❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]  (อ่าน 426855 ครั้ง)

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ยิมพร้อมไฟท์เพื่อหมอปาย อุปสรรคใหญ่แค่ไหนมาเล้ยยยยยย อืมมมใหญ่สุดแล้วละเนี้ย #หมอปายหมายิม สู้ๆ ถึงยากแต่ถ้ารักมั่นคงแบบนี้ เราเชื่อใจ ยิมปายเอาอยู่~~ //เกลียดชะนีไอจังว่ะ คนแบบนี้จริงๆนะหรอที่จะให้มาอยู่ในตระกูลนี้ เห๊อะ ดูลดค่าตระกูลไปเยอะเลย อย่าให้มันเยอะไปนะคะคุณพ่อ ดูผู้หญิงข้างกายคุณก่อนไหม ถ้าไม่มีผู้หญิงคนนี้จะไม่อะไรกับคุณพ่อเลยนะ คือจะขัดขวางยากยังไงก็พอฟัง แต่นี้แบบ ดูสิผู้หญิงข้างกายตัวเอง นิสัย! ดูสมเพช!! หึ!! //รอตอนต่อไปเลยค่ะ จะทำอะไรยังไง เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ แต่เขินจังยิ้มแก้มปริตอนแรกก่อนถูกจับได้อ่ะ 555 >///<

ออฟไลน์ Ra poo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
งื้อ ยิมปายสู้ๆน้า :katai1:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
คุณพ่อช่วยพูดกับเพื่อนหน่อยค่ะ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ทำให้พ่อยิมรับให้ได้นะครับ

เป็นกำลังใจให้,,,

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เราว่าเราเจออัศวินแล้วหล่ะ คุณพ่อยิมนี่แหละ คึคึ
แต่ยิมก็ต้องสู้ด้วยนะ

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
คุณพ่อช่วยเป็นกองหนุนให้ลูกชายที

ไหนๆก็เป็นเพื่อนกันมาก่อนละ :call:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ GOLDMIND

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อู้วๆๆๆ ถึงจะเศร้าแต่ก็หว้านหวาน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คำว่ารักยิ่งใหญ่เสมอ ยิมกะปายต้องผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดี  o13

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ๊ากกกก จะตายกับประโยคสุดท้ายของหมอ หมอปาย ยิม สู้ๆนะ ผ่านมันไปให้ได้ ส่วนอีไอ :z6:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อยากให้พ่อหมอปายรู้จริงๆ ว่าคนที่เป็นเมียอยู่ตอนนี้เคยเป็นแฟนเก่าลูกตัวเองและคิดจะเคลมหมอปายอยู่จริง
ถ้ารู้คงจะสนุกพิลึกทีเดียว

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อ่านตั้งแต่ต้นยันล่าสุดรวดเดียว ขุ่นแม่! ลูกพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไงงงงง? #งานดี อะไรเบอร์นั้น กล้ามชนกล้าม (แม้หลังๆหมอจะลดความห้าว อิยิมจะเริ่มมุ้งมิ้งผิดสถานะขึ้น ก็ตามเหอะ) หวานปนดราม่า แทรกความอบอุ่น มีความรักเอาใจใส่ ดูแลกัน กุมมือกันตลอดเวย์แบบนี้ ชอบมากกกกก  :mew1:

หมอปาย มีศักดินาเป็นถึงคุณชาย คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณพ่อจะยอมรับ แต่ปมหลังเรื่องครอบครัว ความเข้าใจผิดต่อกันน่าจะค่อยๆเคลียร์ เพราะหมอเองก็เริ่มเปิดใจ ปล่อยวางมากขึ้น ยอมรับน้องปอ รู้สึกดีที่คุณพ่อพาน้องปอไปกราบแม่ใหญ่ พอหมอปายซอฟลง คุณพ่อคงเริ่มอ่อนลงบ้าง แถมยังมีกองหนุนทัพใหญ่ครอบครัวยิมคอยซัพพอร์ตอยู่ ครอบครัวท่านฑูต แถมเป็นเพื่อนเก่าแก่เรียนด้วยกันมาเชียวนะ  ความรักของยิมปายคงไม่ถึงกับริบหรี่นัก

ชอบความอบอุ่นในตัวยิม ยิมได้รับความรักมาจากครอบครัวเต็มเปี่ยม ทำให้ยิมพร้อมจะเผื่อแผ่ความรัก ความเอาใจใส่ให้กับคนรอบข้างเสมอ ไม่ใช่แค่คนรักอย่างหมอปาย แต่กับเพื่อนอย่างเนม อย่างโอ๊ค ก็ได้รับความอบอุ่น จริงใจจากยิมไปเต็มๆเช่นกัน. รักยิม  :L1:  แต่ #ทีมหมอปาย #FC คนซึนปากหนัก  :hao3:  :laugh:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
พี่หมอกับยิมสู้ๆน้ะ อุปสรรคมีให้ฝ่าฟัน o13

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ท่ามกลางความขมยังคงมีความหวานอยู่...

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
สู้ๆนะทั้งสองคนต้องผ่านมันไปได้

ออฟไลน์ Arzumi

  • #เจ้าหนูจาไม
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ท่ามกลางมาม่า มีขนมหวานคั่นกลาง สู้ๆนะพี่หมอหนูยิม  :hao5:

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
กินมาม่าคู่น้ำแดง. วุ้ยยยค่อยมีกำลังใจ

 :heaven   :heaven   :heaven   :heaven

...

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
รอๆๆๆไ น้องปอน่ารักมากค่ะ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
มาเม้นให้กำลังใจ
แปะไว้ก่อน
ระงับมาม่า เดี๋ยวเราไม่มีกำลังใจทำโปรเจค
ใกล้จะส่งแล้ว ถ้าส่งแล้ว
จะแวะมาอ่านนะ
 :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ dilokrittisak

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ skysky

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
ครอบครัวยิมอบอุ่นและน่ารักจริงๆ พีหมอของเราปายของเราก็บอกความรู้สึกกับยิมตรงๆแล้ว
ชอบมากเลย ที่เถียงเรื่องคิดถึงกัน 555 น่าร้ากกก
ส่งกำลังใจ รออ่านตอนต่อไปค่าาา ^^/

ออฟไลน์ dilokrittisak

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11
คุณพ่อรู้จักกันด้วย

ออฟไลน์ chuagporz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อู้หูว~ หมอปายบอกรักแล้วอ้ะ!!!!!!!! เขินนนนนนน  :-[
สู้นะปายยิม อย่ายอมแพ้ สักวันพ่อจะต้องเข้าใจ!!!

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
สู้ๆนะยิมปาย ขอให้พ่อหมอปายยอมรับและเข้าใจนะ

ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17




        หลงที่ 24 : ความจริง


        [ยิม]




       “ สรุปคือมึงกับพี่หมอปายคบกัน”

       “ อืม”

       “ เรียกว่าแฟนได้มั้ย”

       “ อืม”

      ผมหรี่ตามองไอ้โอ๊คที่พยายามกลั้นหัวเราะและเนมที่ยิ้มกริ่มพวกมันสองตัวแสดงออกว่าตื่นเต้นกับข่าวที่ได้ยินมาไม่น้อยจนถึงขนาดผลัดกันซักถามจนผมตอบคำถามแทบไม่ทัน


       “ เรื่องจริงใช่มั้ยยิม”

       เนมเขย่ามือผมท่าทางดีใจ

       “ แล้วเนมคิดว่าไงล่ะ” ผมย้อนถามกลับทำให้ฝ่ายนั้นหน้านิ่วคิ้วขมวด

       “ ก็สงสัยนะสิ เห็นยิมกับพี่หมอปายตัวติดกันบ่อยๆ” เนมวิเคราะห์ “ เมื่ออาทิตย์ก่อนก็เห็นแวบๆว่ายิมติดรถพี่หมอมาลงที่คณะด้วย”

       “ อ่าหะ”

       “ ไม่คิดว่าจะคบกันเร็วขนาดนี้ แต่ก็ดีใจด้วย”

        เนมอมยิ้มแก้มๆตุ่ย ไอ้โอ๊คเห็นมันคงนึกมันเขี้ยวถึงได้โยกศีรษะไปมาจนเพื่อนตัวขาวผมร้องโวยวาย แต่สีหน้ามีความสุขบอกไม่ถูก ท่าทางของมันทั้งคู่ดูสนิทสนมเป็นพิเศษทั้งที่ก่อนหน้านี้พอเจอหน้าก็แง่งๆใส่กันตลอด ความสัมพันธ์ของพวกมันทำให้ผมนึกเอะใจว่าตัวเองพลาดอะไรไปบางอย่าง แต่ถ้าถามไปตรงๆเนมมันไม่มีทางปริปากบอกหรอก คงต้องรอโอกาสที่ได้อยู่ตามลำพังกับไอ้โอ๊ค

        “ แล้วมึงจะให้กูช่วยอะไรวะ”

        ผมถอนหายใจเมื่อไอ้โอ๊คถามตรงประเด็น จริงๆแล้วที่นัดเจอพวกมันวันนี้เพราะแค่อยากจะปรับทุกข์และระบายเรื่องราวหนักอกหนักใจของผมให้พวกมันฟังก็เท่านั้นเอง ผมหายใจแรงๆอีกครั้งก่อนจะเปิดปากเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดให้มันฟัง


        “ ดูท่าเรื่องนี้จะหนักวะ”

         ไอ้โอ๊คเปิดปากพูดคนแรก “ กูรู้มาว่าพ่อหมอปายเป็นถึงหม่อมหลวง มียศมีหน้ามีตาขนาดนั้นคงจะหวงหน้าตาน่าดูไม่มีทางที่จะยอมรับเรื่องแบบนี้ได้ง่ายๆหรอก”

        “ถึงอย่างนั้นเนมก็จะหาทางช่วยยิมให้ได้”

        เนมปรารภเสียงหนักแน่นแล้วทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดยิกๆแล้วเดินยิ้มกริ่มออกไปโทรศัพท์ข้างนอก

        “ ทำอะไรเนม”

        “ เรามีตัวช่วยแล้ว”

        ผมมองตามแผ่นหลังเนมไปแล้วหันไปมองไอ้โอ๊คเป็นเชิงถาม ซึ่งฝ่ายนั้นก็แค่ยักไหล่

        “ ถามจริง”

        “ อะไร”

        “ มึงกับเนมเป็นอะไรกัน”

        ไอ้โอ๊คจุดยิ้มมุมปากทันทีที่ผมถามจบ

        “ กูจีบมันอยู่”

       ผมหันไปมองมันเป็นเชิงถาม “ แล้ว”

       “ แล้วดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มที่เนมมันจะเอนเอียงมาทางนี้”

       “ ขนาดนั้น”

       ผมถามกวนๆ

       “ แน่สิ มือชั้นนี้แล้ว”

       “ มึงจริงจัง? ”

        ผมถามอย่างกังวลใจเพราะสนิทกันจนรู้สันดานอีกฝ่าย  ผมกับไอ้โอ๊คมันคนประเภทเดียวกันลองได้ชอบอะไรแล้วมันก็พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะได้มาครอบครองเหมือนกัน เสียแต่มันสันดานเสียเจ้าชู้รักเผื่อเลือกซ้ำยังทำตัวลอยชายไปเรื่อยผมเลยกลัวว่ามันจะทำกับเนมเหมือนหมาหยอกไก่ซะมากกว่า

        ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆผมคงยอมไม่ได้เพราะเนมมันเป็นยิ่งกว่าเพื่อน ผมเองก็รักมันเหมือนน้องเหมือนนุ่งถึงยอมปล่อยให้ไอ้โอ๊คมันทำอะไรตามอำเภอใจแบบที่แล้วมาไม่ได้

        “ มึงรู้ใช่มั้ยว่ากูคงไม่ยอมแน่ๆ ถ้ามึงทำกับเนมเหมือนที่แล้วๆมา”

        “ กูรู้” มันหันมายักคิ้วให้ผม  “ กูไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ทำอยู่เรียกว่าจริงจังรึเปล่า แต่กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน มันเป็นคนแรกที่ทำให้กูร้อนใจเวลามันโกรธ และมันเป็นคนแรกที่ทำให้กูไม่อยากมองใครอีก”

        “กูรู้สึกดีที่ได้ยินแบบนี้”

        “ มึงเชื่อที่กูพูดเหรอ”

        “ เปล่า”

        ผมส่ายหน้า “ กูเชื่อแววตาของมึง”


        ใช่ผมเชื่อแววตาของมันเพราะมันเป็นแววตาที่ผมใช้มองหมอ แววตามันอ่อนโยนทุกครั้งที่มองเพื่อนตัวขาวของผมซ้ำบางทีมันยังเผลอหัวเราะตอนที่เนมทำหน้ายุ่งเวลาที่คุยกับคนในสาย ผมว่าผมตาไม่ฝาดที่เห็นความรักจากแววตาคู่นี้ของมัน

        “ ฝากเนมมันด้วย กูเชื่อว่ามึงจะดูแลมันให้มีความสุขได้”

        “ อืม”



       .

       .

       .


       เนมหายไปสักพักหนึ่งก่อนจะเดินยิ้มแต้มาแต่ไกล และเหนือสิ่งอื่นใดนอกจากมันแล้วยังมีอีกสองคนซึ่งผมไม่เคยคิดว่าจะได้เจอกันในสถานการณ์แบบนี้ ผมนึกแปลกใจจนผุดลุกขึ้นเพื่อมองภาพตรงหน้าให้ชัด เพื่อนตัวขาวของผมเอ่ยแนะนำคนที่มาพร้อมด้วยน้ำเสียงแจ่มใส พวกเราเลยเอ่ยทักทายกันถึงจะเคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนแต่พวกเราก็ไม่เคยพูดคุยสนทนากัน ดูเหมือนไอ้โอ๊คจะเป็นคนเดียวที่งงที่สุดเพราะมันไม่เคยรู้จักกับเพื่อนสนิททั้งสองคนของหมอปายเลย


        ‘หมออั้ม’ เป็นผู้ชายร่างสูงที่สวมแว่นท่าทางเรียบเฉยใบหน้าคมคายเหมือนจะไม่เป็นมิตร แต่จริงๆแล้วคงเป็นท่าทางปกติของเขาเพราะจากที่ผมสังเกตคงมีแต่หมอปายคนเดียวที่ทำให้ใบหน้านิ่งๆนั่นขยับรอยยิ้มได้ ไม่น่าแปลกเลยที่ว่าที่คุณหมอตรงหน้าดูจะทำเหมือนไม่ถูกชะตาผมสักเท่าไหร่ในเมื่อพวกเราต่างก็คิดหวังกับหมอปายไม่ต่างกันเลย ส่วนอีกคนคือ ‘หมอหยก’ นี่ท่าทางคล้ายกับเนมอย่างกะแฝด ที่คิดแบบนี้เพราะเป็นผู้ชายตัวเล็กเหมือนๆกันซ้ำส่วนสูงยังไม่ต่างจากกันนัก แต่เรื่องความขาวคงต้องยกให้หมอหยกเพราะออกจะขาวซีดมากกว่าหน่อย



         “ กูหาผู้ช่วยมาให้มึงได้แล้วยิม”

         ผมทำหน้าประหลาดใจ ต่างจากหมออั้มที่ดูไม่สบอารมณ์นักส่วนหมอหยกแค่ยิ้มบางๆเหมือนจะให้กำลังใจ

         “ อะไรกันเนม”

         “ ถ้ายิมอยากเจอพี่หมอ ยิมต้องพึ่งพี่อั้มกับพี่หยก”

         ผมทำเสียงงึมงำในลำคอ ขณะที่หมออั้มกระตุกยิ้มมุมปากปรายตามองทางผม “ สภาพอย่างนี้เหรอที่จะทำให้อาหม่อมยอมรับได้”

         ผมยิ้มน้อยๆเมื่อถูกหมออั้มปรามาสซึ่งๆหน้า และตอบโต้กลับไปแค่การขยับปากยิ้มรับท่าทางของพวกเราคนสองคงเหมือนการประกาศสงครามกันกลายๆ หมอหยกถึงกับหน้าเสียรีบกระตุกแขนเพื่อนตัวเองเป็นการปรามซึ่งได้ผลเพราะหมออั้มทำสีหน้าอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ถึงแววตาก็ยังมองผมเหมือนจะประเมินอยู่ตลอดเวลา

         “ ปายเป็นลูกคนเดียว ถึงจะมีน้องชายแต่ก็คนละแม่ อาหญิงแม่ของปายเป็นผู้หญิงที่อาหม่อมรักมาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกที่จะทำให้ครอบครัวปายยอมรับนายได้”

        หมออั้มพูดเสียงเรียบไม่ได้เจาะจงว่าพูดกับใครแต่ผมรู้ดีว่าเขาพูดกับผม

        “ ผมทราบครับ”

        “ แล้วยังไง”

        ต้องยอมรับว่าหมออั้มกำลังทดสอบผมอยู่ เพราะท่าทางผู้ช่วยที่เนมการันตีดูจะจงใจกวนประสาทผมจริงๆเลย ให้ตายเถอะ

        “ แล้วผมก็ไม่คิดจะปล่อยมือหมอครับ”

        “ หึ”

        หมออั้มยิ้มเครียด “ ต่อให้จับกันแน่นแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องปล่อยมือถ้าคนรอบข้างไม่ได้ยินดีด้วย”

        ผมนิ่งงันรู้สึกราวกับหายใจไม่ออกเพราะเรื่องที่ได้ยินมันเป็นความจริงที่ยากจะยอมรับ

        “ ถึงปายกับอาหม่อมดูจะไม่สนิทสนมกันเท่าไหร่แต่เชื่อเถอะถ้าสุดท้ายแล้วถ้าต้องเลือก ปายไม่มีทางเลือกนาย”

        “ ไม่เอาน่าอั้ม”

        หมอหยกปรามอีกครั้ง ใบหน้าจิ้มลิ้มของหมอหยกยิ้มให้กำลังใจผม “ อย่าคิดมากเลยนะน้องยิม อั้มก็พูดเกินไปมันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นหรอก ถึงภายนอกอาหม่อมจะดูดุแต่ท่านเป็นคนใจดีในระดับนึงนะ”

         “ แต่ก็ไม่ได้ดีใจเสมอไปกับคนที่ทำให้ลูกชายท่านผิดแปลกไปจากเดิม”

         ผมยิ้มน้อยๆทั้งที่ในใจเต้นระส่ำ “ ผมรู้ครับ” ผมสบตากับหมออั้มตรงๆ “ ผมรู้ว่าถ้าต้องเลือก หมอปายไม่มีทางปล่อยมือครอบครัวของตัวเอง ถึงหมอจะไม่เลือกผม ผมไม่สนใจหรอก เพราะผมเลือกหมอแล้วผมไม่มีเปลี่ยนใจ”

        “ ก็ดี”

        หมออั้มพูดเสียงเรียบจนที่เหลือโล่งอกถอนหายใจ แต่ยังไม่ทันที่หมอหยกจะได้เปิดปากพูดอะไรทั้งที่เหมือนคนตรงหน้ากำลังบอกอะไรบางอย่าง หมออั้มก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม

        “ เล่นบาสกัน”

        “ ครับ”

        ผมไม่ได้รับคำหรอก แต่มันเป็นคำตอบเชิงถามว่าสิ่งที่ได้ยินมาไม่ได้หูฝาด เมื่อหมออั้มชวนผมเล่นบาสทั้งที่ก่อนหน้านี้หมอยังดูเหมือนจะชวนผมตีด้วยซ้ำ

         “ เมื่อกี้หมอพูดว่าอะไรนะครับ”

        หมออั้มยักไหล่ปลดกระดุมเสื้อสองเม็ดบนแล้วถอดเข็มขัดดึงชายเสื้อในกางเกงสแล็คออกมา แล้วเดินนำไปยังสนามบาสใกล้ๆกัน ถึงจะไม่เข้าใจในสิ่งที่หมอจะสื่อแต่ผมก็เดินตามไปอย่างไม่อิดออด จนเราไปยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางสนามว่าที่คุณหมอก็โยนลูกกลมๆสีส้มมาให้ผมรับเอาไว้
 
        “ ใครชู้ตได้สิบลูกก่อนชนะ”

        “ แล้วยังไงครับ”

        ผมถามกลับไป

        “ ถ้าฉันชนะนายก็ไม่ควรพยายามในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์อีกต่อไป”

        “ แล้วถามผมชนะล่ะครับ”

         หมอทำสีหน้ายุ่งยากใจแต่ก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง “ ฉันจะช่วยนายทุกอย่าง”

        “ หมอพูดแล้วนะครับ”

        “ ชนะให้ได้ก่อนเถอะ”

        หมออั้มตอบกวนๆก่อนจะวิ่งตรงไปมาแย่งลูกบาสในมือได้สำเร็จแล้วพุ่งตัวอย่างรวดเร็วเลี้ยงลูกกลมๆในมือไปโยนใส่ห่วงตาข่ายอย่างมั่นยำราวกับจับวาง ผมสะตุกยิ้มมุมปากมองไปยังข้างสนามที่ไอ้โอ๊คไปยืนประจำอยู่ตรงกลางราวกับลงมาเป็นกรรมการ ส่วนสองพี่น้องที่มีความใกล้เคียงทางพันธุกรรมความสูงก็ร้องเย้วๆเชียร์อยู่ขอบสนาม

        จริงๆแล้วผมเป็นคนไม่ชอบอะไรยุ่งยาก แต่หมออั้มคงไม่รู้ว่าผมเป็นคนชอบอะไรที่ท้าทาย และสิ่งท้าทายที่ผมปรารถนาที่สุดในตอนนี้คือหมอปาย ดังนั้นไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหนผมย่อมทำได้ไม่คิดชีวิต ผมหลับตานิ่งก่อนแล้วเปิดเปลือกตาขึ้นมาก่อนจะพุ่งไปแย่งลูกบาสที่หมออั้มกำลังเลี้ยงเพื่อเตรียมทำแต้มอีกครั้ง

        “ ผมไม่ยอมแพ้หมอหรอกครับ”

        ผมว่าเป็นเกมที่ค่อนข้างจะดุดันในเมื่อเราเผชิญหน้ากันต่อตัวต่อ เกมกีฬาที่เล่นอาศัยการจังหวะชิงไหวชิงพริบและความเร็ว เราไม่ได้ยึดกติกากันมากนักดังนั้นมันจึงไม่แปลกถ้าเราจะเล่นนอกเกมกันบ้างด้วยการกระแทกอีกฝ่ายให้ล้มแล้วชิงเอาลูกบาสไปโยนยัดห่วง เรากระแทกกันหลายรอบจนรู้สึกว่าเริ่มเจ็บตรงหัวไหล่และหัวเข่าที่กระแทกกับพื้นสนามก่อนหน้านี้ แต่ถึงจะเจ็บผมก็ไม่ยอมแพ้หรอก

        ผมเหลือบตามองเลขบนสกอร์บอร์ดที่ผมกำลังตามหมออยู่สองแก้มขณะที่หมออั้มกำลังอยู่ในช่วงสำคัญเพราะอีกแต้มเดียวเขาก็จะชนะผมได้ ผมหายใจแรงๆด้วยความเหนื่อยต้องยอมรับว่าหมออั้มเล่นบาสได้ไม่เลวเลยจริงๆต้องพูดว่าเล่นเก่งราวกับเป็นนักกีฬามาก่อน ผมสบตากับฝั่งตรงข้ามที่มองมาเสมือนกำลังขยับรอยยิ้มหยัน วินาทีนั้นอะไรไม่รู้ทำให้ผมฮึดสู้ใจขาดดิ้นด้วยการพลิกตัวไปเกี่ยวเอาลูกบาสในมือเขามาครอบครองและตั้งแต่นั้นมาก็กลายเป็นหมออั้มที่วิ่งตามลูกบาสในมือผมแทน ผมไม่รอเวลาให้สูญเปล่าเมื่อตวัดปลายนิ้วและกระโดดยัดลูกกลมๆนี่ลงห่วง

         ช่วงเวลาเกือบสี่สิบนาทีชั่วโมงเหมือนราวกับว่าผ่านมานานนับวัน ผมเหนื่อยสุดๆเพราะวิ่งตลอดไม่มีได้หยุดพักซ้ำยังเป็นเกมที่รุนแรงจนร้าวระบมไปทั้งตัว ไม่ต่างจากหมออั้มที่หอบหายใจแรงๆนอนแผ่หลาอยู่กับพื้นหลังจากที่ผมบ้าระห่ำทำคะแนนสามแต้มติดๆไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หมอได้จับลูกเลย

        เนิ่นนานหลังจากนั้นหมออั้มผุดลุกขึ้นใบหน้าขาวแดงก่ำ เสียหน้าแววตาดูเสียใจที่ต้องยอมรับว่าตัวเองพ่ายแพ้แต่เขาก็มีน้ำใจนักกีฬามาก ตอนที่ยื่นมือมาตรงหน้าเพื่อให้ผมยึดจับแล้วผุดลุกขึ้นทำให้ผมกลับมาทรงตัวยืนได้อีกครั้งผมเลยกล่าวขอบคุณเขา

        “ ถ้านายทำให้ปายเสียใจ ฉันจะทำทุกวิธีทางเพื่อทำให้ชีวิตนายไม่มีความสุข และฉันจะทำให้นายไม่มีปัญญาได้เขากลับไป” หมออั้มพูดเสียงเรียบมองหน้าผมตรงๆ “ ถ้าปายเจ็บเพราะนาย...นายจะไม่มีวันได้ปายกลับไปอีกเลยตลอดชีวิต”

        ผมสัมผัสได้ถึงแววตาจริงจังและคำพูดที่หนักแน่นของคนตรงหน้า หมอปายโชคดีจริงๆที่มีเพื่อนอย่างเขาเพราะผมเชื่อว่านอกจากผมแล้วผู้ชายตรงหน้าคือคนที่จะทำทุกอย่างเพื่อหมอ ผมมองเห็นความจริงใจที่แสดงออกมาให้เห็น ผมเชื่อว่าถ้าหากไม่ใช่ผม เขาจะเป็นอีกคนหนึ่งที่ผมพร้อมจะให้ดูแลหมอปายแทนผม

         “ผมสัญญาครับ”

         “ สัญญาแค่ลมปากไม่พอหรอก” หมออั้มพูดนิ่งๆ “ สัญญาด้วยการกระทำต่างหากที่เป็นของจริง”

         หมออั้มขยับปลายเสื้อระบายความร้อนก่อนจะหันหลังกลับไปยังขอบสนามที่เพื่อนตัวเองรออยู่

         “ หมออั้ม”

         “.......”

         หมอหยุดชะงักแต่ยังหันหลังให้ผมเช่นเดิม

         “ ขอบคุณครับ”

         ผมกล่าวขอบคุณแผ่นหลังเขาที่ยืดตรงเมื่อกล่าวจบ

        “ อืม”

        เสียงในลำคอดังขึ้นอย่างแผ่วเบาแต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ยอมหันกลับมาเผชิญหน้ากันเลย “พรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปหาอาหม่อม ถ้านายว่างก็ไปด้วยกันสิ”

        ผมเผลอยิ้มตอนที่หมออั้มพูดทิ้งท้ายแล้วเดินลับไป น่าแปลกที่ก่อนหน้านี้ผมโคตรเหนื่อยทั้งยังเจ็บหัวไหล่เอามากๆ แต่พอได้ยินในสิ่งที่หมออั้มพูดขึ้นมาแล้วทำให้ความเหนื่อยความเจ็บหายเป็นปลิดทิ้งเลย

        “ ยิ้มอะไรขนาดนั้นวะยิม”

        ไอ้โอ๊คถามอย่างสงสัย

        “ อืม”

        “ อืมอะไรวะ”

        ผมไม่ตอบคำถามมัน แต่หันไปยื่นมือรับขวดน้ำที่เนมส่งมาให้แล้วมองไปเบื้องหน้า ผมสัมผัสได้ว่าหมออั้มเป็นคนดีในระดับหนึ่งและความดีของเขาคงทำให้ได้เจอสิ่งดีๆอย่างการมีเพื่อนที่ดีอย่างหมอหยก ผมนิ่งมองภาพตรงหน้าที่หมออั้มยิ้มรับขวดน้ำที่หมอหยกยื่นให้พร้อมโยกศีรษะเพื่อนตัวเล็กเป็นเชิงหยอกล้อ

         ผมพอจะรู้มาบ้างว่าระหว่างหมอปายและเพื่อนสนิททั้งสองมีเรื่องบางอย่างยากเกินกว่าที่คนนอกจะเข้าใจ มันเป็นความสัมพันธ์ประหลาดคล้ายกับความรู้สึกที่มีให้กันมันเหมือนวงกลมเพราะไม่มีใครได้ครอบครองความสุขเลยสักคน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขากลับรักษาความเป็นเพื่อนกันมาได้ขนาดนี้ คงต้องอาศัยระยะเวลาและโชคชะตาที่จะทำให้สองในสามที่เหลือได้พบเจอกับความสุขที่แท้จริง ไม่ใช่ว่าเพราะผมเป็นผู้ได้รับชัยชนะแล้วจะเหยียบย่ำซ้ำเติมผู้พ่ายแพ้ด้วยความหยิ่งผยองในฐานะผู้พิชิต ผมเข้าใจว่าความรู้สึกผิดหวังมันทรมานใจแค่ไหนและไม่ปรารถนาให้ใครอีกที่ต้องเจ็บปวดแบบผมเหมือนที่แล้วมา


         (มีต่อ)

ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17

            (ต่อ)


            [หมอปาย]
   


           บางครั้งการได้นั่งเงียบๆเพียงลำพังก็เหมือนกับการได้คิดทบทวนการกระทำที่แล้วมาของตัวเอง ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้การได้อยู่กับตัวเองถือว่าเป็นเรื่องที่ผมคิดว่ามันดี ผมถอนหายใจแรงๆตอนที่ยืนกอดอกพิงขอบหน้าต่างเหลือบตามองไปยังหน้าคฤหาสน์และทางเข้าซึ่งเต็มไปด้วยชายฉกรรจ์ในสูทสีดำสนิทมากมายเต็มไปหมด หึ สภาพผมตอนนี้ไม่ต่างจากนักโทษที่รอคอยการตัดสินพิจารณาโทษเลย ดีหน่อยที่ประมุขของบ้านยังเมตตาให้เดินไปไหนมาไหนได้ในบริเวณบ้าน เรียกว่าไม่ถึงกับจำกัดอิสรภาพเพราะผมยังได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับคนในบ้านซึ่งก็มีแค่ปอกับลุงหาญเท่านั้นที่มักเข้ามาพูดคุยให้กำลังใจ ต่างจากคนอื่นๆที่แค่นิ่งมองและจ้องดูราวกับกลัวว่าผมจะหาวิธีหลบหนีออกไปได้

   ชีวิตในแต่ละวันช่วงนี้มีแค่กินกับนอน ดังนั้นเวลาที่ปอกลับมาจากเรียนพิเศษข้างนอกคือช่วงที่มีความสุขที่สุด เสียงเจื้อยแจ้วของน้องทำให้ความรู้สึกเงียบเหงาถูกปัดเป่า ปอเหมือนพรวิเศษที่ทำให้คนที่รอบข้างสามารถขยับรอยยิ้มได้โดยไม่ต้องอาศัยการเสแสร้งใดๆ อาจจะเพราะน้องยังเด็กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์มันเลยทำให้ความคิดวุ่นวายต่างๆในหัวถูกแทนที่ด้วยความสดใสของน้อง มันทำให้ผมเผลอยิ้มออกมา เพราะนานมากแล้วที่ผมรู้สึกไม่อยากยิ้มเลยตั้งแต่ผมเสียแม่ไป นานมากแล้วที่ผมเผลอหัวเราะในขณะที่กำลังพบเจอเรื่องยากลำบากขนาดนี้

   หากเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่รีรอหรือยอมให้บิดากุมชะตาชีวิตแบบนี้ น่าแปลกที่ตอนนี้ผมนึกภาพที่ตัวเองดันทุรังปีกกล้าขาแข็งออกไปอยู่ตามลำพังไม่ออก ภาพจำในวันที่เราพ่อลูกทะเลาะกันใหญ่โตแล้วผมก็ก่อนออกจากบ้านอย่างไม่คิดหวนกลับ ตลอดเวลาหลายปีที่อยู่คนเดียวตามลำพังทำให้ได้รู้ว่าตัวเองเป็นคนเย่อหยิ่งเพียงไหน ทั้งพยายามสร้างกำแพงในใจเพื่อกันใครต่อใครเข้ามาล่วงล้ำพื้นที่ส่วนตัว ทำเข้มแข็งทั้งที่ในใจโคตรเงียบเหงา ทำเหมือนไม่สนใจสิ่งรอบกายทำใจให้นิ่งเพื่อรับรู้สิ่งต่างๆ แต่ลึกลงไปสิ่งที่ผมปรารถนามาตลอดแค่อยากกลับไปเป็นเด็กเหมือนเมื่อครั้งที่แม่ยังอยู่

   ผมโหยหาความอบอุ่นของครอบครัวในวันวาน เพราะข้างในมันอ่อนแอถึงต้องทำตัวให้เข้มแข็งเข้าไว้ ผมรู้ดีว่าทิฐิของผมกับพ่อมีมากจนยากที่จะทลายมันลงได้จนเกิดช่องว่างระหว่างเราที่ปล่อยให้มันขยายตัวขึ้นทุกวัน ถึงอย่างนั้นผมก็อยากให้เขาจดจำผมได้ จดจำว่าผมยังเป็นลูกชายเขาคนหนึ่ง ยังเป็นที่ต้องการแม้จะมีเพียงแค่ความเย็นชาเท่านั้นที่ได้รับกลับมา ผมทำให้เขาเสียใจและเสียความรู้สึก ผมทำให้วงษ์วรกาญจน์แปดเปื้อนในสิ่งที่ผมเป็น มันยากเหลือเกินที่คนรอบข้างจะยอมรับได้ ไม่แปลกเลยที่เห็นสีหน้าเจ็บปวดของเขาและแววตาไม่แน่ใจที่พ่อมองผมแต่ละครั้ง เจ็บทั้งคนมองและคนถูกมอง เจ็บที่ผมเป็นในสิ่งที่พ่อรังเกียจ เจ็บจริงๆ

   ในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ผมกลับนึกถึงมันที่สุด มันที่นำพารอยยิ้มมาให้ผมอีกครั้ง ทำให้โลกที่บิดเบี้ยวของผมกลับสมบรูณ์ขึ้น ทำให้การมองโลกรอบด้านเป็นสิ่งที่สมควรทำ สอนให้รักและใส่ใจผู้อื่นมากขึ้น สอนให้การนอนจับมือในวันฝนตกเป็นสิ่งที่ผมปรารถนาที่สุด สอนให้รู้ว่าการมีตัวตนของอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีแค่ไหน


   ....โคตรดีทุกครั้งที่มีมันอยู่ข้างๆกัน...


   ผมเหม่อมองไปเบื้องหน้าอากาศยามเย็นมีลมอ่อนๆพัดเข้ามาในหน้าต่าง เสียงรอบกายเงียบสงัดจนได้ยินฝีเท้าของใครสักคนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ร่างโปร่งบางของแม่เลี้ยงสาวมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าในมือของเธอมีถาดอาหารหน้าตาน่ากิน แต่เพราะคงตรงหน้าคือเธอความรู้สึกอยากอาหารของผมเลยไม่มีอยู่เลย


       “ ปายคะ”

       “.......”

       “ ไอซื้อโจ๊กเจ้าดังมาให้ค่ะ” หล่อนยิ้มเอาใจ “ ปายลองชิมหน่อยสิคะ ไอรับรองว่ามันต้องอร่อยถูกปากคุณแน่นอน”

        ผมถอนหายใจเหลือบตามองใบหน้างดงามที่แย้มยิ้มสดใส ภาพใบหน้านี้ทำให้ผมนึกถึงความงดงามในวัยเยาว์ ในอดีตเธอเคยงดงามทั้งกายและใจแต่พอเวลาผ่านไป กาลเวลาหมุนเปลี่ยนทุกอย่างจนทำให้คนดีในวันวานแปรเปลี่ยนไปตามกระแสของการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ธรรมชาติไม่เคยทำร้ายใครแต่การเปลี่ยนแปลงทั้งหลายนั้นเกิดขึ้นมาได้ด้วยการกระทำของคนทั้งนั้น



       “ ไอ”

       “ คะ”

       “ คุณไม่เหนื่อยบ้างเหรอ”

        เธอชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มเสียกว้าง แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูฝืนทนเหลือเกิน กี่วันแล้วที่เธอทำแบบนี้แต่สิ่งที่ได้กลับไปมีแต่ว่างเปล่า ราวกับว่ากำลังเล่นสงครามความเงียบใส่กัน ฝ่ายที่ทนไม่ได้ก็คงจะพ่ายแพ้ไปในที่สุด เธอยังคงทู่ซี้ทำดีกับผมเพราะหวังให้ผมเปลี่ยนใจเข้าสักวัน ขณะที่ผมนั่งมองสิ่งเหล่านั้นด้วยหัวใจที่แห้งแล้งความรู้สึกดีๆในฐานะของเพื่อนนับวันจะถดถอยลง

         “ ไอไม่เหนื่อยหรอก เพราะไอทำให้คนที่ตัวเองรัก”

         “ คุณไม่ละอายใจบ้างเหรอ” ผมถอนหายใจแรงๆ “ คุณบอกรักผมทั้งที่ยังอยู่ในฐานะแม่เลี้ยงของผม ซ้ำยังเป็นภรรยาของพ่อ ไอลดาคุณรักพ่อผมบ้างรึเปล่าผมไม่อยากรู้ แต่อยากให้คุณจำไว้ว่าปอเป็นลูกของคุณ เขารักแม่ด้วยใจบริสุทธิ์โดยไม่รู้ว่าแม่ตัวเองกำลังทำเรื่องสกปรก”

         “ ปาย”

        ไอลดาแหวขึ้นเสียงดัง

         “ คุณไม่สงสารปอเหรอ”

         “ สงสารแล้วยังไง แล้วใครบ้างที่มาสงสารเห็นใจไอ ไอไม่อยากให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้” หล่อนหลุดสะอื้น “ ไอพลาด ไอไม่ได้ตั้งใจที่จะมาเป็นแม่เลี้ยงปาย ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ปอเกิดมา”


         ...ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ปอเกิดมา...


         ผมตัวสั่นทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ชีวิตน้อยๆของปอทำไมถึงได้มีเรื่องเลวร้ายแบบนี้

        “ แต่เขาเกิดมาแล้วไอลดา ในเมื่อทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ทำไมคุณไม่ยอมรับในสิ่งที่เป็นอยู่”

        “ ไม่มีทาง”

         ไอลดากรีดร้องทั้งน้ำตา “ ไอรักปายก่อนใคร ก่อนที่เมษาจะรักปายซะอีก ทำไมถึงไม่มีใครเข้าใจ”


        “ พูดตอนนี้แล้วทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้เหรอ คุณมีครอบครัวแล้วขณะที่ผมก็มีคนรักแล้วเหมือนกัน เราต่างคนต่างมีหน้าที่และความรับผิดชอบ”

        ไอลดากรีดร้องปล่อยโฮด้วยใบหน้าสิ้นหวัง ใบหน้าสะสวยเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาเพราะพิษรักที่ทำลายคนเราให้แหลกสลายได้ในพริบตา


        “ ทำไม ทั้งๆที่ไม่มีเมษาแล้ว ทำไมปายถึงไม่มองมาที่ไอบ้าง ทั้งที่ไออยู่เคียงข้างคุณมาตลอด ไอมาก่อนทุกคน มาก่อนเมษา มาก่อนไอ้เกย์นั่นทำไมกันปาย ทำไมปายถึงใจร้ายนัก ทำไมคุณถึงไม่มองคนที่อยู่เคียงข้างคุณมาตลอดบ้าง”

        “ เมษาคือรักแรก และยิมมันคงจะเป็นรักสุดท้ายของผม ส่วนคุณไอลดา คุณคือเพื่อนของผมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

        “ ไม่”

        ไอลดาถลามาตีอกผมราวกับควบคุมสติของตัวเองไม่อยู่

        “ ปายต้องรักไอสิ ไออุตส่าห์ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้รักคุณ กำจัดนังเมษาแล้วทำไมไอ้เกย์นั่นถึงได้โผล่มาจากไหนไม่รู้ ปายต้องรักไอสิ”


          ...กำจัดนังเมษา...


         หัวสมองผมชาวาบ หยุดนิ่งปัดป้องตัวเองจากโทสะของเธอ ไอลดาร้องไห้โฮสบตากับผมที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย


         “ หมายความว่าไงไอ คุณอะไรเมษา”

        ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวแววตาคู่งามด้วยเลื่อนลอยแต่มีร่องรอยความสะใจจนผมนึกใจหาย ผู้หญิงตรงหน้าไม่ใช่ไอลดาที่ผมรู้จักเลย เหมือนว่าผมไม่เคยรู้จักเธอมาก่อนเลย

        “ พูดมาสิไอคุณทำอะไรเมษา”

         “ ฆ่ามัน”

         ผมแทบทรุดในอกสั่นระรัว หัวสมองมึนชาราวกับโดนค้อนทุบ ความเสียใจจากไหนไม่รู้มากมายถาโถมเข้ามัน ทำไมกัน ทำไมเธอถึงทำร้ายเพื่อนรักของตัวเองได้ขนาดนี้ ทำไม

         “ นังผู้หญิงนั่นมันทำใสซื่อแกล้งอ่อนแอให้ปายต้องดูแล สุดท้ายปายก็ตกหลุมพรางมัน มันทำให้ไอแทบบ้าที่รู้ว่าท่าทางหงิมๆนั่นสุดท้ายมันได้ปายไปครอบครอง สมน้ำหน้ามันสุดท้ายก็ตายไม่ต่างจากหมาข้างถนน”

         “ คุณทำอะไรเมษา”

          ผมถามเสียงแหบพร่า เจ็บในอกเหมือนหายใจไม่ออก

         “ ไอตัดสายเบรกรถมัน ทำให้มันไปซะ ไม่มีมันปายจะได้รักไอคนเดียว ฮือ แต่ปายก็ไปรักคนอื่นอีก ไอเจ็บนะ เจ็บที่สุด ทำไมคุณถึงใจร้ายกันไอนัก”


        ...ตัดสายเบรก...


          หัวสมองผมขาวโพรนเมื่อนึกถึงอุบัติเหตุในครั้งนั้น เหตุการณ์เลวร้ายที่พรากคนที่รักผมไปถึงสองชีวิต พยายามเข้าใจว่ามันคงเป็นอุบัติเหตุไม่นึกว่าได้ยินมันกับหูจากเพื่อนตัวเองแบบนี้ ผมเหมือนคนหัวใจสลาย เจ็บเหมือนจะขาดใจตาย

          “ คุณรู้มั้ยว่าแม่ผมนั่งไปในรถคนนั้นกับเมษา คุณรู้มั้ย” ผมเหมือนคนเสียสติพุ่งไปเขย่าไหล่เธอแรงๆพร้อมกับตวาดด้วยเสียงกึกก้อง ในใจแสบร้อนเหมือนอยู่ในกองเพลิง ในหูอื้ออึงไม่ได้ยินเสียงใด ภาพผู้หญิงตรงหน้าแจ่มชัดจนอยากจะฉีกร่างเธอให้แหลกคามือ


          “ ไอ ไม่รู้ ฮึก ฮื้อ ไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้ปาย ไอไม่รู้ ขอร้อง”

          เธอร่ำร้องขอชีวิตหน้าดำหน้าแดงตอนที่ผมลืมตัวบีบคอเธอด้วยแรงเรี่ยวที่มี


          “ คุณฆ่าแม่ผม”

          “ ไอไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษ ฮือปายฟังไอก่อน ปาย”

         ผมปล่อยมือจากคอของเธอก่อนจะหันหลังแต่เธอผวาเข้ามากอดผมจากข้างหลังท่าทางละล้ำละลัก

          “ ปล่อย”

          “ ไอแค่รักคุณ ไอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าแม่คุณเลย มันเป็นอุบัติเหตุ”

          “ อุบัติเหตุที่เกิดจากฝีมือคุณ”

          “ ไอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าแม่คุณเลยปาย ฮือ ไอรักคุณ”

          “ เธอว่ายังไงนะ”


          ผมมองฝ่าม่านน้ำตาไปเจอภาพบิดาที่ยืนกำหมัดนิ่งอยู่หน้าประตู ใบหน้าถมึงทึงบ่งบอกว่าพ่อคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้วไม่ต้องสงสัย ไอลดาหน้าซีดตัวสั่นทรุดลงไปกองกับพื้น เธอร้องไห้คร่ำครวญราวกับคนเสียสติ ไม่ต่างจากบิดาที่ทำหน้าจ้องมองเธอราวกับเป็นของชั่วร้ายน่ารังเกียจ

          “ เธอมีส่วนในการตายของภรรยาฉันเหรอ”

         น้ำเสียงแหบพร่าของพ่อแต่แฝงไปด้วยความดุดันจนน่ากลัว ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเห็นบิดาแสดงออกว่าโกรธที่สุดในที่ชีวิตได้ขนาดนี้ พ่อพุ่งถลาไปเขย่าตัวเธอแรงๆแล้วตบหน้าไอลดาจนร้องไห้โฮ เธอหมอบลงกับพื้นเหมือนสติล่องลอยไปไกล นับเป็นครั้งแรกในที่ชีวิตที่ผมเห็นพ่อทรุดตัวลงกับพื้นแล้วร้องไห้

          ผมปาดน้ำตาช้าๆมองไปรอบกายเห็นลุงหาญยืนทำหน้าตกใจอยู่หน้าห้อง ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ได้รับรู้มาวันนี้หนักหนาซะเหลือเกินมันดูจะเกินไปมากสำหรับผมในตอนนี้  ผมก้าวเท้าออกจากห้องนี้ช้าๆแล้วมุ่งตรงไปยังห้องนอนของแม่ ทุกอย่างในห้องยังดูเรียบร้อยสวยงามเหมือนเมื่อครั้งที่แม่ยังอยู่ ทุกย่างก้าวในห้องเต็มไปด้วยความทรงจำมากมายเหมือนว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้
ผมเอื้อมมือไปหยิบเอากรอบรูปของแม่ที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงมากอดแนบไว้กับอก ขอบกรอบรูปสีทองพอได้สัมผัสกลับอุ่นขึ้นอย่างประหลาด ผมทรุดตัวนั่งพิงขอบเตียงแล้วปล่อยน้ำตาให้ไหลลงช้าๆ

          ...สิ้นสุดกันสักที...






มาพร้อมมาม่าอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็ถึงวันนี้ สงสัยหมอปายจังเลย  :hao5:
อดทนหน่อยเนอะเดี๋ยวมาม่าก็ผ่านไป ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

หนึ่งความดคิดเห็นคือหนึ่งกำลังใจนะคะ


ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ยิมรีบมากอดหมอเร็วอย่าให้หมอเศร้าอยู่คนเดียว :monkeysad:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด