『ห ลั ก สู ต ร เ ร่ ง .. 'รั ก'』~♪ คาบที่ 12 – ไม่เข้าใจ ~♪『25-08-16』
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 『ห ลั ก สู ต ร เ ร่ ง .. 'รั ก'』~♪ คาบที่ 12 – ไม่เข้าใจ ~♪『25-08-16』  (อ่าน 17071 ครั้ง)

ออฟไลน์ nin@

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
 :o8: ฟากฟ้าน่ารักจัง ช่างไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเป็นคนน่าทะนุถนอม ขุนเขาก็ดูเหมือนจะตกหลุมลึกแบบไม่ได้ตั้งใจ รู้ตัวอีกที จะตะกายจากหลุมความน่ารักของฟากฟ้าได้หรือเปล่าก็ไม่รู้  ส่วนชุน...ท่าทางร้ายลึกแบบนี้ ขอแช่งให้อกหัก 5555  :call:

ออฟไลน์ daadaadaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขออย่าให้ขุนสนใจคำพูดชุนเลย
 :katai1:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
เฮ้ย! เรารู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง เหมือนจะเกิดศึกชิงนายในอีกไม่ช้า~~ :hao7:  ปล.ขุนรีบๆยอมรับซะ!  เดี๋ยวโดนชุนแย่ง!!!

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ตอนนี้ให้โอกาสหลบนะขุนเขา ตอนนี้อาจจะ(พยายาม)บอกว่าไม่อยากเห็นรอยยิ้มของฟากฟ้า
แต่ถ้าลองฟากฟ้าได้ถอดแว่นเมื่อไหร่ นายอาจจะหวงแหนรอยยิ้มนั้นแทนก็ได้นะ แล้วดูท่าขุนเขาอาจจะไม่ยอมรับง่ายๆด้วยนี่สิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชุน ดูเจ้าความคิดกว่าแต่ก่อน
แต่ฟากฟ้าก็ดูไม่ใช่คู่แข่งด้านความรักกับชุนเลย
ขุนเขาเริ่มวอกแวกกับฟากฟ้าแล้ว :-[
 รอ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
นี่ได้กลิ่นมาม่ามาเลยนะเนี่ย ชุนนี่คงไม่เบาเรื่องฟากฟ้ากับขุนเขา ส่วนขุนเขาจะกลัวการถูกมองไม่ดีหรือเปล่านี่สิ แต่เริ่มรู้สึกอะไรกับฟากฟ้าแล้ว รออ่านต่อน้า :mew1:

ออฟไลน์ hinago

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขุนกำลังสับสนรึเปล่า??

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ mamedaz-s

  • Master Luck F
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คาบที่ 9 – ตาต่อตา 
                 
 
ห้องของฟากฟ้าอยู่บนห้องใต้หลังคา ทุกสิ่งดูแปลกตามากสำหรับขุนเขา เจ้าของห้องบอกว่าชอบที่จะอยู่ข้างบน เพราะเวลามองไปเบื้องล่างแล้วรู้สึกดี โดยเฉพาะเวลาที่ต้องใช้ความคิด การที่ได้เปิดหน้าตาชั้นบนสุดของบ้านมองท้องฟ้าทำให้หัวสมองปลอดโปร่ง สมกับชื่อตัว เพราะฟากฟ้าจะรู้สึกรักท้องฟ้ามากเลยทีเดียว 
 
ขนาดห้องไม่กว้างมากแต่ก็ไม่ได้แคบ ขนาดพอดีสำหรับเด็กผู้ชายอยู่คนเดียว จากชั้นสองของบ้านเป็นบันไดเชื่อมต่อขึ้นไปถูกปิดด้วยผนังที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อกั้นความเป็นส่วนตัว   
 
ในห้องเต็มไปด้วยชั้นหนังสือร่วมสิบชั้น มีเตียงเดี่ยวที่ตั้งอยู่มุมห้องแออัดกับชั้นหนังสือขนาดเล็ก ปลายเตียงยื่นออกมาไว้สำหรับตั้งโน๊ตบุ๊กส์ มีตู้เย็นขนาดเล็กไว้สำรองอาหาร นอกนั้นแล้วก็แทบไม่มีความบันเทิงใด ๆ หลงเหลืออยู่เลย   
 
ไม่สิ มีอยู่อย่างหนึ่ง แต่คงเรียกว่าความบันเทิงไม่ได้ 
 
ตู้หนึ่งตู้ที่แตกต่างจากชั้นหนังสือ มันถูกจัดไว้ตรงหัวนอน เต็มไปด้วยกล่องทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก บนกล่องนั้นมีนาฬิกาสามเรือนตั้งอยู่ และกล่องว่างอีกหนึ่งกล่อง 
 
เพียงแค่แวบเดียวขุนเขารู้เลยว่าเป็นของราคาแพง 
 
“ชอบสะสมเหรอ” อดที่จะถามไม่ได้ 
 
ฟากฟ้าพยักหน้าหงึกหงักอย่างเขินอาย ทำนองว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรเปิดเผย 
 
ขุนเขาถือวิสาสะโยนกุญแจมอเตอร์ไซค์ไว้บนเตียงนอนแล้วขึ้นไปดูนาฬิกาเหล่านั้น   
 
ยิ่งได้มองใกล้ยิ่งตาลุกวาว   
 
“รสนิยมดีเหมือนกันนี่” 
 
สวยงามมาก จากดีไซน์คงไม่ใช่เมดอินไทยแลนด์แน่นอน 
 
“อ..อือ ขุนรู้เรื่องนาฬิกาด้วยเหรอ” 
 
“ไม่รู้หรอก” เด็กหนุ่มตอบทันควัน “แต่ชอบดูน่ะ เพราะคงไม่มีปัญญาซื้อใช้แน่นอน” เขาพูดออกมาจากใจจริง 
 
โดยไม่รู้ว่าสีหน้าของฟากฟ้าเจื่อนลงไปนิดหน่อย 
 
ก่อนจะท้วงเบา ๆ ว่า 
 
“ผมเก็บเงินซื้อเองทั้งหมดนะ ค่าขนมที่ได้มาทั้งหมด....” 
 
ไม่อยากให้เข้าใจผิด เขาไม่ได้เอาเงินพ่อแม่มารูดของที่อยากได้ทั้งหมด ขึ้นชื่อว่าของสะสม ต้องใช้เงินเก็บของตัวเองเท่านั้นถึงจะมีความสุข แม้เงินเหล่านี้จะเป็นเงินที่ได้เปล่ามาก็ตาม   
 
สิ้นเสียงขุนเขาเข้าใจเจตนา 
 
“เฮ้ ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” เขารีบแก้ “ฉันไม่มีความสนใจเรื่องพวกนี้ต่างหาก ถ้าจะซื้อไว้ใช้คงไม่ใช่ของแพง เหมือนอย่างนายถ้าจะซื้อมอเตอร์ไซค์ใช้คงไม่เอารุ่นแพงหรือรุ่นลิมิเต็ดอะไรแบบนั้นหรอกใช่ไหมล่ะ แค่ใช้ได้ก็พอ” 
 
จากสีหน้าคงเป็นเหตุผลที่ทำให้อีกฝ่ายยอมรับได้ เด็กชายพยักหน้าให้อย่างช้า ๆ   
 
ไม่นานนักพี่เลี้ยงยกขนมขึ้นมาเสิร์ฟ เป็นวัฟเฟิลกลิ่นหอมกับน้ำส้มหนึ่งเหยือก   
 
“นายหญิงบอกว่าจะมาหาด้วยน่ะค่ะ อยากเจอกับเพื่อนของคุณฟ้า”   
 
คำพูดนั้นทำให้ทั้งขุนเขาถึงกับเลิกคิ้ว   
 
ฟากฟ้าหันมาหาเขาเป็นเชิงขออนุญาติ 
 
“แม่จะมา ได้หรือเปล่า” 
 
มารบกวนบ้านเขาถึงขนาดนี้แล้วจะให้ปฏิเสธคงใช่ที่ 
 
ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีอยู่แล้วนี่นะ ขุนเขาคิด จึงพยักหน้าให้อย่างช้า ๆ   
 
“ตกลงครับ แล้วแม่จะมาเมื่อไหร่..” 
 
“ท่านกำลังคุยเรื่องไปดูงานอยู่น่ะค่ะ คาดว่าอีกสักพัก” 
 
“อ้อ งั้นผมจะรอครับ” 
 
บทสนทนาสิ้นสุดลงแค่นั้นก่อนพี่เลี้ยงจะถอยหลังออกไป 
 
พวกเขาอยู่ตามลำพังโดยสมบูรณ์   
 
ฟากฟ้าถอดกระเป๋าเป้แขวนไว้ตรงมุมห้อง ถอดถุงเท้า ดึงชายเสื้อออกจากกางเกง ปลดเข็มขัด ปลดกระดุม   
 
ขุนเขาที่เห็นถึงกับอ้าปากค้าง 
 
“เฮ้ เดี๋ยว นายจะทำอะไรน่ะ !?” 
 
กลายเป็นฟากฟ้าเสียเองที่สงสัย 
 
“เปลี่ยนชุด ทำไมเหรอ” 
 
ขุนเขาติดสตันท์เล็กน้อย เขายืนนิ่งเหมือนโดนแช่แข็งความคิด   
 
ทว่าสายตากลับช่างซุกซนสำรวจร่างกายใต้ร่มผ้าของอีกฝ่ายซะงั้น   
 
ผิวข้างนอกที่ขาวเนียนแล้ว หน้าอกข้างในกลับยิ่งขาวอมชมพูยิ่งกว่า เหมือนดอกบัวที่เริ่มเปลี่ยนสีก่อนผลิบาน รูปร่างค่อนไปทางผอมมากกว่าจะเรียกว่าสมส่วน บวกกับส่วนสูงที่มีไม่ถึงมาตรฐานแล้วทำให้เขาดูแคระแกร็นหนักกว่าเดิม   
 
ขุนเขากลืนน้ำลายลงคอทั้งที่ไม่รู้ว่าทำไปทำไม 
 
ใช่ว่าไม่เคยเห็นผู้ชายแก้ผ้า กับพี่ชายคนโตนี่เห็นยันไส้ใน น้องชายคนสุดท้ายไม่ต่างกัน วิ่งแก้ผ้ารอบบ้านโทง ๆ เขายังไม่รู้สึก 
 
ผู้ชายด้วยกันแท้ ๆ ทำไมเขากลับเมินเฉยไม่ลง   
 
ไม่สักหน่อย ไม่ได้คิดอกุศลเลยสักนิด 
 
“ฉันยังอยู่ในห้องทั้งคนนะ” 
 
เหมือนเพิ่งรู้ตัว ฟากฟ้าเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย 
 
“อ่ะ .. จริงด้วย” 
 
สงสัยเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีที่กลับมาจากโรงเรียนจนเคยชิน   
 
“แต่ถ้าไม่เปลี่ยนชุดนักเรียนจะเลอะเอานะ ลำบากคนซักอีก” ฟากฟ้าทำสีหน้าลำบากใจ ประหนึ่งว่าหากไม่เปลี่ยนตอนนี้คงทำไม่ได้ 
 
ขุนเขาไม่รู้จะพูดยังไง อันที่จริงก็ไม่ควรไปขัดกิจวัตรประจำวันเจ้าบ้านแบบนั้น 
 
สุดท้ายจึงบอกว่า 
 
“เปลี่ยนเถอะ แต่ใช้ผ้าขนหนูพันไว้ด้วยแล้วกัน” 
 
“อื้ม” 
 
ฟากฟ้าพยักหน้ารับหงึกหงักก่อนหยิบผ้าเช็ดตัวที่พับไว้มาพันร่างกาย 
 
แต่นั่นคือผู้ชาย พันยังไงก็ยังเหลือท่อนบน 
 
ขุนเขามองไปทางอื่นแทบไม่ทันจึงหาเรื่องจดจ้องหนังสือในชั้นของเด็กชายแทน หนังสือในชั้นส่วนใหญ่ล้วนเป็นนวนิยายคลาสสิก หรือหนังสืออ่านนอกเวลาส่วนใหญ่ แล้วขุนเขาจึงได้เข้าใจว่าทำไมฟากฟ้าถึงยกตัวอย่างการกระทำของชุนด้วยปีเตอร์แพนแบบนั้น ที่แท้มาจากสิ่งที่อ่านนี่เอง 
 
ฟากฟ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองธรรมดา แทบไม่ต่างจากตอนไปเรียนพิเศษยกเว้นกางเกงขาสั้นผ้าร่มที่ใส่สบาย   
 
“หยิบไปอ่านได้เลยนะ ผมอ่านหลายรอบแล้ว” 
 
ขุนเขาพยักหน้าหงึกหงักตอบรับไปแบบนั้นโดยที่ในใจไม่คิดทำแม้แต่น้อย ให้เขาอ่านหนังสือเนี่ยนะ ? รอให้โลกแตกก่อนเถอะ 
 
แต่ชั้นหนังสือของฟากฟ้ากลับมีความน่าสนใจไม่น้อย หนังสือทุกเล่มถูกห่อด้วยปกพลาสติกอย่างดี เก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย เรียงตามประเภท ชื่อคนแต่ง คล้ายกับห้องสมุดทั่วไป ท่าทางเป็นคนรักหนังสือเอามาก ๆ ถึงได้ดูแลชนิดที่ว่าไม่เห็นแม้แต่ฝุ่นจับ   
 
ไม่นานนักเสียงเคาะประตูห้องพลันดังขึ้น ฟากฟ้าหันมามองขุนเขาเป็นสัญญาณเตือน เด็กหนุ่มไม่รู้จะตอบอย่างไรจึงพยักหน้าส่งกลับไป เด็กชายจึงเดินไปทางประตูแล้วเปิดออก 
 
เผยให้เห็นร่างของหญิงสาว ... ไม่ผิดหรอก หญิงสาวในชุดวันพีซสีขาว 
 
เธอดูเหมือนหลุดมาจากเทพนิยายกรีกสมัยโบราณ หากมีช่อมะกอกคงเข้ากัน ผิวขาวเปล่งปลั่งราวกับไขมุก ดวงตากลมโตเหมือนลูกชายของเธอ และริมฝีปากที่อวบอิ่ม 
 
เหมือนถูกมนตร์สะกด ขุนเขามองเธอและฟากฟ้าสลับกัน   
 
“เหมือนกันมากขนาดนั้นเลยเหรอจ๊ะ” เธอทักเด็กหนุ่ม 
 
น้ำเสียงก้องกังวานราวกับนกร้องเพลงในป่า ชวนน่าหลงใหล 
 
เสน่ห์ของเธอมากเหลือจนฟากฟ้าเทียบไม่ติด   
 
“ม..เหมือนครับ” ขุนเขาเผลอพูดสุภาพออกไปโดยไม่ตั้งใจ 
 
กว่าจะรู้สึกตัวผ่านไปเกือบหลายวินาที เด็กหนุ่มจึงยกมือไหว้ 
 
เธอรับไหว้โดยการพนมมือระดับอก 
 
“เพราะฟ้าไม่เคยพาเพื่อนมาเที่ยวที่บ้าน แม่เลยตื่นเต้นรีบโผล่หน้ามาขัดจังหวะเพราะอยากเห็นเพื่อนของฟ้าเขาน่ะ อย่าถือสาแม่เลยนะจ๊ะ” 
 
ความเป็นกันเองทำให้ขุนเขาค่อยผ่อนคลาย รอยยิ้มที่ดูเหมือนเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวทำให้รู้สึกว่าเธอเป็นเหมือนเพื่อนมากกว่าแม่ของเพื่อน 
 
“ครับ รบกวนด้วยนะครับ” 
 
“แม่ต่างหากที่รบกวน ชื่ออะไรนะลูก” 
 
“ขุนครับ ขุนเขา” 
 
“แม่ของฝากฟ้าด้วยนะจ๊ะ เด็กคนนี้อ่านหนังสือมากเกินไปจนทำให้แม่กังวลว่าจะหาเพื่อนไม่ได้” 
 
ขุนเขาหันไปมองเจ้าของชื่อที่ยิ้มแห้งให้มารดา เรื่องที่โดนกลั่นแกล้งในโรงเรียนคงไม่คิดแม้แต่จะบอกให้ครอบครัวฟังเลยงั้นสินะ   
 
ขุนเขาโดนแม่ของฟากฟ้าชวนคุยอีกสักพักก่อนขอตัวกลับไป ยอมรับว่าเด็กหนุ่มไม่มักคุ้นการคุยกับผู้ใหญ่เท่าใดนัก แต่กับแม่ของฟากฟ้าเขาลดอาการเกร็งลงเยอะ เพราะรอยยิ้มที่ดูผ่อนคลาย และท่าทางที่ดูภาคภูมิใจของฟากฟ้าประหนึ่งอวดมารดาว่าตนมีเพื่อนได้แล้ว 
 
หลังจากแม่ของฟากฟ้ากลับไป ขุนเขาหันมามองเจ้าของห้องด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ 
 
ความปริ่มเปรมหายวับไปกับตา เมื่อเด็กหนุ่มเอ่ยว่า 
 
“ไปเอาคอนแทคเลนส์มาสิ” 
 
ฟากฟ้าตัวนิ่งค้างไปสักพักก่อนจะละล่ำละลักถามกลับ 
 
“ตอนนี้เลยเหรอ” 
 
“ตอนนี้สิ ฉันมาเพื่อสิ่งนั้น หรือว่านายลืมไปแล้ว” 
 
ฟากฟ้าส่ายศีรษะหลุกหลิก 
 
เมื่อทนกับสายตากดดันไม่ไหวเด็กชายจึงหนีออกจากห้องหายไปสักพักกลับมาพร้อมตลับใส่คอนแทคเลนส์และน้ำยาหนึ่งขวดตั้งไว้บนโต๊ะข้างโน๊ตบุ๊กส์   
 
ฟากฟ้าสูดลมหายใจเข้าลึกเตรียมพร้อมรับมือกับความกลัว 
 
ถ้าเป็นขุนเขาคงลดความกังวลได้เยอะ ... ละมั้ง ? 
 
ขุนเขานั่งบนเตียงพลางตบพื้นข้าง ๆ ให้อีกฝ่ายนั่งลงด้วย   
 
ฟากฟ้าทำตามอย่างว่าง่าย ตั้งแต่นาทีก่อนแล้วที่เด็กชายพยายามถ่างตาให้กว้างขึ้น ดูแล้วจะบอกว่าน่าขันก็น่าขัน จะน่าเอ็นดูก็น่าเอ็นดู   
 
อากัปกริยาที่แสดงออกอย่างง่ายดายทำให้ขุนเขาแทบไม่ต้องเดาเลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ 
 
เด็กหนุ่มเปิดกล่องคอนแทคเลนส์ที่แช่น้ำยาไว้ คงลองตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่สำเร็จ   
 
ฟากฟ้ามองบนเพดานและถ่างตากว้างค้างให้มากที่สุด จนขุนเขาอดเตือนไม่ได้ 
 
“ตาแห้งขึ้นมามันจะเจ็บนะ” 
 
รีบหลับแทบไม่ทัน   
 
พอเป็นแบบนี้เข้าขุนเขาจึงหลุดขำ   
 
ฟากฟ้าแก้มป่องขึ้นทันที 
 
“ขุนแกล้งเหรอ” 
 
เมื่อโดนจับได้เด็กหนุ่มจึงรีบส่ายศีรษะเป็นเชิงปฏิเสธ 
 
“คิดมากไปแล้ว” 
 
“จริงเหรอ ?” 
 
“จริงสิ” 
 
ฟากฟ้าทำจมูกฟุดฟิดรอบ ๆ ตัวขุนเขา 
 
“กลิ่นไม่ดีเลย”   
 
“เฮ้ ฉันอาบน้ำทุกวันนะ” 
 
“เจตนาต่างหาก” เด็กชายบอก 
 
ไม่คิดว่ามีมุมกวนแบบนี้กับเขาด้วย ภาพลักษณ์ของฟากฟ้าที่ทุกคนรู้จักคือเด็กขี้แย ขี้ขลาด ไอ้เล่นเป็นนักสืบแล้วจ้องจับผิดแบบนี้แม้แต่ขุนเขายังเพิ่งเคยเห็น   
 
หากเปรียบคนเหมือนกระจกที่มีหลายด้าน นี่คงเป็นอีกภาพที่เขายังไม่เคยสัมผัส 
 
จะว่ายังไงดีล่ะ ..   
 
ละสายตาไม่ได้เลย 
 
สุดท้ายเป็นขุนเขาเสียเองที่ต้องยอมแพ้ 
 
“ก็ได้ ๆ เอาเป็นว่าเรามาลองใส่ดูเลยแล้วกัน นายนั่งนิ่ง ๆ ล่ะ ฉันจะทำให้” 
 
“ขุนล้างมือ” 
 
“เอ๋?” 
 
“ล้างมือก่อน” 
 
ฟากฟ้าชี้ไปยังมุมห้องที่มีแอลกอฮอล์สำหรับล้างมืออยู่ 
 
ความสะอาดมาก่อนอย่างนั้นสินะ อันที่จริงเขาควรล้างมือก่อนหยิบจับคอนแทคเลนส์นั่นแหละ ยิ่งเป็นสายตาของอีกฝ่ายแล้วเขาคงต้องทะนุถนอมเพราะหากเป็นอะไรขึ้นมาคงไม่มีปัญญาใช้คืนให้ 
 
เด็กหนุ่มทำตามอย่างว่าง่ายก่อนกลับมานั่งที่ 
 
“จะเริ่มได้หรือยัง” รู้สึกเสียเวลามามากแล้ว 
 
เด็กชายพยักหน้าหงึกหงักพร้อมสูดลมหายใจเข้าลึก 
 
คอนแทคเลนส์สายตาสีใสคู่ที่ซื้อไว้ใส่ไปโรงเรียนทุกวัน   
 
“ลืมตาขึ้นสิ” ขุนเขาสั่ง 
 
ฟากฟ้าลืมตาขึ้นจ้องมองเด็กหนุ่มเต็มตา   
 
พวกเขาไม่ได้คำนึงเลยว่าใบหน้าใกล้กันแค่ไหน 
 
ขุนเขาหยิบคอนแทคเลนส์ด้วยนิ้วชี้แล้วบอกว่า 
 
“ห้ามจ้องนิ้วของฉัน ใช้มองไปจุดอื่น มองไกลได้ยิ่งดี แต่อย่ากลอกตาไปมาล่ะ” 
 
เกิดความเงียบรอบตัว ขุนเขาชี้นิ้งข้างที่ว่างแยกเปลือกตาออกจากกันอย่างเบามือ ยิ่งเงียบนานใจเด็กชายยิ่งระทึก เขาบีบมือตัวเองแน่น ร่างเริ่มเกร็งขึ้นเรื่อย ๆ พยายามไม่มองไปทางขุนเขา 
 
ส่วนทางขุนเขาเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน ดวงตาของฟากฟ้าเริ่มเอ่อขึ้นด้วยน้ำตา สงสัยไม่ต้องลำบากพึ่งน้ำตาเทียมละมั้ง   
 
ร่างกายของฟากฟ้าเกร็งขึ้นเรื่อย ๆ   
 
และวินาทีนั้นเองที่.. 
 
“เสร็จแล้ว” 
 
ขุนเขาบอกเสียงเบา   
 
เด็กชายหันไปมองต้นเสียงตาปริบ 
 
“ทีนี้ก็อีกข้าง ทำเหมือนกัน” 
 
 ทว่าครั้งที่สองเร็วกว่าครั้งแรกมาก ความกลัวของเด็กชายค่อยหายไป เพราะมันไม่รู้สึกเจ็บ ไม่รู้สึกอะไร มีเพียงแค่ความแปลกใหม่อยู่ในดวงตาเท่านั้น 
 
มองเห็นชัดขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแว่นตา   
 
และแน่นอนว่าตอนนี้ใบหน้าของขุนเขาเข้ามาใกล้เหลือเกิน 
 
เห็นชัดชนิดที่ว่าอีกฝ่ายกำลังจะมีสิวตรงหน้าผากหนึ่งเม็ดด้วย 
 
"หลับตาค้างไว้สักห้าวินาที" 
 
"อื้ม" 
 
ฟากฟ้าหลับตาลงอย่างว่าง่าย ใบหน้าเชิดขึ้นริมฝีปากอยู่ในระดับพอดี   
 
ขุนเขาเผลอจ้องมองมันด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด 
 
เด็กหนุ่มเบาโหวงในท้อง สภาพตอนนี้คือใบหน้าทั้งคู่ใกล้ชิดกัน อีกฝ่ายพริ้มตาหลับนิ่ง มุมปากอมยิ้มอยู่ในทีเหมือนกำลังมีความคิดสนุกซุกซน 
 
ตรงข้ามกับขุนเขาที่รู้สึกว่าเลือดลมสูบฉีดเร็วขึ้นทุกขณะ 
 
ท่าทางของฟากฟ้าเวลานี้ในสายตาเด็กหนุ่มแล้วมันช่าง ... 
 
ดูเชิญชวนอย่างบอกไม่ถูก   
 
จนอดไม่ได้ที่จะยื่นหน้าเข้าไปใกล้   
 
ใกล้อีกนิด   
 
อีกนิด .... 
 
ลมหายใจของเด็กชายพ่นมาอย่างแผ่วเบากระทบกับจมูก ฉับพลันนั้นขุนเขาขนลุกซู่ไปทั่วร่างราวกับได้สติ เขาดีดเด้งตัวนั่งตรงกะทันหัน กะพริบตาถี่ ๆ เหมือนทบทวนทว่าตนกำลังทำอะไรอยู่   
 
คล้ายต้องมนตร์สะกดบางอย่างจนเผลอคิดเรื่องแย่ ๆ ไปเสียแล้ว ! 
 
ฟากฟ้าค่อยเผยอเปลือกตาขึ้นทีละน้อย เมื่อเห็นกริยาขุนเขาแล้วพลันขมวดคิ้ว 
 
"ขุน ?" 
 
ทว่าอีกฝ่ายกลับเด้งตัวยืนเหนือศีรษะประหนึ่งคำพูดเขามีประจุไฟฟ้าซุกซ่อนอยู่ เด็กหนุ่มยืนหันหลังให้ไม่ยอมสบตา 
 
แม้การใส่คอนแทคเลนส์จะเป็นเรื่องแปลกใหม่ แต่อาการของขุนเขากลับน่าสงสัยยิ่งกว่า 
 
"เอ่อ .. ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ !" ว่าแบบนั้นแล้วชิ่งเดินออกจากห้องโดยไม่ถามทางสักคำ 
 
ฟากฟ้าได้แต่นั่งงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในไม่กี่วินาทีที่เขาหลับตากันแน่ ? 
 
"ของว่างไม่ถูกปากหรือเปล่านะ" 
 
เด็กชายไม่สามารถทำความเข้าใจได้แม้แต่นิดเดียว 
 
 

TO BE CONTINUED.......

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Misakiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ nin@

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ขุนเขาคิดอะไรอยู่น๊าาาา  :hao6: ทำไมต้องขอตัวไปห้องน้ำด้วย ทานของว่างแล้วปวดหนักเหรอ...ฟากฟ้าคิด   :mew2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หลงเสน่ห์แล้วหรือ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
จะโดนแยกเอานะขุน เร็วๆ ฟ้าน่ารักขนาดนี้ :hao7:

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ขุนเขามันแก่แดดจริงๆ ได้พี่มาเยอะ?ถถถถ

ออฟไลน์ AiiSoul

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เรื่องนี้น่ารักมากกกกกกกกกก
อยากอ่านต่อมากกกกกกกกก
ฟ้านี่ใสสุดๆ ขุนก็ดูยังไม่รู้ตัวเอง

ออฟไลน์ mamedaz-s

  • Master Luck F
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คาบที่ 10 – ชื่อ


รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมา

วินาทีที่เดินเข้าโรงเรียน ทุกคนต่างพุ่งเป้ามาที่เขาโดยไม่ได้นัดหมาย ฟากฟ้ามองรอบข้างอย่างหวาดระแวง หรือทุกคนคิดจะแกล้งเขากันนะ ?

เด็กชายก้มหน้ารีบจ้ำอ้าวเดินขึ้นห้องเรียนอย่างรวดเร็ว ยิ่งเข้าไปข้างในมากเท่าไหร่ยิ่งได้ยินเสียงซุบซิบมากขึ้นเท่านั้น

มันแปลกมากเลยหรือ ?

กับการที่เขาใส่คอนแทคเลนส์มาโรงเรียน

หรือว่ามันเป็นเพียงแค่อาการในทางการแพทย์ที่บอกว่าเมื่อคนเราทำอะไรผิดแปลกไปสักอย่างแล้วจะรู้สึกว่าทุกคนมองมาทั้งที่อาจจะไม่มีคนสนใจเลยก็ได้ เป็นความหวาดระแวงต่อสายตาคนรอบข้าง

พอมาถึงห้องเรียนเขารู้สึกโล่งใจเล็กน้อย

แต่เพียงไม่นานเท่านั้น เมื่อสายตาของเด็กชายเหลือบไปมองที่โต๊ะของเธอคนนั้นโดยไม่รู้ตัว

สายตาทั้งคู่ประสานกัน

เธอนั่งรอเพื่อนในห้องอยู่คนเดียว ในขณะที่คนอื่นกำลังจับกลุ่มคุย ยอมรับว่ารู้สึกมีสายตาที่มองมาบ้าง แต่ไม่ถึงกับตอนอยู่ข้างนอก

เหมือนเวลาทั้งโลกหยุดลง ดวงตากลมโตเปล่งประกายของเธอส่งตรงมายังเขาโดยไม่ปิดบัง

ใบหน้าน่ารัก จิ้มลิ้ม เหมือตุ๊กตาบลาย ไม่ว่าจะน้ำเสียง ท่วงท่าของเธอนั้นช่างดูน่าหลงใหล

ฟากฟ้าหลบตาเธอทันที

ไม่ไหวแล้ว ขืนมองไปมากกว่านี้เขาต้องหัวใจวายแน่ ๆ

ในอกเต้นโครมครามราวกับกลองสะบัดชัย หากไม่สงบสติอารมณ์ตอนนี้ต้องเป็นปัญหา

เหมือนรอบตัวเงียบลงทันใด ฟากฟ้ายังกังวลว่าสายตาของเธอมองเลยเขาไปแล้วหรือยัง การที่หลบตาแบบนี้จะถือว่าเสียมารยาทหรือเปล่านะ ความขลาดเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่าง ฟากฟ้าไม่รู้จะทำเช่นไร

“ไง”

เสียงหนึ่งดังขึ้นช่วยชีวิต เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับ..

“ขุน.. ทำไงดี”

“เฮ้ !” วินาทีที่เห็นหน้าของฟากฟ้า ขุนเขาถึงกับเหวอ “เป็นอะไรของนายน่ะ !?”

ใบหน้าเหยเกเหมือนกำลังจะร้องไห้รอมร่อ

“ผม...ผม....”

ฟากฟ้าว่าแค่นั้นก่อนส่ายศีรษะ

แล้วเงียบไปทั้งอย่างนั้น

ขุนเขามองรอบตัวเพื่อหาสาเหตุ แล้วพบกับเธอคนนั้นที่ยังคงจ้องมองมา

สายตาของเธอไม่มองที่ขุนเขา จับจ้องเพียงแต่แผ่นหลังคนขี้แย สีหน้าของเธอไม่ได้บอกว่ากำลังรู้สึกอย่างไร ทว่าดวงตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจเล็กน้อย

เพราะเห็นฟากฟ้าถอดแว่นบ่อยจึงไม่ทันสังเกต

ใช่ วันนี้อีกฝ่ายใส่คอนแทคเลนส์มานี่นา

สำหรับเด็กเนิร์ดการที่ทิ้งแว่นแล้วหันมาเปลี่ยนอุปกรณ์การมองเห็นแบบนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ อย่างน้อยก็สร้างความประหลาดใจให้เธอคนนั้นได้แล้ว

ขุนเขาก้มมองฟากฟ้าตัวสั่นงันงกพลางยิ้มออกมา

แล้วบอกว่า

“บ้าเอ้ย อย่ามัวแต่กลัว ถอดแว่นแล้วเลิกก้มหน้าสิ”

เขาว่าพลางเอื้อมมือวางไว้บนศีรษะอีกฝ่ายแล้วกดลงเบา ๆ

ฟากฟ้าพยักหน้าหงึกหงักให้กับคำพูดนั้น

ทว่ามันกลับทำใจลำบากที่จะเค้นความกล้าออกมา

“เธอยังมองนายอยู่ หันไปยิ้มให้สิ”

ฟากฟ้าส่ายศีรษะอีกรอบเป็นเชิงปฏิเสธ

“ถ้าไม่ทำไม่ถือว่าผ่านบททดสอบนะ”

คำขู่มักใช้ได้ผลกับเด็กชาย ฟากฟ้ากำหมัดแน่นสูดลมหายใจเข้าลึก รวบรวมสติแล้วมองหน้าขุนเขาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

เด็กหนุ่มพยักหน้าให้กำลังใจ ฟากฟ้ากะพริบตาสองสามครั้งก่อนจะหันกลับไปหาเธอคนนั้นอีกครั้ง

ริมฝีปากเด็กชายคลี่ยิ้มอย่างเบาบาง ดวงตาเธอคนนั้นเบิกกว้างขึ้นมากกว่าเดิม ท่ามกลางความเงียบอีกไม่กี่วินาทีถัดมาเธอจึงลดการ์ดลงแล้วส่งยิ้มกลับให้

ฟากฟ้านิ่งอึ้ง ตกตะลึงตึงตึง

เอื้อมมือดึงชายเสื้อขุนอย่างเหม่อลอย

“ผมฝันไปหรือเปล่า”

ขุนเขาขำในลำคอ ไร้เดียงสาเสียจริง

รอยยิ้มของฟากฟ้าเหมือนพยายามจะยิ้มออกไป เลยดูเหมือนคนคลี่ปากยิ้มแบบงกเงิ่น มองอีกมุมก็ดูน่ารักอยู่หรอก แต่ขุนเขาไม่คิดว่าจะน่ารักเท่ายามปกติที่เจ้าตัวยิ้มอย่างจริงใจ

ไม่อยากเห็นรอยยิ้มอีกแล้วก็จริง แต่ในใจลึก ๆ กลับไม่ต้องการให้ใครเห็น

เมื่อฟากฟ้าดีใจเขาจึงพลอยรู้สึกยินดีไปด้วย อากัปกริยาเด็กน้อยนั้นช่างดูบริสุทธิ์

ขุนเขาขยี้หัวเด็กชายเพื่อเรียกสติกลับคืน

“ทำได้ดีมาก”

เพียงแค่เปลี่ยนสิ่งเล็ก ๆ กลับทำให้เกิดผลที่ยิ่งใหญ่เกินความคาดหมาย เธอคนนั้นถูกหันเหความสนใจไปยังเพื่อนสนิทที่เพิ่งมาถึงแล้ว ระยะห่างของเธอกับฟากฟ้าจึงถูกดีดกลับมาเท่าเดิม

นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ขุนเขายิ้มอย่างพอใจ

โดยไม่มองเห็นว่าข้างในลึก ๆ ตัวเองกลับรู้สึกเงียบเหงาอย่างประหลาด






เสื้อผ้าของฟากฟ้าจะแก้ไซส์เสร็จในวันศุกร์ พลอยโทรบอกให้ขุนเขาพาอีกคนไปรับด้วยพร้อมใบเสร็จ

พอขุนเขาบอกไปเช่นนั้นฟากฟ้าพลันเอ่ยออกมาว่า


“จะไปเดทกันอีกเหรอ”

หน้าตาไม่ได้ดูเขินอายอะไรสักนิด ซ้ำยังเป็นความสงสัยล้วน ๆ ไม่มีเจตนาอื่นเจือปน

ขุนเขาแทบปิดปากอีกฝ่ายไม่ทัน เพราะที่นี่คือโรงอาหาร ใครได้ยินคงตกใจตายชัก

ผู้ชายสองคนเดทด้วยกันมันไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นี่

“ไม่ใช่เดทแล้ว แค่ไปเอาของ”

“อ..อื้ม ไปกับขุนเหรอ”

“ใช่น่ะสิ ฉันเป็นคนรับผิดชอบนายนะ”

“นี่ขุน”

“ว่า ?”

“ผมเป็นเพื่อนของขุนหรือเปล่า”

จู่ ๆ ยิงคำถามกลิ่นดราม่ามาให้ซะอย่างนั้น

ขุนเขาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

“พูดอะไรของนายน่ะ”

“นาย ๆๆ อยู่นั่นแหละ ...”

“หา ?”

ฟากฟ้าบ่นอุบเสียงอู้อี้

ฟังไม่ออกเลยสักนิด

พอยื่นหน้าไปเงี่ยหูฟังเจ้าคนตัวเล็กกลับเบือนหน้าหนีไปดื้อ ๆ

“อ้าวเฮ้ ..”

“...ชื่อ”

“หืม?”

“ชื่อ..” คนขี้แยเอ่ยในที่สุด “ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา ขุนยังไม่เรียกชื่อของผมเลย”

ประโยคนั้นบอกตามตรงขุนเขาทำหน้าไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าจะมีความรู้สึกยังไงดี บอกว่าอึ้งได้ไหม คงใช่ แต่เหนือกว่านั้นก็มีความน่าขันอยู่ด้วย

“อย่าบอกนะว่าคิดมากกับเรื่องนี้มาตลอด?”

ฟากฟ้าไม่ตอบ ทำได้เพียงแค่พยักหน้า

สังเกตตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?

ขุนเขาถอนหายใจให้ได้ยินก่อนเดินเข้าไปใกล้แล้ววางแขนไว้บนไหล่ของอีกฝ่าย

ฟากฟ้าหันมองอากัปกริยาเหล่านั้นด้วยความงุนงง

“ปกติเพื่อนกันเขาก็แทบไม่เรียกชื่ออยู่แล้ว จะว่ายังไงดีล่ะ เรียกชื่อมันฟังดูหน่อมแน้มไปหน่อยปะ แล้วถ้าให้ปกติจริง ๆ คงไม่ใช่ฉัน หรือนาย ด้วยซ้ำ”

ฟากฟ้านึกถึงคำพูดที่เพื่อนในห้องคุยกัน หากคิดตามแล้วถือว่าคำพูดระหว่างเขากับขุนเขาค่อนข้างสุภาพทีเดียว

เด็กชายขมวดคิ้ว โดยไม่รู้จะทำเช่นไร

อันที่จริงเรื่องนี้เขาคิดมาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้วว่าขุนเขาไม่เคยเรียกชื่อของตนออกจากปากเลยสักครั้ง ตรงข้ามกับเขาที่มักเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่อเสมอไป มันทำให้นึกน้อยใจแบบแปลก ๆ พยายามเรียกบ่อยเพื่อให้รู้สึกตัวแต่เหมือนจะไม่รับรู้ มันคงเป็นดังที่ขุนเขาว่า ให้เรียกด้วยชื่อกันแบบนั้นมันดูไม่ค่อยโอเคจริง

เมื่อเห็นสีหน้าของคนขี้แยขุนเขาจึงถอนหายใจคำรบสอง

“งั้นเอาอย่างนี้” เขาบอก

ฟากฟ้าเลิกคิ้วเล็กน้อยอย่างสงสัย

“เอาหูมา” ไม่พูดเปล่ายังกระดิกนิ้วเรียก

เด็กชายยื่นหูเข้าไปใกล้

ขุนเขากระซิบได้ยิน

“ฟากฟ้า”

เสียงนั้นถูกส่งผ่านมายังกระดูก ค้อน ทั่ง โกณ แปรสารให้สมองได้รับรู้ ลมหายใจอีกฝ่ายพ่นใส่ใบหูอย่างแผ่วเบา

“เป็นไง พอใจหรือยัง”

ทว่าเด็กชายกลับขนลุกซู่ เขายกมือปิดหูแทบจะในทันที หันไปมองขุนเขาด้วยสายตาตื่นตะลึง ส่วนเจ้าของเสียงกลับเอียงคอมองเด็กชายด้วยความสงสัย

“เป็นอะ...”

แต่ไม่ยอมให้พูดต่อจนจบ ฟากฟ้าวิ่งหนีออกจากจุดนั้นไปอย่างรวดเร็ว

“อ้าวเฮ้ !”




กว่าจะทำใจให้สงบแล้วไปรับเสื้อผ้าจากร้านพลอยได้ ฟากฟ้าต้องทำใจอยู่นานสองนาน และคอยบอกตัวเองว่าตนเพียงแค่บ้าจี้เท่านั้น แต่ก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมตอนที่ขุนเขากระซิบข้างหูครั้งแรกนั้นถึงยังไม่เป็นอะไร

“ไม่สบายแน่เรา” ปากบ่นแบบนั้นทั้งที่รู้เหตุผลอยู่เต็มอก

ชื่อของตัวเองหลุดออกมาจากปากอีกฝ่าย ด้วยน้ำเสียงของอีกฝ่าย และลมหายใจของอีกฝ่ายยังไงล่ะ

แม้จะมีคนเรียกมาตลอดชีวิตแล้วแต่เขากลับไม่คุ้นชิน ทั้งที่ท้วงให้ขุนเขาเรียกแต่กลายเป็นว่าตัวเองยอมรับไม่ไหว

ท่าจะเป็นเอามาก

และพอเป็นแบบนี้พลอยที่เห็นท่าทางงก ๆ เงิ่น ๆ ของคนทั้งคู่จึงทักด้วยน้ำเสียงสงสัยว่า

“ทะเลาะกันเหรอ”

เด็กทั้งสองคนตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน

“เปล่าครับ/สักหน่อย”

ขุนเขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ฟากฟ้าถึงหนีตนไปอย่างนั้นจึงเกิดอาการเสียเซลฟ์เล็กน้อย คอยคิดทบทวนตลอดบ่ายว่าไปทำอะไรให้อีกฝ่ายโมโหหรือไม่พอใจหรือเปล่า ส่วนฟากฟ้าเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงมองหน้าขุนเขาไม่ติด ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย

และท่าทางแข็งเกร็งของเด็กทั้งคู่ทำให้พลอยมองออกเพียงฉับพลัน

เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนแก่พวกเขา

“คุยกันสิ”

“เอ๋ ?”

“ถ้าไม่คุยกันก็ไม่รู้ไม่ใช่เหรอว่าอีกฝ่ายไม่พอใจอะไร เพราะฉะนั้นคุยกันสิ คุยให้รู้ว่าเรื่องไหนเข้าใจผิดกัน”

คำแนะนำที่แสนธรรมดา แต่มันทำยากเหลือเกิน ฟากฟ้าเหลือบมองขุนเขาเล็กน้อย แม้จะเป็นเพื่อน แต่ขุนเขาในสายตาของฟากฟ้ายังดูน่ากลัวอยู่ ไม่อยากทำอะไรให้ขัดใจ

ขุนเขาเหล่มองฟากฟ้าอย่างลังเล

เอายังไงดี ?

ควรถามออกไปเลยไหมว่าเพราะอะไร

แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยปากฟากฟ้าพลันชิงเอ่ยออกมาเสียก่อน

“ขอโทษนะ”

“เอ๊ะ?”

“ผมบ้าจี้น่ะ พอขุนทำแบบนั้นเลยไปกันใหญ่ ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจหนีเลยแท้ ๆ ขอโทษจริง ๆ”

คำขอโทษมากมายพรั่งพรูจากปาก สีหน้าซีดลงไปเท่าตัว เหมือนกำลังจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

ไม่อยากเห็นอะไรแบบนี้เลยให้ตาย

ขุนเขาเอื้อมมือของตนไว้บนศีรษะอีกฝ่ายแล้วโยกไปมาเบา ๆ

“คิดมากอีกแล้วนะ” เขาว่า

ไม่เคยโกรธอยู่แล้ว ไม่เคยไม่พอใจด้วยซ้ำ

ฟากฟ้าค่อยอมยิ้มออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะโยกหัวไปตามแรงของอีกฝ่าย

พลอยหรี่ตามองทั้งคู่อย่างพิจารณา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ไหน ๆ ก็มาแล้ว ลองเปลี่ยนชุดกันเลยดีไหม”

ขุนเขาไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้ไปเขาจะมองฟากฟ้าด้วยสายตาที่น่าตกตะลึงกว่าเดิม




TO BE CONTINUED.......

ออฟไลน์ nin@

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เด็กน้อยยังสับสนและไม่เข้าใจตัวเอง น่ารักจัง 555+  :m4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง สินะๆ เร็วขุน เราบอกแล้วว่าให้รีบๆจอง :hao7:

ออฟไลน์ isuloveU Soly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เอ็นดูฟากฟ้า น่ารักจุงงงงง  :-[ o13

ออฟไลน์ nin@

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
 :music: เข้ามาดันให้ในวันสงกรานต์ค่า 

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
เอาใจช่วยฟ้านะ

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4

ออฟไลน์ nin@

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
คิดถึงขุนเขากับฟากฟ้าค่ะ อย่าลืมมาต่อน๊าาาา....

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ Misakiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รอตอนต่อไปนะคะ..... :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด