Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1336369 ครั้ง)

ออฟไลน์ yayee2

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +554/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.9] pg.13 -- 25/6/59
«ตอบ #420 เมื่อ27-06-2016 10:13:24 »

ฟังเรียงความน้องอ้นไปก็น้ำตาไหลไป งือออ...
สามพี่น้องนี่แหละนะคือทองเนื้อเก้าจริงๆ รู้คิด รู้อยู่ รู้ทำ ทั้งเด็กเล็กเด็กหนุ่มเลย
ใครมีลูกมีหลานแบบนี้เป็นอะไรที่มีสวรรค์อยู่ในใจจริงๆเลย
ขอเถิดนะ ขอเถิด ขอว่า...กลับจากทะเล หวังว่าคงมีอะไรที่ดีๆเข้ามมาในชีวิตทั้งของพี่กุนต์และพี่น้องสามคนนี้นะ
ไม่อยากเห็นชีวิตปากกัดตีนถีบแบบสุดๆ ของสามพี่น้องอีกต่อไปล่ะเหนื่อนแทนเหลือเกินนน....
(กลัวว่าโอ๊ตจะเป็นอะไรไปก่อนที่ต้นกล้าอ่อนๆสองต้นจะยืนหยัดได้ด้วยตนเองน่ะ)
และก็อยากเห็นแสงอันเรืองรองผ่องใสในใจของพี่กุนต์มันเริ่มเปล่งประกายขึ้นอีกครั้ง
คงไม่เป็นการขอมากจนเกินไป..นะ...นะ ...นะ :m13:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.9] pg.13 -- 25/6/59
«ตอบ #421 เมื่อ27-06-2016 11:35:47 »

น้ำตาไม่รู้มาจากไหนไหลเป็นปี๊บกับเรียงความนั้น น้องๆน่ารักที่สุดเลย  :กอด1:  :กอด1:  :กอด1:
พร้อมแล้วค่า ป่ะเถ่อะไปเที่ยวกันแอบซุกกระเป๋าไปด้วย
สารบัญค่า
Chapter 8
Chapter 9

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.9] pg.13 -- 25/6/59
«ตอบ #422 เมื่อ27-06-2016 16:04:25 »

ยิ่งอ่านก็ยิ่งมีความรู้สึกว่า
ครอบครัวสุขสันต์นี่ดีจังเลยน้า >_<
มีความพ่อแม่ลูกรุนแรงมากค่ะ
จากตอนแรกไม่ค่อยปลื้มอินทัช แต่ตอนนี้รู้สึกหวั่นไหวขึ้นทุกที
ฮืออออออออ เราว่าเราเข้าใจพี่กุนต์นะคะ ก๊ากกกกกกกก

ว่าแต่เดี๋ยวจะไปลองกินสุกี้แบบพี่กุนต์มั่งงงง
ชุบไข่แบบนั้นยังไม่เคยกินเลย ต้องลองงง

อยากไปทะเลตอนหน้าแล้วววววววววววววว

ออฟไลน์ Ain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.9] pg.13 -- 25/6/59
«ตอบ #423 เมื่อ28-06-2016 14:31:25 »

รอดูความสัมพันธ์
ที่อาจจะพัฒนาในไม่ช้านี้ ?
 :katai1:

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #424 เมื่อ28-06-2016 20:16:02 »




Chapter 10




พสิษฐ์กึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟา มือกดรีโมตเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อย ถ้าเป็นแต่ก่อน เจ้าของห้องคงตบหัวเขาแล้วสั่งให้หาช่องไหนสักช่องและดูเข้าไป แต่ตอนนี้เจ้าคนๆนั้นกลับนั่งสไลด์ไอแพดเล่น ท่าทางอารมณ์ดี
   
“เบื่อคนมีความรัก” คนเป็นน้องหยอกเข้าให้
   
กนธีกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงแมววัยเด็ก เลยไม่ทันได้สนใจฟัง
   
“เบื่อคนมีความรัก!!”
   
ชายหนุ่มหันไปมอง เลิกคิ้วอย่างงุนงง “อะไรนักหนา ไอ้ไผ่ลู่ลม..เบื่อนักก็กระโดดตึกไปซะ”
   
พสิษฐ์หน้าหงิก มองคนที่ก้มหน้าอ่านบทความท่าทางตั้งใจ “เออ..ผมมันหมาหัวเน่า”
   
“อืม..ไม่มีสำนวนว่าแมวหัวเน่าด้วย” กนธีคลิกเข้าเว็บสัตว์เลี้ยง “งั้นเป็นหมาหัวเน่าน่ะถูกต้องแล้ว”
   
..น้องชายคนดีอยากบีบคอพี่ชะมัด..
   
“นี่..ถามจริงเถอะ” เขาลุกจากโซฟา เดินไปบิดขี้เกียจแถวระเบียงคอนโด “จบจากเด็กชื่อไววิทย์ ตอนนี้กำลังจะได้เด็กใหม่ชื่ออินทัชใช่ไหม”
   
“โดดตึกไปเลยไป” กนธีโบกมือปัดๆ “พี่ยังไม่ทันได้คิดอะไรถึงขั้นนั้นเลย มาชี้โพรงให้กระรอกทำไมวะ”
   
“นั่นไง!” พสิษฐ์ขยี้หัว “ผมอุตส่าห์ดึงไอ้หมอบีกลับมา ทำไมพี่กุนต์ทำงี้เนี่ย”
   
“อย่าลืมจรรยาบรรณระหว่างผู้บำบัดกับคนไข้สิ อย่างน้อยก็รอ terminate case ไปแล้วสักสองปีดีไหม” เขาดูคลิปวีดีโอลูกแมวร้องแง้วๆ อา..ให้ตายสิ คิดถึงฝ่าเท้านุ่มๆกับเล็บอ่อนๆของเจ้าสี่ถั่วเป็นบ้า
   
“อย่ามาอ้าง ต่อให้ปิดเคสไปสักห้าปี พี่ก็ไม่เอาไอ้หมอมัน”
   
“เออ..พี่ว่าจะซื้อเบาะเจลให้แมวนอนดีไหม” กนธีเปลี่ยนเรื่อง “แกงส้มชอบขุดเบาะผ้าออกมาเรื่อยเลย ไม่รู้ร้อนหรือเปล่า”

เขาเอาแมวทั้งหลายใส่กรงไว้ เพราะเวลาคนไปยุ่งมากๆ แกงส้มมันชอบคาบลูกหนี เขากลัวว่าไปแล้วจะไปลับ เลยต้องขังตัวไว้ กรงที่ไปซื้อมาค่อนข้างใหญ่ สบายพอสมควร พื้นตะแกรงเขาก็เอาผ้ามาปูสามชั้น ทับด้วยเบาะอีกชั้น แต่ช่วงที่อากาศร้อน พวกแมวคงจะอึดอัดเพราะต้องเอากรงไว้ในบ้าน ลมเลยไม่โกรก ถ้าไว้ข้างนอก ยุงก็จะกัดอีก 
   
“ถ้าเล็บมันเจาะลงเบาะจะอันตรายนะ กลัวเจลมันไหล แล้วแม่กับลูกมันจะเลียเข้าไป” พสิษฐ์พึมพำ หลงเปลี่ยนเรื่องตามพี่ชายไปด้วย
   
“ไม่งั้นก็ไปซื้อกรงใหม่แบบมีมุ้งลวดปิด แล้วเอาไว้นอกบ้าน ลมในสวนเย็นดี” ตอนซื้อกรงซี่ใหญ่ กนธีซื้อด้วยความคิดที่ว่า อยากจะไปนั่งมองลูกแมวบ่อยๆแค่นั้น ถ้ามีมุ้งลวดคงจะมองไม่ถนัด แต่ไม่ได้คิดถึงเรื่องการใช้งานเลย
   
“ฝนตกทำไง”
   
“อุ้มแกงส้มกับสี่ถั่วมาเข้ากรงเล็ก เอาเข้าบ้าน”
   
พสิษฐ์หัวเราะ กับเรื่องของคนอื่น พี่กุนต์ชอบทำอะไรง่ายๆให้ซับซ้อนและยุ่งยาก ไม่เหมือนการใช้ชีวิตของตัวเองที่ค่อนข้างมักง่ายเลย
   
“ผมว่า พี่ยกห้องให้พวกมันสักห้อง เอาที่มีหน้าต่าง มีมุ้งลวดติดกันยุง แล้วปล่อยแกงส้มออกมาจากกรง ให้มันนอนบนพื้นกระเบื้องก็ได้ ทำห้องอนุบาลเด็กอ่อนให้เลย หมดเรื่องไป ไม่ต้องซื้อกรงใหม่ ไม่ต้องยกเข้าๆออกๆ ไม่ต้องกลัวแมวร้อนด้วย แถมเป็นส่วนตัวอีกต่างหาก”
   
กนธีดีดนิ้วเป๊าะ “เยี่ยม..ให้รางวัลเป็นผักบุ้งที่เพาะเองหนึ่งตะกร้า”
   
“ที่เพาะไว้ในห้องน้ำ ผมไม่เอานะ!!” พสิษฐ์ทำหน้าขยะแขยง “ทีหลังก็เพาะเห็ดฟางซะด้วยเลยสิ..” เสียราคาคอนโดดิแอดเดรสชิดลมชะมัด พี่กุนต์จะทำเกษตรกรรมในห้องพักแล้ว
   
“มีแต่เห็ดนางฟ้าน่ะ เอาไหม” เขาค้นหัวเชื้อออกมาโชว์
   
คนน้องถอนหายใจ สุดท้ายก็ได้แต่หัวเราะหึๆ หันมองนาฬิกาแล้วเห็นว่าทุ่มกว่าแล้ว “กลับดีกว่า พรุ่งนี้มีคนจะไปเที่ยวทะเล อยู่นานเดี๋ยวจะรบกวนเวลานอน”
   
กนธีเอาถุงเชื้อเห็ดนางฟ้าไปวางที่เดิม “โทษทีที่ไม่ได้ชวน เอาไว้วันหลังนะ”
   
“เอาเถอะ..น้องคนนี้มันที่โหล่อยู่แล้วนี่” พสิษฐ์คว้าเสื้อนอกมาพาดบ่า “ขับรถดีๆนะพี่ อย่าหลับในล่ะ”
   
“ไผ่..” คนที่รู้สึกผิดเล็กน้อยเรียกอีกฝ่ายที่กำลังจะเดินออกจากห้องไป
   
ร่างสูงหันกลับมา คาดเดาว่าพี่คงจะชวนเขาไปด้วย
   
..อยากไปเหมือนกันนี่นา..ไม่ได้เที่ยวทะเลกับพี่กุนต์นานแล้ว..
   
“แกนี่มันหัวล้าน ขี้ใจน้อยจริงๆเลยว่ะ” กนธีหัวเราะหึ “กินกาวิสคอลแล้วไปนอนนะไอ้น้อง”
   
“พี่กุนต์!”

......


เช้าวันรุ่งขึ้น กนธีที่ค่อนข้างจะตื่นเต้นรีบขับรถไปรับสามพี่น้องตามที่นัดแนะกันไว้ ตอนที่ถึงหน้าปากซอย เขาเห็นอินทัชยืนจูงน้องอ้น มืออีกข้างสะพายกระเป๋าเป้ใบยักษ์ เดาว่าคงจะมีเสื้อผ้าสำหรับเล่นน้ำและสัมภาระจิปาถะของน้องๆอัดแน่นอยู่เต็มใบ ส่วนน้องอ้นก็จูงมือน้องอุ้มอีกต่อหนึ่ง
   
..น่ารัก..น่ารักกันมากๆ..
   
กนธีขับรถเข้าไปจอดเทียบ ปลดล็อคและลดกระจกลง “ขึ้นมาเลยเด็กๆ”
   
อินทัชสวัสดีคนอายุมากกว่า ตามด้วยน้องชายอีกสองคนที่ยกมือธุจ้ากันหน้าสลอน
   
“เดี๋ยวพาแวะไปเยี่ยมแกงส้มก่อนนะแล้วค่อยไปทะเลกัน ได้ค้างทั้งคืน ไม่ต้องรีบ” กนธีหันมาบอก

อ้นกับอุ้มดูจะตื่นเต้นพอๆกับคนชวน กนธีดีใจเพราะทั้งชีวิตไม่เคยมีเด็กๆล้อมหน้าล้อมหลังแบบนี้มาก่อน เขาเป็นคนที่ชอบให้มากกว่ารับ เลยค่อนข้างมีความสุขเป็นพิเศษเมื่อได้ทำอะไรบางอย่างลงไป แล้วได้เห็นอีกฝ่ายดีใจด้วยความไร้เดียงสาแบบไม่มีการปรุงแต่ง ในขณะที่อ้นกับอุ้มเอง นอกเหนือจากพี่โอ๊ตก็ไม่เคยมีใครที่ดูอบอุ่น ใจดี คอยห่วงใยเอาใจใส่และทำดีกับพวกเขาถึงขนาดนี้มาก่อน เจ้าหนูทั้งสองเลยหลงรักกนธีได้ไม่ยาก

“ขอบคุณที่ชวนมานะครับ” อินทัชพูด “พวกผมมันเด็กดอย เกิดมายังไม่เคยเที่ยวทะเลเลย”

“ไม่เป็นไรๆ ยังไงถ้ามีโอกาสจะชวนบ่อยๆ”

กนธีขับรถพาพวกเด็กน้อยไปที่บ้านใหญ่ของเขา บ้านหลังนี้มีแค่พ่อแม่ ญาติพี่น้อง และคนนอกอย่างศรัณย์ที่เคยมา หากจะพูดถึงเด็กในอุปการะคนอื่น เขาไม่เคยบอกเล่าด้วยซ้ำว่าที่พักสำหรับครอบครัวอยู่ที่ไหน

อ้นกับอุ้มตาลุกวาวเมื่อรถคันงามมาจอดอยู่ตรงประตูรั้วเหล็กดัด เมื่อพี่กุนต์กดรีโมตเปิด มันก็เลื่อนออกเองโดยไม่ต้องมีคนมาช่วย ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนสวนวิ่งเหยาะๆตามมากระทั่งรถเลี้ยวผ่านแนวสวนร่มรื่นไปจอดนิ่งอยู่หน้าบ้าน

อินทัชพาน้องลงมายืนรอ เขาหันมองโดยรอบ พี่กุนต์ดูจะชอบต้นไม้เอามาก

สวนสไตล์ทรอปิคอลจัดได้กลมกลืนกับตัวบ้านหลังโตที่เป็นปูนผสมไม้สักทอง พรรณไม้เขตร้อนชื้นและสปริงเกอร์ที่ฉีดน้ำตลอดเวลาให้บรรยากาศเย็นสบาย ด้านข้างเห็นบ่อน้ำที่ขุดเป็นแนวยาว วนไปตลอดความกว้างของพื้นที่ข้างบ้าน มีสะพานไม้ทอดผ่านไปยังสวนมอสที่ปลูกไว้ตามกำแพงศิลาแลงกับภาชนะดินเผาที่วางลดหลั่นกัน

น้องอุ้มดูจะชอบเป็นพิเศษเมื่อเห็นปลาคาร์ฟว่ายอยู่ในสระ อ้นมองศาลาไม้ที่มีชิงช้าแขวน ใกล้ๆกันเป็นชั้นน้ำตกหิน ละอองน้ำที่ตกกระทบลงในบ่อกระเซ็นเป็นฝอย เกาะพราวอยู่บนใบเฟิร์นและต้นเดหลี ปลาดูดตัวสีดำเมื่อมว่ายเชื่องช้าไปตามพื้นข้างใต้ บริเวณขอบบ่อตกแต่งด้วยก้อนหินน้อยใหญ่ มีสปอร์ตไลท์ให้ความสว่างในเวลากลางคืน

“มันจะรู้สึกชื้นๆหน่อยนะ” กนธียิ้มจาง “ครอบครัวพี่ชอบต้นไม้น่ะ อย่างสวนก็จะกินบริเวณสองเท่าของตัวบ้าน ด้านหลังมีสระว่ายน้ำด้วยนะ แต่คนละสระกับบ่อปลา”

อ้นหัวเราะครึกครื้น ตอนแรกนึกว่าจะต้องลงไปจับปลาเสียแล้ว

“เอาไว้วันหลัง เด็กๆมาว่ายน้ำที่บ้านพี่สิ”

สระว่ายน้ำของเขาทำเป็นทรงฟรีสไตล์ อยากจะให้มันกว้าง มันคดโค้ง หรือเลี้ยวยาวไปตรงไหนก็ตามใจอยาก ถ้าทำขึ้นรูปเป็นสี่เหลี่ยมหรือมีกรอบบังคับ มันขัดกับการใช้ชีวิตอิสระของเขาเอง รอบๆสระ กนธีสั่งให้ลงต้นไม้เอาไว้จนร่มรื่น ด้านบนมีซุ้มไม้ระแนง ปลูกพวงชมพูและม่านบาหลี สำหรับการลงว่ายน้ำช่วงกลางวัน

อ้นกับอุ้มดีใจจนอยู่ไม่สุข เด็กๆขออนุญาตวิ่งสำรวจพื้นที่โดยลืมเรื่องของแกงส้มไปเลย

อินทัชรับน้ำเย็นจากแม่บ้านที่เอามาเสิร์ฟตรงโต๊ะไม้ในสวน กนธีให้คนชงน้ำแดงหวานๆให้น้องสองคน แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวซนจะจูงมือกันไปนับปลาคาร์ฟในบ่อเสียแล้ว

“พี่กุนต์อยู่ที่นี่คนเดียวหรือครับ”

“ปกติอยู่คอนโดน่ะ..ที่นี่มันใหญ่ไป อยู่แล้วเหงา” กนธีหัวเราะเฝื่อน “พี่มันคนขี้เหงา พอศรัณย์ไม่อยู่ พี่สำนึกผิดได้แค่ปีสองปี เข้าปีที่สามก็หาคนมาอยู่เป็นเพื่อน”

คนเป็นผู้ใหญ่นั่งนับนิ้ว มีคนนั้นคนนี้ผ่านเข้ามา รวมไววิทย์ก็เป็นคนที่สี่เข้าไปแล้ว

“มันไม่ใช่พฤติกรรมที่น่าเลียนแบบหรอกนะ แล้วก็โดนหักหลังเสียจนชิน แต่พี่ก็ยังไม่เข็ด” เขาดื่มน้ำเปล่าไปอึกหนึ่ง “คนแรกเนี่ย..ยังไม่ทันจะครบเดือน เด็กมันก็ขอเลิกก่อน บอกว่าต้องกลับไปต่างจังหวัด ที่ไหนได้..มันไปทำสาวท้องไม่ยอมบอกกล่าว” กนธีหัวเราะ “คนที่สอง..มีแฟนอยู่แล้วเป็นสาวออฟฟิศแต่ก็ยังโกหก พี่มารู้ก็เพราะว่ามันหาทางเลี่ยงพี่อยู่ตลอดเวลาที่คบกัน คนที่สาม..มันหาคนมาอุปการะพร้อมกันสองคน รถไฟชนกันดังโครม”

อินทัชครางในลำคอ

“คนที่สี่..รายล่าสุดที่เพิ่งเด้งไป นั่นแอบจีบสาวมหาลัย ชอบเล่นมุกอ้อน เอาเงินเอาของไปให้น้องสาว”

“ผมไม่ชอบคนแบบนั้น” เด็กหนุ่มว่า “คนที่มีคนรักอยู่แล้ว..แต่ทรยศ”

เพราะพ่อเขาเป็นคนทรยศคนนั้น ครอบครัวของเขาถึงต้องล้มลุกคลุกคลาน แม่ต้องลำบากหาเช้ากินค่ำ ในขณะที่พ่อไปหลงระเริงกับผู้หญิงคนใหม่แล้วไม่กลับมาเหลียวแลพวกเขาสามพี่น้องอีก

..เขาสาบานกับตนเองว่าจะไม่มีวันทำตัวซ้ำรอยสันดานมักมากของพ่อ..

“น่า..มันก็เรื่องธรรมดา” กนธีถือสาหาความเสียที่ไหน “อีกอย่าง..ไม่ได้คบกันแบบคนรักหรอก มันเป็นข้อตกลงร่วมกันน่ะ พี่ช่วยดูแลเขา เขาดูแลพี่ แต่เมื่อไรที่ผิดกฎก็ทางใครทางมัน เพียงแต่มันน่ารำคาญที่ไม่ยอมมาพูดกันตรงๆ ต้องให้จับได้ รอจนเขาบนหัวพี่งอกออกมาสองมิลก่อน”

อินทัชหัวเราะในลำคอ “ยังไงก็แล้วแต่..ผมว่าพี่กุนต์คงต้องระวังเรื่องประวัติคนพวกนั้นหน่อย”

“หมายถึงประวัติอาชญากรรม หรือประวัติทางเพศ” อายุปูนนี้แล้ว ไม่ต้องมานั่งอายเรื่องเซ็กซ์หรอก ผู้ชายด้วยกันก็พูดมันตรงๆนี่แหละ “อย่างแรกพี่ตรวจสอบนะ อย่างที่สอง ก่อนจะคบกัน พี่บังคับตรวจเลือดทุกคน โหดไหม” เขาหัวเราะ “พอคบกัน มันก็ต้องเซฟตัวเอง ค่าถุงยางน่ะมันถูกกว่าค่ายาต้านเชื้อ”

อินทัชเอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม คิดตามจนคิ้วขมวด

“เฮ้ๆ..พี่ไม่ได้มั่วนะ สองคนแรกพี่ไม่ได้มีอะไรด้วย คนที่สามก็..ไม่รู้สิ ยังไม่อยากให้ใครมาซ้ำรอย ก็เลยขอเป็นคนทำ” กนธีขบขัน “เพิ่งจะมายอมก็คนที่สี่นี่แหละ แต่พี่มันแก่แล้ว เดือนละครั้งยังพอเลย”

คนฟังสำลักโขล่ก ใบหูร้อนผ่าวเมื่อได้ยินคำพูดตรงตัวจากอีกฝ่าย

“มันเรื่องธรรมชาติ อย่าไปคิดมาก” เขายิ้ม แต่แล้วก็นึกอะไรได้เมื่อเห็นท่าทางอีกฝ่าย “อย่าบอกนะว่ายังไม่เคย”

อินทัชเสมองทางอื่น ไม่ปฏิเสธคำถามนั้น

ตายห่า..กนธีครางในใจ เขาพูดอะไรที่มันล่อลวงเด็กเกินไปหรือเปล่า

“ผมแค่คิดว่า..” เขามองน้ำตกที่ไหลเรื่อย “อยากจะมีอะไรกับคนที่ผมรัก..ไม่ใช่แขกของร้าน หรือใครก็ได้”

ชายหนุ่มนิ่งอึ้ง เขาคิดว่าหาเด็กผู้ชายที่มีความคิดแบบนี้ ในสังคมสมัยนี้ได้ยากเต็มที

“ถ้าเป็นลูกเป็นหลานจะยกสมบัติให้หมดเลย”

“ค่าเวอร์จิ้นของผมน่ะหรือครับ”

กนธีหัวเราะชอบใจ

..แล้วแบบนี้เขาจะดื่มเวอร์จิ้นโมจิโต้ยังไง ไม่ให้นึกถึงความบริสุทธิ์ของเจ้าโอ๊ตกันล่ะนี่..

อ้นกับอุ้มที่สำรวจรอบบ้านจนพอใจวิ่งกลับมาหาผู้ใหญ่ทั้งสอง ตอนนี้เพิ่งจะนึกถึงลูกแมวออก

“พี่กุนต์คร้าบ..อยากเจอแกงส้มแล้วอ่ะ”

“ไปครับไป” กนธีลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนก้มลงจูงมือเด็กคนละข้าง “มาๆ..ตาแก่จะพาทัวร์บ้าน”

อินทัชมองตามแล้วได้แต่ยิ้มระอา

กนธีพาเด็กวัยกระเตาะไปนั่งมองลูกแมว ดูแกงส้มให้นมและเลียลูก กระทั่งพวกสี่ถั่วหลับ ถึงได้บอกว่าได้เวลาเดินทางไปทะเลแล้ว อ้นกับอุ้มยังมีพลังงานเหลือเกินขีดจำกัดเลยชวนพวกผู้ใหญ่คุยเจื้อยแจ้วตลอดทางไปชลบุรี ยิ่งตอนที่ต้องโดยสารเรือใหญ่ข้ามฟากไปยังบนเกาะ เด็กๆที่เพิ่งเคยเห็นทะเลเป็นครั้งแรก ถึงกับดีใจจนนั่งไม่อยู่สุข

“หนูได้กลิ่น” อุ้มทำจมูกฟุดฟิด “เกลือ..กลิ่นเกลือ!”

กนธีหัวเราะท่าทางไร้เดียงสา เขาตบม้านั่งให้เด็กชายปีนมานั่งข้างกัน ส่วนน้องอ้น อินทัชพาไปยืนเกาะรั้ว ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่ได้มาเที่ยวพัทยาเป็นครั้งแรก

“ชอบไหมครับคนเก่ง” เขาลูบปอยผมชื้นเหงื่อบนหัวเหม่งของน้องอุ้ม

แทนคำตอบ อุ้มกลับโผเข้ากอด เอาหน้าซุกแนบท้องแบบไม่บอกกล่าว มือน้อยๆกระพุ่มขึ้นไหว้ขอบคุณ กนธีหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ ก่อนที่ความใสซื่อจากตัวเด็กชายจะแผ่ออกมาทำให้เขารู้สึกอุ่นซ่านไปทั้งหัวใจ

“ถ้าชอบ เอาไว้วันหลังจะพามาอีกครับ” เขาขยี้ผมนุ่มลื่น กลิ่นแชมพูลอยฟุ้ง

อินทัชจูงมืออ้นเดินกลับมา เขาเห็นเจ้าอุ้มเล่นลูกอ้อนแล้วนึกมันเขี้ยว “ปะเหลาะพี่กุนต์หรืออุ้ม”

“พี่กุนต์ใจดี” อุ้มยิ้มเผล่ เห็นฟันหลอไปข้าง

กนธีหัวเราะ พอดีมีสายเข้า เป็นเพื่อนเจ้าของคอนโดที่จะฝากขายห้อง เมื่อวันก่อนเขาโทรหา บอกว่าจะพาน้องๆไปด้วย เลยจะฝากให้ช่วยหารีสอร์ทที่อยู่ติดทะเล เพราะมีสี่คน เบียดเสียดกันอยู่ห้องเดียว เด็กๆอาจจะอึดอัดได้ ทางที่ดีก็เช่าเป็นบ้าน หรือบังกะโลที่ดูใหม่หน่อยไปเลยดีกว่า

‘ผมหาแล้ว ที่อยู่ติดทะเลเต็มหมดเลยคุณกุนต์’ ทางนั้นว่า ‘แต่ถ้าเป็นรีสอร์ทเดิมที่คุณเคยมาพักครั้งก่อนนู้น พอดีเมื่อเช้ามีแขกเพิ่งเช็กเอาท์ เอาเป็นหลังนี้ได้ไหมครับ’

คนฟังนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะตอบตกลง “ฝากด้วยนะครับ เดี๋ยวอีกสักพักถ้าเรือเทียบท่า ผมจะโทรบอก รบกวนคนของรีสอร์ทมารับหน่อย”

อินทัชที่สาละวนจับน้องสองคนให้เลิกตื่นเต้นหันมามอง “มีอะไรหรือเปล่าพี่”

“เราจะพักที่รีสอร์ทกัน” กนธีบอก ยิ้มน้อยๆ “พี่เห็นว่าเด็กๆคงจะอึดอัด คอนโดมันพื้นที่จำกัดน่ะ เลยจะหาบ้านเป็นหลัง น้องจะได้วิ่งเล่นกันสะดวก พอดีที่พักมันเต็ม แต่ตอนนี้เขาหาให้ได้แล้ว”

“ผมว่ามันจะเปลืองเปล่าๆนะ”

“ไม่เป็นไรน่า พี่เองก็ไม่ได้มาเกาะล้านนานแล้ว” เขาหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวม หันมองท้องฟ้าสีครามที่เป็นประกายระยิบระยับเมื่อแดดส่องลงมา “พักผ่อนบ้างก็ดี”

อ้นยิ้มแฉ่ง “พี่กุนต์หล่อ”

กนธีเลิกคิ้ว “จริงหรือ..ไม่มีค่าชมนะคราวนี้”

“หล่อกว่าพี่โอ๊ต” น้องอุ้มหัวเราะร่วน

อินทัชเขกหัวน้องคนเล็ก “ได้ใหม่ลืมเก่า”

“กินผักเยอะๆนะ จะได้หล่อแบบนี้”

“กินผักแล้วจะหล่อจริงหรือพี่โอ๊ต” อ้นทำคิ้วผูกโบว์

“อันนั้นพ่อแม่ให้มา แต่ถ้าอยากหน้าเด็กแบบพี่กุนต์ก็ต้องกินผัก” อินทัชตอบ มองน้องอุ้มที่ทำหน้าหยึย “ใครไม่กินผักจะหน้าแก่ รู้หรือเปล่า”

“แต่พี่กุนต์บอกว่าพี่กุนต์ชอบกินเด็ก” อ้นสงสัยจริงๆนะ วันนั้นได้ยินแว่วๆด้วย

“กินผักแล้วหน้าเด็ก ถ้ากินเด็กก็ต้องหน้าผักสิพี่โอ๊ต” อุ้มปรบมือชอบใจ
   
กนธีสำลักน้ำลายตัวเองค่อกแค่ก โชคดีที่เรือเข้าเทียบท่าแล้ว ประเด็นนี้เลยตกไป

รีสอร์ทที่คนรู้จักของกนธีเลือกมาให้ เป็นรีสอร์ทกลางเก่ากลางใหม่ โชคดีที่เจ้าของเพิ่งรีโนเวทไปเมื่อปีที่แล้ว เขาเองก็ไม่ได้มาเสียนาน ตั้งแต่ตอนที่..ศรัณย์พามาเดทกันสองต่อสองเป็นครั้งแรก
   
เป็นเรื่องน่าตลกเล็กน้อยที่แม้แต่บ้านหลังที่ได้มา..ก็ยังเป็นหลังเดียวกันกับเมื่อครั้งอดีต
   
กนธีมองกุญแจในมือ ยิ้มเฝื่อนให้ประชาสัมพันธ์ เธอผายมือเชิญให้เขาเข้าไปที่พัก มีเด็กยกกระเป๋าหิ้วของตาม
   
มันเป็นวิลล่าหลังไม่ใหญ่นัก แต่รีโนเวทขึ้นมาแล้วก็สวยกว่าเดิม ตัวบ้านก่อปูน เปลี่ยนสีจากเหลืองนวลเป็นสีขาว ปลูกดอกเฟื้องฟ้าขึ้นเป็นทิวแถวบนระเบียงเหล็กดัด ในนั้นมีสองห้องนอน สองห้องน้ำ ห้องโถงกลางมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน สระว่ายน้ำด้านหลังมีการปรับปรุงใหม่ จากพื้นสีเขียวเป็นพื้นสีฟ้า และเพิ่มสระน้ำวนเข้าไปด้วย
   
กนธียืนมอง..เขาจำภาพที่ตนเองจูบกับคนรักในสระตรงหน้าได้
   
วันนี้ อดีตไม่ได้ทำให้เขาเจ็บปวดอีกแล้ว แต่มันช่างสวยงาม..และเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น
   
“พี่กุนต์..” อินทัชโผล่หน้ามา
   
เขาหันมอง นิ่งไปเล็กน้อยเพราะใบหน้าของอีกฝ่ายสานทับกับคนในความทรงจำ แต่เขายังคงมีสติรู้ตัวตลอดเวลา ว่าเด็กสองคนนี้ แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“พี่จะนอนห้องไหนครับ พี่เป็นเจ้ามือ เลือกก่อนเลย” อินทัชพูดอย่างตรงไปตรงมา

“ห้องเล็กทางขวามือก็ได้” เขายิ้ม “ห้องใหญ่โอ๊ตนอนกับน้องๆเถอะ มีห้องน้ำในตัวจะได้สะดวกหน่อย”

“พี่เคยมาที่นี่แล้วหรือ” เด็กหนุ่มถาม เขายังไม่เห็นพี่กุนต์เดินเข้าบ้านเลย เห็นแต่ว่าเดินอ้อมไปที่สระว่ายน้ำแล้วก็ยืนจ้องความว่างเปล่าอยู่นานพอตัว

“เคยแล้ว” เขาพึมพำ

“กับคุณศรัณย์?”

กนธียิ้มจาง “โอ๊ตเป็นเด็กฉลาดนะ”

อินทัชคิดไว้แล้วเชียว “ถ้าพี่ไม่สะดวกใจ ผมว่าเราขอย้ายไปนอนที่คอนโดของคุณคนนั้นไหม”

“ไม่นี่ พี่ปกติดี”

“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าทำหน้าเศร้าสิครับ” เขาพูดราบเรียบ ดวงตาคมปลาบจ้องมอง “ถ้าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้บ่อยๆ กินผักกี่กิโลก็ไม่ช่วยให้หน้าเด็กลงนะ”

“ปัดโธ่..”

“หรืออยากจะกินเด็กช่วยอีกแรง..ผมจะได้ไม่ขัดศรัทธา” อินทัชยิ้มล้อ

“เจ้าโอ๊ต!”

.

.

.


[ต่อด้านล่างจ้า]

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2016 09:57:42 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #425 เมื่อ28-06-2016 20:16:31 »


.

.

.

นานมาแล้วที่กนธีไม่ได้ทำตัวกระชากวัยแบบที่กำลังทำอยู่ วันนี้เขาได้ปลดปล่อยอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ขอยืมมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ขับพาเด็กๆไปเที่ยวเลียบชายหาดจนผมเผ้ารุงรังเป็นสิงโต ทั้งยังเหนียวหนืดด้วยไอเกลือ จากนั้นก็ยืมคันเบ็ดของรีสอร์ทมาตกปลาหมึก แต่เขาคงเป็นพวกทำบาปไม่ขึ้น เพราะเหวี่ยงแหทีไร เหยื่อกระเด็นกลับมาติดบนหัวตัวเองทุกคราวไป
   
หมดจากการตกปลาหมึกที่ได้มาแค่ถังว่างเปล่า เขาก็ชวนอินทัชไปพายเรือเล่น เขาให้น้องอ้นนั่งด้วย ส่วนอีกฝ่ายเป็นคนดูน้องอุ้ม หลังจากที่พายวนไปวนมาอยู่ในเขตน้ำตื้นเพราะห่วงความปลอดภัยของน้องน้อยอยู่นาน เขากับอินทัชก็ตัดสินใจพายเรือแข่งกันโดยฝากให้เพื่อนเขาที่แวะมาหาช่วยดูแลเด็กๆ
   
กนธีน่าจะหัดปรามตัวเองว่าถึงแม้เขาจะออกกำลังบ่อยแค่ไหน แต่จะให้สู้เด็กหนุ่มที่ได้ทุนนักกีฬาของมหาวิทยาลัยคงไม่ได้ เขาเลยหมดแรง นอนตายซากอยู่บนเรือกระทั่งอินทัชพายกลับมาดู แต่แทนที่จะช่วย เจ้าหมอนั่นกลับเอาไม้พายเขี่ยเรือเขาลอยออกไปตามกระแสคลื่น
   
“จับปลาหมึกไม่ได้ ไม่ให้กลับนะครับ”

..ดูเอาเถอะ..พอสนิทกันมากขึ้นก็เริ่มกวนอารมณ์อย่างที่คาด..
   
จบจากการพายเรือ กนธีที่ยังมีแรงฮึดก็มาเล่นเกมยักษ์วิ่งไล่จับเด็กตามคำชวนของอ้นกับอุ้ม อินทัชว่าจะปรามให้เล่นกันแค่พอสมควร แต่เห็นว่าทุกคนกำลังสนุกเลยได้แต่นั่งมอง 

ระหว่างนั้น เด็กหนุ่มเห็นคนอายุมากกว่าวิ่งเสียเต็มเหนี่ยว ลงท้ายเลยสะดุดขาตัวเองลงไปกลิ้งกับเนินทรายอยู่สองรอบ ล้มป๊าบใส่พื้นเสียงดังจนเขาตกใจ พอเห็นพี่กุนต์ลุกขึ้นมาวิ่งได้อีกครั้งแบบหน้าตาย เขาถึงหลุดหัวเราะตัวโยน
   
..ถ้ากระดูกหักไปจะทำยังไงเนี่ย..
   
หลังจากมองพี่กุนต์วิ่งเล่นกับน้องชายเขาจนเหนื่อยแทน อินทัชก็ชิงเข้าไปอาบน้ำในบ้านก่อน เขาสระผมด้วยเพราะหัวเหนียวมาก แต่ยังไม่ได้เป่าให้แห้ง เลยว่าจะเดินตากลมทะเลอีกรอบ
   
“ไปอาบน้ำแล้วกินข้าวกันเถอะครับ” พูดพลางเอาผ้าขนหนูเช็ดผมเปียกซ่กของตนไปพลาง
   
กนธีมองคนที่เดินออกมาทั้งที่สวมกางเกงเลขายาวตัวเดียว เจ้าเด็กนี่ก็ดูดีเอาเรื่อง ทั้งเครื่องหน้าและรูปร่างอย่างนักกีฬา ช่วงตัวสูงใหญ่กว่าคนในวัยเดียวกัน เห็นว่าชอบเล่นบาสเก็ตบอลตั้งแต่เด็ก กระดูกเลยโตไวกว่าเพื่อน
   
“ไป..อ้น อุ้ม เข้าไปอาบน้ำเลย” คนเป็นพี่ออกมาต้อนน้องๆก่อนจะหันมาทางเจ้ามือของวัน “พี่กุนต์ล่ะครับ จะอาบน้ำ หรือว่าจะซักแห้ง”
   
..ฟังเด็กมันแหย่แล้วจั๊กจี้รูหูชะมัด..
   
“ว่าจะดองเค็มแบบนี้แหละ อร่อยนะ” อบทรายมาหมาดๆ รสชาติคงดีพิลึก
   
“ไปอาบน้ำเถอะพี่ ผมขอร้อง” อินทัชส่ายหัว “ไม่อย่างนั้นตัวพี่คงมีรสแบบจับฉ่าย”
   
“แล้วมันเหม็นหรือหอมล่ะเนี่ย”
   
เด็กหนุ่มยักไหล่ ตอบหน้าตาย “ไม่รู้สิครับ ยังไม่เคยลองกิน”
   
กนธีรู้สึกใจกระตุกหน่อยๆ เพราะพาลคิดว่าสิ่งที่เด็กยังไม่ได้ ‘ลองกิน’ คือตัวเขา ไม่ใช่จับฉ่าย..ถึงมันจะเป็นไปไม่ได้ก็เถอะ
   
..แต่ว่าอะไรที่เปื่อยๆแบบโดนตุ๋นมานาน มันก็อร่อยดีนา..
   
คนพาเที่ยวใช้เวลาในการอาบน้ำสระผมประมาณห้านาที เร็วเสียจนเด็กๆร้องแซวว่าวิ่งผ่านน้ำ กนธีอาสาพาไปกินมื้อเย็นที่ร้านริมทะเล เขาจะเป็นเจ้ามือเลี้ยงซีฟู้ดให้ทุกคนท้องแตกตายเลย
   
“ไปมอเตอร์ไซค์หรือเดินไปดีครับ” อินทัชจับน้องชายปะแป้งที่แก้มเสียขาววอกทั้งคู่
   
“ไปเรือสิ เฟี้ยวเงาะ”
   
“ศัพท์โบราณรุ่นไหนน่ะพี่กุนต์” เขาเลิกคิ้วงุนงง “แล้วเมื่อตอนบ่ายที่ลอยอยู่ในเรือ ยังดื่มด่ำกับทะเลไม่พอหรือครับ แข็งแรงดีจังเลยนะ”
   
กนธีหัวเราะครึกครื้น “น่าๆ..ถ้ากลับกรุงเทพไปก็ไม่ได้พายเรือแล้วนะ พี่อยากเล่นให้เต็มที่”
   
“ถ้างั้น อ้นไปนั่งกับพี่กุนต์ แล้วอุ้มมานั่งกับพี่เหมือนเดิม” เขาบอก จัดการเข็นเรือลงไปในน้ำ อุ้มน้องๆขึ้นไปนั่งประจำที่ทีละคนก่อนหันมาหาคนด้านหลัง “มาสิครับ..”
   
กนธีหลุบตาลงมองฝ่ามือใหญ่ที่ยื่นมาหา รู้สึกว่าทรายใต้ฝ่าเท้าจะร้อนวาบขึ้นเล็กน้อย
   
“เอ้า..” เขาวางอะไรบางอย่างลงในมืออีกฝ่ายแทน
   
อินทัชมองอย่างมึนๆ “นี่มัน..” เขาดูเปลือกหอยสีเทาปนดำ ผิวขรุขระเป็นทางยาว   

“หอยจุ๊บแจง”
   
คนฟังถอนหายใจ “หอยแครงต่างหากครับ ไปเก็บมาทำไมเนี่ย” มองตามคนที่ก้าวขึ้นเรือไปด้วยตัวเอง พี่กุนต์หัวเราะชอบใจ พลอยทำให้เขายิ้มตามไปด้วย
   
..แข็งแรงขึ้นแล้วจริงๆ..
   
อาหารทะเลมื้อนี้เป็นมื้อที่อร่อยที่สุด นับจากเมื่อหลายปีก่อนหน้าที่ได้มากินกับศรัณย์ ถ้าไม่นับรวมการใช้ชีวิตกับพสิษฐ์ กนธีก็ไม่ได้หัวเราะอย่างเต็มความรู้สึก ไม่ได้สดชื่นและมีความสุขแบบนี้มานานแล้ว
   
อินทัชสั่งหอยแครงลวกมาให้ เพราะอยากจะสอนให้คนแก่กว่ารู้จัก ว่าอันไหนหอยจุ๊บ อันไหนหอยแครง กนธีเลยขอให้น้องอ้นช่วยแงะให้กิน และแน่นอนว่าเขาขอพักการกินผักไปก่อนชั่วคราว
   
“อ้นสงสัยจังครับ” เด็กชายขมวดคิ้วน้อยๆมองอาหารในหม้อไฟ “ต้มโคล้ง โป๊ะแตก ต้มยำ มันต่างกันยังไงอ่ะ”
   
“พี่ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน” กนธีเกาหัวแกรก “แต่ถ้าถามว่า เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู เห็ดเข็มทอง เห็ดหลินจือ เห็ดเออรินจิต่างกันยังไง พี่เชี่ยวชาญนะ”
   
“พี่กุนต์ชอบกินเห็ดหรือครับ” อินทัชรู้เข้าเลยตักเห็ดใส่ถ้วยเสียจนลอยฟ่อง แออัดกันเป็นแพมาให้
   
“พี่ชอบกินผักทุกชนิด”
   
“หยึย” น้องอุ้มทำหน้ามู่ทู่ เจ้าหนูกำลังวางแผนจะตักแครอทในจานยกให้พี่กุนต์อยู่พอดี
   
“กินเข้าไปเลยอุ้ม ถ้าเลือกกินจะโตได้ยังไง” พี่โอ๊ตของน้องๆพูดเสียงดุ จากนั้นถึงจะเห็นพี่กุนต์แอบเขี่ยเนื้อปลากะพงออกจากถ้วย “พี่กุนต์ครับ..นานๆทีกินเนื้อสัตว์บ้างก็ดีนะ”
   
กนธีทำคอหด “คร้าบ..”
   
หลังจากกินเสร็จ อินทัชยืนยันขอเป็นคนจ่าย กนธีคิดว่าถ้าไม่ยอมไปบ้าง อีกฝ่ายคงจะต้องท้าให้งัดข้อกัน ใครชนะได้จ่ายแน่ๆ ถึงเขาจะชอบกินคะน้าที่มีแคลเซียม แต่กระดูกก็คงไม่แข็งแรงเท่าเด็กหนุ่มๆ เขาเลยยอมลงให้
   
ออกจากร้านอาหาร น้องอุ้มเหลือบไปเห็นร้านขายห่วงยางก็กระตุกแขนเสื้อพี่โอ๊ต ชี้มือให้ดู
   
“อยากได้อะไร..หืม” อินทัชหยิบเม็ดข้าวออกจากหัวน้อง ไม่รู้มันกินยังไง กระเด็นขึ้นมาได้
   
“หนูอยากได้เป็ดเหลือง” อุ้มทำตาเป็นประกาย เจ้าหนูจ้องห่วงยางอันยักษ์ที่มีหัวเป็นเป็ดตาไม่กะพริบ
   
“เอาไปทำอะไร”
   
“เอาไปเล่นในสระว่ายน้ำฮะ”
   
“แล้วจะมีโอกาสได้ใช้กี่ครั้ง” อินทัชนั่งยองๆลงถามน้อง “พี่สอนอุ้มว่ายังไงครับ”
   
“จะซื้ออะไรต้องดูความจำเป็น ถ้าใช้ได้ไม่เกินห้าครั้ง ก็ไม่ต้องซื้อครับ” อ้นช่วยตอบแทนน้อง
   
อุ้มทำปากเบะ พอรู้คำตอบพี่โอ๊ต เลยหันไปหาที่พึ่งอีกคนคือพี่กุนต์ เด็กชายโผเข้ากอดขา ซบหน้านิ่งอยู่อย่างนั้น กนธีเห็นแล้วใจอ่อน แต่เขาจะทำให้คำสอนของอินทัชกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญไม่ได้ ดังนั้น เมื่อเขามองตาอีกฝ่ายแล้ว เด็กหนุ่มส่ายหัวเป็นการปฏิเสธ เขาเลยได้แต่ยืนเฉยไปอีกคน
   
“ฮืออ..หนูอยากได้เป็ดเหลือง”
   
“เอาอย่างนี้ไหมครับ” กนธีเสนอเพราะใจอ่อนยวบเยียบ “ถ้าราคาต่ำกว่าโป๊ะแตกหม้อนั้น พี่กุนต์จะขอพี่โอ๊ตซื้อให้ แต่ถ้าราคาสูงกว่า อุ้มอาจจะไม่ได้เป็ดเหลืองตอนนี้นะครับ”
   
น้องอุ้มคิดอยู่สักพักก็ยอมพยักหน้า พี่กุนต์เลยจูงมือไปถามราคาจากคนขาย ตรงนี้ กนธีขอให้อินทัชเคารพสิทธิ์ของน้องคนเล็กด้วย เขาคิดว่าผู้ใหญ่ไม่ควรจะโกหกว่าราคาแพงเพื่อที่จะได้ไม่ต้องซื้อให้เด็ก ในเมื่อทำข้อตกลงกันแล้วก็ถือว่าพบกันคนละครึ่งทาง อีกอย่าง..นี่ก็เป็นวันพิเศษ วันเที่ยวครั้งแรกของเด็กๆด้วย เขาไม่อยากให้น้องเสียใจนัก
   
“ราคาอันนี้น่ะหรือ” เจ้าของร้านพลิกเป็ดเหลืองยักษ์ไปมา “หกร้อยบาทจ้ะ” สรุปว่าแพงกว่าโป๊ะแตกจริงๆ
   
น้องอุ้มน้ำตาคลอ อ้นเลยกอดน้องชายปลอบใจ
   
“เลือกเอาอย่างอื่นที่ราคาต่ำกว่าสามร้อยได้ไหมครับ” กนธีลูบหัวเล็ก “พี่ให้อ้นกับอุ้มเลือกได้คนละหนึ่งอย่าง ถือว่าเป็นของขวัญจากพี่กุนต์ แต่ว่าพอกลับไปกรุงเทพแล้ว ถ้าไม่ใช่โอกาสพิเศษแบบนี้ พวกหนูจะต้องเชื่อฟังพี่โอ๊ตนะ”
   
อ้นไม่อยากได้อะไรเลยส่ายหัวดิก ส่วนน้องอุ้มก็หวังแต่เป็ดเหลืองจนไม่สนใจลูกบอลชายหาดลายกระต่าย เด็กชายน้ำตาร่วงเผาะๆด้วยความผิดหวัง กนธีก็ได้แต่ลูบหัว เขารู้ว่าน้องอุ้มเสียใจ แต่เพราะว่าเป็นเด็กดีกับพี่ชายมาโดยตลอด เลยไม่แสดงท่าทีอาละวาดงอแงแบบเด็กคนอื่น
   
อินทัชเกือบจะใจอ่อนให้แล้ว แต่เขายังยืนยันว่าไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีห่วงยางเป็ด
   
“งั้นพี่ซื้อลูกบอลไปเล่นที่บ้านลูกหนึ่งแล้วกัน” คนเป็นผู้ใหญ่ควักเงินจ่ายไป หวังว่าพอน้องหายเสียใจ พวกเขาจะได้เล่นสระว่ายน้ำหลังบ้านพักกัน
   
น้องอุ้มร้องไห้กระซิกๆ แต่พอเงยหน้าไปเห็นพี่โอ๊ตยื่นมือมาหา เด็กชายก็จับปลายนิ้วพี่ไว้ ให้พี่โอ๊ตอุ้มขึ้นหลัง ถึงแม้จะเสียใจและผิดหวังแค่ไหน แต่ก็ไม่ยอมแสดงพฤติกรรมให้พี่ลำบากใจเลย
   
“กลับกันนะครับอ้น” กนธีหันมาจูงเด็กน้อยอีกคนที่เดินตามต้อยๆ
   
พวกเขาพายเรือกลับมาที่วิลล่าหลังเดิม อินทัชให้อ้นคอยดูน้องอุ้มจนกว่าน้องจะเลิกร้องไห้ ส่วนเขาก็ไปทำโอวัลตินให้น้องดื่มก่อนนอน ในขณะที่กนธี พอถึงที่พัก กลับหายตัวไปเสียเฉยๆ กระทั่งอินทัชคิดจะออกตามหา พี่กุนต์ก็โผล่มาพอดี
   
“เอาอะไรมาน่ะครับ” เขามองกิ่งต้นก้ามปูในมืออีกฝ่าย มันมีอยู่สองกิ่ง กิ่งหนึ่งมีใบไม้ติดอยู่หรอมแหรม อีกกิ่งหนาเป็นพุ่ม ดูท่าจะหนักเอาการ “พี่ไปปีนต้นไม้มาหรือไง” ตามตัวดูมอมแมมไปหมด
   
“ฮ่ะๆ พี่จะเอามาเล่านิทานให้เด็กๆฟังนะ”
   
อินทัชมองตามอย่างงุนงง เขาเห็นกนธีเข้าไปขอร่วมวงกับอ้นและอุ้ม เลยจัดการปิดทีวี แต่ยังยืนสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ
   
“พี่กุนต์จะเล่านิทานให้ฟังครับ มีใครอยากฟังไหม” กนธีรอจังหวะน้องอุ้มอารมณ์ดีขึ้นแล้วพูดขึ้นมา
   
อินทัชยื่นแก้วโอวิลตินให้อ้น ส่วนน้องอุ้มชอบกินนมหมีน้ำผึ้งแช่เย็น เขาเลยหยิบมาให้เผื่อว่ากินอะไรหวานๆจะได้สดชื่นขึ้นมาหน่อย เจ้าตัวแสบเลยรับไปดูดจ๊วบพลางพยักหน้ารับ
   
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีคนจีนสองคนเป็นเพื่อนรักกัน ทั้งสองนั่งเรือสำเภามาจากจีนแผ่นดินใหญ่ หนีความอดอยากไปตายเอาดาบหน้า พวกเขามีแค่เสื่อผืนหมอนใบ ไม่มีเงินติดตัวกันเลย” กนธีนั่งกับพื้นอย่างไม่ถือตัว มุมนี้เขาจะได้เห็นหน้าเด็กๆได้ชัดขึ้น “คนจีนคนหนึ่งมีลักษณะผอม พี่จะเรียกว่า จีนผอม ส่วนอีกคนเป็นหนุ่มตัวอ้วน พี่จะเรียกว่าจีนอ้วน”
   
“ตอนที่มาถึงเมืองไทย จีนผอมกับจีนอ้วนก็นึกดีใจ คุยกันว่า ที่นี่อุดมสมบูรณ์ เราคงจะรอดตายแน่ๆ ต่างคนก็ต่างจะแยกย้ายกันไปทำมาหากิน แต่ก่อนจากกัน เพื่อนทั้งสองได้ทำข้อตกลงกันว่า ถ้ามีเงินไม่ถึงร้อยชั่ง..”
   
“ชั่งคืออะไรครับพี่กุนต์” อ้นทำคิ้วผูกโบว์
   
“เอ่อ..เอาเป็น ห้าพันบาทแล้วกัน” กนธีสมมติค่าของเงินใหม่ “พวกเขาตกลงกันว่า ถ้ามีเงินสะสมไม่ถึงห้าพันบาท ห้ามกินเนื้อสัตว์ เพราะว่าสมัยนั้น เนื้อสัตว์มีราคาแพงมากครับ”
   
อุ้มฟังอย่างตั้งใจ ไม่กินเนื้อสัตว์ก็เหมือนพี่กุนต์เลยสินะ
   
“จีนผอมแยกตัวไปทำการค้า เขาทำตามสัญญาที่คุยกันไว้อย่างเคร่งครัด อุตส่าห์ยอมอดทน เอาปลาทูมาต้มกินกับใบมะขาม กินกับข้าวเปล่า จนกระทั่งสะสมเงินได้เกินห้าพันบาท เขาถึงยอมจ่ายเงิน ซื้อเนื้อสัตว์มาทำอาหารกิน”
   
“แล้วจีนอ้วนล่ะฮะ” อุ้มทำหน้าสงสัย
   
“ตอนแรกๆ จีนอ้วนก็ทำตามสัญญา แต่มีอยู่มาวันหนึ่ง จีนอ้วนไปตลาด เจอเนื้อเป็ดที่เอามาขายราคาถูกกว่าเนื้อปลา เพราะว่าเป็ดเป็นโรคตาย จีนอ้วนเลยลองซื้อมาปรุงอาหารกิน ด้วยความที่คิดว่า ที่เพื่อนห้ามไม่ให้ซื้อเนื้อสัตว์ก็เพราะว่ามันราคาแพง แต่นี่เจอราคาถูกมากๆ ซื้อมากินก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”
   
อินทัชยิ้มจาง เขารู้แล้วว่าพี่กุนต์ตั้งใจจะเล่าอะไร
   
“แล้วมันอร่อยไหมครับ” อ้นน้ำลายสอตามไปด้วย
   
“อร่อยมาก” กนธียิ้ม “จีนอ้วนลองกินเนื้อเป็ดที่เป็นโรคตายแล้วรู้สึกติดใจมาก พอติดใจก็หาโอกาสไปซื้อเนื้อเป็ดที่เป็นโรคมากินบ่อยๆ แต่พอเวลาผ่านไป ก็สงสัยว่า ถ้าได้กินเป็ดที่เขาฆ่าสดๆ รสชาติจะเป็นยังไงนะ”
   
“หนูว่ามันน่าจะอร่อยกว่า” อุ้มตอบ
   
“ใช่แล้วครับ เป็ดที่เขาฆ่าสดๆมันอร่อยกว่า จีนอ้วนเลยควักเงินไปซื้อเป็ดมากินอยู่เรื่อย พอกินเป็ดบ่อยๆก็เกิดเบื่อ ลองเปลี่ยนไปกินเนื้อหมู พอเห็นว่าหมูอร่อยก็กินมาตลอด พอเบื่อหมูก็หันไปกินเนื้อไก่ สุดท้ายจีนอ้วนเลยกินครบทั้งหมูเป็ดไก่..ทั้งที่ยังสะสมเงินไม่ถึงห้าพันบาท เพราะฉะนั้น อะไรเกิดขึ้นรู้ไหมครับ”
   
“ไม่มีเงินเหลือครับ” อ้นเป็นคนตอบ “เพราะพี่กุนต์บอกว่าเนื้อสัตว์มันแพงมาก”
   
“เก่งมากครับ จีนอ้วนทำงานไป กินแบบฟุ่มเฟือยไป ท้ายที่สุด เงินก็หมด ที่ค้าขายมาก็ไม่ช่วยอะไรเลย พอเงินหมด จีนอ้วนเลยต้องไปขอพึ่งจีนผอม ที่ตอนนี้กลายเป็นเศรษฐีไปแล้ว”
   
“อู้หู” น้องอุ้มร้อง
   
“จีนผอมพอรู้เรื่องว่าเพื่อนผิดสัญญาก็ไม่ได้ต่อว่า จีนผอมยกข้าวสารให้จีนอ้วนหนึ่งกระสอบ ให้เพื่อนไปอาศัยอยู่ในกระท่อมหลังบ้าน และบอกเพื่อนว่า..” กนธีดัดเสียง “เพื่อนเอ๋ย..จากนี้ไป ขอให้เพื่อนทำกับข้าวกินเอง โดยเอาปลามาต้มกับใบมะขาม แต่ให้เด็ดใบมะขามจากต้นเล็กก่อน” เขายกกิ่งไม้ที่มีใบหรอมแหรมให้ดู
   
“จีนอ้วนทำตามที่เพื่อนบอก กลับมาขยันทำงานเหมือนเดิม เงินที่ได้ก็แบ่งมาส่วนหนึ่ง ซื้อปลามาต้มกับใบมะขามทุกวัน..ทุกวัน” ชายหนุ่มเด็ดใบไม้ทิ้งทีละใบให้ดู “กินแบบเดิมเกือบเดือน ใบมะขามก็หมดต้น” ตอนนี้กิ่งไม้ในมือกนธีก็เหลือแต่กิ่งเปล่า ไม่มีใบเสียแล้ว

“หวา..แล้วจะทำยังไงอ่ะครับ” อ้นลุ้นตามไปด้วย

“จีนอ้วนเลยไปบอกจีนผอม จีนผอมก็บอกให้จีนอ้วนเปลี่ยนไปเด็ดใบมะขามต้นใหญ่ ต้นของมันสูงเท่าตึกสองชั้น แผ่กิ่งก้านสาขาไปกว้าง ยาวถึงฝั่งนู้น” เขาชี้มือ “จีนอ้วนทำตาม เด็ดใบมะขามกินต่อไป ทุกวัน..ทุกวัน” เขาเด็ดใบทิ้งให้ดู “แต่ปรากฏว่า ผ่านไปหนึ่งเดือนก็แล้ว สองเดือนก็แล้ว สามเดือน สี่เดือน ใบมะขามก็ยังไม่หมดต้น เพราะพอกิ่งนี้หมด ไปเด็ดกิ่งอื่น ยังไม่ทันจะหมด กิ่งเดิมก็แตกใบใหม่ออกมาให้เด็ดกินไม่รู้จักจบจักสิ้น”

“หลังจากนั้น จีนผอมก็มาหาจีนอ้วน ถามว่า..เด็ดใบมะขามต้นใหญ่กิน เป็นยังไงบ้างล่ะเพื่อน” กนธียิ้มให้เด็กๆที่นั่งฟังตาแป๋ว “จีนอ้วนตอบตามความจริงว่า..เด็ดกินเท่าไรก็ไม่หมดสักที กินจนหน้าจะกลายเป็นใบมะขามอยู่แล้ว”

เด็กๆหัวเราะก๊าก อินทัชที่นั่งฟังเงียบๆอยู่นานก็พลอยขำไปด้วย

“จีนผอมเลยพูดว่า..นี่แหละเพื่อนเอ๋ย..มะขามต้นเล็กนี้ก็เหมือนกับเพื่อน ใบยังขึ้นไม่ทันไร ก็ถูกเด็ดใช้เด็ดกินเสียก่อนแล้ว มันถึงได้งอกใหม่ไม่ทัน เหมือนกับเพื่อนที่ยังเก็บเงินได้ไม่เท่าไร เพื่อนก็ชิงใช้หมดเสียก่อน มันจะมีอะไรเหลือล่ะ” เขาเล่าเสียงนุ่ม “ส่วนมะขามต้นใหญ่นี่ก็คือเราเอง กินได้เท่าไรก็ไม่หมด เหมือนที่เราประหยัด อดออมให้มีเงินเยอะก่อนถึงจะใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เมื่อเรารวยแล้ว เหมือนมะขามที่มีใบนับไม่ถ้วน จะใช้เงินอย่างไรก็ยังมีเหลือ”

“เมื่อจีนอ้วนเข้าใจความหมายที่เพื่อนรักสอนแล้ว จีนอ้วนก็ลาจากจีนผอมไปตั้งตัวค้าขายใหม่ คราวนี้เขาสัญญาว่าถ้ามีเงินไม่ถึงห้าพันบาท จะไม่ยอมฟุ่มเฟือยเด็ดขาด” กนธียิ้ม “นับจากนั้นมา จีนอ้วนก็ขยันทำงานจนมีเงินใช้จ่ายสบายมือ กลายเป็นเศรษฐีไปอีกคน ถึงตอนนี้ เขาจะกินหมู เป็ด หรือไก่ เขาก็มีเงินเหลือพอแล้ว..แฮปปี้เอนดิ้งครับ”

น้องๆปรบมือแปะๆ กนธีเล่าเสียคอแห้ง ไม่รู้ว่าเด็กทั้งสองคนจะเข้าใจความหมายหรือเปล่า เขาเลยชูกิ่งไม้ทั้งสองกิ่งขึ้นมาตรงหน้าอ้นกับอุ้ม และบอกให้ลองมองดู

“อ้นกับอุ้ม จากนิทานที่พี่เล่า พวกหนูบอกพี่กุนต์หน่อยครับว่าอยากจะได้กิ่งไม้ฝั่งไหน” เขายื่นให้ “กิ่งที่ไม่มีใบ หรือกิ่งที่มีใบเยอะ เด็ดเท่าไรก็ไม่หมด”

อ้นกับอุ้มชี้ไปยังกิ่งที่มีใบเยอะพร้อมกัน ทำเอากนธีชื่นใจเหลือเกิน

“นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนเราต้องขยันเก็บเงินครับ รวยแล้วค่อยว่ากันเนอะ แต่รวยแล้วจะฟุ่มเฟือยตลอดก็ไม่ได้นะครับ พี่กุนต์ก็พอมีเงินนะ แต่พี่กุนต์ยังกินผักอยู่เลย เหมือนจีนผอมกินใบมะขามจนหน้าเป็นมะขาม”

อินทัชหัวเราะเบาๆ

“อ้นจะขยัน ทำงานเก็บเงิน จะได้มีเงินเยอะๆเหมือนใบมะขามบนต้นใหญ่ครับ” อ้นโตกว่าเลยเข้าใจได้ง่ายกว่า

น้องอุ้มฟังนิทานแล้วก็เข้าใจเหมือนกัน เด็กชายเลยพยักหน้ารับ พอเงยหน้าเห็นพี่โอ๊ตมองอยู่ เจ้าหนูก็ก้าวลงจากโซฟา โผเข้ากอดพี่

“หนูขอโทษที่ดื้อฮะ”

“เปล่า..อุ้มไม่ได้ดื้อสักหน่อย อุ้มแค่ร้องไห้เพราะเสียใจ” อินทัชลูบหัวน้อง “ในชีวิตเรา ไม่ได้มีอะไรสมหวังไปทุกอย่างหรอกนะอุ้ม มันมีบ้างที่ต้องฝืนใจ ต้องผิดหวัง แต่ทุกครั้งที่รับความผิดหวังได้ อุ้มจะโตขึ้นอีก..เชื่อพี่สิ”

เด็กๆพยักหน้าหงึกหงัก กนธีมองแล้วอดยิ้มไปด้วยไม่ได้ ถึงตอนนี้ น้องๆเริ่มขยี้ตากันแล้ว คงจะง่วงกันเพราะตอนเย็นใช้พลังงานไปเยอะ เขาเลยชวนไปแปรงฟันแล้วเข้านอน ตอนเช้าจะได้ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน
   
อินทัชจูงมืออ้นกับอุ้มเข้าไปในห้อง ส่วนกนธีเอาถ้วยโอวัลตินที่วางค้างอยู่บนโต๊ะรับแขกไปล้างให้ที่ซิ้งค์ จากนั้นก็กลับมากวาดใบไม้ที่เขาเด็ดทิ้งเสียเกลื่อนพื้น
   
ชายหนุ่มเปิดประตูกระจกออกไปข้างนอก สายลมเย็นรื่นยามดึกพัดผ่าน กลิ่นไอเกลือลอยอวลอยู่โดยรอบ หาดตรงนี้เป็นหาดส่วนตัว เลยไม่มีเสียงจอแจวุ่นวายของนักท่องเที่ยว
   
กนธีเดินลุยผ่านหาด เอากิ่งไม้และใบไม้ไปกองอยู่ใต้ต้น เขาบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อยหันไปมองท้องทะเลช่วงกลางคืนที่มีคลื่นสาดเข้าหาฝั่งเป็นระลอก เสียงซัดครืนของมันฟังแล้วให้ความรู้สึกเบาสบายอย่างบอกไม่ถูก
   
แสงไฟของฝั่งแผ่นดินใหญ่สะท้อนอยู่ลิบๆ แสงไฟจากบ้านพักด้านหลังเองก็ให้ความอบอุ่น เขาวางมือทาบกับกิ่งต้นก้ามปูริมหาด สายตาสอดส่อง หาร่องรอยบางอย่างกระทั่งเจอมัน..รอยสลักด้วยมีดพับยังคงเห็นอยู่เจือจาง
   
..ศรัณย์..กนธี..
   
เขายิ้มอย่างหงอยเหงา ไล้ปลายนิ้วลงกับรอยขรุขระนั่นก่อนจะเอนตัวลงซบลำต้นใหญ่โตของมัน
   
“คิดถึงนะรัณย์..” กนธีพึมพำกับความว่างเปล่า “พี่ลุกขึ้นยืนและเดินต่อแล้ว แต่พี่ไม่ได้ลืมรัณย์นะ ในใจของพี่..ยังรักรัณย์คนดีเสมอ”
   
ชายหนุ่มยืนพิงต้นก้ามปู หลับตาและฟังเสียงเกลียวคลื่นที่ม้วนตัวเป็นระลอกอยู่นาน กระทั่งฝ่ามืออบอุ่นวางแผ่วเบาลงบนไหล่ เขาหันมามอง เห็นอินทัชยืนอยู่ด้านหลัง ช่วงตัวสูงใหญ่บดบังแสงไต้ที่ปักไว้บนหาด
   
“เข้านอนเถอะครับ” เสียงทุ้มต่ำบอก “เดี๋ยวตื่นไม่ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นนะ”
   
กนธีพยักหน้ารับ มองมือที่ยื่นมาหา เขาลังเลอยู่นิดหนึ่ง
   
“ไม่ต้องมองหาหอยแครงที่พี่คิดว่าเป็นหอยจุ๊บแจงหรอกครับ” อินทัชพูด “ผมขอมือพี่..ไม่ต้องยื่นอย่างอื่นมาให้”
   
กนธีหัวเราะเฝื่อน “เดินเองได้น่า ไม่ล้มหรอก พี่หลักดี”
   
“ครับ..ไม่ล้ม สองป๊าบเมื่อตอนกลางวันนั่นไม่ได้เรียกว่าล้ม” เด็กหนุ่มพูดเสียงเรียบแต่ประโยคกวนอารมณ์

แต่ก่อนที่กนธีจะเสยหมัดเข้าปลายคางเขา อินทัชก็ชิงพูดต่อ

“ผมไม่ได้กลัวว่าพี่จะล้มครับ แค่ในบางเวลา มีเพื่อนเดินจับมือกันอยู่ข้างๆ..มันก็อุ่นใจดีไม่ใช่หรือ”
   
กนธีนิ่งไปครู่ก่อนจะหลุดยิ้มออกมา เขายื่นปลายนิ้วไปแตะมือคนที่ลดแขนลงมาอยู่ข้างลำตัวแทน อินทัชเลยจับมือเขาไว้หลวมๆ ไม่มีความหมายอื่นใดแอบแฝง

“ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยสอนอ้นกับอุ้มแทนผม” อินทัชพึมพำ “นิทานของพี่สนุกดี”
   
“พี่เคยอ่านในหนังสือนิทานโบราณสอนใจน่ะ ก็เลยเอามาเล่าต่อ เนื้อหาไม่เป๊ะหรอก จำได้ลางๆประมาณนี้ เอาไว้จะให้ยืมอ่านนะ เป็นเรื่องที่ดีมากเลย เอาไว้สอนเด็กๆก็น่าจะดี”
   
“ผมขี้เกียจอ่าน” คนฟังยิ้ม “ไว้ว่างๆ..พี่กุนต์ช่วยเล่าให้อ้นกับอุ้มฟังน่าจะดีกว่า”

กนธีเหลือบมองคนด้านข้าง รู้สึกอุ่นซ่านในใจอยู่วูบหนึ่ง แต่แล้วก็ต้องปัดมันทิ้ง

“ยังไม่ง่วงเลย..เดินเล่นบนหาดด้วยกันหน่อยได้ไหม”
   
“ได้ครับ..ยังไงคนขับรถกลับกรุงเทพก็ไม่ใช่ผม”
   
ไอ้เด็กกวนโอ๊ย.. เขานึกด่าอยู่ในใจ
   
..แต่แบบนี้ก็สนุกดี..อยากให้กวนอารมณ์บ่อยๆเหมือนกัน..



...........................................................................................





นิทานที่พี่กุนต์เล่า เค้าอ่านมา แต่จำชื่อผู้แต่งไม่ได้จ้า มันโบราณจริงๆ แต่สนุกทุกเรื่อง  :mew1:

ปล . ขอบคุณ คุณ sirin_chadada สำหรับคำผิดจ้า 55555+ แก้แย้วๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2016 10:13:32 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #426 เมื่อ28-06-2016 20:41:30 »

 :z13:
ละมุนเบาๆ  :-[
แต่กลัวอินทัชจะคิดมากเรื่องที่จะไม่ทำตัวแบบพ่อตนเองอ่ะ ที่บอกว่าจะไม่ทรยศคนที่รัก จะมีมาม่าเรื่องปาลินรึเปล่าหว่า =[]=;
กนธีใจดีกับเด็กๆ จริงๆ เลย เคะแก่นี่มันก๊าวใจดีจริงๆ  :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2016 10:09:23 โดย boboman »

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #427 เมื่อ28-06-2016 20:45:39 »

เที่ยวทะเลให้สนุกน้าน้องอ้น-น้องอุ้ม ชอบเด็กน้อยสองคนนี้น่ารักมากกก

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #428 เมื่อ28-06-2016 21:01:10 »

กินเด็กหน้าผัก ฮ่าฮ่าฮ่า

อ่านความคิดโอ็ตตอนนี้แล้วรู้สึกว่าพี่กุนต์หงำเหงือกมากกกกกก

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #429 เมื่อ28-06-2016 21:04:41 »

 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
« ตอบ #429 เมื่อ: 28-06-2016 21:04:41 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #430 เมื่อ28-06-2016 21:06:27 »

พี่กุนต์น่ารักมาก (ก.ไก่ล้านตัว) เด็ก ๆ ก็น่ารัก เป็นเด็กดีกันจริง ๆ เชียว

“ไม่ต้องมองหาหอยจุ๊บแจงที่พี่คิดว่าเป็นหอยแครงหรอกครับ” อินทัชพูดหน้าตาย “ผมขอมือพี่..ไม่ต้องยื่นอย่างอื่นมาให้”
น่าจะเป็น
“ไม่ต้องมองหาหอยแครงที่พี่คิดว่าเป็นหอยจุ๊บแจงหรอกครับ” อินทัชพูดหน้าตาย “ผมขอมือพี่..ไม่ต้องยื่นอย่างอื่นมาให้”

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #431 เมื่อ28-06-2016 21:27:47 »

นิทานสนุกมากค่ะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #432 เมื่อ28-06-2016 22:15:29 »

ไม่มีให้กินทั้งผักทั้งเด็ก เลยหน้าผี 5555

ออฟไลน์ Bellze12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #433 เมื่อ28-06-2016 22:27:09 »

อบอุ่นมากๆ

ออฟไลน์ yayee2

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +554/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #434 เมื่อ28-06-2016 22:36:34 »

ชอบนิทานที่พี่กุนต์เล่าจัง และในค่ำคืนนี้ดูเป็นบรรยากาศแบบครอบครัวที่อบอุ่นมาก
เรารู้สึกว่า ขณะนี้ฝ่ายโอ๊ตกับน้องๆ และพี่กุนต์ต่างก็เติมเต็มในส่วนที่อีกฝ่ายขาดให้กันและกันอ้ะ
ชอบบบบบ...จ้ะ

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #435 เมื่อ29-06-2016 00:18:18 »

โอ๊ตเลี้ยงน้องมาดีมากกกก o13
ทำให้ทั้งอุ้มและอ้นถึงยังเด็กแต่รู้ว่าพี่ชายเหนื่อยเพื่อหนูมามาก
พยายามไม่งอแง ทั้งๆที่ความเป็นเด็กมันย่อมมีตามธรรมชาติ
คือนึกภาพออกที่อุ้มเบะปากอยากร้องเพราะอยากได้ของ
แต่ก็ไม่งอแง ตัดใจได้ รักเด็กๆเลย :กอด1:


ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #436 เมื่อ29-06-2016 00:46:01 »

มิตรภาพเริ่มต้นด้วยดี  ขอให้เป็นมิตรภาพที่ยั่งยืนยาวนาน

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #437 เมื่อ29-06-2016 01:16:10 »

เป็นมิตรภาพที่สวยงามมาก เด็กๆน่ารักมาก โอ๊ตสอนน้องได้ดีจริงๆ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #438 เมื่อ29-06-2016 01:26:17 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #439 เมื่อ29-06-2016 02:18:53 »

 :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
« ตอบ #439 เมื่อ: 29-06-2016 02:18:53 »





ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #440 เมื่อ29-06-2016 02:31:24 »


ฮือออออออออ ดีกับใจ
อบอุ่นเหลือเกิน TvT

มีแววว่าหลังจากนี้ไปนอกจากโอ๊ตจะต้องดูแลน้องชายแล้ว
ยังต้องมาดูแลตาแก่โก๊ะกังคนนี้ด้วยนะคะ 55555555555
พี่กุนต์น่าเอ็นดูมากอะ อายุปูนนี้แล้วถึงจะหน้าเด็กแต่ก็ระวังกระดูกกระเดี้ยวด้วยนะคะ
อย่ากระชากวัยบ่อย คนอ่านเป็นห่วง ถถถถถถถถถถถถถถ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
ความเวอร์จิ้นของโอ๊ตนั้นทำไมเรารู้สึกว่ามันก๊าวใจเหลือเกิน กร้ากกกกกก  :-[

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #441 เมื่อ29-06-2016 03:08:19 »

อยากกินเด็กบ้างง เจ้าตัวเล็กสองหน่อน่ารักจังเลยค่ะ

ขำหอยจุ๊บแจงของพี่กุนต์5555555555555

ออฟไลน์ ปุยหมาม่วง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-7
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #442 เมื่อ29-06-2016 08:48:41 »

รู้สึกถึงความอ่อยของอิโอ๊ตต
คือไม่ได้ตั้งใจใช่มั้ย?? 5555
บอกอยากกินเด็กจะไม่ขัดศรัทธางี้ จับมืองี้~

พี่กุนต์ทำไมน่ารักงี้ งื้อออ น่าปล้ำ น่าเอ็นดู

ออฟไลน์ Ain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #443 เมื่อ29-06-2016 11:36:06 »

ไม่อยากกินผัก อยากกินเด็ก
55555555555555555555555555555555
มาแบบเรื่อยๆเอื่อยๆ
พี่กุนธ์ ใจกระตุกบ่อยไปนะ
ระวังจะหลงเด็กไม่รูตัว

ออฟไลน์ basanti

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #444 เมื่อ29-06-2016 11:39:53 »

ตอนใหม่มาแว้ววว ช่วงนี้คุณข้าวปั้นฟิต ขอบคุณนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #445 เมื่อ29-06-2016 12:47:13 »

อบอุ่นจริงๆ


ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #446 เมื่อ29-06-2016 14:30:20 »

ละมุน  :กอด1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #447 เมื่อ29-06-2016 18:48:26 »

พี่กุณน่ารักอะ อรมณ์เหมือนคุณแม่เลย

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #448 เมื่อ29-06-2016 21:18:51 »


แต่กลัวอินทัชจะคิดมากเรื่องที่จะไม่ทำตัวแบบพ่อตนเองอ่ะ ที่บอกว่าจะไม่ทรยศคนที่รัก จะมีมาม่าเรื่องปาลินรึเปล่าหว่า =[]=;

คิดเหมือนเม้นนี้เลยอ่ะ อ่าน Sins ทุกเรื่อง พอเจอคำพูดแบบนี้ก็ทำให้สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง 55555 หรือเราคิดมากไปเอง  :katai4:
ปล. ถ้ามาต่อบ่อยๆแบบนี้จะกดบวกให้ทุกวันเลย 555

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.10] pg.15 -- 28/6/59
«ตอบ #449 เมื่อ29-06-2016 23:30:21 »

ตอนนี้น่ารักกกก อบอุ่นอ่อนโยนมากๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด