(ต่อค่ะ)
เมื่อตกลงกันได้ก็ถูกเจฟลากลงไปยังโรงอาหารที่อยู่ด้านข้างของหอพักโดยไม่รอแม้แต่เวลาให้ผมเปลี่ยนเสื้อผ้า...กลิ่นของอาหารมากมายลอยออกมาตั้งแต่ก่อนที่จะออกจากหอพักยิ่งเข้าไปใกล้กลิ่นก็ยิ่งแรงขึ้นจนแสบจมูกไปหมด
“เป็นอะไรน่ะ?”เจฟถามก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่งในร้านพาสต้าที่พึ่งเปิดใหม่
“...ไม่เป็นไรแค่คัดจมูกนิดหน่อย”ผมโกหกออกไปพรางยกเสื้อคลุมมาปิดจมูกเพื่อให้รับกลิ่นแรงๆพวกนี้น้อยลง ไม่ใช่แค่กลิ่นอาหารแต่ยังมีกลิ่นของผู้คนมากมายที่แออัดอยู่ภายในยิ่งประสาทสัมผัสดีเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกแย่กับบรรยากาศในตอนนี้เท่านั้น
“ไม่สบายล่ะสิ...รีบกินแล้วกลับไปพักผ่อนเถอะ...พี่ครับเอาสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมากุ้งครับ...อานโน่เอาอะไรดี”เจฟตะโกนสั่งกับพนักงานที่อยู่ไม่ไกลก่อนจะหันกลับมาถาม
“...เอาเหมือนกันก็ได้”ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแล้วอยากรีบกินให้เสร็จแล้วออกไปจากที่นี่สักที
“เอาสองที่เลยพี่”
สั่งไปได้ไม่นานสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมากุ้งสองจานก็มาวางอยู่ตรงหน้า...ไอร้อนๆกับกลิ่นแสบจมูกยิ่งทำให้ความยากอาหารลดลงแต่เพื่อรีบออกไปจากที่นี่ผมเลยจำใจตักสปาเก็ตตี้คำโตเข้าปากอย่างรวดเร็ว
“เผ็ดดด~...น้ำ!...ขอน้ำ”ผมแทบพ่นสิ่งที่อยู่ในปากออกมาก่อนจะคว้าแก้วน้ำขึ้นกระดกรวดเดียวหมดแก้วแต่ความเผ็ดที่ลิ้นก็ยังไม่หายไป
ให้ตายสิทำไมมันถึงเผ็ดขนาดนี้กัน!
“ฮะฮะฮะ...กินเผ็ดไม่ได้ทำไมไม่บอกเล่า”คนนั่งตรงข้ามขำกลิ้งกับท่าทางของผมและตักสปาเก็ตตี้แบบเดียวกันเข้าปากก่อนกลืนลงไปอย่างสบายๆจนผมต้องมองอย่างอึ้งๆ
เผ็ดขนาดนั้นกินไปได้ยังไง?
“...กินได้นะ”ผมเถียงกลับ อาหารที่กินก็มีรสเผ็ดอยู่บ้างแต่ไม่เผ็ดมากขนาดนี้
“ได้ที่ไหน...สภาพน่าขำชะมัด...พี่ครับขอสปาเก็ตตี้คาโบนาล่าเพิ่มที่หนึ่งครับ”
“ยังจะกินอีกเหรอ...เอาของฉันไปก็ได้”ผมบอกแล้วเลื่อนจานของตัวเองที่พึ่งกินให้อีกฝ่าย
“สั่งให้นายต่างหาก...ไม่ต้องห่วงอันนั้นไม่เผ็ดแน่”
เป็นอย่างที่เจฟบอกสปาเก็ตตี้อีกจานที่มาเสิร์ฟผมสามารถกินได้โดยไม่มีรสเผ็ดเลยสักนิดผมเลยจัดการสั่งเพิ่มอีก3จานท่ามกลางความอึ้งของเพื่อนใหม่...พอเราจัดการอาหารเรียบร้อยก็กลับห้องตามเดิม
ช่วงเย็นหลังจากโดนลากไปกินข้าวผมก็ขอแยกตัวออกมาเดินเล่น...กลิ่นของป่าที่สัมผัสได้ไม่ไกลทำให้ตัดสินใจที่จะเดินไปท่ามกลางความมืดมิดนี้อีกสักหน่อย...
แม้จะมีแสงไฟตามทางแต่พอเดินลึกไปทางด้านหลังหอก็มีเพียงแสงจากดวงจันทร์ที่สาดส่องลงมาเท่านั้น...กลิ่นของต้นไม้และดินค่อยๆเรียกความสดชื่นให้กลับมาอีกครั้ง แค่วันเดียวที่เข้ามาให้สังคมของมนุษย์ล้วนมีแต่ความวุ่นวายและสับสน...เสียงต่างๆดังเข้ามาภายในหัวจนรู้สึกปวดไปหมดไม่แปลกเลยที่พวกไดโนเสาร์กลายพันธุ์คนอื่นๆจะบอกว่าที่เกาะดีที่สุดแล้ว
ผมเดินก้าวไปตามชายป่าก่อนจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นของมนุษย์คนหนึ่งที่แตกต่างกับที่เคยเจอ...ไม่เหมือนเจฟที่มีกลิ่นให้ความรู้สึกร่าเริงแต่แฝงได้ด้วยความเหงา
ไม่เหมือนกับมนุษย์ปกติที่มักจะมีกลิ่นของน้ำหอมและความเสแสร้ง
กลิ่นที่สัมผัสได้เหมือนกลิ่นของธรรมชาติที่ไม่มีการปรุงแต่งแต่แฝงไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆอย่างที่ไม่เคยได้กลิ่นนี้จากใครมาก่อน...
“กลิ่นนี่...”ผมพึมพำออกมาอย่างไม่รู้ตัวโดยที่สองขาก้าวเข้าไปใกล้มนุษย์คนนั้นมากขึ้นจนสามารถมองเห็นร่างของคนตรงหน้าได้ชัดเจนขึ้น
ร่างโปร่งสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนกับกางเกงสีเข้มเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ดวงใหญ่ที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้ายามราตรีเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพังเลยหันมามองยังผมที่ยืนอยู่ไม่ไกล
ดวงตาคู่นั้นที่หันมาทำให้ร่างกายผมถึงกับชะงักการเคลื่อนไหวแม้อยู่ในความมืดก็ยังสามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน...
ดวงตาสีน้ำเงินเข้ม
สีที่เหมือนกับสีผมของผม...และยังเป็นสีเดียวกับร่างไดโนเสาร์ตอนที่โกรธมากๆ
พึ่งเคยเห็นครั้งแรก...
ดวงตาสีนั้น
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนรู้เพียงแค่ดวงตาคู่นั้นมันสะกดผมจนอยู่หมัดอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้แม้แต่ดวงตาคู่สวยของแม่ที่ตราตรึงได้ทุกครั้งที่มอง ดวงตาสีน้ำเงินเข้มนี่มันไม่ใช่แค่ตรึงหรือสะกดได้เท่านั้นมันยังดึงดูดจนขาของผมต้องก้าวเข้าไปใกล้เพื่อจะมองดวงตานั่นให้ชัดมากขึ้น
ระยะห่างที่ร่นลงเรื่อยๆทำให้รู้ว่าชายตรงหน้าสูงกว่าอยู่หลายเซ็น...น่าแปลกที่อีกฝ่ายไม่ถอยหนีหรือละสายตาออกไปสิ่งที่เขาทำมีเพียงยืนอยู่เฉยๆโดยที่ดวงตาคู่งามนั่นยังประสานกันอยู่เหมือนเดิม
พวกเรายืนจ้องตากันอยู่สักพักก่อนที่อีกฝ่ายจะหันหลังกลับแล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆทิ้งผมไว้ยืนอยู่เพียงลำพัง เสียงฝีเท้าที่ไกลออกไปเริ่มเบาลงเรื่อยๆจนไม่ได้ยิน กว่าจะรู้ตัวก็จำทั้งเสียงฝีเท้าหรือแม้แต่กลิ่นของอีกฝ่ายไว้อย่างชัดเจนแล้ว
“...อะไร...เมื่อกี๊มัน...เกิดอะไรขึ้น?”ผมถามตัวเองก่อนจะทรุดตัวลงกับพื้นหญ้าอย่างไม่กลัวสกปรก
ที่อยากรู้ตอนนี้มีเพียงมันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่
ไม่เคยเจอผู้ชายแบบนั้นมาก่อนในชีวิต
พลังงานของเขามันช่างสงบและน่าค้นหาแต่มันก็แฝงไปด้วยบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้...รู้แค่พอมองตาสีน้ำเงินเข้มนั่นหัวใจมันบีบรัดและเต้นเร็วกว่าปกติมากนัก
เขาเป็นใครกัน?
ผมคิดเรื่องนี้อยู่แทบทั้งคืนและยังคงคิดต่อในขณะที่เข้าเรียนคลาสแรกวิชาการวิเคราะห์เนื้อเยื่อ...คณะที่เรียนก็เป็นคณะเดียวกับที่แม่เรียนซึ่งก็คือคณะวิทยาศาสตร์และการเพาะพันธุ์ ที่เลือกเรียนคณะนี้ก็เพราะมีความรู้ที่ได้จากแม่มาอยู่พอสมควรเลยสามารถเข้าใจเนื้อหาที่อาจารย์สอนได้โดยไม่ต้องเรียนตั้งแต่ปี1
การเข้าเรียนในปีสุดท้ายโดยไม่มีพื้นฐานถือเป็นเรื่องยากที่จบออกไปด้วยคะแนนสวยๆเหมือนแม่แต่ยังไงก็จะพยายามไม่ให้ขายหน้าตระกูล เบนซ์ ฟงเซ่แน่นอน
อาจเป็นเพราะปีสุดท้ายการเรียนเลยไม่หนักเท่าปีอื่นๆทำให้วันนี้มีเรียนเพียงวิชาเดียวเท่านั้น...เมื่อไม่มีอะไรทำผมเลยตัดสินใจที่จะไปห้องสมุดตามที่แม่แนะนำมาว่าถ้าอยากหาที่สงบๆห้องสมุดเป็นที่ที่แม่แนะนำอันดับต้นๆเลย
ส่วนเจฟฟี่หรือเจฟคงกำลังเล่นกีฬากับเพื่อนในคณะอยู่...เห็นว่าเจฟเป็นนักกีฬาเทนนิสซึ่งก็เหมาะกับบุคลิกและผิวที่คล้ำแดดดี
ห้องสมุด...ไม่สิ...น่าจะเรียกว่าหอสมุดมากกว่าถ้าขนาดจะใหญ่ขนาดนี้ ใหญ่กว่าหอพักที่ผมอยู่ซะอีก...ผนังที่ถูกทาสีขาวด้านนอกทำให้ดูสว่างตามากภายในถูกทาด้วยสีเหลืองนวลดูสบายตา
สมกับที่แม่แนะนำ...นอกจากสงบเงียบแล้วจะไม่มีกลิ่นมากมายปนกันกลิ่นที่สัมผัสได้ส่วนใหญ่ก็เป็นกลิ่นกระดาษทั้งนั้น ระหว่างเดินมองหาหนังสือสักเล่มดวงตาสีแดงอ่อนภายใต้คอนแทคเลนส์สีน้ำตาลก็ต้องสะดุดเข้ากับหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนชั้นด้านใน...หนังสือที่ว่าเป็นหนังสือที่แต่งขึ้นโดยปู่ของผมหรือบิดาแห่งการคืนชีพ ฟรานซิส เบนซ์ ฟงเซ่
หนังสือเล่มนี้เขียนบอกถึงลักษณะที่ต่างกันของเนื้อเยื่อไดโนเสาร์แต่ละตัวพร้อมบอกเกี่ยวกับเรื่องยีนของไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่างๆ...สำหรับหลายคนคงเป็นหนังสือชวนง่วงและสำหรับผมก็ไม่ต่างกัน เมื่อก่อนอาจจะรู้สึกตื่นเต้นที่ได้อ่านแต่พออ่านบ่อยๆเข้าก็สามารถจำตัวอักษรได้ทุกตัวอักษรแล้ว
“...กลิ่นนี้มัน”จมูกมลฟุดฟิดไปมาเมื่อได้กลิ่นคุ้นๆไม่นานร่างสูงโปร่งของชายคนหนึ่งก็ผ่านเข้ามาในสายตาเส้นผมสีน้ำตาลซอยสั้นพลิ้วไหวไปมาเล็กน้อย ดวงตาคมสีน้ำเงินเข้มที่มองตรงไปด้านหน้าโดยไม่สนใจสิ่งรอบกาย
ผู้ชายคนนั้น...
ที่เจอเมื่อวาน
ไม่รู้อะไรที่ดลใจให้ผมเดินตามกลิ่นอีกฝ่ายจนออกจากหอสมุดตรงผ่านตึกเรียนหลายตึก...แสงแดดยามเที่ยงส่องสว่างจ้าสะท้อนกับเส้นผมสีน้ำตาลทำให้ดูเหมือนเส้นผมนั้นเปร่งประกายออกมาเลย
“อ๊าย...นั่นพี่เชสนี่นา...หล่อสุดๆเลยเนอะ”เสียงของสาวคนหึ่งดังเข้าหู
“ใช่ๆ...คนอะไรไม่รู้แค่เดินยังหล่อเลย”อีกเสียงพูดสบทบ
เชส?
ชื่อของชายคนนี้เหรอ?
ผมได้แต่ถามตัวเองโดยไม่รู้คำตอบจนถึงหอพักของตัวเอง...ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งเดินหายไปยังด้านหลังของหอพักบริเวณชายป่าที่พวกเราเจอกันเมื่อวาน การที่เดินตามแต่อีกฝ่ายไม่รู้อาจเป็นเพราะผมเว้นระยะห่างเยอะก็ได้นะ...
ผมไม่จำเป็นต้องเข้าไปใกล้มากเพราะกลิ่นของเขามีเอกลักษณ์ถ้าตั้งใจหาก็ไม่ยากเกินความสามารถ
ดวงตาสีแดงอ่อนใต้คอนแทคเลนส์สีน้ำตาลมองชายหนุ่มที่แอบตามเดินเข้าไปในป่า นั่นทำให้สองขาของผมวิ่งตามไปโดยให้เกิดเสียงเบามากที่สุด เส้นทางที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนสร้างความตื่นเต้นให้ผมเป็นอย่างมากจากที่ตามคนที่มีกลิ่นน่าสนใจอยู่ก็เปลี่ยนมาเป็นกระโดดไปตามกิ่งไม้แต่ละกิ่งแทน
ด้วยการทรงตัวชั้นยอดและพละกำลังมากมายทำให้สามารถกระโดดไปตามกิ่งไม้ได้อย่างสบายๆ...บรรยากาศภายในป่าสดชื่นมากกว่าตึกที่อยู่อาศัยของมนุษย์เป็นไหนๆ
เสียงของป่า...
เสียงของสายลม...
เสียงของผืนดิน...
และเสียงของเหล่าสัตว์ที่อาศัย...
ไม่ว่ายังไงผมก็ชอบเสียงพวกนี้มากที่สุด
กรรร!
เสียงคำรามของสัตว์ป่าดังขึ้นพร้อมกับจมูกของผมที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นเลือด...ภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่เดินเข้าป่ามาผุดขึ้นในหัวแทบจะทันที
“อย่าบอกนะว่า...”
ผมใช้เวลาไม่นานหาที่มาของเสียงและกลิ่นเลือดก่อนจะวิ่งตรงไปยังที่นั่นด้วยร่างกายที่อยู่ในร่างมนุษย์ทำให้ความเร็วลดลงกว่าตอนร่างไดโนเสาร์อยู่มากกว่าจะมาถึงก็เสียเวลาไปเยอะ...ภาพตรงหน้าคือภาพของผู้ชายร่างสูงโปร่งที่กำลังเดินเข้าไปใกล้ลูกป่าหมาด้วยฝ่ามือที่มีเลือดไหลซึมอยู่ ดูจากบาดแผลคงจะถูกลูกหมาป่าขวนเอา
“นายจะทำอะไรน่ะ?!”ผมตะโกนพร้อมกับวิ่งเข้าไปดึงอีกฝ่ายให้ออกห่างลูกหมาป่าตัวนั้นอย่างรวดเร็ว
กรรร!
เสียงขู่ดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่ขาทั้งสี่ข้างจะค่อยๆพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นแต่ด้วยเหตุบางอย่างทำให้ร่างของมันทรุดลงไปที่พื้นตามเดิม....ผมมองไปยังขาหลังที่ดูจะมีบางอย่างผิดปกติอย่างสงสัย
บาดเจ็บ?
“ปล่อย”เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมสะบัดมือที่ผมจับไว้ทิ้งแล้วเดินกลับเข้าไปหาลูกหมาป่าตัวเดิมที่ขู่เสียงดัง
“จะเข้าไปให้ถูกกัดรึไง?”ผมถามพร้อมกับจับข้อมืออีกฝ่ายไม่ให้เดินเข้าไปมากกว่านี้
สัตว์ป่าที่บาดเจ็บอันตรายมากถึงแม้จะเป็นเพียงลูกมันก็ตาม
“ไม่เกี่ยวกับนายนี่”
“...”เป็นอีกครั้งที่ถูกสะบัดมือทิ้ง ผมได้แต่ยืนมองอีกฝ่ายเข้าไปจับขาหลังของลูกหมาป่าข้างที่คาดว่าจะบาดเจ็บก่อนจะคลึงเบาๆ
เอ๋ง!
เสียงร้องดังลั่นก่อนลูกหมาป่าจะหันมาอ้าฟันอันแหลมคมออกเตรียมจะกัดเข้าที่มือข้างที่จับมันไว้...ไม่รู้ว่าทำไม่ตัวเองถึงทำแบบนี้แต่พอรู้ตัวอีกทีมือของผมก็ถูกเขี้ยวที่เล็กๆนั่นกัดจมเขี้ยว
“ซี๊ดด...”ผมร้องออกมาเล็กน้อยพรางเอื้อมมือไปลูบคางของลูกหมาป่าเบาๆ...สัตว์ที่หวาดกลัวอยู่ไม่ความลูบหัวแต่ควรจะลูบด้านใต้เพื่อให้ผ่อนคลาย
“...ช่วยฉันทำไม?”เสียงทุ้มจากด้านหลังถามขึ้นดวงตาสีน้ำเงินเข้มหรี่ลงอย่างไม่เข้าใจ
“นั่นสิ...ไม่รู้เหมือนกัน...เอาเป็นว่ารีบจัดการให้เสร็จสิ”ผมบอกพรางมองไปยังถุงด้านข้างที่มีอุปกรณ์สำหรับรักษาเปิดวางเตรียมพร้อมอยู่
อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรกลับมาแต่จัดการรักษาลูกหมาป่าต่ออย่างตั้งใจ...เมื่อเห็นว่าเขามีสมาธิอยู่กับการทำแผลผมก็หันกลับมามองลูกหมาป่าที่ยังกัดมืออยู่ไม่ปล่อย
เสียงครางเล็กๆที่ดังอย่างต่อเนื่องมนุษย์ปกติคงจะไม่รู้ถึงสิ่งที่สัตว์สี่เท้าต้องการบอกแต่ผมนั้นเข้าใจเพราะเป็นสัตว์กึ่งสี่เท้าเหมือนกัน...
‘ผมไม่อร่อยหรอกนะ’ลูกหมาป่าบอกเสียงสั่นแล้วพยายามฝังเขี้ยวลงไปลึกกว่าเดิมราวกับจะไม่ยอมแพ้ต่อการมีชีวิตรอด
‘รู้แล้วละ...ฉันก็ไม่ค่อยชอบเนื้อสดเท่าไหร่’ผมตอบกลับเสียงเบาเพราะกลัวมนุษย์ที่อยู่ด้านข้างจะสงสัย
‘...คุณไม่ใช่มนุษย์...’
‘ใช่’
‘และก็ไม่ใช่พวกเดียวกับผมด้วย’
‘ถูก’
‘งั้นทำไม...’
‘รู้ไว้แค่ฉันเป็นพวกเดียวกับทั้งสองฝ่าย’
‘คืออะไร?’
‘ฉันเป็นพวกของมนุษย์...และพวกเดียวกับนายด้วย’
ใช่แล้ว...สำหรับไดโนเสาร์กลายพันธุ์อย่างพวกเรา
ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพราะภายในกายมีทั้งเลือดของมนุษย์และเลือดของนักล่า
เป็นสิ่งอยู่ตรงกลางระหว่างมนุษย์และสัตว์
...........................................................................................
สวัสดีค่ะ
มาต่อตอนที่1ให้ได้อ่านกันแล้ววว
อ่านจากคอมเม้นต์มีหลายคนอยากให้อานโน่เมะและก็มีหลายคนที่อยากให้เคะ
เราขอบอกแบบไม่ต้องรอให้ลุ้นเลยละกันค่ะ...
อานโน่เคะนะคะ ฮ่า!
ภาคก่อนให้ไดโนเสาร์กลายพันธุ์อย่างยูทาร์เมะไปแล้วครั้งนี้เลยสลับกันบ้างเพื่อความตื่นเต้น?
แถมมีหลายคนอยากให้คู่กับอาจารย์ด้วย...ขอโทษที่ไม่เป็นตามที่หวังนะคะ แฮะๆ
ตอนนี้พระเอกออกโรงแล้วแต่ยังไม่ค่อยมีบท
มารอลุ้นกันว่าตอนหน้าคู่นี้จะสร้างสัมพันธ์กันยังไง
ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจและทุกๆคอมเม้นต์นะคะ
รู้สึกดีใจมากที่มีคนรอภาคต่อมากขนาดนี้...
คิดไม่ผิดจริงๆที่แต่งภาคต่อ(และคาดว่าจะมีต่ออีกสักภาคสองภาคตามแต่อารมณ์ 55)
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ
ขอบคุณทุกคนที่ตอบรับอานโน่กันด้วยความอบอุ่นค่ะ^^
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪