บทที่ 16
ตอนนี้เป็นเวลาดึกเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว สิตางศุ์และรัชพลยังคงอยู่ในโรงบ่ม หลังจากบอกรักกันผ่านจูบที่แสนหวานนั้นแล้วทั้งสองคนก็นั่งกันอยู่คนละมุม ไม่มีคำพูด ไม่มีอะไรไปมากกว่าการที่สิตางศุ์กำลังนั่งหน้าแดงสลับกับร้อนๆหนาวๆตลอดเวลา เกิดมาเพิ่งจะเคยจูบกับใครซักคน มันเป็นความรู้สึกที่แปลกสำหรับเขา สิตางศุ์ทำตัวไม่ถูก มือไม้ไม่รู้จะไว้ไหน และที่สำคัญเขาไม่รู้จะพูดอะไร
“เอ่อ... มันดึกแล้ว กลับกันดีมั้ย” รัชพลเป็นคนเริ่มประโยคก่อน เขาหันมามองสิตางศุ์ที่นั่งนิ่ง
“อะ...อื้ม” ตอบเพียงแค่นั้นก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปก่อนรัชพล เขายังไม่อยากสบตากับรัชพลตอนนี้ เขากำลังรู้สึกเขิน ถ้าเกิดมองหน้ารัชพลตอนนี้เขาคงทำตัวไม่ถูกไปมากกว่านี้แน่ๆ
“รอผมด้วยสิคุณสิตางศุ์” รัชพลรีบเดินมาข้างๆ มือหนานั้นถือวิสาสะจับมือของสิตางศุ์ไว้แน่น
“คุณรัช” สิตางศุ์ตกใจเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองรัชพลที่ยิ้มแป้น ให้ตายเถอะ เขาจะทำยังไงดี ควรเริ่มต้นคุยกับรัชพลยังไงดี
“คุณเขินผมเหรอ” รัชพลยิ้มกริ่มทำเอาสิตางศุ์มองค้อนแทบจะไม่ทัน รู้แล้วยังจะมาพูดอีก
“เปล่าซักหน่อย” สิตางศุ์ตอบ แต่ในใจนั้นกลับตรงข้ามและรัชพลก็เหมือนจะรู้ดีเสียด้วย
“หึ... ไม่ต้องเขินผมหรอกสิตางศุ์” รัชพลเดินมาหยุดตรงหน้าของสิตางศุ์แล้วจับมือทั้งสองข้างนั้นขึ้นมา เขาก้มมองมือนั้นแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ “ผมก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง แต่ตอนนี้ทั้งคุณและผมเองก็มีความรู้สึกดีๆที่ไม่ต่างกัน จะเป็นอะไรมั้ยถ้าผมอยากจะมีคุณเป็นคนรัก” ประโยคสุดท้ายเขาเงยหน้าขึ้นสบตากับสิตางศุ์
สิตางศุ์นิ่งงัน ใบหน้าขึ้นสีกว่าเดิม เขากำลังถูกขอเป็นแฟนจากรัชพลอย่างนั้นเหรอ เป็นคนรักก็ต้องเป็นแฟนกัน จากผู้ชายคนหนึ่ง ที่เขาเพิ่งรู้จักได้ยังไม่ถึงสองเดือนเต็มด้วยซ้ำ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วเขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเขาเองก็อยากจะมีรัชพลเป็นแฟนไม่ต่างกัน
“อย่านิ่งสิครับ ผมไม่อยากโดนปฏิเสธเหมือนคราวก่อนอีกแล้ว ผมรู้ว่าคุณมีเรื่องต้องคิดมาก แต่ผมอยากให้คุณตอบในฐานะสิตางศุ์ที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีความทรงจำแย่ๆ ไม่มีเรื่องราวที่ต้องกังวลใจ มีแค่สิตางศุ์ตรงนี้ และรัชพลคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าคุณ ใช้ความใจของคุณตอบคำถามของผม”
คำพูดที่จริงจังนั้นทำให้สิตางศุ์ครุ่นคิด เขาหลับตาลงช้าๆ เพื่อทิ้งความเป็นสิตางศุ์ที่เคยมี ก่อนจะลืมตาขึ้นก็เจอรัชพลอยู่ตรงหน้า รัชพลคนเดิมที่ยังยืนอยู่เสมอเมื่อเขาไม่มีใคร
“ผมรู้สึกดีกับคุณแต่ผมไม่มั่นใจว่ามันเรียกว่ารักได้รึเปล่า เพราะผมไม่เคยสัมผัสกับคำนั้น ผมแค่รู้สึกดีที่มีคุณอยู่ใกล้ๆ คุณเหมือนอาทิตย์ในยามเช้า เหมือนแสงจันทร์ในค่ำคืนที่มืดมิดนั่นก็คือใจของผม สิตางศุ์คนนี้ไม่เคยมองว่าโลกนี้สดใส นั่นก็ก่อนที่จะได้มาอยู่ที่นี่ ผมเคยไม่ตอบรับความรู้สึกของคุณนั่นเป็นเพราะตัวของผมเองที่ยังคิดว่าไม่ดีพอ มันไม่ใช่เพราะคุณ ผมไม่รู้ว่าต่อจากนี้มันจะเป็นยังไง แต่ถ้าถามใจของสิตางศุ์ มันยินดีที่จะเรียนรู้ไปพร้อมกับรัชพล” สิตางศุ์ตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
หัวใจที่เคยถูกทำร้ายของรัชพลนั้นเหมือนถูกรักษาให้หายดีอีกครั้งจากคนคนเดียวกัน ร่างสูงโผเข้ากอดคนตัวเล็กแน่นจนสิตางศุ์แนบชิดไปกับอกนั้น สิตางศุ์ซบหน้าลงกับไหล่กว้างและหลับตาลง ไม่มีครั้งไหนที่หัวใจของเขาได้ปลดปล่อยเท่าครั้งนี้เลย
“ขอบคุณนะสิตางศุ์ ขอบคุณ”
อีกด้านหนึ่งของไร่น้ำริน ที่บ้านรักษ์นที ภุมรินและป้าจันยังคงไม่นอน เมื่อสิตางศุ์ไปตามรัชพลนานขนาดนั้นแล้วยังไม่กลับมา ภุมรินเป็นห่วงทั้งสิตางศุ์และพี่ชายตัวเอง ไม่รู้ว่าจะคุยกันรู้เรื่องไหม รัชพลถึงจะเป็นคนไม่อะไรแต่เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นแล้ว รัชพลจะเป็นคนที่จริงจังกับเรื่องนั้นๆเสมอ และเมื่อรัชพลได้อารมณ์ร้อนขึ้น เมื่อนั้นความหายนะจะมาเยือนทุกคน! เรื่องนี้คงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนที่เคยเห็นกันมาตั้งแต่เด็กอย่างภุมริน
“ไปคุยกันยังไงเนี่ย จนดึกป่านนี้แล้วยังไม่กลับ อย่างน้อยกลับมาแค่พี่ตางก็ยังดี” ภุมรินบ่นเมื่อยังไม่เห็นใครโผล่เข้ามาในบ้านซักคน
“รออีกหน่อยเถอะค่ะ ถ้าดึกกว่านี้เดี๋ยวเราค่อยไปนอน คุณรัชคงไม่ทำอะไรคุณสิตางศุ์หรอกค่ะ” ป้าจันพูด เธอเองก็เป็นกังวลไม่ต่างกัน คุณรัชของเธอนั้นน้อยครั้งนักจะเป็นแบบนี้
“หวังว่าพี่รัชคงไม่เลือดขึ้นหน้าต่อยพี่ตางของรินหรอกนะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณริน คุณรัชเธอชอบคุณสิตางศุ์ไม่ใช่เหรอคะ คงไม่ทำร้ายหรอกค่ะ”
“ว่าไปนั่นป้าจัน ขนาดพี่ตะวันที่เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งนาน พี่รัชยังต่อยหยอดน้ำข้าวต้มตั้งหลายวัน” ยิ่งพูดภุมรินก็ยิ่งคิด ขนาดพี่ตะวันเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยยังต่อยคว่ำมาแล้ว พี่รัชเวลาโมโหไว้ใจได้ที่ไหน
“ก็ไอ้ตะวันมันแอบพาน้องพี่ไปนอนกกไง โดนแค่นั้นยังน้อยไปเลย” เสียงที่ดังมาจากประตูทำให้ภุมรินหันขวับ เห็นรัชพลเดินมาพร้อมกับสิตางศุ์ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างจะยิ้มแย้ม ซึ่งแตกต่างจากตอนที่ออกไป ไปคุยกันอิท่าไหน
“พี่รัช คุยกันเสร็จแล้วเหรอ พี่ตางพี่รัชทำอะไรพี่บ้าง” ภุมรินเดินเข้าไปหาสิตางศุ์ที่ก้มหน้างุด สิตางศุ์หลบตาวูบกับคำถามนั้น รัชพลทำอะไรเข้าบ้างน่ะเหรอ จูบนี่นับด้วยรึเปล่า เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นก็หน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ
“พี่ไม่ทำอะไรคุณสิตางศุ์หรอก คุยกันเข้าใจแล้ว เรานั่นแหละทำไมยังไม่ไปนอน ดึกดื่นป่านนี้แล้ว ไปเลย ขึ้นไปนอนเดี๋ยวนี้ ป้าจันด้วยนะครับ” รัชพลรีบไล่ ก่อนที่ภุมรินจะซักไซ้ไปมากกว่านี้
“อะไรกันเนี่ยพี่รัช มาถึงก็ไล่ ไปนอนก็ได้ ส่วนพี่ก็เลิกงอนพี่ตางได้แล้ว ตาแกแช่โรงบ่มเอ้ย” พูดจบภุมรินก็วิ่งขึ้นไปข้างบนทิ้งให้รัชพลชักสีหน้าอยู่ข้างล่าง ไอ้ตัวเล็ก เดี๋ยวจะโดน
“ป้าไม่เกี่ยวนะคะ ป้าไปนอนแล้ว คนแก่นอนดึกๆมันไม่ดีค่ะ” พูดจบป้าจันก็ชิ่งหนีไปอีกคน
“จริงๆเลยคนบ้านนี้” รัชพลบ่นอุบ แล้วจึงค่อยๆหันมาหาสิตางศุ์ที่ยืนนิ่งอยู่
“เราเองก็ไปนอนกันเถอะ ดึกมากแล้ว” ระดับเสียงที่เปลี่ยนไปนั้นทำให้สิตางศุ์เริ่มใจเต้นอีกครั้ง ทีพูดกับน้องใช้เสียงเกือบตะคอก ทีกับเขากลับทำเสียงเล็กเสียงน้อย
“ครับ” สิตางศุ์รู้สึกว่าหลังจากที่ตัวเองพูดปัญหาชีวิตเสียยืดยาวมาตั้งนาน มาถึงตอนนี้ตัวเองกลับพูดได้น้อยลง สาเหตุสำคัญก็มาจากคนตรงหน้านี่แหละ
“ยังไม่เลิกเขินผมอีกเหรอสิตางศุ์ ผมเป็นแฟนคุณแล้วนะ ไม่ต้องเขินแล้ว” รัชพลว่า สิตางศุ์ค้อนใส่เล็กน้อย ชอบย้ำอยู่นั่น เขารู้แล้วว่าตอนนี้สถานะของเขาและรัชพลคืออะไร
“ถ้าจะให้ผมเลิกเขินคุณก็เลิกพูดซักทีสิคุณรัช ผมไปอาบน้ำนอนดีกว่า เบื่อจะคุยแล้ว” ความจริงนั้นสิตางศุ์อยากหนีจากสถานการณ์อันอบอวลไปด้วยรัชพลในเวลานี้ต่างหาก หันไปทางไหนหน้าของรัชพลก็ลอยคว้างไปหมด แถมตัวเป็นยังมาอยู่ตรงหน้าอีก
“ถ้าไม่รังเกียจก็ไปนอนห้องผมได้นะคุณสิตางศุ์” รัชพลตะโกนตามหลังอีกคนอย่างอารมณ์ดี
วันนี้แม้จะหัวเสียกับเรื่องอื่นไปบ้าง แต่ก็จบวันได้อย่างมีความสุขที่สุด ภุมรินที่บ่นว่าเขาไม่มีแฟนซักที ตอนนี้เขากำลังจะมีพี่สะใภ้ให้ภุมรินแล้ว
เช้าวันใหม่ของไร่น้ำริน วันนี้ทุกคนทำงานตามปกติ รัชพลกับสิตางศุ์เองก็ไปทำงานด้วย วันนี้เลือกที่จะไปสำนักงานแทนที่จะไปโรงบ่ม สิตางศุ์จัดการบัญชีส่วนของโรจน์ทั้งหมดและรวมถึงส่วนของรัชพลตามที่เคยทำด้วย เพราะฉะนั้นงานของเขาจึงเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย
รัชพลกลับเข้ามาในสำนักงานหลังจากออกไปข้องนอกกับคนงานเกือบทั้งเช้า เขาตั้งใจจะมาทานข้าวที่นี่กับสิตางศุ์แทนที่จะกินกับคนงานที่ท้ายไร่ เพราะตรงนั้นมีการเพิ่มรั้วหนามให้มากขึ้นกว่าเดิม นั่นคืองานที่รัชพลต้องลงไปทำในวันนี้
เมื่อมาถึงช่อดอกไม้เล็กๆก็วางตรงน้าของสิตางศุ์ มันเป็นดอกไม้ที่แตกต่างจากคราวที่แล้ว หลังจากเอาดอกไม้ประหลาดที่รัชพลรู้จักชื่อมาให้สิตางศุ์ก็โดนปฏิเสธมารู้ทีหลังว่าดอกหน้าวัว รัชพลนั้นหน้าแตกไม่น้อย วันนี้เลยเลือกแต่ดอกสวยๆ แถมยังถามชื่อดอกไม้จากคนงานมาเรียบร้อย ไม่มีพลาดเหมือนคราวก่อนแน่นอน
“ดอกปีบ?” สิตางศุ์ถาม ดอกปีบนั้นบ้านของคุณย่าปลูกอยู่สองสามต้น มันออกเกือบทั้งปี ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว
“ครับ ดอกปีบ มันขึ้นใกล้ๆน้ำตกน่ะ เลยเก็บมาให้ ดอกมันเล็กเลยมัดรวมๆกันมาให้ ผมเห็นมันหอมดี คุณน่าจะชอบ” รัชพลว่า รอบนี้เขาพยายามที่จะรอบคอบอย่างเต็มที่เพื่อจะได้ไม่ต้องผิดพลาดอีกหน แต่สิตางศุ์ก็ยังคงถอนหายใจเหมือนระอาเขาอยู่ นั่นทำให้รัชพลใจแป้ว
“นี่คุณรัช คุณไม่ต้องพยายามหาดอกไม้หรืออะไรมาให้ผมหรอก ทุกคนไม่ได้ชอบดอกไม้หรอกนะ โดยเฉพาะผู้ชายอย่างผม แค่ความจริงใจของคุณเท่านั้นก็พอแล้ว” สิตางศุ์ยืนขึ้นแล้วเดินไปตรงหน้ารัชพล เขาจ้องมาดวงตาของรัชพลที่ตกลู่เหมือนเจ้าตูบโดนดุ อะไรทำให้รัชพลคิดว่าเขาชอบดอกไม้กัน
“ก็เห็นไอ้ก้องมันบอกว่าจะจีบสาวต้องใช้ดอกไม้” รัชพลพูดตามความจริง ไอ้ก้องเป็นคนบอกเขาเอง มันใช้จีบเด็กที่โรงเรียนประจำ
“คุณไปฟังอะไรก้องมันมากคุณรัช ผมเป็นผู้ชายนะ ไม่ชอบอะไรหยิบย่อยแบบนี้หรอก เฮ้อ... ไปทานข้าวกันดีกว่าครับ” สิตางศุ์ตัดบทสนทนาก่อนจะเดินนำรัชพลออกไปข้างนอกที่ตอนนี้คนงานคงตั้งวงเพื่อทานข้าวกลางวันกันแล้ว
รัชพลเดินตามไปอย่างคอตกๆ เมื่อไปถึงก็เจอคนงานกำลังล้างไม้ล้างมือเพื่อทานอาหารกลางวันกันแล้ว ก้องที่เห็นทั้งสองคนก่อนเลยทักขึ้น
“อ้าว นายมาแล้ว มาเลยครับ กำลังจะกินกันพอดีเลย”
ก้องเว้นที่ให้รัชพลและสิตางศุ์ ทั้งสองคนเลยเข้าไปนั่งร่วมด้วย เป็นอีกหนึ่งวันที่สิตางศุ์ได้ทานข้าวร่วมกับคนที่สำนักงาน
“วันนี้เห็นนายเอาดอกไม้ไปให้คุณสิตางศุ์ด้วย ตกลงเป็นแฟนกันแล้วเหรอครับ” ก้องเอ่ยแซว ตั้งแต่มีเรื่องเมื่อวานเขาก็นึกว่าทั้งสองคนจะไม่มองหน้ากันเสียอีก แต่วันนี้เห็นรัชพลยิ้มทั้งวัน แถมหอบดอกปีบไปให้สิตางศุ์อีก ถ้าให้ไอ้ก้องเดา คงจบลงได้ดีเป็นแน่
สิตางศุ์ชะงักเล็กน้อยและไม่ได้ตอบอะไรไป หน้านวลขึ้นสีแดงจางๆ ผิดกับรัชพลที่ยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่ก็ไม่ตอบก้องไปเช่นเดียวกัน สร้างความแปลกใจให้กับทุกคน ปกติแล้วนั้นรัชพลจะต้องว่าก้องหรือไม่ก็ต้องด่าไปแล้ว
“ถามมากน่ามึง กินข้าวไปเลย” เป็นอันว่ากลางวันนั้นก็จบลงด้วยรอยยิ้มมีเลศนัยของก้อง
เอาแล้วโว้ย คราวนี้มีหวังสาวๆอกหักทั้งอำเภอ ทั้งจังหวัด พ่อเลี้ยงรัชแห่งไร่น้ำรินมีแฟนกับเขาแล้ว
เมื่อเลิกงานสิตางศุ์กับรัชพลก็กลับมาที่บ้าน บ้านรักษ์นทียังปกติผิดที่มันไม่ปกติเพราะตอนนี้ภุมรินน้องชายของรัชพลกำลังยืนกอดกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ซึ่งคนนั้นไม่ใช่ตะวันอย่างแน่นอน ผมที่เซตอย่างดีนั้น รองเท้า เสื้อผ้า หน้าและกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ มันแบรนด์เนมทั้งเซต ใครโผล่มาอีกคนแล้วนี่
“ภู!” สิตางศุ์ที่ยืนข้างรัชพลเรียกชื่อใครอีกคน ร่างที่กำลังกอดกับภุมรินหันมาทางพวกเขาก่อนที่ทั้งสองคนจะพุ่งเข้ากอดกัน รัชพลแทบจะถลาตาม
“ไอ้ตาง!” ภูวดลรู้สึกเหมือนภารกิจที่เขาทำมาเกือบสองเดือนเป็นผลสำเร็จแล้ว เขาตามหาเพื่อนรักคนนี้แต่ก็ไม่พบ คุณหญิงพิมลย่าของสิตางศุ์ก็ถามอยู่ทุกวัน เขาอาสาเป็นธุระตามให้เพราะท่านไม่ว่างพอ
“ภู ทำไมมาเร็วจัง ได้บอกใครรึเปล่า” สิตางศุ์ถาม เขากังวลใจเรื่องที่คนอื่นจะตามมารู้มากที่สุด ตอนนี้เขายังไม่พร้อมจะรับมือ
“ไม่ได้บอกใครเลย รู้มั้ยไอ้แห้งกูโคตรคิดถึงมึงเลย มีปัญหาอะไรไม่เคยจะบอกเพื่อน” ภูวดลกอดเพื่อนรักแน่นขึ้นอีกจนสิตางศุ์แทบจะหายใจไม่ออก
“กอดแน่นไปแล้วภู มันหายใจไม่ออก” สิตางศุ์พยายามดันภูวดลออกแต่ภูวดลกลับกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม เพื่อนรักคนนี้เป็นแบบนี้เสมอ จนสิตางศุ์ชินแล้ว
“เฮ้ยๆ แน่นไปแล้ว” รัชพลรีบดึงสิตางศุ์ออกจากไอ้หนุ่มแบรนด์เนมนั่น
“คุณรัชนี่ภูเพื่อนผมเองครับ รุ่นพี่คณะเดียวกับรินด้วย ภูนี่คุณรัช พี่ชายรินน่ะ” สิตางศุ์แนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน ภูวดลยิ้มให้ตามประสาคนเพิ่งรู้จักกัน
“สวัสดีครับคุณรัชพล ไอ้แห้งมันมารบกวนอะไรรึเปล่า ทำตัวยังกับเด็ก หนีหายไม่บอกไม่กล่าวใคร” ภูวดลเอาแขนพาดคอของสิตางศุ์แล้วลากเข้ามาชิดอก
“เด็กอะไรกัน ขืนคุยกับภูคุณย่ารู้หมดสิ” สิตางศุ์ทำหน้ายู่ อีกอย่างหนึ่งเขาก็ไม่อยากให้ภูวดลลำบากใจไปกับเขาด้วย
“เลยชอบร้องไห้คนเดียวมั้ย ไอ้แห้งเอ้ย เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวแน่ๆ” ภูวดลคาดโทษ
ความสนิทสนมนั้นทำให้รัชพลรู้สึกเหมือนหนวดกระตุก อารมณ์เหมือนตอนที่ตะวันแอบมีใจให้ภุมรินไม่มีผิด เรื่องหมอชาญยังไม่จบดีนัก โผล่มาอีกตัวแล้ว ให้ตายเถอะ กว่าเขาจะจีบสิตางศุ์ได้มันยากแค่ไหนไม่รู้รึไงกัน
“มัวแต่มายืนคุยกันหน้าบ้าน เข้าบ้านกันดีกว่า พี่ภูมาเหนื่อยๆ” ภุมรินเอ่ย ภูวดลเพิ่งจะมาถึงเมื่อครู่นี้เอง แต่โทรมาบอกเขาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตอนแรกภุมรินก็ตกใจอยู่ว่าภูวดลรู้เรื่องได้ยังไง เพราะสิตางศุ์สั่งเขาห้ามบอก ที่ไหนได้สิตางศุ์เป็นคนบอกเอง ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะอย่างน้อยพี่ตางของเขาก็น่าจะเลิกหนีความจริงแล้ว
ทั้งหมดพากันเข้ามาในบ้าน ภูวดลยึดสิตางศุ์เอาไว้ไม่ปล่อย นั่นทำให้รัชพลรู้สึกไม่พอใจนักกับความสนิทสนมที่ดูเหมือนจะเกินเพื่อนสนิทนั่น คนนอกอาจมองดูปกติ แต่สายตาของคนรักอย่างเขามันมองไปอีกแบบ
“พี่ตางน่ะร้องไห้มากลางดึก พอถามอะไรก็ยอมตอบ เลยรอให้พี่เค้าอยากเล่า พี่ภูก็เถอะ เป็นเพื่อนประสาอะไรวะ ไม่รู้ว่าเพื่อนตัวเองเป็นอะไร” ภุมรินเริ่มบทสนทนา
“อ้าวไอ้เด็กนี่ รินก็รู้ว่าไอ้ตางมันเคยพูดอะไรให้ใครฟังที่ไหน ถ้าไม่สืบเองจะตรัสรู้มั้ย” ภูวดลเถียงกลับพร้อมกับถอดแว่นตาดำราคาแพงออก
รัชพลมองคนที่นั่งข้างสิตางศุ์อย่างรู้สึกสงสารตัวเองขึ้นมาตงิด ภูวดลทั้งสนิทกับสิตางศุ์มากกว่า แถมยังรู้จักกับครอบครัวของสิตางศุ์ด้วย และชีวิตก็ยังเข้ากันได้อีก การแต่งตัวก็ดูดี คำพูดคำจาแม้จะหยาบคายไปบ้างแต่ก็ไม่เท่าเขา อันเป็นลักษณะที่สิตางศุ์รู้สึกดีด้วย แล้วดูเขาสิ ตรงข้ามทุกอย่าง แค่ชาวไร่บ้านๆที่ริอาจจะไปสอยดอกฟ้า ยิ่งภูวดลมาวันนี้ ยิ่งตอกย้ำว่าช่องว่างระหว่างเขากับสิตางศุ์ห่างกันมากแค่ไหน
“อย่าเถียงกันน่า ตางผิดเองที่ไม่ยอมบอกใคร แต่ตอนนี้โอเคขึ้นแล้วล่ะ คุณย่าสบายดีมั้ยภู” สิตางศุ์ถามเพื่อน
“ตามประสาแกนั่นแหละ แต่ที่แน่ๆคุณย่าเป็นห่วงมึงมากนะสิตางศุ์ อย่างน้อยกลับมาหาแกก็ยังดี ส่วนเรื่องไปอยู่กับน้ามินที่ต่างประเทศอะไรนั่น แค่มึงบอกว่าไม่อยากไปก็จบแล้ว มึงโตแล้วนะ เลือกชีวิตตัวเองได้แล้ว” ภูวดลจริงจัง เขาพอรู้เรื่องปัญหาของสิตางศุ์บ้าง เขารู้ว่าเพื่อนคนนี้อมทุกข์มานานแค่ไหน แต่ตอนนี้สิตางศุ์โตแล้ว ควรเลือกชีวิตตัวเองซักที
สิตางศุ์นิ่งเงียบ ไม่เอ่ยอะไรออกไป ทำให้บรรยากาศโดยรอบเริ่มจะอึมครึมอีกแล้ว ภุมรินเห็นท่าไม่ดีเลยรีบแก้สถานการณ์ก่อน
“เพิ่งจะมา มาเครียดกันทำไม พอเลยพี่ภู วันคุยกันทีหลัง ไปเลย ไปอาบน้ำเลยทั้งสองคน พี่รัชด้วย เดี๋ยวรินจะพาไปหาอะไรกินในตัวเมือง” ภุมรินจัดแจง ขืนปล่อยไว้อย่างนี้มีหวังยาวแน่นอน
“ก็ได้ ไหนล่ะ ห้องพี่อยู่ไหน เที่ยวบ้านเราทั้งทีหาห้องดีๆให้คุณภูอยู่นะครับน้องริน รู้จักกันตั้งนานไม่เคยพามาบ้าน หวงไรนักหนาวะ ไร่ออกจะน่าเที่ยว” ภูวดลบ่นอุบพร้อมกับเบี่ยงตัวไปหาภุมรินแทน
“เออ... เดี๋ยวๆ บ้านมีแค่สี่ห้อง อีกห้องให้พี่ตางไปแล้ว พี่ภูนอนไหน ไปนอนห้องน้ำเลยไป” ภุมรินแหย่ บ้านรักษ์นทีมีแค่ห้องนอนสี่ห้องเท่านั้นเอง แล้วทีนี้ภูวดลจะนอนไหนล่ะนี่
“ให้ภูนอนกับพี่ก็ได้” สิตางศุ์เอ่ย เขากับภูวดลใช่ว่าจะไม่เคยนอนห้องเดียวกันเสียที่ไหน แค่เขารบกวนภุมรินก็มากพอแล้ว ให้ภูวดลนอนไหนไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก
“ไม่ได้” คำปฏิเสธนั้นไม่ได้มาจากใคร นอกเสียจริงคนที่นั่งหน้านิ่งไม่พูดไม่จามาตั้งนาน รัชพลทำหน้าถมึงทึงไม่สบอารมณ์อยู่ข้างๆจนสิตางศุ์ต้องหลบตาวูบ
ภุมรินได้แต่ยู่หน้าให้พี่ชาย มีอะไรเข้าสิงตาแก่แช่โรงบ่มอีกแล้วเนี่ย
*********************************************************************************
มาต่อแล้วตอนที่ 16 ตอนนี้ไม่ม่านะจ้ะ เพลาๆลงมาบ้างแล้ว เบาๆก่อนจะหนักอีกรอบ แว้กกกกกกกกกก พี่รัชหึงน้องตางอ่ะดิ ฮี่ๆ มาเอาใจช่วยคุณรัชพลกับคุณสิตางศุ์กันดีกว่าค่ะ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ