ตอนที่ 11
เมื่อบรรยากาศการพูดคุยเริ่มเคร่งเครียด เกลจึงเอ่ยขอโทษโลกัสด้วยสีหน้าสลดและพาไปนั่งพูดคุยที่ร้านเหล้าของโรงแรมที่อยู่ชั้นใต้ดิน ซึ่งทันทีที่เจ้าของโรงแรมเปิดประตูทางลงเสียงตะโกนโหวกเหวกก็ลอยขึ้นมา
เป็นเสียงของผู้คนที่กำลังเมามายและเพลิดเพลินไปกับการตะโกนพูดคุยกัน หยอกล้อนักดนตรี หรือแม้แต่เดินไปชนแก้วกับโต๊ะอื่นจนเกิดการแข่งขันขนาดย่อมขึ้น กิจกรรมต่างๆ ดำเนินไปอย่างวุ่นวายแต่ก็ครึกครื้นมากเช่นกัน
" ฮิ้ววววว ร้องเพลงก็เพราะหน้าก็สวย สนใจคนเลี้ยงดูไหม"
" ข้าขอเหล้าเพิ่มอีก !! "
" อีกแก้ว ! อีกแก้ว ! อีกแก้ว ! "
" ใครแพ้ต้องเลี้ยง ! ฮ่าๆๆ "
พอเห็นสีหน้าติดจะรำคาญของโลกัส เกลก็หัวเราะออกมาเบาๆ " บรรยากาศประมาณนี้แหละ ถึงจะวุ่นวายไปหน่อยแต่นั่งๆ ไปก็ผ่อนคลายดี "
โลกัสส่งเสียงอืมเชิงรับรู้จับจ้องบริกรกระต่ายตัวอ้วนอีกตัวที่กำลังยื่นเมนูมาให้ด้วยท่าทีกระตือรือร้น " ร้านเจ้ารับแต่กระต่ายมาทำงานรึไง "
" พวกนี้ปิดเทอมน่ะ ข้าก็เลยรับๆ มา "
ระหว่างที่เกลกับโลกัสกำลังพูดคุยกัน เวสเปอร์ก็เลือกเมนูน้ำที่เจ้ากระต่ายให้มา นิ้วเลื่อนไปมาตามรูปแก้วน้ำที่มีอยู่ละลานตา ก่อนจะมาสะดุดกับรูปแก้วน้ำทรงประหลาดน้ำข้างในเป็นสีไล่เรียงลงมาอย่างบรรจง รอบรูปมีลวดลายดอกไม้สีทองฉลุอย่างสวยงาม
" ข้า ข้าเอาอันนี้ ! " องค์ชายชี้ด้วยตาเป็นประกาย
บริกรกระต่ายย่นจมูกด้วยสีหน้ายุ่งๆ " ท่านแน่ใจเหรอขอรับ นี่เป็นเหล้าที่แพงที่สุดและแรงที่สุดในร้านเราเลยนะขอรับ "
" อื้อ ! ก็ ก็มันน่ากิน "
ร่างนักฆ่ายิ้มมุมปากลูบหัวองค์ชาย " เอาเผื่อข้าด้วยแล้วกัน "
เจ้ากินเองนะองค์ชาย ข้าไม่ได้มอมเหล้าเจ้า
เจ้ากระต่ายพยักหน้าหงึกหงักจดลงบนกระดาษในมืออย่างขะมักเขม้น " ท่านจะสั่งน้ำอะไรเพิ่มไหมขอรับ ถ้าไม่สั่งข้าจะนำทางไปที่นั่งให้ขอรับ "
" เจ้าไปทำงานเถอะ เดี๋ยวข้านำทางเอง "
เมื่อเจ้าของร้านเอ่ยปากไล่มันก็เอ่ยขอตัวและไปส่งรายการให้พนักงานคนอื่นทันที
เกลจึงพาแขกทั้งสองเข้าไปในร้าน ในระหว่างทางก็เอ่ยทักทายแขกอย่างเป็นกันเอง รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าอย่างง่ายดายเพราะมุขตลกไร้สาระของลูกค้าที่ยิงมา กว่าจะเดินมาถึงโต๊ะพิเศษที่ถูกจำกัดไว้เฉพาะเจ้าของโรงแรมก็กินเวลาไปพอสักพัก
และเมื่อหันไปมองข้างหลังตัวเองก็พบว่าแขกที่พามาได้หายไปแล้ว
อดีตนางงามประจำเมืองขมวดคิ้วงุนงงหันซ้ายหันขวาเมื่อเจอคนที่กำลังตามหาก็หัวเราะออกมา
ใครใช้ให้นักฆ่าเลื่องชื่อไปนั่งแข่งงัดข้อกับชายฉกรรจน์ร่างโตกันล่ะ !
สีหน้าเคร่งเครียดของทั้งสองแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการเล่นถึงขีดสุด เสียงเฮดังลั่นเมื่อเกิดการเอียงไปทางฝ่ายใดฝ่าย
หนึ่งมากกว่าครึ่ง หนึ่งในเสียงที่ร้องเชียร์นักฆ่าดังสุดคงจะเป็นคนที่โลกัสเอามาด้วย
" เจ้าเสือ ! สู้ๆ หวา ! เจ้าเสือ เจ้าต้องแพ้แน่เลย ! เฮริง เฮริง สู้ๆ "
คนที่กำลังงัดข้อจนเส้นเอ็นปูดถึงกับคิ้วกระตุกมือเผลอออกแรงบีบคู่แข่งตัวเองแน่นกว่าเดิม" นี่เจ้ากล้าไม่เชียร์ข้า.. " จากที่ใกล้แพ้ก็ค่อยๆ เปลี่ยนทิศทางไปยังคู่แข่งของตัวเองแทน
ตึง !
เสียงมือกระแทกโต๊ะดังลั่นเป็นการจบการแข่งขัน
" เฮ !!! "
และมีนักฆ่าเลื่องชื่อเป็นผู้ชนะ
ชายฉกรรจน์ร่างยักษ์ที่เพิ่งแพ้หมาดๆ มีสีหน้าเหยเกระหว่างที่นวดมือช้ำม่วงของตัวเอง" ทำไมอยู่ดีๆ แรงของเจ้าถึงเพิ่มขึ้นล่ะ "
โลกัสแค่นเสียงหึ " ไม่รู้สิ ข้าคงหงุดหงิดล่ะมั้ง "
" เจ้าเสือ ! เจ้าเสือชนะ เก่ง เก่งมากเลย " องค์ชายโถมกอดตัวโลกัสหัวเราะคิกคักอย่างพอใจ " เจ้าเสือ เจ้าเสือเก่งที่สุด "
พยัคฆ์ดำมีสีหน้าดูดีขึ้นเมื่อถูกชม " เล่นพอรึยัง จะได้ไปนั่งกินสบายๆ กันสักที "
" ไป ไปสิ ข้าอยากกินน้ำ น้ำสวยๆ " เวสเปอร์พยักหน้าเป็นพัลวันและชะเง้อคอมองหาคนที่พาตัวเองเข้ามาในทีแรก พอหาเจอก็ลากเจ้าเสือไปหาทันที
ร่างหนายอมผลุดลุกขึ้นยืนและปล่อยให้ตัวเองไปตามแรงลากซึ่งหากเปรียบเทียบกับแรงที่ใช้งัดข้อเมื่อกี้คงได้ไม่ถึงหนึ่งส่วนด้วยซ้ำโดยไม่ลืมที่จะหันไปบอกว่าตนเองไม่เอารางวัลสำหรับผู้ชนะ
ซึ่งเดิมพันไว้เป็นเงินจำนวนหนึ่งที่มากพอสมควร
" แหมๆ โลกัส ไม่คิดว่าเจ้าจะเล่นอะไรแบบนี้เป็นด้วย " เกลล้อทันทีที่ทั้งสองกลับมานั่งที่โต๊ะพร้อมยื่นแก้วให้ทั้งสองคน
คนโดนล้อหน้าบูด " ข้าไม่ได้อยากเล่น " คนอยากเล่นจริงๆ อยู่ข้างๆ เขาต่างหากซึ่งถ้าปล่อยให้เล่นเองคงไม่วายแพ้และร้องไห้
แน่ แม้ว่าในใจกำลังคิดเรื่อยเปื่อยแต่สายตากลับจับจ้ององค์ชายที่กำลังจิบเหล้าฤทธิ์แรง กลิ่นหวานๆ ของมันอาจจะดูไม่มีพิษมีภัยแต่ในความเป็นจริงแค่เพียงหนึ่งแก้วก็สามารถทำให้ชายฉกรรจ์เมาแอ๋ได้แล้วนอกจากคนที่กินบ่อยจนคอแข็งเป็นทองแดง
อย่างโลกัสก็ยากจะหาคนที่จะจิบไปได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกอะไร
ตามที่โลกัสคิดเพียงไม่นานหน้าขาวๆ ของเวสเปอร์ก็แดงก่ำและเลื้อยมาหาเขา
" จะ เจ้าเสือ ! อร่อย อึก ข้าอยากกิน กินอีก "
โลกัสเหลือบมองเจ้าของร้านส่วนมือก็ลูบหัวองค์ชายที่เอาคางเกยตักตัวเองเบาๆ
เกลยิ้มเชิงรู้ทันยอมสั่งเพิ่มให้ขวดใหญ่ " บอกข้ามาดีกว่าโลกัส ว่าคนที่เจ้าพามาด้วยคนนี้คือใคร "
" เจ้าน่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว จะถามข้าซ้ำทำไมอีก "
คนถามเบิกตากว้างด้วยความตกใจพูดเสียงกระซิบ " เป็นเรื่องจริง ? นี่เจ้าเอาองค์ชายของเมืองเอวินด์มากกไว้คนเดียวงั้นเหรอ "
" เจ้าใช้สมองคิดรึยังว่าพูดอะไร เกล " โลกัสตอบเสียงต่ำไม่สบอารมณ์ " เขาเป็นน้องชายของข้า "
เกลส่งสีหน้าเหม็นเบื่อใส่โลกัส " เจ้านี้มันเหมือนเดิมเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ถ้าเจ้าเห็นว่าเขาเป็นน้องชายจริงคงไม่มานั่งหงุดหงิดตอนที่เขาเชียร์คนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าหรอก "
" งี่เง่า " พยัคฆ์ดำสบถไม่ยอมรับคำกล่าวหา
มึนหัวจัง.. เวสเปอร์คิดอย่างใจลอยมองไปที่ประตูทางเข้าก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นคนหน้าคุ้นๆ ที่ไม่ได้เจอกันมานาน " โฮมส์
!! โฮมมม " ตะโกนลั่นเรียกความสนใจทันที
ซึ่งมันก็ได้ผลดี ทั้งโลกัสและเกลให้ความสนใจเวสเปอร์ด้วยสีหน้างุนงง
รวมถึงเจ้าของชื่อด้วย
เป็นชายฉกรรจ์ร่างสูงแต่งกายด้วยชุดสีเกราะเบาสีเทาน่าเกรงขามบนอกประดับด้วยนกสยายปีกสีทองสวมมงกุฏบอกถึงฐานะที่
เป็นถึงเจ้าเมือง ผมสีแดงเพลิงเข้ากันดีกับนัยน์ตาสีเดียวกัน เขามีหน้าตาที่หล่อเหลาแต่สีหน้าที่ปรากฎบนใบหน้ากลับเป็นสีหน้า
เย็นชาซะส่วนใหญ่
แต่ในตอนนี้กลับเป็นสีหน้าประหลาดใจ
นานขนาดไหนแล้วที่ไม่มีคนเรียกชื่อเล่นของเขา ?
คำว่าท่านเจ้าเมืองกลายเป็นชื่อเล่นใหม่ของเขาไปแล้วด้วยซ้ำ
เจ้าของชื่อหันซ้ายหัวขวาอยู่สักพักพอเห็นเวสเปอร์ที่ยืนเซไปเซมาโบกไม้โบกมือก็ประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม รีบสาวเท้าเข้าไปหา
ด้วยใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
ถึงแม้ว่าสีผมกับสีตาจะถูกเปลี่ยนเป็นสีดำ
แต่รอยยิ้มซื่อๆ กับนัยน์ตาบริสุทธิ์ไม่ใช่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้
ทำให้เจ้าเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเย็นชาตอนนี้กลับยิ้มกว้างโถมกอดเวสเปอร์แน่นทันที " เวสเปอร์ ! นี่เจ้ามาที่นี้ได้ยังไงกัน !? "
คนโดนกอดหัวเราะคิกคัก " ข้า ข้ามากับเจ้าเสือ ข้าคิดถึง คิดถึงเจ้าจัง โฮม "
" แน่สิไม่เจอกันมาตั้งหลายปีเจ้าโตขึ้นเยอะเลย " โฮมปล่อยตัวเวสเปอร์ใช้มือยีหัวจนยุ่งเหยิง " ข้าคิดว่าข้าจะไม่มีโอกาสได้เจอเจ้าอีกแล้วนะเนี่ย "
แต่แล้วบทสนทนาก็ถูกขัดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ของโลกัส โลกัสคว้าตัวองค์ชายกลับมาหาตัวเองโอบไว้หลวมๆ อย่างถือสิทธิ์ใช้จ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาดุดันโดยไม่สนใจว่าเป็นใครมาจากไหน
รอยยิ้มบนใบหน้าเจ้าเมืองก็หายไปเช่นกัน
สีหน้าของโฮมส์กลับมาไร้อารมณ์ดังเดิมแต่สายตาที่ทอดมององค์ชายนั้นเต็มไปด้วยอ่อนโยน " เจ้าคงจะเป็นพยัคฆ์ดำสินะ "
" จะ เจ้าเสือต่างหาก เจ้าเสือ " องค์ชายพูดเสียงอ้อแอ้กอดโลกัสแน่น
พยัคฆ์ดำยิ้มเย็นตอบ " เป็นเกียรติของข้าที่ได้พบเจ้าเมืองเวลล์ " เพียงแค่เห็นบุคลิกและตราบนอกเสื้อโลกัสก็สามารถรับรู้ได้
ทันทีว่าคนตรงหน้ามีฐานะอะไรแม้จะไม่เคยพบหน้ากันมาก่อนก็ตาม
" ตอนนี้หัวของเจ้ากำลังเป็นที่ต้องการในตลาดมาก ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมาหลบซ่อนในเมืองที่เต็มไปด้วยคนขายข่าวสารแบบนี้ " โฮมส์มองโลกัสนิ่งก่อนจะคลี่ยิ้มเป็นมิตรและยื่นมือให้ " เอาเถอะ ถ้าเวสเปอร์ยอมรับเจ้า ข้าก็จะยอมรับเจ้าเหมือนกัน"
ข่าวเรื่องการล่ารัชทายาทของเมืองเอวินด์เป็นที่โด่งดังทั่วดินแดนมนุษย์ซึ่งที่โด่งดังไม่แพ้กันก็คือข่าวเรื่องการลักพาตัวองค์ชายของพยัคฆ์ดำ
ทำให้โฮมส์สามารถคาดเดาผู้ที่มากับเวสเปอร์ได้อย่างง่ายดาย
สีหน้าของโลกัสผ่อนคลายลงและยอมจับมือกับโฮมส์พอเป็นพิธี
" ข้าขอคุยกับเวสเปอร์ได้ไหม ? ข้ากับเวสเปอร์เป็นเพื่อนเก่ากันน่ะ " โฮมส์มองเวสเปอร์ที่กำลั้งตั้งหน้าตั้งตากินน้ำสีสวยทั้งๆ ที่หน้ายังคงแดงก่ำและมืออีกข้างยังกอดแขนโลกัสแน่น
" ก็คุยไปสิ ข้าไม่ได้ห้าม " โลกัสยิ้มยียวน
คนเป็นเจ้าเมืองขมวดคิ้วหงุดหงิด " ข้าต้องการคุยกันแค่สองคน "
พยัคฆ์ดำหัวเราะหึจ้องบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าเมืองเขม็ง " ข้าไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ต่อให้เจ้าเป็นพ่อของเวสเปอร์ ข้าก็ไม่มีวันปล่อยให้เวสเปอร์อยู่ใกล้เจ้า "
ผิดพลาดครั้งเดียวก็เกินพอสำหรับโลกัส ความรู้สึกโกรธจนแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ไม่ใช่สิ่งที่โลกัสปรารถนาเพราะมันอาจจะทำให้สิ่งที่ถูกซุกซ่อนไว้ส่วนลึกปรากฎออกมา
โฮมส์ขยับตัวเองไปนั่งเบียดอีกข้างของเวสเปอร์
" อึก โฮมส์ ! ข้า ข้าดีใจที่เจอเจ้านะ " องค์ชายเมื่อเห็นว่าใครนั่งข้างตัวเองก็ยิ้มกว้างกางแขนเตรียมจะถลาเข้าไปกอด
อึก
แขนหนาๆ รั้งเอวองค์ชายไว้อย่างเหนียวแน่น องค์ชายมีสีหน้างุนงง
โลกัสโน้มตัวลงกระซิบข้างหู " เพื่อนของเจ้าไม่ค่อยสบาย ข้าว่าเจ้าอย่าโดนตัวเขาซะดีกว่า "
" อื้อ ! ข้า ข้าจะไม่โดนตัว โฮม ! คิกๆ " องค์ชายพูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่นและหัวเราะออกมาอย่างไม่รู้สาเหตุ บางทีน้ำเมานอกจากจะทำให้องค์ชายขี้อ้อนกว่าปกติแล้วยังจะทำให้องค์ชายอารมณ์ดีกว่าปกติด้วย
โฮมส์กำหมัดแน่น ไอ้เสือเวร มันคิดจะครอบครองเวสเปอร์เอาไว้กับตัวเองเหมือนกับที่ข่าวที่ข้าได้ยินมา
" ใจเย็นๆ กันหน่อยสิ หนุ่มๆ ร้านข้าไม่ใช่สถานที่ให้ทะเลาะกันนะ " เกลพูดยิ้มๆ " ท่านเจ้าเมืองก็มาไม่บอกไม่กล่าว ไม่เช่นนั้นข้าคงจะจัดเตรียมที่นั่งกับอาหารที่ท่านชอบให้แล้ว "
" ข้าแค่อยากมานั่งเงียบๆ "
เพราะทุกครั้งที่โฮมส์มานั่งนั้นมักจะมาพร้อมกับองค์รักษ์ประจำกายสามถึงสี่คนถึงแม้จะอยู่ในชุดชาวบ้านทั่วไป แต่ก็สร้างความรำคาญให้โฮมส์ไม่น้อย สิ่งที่โฮมส์โปรดปรานคือความเป็นส่วนตัวแต่ความเป็นส่วนตัวที่ว่าก็นับเป็นเรื่องที่หาได้ยาก การเปิดให้ใครต่อใครมาทำการค้าขายในดินแดนของตัวเองก็เท่ากับว่าเปิดรับผู้ประสงค์ร้ายเช่นกัน องค์รักษ์ที่ถวายชีวิตให้ท่านเจ้าเมืองก็
ไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเจ้าเมืองของตัวเอง สิ่งที่พวกเขาคือการเกาะติดแทบจะตลอดเวลา
ซึ่งในตอนนี้โฮมส์ก็กำลังหนีองค์รักษ์ของตัวเองอยู่
" ท่านจะกินเหมือนเดิมไหมหรือเอาอย่างอื่น " เกลกวักมือเรียกลูกน้องตัวเอง
" อืม " เจ้าของนัยน์ตาสีเพลิงตอบรับในลำคอ รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกเมื่อองค์ชายที่เมื่อก่อนติดตัวเองแจตอนนี้กลับกำลังกอดเสือเวรนี่ !
เจ้าเสือเวรนี่กำลังแย่งรอยยิ้มซื่อๆ ของข้า
" เวสเปอร์ "
องค์ชายยิ้มจนตาหยี " อึก อะไรเหรอ โฮมส์ "
" เจ้ารู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังอยู่กับตัวอะไร " ทั้งๆ ที่กำลังถามเวสเปอร์แต่สายตาจับจ้องโลกัส
ทำเอาโลกัสชะงักมือที่กำลังรินเหล้าลงในแก้วของตัวเอง จ้องโฮมส์ด้วยแววตาคมกริบ
มันต้องการจะพูดอะไร
เวสเปอร์พยักหน้าหงึกหงัก " รู้ รู้สิ ข้า อึก ก็อยู่กับเจ้าเสือไง "
โฮมส์หัวเราะหึๆ ในลำคอ " ถ้าข้าบอกว่าเจ้ากำลังอยู่กับนักฆ่าล่ะเวสเปอร์ เจ้าจะว่ายังไง "
องค์ชายสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินคำว่าฆ่าก็กอดตัวเองตัวสั่นเทา " อึก ฆ่า ฆ่าอะไร "
โลกัสใช้มือปิดหูองค์ชายและบังคับให้ซุกกับอกตัวเองก่อนที่จะคำรามถามเสียงเย็น " เจ้าต้องการอะไร " ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความจริงแต่ไม่ว่ายังไงโลกัสก็ไม่อยากให้องค์ชายรับรู้
รู้แค่ว่าเขาคือเจ้าเสือใจดีแค่นั้นก็พอแล้ว
โฮมส์กระตุกยิ้ม " เจ้าบอกว่าไม่ไว้ใจข้าที่เป็นเพื่อนเก่าเวสเปอร์ แล้วเจ้าเคยถามเวสเปอร์ไหมล่ะ ว่าเขาไว้ใจเจ้าไหมถ้าเขารู้ว่าเจ้าเป็นนักฆ่าเลือดเย็น "
การที่โลกัสไม่ได้ตอบโต้อะไรยิ่งทำให้โฮมส์ยิ้มเย็นชา
" เจ้ามันก็แค่คนเห็นแก่ตัว พยัคฆ์ดำ เจ้าปกปิดตัวตนของตัวเองเพื่อใกล้ชิดเวสเปอร์ เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าเวสเปอร์รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่กับคนที่ฆ่าคนอื่นตายโดยไม่รู้สึกอะไร ถ้าหากเป็นข้าข้าจะไม่มีวันอยู่ใกล้เจ้าเพราะไม่มีทางรู้ว่าวันไหนจะเป็นข้าเองที่จะ
ถูกเจ้าฆ่า ! "
สีหน้าเจ็บปวดพาดผ่านใบหน้าโลกัสเพียงแค่ชั่วเวลาสั้นๆ จนโฮมส์ไม่ทันสังเกต
ใช่ว่าโลกัสจะไม่เคยคิดในสิ่งที่โฮมส์กำลังพูด
แต่เขาก็ยังเลือกที่จะปกปิดต่อไปอยู่ดี สิ่งสุดท้ายที่พยัคฆ์ดำอยากเห็นคือสีหน้าหวาดกลัวตัวเองของเวสเปอร์
" ฉะนั้นเจ้าเอาตัวเวสเปอร์มาไว้กับข้าซะ ข้ารับปากว่าจะดูแลเขาอย่างดี ข้าสามารถทำให้ตัวตนของเขาหายไปจากดินแดนมนุษย์โดยที่ไม่มีใครเอะใจ "
ประโยคสุดท้ายของโฮมส์คือจุดประสงค์หลักของการพูดคุยทั้งหมด
เขาไม่ไว้ใจพยัคฆ์ดำและไม่มีวันอยู่เฉยได้แน่หากว่าเวสเปอร์ต้องอยู่กับมัน
การพูดคุยดีๆ ก็ดูจะใช้ไม่ได้กับพยัคฆ์ดำสิ่งที่เขาต้องทำคือการพูดหว่านล้อมอย่างที่ตัวเองถนัด
เขาคิดถึงรอยยิ้มซื่อๆ ของเวสเปอร์จะแย่อยู่แล้ว
" ข้าขอปฎิเสธ " โลกัสปล่อยมือจากหูเวสเปอร์และลูบหัวเบาๆ ก่อนจะแสยะยิ้มเหี้ยมมองโฮมส์ " เจ้าเป็นคนแรกที่กล้าข่มขู่ข้า ข้านับถือในความใจกล้าของเจ้า.. "
โฮมส์รับคำชมด้วยสีหน้าหงุดหงิด
ส่วนอีกคนที่นั่งฟังตั้งแต่ต้นจนจบก็ทำได้เพียงยิ้มแหยๆ เกลไม่ออกแสดงความคิดเห็นใดๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเคารพ
ในการติดสินใจของเพื่อนและเข้าใจในสิ่งที่โฮมส์กระทำ
พวกเขาล้วนมีเหตุผลของตัวเอง
" เอาเถอะหนุ่มๆ กินอาหารกัน " เลื่อนจานอาหารสีสดไปตรงกลางและแจกช้อนให้แต่ละคนใช้ตักกิน มันเป็นอาหารจานเด็ดประจำร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติจัดจ้านมากๆ ซึ่งเกลที่มัวแต่พยายามไกล่เกลี่ยก็ลืมไปโดยสิ้นเชิงว่ามีใครบางคนในนี้ไม่ถูกกับของ
เผ็ด..
เสียงกระเพาะของนักฆ่าหนุ่มดังโครกครากจนองค์ชายหลุดหัวเราะ โลกัสซึ่งตอนนี้ถูกความหิวครอบงำจึงช้อนตักเข้าไปคำใหญ่
และอุทานไม่เป็นภาษาเมื่อกลืนมันเข้าไป
" เวรเอ้ย !! " พยัคฆ์ดำอุทานดังลั่นกวาดเอาน้ำที่อยู่บนโต๊ะกินอย่างตะกละตะกรามพยายามหาทางลดความรู้สึกเผ็ดร้อนบริเวณลิ้น น้ำตาหยดเล็กไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อน้ำหมดไปแล้วแต่ความเผ็ดยังอยู่
องค์ชายเลิกคิ้วงุนงง " เจ้าเสือ ? " ด้วยความสงสัยจึงลองตักชิมดูบ้าง
" เวสเปอร์อย่ากิน ! " ซึ่งโลกัสก็ห้ามไม่ทัน มององค์ชายด้วยความสงสารจับใจทั้งๆ ที่ตอนนี้ตัวเองก็ยังซดน้ำที่กระต่ายยื่นให้อักๆ เพือบรรเทาความเผ็ด
พยัคฆ์ดำนั้นนอกจากจะกินแค่เนื้อแล้วยังแพ้ของเผ็ด ความลับนี้มีเพียงแค่คนในครอบครัวและเกลที่รู้ ซึ่งคนที่รู้ก็ลืมความลับนี้ทำให้เกิดเหตุวินาศกรรมขึ้นนี้เอง
" อร่อย !! " เวสเปอร์พูดด้วยตาเป็นประกายตักกินต่อด้วยรอยยิ้มเต็มหน้าไม่มีทีท่าว่าเผ็ดแต่อย่างใด
" … "
โลกัสมองเวสเปอร์นิ่ง
ต่างจากโฮมส์ที่พยายามเอาใจเวสเปอร์ด้วยการเลื่อนจานเข้าไปหาเวสเปอร์ถามไถ่ตลอดว่าต้องการน้ำหรือไม่
" เกิดคาดจริงๆ " เกลหลุดหัวเราะออกมา
หากมองเพียงผิวเผินภายนอกคนส่วนใหญ่คงจะคิดว่าเป็นโลกัสที่สามารถกินได้โดยไม่รู้สึกอะไรแต่ในความเป็นจริงกลับเป็นองค์ชายที่ดูเหมือนกินได้แค่ของจืดๆ หวานๆ
" คอร์สเจ้าไปเอาพวกเนื้อย่างมาเสิร์ฟที "เกลพูดด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่อาหารเมนูอื่นถูกนำมาเสิร์ฟก็มีเพียงแค่โลกัส เกล และโฮมส์กินเท่านั้นส่วนเวสเปอร์ผลอยหลับไปตอนที่กินอาหารขึ้นชื่อร้านไปครึ่งจาน
" สรุปแล้วเจ้าก็ยังคงยืนยันคำเดิมใช่ไหม " โฮมส์สบตาโลกัสด้วยสีหน้าจริงจัง
เขาพยายามต่อรองเอาตัวเวสเปอร์กับตัวเอง
คนถูกถามหัวเราะหึจ้องกลับด้วยสายตายียวนแทนคำตอบ พยัคฆ์ดำอย่างเขาไม่เคยเห็นใครในสายตาอยู่แล้ว
เจ้าเมืองเวลล์พยายามควบคุมสีหน้าของตัวเองไม่ให้เผยความเศร้าออกมา
" ข้าได้ข่าวว่าท่านกำลังตามหาพยัคฆ์ทมิฬอยู่ "
โลกัสเลิกคิ้วอย่างสนใจ
มีคนขายข่าวเรื่องนี้ของเขาด้วยงั้นสิ ?
" อืม "
โฮมส์สบตานักฆ่าเพียงชั่วครู่และเบือนไปหาเวสเปอร์ " ข้าเคยได้ข่าวว่าพยัคฆ์ทมิฬอยู่ในวังของเวสเปอร์ "
สีหน้าของโลกัสถมึงทึง
" เจ้าโกหก !! "
คำรามออกมาเสียงดัง
คนเป็นเจ้าเมืองหน้าซีดเผือดพยายามควบคุมมือตัวเองไม่ให้สั่น
" สาบาน ข้าสาบานได้ ! ข้าเคยเห็นหนังพยัคฆ์ทมิฬอยู่ในห้องของเวสเปอร์ ! "
-------------------------
ขอโทษค่ะมาช้ามากเลย
( แอบไปแต่งเรื่องสั้นส่งสนพ. มา ส่งก่อนเส้นตายเลย 55555 )
ตอนหน้าจะพยายามมาให้ไวขึ้นค่ะ
ขอบคุณทุกคอมเมนต์นะคะ // กอดแรง อยากตอบเมนต์แต่ง่วงแล้ว คร่อก