#5
ปี๊ด ! ปี๊ด ! ปี๊ด !
“เฮ้ย ! รถจะออกแล้ว ไปเร็ว !”
เสียงเข้มของเพื่อนตัวสูงทำให้ร่างของเพื่อนทั้งสองคนที่กำลังยืนอยู่หน้าร้านขายของรีบจ่ายเงินแล้ววิ่งไปขึ้นรถทัวร์ นั่งประจำที่ที่เอากระเป๋ามาวางไว้ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ร่างเล็กขาวอวบรีบไสตัวเข้าไปนั่งริมกระจกก่อนจะตามมาด้วยร่างขาวสูงของเพื่อนทั้งสอง เมื่อทั้งสามคนนั่งประจำที่ก็หยิบขนมและโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมหูฟังเสียบที่ตัวสมาร์ทโฟนแล้วเสียบหูตัวเองทันที ต่างคนต่างอยู่ในโลกส่วนตัวของแต่ละคนไปเลย ซันหลับตาพริ้มทันทีที่เปิดเพลงและเสียบหูฟังใส่หู ส่วนเบลล์ก็เปิดเพลงตอบแชทเพื่อนฝูงหลงเข้าไปในโลกโซเชี่ยล
คิมมองภาพนั้นยิ้ม ๆ เกือบปีเชียวนะที่ไม่ได้นั่งรถกลับพร้อมเพื่อนแบบสมัยไปเรียนมัธยมที่มีรถรับส่ง พวกเขาสามคนก็จะนั่งเรียงกันแบบนี้โดยมีคิมนั่งติดกระจกตามด้วยเบลล์ที่นั่งเด่นตรงกลางและซันใบหน้าหล่อคม ๆ นั้นที่สลบทันทีที่ขึ้นรถ คิมเลื่อนนิ้วกดเข้าไปในยูทูปดูรายการเกาหลีที่ชอบดูพวกเน็ตไอดอลแสดงวาไรตี้โชว์ เขาว่าพวกนั้นตลกดี ดูได้ไม่ถึงสามนาทีก็มีไลน์ดังขึ้นมา ใบหน้าใสขมวดเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ ที่เห็นรายชื่อของคนทักตนมาพร้อมข้อความบนแจ้งเตือน เพราะเขามีเพื่อนในโปรแกมไลน์ไม่ถึง 20 คนด้วยซ้ำ (น้อยโครต)
Lucky : กลับบ้านหรือยัง ?
อ่า เขานึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเขาให้ไลน์พี่ลัคไปนี่น่า คิมกดเข้าในโปรแกรมแชทก่อนจะเห็นว่าเมื่อคืนพี่ลัคก็ทักมาฝันดี เขากดพิมไลน์ตอบไปทันที
KRK : เพิ่งขึ้นรถครับ เมื่อคืนขอโทษที่ไม่ได้ตอบ ผมหลับไปแล้ว
Lucky : อ๋อ ไม่เป็นไร แล้วกินข้าวหรือยังเนี้ย ขึ้นรถเช้าแบบนี้
KRK : เรียบร้อยแล้ว พี่ลัคละครับ ?
Lucky : ยังเลย
KRK : อ่าว ไม่หิวหรอครับ
Lucky : หิว แต่พอดีรอคนตอบแชทอยู่
คิมแอบขมวดคิ้วนิด ๆ คงจะรอคุยกับแฟนเขาละมั้ง แต่แค่รอทำไมไม่ไปกินละ ยังไงเขาตอบก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนอยู่ดี คิมอยากจะบอกให้อีกคนไปกินข้าวเลยด้วยซ้ำ แต่มันคงเป็นการยุ่งย่ามกับเขามากไป
KRK : อ๋อครับ งั้นถ้าเขาตอบก็ไปหาอะไรทานด้วยนะครับ เดี๋ยวปวดท้อง
Lucky : เป็นห่วงพี่หรอครับ ^^
คิมชะงักไปนิด รู้สึกแปลก ๆ ที่อีกคนมาถามหยอด ๆ แบบนี้ แต่พี่ลัคจะมาหยอดเขาทำไมละ ? คิมปัดความคิดนี้ไปทันที
KRK : ครับ เดี๋ยวเป็นกระเพาะมันส่งผลระยะยาวไม่ดีหรอกครับ
Lucky : คร๊าบ ๆ งั้นพี่ไปอาบน้ำหาอะไรกินก่อนละกัน เดี๋ยวทักไปใหม่นะ
KRK : ครับ
คิมแค่ตอบรับไปเท่านั้น มีคนคุยด้วยก็ดีเหมือนกันเพราะกว่าจะถึงบ้านก็อีกหลายชั่วโมงแล้วเขาก็ยังไม่ง่วง ที่พวกเขาไม่ไปเครื่องกันช่วงซัมเมอร์ตั๋วมันแพงแต่เลือกที่จะนั่งรถเพราะสะดวกกับตัวเองพวกเขาเวลากลับไม่แน่นอน บ้านพวกเขาก็ไม่ได้ยากจนที่บ้านคิมทำงานเปิดศูนย์ขายรถยนต์จะว่าใหญ่ที่สุดในภูเก็ตเลยก็ว่าได้ ส่วนเบลล์บ้านก็ฐานะพอดีเปิดร้านเสริมสวยรายได้ดีมากเรียกค่าหัวได้แพงเกือบเท่าที่กรุงเทพเลยล่ะ ซันที่บ้านเป็นข้าราชการพ่อเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนอยู่จังหวัดสงขลาแม่เป็นตำรวจปู่เป็นทนายที่ภูเก็ต คิมดูรายการอยู่ไม่นานก็มีแจ้งเตือนขึ้นมา
Lucky_someone เริ่มติดตามคุณ
อินสตาแกรมของคิมขึ้นมาเช่นนั้น คิมเห็นแค่รูปก็รู้เลยว่าใครเขากดเข้าไปและกดฟอลอีกคนตอบแล้วเลื่อนนิ้วไปกดเข้าโปรแกรมไลน์อีกครั้ง
KRK : พี่เอาไอจีผมมาจากไหนครับ ?
คิมทักไปแล้วรออีกคนตอบซึ่งยังไม่อ่านสักที อินสตาแกรมเขาไม่ค่อยมีคนรู้เท่าไหร่ เขาเอาไว้ฟอลพี่ชาย เพื่อน และดาราไอดอลพวกนี้ คิมรอสักพักก็มีแจ้งเตือนขึ้นอีก
@Lucky_somone ติดตามคุณ
อะไรเนี่ย !? จะติดตามให้หมดเลยหรือไงเขาขมวดคิ้วนิดหน่อยไปเอามาจากไหนกันนะ ในเมื่อน้อยคนนักที่รู้ทวิตเตอร์ อินสตาแกรมเขา ยิ่งทวิตยิ่งคนรู้น้อยไปใหญ่ เขาไม่ค่อยโพสแทบไม่เคยเลยละ จะมีคนรีให้รู้ก็ไม่ใช่จะมีเพื่อนคุยมันก็แค่เพื่อนเก่าเท่านั้น เพื่อนมหาลัยไม่มีใครรู้ของเขาทั้งนั้น เขายอมรับตัวเองโลกส่วนตัวสูง แต่คนหน้าสวยไปหามาจากไหนกันล่ะ ? นี่ถ้าเขามีเฟชบุ๊คก็คงแอดมาใช่ไหมนะ แต่เขาไม่มีหรอก
KRK : พี่จะกดติดตามผมทุกแอพเลยหรือเปล่าเนี้ย ถ้าผมมีเฟชก็คงแอดมาใช่ไหม?
Lucky : นั่นสิ ทำไมไม่มีเฟชล่ะ ?
KRK : พี่ต้องตอบผมก่อนซิครับ พี่ไปเอาไอจีกับทวิตผมมาจากไหน
Lucky : ไม่บอก

KRK : อะไรกัน พี่ไปหามาจากไหน
Lucky : เจอเขียนแปะไว้ใต้สะพาน
KRK : มันจะไปมีได้ไงละครับ
Lucky : ก็ใช่ไง
KRK : สรุปพี่จะไม่บอกผมใช่ไหม ว่าเอามาจากไหน
Lucky : ใช่ บอกไปแล้วเราจะทำไมหรอ หรือไม่อยากให้พี่ติดตาม ก็ได้นะ เดี๋ยวพี่อันฟอลให้หมดเลย
KRK : ผมไม่ได้ว่าแบบนั้นนะครับพี่ลัค ฟอลได้ ๆ
Lucky : นึกว่าไม่อย่าให้ฟอลซะอีก
KRK : เปล่านะครับ
Lucky : ถึงไหนแล้วตอนนี้
KRK : ใกล้จะถึงประจวบแล้วครับ
คิมนั่งพิมแชทคุยกับลัคเรื่อย ๆ ไม่นานคิมก็ขอตัวนอนก่อน เขาหันไปมองเบลล์ก็หลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ดูรอบข้างก็เพิ่งรู้ว่านี่เลยประจวบไปแล้วด้วยซ้ำ เขาอมยิ้มกับการคุยสนุกของลัค เดี๋ยวเปลี่ยนเรื่องไปมา ชวนคุยนู้นนี้ แล้วก็เล่าเรื่องตัวเอง ซึ่งคิมก็ชอบเป็นคนรับฟังไม่พูดอะไรมากมายอยู่แล้ว เขาหยิบที่พาวเวอร์แบงค์มาเสียบกับโทรศัพท์ เขาคุยกับลัคจนแบตเกือบหมดเลยด้วยซ้ำ แปลกใจตัวเองนิด ๆ ที่คุยกับใครได้นานขนาดนี้ ไม่นานคิมก็หลับไป
“แดกโทรศัพท์เลยก็ได้มึงถ้าจะขนาดนั้นนะ”
ซินอดที่จะแขวะเพื่อนเกย์หน้าสวยของตัวเองไม่ได้ รู้หรอกว่าเพื่อนมีความสุขแต่มันอดไม่ไหวจริง ๆ เธอเชื่อว่าถ้ามีใครมาเห็นต้องคิดว่ามันเป็นบ้า มีอย่างที่ไหนนั่งอมยิ้มกับโทรศัพท์ เดี๋ยวเคาะหัวตัวเอง เดี๋ยวก้มจูบบ้าง เอาถูแก้ม เอามากอดแนบอกบ้างละเผลอ ๆ มีพร่ำเพ้ออยู่คนเดียว มันบ้าไปแล้วแน่ ๆ และผลของการแขวะเพื่อนก็โดนหมอนอิงของห้องเธอนั้นแหละ ปาอัดหน้าเต็ม ๆ จนหงายเกือบตกเก้าอี้
นี่กูผู้หญิงนะโว้ย ! “อิจฉากูไง”
“กูเนี่ยนะ จะอิจฉามึง อิโถ๊ะ ! จีบน้องให้ติดก่อนเถอะมึง”
ฉึก ! เพื่อนชั่วลัคหันไปค้อนเพื่อนสาวผิวแทนทันที ก่อนจะเชิดหน้าใส่ใหม่ พูดแก้พร้อมทำหน้าเพ้อฝัน
“นี่แค่เริ่มต้นต่างหาก จะให้น้องมันมาใจง่ายได้ไงแบบนั้นก็ไม่พิเศษหรอกนะ ทุกอย่างมันต้องค่อยเป็นค่อยไป”
พอจบคำ เพื่อนสาวจากที่แค่หันหน้ามาคุยถึงหมุนเก้าอี้แล้วสไลด์ตัวกับเก้าอี้หมุนมาหาถึงปลายเตียงที่เขานั่งอยู่
“ว้ายยย คุณลัคกี้นัมเบอร์คะ ! เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้ใจเย็นค่อยเป็นค่อยไป เมื่อก่อนเห็นเล่นยากขนาดไหนก็แปป ๆ ไม่ถึงเดือนก็ได้ แล้วนี่อะไรกันยันปิดเทอมละ เพิ่งได้ไลน์ ไม่มีน้ำยาเหรอจ๊ะเพื่อน”
“นี่มันไม่เหมือนคนที่ผ่าน ๆ มาเว้ย !”
“ก็ไม่มีน้ำยาอยู่ดี”
“น้องเขายังเชอร์รี่”
“ให้พูดใหม่”
“กูแค่ไม่อยากให้น้องตื่นตูม”
“อีกที”
“เออ ! กูไม่กล้า !”
ทันทีที่เพื่อนว้าก ซินก็ขำทันที เพื่อนเขาไม่เคยเป็นคนไม่กล้า ตั้งแต่ที่มันมาด้อม ๆ มอง ๆ ขอให้เขาช่วยเนียน ๆ แล้ว ปกติเพื่อนเขาชอบใครถูกใจใครก็รุกทันที ไม่มีหรอกมาทำตัวแบบนี้ แล้วยิ่งสเป็คก็ไม่ใช่ยิ่งแปลกใจไปใหญ่ ลัคเป็นคนที่จีบใครก็ติด ลัคดูออกใครคือพวกเดียวกัน ผีเห็นผี แต่กับคิมนั้น มันดูไม่ออกแต่ลัคดันมาถูกใจซะงั้น อาจจะเพราะอย่างนี้หรือเปล่านะที่ทำให้มันไม่กล้า ? เพราะไม่รู้ว่าหลานรหัสเธอจะเกย์หรือเปล่า ลัคเป็นคนฟอร์มเยอะซินรู้ และรู้เลยละ ที่มันมาเลียบ ๆ แบบนี้คืออยากรู้ว่าคิมนั้นไปทางไหน ซินได้แต่ยิ้มขำกับเพื่อนของตัวเอง
“แล้วถ้าน้องมันไม่ได้เป็นละวะ”
“อาจจะไม่เป็น แต่ไม่ใช่จะเป็นไม่ได้ กูบอกแล้วไม่ได้สนว่าจะเป็นไม่เป็น แต่ถ้าไม่ได้จริง ๆ กูก็แค่ต้องคิดกับมันเป็นพี่เป็นน้องแค่นั้น กูไม่ได้รุกจีบมันมากเสียหน่อย”
“แล้วที่ได้คุยวันนี้คิดว่าไง” พอซินถาม ลัคก็ได้แค่ส่ายหัว
“น้องมันไม่มีท่าทีไรเลยวะ มีแค่ครั้งเดียวที่กูเห็นชัดก็ตอนวันที่เลี้ยงร้านไอ้หนูวันนั้นวันเดียว กูไปแกล้งมาหน้านี่แดงไปหมด”
“อาจจะเป็นไปได้ก็ได้นะเว้ย ! มึงลองรุกเยอะ ๆ ดูดิ”
“กูก็อยากทำอย่างนั้น แต่กลัวว่าพอมันไม่โอเคแล้วจะเสียความรู้สึกกัน” ลัคทำหน้าหงอยเลยทำให้ซินถอนหายใจ เพื่อนเขาไม่เคยมานั่งเครียดกับความรู้สึกใครแบบนี้ ลัคไม่ใช่คนที่สับสนในตัวเอง “น้องมันบริสุทธิ์ กูไม่เคยรู้สึกอยากถนอมใครเท่านี้มาก่อนเลยจริง ๆ ที่ผ่านมาตลอดหลายเดือนที่แอบดู กูรู้สึกอยากเก็บไว้ อยากดูแล อยากถนอมแม่งทุกอย่าง นี่แค่ได้คุยไลน์กูก็พร่ำเพ้อขนาดนี้แล้วมึงก็เห็น ตอนแรกกูก็แค่คิดอยากจะลองเล่น ๆ เพราะน่าสนใจ”
“แล้วตอนนี้ ?”
“ให้ตายเหอะซินมึงไม่น่าถาม…..
ตอนนี้กูอยากลองรักมันจริง ๆ ”
.
.
.
“แต่กูเกลียดที่มึงเมมชื่อไลน์หลานกูมากเลย มึงถามน้องเขายัง” บรรยากาศจริงจังหายไปกับคำพูดไม่มีมารยาทของสาวผิวแทนทันที หญิงสาวที่ทำหน้าเหม็นเบื่อใส่เพื่อนมือถือโทรศัพท์ของลัคไว้ เบ้ปากแรง ๆ ไปอีกที ลัคถึงกับหันขวับแย่งโทรศัพท์มา พร้อมตบหัวเพื่อนไปอีกที
“เสือก ! ”
ซินได้แต่เบ้ปาก อยากจะโก่งคออ้วกนักหนา ไม่คิดไม่ฝันว่าเพื่อนจะเป็นเช่นนี้ ปกติมันปากหมาถึงจะเป็นเกย์รับแต่นิสัยไม่ได้มุ้งมิ้งไปตามหน้าตามันหรอกนะ ครั้งแรกเลย ครั้งแรกจริง ๆ ที่เธอได้เห็นมุมนี้ตั้งแต่คบมา 22 ปี
‘YOU MINE’
หมั่นไส้ อี๋ อี๋ !
“เฮียไม่ต้องถือหรอก คิมถือเองได้”
“นั่นสิ แฟนมาถือของเค้าดีกว่านะ ของเค้าเยอะมากเลยอ่ะปล่อยไอ้เตี้ยไป”
“มึงหอบขึ้นรถเองสิไอ้บอย เสือกขนมาเอง”
“ถ้าไปเรียกกูที่อื่นนะ กูจะตบให้ปากไปติดหูมึงเลยไอ้ซัน”
“เลิกกัดกันได้แล้วทั้งสองคนนะ แบ่ง ๆ กันถือไป ช่วย ๆ กันค่ำกว่านี้เดี๋ยวรถติด”
ยิม พี่ชายคนที่สองของคิมมารับคิมวันนี้ หลังจากที่ก้าวลงรถพี่ชายก็วิ่งมากระโดดกอดฟัดตรงหน้าสถานีขนส่งจนพอใจก็ลากสัมภาระของเขาทั้งลายไปหอบเอาไว้ ให้คิมถือแต่กระเป๋าเป้อันเล็กของตัวเองกับถุงขนมนิด ๆ หน่อย ๆ ส่วนเบลล์กับซันก็เถี่ยงกันไปมาขนของมาขึ้นท้ายรถของบ้านคิมแล้วเข้าไปนั่งกันทันที
“ม๊าละเฮีย”
“ทำงานอยู่กับเฮียฮิม”
“อ๋อ พวกแกหิวไรเปล่า” คิมรับคำพี่ชายแล้วหันไปหาเพื่อนทั้งสองคนด้านหลัง
“กลับไปกินบ้านดีกว่าวะ” ซันตอบ เบลล์ก็พยักหน้าตาม
คิมพยักหน้าแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอบไลน์ที่สั่นตอนที่เขาขนของอยู่
Lucky : ถึงหรือยัง ?
KRK : เพิ่งถึงครับ
Lucky : อ๋อ กินข้าวยัง ?
KRK : ยังเลย อยู่บนรถเฮีย
Lucky : อ๋อ พี่ชายมารับสินะ แล้วสองคนนั้นละ?
KRK : กำลังไปส่งเลย แล้วก็ตรงกลับบ้าน
Lucky : อ๋อ นั่งรถมาเกือบสิบชั่วโมง ตูดเป็นสี่เหลี่ยมแล้วมั้งนั่น
KRK : ผมก็ว่างั้น นี่เมื่อยไปหมดแล้ว ถึงบ้านผมจะไม่นั่งเลยยืนกินข้าว
Lucky : ฮ่า ๆ ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก
มาให้พี่นวดให้ก็หายเมื่อยก้นแล้วแม้จะเป็นคำเล่น ๆ แต่คิมก็อดจะเขินไม่ได้กับที่พี่ลัคพิมพ์ส่งมา อยู่ดี ๆ ในหัวก็คิดภาพที่ลัคจะมาบีบนวดก้นตัวเอง พอคิดถึงขั้นนี้ก็รีบสะบัดหัวซะ
Lucky : เห้ย เงียบเลย พี่ล้อเล่น
KRK : เปล่าครับ ๆ ผมคุยกับพี่ชายเฉย ๆ
คิมรีบโกหกทันที เพราะไม่อยากให้อีกคนเข้าใจผิด ตัวเขาเองก็เขิน ไม่รู้ทำไมถึงไม่ปฎิเสธกันนะ แต่เขาคิดว่าคนพี่จะเปลี่ยนเรื่องคุยแบบที่ชอบเปลี่ยนเรื่องตลอดแต่กลับ ..
Lucky : ไม่ปฎิเสธที่พี่บอกจะนวดให้ แปลว่าอยากให้นวดก้นให้สินะ ?
อะ …แล้วทำไมต้องถามมาแบบนี้เนี้ย !!!!!!KRK : ไม่ใช่นะพี่
Lucky : รังเกียจพี่หรอ ?
T^T ทำไมรู้สึกโดนต้อนละ ฮือKRK : ไม่ได้รังเกียจนะครับ !
Lucky : แปลว่าอยากให้พี่นวด ?
: ใช่มั้ย ?
: อยากให้พี่นวดจริง ๆ หรอครับน้องคิม ?
: ทำไมไม่ตอบละ ?
: อะไรกัน ไม่อยากคุยแล้วหรอ
: อยากให้นวดก็ทักมาได้ทุกเมื่อนะ
แล้วงี้ใครมันจะกล้าทักละโว้ยยยยยยยยยยยย !!!
คิมอยากจะตะโกนร้อง ทำไมพี่ลัคเป็นคนแบบนี้กัน อะไรกันเนี่ย ตัวเขาเนี่ยสิอะไร เขินทำไม เขาไม่เคยโดนใครพูดเล่นแบบนี้ใส่ แล้วไม่รู้ทำไมไม่ได้รู้สึกว่าคำพูดนั้นจะทำให้เขาอารมณ์เสียเลยทั้งที่คำพูดส่อด้วยซ้ำแต่เขากลับเขินเนี่ยนะ บ้าไปแล้วแน่ ๆ ทั้งที่จริง ๆ ปฎิเสธไปก็จบ
“เป็นอะไรนะคิม ทำหน้าแปลก ๆ ตั้งแต่ก้มเล่นโทรศัพท์ มีใครส่งข้อความมาจีบหรือไง !” มาอีกแล้วนิสัยขี้หวงน้องชายของเฮีย คิมหันไปมองพี่ชายแล้วได้แต่ส่ายหัว
“คุยกับรุ่นพี่เฉย ๆ”
“ผู้หญิงผู้ชาย ขอดูหน้าซิ”
คิมก็รับตอบทำตามทันที เพราะถ้าไม่ทำก็รู้ว่าต้องโดนตื้อจนรำคาญ เขาไม่ได้มีอะไรปิดบังนี่ กดเข้ารูปโปรไฟล์ของลัคแล้วยื่นให้พี่ชายดู แต่มีเพื่อนสนิทสองตัวด้านหลังก็เสนอหน้าเข้ามาดูด้วย พอเฮียมองก็เลิกคิ้วขึ้นทันที
“ผู้หญิง ?”
“เปล่าค่ะตัวเอง พี่ลัครุ่นพี่มหาลัยของคิมมัน เป็นผู้ชาย”
“เฮ้ยจริง แต่ไมสวยจังว่ะ”
“ใช่ สวย เป็นเกย์แหละตัวเองง”
คิมหันไปมองเพื่อนด้วยสายตาปราม ๆ แต่มันก็ลอยหน้าลอยตา
“จีบคิม ?”
“เฮ้ย ! จะใช่ได้ไงเฮีย สวยขนาดนี้ตัวก็สูงกว่าคิมด้วยนะ” คิมรีบแก้ต่างทันที พี่ชายก็ได้แต่พยักหน้าเออออ
“ก็จริง สวยขนาดนี้น่าจะมีแฟนแบบหล่อ ๆ แมน ๆ หุ่นเท่ห์ทรมานใจสาวแบบเฮียซิถึงจะถูก” พอมาถึงตรงที่ยอตัวเอง ทั้งสามคนในรถเบ้ปากแล้วกลอกตาทันที คิม เบลล์ ซัน อยู่ด้วยกันมาแต่เด็กก็ไม่ชินจริง ๆ กับความหลงตัวเองของเฮียยิมที่ทุกวันนับยิ่งขึ้น แต่ก็เถียงไม่ได้หรอกเพราะเฮียยิมเป็นถึงเดือนแพทย์เดือนมหาลัยและเดือนมหาลัย สาวนี่ตามเหมือนตามขี้ แต่เฮียก็ไม่เคยเห็นจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน
“พวกแกหยุดทำหน้าแบบนั้นเลยนะ เฮียแค่พูดความจริง เขาไม่สนไอ้หมูของเฮียหรอก”
“โอ้ยย เฮีย หัวคิมไม่ใช่เกียร์รถนะ”
คิมโวยวายทันทีที่เฮียละมือจากเกียร์รถมาโยกหัวตัวเอง พวกเขานั่งรถคุยกันตลอดทางเพราะความคิดถึงและผูกพันทั้งสี่คนด้วยนั้น ยิมไปส่งเพื่อนน้องชายทั้งสองคนแล้วตรงกลับเข้าบ้านไม่ได้ตรงไปที่ศูนย์ คิมกับยิมขนเข้าบ้าน พอลงมาก็เจอม๊ากับเฮียฮิมพอดี คิมรีบตรงไปกอดทั้งสอง กอดหอมกันอยู่พักใหญ่เลย ม๊าของเขาก็ตัวเล็กเหมือนเดิม ตัวสูงพอ ๆ กันเลยกับพี่หนูเพื่อนของซินป้ารหัสตัวเอง ผิวขาว ตัวอวบ ๆ เหมือนเขาไม่มีผิด ส่วนเฮียยิมก็ร่างสูงใหญ่หน้าคมมาทางคนเป็นแม่ ไม่เหมือนฮิมที่ได้หน้าตี๋ ๆ ทางพ่อของคิมที่เป็นคนจีน แต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว
“ดูอวบขึ้นนะเรา”
“ก็อยู่แต่ห้องไม่ได้ไปได้ไหนนิเฮีย เรียน กิน น้อย ยิ่งหน้าซอยนะของกินเยอะมาก”
“ขนาดนั้นเลยหรอเรา หึหึ”
คิมยิ้มให้พี่ชายคนโตของบ้านอย่างเฮียฮิม พออยู่กับครอบครัวหรือคนสนิทมากคิมก็จะคุยจ้อไปเองตลอด เฮียฮิมลูบหัวคิมเบา ๆ แล้วยิ้มให้น้องตัวเองที่ดูอวบขึ้นมากกว่าเทอมที่แล้ว
“สงสัยอีกไม่นานก็จะกลับไปเป็นไอลูกหมูของผมแล้วมั้งเฮีย”
ยิมล้อน้องทันที เมื่อก่อนคิมอ้วน ๆ ขาว ๆ อมชมพูหน่อยเหมือนลูกหมูตัวสูงกว่าเพื่อนในชั้นประถม พอมัธยมต้นก็เท่าเพื่อนอยู่หรอก มอสามเท่านั้นแหละเหมือนมีใครไปถอดสวิทต์การพัฒนาส่วนสูงของน้องเขาแถมผอมลงอีก เลยดูเล็ก ๆ บาง ๆ ไปซะงั้น ผู้ชายตัวเตี้ยกว่าคิมมีเยอะแยะ แต่ที่น่ารักเท่าน้องเขาหนะไม่มีแล้ว ยิมเชื่อเช่นนั้น (ไอคนหลงน้อง)
“ไม่กลับไปอ้วนแน่นอน”
คิมว่าพร้อมเชิดหน้าใส่ เขาผอมอยู่แล้วเพราะกลับมาก็ช่วยงานแน่นอนและไหนจะพวกเบลล์ซันชอบชวนไปว่ายน้ำ บางทีก็ตามเฮียฮิมกับเฮียยิมไปฟิตเนสก็ต้องมีออกกำลังกายแน่ ๆ ว่างหน่อยก็จะมาเล่นเกมส์กับเฮียยิม
“เหรอ ๆๆ ไอ้หมู”
“อย่ามาโยกหัวคิมนะเฮียยยยยยยย ! เฮียฮิม เฮียยิมแกล้ง !!”
ฮิมได้แต่หัวเราะภาพสองพี่น้องที่เริ่มหยอกล้อกันอีกแล้ว ยิมจับหัวคนน้องไว้แล้วเอาผมซอยสั้นที่ตอนนี้ยาวมาเยอะแล้วถูเข้ากับหน้าน้อง คิมก็จะงับมือพี่ชายให้ได้โยกไปมาจนจะตกโซฟาฮิมเลยต้องจับแยกเสียก่อนจะมีใครหล่นลงไปหัวชนขอบโต๊ะ
“ พอ ๆ เลิกเล่นกันได้แล้ว เดี๋ยวน้องคอเคล็ด”
คิมหน้ามุ่ยย้ายตัวไปนั่งข้างหลังพี่ชายคนโต แล้วคนที่มีศักดิ์ที่สุดในบ้านก็เดินออกมาจากโซนห้องครัว นั่งลงคิมเลยย้ายตัวเองไปกอดแขนคนเป็นมารดาทันที
“ไปอาบน้ำนอนได้แล้วไปนั่งรถมาเหนื่อย ๆ”
“เดี๋ยวก่อนครับ อ๋อใช่ คิมซื้อขนมมาฝากด้วย เจ้าอร่อยเลยมีเสื้อให้ม๊าด้วยนะ ใส่สบายแน่ ๆ” คิมนึกขึ้นได้แล้วหยิบของที่กองอยู่ข้าง ๆ โซฟามาจัดแจงให้แต่ละคน
“ไม่เห็นต้องซื้อเลยลูก เงินเหลือก็เก็บไว้สิ”
“ก็ซื้อให้บ้างไม่เห็นเป็นไรเลย ม๊าลองไปใส่ดูนะ ๆ แล้วนี่ของเฮียฮิมซื้อเทคไทมาให้ ส่วนของเฮียยิม ไม่มี”
“อ่าวเฮ้ย ไหงงั้นละ”
“ก็ไม่มีให้อะ”
ยิมโวยวายทันทีที่น้องชายหัวแก้วหัวแหวนไม่ซื้อของให้ พอเห็นท่าทีพี่ชายจะงอนคิมเลยหยิบกล้องเล็ก ๆ ออกมา
“ดูทำหน้าเข้า ของพี่ชายสุดที่รักทั้งทีไม่มีได้ไงกันละ”
“เฮ้ย รุ่นนี่อันลิมิเตดนี่หว่า มีขายแล้วหรอวะ”
ยิมตาโตยิ้มกว้างดีใจทันทีที่เห็นนาฬิกาแบรนด์เนมยี่ห้อที่ตนชอบ เขาลองหยิบมาสวมที่ข้อมือทันที เขามองนาฬิกาข้อมือด้วยความสุขเต็มเปี่ยม ไม่ใช่น้องไม่เคยซื้อให้ คิมซื้อให้บ่อยมากแต่เขาก็ดีใจเป็นปลื้มทุกครั้งไป ยิมหันไปกอดน้องชายแล้วกดจมูกหอมลงที่หัวแรง ๆ คิมได้แต่ยิ้มดีใจที่พี่ชายชอบของที่ซื้อให้
“พอ ๆ เลิกฟัดน้องได้แล้ว ไปกินข้าวกันแม่ให้ป้าแช่มจัดโต๊ะให้แล้ว”
ทุกคนเดินเข้ามาให้ห้องครัวแล้วรับประทานอาหารกันพร้อมหน้าพร้อมตา มารดมองภาพตรงหน้าเธอด้วยความสุข ถ้ามีคุณอยู่ก็คงดีนะคะ..
เธอพยายามเติมเต็มทุกส่วนเพื่อไม่ให้ลูก ๆ ของเธอขาดหายอะไรไป เหตุการณ์เมื่อ 4 ปีที่แล้วทำให้เธอเสียประมุกข์ของบ้านไปแต่ลูก ๆ ของเธอทุกคนไม่ได้มีแววตาที่เศร้าสร้อยเลยหลังจากครบ7วันที่สูญเสียพ่อไป ลูกของเธอพยายามเข้มแข็งเพื่อเธอ เธอรู้ดี ลูกของเธอช่างเข้มแข็งจริง ๆ
“ม๊า..” เสียงอ่อย ๆ ของลูกชายคนเล็กทำให้เธอตื่นจากความคิดหันไปเห็นลูกชายทั้งสามมองเธออย่างห่วง ๆ ทำให้เธอแค่ยิ้มออกไป
“ไม่มีอะไรหรอกคิม ม๊าแค่มีความสุขที่เห็นพวกลูกมีเติบโต มีความสุขและรักกันมากขนาดนี้เท่านั้น”
“พวกเรารักม๊านะครับ” ฮิมพูดขึ้นมา
“ม๊าอย่าร้องนะ”
เธอตกใจนิดหน่อยที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองร้องไห้ก็ตอนที่คิมเอานิ้วมาปาดน้ำตาของเธอออก ก่อนลูกชายคนเล็กจะเข้ามาสวมกอดเธอตามด้วยลูกชายอีกสองคน
เธอให้สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าต่อไปนี้อะไรที่ทำให้ลูกเธอมีความสุขเธอก็จะทำ
______________________________________________________________________
มาต่อแล้วคร๊าบ มาให้แบบเต็ม ๆ แอบปั่นเวลางานตัวเอง และเลิกงานสองทุ่มก็ปั่นยาวเลยครับ กลัวรอ
เม้นเป็นกำลังใจให้บ้างนะคร้าบบบบบบบ