Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1333575 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yundori

  • From where I stand...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #90 เมื่อ19-03-2016 10:23:47 »

น่าสงสารพี่กุนต์นะ
แต่อย่างว่า เดาไว้แล้วว่ารันย์ต้องตายแล้ว
เฮ้อ สงสารก็แต่คนที่อยู่นี่แหละ
จะไปหาคนที่ดีแบบนั้นได้ที่ไหน
ที่เข้ามาในชีวิตพี่กุนต์ก็มีแต่เรื่องเงินนี่แหละ
ถึงพระเอกคนใหม่จะเข้ามาก็สงสารเขาอยู่ดี
พี่กุนต์ไม่ลืมรันย์ง่ายๆ และไม่เปิดใจง่ายๆเลย

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #91 เมื่อ19-03-2016 12:33:28 »

ฮื้ออออ สงสารรรแต่ไผ่กับพี่กุนต์นี่น่าจิ้นมากค่ะ ดูแลดีเว่อ

ออฟไลน์ Ain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #92 เมื่อ19-03-2016 15:32:50 »

สกุล ภาษยวัต มาทั้งหมดเลยไหมนั่น
น้องโอ๊ต ดูเหมือนมีปมกับคนรวย

อยากรู้หอยทากกินอะไรเปนอาหาร
จะบำรุงเยอะๆ เผื่อมันจะหันมาวิ่ง
555555555555555555555555555555555555555555

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #93 เมื่อ19-03-2016 15:58:37 »

สงสารพี่กุนต์

แอบจิ้นพี่ไผ่พี่กุนต์ได้มั้ย  เคมีเข้ากั๊นเข้ากัน

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #94 เมื่อ19-03-2016 19:17:57 »

โอ่ยยย  :sad4:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #95 เมื่อ19-03-2016 20:23:13 »

พี่ไผ่คนดีศรีสยาม น่ารักมุ้งมิ้ง ยกพี่กุนต์ให้พี่ไผ่ไปเถอะคุณข้าวปั้น พี่หมูกับคุณน้อยยังเคยได้กันเลย งั้นคู่นี้ก็คู่กันได้ ฮ่าๆๆๆๆ  :katai3:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #96 เมื่อ19-03-2016 21:16:37 »

น้องไผ่ คงรักและผูกพันกับพี่มากนะคะ

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #97 เมื่อ19-03-2016 21:41:13 »

อยากจะเชียร์ให้คุณไผ่กับพี่กุณต์ได้กันเหลือเกินค่ะ 555555555
แหมมม มันก๊าวใจจจจ
พี่กุณต์น่ารักมาก รู้สึกเอ็นดูเหมือนตัวเองเป็นคุณไผ่ซะเอง ถถถถถถถ
ส่วนนังเด็กอินทัชเนี่ยยย ดูไม่น่าไว้ใจเลยนะคะะะะะ  :hao5:

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #98 เมื่อ19-03-2016 23:20:13 »

อ่าน Sins มาทุกภาคเจ้มจ้นมากจริงๆ
ในที่สุดภาคใหม่ก็มาา ฮื่ออ ปลื้มปริ่มน้ำตาจะไหล
กราบขอบพระคุณคนแต่งที่ทำให้มีอะไรดีๆอ่าน

พี่กุนต์น่าสงสารอ่ะ
น้องโอ้ตเป็นเด็กดีนะลูก
อย่าหลอกพี่กุนต์อย่างคนอื่นเค้าเลยน้าเจ้ขอร้อง

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #99 เมื่อ20-03-2016 00:23:02 »

ผิดไหม?ถ้าจะจิ้น ไผ่กุนต์  // อิไผ่นี่สุภาพบุรุษตัลลอด

 ดูจาก 3 ตอน speed ยังคงน่าชื่นใจอยู่ #อย่าหลอกให้เขาตายใจนะ ตะเอ๊งงงง


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
« ตอบ #99 เมื่อ: 20-03-2016 00:23:02 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #100 เมื่อ20-03-2016 07:00:37 »

 :mew1:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #101 เมื่อ20-03-2016 07:42:30 »

พี่ไผ่ยอดคนดี  :mew1:

ออฟไลน์ soul love

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #102 เมื่อ20-03-2016 11:26:07 »

หน่วงดีแท้หนอ.....
ปล. คิดถึงลูกหมูอ่ะ

ออฟไลน์ Lovetree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #103 เมื่อ20-03-2016 13:34:12 »

ชอบไผ่มากๆเลยค่ะ  เหมาะสมที่จะเป็นพระเอกจริงๆ  แล้วใครจะเป็นผู้โชคดีคนนั้นนะ :mew3:
รัณย์น่าสงสารจัง  เราร้องไห้เลยที่รัณย์ไม่ได้อยู่ดูแลพี่กุนต์ต่อไปแล้ว :mew6: 
สงสารพี่กุนต์ไม่อยากให้โทษตัวเองเลย :hao5:
โอ๊ตจริงใจจริงจังกับพี่กุนต์เถอะนะ :ling1:
สนุกมากๆเลยค่ะ  เข้มข้นตั้งแต่ตอนแรกๆเลย  o13  ขอบคุณนักเขียนมากๆเลยนะคะ :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #104 เมื่อ20-03-2016 19:44:07 »

ขอให้เจอรักดีๆ

ออฟไลน์ Inamning

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.3] pg.3 -- 19/3/59
«ตอบ #105 เมื่อ20-03-2016 20:38:11 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #106 เมื่อ23-03-2016 01:00:27 »




Chapter 4




กนธีตื่นตั้งแต่ตีสี่แต่ยังไม่ยอมลุกไปไหน เขานอนนิ่ง หันหลังให้ญาติผู้น้องที่กอดเอวเขาไว้หลวมๆ
   
เจ้าไผ่มันเป็นคนขี้ห่วง ช่างดูแล เที่ยวเทคแคร์ชาวบ้านไปทั่ว คิดว่าเมื่อคืนเขาคงเผลอละเมออะไรออกมาให้น้องได้ยิน มันถึงได้กกเขาเหมือนแม่ไก่ฟักไข่ทั้งคืน
   
ชายหนุ่มพลิกตัวนอนหงาย เหม่อมองเพดานสีนวล
   
พสิษฐ์ทำเสียงในลำคอ คล้ายกับว่าจะผงกหัวขึ้นดูพี่ชายที่ขยับตัวเล็กน้อย พอเห็นว่าพี่กุนต์ยังหลับตาก็เลยนอนต่อ ร่างสูงใหญ่เอาหน้าซุกเข้ามาที่ไหล่ลาด วางคางเกยบ่า กอดคนตัวอุ่นเพราะความหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศ
   
กนธียกมือขึ้นกุมปลายนิ้วของคนข้างกายไว้ สัมผัสอุณหภูมิร้อนผ่าว ใจหวนคิดถึงครั้งสุดท้ายที่มีคนกอดก่ายเขาแนบแน่น..ไม่ใช่กอดแค่เพียงให้ตัวได้ใกล้ชิด แต่เป็นกอดที่ถ่ายทอดความรัก ความหวงแหน ความหลงใหลและรักใคร่ต่อกันและกัน เป็นกอดที่แสดงถึงความสัมพันธ์ที่ไม่มีข้อแม้หรือเงื่อนไขใดๆมาเป็นตัวแปร
   
..เดือนหน้าก็จะครบสามปีแล้ว..สามปีที่ไม่มีหัวใจ..
   
หยดน้ำร้อนผ่าวร่วงลงจากปลายหางตา เขาอยากจะหลับอีกครั้งเผื่อได้เห็นใครสักคนผ่านจินตนาการ..นานแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงศรัณย์ เขาไม่ได้ลืม แต่ก็ไม่ได้ฝันถึง อาจเพราะพยายามสั่งตัวเองให้อยู่ให้ได้ แม้ไม่มีกัน

แต่เพราะได้เจออินทัช..คนที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับคนรักเก่าอย่างน่าตกใจ ความทรงจำเก่าเก็บจึงถูกกระตุ้นเตือนอีกหน
   
กนธีหลับตาลง ได้ยินเขาบอกกันว่า ความฝันตอนเช้ามืดอาจจะกลายเป็นเรื่องจริง
   
ถ้าเขาฝันว่าได้เจอศรัณย์..บางทีตื่นขึ้นมา ศรัณย์อาจจะยังอยู่กับเขาเหมือนเคย
   
......
   
“รับเด็กใหม่มาหรืออาวรรณ”
   
คุณหญิงวรรณรีที่กำลังดื่มชาหันมามอง หลานชายคนโปรดยืนอยู่ข้างกระจกบานเลื่อนห้องรับแขก มือเลิกม่าน มองผ่านแดดจัดจ้าในช่วงบ่ายไปหยุดอยู่ที่ใต้ร่มเงาของต้นปีป
   
“อ้อ..” หล่อนชะเง้อดู “นั่นศรัณย์..เป็นเด็กส่งเอกสารในบริษัทน่ะ เขามาทำงานพิเศษช่วงปิดเทอม อาเห็นขยันเลยเอ็นดูกว่าเพื่อน นี่ก็ชวนมาช่วยงานที่บ้าน จะได้ไม่หนักแรงไป”
   
“ขยันจริงแหละ” กนธียิ้ม มองข้างตัวเด็กหนุ่มที่มีหนังสือเรียนวางเป็นตั้ง “หนังสือกองโตจัง เป็นกุนต์นะ เอาไปต้มแล้วกินดีกว่า เรื่องอะไรจะมานั่งอ่าน สอบได้เป็นเรื่องตลก สอบตกเป็นเรื่องธรรมชาติ”
   
“จ้ะ..พ่อเด็กเกเร” หล่อนหัวเราะ “ถ้าว่างๆ ก็ไปสอนน้องบ้างสิ เห็นว่าต้องรีบอ่านเตรียมตัวไว้สอบแข่งขันน่ะ เด็กมันไม่มีทุนไปเรียนพิเศษเหมือนคนอื่นเขา อาจะจ่ายให้ก็ไม่เอา ขี้เกรงใจ..ถือเสียว่าช่วยกันเอาบุญ”
   
กนธีพยักหน้าหงึก เขาค่อนข้างมีเวลาเยอะอยู่แล้ว อย่างวันนี้ก็เอาเอแคลร์ทดลองทำมาให้อาวรรณตรวจทาน หลังจากที่งวดก่อนถูกคุณอาลากตัวไปเรียนคอร์สเบเกอรี่ของวีรสุด้วยกัน
   
“แอบเปิดเตาใช่ไหม” คุณหญิงกุมขมับ ยกเอแคลร์ที่รูปร่างเหมือนจานบินขึ้นส่อง และเพราะมันแบนราบเรียบจนบีบไส้ไม่ได้ ตัวครีมวานิลลา เลยต้องแยกไว้ต่างหาก จะกินก็จุ่มเอา
   
“ก็มันสุกไม่ทั่วทั้งสองชั้นนี่ กุนต์เลยเปิดเตา ยกถาดสลับกัน” กนธีหัวเราะร่วน แต่เป็นแบบนี้ก็ดี อาวรรณจะได้ไม่บังคับเขาไปเรียนทำขนมเป็นเพื่อนอีก คว้าตัวใครไม่ได้ ล็อคคอเขาไปด้วยทุกที
   
“แต่ก็มีสไตล์ไปอีกแบบนะ บิออก จุ่มครีม แล้วก็เข้าปาก”
   
“โหย..อย่าแซวสิครับ” เขาย่นจมูก คว้าจานขนมมาถือ “เอาไปแบ่งป้าๆในครัวบ้างดีกว่า มีวาสนานะเนี่ย ได้กินเอแคลร์จานบิน สภาพพิลึกพิลั่นหนึ่งเดียวในโลกของผม”
   
คุณหญิงวรรณรีขบขัน โบกมือไล่หลานชาย กนธีเลยปลีกตัวไปแหย่พวกแม่บ้านที่รู้จักคุ้นเคยกันดี ได้แกล้งตั้งแต่สาวใช้ยันคนครัวแล้วก็ชอบใจ วกออกมาในสวน จะไปหาคนขับรถของคุณอาบ้าง บังเอิญเหลือบเห็นเด็กหนุ่มคนเดิมยังนั่งอ่านหนังสือท่าทางขะมักเขม้นเลยเข้าไปหา
   
“น้องๆ” เขายื่นจานขนมให้ “กินสิ เอามาแบ่ง”
   
ศรัณย์เงยหน้าจากชีทเรียน กะพริบตาปริบ “ครับ?”
   
“ชอบขนมหวานหรือเปล่า” กนธีหยิบแป้งเอแคลร์ขึ้นมาบีบเล่น “สภาพทุเรศ แต่รสชาติอร่อยนะ พี่ตั้งใจว่าในอนาคตพี่จะไปเป็นเชฟทำขนมแหละ”
   
คนฟังนิ่งคิดอยู่สักพักก็หลุดหัวเราะพรืด พอตั้งหลักได้ก็ขอโทษที่เสียมารยาท แต่สีหน้าจริงจังกับรูปร่างขนมที่ดูยังไงก็ห่างไกลจากคำว่าเชฟอยู่หลายขุม ทำให้เขายั้งไม่อยู่
   
กนธียิ้ม “หัวเราะได้แล้ว”
   
ศรัณย์ทำหน้างง “อะไรหรือครับ”
   
คนอายุมากกว่านั่งยองๆลงตรงหน้า “พี่เห็นน้องอ่านหนังสือดูเครียดๆ อากาศร้อนแบบนี้ กลัวเส้นเลือดในสมองจะบึ้มออกมาซะก่อน เลยมาชวนคุยน่ะ แต่ที่จะให้กินขนมก็จริงจังนะ ลองดูๆ”
   
เด็กหนุ่มยิ้มรับ ยกมือขึ้นไหว้ “ขอบพระคุณครับ”
   
“ไม่ต้องๆ ยังไม่อยากแก่” กนธีบอกปัด นั่งลงบนพื้นสนามหญ้า “อ่านวิชาอะไร ยากไหม”
   
“ภาษาอังกฤษครับ ผมไม่ค่อยถนัดก็เลยรู้สึกว่ายาก”
   
“ไหน..ขอดูหน่อย” เขาชะโงกไปมอง “แกรมม่าร์น่ะหรือ ที่บ้านพี่มีหนังสือเยอะเลย ยังไงจะเอามาให้นะ แล้วถ้าช่วงนี้ไม่ได้ไปไหน พี่จะมาช่วยสอนให้ ของแบบนี้จิ๊บๆ”
   
ศรัณย์งุนงงหนักขึ้นไปอีก “เอ่อ..เกรงว่าจะรบกวน..” เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพนักงานแผนกไหนของบริษัท อาจจะรบกวนเวลาทำงานประจำได้
   
กนธียิ้มตาปิด “เฮ้ย..ไม่รบกวน พี่น่ะลอยไปลอยมาเป็นสัมภเวสี อาวรรณบอกว่าหัดทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมบ้าง นี่ถ้ายังเร่ร่อนไปเรื่อย อาวรรณจะส่งไปเก็บขี้วัว”
   
“อาวรรณ? คุณหญิงวรรณรีน่ะหรือครับ” ศรัณย์ตาโต
   
“ช่าย..ทำไมหรือ”
   
คนอายุน้อยกว่าตกใจไม่น้อยที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นหลานชายของเจ้านาย เขาแนะนำตัวว่าชื่อกนธี สิงหนาท แต่จะเรียกว่าพี่กุนต์ก็ได้เพื่อความเป็นกันเอง
   
ศรัณย์มองคุณกนธีที่นั่งคลุกกับพื้นหญ้า หยิบเอแคลร์รูปร่างประหลาดมากินทั้งที่มือเปื้อน ท่าทางพี่กุนต์ดูเป็นมิตร ใจดี หัวเราะเก่ง ยิ้มแต่ละครั้ง พลอยทำให้โลกเขาสดใสตามไปด้วย เขาไม่ค่อยเจอคนมีฐานะที่ทำตัวติดดินนักหรอก แม้ว่าคุณหญิงวรรณรีจะเป็นคนเรียบง่าย แต่ก็ไม่ได้สบายๆแบบคุณกนธี จนเขาแอบเก็บเป็นความประทับใจเมื่อแรกพบเอาไว้ตามลำพัง
   
......

   
“กนธีแปลว่าอะไรหรือครับพี่กุนต์” ศรัณย์เงยหน้าถามติวเตอร์ส่วนตัวของเขาที่เมตตา สละเวลาส่วนตัวมาสอนภาษาอังกฤษแบบไม่คิดเงินสักบาท
   
กนธีเอาไม้บรรทัดตีหน้าผากเด็ก ความสนิทสนมมีมากขึ้นเรื่อยๆตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่าน “บอกไปกี่ครั้งแล้วไม่รู้จักจำ ถามอีกจะเตะก้านคอเลยไอ้รัณย์”
   
“จำครับ แต่อยากถาม” เขาพึมพำ “อยากให้รู้..ว่าชื่อพี่กุนต์มีความหมายสำหรับผมเสมอ”
   
เจ้าของชื่อแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน “เรียนๆๆ จะสอบอยู่มะรืนนี้แล้ว”
   
ศรัณย์หัวเราะ ความรู้ภาษาของเขา เรียกได้ว่าติดลบ ตามเพื่อนไม่เคยทัน แต่พี่กุนต์ก็เคี่ยวเข็ญจนกลายเป็นของง่าย วิชานี้ ถ้าได้คะแนนดีจะช่วยดึงคะแนนรวมขึ้นอีกเยอะ ได้ยินมาว่าใช้ตัดคู่แข่งออกได้มากโข
   
“พี่กุนต์จะค้างที่นี่เลยไหมครับ นี่ก็ดึกแล้ว” เขาเงยมองนาฬิกาข้างผนัง สี่ทุ่มกว่า พี่กุนต์อุตส่าห์มาติวให้ถึงอพาร์ทเม้นท์ของเขา อันที่จริงก็ไม่อยากรั้งให้ต้องมานอนอุดอู้ในห้องเก่าๆ แต่อีกใจก็เป็นห่วง ไม่อยากให้กลับคนเดียว “หรือจะให้ผมไปส่งที่บ้านดีครับ”
   
“พรุ่งนี้มีเรียนเสริมตอนเช้าไม่ใช่หรือไง ไม่ต้องห่วงพี่หรอกน่า” กนธีหาวหวอด “นอนที่นี่ก็ได้ มาค้างตั้งกี่ครั้งแล้วล่ะ ทำมาถามเหมือนพี่ไม่เคยมานอนด้วย”
   
“เคยครับ เคยบ่อย แต่ยิ่งบ่อย..ก็ยิ่งทำใจลำบาก” ศรัณย์พูดเสียงเบา
   
ใครอีกคนเลิกคิ้ว “พูดอะไรน่ะ”
   
“เปล่าครับ งั้นเดี๋ยวทำเออร์เรอร์ครบห้าสิบข้อ ผมจะหยุดแล้ว พี่กุนต์ไปอาบน้ำก่อนได้เลย”
   
“โอเค..” กนธีคว้าผ้าเช็ดตัวของศรัณย์เข้าห้องน้ำไป ฮัมเพลงอารมณ์ดี
   
เด็กหนุ่มมองตามหลัง รู้สึกปั่นป่วนในหัวอก ใกล้กันมากขึ้นเท่าไร..ก็ยิ่งห้ามความคิด ความหลงใหลของตนเองได้ยากขึ้นทุกที พี่กุนต์คงไม่รู้ ว่าเขาแอบละเมิด ลักลอบจูบแก้มเจ้าตัวทุกครั้งที่ได้นอนด้วยกัน
   
..รักเข้าเต็มหัวใจเสียแล้ว..
   
คืนนั้น ศรัณย์นอนไม่หลับ ได้แต่พลิกตัวไปมาอยู่ข้างล่างเตียง ห้องเขามีแต่เตียงเดี่ยว ถ้าพี่กุนต์มาค้าง ศรัณย์จะเสียสละให้เพื่อนรุ่นพี่นอนบนฟูกเสมอ ต่อให้พี่กุนต์ทั้งลากทั้งดึงให้มานอนด้วยกันก็ไม่ยอม ไม่ใช่ว่าเขาเกรงใจ แต่เขากลัวว่าจะเผลอทำเรื่องไม่ดีกับพี่กุนต์ต่างหาก เลือดเนื้อที่รุ่มร้อนของช่วงวัย ทำให้เขากักเก็บความรู้สึกได้ลำบากมากขึ้นทุกที
   
..กลัวจะถูกเกลียด..
   
ศรัณย์ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งตีหนึ่งกว่า อากาศร้อนอบอ้าวทำให้เขาลุกขึ้นมา พัดลมในห้องส่งเสียงกึงๆ เขาเหลือบมองไปทางกนธีอย่างนึกห่วง กลัวจะร้อนจนไม่สบายตัว เลยหันพัดลมไปจ่อปลายเท้าและดึงผ้าห่มที่อีกฝ่ายถีบร่วงไปตรงปลายเตียงขึ้นมาคลุมอกให้ หากไม่สบายไปคงจะแย่
   
ในแสงสลัวของยามค่ำคืน กนธีหลับตานิ่งสนิท ลมหายใจสม่ำเสมอ แสงจันทร์นอกหน้าต่างฉาบไล้อยู่บนโครงหน้าได้รูป ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย เห็นไรฟันขาวสะอาด
   
ศรัณย์ไม่ทันห้ามปรามตัวเองตอนที่โน้มตัวลงไปใกล้ ทาบปากลงไปบางเบาด้วยใจที่เต้นระรัว รุนแรงจนแทบหลุดออกมานอกอก สัมผัสนั้นเหมือนปุยนุ่นที่ทาบผ่าน แผ่วหวิว..เกือบเสมอเท่าสายลม

กนธียังหลับไม่รู้เรื่อง ในขณะที่ใครอีกคนผละออกมาด้วยหัวใจที่ถูกบีบรัดด้วยความสุข

เขาจูบพี่กุนต์..จูบแรกที่ได้แตะต้องเรียวปากนุ่ม จูบที่เฝ้าฝันถึงมาตลอดเวลา จูบที่ไม่สามารถทำได้ในเวลาที่อีกคนมีสติ
   
..ถ้าอยากจะครอบครองคนๆนี้..เขาต้องแลกด้วยอะไร..
   
......

   
‘คุณไผ่..เคยเจออะไรที่อยู่สูงกว่าเรา แต่อยากคว้าให้ถึง ทั้งที่ไม่แน่ใจว่าจะเอื้อมถึงหรือเปล่าครับ ผมว่าผมเจอแล้ว..และผมก็เฝ้าอยากจะได้มาตลอดสามปี แต่ไม่รู้เลย ว่าหากเอื้อมไป สิ่งๆนั้นจะยิ่งลอยหายไปหรือเปล่า ห่างกันแค่นี้ก็ปวดใจพอแล้ว ให้ห่างไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ผมคงต้องตายแน่..ปล. ผมหมายถึงคณะวิศวะที่ผมอยากจะเข้าน่ะครับ ไม่มีอะไรมาก’
   
จดหมายบ้าบอ เขียนส่งไปหาลูกชายเพียงคนเดียวของเจ้านาย ศรัณย์ค่อนข้างสนิทกับคุณพสิษฐ์ แม้ว่าจะไม่ได้พบกันบ่อย แต่ทุกครั้งที่คุณไผ่กลับมาบ้าน ก็จะได้เจอเขาเสมอ ยิ่งอายุเท่ากัน ก็ยิ่งคุยกันได้ง่ายมากขึ้น
   
หนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้น จดหมายจากคุณไผ่ก็ถูกส่งกลับมา
   
‘อ่านดูแล้ว ไม่รู้สึกว่าเป็นสิ่งของเลยสักนิด ของสูงที่ว่ามันดิ้นได้ด้วยใช่ไหม ที่ศรัณย์กลัว คงเพราะคิดว่าถึงคู่แข่งจะไม่มากเท่าคณะที่อยากได้ แต่สิทธิ์ที่จะเอื้อมไปแล้วถูกผลักกลับ มันมีมากกว่า ยังไงก็ตาม..ขอบอกว่าคนๆนั้นไม่ได้โง่นะ ทำอะไรเอาไว้บ่อยๆ คิดว่าเขาไม่รู้หรือ วงจรการนอนหลับมีตั้งหลายช่วง บางที..เวลานั้นเขาอาจจะไม่ได้หลับลึกทุกครั้งก็ได้ และที่เขาไม่ลุกขึ้นมาตะบันหน้า มันเพราะอะไร -- บอกได้แค่นี้ (ถ้าไม่ลองเอื้อม จะคว้าถึงหรือวะเพื่อน)’
   
จดหมายฉบับนั้น..ทำให้ศรัณย์ตัดสินใจดึงตัวกนธีเอาไว้ และพูดเสียงหนักแน่น
   
“วันที่ผมสอบเข้าวิศวะได้ ผมมีเรื่องจะสารภาพกับพี่กุนต์”
   
กนธีรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าว “มั่นใจหรือว่าจะสอบติด”
   
“ไม่มั่นใจหรอกครับ แต่คุณไผ่บอกว่า ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ ทั้งเรื่องสอบแล้วก็..เรื่องนั้นด้วย”
   
“ไอ้ไผ่...” กนธีได้แต่ก่นด่าน้องในใจ มันคงจะเอาจดหมายที่เขาเขียนไปเล่า เรื่องที่ศรัณย์แอบจูบเขาตอนหลับมาเล่นต่อแน่ๆ และที่น้องมันกล้าพูดยุแบบนั้น ก็เพราะพสิษฐ์รู้ดีอยู่แล้ว ว่าเขาเองก็ ‘มีใจ’
   
ศรัณย์สอบติดคณะที่หวัง ในวันปฐมนิเทศ เขารวบรวมความกล้าที่เกือบจะฝ่อลงไปอีกครั้งเพื่อบอกความในใจกับกนธี
   
“เป็นแฟนกับผมนะครับพี่กุนต์”
   
“ข้ามขั้นตอนไปหรือเปล่า” กนธีกระแอมแก้เก้อ
   
“ไม่นี่ครับ” ศรัณย์มึนงง
   
“ความรู้สึกสิ..ความรู้สึก”
   
“อ้อ..” เด็กหนุ่มหัวเราะ เกาท้ายทอยอย่างเขินๆ “ผม..รักพี่กุนต์ครับ”
   
“พูดหน้าตายเลยนะเว้ย” คนฟังเสียอีก..ที่หน้าร้อนจนจะระเบิดให้ได้
   
“ไม่หน้าตายหรอกครับ ผมอายมากตอนนี้” ศรัณย์ยิ้ม “แต่เพราะว่าซ้อมมาตลอดสามปี..ก็เลย..ไม่ตื่นเต้นมาก”
   
หัวใจของคนที่บอกว่าไม่ตื่นเต้น..กลับดังรัวจนฝ่ามือที่ถูกดึงมาวางทาบไว้สัมผัสได้อย่างง่ายดาย
   
“พี่กุนต์ล่ะครับ..คิดยังไงกับผม”
   
กนธีแพ้ทางคนขี้อ้อน “มีแฟนแก่คิดดีแล้วหรือไง ถึงตอนนี้จะยังไม่มาก แต่อนาคตต้องเอาอายุรัณย์บวกไปอีกสิบสองปีถึงจะได้อายุพี่นะ ฉลองแซยิดเร็วกว่าด้..” เขาพูดไม่ได้เพราะอีกฝ่ายปิดปากไว้
   
“อายุไม่ใช่ปัญหาครับ ความรู้สึกของพี่กับผมต่างหาก..ที่เป็นตัวตัดสิน”
   
“หึ..จะคอยดู”
   
“หมายความว่ายังไงครับ” ศรัณย์ทำท่าละห้อย “ไม่ตกลงหรือครับ”
   
“ไม่ใช่เว้ย..พี่หมายความว่าจะคอยดู” กนธีหลุดรอยยิ้ม “คือ....ลองคบกันดูก็ได้”
   
ศรัณย์เบิกตากว้าง ทวนถามอีกครั้ง..และอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจ เมื่อคำตอบยังคงเดิม เขาก็แสดงปฏิกิริยาตื่นเต้นดีใจเหมือนเด็กๆ คนมองได้แต่หัวเราะ ทั้งตัวถูกดึงไปกอดแน่น ก่อนจะกลายเป็นรสจูบแบบอ้อยอิ่ง
   
“ผมสัญญา..จะไม่ทำให้พี่เสียใจที่ยอมเลือกผมเป็นแฟน”
   
“อืม..” กนธีพยักหน้า

“จะไม่ทำให้พี่ต้องร้องไห้ จะไม่ปล่อยให้พี่ต้องเหงา ต้องอยู่คนเดียว หรือรู้สึกว่าถูกทิ้งเด็ดขาด”
   
“อืม..”
   
“พี่อาจจะยังไม่เชื่อผม เพราะผมดูเป็นเด็กที่ยังไม่มีอะไรพร้อมสักอย่าง แต่ขอให้มั่นใจในตัวผม..ศรัณย์คนนี้จะทำทุกอย่างให้พี่มีความสุข ให้พี่รู้สึกว่าโชคดี ที่ได้คบกับผม..”
   
คนอายุมากกว่าส่งเสียงในลำคอ “อย่าลืมสัญญานะ”
   
“แน่นอนครับ..” ศรัณย์ยิ้ม “ผมเป็นของพี่..ทั้งชีวิต”
   
......





“รัณย์..”

กนธีสะดุ้งตื่นอีกครั้งตอนแปดโมงเช้า เขาลืมตาโพลง นึกไม่ออกว่าตัวเองอยู่ที่ไหนไปชั่วขณะ กระทั่งปรับสติได้ ถึงค่อยๆระลึกว่าอยู่ในบ้านของญาติผู้น้อง

ชายหนุ่มเหลียวมองด้านข้าง พสิษฐ์ไม่ได้นอนอยู่ด้วยกันแล้ว คงจะตื่นไปตั้งแต่หกโมงกว่าตามวิสัย เขาถอนหายใจหนักๆ ยกมือ
ขึ้นลูบใบหน้าตัวเองก่อนจะพบว่ามีร่องรอยเปียกชื้นเต็มไปหมด

“ให้ตาย..” กนธีพึมพำ ยกปลายนิ้วขึ้นดู

..ร้องไห้..แม้แต่ในความฝันเชียวหรือ..

..ฝันว่าอะไรนะ..ใครทวงถามอะไรใคร..

“อย่าลืมสัญญานะ”
   
“ผมเป็นของพี่..ทั้งชีวิต”


เขานั่งเงียบอยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็หัวเราะแผ่วเบา..หัวเราะทั้งที่ไม่มีอะไรน่าขำ จนกลายเป็นการหัวเราะทั้งน้ำตา

“ไม่ต้องยกให้ทั้งชีวิตก็ได้..” กนธีกอดเข่าตัวเอง ซุกหน้าอยู่ในอ้อมแขนของตน “ไปเป็นของคนอื่นก็ได้..”

..ขอแค่ยังอยู่..แค่ยังมีลมหายใจ..

..แค่ให้เขาได้รับรู้ถึงการมีตัวตน ได้เฝ้ามองความสำเร็จของศรัณย์..

..ถึงจะไม่ได้รักกัน..ก็ยอม..

.

.

.

 


แปดโมงครึ่ง กนธีล้างหน้าล้างตา อาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าของพสิษฐ์แล้วเดินเนือยๆลงมาด้านล่าง ได้ยินเสียงเจ้าไผ่บ่นอะไรอยู่คนเดียวตั้งแต่หัวบันไดแล้ว

“อ้าว..พี่กุนต์” พสิษฐ์หันมามอง “ตื่นแล้วหรือพี่ หิวหรือยัง ป้าเขาทำข้าวต้มไว้ให้ เอาน้ำผลไม้แก้แฮงค์ไหม”
   
“แค่ไวน์สองขวด ยังโอเคอยู่” เขานวดขมับที่ปวดตุบๆ ไม่ได้เมาค้างหรอก แต่ร้องไห้หนักไปหน่อย “แล้วตะกี๊บ่นอะไรครับ งึมงำๆเหมือนหมีกินผึ้ง”
   
ร่างสูงทำหน้าเหม็นเบื่อ ส่งจดหมายให้พี่ชายดู “ไอ้ตึ๋งหนืดนั่นไง”
   
“ใครวะ ตึ๋งหนืด?” กนธีรับน้ำส้มคั้นมาจากแม่บ้าน ยิ้มขอบคุณแล้วยกดื่ม รสเปรี้ยวๆกับความเย็นสดชื่นนี่ทำให้ตาสว่างได้ทันที
   
“เจ้าของวัวที่ผมขับรถไปชนไง” พสิษฐ์งุ่นง่าน “เขาส่งจดหมายมา” ชี้ให้ดูเอกสารสำคัญ พ่อเล่นติดแสตมป์หน้าซองราคาไม่กี่บาท ไม่ลงทะเบียนด้วย เกิดหายไปก็หายลับกันพอดี
   
“อ้อ..คุณไผท” เขานึกออกแล้ว “พี่ยังเก็บนามบัตรเขาไว้อยู่เลย ทำไมหรือ”
   
“เขาส่งเอกสารค่ารักษาพยาบาลวัวมาให้”
   
“อ้าว..ก็ถูกต้องแล้วนี่ เราชนวัวเขา เราก็ต้องจ่ายค่ารักษา”
   
“ค่ารักษาน่ะใช่ แต่มันไม่เกี่ยวกับค่าแรงจ้างคนงานมาอุ้มวัวเข้าคอก ค่าน้ำมันรถเข้าตัวเมืองไปรับสัตวแพทย์ ค่าโทรศัพท์คุยปรึกษาเคสกับสัตวะ ค่าเสียเวลากับค่าเสียหายที่ไม่ได้รีดนมวัว ค่าพิธีเรียกขวัญวัวที่ตกใจจน..” พสิษฐ์เบ้หน้า “เต้าตัน..”
   
“เต้าตัน?” กนธีหลุดหัวเราะ
   
“เออ..เขาบอกว่าวัวเขาตกใจจนเต้าตัน ผลิตนมไม่ได้ และเขาก็เสียหาย ซึ่งผมต้องรับผิดชอบ”
   
“คุณไผทก็เป็นคนตลกดีนะ” คนฟังขำจนน้ำตาเล็ด “เขาแค่ส่งมาแหย่หรือเปล่า”
   
“จริงจังเลยล่ะครับ!”
   
กนธียิ้ม “เอาที่พี่ก็ได้ ถ้าไผ่ไม่อยากจ่ายล่ะก็”
   
“ผมผิด ผมยอมรับ แต่บางอย่างก็เกินไปนะ” พสิษฐ์หน้าหงิก “แต่ก็เอาเถอะ ผมจะจ่ายเองตามที่เขาเรียกเก็บมาก็แล้วกัน คนอะไรวะ..เกิดมาไม่เคยเจอ เหนียวยิ่งกว่าตังเม เค็มยิ่งกว่าทะเลรวมกันทั้งโลกซะอีก!”
   
คนเป็นพี่ขำคึ่กๆ

“แล้ววันนี้พี่กุนต์จะไปกับผมไหม” ชายหนุ่มหันมาชวน “จะไปจ่ายให้เสร็จๆเลย เดี๋ยวพี่แกคิดดอกเบี้ยจ่ายช้าอีก”

“โอนไปก็ได้นี่ หรือไม่อยากเสียค่าธรรมเนียมต่างจังหวัด..ติดเชื้อเค็มจากคุณไผทมาแล้วหรือ”

“เปล่า..ผมจะแวะไปดูที่ด้วย ไม่รู้พวกคนงานถางต้นไม้ถึงไหนแล้ว” พสิษฐ์หมายถึงที่ดินผืนที่กนธียกให้เขาทำไร่ทำฟาร์มและปลูกบ้านไว้อีกหลัง อะไรก็ดี..เว้นแต่ที่ดินผืนนั้นดันอยู่ติดกับไร่ของคุณไผทจอมหนืด

..แต่ก็เอาเถอะ..กว้างขนาดนั้น คงไม่เดินมาชนกันตรงข้างรั้วหรอก..

“อา..ไม่ล่ะ พี่ปวดหัวนิดหน่อย ว่าจะกลับไปนอนต่อที่ห้อง ช่วงบ่ายนัดลูกค้าไปดูคอนโดตรงซอยหลังสวนด้วย ยังไงแกก็ขับรถดีๆแล้วกัน”

“ไหวไหม ให้ผมไปส่งหรือเปล่า”

“ไม่เป็นไร” กนธีโบกมือ “ถึงแล้วโทรบอกด้วยนะ”

พสิษฐ์มองตามเจ้าของแผ่นหลังเล็กที่เดินลากขาไปที่โต๊ะอาหารอย่างห่วงใย


.

.

.



[ต่อด้านล่าง]




ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #107 เมื่อ23-03-2016 01:01:22 »


.

.

.


กนธีรับฝากจากคนรู้จักที่อยู่ในแวดวงเดียวกันให้ช่วยหาลูกค้ามาซื้อห้องในโครงการคิวเฮ้าส์แถวหลังสวน เพราะเจ้าของเดิมจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ เขาค่อนข้างมีคอนเนคชั่นเยอะ เลยได้คนสนใจไม่ยาก คราวนี้เป็นชาวออสเตรเลียนที่หอบหิ้วเอาครอบครัวมาใช้ชีวิตเกษียณในไทย

เขาพาลูกค้าเดินชมบริเวณคอนโดแทบทุกตารางเมตร เสนอให้เห็นถึงความสะดวกสบายในย่านใจกลางเมือง สามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็ว มีห้างสรรพสินค้าหลายที่ มีโรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียงสองโรงพยาบาล ตัวโครงการก็หรูหรา ใหญ่โต มีระบบความปลอดภัยที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง สระว่ายน้ำ ซาวน่า ฟิตเนส จากุสซี่ สนามเด็กเล่น คลับเฮ้าส์ และสวนหย่อมร่มรื่น ราคาเริ่มต้นตอนขายกันแรกๆคือสิบสี่ล้าน ยูนิตที่เขารับฝากมาราคาสูงเอาเรื่อง เพราะอยู่ชั้นบนๆ เป็นห้องแบบพูลวิลล่า เนื้อที่ประมาณสามร้อยห้าสิบตารางเมตร ทำเลสวย มองออกไปเห็นวิวเมืองได้กว้างไกล 
   
ฝรั่งผมทองกับครอบครัวดูจะพอใจเอามาก ค่าเงินที่ต่างกัน พอมาอยู่ไทยแล้ว พวกเขาก็สามารถซื้อชีวิตสะดวกสบายและมีระดับได้ไม่ยาก ดังนั้นเพียงแค่คุยกันไม่กี่ครั้ง กนธีก็สามารถทำการขายห้องที่ว่าได้อยากไม่ลำบากอะไร
   
เขารับสามเปอร์เซ็นต์จากราคาขาย ในบางครั้งเจ้าของอาจตั้งราคาต่ำ เขาก็จะพูดคุยและทำการประเมินราคาซื้อใหม่ในระดับที่ตลาดยอมจ่าย ส่วนมากคนฝากขายมักพอใจกับราคาที่ตัวเองตั้งไว้แล้ว ส่วนต่างที่เพิ่มมาเป็นผลตอบแทนงามๆสำหรับค่าเหนื่อยของเขา
   
ค่านายหน้าครั้งนี้ กนธีสามารถนั่งๆนอนๆโดยไม่ต้องทำอะไรได้อีกหลายเดือน เพราะเขามันตัวคนเดียว ไม่ได้ติดหรู และไม่ได้ฟุ่มเฟือยมากอยู่แล้ว แต่ก็นั่นแหละ เขามักจะไปเจอลูกค้าและผู้ว่าจ้างอย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้ง เขาทำเพื่อฆ่าเวลา การเจอผู้คนมากๆทำให้ไม่เหงา ไม่ฟุ้งซ่าน ได้ช่วยคนรู้จักที่อยู่ในแวดวงการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ได้เที่ยวไปทั่ว แถมยังได้ค่าขนมมาให้เด็กๆผลาญเล่นอีกด้วย
   
จบจากไววิทย์ กนธีคิดว่าน่าจะเลิกวุ่นวายกับการอุปการะเด็กสักที ทักษะการเลือกคู่ควงชั่วคราวของเขามันค่อนข้างแย่เอาการ หรือไม่ก็เป็นเพราะเขาไม่เจียมสังขารเอง ชอบสนใจแต่คนอายุน้อยกว่า
   
..แต่อีกใจก็เถียง..ว่าเขาไม่ได้คิดจริงจังแต่แรก..จะไปแคร์อะไรให้มากความ..
   
ชายหนุ่มไปส่งลูกค้าที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม ตกลงกันเรื่องวันที่จะทำการซื้อขาย และโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อย จากนั้นก็เตร่ไปเรื่อย เข้าห้างนั้น ออกห้างนี้ แช่แอร์เย็นๆกระทั่งหัวค่ำ เลยตัดสินใจขับรถกลับคอนโดของตน
   
อย่างไรก็ตาม เขาเกิดเปลี่ยนใจกะทันหันเมื่อเหลือบเห็นนามบัตรสีน้ำเงินเข้มตรงแผงไมล์ ตัวอักษรสีเงินพิมพ์ไว้ว่า ‘Vin Santo’ อะไรสักอย่างทำให้เขาคิดอยากจะกลับไปที่เลานจ์นั่นอีกรอบ ทั้งที่ไม่คิดจะดื่มเหล้า
   
..ค็อกเทลเบาๆสักแก้ว คงไม่ทำให้ผิดความตั้งใจ..

.

.

.





อินทัชมองใครบางคนตั้งแต่ฝ่ายนั้นก้าวเข้ามา รอยยิ้มพอใจผุดขึ้นบนมุมปาก วันนี้เป็นวันเสาร์ เขาร้องเพลงเหมือนเคย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ขึ้นเวที เพราะคุณกุนต์ดูจะมาไวกว่าปกติ
   
“สวัสดีครับ” เขาเข้าไปหา “ได้ที่นั่งหรือยังครับคุณกนธี”
   
เจ้าของชื่อหันมาทางต้นเสียง หายใจติดขัดเล็กน้อยกับใบหน้าอีกฝ่าย เขาเตือนตัวเองว่า..ไม่ใช่

“คุณอินทัช” กนธีเรียกเด็กหนุ่มเสียเต็มยศ “อินทัช..พี่จำชื่อได้”

..อินทัช..ไม่ใช่ศรัณย์..

“เรียกโอ๊ตดีกว่าครับ ชื่อจริงมันทางการเกินไป” เขาผายมือไปทางโซฟาตัวที่ว่าง “วันนี้คุณกนธีมาคนเดียวหรือครับ แล้วคุณผู้ชายคนเมื่อวาน..”

“เขาไม่ว่างน่ะ แล้วก็..เรียกว่าพี่กุนต์แล้วกัน” เจ้าตัวเอนลงพิงพนัก บริกรเข้ามายื่นเมนูให้

อินทัชขออนุญาตนั่งเป็นเพื่อน แนะนำอาหารและเครื่องดื่ม “ทานอะไรมาหรือยังครับพี่กุนต์”

“ทานมานิดหน่อย เอาออเดิร์ฟมาก็ได้ เอาค๊อกเทลอะไรดีที่ไม่แรงนัก พี่ไม่ดื่มเหล้าน่ะ”
   
“เอาม็อกเทลไหมครับ ไม่มีแอลกอฮอล์ วันนี้ดูท่าว่าพี่กุนต์จะต้องขับรถกลับคนเดียว ถ้าไม่ดื่มเหล้า โดนค็อกเทลไปสองสามแก้วก็มึนแล้วล่ะครับ” อินทัชยิ้มจาง เปิดเมนูน้ำผลไม้ให้เลือก
   
“นี่อะไร ชื่อแปลก” กนธีอ่าน “Virgin Pinacolada?”
   
“ก็คล้ายๆกับน้ำสับปะรดล่ะครับ เอาเนื้อกับน้ำสับปะรดมาผสมน้ำเชื่อม ครีม นมข้นหวาน กับมาลิบูไซรัป ปั่นรวมกับน้ำแข็ง แค่นั้นเอง รสเปรี้ยวๆหวานๆ ดื่มตอนอากาศร้อน ผมว่าสดชื่นดี” 
   
คนฟังพยักหน้าหงึก “เอาอันนี้ก็ได้”
   
อินทัชรับออเดอร์แล้วตั้งท่าจะลุก แต่คนด้านหลังคว้าชายเสื้อเขาเสียก่อน เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว หันมาอย่างสงสัย
   
กนธีกระแอมแก้เก้อ เขาพลาดจริงๆที่ดึงตัวอีกฝ่ายไว้แบบไม่คิด
   
“คือ..จะถามว่าร้องเพลงกี่ทุ่ม” เขาเกาแก้มตัวเอง “พี่อาจจะอยู่ไม่ดึกน่ะ”
   
“สี่ทุ่มเหมือนเดิมครับ พี่กุนต์รีบกลับหรือ” อินทัชถามอ่อนโยน
   
“ไม่รู้สิ..” เขาพึมพำ “นั่งคนเดียวมัน..เหงา”
   
“อ้อ..” คนอายุน้อยกว่าคลี่ยิ้มจาง การนั่งกับแขกก็คือหนึ่งในงานของเขา เพียงแต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับเงินกันโดยตรง จะหักจากค่าดื่มที่คิดดื่มละสองร้อย เหมาทีเดียวครั้งละสิบถึงยี่สิบดื่มมากกว่า ส่วนทิปก็แล้วแต่จะให้ “ยังไง..ผมยังไม่ขึ้นเวทีตอนนี้ ผมมานั่งเป็นเพื่อนพี่กุนต์ก่อนดีไหมครับ”
   
“เสียเวลางานหรือเปล่า” กนธีเงยหน้ามอง แสงไฟจากอาคารด้านหลังในช่วงเวลากลางคืนเป็นฉากหลังที่ดูสวยงามแปลกตา เขารู้สึกว่าอินทัชมีเสน่ห์ล้นเหลือเวลาที่ใช้สายตานิ่งเรียบมองกัน
   
“ไม่หรอกครับ” อินทัชว่า “นี่ก็เป็นหนึ่งในงานเหมือนกัน”
   
คนฟังพอจะเข้าใจได้เพราะคำตอบค่อนข้างชัดเจน ถ้าเป็นงาน ก็ต้องเสียเงิน ไม่ใช่การมานั่งเพราะมีน้ำใจอยากจะคุยเป็นเพื่อนคนแก่ขี้เหงาหรอก “ที่นี่คิดตามค่าดื่มใช่ไหม แล้วถ้าพี่ไม่ดื่ม จะต้องทำยังไงไม่ให้โอ๊ตเสียงาน”
   
ร่างสูงหัวเราะชอบใจ “วันแรกของการมาคนเดียว ไม่คิดเงินก็ได้ครับ”
   
“ใจดีจัง”
   
“แต่วันถัดๆไป นั่งเฉยๆไม่ได้นะ..ผมคิดค่ามอง คิดค่าคุยด้วย” ดวงตาสีเข้มหรี่ลง ดูหยอกเอิน
   
กนธีอมยิ้ม มองตามแผ่นหลังของเด็กมหาวิทยาลัยที่ตัวสูงใหญ่เกินอายุ อินทัชเดินไปที่บาร์ สั่งม็อกเทลให้แขก บาร์เทนเดอร์ตรงนั้นก็เป็นเพื่อนเขา มันแซวว่าใครจะป๊อปเท่าคุณอินทัชเป็นไม่มี ได้คนใหม่ๆมาอยู่เรื่อย
   
“ระวังมีเรื่องกันเพราะแย่งตัวนะเว้ย”
   
“ไม่หรอก” อินทัชเท้าแขนกับขอบเคาน์เตอร์ เขามีกฎส่วนตัวหลายอย่างในการบริการแขก เมื่อไรก็ตามที่แขกเริ่มมีท่าทีว่าจะก้าวล้ำเส้นที่เขาวางไว้ เขาก็จะยุติการเข้าไปยุ่งเกี่ยว
   
การหลอกล่อให้แขกติดใจในอัธยาศัย จนอยากพูดคุยและดึงตัวเขาไปนั่งด้วยบ่อยๆเป็นเรื่องที่ดี เพราะยิ่งเวียนหลายโต๊ะ เขาก็ได้เงินมากตาม แต่การที่แขกเริ่มทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ เริ่มบงการชีวิต คิดจะผูกมัด ผูกขาดเอาเขาไปครองคนเดียว ไม่ใช่เรื่องสนุกเลย เขาเคยถูกพักงานไปเดือนหนึ่งเพราะผู้หญิงสองคนทะเลาะกันเรื่องคิวบริการของเขา ตอนนั้นเขาเล่นแรงไป ทำให้พวกนั้นคิดว่าเขาจงใจจีบ เรื่องมันเลยจบไม่สวยนัก
   
..แต่เอาเข้าจริงก็น่าจะคิดกันได้บ้างว่าการหาความรักจากสังคมกลางคืน..มันเป็นไปไม่ได้..
   
..ไม่มีความจริงใจเกิดขึ้นในบรรดาผู้คนเหล่านี้หรอก..
   
อินทัชรับสมูทตี้มาจากเพื่อนแล้วกลับมาที่โต๊ะ กนธีนั่งเหม่อลอยอยู่ตามลำพัง กระทั่งเขาเข้าไปนั่งด้วย ทางนั้นถึงได้สติ หันมารับน้ำผลไม้ไปดื่ม
   
“อร่อยดี” เจ้าตัวยิ้ม เอาส้อมพลาสติกเขี่ยสับปะรดหั่นแว่นที่ตกแต่งขอบแก้ว
   
“คุณคนนั้นเขาไม่ว่าง ไปไหนหรือครับ ทำไมปล่อยพี่กุนต์มาเที่ยวเอง” อินทัชชวนคุย
   
“ไปธุระต่างจังหวัดน่ะ ไม่รู้จะค้างหรือเปล่า” กนธีเคี้ยวสับปะรดตุ้ยๆ “เห็นเราว่าวันธรรมดาเป็นบาร์เทนเดอร์ด้วยหรือ ดูท่าจะรู้เรื่องเครื่องดื่มดี ร้องเพลงก็ได้ เล่นกีฬาก็เก่ง เรียนมหาวิทยาลัยมีชื่อ ถนัดหลายอย่างเลยนะเนี่ย”
   
“รู้อย่างเป็ดมากกว่าครับ” คนพูดถ่อมตัว

“แล้วทำไมมาทำงานนี้ล่ะ จันทร์ถึงพฤหัสเป็นบาร์เทนเดอร์ ศุกร์ถึงอาทิตย์ร้องเพลง ดูแลแขก ไม่เหนื่อยแย่เลยหรือ เป็นพี่นะ..ยอมแพ้ตั้งแต่วันแรกๆแล้ว”

อินทัชเอนตัวลงพิงพนักโซฟา ท่าทางสบายๆ “อยากได้คำตอบแบบดูดี หรือคำตอบที่จริงใจครับ”

“มีงี้ด้วย” กนธีขบขัน “เอ้า..ลองคำตอบดูดีก่อนแล้วกัน”

“เพราะว่าผมรักงานบริการ อยากสร้างความสุขให้กับแขกทุกคนที่มา ให้เขาได้มีช่วงเวลาที่สบายใจ ได้ดื่ม ได้สังสรรค์ ได้ทำให้เขาหายเหนื่อยแล้วก็ผ่อนคลายด้วยเสียงเพลง”

“สวยงามมาก” คนอายุมากกว่าหัวเราะ

“ส่วนคำตอบที่จริงใจ..” อินทัชยิ้ม “ผมอยากได้เงินครับ..งานนี้ไม่เหนื่อย แถมเงินดีเป็นบ้า” 

กนธีหัวเราะชอบใจมากกว่าเก่า

ปกติอินทัชไม่ได้พูดคุยลึกซึ้งกับพวกแขกนัก แต่ไม่รู้ทำไมถึงอยากจะบอกเล่าแบบตรงไปตรงมา อาจจะเป็นเพราะสัมผัสได้ว่า กนธีเป็นคนง่ายๆ ไม่ต้องเฟคให้มากความ และก็ดูท่าจะเป็นคนที่ไม่ได้ตัดสินใครเพียงผิวเผินด้วย หรือไม่ก็เป็นเพราะว่า..ไม่มีใครสนใจจะถามไถ่ถึงเหตุผลและความจำเป็นของเขามาก่อน

“เป็นเด็กเป็นเล็ก ตั้งใจขยันทำงานเก็บเงินน่ะดีแล้วล่ะ น่าภูมิใจมาก ถ้าพี่มีลูกรู้จักทำงานหารายได้ตั้งแต่ยังเรียน พี่ก็เบาใจ” กนธียกแก้วขึ้นดื่ม เปรี้ยวจนต้องหยีตา

อินทัชเลิกคิ้ว “ผมว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่น่าจะผิดหวังนะครับ ที่ลูกเลือกทำอาชีพกลางคืน”
   
“หือ..ทำไมล่ะ” คำถามนั้นจริงใจ ไม่ได้เสแสร้ง “งานกลางคืนเป็นงานสุจริตเหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ได้ไปขายยาเสพติด หรือฆ่าคนตายสักหน่อย หรือว่าเราทำ”
   
“ยังไม่อยากไปเที่ยวห้องกรงครับผม” เขาส่ายหัวยิ้มๆ
   
“ดีๆ วัยรุ่นน้อยคนที่จะคิดได้ สู้ๆเข้าไว้นะ”
   
อินทัชรู้สึกอุ่นในใจ อย่างน้อยคำพูดของคนๆนี้ ก็ทำให้ความรู้สึกของเขาที่หนักอึ้งมาตลอดคลายลงได้บ้าง ถ้ามีตัวเลือกเยอะกว่านี้ เขาก็อยากจะเปลี่ยนจากคนกลางคืนที่คอยบริการแขกไปวันๆ มาเป็นการใช้ความสามารถ ใช้สมองหาเงินบ้าง..หากว่ากลับบ้านนอกและมีใครถามไถ่ เขาจะได้พูดเต็มปากเต็มคำได้อย่างภาคภูมิ ไม่ใช่หลบเลี่ยง พูดไม่เต็มเสียงแบบทุกวันนี้
   
“อืม..แล้วเราได้เดือนละเท่าไรล่ะ หวังว่าคำถามนี้จะไม่ล้ำเส้นเกินไป” กนธีเขี่ยน้ำแข็งที่ปั่นไม่ละเอียดเข้าปาก เคี้ยวดังกรุบๆจนต้องปรามตัวเองเพราะกลัวฟันแท้จะเปราะหัก เขาไม่อยากไปหาทันตแพทย์เกินโควต้าที่วางไว้
   
“บาร์เทนเดอร์นี่ตกวันละห้าร้อยครับ สี่วันก็สองพัน ทำตั้งแต่เปิดร้านจนถึงปิดร้านตอนตีหนึ่ง แต่วันธรรมดาปิดเร็วครับ แขกไม่ค่อยอยู่ดึก สักเที่ยงคืนก็เงียบแล้ว..” อินทัชเล่าแบบไม่ปิดบัง “ส่วนที่ขึ้นร้องเพลง ผมได้ค่าจ้างจากผู้จัดการครั้งละหนึ่งพัน ทิปต่างหาก ระหว่างที่ผมร้อง ใครจะให้เท่าไรก็แล้วแต่ ส่วนนั้นให้เอาไปแบ่งกันเองในวง หรือถ้าร้องเดี่ยว ผมก็ฮุบหมด ส่วนใหญ่ที่นี่จะทิปไม่เคยต่ำกว่าสองร้อยบาทครับ..รวยๆกันทั้งนั้น คืนหนึ่ง เฉพาะทิปผมได้อย่างน้อยสองพัน ร้องสามวันรวมค่าจ้างขั้นต่ำก็เก้าพันแล้วครับ”
   
กนธีหัวเราะอารมณ์ดี เขาชอบความจริงใจของเด็กคนนี้ชะมัด
   
“รายได้อีกทางคือค่าดื่ม พอได้มา เราก็ลงกองกลาง แล้วหารกัน แต่ถ้าแขกคนไหนอยากจะทิปพิเศษ ยัดใส่มือคนที่นั่งด้วยก็ตามสะดวกเลย ผมฮุบคนเดียวตามเคย” อินทัชเล่าหน้าตาย “สรุปว่าอาทิตย์ไหนแขกน้อย พวกผมก็ได้ประมาณหนึ่งหมื่น แต่ถ้าแขกเยอะ ทิปหนัก ก็สองหมื่นนิดๆ”
   
“รายได้ดีนะ ตกเดือนละสี่หมื่นอัพ” กนธีพึมพำ “แต่ว่าต้องกลับตีหนึ่งตีสอง โอ๊ตไหวหรือ มีเรียนทุกเช้าด้วยนี่”
   
“เรียนสิบโมง บางทีก็เรียนบ่ายครับ ผมเลือกตัวที่ไม่เช้ามาก แต่ก็ยอมรับว่าบางทีหลับคาคาบเลย”
   
“เป็นนักกีฬา พักผ่อนน้อยๆจะดีหรือ”
   
“ถ้าเก็บเงินได้มากกว่านี้ ผมก็ว่าจะร้องเพลงเฉพาะวันหยุดอย่างเดียวแล้วล่ะครับ” อินทัชเล่าเรื่อย “ถ้าพี่กุนต์มาทุกวัน ผมก็คงเก็บเงินได้เร็วขึ้นนะครับ”
   
“จุดประสงค์ชัดเจนจริงๆ” กนธีหัวเราะอีกครั้ง

คิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กที่น่าสนใจดี เขาไม่ค่อยเจอคนตรงๆหรอก ส่วนใหญ่อยากได้เงินก็มาทางอ้อมกันทางนั้น อ้างแต่ความจริงใจจอมปลอม พ่นคำว่ารักมาได้แบบไม่อายเพื่อจะขอสิ่งแลกเปลี่ยนเป็นเงิน ถ้าอยากได้ขนาดนั้น มาขอเขาตรงๆ ไม่ต้องโกหกว่ารัก แล้วลับหลังไปมีคนอื่นยังดีเสียกว่า
   
อินทัชยิ้มมุมปาก ดูนาฬิกาข้อมือ “ผมจะขึ้นร้องเพลงแล้ว อยากฟังเพลงอะไรไหมครับ”
   
“เอ..” กนธีครุ่นคิด “รู้จักเพลงประกอบหนังเก่าเรื่องหนึ่งไหม The Godfather ที่ Al Pacino แสดงน่ะ พอดีลืมชื่อเพลง” เขาเกาหัวแกรก “หรือพี่เสนออะไรที่ดึกดำบรรพ์เกินวัยของโอ๊ตหรือเปล่า”
   
“Speak Softly Love ที่ Andy Williams ร้องใช่ไหมครับ” อินทัชลุกขึ้นยืน “ผมชอบเหมือนกันเลย คืนนี้ลองฟังเวอร์ชั่นกีต้าร์ดูแล้วกันนะครับ”
   
“อา..โอเค” เขามองตามเด็กหนุ่มอย่างนึกทึ่ง
   
..น่าประทับใจจริงๆ..





................................................................................





เปิดตัว คุณผัดไทย  :mc4:

อย่ากลัวมาม่าาา เรื่องนี้ Feel Good เค้าไปศึกษามาแล้ว 55555+




ออฟไลน์ puengmimsweety

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #108 เมื่อ23-03-2016 01:02:04 »

กรี๊ดดดดดดด มาแว้วๆๆๆๆ

ออฟไลน์ autopilot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #109 เมื่อ23-03-2016 01:13:19 »

อ๊ายๆๆๆๆๆๆ พี่กุนต์  :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
« ตอบ #109 เมื่อ: 23-03-2016 01:13:19 »





ออฟไลน์ puengmimsweety

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #110 เมื่อ23-03-2016 01:16:14 »

feel good นี่ไว้ใจได้หรอ 555 ตกลงใครพระเอกอ่ะ อยากรู้ๆ

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #111 เมื่อ23-03-2016 01:37:25 »

Feel Good ?

คนที่ยังอยู่กับความรัก ความรู้สึกผิด มันน่าเศร้านะ

รอฟ้าหลังฝน เอ...หรือฝนยังไม่ตกนะ


ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #112 เมื่อ23-03-2016 01:38:18 »

นิยายตระกูล Sins ไม่เคยทำให้ผิดหวัง  :katai2-1:

ว่าแต่ Feel good to be drama หรือเปล่า 55555555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2016 02:41:47 โดย ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮ »

ออฟไลน์ กฤษณ์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #113 เมื่อ23-03-2016 01:45:11 »

เรามาเดากันว่า จบวันนี้ไปจะหมดไปกี่บาทนะคะ  :laugh:

ออฟไลน์ Zalzah_iP

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #114 เมื่อ23-03-2016 01:47:31 »

เราไม่กลัวมาม่า แต่เรากลัวของดองงงงง 555555555

ปล. ชื่อคุณผัดไทยนี่ เขียน >> ผไท งี้ป่ะคะ หรือตั้งใจเขียน ไผท ไว้เป็นชื่อเฉพาะจริงๆ

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #115 เมื่อ23-03-2016 02:26:55 »

อยากบอกคนแต่งว่า อย่ามาฟีลกู้ด55555555555 เราจะไม่หลงกล
พาร์ทศรัณย์หน่วงแรง คือเค้าแฮปปี้กัน แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วอะ พัง  :katai1:

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #116 เมื่อ23-03-2016 03:08:31 »

จริงหราาาาาาาาา
ไม่มาม่าจริงดิ   เราแคปเก็บไว้เป็นหลักฐานแล้วนะ !! 
ฟีลกู้ดนะ ฟิลกู้ดดดด 5555555555


 

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #117 เมื่อ23-03-2016 03:49:47 »

Feel good  นิยามนี้ของคุณข้าวปั้นขอแปลว่า*สะใจ*ได้ไหมคะ? (แปลได้อารมณ์มารมากๆ)

อ่านตอนนี้แล้วเราคิดว่าพี่กุนต์ไม่ได้โหยหาความรักนะ  เพราะว่านางมีศรันย์อยู่ในใจตลอด  ไม่ต้องฝันถึงก็รู้ว่าสถิตย์อยู่ไม่หายไปไหน    ที่พี่กุนต์โหยหาคือความใกล้ชิดทางกาย ความอบอุ่นของเลือดเนื้อ   ไม่ใช่แค่เซ็กส์แต่เป็นการมีตัวตนของอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้ๆ ขนาดคิดว่ามีคนอื่นก็ไม่เป็นไรแค่ขอให้มีตัวตนเท่านั้นก็พอ  การเลี้ยงเด็กอย่างไววิทย์ของพี่กุนต์เลยเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ได้พอดี   เราถึงเคยเมนท์ว่าพี่กุนต์ไม่ได้อะไรมากกับการที่ไววิทย์ไปเอาคนอื่น  น่าจะประมาณรำคาญมากกว่าที่ไม่รักษากฏที่มีระหว่างกัน

มาถึงตอนที่มีพี่กุนต์คุยกับโอ๊ตแรกๆเราคิดว่าโอ๊ตร้ายน่าจะหลอกให้พี่กุนต์หลงรักอะไรแบบนี้   แต่พออ่านตอนนี้แล้วเรากลับคิดไปในอีกแบบ  โอ๊ตคล้ายศรันย์มากทำให้พี่กุนต์สนใจโอ๊ต  เข้าไปคุยด้วยเพราะสนใจใคร่คุยไม่ใช่เพราะอารมณ์ดำกฤษณา  จึงทำให้โอ๊ตรู้สึกดีด้วย   ถ้าสองคนนี้เข้ามาใกล้กันมากขึ้น   อาจจะเป็นโอ๊ตที่ต้องการมากกว่าที่พี่กุนต์ให้ได้   เพราะสำหรับพี่กุนต์โอ๊ตคือเงาซ้อนของศรันย์ที่พี่กุนต์อาจจะอยากได้แค่ตัวตนแต่ไม่อยากได้ *ใจ* ของโอ๊ตหรือเปล่า   

อย่าอะไรกับเรามากนะเราก็มโนไปตามเรื่องเนอะ   แต่การบรรยายของคุณข้าวปั้นนี่แต่ละคำที่ออกมาสร้างอิมแพ็คให้คนอ่านรู้สึกหนักหน่วงมากๆค่ะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #118 เมื่อ23-03-2016 05:36:58 »

 :mew1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #119 เมื่อ23-03-2016 07:10:16 »

พี่กุณน่าสงสาร

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด