนมตู้มเจ้าของหมาไว้
นี่เขามาที่นี่ทำไม
มาดูคนจีบกันป่ะ
หรือมาอยู่ผิดที่ผิดทางกัน
ปลอบใจตัวเองว่าแค่เดินผ่านมาเท่านั้นเอง
“นี่ครับ น้องหมา” สงกรานต์มันยื่นมาให้
สาวเจ้าตะครุบน้องหมาไว้ ไม่วายกุมมือหนาของสงกรานต์อีกด้วย สายตาทั้งคู่สื่อประสานกันลึกซึ้ง
คือเดาเอาทั้งหมด นี่จากระยะของเขาที่ยืนอยู่กับจุดนัดพบนี่คือสักห้าเมตรได้
“สนใจจะมาเป็นเจ้าของอีกคนมั้ยคะ”
“เอ่อ…”
มัวแต่อ้ำอึ้ง
ไอ้สงกรานต์ หัวฟวย
ไปตายซะ
เขาหันหลังหนีจากไป
“มีคนชวนแล้วอ่ะครับ”
สงกรานต์ปัดมือหญิงสาวออกอย่างนุ่มนวล
“ขอโทษนะครับ”
“เสียดายจัง คนนั้นสำคัญกว่าเราอีก”
“คุณเมษาครับ หน้าบูดมาก เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
สงกรานต์มันเอื้อมมือหนามาบีบแก้มทั้งสองข้างของเขา ดึงให้ยืดออก
“เจ็บบบบบบบบ”
ผ่านเหตุการณ์วันนั้นมา ก็ไม่มีโอกาสเผือกอะไรกับชีวิตไอ้สงกรานต์อีกเลย ความจริงคือกลัวมันตกลงคบกับสาวนมตู้มนั่น
แต่แปลก ก็ไม่มีข่าวคราวใดๆมาต้องหู
พอในใจปฏิญาณว่าจะไม่เจอหน้ามันอีก และตัดใจ
ไหงไอ้คุณสงกรานต์ดันมาชวนเขาไปกินข้าว
ไม่รู้วันดีอะไร แต่จากที่โกรธๆอยู่นี่คือ หาย…
เร็วมาก 555
เล่นตัวไปแล้วได้อะไร
พอๆกับตัดใจไปแล้วได้อะไร
สู้ทนๆไปแล้วได้ไอ้คุณสงกรานต์มาครอบครองดีกว่า
นี่แหละ…ความมโนของคนแอบรัก เพลียใจตัวเอง
“กินข้าวดิ มองไร”
อ่าว นี่เขาเผลอมองมันนานไปหน่อยเหรอเนี่ย
แชะ
“ตลกหน้า ขอถ่ายหน่อย”
“เฮ้ย”
“คุณเมษา ถ่ายรูปคู่ป่ะ”
“ไม่เอา”
มันยื่นหน้าคือเอี้ยวร่างใหญ่คร่อมโต๊ะมาหาเขาจนได้ หน้าเราใกล้กันพอเหมาะ แล้วกล้องก็แชะทันที
“ตลกว่ะ คุณเมษาทำหน้าอะไรเนี่ย”
เขาชะโงกหน้าไปดูรูปในจอใกล้ๆ
“ก็ดี”
ก็ไม่ถือว่าน่าเกลียดอ่ะ แค่ออร่าความหล่อของไอ้สงกรานต์บดบังเขา…แค่นั้นเอง
“ก็ว่ากันไป”
หลังจากนั้นเราก็กินข้าวกัน
ชีวิตนักศึกษาก็เรื่อยๆ วันดีคืนดีจะมีเคสอะไรมาให้แปลกใจบ้างเป็นครั้งคราว อย่างเช่นการทำแลปข้ามคืนข้ามวัน
ฟังไม่ผิด ขณะนี้เวลาห้าทุ่มเกือบเที่ยงคืนแล้ว
“พรุ่งนี้ก็ 1 เมษาแล้วเนอะ”
“มีอะไรให้แปลกใจ”
“อ้าว กูก็จะคิดมุกโกหกคนอ่ะดิ สนุกจะตายชัก”
“อย่าให้เดือดร้อนมากมายล่ะ”
“ค่า”
เพื่อนในแลปกำลังดูตื่นเต้นกับหนึ่งเมษาที่จะมาถึง
เขาก็กำลังคิดถึงมุกโกหกคำโตอยู่เหมือนกัน
จะโกหกอะไรดีนะ ปีนี้
อืม
แค่คำโกหกคงไม่เป็นไร
คำที่โกหกอีกฝ่าย แต่ชัดเจนในความรู้สึกเขา
ตึ๊ง
Songkran Thitiyawut ได้โพสต์บนไทม์ไลน์ของ
เดือนเมษายน “กูรักมึงนะ” เมื่อเวลา 00.00
เริ่มวันใหม่ 1 เมษายน
แต่เขาคงไม่ทันได้เล่นคำนั้น เมื่อมันถูกโพสต์ไปแล้วโดยสงกรานต์ บนไทม์ไลน์เขา
มีเหตุผลมากมายที่ตีความได้
แต่เจ้าตัวแค่พิมพ์ตอบมาคำเดียวใต้โพสต์
“
#HappyAprilfool’sday นะครับ คุณเมษา”
มึงเฉลยเร็วไปมั้ย ยังทำใจไม่ได้เลย โอ๊ย ใจไม่ดี
ฟัค แฮปปี๊แฮปปี้
น้ำตาเป็นลิตรนี่ใครจะรับผิดชอบ T^T
ช่วงเช้าตื่นมาด้วยอารมณ์มืดหม่น
ตึ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงเฟสบุ๊คดังสนั่นข้ามหัวเตียงมากระทบหูเขาแต่ไกล
อะไรนักหนา
เปิดไปเจอหน้าเดิม สเตตัสของไอ้สงกรานต์บนไทม์ไลน์เขา
“กูรักมึงนะ”
และ
‘
#HappyAprilfool’sday นะครับ คุณเมษา’
ใจหล่นลงไปที่ตาตุ่ม แฟบจนแบน
ตึ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แจ้งเตือนมารัวๆๆๆๆๆๆ
ขอหลับก่อนได้มั้ย เมื่อคืนทำแลปถึงตีสอง
‘มึงๆ มีแลปเช้า’ รู้…เอพริลฟูลเดย์ ไม่ได้กินเขาหรอก
‘มึง หอในไฟไหม้’ จ้า
‘มึง ใครบอกรักมึงอ่ะ’ จะมีใคร สงกรานต์นั่นไง แต่เป็นคำบอกรักจอมปลอมนะมึง ฮึก
‘มึง กรี๊ด เขาทำกูฟิน’ นี่คือมุกโกหกมึงเหรอ
‘มึง เปิดเข้าไปดูไทม์ไลน์สงกรานต์เร็ว’ อย่าหลอกกูให้โง่ ยังยืนยันว่าเอพริลฟูลเดย์ไม่ได้กินเขาหรอก เขาช้ำใจพอละ
ตึ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มีคนแท้กเขาในโพสต์ๆนึง
ของสงกรานต์หนิ
‘ถ้าคุณเมษาจะดูนาฬิกาสักนิด’
เป็นแคปหน้าจอมือถือ แสดงตัวเลขนาฬิกาดิจอตอล
บอกเวลา…
23 : 59 : 59
พร้อมข้อความที่แคปแล้วตัดต่อมาจากในเฟส
‘กูรักมึงนะ’
ถามว่าใครจะมานั่งดู ^^
และคอมเมนต์นี้ตอบโจทย์ของคุณได้…
‘ผิดกฎนะคะ ต้องหลอกวันที่ 1 สิคะ มาหลอกกันก่อนได้ไง #กูฟินลืมตายค่ะ’
23 : 59 : 59
นี่มันย่างเข้า 1 เมษายนรึยังนะ
หรือมันยังอยู่วันที่ 31 มีนาคม…
‘เป็นแฟนกันมั้ย คุณเมษาหน้าโง่’
‘ไม่ครับ คุณสงกรานต์’
แต่เอพริลฟูลเดย์ ก็ไม่ได้กินสงกรานต์หรอก หึ
‘ก็ได้ครับ เป็นแค่เพื่อนก็พอ’
เขาก็ไม่ยอมหน้าโง่อีกหนแน่
‘อืม เพื่อนก็เพื่อน’
ผ่านพ้นหนึ่งเมษายน
แปลข้อความที่เขาคุยกันใหม่ได้ว่า
‘เป็นแฟนกันมั้ยครับ คุณเมษาหน้าโง่’
‘ตกลงครับ คุณสงกรานต์’
‘เป็นแฟนกันแล้วนะ’
‘อืม แฟนก็แฟน’END
******************************
ไม่มีอะไรจะพูด เพียงอยากบอกว่า
'สุขสันต์วันเมษาหน้าโง่นะทุกคน'