❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤ หลงกาว(น์) ll Love Addict ❤ [END]  (อ่าน 426612 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kimdodo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านของหมอปายแล้วอยู่ๆๆก็แวปขึ้นมา ปายยิมแน่ๆ #ทีมปายยิม 5555555 นานจนลืมแอบไปอ่านตอนเก่ามาด้วยแหละ

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
หมอปายเริ่มเปิดใจแล้ว เชียร์ยิมปายนะ
แต่ยิมควรไปเคลียร์เรื่องแฟนก่อนป่ะ

ออฟไลน์ pinknocchio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ยัง ยิมปาย เหมือนเดิมค่ะ ฮือ
หมอปายน่ารัก  :o8:
 :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ phunpk

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยิมหยอดหมอปายยย งื้ออ

ออฟไลน์ phunpk

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หมอปายน่ารักจริงๆ
แต่ยิมอย่าลืมว่าตัวเองมีแฟนละนะ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น่ารักเบาๆ หวังว่านายยิมจะช่วยให้พี่หมอปายหายจากความเศร้าในใจได้นะครับ

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
กลับมาแล้ววววววววววง :heaven :heaven :heaven

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
อยากจูบก็จูบเลย แกจะบอกให้เหยื่อรู้ตัวทำไมยิม ไม่เป็นงาน!

ออฟไลน์ mox2224

  • :นักเขียนสมัครเล่น:
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ยิมปาย! ยิมปาย! ยิมปาย!
แงงงงงงงง กลับมาแล้ว
เรารออยู่นะคะ เราชอบมากเลย เราอ่านทุกเรื่องเลย แต่ไม่ได้เม้นทุกตอนขอโทษด้วยนะคะ
เรารอทุกเรื่องของคนแต่งอัพอยู่นะคะ
เรื่องนี้เราก็ชอบมาก สนุกมากค่ะ สำหรับเรา
แต่สารภาพเลยว่าแอบลืม เพราะคนแต่งหายไปนานเชียว
เดี๋ยวกลับไปอ่านใหม่ เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะะะ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
หมอปายกลับมาแล้ว ดีใจ~ :hao5:
ก่อนจะมาจูบหมอแกควรไปเคลียร์กับแฟนก่อนนะ

เป็นกำลังใจให้ไรท์นะคะ สู้ๆ จะรออ่านตอนต่อไปนะ
 :mew1: :mew1: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ that girl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ปายยิม ปายยิม ปายยิม

5555 สนุกดีค่ะ ชอบเนื้อเรื่อง ชอบการบรรยายนะคะ

ถึงจะท้อแต่ห้ามทิ้งนะคะ รอเสมอค่ะ

ปล.ลงบ่อยเมนท์บ่อยนะคะ 555 แอบขู่ค่ะ

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ความสัมพันธ์เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ใกล้กันเข้าไปอีกนิดแล้ว :katai2-1:

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
ชอบเรื่องนี้จ้า สนุก :katai2-1:
แอบเชียร์ปายยิมแหละ :-[

ออฟไลน์ gneuhp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ เพราะจำนวนตอนเริ่มเยอะแล้ว...เรากลัวค้างเติ่ง แต่สุดท้ายก็ค้างอยู่ดี 5555
เนื้อเรื่องน่ารักมากอ่าา อ่านแล้วหลงรักตัวทั้งยิมและหมอปายเลย
อยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วแต่ละคนจะก้าวข้ามปัญหาของตนเองได้ยังไง รอตอนต่อไปนะคะ ^^

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ชอบมาก สนุกดีครับ

ยิมปาย ปายยิม,,,

ออฟไลน์ asakurafy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 o18 พี่หมอใจดี อิอิ อยากออกไปเล่นน้ำฝนด้วยเลยยยย

ออฟไลน์ mizzmizz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
อ๊ากกก คนเขียนกลับมาแล้ว
ดีใจหล๊ายหลายยยย
หมอคะเริ่มใจอ่อนยัง
น้องยิมนี่ตกหลุมไปจังเบอเร่อแล้วค่ะ
น่าจะขึ้นจากหลุมไม่ได้แล้ว
วานพี่หมอดูแลด้วยนะคะ 55555+
ปล. รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17


       หลงที่ 10 : สับสน


        [ยิม]


        “ มึงเจ็บมากมั้ย”

        สีหน้าแววตาของเนมแสดงออกว่าห่วงใยผมไม่น้อย ทำให้ผมอมยิ้มบางๆก่อนจะโยกศีรษะมันเบาๆด้วยความเอ็นดู เนมมันทำหน้ายู่แล้วคว้าข้อมือข้างที่ไม่เจ็บมากุมเอาไว้

        “ กูไม่เป็นไรแล้วเห็นมั้ย” ผมชี้มือไปที่แขนข้างที่โดนใส่เผือก “ ไปหาหมอแล้ว”

        “ อืม”

        “ ไม่ต้องห่วงหรอก”

        โยกศีรษะมันอีกครั้งจนอีกฝ่ายเริ่มยิ้มออก

        “ บอกมันด้วยสิมึงกินยาตามหมอสั่ง เสร็จแล้วก็นอนห่มผ้าหลับสนิทจนถึงเช้า”

        เสียงกระเซ้าเย้าแหย่ที่จงใจพูดใส่เพื่อนตัวน้อยของผมดังขึ้นมาจากมุมหนึ่งของห้อง เนมชักสีหน้าทันทีขณะที่เจ้าของคำพูดอย่างไอ้โอ๊คแค่ยักไหล่กวนๆ เมื่อเช้าผมโทรไปหาบอกโอ๊คว่าวันนี้คงไปเรียนไม่ไหวเพราะกว่าจะกลับมาถึงห้องแล้วพักผ่อนก็ดึกดื่นค่อนคืนซ้ำยังรู้สึกว่าตัวเองมีไข้อ่อนๆอีกกะว่าจะให้มันลาอาจารย์ให้ แต่หลังจากนั้นไม่นานห้องผมก็มีเหตุให้ต้องต้อนรับเพื่อนทั้งสองที่ดันโผล่มาเยี่ยมในตอนเช้า และที่เหนือความคาดหมายคือการที่เนมมากับไอ้โอ๊คด้วย แต่ถึงจะมาด้วยกันไหงกันแง่งๆใส่กันตั้งแต่มาถึงห้องผมก็ไม่รู้

        ผมว่าพวกมันสองคนที่ชักแปลกๆ

        “ กวนตีน”

        เสียงเนมพึมพำเบาๆในลำคอแต่เพราะผมอยู่ใกล้ไงเลยบังเอิญได้ยิน แน่นอนว่าเนมมันไม่ได้หมายถึงผมแน่นอนเพราะตั้งแต่ที่มันมาถึงก็แสดงออกชัดเจนว่าห่วงใยผมนักหนาซ้ำยังหอบข้าวเช้าสำหรับคนป่วยและอีกสารพัดยามาฝากผมด้วย ดังนั้นมันคงไม่พึมพำด่าผมแน่ และแน่นอนว่าเป้าหมายคงจะหมายถึงไอ้โอ๊คที่นั่งกระดิกปลายเท้าๆอยู่ฝากโน้นชัวร์

        “ ด่าอะไรกูเตี้ย”

        เหมือนว่าฝ่ายนั้นจะจับสังเกตคำพูดของเนมได้ ไอ้นั่นถึงสวนกลับนิ่งๆ

        “ ไม่ได้เตี้ย”

        “ เหรออออ”

       ไอ้โอ๊คลากเสียงยาวซ้ำยังยืดตัวขึ้นพร้อมกับมองสำรวจเนมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วผิวปากหวืว  “ สูงมาก สูงกว่าตอหม้อนิดนึง”

        “ ไอ้โอ๊ค”

       หมอนอิงในมือเนมปลิวไปทางไอ้โอ๊คแทบจะทันทีดีว่าฝ่ายนั้นเบี่ยงหลบทันก่อนจะก้มลงไปคว้าหมอนดังกล่าวมาแกว่งไปมาท่าทางกวนไม่น้อย ยิ่งทำให้เพื่อนตัวน้อยของผมฮึดฮัดไปกันใหญ่

        “ เฮ้ยเดี๋ยวๆ”

        ผมซึ่งนั่งฟังอยู่นานยกมือห้ามก่อนที่ไอ้นีออนข้างตัวนี่จะกระโจนใส่ไอ้ตัวดีที่ลอยหน้าลอยตาอยู่ฝั่งโน้น ไอ้ตัวเล็กข้างตัวที่ก็ไม่ดูตัวเองเลยตัวกระเปี๊ยกแค่นี้จะไปไฟว้กับตึกอย่างไอ้โอ๊ค

        “ อะไรของพวกมึงเนี่ย มาถึงก็แง่งๆใส่กันเลย ตกลงนี่มาเยี่ยมกูหรือมาเปลี่ยนที่ทะเลาะกัน ฮึ”
เนมกระแทกตัวนั่งลงที่โซฟาก่อนจะสะบัดหน้าพรืด หน้าขาวๆของมันงอเป็นจวัก

        “ พวกมึงทะเลาะอะไรกัน”

        “.......”

        โอ๊คมันแค่ยักไหล่ไม่ตอบอะไร ผมเลยหันมาถามเนมซึ่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่ข้างๆ มันทำแก้มพองไม่พูดไม่จาเหมือนกันผมเลยโยกศีรษะมันอย่างเคยชิน เพราะเวลามันงอนหรือไม่พอใจถ้าง้อด้วยวิธีนี้มันจะหายโกรธแทบจะทันที

        “ เป็นอะไรฮึ”

        “ ก็..”

       ผมขยับตัวตรงๆเหมือนตั้งใจฟังในสิ่งที่มันพูด ขณะที่ไอ้โอ๊คทำท่าแคะหูได้อย่างโครตกวน ผมส่ายหน้าขำๆมองคนโน้นทีคนนี้ที

       “ ก็ป๊าอ่ะ”

       ป๊าในที่นี้คือพ่อมันครับ ครอบครัวเนมมันมีเชื้อสายจีนตัวมันถึงออกมาขาวจั๊วได้ขนาดนี้

       “ ก็ตั้งแต่ขับรถชนฟุตบาทตอนนั้นป๋าไม่ให้กูขับรถอีกเลยอ่ะ”

       อ๋อ ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะรู้ดีว่าป๊าม๊ามันหวงมากยิ่งเป็นลูกคนเล็กซ้ำยังอ้อนแอ้นโอโมะขนาดนี้พ่อแม่ที่ไหนจะปล่อยให้ไปไหนมาไหนคนเดียวได้ล่ะ

       “ แล้วไงวะ”

       “ ก็..” มันทำเสียงฮึดฮัดก่อนจะมองเลยไปยังคู่กรณีที่นั่งเล่นมือถืออยู่ “ กูต้องไปไหนมาไหนกับไอ้หมอนั่นอ่ะดิ” ปากน้อยๆยื่นไปทางนั้นอย่างไม่ชอบใจ

       “ ทำไมวะ”

       อันนี้ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมต้องไปไหนมาไหนกับไอ้โอ๊ค

        “ บอกไปสิว่าวันที่กูไปส่งมึงที่บ้าน บังเอิญว่าคุยกันไปมาเลยรู้ว่าป๊ามึงรู้จักกับพ่อกู บังเอิญว่าบ้านเราอยู่ซอยเดียว บังเอิญป๊ามึงเกิดไว้ใจกูให้ช่วยรับส่งมึงตอนไปมหาลัยด้วย  บังเอิญว่ามึงแม่งคุณหนูจะไปไหนทีต้องมีคนพาไป บังเอิญว่ามึงโดนยึดกุญแจรถ และบังเอิญว่ากูดันตบปากรับคำ”

       คำอธิบายเหยียดยาวจากคนที่เล่นมือถืออยู่ดังขึ้น ทำเอาผมกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว รู้จักกันมาตั้งนานผมก็นึกขึ้นได้ว่าบ้านพวกมันอยู่ใกล้กัน ว่าแล้วทำไมไอ้นีออนนี่ถึงได้หัวเสียนัก คงเพราะประกาศิตของป๊ามันซึ่งยากจะทัดทานทำให้เจ้าตัวต้องจำใจปฏิบัติตามสินะ

        “ เอาน่าเดี๋ยวผ่านไปสักพักป๊ามึงอาจใจอ่อนคืนกุญแจรถให้ก็ได้ ช่วงนี้ก็ไปไหนมาไหนกับไอ้โอ๊คมันก่อนให้ป๊ามึงสบายใจ”

       “ทำไมไม่ให้คนขับรถที่บ้านไปส่งวะ ป๊าแม่งคิดอะไรก็ไม่รู้” เนมมันบ่นน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ

       “ เค้ารู้ไงว่ามึงชอบหนีคนขับรถไปเอง แต่ถ้าไปกับกูมึงไม่รอดแน่”

       โอ๊คมันสวนขึ้นอย่างรู้ทันทำเอาฝ่ายนี้หน้าตูมยิ่งกว่าเดิม

        “ ก็กูไม่อยากไปกับกับมึงนี่”

        นี่ก็งอแงแบบเด็กอีก

        “ มึงก็ทำตัวให้คนอื่นเชื่อถือสิ ถ้าทำได้รับรองป๊ามึงปล่อยมึงแน่” โอ๊คมันพูดเสียงเรียบ “ ไม่ใช่ทำตัวง้องแง้งแบบนี้เมื่อไหร่เค้าถึงจะปล่อยมึง”

        “ พูดมาก”

        “ ก็ดีกว่าพูดไม่รู้เรื่องแบบมึง”

        ผมชักเวียนหัวกับพวกมันแล้ว ผมคลึงขมับไปมาพอดีกับที่เสียงออดที่หน้าประตูดังขึ้น ผมเลยปล่อยให้พวกมันทะเลาะกันให้พอใจก่อนจะหันไปสนใจเสียงออดที่ดังอย่างต่อเนื่อง

       ทันทีที่เปิดประตูออกก็เผยให้เห็นร่างสูงโปร่งของเพื่อนบ้านข้างห้องซึ่งตีสีหน้านิ่งอยู่เบื้องหน้า ผมเปิดยิ้มกว้างทักทายขณะที่อีกฝ่ายแค่ยักไหล่ก่อนจะมองสำรวจแขนและหัวเข่าซึ่งได้รับบาดเจ็บ

         “ ดูดีขึ้นกว่าเมื่อวานนี่”

         “ จะชมว่าผมหล่อก็พูดตรงๆก็ได้ครับ”

         หมอปายพ่นลมหายใจแรงๆจนผมเผลอขำออกมา หมอทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วหันไปมองข้างหลังตัวเองบ่อยๆ

        “ กูมาทำแผลให้ ขอเข้าไปหน่อย”

        หมอหันไปมาข้างหลังอีกครั้ง คราวนี้ผมว่ามันชักจะแปลกๆเหมือนว่าหมอกำลังหนีอะไรบางอย่าง

        “ มีอะไรครับหมอ”

        “ ให้กูเข้าไปก่อนแล้วจะบอก”

        ผมกระตุกยิ้มมุมปากเอาแขนข้างที่ไม่เจ็บของตัวเองยืนค้ำประตูเหมือนจะปิดทางเข้า หมอเหลือบตามองผมอย่างเซ็งๆ

        “ หมอหนีอะไร”

        “......”

         ยังไม่ทันที่หมอจะได้ตอบเสียงเอ่ยเรียกชื่อหมอก็ดังมาแต่ไกล “ ปายคะ” หมอถอนหายใจแรงๆทั้งที่ยังไม่ปรากฎร่างเจ้าของเสียงผมก็พอเดาได้ว่าเสียงแบบนี้คงไม่พ้นแม่เลี้ยงวัยสาวของหมอปายเป็นแน่

         ผมยิ้มมุมปากมองอีกฝ่ายล้อๆขณะที่หมอแค่ชักสีหน้า

        “ หนีสาวนี่เอง”

        “ ตกลงจะให้กูเข้ามั้ย”

        เรายืนสบตากันนิ่งก่อนที่หมอจะก้าวถอยหลังแล้วเตรียมผละไปทางลิฟต์ แต่ผมคว้ามือหมอเอาไว้ทัน

        “ เดี๋ยวสิหมอ”

        “.......” หมอมองข้อมือที่ถูกผมกุมนิ่งๆ แต่ผมก็ทำไม่รู้ไม่ชี้กระตุกข้อมือนั้นให้เข้ามาในห้อง “ ขี้งอนเหมือนกันนะเนี่ย”

        “ มึงพูดอะไร”

        “ ผมจะบอกว่า...” ผมดันหมอจนแผ่นหลังหมอชนกับประตูที่ผมดึงปิดก่อนที่แม่เลี้ยงสาวจะทันเห็น หมอมองผมนิ่งตอนที่ผมโน้มใบหน้าไปกระซิบข้างหูหมอเบาๆ “ ทำไมหมอขี้งอนจังครับ”

        “ โอ้ย”

        ผมสะดุดโหยงตอนที่หมอสะกิดแผลที่หัวเข่าอย่างไม่เบามือนัก แต่ก็ทำให้ผมเจ็บจนน้ำตาแทบเล็ด หมอกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะหรี่ตามองผม
 
       “ มึงนี่ก็ขี้สำออยเหมือนกันนะ”

       พูดจบหมอก็เดินเข้าไปในห้องผมทันที โดยที่ไม่รู้เลยว่าทิ้งให้คนข้างหลังอย่างผมกุมแผลยิ้มเหมือนเป็นบ้า

       “ อ้าวพี่หมอ”

       เนมร้องทักทันที่เห็นเพื่อนข้างห้องของผมไปทรุดตัวนั่งลงที่โซฟา

       “ ไงเนม”

        “ นี่พี่หมอ...”

        “ พี่มาล้างแผลให้เพื่อนเรา”

        “ อ๋อ”

        “ ไม่ยักกะรู้ว่าพี่หมอสนิทกับยิมด้วย” เนมถามพาซื่อ “ เห็นครั้งก่อนยังเหมือนจะทะเลาะกันอยู่เลย” ท้ายประโยคให้มามองผมกับหมอปายอย่างงงๆ

        “ นั่นมันเมื่อก่อน” ผมขยี้หัวเนม “ ตอนนี้ซี้กันแล้วจริงป่ะหมอ”

        “ เปล่า”

        หมอปายตอบหน้าตายจนเนมกับไอ้โอ๊คที่เพิ่งเดินออกจากโซนครัวหัวเราะร่วน ผมทำหน้ายุ่งส่วนหมอปายก็หัวเราะน้อยๆ
เดี๋ยวนะรู้ว่าเมื่อกี้หมอจะหัวเราะเพราะผมรึเปล่า ผมยิ้มน้อยๆก่อนจะจ้องเพื่อนข้างห้องที่ทำตัวเป็นกันเองกับเพื่อนทั้งสองข้างผมโดยเฉพาะกับไอ้โอ๊คที่เพิ่งรู้จักกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกถ้าไม่นับตอนเจอกันที่ร้านอาหารที่พี่หนึ่งพาไปเลี้ยง แต่ดันพูดคุยกันเป็นปกติต่างจากผมที่ใช้เวลาตั้งนานกว่าหมอจะยอมพูดดีๆด้วย

        ...หมอแม่ง...

        “ ทำหน้าอะไรของมึง”

        “ หืม”

        ผมหันไปทำหน้างงกับไอ้โอ๊ค

        “ กูว่าสายตามึงมองหมอปายแปลกๆว่ะ”

        “ ยังไง”

        “ ไม่รู้สิ มันเหมือนกับ...”

        ไอ้โอ๊คสบตากับผมนิ่งก่อนที่มันจะตบบ่าผมเบาๆ “ มึงรู้แก่ใจดีไอ้ยิม อย่าให้กูพูด”

        โอ๊คมันมองผมยิ้มๆ

         หลังจากจัดการกับอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วโอ๊คก็มันลากเนมไปมหาวิทยาลัยทันที  ดังนั้นตอนนี้จะเหลือแค่ผมกับหมอปาย  ผมนั่งหมอหมอที่กำลังเตรียมอุปกรณ์เพื่อทำแผลให้ผม มือเรียวที่สวมถุงมือป้องกันหยิบจับโน่นนี่อย่างคล่องมือเสร็จแล้วจึงหันมาทางผม

        “ ยื่นขามา”

        “ ครับ”

        “ เจ็บหน่อยนะ”

        หมอเอาสำลีไปชุบแอลกอฮอลแล้วมาเช็ดรอบๆแผลอย่างเบามือ ใบหน้าคมคายดูตั้งใจจดจ่อกับงานตรงหน้ามากจนผมเผลอยิ้มออกมา เป็นจังหวะที่หมอเงยหน้าขึ้นมาเราจึงได้สบตากัน

       “ อะไร” หมอถาม

       “ ที่มาทำแผลให้เพราะหมอเป็นห่วงผมใช่มั้ย”

       “.......”

       หมอนิ่งไปก่อนจะลงล้างแผลต่อ

       “ หมอ” ผมจ้องต้นคออีกฝ่ายที่ก้มๆเงยๆอยู่กับแผลผม “ ผมรู้สึกดีมากนะ”

       หมอชะงักมือทันที

        “ แปลกเนอะที่ผมดันรู้สึกดีกับใครสักคนทั้งที่เราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน”

        “ มึงมันคนใจง่ายไง”

        หมอเปิดปากพูดกับผมเป็นครั้งแรกหลังจากเงียบอยู่นาน

       “ มีทางรักษามั้ย”

       “ อะไร”

       หมอเงยหน้าขึ้นมาถามผมอีกครั้ง

      “ อาการใจง่ายทางการแพทย์มีทางรักษามั้ยหมอ แล้วต้องใช้ยาแบบไหนรักษาถึงจะหาย”

        คราวนี้หมอหยุดมือที่ล้างผมแล้วเงยหน้าที่มองสบตาผมนิ่ง ในความเรียบเฉยในแววตาคู่นั้นของหมอมีประกายประหลาดจนผมเผลอโน้มใบหน้าลงไปใกล้มากขึ้น

       ใกล้จนระยะห่างระหว่างเราช่างบางเบา

       ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจอีกฝ่าย

        “ ไม่มีหรอกยาแบบนั้น” หมอถอนหายใจแรงๆก่อนจะเบือนหน้าหลบ

        “ แต่ผมว่ามี..”

        “......”

        “ เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจก็ต้องใช้หัวใจรักษาสิ หมอว่ามั้ย”

        “ มึงมันเพ้อเจ้อ”

        หมอสถบในลำคอก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำแผลให้ผมต่อ

        “ หมอ”

        “ ถ้ามึงพูดมากระวังจะเจ็บแผลกว่าเดิม”

        ผมอมยิ้มตอนที่หมอก้มหน้าหลบตาผม ไม่รู้สิผมว่าในอกผมมันอุ่นๆและอิ่มเอิบยังไงไม่รู้ มันรู้สึกดีมากดีจนถึงขนาดที่ผมลืมอะไรไปบางอย่าง

         “ เสร็จแล้ว”

       หลายนาทีที่ยาวนานมีเพียงความเงียบและเสียงอุปกรณ์ล้างแผลจนสิ้นสุด หมอเก็บของเมื่อการล้างแผลเสร็จสิ้นขณะที่มองได้แค่นั่งมองหมอนิ่งๆ

       “ หมอ”

       “ อะไร”

       “ ขอบคุณครับ” ผมยิ้มให้อีกฝ่ายแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาแค่หมอปายพยักหน้ารับ

       “ เสร็จแล้วกูขอตัว”

        “ ผมเดินไปส่ง”

        “ อืม”

        ผมเดินตามแผ่นหลังของหมอไปถึงหน้าประตู จังหวะที่หมอกำลังกำลูกบิดเปิดออกผมก็ยื่นมือไปคว้าข้อมือหมอเอาไว้ หมอทำหน้าสงสัยก่อนจะพยายามบิดข้อมือออกจาการเกาะกุมของผม

       “ อะไรของมึง”

        ผมส่ายหน้าก่อนจะค่อยๆปล่อยข้อมือหมอปายจนฝ่ายนั้นเปิดประตูแล้วเดินเข้าลิฟต์ไปเรียบร้อยแล้ว ผมก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

        “ หมอปาย” ผมพูดคนเดียว “ ผมว่าผมแม่งเป็นโรคใจง่ายแล้วว่ะ”

         ผมกระซิบกับตัวเองเหมือนว่าคำเหล่านั้นจะถึงส่งผ่านไปถึงหมอปาย






*********************************************





      [ปาย]






      “ ปาย”

      “ หืม”

      “วันนี้ดูเหม่อๆนะ เป็นอะไรรึเปล่า”

       ผมส่ายหน้าปฏิเสธสีหน้าห่วงใยของเพื่อนสนิท หยกทำหน้าแคลงใจก่อนจะหันไปสนใจหนังสือตรงหน้า ผมถอนหายใจมองไปรอบๆเพื่อหาเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งซึ่งตั้งแต่เช้าจนถึงเดี๋ยวนี้ยังไม่เห็นอั้มเลย ผมเหลือบตามองหยกที่ทำเหมือนสนใจหนังสือตรงหน้าเสียเต็มประดาทั้งที่ก่อนหน้านี้มันก็เหลียวมองหาอะไรอยู่บ่อยๆ ไม่รู้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาอั้มมันเป็นยังไงบ้างเพราะตั้งแต่มันโทรหาเมื่อคืนแล้วผมไม่รับสายมันก็ไม่โทรหาผมอีกเลย

        ยอมรับว่าผมเองก็แคร์มันไม่น้อยอย่างที่เคยบอกว่ามันเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นทุกช่วงเวลาทุกข์สุขที่ผ่านมาผมมีอั้มเคียงข้างอยู่ตลอดและเพราะเราสนิทกันมากมันเลยทำให้ผมไม่เอะใจสักนิดว่ามันคิดกับผมเกินกว่าคำว่าเพื่อน จนวันที่หยกเข้ามาถึงทำให้เห็นการเปลี่ยน ทำให้มันกล้าแสดงอาการบ้างอย่างออกมาทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีให้เห็น

       ผมถอนหายใจครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันตอนที่เห็นหยกหยิบมือถือขึ้นมามองแล้ววางไว้ดังเดิมเป็นเช่นนี้หลายรอบจนเจ้าตัวฟุบหน้าไปกับกองหนังสือ ท่าทางแบบนี้ทำให้ผมยิ่งเห็นใจเพื่อนตัวขาวคนนี้ ถ้าหากว่าเพื่อนผมใจตรงกันสักนิดทุกอย่างคงจะง่ายขึ้น

       “ ปาย”

       “ หืม”

        หยกมันเรียกผมเสียงเบามือบางเอื้อมมากุมข้อมือผมเอาไว้ “ มึงไม่คิดจะเปลี่ยนใจบ้างเหรอ”

       “ เรื่องอะไร”

       แววตาสวยวาววับราวกับเคลือบไปด้วยหยดน้ำ แม้มันจะไม่เอ่ยออกมาทันทีแต่ผมก็พอจะเดาได้ว่ามันหมายถึงอะไร

       “ ถ้ากูจะขอร้อง”

       “ หยก” ผมโยกศีรษะ “ เรื่องของหัวใจบังคับกันไม่ได้หรอก”

       “ ต่อให้มึงขอร้องให้ตายยังไงกูก็เปลี่ยนใจไม่ได้ ถ้ากูจะรักอั้มกูคงรักมันไปนานแล้ว” มันยิ้มเจื่อนๆก่อนจะพยักหน้ารับอย่างยอมจำนน

       “ อย่าขอร้องกูแบบนี้อีก อย่าทำร้ายหัวใจตัวเองแบบนี้ มึงความสุขจริงๆเหรอถ้าสุดท้ายความพยายามของมึงสำเร็จ อย่าโกหกตัวเองว่ามึงมีความสุขทั้งที่กำลังทำหน้าจะร้องไห้แบบนี้”

         หยกก้มหน้านิ่งแล้วมันก็ตัวสั่นผมจึงรวบมันมากอดเอาไว้ “ แค่ยอมรับความจริงและเผชิญหน้ากับมัน ถึงมันจะเจ็บปวดแต่พวกเราจะผ่านมันไปได้ดีกว่าต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ แล้วผลลัพธ์สุดท้ายพวกเราก็เจ็บกันทุกฝ่าย”

        “ เห็นแก่ตัวบ้างเถอะหยก อย่าทำเพื่อคนอื่นนักเลย”

        ผมกอดหยกอยู่นานจนเจ้าตัวผละออกแล้วฝืนยิ้มให้ถึงจะเป็นยิ้มที่ดูจืดจางแต่ยังแจ่มใส ในตอนนั้นเองที่ผมเห็นเงาของคนในหัวข้อสนทนามาหยุดอยู่เบื้องหน้า

       “ อั้ม”

       หยกก้มมองเท้าตัวเองขณะที่ผมยิ้มบางๆให้อีกฝ่าย

       “ คุยกันหน่อยสิ”

       อั้มมันพูดขึ้นหางตามันมองหยก ไม่ใช่แววตาที่ดุดันเหมือนเคย ผมฉุดมือหยกให้ลุกตามอั้มไปยังสวนหย่อมหน้าโรงพยาบาล หยกยังคงก้มหน้ามองเท้าเช่นเดิม ขณะที่ผมและอั้มยืนพิงขอบเสากันอยู่คนละมุม

       เนิ่นนานที่พวกเราสบตากันก่อนที่อั้มมันจะเปิดปากพูดเป็นคนแรก

       “ ขอโทษ”

       ผมหันไปสบตากับหยกแล้วฝ่ายนั้นก็มองไปยังอั้มแวบนึงแล้วก้มมองปลายเท้า

        “ ขอโทษที่ทำให้พวกมึงไม่สบายใจ” อั้มมันพ่นลมหายใจแรงๆ “ ขอโทษที่กูงี่เง่าและเผลอทำร้ายมึง” ท้ายประโยคมันผินใบหน้าไปทางหยก

        เพื่อนตัวขาวของผมกุมมือตัวเองแน่น

        “ หยก”

        “.......”

        อั้มไปทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆหยก “ กูเหมือนผู้ร้ายที่คอยจ้องแต่จะทำร้ายมึงสินะ”

        หยกส่ายหน้าปฎิเสธแต่ใบหน้ายังก้มต่ำ

        “ อย่าร้องไห้เพราะกูอีกเลย” น้ำเสียงของอั้มดูนุ่มขึ้นมันมองไปที่หยกแล้วลูบศีรษะฝ่ายนั้นเบาๆ “ กูทำมึงเจ็บขนาดนี้อย่ารู้สึกดีๆกับกูอีกเลย กูมันคนใจร้ายต่อให้มึงทำดีขนาดไหนกูก็ตอบแทนความรู้สึกของมึงไม่ได้”

       อั้มมองมาที่ผมแล้วยิ้มจางๆให้เป็นรอยยิ้มที่ดูเศร้าแปลกๆ

       “ คนไม่รักทำดีให้ตายก็ได้แค่ทำ”

        ผมเบือนหน้าหนีเพราะคำๆนั้นเหมือนว่าอั้มมันกำลังพูดกับผม ความรู้สึกที่มันส่งมาให้มากมายเกินกว่าแค่คำว่าเพื่อน เป็นความรู้สึกลึกซึ้งที่ทั้งรักและเจ็บปวดในคราเดียวกัน

        หยกมันร้องไห้เงียบๆเป็นครั้งแรกที่อั้มมันกอดหยก มือหนาของมันลูบไล้แผ่นหลังหยกอย่างแผ่วเบา “ กูใจร้ายใช่มั้ยหยก เอาความรู้สึกดีๆที่มีค่าของมึงเก็บไว้ให้คนที่คู่ควรเถอะ กูมันไม่คู่ควรหรอก”

        เพื่อนตัวขาวของผมเริ่มสะอื้นมันกำชายเสื้อของอั้มแน่นก่อนที่มันจะเงยหน้าขึ้น

        “ กูขอเวลาได้มั้ย”

        หยกพูดแล้วสะอื้นเป็นห้วงๆ “ อย่าเพิ่งไล่กูไปไหน กูขอแค่ได้อยู่ข้างๆมึง ไม่นานหรอก ไม่นานกูสัญญา”

        “ กู.... กูจะพยายามกลับไปรู้สึกกับมึงแค่...แค่เพื่อน”

         อั้มมันพยักหน้ารับก่อนจะเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าหยกเบาๆ ผมมองภาพตรงหน้าแล้วอดน้ำตาคลอไม่ได้ ผมรู้ดีว่าตอนนี้ทั้งคู่เจ็บปวดมากแค่ไหน เป็นครั้งแรกที่พวกมันเปิดอกคุยกัน

         “ กินข้าวแล้วดูแลตัวเองบ้างหยก มึงผอมลงมากรู้ตัวมั้ย”

         พอจบประโยคนั้นของอั้ม หยกซึ่งกลั้นสะอื้นอยู่นานก็ปล่อยโฮออกมาทันที ผมรู้ดีว่ามันทั้งเจ็บและน่ายินดีแค่ไหน

         “ ขอโทษ”

         อั้มบอกกับหยกอีกครั้ง

         “ ขอโทษ”

        อั้มมองมาที่ผม และผมเห็นความจริงใจที่มันถ่ายทอดออกมา ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆพวกมันแล้วโอบบ่าของคนทั้งสองไว้ ถึงจะเจ็บปวดแต่อย่างน้อยพวกเราก็ทำดีที่สุดแล้วที่พยายามประคับประคองความสัมพันธ์ของพวกเราให้ยาวนาน
 
         ผมรู้ว่าผมได้เพื่อนรักทั้งสองคนกลับมาแล้ว และคาดหวังว่าอีกไม่นานมันจะดีกว่านี้



    .

    .


         ผมเดินทอดน่องจากลิฟต์ของคอนโดมาเรื่อยๆวันนี้ผมเหนื่อยกับการเรียนและสอบทั้งวันถึงอย่างนั้นผมก็รู้สึกว่าในใจมันอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้ดีว่าการที่คนเราจะตัดใจมันต้องใช้เวลาไม่ใช่แค่วันสองวันเท่านั้นถึงจะทำได้ แต่เมื่อเริ่มที่จะลงมือทำก็ไม่นานหรอกที่ผลลัพธ์มันจะสัมฤทธิ์ผล

        แต่ความรู้สึกอิ่มเอมของผมมีอันต้องสะดุดลงเมื่อล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วไม่เจอกุญแจและคีย์การ์ดห้องพัก ผมคลึงขมับอย่างจนใจเมื่อนึกขึ้นได้ว่าผมเพิ่งเปลี่ยนกุญแจคอนโดใหม่หมดเพราะก่อนหน้านี้ไอลดาแอบเอากุญแจชุดเก่าไปปั๊มทำให้หล่อนสามารถเข้าออกคอนโดผมได้อย่างง่ายดาย แล้วเมื่อเช้าผมรีบไปหน่อยเลยลืมกุญแจคอนโดที่ทำมาใหญ่ไว้ข้างใน ครันไปขอนิติบุคคลข้างล่างให้ตามช่างมาช่วยเปิดป่านนี้คงกลับบ้านไปหมดแล้ว

        ผมยืนพิงประตูห้องตัวเองแล้วครุ่นคิดหาทางออกก่อนจะมองเลยไปยังห้องข้างๆซึ่งปิดเงียบ คาดว่าคนป่วยคงพักผ่อนไปแล้วมั้ง ผมยืนพิจารณาหมายเลขห้องอยู่นานก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อรับรู้ถึงแรงสะกิดที่หัวไหล่

       “ หมอมายืนทำอะไรตรงนี้ครับ”

       คนป่วยที่ผมคาดว่ามันน่าจะพักผ่อนยืนยิ้มเผล่อยู่เบื้องหลังซ้ำมันใช้มือข้างที่ไม่เจ็บหอบอะไรสักอย่างอยู่

       “ แล้วมึงอ่ะไปไหนมา”

       ผมถามกลับไม่พอใจนิดๆเมื่อรู้ว่าดึกป่านนี้มันยังไม่พักผ่อนอีก

       “ อ๋อ ผมไปเอาของให้น้องสาวครับ ว่าแต่ผมแล้วหมออ่ะมายืนจ้องประตูห้องผมทำไมเนี่ย” มันหรี่ตามอง “ หรือว่าหมอคิดถึงเจ้าของห้อง”

        ผมเบือนสายตามองบนเป็นสัญลักษณ์ว่าอืมระอามัน และแทนที่คนถูกว่าจะรู้สึกอะไรมันกลับหัวเราะขำซะได้

       “ กูลืมกุญแจห้อง”

       “ หืม”

       มันทำหน้าสนใจ

       “ งั้นคืนนี้หมอก็เข้าห้องตัวเองไม่ได้น่ะสิ”

       “ เออ”

      มันยิ้มกริ่มก่อนจะล้วงกุญแจและเสียบคีย์การ์ดเปิดประตูห้องตัวเองพร้อมกับผายมือไปในห้อง “ งั้นคืนนี้หมอนอนห้องผมแล้วกันนะครับ”

      ผมเลิกคิ้วมองมันตรงๆกับท่าทางมัดมือชกของมัน

      “ เข้ามาสิหมอ”

      “ ใครบอกว่ากูนอนห้องมึง”

       ผมถามกวนๆ

       “ หมอกลัวผมเหรอครับ”

        ใบหน้ายียวนของมันปรากฏขึ้นทันที แววตาคู่คมวิบวับเหมือนกำลังล้อเลียนผมอยู่ทำให้รู้สึกยอมแพ้ไม่ได้ยังไงยังงั้น

       “ ใครกลัวมึง”

       “ หมอไง”

        เราจ้องตากันอยู่พักนึงก่อนที่ฝ่ายนั้นจะถอยหลังเปิดทางให้ผมก้าวตามมันเข้าไปในห้อง

        “ มองอะไร”

        มันเดินไปวางของที่กลางห้องก่อนจะใช้มือข้างที่ไม่เจ็บค้ำโซฟาแล้วมองผมนิ่งๆ

        “หมอไม่กลัวผมจริงๆเหรอ”

        “ทำไมกูต้องกลัวมึง”

        “ ก็” มันพูดแค่นั้นก่อนจะเดินมาใกล้ผมแล้วดันให้แผ่นหลังผมชนกับกำแพง “ ก็กลัวจะเผลอใจให้ผมไง”

        มันยิ้มกว้างแววตาเปล่งประกายเวลามองมา ท่าทางแบบนั้นทำให้ผมรู้สึกแปลกๆก่อนจะยันแผ่นอกมันเอาไว้แล้วพลิกฝ่ายนั้นให้หลังพิงกำแพงแทนที่ผม

        “ ใครกันแน่ที่จะเผลอ”

        มันยิ้มน้อยแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ จนแววตาของเราอยู่ในระดับเดียวกัน

        ในวินาทีผมดันนึกถึงภาพที่เผลอจูบกันตอนที่ผมเมา

         จูบกันงั้นเหรอ แค่คิดก็รู้สึกหวิวๆในใจชอบกล


         ...Rrrrrr...

        เสียงโทรศัพท์ของมันดังขึ้นในความเงียบในจังหวะที่แค่นิดเดียวริมฝีปากเราจะสัมผัสกัน เรามองหน้ากันนิ่งจนเสียงนั้นมันเงียบลง มันยิ้มกริ่มก่อนจะช้อนสายตามองผม

        “ ต่อมั้ยหมอ”

        ผมส่ายหน้าก่อนจะเบี่ยงตัวหลบเมื่อเสียงโทรศัพท์นั่นดังขึ้นอีกครั้ง มันยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินไปรับโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะวางของตอนนั้นเองที่เพิ่งสังเกตว่าบนโต๊ะนั้นมีรูปผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งตั้งเด่นหรา แปลกที่ผมเองก็ไม่เคยสังเกตเลย ผมถอนหายใจอย่างพอจะเข้าใจอะไรบางอย่างยิ่งตอนที่มันจ้องหน้าจอโทรศัพท์ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

        มันหันมามองผมแล้วพยายามยิ้มให้ ทำไมตอนนั้นผมถึงนึกเปรียบเทียบตัวเองกับแม่เลี้ยงอย่างไอลดา

        ทำไมผมรู้สึกอึดอัดเหมือนหายใจไม่ออก

        ทำไมกัน







หายไปจัดการเรื่องทุนวิจัยค่ะ ตอนนี้เรียบร้อยแล้วน้า
จะพยายามมาอัพบ่อยๆแล้วน้า ตอนล่าสุดนี่มันอึมครึมแปลกๆเนอะ ฮ่าๆๆๆ
อ่านแล้วขอสักหนึ่งคอมเมนท์นะคะ ถือเป็นกำลังใจให้กับคนเขียนด้วยค้า:hao5:
เจอกันตอนหน้าค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-08-2016 18:17:44 โดย [Karnsaii] »

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ยิมเอาแต่ป้อปายด้วยคำพูด
มันดูเหมือนว่าถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
จนลืมไปว่าตัวเองมีห่วงผูกคออยู่
ยิมขอร้องล่ะ...ไปเคลียร์เรื่องตัวเองให้จบก่อนเถอะ..นะ
สงสารปายอ่ะ

ออฟไลน์ asakurafy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อุ๊ย! หมอหวั่นไหว  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ยิมนายรีบเขี่ย เอ๊ย เคลียร์แฟนเก่าก่อนเลย ถ้าคิดจะจีบหมออ่ะ :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เค้ามีความรู้สึกดีดีให้กันแล้วใช่มั้ย :mew3:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
จัดการแฟนเก่าได้ละยิม,,,

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ปายยิมกลับมาแร้นนนนนน :heaven :heaven :heaven

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ก้างชิ้นโตสินะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เคลียร์ให้เรียบร้อย

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เคลียทั้งสองฝ่ายแล้วคบกันเลยไหมหมอ  :hao3:

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
มนุษย์แฟนเก่า

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อ่านแล้วสงสารหยกจัง :sad4:

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
จะฟินก็ฟินไม่สุด เพราะนังยิมมีแฟนแล้ว ถ้ายังไม่เคลียร์ก็อย่ามาเต๊าะหมอปายนะ ไม่อยากให้หมอเสียใจ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด