✣Jurassic Confidant✣ คู่หู กลายพันธุ์รัก {• หาคู่•พิเศษ2+เปิดพรี} P.38 4/08/60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✣Jurassic Confidant✣ คู่หู กลายพันธุ์รัก {• หาคู่•พิเศษ2+เปิดพรี} P.38 4/08/60  (อ่าน 241949 ครั้ง)

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ดีงามมากเชส โปรไฟล์เริ่ดเหมาะกับลูกสาวมาก กรีดร้อง

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ £.Ma|e¥

  • ชั้นคือผู้หญิงโรคจิต!! โฮะๆๆ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
ขอหลายๆตอนได้มั๊ยง่า
อยากอ่านต่อ สนุกมว๊ากกกกก

ออฟไลน์ viky_mama

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ขอให้นายเอกมีลูกได้มั้ยนะๆ แบบว่าผสมเข้ากับพันธุ์ที่มีสองเพศในตัวเดียว

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
นั้ลย้ากกกกกกกกกกก :mew3:

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
งื้ออออออออออ~
น่ารักคร้าาาาาาาา~

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ปากก็บอกว่ารังเกียจแต่ถ่ายรูปเขาเก็บไว้เนี่ยนะคะคุณเชสสสสส ~  :hao3:

ออฟไลน์ EndAceNs

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หูยยยย จริงๆ อานโน่ก็ไม่ได้ให้ฟีลว่านี่เคะมากมายอะไรนะมันเลยออกแนวแมนๆ คุยกันไรงี้ ซึ่งนี่ชอบ 5555555555

ออฟไลน์ Nbear

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ra_rena~*

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สนุกอ่ะ ขออีกตอนน้า  :กอด1:

ออฟไลน์ Cappello

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
อานโนน่ารักกกก 55555
ค่อยๆเรียนรู้มนุษย์ไปเนอะ

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
• •* หาคู่*• •วันที่3



สังคมของมนุษย์วุ่นวายกว่าที่คิดมาก...ในวันแรกที่เจอทั้งกลิ่นของอาหารปนเปกันจนแสบจมูก ทั้งเสียงตะโกนพูดคุยกันแต่นั่นเป็นสิ่งที่สามารถแก้ไขได้ไม่ยากแค่ใส่หน้ากากอนามัยกับหูฟังก็เป็นอันใช้ได้ไม่เหมือนกันเหตุการณ์ที่ต้องมาเผชิญอยู่ตอนนี้...

“พี่อานโน่คะ...พี่คบกับหนูได้ไหมคะ?”เสียงหวานจากเด็กสาวรุ่นน้องพูดด้วยใบหนน้าที่แดงก่ำ

คนถูกถามอย่างผมถึงกับทำตัวไม่ถูกเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่เคยเจอแบบนี้...ก่อนหน้านี้ผมก็เข้าเรียนคลาสปกติแต่พอออกมาก็เจอกับเด็กสาวคนหนึ่งดักรออยู่พร้อมขอเวลาสักแป๊บซึ่งผมก็ยินดีเพราะสังคมของมนุษย์นั้นการขอความช่วยเหลือกันเป็นเรื่องปกติแม้ว่าคำขอของเธอจะทำให้ผมถึงกับเครียดก็ตาม

มาเรียนได้ไม่กี่วันก็มีคนมาสารภาพรักซะแล้ว

จะดีใจหรือเสียใจดีนะ

ก่อนมานี่แม่ก็ย้ำเรื่องพวกนี้แล้วว่ามนุษย์นั้นส่วนมากมักชอบมีความสัมพันธ์ที่ฉาบฉวยแบบนี้...ไม่มีการเข้ามาทำความรู้จักหรือพูดคุยกันมาก่อน

ไม่มีแม้แสดงออกถึงตัวตนของตัวเอง

ทั้งแบบนั้นก็ยังกล้ามาสารภาพรัก

ต่างกับไดโนเสาร์อย่างพวกเรา จริงอยู่ว่าจะมีช่วงผสมพันธุ์แต่เรื่องคู่ครองเป็นสิ่งที่เลือกไว้ก่อนแล้ว ตัวเมียบางตัวอาจมีตัวผู้หลายตัวแย่งจนเกิดการต่อสู้เพื่อแย่งชิงใครที่เก่งกว่าก็ได้ตัวที่หมายตาไปครอบครอง

ในความรู้สึกผมเด็กสาวตรงหน้าคงมองเพียงรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้มองถึงภายใน...การคบคนที่ดูดีอาจทำให้พวกเธอมีความสุขเพียงชั่วครู่แต่ถ้าคบกันไปนานๆสิ่งที่ไม่ดีก็จะปรากฏขึ้นจนสุดท้ายก็จะแยกกันไปตามทาง

“ขอบคุณในความรู้สึกนะ...แต่คงต้องขอปฏิเสธ”ผมพยายามอย่างมากในการคิดคำพูด ต้องพูดยังไงไม่ให้อีกฝ่ายเสียใจมากเกินไป...เห็นว่าจิตใจมนุษย์นั้นอ่อนแอมากถ้าบอกไปตรงๆคงได้ร้องไห้

“ทำไมล่ะคะ?”เธอถามเสียงสั่น

“เรายังไม่รู้จักกันมากพอและพี่ก็ไม่ได้มองเธอในแง่นั้น”จริงอยู่ที่เด็กสาวตรงหน้าสวยมากและผมก็มีสิทธิ์ที่จะคบกับเธอแต่ความรู้สึกมันยังไม่ใช่

การเลือกคนรักก็ยากพอๆกับการหาคู่หูล่ะนะ

“ฮึก...ทำไมใครๆก็ต้องปฏิเสธหนูทั้งที่มีแต่คนบอกว่าหนูสวย...ทั้งที่สวยและน่ารักขนาดนี้แต่ทั้งพี่และพี่เชสก็ปฏิเสธหนูกันหมด...ฮึก...”เด็กสาวตรงหน้าปล่อยโฮออกมาพร้อมทรุดตัวลงกับพื้นดิน

เชสเหรอ?

แปลว่าเธอเคยสารภาพกับเชส?

“สักวันเธอจะเจอกับคนที่พร้อมจะตอบรับความรู้สึกและพร้อมจะดูแลเธอ”ผมให้กำลังใจไป

การที่เด็กสาวตรงหน้ากล้าที่จะสารภาพกับเจ้ามนุษย์น้ำแข็งนั่นก็ถือว่าแข็งแกร่งมากแล้ว...ถ้าผมเป็นผู้หญิงเชสจะเป็นคนสุดท้ายที่คิดจะสารภาพเพราะเปอร์เซ็นที่จะได้นั้นมันต่ำมาก ไม่ใช่แค่ไม่ค่อยพูดจาแต่ยังไม่ชอบเกี่ยวข้องกับใครด้วย

นั่นเป็นภาพลักษณ์ที่หมอนั่นแสดงออกมาเพื่อกั้นคนอื่นไม่ให้เข้าใกล้ตัวเอง...เพราะทำเป็นประจำเลยพานให้นิสัยจริงค่อยๆกลายเป็นแบบนั้นไปด้วยทั้งที่ความจริงเขาออกจะเป็นคนที่ใจดีขนาดนั้น

ไม่มีมนุษย์คนไหนที่ยอมโดนสัตว์ป่ากัดเพื่อจะรักษาพวกมันหรอกส่วนมากมีแต่จะใช้ยาสลบที่มีผลข้างเคียงทำให้มึนงง

ผมเดินออกมาปล่อยให้เด็กสาวที่สารภาพรักตนร้องไห้อยู่คนเดียว...ยิ่งเข้าไปปลอบก็ยิ่งทำให้เศร้ามากขึ้นเปล่าๆ

ระหว่างทางเดินกลับหอพักร่างของผมก็เซเล็กน้อยเพราะรู้สึกปวดหัวเล็กๆ...ร่างกายเหมือนยังไม่สามารถปรับสภาพให้ชินกับสิ่งแวดล้อมในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ทั้งที่มาอยู่เกือบเดือนแล้ว

ความวุ่นวาย เสียง กลิ่นหรือแม้แต่ความเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยสำหรับคนปกติคงไม่มีปัญหาแต่สำหรับผมที่มีประสาททั้งห้าดีกว่าคนปกติอยู่หลายร้อยเท่าทำให้เสียงเล็กน้อยดังลั่นเข้ามาในหู ไม่ต้องพูดถึงเสียงเพลงที่เปิดตามสายเวลาพักหรือเลิกเรียนเลยแค่หูฟังเอาไม่อยู่จริงๆ

ผมก้าวไปตามทางไปยังสถานที่เดียวที่ทำให้รู้สึกสงบและไม่มีเสียงวุ่นวายเข้ามารบกวน...สถานที่ที่ค้นพบด้วยความบังเอิญเมื่อแอบตามชายคนหนึ่งเข้าป่าไป ใช้เวลาสักพักผมก็มาหยุดอยู่ในป่าด้านหลังหอพักของตัวเอง

ที่นี่ไม่มีเสียงรบกวนที่วุ่นวาย

ไม่มีกลิ่นผสมปนเปกันจนแสบจมูก

คงเป็นเพราะหอพักนี่อยู่ด้านหลังสุดของมหาวิทยาลัยทำให้มีความเงียบสงบมากที่สุดก็ได้

พอเดินมาถึงผมก็พิงหลังเข้ากับต้นไม้แล้วนั่งลงพร้อมหลับตาเพื่อซึมซับบรรยากาศของธรรมชาติรอบๆกาย...สายลมอ่อนๆกับเสียงพูดคุยของนกตัวเล็กๆเรียกรอยยิ้มของผมขึ้นมาก่อนรอยยิ้มนั้นจะหุบลงอย่างรวดเร็วๆเมื่อสัมผัสได้ถึงเสียงฝีเท้าและกลิ่นของคนที่คุ้นเคยกำลังเดินตรงมาทางนี้

 “เชส...วันนี้มาเร็วนะ”กลิ่นของมนุษย์ที่หอมกว่าคนอื่นที่เคยได้กลิ่นทำให้รู้สึกสบายจนไม่อยากลืมตาขึ้นเลยทำแค่หันไปหาตามเสียงฝีเท้าแล้วเอ่ยทักทายทั้งๆแบบนั้น

“รู้ด้วย?”เสียงทุ้มตอบกลับมาก่อนจะสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายนั่งลงข้างๆ...ไหล่ของเรากระทบกันเล็กน้อยเป็นปกติเหมือนทุกๆครั้งที่เจอกัน

“อืม...บอกแล้วไงว่ากลิ่นของนายฉันชอบ”ผมพูดทั้งๆที่ไม่ลืมตา

“จีบฉันรึไง?”อีกฝ่ายถามต่อ

“ได้ไหมล่ะ?”ผมปรือตาขึ้นมองดวงตาสีน้ำเงินเข้มนั่นอย่างหลงใหล

ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงรู้สึกสนใจคนตรงหน้าขนาดนี้...ช่วงเวลาที่ได้เจอกันแม้จะไม่นานคำพูดที่คุยกันก็ถามคำตอบคำอย่างที่เห็น ทั้งที่เป็นแบบนั้นกลับเรียกรอยยิ้มจริงๆของผมออกมาได้ทุกครั้ง

“หึ...”

“อะไรล่ะ?...แปลว่ายอมให้จีบเหรอ?”ผมยังแหย่ต่อไป

“นอนไปเถอะ”คนข้างกายตอบพรางหยิบหนังสือเล่มหนาขึ้นมาเปิด

“...นายเรียนแพทย์เหรอ?”

“เปล่า”เสียงทุ้มตอบกลับมาทันที

“แต่หนังสือที่อ่านมันเป็นเรื่องการผ่าตัดนี่”ผมมองไปยังปกหนังสือในมือเชส

“ก็ใช่”

“งั้นยังไงล่ะ?”

“...”

“เงียบอีกล่ะ”ผมแกล้งทำเสียงไม่พอใจที่ไม่ได้คำตอบ ก็ถ้าทำแบบนี้อีกเดี๋ยวก็จะได้รับคำตอบที่ต้องการออกมาจากอีกฝ่ายแน่

“ฉันเรียนบริหาร...แค่อ่านเล่นเท่านั้น”

เห็นไหมล่ะ?

คนเย็นชาเหมือนเจ้าชายน้ำแข็ง ทั้งหยิ่ง ทั้งไม่น่าคบในสายตาคนอื่นแต่พอถูกผมแกล้งทำเสียงไม่พอใจก็ยอมหมด...

อ่อนโยนขนาดนี้

จะให้ผมเกลียดลงได้ยังไงล่ะจริงไหม

แม้เหตุผลนั่นจะไม่จริงก็ตามที

“...โกหก”ผมพึมพำก่อนจะเอียงหัวไปพิงไหล่เชส

“ทีนายล่ะ?”เชสย้อน เขาคงหมายถึงคำพูดหลายๆอย่างของผมที่บอกไม่หมดนั่นแหละ

จะให้บอกเรื่องเกี่ยวกับไดโนเสาร์ได้ยังไงกัน

“เอาคืนรึไง?”

“แล้วแต่จะคิด”พอพูดจบพวกเราก็ทำหน้าตึงใส่กัน ดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่จ้องมาทอประกายอย่างขบขันก่อนที่รอยยิ้มบางๆจะปรากฏขึ้นพร้อมๆกัน

เชสเป็นมนุษย์ที่พิเศษ

พิเศษที่ว่าคือในแง่ของความสามารถในการรับรู้และสังเกต

เขารู้ได้เหมือนที่ผมรู้ว่าสิ่งที่พูดออกไปคือความจริงหรือคำโกหก

แม้จะรู้ว่าโกหกก็ไม่มีทีท่าว่าจะถามอะไรต่อเหมือนอย่างที่ผมไม่คิดจะถามเขากลับเช่นกัน...ช่องว่างของเรามันห่างมากการที่จะให้บอกความจริงทุกอย่างมันไม่มีทางเป็นไปได้

เหมือนเราต่างรู้ในจุดนี้จึงไม่เอ่ยถามซอกแซกให้ลำบากใจ

“นอนแบบนี้ได้ไหม?”ผมเปลี่ยนเรื่องพรางขยับเข้าใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆตามธรรมชาติทำให้รู้สึกดีจริงๆถ้ามีเชสอยู่ตอนที่ไปโรงอาหารก็ดีสิ

“ตามใจ”

คำตอบนั่นถือเป็นคำอนุญาตผมเลยจัดการพลิกตัวให้นอนได้ถนัดโดยใช้ไหล่ของเจ้าชายน้ำแข็งเป็นหมอน...การสัมผัสเนื้อต้องตัวกับคนอื่นไม่ใช่เรื่องที่กระดากใจเพราะถูกแม่สอนมาตั้งแต่เด็กด้วยวัฒนธรรมที่ต่างกันทำให้ต้องใช้ความเข้าใจมาก

บางที่การแตะเนื้อต้องตัวเป็นเรื่องธรรมดา

ในขณะที่บางที่ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควร

สำหรับประเทศที่เป็นบ้านเกิดของแม่การแตะต้องตัวเป็นเรื่องธรรมดาโดเฉพาะกับเพื่อนผู้ชายด้วยกันแบบนี้

“...วันนี้มีรุ่นน้องมาสารภาพรักฉันด้วยล่ะ?”ผมบอกก่อนจะค่อยๆปิดตาลง

“อืม”

“เห็นว่าเห็นสารภาพรักกับเชสด้วยจำเธอได้ไหมรุ่นน้องที่ไว้ผมยาวย้อมสีเทากับดวงตาสีเขียวน่ะ”ผมลืมตาขึ้นแล้วถามด้วยความอยากรู้

“ไม่ได้”

“ตอบเร็วไปแล้ว...คิดบ้างสิ”ผมบอกเสียงเข้ม

“...”

“แปลว่ามีคนสารภาพรักเยอะล่ะสิ?”ผมพูดสิ่งที่คิดออกไป

“...เปล่า”

“โกหก”

“ทำไมคิดงั้นล่ะ?”หนังสือในมือถูกปิดก่อนที่ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจะหันมาสบด้วยความอยากรู้

“เพราะนายหล่อ...ดูดี...เก่ง...อืม...ตาสวย...กลิ่นหอม...”

“หลังๆไม่ใช่มั้ง”

“ใช่สิ...โดยเฉพาะสีตาของนายน่ะ”

“สีตา?”

“ใช่...สีตานายเหมือนกับ...”พอพูดถึงตรงนี้ก็ต้องชะงักเมื่อตัวเองเกือบหลุดคำว่าสีเดียวกับสีผมของตัวเองออกไป

“เหมือน?”

“...เหมือน...ทะเล”เป็นอีกครั้งที่ผมต้องโกหกออกไป

“โกหก”

“นี่...เราคิดจะพูดคำนี้กันทั้งวันเลยใช่ไหม?”ผมหันไปถามจริงจัง เจอกันไม่กี่นาทีเราพูดคำว่าโกหกออกมาตั้งหลายครั้งแล้วนะ

“ไม่รู้สิ”

“งั้นมาแข่งกันใครพูดอีกคือแพ้แล้วต้องเลี้ยงข้าวด้วย”ผมพยายามเลี่ยงแล้วเปลี่ยนเรื่อง

“หึ...”เชสไม่พูดอะไรต่อแต่เปิดหนังสือเล่มเดิมออกแล้วเลื่อนสายตาไปยังตัวหนังสือด้านหน้าแทน

“ขอบคุณ”ผมพึมพำเบาๆก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง

เขาไปถามอะไรให้ผมลำบากใจเพราะยิ่งถามสิ่งที่ตอบกลับไปคงมีแค่คำโกหกเท่านั้น

บรรยากาศสบายๆค่อยๆทำให้สติที่มีหายไปอย่างเชื่องช้าท่ามกลางกลิ่นหอมอ่อนๆที่คุ้นเคย สัมผัสสุดท้ายก่อนจะไม่รับรู้อะไรคือมืออุ่นๆที่ลูบวิกผมสีน้ำตาลอย่างอ่อนโยน

แสงสุดท้ายจากดวงอาทิตย์เรียกสติที่หายไปกลับเข้าร่าง...ดวงตาสีแดงอ่อนใต้คอนแทคเลนส์สีน้ำตาลของผมค่อยๆปรือขึ้นก่อนจะยกหัวขึ้นแล้วขยับไปมาให้หายเมื่อย การนอนท่าเดียวตลอดแบบนี้ก็ปวดกล้ามเนื้อไม่น้อยเลย

“ขี้เซา”เสียงทุ้มด้านข้างทำให้ผมหันไปมองคนข้างกายที่หันหน้ามาโดยที่หนังสือเล่มหนาไม่ได้อยู่ในมือแล้ว

“อ่านจบแล้วเหรอ?”

“อืม”

“เร็วมาก”ผมพูดอย่างอึ้งๆเล่มหนาขนาดนั้นไม่น่าจะอ่านจบใน2-3ชั่วโมงหรอก

“อ่านช้าเองน่ะสิ”

“เปล่านะ...ฉันอ่านเร็วจะตายขนาดแม่ยังชมเลย”ผมรีบแก้ตัวทันที เห็นแบบนี้แต่เรื่องการอ่านหนังสือผมไม่เป็นลองใครหรอกนะเพราะมีแม่ที่ชอบอ่านหนังสือเลยทำให้ติดเป็นนิสัยไปถ้าเทียบกับหลายๆคนผมถือว่าอ่านเร็วในระดับหนึ่งเลย

“หึ...”

“เชส”

“อะไร?”

“โทษที”ผมบอกพรางมองไปยังไหล่ข้างที่ตัวเองซบหลับไปนานหลายชั่วโมงตอนนี้คงจะชาแน่ๆ

“เรื่อง?”

“นายก็น่าจะรู้นี่”

“ไม่รู้”

“โกหก”ผมสวนกลับก่อนจะนึกได้ว่าพลาดแล้ว

“นายแพ้”เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนมุมปากนั้นจะปรากฏรอยยิ้มเล็กๆขึ้น

“นี่มันแกล้งกันชัดๆ”ผมไม่ยอมรับความพ่ายแพ้นี้แน่

เขาจงใจให้ผมพลาดชัดๆ

“ใครแกล้ง...ไม่มีสักหน่อย”

“เจ้าชายน้ำแข็งกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ยังไงเนี่ย?”นิสัยนี่ทำไมไม่มีใครรู้ล่ะ?

“...ฉันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว”ดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่สบมาตอนพูดนั่นแฝงไปด้วยความเศร้าเล็กๆ

ผมพอจะเข้าใจแล้วล่ะ...ภาพลักษณ์ที่สร้างขึ้นทำให้มีไม่ใครรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา

“ดีใจนิดหน่อยแฮะ”ผมพึมพำพร้อมรอยยิ้ม

“ดีใจอะไร?”

“ก็ฉันเป็นคนเดียวที่รู้ว่านายเป็นแบบนี้ใช่ไหมล่ะ?”

“คิดงั้น?”

“อืม”

“หึ...อยากกินฟัว กรา”

“ออกเองเถอะ!”ผมแทบจะกระโดดเข้าไปกัดคออีกฝ่ายด้วยซ้ำ

อยากกินฟัว กรา...ไอ้อาหารแสนแพงนั่นน่ะนะ

เงินที่ได้มาไม่เยอะขนาดนั้นนะเฟ้ย!

“คนแพ้ต้องเลี้ยงนี่”

“ขอถูกกว่านี้นะครับ...นะ”ผมลองใช้ลูกอ้อนดู

เห็นพ่อใช้กับแม่แล้วได้ผลเพราะงั้นอาจจะใช้กับเชสได้ผลก็ได้

“...”ความเงียบเป็นเรื่องปกติที่ได้จากเชสแต่ครั้งนี้ต่างออกไปเพราะอีกฝ่ายหันหน้าหนีผมอย่างที่ไม่เคยทำ

“เชส?”

“...อย่าไปทำแบบนี้กับใคร”เสียงทุ้มบอกโดยที่ยังไม่หันหน้ามา

“ทำไม?”

“...น่าเกลียดชะมัด”

“โกหก...อ๊ะ!...ครั้งนี้ไม่นับนะ”ผมรีบปิดปากตัวเองอย่างเร็ว

“ไม่นับก็ได้แต่ต้องสัญญาก่อน”ดวงตาสีน้ำเงินเข้มนั่นหันมาสบอย่างจริงจัง

“สัญญาก็ได้”ผมพยักหน้าตอบ

“ไปกันสักทีเถอะ”พูดจบเชสก็ลุกขึ้นเดินไปโดยไม่รอเลยสักนิด

“รอด้วยสิ”คนถูกทิ้งรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งตามคนด้านหน้าไปเรื่อยๆ

เดินไปสักพักผมก็รู้ว่าสถานที่ที่อีกฝ่ายจะไปคือที่ไหน...เส้นทางนี้ที่มากับเพื่อนร่วมห้องแทบทุกวันอยากจะเปลี่ยนที่บ้างแต่ก็ไม่ได้ท่าเดียว

กลิ่นของอาหารและเครื่องปรุงที่ผสมปนเปกันเริ่มแรงขึ้นจนต้องยกแขนขึ้นมาปิดจมูก...

เสียงของนักศึกษาหลายร้อยชีวิตส่งเสียงเจี๋ยวจ๊าวดังออกมาจนถึงบริเวณที่ผมอยู่…

สถานที่นั้นคือโรงอาหารนั่นเอง

มือผมคว้าชายเสื้อสีฟ้าอ่อนตรงหน้าโดยไม่รู้ตัวทำให้คนที่เดินนำหันกลับมามองอย่างไม่เข้าใจ...เห็นแบบนั้นผมเลยรีบชักมือกลับมาแล้วพยายามคิดคำแก้ตัวอย่างรวดเร็วก่อนจะคิดได้ว่าถ้าทำให้อีกฝ่ายพูดว่าโกหกได้ก็คงจะเปลี่ยนเรื่องไปได้

“อ่อ...ไม่มีอะไร?”

“ไม่เชื่อ”คำที่อีกฝ่ายตอบมาทำให้ผมอ้าปากค้าง...ทั้งที่ความหมายเหมือนกันแต่ถ้าพูดคนละคำแบบนี้คงไม่นับแน่ๆ

“นายมันขี้โกง”

“อะไร?”

“เล่นใช้คำที่มีความหมายเหมือนกันแบบนี้ก็แย่น่ะสิ”

“อ้อ...นี่วางแผนไว้?”รอยยิ้มมุมปากนั่นสร้างความอับอายให้ผมได้ดีจริงๆ

รู้แล้วจะถามทำไม!

“...ก็ใช่”

“เลิกเปลี่ยนเรื่องอานโน่”

“...”ผมถึงกับอึ้งที่ได้ยินชื่อตัวเองจากปากคนตรงหน้าไม่ใช่แค่อึ้งแต่หัวใจมันเต้นเร็วขึ้นด้วยความดีใจปนตื่นเต้น ตั้งแต่รู้จักกันนี่เป็นครั้งแรกที่ถูกเรียกชื่อ

“เงียบทำไมอีก?”

“นายเรียกชื่อฉัน”

“แล้ว?”

“...เปล่า...แค่ดีใจ”

“เลิกเลี่ยงสักที”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยอย่างจริงจังอีกครั้งทำให้ผมได้แต่ถอนหายใจ

การโกหกคนที่สามารถจับได้มันไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ

“ฉันไม่อยากไปกินที่โรงอาหาร”

“ทำไม...บอกได้ไหม?”

“...ขี้โกงนี่”เล่นพูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นใครจะกล้าปฏิเสธกัน

“...”

“ข้างในมันวุ่นวายเสียงก็ดังไปหมด...แถมกลิ่นยังปนกันทำให้ฉันแสบจมูกไปหมด”

“ก็แค่นี้”

หมับ!

เชสพูดจบก็คว้าข้อมือผมแล้วดึงให้เดินไปอีกทาง...ทางที่เขาพาเดินเป็นเส้นทางที่ไม่เคยไปมาก่อนผ่านทั้งตึกเรียนหลายตึกที่ไม่รู้จักชื่อ ผ่านทั้งสนามกีฬาขนาดใหญ่มาเรื่อยๆจนกลิ่นของอะไรบางอย่างเข้ามาในจมูก

กลิ่นของอาหาร

แต่ไม่เหมือนกับที่โรงอาหารที่หลายกลิ่นปนเปกันไปหมด...กลิ่นนี้เป็นกลิ่นเดียวเหมือนน้ำซุปเลย

หลังได้กลิ่นไม่นานป้ายร้านราเม็งขนาดเล็กก็ปรากฏต่อหน้าผม...ร้านเล็กๆที่มีต้นไม้ล้อมรอบดูเหมือนร้านที่ตั้งอยู่กลางป่าเลย พอเข้าไปภายในร้านเชสก็สั่งทันทีโดยไม่ดูเมนูผมเลยรู้ว่าเขาคงมากินร้านนี้บ่อยแน่เลยสั่งเหมือนกันอีกชาม

ราเม็งร้อนที่มาเสิร์ฟกลิ่นหอมน่าทานมากเรียกความอยากอาหารผมออกมาได้จนสุด...ไม่อยากบอกว่าผมฟาดเรียบไปตั้ง10ชามโดยมีสายตาอึ้งๆของเชสและเจ้าของร้านมองมา

ความจริง10ชามยังไม่เรียกว่าเยอะหรอกนะแต่ขืนกินจนอิ่มเงินที่มีอาจไม่พอที่จะอยู่ทั้งเดือน...ถึงจะโทรไปบอกแม่ได้แต่ก็รู้สึกเกรงใจอยู่เพราะด้วยเงินที่ส่งมาในแต่ละเดือนก็ถือว่ามากพอสมควรแล้ว

กินขนาดนี้ก็คงแปลกสำหรับมนุษย์แต่สำหรับผมที่มียีนไดโนเสาร์ถือว่าไม่มากไป...ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ส่วนมากก็กินเยอะแบบนี้เหมือนกันหมดแหละ

“เชสพักหอไหนเหรอ?”ผมถามระหว่างทางเดินกลับ

“คิดว่าไงล่ะ”

“ไม่คิดแล้ว...ตอนนี้ง่วงมากจะกลับไปนอนแล้ว”ผมตอบกลับ ตอนนี้ไม่อยากคิดอะไรแล้วขอเฉลยเลยเถอะ

“กินขนาดนั้นเดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก”

“อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ”ผมยืมคำของอีกฝ่ายมาใช้จนสังเกตว่าคิ้วของเชสถึงกับกระตุกที่ถูกย้อนแบบนี้

น่าขำจริงๆ

“หึ...หาเองสิ”คนข้างกายตอบก่อนจะเดินไปอีกทางหนึ่งพอผมจะวิ่งตามก็ต้องชะงักเพราะตอนนี้ผมอยู่หน้าหอพักของตัวแล้วซะแล้ว

ความไม่เข้าใจที่เกิดขึ้นทำให้ผมรีบหันกลับไปมองตามทางที่เชสเดินไปด้วยคิ้วสองข้างที่ขมวดเข้าหากันแน่น...

ทำไมถึงรู้ว่าผมอยู่หอนี้ล่ะ?

ผมเดินขึ้นไปยังห้อง505ที่เป็นห้องพักของตัวเองและรูมเมทอีกคนหนึ่งด้วยความสงสัยที่ยังไม่หายไป...คีย์การ์ดส่วนตัวถูกรูดโดยที่คิ้วสองข้างขมวดเข้ากันแน่นเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างที่ผิดปกติภายในห้อง ไม่สิ ไม่ใช่แค่ในห้องผมเท่านั้นแต่ได้ยินมาจากหลายห้องเลยเพราะมัวแต่คิดเรื่องอื่นเลยไม่ได้ทันสังเกต

“เกิดอะไรขึ้นเจฟ?”พอเข้าไปในห้องผมก็ถามรูมเมทเพียงคนเดียวที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า

“อานโน่?...มาพอดีเลยกำลังคิดอยู่เชียวว่าจะบอกนายยังไง”

“ทำไมเหรอ?”

“ก็นั่นน่ะ”เจฟชี้ไปยังห้องน้ำที่ถูกเปิดประตูอ้าไว้โดยมีน้ำนองออกมา จะว่าไปก็นองจนถึงพื้นที่ผมยืนเลยนี่นา

“นายลืมปิดน้ำ?”

“ไม่ใช่เฟ้ย!ถึงจะเคยลืมก็เถอะ...แท็งก์น้ำข้างบนมันรั่วแล้วไหลลงมาจนถึงห้องพวกเราน่ะสิห้องข้างๆก็โดนเหมือนกันเห็นว่าเรียกช่างมาจัดการอยู่แต่ต้องให้เราย้ายออกสักเดือนเพื่อจัดการซ่อมครั้งใหญ่”เจฟอธิบาย

“แล้วย้ายไปไหนล่ะ?”

“ฉันจะไปนอนหอเพื่อน...จะไปนอนด้วยกันไหมอานโน่?”

“เพื่อนคนไหน?”

“ก็เฟตไง”

“...ไม่ล่ะ...ขอบคุณ”ผมตอบแทบจะทันที่ได้ยินชื่อเพื่อนของเจฟคนนี้

ไม่อยากจะบอกหรอกนะว่าคนที่ชื่อเฟตเป็นยังไง...เจฟที่ว่าพูดมากพูดไม่หยุดยังต้องยอมให้กับชายที่ชื่อเฟตคนนี้ ด้วยดรีกรีหนุ่มหน้ามลของคณะนิเทศทำให้มีทักษะการพูดแบบสุดๆเจอกันแต่ละครั้งก็มักจะพูดอยู่เสมอแล้วยิ่งมาจับคู่กับเจฟ

ถ้าไปอยู่ด้วยคงไม่ต้องนอนกันพอดี

“งั้นนายไปนอนไหนล่ะอานโน่?”รูมเมทถามกลับ

“นั่นสิ...โอ๊ะ...”ระหว่างที่กลุ้มใจภาพของเจ้าชายน้ำแข็งแห่งมหาวิทยาอันเลื่องชื่อก็ผุดเข้ามาในหัว

ผมลืมเพื่อนคนนี้ไปได้ยังไงกัน

รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นทันทีที่รู้ว่าคืนนี้จะไปอยู่ไหนดี

“อะไรๆ...มีที่ให้ไปแล้วใช่ไหม?”เจฟถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ใช่...นายไปก่อนเลยเดี๋ยวฉันเก็บของเสร็จแล้วจะตามไป”

“ให้อยู่ช่วยไหมของนายเยอะจะตาย”

“ไม่ต้องหรอก...แค่นี้สบายมาก”

“จริงเหรอ?”อีกฝ่ายดูจะไม่ค่อยเชื่อคำพูดผมเท่าไหร่

“จริงสิ...ไปเหอะ”

“งั้นไปก่อนนะ”

“บาย”

พอเจฟออกไปจากห้องแล้วผมก็จัดการย้ายเสื้อผ้ามากมายจัดลงใส่กระเป๋าหนังที่วางอยู่ใต้เตียง...โชคดีที่น้ำยังไม่นองท่วมพื้นเลยสามารถเช็ดน้ำที่เปื้อนออกไปได้ ใช้เวลาสักพักกระเป๋าเสื้อผ้าทั้ง4กระเป๋าก็ถูกย้ายออกมานอกหอเรียบร้อย

“เอาล่ะ...นายอยู่ไหนนะเชส?”ผมพึมพำด้วยรอยยิ้มก่อนจะหลับตาลงแล้วสูดกลิ่นของทุกสิ่งรอบกายเข้าปอดโดยเพ่งสมาธิไปยังกลิ่นของเชส

กลิ่นหอมอ่อนๆที่เป็นเอกลักษณ์

กลิ่นของธรรมชาติที่ไม่มีการปรุงแต่ง

“...เจอล่ะ”ผมถึงกับยิ้มกว้างออกมาเมื่อรู้ที่อยู่ของคนที่ต้องการแถมยังอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ด้วย

กระเป๋าหนังถูกวางซ้อนกันก่อนจะลากเข้าไปยังหอพักที่อยู่ถัดออกไปไม่ไกล ก่อนจะเข้าไปก็มีคนมาถามว่ามีธุระอะไรพอบอกว่าที่หอเกิดเรื่องทางผู้ดูแลก็ไม่ว่าอะไรแถมยังเปิดทางให้ผ่านไปอย่างง่ายๆ

กลิ่นของเชสเริ่มชัดขึ้นและชัดเจนที่สุดเมื่อสองเท้ามาหยุดอยู่หน้าห้อง610...มือที่จะเคาะประตูชะงักเล็กน้อยเมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าการมาขอพักโดยไม่บอกล่วงหน้าจะเป็นการเสียมารยาทรึเปล่า ไม่แน่ว่าเชสอาจมีรูมเมทอยู่ถ้าผมเข้ามาเพิ่มอาจดูไม่ดี
เพื่อความแน่ใจผมเลยดมกลิ่นของคนที่อยู่ภายในสุดท้ายกลิ่นที่ได้ก็มีเพียงกลิ่นของเชสคนเดียวเท่านั้น

“อยู่คนเดียว?”จากที่ฟังเจฟเล่าเห็นว่าแต่ละห้องต้องมีรูเมทอย่างน้อย1...บางห้องที่ไม่มีอาจเป็นเพราะคนในหอน้อย

“เอาน่า...ถ้าไม่เคาะวันนี้ก็ไม่ได้นอนพอดี”ผมบอกตัวเองก่อนจะเคาะที่ประตูห้อง610สามครั้งแล้วรอคนด้านในออกมาเปิดให้

เสียงฝีเท้าที่เดินมาใกล้ทำให้ผมเริ่มเกร็งขึ้นเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดแบบไหนขอเชสมาอาศัยอยู่ด้วยดี

แกร็ก!

“...อานโน่?”เจ้าของห้องเรียกชื่อผมอย่างไม่เชื่อสายตา คิ้วสีน้ำตาลเช่นเดียวกับเส้นผมขมวดเข้าหากันแน่นอย่างสงสัย

“เอ่อ...สวัสดี”

“มาได้ไง?”

“ห๊ะ?”

“ทำไมถึงรู้ว่าฉันอยู่นี่?”คำถามที่ชัดเจนดังขึ้น

“...ตามกลิ่นนายมา”ผมตัดสินใจบอกความจริงเพราะถ้าโกหกคงจะถูกจับได้แน่

ตอนนี้ผมไม่อยากเถียงกับเชส...ง่วงจะตายอยู่แล้ว

“หึ...เป็นหมาจริงๆสินะ”

“หอฉันมีเรื่องนิดหน่อยเลยต้องย้ายออกสักเดือน...ถ้ายังไงขอพักที่นี่สักพักได้ไหม?”พอถามเสร็จก็เงยหน้าขึ้นไปสบดวงตาสีน้ำเงินเข้มตรงหน้า

“ถ้าไม่ให้ล่ะ?”

“เชส...นายเป็นคนใจดีและอ่อนโยนเพราะงั้นให้อานโน่คนนี้พักด้วยนะครับ...นะ”ตอนนี้ตาผมแทบปิดแล้ว

“...จงใจสินะ”

“จงใจอะไร?”ผมถามเมื่อได้ยินคนตรงหน้าพึมพำเสียงเบา

“เปล่านี่...”เชสตอบก่อนจะขยับตัวออกแล้วเปิดประตูห้องกว้างขึ้น นั่นทำให้ผมที่ยืนอยู่หน้าห้องยิ้มกว้างแล้วลากกระเป๋าตัวเองเข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณนะ”

กระเป๋าลากถูกวางไว้ติดผนังห้องสีขาวสะอาดตาก่อนที่ผู้มายืนอย่างผมจะมองซ้ายขวาเพื่อหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ พอสายตาหันไปเห็นเตียงขนาดใหญ่ดวงตาสีแดงอ่อนใต้คอนแทคเลนส์ก็ตาลุกวาวด้วยความดีใจก่อนก้าวเข้าไปยังเตียงที่ถูกปูด้วยผ้าปูเตียงสีน้ำเงินลายจุดสีเงินแล้วทิ้งตัวลงโดยไม่สนใจเสียงรั้งของเจ้าของห้องสักนิด

“ลุกเดี๋ยวนี้อานโน่!”เสียงทุ้มพูดก่อนเดินเข้ามาใกล้เตียงมากขึ้น

“ไม่ไหวแล้ว...ไว้คุยกันพรุ่งนี้นะ”ผมปรือตามองเชสที่ทำหน้ายุ่งข้างเตียง

“คุยวันนี้แหละ...ไปนอนโซฟาเลย”

“อื้ออ...ฉันง่วง”

“อย่าดื้อ”เชสบ่นก่อนจะพยายามดึงผมให้ลงจากเตียงแต่ผมก็เกาะเตียงแน่นยิ่งกว่าตุ๊กแกซะอีก

“น่าเชส...ขอนอนนี่นะ...เตียงนายนุ่มจัง”ผมบอกพรางซุกใบหน้าลงที่เตียงกว้าง

ไม่ใช่แค่นุ่มแต่กลิ่นของเชสที่ติดอยู่บนเตียงทำให้ผมเผลอสูดดมอย่างไม่รู้ตัว...กลิ่นนี้ช่างดูดสติผมซะจริงๆ

มนุษย์ที่มีกลิ่นแบบนี้มันขี้โกงนี่นา

“อานโน่!”

แม้เสียงทุ้มจะตะโกนเรียกชื่ออีกสักกี่รอบผมก็ไม่สน...ดวงตาสีสวยปิดสนิทและเข้าไปในโลกแห่งความฝันอย่างรวดเร็ว ฝันที่สงบไม่มีเสียงเรียกตะโกนชื่อผมอีก...สิ่งที่มีคือสัมผัสอุ่นๆของฝ่ามือที่คุ้นเคยและเสียงทุ้มที่เอ่ยบางอย่างด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าปกติ...

“ฝันดีอานโน่”

...........................................................................................

สวัสดีค่ะ

มาอัพต่อแล้ว

ตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายที่เอื่อยๆแล้ว

ตอนหน้าไดโนเสาร์มาแล้วค่าาา (เย้!)

มีใครรอฉากเจอไดโนเสาร์อยู่บ้างเอ่ย?

ไม่ค่อยถนัดการแต่งพวกเรื่องในมหาลัยจริงๆด้วย

ถึงตอนนี้จะเรียนอยู่แต่ก็ไม่ค่อยได้เข้าร่วมกิจกรรมเท่าไหร่เลยไม่มีข้อมูลมาแต่งอะไรมากมาย

ตอนนี้อานโน่รุกเข้าไปนอนถึงเตียงพระเอกเลยทีเดียว...

ใจกล้าเกินไปแล้วววว

คงไม่ลืมใช่ไหมว่าตัวเองเป็นนายเอกน่ะ! 555+

ช่วงนี้ใครเรียนมหาลัยคงอยู่ในช่วงสอบเหมือนเรา...

ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจที่มีให้ด้วยนะคะ^^

ไว้เจอกันใหม่ในตอนหน้า

สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของนิยายได้ในเพจนะคะ>>nicedog<<

บ๊ายบาย :bye2:

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪


ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
หื้มมมมมมม

งี้อานโน่จะปิดความลับเรื่องวิกผมได้อีกนานไหมคะนี่? มันต้องตากๆบ้างเหมือนกันนะ  :ruready

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
นอนแบบมึนๆกันเลยทีเดียวนะ อานโน่  :hao3:

ตอนหน้าจะมีไดโนเสาร์มาแจมแล้ววว :katai2-1:

ออฟไลน์ kiolkiol

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1

ออฟไลน์ hamony

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มต่อไว้ ๆๆๆๆๆๆๆ นะ อยากอ่านต่อ ยังไมม่หายคิดถึงเลย

ออฟไลน์ zakimi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
ตอนหน้า  เปิดตัวไดโนเสาร์แล้ววว :katai2-1:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
อานโน่น่ารักกก :katai3:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
มีอ้อนนะอานโน่ มาขอนอนห้องผู้ชายไม่เป็นกุลสตรี? เลยลูก :hao7: รอตอนหน้านะคะ

ออฟไลน์ fammi50

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
ค้างงงงงงงงงงงงงง อยากอ่านต่อแล้วอ่า  :z3:

ป.ล.แนะนำให้ลองดูหนังฝรั่งแนววัยมหาลัยเพื่อซึมซับบรรยากาศและดูว่ามีการใช้ชีวิต+กิจกกรมอะไรบ้าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2016 21:51:56 โดย fammi50 »

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33
ถ้าจะอยู่ทั้งเดือนจริงๆนะ
สีผมกับสีตายังไงก็ปิดไม่มิด
 :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
เริ่มแว้วๆๆๆๆ ชอบอานโน่มากๆ มึนๆดี 555

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
รออานโน่ถอดวิกกับคอนแทคอย่างเดียวค่ะตอนนี้ 555 อ้อว่าจะบอกนานแล้ว เล่มของยูทาร์ได้รับของแล้วนะคะ น่ารักมากเบยยยยย ห่อปกเรียบร้อยแต่ยังไม่ได้เปิดอ่านซักที 555+

ออฟไลน์ zoochi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
มาเร็วๆเลย นี่ไม่ได้เร่งนะ
แต่อยากอ่านมากกกกกกกกกกกกก
มานะ (ทำสายตาอานโน่)  :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด