.
.
.
กนธีรับฝากจากคนรู้จักที่อยู่ในแวดวงเดียวกันให้ช่วยหาลูกค้ามาซื้อห้องในโครงการคิวเฮ้าส์แถวหลังสวน เพราะเจ้าของเดิมจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ เขาค่อนข้างมีคอนเนคชั่นเยอะ เลยได้คนสนใจไม่ยาก คราวนี้เป็นชาวออสเตรเลียนที่หอบหิ้วเอาครอบครัวมาใช้ชีวิตเกษียณในไทย
เขาพาลูกค้าเดินชมบริเวณคอนโดแทบทุกตารางเมตร เสนอให้เห็นถึงความสะดวกสบายในย่านใจกลางเมือง สามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็ว มีห้างสรรพสินค้าหลายที่ มีโรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียงสองโรงพยาบาล ตัวโครงการก็หรูหรา ใหญ่โต มีระบบความปลอดภัยที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง สระว่ายน้ำ ซาวน่า ฟิตเนส จากุสซี่ สนามเด็กเล่น คลับเฮ้าส์ และสวนหย่อมร่มรื่น ราคาเริ่มต้นตอนขายกันแรกๆคือสิบสี่ล้าน ยูนิตที่เขารับฝากมาราคาสูงเอาเรื่อง เพราะอยู่ชั้นบนๆ เป็นห้องแบบพูลวิลล่า เนื้อที่ประมาณสามร้อยห้าสิบตารางเมตร ทำเลสวย มองออกไปเห็นวิวเมืองได้กว้างไกล
ฝรั่งผมทองกับครอบครัวดูจะพอใจเอามาก ค่าเงินที่ต่างกัน พอมาอยู่ไทยแล้ว พวกเขาก็สามารถซื้อชีวิตสะดวกสบายและมีระดับได้ไม่ยาก ดังนั้นเพียงแค่คุยกันไม่กี่ครั้ง กนธีก็สามารถทำการขายห้องที่ว่าได้อยากไม่ลำบากอะไร
เขารับสามเปอร์เซ็นต์จากราคาขาย ในบางครั้งเจ้าของอาจตั้งราคาต่ำ เขาก็จะพูดคุยและทำการประเมินราคาซื้อใหม่ในระดับที่ตลาดยอมจ่าย ส่วนมากคนฝากขายมักพอใจกับราคาที่ตัวเองตั้งไว้แล้ว ส่วนต่างที่เพิ่มมาเป็นผลตอบแทนงามๆสำหรับค่าเหนื่อยของเขา
ค่านายหน้าครั้งนี้ กนธีสามารถนั่งๆนอนๆโดยไม่ต้องทำอะไรได้อีกหลายเดือน เพราะเขามันตัวคนเดียว ไม่ได้ติดหรู และไม่ได้ฟุ่มเฟือยมากอยู่แล้ว แต่ก็นั่นแหละ เขามักจะไปเจอลูกค้าและผู้ว่าจ้างอย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้ง เขาทำเพื่อฆ่าเวลา การเจอผู้คนมากๆทำให้ไม่เหงา ไม่ฟุ้งซ่าน ได้ช่วยคนรู้จักที่อยู่ในแวดวงการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ได้เที่ยวไปทั่ว แถมยังได้ค่าขนมมาให้เด็กๆผลาญเล่นอีกด้วย
จบจากไววิทย์ กนธีคิดว่าน่าจะเลิกวุ่นวายกับการอุปการะเด็กสักที ทักษะการเลือกคู่ควงชั่วคราวของเขามันค่อนข้างแย่เอาการ หรือไม่ก็เป็นเพราะเขาไม่เจียมสังขารเอง ชอบสนใจแต่คนอายุน้อยกว่า
..แต่อีกใจก็เถียง..ว่าเขาไม่ได้คิดจริงจังแต่แรก..จะไปแคร์อะไรให้มากความ..
ชายหนุ่มไปส่งลูกค้าที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม ตกลงกันเรื่องวันที่จะทำการซื้อขาย และโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อย จากนั้นก็เตร่ไปเรื่อย เข้าห้างนั้น ออกห้างนี้ แช่แอร์เย็นๆกระทั่งหัวค่ำ เลยตัดสินใจขับรถกลับคอนโดของตน
อย่างไรก็ตาม เขาเกิดเปลี่ยนใจกะทันหันเมื่อเหลือบเห็นนามบัตรสีน้ำเงินเข้มตรงแผงไมล์ ตัวอักษรสีเงินพิมพ์ไว้ว่า ‘Vin Santo’ อะไรสักอย่างทำให้เขาคิดอยากจะกลับไปที่เลานจ์นั่นอีกรอบ ทั้งที่ไม่คิดจะดื่มเหล้า
..ค็อกเทลเบาๆสักแก้ว คงไม่ทำให้ผิดความตั้งใจ..
.
.
.
อินทัชมองใครบางคนตั้งแต่ฝ่ายนั้นก้าวเข้ามา รอยยิ้มพอใจผุดขึ้นบนมุมปาก วันนี้เป็นวันเสาร์ เขาร้องเพลงเหมือนเคย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ขึ้นเวที เพราะคุณกุนต์ดูจะมาไวกว่าปกติ
“สวัสดีครับ” เขาเข้าไปหา “ได้ที่นั่งหรือยังครับคุณกนธี”
เจ้าของชื่อหันมาทางต้นเสียง หายใจติดขัดเล็กน้อยกับใบหน้าอีกฝ่าย เขาเตือนตัวเองว่า..ไม่ใช่
“คุณอินทัช” กนธีเรียกเด็กหนุ่มเสียเต็มยศ “อินทัช..พี่จำชื่อได้”
..อินทัช..ไม่ใช่ศรัณย์..
“เรียกโอ๊ตดีกว่าครับ ชื่อจริงมันทางการเกินไป” เขาผายมือไปทางโซฟาตัวที่ว่าง “วันนี้คุณกนธีมาคนเดียวหรือครับ แล้วคุณผู้ชายคนเมื่อวาน..”
“เขาไม่ว่างน่ะ แล้วก็..เรียกว่าพี่กุนต์แล้วกัน” เจ้าตัวเอนลงพิงพนัก บริกรเข้ามายื่นเมนูให้
อินทัชขออนุญาตนั่งเป็นเพื่อน แนะนำอาหารและเครื่องดื่ม “ทานอะไรมาหรือยังครับพี่กุนต์”
“ทานมานิดหน่อย เอาออเดิร์ฟมาก็ได้ เอาค๊อกเทลอะไรดีที่ไม่แรงนัก พี่ไม่ดื่มเหล้าน่ะ”
“เอาม็อกเทลไหมครับ ไม่มีแอลกอฮอล์ วันนี้ดูท่าว่าพี่กุนต์จะต้องขับรถกลับคนเดียว ถ้าไม่ดื่มเหล้า โดนค็อกเทลไปสองสามแก้วก็มึนแล้วล่ะครับ” อินทัชยิ้มจาง เปิดเมนูน้ำผลไม้ให้เลือก
“นี่อะไร ชื่อแปลก” กนธีอ่าน “Virgin Pinacolada?”
“ก็คล้ายๆกับน้ำสับปะรดล่ะครับ เอาเนื้อกับน้ำสับปะรดมาผสมน้ำเชื่อม ครีม นมข้นหวาน กับมาลิบูไซรัป ปั่นรวมกับน้ำแข็ง แค่นั้นเอง รสเปรี้ยวๆหวานๆ ดื่มตอนอากาศร้อน ผมว่าสดชื่นดี”
คนฟังพยักหน้าหงึก “เอาอันนี้ก็ได้”
อินทัชรับออเดอร์แล้วตั้งท่าจะลุก แต่คนด้านหลังคว้าชายเสื้อเขาเสียก่อน เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว หันมาอย่างสงสัย
กนธีกระแอมแก้เก้อ เขาพลาดจริงๆที่ดึงตัวอีกฝ่ายไว้แบบไม่คิด
“คือ..จะถามว่าร้องเพลงกี่ทุ่ม” เขาเกาแก้มตัวเอง “พี่อาจจะอยู่ไม่ดึกน่ะ”
“สี่ทุ่มเหมือนเดิมครับ พี่กุนต์รีบกลับหรือ” อินทัชถามอ่อนโยน
“ไม่รู้สิ..” เขาพึมพำ “นั่งคนเดียวมัน..เหงา”
“อ้อ..” คนอายุน้อยกว่าคลี่ยิ้มจาง การนั่งกับแขกก็คือหนึ่งในงานของเขา เพียงแต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับเงินกันโดยตรง จะหักจากค่าดื่มที่คิดดื่มละสองร้อย เหมาทีเดียวครั้งละสิบถึงยี่สิบดื่มมากกว่า ส่วนทิปก็แล้วแต่จะให้ “ยังไง..ผมยังไม่ขึ้นเวทีตอนนี้ ผมมานั่งเป็นเพื่อนพี่กุนต์ก่อนดีไหมครับ”
“เสียเวลางานหรือเปล่า” กนธีเงยหน้ามอง แสงไฟจากอาคารด้านหลังในช่วงเวลากลางคืนเป็นฉากหลังที่ดูสวยงามแปลกตา เขารู้สึกว่าอินทัชมีเสน่ห์ล้นเหลือเวลาที่ใช้สายตานิ่งเรียบมองกัน
“ไม่หรอกครับ” อินทัชว่า “นี่ก็เป็นหนึ่งในงานเหมือนกัน”
คนฟังพอจะเข้าใจได้เพราะคำตอบค่อนข้างชัดเจน ถ้าเป็นงาน ก็ต้องเสียเงิน ไม่ใช่การมานั่งเพราะมีน้ำใจอยากจะคุยเป็นเพื่อนคนแก่ขี้เหงาหรอก “ที่นี่คิดตามค่าดื่มใช่ไหม แล้วถ้าพี่ไม่ดื่ม จะต้องทำยังไงไม่ให้โอ๊ตเสียงาน”
ร่างสูงหัวเราะชอบใจ “วันแรกของการมาคนเดียว ไม่คิดเงินก็ได้ครับ”
“ใจดีจัง”
“แต่วันถัดๆไป นั่งเฉยๆไม่ได้นะ..ผมคิดค่ามอง คิดค่าคุยด้วย” ดวงตาสีเข้มหรี่ลง ดูหยอกเอิน
กนธีอมยิ้ม มองตามแผ่นหลังของเด็กมหาวิทยาลัยที่ตัวสูงใหญ่เกินอายุ อินทัชเดินไปที่บาร์ สั่งม็อกเทลให้แขก บาร์เทนเดอร์ตรงนั้นก็เป็นเพื่อนเขา มันแซวว่าใครจะป๊อปเท่าคุณอินทัชเป็นไม่มี ได้คนใหม่ๆมาอยู่เรื่อย
“ระวังมีเรื่องกันเพราะแย่งตัวนะเว้ย”
“ไม่หรอก” อินทัชเท้าแขนกับขอบเคาน์เตอร์ เขามีกฎส่วนตัวหลายอย่างในการบริการแขก เมื่อไรก็ตามที่แขกเริ่มมีท่าทีว่าจะก้าวล้ำเส้นที่เขาวางไว้ เขาก็จะยุติการเข้าไปยุ่งเกี่ยว
การหลอกล่อให้แขกติดใจในอัธยาศัย จนอยากพูดคุยและดึงตัวเขาไปนั่งด้วยบ่อยๆเป็นเรื่องที่ดี เพราะยิ่งเวียนหลายโต๊ะ เขาก็ได้เงินมากตาม แต่การที่แขกเริ่มทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ เริ่มบงการชีวิต คิดจะผูกมัด ผูกขาดเอาเขาไปครองคนเดียว ไม่ใช่เรื่องสนุกเลย เขาเคยถูกพักงานไปเดือนหนึ่งเพราะผู้หญิงสองคนทะเลาะกันเรื่องคิวบริการของเขา ตอนนั้นเขาเล่นแรงไป ทำให้พวกนั้นคิดว่าเขาจงใจจีบ เรื่องมันเลยจบไม่สวยนัก
..แต่เอาเข้าจริงก็น่าจะคิดกันได้บ้างว่าการหาความรักจากสังคมกลางคืน..มันเป็นไปไม่ได้..
..ไม่มีความจริงใจเกิดขึ้นในบรรดาผู้คนเหล่านี้หรอก..
อินทัชรับสมูทตี้มาจากเพื่อนแล้วกลับมาที่โต๊ะ กนธีนั่งเหม่อลอยอยู่ตามลำพัง กระทั่งเขาเข้าไปนั่งด้วย ทางนั้นถึงได้สติ หันมารับน้ำผลไม้ไปดื่ม
“อร่อยดี” เจ้าตัวยิ้ม เอาส้อมพลาสติกเขี่ยสับปะรดหั่นแว่นที่ตกแต่งขอบแก้ว
“คุณคนนั้นเขาไม่ว่าง ไปไหนหรือครับ ทำไมปล่อยพี่กุนต์มาเที่ยวเอง” อินทัชชวนคุย
“ไปธุระต่างจังหวัดน่ะ ไม่รู้จะค้างหรือเปล่า” กนธีเคี้ยวสับปะรดตุ้ยๆ “เห็นเราว่าวันธรรมดาเป็นบาร์เทนเดอร์ด้วยหรือ ดูท่าจะรู้เรื่องเครื่องดื่มดี ร้องเพลงก็ได้ เล่นกีฬาก็เก่ง เรียนมหาวิทยาลัยมีชื่อ ถนัดหลายอย่างเลยนะเนี่ย”
“รู้อย่างเป็ดมากกว่าครับ” คนพูดถ่อมตัว
“แล้วทำไมมาทำงานนี้ล่ะ จันทร์ถึงพฤหัสเป็นบาร์เทนเดอร์ ศุกร์ถึงอาทิตย์ร้องเพลง ดูแลแขก ไม่เหนื่อยแย่เลยหรือ เป็นพี่นะ..ยอมแพ้ตั้งแต่วันแรกๆแล้ว”
อินทัชเอนตัวลงพิงพนักโซฟา ท่าทางสบายๆ “อยากได้คำตอบแบบดูดี หรือคำตอบที่จริงใจครับ”
“มีงี้ด้วย” กนธีขบขัน “เอ้า..ลองคำตอบดูดีก่อนแล้วกัน”
“เพราะว่าผมรักงานบริการ อยากสร้างความสุขให้กับแขกทุกคนที่มา ให้เขาได้มีช่วงเวลาที่สบายใจ ได้ดื่ม ได้สังสรรค์ ได้ทำให้เขาหายเหนื่อยแล้วก็ผ่อนคลายด้วยเสียงเพลง”
“สวยงามมาก” คนอายุมากกว่าหัวเราะ
“ส่วนคำตอบที่จริงใจ..” อินทัชยิ้ม “ผมอยากได้เงินครับ..งานนี้ไม่เหนื่อย แถมเงินดีเป็นบ้า”
กนธีหัวเราะชอบใจมากกว่าเก่า
ปกติอินทัชไม่ได้พูดคุยลึกซึ้งกับพวกแขกนัก แต่ไม่รู้ทำไมถึงอยากจะบอกเล่าแบบตรงไปตรงมา อาจจะเป็นเพราะสัมผัสได้ว่า กนธีเป็นคนง่ายๆ ไม่ต้องเฟคให้มากความ และก็ดูท่าจะเป็นคนที่ไม่ได้ตัดสินใครเพียงผิวเผินด้วย หรือไม่ก็เป็นเพราะว่า..ไม่มีใครสนใจจะถามไถ่ถึงเหตุผลและความจำเป็นของเขามาก่อน
“เป็นเด็กเป็นเล็ก ตั้งใจขยันทำงานเก็บเงินน่ะดีแล้วล่ะ น่าภูมิใจมาก ถ้าพี่มีลูกรู้จักทำงานหารายได้ตั้งแต่ยังเรียน พี่ก็เบาใจ” กนธียกแก้วขึ้นดื่ม เปรี้ยวจนต้องหยีตา
อินทัชเลิกคิ้ว “ผมว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่น่าจะผิดหวังนะครับ ที่ลูกเลือกทำอาชีพกลางคืน”
“หือ..ทำไมล่ะ” คำถามนั้นจริงใจ ไม่ได้เสแสร้ง “งานกลางคืนเป็นงานสุจริตเหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ได้ไปขายยาเสพติด หรือฆ่าคนตายสักหน่อย หรือว่าเราทำ”
“ยังไม่อยากไปเที่ยวห้องกรงครับผม” เขาส่ายหัวยิ้มๆ
“ดีๆ วัยรุ่นน้อยคนที่จะคิดได้ สู้ๆเข้าไว้นะ”
อินทัชรู้สึกอุ่นในใจ อย่างน้อยคำพูดของคนๆนี้ ก็ทำให้ความรู้สึกของเขาที่หนักอึ้งมาตลอดคลายลงได้บ้าง ถ้ามีตัวเลือกเยอะกว่านี้ เขาก็อยากจะเปลี่ยนจากคนกลางคืนที่คอยบริการแขกไปวันๆ มาเป็นการใช้ความสามารถ ใช้สมองหาเงินบ้าง..หากว่ากลับบ้านนอกและมีใครถามไถ่ เขาจะได้พูดเต็มปากเต็มคำได้อย่างภาคภูมิ ไม่ใช่หลบเลี่ยง พูดไม่เต็มเสียงแบบทุกวันนี้
“อืม..แล้วเราได้เดือนละเท่าไรล่ะ หวังว่าคำถามนี้จะไม่ล้ำเส้นเกินไป” กนธีเขี่ยน้ำแข็งที่ปั่นไม่ละเอียดเข้าปาก เคี้ยวดังกรุบๆจนต้องปรามตัวเองเพราะกลัวฟันแท้จะเปราะหัก เขาไม่อยากไปหาทันตแพทย์เกินโควต้าที่วางไว้
“บาร์เทนเดอร์นี่ตกวันละห้าร้อยครับ สี่วันก็สองพัน ทำตั้งแต่เปิดร้านจนถึงปิดร้านตอนตีหนึ่ง แต่วันธรรมดาปิดเร็วครับ แขกไม่ค่อยอยู่ดึก สักเที่ยงคืนก็เงียบแล้ว..” อินทัชเล่าแบบไม่ปิดบัง “ส่วนที่ขึ้นร้องเพลง ผมได้ค่าจ้างจากผู้จัดการครั้งละหนึ่งพัน ทิปต่างหาก ระหว่างที่ผมร้อง ใครจะให้เท่าไรก็แล้วแต่ ส่วนนั้นให้เอาไปแบ่งกันเองในวง หรือถ้าร้องเดี่ยว ผมก็ฮุบหมด ส่วนใหญ่ที่นี่จะทิปไม่เคยต่ำกว่าสองร้อยบาทครับ..รวยๆกันทั้งนั้น คืนหนึ่ง เฉพาะทิปผมได้อย่างน้อยสองพัน ร้องสามวันรวมค่าจ้างขั้นต่ำก็เก้าพันแล้วครับ”
กนธีหัวเราะอารมณ์ดี เขาชอบความจริงใจของเด็กคนนี้ชะมัด
“รายได้อีกทางคือค่าดื่ม พอได้มา เราก็ลงกองกลาง แล้วหารกัน แต่ถ้าแขกคนไหนอยากจะทิปพิเศษ ยัดใส่มือคนที่นั่งด้วยก็ตามสะดวกเลย ผมฮุบคนเดียวตามเคย” อินทัชเล่าหน้าตาย “สรุปว่าอาทิตย์ไหนแขกน้อย พวกผมก็ได้ประมาณหนึ่งหมื่น แต่ถ้าแขกเยอะ ทิปหนัก ก็สองหมื่นนิดๆ”
“รายได้ดีนะ ตกเดือนละสี่หมื่นอัพ” กนธีพึมพำ “แต่ว่าต้องกลับตีหนึ่งตีสอง โอ๊ตไหวหรือ มีเรียนทุกเช้าด้วยนี่”
“เรียนสิบโมง บางทีก็เรียนบ่ายครับ ผมเลือกตัวที่ไม่เช้ามาก แต่ก็ยอมรับว่าบางทีหลับคาคาบเลย”
“เป็นนักกีฬา พักผ่อนน้อยๆจะดีหรือ”
“ถ้าเก็บเงินได้มากกว่านี้ ผมก็ว่าจะร้องเพลงเฉพาะวันหยุดอย่างเดียวแล้วล่ะครับ” อินทัชเล่าเรื่อย “ถ้าพี่กุนต์มาทุกวัน ผมก็คงเก็บเงินได้เร็วขึ้นนะครับ”
“จุดประสงค์ชัดเจนจริงๆ” กนธีหัวเราะอีกครั้ง
คิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กที่น่าสนใจดี เขาไม่ค่อยเจอคนตรงๆหรอก ส่วนใหญ่อยากได้เงินก็มาทางอ้อมกันทางนั้น อ้างแต่ความจริงใจจอมปลอม พ่นคำว่ารักมาได้แบบไม่อายเพื่อจะขอสิ่งแลกเปลี่ยนเป็นเงิน ถ้าอยากได้ขนาดนั้น มาขอเขาตรงๆ ไม่ต้องโกหกว่ารัก แล้วลับหลังไปมีคนอื่นยังดีเสียกว่า
อินทัชยิ้มมุมปาก ดูนาฬิกาข้อมือ “ผมจะขึ้นร้องเพลงแล้ว อยากฟังเพลงอะไรไหมครับ”
“เอ..” กนธีครุ่นคิด “รู้จักเพลงประกอบหนังเก่าเรื่องหนึ่งไหม The Godfather ที่ Al Pacino แสดงน่ะ พอดีลืมชื่อเพลง” เขาเกาหัวแกรก “หรือพี่เสนออะไรที่ดึกดำบรรพ์เกินวัยของโอ๊ตหรือเปล่า”
“Speak Softly Love ที่ Andy Williams ร้องใช่ไหมครับ” อินทัชลุกขึ้นยืน “ผมชอบเหมือนกันเลย คืนนี้ลองฟังเวอร์ชั่นกีต้าร์ดูแล้วกันนะครับ”
“อา..โอเค” เขามองตามเด็กหนุ่มอย่างนึกทึ่ง
..น่าประทับใจจริงๆ..
................................................................................
เปิดตัว คุณผัดไทย

อย่ากลัวมาม่าาา เรื่องนี้ Feel Good เค้าไปศึกษามาแล้ว 55555+