✣Jurassic Confidant✣ คู่หู กลายพันธุ์รัก {• หาคู่•พิเศษ2+เปิดพรี} P.38 4/08/60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✣Jurassic Confidant✣ คู่หู กลายพันธุ์รัก {• หาคู่•พิเศษ2+เปิดพรี} P.38 4/08/60  (อ่าน 241107 ครั้ง)

ออฟไลน์ aaoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ Misakiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารักมากกกกก 5555 น้องดูฉลาดนะ เเต่เราว่าอย่างน้องต้องมีมุมซื่อๆ แบบไม่เข้าใจพวกมนุษย์นี้ด้วยแหละ น่ารักจริงๆ อานโน่

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
คนเขียนมาต่อแล้วว  :กอด1:
อานโน่คงต้องเรียนรู้เกี่ยวกับความรู้สึกอีกเยอะ ฮิฮิ  :z1:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
 :a5: อานโน่เคะ!!!! 55555555 เดี๋ยวปรับทัศนคติแป๊บ คิดว่าอานโน่เมะมาตลอด อานโน่ต้องจีบพระเอกก่อนแน่ๆ เลย
รอติดตามต่อค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ xirainx@gamil.com

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอนะ รอนะ 
อิอิ



ชอบๆอีกแย้ววววว จะอีกกี่ภาคก็จะอ่านและติดตาม
ชอบไดโนเสาร์ขึ้นเยอะเลย  :mew1: :mew2:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อิอิ เจอกันแล้วอะ

ออฟไลน์ คุณข้าวทอด

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ paraprove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านคู่พ่อแม่จบ รีบวิ่งมาคู่ลูกทันที

อานโน่ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
รอออ คิดถึงอานโน่ที่น่ารักกกก :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ Matia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ลูกหมาป่าน่าจะน่ารักก

อยากอ่านต่อแล้ววว><

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อานโน่เคะอ่ะ ถูกใจมากก :katai2-1:

ออฟไลน์ yaoisamasang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Yaoi-Sama/463499467036395?ref=hl
จุดพลุฉลองภาคจ่อ เย้ๆ

ออฟไลน์ fahhee_zeze

  • Love you...YAOI~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ถ้าจะมีหลายภาค...แนะนำทำบ็อกเซ็ตซีรี่ย์ไปเลยจะรออุดหนุน~



รออ่านรุ่นแม่....ของยังมาไม่ถึงเลยยย  :hao5:

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ grimreaper

  • การอิจฉาคนอื่น คือการดูถูกตัวเอง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กรี๊ดด >< ชอบตั้งแต่ภาคของแม่และพ่อแล้ว อ่านวนซ้ำหลายรอบมาก ชอบแบบโครตๆอ่ะ  :ling1:

ยิ่งตอนจ้องผ่านกรงของภาคพ่อแม่ และภาคลูก >< เราก็จะติดตามต่อไป

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
น่าสนจายยยยย!!

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
โหยยยยยยยย น้องโน่มาอยู่สองวันก็สปาร์คละ เริ่ด!!!!!
แบบนี้ต้องล่อลวงพี่เชส ให้มาเป็นของเรา ฮี่ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
เชส ผู้ชายคนนั้นแลดูลึกลับ น่าค้นหาจริงๆ

กรี๊ด อานโน่เคะ  :mew3:

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
• •* หาคู่หู*• •วันที่2



ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ในร่างมนุษย์อย่างผมเดินออกมายังเขตหอพักพร้อมกับชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนเดิม...หลังจากที่รักษาลูกหมาป่าเสร็จอีกฝ่ายก็ตรงกลับโดยไม่มีแม้คำบอกกล่าวจนต้องวิ่งตามมาเองแบบนี้ มือที่ถูกกัดมีเลือดไหลอาบจนรู้สึกชานิดหน่อยอยากจะยกขึ้นมาเลียแต่ก็ไม่ได้เพราะมีคนอยู่ด้านข้าง

กลับห้องไปค่อยทำละกัน

ในหัวคิดแบบนั้นก่อนจะแยกตัวไปอีกทางหนึ่งแต่มือของคนด้านหลังก็จับเข้าที่ไหล่แล้วดึงเบาๆเหมือนจะบอกว่ามีเรื่องคุยด้วยผมเลยหันไปมองแต่สิ่งที่อีกฝ่ายทำมีเพียงแค่แบมือออกแล้วยื่นมาเท่านั้น

“...?”

“มือ”อาจเป็นเพราะเห็นใบหน้างงๆเสียงทุ้มเลยเอ่ยสิ่งที่ต้องการออกมาถึงคำพูดนั่นจะสั้นจนไม่เข้าใจก็ตาม

มือนี่คือขอมือผม?

หรือว่าอยากให้ผมทำแผลมือของเขาที่บาดเจ็บ?

เมื่อไม่รู้เลยมีแต่ต้องสี่ยงตอบไป...

“ขอยืมที่ทำแผลหน่อยเดี๋ยวจะทำให้”ผมบอกก่อนจะจับมืออีกฝ่ายพลิกจนเห็นรอยเล็บแดงเป็นทางยาวที่มีเลือดไหลซึมอยู่และก็เป็นอีกครั้งที่เขาสะบัดมือผมทิ้ง

ผมรู้สึกโกรธจนรู้สึกเหมือนเส้นผมตัวเองกำลังจะย้อมเป็นสีน้ำเงินแล้ว...ดวงตาสีแดงอ่อนใต้คอนแทคเลนส์เงยหน้าขึ้นไปสบตาคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง

ถึงจะถูกใจดวงตาคู่นั้นแต่ถ้านิสัยแย่ขนาดนี้ก็ขอบายเถอะ

นึกว่าจะเป็นเพื่อนกันได้ซะอีก

“มือนาย”

“ห๊ะ?”

“...ขอมือนาย”อีกฝ่ายเงียบไปก่อนจะย้ำอีกครั้งด้วยเสียงที่เข้มกว่าเดิม

ผมกระพริบตาปริบๆสองสามครั้งเพื่อทำความเข้าใจก่อนจะวางมือข้างที่ถูกกัดลงบนมือของคนตรงหน้าที่ยื่นรออยู่...ครั้งนี้ดูเหมือนจะตรงกับสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ เขาค่อยๆใส่ยาและพันแผลที่มือผมอย่างระมัดระวัง

ความรู้สึกอุ่นๆที่เข้ามาทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาบางๆ...ขอถอนคำพูดที่ว่านิสัยแย่ละกัน

เป็นคนที่แสดงความรู้สึกไม่เก่งสินะ

“ขอบคุณ...ฉันทำให้นายบ้างขอยืมยากับผ้าพันแผลหน่อยนะ”ครั้งนี้ผมไม่ยอมให้อีกฝ่ายสะบัดมือทิ้งเลยรีบคว้ามือนั่นจับไว้แน่นก่อนจะใส่ยาแล้วพันแผลให้บ้าง ทั้งที่คิดว่าน่าจะถูกขัดขืนมากกว่านี้แต่ก็ไม่มีเลย

“...ขอบคุณ”คำพูดนั่นเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นไปก่อนที่ดวงตาของเราจะประสานกัน...ดวงตาสีน้ำเงินเข้มนั่นผมชอบมันจริงๆ

“บอกชื่อได้ไหม?”

“...”

“ไม่บอกก็ช่างเถอะ...ไว้เจอกันใหม่...”

“กลาเซ่ เฟวรีเย่”

“ห๊ะ?”ผมหันกลับทันทีที่ได้ยินแต่อีกฝ่ายก็เดินไปอีกทางแล้ว



กลาเซ่ เฟวรีเย่

ชื่อของคนที่อาจเป็นเพื่อนใหม่ดังขึ้นอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมาตั้งแต่ถูกเจฟลากไปกินข้าวที่โรงอาหารแสนแออัดหรือแม้แต่ตอนที่ถูกชวนคุยผมก็ทำเพียงตอบกลับไปบ้างเป็นบางครั้ง ความรู้สึกที่ไม่พอนี่มันคืออะไรกันนะ

อยากรู้จักกับอีกฝ่ายมากกว่านี้

“...แล้วพอฉันตีไปด้านขวานะหมอนั่นก็ดันโต้ได้จนสุดท้ายก็แพ้ไปอย่างน่าเสียดายเลย...นี่อานโน่ฟังอยู่ไหมเนี่ย?”เจฟถามแล้วจับไหล่ผมเขย่าไปมาเพื่อเรียกร้องความสนใจ

“ฟังอยู่ๆ...แข่งแพ้ใช่ไหมล่ะ”

“ก็เออสิ...มันน่าโมโหชะมัดเลย...คราวหน้าไปแพ้แน่”

“สู้ๆ...การต่อสู้ก็แบบนี้แหละมีชนะมีแพ้เป็นเรื่องปกติ”

“โอเค...คราวหน้าฉันต้องชนะแน่นอน”ดูเหมือนเจฟจะมีกำลังใจแล้วล่ะ

“อืม”

“นี่อานโน่”

“หื้ม?”

“...คิดถึงใครอยู่รึเปล่า?”

“...”เจ้าของชื่อถึงกับชะงักพร้อมคิ้วที่ขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยที่เจฟรู้สิ่งที่ตนคิดแบบนี้

มนุษย์ไม่น่ามีความสามารถในการอ่านใจขนาดนี้นี่

“ถูกใช่ไหมล่ะ?...ถูกแน่ๆ”ยิ่งเห็นผมนิ่งไปอีกฝ่ายก็ฟันธงลงไปอย่างมั่นใจ

“รู้ได้ไงเนี่ย?”

“นี่มันเป็นพื้นฐานของพื้นฐานเลยนะ...ใครๆก็รู้กันทั้งนั้น”

“จริงเหรอ?”ใครๆกฌรู้แล้วทำไมผมถึงไม่รู้ล่ะ?

“จริงสิ...ดูง่ายๆเลยถ้ามีอาการเหม่อ...เงียบกว่าปกติหรือหันไปมองนอกหน้าต่างนั่นเป็นสัญญาณว่ากำลังมีเรื่องในใจและนายก็กำลังมีอาการแบบนั้นด้วย”เจฟอธิบายด้วยดวงตาสีเขียวอ่อนที่จ้องเขม็งมา

“...รู้จักผู้ชาย...”

“อะไรนะ?...นี่นายหลงรักผู้ชายคนไหนเหรอ?”

“ไม่ใช่สักหน่อยแค่เจอกันแล้วเขามีนิสัยแปลกๆเท่านั้นเอง”ผมถึงกับรีบอธิบายความจริงจนลิ้นแทบพันกันถึงในยุคนี้เรื่องรักร่วมเพศจะเป็นเรื่องปกติแต่พอมาถูกพูดถึงแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆ

“อ้อ...แล้วใครล่ะ?...ไม่อยากจะคุยนะว่าฉันนี่แหละคนที่มีเพื่อนมากที่สุดในมหาวิทยาลัยนี้ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันหรือน้องปี3ปี2ปี1ไม่เว้นแม้แต่รุ่นพี่ที่จบไปแล้ว...ถ้าจะถามหาคนให้มหาวิทยาลัยนายถามถูกคนแล้วล่ะ”เจฟบอกด้วยความภาคภูมิใจ

นี่ขนาดไม่ได้คุยนะเนี่ย...

“รู้จักคงที่ชื่อกลาเซ่ เฟวรีเย่ไหม?”ผมลองถามดู

“...”

“เจฟ?”ผมเรียกชื่ออีกฝ่ายเมื่อเพื่อนร่วมห้องอยู่ๆก็แข็งทื่อราวกับถูกแช่แข็ง

หาไม่ง่ายหรอกนะที่คนพูดมากจะนิ่งขนาดนี้

“...ขอชื่ออีกรอบได้ไหม?...ฉันอาจจะฟังผิดไป”ชายหนุ่มด้านข้างถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจในแววตาสีเขียวอ่อนทอประกายด้วยความหวังบางอย่าง

“กลาเซ่ เฟวรีเย่”
“...พระเจ้า...พูดเป็นเล่นน่า”เจฟแสดงสีหน้าตกใจสุดก่อนจะจองมาอย่างไม่เชื่อสายตา

“เขาทำไมเหรอ?”

“นายไปรู้จักกับคนระดับนั้นได้ยังไง?”

“ก็ไม่ได้รู้จัก...”

“ไม่ๆๆ...ต้องถามว่าคนระดับนั้นมารู้จักนายได้ยัง?”

“แล้วมันต่างกันยังไงล่ะ?”ผมจะรู้จักเขาหรือเขาจะรู้จักผมยังไงความหมายมันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?

“ต่างสิ..ต่างมากๆด้วย...ชื่อนั้นนายรู้มาจากไหน?”เจฟถามพร้อมขยับเข้ามาใกล้จนผมต้องเขยิบไปจนชิดขอบโซฟาตัวยาวสีน้ำตาลที่ตั้งอยู่กลางห้อง

“...ก็เจ้าตัวบอกมาเอง”

“...”เป็นครั้งที่ร่างของเพื่อนร่วมห้องนิ่งสนิทราวกับโดนแช่แข็ง

“เจฟ?”

“Oh My God!...เรื่องจริงหรือนี่เจ้าชายน้ำแข็งคนนั้น!”

“ห๊ะ?...หมายความว่ายังไง?”คุยมาตั้งนานผมยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักอย่าง

“รู้ไหมว่าเรื่องนี้มันใหญ่ขนาดไหน!?”เจฟตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆเหมือนกำลังกลัวและตกใจไปพร้อมๆกัน

“ทำไมล่ะ?”แค่บอกชื่อมันจะใหญ่อะไรขนาดนั้น?

“นี่นายไม่คุ้นหูนามสกุลเฟวรีเย่เลยเหรอ?”

“...ไม่นี่”ผมคิดสักพักก่อนตอบกลับไป

นามสกุลนี่พึ่งเคยได้ยินครั้งแรกเลย

“บ้านนายอยู่บนเกาะที่ห่างไกลผู้คนรึไง!”

“ใช่”ผมตอบกลับไป...ก็เกาะที่ผมอยู่มันห่างไกลผู้คนจริงๆนี่นะ

“ฉันประชดเว้ย!”

“...”ดูเหมือนเจฟจะไม่เชื่อว่าผมมาจากเกาะที่ห่างไกลผู้คนแฮะ

“เฮ่อ...ฉันบอกให้ก็ได้ตะกูลเฟวรีเย่เป็นตระกูลเก่าแก่ของประเทศฝรั่งเศสที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณีมาหลายชั่วรุ่น...ความสามารถของผู้นำตระกูลเป็นรองแค่นางฟ้าแห่งอัญมณีคุณฟาร์ฟาเล่ นาตารีเท่านั้น...จากที่พูดไปนี่รู้รึยังว่านามสกุลนี้มีชื่อเสียงขนาดไหน”

“อืม”ผมพยักหน้าเข้าใจ ถึงจะไม่เคยได้ยินชื่อเฟวรีเย่แต่ถ้าเป็นฟาร์ฟาเล่ นาตารีผมรู้จักอย่างแนบแน่นเลย...เพื่อนสนิทของคุณย่าที่เจอกันนับครั้งได้

“นี่นายพูดแค่ ‘อืม’ ...กับข้อมูลที่น่าตกใจขนาดนี่น่ะนะ...โอ้ย!...เพื่อนฉันมันไม่มีความรู้สึกรึไงกัน!”เจฟบ่นอย่างหัวเสียงพร้อมขยี้ผมสีน้ำตาลของตัวเองจนยุ่งเหยิงไปหมด

“แล้วมันเกี่ยวยังไงกับกลาเช่ เฟวรีเย่ล่ะ?”ผมถามต่อ

“ห๊ะ?...นี่พูดขนาดนี้ยังไม่รู้อีกเหรอ?”

“...”ความรู้สึกตอนนี้เหมือนตัวเองกำลังถูกด่าว่าโง่อยู่กลายๆเลย

“เอาเถอะ...ความจริงก็น่าจะพอเดาได้นะ...กลาเช่ เฟวรีเย่หรือเชสเป็นลูกชายคนโตของตะกูลเฟวรีเย่ที่ได้รับการยอมรับตั้งแต่ยังไม่เข้ารับตำแหน่งผู้นำตระกูลว่าเป็นคนที่มีความสามารถมากที่สุดในหมู่ผู้นำ...ด้วยอายุแค่13ปีก็มีความสามารถด้านภาษาระดับโลก...พออายุ15ก็มีความรู้ด้านการแพทย์จนหลายๆคนอยากให้เขาสอบแพทย์แต่เพราะต้องสืบทอดธุรกิจต่อจากครอบครัวเลยเรียนด้านพาณิชย์แทน...”

“ยังไม่หมดแค่นั้นเมื่ออายุ17ปีก็มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์อย่างแตกฉาน...และมาถึงตอนนี้เขาก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะที่100ปีจะมีสักคน...ทีนี้เข้าใจรึยังว่าเขาสุดยอดขนาดไหน?”

“อืม”ผมพยักหน้ากับคำอธิบายอย่างละเอียดของเจฟ

“แค่ ‘อืม’...อีกแล้ว...ไม่มีคำพูดอื่นแล้วรึไง?”

“น่าสงสาร...”ผมพึมพำออกไป

“น่าสงสาร?...นายพูดผิดล่ะสิจะบอกว่าน่าอิจฉาก็พูดมาเถอะ...ใครๆก็อิจฉาหมอนั่นกันทั้งนั้นแหละ”เจฟเข้าใจว่าผมพูดแต่อยากบอกเลยว่าสิ่งที่พูดไปไม่ได้ผิดเลยสักนิด

สงสาร

นั่นคือความรู้สึกแรกที่ได้ยินเรื่องของกลาเช่หรือเชส...การที่เกิดในตระกูลที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ย่อมมีแรงกดดันมากกว่าเด็กทั่วไปแล้วยิ่งถูกคาดหวังมาตั้งแต่เด็กๆคงยิ่งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่แน่

ไม่มีอิสระ

ไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะเลือกทางที่อยากจะก้าวไป

“...เพราะแบบนั้นเลยไม่ค่อยพูดสินะ”ผมพึมพำพร้อมนึกย้อนกลับไปยังตอนที่เราเจอกัน

“ไม่ใช่แค่ไม่ค่อยพูดนะต้องบอกว่าแทบไม่มีใครเคยได้ยินเสียงเขาเลยดีกว่า...ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรแต่ใครที่เชสคุยด้วยถือว่าเป็นบุคคลที่พิเศษมากกกกก”

“ขนาดนั้นเลย”

“ใช่สิ...ขนาดฉันที่มีเพื่อนมากที่สุดยังไม่เคยได้พูดกับเขาเลย”

“...”แปลว่าการที่เชสพูดกับผมแบบนี้มันก็เป็นสิ่งที่น่าตกใจสินะ

น่าแปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกตกใจ

มีเพียงแค่ความดีใจอยู่ในส่วนลึกของหัวใจเท่านั้น

พรุ่งนี้ผมจะลองเข้าไปทักเขาดู

การเรียนในวันต่อมาผ่านไปอย่างไม่มีอะไรน่าห่วง...วิชาวิเคราะห์คณิตศาสตร์เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผมชอบเพราะเพียงแค่จำสูตรได้ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรอยากก็แค่ค่อยๆแก้ไปทีละขั้นจนได้คำตอบที่ต้องการเท่านั้นเอง...วิชานี้เรียนช่วงบ่ายกว่าจะเสร็จก็ปาไปสี่โมงเย็น

ทันทีที่เลิกคลาสผมก็วิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้าของตึกเรียนก่อนจะจับที่ราวกั้นแล้วเอนตัวไปด้านหน้าพร้อมสูดกลิ่นต่างๆเข้ามาจนเต็มปอด...กลิ่นที่ตามหาอยู่คือกลิ่นของคนที่เจอเมื่อวานกลาเช่ เฟวรีเย่หรือเชสนั่นเอง

กลิ่นสะอาดๆและเป็นธรรมชาติ...

และมีกลิ่นหอมอ่อนๆแฝงอยู่ด้วย

“อ๊ะ...เจอล่ะ”ผมถึงกับยิ้มกว้างออกมาเมื่อสัมผัสถึงกลิ่นของคนที่ต้องการได้

สองขารีบวิ่งไปหากลิ่นนั้นโดยที่จุดหมายปลายทางเป็นสถานที่ที่คุ้ยเคยเพราะพึ่งมาเมื่อวานนี้เอง...บริเวณชายป่าด้านหลังหอพักของผม พอกะระยะได้พอสมควรความเร็วในการวิ่งก็ค่อยๆลดลงจนเหลือแค่เดินเข้าไปใกล้เท่านั้น

ถึงจะบอกว่าบริเวณชายป่าแต่ที่ที่เชสอยู่นั้นลึกเข้าไปอีกหน่อยเรียกว่าถ้าแค่เดินผ่านก็คงจะมองไม่เห็นแน่...เสียงของลมหายใจที่เข้าออกเป็นจังหะสม่ำเสมอดังขึ้นเรื่อยๆก่อนจะปรากฏภาพของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลารูปร่างดีนั่งพิงต้นไม้โดยที่ดวงตาสีน้ำเงินเข้มนั้นหลับพริ้มอย่างสบาย

“...สบายเลยนะ”ผมยิ้มออกมาก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นไม่นานผมก็นั่งลงข้างๆมนุษย์ที่หลับสนิท

สถานที่นี้อาจเป็นที่ที่อีกฝ่ายจะได้อยู่อย่างสบายใจก็ได้

ไม่มีเสียงดังรบกวน

ไม่มีความเสแสร้งที่ต้องปั้นหน้า

ไม่มีความอึดอัดหรือลำบากใจ

ผมปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมโดยทำเพียงพิงหลังเข้ากับต้นไม้ต้นเดียวกันปล่อยให้สายลมพัดผ่านด้วยความผ่อนคลาย...ตั้งแต่ที่มายังสังคมของมนุษย์นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกสงบขนาดนี้ทั้งที่มีมนุษย์อยู่ข้างๆ

จิ๊บ จิ๊บ

เสียงนกเล็กพูดคุกันสร้างบรรยากาศให้น่านอนมากขึ้นไปอีก...ดวงตาสีแดงอ่อนใต้คอนแทคเลนส์จึงค่อยๆหลับลงอย่างเชื่องช้าแต่ยังไม่หลับสนิทเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

‘นักล่าล่ะ’เสียงนกที่เกาะอยู่ไม่ไกลดังขึ้นทำให้สติที่กำลังจะวูบกลับเข้าร่างอีกครั้ง

‘จริงด้วย...ทำไมนักล่าถึงอยู่กับมนุษย์ล่ะ?’อีกเสียงพูดต่อ

‘หรือว่าจะกินมนุษย์คนนั้น?’

‘จริงเหรอ?...ว่าแต่ทำไมนักล่าถึงอยู่ในร่างมนุษย์ล่ะ?’

‘ไม่แน่นะนักล่าอาจกำลังกำให้เหยื่อตายใจก็ได้’

‘น่ากลัวเนอะ’

‘อืม...น่ากลัวจังเขาจะจับเรากินรึเปล่า?’

‘ฉันไม่กินพวกเธอหรอก’หลังจากที่หลับตาฟังอยู่ผมก็ลืมตาขึ้นพร้อมหันไปมองนกสองตัวที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้

‘...เขาพูดกับเราล่ะ?’

‘จริงด้วยๆแถมยังมองมาทางนี้อีก’

‘นี่คุณนักล่าทำไมถึงมาอยู่นี่ล่ะ?’นกตัวหนึ่งถามมา

‘มาเรียนรู้เรื่องมนุษย์’

‘มนุษย์?...ทำไมต้องเรียนรู้อาหารด้วยล่ะ?’

‘ฉันไม่กินมนุษย์หรอกนะ’

‘แปลว่าจะกินพวกเราเหรอ?...ว้ายหนีเร็ว!’เธอพูดพร้อมกับเตรียมกระพือปีก

‘ไม่ใช่นะ...ฉันไม่กินใครทั้งนั้นแหละไม่ต้องกลัวไป’ผมรีบอธิบายก่อนที่เสียงกระพือปีกจะทำให้คนข้างกายตื่นขึ้น

‘สัญญานะ’

‘อืม...สัญญา’

‘คุณนักล่าแปลกจังเลย...ใจดีจัง’

‘จริงด้วยใจดีๆ’

“ไม่ขนาดนั้นหรอก”ผมตอบกลับก่อนจะส่งยิ้มไปให้พวกเธอ

“อะไรไม่ขนาดนั้น?”เสียงทุ้มจากด้านหลังทำให้ผมชะงักก่อนจะหันกลับไปในจังหวะเดียวกับคนข้างหลังขยับเข้ามาใกล้ นั่นทำให้ปลายจมูกของเราสัมผัสกันเบาๆ...ดวงตาสีน้ำเงินเข้มเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็วไม่เหมือนกับผมที่ตอนนี้เหมือนวิญญาณหลุดไปเลย

“...ขยับออกไปสิ”ผมบอกเสียงเบา ความจริงผมก็อยากเป็นฝ่ายขยับอยู่หรอกแต่ตกใจจนร่างกายแข็งเกร็งไปหมดแล้ว

“ก็ทำเองสิ”คนตรงหน้าไม่ยอมทำตามแถมยังขยับเข้ามาใกล้มากว่าเดิม

“...ทำอะไรน่ะ?”

“ขอถามคำถามนั้นกลับเลยล่ะกัน”เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนจะค่อยๆดันหลังผมจนติดกับต้นไม้โดยมีอีกฝ่ายคร่อมตัวอยู่

“อะไร?”ไม่เห็นเข้าใจความหมายเลย

“มีธุระอะไรกับฉัน?”ดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่จ้องมาราวกับจะไม่รับฟังคำโกหกใดๆ

“แค่อยากคุยด้วย”

“เรื่อง?”

“ฉันแค่อยากเป็นเพื่อนกับนาย...”

“ไม่ต้องการ!...ไปบอกพ่อแม่หรือครอบครัวโลภๆของนายซะว่าถ้าคิดจะเข้าหาด้วยวิธีก็คิดผิดแล้ว!”คำพูดนั่นทำให้ผมถึงกับสติขาดผึ่งใช้เท้ายันอีกฝ่ายจนกระเด็ดไปกองกับพื้นดิน

“จะมากไปแล้ว!...นายจะว่าฉันก็ได้แต่อย่าพูดถึงครอบครัวฉันแบบนั้น!”อย่าพูดเหมือนพวกเขาสอนให้ผมทำสิ่งที่ไม่ดีทั้งที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่

“หึ...พูดความจริงแค่นี้ก็รับไม่ได้เลยสินะ”

“มันไม่ใช่ความจริง!...ครอบครัวฉันไม่ได้บอกให้มาหานาย!”ผมบอกออกไปตามตรง

“ใครเชื่อก็บ้าแล้ว...ไม่มีหรอกคนที่เข้าหาฉันโดยไม่หวังอะไร!...คนแบบนั้นมันไม่มีหรอก!”เสียงทุ้มเงยหน้าขึ้นมาตะโกนใส่ผมเสียงดังลั่นเหมือนกับกำลังระบายสิ่งที่ตัวเองอัดอั้นออกมาจนหมดสิ้น

ท่าทางของเขาบอกได้อย่างดีเลยว่าตั้งแต่เด็กต้องเจอกับเรื่องอะไรมา...

มนุษย์ก็แบบนี้แหละ

เห็นแก่ตัว

มีแต่ความโลภ

ขอแค่ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการไม่ว่าจะโกหกหรือเสแสร้งแค่ไหนก็พร้อมจะทำ

“มีสิ”ผมบอกเสียงเบาก่อนจะคุกเข่านั่งลงข้างหน้าเชส

“...”ดวงตาสีน้ำเงินนั่นสื่อความหมายออกมาว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดเลยสักนิด

“ฉันเองก็เข้าใจนายนะ...เข้าใจดีว่ามนุษย์น่ะน่ากลัวขนาดไหน...ความต้องที่ไม่มีที่สิ้นสุดนั้นต่อให้ต้องหลอกลวงใครก็จะทำอย่างไม่ลังเล ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการกระทำของตัวเองมันสร้างความเจ็บปวดให้ใครบ้าง...”ผมบอกสิ่งที่รู้สึกออกไป

เพราะเคยเจอกับมนุษย์แบบนั้นเลยรู้ถึงคำว่าหน้ากากที่ใส่เข้าหากันของมนุษย์

ครั้งแรกที่รับรู้ถึงมนุษย์ในแง่ลบเป็นวันที่ผมออกไปเจรจาภารกิจง่ายๆพร้อมกับพ่อและแม่...คำพูดของคนที่มาทำข้อตกลงทำให้เด็กที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอย่างผมถึงกับกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ

มีทั้งคำดูถูก...เหยียดหยาม...ข่มขวัญหรือแม้แต่คำวิงวอน

เชื่อไหมว่าไม่ต้องรอนานแม่ก็จัดการชกหน้าผู้ชายคนนั้นซะเละก่อนจะอุ้มผมแล้วเดินกลับบ้าน...สิ่งที่แม่กระซิบตลอดทางกลับบ้านมีเพียงคำขอโทษและคำพูดที่บอกว่า...

‘ไม่ใช่มนุษย์ทุกคนที่จะเห็นแก่ตัวแบบนั้น’

คำพูดนั่นช่วยให้ผมเข้าใจและผมเองก็จะทำให้เขาเข้าใจเหมือนกัน

“เชส...ไม่ใช่มนุษย์ทุกคนที่เห็นแก่ตัวแบบนั้น”

“...นายจะรู้อะไร”

“ฉันไม่รู้หรอกเพราะตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจมนุษย์เลย...ทำไมต้องโกหก...ทำไมต้องเสแสร้ง...ทำไมต้องเห็นแก่ตัวนัก...เพราะไม่เข้าใจเลยถูกให้มาอยู่นี่เพื่อจะได้เข้าใจมนุษย์มากขึ้น”ไม่รู้ว่าอะไรพาไปที่ทำให้ผมบอกความจริงออกไปแบบนั้น

ดีนะที่ยั้งเรื่องไดโนเสาร์ทัน

“แค่มานี่จะเข้าใจได้ยังไง...ไม่มีทาง”อีกฝ่ายบอกชัดก่อนจะเหยียดขายาวแล้วเสยเส้นผมสีน้ำตาลขึ้นอย่างลวกๆ

“คิดเหมือนกันเลย”

“...”

“นี่...นายบอกใช่ไหมว่าไม่มีคนที่เข้าหาโดยไม่หวังอะไร”

“...”เชสทำเพียงปลายตามามองก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า

“ก็คงจริงเพราะที่ฉันมาหานายก็หวังจริงๆนั่นแหละ”

“หึ...ว่าแล้ว”

“ฉันหวังแค่หาสถานที่ที่สามารถอยู่ได้อย่างสงบและผ่อนคลายแบบนี้...เหมือนตอนที่ได้อยู่กับนาย”

“...อธิบายมา”

“ฉันก็ไม่รู้อะไรมากหรอกเพียงแค่ดวงตาสีน้ำเงินเข้มของนายทำให้ฉันรู้สึกสงบ...บรรยากาศรอบๆตัวนายมันสงบมากและกลิ่นของนายไม่เหมือนกับใครที่เคยได้กลิ่น”

“เป็นหมารึไง?”

“ใกล้เคียงมั้ง...เอาเป็นว่าขอแค่บางครั้ง...ให้ฉันมานั่งเงียบๆกับนายที่นี่ได้ไหม?”ผมหันไปถามอีกฝ่ายตรงๆ

“นายมันอันตราย”

“หื้อ?”

“ฉันสัมผัสได้แบบนั้น...บรรยากาศรอบๆตัวนายไม่เหมือนกับคนปกติ”คำพูดของเชสทำให้หัวใจผมเต้นเร็วขึ้นด้วยความกังวล...หรือว่าจะรู้ว่าผมไม่ใช่มนุษย์

“...”ไม่สิ...จะว่าไปมนุษย์ปกติไม่น่าแยกบรรยากาศรอบๆตัวออกนี่

“ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ”

“เปล่าก็แค่...แปลกใจ”

“นายเองก็รับรู้ได้นี่...มีไม่กี่คนหรอกที่ประสาทไวขนาดสัมผัสถึงบรรยากาศรอบๆตัวคนได้”

ผมถึงกับลอบถอนหายใจที่ความยังไม่แตก...เพิ่งรู้ว่ามนุษย์ก็มีส่วนน้อยที่มีความสามารถแบบนี้ด้วย

“แล้วที่บอกว่าอันตราย”

“...ไม่รู้สิ...อธิบายไม่ถูกแต่อาจคิดไปเอง”

“...อาจไม่ได้คิดไปเองก็ได้นะ”ผมบอกก่อนจะส่งยิ้มไปให้

ประสาทไวจริงๆด้วย...ที่ว่าอันตรายคงเป็นเพราะสายเลือดของไดโนเสาร์ที่ไหลเวียนอยู่นี่ล่ะนะ

“...”

“ฮะฮะ...ไม่ต้องขมวดคิ้วขนาดนั้นก็ได้...ฉันแค่ล้อเล่น”

“โกหก”

“...”ผมถึงกับหุบยิ้มทันทีที่ได้ยิน...

ทำไมถึงรู้ว่าผมโกหก?

“...ช่างเถอะ...จะปิดอะไรอยู่ก็ไม่เกี่ยวกับฉัน”เชสบอกแล้วลุกขึ้นยืนปัดเศษฝุ่นต่างๆออกจากเสื้อและกางเกง

“ขอบคุณ”เขาไม่ซักไซ้เลยสักนิด...น่าแปลกใจแต่ก็ต้องขอบคุณเพราะผมรู้เลยว่าไม่สามารถโกหกอีกฝ่ายได้

“...”

“เดี๋ยวก่อนเชส”ผมรั้งโดยวิ่งไปคว้าแขนเขาไว้

“อะไรอีก?”

“ฉันชื่ออาคริว...เรียกว่าอานโน่ก็ได้...พรุ่งนี้เรามาเจอกันได้ไหม?”

“จำเป็น?”อีกฝ่ายกลับมาใช้คำแบบประหยัดอีกแล้ว

“เข้าใจแล้วๆ...ไม่มาเจอก็ได้แต่บางครั้งก็ขอเข้าไปใกล้ๆนายบ้าง...ที่บอกว่าอยู่กับนายแล้วสงบพูดจริงนะ”ผมบอกพร้อมกับปล่อยมือที่รั้งเขาไว้

การพูดคุยกันครั้งแรกจบลงแล้วแต่ผลที่ได้นั้นดูจะเกินคาด...ไม่ใช่เชสแต่เป็นผม

ไม่เคยคิดเลยว่าจะสามารถคุยกับมนุษย์ได้ขนาดนี้...ปกติผมไม่ใช่พวกที่จะพวกที่จะเข้าหามนุษย์ก่อน เชสทำผมแปลกไปเขามีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดผมให้เข้าใกล้

ไม่ใช่แค่บรรยากาศหรือกลิ่น

มันมากกว่านั้น

อยากอยู่ข้างๆ

อาจเพราะเราคล้ายกันก็ได้มั้ง




::เชส::


ร่างโปร่งของอานโน่เดินกลับหอโดยที่ในหัวยังคิดเรื่องนี้อยู่ไม่หยุดทำให้ไม่สังเกตว่าอีกฝั่งมีคนมอง ดวงตาสีน้ำเงินเข้มของผมมองไปยังร่างโปร่งของคนที่อาจใช้คำว่าเพื่อนด้วยความไม่เข้าใจ...

บรรยากาศรอบตัวเด็กใหม่นั่นอันตราย

แต่ไม่รู้ว่าอันตรายแบบไหนกันแน่

ยิ่งไม่เข้าใจคิ้วสีน้ำตาลก็ยิ่งขมวดเข้าหากันมากขึ้น

พึ่งเจอกันแค่สองวันแต่กลับทำให้ผมเปิดใจได้อย่างน่าประหลาด...นี่เป็นครั้งแรกที่ระเบิดอารมณ์ออกใส่คนที่ไม่รู้จัก ขนาดคนที่รู้จักยังไม่เคยแสดงออกขนาดนี้เลย

สิ่งหนึ่งที่รู้คืออีกฝ่ายมีความคิดที่คล้ายกัน

“...เฮ่อ”ผมถอนหายใจแรงก่อนจะเดินไปยังหอตัวเองที่อยู่ไม่ไกล

หอพักผมอยู่ถัดออกไปด้านหลังหอพักของเด็กใหม่ที่ชื่ออาคริวหรืออานโน่...โดยห้องผมอยู่ชั้น6ห้อง610เป็นห้องเดียวในหอที่ไม่ต้องมีรูมเมทเหมือนอย่างห้องอื่นๆ การมีนามสะกุลเก่าแก่ก็มีประโยชน์หลายอย่างหนึ่งในนั้นก็คือประโยชน์ด้านความสะดวกสบายแค่บอกว่าอยากอยู่คนเดียวก็ได้อยู่ตามที่ต้องการ

การมีคนตามใจถือเป็นเรื่องที่ใครๆต่างก็อิจฉาโดยไม่รู้เลยว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของความสบายมันเป็นไปด้วยความอึดอัดและลำบากขนาดไหนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ถูกวางตัวให้เป็นผู้นำตระกูลตั้งแต่เด็กแบบผม

ทั้งไม่ได้อยากได้มันเลยสักนิด

ผมทิ้งตัวลงบนเตียงหกฟุตหลังจากอาบน้ำเสร็จด้วยความอ่อนล้า...ฝ่ามืออุ่นๆไล่ไปตามหน้าท้องก่อนจะหยุดอยู่ตรงรอยช้ำที่เริ่มเขียว รอยของการถูกถีบแถมแรงก็ไม่ใช่น้อยๆเลยด้วย

ยังลุกเดินได้ก็ถือว่าดีเท่าไหร่แล้ว

ยามราตรีที่แสนยาวนานได้ผ่านไปแทนที่ด้วยแสงแดดของเช้าวันใหม่วันนี้ไม่มีเรียนเลยไม่ต้องรีบทำอะไรวุ่นวายแต่เช้า...ความเจ็บที่ท้องแล่นเข้ามาในทันทีที่ลุกนั่งพอลองก้มมองก็เห็นรอยช้ำที่เริ่มเปลี่ยนจากเขียวเป็นม่วง

“แรงช้างชัดๆ”พึมพำจบพยุงตัวเองไปยังห้องน้ำ

เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำตาลอ่อนถูกสวมใส่ตามด้วยกางเกงขายาวสีเข้ม...ชุดลำลองธรรมดาเวลาไม่มีคลาสเรียน มื้อเช้าง่ายๆมีเพียงขนมปังกับนมสดหนึ่งแก้วก่อนจะตรงไปยังหอสมุดขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล

ระหว่างทางก็มีทั้งเสียงกรี๊ดเสียงพูดคุยหรือแม้แต่เสียงนินทาดังไม่หยุด...ส่วนมากที่พูดก็มักจะบอกว่าผมหยิ่ง ไม่น่าคบหรืออะไรก็ตามแต่ที่ทำให้มีชื่อเสียงแย่ๆออกมา ส่วนผู้หญิงก็มักจะส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดหรือเข้าหาอย่างสิ้นคิดมีบางคนถึงกับขอนอนกับผมตรงๆด้วยซ้ำ

ไม่รู้ว่าผู้หญิงสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมด

หนังสือเกี่ยวกับการบริหารระดับสูงถูกเปิดผ่านไปเรื่อยๆจนเวลาล่วงเลยมาในช่วงบ่าย มือที่ดันสันหนังสือเข้าไปยังชั้นเดิมชะงักเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่ามีคนนัดเจอแต่คิดดูอีกทีผมก็ยังไม่ได้ตอบตกลงนี่นะ

ถ้าไม่ไปก็ไม่ใช่ความผิดผมสักหน่อย

“...แค่ผ่านไปเท่านั้นเอง”เสียงทุ้มบอกกับตัวเองก่อนจะเปลี่ยนทิศจากที่จะเดินเข้าหอเป็นเดินไปยังด้านหลังหอบริเวณชายป่า
ผมเดินเข้าไปยังบริเวณที่ตัวเองชอบมาพักผ่อนโดยไม่คิดว่าจะเจอคนนัดจริงๆ...ชายหนุ่มรูปร่างโปร่งในชุดลำลองนอนเอาหลังพิงกับต้นไม้ใหญ่โดยที่ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิทมีเพียงหน้าอกที่ขยับขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอ

เส้นผมสีน้ำตาลซอยสั้นพลิ้วไหวไปตามแรงลม...ไม่รู้ว่าทำไมถึงคิดว่าสีผมนั้นมันดูขัดกับคนตรงหน้านัก ความจริงก็ไม่ใช่แค่สีผมแต่สีตาก็เหมือนกันถึงโดยรวมจะออกมาดูดีแต่ก็มีอะไรบางอย่างที่แปลกๆ

เหล่านกตัวเล็กหลายตัวบินลงมาเกาะทั้งบนหัว ไหล่และขาแต่คนที่หลับอยู่กลับไม่รู้ตัวเลยสักนิด...ภาพนั่นทำให้ผมหยิบโทรศัพท์ในการเป๋าตัวเองขึ้นมาแล้วกดถ่ายรูปพร้อมพึมพำบางอย่างออกมา...

“รอจนหลับเลยเหรอ...อานโน่”

..........................................................................................
สวัสดีค่ะ

มาอัพต่อแล้ววว

มีใครรอบ้างเอ่ย?

ช่วงตอนแรกๆนี้อาจไม่มีไดโนเสาร์เข้ามาเกี่ยวข้องนักเพราะเป็นฉากในมหาวิทยาลัย...

ถ้ามีไดโนเสาร์เข้ามาเลยมันจะดูแปลกๆเลยเก็บไว้ก่อน

รอให้ทั้งคู่สนิทกันมากกว่านี้ก่อนเนอะค่อยมีไดโนเสาร์ออกมา

แต่อีกไม่กี่ตอนหรอกค่ะ

ตอนนี้พระเรามีบทแล้ว...ดีใจมาก

แรกๆที่แต่งก็ลังเลอยู่ว่าจะให้พระเอกนิสัยยังไงดีนะ แต่แต่งแบบพระเอกน่ารักมามากแล้วเลยอยากลองเปลี่ยนดูไม่รู้ว่าตอนหลังๆจะยังเย็นชาแบบนี้อยู่ไหม บอกได้อย่างหนึ่งว่าไม่อ้อนเท่ายูทาร์แน่ค่ะ55

จากที่บอกไปเมื่อตอนก่อนว่าอาจแต่งภาคต่อจากนี้ด้วยและมีคนทายถูกด้วยว่าเราคิดจะทำอะไร!(โฮ่...สุดยอดเลยค่า)แต่นั่นก็เป็นเรื่องในภายภาคหน้า(หน้านู้นเลย) ตอนนี้ขอสองเรื่องที่แต่งให้จบก่อนนะคะ อิอิ

ที่อานโน่ฉลาดอาจเพราะถูกเลี้ยงดูจากเหล่าอัจฉริยะทั้งเซโครและปู่ฟรานซิสตั้งแต่เด็กๆค่ะ...ความจริงถ้าใครถูกล้อมด้วยเหล่าคนเก่งขนาดนั้นก็ต้องมีซึบซับบ้างเนอะ

สำหรับพระเอกเรื่องนี้อาจดูเก่งเว่อไปหน่อย...เราอยากลองแต่งพระเอกที่เก่งๆแต่มีปมเล็กๆแบบนี้ดูมานานแล้ว

ถึงจะมีปมแต่ไม่คิดว่าคนอ่านจะต้องเตรียมหม้อมารอต้มมาม่าหรอกนะคะ...

สบายใจได้

ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์และคำติชมนะคะ

ไว้เจอกันใหม่ตอนค่ะ^^

บ๊ายบาย :mew1:

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :katai1:

โถ พ่อเชสมามีปมปิดกั้นหัวใจสินะ งี้ถ้ารุ้ว่าอานโน่อีกร่างเป็นไงจะยังหาว่าเข้ามาเกาะอยู่ได้ไหมน้อ อิอิ  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
พระเอกเป็นว่าที่ผู้นำของตระกูล แล้วอย่างนี้จะได้เป็นคู่หูกันได้ยังไงอ่ะ

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :hao7: อุ้ย ชอบพระเอกจัง
รอรอรอรอรอ

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
เชส : ข้ารู้ข้าสัมผัสได้

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
เหมือนจะขยับเข้าหากันทีละนิดนะ :hao3:

ว่าแต่คุณพระเอกนี่ก้เซ้นส์แรงดีจริง ( ลืมชื่อซะงั้นเลยเรียกคุณพระเอก555)

รอตอนต่อไปค่าาา :mew1:

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4

ออฟไลน์ hamony

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาต่อหรือเปล่าพรุ่งนี้  อยากอ่านอีกจัง รู้สึกสั้นไป

ออฟไลน์ LoveYoukissme

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0

ออฟไลน์ meanmena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เค้าเรียกว่าซึน คร้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด