ตอนที่ 31 ♥ ครึ่งหลัง-ซัน-
ความรู้สึกแปลกๆ ที่เห็นลินเดินจับมือมากับปั้น ยิ่งตอกย้ำว่าผมยังทำใจไม่ได้เรื่องที่ลินจะมีใครเข้ามาในชิวิต
มันไม่ชินกับการที่เห็นลินยืนอยู่ตรงหน้าผม ไม่ใช่ข้างๆ เหมือนที่ผ่านมา
แต่เพราะแบบนั้นผมถึงรู้สึกว่าผมเห็นลินชัดเจนมากขึ้น ก็หน้าตาเดิมๆ แต่ทำไมเหมือนไม่เคยเห็น ก็วิธีพูดแบบเดิม
แต่กลับไม่รู้สึกหงุดหงิดสักนิด ก็มือคู่เดิมที่คอยจับโน้นจับนี่วุ่นอยู่ใกล้ๆ ผม เพียงแต่วันนี้ผมกำลังมองมือคู่นั้นวุ่นอยู่ที่อื่น
ผู้หญิงที่นั่งลงตรงหน้าคือเพื่อนสนิทคนเดิม แต่กลับรู้สึกไม่เหมือนเดิม
หวง ผมกำลังหวงเพื่อน
“กำลังคิดว่าทำไมลินไปตักของนาน ไปรับปั้นนี่เอง”
“เปล่า เห็นกำลังสวีทเลยไม่อยากขัด...โอ๊ะ..” ลินร้องออกมาหันไปสบตาปั้น
ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากนั้นลินก็ไม่พูดอะไรต่อ ไม่เหมือนทุกครั้งที่จะต่อว่าผมมากกว่านี้
“วิกาขอร่วมโต๊ะด้วยคนนะลิน ตื่นมาหิวโทรไปตาก็ยังนอนอยู่ เลยต้องลงมาคนเดียว”
“นั่งแล้วจะขอทำไม” นี่ล่ะครับลิน พูดจาห้วนๆ ผมเคยกังวลว่าเป็นแบบนี้แล้วจะหาใครได้ไหม
แต่ตอนนี้ผมได้คำตอบแล้ว ผู้ชายที่นั่งข้างๆ ยิ้มขำไม่มีทีท่าว่าจะรับไม่ได้ มือใหญ่พาดไปบนพนักเก้าอี้ของลิน
เหมือนโอบเอาไว้กลายๆ
“ซัน ยังไม่แนะนำเพื่อนให้วิการู้จักเลยนะคะ เคยเห็นหน้าแว้บๆ แต่ยังไม่รู้จักกันสักที”
มือเรียววางทาบทับบนแขนของผม มันเคยให้ความรู้สึกดีกับสัมผัสเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้รับ
แต่วันนี้มันเติมเต็มความรู้สึกโหวงเหวงในใจไม่ได้แม้แต่น้อย
“ผมแนะนำตัวเองดีกว่าครับ ผมปั้น” ปั้นส่งมือให้วิกา
“ค่ะ ฉันวิกาแต่คุณปั้นคงพอจะรู้จัก” วิกาจับมือปั้นเขย่า ส่งยิ้มหวานไปให้
“รู้จักครับ ผมลืมแนะนำอีกอย่างผมเป็นพี่ชายของปุ่น คุณวิกาคงพอจะรู้จัก” วิกาปล่อยมือทันที
หน้าที่ยิ้มแย้มเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง
“เรย์ยังไม่ตื่นเหรอริว” ผมเปลี่ยนมาคุยกับหนุ่มน้อยที่นั่งหน้าง้ำ
“ไม่รู้ริวไม่ได้โทรตาม”
“ไปตักอะไรมาทานสิ ไม่หิวหรือ” ผมเห็นนั่งกันเฉยๆ นอกจากผมกับลินที่เพิ่งไปตักมาไม่มีใครมีอาหารอยู่ตรงหน้า
ริวไม่ยอมตอบหันไปมองหน้าปั้น จมูกเชิดตามประสาเด็กเอาแต่ใจ ฝ่ายโน้นทำหน้าเพลียๆ ใส่
“ลินเอาอะไรเพิ่มไหม เดี๋ยวผมตักมาให้” ปั้นลุกขึ้นยืน โค้งตัวลงต่ำยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ หน้าของลิน
“ไม่เอา โอ๊ะ..” ลินหันไปตอบ จนแก้มขาวเกือบชนเข้ากับจมูกโด่งของปั้น
ผมมองภาพตรงหน้านิ่งๆ แต่ข้างในมันเกิดความรู้สึกที่ผมไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ถูก
“ครืด” เสียงลากเก้าอี้กับพื้นดังขึ้น ดังพอให้ผมหลุดออกจากภวังค์
ริวยืนจับพนักเก้าอี้ไว้แน่น สีหน้าเหมือนใกล้จะอาละวาดเต็มที ผมไม่รู้ว่าน้องโมโหอะไร แต่ต้องเป็นเรื่องใหญ่เอามากๆ
ผมเห็นริวมาตั้งแต่เด็ก รู้ดีว่าน้องชายคนนี้ฤทธิ์มากแค่ไหน
“ริวเป็นอะไร” ผมอดเป็นห่วงไม่ได้จนต้องถามออกมา
“หิว” คนตอบเดินกระแทกเท้าปังๆ ออกไป มีปั้นที่ยืนอยู่ก่อนเดินตามไปติดๆ
“วิกาไม่ไปเหรอครับ” ผมหันมาถามคนที่ยังนั่งเฉยอยู่ข้างๆ
“วิกาอยากได้แค่สลัดกับกาแฟ ซันเรียกพนักงานจัดการให้หน่อยสิคะ”
“ซันไม่ใช่เจ้าของโรงแรมคงออกคำสั่งไร้มารยาทแบบนั้นไม่ได้ self service ถ้าแปลไม่ออกจะเปิดดิคให้เอาไหม”
“มันจะเกินไปแล้วนะลิน วิกาชักทนไม่ไหวแล้วนะคะซัน เพื่อนคุณหาเรื่องวิกาตลอดเวลา”
“วิกา ไปตักอาหารเถอะครับไหนบอกว่าหิวไง”
“ซันไปกับวิกาสิคะ นะ”
“ผมตักมาครบแล้ว วิกาไปเถอะ” ผมตบลงบนมือที่เกาะแขนเบาๆ ก่อนจับมือบางนั้นไปวางลงข้างๆ
วิกามองหน้าผมเหมือนแปลกใจก่อนจะฟึดฟัดเดินออกไป
“นึกว่าจะเสนอตัวบริการลุกไปตักสลัดให้เจ้าหญิง” เสียงประชดประชัดของคนที่เหลืออยู่ทำเอาผมยิ้ม
ผมควรจะหงุดหงิดแต่ผมกลับดีใจที่ลินยังสนใจเรื่องของผม
“อยากคุยด้วย”
“กับเรา?” ลินยกนิ้วขึ้นชี้ตัวเอง
“ใช่” ผมพยักหน้า
“เรื่องอะไร จะให้แสดงความยินดีด้วยเหรอที่วิกากลับมาสนใจนายอีกครั้งหลังจากหมดหวังจากวีร์มันแล้ว”
“ไม่ใช่ จะถามเรื่องปั้นน่ะ”
“เรื่องปั้น?” ลินมองผมคิ้วขมวดเข้าหากัน หน้าเต็มไปด้วยคำถาม
“อืม อยากรู้ว่าลินคิดยังไงเรื่องที่ปั้นจีบ”
“สนใจทำไม”
“ปั้นเป็นพี่ของปุ่น ปุ่นเป็นแฟนวีร์ ยังไงก็กลุ่มเดียวกันผิดใจกันขึ้นมามันไม่ดี ถ้าลินไม่คิดอะไรบอกปั้นไปเลยจะดีกว่า”
“อย่างนี้เองเหรอ” ลินมองผมด้วยสายตาเหมือนคนกำลังผิดหวัง แต่ผิดหวังเรื่องอะไรกัน
“ไม่ต้องห่วงหรอก เพื่อนนายอาจจะมีแฟนเร็วๆ นี้ก็ได้ ไม่แน่อาจวันนี้หรือพรุ่งนี้”
“ลิน..” ผมอยากพูดอะไรต่อแต่วิกากลับมาที่โต๊ะเสียก่อน
“น้ำผลไม้” ปั้นเลื่อนแก้วน้ำส้มมาข้างหน้าลิน
“ทานเสียบ้างทานแต่กาแฟเดี่ยวไม่มีความหวานในเส้นเลือด”
“ปั้น” ลินจับบ่าปั้นดึงให้หน้าเข้ามาใกล้ก่อนกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหู หน้าแนบไปกับหน้า
มองจากมุมผมเหมือนว่าปั้นกำลังหอมแก้มลิน ถึงจะรู้ว่ามันไม่ใช่แต่มือผมกลับกำเข้าหากันแน่น
“อืม” เสียงปั้นตอบรับบางอย่างที่ลินพูด มือใหญ่เอื้อมขึ้นไปลูบศีรษะลินเบาๆ
ผมลุกพรวดพราดขึ้นยืน ร่างกายมันเป็นไปโดยอัตโนมัติ มันอยากจะทำอะไรบางอย่าง
บางอย่างที่จะสามารถแยกสองคนนั้นออกจากกัน
“ซันคะ?” มือที่แตะแขนผม ทำให้ผมหันไปมองงงๆ
“ครับ???” ผมนั่งลง มองสายตาของคนทั้งโต๊ะที่จ้องมาที่ผม
“ไม่มีอะไร ผมนึกว่าเรย์เดินเข้ามาเลยจะลุกขึ้นเรียก” ผมชี้มือมั่วๆ ไปทางประตู
ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจอะไรผมแล้ว ต่างก้มหน้าลงจัดการอาหารของตัวเอง มีเพียงปั้นที่มองหน้าผม
รอยยิ้มที่ติดอยู่ตรงมุมปาก มันทำให้ผมรู้สึกครั้นเนื้อครั้นตัวอย่างไรชอบกล
“คุณวิกา” เสียงเรียกแหลมๆ ที่ดังขึ้น ทำให้วิกาหยุดพูดแล้วหันไปมอง
“ลลิตา นั่งสิ” วิกาชี้มือไปที่เก้าอี้ตัวสุดท้ายที่ว่างอยู่
“ไม่ดีกว่าค่ะตาเกรงใจ ย้ายไปนั่งโต๊ะอื่นกัน” วิกาทำเหมือนจะค้าน แต่พอสองคนนี้สบตากัน สักครู่วิกาก็หันมาพูดกับผม
“วิกาย้ายไปนั่งเป็นเพื่อนลลิตานะคะซัน เดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่”
“ครับ” ผมมองตามทั้งสองคนไป ดูเหมือนจะมีเรื่องคุยกัน เพราะทันทีที่นั่งลงลลิตาก็พูดไม่หยุด
จากตรงนี้ผมไม่ได้ยินว่าคุยอะไรกัน แต่คงเป็นเรื่องซีเรียสไม่น้อย สังเกตจากหน้าตาของทั้งคู่
“อิ่มแล้ว” ริวพูดขึ้นมา ไม่ใช่แค่บรรยากาศโต๊ะโน้นที่ดูเครียดๆ โต๊ะผมก็อึมครึมเช่นกัน
ริวดูโกรธไปเสียทุกอย่าง ลินเงียบลง มีเพียงปั้นที่ยังดูสบายๆ กินไปเรื่อยๆ ส่วนผมอย่าถามเลยครับ
วันนี้มันไม่เหมือนตัวผมสักนิด
“อิ่มก็ขึ้นไปพัก” ปั้นหันไปพูดกับริว
“จะไปไหนก็เรื่องของผมไม่ต้องมาไล่” ผมว่าปั้นก็ไม่ได้ไล่แต่ทำไมริวต้องหัวเสียขนาดนั้น
“แรดอย่าดื้อ ง่วงก็ขึ้นไปนอนอย่ามางอแงแถวนี้” คนถูกจ้องจนตาถลนกลับไม่รู้สึกรู้สมกับสายตาพิฆาตที่ส่งไปหา
“อย่ามาเรียกเราว่าแรด อ....หมียักษ์” ริวโกรธจนหน้าแดง เสียงดังจนโต๊ะข้างๆ หันมามอง
“หยุด เลิกเถียงกันลินปวดหัว” ลินยกมือขึ้นห้าม เน้นชี้นิ้วไปทางปั้น
“โอ๋ๆ” ปั้นเอื้อมมือมาจับมือที่ชี้นิ้วไปกุมไว้ ผมไม่คิดว่าอย่างปั้นจะทำอะไรอ่อนโยนแบบนี้
“ปวดมากไหม” ปั้นใช้นิ้วนวดไปบนขมับให้ลิน อีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะปัดไล่
ลินที่หลับตาเอียงหน้าไปทางปั้น ยอมรับสัมผัสที่อีกฝ่ายทำให้แต่โดยดี ผมไม่เคยเห็นลินมุมนี้มาก่อน
ลินที่ผมรู้จักเข้มแข็งออกไปทางกระด้าง ลินที่ทำอะไรได้เองทุกอย่าง ผมกับวีร์ไม่เคยดูแลลินเหมือนที่ปั้นทำตอนนี้
ผมรู้สึกเหมือนใครกำลังแย่งทำในสิ่งที่ผมไม่เคยรู้ว่าควรทำ เหมือนโดนตัดหน้า
และมากที่สุดคือโกรธตัวเอง โกรธที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าผมควรดูแลลินให้ดีกว่านี้
จู่ๆ ริวก็กระแทกแก้วกาแฟจนน้ำสีเข้มกระฉอกออกมา แว้บนึงผมเห็นเหมือนสายตาริวกำลังตัดพ้ออะไรบางอย่าง
แต่มันจางหายไปอย่างรวดเร็วและแทนที่ด้วยความน้อยใจ
“ริวขึ้นห้องก่อนนะพี่ซัน” ริวเลือกที่จะพูดกับผมก่อนลุกออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันไปมองลินกับปั้น
“มื้อนี้อร่อยจริงๆ ปั้นอิ่มแล้วก็ขึ้นไปพักเถอะ” ลินพูดกับปั้นก่อนจะพยักเพยิดเหมือนจะบอกให้ไปตอนนี้
“ไม่เป็นไร อยากนั่งต่ออีกสักพัก” ปั้นหยิบกาแฟขึ้นดื่มคล้ายกับไม่รับรู้ความอึดอัดที่เกิดขึ้นบนโต๊ะ
“ตามใจ งั้นลินขึ้นไปก่อน” ลินรวบช้อนให้รู้ว่าอิ่มแล้ว เตรียมจะลุก
“ลินไม่ต้อง”
“ปั้น!!” ปั้นส่ายหน้าส่งสายตาเหมือนรู้กันอยู่แค่สองคน สุดท้ายลินก็ยอมนั่งลง
“ปั้น ลินอยากขึ้นไปพักก็ให้ลินขึ้นไป “ ผมไม่ชอบที่ปั้นเหมือนจะรู้เรื่องที่ลินคิดมากกว่าผม ผมไม่ชอบที่ลินเชื่อฟังปั้น
ไม่ชอบให้คอยแตะเนื้อต้องตัวกันเหมือนอย่างตอนนี้ ห้ามแต่ปากสิวะจะจับแขนลินไว้ทำไม
“ไม่เป็นไรซัน นั่งเป็นเพื่อนปั้นก่อนก็ได้” คำตอบของลินยิ่งทวีเชื้อไฟที่สุมอยู่ในอกผมให้มันโหมแรงยิ่งขึ้น
หงุดหงิด โกรธที่ลินเข้าข้างปั้นมากกว่าผม
“ลินปวดหัวไม่ใช่เหรอจะทนอยู่ทำไม เราจะนั่งเป็นเพื่อนปั้นเอง ขึ้นไปเถอะ” ผมลองพูดอีกครั้ง
“ลินบอกว่าไม่เป็นไร” ลินหันมาตอบผมก่อนจะหันกลับไป เบื่อจะมองหน้ากันขนาดนั้นเลยเหรอ
“ลินขึ้นไปเถอะ เดี๋ยวผมโทรหาอย่านอนเพลินจนลืมรับโทรศัพท์”
“เอางั้นเหรอ ก็ได้” ลินพยักหน้าก่อนจะยอมลุกขึ้นแต่โดยดี นั่นยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดจนแทบคลั่ง
ผมกับปั้นมองตามจนลินเดินออกประตูไป ผมเปลี่ยนมามองปั้นแทนมองจนปั้นรู้ตัว ปั้นเลิกคิ้วเป็นเชิงถามผมว่ามีอะไร
“ผมถามคุณตรงๆ คุณจริงจังกับลินหรือเปล่า คิดจะจีบจริงๆ หรือแค่ลองแหย่เล่น”
“ผมเหมือนคนกำลังล้อเล่นเหรอ” ปั้นยังละเลียดกับกาแฟ ท่าทางชวนให้โมโหจนแม้แต่คนอย่างผมที่ไม่เคยมีเรื่องกับใคร
อยากลุกขึ้นซัดสักเปรี้ยง
“ผมไม่สนิทกับคุณพอ ผมไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรแต่อย่ามาทำเล่นๆ กับเพื่อนผม”
“ดูคุณจะห่วงเกินเพื่อนไปไหม”
“ผมกับลินเป็นเพื่อนสนิทกัน เรารู้จักกันมานานผมจะห่วงเพื่อนคงไม่แปลก”
“ครับผมเชื่อ หึๆ” เสียงหัวเราะของปั้นกวนอารมณ์ผมได้มากจริงๆ ไม่เคยมีใครยั่วโมโหผมได้
“คุณชอบลิน?” ผมถามในสิ่งที่อยากรู้มากที่สุด
“คุณยังรักเทวิกา?” ปั้นย้อนถามผมบ้าง
“เรื่องผมกับวิกาไม่เกี่ยว คุณตอบในสิ่งที่ผมถามก็พอ”
“คุณซันก่อนคุณจะถามผม คุณถามตัวเองก่อนไหม อย่าว่าผมละลาบละล้วงเลยนะครับ
แต่ผมเข้ามารับงานนี้ ผมต้องสืบประวัติคนรอบข้างของวีร์อยู่แล้ว เรื่องที่คุณเป็นแฟนกับวิกามาก่อนผมก็ทราบ
ตอนนี้คุณเทวิกาไม่ได้ยุ่งกับเพื่อนคุณแล้ว คุณไปสนใจความรักของตัวเองก่อนไหม ก่อนจะมาสนใจเรื่องของผม”
ผมกำหมัดแน่น สายตามองตามปั้นที่หันไปมองโต๊ะของวิกาที่ยังนั่งกันอยู่ ผมลืมไปแล้วว่าวิกานั่งอยู่ในห้องนี้ด้วย
“ปั้นคุณไม่ได้บอกวีร์ใช่ไหม”
“ถ้ามันยังไม่เกี่ยวกับความปลอดภัยของวีร์ผมไม่คิดจะยุ่งเรื่องชาวบ้าน แต่ที่ผมพูดขึ้นมาเพราะคุณกำลังยุ่งเรื่องผม”
ปั้นพูดดักคอไว้เหมือนรู้ว่าผมจะพูดอะไร
“ผม..ผมยังรักวิกา” ผมอึกอักก่อนจะตอบออกไป ที่ยอมตอบเพราะอยากได้คำตอบจากฝ่ายตรงข้ามบ้าง
“หึๆ” ปั้นหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมเหยียดยิ้มที่มุมปาก
“คุณแน่ใจเหรอว่าคุณยังรักเทวิกา ผมรู้ว่าคุณเป็นคนดีแต่คุณเป็นคนดีมากแค่ไหน ซัน”
“มากจนยังรักผู้หญิงที่ทำกับคุณแบบนี้ พร้อมจะอ้าแขนรับเธอกลับมา หรือมากพอจะอภัยให้ได้และหวังอยากให้
เธอมีชีวิตที่ดีต่อไป”
“รักกับปารถนาดีมันไม่เหมือนกันนะ คุณคิดให้ดีว่าที่ทำลงไปทั้งหมดนี่เพราะอะไร”
คำพูดปั้นทำให้ผมสะอึก ผมรักวิกามากตอนที่เราคบกัน อยากอยู่กับผู้หญิงคนนี้ไปทั้งชีวิต
ตอนที่วิกามาบอกกับผมว่าชอบวีร์ เรื่องของผมเป็นเรื่องความเข้าใจผิดคิดว่ารักแต่มันไม่ใช่
ผมเจ็บเจียนตายใช้เวลาอยู่นานกว่าจะกลับมายืนได้อีกครั้ง พอผมกลับมาเข้าสังคมผมยังต้องเจอวิกาอยู่เรื่อยๆ
ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองไม่โกรธถึงแม้จะเห็นวิกาอยู่กับวีร์ ผมคิดว่าเป็นเพราะผมยังรักวิกาอยู่มาก
มากจนอยากเห็นวิกามีความสุข
“ผมถามจริงๆ คุณไม่เคยสงสัยตัวเองเลยหรือ ว่าคุณไม่เจ็บเพราะคุณทำใจได้หรือเพราะคุณไม่รักแล้ว”
“ความรู้สึกมันเปลี่ยนกันได้ ก็เหมือนกับลินสักวันผมจะทำให้ลินเห็นผมเป็นคนที่สำคัญที่สุดให้ได้”
“ไม่” ผมเผลอตะโกนออกไป โต๊ะที่โดนตัวผมกระแทกสั่นจนต้องรีบเอามือจับไว้
“ทำไมล่ะซัน คุณไม่อยากเห็นเพื่อนมีความสุขหรือ ผมคิดว่าตัวเองไม่ได้เสียหายอะไร
ฐานะผมอาจไม่รวยเท่าลินแต่ก็พอมีพอกิน ผมดูแลลินได้สบายๆ “
“คุณยังไม่รู้จักลินดีพอ ลินไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนหวานแบบที่คุณเคยเจอ ลินเข้ากับใครไม่ค่อยได้
มีแต่ผมกับวีร์เท่านั้นที่อยู่กับลินได้”
“แต่ผมชอบ ผมชอบผู้หญิงแบบลิน คุณนับผมรวมเข้าไปอีกคนได้เลย”
ไม่ ผมไม่อยากให้ปั้นเข้าใกล้ลินมากกว่านี้ ไม่อยากให้ใครรู้จักลินดีเหมือนกับที่ผมรู้จัก
“ผมเตือนคุณด้วยความหวังดีนะปั้น ลินไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่คุณมองหา อย่ามายุ่งกับลินเลย
ผมไม่อยากเห็นเพื่อนผมเสียใจภายหลัง”
“ผมว่าเหมือนคุณกำลังดูถูกลิน ทำไมถึงเอาแต่พูดว่าไม่มีใครทนลินได้”
“ไมใช่ ลินเป็นคนดี เป็นผู้หญิงที่ดี ลินดีกว่าผู้หญิงคนอื่นเป็นร้อยเท่า”
“หึๆ ถ้าดีแบบนั้น ทำไมถึงเอาแต่เตือนผมล่ะซัน อย่าบอกว่าเพราะไม่อยากยกลินให้ผมนะ”
“ผม...” ผมควรจะตอบปั้นอย่างไร เพราะดูเหมือนปั้นจะพูดถูก
ผมพูดไปทุกอย่างเพราะไม่อยากให้ปั้นมายุ่งกับลิน ไม่อยากยกลินให้ใครทั้งนั้น
“ใช่ ผมไม่อยากยกลินให้คุณ ลินเป็นเพื่อนผม เพื่อนหวงเพื่อนมันก็เรื่องธรรมดา”
“คุณอยากเชื่อแบบนั้นก็ตามใจ ผมบอกเลยว่าผมไม่ถอยเพราะแค่เพื่อนหวงเพื่อนหรอกนะ
ขอบคุณที่นั่งเป็นเพื่อน ผมคงต้องขอตัวก่อน”
ปั้นยักยิ้มมุมปากให้ผมก่อนลุกเดินออกไป ผมทิ้งตัวลงพิงพนักเก้าอี้ เป็นการคุยที่ใช้พลังงานไปเยอะจนคล้ายจะหมดแรง
เพื่อนหวงเพื่อน ผมเป็นอย่างที่พูดออกไปจริงๆ ใช่ไหม หน้าของลินลอยขึ้นมาในหัวของผม
ตามด้วยภาพแนบชิดระหว่างลินกับปั้น
ไม่!! ผมขยับขึ้นมานั่งตัวตรง เรี่ยวแรงที่หายไปเหมือนกลับคืนมาทั้งหมด ใจกลับมาเต้นรัวแรง
ไม่ให้ใครเอาลินไปทั้งนั้น
....................................................................................
-กำปั้น-
“ได้ยินแล้วสิ” ผมถามคนที่มือยังกำโทรศัพท์ไว้แน่น ทั้งๆ ที่ผมกดตัดสายทิ้งตั้งแต่ก่อนลุกขึ้นแล้ว
“ได้ยินอะไร ไม่ได้ยิน” คนที่มีรอยยิ้มเต็มหน้าพูดจากวนโมโห
“อย่ามาเฉไฉ ฟังแล้วคิดยังไงบอกมาเร็วๆ” ผมซักอีกฝ่ายด้วยความอยากรู้
“คิดอะไร ก็บอกว่าไม่ได้ยินไง ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น” คนไม่รับรู้ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู ลินเคยยิ้มแบบนี้เสียเมื่อไหร่
“คิดจะเล่นตัวล่ะสิ ระวังเถอะเล่นตัวมากจะชวดขึ้นมาจริงๆ “
“ 11 ปีเชียวนะง่ายๆ ก็ไม่สนุกสิ อ่า..ร้อนๆ ไปว่ายน้ำดีกว่า” ลินยกมือขึ้นพัดไปมา ท่าทางน่าหมั่นไส้
บอกตามตรง ตอนนี้ผมชักเอนเอียงไปทางเห็นใจซันมากกว่า ศึกนี้คงอีกยาวไกล
ซันน่าจะบอกตัวเองมากกว่าผมว่าอย่ายุ่งกับผู้หญิงคนนี้เลย ดูจากสายตาสิ คิดจะแกล้งแม้แต่คนที่ตัวเองชอบ
ปีศาจชัดๆ
...................................................TBC....................................................
พรุ่งนี้ขอคั่นเนื้อหาหลักเอาไว้ก่อน ใครรอหวานๆ คู่ปั้น ริว พรุ่งนี้มาลง “ขอเวลานอก 2” ให้นะคะ
ชื่อตอนก็บอกแล้วเนอะว่าไม่มีอย่างอื่นหวานล้วนๆ ^^
Darin ♥ FANPAGE