ตอนที่ 32“ปุ่น” เสียงผู้หญิงโทนนี้มีคนเดียวที่ผมรู้จัก ไม่คิดจะอยากหยุดทักสักนิด แต่ก็ต้องหยุด
“สวัสดีครับคุณลลิตา”
“จะไปปาร์ตี้สินะ เห็นจัดสถานที่สวยดี”
“ครับ”
“ปุ่นก็มีเจ้านายน่าจะรู้นะว่าเราขัดอะไรไม่ได้เพราะเขากุมหน้าที่การงานเราไว้ ถึงจะไม่อยากทำก็เถอะ”
“ผมไม่คิดว่าเราจะตัดสินใจเหมือนกันครับ ถ้าหากคุณวีร์สั่งผมทำแบบนั้นกับคุณลลิตา ผมนี่แหล่ะจะเป็นคนแรก
ที่ไปบอกคุณ แต่..ผมไม่คิดว่าผมจะมีโอกาสได้ทำ อย่าเดียวที่ผมควรทำคือระวังแก้วน้ำคุณวีร์มากกว่า”
“นายมีความกล้ามากกว่าฉันก็ใช่ว่านายจะดูถูกฉันได้นะ”
“ผมไม่ได้ดูถูกครับ ผมดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นและเชื่อว่าผมคิดถูกต้อง ถ้าคุณลลิตาไม่มีอะไรผมขอตัว”
“ปุ่น” ผมลอบถอนใจ ขนาดเดินหันหลังให้แล้วก็ยังพยายามไม่เลิก ผมไม่ได้หยุดเดินกำลังก้าวเท้าข้างต่อไป
“อย่าคิดว่าเพราะคุณวีร์เล่นด้วยแล้วจะผยองได้ มีอะไรอีกหลายอย่างเกี่ยวกับคุณวีร์ที่นายไม่รู้”
“คุณกำลังบอกว่าคุณรู้ดีสินะครับ” ผมหยุดเดิน หันกลับไปเผชิญหน้าอีกครั้ง
“อย่างน้อยฉันก็รู้ว่าคุณวีร์มีตัวจริงอยู่แล้ว สวยดูดี ใจกว้างพอจะให้คุณวีร์ใช้ชีวิตอิสระก่อนแต่งงาน
หาเศษหาเลยได้ตามชอบใจ ฉันกะว่าจะปล่อยให้นายหลงระเริงไปจนกว่าจะรู้ข่าวดีด้วยตัวเอง
แต่นายหาเรื่องอยากหมดความสุขเเองนะปุ่น แทนที่จะได้ชูคอไปอีกสักพัก”
“คุณลลิตารู้ลึกรู้ดีขนาดนี้ ทำไมยังพยายามยั่วคุณวีร์อีกล่ะครับ หรือแค่ได้เป็นเศษๆ ให้คุณวีร์ก็พอใจแล้ว”
“ปุ่น!! นายมันไม่รู้อะไร” คุณลลิตาเหมือนอยากจะโผนเข้ามาทำร้ายผม สังเกตจากมือที่กำไว้แน่นจนสั่น
“ฉันเดาเอาไว้แล้วว่านายต้องไม่เชื่อฉัน อยากรอให้ถึงวันที่ตกลงมาเจ็บหนักก็ตามใจ
หรือไม่ก็หาทางพิสูจน์สิ นายจะได้รู้ว่าฉันพูดความจริง แล้วอย่าหวังเพ้อไปว่าเป็นเพราะผู้ใหญ่บังคับ
คู่นี้เขารักกันจริง พร้อมจะมีลูกมีหลานแบบที่นายไม่มีวันมีให้คุณวีร์ได้”
ผมจ้องหน้าคุณลลิตา ผู้หญิงคนนี้สวย ดูดี เสียดายที่เอาแต่จมปลัก
“ผมก็อยากมีเวลาช่วยสร้างบรรยากาศทำเป็นร้องไห้เสียใจ ตีอกชกหัว น้อยใจชีวิตให้คุ้มกับที่คุณลลิตาเสียเวลาอันมีค่า
มายืนเล่าให้ฟังนะครับ แต่ผมหิวแล้ว สำหรับผมอาหารสำคัญกว่าคุณลลิตามาก ไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ”
ผมส่งยิ้มหวานไปให้ โค้งหัวให้นิดนึงด้วย มารยาทงามมากพ่อเขาสอนมาดี
“ปากดี นี่ธาตุแท้ของนายสินะ ทำเป็นหงิมๆ ติ๋มๆ หลอกให้คุณวีร์ติดกับ”
สมัยเรียนคงไม่มีใครสอนคุณลลิตาว่า หงิมๆ ติ๋มๆ มันไม่ได้แปลว่าโง่ ผมไม่เคยบอกสักหน่อยว่าผมเถียงใครไม่เป็น
ผมแค่เป็นคนมีมารยาทกับคนที่ควรมีมารยาท ถ้าคิดว่าผมจะก้มหน้าปล่อยให้คุณลลิตาพูดปาวๆ ก็ไม่ใช่พี่ปุ่นแล้ว
“รู้ไว้ก็ดีครับ” นี่คือคำพูดทิ้งท้ายของผม ไม่สนใจเสียงที่ยังตามรังควาญต่อ ส่วนเรื่องนั้นผมไม่ได้เชื่อ
ถ้าคุณวีร์มีคนที่จะแต่งงานด้วย ทีมพี่ปั้นต้องรู้ อย่างน้อยคุณธรรมพ่อคุณวีร์ ริว เรย์ หรือคนอื่นก็ต้องพูดถึงบ้าง
แต่..
ก็ไม่ควรมองข้าม หรือ..นี่คือเรื่องที่คุณวีร์บอกพี่ปั้น ผู้หญิงที่คุณลลิตาพูดถึงอาจมีตัวตน
อาจจะเป็นอดีต เป็นคนที่เคยคิดว่าจะแต่งงานกันจริงๆ ผมต้องลองซักพี่ปั้นดู
“ปุ่น ไปไหนมาทำไมไม่บอกให้ใครรู้” คุณรองประธานทำหน้ายุ่ง เดินเร็วๆ มาถึงตัวผม
“ผมลืมโทรศัพท์ไว้เลยกลับไปเอาครับ” ผมชูโทรศัพท์ในมือขึ้น
“ไปไหนก็ต้องบอก ต้องให้คนไปเป็นเพื่อนสนิมหรือปั้นก็ได้” คุณรองประธานแตะหน้า แตะแขนผม
อย่างกับผมไปสู้กับใครมา
“คุณวีร์คร้าบบบ ผมไม่ใช่เลขาผมเป็นบอดี้การ์ด คุณวีร์ลืมหรือเปล่า”
“หึ บอดี้การ์ดที่จบสอนเด็กอนุบาล นั่งทำงานแต่เอกสารในออฟฟิศ กินทั้งวันไม่ยอมออกกำลังกาย
มีฝืมือหน่อยเพราะโดนบังคับไปเรียน แถมเจ้าของบริษัทยังไม่กล้าการันตีความสามารถ ยังแค่นจะคุย”
(*゜~`*)。
อะโห อีพี่ปั้น ไหนจะกัดหัวคุณรองประธานอยู่ร่อมร่อ ทำไมขายน้องขนาดนั้น ขุดประวัติมาแฉแบบไม่เกรงใจพี่ปุ่นเลย
“อย่าหน้าหงิกน่า มีอย่างนึงที่ปุ่นทำได้ดีสมกับที่ถูกเลือกเข้ามาดูแลพี่”
“อะไรครับ” เห็นไหมๆ มันต้องมีสักอย่างแหล่ะที่พี่ปุ่นทำได้ดี เป็นที่เชิดหน้าชูตา
“ก็ที่ปุ่นต้องปกปิดว่าเข้ามาเป็นบอดี้การ์ดของพี่ยังไงล่ะ เก่งมาก พี่ดูไม่รู้เลย”
( ̄﹏ ̄”)
ไปไกลๆ เท้าพี่ปุ่นเลย ถ้าจะชมกันขนาดนี้ด่าพี่ปุ่นมาเลยเหอะ คอยดู เดี๋ยวจะได้รู้กันว่าใครจะจับคนร้ายได้ก่อน
ทีมอ้วนแรดรับรองว่าไม่เป็นสองรองใคร เพราะตอนบ่ายหลังจากหนึ่งในสมาชิกได้ผันตัวไปอยู่ทีมตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
(ตามที่ได้วิเคราะห์เอาไว้เป๊ะ) เราก็ได้อัญเชิญเจ้าแม่ลินเข้ามาเป็นที่ปรึกษาเรียบร้อย กลับไปถึงกรุงเทพฯเมื่อไหร่
จัดหนักจัดเต็ม เดินหน้าเต็มสูบ คว้าเส้นชัยมาไว้ในกำมือ
“ปุ่น ทำอะไร” ผมกระพริบตาปริบๆ มองหน้าคุณวีร์ที่ขมวดคิ้วมองผมอย่างสงสัย
กำ ผมย่อเข่าข้างนึงพร้อมชูกำปั้นขึ้นฟ้า ราวกับกำลังประกาศชัยชนะให้โลกรู้
“ผมก็โมโหคุณวีร์อยู่ไงอยากต่อยหน้า” ผมเอากำปั้นไปเสยๆ ที่คางคุณวีร์เล่นแก้เก้อ
“คนโมโหมันต้องชูกำปั้น ยิ้มหน้าบานตาฝันหวานขนาดนั้นเลยเหรอปุ่น โมโหแปลกดี”
“เรื่องของผม คุณวีร์อย่ามาทำเป็นพูดดี ยังไม่ได้คิดบัญชีที่ว่าผมเลยนะครับ”
“หึๆ ใครว่าเรา พี่ชมอยู่ต่างหาก รับรองปั้นส่งคนอื่นมาไม่มีทางเนียนเท่า สนิม โชค ออโต้ ลูกน้องปั้นแต่ละคนที่พี่เห็น
บอกได้เลยว่ามาถึงพี่เดาออกทันที ไม่เหมือนปุ่น...” คุณวีร์ก้มลงมองผม ทำเป็นสำรวจจับตัวผมหมุนซ้ายขวา
“เหมาะแล้วที่ถูกส่งมาเป็นเมีย”
ตูม!! เหมือนมีอะไรบางอย่างระเบิดออกมา หน้าผมแดง แก้มกลมคล้ายจะแตกออก
>///< เขินเว้ย
“มากันสองคนเหรอ เห็นหัวดำๆ นี่ไหม เกรงใจกันหน่อย” คุณลินมาจากไหนไม่ทราบได้ จู่โจมเข้ามาดึงผมไปกอด
แถมทำท่าจะจูบแก้มผมอีก
“ไม่เคยตายใช่ไหมลิน ปล่อยตัวอ้วนเดี๋ยวนี้” นี่ก็บ้าจี้ตามเพื่อน
“พอเลยครับทั้งสองคน นี่มันงานปาร์ตี้ขอบคุณสต๊าฟ ไหนว่าจะสร้างขวัญกำลังใจให้พนักงานก่อนกลับกรุงเทพฯ
ไปจับรางวัลแจกเลย ไป..ไป..” ผมดันหลังคุณลิน ก่อนต้อนคนตัวใหญ่ใจเล็ก เอะอะโวยวายให้ตามไปด้วยอีกคน
ผมอาศัยช่วงที่คุณวีร์ยุ่งอยู่กับการแจกของรางวัล ดึงพี่ปั้นไปคุยท้ายห้อง
“พี่ปั้น น้องมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง” ว่าแล้วผมก็สาธยายเรื่องที่เจอกับคุณลลิตาให้พี่ปั้นฟัง
“พี่ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่ยังไงก็จะลองสืบดู เราก็ใจเย็นๆ อย่าตีโพยตีพายไปก่อน”
“น้องไม่ทำหรอกน่า ว่าแต่พี่ปั้นเหอะไม่ยุส่งเหรอครับ ไหนว่าไม่อยากให้น้องอยู่กับคุณวีร์”
“พี่ไม่ยุโดยใช้เรื่องโกหกมาพูดให้เราเสียใจ ทำแบบนั้นกับน้องตัวเองได้ยังไง” เห็นไหมครับพี่ปั้นถึงจะแข็งๆ ไปหน่อย
แต่เรื่องรักน้องผมให้เต็มสิบ
“พี่ปั้น น้องถามได้ไหมครับ ว่าเมื่อคืนที่คุณวีร์ขอคุยกับพี่ปั้นเรื่องอะไรเหรอครับ”
“ไม่บอกได้ไหม” พี่ปั้นต่อรองกับผม สีหน้าลำบากใจ
“บอกเถอะครับน้องอยากรู้ เรื่องผู้หญิงคนอื่นๆ หรือเปล่า คุณวีร์อยากให้พี่ปั้นส่งคนไปคุ้มครองใครเพิ่มใช่ไหมครับ”
“จินตนาการไปถึงไหน กลายเป็นคนขี้หึงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไอ้หมูอ้วน” มือใหญ่โคลงศีรษะผมไปมา
“น้องไม่ได้หึง คุณวีร์ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แต่เมื่อก่อนคุณวีร์มีผู้หญิงเยอะน้องเลยไม่รู้ว่าคนอื่นโดนทำร้ายด้วยหรือเปล่า”
“เฮ้อ ไม่อยากบอกเลย แต่กันไม่ได้หัวกลมๆ นี่คิดอะไรพิลึกพี่จะยอมบอก”
เย้ ผมอยากกระโดดโลดเต้นดีใจที่จะได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง แต่ต้องทำเป็นสงบเรียบร้อยไม่ให้พี่ปั้นมันเปลี่ยนใจ
“วีร์เรียกพี่ไปคุยเพื่อยืนยันให้เข้าใจตรงกัน ว่าหากเกิดอะไรขึ้นให้ช่วยปุ่นเป็นคนแรก ความปลอดภัยปุ่นต้องมาก่อน”
“คุณวีร์” ผมเรียกชื่อคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น ในใจมันพองฟูฟ่อง
“จึก” หน้าหงายสิครับ ผมเกือบหงายหลังล้มลงไป ไอ้พี่ปั้นมันจิ้มมาอย่างกับตบ แรงเป็นบ้า
“พี่ปั้นอะ” ผมร้องประท้วง ทำร้ายร่างกายน้องทำไม
“พี่ถึงไม่อยากบอก เคลิ้มเชียวนะ หน้ากลมอยู่แล้วบานเข้าไปใหญ่”
แหะๆ ผมหัวเราะกลบเกลื่อน ก็คนมันดีใจนี่ พี่ปุ่นมีความสุขที่สุดเลย
“ปุ่น ปุ่นต้องระวังตัวให้มากโดยเฉพาะเทวิกากับลลิตา พี่คิดว่าเป็นหนึ่งในสองคนนี้”
“หือ ทำไมพี่ปั้นคิดอย่างนั้นล่ะครับ” ผมรีบถามทันที ต้องโกยข้อมูลให้ได้มากที่สุด แต่ของผมจ้างก็ไม่ยอมบอก
“ช่วงแรกพี่พุ่งไปที่คุณจักรแต่ตัดทิ้งไปได้เลย คุณจักรคงไม่ลงทุนเจ็บขนาดนั้น กล่องดวงใจเชียวนะ
ก็เหลือแค่เทวิกากับลลิตา วิเคราะห์กับทุกเรื่องที่ผ่านมามีความเป็นไปได้สูงมาก”
“ยังไงครับพี่ปั้น”
“คนทำเรื่องนี้ไม่เฉียบขาด ไม่กล้าพอจะทำอะไรเสี่ยงต่อการถูกจับได้ เหมือนแต่ละเหตุการณ์เกิดขึ้นตามอารมณ์
การฉีกรูป การส่งดอกไม้ การพุ่งเป้ามาที่ปุ่น การทำร้ายคือการขับรถเข้าชน ไม่มีการทำร้ายร่างกายในรูปแบบอื่น
ที่ทำให้เกิดการต่อสู้รุนแรง มันโน้มเอียงว่าเป็นการกระทำของผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย”
ผมพยักหน้าเห็นด้วย
“แต่ทั้งสองคนก็มาที่นี้นะครับ น้องไม่เห็นมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเลย”
“เพราะเราจับตาดูอยู่ ถึงไม่ตลอดเวลาแต่การที่สนิมกับรปภ.ของรีสอร์ทวนเวียนให้ได้เห็นหน้าเสมอ พี่ไม่คิดว่าคนร้าย
จะโง่ขนาดยอมลงมือ”
“งั้นมันก็ต้องยืดเยื้อไปแบบนี้เหรอครับพี่ปั้น”
“ไม่หรอก ในเมื่อเรากำจัดวงได้แคบแบบนี้ ต่อไปก็แค่ล่อให้ออกมาติดกับ พี่ไม่อยากทำที่นี่เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่อง
ในรีสอร์ท เอาไว้กลับไปแล้วพี่จะล่อให้คนร้ายตายใจ”
“รับทราบครับ” รับทราบที่ว่าคือรับทราบแผนพี่ปั้นนะครับ เดี๋ยวผมจะรีบเรียกประชุมทีม งานนี้ต้องมีตัดหน้า
“ระหว่างสองคนนี้พี่ปั้นสงสัยใครมากกว่ากันครับ”
“พอๆ กัน เพราะดูยากทั้งคู่ แต่นอกจากสองคนนี้แล้วก็ไม่มีใครต้องสงสัยปรากฏตัวอีก”
“ดูยากเหรอครับ น้องว่าก็พอดูออกนะ” ผมสงสัยจริงๆ นะครับ อย่างพี่ปั้นทำไมบอกว่าดูไม่ออก
“วิกาดูเสียผลประโยชน์ที่สุดจนเกือบคิดว่าใช่คนนี้แน่ แต่ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าหันกลับไปหาซัน”
“แสดงหรือเปล่าครับเพื่อไม่ให้เราสงสัย”
“มันดูจริงเกินไป วิกาไม่ได้รักวีร์ รักแค่ชื่อเสียงฐานะ พอรู้ว่าโอกาสไม่มีแล้วถึงเปลี่ยนไปหาอีกคนเร็วมาก
แต่พี่ยังไม่ตัดออกถึงจะเริ่มลังเล เพราะวิกามีข่าวว่ากำลังจะตก และตกแรงเพราะนิสัยสองหน้า
คนในเขาเอือมเริ่มทนกันไม่ไหว สิ่งที่วิกาต้องการที่สุดคือที่เกาะเพื่อยืนในสังคมชั้นสูงต่อไป ”
“ส่วนลลิตา คล้ายกับไม่มีอะไรแค่ผู้หญิงที่แสดงออกชัดเจนว่าอยากเสนอตัวให้วีร์ ไม่เคยเจอกันเป็นการส่วนตัว
ไม่เคยคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวด้วยซ้ำนอกจากเรื่องงาน แต่คนที่วางยาคนอื่นได้ หลอกปุ่นขึ้นห้องได้ ไม่ธรรมดา
และที่สำคัญถึงจะเกิดเรื่องนั้นขึ้นก็ยังกล้ามาที่นี่”
“โห พี่ปั้นละเอียดยิบน้องมองเห็นภาพเลย” ผมยกนิ้วโป้งให้พี่ชาย
“ปุ่น” เสียงเรียกจากคนที่เพิ่งเสร็จกิจกรรม ทำเอาพี่ปั้นเบ้หน้า
“มันต้องตัวติดกันขนาดนั้นเลยเหรอวะ” โชคดีที่คุณวีร์ไม่ทันได้ยิน ไม่อย่างนั้นก็กัดกันอีก
“ไปเร็ว ลินจะตัดเค้กแจกพนักงาน ปุ่นอยากทานไม่ใช่เหรอ”
“ไปครับไป” ผมตาโต ก็เค้กก้อนนั้นผมเป็นคนเลือกรสเองนี่ครับ คุณลินให้ผมเลือกได้ตามใจ
“หมดกัน ใครสั่งใครสอนให้เห็นแก่กินขนาดนี้ ดูสิตัวสั่นริกๆ” ผมค้อนให้พี่ปั้นวงโต มาว่าผม
ไม่ได้เป็นถึงขนาดนั้นเสียหน่อย แค่สายหางดิกๆ เท่านั้นๆ เอง
“ไม่เห็นเป็นไรปุ่น ออกจะน่ารัก” มีคนเถียงแทนครับ
(。→‿←。)
“ปุ่นแอบเอายาอะไรให้เจ้านายกินหรือเปล่า ทำไมเชื่องได้เชื่องดี”
“พี่ปั้น!!” ผมตกใจตาแทบถลน ทำไมใช้คำพูดแรงแบบนั้น
“อภิสิทธิ์ของการเป็นพี่เราไงปุ่น” พี่ปั้นดูชอบใจกับคำพูดของตัวเองมากจนหัวเราะออกมา
“ไปๆ ลินกวักมือเรียกแล้ว” พี่ปั้นเดินนำผมกับคุณวีร์ไปก่อน ผมหันไปทำตาละห้อยให้คนที่ยืนข้างๆ
“ขอโทษนะครับคุณวีร์ พี่ปั้นพูดไม่น่าฟังเลย”
“ใช่ ถ้าเป็นคนอื่นพี่ต่อยปากแตกไปแล้ว แต่ปั้นพูดถูก ทำยังไงได้ดันมาชอบน้องเขา มันก็ต้องยอมเป็นธรรมดา”
แหม คันปากจริงๆ ครับ อยากจะถามว่ายอมเพราะผมหรือยอมเพราะขืนต่อยพี่ปั้นมันจริงๆ พี่มันคงไม่ยืนเฉยๆ
ให้ต่อยฟรีหรอก ทำมาเป็นพูดดี
แต่เห็นแก่เค้กที่รออยู่ ผมจะไม่เถียงกับคุณรองประธานให้เสียเวลา ไปดีกว่า
เที่ยงคืนแล้วง่วงก็ง่วงแต่ผมต้องคุยกับคุณวีร์ก่อน
“ตาจะปิดอยู่แล้วทำไมไม่นอน” คนอาบน้ำเสร็จทีหลังขึ้นมานอนข้างๆ
ผมพลิกตัวเข้าไปนอนใกล้ๆ ยกมือใหญ่ขึ้นมาจับเล่น
“คุณวีร์เคยมีแพลนที่จะแต่งงานไหมครับ” ผมเริ่มขบวนการสืบของโคนันปุ่น
“ทำไม ตัวอ้วนอยากแต่งแล้วเหรอ ใจร้อนนะเรา” ไม่ให้ความร่วมมือเลย เอาใหม่
“ไม่ใช่สักหน่อย ผมหมายถึงก่อนเจอผม คุณวีร์มีใครที่อยากแต่งด้วยหรือเปล่าครับ” ถามมันชัดๆ ไปเลย
“พี่รักปุ่นคนเดียว” คนตอบไม่ตรงคำถามดึงมือออกจากมือผม เปลี่ยนมากอดผมเอาไว้อย่างที่ชอบทำทุกคืน
“คุณวีร์ตอบให้ตรงคำถามสิครับ” ผมทำปากยื่นปากยาวให้รู้ว่าเริ่มโมโหและงอน
“ไปได้ยินอะไรมาหือ ซักพี่ขนาดนี้ ไหนบอกมาใครพูดอะไร”
ทำ..ทำไมโคนันปุ่นถูกซักล่ะ ในการ์ตูนไม่มีนะครับ โคนันปุ่นต้องฉลาดอยู่คนเดียวสิ
“เร็ว สารภาพมา ใครพูดอะไรให้ไม่สบายใจอีก” เฮ้ยไม่ใช่แล้ว นี่มันม่ายช่ายยยย
“ถ้าไม่พูดต้องโดนแบบนี้”
อ๊ากก คุณวีร์จี้เอวผม
“ฮ่าๆๆ ค..คุณวีร์ คุณวีร์ ปล่อย” ผมมันพวกบ้าจี้ขนานหนัก เริ่มดิ้นทุรนทุรายจนน้ำลายไหลยืดออกมา
คุณวีร์หยุดมือ ปล่อยให้ผมมีโอกาสหายใจ ริมฝีปากของคนตัวโตแตะลงมาบนแก้ม ลิ้นไล้น้ำลายผมเข้าปากตัวเอง
“อื้อ อย่าครับคุณวีร์มันสกปรก” ผมรีบยกมือยันอกไม่อยากให้ทำต่อ
“ตรงไหน ออกจะหวานอร่อย” คนชิมพอกวาดไปชิมจนหมดเกลี้ยง ก็เริ่มหาอย่างอื่นชิมต่อ
“อื้อ” แก้มกลมของผมถูกงับ คนทำคงมันเขี้ยว ข้างซ้ายโดนแล้วก็ย้ายไปข้างขวา
มือก็ลูบพุงผมไปด้วย ตรงไหนเป็นเนื้อนิ่มๆ ก็แอบบีบขึ้นมาเล่น ปวดหัวจริงๆ ครับ ทำเป็นเด็กฟันกำลังขึ้นไปได้
ผมมัวแต่ป้องกันตัวคอยปัดมือซนออก หน้าก็ต้องคอยขยับหนีคนที่เพิ่งกินข้าวอิ่มมาแท้ๆ กลับทำท่าว่าหิวอีกแล้ว
เฮ้อ สงสัยคงต้องตั้งหลักใหม่พรุ่งนี้ เดี๋ยวค่อยจับมาซักใหม่อีกที
แต่ก็ไม่เชิงว่ายกนี้ผมแพ้นะครับ อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องตอบเหมือนกันว่าใครบอกผมมา ถือว่าเจ๊ากันไป ^^
.........................................................TBC............................................................
Darin ♥ FANPAGE