Lion 20 End
หลังจากที่หนังสือที่คิสและไลออนไปถ่ายแบบออกวางแผนกระแสตอบรับก็ดีเกินคาด มีงานติดต่อเข้ามาหาร่างสูงไม่น้อย
จนคิสนึกหมั่นไส้แต่ไลออนก็ปฏิเสธมันไปหมด คิสกลับมาทำงานในวงการนายแบบอีกครั้งแม้ว่ากระแสอาจจะลดลงไปบ้างแต่
คิสก็ยังดีใจที่ยังมีแฟนคลับที่น่ารักมากมายยังคงติดตามเขาอยู่ไม่น้อย วันนี้เป็นวันที่คิสไม่มีงานและไลออนก็พึ่งสอบปลายภาค
เสร็จเขาเลยตกลงกันว่าจะไปเยี่ยมพ่อกับแม่ของคิสที่เขาใหญ่ คิสเป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิดเพียงแต่พ่อกับแม่ของเขาเบื่อความ
วุ่นวายในเมืองหลวงจึงหนีไปใช้ชีวิตกับธรรมชาติเปิดฟาร์มวัวอยู่ที่เขาใหญ่ พ่อกับแม่ของคิสรู้เรื่องของไลออนมาตลอดเพราะคิส
ค่อนข้างสนิทกับพ่อแม่ไม่น้อยมีอะไรก็จะเล่าให้ฟังและขอคำปรึกษาตลอด แม้ว่าตัวจะห่างกันแต่ใจไม่ห่างกันเลย พ่อกับแม่ของ
คิสเป็นคนหัวสมัยใหม่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องชายรักชายเนื่องจากดูจากหน้าตาลูกชายของพวกเขาแล้วก็คิดว่าถ้าหากจะให้หาลูกสะใภ้
คนจะยากไม่ใช่น้อย เพราะฉะนั้นมีลูกเขยนั่นแหละดีแล้ว
“พ่อบอกว่ามะลิกำลังจะคลอดด้วยตื่นเต้นจัง” คิสพูดขึ้นขณะที่กำลังขับรถไปเขาใหญ่ด้วยกัน ทริปทั้งนี้ทั้งคู่กะจะไปสัก
สองคืน สามวันโดยที่คิสให้เจสซี่จัดการเลื่อนตารางงานของเขาไว้เรียบร้อยแล้ว
“มะลิ?” ไลออนขมวดคิ้ว
“วัวในฟาร์มของพ่อน่ะ” คิสตอบยิ้มๆ ไลออนพยักหน้ารับก่อนจะหันไปตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อ ทั้งคู่ไม่ได้รีบร้อนในการเดิน
ทางนัก มีแวะปั๊มหาขนม หากาแฟกินกันบ้างแต่ยังคงเก็บท้องไว้กินอาหารกลางวันฝีมือแม่ของคิส
“แม่ คิดถึงที่สุด” คิสว่าก่อนจะโผเข้ากอดผู้เป็นแม่เต็มรักก่อนจะหอมแก้มซ้ายแก้มขวาของมารดาด้วย
“อ้าวๆแล้วพ่อล่ะ” ผู้เป็นพ่อท้วงขึ้นมา คิสหัวเราะคิกคักก่อนจะผละออกจากแม่แล้วไปกอดพ่อบ้าง ไลออนมองภาพตรง
หน้าด้วยรอยยิ้ม ครอบครัวของอีกคนดูอบอุ่นไม่ใช่น้อย พ่อแม่ลูกสนิทกันเหมือนเพื่อนที่รู้ใจต่างจากครอบครัวของเขา ไม่ใช่ว่า
ครอบครัวของเขาไม่ดีนะพ่อกับแม่ก็สนใจลูกๆเพียงแต่เพราะอายุที่มากขึ้นของลูกๆแต่ละคนภาระหน้าที่ก็ต้องมากตามมาด้วย
ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้กันเท่าไหร่ ยิ่งตอนนี้พ่อกับแม่ของเขาหนีไปใช้ชีวิตคู่กันที่ต่างประเทศแล้วทิ้งกิจการให้ลูกๆจัดการแล้ว
ด้วยก็รู้สึกคิดถึงไม่ใช่น้อย
“นี่ลูกเขยแม่เหรอ” แม่ของคิสถามขึ้น คิสยิ้มหน้าแดงๆ
“แน่นอนสิครับแม่ เป็นไงหล่อใช่มั้ยล่ะ” คิสว่าพร้อมกับเดินไปควงแขนอีกคนมาอยู่ต่อหน้าพ่อแม่ ไลออนกล่าวทักทายพ่อ
แม่ของอีกคนอย่างมีสัมมาคารวะ
“หล่อกว่าพ่อแบบนี้ชักจะไม่ชอบใจแล้วสิ” ผู้เป็นพ่อว่าขำๆ
“โหย ใครจะหล่อเท่าพ่อกันเล่า เนอะแม่เนอะ” คิสว่ากลับพร้อมพยักพเยิดกับผู้เป็นแม่
“แก่ลงพุงแบบนี้ไม่หล่อแล้ว สู้ลูกเขินของแม่ไม่ได้ พ่อคุณ...หล่ออะไรขนาดนี้” ไลออนยิ้มรับนิดๆ...หลังจากที่เอากระเป๋า
เสื้อผ้าไปเก็บบนห้องนอน คิสและไลออนก็ลงมากินอาหารกลางวันฝีมือแม่ที่ตั้งใจทำรอทั้งคู่มากๆ เพียงแต่มื้อนี้พ่อไม่อยู่ด้วย
เพราะต้องเข้าฟาร์มไปคุยกับสัตวแพทย์ที่มาหามะลิที่กำลังจะคลอดในวันสองวันนี้
“เย็นๆแดดร่มๆก็พาไลออนเขาเดินเที่ยวฟาร์มเราด้วยล่ะ แม่อยากอวด” แม่พูดขึ้นขณะที่กินข้าว
“อยู่แล้วๆ แต่ว่าอยากขี่ม้าด้วยอ่ะครับแม่ บุญมีมันแข็งแรงดีใช่มั้ยครับ” คิสถามถึงม้าตัวพ่อตัวเก่งของผู้เป็นพ่อที่อยู่กับพ่อ
เขามาตั้งแต่เปิดฟาร์มใหม่ๆ ซึ่งคิสเองก็คุ้นเคยกับมันดี
“แข็งแรงดีๆ พาไลออนไปรู้จักกับสมาชิกของบ้านเราที่เหลือด้วยล่ะ” แม่หัวเราะคิกคัก บ้านของคิสเป็นฟาร์มวัวก็จริงแต่ก็
เลี้ยงม้าเอาไว้ด้วยสามตัว ซึ่งแต่ละตัวก็มีชื่อเรียก มีการเลี้ยงดูอย่างดีจนแม่และคิสแซวพ่อว่าเลี้ยงเหมือนเป็นลูกคนที่สอง สาม
สี่เลยก็ว่าได้...ตกเย็นคิสก็พาไลออนมาที่คอกม้าที่มีม้าสีน้ำตาลสองตัว สีขาวหนึ่งตัวอยู่ข้างใน
“สีน้ำตาลตัวนั้นชื่อบุญมี อีกตัวชื่อบุญมา ส่วนสีขาวชื่อบัว เป็นตัวเมีย” คิสว่าพร้อมกับชี้ม้าทั้งสามตัวเพื่อแนะนำให้อีกคน
ได้รู้จัก
“มันมองเหมือนไม่ชอบผม” ไลออนหมายถึงบุญมี
“มันไม่พอใจที่นายหล่อกว่ามันมั้ง คึๆๆ” คิสหัวเราะร่าก่อนจะให้คนงานเอาบุญมีออกมาแล้วทำท่าจะเอาบุญมาออกมาอีก
ตัวแต่ไลออนห้ามไว้ เขากะจะขี่ตัวเดียวกับอีกคนต่างหาก
“หวังว่าบุญมีมันจะไม่สะบัดเราสองคนตกนะ” คิสว่าหลังจากที่ขึ้นมานั่งบนหลังม้าพร้อมกับอีกคนแล้ว ไลออนที่ขี่ม้าเป็น
ตั้งแต่อายุ10ต้นๆก็บังคับเจ้าบุญมีที่อยู่ๆก็เป็นมิตรกับเขาไปตามทางที่อีกคนจะพาเขาไปเที่ยวรอบๆฟาร์ม แผ่นหลังบางอิงเข้ากับ
แผ่นอกแกร่งของอีกคนพร้อมกับมือบางที่ชี้นั่นชี้โน้นให้ไลออนดู ตาคมไม่ได้มองตามเลยสักนิดเพราะเอาแต่จับจ้องปากสีชมพู
ของอีกคน
“อ๊ะ” คิสสะดุ้งทันทีที่อีกคนเอี้ยวตัวมาจุ๊บที่ริมฝีปากของเขา
“นั่งดีๆสิเดี๋ยวก็ตกหรอก” ไลออนว่าพร้อมกับจับเอวอีกคน
“ก็นาย...ฮึ่ย์ หื่นแม้กระทั่งบนหลังม้า” คิสย่นจมูกใส่อีกคน
“แล้วอยากลองบนหลังม้ามั้ยล่ะ” ไลออนว่าเสียงเรียบแต่ตาคมกลับเป็นประกายวิบวับจนคิสหน้าแดงก่ำ มือบางตีเที่อก
แกร่งทันที
“หยุดหื่นสักทีเถอะ หมออะไรก็ไม่รู้หื่นเป็นบ้าเลย” ไลออนหัวเราะในลำคอก่อนจะบังคับม้าต่อ...บรรยากาศในยามค่ำคืน
ของที่ฟาร์มสดชื่นมากทำให้ไลออนรู้สึกดีไม่น้อย ดาวบนท้องฟ้าที่หาดูได้ยากในเมืองหลวงส่องแสงระยิบระยับอย่างสวยงาม
“อากาศดีจัง” คิสว่าพร้อมกับเดินออกมาที่หน้าระเบียงมายืนข้างๆอีกคน
“ผมอยากมาอยู่ที่นี่” ไลออนว่า คิสเลิกคิ้ว
“บั้นปลายชีวิตเรามาอยู่ที่นี่กันนะ” ไลออนว่าพร้อมมองหน้าอีกคนอย่างจริงจัง คิสหน้าขึ้นสีกับคำพูดของอีกคน พูดอย่าง
กับว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไปอย่างนั้นแหละ
“คิดว่าจะคบกันไปถึงขนาดนั้นเลยหรือไง” คิสแกล้งว่า
“งั้นลองคบกันดูมั้ยล่ะ” คิสขมวดคิ้วกับคำพูดของคุณ
“คบกันไปถึง 50ปี 60ปีข้างหน้า ลองคบกันดู ใครเลิกก่อนแพ้” คิสยิ้มจนแก้มปริ่ม เขาไม่เคยคิดถึงอนาคตว่าจะคบกับอีก
คนหรือมีอีกคนอยู่เคียงข้างอีกนานขนาดไหน เพียงแค่ปัจจุบันมีอีกคนอยู่ข้างๆก็พอใจแล้วแต่ไม่คิดว่าอีกคนจะมองการณ์ไกล
ขนาดนี้
“แล้วคนชนะจะได้อะไร” คิสถามด้วยรอยยิ้ม ไลออนกระตุกยิ้ม
“ยังบอกไม่ได้ ไว้60ปีข้างหน้าจะบอก” คิสโผเข้ากอดอีกคนเต็มรัก คำพูดของอีกคนอาจจะไม่ได้หวานซึ้งอะไรมากมายแต่
ความหมายมันก็เท่ากับว่าเขาจะอยู่ด้วยกันไปแบบนี้ ตากลมกระพริบตาเพื่อไล่น้ำตาที่หน่วงคลออยู่ ไม่อยากแสดงความอ่อนแอ
ออกมาแต่มันตื้นตันใจจริงๆถึงได้มีน้ำตาแบบนี้ นึกย้อนไปในวันแรกที่เขาเจออีกคน อุปสรรคมากมายระหว่างเขาสองคนมันเยอะ
เสียเหลือ จนเกือบตัดใจไปจากอีกคนแล้ว ก็ต้องขอบคุณความพยายามของตัวเองที่ทำให้มีคนรักที่ดีที่สุดในโลกในวันนี้
“ว่าไง” ไลออนถามขึ้น
“อะไร”
“ลองคบกันไปถึง 60ปีข้างหน้า” คิสหัวเราะในลำคอก่อนจะผละออกจากอีกคน
“60ปีไม่พอหรอก ให้80ปีเลยอ่ะ” ไลออนคลี่ยิ้มอย่างอบอุ่นกับคำพูดน่ารักๆของอีกคนก่อนที่ปากหนาจะประกบเข้าจูบอีก
คน จากจูบที่อ่อนโยนค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความร้อนแรง ร่างสองร่างกอดเกี่ยวกันมาที่เตียงนอน ร่างสูงขึ้นคร่อมอีกคนก่อนจะ
ประกบจูบอีกครั้ง มือหนาจัดการเสื้อผ้าของอีกคน มือบางเองก็เช่นกัน ร่างสองร่างเปลือยเปล่ารวมเป็นหนึ่งเดียวกันราวกับว่าจะไม่
ยอมแยกจากกันไปไหน เสียงครวญครางบวกกับเสียงกระแทกของเตียงนอนดังขึ้นกว่าสามชั่วโมง...ตอนเช้า...ไลออนลืมตาตื่น
ขึ้นมาเพราะแสงแดดที่ตกกระทบเข้ากับเปลือกตา ตาคมมองร่างบางข้างกายด้วยรอยยิ้มเล็กๆมุมปากก่อนจะโน้มตัวไปจูบเบาๆที่
ริมฝีปากของอีกคน
“ตื่นได้แล้ว” ร้อมกับเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมา
“งื้อออออ ง่วง” คิสว่าออกมาแต่ตากลมก็ยังคงไม่ลืมขึ้น แหงแหละ...เมื่อกี้กว่าที่เขาจะได้นอนก็ตี1กว่าๆ ปวดเนื้อเมื่อยตัว
อีกต่างหาก
“ไหนว่าวันนี้จะไปดูมะลิคลอด” ไลออนว่า คิสลืมตาทันที
“จริงสิ วันนี้มะลิคลอดนี่หน่า” คิสว่าอย่างตื่นเต้นพร้อมกับรีบลุกจนลืมว่าตัวเองยังเจ็บบั้นท้ายอยู่
“โอ๊ย”
“รีบร้อนไปไหน” ไลออนว่าอย่างดุๆ
“ตื่นเต้นนี่” คิสว่าก่อนจะหันไปมองอีกคนที่ลุกขึ้นแล้ว แขนบางยกขึ้นมาหาอีกคนเป็นเชิงว่าให้อุ้มหน่อยอย่างอ้อนๆ
ไลออนยิ้มๆก่อนจะรวบตัวอีกคนอุ้มท่าเจ้าสาวก่อนจะพากันไปอาบน้ำ...คิสมายืนอยู่ที่ฟาร์มวัวด้วยความตื่นเต้น มือบางจับกับมือ
หนาอย่างลุ้นๆพร้อมกับตากลมที่จดจ้องสัตวแพทย์ที่ทำลังจะทำคลอดให้กับมะลิ มะลิเป็นแม่วัวที่คิสเลี้ยงมันมาตั้งแต่เด็กๆ จึง
รู้สึกผูกพันกับมันมาก ชื่อของมันเขาก็เป็นคนตั้ง เวลากลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่ทีไรเขาก็จะแวะมาหามันตลอด มันเป็นโคนมสาย
พันธุ์ดี ตัวสีขาวลายจุดสีดำเนื้อตัวสะอาดสะอ้านต่างจากวัวตัวอื่นๆ
“นั่นไง ออกมาแล้ว” คิสว่าอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าลูกวัวออกมาแล้ว ร่างบางรีบวิ่งเข้าไปเกาะรั้วทันทีก่อนจะลูบหัวมะลิเบาๆ
“เก่งมากมะลิ” หลังจากที่สัตวแพทย์จัดการมะลิและลูกวัวตัวใหม่เรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่คิสจะได้ดูลูกวัวน้อยเต็มตาเสียที
ไลออนมองท่าทางตื่นเต้นแบบเด็กๆของอีกคนยิ้มๆ
“ดูสิไลออน น่ารักอ่ะ” คิสว่าพร้อมกับชี้ไปที่ลูกวัวตัวเล็ก
“ตั้งชื่อว่าอะไร” เสียงทุ้มถาม คิสเอียงคอหน่อยๆเพื่อคิดเชื่อให้ลูกวัวตัวผู้นั่น
“นั่นสิ คิดไม่ออก นายตั้งให้หน่อย” คิสว่ายิ้มๆ ไลออนขมวดคิ้ว
“มะพร้าว?” ไลออนเลิกคิ้ว คิสยิ้มกว้าง
“โอเค เอาชื่อนี้แหละๆ มันตัวขาวขนาดนี้คงเหมาะกับชื่อนี้ แกชอบมั้ยฮะมะพร้าว” คิสพยักพเยิดไปถามเจ้าลูกวัวตัว
น้อย...หลังจากที่วุ่นวายกับเรื่องวัวมาทั้งวันตอนเย็นคิสก็พาไลออนมานั่งเล่นที่ศาลาเล็กๆใกล้ๆฟาร์ม ลมเย็นๆพัดพาเอาอากาศ
ดีๆมาให้ทั้งคู่ได้สูดดมกันในวันสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพพรุ่งนี้ ร่างสูงที่นอนหนุนตักอีกคนอยู่บนศาลาเล็กก็ยิ้มๆอย่างมีความสุข
“มีความสุขจัง” คิสพูดขึ้น
“ไม่อยากกลับ” ไลออนว่าบ้าง คิสยิ้มๆกับคำพูดของอีกคน
“งั้นย้ายมาอยู่ที่นี่เลยดีมั้ย” คิสหัวเราะ
“เอาสิ ผมมานะ” คิสทำตาโตกับใบหน้าที่จริงจังของอีกคน
“บ้าหรือไง จะไม่ทำงานทำการ ไม่รับปริญญาหรือไง” คิสย่นจมูกใส่อีกคน
“หึๆ” ไลออนหัวเราะในลำคอ บรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่เงียบลงอีกคนแต่กลับไม่น่าอึดอัดเลยสักนิด แสงสีส้มอ่อนๆส่อง
มาที่คนทั้งคู่เป็นสัญญาณบอกว่าพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าแล้ว ตากลมกับตาคมสบกันไม่ได้นัดหมายก่อนจะยิ้มกันขึ้น
“จูบกัน” ไลออนว่า คิสยิ้มเขินๆก่อนที่จะเป็นฝ่ายโน้มหน้าลงไปกดจูบที่ริมฝีปากของอีกคนท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ส้มนวล
และท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักของพวกเขาทั้งสองคน
End
จบแล้วจ้า!!!! จุดพลุ เย้!!!! >0< ตอนจบนี้เน้นหวานเกินไปหรือเปล่า กลัวทุกคนจะเบื่อมาก 5555 แต่เฟิร์นแต่งไปก็ยิ้มไปนะ
อยากให้คนอ่านอ่านไปยิ้มไปเช่นกัน อิๆ ขอบคุณที่ติดตามคุณหมอกับน้องคิสกันมาตลอดนะคะ ขอบคุณจากใจจริงค่า!!!
ปล ฝากติดตามไทเกอร์ต่อด้วยเน้ออออออ >>>>>
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54447.0___จางบิวตี้___