พยัคฆ์ร้ายกับรัชทายาทปัญญาอ่อน ตอนพิเศษ : สอนเสือเป่าขลุ่ย (?)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พยัคฆ์ร้ายกับรัชทายาทปัญญาอ่อน ตอนพิเศษ : สอนเสือเป่าขลุ่ย (?)  (อ่าน 159729 ครั้ง)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
สงสัยเจ้าเสือจะได้ออกกำลังกายยามเย็น 5555

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
เอาตอนพิเศษในเล่มพรีออเดอร์มาให้ดูค่ะ (สนพ. ทำสวยมากกกกกกกก  :hao5: :hao5:)

ตอนพิเศษ : เจ้าเสือหรือเจ้าแมว (?)

https://drive.google.com/file/d/0B-GniUqpABJ3UFIyUndmOFZ5REk/view



ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนพิเศษ : งานแข่งขันประกวดดนตรี



เพราะเป็นศูนย์กลางการค้าขายเมืองเวลล์จึงต้องจัดหางานกิจกรรมต่างๆ มาจัดบ่อยๆ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เมืองและดึงดูดผู้คนให้มาจับจ่ายใช้สอยที่นี่ี แน่นอนว่าเป้าหมายของการเงินงานนี้ก็คือ เงิน เงิน แล้วก็เงิน  โฮมส์ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของการจัดประกวดครั้งนี้เลยจัดงานแข่งขันประกวดดนตรีทันทีหลังจากที่จัดงานเทศกาลแข่งกินไปหมาดๆ เล่นเอาคนที่เพิ่งมาเที่ยวโอดครวญกันไม่หยุดแต่ถ้าถามว่าจะมาอีกไหม คำตอบเดียวของพวกเขาก็คือมา

ใครใช้ให้นักดนตรีส่วนใหญ่มักจะมีรูปโฉมงดงามล่ะ? ต่อให้มีรูปโฉมไม่งดงามแต่เสียงเพลงที่บรรเลงออกมามันก็ชวนให้เคลิ้มฝันไปถึงดินแดนไหนๆ ราวกับเสพสารเสพติดในรูปของเสียงเพลงยังไงยังงั้น

ซึ่งในครั้งนี้โฮมส์จัดงานแข่งขันประกวดดนตรีแบบที่ยิ่งใหญ่ เพราะหมั่นไส้พยัคฆ์ดำของเวสเปอร์ที่นับวันจะดุร้ายหึงหวงองค์ชายขึ้นทุกวันในขนาดที่ว่าพอเดินเข้าไปใกล้ก็ถลึงตามองจนร่างแทบทะลุเลยจัดงานแบบอลังการงานสร้างเปิดตัวเวสเปอร์ให้หึงตายกันไปข้างนึงเลย

แต่งานครั้งนี้ก็แปลกกว่าครั้งไหนๆ ที่บรรดานักดนตรีที่โด่งดังทั้งในดินแดนมนุษย์และดินแดนอื่นๆ แห่กันมาลงสมัครกันยกใหญ่เพื่อเงินรางวัลจำนวนมหาศาล

แน่นอนว่าเวสเปอร์ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นเช่นกัน

"เวสเปอร์ เจ้าจะลงแข่งงั้นเหรอ?" โลกัสถามเสียงเข้มหน้าบอกบุญไม่รับ

"อืม" องค์ชายคลี่ยิ้มละมุนกรีดจดหมายให้เป็นมุมเรียบร้อยแล้วยื่นให้นกพิราบตัวหนึ่งคาบก่อนที่มันจะบินพึ่บพั่บออกจากหน้าต่างไป

ร่างสูงขบเคี้ยวฟันเมื่อจินตนาการถึงเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นแล้วหน้าบูดยิ่งกว่าเดิม "เจ้าก็รู้ว่าข้าหวงเจ้า"

เวสเปอร์หัวเราะเบาๆ ยิ้มหยอกเย้า "เด็ก"

"โว้ย ข้าจะไปฆ่าเจ้าเมืองบัดซบนั่น" โลกัสยีหัวตัวเองจนยุ่งเหยิงอย่างหงุดหงิด "มันต้องแค้นข้ามากแน่ๆ ถึงได้จัดงานนี้ขึ้นมา"

องค์ชายหลุดหัวเราะเพราะเจ้าเสือของเขาเดาได้ตรงเผง เรื่องงานประกวดนี้โฮมส์เอามาปรึกษากับเขาแล้วเขาก็ตอบตกลงที่จะลงแข่งด้วยเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์เมืองแต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าโฮมส์เหม็นขึ้หน้าโลกัสขนาดไหน เหม็นในขนาดที่ว่าถ้าฝีมือทั้งสองคนพอๆ กันคงตีกันจนกว่าจะตายไปข้างนึง

"ขำอะไร ข้าไม่ขำนะ"

เวสเปอร์ยังหยุดหัวเราะไม่ได้อยู่ดี สีหน้างอนๆ ที่ไม่เข้ากับหน้าตาหล่อเหลานั่นชวนขำจะตาย แต่ขำไปขำมาไม่รู้ทำไมอยู่ๆ ใบหน้าชวนขันนั่นถึงมาอยู่ในระยะประชิดได้..

นัยน์ตาสีแดงก่ำจดจ้องตาวาวราวกับสัตว์ป่าสักตัวและมันก็มาพร้อมกับกรงขังที่ทำจากร่างมนุษย์

องค์ชายยิ้มหลับตาลงรับจูบหนักๆ ที่น่าจะเป็นการลงโทษและการแสดงความเป็นเจ้าของของพยัคฆ์ดำ มือที่ทั้งหยาบและอุ่นร้อนสอดเข้าไปในกางเกงและลูบสะโพกของร่างเล็กกว่าอย่างจาบจ้วง องค์ชายปรือตามองหน้าโลกัสแล้วหัวเราะในลำคอ

สภาพในต่างนี้เขาไม่ต่างกับกวางสักตัวที่จะโดนเสือกินสักนิด เสือที่กินเขาจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก.. แต่เขาไม่หนีหรอก เพราะมันไม่มีเหตุผลที่ต้องหนี

ในเมื่อเหยื่ออย่างเขาเต็มใจที่จะถูกกิน

 

เทศกาลงานแข่งขันดนตรีมาถึงไวจนเหมือนโกหก เวทีขนาดใหญ่ที่มักจะถูกใช้ในเทศกาลสำคัญต่างๆ ครั้งนี้ถูกตกแต่งด้วยธีมความดีงามกับความชั่วร้ายทำให้ทั้งเวทีถูกประดับประดาไปด้วยสีดำและสีขาว รูปปั้นของเทพเจ้าในความเชื่อต่างๆ และปีศาจถูกจัดวางไว้รอบงามให้คนได้ตื่นเต้นกัน ทุกอย่างทุกตารางนิ้วเป็นสีขาวสลับดำเพื่อแสดงให้เห็นว่าทุกสิ่งล้วนมีขาวดำ ทุกคนล้วนมีทั้งความดีงามและความชั่วอยู่ในตัวกันทั้งนั้น

แม้กระทั่งผู้เข้าแข่งขันก็ถูกจับฉลากเลือกฝั่งเช่นกัน แต่เหมือนโชคของเวสเปอร์จะเล่นตลกเพราะไปจับได้สีดำที่หมายถึงความชั่วร้ายซะอย่างงั้น ความรู้สึกแรกที่หยิบได้ของเวสเปอร์คือไม่รู้สึกอะไร อย่างไรก็ตามถึงแม้สีขาวจะคือสีประจำตัวกวางระเริงเพลงแต่ถ้าเป็นสีดำดูบ้างก็คงดูไม่เลวร้ายนัก

เพื่อไม่ให้จำนวนผู้แข่งขันมากเกินไปก่อนที่จะเข้ามาแข่งได้จึงมีการคัดเลือกไปแล้วคร่าวๆ จนเหลือแต่ผู้เข้าแข่งขันหลักๆ อยู่สิบคนซึ่งแต่ละคนล้วนมีชื่อเสียงไม่ธรรมดาทั้งนั้น ปีศาจจิ้งจอกเหมันต์ผู้เป็นเลิศด้านการเล่นเครื่องสี ดาฟินัสมนุษย์ที่สามารถทำให้ผู้คนหัวเราะร่ำไห้ได้ปานจะขาดใจจากการเล่นเพลงเพียงแค่ฟังไปไม่ถึงครึ่งเพลง มีแม้กระทั่งเงือกที่ไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับใครก็โผล่มาแข่งด้วยซึ่งรูปโฉมของเงือกก็คงจะรู้ๆ กันอยู่ เพียงแค่สบตาก็แทบจะลืมวิธีหายใจ

หลังจากเปิดงานอย่างเป็นทางการพิธีกรที่อยู่ในชุดครึ่งขาวครึ่งด้านหลังมีปีกปีศาจและปีกเทวดาอย่างละครึ่งราวกับเป็นลูกผสมที่เกิดจากความผิดพลาดของคู่รักยังไงยังงั้นแต่อย่างไรก็ตามเพราะใบหน้าที่หล่อเหลาและติดอันดับคนโด่งดังต้นๆ ของเมืองเวลล์ทำให้ไม่มีใครติดใจอะไรนัก

"เริ่มกันแล้วนะขอรับ สำหรับงานแข่งขันดนตรีประจำปีของเรา! เอาล่ะขอรับ ไม่รอช้าเราจะมาแนะนำฝั่งเทพกันก่อนเลย" ร่างสูงพูดพร้อมผายมือไปยังฝั่งขวาที่มีร่างผู้เข้าแข่งขันในชุดสีขาวตามธีมเต็มยศเดินออกมาจากหลังม่าน เกิดเสียงเฮยกใหญ่เมื่อพิธีกรผายมือไปยังคนแรก "คนแรกคือดาฟินัสเป็นมนุษย์ที่ได้รับฉายาว่าเป็นภูติแห่งเสียงเพลง ขอแค่เขาได้เล่นเพลงไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนยอมตกเป็นทาสของเสียงเพลงที่เขาเล่นขอรับ!!!"

เสียงเฮดังลั่นดังกว่าเดิมราวกับว่ายืนยันในสิ่งที่พิธีกรพูด เจ้าของฉายายิ้มเขินๆ ยกมือทักทายแน่นอนว่าทำเอาเสียงเฮเริ่มขาดหายเพราะความงดงามที่ราวกับไม่ใช่มนุษย์ของดาฟินัส ผมสีทองที่ถูกไว้ยาวถูกไว้ยาวถึงหลัง นัยน์ตาสีฟ้ากระจ่างทอประกายระยับชวนให้หลงใหล ยิ่งอยู่ในชุดสีขาวที่ออกแบบมาอย่างดียิ่งทำให้ดานิฟัสราวกับเป็นภูติแห่งสรวงสวรรค์ที่เปี่ยมไปด้วยความดีงาม

พิธีกรหัวเราะกับปฏิกิริยาที่ดูจะมากเกินของคนดูแต่ละคน "เดี๋ยวเสียงจะหมดเอานะขอรับ เก็บๆ ไว้ตอนแข่งด้วยนะ หึหึ เอาล่ะขอรับ คนโตไปเป็นปีศาจร่างใหญ่ที่มาพร้อมกับการดนตรีอันทรงพลัง--"

ทั้งๆ ที่นี่ไม่ใช่การขึ้นเวทีครั้งแรกของเวสเปอร์แต่เวสเปอร์ก็ยังประหม่าเหมือนทุกครั้ง นัยน์ตาสีทองที่ถูกซ่อนไว้หลังหน้ากากสีดำสอดส่ายไปมาพยายามหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจตัวเอง มือที่เริ่มจะชื้นกำชายเสื้อแน่นเมื่อนึกถึงการตัดสินใจบางอย่างของตัวเองที่แม้แต่โลกัสก็ไม่ล่วงรู้ หาเพียงไม่นานก็เจอร่างนักฆ่านั่งอยู่แถวหน้าสุดและกำลังหยิบกินขนมที่เขาทำให้เคี้ยวตุ่ยๆ ดูน่าเอ็นดู ถึงแม้ว่าใบหน้าครึ่งบนจะถูกซ่อนด้วยหน้ากากเสือสีขาวก็เถอะ..

"เฮ้ เจ้าน่ะ อย่าชะเง้อหน้าออกไปเยอะนักสิ" หนึ่งในผู้ดูแลดุเวสเปอร์เบาๆ ไม่จริงจังนัก

องค์ชายสะดุ้งกลับมายืนนิ่งกระสับกระส่ายเหมือนเดิม เวสเปอร์ก้มลงมองมือตัวเอง

เขาต้องทำได้สิ...

หายใจได้ไม่กี่ทีก็ถึงคิวของเวสเปอร์ที่ต้องออกจากม่าน

ผู้ดูแลคนเดิมชะเง้อหน้ามองข้างนอกแล้วกระพูดเสียงกระซิบ "เจ้าไปได้แล้ว"

"เอาล่ะขอรับมาถึงคนสุดท้ายของเรา กวางระเริงเพลงผู้โด่งดังในตอนนี้ขอรับ!"

องค์ชายพยักหน้ารับสูดหายใจลึกเรียกความกล้าของตัวเองออกมาและเดินออกไปจากหลังม่านด้วยท่าทีทระนงตัวและสง่างามเหมือนที่เคยทำตอนที่ได้ความรับทรงจำกลับมาเป็นครั้งแรก

เสียงเฮคล้ายกับจะมีแต่ก็เหมือนไม่มี ทุกคนพากันแปลกใจเพราะชุดประจำขององค์ชายไม่เหมือนเดิม มันเป็นสีดำทมิฬเช่นเดียวกับหน้ากากเขากวางที่เป็นสีดำจนหมดเช่นกัน

เวสเปอร์ยิ้มเจื่อนกระอักกระอ่วนกับความเงียบจนเกินไป ไม่รู้สิเขาชินกับเสียงแซวเสียงโห่ร้องอะไรอย่างนี้มากกว่า

"โอ้ ไม่น่าเชื่อว่ากวางระเริงเพลงของเราจะได้สีดำนะขอรับ แต่คิดเหมือนข้าใช่ไหมขอรับ เหมาะเป็นบ้า ฮ่าๆ" พิธีกรหยอกเย้าโดยไม่รู้ตัวแม้แต่นิดว่ากำลังโดนหมายหัวจากคนที่นั่งข้างล่าง องค์ชายพยายามส่งสายตาไปปรามแต่ก็ไม่ได้ผลนักเพราะหน้ากากนี่ปิดใบหน้าจนแทบมองไม่เห็นดวงตา

"ไม่ใช่เหมาะ ข้าว่าเปลี่ยนเป็นสีดำไปเลยดีกว่า! ส่วนชุดคราวหน้าข้าของบางๆ กว่านี้"

"โอย เงินข้า นี่คือแผนของร้านใช่ไหม ฮือ ข้าต้องเผลอไปเข้าร้านทุกวันแน่เลย ฮึก"

เพราะคำชมแปลกๆ องค์ชายเลยยิ้มออกนิดๆ แต่ไม่ได้ยกมือทักทายใครเนื่องจากเสือขี้หวงคนเดิม นัยน์ตาสีทองกวาดตามองผู้เข้าแข่งขันอย่างสำรวจและประเมิน จะว่ายังไงดีเพราะนี้เป็นการแข่งแบบจริงๆ จังๆ ครั้งแรกของเวสเปอร์ ทำให้เจ้าตัวไม่รู้สึกมั่นใจในตัวเองสักนิดเดียว อีกทั้งคู่แข่งแต่ละคนก็ดูน่ากลัวทั้งนั้นแต่ถึงจะกลัวยังไงท่าทีที่แสดงออกไปก็คือยิ้มน้อยๆ ดังเดิม

"..!"

องค์ชายสะดุ้งนิดๆ กับความรู้สึกบางอย่างที่แล่นผ่านเมื่อกี้พอหันไปมองสาเหตุก็เห็นสายตาไม่เป็นมิตรของคนที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน

ดาฟินัส...

ใบหน้าสวยนั่นถึงแม้จะยิ้มแย้มแต่แววตาที่มององค์ชายกลับส่อถึงความมาดร้ายและไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด องค์ชายสบตากลับไม่เกรงกลัว สิ่งที่ทำให้องค์ชายหวั่นเกรงคือการแข่งขันแต่ไม่ใช่การข่มขู่ของใครสักคน พอมองไปนานๆ ก็เริ่มรู้สึกรำคาญเลยมองไปดูอย่างอื่นก็เจอเงือกหนุ่มข้างๆ ที่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

"ปกติข้าไม่ชอบมนุษย์นะ แต่ข้าชอบหน้ากากเจ้า สวยดี" ใบหน้าหล่อเหลาพูดด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงกระจ่างใส่ราวกับสายน้ำทะเลที่กระทบกับหาดทราย

องค์ชายยิ้มรับ

"แนะนำตัวกันเสร็จก็ขอเริ่มการแข่งขันเลยแล้วกันขอรับ เชิญพบกับคนแรกเอนเลส!"

ยังไม่ทันได้พูดคุยอะไรกันต่อการแข่งขันก็ดำเนินต่อไปซึ่งอันดับก็ตามที่จับฉลากได้ไม่รู้ว่าซวยซ้ำซ้อนหรืออะไรยังไงเวสเปอร์ถึงได้คิวสุดท้ายเหมือนเดิม ผู้เข้าแข่งขันที่ยังไม่ถึงคิวก็พากันไปนั่งจับจองที่เดิมและซักซ้อมเพลงของตัวเองกับอากาศหรือถ้าใครเก่งหน่อยก็สร้างอาณาเขตขึ้นมาแล้วเล่นเพลงในนั้นทำให้ไม่มีเสียงเพลงเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินแม้แต่นิดเดียว

ส่วนองค์ชายไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นใช้เวลาไปกับการทบทวนเนื้อเพลงในหัวและพยายามเข้าถึงอารมณ์ของเพลงนั้นให้ได้ เพลงที่เวสเปอร์เลือกไปแข่งไม่ใช่เพลงที่ชายชราให้แต่เป็นเพลงที่องค์ชายชอบมันมากที่สุด

เพลงที่ว่าด้วยการเป็นตัวของตัวเอง

เวสเปอร์หลงใหลเพลงนี้ในตอนเด็กๆ ถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจในความหมายอันล้ำลึกของเพลงก็ตามแต่พอหายกลับเป็นปกติก็ทำให้ชอบเพลงนี้มากกว่าเดิม เพราะจังหวะที่เนิบช้าแต่ทรงพลังอย่างประหลาดและความเป็นเอกลักษณ์ของเพลง เพลงนี้เวสเปอร์ไม่เคยเล่นให้ใครฟังเพราะรู้สึกว่าเป็นเพลงที่ตัวเองไม่สมควรเล่นหรือไม่มีค่ามากพอที่จะเล่น

แต่วันนี้องค์ชายตัดสินใจเล่นมันเพราะเขานั่นเปลี่ยนไปแล้ว.. เขาไม่ใช่องค์ชายปัญญาอ่อนแห่งเมืองเอวินด์อีกต่อไปแล้วแต่เป็นเวสเปอร์กวางระเริงผู้โด่งดังแห่งเมืองเวลล์!

"อย่าร้องไห้กลับบ้านแล้วกัน กวางระเริงเพลง"

เสียงพูดขึ้นอย่างยโสดังเหนือหัวเวสเปอร์ทำให้ร่างที่กำลังจมอยู่ในภวังก์เงยหน้าขึ้นมามองด้วยแววตาเฉยชา

กับองค์ชายเวสเปอร์ที่ถูกดูถูกมาค่อนชีวิตกับคำพูดเล็กๆ น้อยๆ นี่ไม่ได้ทำให้รู้สึกอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ร่างโปร่งพยักหน้ารับรู้ไม่ตอบทำให้คนพูดแค่นเสียงหึแล้วสาวเท้าเร็วๆ ออกไป

องค์ชายกระพริบตาปริบเมื่อเห็นขลุ่ยสีขาวโพลนหรูหราของดาฟินัส

เขาได้ยินพวกนักดนตรีคุยกันว่าดาฟินัสเล่นเครื่องดนตรีได้ทุกชนิด.. ขลุ่ยนี้ก็คงเป็นการจงใจ

แววตาขององค์ชายวูบไหวนิดๆ กับคนที่เจอกันครั้งแรกยังเกลียดกันได้ขนาดนี้เชียว?

♪ ~~~

เสียงเพลงที่ดังลอดเข้ามาข้างในครั้งนี้ทำให้เวสเปอร์เบิกตากว้างสั่นสะท้านไปทั้งตัวกับความทรงพลังของเพลง ไม่น่าเชื่อว่าเสียงที่ออกมานั้นมาจากขลุ่ยเพราะมันเป็นจังหวะที่เร็วจนรู้สึกอยากขึ้นมาขยับร่างกายก่อนที่เนื้อเพลงเนิบช้าชวนให้เศร้าจนหลั่งน้ำตา ความขัดแย้งทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ทำเอาเวสเปอร์ทึ่งนิดๆ และคนที่ทึ่งกว่าคือบรรดาผู้ชมที่ส่งเสียงโหกเหวกโวยวายมีบางคนสะอื้นไห้ด้วยความปิติด้วยซ้ำ

นี่สินะ.. เหนือฟ้ายังมีฟ้า

องค์ชายยิ้มก่อนที่จะหุบยิ้มเมื่อร่างที่เพิ่งออกไปเมื่อกี้เดินกลับมา

นัยน์ตาสีฟ้าทอประกายวาววับอย่างยโสและแฝงถึงชัยชนะ "แสดงให้ข้าเห็นหน่อยสิ กวางระเริงเพลงที่กล้ามาแย่งตำแหน่งภูติแห่งเสียงเพลงผู้โด่งดังของข้า"

เวสเปอร์มองเมินไม่ได้ตอบสาวเท้าออกไปทันทีในมือกำขลุ่ยที่เจ้าเสือซื้อให้แน่น

"มาจนถึงคนสุดท้ายที่ทุกคนรอคอยเหมือนผม กวางระเริงเพลงขอรับ!" พิธีกรพูดเสียงคึกคัก "หวังว่าคนคุมจะไม่มาด้วยนะขอรับ กวางระเริงเพลง ไม่อย่างงั้นพวกข้าคงโดนฆ่าหมกศพอยู่แถวนี้กันหมดแน่ๆ"

องค์ชายยิ้มแห้งตอบและไปหยุดยืนกลางเวทีอย่างประหม่า หัวใจในอกเต้นรัวสายตาจับจ้องเพียงคนๆ เดียวของตัวเอง เพราะหน้ากากที่ปิดบังสายตาทำให้ทุกคนคิดว่ากวางระเริงเพลงไม่ได้มองใครเป็นพิเศษเลยยังไม่มีใครรู้ตัวว่าผู้คุมที่ว่าตอนนี้มองกวางระเริงเพลงตาวาว

"เพลงที่เล่นเป็นเพลง เอ.. ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย เพลงหวนคืนสู่เสียงเพลง เป็นเพลงเกี่ยวกับการเป็นตัวของตัวเองขอรับ อ่า.. จะเป็นยังไงก็ไปฟังกันเลยแล้วกันขอรับ!"

"ข้าจะเล่นแล้วนะ" เวสเปอร์ขยับปากพูดซึ่งโลกัสก็พยักหน้ารับเชิงรับรู้

องค์ชายจึงหลับตาลงเหมือนทุกครั้ง ดึงจิตใจที่ปั่นป่วนจากหลายๆ เรื่องให้นิ่งสงบก่อนที่จะจรดริมฝีปากบนขลุ่ยและเล่นเพลงออกมาอย่างเนิบช้าด้วยความรู้สึกชัดๆ ของตัวเอง ชัดเจนกว่าครั้งไหนๆ ที่เคยเล่น

ทำนองเพลงเนิบช้าหากแต่สะท้านไปถึงจิตใจของคนฟัง น่าแปลกที่ขึ้นทำนองแรกก็มีคนหลั่งน้ำตาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่เป็นแผลลึกที่ไม่มีวันหายของกวางระเริง พอเล่นต่อไปได้สักพักทำนองเพลงเปลี่ยนขึ้นมาร่าเริงนิดๆ ทำให้ความรู้สึกที่คล้ายจะจมดิ่งไปในเหวลึกค่อยๆ ปีนขึ้นมาเหยียบบนพื้นดินอีกครั้งแต่ก็ไม่แข็งแรงนัก

คนดูหลายคนอุทานแผ่วเบาเมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลอาบแก้มกวางระเริงเพลง

หน้ากากปิดบังใบหน้าก็จริงแต่มันไม่สามารถปิดบังความรู้สึกได้..

เสียงเพลงดำเนินต่อไปในทำนองที่หวานล้ำสำหรับเวสเปอร์มันหมายถึงช่วงที่มีโลกัสเข้ามาในชีวิต มันทำให้ทุกสิ่งในชีวิตเลวร้ายของเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

น่าแปลกที่ครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงที่องค์ชายร้องไห้ เสือตัวใหญ่ไร้ใจก็กำมือแน่นหัวใจสั่นเทานึกสบถในใจที่ไม่เจอองค์ชายให้ไวกว่านี้ หวังจะแบ่งเบาความเจ็บปวดนั่นมาที่ตัวเองบ้าง

องค์ชายเผยความรู้สึกทั้งหมดของตัวเองออกมากับการเล่นเพลงแม้มันจะไม่บอกความจริงว่าเกิดอะไรกับชีวิตของเขาบ้างแต่มันก็เผยความรู้สึกทั้งหมดที่เขาได้รับมาตลอดชีวิต

มีทั้งเสียงร้องไห้รอยยิ้มขมขื่นหรือแม้แต่การนั่งนิ่งๆ ของเหล่าผู้ชม

เสียงเพลงของกวางระเริงเพลงนั่นซื่อตรงจนรู้สึกเหมือนจับต้องได้ยังไงยังงั้นจนต่อให้ผู้ที่เกลียดเสียงเพลงมากที่สุดก็ยังต้องหยุดฟังสักทำนองด้วยความสนใจ

คณะกรรมการที่รวบรวมไว้หลายสายพันธุ์พากันวางปากกาแล้วหันไปสบตากันและพยักหน้าเป็นอันรู้กันว่าใครจะเป็นผู้ชนะในครั้งนี้

เป็นเวลาที่เหมือนนานชั่วกัลป์กว่าเพลงจะจบลงสำหรับองค์ชาย เวสเปอร์ลดขลุ่ยลงและยกมือขึ้นมาแตะใบหน้าของตัวเองอย่างประหลาดใจเพราะไม่คิดว่าจะร้องไห้ออกมาจริงๆ

พิธีกรยิ้มนิดๆ กับผลผู้ชนะที่ออกมาอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องคิดแม้แต่นิดเดียว รอจนกระทั่งมีคนสรุปผลคะแนนและวิ่งมาให้เขาบนเวทีจึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงรื่นเริง "ถึงเวลาประกาศผลแล้วสินะขอรับ จะเป็นใครน้าาาา ที่จะชนะครั้งนี้"

เหล่าบรรดาผู้ชมต่างตะโกนคนในใจของตัวเองออกมาเสียงดังแต่ที่เสียงดังที่สุดเห็นจะเป็นกวางระเริงเพลงแน่นอนว่าคนนำทีมของโลกัสตะโกนเสียงดังลั่นไม่แพ้กัน

องค์ชายเหลือบมองเดฟินาสที่ยืนข้างตัวเองและพบว่าดวงตาสีฟ้านั่นมองมาอย่างเจ็บใจ

"มองอะไร!"

เวสเปอร์หันหน้าหนีทันทีและรอผลอย่างตั้งใจ

"ครั้งหน้านะ ถ้าเจ้ามาแข่งอีก ข้าไม่มีวันแพ้เจ้าแน่!"

องค์ชายหลุดหัวเราะเบาๆ กับท่าทีของเด็กที่ไม่ได้ดั่งใจ

พิธีกรหนุ่มโคลงตัวไปมา "คนที่ได้ตำแหน่งปีนี้ก็คืออออ" เสียงอันยืดเยื้อทำเอาผู้คนเดาเขากันระงม "กวางระเริงเพลงขอรับ!!!"

เวสเปอร์สะดุ้งเฮือกนิ่งอยู่ท่าเดิมไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

เป็นข้า?

จวบจนกระทั่งถูกยัดรางวัลใส่มือและสัมภาษณ์สติของเวสเปอร์ถึงได้เรียงตัวกลับมาใช้งานได้

"อ่า..." พิธีกรยิ้มเขินนิดๆ "ไหนๆ ก็ชนะแล้วลองถอดหน้ากากดูดีไหมขอรับ ทุกคนอยากเห็นหน้ามากเลย"

เวสเปอร์ยิ้ม "ได้สิ" แล้วค่อยๆ ถอดหน้ากากออกมาเผยให้ใบหน้าและผมสีขาวโพลนนัยน์ตาสีทองอันเป็นเอกลักษณ์ของบุตรชายคนโตของเมืองเอวินด์

นี่คือสิ่งที่เขาตัดสินใจ... เขาจะเลิกซุกซ่อนตัวเองจากตัวตนของตัวเองสักที ถึงแม้จะชอบชีวิตที่เรียบง่ายแต่ก็ใช่ว่าจะอยากหนีจากตัวตนของตัวเองที่พยายามปฎิเสธมาตลอด

ไม่ว่าจะกวางระเริงเพลง เวสเปอร์ที่ปัญญาอ่อน หรือเขาก็ล้วนเป็นคนเดียวกันทั้งนั้น..

"องค์ชายเวสเปอร์!?" มีเสียงดังฮือฮาขึ้นก่อนที่จะลามไปเรื่อยๆ เหมือนไฟป่า ใครๆ ก็เคยได้ยินเรื่องขององค์ชายอาภัพองค์นี้ทั้งนั้นแต่ข่าวล่าสุดคือเสียชีวิตไปแล้ว

โลกัสขมวดคิ้วมุ่นไม่เข้าใจเวสเปอร์นักหยุดยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

ในจังหวะที่ทุกคนแตกตื่นเวสเปอร์ก็พูดต่อด้วยรอยยิ้มและสีหน้ามั่นใจ

"ข้าจะไม่หนีอีกต่อไปแล้ว"

แววตาสะท้อนรอยยิ้มของโลกัสที่มองด้วยแววตาล้ำลึก

ใช่.. ข้าจะไม่หนีอีกต่อไปแล้ว อะไรต่อจากนี้จะเป็นยังไงก็ช่าง ขอแค่มีเจ้าเสือข้าก็พร้อมที่จะเจอกับมันอย่างแน่นอน



---------------

ตอนนี้แต่งเมื่อวานตั้งใจจะใส่ในเล่มหลักแต่ใส่ไม่ทัน เสียดายมากกกกกกกก TWT แง

 ปล. THE MASK SINGGER 5555

 

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
เจ้ากวางงงงง คิดถึงเจ้ากวาง เจ้าเสือ

ออฟไลน์ marshall

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านแล้วรู้สึกจะมีตอนต่อใช่มั้ย ใช่มะ  :mew2:

ปล.คิดถึงฟินด์

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ aommaboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอบคุณนะคะสนุกมากเลย ชอบมาก เจ้าเสือเท่มากองค์ชายก็น่ารัก แต่ชอบฟินด์ที่สุดเลยยย

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
มีกิจกรรมแจกนิยายเรื่องนี้ในเพจ  :hao7:

ไปเล่นกันได้นะคะ  :กอด1: 

https://www.facebook.com/FoggyTime/photos/a.811652302259667.1073741828.793497584075139/1311288498962709/?type=3&theater

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนพิเศษ : เสือป่วย

วันนี้เป็นวันครบรอบเปิดร้านทำให้เกลตัดสินใจให้เวสเปอร์ไปเล่นเพลงหน้าร้านเป็นการเฉลิมฉลองและเรียกลูกค้า พื้นที่บริเวณหน้าร้านที่ปกติเป็นสนามหญ้าโล่งๆ แต่วันนี้ถูกจับจองด้วยเวทีโต๊ะเก้าอี้มากมาย พวกปีศาจกระต่ายที่เกลจ้างให้เป็นพนักงานต่างหัวหมุนกับการจัดนู่นนี่นั่นอย่างดอกไม้หรือแม้แต่ครัวก็ถูกยกออกมาทำเป็นซุ้มด้านนอกเพื่อสะดวกต่อการทำและเสิร์ฟอาหาร

ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันดีแต่โลกัสกลับรู้สึกว่าเป็นวันที่เลวร้ายที่สุด

"ฮื่อออ"

"นอนๆ ไปเถอะน่า โลกัส" เกลมองเสือร้ายที่พยายามตะกายลงจากเตียงด้วยสายตาสมเพชแกมสงสารนิดๆ "เวสเปอร์ไม่โดนฉุดง่ายๆ หรอก"

"..เจ้าไม่เข้าใจ" โลกัสขู่แง่งเสียงแตกจากอาการหวัด ไข้ที่ขึ้นสูงพรวดๆ ผิดวันทำเอาเสือร้ายตาพร่าจนมองทางแทบไม่เห็น "..พวกมันจะแย่งของๆ ข้า!" แม้แต่เรี่ยวแรงยังตกลงไปกว่าครึ่งทำให้ออกจากเตียงไม่ได้สักที

"ข้าดูแลตัวเองได้น่า เจ้าเสือ"

องค์ชายที่กำลังจัดแจงเสื้อผ้าสีขาวของตัวเองหน้ากระจกเหลือบมามองเจ้าเสือด้วยความรู้สึกสงสารนิดๆ

"..ไม่" โลกัสขบกรามกรอดพยายามตะกายออกจนเกือบตกเตียงก็ถูกเวสเปอร์ผลักกับเข้าที่เดิมอย่างง่ายดายและกระชับผ้าห่มให้อย่างใส่ใจ

"ไว้ใจข้าสิ" องค์ชายพูดพึมพำลูบมือเจ้าเสือที่ร้อนผ่าวกว่าทุกที

ไม่แน่ใจว่าเพราะนานๆ ทีจะป่วยรึเปล่า เสือร้ายของเขาถึงได้อาการหนักขนาดนี้..

"ฮื่อ.. รอข้าหายก่อนไม่ได้เหรอ" โลกัสใช้เรี่ยวแรงอันน้อยนิดของตัวเองดึงมือองค์ชายมาจูบเบาๆ

"...แต่" องค์ชายเม้มปากแน่นเริ่มลังเล สายตาอ้อนๆ ของเจ้าเสือแบบนี้มีให้เห็นไม่บ่อยนักหรอก แน่นอนว่าทำให้องค์ชายใจอ่อนยวบ

"รอเจ้าหายมันก็เลยวันครบรอบร้านข้าแล้วจ้ะ น้องเสือ" เกลที่เดินมายืนข้างๆ เวสเปอร์จัดการดีดหน้าผากโลกัสด้วยความหมั่นไส้ระดับสิบจนเจ้าตัวขู่ฮื่อๆ ออกมาอย่างดุร้าย

"..เจ้า!" นัยน์ตาของโลกัสแทบลุกเป็นไฟด้วยความโมโห

"เอาล่ะ ล่ำลากันพอแล้วก็ไปกัน เวสเปอร์ นี่ก็จวนจะถึงเวลาแล้ว" เกลดันหลังเวสเปอร์ออกจากเตียงซึ่งก็ไม่วายหันมามองโลกัสอยู่เป็นพักๆ เหมือนเป็นห่วง

"...ข้าจะรีบกลับมานะ" องค์ชายตัดสินใจพูดแล้วรีบเดินออกจากห้อง กลัวว่าตัวเองจะอดใจไม่กลับไปหาเจ้าเสือไม่ได้ ยิ่งงานนี้เป็นงานใหญ่ยิ่งทำให้เวสเปอร์ตื่นเวทีกว่าปกติ ไหนจะโลกัสที่นอนเป็นผักในห้องอีก

งานครั้งนี้จึงเป็นอะไรที่ทำให้เวสเปอร์กังวลพอสมควร ยิ่งกับชื่อเสียงหลังจากไปงานเปิดตัวร้านอาหารยิ่งทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นจนแทบกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ถ้าไม่มีโลกัสไปด้วย

"ไม่ต้องกังวลน่า เจ้าก็แค่เล่นเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนสถานที่นิดหน่อย" เกลพูดด้วยรอยยิ้มเอ็นดูเอื้อมมือไปจัดคอเสื้อที่ยับนิดๆ ของเวสเปอร์และจัดผมที่ปรกใบหน้าเวสเปอร์ออกเพื่อใส่หน้ากากกวาง

"แต่ว่า.."

มือของเวสเปอร์ตอนนี้ชื้นไปด้วยเหงื่อแม้ว่าเจ้าตัวจะพยายามเช็ดมันกับเสื้อแล้วก็ตาม แววตาสีทองขององค์ชายมีความกังวลอยู่เต็มเปี่ยม "เกล.. ถ้าข้าทำได้ไม่ดี ข้าขอโทษนะ"

ไม่แน่ใจว่าเพราะโลกัสที่เป็นที่พึ่งทางใจของเวสเปอร์ป่วยรึเปล่าถึงทำให้องค์ชายอ่อนไหวง่ายกว่าปกติ บาดแผลลึกที่ในใจที่เหมือนจะหายแต่ก็ไม่มีวันหายจึงถูกสะกิดจนองค์ชายลนลานไปหมด ถึงแม้จะกลับมาเป็นปกติแล้วแต่ความทรงจำเลวร้ายก็ยังคงหลอกหลอนองค์ชายอยู่เนืองๆ ในบางครั้ง

เกลหัวเราะแล้วลูบหัวองค์ชาย "กลัวอะไรของเจ้า องค์ชาย เจ้าเป็นถึงกวางระเริงเพลงนะ ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก ข้าเชื่อในตัวเจ้า"

ฮื่อ...

เวสเปอร์ก้มลงไปก็พบว่าฟินด์ในร่างเสือเอาหัวมาถูไถเวสเปอร์อย่างออดอ้อนไม่ต่างอะไรกับตอนที่อยู่ในร่างแมว องค์ชายจึงเผลอยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้และนั่งยองๆ กอดฟินด์แน่น

"เฮ้อออ" เกลถอนหายใจเมื่อร่างของกวางระเริงเพลงยับเยินผมเผ้ายุ่งไปหมดเพราะฟินด์เอาหัวทั้งไถทั้งอ้อน ร่างสาวงามจึงตบหัวฟินด์เบาๆ เชิงเอ็ด "พอได้แล้วน่า เวสเปอร์ต้องขึ้นเวทีแล้ว"

ฟินด์ส่งเสียงฮื่อๆ เลียหน้าเวสเปอร์แผล่บสองแผล่บก็ถอยออกมาเลียขนตัวเองบ้าง วันนี้มันได้รับมอบหมายจากโลกัสให้เป็นองค์รักษ์ให้กับเวสเปอร์ ส่วนองค์ชายก็จัดคอเสื้อชุดตัวเองใหม่และรับหน้ากากกวางครึ่งใบหน้าจากเกลมาสวมด้วยความมั่นใจที่มีมากกว่าเดิมนิดหน่อย

เกลเหลือบมองนาฬิกาที่ติดว่าบนประตูแล้วพยักหน้าให้เวสเปอร์ "ออกไปได้แล้ว ถ้าเจ้ากังวลมากจริงๆ ก็คิดเรื่องเงินก็ได้ รับรองข้าให้เจ้าเยอะแน่ๆ ถ้าคนมาเยอะ" เกลหลุดหัวเราะเมื่อเวสเปอร์มีท่าทีสนใจกับคำว่าเงินเป็นพิเศษ

"..ข้า ฝากดูแลโลกัสด้วย" องค์ชายพูดด้วยสีหน้าเขินนิดๆ ก่อนที่จะเปิดประตูไม้หนักๆ ออกทั้งสองข้าง

น่าแปลกที่เพียงแค่เห็นร่างสีขาวผู้คนที่มาจับจองพื้นที่กันอย่างคับคั่งก็ส่งเสียงฮือฮาตะโกนบอกว่า 'กวางระเริงเพลงมาแล้วๆ ' ซึ่งนั่นก็ทำให้บุคคลที่นั่งตรงพื้นที่พิเศษติดขอบเวทียิ้มอย่างพอใจ นัยน์ตาที่ซ่อนอยู่หลังหน้ากากสีดำวาววับเมื่อเห็นกวางระเริงเพลงเดินด้วยท่าทางเคอะเขินผ่านหน้าตัวเองไป ใบหน้าครึ่งล่างที่ไม่ได้ถูกซ่อนส่งยิ้มเล็กๆ ให้กับผู้คนที่มาชมในวันนี้

"เอาเว้ย วันนี้ไอ้โหดนั่นไม่มา!" ชายฉกรรจ์ผู้เป็นหนึ่งในคนที่มาร้านเกลเพื่อฟังเวสเปอร์พูดอย่างย่ามใจกับเพื่อนตัวเอง "วันนี้แหละ ดอกกุหลาบข้าต้องถึงมือกวางระเริงเพลง และข้าก็จะเป็นคนแรกที่จะได้เห็นใบหน้านั่น ฮ่าๆ"

แต่หัวเราะไปได้ไม่เท่าไหร่ก็สะดุ้งกับเสือขาวขนาดยักษ์ที่ส่งเสียงขู่แง่งใส่

โฮกก!!

ฟินด์คำรามใส่จนชายคนที่ว่าผงะถอยหลังจึงยอมเดินเชิดหน้าวิ่งตามเวสเปอร์ไปติดๆ

"เสือขาวงั้นเหรอ.." บุคคลในหน้ากากสีดำแสยะยิ้มเคาะนิ้วเบาๆ บนโต๊ะจนเหล้าชั้นดีในเก้าทรงสูงเกิดวงคลื่น "น่ารำคาญ"

ฮื่อ..

หมาป่าขนาดใหญ่กว่าปกติเงยหน้าขึ้นมามองเจ้านายมันและเอียงคอเบาๆ เชิงถาม เพราะถ้าหากมีคำสั่งให้ 'กำจัด' มันก็จะไม่ลังเลที่จะกระโจนเข้าใส่แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นถึงเสือก็ตาม

"ใจเย็นน่า" คนเป็นเจ้านายลูบหัวมันเบาๆ และหัวเราะเสียงต่ำ "เดี๋ยวถึงเวลาเจ้าก็รู้เองว่าต้องกำจัดเสือขาวนั่นตอนไหน" ก่อนที่จะใช้นัยน์ตาสีน้ำเงินมองกวางระเริงเพลงที่ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ไม่วางตา

"เอาล่ะขอรับ ขอเสียงปรบมือให้กวางระเริงเพลงหน่อย" ปีศาจกระต่ายที่ถูกเกลยัดเยียดตำแหน่งพิธีกรพูดด้วยน้ำเสียงคึกคัก พอมีเสียงเฮตอบมันก็กระดิกหูยาวๆ ไปมาอย่างอารมณ์ดีเพราะจำนวนคนตอนนี้เยอะมากจนตาลาย แน่นอนว่าเกลต้องให้เงินพิเศษมันเยอะแน่ๆ ถ้ามีคนมากขนาดนี้ "วันนี้เป็นวันพิเศษนะขอรับ เป็นวันครบรอบเปิดร้านของท่านเกล! เอ้า ขอเสียงเฮให้หญิงงามประจำเมืองเราด้วยขอรับ" มันวาดแขนไปทางเกลที่กำลังยืนยิ้มโบกมือให้กวางระเริงเพลง

ซึ่งพอมันไปหันไปเจอกวางระเริงเพลงมันก็นึกเรื่องบางอย่างออก พอรวมกับเหล้ารสเลิศที่มันแอบจิบมาพอให้กรึ่มๆ พอให้มีความกล้ายิ่งทำให้มันฮึกเหิมตะโกนออกมา "วันนี้เสือของกวางระเริงเพลงป่วยขอรับ! ปลอดภัยหายห่วง ใครอยากทำอะไรก็เต็มที่เลยขอรับ! ฮ่าๆ"

สิ้นเสียงของเจ้ากระต่าย เกลก็ถลึงตามองมันอย่างคาดโทษ ขืนลองปล่อยให้เรื่องอะไรกับเวสเปอร์สิ เสือร้ายที่นอนป่วยเป็นแมวน้อยนั่นคงอกแตกตาย

จากเสียงฮือฮาครั้งแรกตอนนี้ดังลั่นกว่าเดิมมากจนมีบางคนทำท่าจะโถมเข้าไปคว้าตัวกวางระเริงเพลงจากเวทีลงมาชมใกล้ๆ แต่แน่นอนว่ายังมีบางสิ่งทำหน้าที่ของมันได้ดีอยู่

โฮกกกกก

ฟินด์คำรามดังลั่นแยกเขี้ยวขู่อย่างดุร้าย มันจ้องมนุษย์ทุกคนที่เดินเลยอาณาเขตที่เกลกำหนดไว้ของผู้ชมตาขวาง แน่นอนว่าถ้ามีใครกล้าแตะเวสเปอร์มันจะงับคนนั้นให้จมเขี้ยวไม่เช่นนั้นเจ้านายมันที่นอนอยู่บนเตียงคงจะเอามันตายแน่ 

องค์ชายลูบหัวฟินด์เบาๆ เชิงขอบคุณแล้วจรดขลุ่ยที่ริมฝีปาก เริ่มเป่าเพลงออกมาเพื่อตัดบททุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ เสียงเพลงทุ้มนุ่มจากขลุ่ยที่เสริมด้วยเครื่องดนตรีชนิดอื่นจากวงนักดนตรีทำให้บรรยากาศคึกคักเริ่มสงบลง เหล่าลูกค้าเริ่มหาที่นั่งเพื่อจับจองและสั่งอาหารแต่ก็มีบางส่วนที่เอาแต่มองกวางระเริงเพลงนิ่งราวกับจะกลืนกิน น่าเสียดายที่พวกเขาทำได้แค่หลงใหลแต่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น

สิ่งทำให้เวสเปอร์โด่งดังไม่ใช่เพียงเพราะรูปลักษณ์ที่ดูลึกลับและเสียงเพลงแต่เป็นทำนองเพลงที่แทบจะสามารถจับต้องได้ถึงความรู้สึกของเวสเปอร์ 

มีผู้คนมากมายที่อยากเห็นใบหน้าใต้หน้ากากของกวางระเริงเพลงและเรียกร้องให้เปิดอยู่บ่อยๆ แต่นอกจากรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้ากวางระเริงเพลง พวกเขาก็ไม่เคยได้รับอะไรมากกว่านั้น

กึก

แก้วไวน์ที่ถูกดื่มจนหมดกระแทกกับโต๊ะก่อนที่เจ้าของแก้วจะผลุดลุกขึ้นแล้วย่างสามขุมเข้าไปหากวางระเริงเพลงโดยไร้ท่าทีเกรงกลัวใดๆ

ฮื่อออ

ฟินด์ที่นอนหมอบอยู่แยกเขี้ยวขู่อย่างดุร้าย

คนโดนขู่ทำเพียงแค่ปรายตามองมันก่อนที่หมาป่าร่างใหญ่ตัวหนึ่งจะกระโจนเข้าไปหาเสือขาวแล้วแยกเขี้ยวขู่ สัตว์ร้ายสองตัวขู่ฮื่อๆ ในลำคอเสียงดังลั่นใส่กัน มีหลายสายตาจับจ้องบุคคลที่อาจหาญบุกเข้าไปด้วยสายตาใคร่รู้ แต่เสียงสัตว์ป่าที่ดังกลบเสียงขลุ่ยและดนตรีกลับไม่ได้ทำให้กวางระเริงเพลงรู้สึกตัวสักนิดแม้ว่าคนอื่นๆ จะหยุดเล่นไปหมดแล้ว

"อะไรกัน..?" เกลขมวดคิ้วมุ่นมองแขกคนที่ว่าด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เธอจำได้ว่ามีแขกมาจองที่ตรงนั้นด้วยราคาสูุงลิ่วแต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ว่าเป็นใครเพราะงานนี้มีแขกตำแหน่งใหญ่ๆ มาร่วมกันเยอะแยะจนตาลาย ไหนจะโฮมส์ที่บอกจะมาร่วมงานช่วงดึกๆ อีกซึ่งตอนนี้ก็เพิ่งทุ่มสองทุ่มเท่านั้น

หากแต่เมื่อเกลกำลังจะเดินเข้าไปกลับถูกชายฉกรรจ์ชุดสีดำทางการเดินเข้ามาขวางทาง ยังไม่ทันโวยวายก็ต้องกลืนน้ำลายเอือกเมื่อเห็นตราสัญลักษณ์หมาป่ากับพระจันทร์เสี้ยวที่ถูกประทับไว้บนมือ

"มาทำอะไรที่นี่" เกลถามอย่างหงุดหงิด

กลุ่มหมาป่ารัตติกาลที่มีชื่อด้านการค้ามนุษย์และอาวุธ พวกมันกระจายตัวอยู่ทั่วเมืองมนุษย์และมีอิทธิพลมากพอๆ กับเจ้าเมืองหนึ่งเลยทีเดียว ขอเพียงแค่นายของมันออกปากไม่ว่าใครก็ต้องยอมหลีกทางให้อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว

"ท่านดีนอสต้องการกวางไปเลี้ยง" 

เกลสะดุ้งเฮือก "ไม่ได้! ข้าไม่สนใจหรอกนะว่าเจ้าจะเป็นใคร แต่เจ้าจะมาเอาคนของข้าไปไม่ได้!" แต่โวยวายยังไงชายฉกรรจ์ก็สีหน้าไม่เปลี่ยนอยู่ดีอีกทั้งยังยืนขวางทางเกลไว้เพื่อไม่ให้ขัดขวางนายของมันที่เริ่มดำเนินการแล้ว ซึ่งพอเกลทำท่าจะลงไปตามเสือป่วยก็ถูกมันขวางทางไว้อีก จนทำได้แค่ภาวนาในใจให้แมวน้อยที่ป่วยอยู่รีบๆ ขึ้นมาตามหึงกวางตัวเอง

ในตอนนี้มีเพียงแค่เสียงดนตรีของเวสเปอร์ที่ยังคงดำเนินอยู่ผิดกับทุกอย่างที่เงียบไปหมดแล้ว ดีนอสยืนฮัมเพลงในลำคอเบาๆ อย่างอารมณ์ดีพลางเคาะนิ้วบนไม้เท้ารูปหัวหมาป่าเป็นจังหวะตามเพลง เฝ้ารอให้เล่นจนจบเพลงถึงจะเริ่มทำบางสิ่ง

องค์ชายหลับตาพริ้มเป่าจนจบเพลงและพอลืมตาขึ้นมาก็ต้องสะดุ้ง เมื่อมีชายร่างใหญ่ในชุดสูทสีดำและปิดบังใบหน้าด้วยหน้ากากสีดำมายืนตรงหน้าตัวเองด้วยท่าทีคุกคาม องค์ชายลดขลุ่ยลงและจับมันแน่น รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวกับสายตามุ่งร้ายของร่างตรงหน้า

ดีนอสโค้งตัวให้เวสเปอร์และถอดหน้ากากออก "สวัสดี ลูกกวาง" เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่แฝงไปด้วยอำนาจ ผมสีเทาเข้มคล้ายขนของหมาป่าถูกเสยขึ้นเผยให้เห็นสันกรามชัด

แค่ดีนอสถอดหน้ากากออกคนนอกที่มองด้วยสายตาใคร่รู้ต่างพากันตื่นตระหนกแต่ไม่กล้าส่งเสียงจอแจเพราะลูกน้องของกลุ่มหมาป่ารัตติกาลเริ่มเผยตัวออกมาควบคุมความสงบ

"..ต้องการอะไร" องค์ชายพูดเสียงกร้าว ถึงแม้จะไม่รู้จักชายตรงหน้าก็ตามแต่ก็พอจะรับรู้ถึงจุดประสงค์ที่ไม่ดีแน่ๆ จากอีกฝ่าย

ดีนอสยิ้มมุมปาก "เจ้า"

"ข้าไม่ได้ขายตัว" องค์ชายหรี่ตามองขบกรามกรอด พยายามมองหาฟินด์และพบว่าฟินด์กำลังขู่แง่งใส่หมาป่าสลับกับมองมาที่เขาอย่างเป็นห่วง ทำเอาองค์ชายคิดถึงเสือที่นอนป่วยอยู่ข้างในแต่ก็ทำเพียงแค่คิด องค์ชายหยิกตัวเองให้กลับมาสนใจและรับมือกับชายบัดซบนี่ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามเขาก็เคยเป็นถึงที่องค์ชายมาก่อน

องค์ชายสบตากับดีนอสและพบว่าในดวงตาสีน้ำเงินหมดจดนั่นแทบไม่มีความรู้สึกใดๆ มันว่างเปล่าจนน่าขนลุก

"ข้าไม่ได้ต้องการความเห็นจากเจ้า" ดีนอสยังคงยิ้มและกระแทกไม้เท้าตัวเองกับพื้นเบาๆ จนกลไกภายในทำงานเปลี่ยนจากไม้เท้าเป็นดาบยาวที่มีด้ามจับเป็นหัวหมาป่า

"เจ้าไม่มีสิทธิ์!" เกลตะโกนดังลั่นอย่างเดือดดาลซึ่งมันก็เรียกให้ดีนอสหันไปสนใจได้แค่เพียงชั่วครู่เท่านั้น ก่อนที่หมาป่าแห่งรัตติกาลจะหันมาให้ความสนใจลูกกวางที่โด่งดังจนไปถึงหูสัตว์ร้ายอย่างเขาเข้า

"ไม่ต้องกลัว เจ้ามาอยู่กับข้า ข้ามีที่นอนดีๆ ในกรงให้เจ้าแน่นอน" ดีนอสว่าขณะที่ก้าวขาขึ้นไปบนเวที ตั้งใจจะไปคว้าอีกฝ่ายและนำกลับไปกับตัวเองราวกับว่าเป็นลูกกวางตัวนึงจริงๆ แต่พิเศษหน่อยที่กวางตัวนี้สามารถเป่าขลุ่ยให้เจ้านายที่อารมณ์เสียอยู่เป็นนิจอย่างเขาให้อารมณ์ดีได้อย่างเมื่อกี้

องค์ชายยิ้มอย่างทระนงตัว "ข้าไม่ไป" 

ดีนอสเลิกยิ้มทำเอาใบหน้าหล่อเหลาทะมึนขึ้นจนน่ากลัวและยื่นมือเข้าไปหาเวสเปอร์ตั้งใจจะกระชากเข้าหาตัว "ถ้าขืนเจ้ายังเล่นตัวมาก แม้แต่กรงเจ้าก็จะไม่มีให้นอน" 

โครม!!

ร่างของนายแห่งหมาป่ารัตติกาลถูกลมอันไร้ที่มาพัดเข้าจนไปชนเข้ากับโต๊ะที่ตัวเองเคยนั่ง นัยน์ตาสีน้ำเงินแทบจะกลายเป็นสีแดงก่ำเมื่อดีนอสคำรามออกมาอย่างดุร้าย

"เจ้า!!"

เหล่าลูกน้องของดีนอสพากันตื่นตระหนกเพราะไม่เคยได้ยินข่าวว่ากวางระเริงเพลงสามารถใช้เวทย์ได้มาก่อนแต่พอจะถลาเข้าไปช่วยก็ถูกสายตาดุร้ายของนายปราบเอาไว้ซะก่อน

"ดี.. เจ้าคงไม่ได้เป็นแค่กวางแล้วล่ะ!" ดีนอสคำรามอย่างเดือดดาลกระโจนกลับไปบนเวทีเตรียมจะลากคอเวสเปอร์ลงมากับตัวเองอีกครั้งด้วยความระมัดระวังตัวที่มากกว่าเดิมหลายเท่า

เวสเปอร์ผงะถอยหลังและพูดพึมพำเสียงเบาออกมาอย่างหวาดกลัว "..เจ้าเสือ"

"ชู่ว.. ไม่ต้องกลัว"

องค์ชายสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกเจ้าเสือซึ่งยังอยู่ในชุดนอนเมื่อกี้รวบตัวเข้าไปกอดและดันเอาไปไว้ด้านหลังตัวเอง เนื้อตัวที่ยังร้อนผ่าวแสดงให้เห็นว่าไข้ของเจ้าเสือยังไม่ลดลงสักนิด

"ถอยไป" ดีนอสมองโลกัสด้วยสายตาเหยียดหยามเพราะสภาพโลกัสในตอนนี้หาความน่าเกรงขามได้ยากจริงๆ ทั้งผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงชุดนอนที่ยับเยินที่พอจะดูออกว่ามาปกป้องเวสเปอร์ก็มีเพียงดาบคู่ใจเท่านั้น

"..ไม่!" โลกัสพูดเสียงแหบพร่านึกขอบคุณลางสังหรณ์ของตัวเองที่ทำให้สามารถตะกายร่างออกจากเตียงได้

ดีนอสแสยะยิ้มแล้วกระโจนเข้าใส่โลกัสพร้อมกับแทงดาบไปที่คอซึ่งถ้าหากเป็นโลกัสตอนปกติคงจะรับมันได้สบายๆ 

เคร้ง!

โลกัสยกดาบขึ้นมากันอย่างทุลักทุเลและพุ่งตัวเข้าไปฟันต่อเพื่อความได้เปรียบ ถึงแม้ร่างกายจะต่อต้านการขยับร่างขนาดไหนพยัคฆ์ดำก็ไม่นึกสนใจมัน ออกแรงฟาดฟันดาบอย่างดุร้ายและกราดเกรี้ยว

ซึ่งค่าตอบแทนต่อการต่อสู้ครั้งนี้ก็สูงมากเช่นกัน จากแค่นอนเป็นผักคงนอนเป็นตายขยับร่างไม่ได้รอให้องค์ชายปรนนิบัติทั้งวัน

เสียงดาบหนักๆ ฟาดฟันดังเคร้งคร้างฟังบาดหูพร้อมๆ กับโต๊ะเก้าอี้ที่ล้มกันระเนระนาด

"..เจ้า" ดีนอสเริ่มรู้สึกตึงเครียดเพราะรู้สึกคุ้นเคยกับเพลงดาบนี่มากๆ เพลงดาบที่เกือบจะคร่าชีวิตเขามาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีที่แล้ว

โลกัสหัวเราะเสียงต่ำขณะที่ออกแรงกดดาบไปพาดที่คออีกฝ่ายซึ่งมันก็ทำให้ลูกน้องของดีนอสเริ่มขยับตัวเข้ามาล้อมรอบ "ข้ารู้ ว่าเจ้าจำข้าได้ ดีนอส"

สีหน้าที่นิ่งสนิทเสมอถึงกับซีดเผือด

"พยัคฆ์ดำ..?" ดีนอสพึมพำเสียงแผ่ว "เจ้าตายไปแล้วนี่"

เจ้าของฉายาพยัคฆ์ดำออกแรงมากกว่าเดิมจนดาบบาดคอดีนอสจนเลือดซึมออกมาจางๆ "ใช่พยัคฆ์ดำตายไปแล้ว" โลกัสหรี่ตามองและหัวเราะในลำคอ "แต่ข้ายังไม่ตาย"

ดีนอสสบถหยาบคายเหลือบมองกวางระเริงเพลงที่ยืนนิ่งอยู่ข้างหลัง "งั้นกวางนั้นก็เป็นของเจ้าสินะ"

"อืม ถ้าเจ้ายังไม่อยากเสียคอเจ้า ก็ไปหากวางตัวอื่นเถอะ" โลกัสดึงดาบออกจากคอดีนอสใช้แขนเสื้อยาวๆ เช็ดเลือดที่ติดอยู่ตามดาบออกอย่างไม่ยี่หระ

สีหน้าของดีนอสกลับมาเย็นเยือกและกระแทกด้ามดาบซึ่งเป็นหัวหมาป่าแรงๆ จนมันกลับมาเป็นไม้เท้าดังเดิม "ระวังตัวไว้ให้ดี" 

ทิ้งคำขู่และสาวเท้าออกจากพื้นที่ด้วยความโมโห  ต่อให้เป็นสัตว์ร้ายที่อันตรายขนาดไหนแต่เมื่ออยู่ต่อหน้านักฆ่าแล้วก็ต้องยอมหลบทางให้ ดีนอสนั้นคุ้นเคยกับการบัญชาคนเก่งๆ มากกว่าลงมือต่อสู้เอง เขาเคยมีความคิดที่จะดึงตัวพยัคฆ์ดำมาเข้าร่วมกลุ่มตัวเองด้วยการบังคับแล้วและผลก็คือเกือบโดนฆ่าตาย 

ถึงแม้มันจะยิ่งทำให้ดีนอสสนใจในตัวโลกัสมากขึ้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นักนอกจากเสียดายและเกลียดพยัคฆ์ดำเข้าไส้ พอได้ยินข่าวใหญ่ที่ว่าพยัคฆ์ดำตายแล้วยิ่งทำให้ดีนอสสะใจจนจัดงานเลี้ยงฉลองลูกน้องหนึ่งวันเต็มๆ

"กลับ" ดีนอสพูดเสียงเรียบเรียกลูกน้องที่ยืนคุมเชิงโลกัสอยู่ให้กลับมาอารักขาตัวเองหัวซุกหัวซุนซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นหมาป่าตัวใหญ่ที่ขู่แง่งๆ ใส่ฟินด์ทิ้งท้ายแล้วรีบกลับไปอยู่ข้างกายนายของตัวเอง

อย่างไรก็ตามที่ดีนอสมาที่นี้ก็เพียงเพราะสนใจกวางระเริงเพลงนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้ต้องการครอบครองอะไรมากมายเพราะถ้าเบื่อตอนไหนก็คงจะขายทิ้งด้วยราคาที่สูงลิบลิ่ว

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและจบอย่างรวดเร็ว จนองค์ชายและคนอื่นๆ ค่อนข้างงงเพราะไม่ได้ยินว่าทั้งสองคนพูดคุยอะไรกันรู้เพียงว่าเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดเอามากๆ ก่อนที่จะจบลงที่คนรักของกวางระเริงเพลงเป็นฝ่ายชนะ

ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้กลุ่มคนคลั่งไคล้กวางระเริงเพลงเสียวสันหลังวาบ กับบุคคลที่สามารถไล่กลุ่มหมาป่ารัตติกาลได้นี่คงไม่ใช่บุคคลธรรมดาแล้ว ชายฉกรรจ์หลายคนมองเวสเปอร์ด้วยสายตาเศร้าใจ นี่ก็เท่ากับว่าพวกเขาหมดสิทธิ์ในการเข้าใกล้กวางระเริงเพลงแล้วสินะ 

พอมั่นใจว่ากลุ่มหมาป่ารัตติกาลออกไปจากพื้นที่แน่ๆ แล้ว โลกัสก็เริ่มยืนไม่อยู่ร่างกายเรียกร้องค่าเสียหายจากการออกแรงต่อสู้มากๆ ทันที

"เจ้าเสือ!" องค์ชายรีบถลาเข้าไปประคองด้วยความเป็นห่วงซึ่งแน่นอนว่าแทบโดนเสือทับตาย

"ฮื่ออ" โลกัสวางคางบนไหล่ของเวสเปอร์อย่างอ่อนแอ "ข้าบอกแล้ว มันต้องมีคนมาแย่งข้า.."

เวสเปอร์หลุดหัวเราะเบาๆ "แต่เจ้าเสือก็มาช่วยนี่"

โลกัสยิ้มเหนื่อยๆ หลับตาและเผลอหลับไปจริงๆ ทั้งอย่างนั้นทำเอาองค์ชายตกใจจนลนลานเพราะโดนทิ้งน้ำหนักมาที่ตัวเองเต็มๆ จนยืนแทบไม่อยู่

"มาๆ ข้าช่วยแล้ว" เกลที่หลุดรอดจากลูกน้องดีนอสรีบเข้าไปช่วยเวสเปอร์พยุงเสือร้ายที่หมดมาดกลับเข้าไปที่ห้อง

"ท่านเกลแล้วงาน งานล่ะขอรับ" กระต่ายพิธีกรตัวเดิมถามอย่างตื่นตระหนก

เกลเหลือบมองคนที่ยังเหลืออยู่ค่อนข้างเยอะ "ก็จัดต่อไปนั่นแหละ เอาพวกนักดนตรีเล่นเพลงไปแต่กวางระเริงเพลงยกเลิกไปเลย พอแล้วล่ะวันนี้"

"แต่..ข้าเล่นต่อได้นะ" องค์ชายรีบพูดเพราะรู้สึกเกรงใจ

"ไม่ต้องหรอก" เกลส่ายหน้ายิ้มๆ "แค่ดูแลไอ้เสือนี่ไม่ให้งอแงก็มากเกินพอแล้ว"

เวสเปอร์มองคนที่หลับสนิทไปแล้วด้วยรอยยิ้มนิดๆ

เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเจ้าเสือมาช่วยไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น... 
 
 
"เวสเปอร์.."

องค์ชายที่นั่งสัปหงกอยู่ข้างๆ สะดุ้งตื่นเมื่อถูกคนป่วยเรียกเสียงพร่า "หิวเหรอ เจ้าเสือ?" องค์ชายถามอย่างงุนงงเพราะเพิ่งป้อนให้เมื่อกี้

"หนาว" 

เวสเปอร์ขมวดคิ้ว ผ้าห่มเจ้าเสือตอนนี้นี่สองสามชั้นแล้วเรียกได้ว่าอุ่นจนร้อน "เอาผ้าห่มอีกเหรอ"

โลกัสส่ายหัวดิกแล้วกวักมือเรียกให้เวสเปอร์เข้ามาใกล้ๆ ซึ่งองค์ชายก็ขยับตัวเข้าไปอย่างว่าง่าย

หมับ

"เจ้าเสือ!" เวสเปอร์เรียกเสียงดุเพราะถูกคนป่วยกระชากตัวลงไปนอนด้วยบนเตียงและกอดแน่นจนรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว

"ง่วงก็นอนกับข้าสิ" โลกัสหัวเราะเบาๆ แล้วซบหน้าที่หลังคอองค์ชายที่เริ่มจะแดง

"เกลบอกว่าห้ามนอนเดี๋ยวจะติดหวัด" องค์ชายพูดเสียงเบา

"ช่างสิ ข้าใกล้หายแล้ว" โลกัสหัวเราะในลำคอแล้วงับคอองค์ชายเบาๆ "ข้าคิดถึงเนื้อกวางจะตายอยู่แล้ว"

 องค์ชายหน้าแดงถอนหายใจอย่างระอายอมให้เจ้าเสืองับๆ ไถๆ อยู่สักพัก เสือร้ายก็หลับไปเพราะพิษไข้ องค์ชายพลิกตัวเข้ามาหาโลกัสแล้วเอาหลังมืออังหน้าผากพบว่าร่างกายของเจ้าเสือยังร้อนจัด ที่ทำไปเมื่อกี้คงจะอยากอ้อนเขาเฉยๆ

แง้ว

เวสเปอร์หลุดขำเมื่ออยู่ๆ ฟินด์ก็มุดมาแทรกกลางไม่ให้กอดเจ้านายตัวเองได้

ฟินด๋ในร่างแมวส่งเสียงแง้วๆ แล้วเกาะตัวองค์ชายแน่นเชิงให้กอดซึ่งองค์ชายก็ยอมกอดฟินด์ไว้หลวมๆ และขยับเข้าไปหาโลกัสและหลับไปตรงนั้น

ปฏิเสธไม่ได้ว่ากวางอย่างเขาก็คิดถึงเสือจะแย่แล้วเหมือนกัน
 
----------
ตอนนี้อยู่ดีๆ ก็อยากเขียน 555
  :mew3:

ออฟไลน์ duck-ya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หูยยย นี่ขนาดเจ้าเสือป่วยนะเนี่ยย
องค์ชายเพคะ อย่าดื้อสิเจ้าเสือห่วงจะตายแล้ววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ PJansam

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
สนุกมากเลยค่ะ เสียดายมาเจอช้า ปิดจองหนังสือซะแล้ว YY

ออฟไลน์ nalovey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เรื่องสนุกมากเลยอ่า  เพิ่งตัดสินใจอ่าน ไม่ผิดหวังเลยจ้า  :o8: :-[ ท้ายๆ สงสารฟินน์เลยค่ะ 555 :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนพิเศษ : หากผมเป็นปีศาจร้าย

"ได้ตัวมันมาแล้วครับ นายท่าน"

ชายฉกรรจ์คนหนึ่งพูดเสียงขึงขังพร้อมเตะชายร่างใหญ่ที่ถูกพันธนาการเอาไว้ให้ไปล้มลงต่อหน้าเจ้านายของตัวเอง ชายคนที่ถูกเตะมีสีหน้าเกรี้ยวกราดสบถด่าคำหยาบคายในใจไม่หยุด

หากแต่เมื่อเงยหน้ามอง 'นายท่าน' ความรู้สึกเดือดดาลในใจกลับหายไปชั่วคราว 

ราวกับว่าตกลงไปในภวังก์อะไรบางอย่างด้วยดวงตาที่ทองลึกลับนั่น ยิ่งผสมรวมกับชุดสูทสีดำที่ตัดกับผมสีขาวโพลนของเจ้าของร่าง ยิ่งทำให้เขามัวเมาในที่สักที่จนคิดอะไรไม่ออกและเอาแต่จดจ้องร่างที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้นวมชั้นดีอย่างไร้สติ

"ดี" น้ำเสียงทุ้มนุ่มหากแต่ฟังแล้วหวั่นเกรงดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบที่กำลังยิ้มเยาะ "นายใช่ไหมที่ชื่อโลกันต์น่ะ"

เจ้าของชื่อกระพริบตาปริบก่อนจะสำเหนียกตัวเองได้ว่ามาอยู่ที่ได้เพราะอะไร ใบหน้าคมคายจึงขบกรามกรอดและมองร่างโปร่งอย่างไม่เป็นมิตร

ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายมีรูปลักษณ์ราวกับทูตสวรรค์แต่สิ่งที่กระทำกลับชั่วร้ายซะเหลือเกิน 

ร่างเล็กๆ ตรงหน้านี้คือ เวส อังศุชวาล หรือเจ้าของธุรกิจดำมืดรายใหญ่ในประเทศไทยทั้งการค้ามนุษย์ อาวุธสงคราม ยาเสพติด หรืออะไรก็ตามแต่ที่ทำเงินได้ ร่างเล็กนี่ล้วนถือครองมันทั้งนั้น

"รู้ใช่ไหม? ว่าผมน่ะเกลียดพวกตำรวจขนาดไหน" เวสหรือนายท่านแห่งอังศุชวาลหรี่ตาลงมองโลกันต์และขยับแก้วไวน์ชั้นดีในมือไปมา "ชอบตามจุ้นเรื่องที่ผมทำอยู่่ได้ เงินก็ได้ไปแล้ว จะมายุ่งกับผมทำไมอีก? ฮึ พลตำรวจเอกโลกันต์"

โลกันต์ตะคอกอย่างเดือดดาล "เพราะสิ่งที่แกทำไง! แกฆ่าเด็กพวกนั้นได้ยังไง?! นั่นมันแค่เด็กนะ"

เวสกลอกตาไปมาจิบไวน์อึกนึงแล้วครุ่นคิด "อ๋อ ผมนึกออกแล้ว เด็กพวกนั้นน่ะนะ" ก่อนที่แววตาสีทองสวยจะฉายแววหงุดหงิดออกมา "ทั้งๆ ที่ผมชุบเลี้ยงพวกมันอย่างดี แต่ก็คาบข่าวของผมไปบอกตำรวจอย่างพวกคุณไง พอไหม? สำหรับเหตุผลนี้ หรือว่าคุณพลตำรวจเอกอยากได้ข้อมูลมากกว่านี้อีก บอกไว้ก่อนเลยว่าคุณไม่มีปัญหาเอาผมขึ้นชั้นศาลหรอกครับ คุณโลกันต์"

ราวกับว่าจะเยาะเย้ย เวสลงจากเก้าอี้แล้วเอามือเชยคางโลกันต์ขึ้นแล้วยิ้มนุ่มนวลให้กับสีหน้าคล้ายอยากจะฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็นของโลกันต์

"ตื่นเถอะ คุณตำรวจ ยอมรับซะเถอะว่าคุณน่ะแพ้ตั้งแต่ก้าวเข้ามายุ่งกับผมแล้ว" 

โลกันต์คำรามตาแดงก่ำ "ฉันจะฆ่าแก!"

เวสผลุดลุกขึ้นแสร้งทำสีหน้าหวาดกลัว "น่ากลัวจัง" และเอียงคอพูดด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อน "อ้อ คุณพลเอก ผมจะบอกอะไรอย่างนะครับว่าต่อให้คุณปลอมตัวมากแค่ไหนผมก็รู้อยู่ดี เพราะอะไรงั้นเหรอ? " พูดพร้อมชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้วและหักลงหนึ่งอัน "หนึ่งคือผมฉลาด" และชูที่เหลือเพียงนิ้วเดียวซึ่งคือนิ้วกลางใส่พลตำรวจยศสูงไฟแรงและหัวเราะคิกคัก "สองคือคุณโง่ที่คิดว่าผมโง่ไม่รู้ไงครับ คุณพลตำรวจเอกโลกันต์"

"ฉันจะฆ่าแก" ตำรวจยศพลเอกพึมพำไม่หยุดพยายามทำลายกุญแจมือที่ล่ามข้อมือตัวเองแต่ก็ไม่เป็นผล มีเพียงเสียงโซ่เคร้งคร้างฟังเสียดหูที่เหมือนจะเยาะเย้ยอยู่กลายๆ 

คนเป็นถึงนายท่านหัวเราะหึแล้วกลับไปนั่งบนเก้าอี้ของตัวเองและวางแก้วไวน์ที่ว่างเปล่าลงบนถาดวาง "แต่ผมก็ชอบคุณนะ ยศก็ใหญ่จะใช้ใครมาจับผมแทนก็ได้แต่ก็ไม่ทำ ยอมลดตัวมาจับผมด้วยตัวเอง"

โลกันต์ฟังคำชมด้วยความรู้สึกหงุดหงิด นึกโกรธตัวเองที่ประมาทอีกฝ่ายจนถูกจับได้แบบนี้ "แล้วจะทำยังไงกับตำรวจอย่างผมที่คุณเกลียดนักหนาต่อ? จะฆ่าเหมือนเด็กพวกนั้นไหม? นายท่านเวสแห่งอังศุชวาล"

เวสหัวเราะคิกคัก "ไม่หรอก คุณไม่ได้ทำผิดร้ายแรง นานๆ ทีจะมีตำรวจไฟแรงอย่างคุณมาจับผม มันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้น" ก่อนที่จะยิ้มน่ารักให้พลตำรวจเอกหนุ่ม "ผมชอบคุณนะ กล้าดี"

น่าแปลกทั้งๆ ที่ควรจะโมโหแต่กลับรู้สึกพอใจอย่างประหลาด

โลกันต์ขมวดคิ้วงุนงงแต่ที่แน่ๆ ก็ยังรู้สึกเกลียดนายท่านตรงหน้านี้เข้าไส้ 

ร่างโปร่งฮัมเพลงอารมณ์ดีแล้วก้มมองนาฬิกาข้อมือแพงระยับของตัวเอง "แย่แล้วๆ ถึงเวลาให้อาหารฟินด์แล้วนี่นา ให้ตายสิ เกือบลืมแน่ะ เจ้าเสือนั่นยิ่งหงุดหงิดง่ายอยู่ด้วย"

ชายคนสนิทในชุดสูทดำบนอกมีตราสัญลักษณ์เป็นกวางสีทองรีบพูดอย่างนอบน้อม "ให้คนเอาไปให้แทนไหมครับ นายท่าน เพราะบ่ายนี้นายท่านมีนัดกับคุณหญิงพรเพชร"

"อ้อ" คนเป็นนายท่านพยักหน้าแล้วเดินอาดๆ ออกจากห้องโดยไม่สนใจเสียงตะโกนโวยวายของโลกันต์ เพราะต้องการจะเตรียมหัวให้โล่งให้พร้อมสำหรับการคุยธุรกิจกับคู่ค้ารายใหญ่หรือก็คือคุณหญิงพรเพชร ภริยาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติซึ่งมีงานอดิเรกลับๆ อย่างการเลี้ยงเด็กผู้ชายและหาสินค้าให้กับคนที่ต้องการ ซึ่งที่แน่ๆ สินค้าที่ว่าคงไม่ใช่สินค้าที่หาได้ตามท้องตลาดทั่วไปแน่นอน พอคิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้เวสหลุดหัวเราะนิดๆ 

กับคนที่ถวายตัวให้กับความยุติธรรมอย่างโลกันต์กลับไม่รู้เรื่องนี้ซะอย่างนั้น เป็นเรื่องตลกร้ายที่คนที่ตำแหน่งที่สูงกว่าตัวเองกลับเต็มใจข้องเกี่ยวเรื่องทางนี้เพราะผลประโยชน์ ทำให้ความยุติธรรมหรือความดีงามที่โลกันต์ยึดถือนั้นถูกทำลายอย่างสมบูรณ์แบบ 

"โลกใบนี้มันก็โหดร้ายแบบนี้แหละ คุณพลตำรวจเอก" เวสพูดพึมพำแต่ไม่ได้รู้สงสารอะไรนักและรับเอกสารจากเลขาคนสนิทเพื่ออ่านรายละเอียด

"นายท่านแล้วตำรวจนั่นล่ะครับ?"

นายท่านใหญ่ชะงักสายตาที่กลอกตามตัวหนังสือแล้วยิ้ม "เอาไปไว้ที่ห้องฉันแล้วกัน อย่าลืมมัดมันดีๆ ล่ะ ฉันขี้เกียจจะโดนมันกัด"

เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าทำแบบนี้แล้ว คุณพลตำรวจเอกจะอกแตกตายคาห้องเขาไหม?

แปลกที่แค่คิดเวสก็หลุดหัวเราะออกมากับสีหน้าโมโหร้ายของพลเอกหนุ่มในหัว หมอนั่นต้องโมโหมากแน่ๆ
 
 

"เรื่องมากจริง" ร่างโปร่งสบถอย่างหงุดหงิดขณะที่พาร่างตัวเองกลับมายังห้องพักหรู เขาไม่คิดว่าการพูดคุยจะกินเวลายาวนานขนาดนั้น คุณหญิงพรเพชรนั่นเค็มเป็นบ้า จากชื่อพรเพชรน่าจะเปลี่ยนเป็นพรเกลือแทน งกจนให้เขาออกให้ก่อนทุกอย่างพอได้เงินถึงจ่ายคืน น่ารำคาญจนอยากสั่งให้คนยิงเก็บตั้งแต่ในห้อง

เวสครุ่นคิดเรื่อยเปื่อยและลืมไปซะสนิทว่าตัวเองได้สั่งอะไรกับลูกน้องไว้ก่อนที่จะกลับมายังห้อง พอเปิดประตูเข้าไปและเจอชายฉกรรจ์ที่เพิ่งเจอไปเมื่อตอนสายๆ ก็เผลอสะดุ้งนิดๆ และนั่นก็อยู่ในสายตาโลกันต์ที่หลับไม่ลงตั้งแต่โดนโยนมานอนในห้องนี้

"สวัสดีคุณตำรวจ" เวสชะงักไปสักพักแล้วไปนั่งยองๆ ข้างโลกันต์และฉีกยิ้มให้ "เจอกันอีกแล้วนะครับ"

"จะฆ่าก็ฆ่า!" โลกันต์คำรามใส่

เวสขมวดคิ้ว "ไม่เอาน่า คุณก็รู้นี่ว่าฆ่าคนเป็นเรื่องไม่ดี นี่ผมก็ไม่ฆ่าแล้วไง ไม่ดีเหรอ"

"ตลกมากรึไงวะ!!" พลตำรวจเอกหนุ่มพูดอย่างคับแค้นใจ เขาตอนนี้รู้สึกหงุดหงิดจนแทบบ้า แค่โดนจับเขาก็โมโหมากพอแล้ว นี่อะไรต้องมาอยู่ห้องเดียวกับคนที่เขาหมายหัวจะจับแล้วจับไม่ได้ นี่มันไม่เท่ากับหยาบหน้ากันเลยรึไง! 

เสียงตะคอกของโลกันต์ดังราวกับสัตว์ร้ายกู่ร้อง มันทำให้เวสนึกถึงเสือโคร่งขึ้นมาซะอย่างงั้น เวสมองสำรวจร่างตำรวจหนุ่มอีกครั้งพบว่าร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างคนออกกำลังกายผิดกับภาพที่ลูกน้องเขาเอามาให้ ซึ่งเป็นภาพของโลกันต์ตอนที่ยังเป็นตำรวจใหม่ๆ กล้ามเนื้อไม่ค่อยเยอะนัก 

"ไม่ตลก ก็บอกอยู่ว่าผมชอบคุณ" นายท่านหนุ่มยิ้มแล้วปลดเนกไทและกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเองออกเผยให้เห็นต้นคอขาว

โลกันต์มองการกระทำของเวสอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากมอง ทั้งๆ ที่อยากจับอีกฝ่ายมาเขย่าๆ แล้วซักถามถึงสาเหตุที่สามารถทำเรื่องชั่วร้ายได้อย่างหน้าตาเฉยและไม่รู้สึกผิดกับมันสักนิด

ทำไมถึงเฉยชากับของพวกนี้ได้ถึงขนาดนั้น?

"คิดจะทำอะไร"

เวสยิ้ม "ให้อาหารเสือ" นั่งคร่อมโลกันต์วางมือไว้บนไหล่แล้วจู่โจมจูบอย่างนึกสนุก

ตำรวจหนุ่มเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนกเพราะไอ้สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในสารบบเลยสักนิด หรือถ้าจะมีก็คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่คิดว่านายท่านแห่งอังศุชวาลคิดจะทำ

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาถึงแม้เวสหรือนายท่านให้แห่งอังศุชวาลจะไม่ได้มีคนรักเป็นตัวตนเป็นตน แต่ก็ไม่เคยมีข่าวว่าสนใจผู้ชายเลยสักนิด เพราะฉากหน้าข้างผู้ชายคนนี้ในสังคมคือชายผู้ใจบุญสุุนทานที่มีธุรกิจอหังสาริมทรัพย์ในมือและมีนิสัยกับความสุภาพบุรุษอันดีเยี่ยม ถึงแม้รูปลักษณ์จะไม่เข้มแข็งนักแต่ก็เป็นที่หมายปองของสาวๆ ในวงการธุรกิจ

นัยน์ตาสีแดงก่ำจดจ้องนายท่านที่เอาหัวคลอเคลียตัวเองนิ่ง

"อะไร? ผมว่าผมก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ" เวสขมวดคิ้วแล้วถอดสูทนอกออกและโยนมันไปไกลๆ เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตขาวที่ค่อยๆ ถูกปลดกระดุมที่ละเม็ดขณะที่เจ้าตัวพูด "ถึงล่าสุดมันจะนานมากแล้วก็เถอะ คุณตำรวจต้องดีใจนะที่ผมชอบคุณเพราะผมน่ะ เรื่องมาก"

โลกันต์กลอกตาหงุดหงิดแต่ไม่พูดอะไรเพราะร่างตรงหน้านั้นดึงความรู้สึกนึกคิดหายไปจนหมด หน้าอกที่ขาวกระจ่างชวนให้ซุกไซร้นั้นดูเชิญชวนเกินกว่าจะคิดเรื่องอื่น ยิ่งมีเสื้อเชิ้ตบังวับๆ แวมๆ ยิ่งทำให้รู้สึกร้อนรุ่มอย่างประหลาด

เวสหัวเราะในลำคอปีนขึ้นไปนั่งตักแล้วกอดตำรวจหนุ่มแน่นและแนบหน้ากับกล้ามเนื้ออกที่แน่นกว่าที่จินตนาการไว้มาก  "เชื่อไหม ถ้าคุณไม่ตรงสเป็คผม คุณตายตั้งแต่เข้ามายุ่งกับเรื่องนี้แล้วล่ะ คุณตำรวจ"

"ผมควรดีใจใช่ไหม" 

โลกันต์พยายามพูดเสียงเข้มแต่กลิ่นน้ำหอมเย็นๆ ก็ชวนให้ใจเขวอย่างประหลาด มันให้ความรู้สึกเย็นเยียบแต่ก็ชวนให้เร่าร้อนเช่นกัน

"แน่สิ" เวสหัวเราะคิกแล้วจูบคางพลเอกเบาๆ "สนใจสมัครเป็นบอดี้การ์ดผมไหม คุณตำรวจ"

"ไม่"

"คิดหน่อยสิ เงินดีกว่าอาชีพตำรวจอีกนะ" 

"หึ" โลกันต์แค่นเสียงขึ้นจมูก

น้อยคนนักที่จะกล้าปฎิเสธเวสทำให้เจ้าตัวหงุดหงิดนิดหน่อยแต่มือกลับค่อยๆ แกะกระดุมสูทสีควันบุหรี่ที่มีตรากวางทองบนอกของคุณตำรวจ ซึ่งพอเวสเห็นรูปกวางก็แกะไปยิ้มไป

"ผมว่าสูทดำน่าจะเหมาะกับคุณมากกว่านะ"

พลตำรวจเอกหนุ่มไม่ตอบจ้องมองการกระทำของเวสไม่วางตา 

ถึงจะทำตัวเหมือนเชี่ยวชาญยังไงแต่มือที่สั่นน้อยๆ นั่นก็แสดงถึงความไม่สันทัดกับเรื่องที่ทำอยู่ มันดูประหม่าและยังมีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่

"อย่าจ้องขนาดนั้นสิ" เวสบ่นไม่จริงจังนัก รู้สึกเซ็งที่ไม่สามารถอดสูทอีกฝ่ายออกได้เพราะติดกุญแจมือแต่ถ้าแกะมันออกก็อันตรายเกินไปอีก ถึงจะอวดดียังไงเขาก็รู้ตัวดีว่าถ้าสู้กันตัวต่อตัวคงแพ้พลตำรวจเอกไฟแรงนี่แน่นอน "งั้นก็เริ่มเลยแล้วกัน คุณตำรวจ"

"..." โลกันต์พูดอะไรไม่ออกกับสถานการณ์ตัวเองตอนนี้ เขาเคยคิดว่าถ้าตัวเองถูกจับได้ว่าแฝงตัวเข้ามาอย่างร้ายแรงที่สุดก็คือถูกฆ่าอย่างตำรวจคนอื่น แต่นี่ไม่ ไม่ใช่เลยสักนิด แต่เขากำลังจะถูกนายท่านเวสแห่งอังศุชวาลที่อายุน้อยกว่าข่มขืน! ซึ่งถ้าเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังคงต้องโดนหัวเราะใส่และด่าว่าเพ้อเจ้อแน่ๆ

แต่เรื่องบ้าๆ กว่านั่นคือเขาไม่รู้สึกรังเกียจเลยสักนิด

โลกันต์รู้สึกอยากนวดขมับในความผิดปกติของตัวเองแต่มือก็ถูกรั้งไว้ด้วยกุญแจมือที่ทำจากเหล็กชั้นดีและมันก็เป็นยี่ห้อเดียวกับที่เขาเพิ่งสั่งให้ลูกน้องใช้ด้วย

"เอาแบบนี้ ถ้าคุณไม่สนใจเป็นบอดี้การ์ด" เวสฉีกยิ้มการค้าแบบที่ลูกค้าเห็นแล้วตกลงทันที "ผมให้คุณเป็นคนสนิทของผมแล้วกัน สนใจไหม? คุณจะทำอะไรก็ได้ขอแค่ไม่เกินขอบเขตของผมและมันไม่ทำให้ผมโกรธ"

"ไม่"

พลตำรวจเอกหนุ่มแยกเขี้ยวใส่

เวสหุบยิ้มแล้วถอนหายใจออกมาและช้อนตามอง "ข้อเสนอสุดท้ายแล้วกัน"

โลกันต์เลิกคิ้วอย่างสนใจ

"ทำให้ผมกลับมาเป็นมนุษย์"

เวสไม่มีสีหน้าอะไรขณะที่พูด มีแต่ความว่างเปล่าและแววตาที่เหม่อมองไปไกลออกไปมากๆ

"ถ้าคุณทำได้ผมจะเลิกทำธุรกิจมืดพวกนี้ทุกอย่าง"

ก่อนที่แววตาจะกลับมากระจ่างใสและไหวไหล่ไม่ยี่หระ

"แต่อย่างว่ายังไงมันก็เป็นไปไม่ได้หรอกครับ คุณพลตำรวจเอก"

เวสขยับตัวเข้าไปคล้องคอโลกันต์แล้วจูบตัดบทเมื่อโลกันต์ทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างและผละออกมาเมื่อจูบจนพอใจแล้ว

"วันนี้พอแค่นี้นะครับ เสือน้อย" เวสแนบนิ้วชี้แนบริมฝีปากโลกันต์เมินสิ่งที่ทิ่มแทงสะโพกตัวเองอย่างเห็นได้ชัด "เสือที่ตะกละมากๆ มักจะอายุสั้น"

"ถ้าผมบอกว่าผมสนใจข้อเสนอสุดท้ายของคุณล่ะ นายท่านเวส" โลกันต์จ้องนัยน์ตาสีทองน่าลุ่มหลงนั่นตรงๆ "ผมเชื่อว่าผมทำให้คุณกลับมาเป็นมนุษย์ได้"

โลกันต์เห็นแววตานั่นวูบไหวแต่ก็ถูกกลบเกลื่อนอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้มไม่ยี่หระ

"งั้นคุณก็ฝันแล้ว โลกันต์"

เวสหัวเราะแล้วลุกขึ้นยืน "มีเพียงปีศาจที่จะสามารถใช้ชีวิตอยู่บนโลกเน่าๆ นี่ได้อย่างไม่เจ็บปวดนะ คุณตำรวจ และโชคร้ายที่ผมเป็นปีศาจนั่น"

โลกันต์อยากจะพูดอะไรต่ออีกแต่ปีศาจรูปงามก็ชิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปแล้ว

"ปีศาจงั้นเหรอ.."

พลตำรวจเอกหนุ่มครางในลำคอมองประตูห้องน้ำนิ่ง

"คุณมันก็แค่มนุษย์เลือดเย็นเท่านั้นเอง เวส"

FIN

------------
เนื่องจากขี้เกียจเปิดเรื่องใหม่เลยจับเวสมาเป็นมาเฟียค่ะ 55555555 อยากเขียนแนวนี้มานานแล้ว น่าจะกิ้วก้าวดี
แต่เวสลุคนี้นี่ไม่ใช่เลยอ่ะ ปกตินางจะนุ่มๆ น่ารัก นี่ออกแนวแรงๆ ข่ม.. ขู่ (?) พี่เสือซะหงอยเลย

ถามว่ามีตอนหน้าไหม ไม่น่ามีค่ะ เขียนลองมือเฉยๆ 5555 ไฟลุกโชน  :fire:
 
 
 
 
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2017 17:31:32 โดย Foggy Time »

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ eiweiw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ allmysecret

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านจบแล้ว  มีคนสปอยว่าเรื่องนีเสนุกเราเลยมาอ่าน ชอบเจ้าเสือหื่น 55555 ทำไมรู้สึกว่าเสือขาวน่ารักเหมือนแมว 55555 ตอนพิเศษจุใจมากๆ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ sukiraw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เห็นชื่อเรื่องแล้วสะดุดตามาก พอเข้ามาอ่านแล้วก็ยิ่งชอบบบบบบบ งื้ออออ >/////<~
ชอบแนวนี้มากๆเลยยยยยย คนเขียนเขียนบรรยายได้ดีสุดๆเลย อินตามตลอด น้ำตาไหลพรากบางตอนจนเพื่อนสงสัยหันมาถามว่าเป็นอะไร #อ่านนิยายค่ะ #เพื่อนตบ :z6: งื้ออออ แล้วยิ่งตอนพิเศษมีหลายๆแนวด้วย ตื่นเต้น+ชอบมากค่ะ งื้อออออ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะค๊าาาาา  :pig4: :L2:

ออฟไลน์ PJansam

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
งง ตำแหน่งเสือน้อยนิดนึงค่ะ ว่าารุปเป็นตำรวจหรือทหาร มีบรรทัดนึงเขียนว่า อยากเห็นตอนเป็นทหารใหม่ๆ หรือออกจากทหารมาเข้าตำรวจคะ?  แต่ยศพลเอกมันเป็นยศทหารรึป่าวคะ?(เหมือนพลเอกปลาหยุด) ตำรวจจะเรียกพลตำรวจเอก (พล.ต.อ.)

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนพิเศษ : 

"อ้าว พี่โลกันต์ พี่เกลมาด้วยเหรอคะ"

ทันทีที่เข้ามาในงานทั้งสองคนก็ถูกรุ่นน้องทักทันที เกลหัวเราะรับแต่โลกันต์นั้นหน้านิ่งหนักกว่าเดิมจนน่ากลัวเพราะไม่ได้อยากจะมาแต่ถูกเกลลากมาเป็นด้วยเหตุผลที่ว่า 'น้องที่ลงสมัครเดือนดุริยางค์หล่อมาก' ซึ่งมันก็ไม่ใช่เหตุผลที่ฟังขึ้นเลยสักนิด

ทำเอาอดีตเดือนมหาลัยเมื่อหลายปีก่อนหน้าหงิกแต่ถึงอย่างงั้นก็ไม่อาจะปิดบังสเน่ห์ได้อยู่ดี

"แหม ทักเดือนก่อนทักเจ๊เลยนะ" เกลแซวน้องรหัสตัวเองยิ้มๆ

คนโดนแซวหัวเราะคิกและกระซิบกระซาบกับเกล "ช่วยไม่ได้เพื่อนเจ๊หล่อเอง"

//เอาล่ะครับ ต่อไปเป็นคณะวิศวะกรรมศาสตร์ครับ!//

โลกันต์หาวหวอดออกมาอย่างไม่ปิดบังและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมแก้เบื่อเพราะหน้าที่ของเขามีแค่มาเป็นเพื่อนเกลแต่ไม่ได้หมายความว่าต้องดูงานประกวดน่าเบื่อบัดซบพวกนี้ด้วยสักหน่อย แค่ตอนปีหนึ่งที่โดนจับมาประกวดก็ทำเอาเขาเบื่อเต็มทนแล้ว ไม่รู้ว่าเพลงรักง่อยๆ ที่เขาร้องมันเพราะยังไงถึงไปเอาชนะใจกรรมการกับคนดูได้ 

"มึงก็น้าาา มาดูประกวดดาวเดือนแต่เล่นโทรศัพท์" 

โลกันต์แค่นเสียงหึ "น่าเบื่อ คนเยอะ ร้อน"

"แหม อาหารตาอยู่บนเวทีก็ดูสิจ๊ะ ดูแล้วกระชุ่มกระชวยหายเมื่อยหายร้อนแน่นอน"

"ไม่"

"ตายด้านรึไงยะ นู่นน้องนุ่น ส้วยสวย" เกลสะกิดแขนโลกันต์ยิกๆ พยายามชวนให้ดูด้วยกัน

"มีแฟนแล้ว" โลกันต์พูดเสียงเรียบไร้อารมณ์ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองด้วยซ้ำ

เกลหน้างอเพราะน้องนุ่นที่ยืนบนเวทีตอนนี้เพิ่งอัพสถานะโสด "ไม่มีโว้ย ไอ้มั่ว" 

//อ้ะ เกิดข้อผิดพลาดกับคณะดุริยางค์นิดหน่อยครับ น้องอัลฟินท้องเสียจากส้มตำเจ๊น้อยตอนเที่ยงครับ แหม่ ก็รู้อยู่นะครับว่าร้านนี้ถ้าไม่ปูปลาร้ามันจะไม่อร่อย เอาล่ะ ไม่ต้องห่วงนะครับทุกคน คณะนี้มีแผนสำรองครับ//

"กรี๊ดไม่นะ น้องอัลฟิน" เกลแทบร้องไห้เมื่อเป้าหมายตัวเองไม่ได้ลงแล้ว

ส่วนโลกันต์หลุดขำทั้งจากสีหน้าของเกลและสาเหตุที่น้องท้องเสีย จนอดไม่ได้ที่จะเก็บโทรศัพท์แล้วมองเวทีด้วยความอยากรู้นิดๆ ว่าคณะดุริยางค์มีแผนสำรองอะไร 

//เปลี่ยนตัวเป็นน้องเวสครับ! เอ้า ออกมาเลยครับ มาโชว์หล่อหน่อย//

โลกันต์เผลอกลืนน้ำลายเอือกเมื่อเห็นน้องเวสที่ว่าเดินออกมาพร้อมกับดาวคณะเดียวกัน ใบหน้าน่ามองกำลังปั้นหน้าขึงขึงหรือพยายามที่จะเคร่งขรึมขัดกับร่างกายเล็กๆ ของน้องที่เตี้ยกว่าดาวข้างๆ ซะอีก ไม่แน่ใจเพราะอะไรที่ทำให้โลกันต์ละสายตาจากน้องไม่ได้เลย 

ถึงจะอ่อนแอแต่ก็เข้มแข็ง.. อาจจะเป็นเพราะความคิดนี้ก็ได้ถึงทำให้เขาในตอนนี้อยากเดินเข้าไปทำความรู้จักกับน้องชะมัด

"อะไร มองน้องเวสฉันเหรอ!" เกลตีแขนโลกัสดังเพียะ

"อะไร!" โลกันต์เผลอตะโกนอย่างลืมตัวจนคนรอบข้างหันมามองกันเป็นแถวรวมถึงน้องเวสด้วย 

อดีตเดือนมหาลัยสบตากับเวสเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่น้องจะรีบก้มหน้างุดเดินต่อ

"น่ารักว่ะ" 

เกลทีที่แรกตั้งใจจะถามว่าตะโกนทำไมต้องเบิกตากว้างเพราะคำพูดบางอย่างที่หลุดจากปากผู้ชายตายด้านไปหลายปีแล้วอย่างโลกันต์  "อะไรน่ารักๆ นะ"

"เวส" 

โลกันต์ยิ้มมุมปากตอบอย่างไม่ปิดบังมองตามน้องที่เดินหลบเข้าหลังเวทีไปแล้วด้วยความรู้สึกเสียดายนิดๆ เพราะสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในงานโดนไปเก็บหลังเวทีแล้ว ซึ่งเด็กคณะอื่นก็ไม่ได้ดึงความสนใจเขาได้มากเท่าไหร่

"กรี๊ด แต่ฉันก็ชอบน้องเหมือนกันนะ น่ารักน่าชังน่าเอ็นดู" เกลพูดอย่างกระตือรือร้นและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเพจมหาลัยที่ลงรูปงานรับน้องคณะดุริยางค์ซึ่งได้ลงรูปเวสเปอร์ที่ถูกแกล้งเอาไว้ให้โลกันต์ดู

"ดูรูปนี้ดิ โครตน่ารัก ไม่รู้ว่าใจพวกนั้นทำด้วยอะไรถึงแกล้งน้องได้ลงคอ"

รูปในมือถือเกลนั้นเป็นรูปที่เวสโดนเอาผ้าดำปิดตาผมถูกมัดจุกผูกโบว์สีแดงแต่หน้านั้นเต็มไปด้วยแป้งจนขาววอดและถูกวาดหนวดแมวบนหน้าด้วย

โลกันต์มองรูปน้องแล้วเผลอเลียริมฝีปาก น้องน่ารักมาก..

"มีเฟสไหม"

เกลหรี่ตามองแล้วยิ้มกริ่ม "สรุปว่าชอบ?"

อดีตเดือนเริ่มหน้าหงิกพยายามเบี่ยงเบนไม่ตอบคำถาม "ถ้าไม่ให้จะไปขอเอง"

"มีจ๊ะมี อย่าเพิ่งงอน" เกลหัวเราะคิกแล้วแคปหน้าเฟสน้องและส่งให้โลกันต์

แน่นอนว่าพอได้ข้อมูล โลกันต์ก็กดแอดและเข้าไปส่องเฟสน้องทันทีด้วยความสนใจมากๆ เพราะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีหลังจากเลิกจากแฟนเก่าไปที่เขาจะสนใจใครสักคนและน้องก็เป็นคนที่ว่า

โลกันต์แทบจะเซฟรูปน้องที่มีอยู่ในอัลบั้มเพียงน้อยนิดทุกรูป ดูเหมือนว่าน้องจะไม่เข้าชอบถ่ายรูปตัวเองเท่าไหร่ ในอัลบั้มกับสิ่งที่โพสมีแต่รูปวิว เพื่อน ไม่ก็รูปคียบอร์ดที่ตัวเองเล่นเป็นประจำ

แต่รูปที่ทำให้คนร่างสูงสนใจมากที่สุดคือรูปที่น้องกำลังเกาคอให้กับ 'ฟินด์' แมวดุลายคล้ายเสือโคร่งขาวที่มีงานอดิเรกคือการนานเอกเขนกหน้าเซเว่นหรือไม่ก็ไปยืนร้องเมี้ยวๆ ขออาหารใส่นักศึกษาที่กำลังซัดอาหารอย่างหิวโหย มันดุขนาดที่ว่าหมาเจ้าถิ่นไม่กล้าแหยมมันและแทบไม่มีใครจับมันได้

"หึ" โลกันต์หลุดขำเบาๆ เพราะเจ้าแมวหยิ่งนี่มันยอมให้เขาจับเหมือนกัน สงสัยว่ามันจะถูกชะตากับเขาและน้องเป็นพิเศษสินะ 

ร่างสูงยังคงส่องเฟสน้องอย่างเพลิดเพลิน เห็นตั้งแต่ภาพที่น้องโดนรับน้องยันไปนั่งให้ช่างย้อมผมสีขาวให้ก่อนเข้ามหาลัย แต่ตาสีทองนั่่นน่าจะเป็นของจริงเพราะมันดึงดูดเขามากในขนาดที่ว่าหลับตายังเห็นภาพน้องชัดเจนอยู่ในหัว 

เอาเข้าจริงอาการของเขาตอนนี้มันประหลาดเอามากๆ เหมือนกับกลายเป็นอีกคนนึงที่แม้แต่เขาไม่รู้จัก กับแฟนคนก่อนๆ เขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้ มันไม่ได้มีความรู้สึกอยากครอบครองรุนแรงขนาดนี้

ครืด

โลกันต์เบิกตากว้างเมื่อน้องรับแอดแล้วซึ่งพอส่องเฟสน้องใหม่อีกรอบก็พบว่ามีหลายอย่างที่น้องตั้งไว้เฉพาะเพื่อน อย่างพวกสตาตัสที่ออกแนวบ่นเรื่อยเปื่อยน่าเอ็นดูอย่างง่วงหิวอะไรทำนองนั้น ไม่รู้ว่าเพราะรูปน้องยิ้มกว้างในมือถือรึเปล่าที่ทำให้ร่างสูงยิ้มตามก่อนที่มันจะหุบแทบทันทีเมื่อเลื่อนมาเจอรูปคู่

'หงอกกับหงอก'

น่าแปลกที่แค่เห็นหน้าผู้ชายข้างๆ น้องเวสก็ทำให้เขาหงุดหงิดได้ ทั้งๆ ที่เพิ่งเคยเห็นหน้าเป็นครั้งแรก 

"นี่ใคร?" โลกันต์สะกิดเกลเพื่อถาม

ทันทีที่เห็นเกลก็หลุดกรี๊ดเบาๆ

"ก็อัลฟินสุดหล่อไง ทำไมฉันไม่เคยเห็นภาพนี้เนี่ย งานดีมากกก ดีมากโลกันต์ ว่าแต่น้องรับแอดแกแต่ทำไมไม่รับฉันวะเนี่ย"

โลกันต์เลิกคิ้ว

ส่วนเกลหน้าบูด "น้องเวสเขาโลกส่วนตัวสูงมากกก กูเห็นเขาสนิทกับอัลฟินคนเดียว"

"แฟน?" โลกันต์ขู่แง่งเพราะไอ้ภาพย้อมผมเมื่อกี้ถ้าดูดีๆ ก็เห็นเสี้ยวหน้าของอัลฟินที่มาย้อมสีเทาเหมือนกันนั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขามีคู่แข่งแล้วถ้าจะจีบน้องจริงๆ และเขาก็ไม่ชอบยุ่งกับพวกมีแฟนอยู่แล้วซะด้วย

"ไม่รู้ รู้แค่สนิทกันมาก" 

"ช่างแม่ง"

โลกันต์ตัดสินใจไม่สนใจลืมๆ มันไป ส่องเฟสน้องต่อ อย่างน้อยการเห็นหน้าน้องก็ทำให้อะไรๆ ดีขึ้นแต่เลื่อนไปเลื่อนมาก็เริ่มรู้สึกอยากลองทัก ชั่งใจไม่ถึงนาทีโลกันต์ก็ทักไปทันทีเพราะยังไงเจ้าตัวก็ไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว
 
LOGAN : ขอบคุณที่รับแอดนะครับ :)
 
โลกันต์ยืนมองอยู่สักพัก ถ้าน้องไม่ตอบก็แปลว่าเตรียมตัวอยู่เพราะตอนนี้พวกน้องๆ ปีหนึ่งบนเวทีเริ่มออกมาแสดงความสามารถบ้างแล้ว มีทั้งเล่นตลก ร้องเพลง เต้น แสดงละครฮาๆ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่สามารถดึงความสนใจโลกันต์ได้เพราะเจ้าตัวค่อนข้างเป็นคนที่ทื่อและตายด้านมากทีเดียว สิ่งที่สนใจจริงๆ ก็มีแค่เรื่องที่ตัวเองหมกมุ่นอย่างการยิงปืนไม่ก็เขียนโปรแกรมที่สามารถทำได้ทั้งวันโดยไม่เบื่อและไม่ต้องกินอะไร
 
เวส เวส : //ส่งสติกเกอร์หมีเศร้า
เวส เวส : เดี๋ยวค่อยคุยนะครับ ผมคิวต่อไปแล้ว
 
โลกันต์ยิ้มใส่โทรศัพท์ รู้สึกมีความสุขแปลกๆ
 
"เฮ้ยๆ อย่าเพิ่งเล่นโทรศัพท์ น้องเวสออกมาแล้ว!" เกลสะกิดโลกันต์ให้มองเวทีที่พิธีกรกำลังบรรยายอยู่อย่างออกรส
 
//คณะดุริยางค์ปีนี้มีการแสดงแบบดุริยางค์ๆ ครับ เล่นดนตรีกับร้องเพลงครับ! น้องดาวของเรา เอ๋? เล่นกีตาร์ไฟฟ้าครับ ส่วนน้องเวสเล่นคียบอร์ดคู่ใจครับ วันนี้เขามากันในเพลงให้ตายสิพับผ่าของแสตมป์ครับ//
 
โลกันต์มองร่างเล็กที่กำลังจัดระเบียบคียบอร์ดอย่างไม่วางตา รู้สึกว่าทุกการกระทำของเวสนั้นดูจะน่าสนใจสำหรับเขาซะเหลือเกิน แต่จะว่าไปเมื่อคิดตามดีๆ ใครจะเป็นคนร้องเพลงล่ะ ในเมื่อทั้งสองนั้นต่างเล่นดนตรีทั้งคู่ อดีตเดือนคิดสักพักก็เลิกคิดเพราะยังไงก็คงเป็นน้องดาวที่ต้องร้องเพลงเพราะเขาเห็นไมค์ลอยเล็กๆ ที่ติดอยู่เสื้อ

พอพิธีกรให้สัญญาณเริ่ม เสียงดีดกีตาร์ไฟฟ้าก็ดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงของน้องดาวที่เป็นเสียงหวานใส จังหวะการดีดที่สนุกสนานตามเนื้อเพลงเมื่อรวมกับเสียงคียบอร์ดยิ่งทำให้เพลงนั้นเพราะขึ้นเป็นเท่าตัว 

โลกันต์มองน้องเวสที่ยิ้มกว้างขณะที่กำลังเล่นคียบอร์ด ดูน้องมีความสุขกับการเล่นดนตรีมากจนทำให้หลายๆ คนใจสั่นได้เลยทีเดียว

บทเพลงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ พร้อมกับความสนุกของคนดูจนกระทั่งถึงท่อนฮุค เสียงน้องดาวจึงหยุดลงและแทนที่ด้วยน้องเวสที่หยิบไมค์จากไหนไม่รู้ออกมาร้องเพลงต่อ

โลกันต์เบิกตากว้างกับเหตุการณ์ตรงหน้าเพราะไม่คิดว่าน้องจะร้องเพลงได้เพราะขนาดนี้ มันเป็นเสียงทุ้มนุ่มนวลจนอยากรู้ว่าเวลาปกติที่น้องพูดน้ำเสียงจะเป็นแบบไหน น้องเวสที่ดูเขินอายตอนนี้หายไปแล้วมีเพียงเวสที่ยิ้มกว้างร้องเพลงและเอนเตอร์เทนคนดู อยู่ๆ น้องเวสยกมือขึ้นแกว่งไปมาให้อารมณ์คล้ายคอนเสิร์ตตอนที่ร้องท่อนฮุคเป็นรอบที่สอง

"น้องร้องเพราะว่ะ" เกลมองน้องแบบปลามปลื้ม "ถ้ากูมีแฟนแล้วร้องเพลงให้แบบนี้มั้งคงฟินน่าดู"

โลกันต์ไม่ตอบเพราะความสนใจอยู่ที่น้องหมดแล้ว ยิ่งพอเห็นน้องเดินมาขอบเวทีก็ยิ่งรู้สึกอยากดูน้องใกล้ๆ จนลากแขนเกลและเบียดคนเข้าไปยืนหน้าเวทีโดยไม่ยากเย็นนักเพราะความเป็นพี่ปีสูงคนดังในคณะและร่างกายที่ใหญ่บึกบึนเหมาะสำหรับเอาไว้ไปกระทืบคน

แต่พอเห็นน้องใกล้ๆ โลกันต์กลับขมวดคิ้วมุ่น เขาสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวแปลกๆ ของน้อง

หรือว่าจะป่วย..?

โลกันต์คาดคะเนเรื่อยเปื่อยและยิ้มกว้างเมื่อน้องเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเต้นนิดๆ ตามเพลงก่อนที่ใบหน้าน่ามองที่เริ่มชื้นเหงื่อของน้องเชิดขึ้น
 
// ฉันชอบใครเขาก็ไม่ชอบฉัน พอเขามาชอบเราก็ไม่ชอบเขาเหมือนกั--//
 

หากแต่ร้องยังไม่ทันจบเพลงน้องก็ล้มโครมลงมาจากเวที น้องดาวส่งเสียงกรี๊ดดังลั่นอย่างตื่นตระหนกเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ส่งเสียงฮือฮา

แต่โชคดีที่โลกันต์คว้าตัวน้องได้ทันเลยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

"เวส เวส" โลกันต์พยายามเรียกน้องแต่น้องไม่ตอบ พอเอาหลังมือไปอังหน้าผากก็พบว่าน้องตัวร้อนเหมือนจะเป็นไข้และดูเหมือนว่าน้องจะวูบสลบไปแล้ว

โลกันต์ตวัดสายตามองพิธีกรแล้วตะโกน "น้องเป็นลม! เรียกฝ่ายพยาบาลมา!" ซึ่งพอเห็นท่าทีอึนๆ งงๆ ของพิธีกรก็ทำให้โลกันต์หงุดหงิดจนรวบตัวน้องขึ้นอุ้มแล้วเดินไปหาฝ่ายพยาบาลที่ตั้งซุ้มอยู่ข้างเวทีเอง

"ใจเย็นๆ โลกันต์ น้องยังไม่ตาย" เกลที่วิ่งตามมาติดๆ พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบโลกันต์ที่ทำหน้าเหมือนจะฆ่าคน

"จะเย็นยังไงวะ ก็เห็นๆ อยู่ว่าน้องเป็นลม" 

โลกันต์สบถหยาบคาย นึกดีใจที่ตัวเองมาอยู่หน้าเวทีได้ทันก่อนที่น้องจะเป็นลมไม่อย่างงั้นน้องคงจะอาการหนักกว่านี้เพราะเวทีนั้นไม่ได้เตี้ยเอาซะเลย

พอถึงซุ้มพยาบาลโลกันต์ก็วางน้องบนเตียงสนามปล่อยให้น้องคณะพยาบาลทำหน้าที่ต่อและถอยออกมายืนมองอยู่ห่างๆ 

"เวส เวสเป็นไงบ้าง" ดาวรีบวิ่งมาหาเพื่อนตัวเองถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง เอาเข้าจริงเธอก็สังเกตเห็นแล้วล่ะว่าเวสไม่ค่อยสบายแต่เจ้าตัวก็ดึงดันที่จะลงแทนเพื่อคณะก็เลยปล่อยเลยตามเลย พอเห็นสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขตอนที่เล่นดนตรีก็ทำให้เธอหมดห่วงคิดว่าคงไม่เป็นอะไร

โลกันต์กอดอกยืนนิ่งเหลือบมองเธอก่อนที่จะหันไปมองเวทีที่มีน้องคณะอื่นขึ้นไปแสดงความสามารถต่อแล้ว

"เวสเป็นไงบ้าง?" 

เสียงทุ้มหนักแน่นถามอย่างเป็นห่วงทำเอาโลกันต์หันกลับมามองทันที

อัลฟิน!!

โลกันต์คำรามในใจยิ่งพอเห็นเกลมีสีหน้าดีใจเวอร์ๆ ยิ่งทำให้หงุดหงิด

อัลฟินบ่นเพื่อนเวสงึมงำสองสามคำแล้วหันมายิ้มให้พี่โลกันต์อดีตเดือนมหาลัยคณะวิศวะที่มาปรากฎตัวที่นี้ได้ยังไงไม่รู้ "ขอบคุณพี่มากนะครับ ที่ช่วยเพื่อนผม ผมก็บอกมันแล้วว่าอย่าลงๆ เพราะมันเป็นไข้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว" พูดจบก็หัวเราะฮ่าๆ จนโลกันต์รู้สึกเหมือนมีออร่าวิ้งๆ ประกายคนดีออกมาจากน้องเวรนี่

ไม่รู้ทำไมมันถึงทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองต่ำช้านักที่เกลียดน้อง แต่ยังไงก็ไม่ชอบอยู่ดี

"ไม่เป็นไร" โลกันต์ตอบปัด "เป็นแฟนกัน?"

อัลฟินหลุดหัวเราะแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม "เหมือนเหรอพี่ แต่ก็นะผมก็สนิทกับเวสที่สุดแล้ว สนิทจนมันกล้าแก้ผ้านอนแล้วไม่อายผมอ่ะ" 

หากแต่สิ่งที่อัลฟินพูดนั้นเป็นความจริงกึ่งหนึ่ง เวสแก้ผ้าก็จริงแต่ก็ยังเหลือบ็อกเซอร์อยู่และเขาก็ไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่ารุ่นพี่นี่คิดอะไรกับเวสจนอดที่จะแกล้งไม่ได้

"สรุปเป็นไม่เป็น"

โลกันต์กดเสียงถามด้วยสีหน้าโมโหซึ่งถ้าหากเป็นสมัยม.ปลายคงไม่วายพุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อง้างหมัดถามเพราะเขาเกลียดคนที่ลอยหน้าลอยตาใส่ที่สุด เห็นแล้วอยากอัดให้หมอบแต่ด้วยวุฒิภาวะที่เพิ่มมากขึ้นเลยทำอะไรแบบนั้นไม่ได้

"ไม่รู้สิครับ ผมก็ชอบเวสนะ" อัลฟินยิ้มยิงฟันใส่พร้อมๆ กับกลั้นหัวเราะ 

โลกันต์ทำท่าจะพุ่งเข้าไปแต่ก็ถูกเกลรั้งเสื้อเอาไว้ก่อน

"ไอ้โลกันต์ มึงโตแล้วกรุณาอย่าใช้อารมณ์เป็นหลัก" เกลขมวดคิ้วดุเพื่อนตัวเองที่มักจะใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งและใช้กำลังในการทำลายปัญหา

"แม่ง" โลกันต์สบถแล้วสูดหายใจเฮือกใหญ่ๆ เรียกสติ "พี่ถามดีๆ สรุปเป็นแฟนกันไหม ถ้าเป็นจะเลิกยุ่ง" และมองอัลฟินนิ่งด้วยสายตาน่ากลัว

อัลฟินยกมือขึ้นสองข้างเชิงยอมแพ้และยิ้มแหย "ใจเย็นพี่ ผมกับเวสไม่ได้เป็นอะไรกัน รู้จักกันตั้งแต่อนุบาลเฉยๆ "

"..."

อารมณ์หงุดหงิดที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดจึงค่อยๆ สงบลง

"ดี"

โลกันต์ยิ้มเล็กๆ ให้น้องด้วยความเป็นมิตรมากขึ้น

"แต่ถ้าพี่จะจีบมันนะ ผมว่ายาก" อัลฟินหันมองเพื่อนตัวเองที่หลับตาพริ้มหน้าแดงก่ำด้วยพิษไข้ "ผมไม่เคยเห็นมันชอบใครสักที วันๆ สนใจแต่ดนตรีกับตัวมันเอง บางทีมันก็ชอบลืมว่ามีผมอยู่กับมันด้วย พี่ไหวเหรอ?"

โลกันต์ไหวไหล่ไม่ตอบเพราะไม่ใช่เรื่องที่จะตอบไปป่าวประกาศให้ใครฟัง เขากับน้องจะไปด้วยกันได้หรือไม่ได้ มันก็ขึ้นอยู่กับที่ตัวเขาเองทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับใคร

แค่ตอนนี้เขารู้สึกสนใจน้องมากๆ ก็เท่านั้น ยิ่งกว่าตอนมีแฟนคนแรกอีก

"อือ"

เสียงครางเบาๆ ของเวสแทบจะเรียกความสนใจจากคนได้ทั้งซุ้ม โลกันต์กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาน้องที่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาและกระพริบตาถี่ๆ เหมือนงุนงง

"อ้าว..?" เวสหลุดเสียงร้องเมื่อมองเวทีและมีเพื่อนคณะอื่นกำลังแสดงความสามารถอยู่แต่ตัวเองกลับนอนอยู่บนเตียง

"มึงเป็นลม เวส" อัลฟินพูดเมื่อเห็นสีหน้างุนงงของเพื่อนและพยักเพยิดไปทางรุ่นพี่สุดโหด "มึงเกือบตกเวทีแล้ว ถ้าพี่เขารับมึงไว้ไม่ทัน"

เวสเอียงคองงและพอหันไปมองข้างๆ ชัดๆ ก็หน้าแดงเพราะมันเป็นคนที่เขาเพิ่งรับแอดไป!

ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรที่ดลใจให้เขารับแอดคนแปลกหน้าอย่างคนตรงหน้า  ทั้งๆ ที่ปกติแทบไม่รับแอดใครด้วยซ้ำไปเพราะหวงแหนความเป็นส่วนตัว

เวสไล่มองตั้งแต่ใบหน้าหล่อเหลาลงมาเรื่อยๆ พบว่าพี่โลกันต์ที่เคยได้ยินชื่อมาแว่วๆ นั้นตัวใหญ่กว่าที่คิดมากและที่แน่ๆ กำลังมองเขานิ่งราวกับว่าจะกลืนกิน

"ขะ ขอบคุณครับ" เวสพูดงึมงำเขินๆ เขาไม่เคยถูกจ้องตรงๆ แบบนี้มานานแล้ว

"กลับบ้านไหม? เดี๋ยวพาไปส่ง" โลกันต์พยักหน้ารับคำขอบคุณและกอดอกถามเสียงเรียบ

เวสสะดุ้งเริ่มตื่นตระหนกกับการรุกของพี่โลกันต์ หันมองอัลฟินเพื่อขอความเห็นและเพื่อนรักของเขาก็ตอบด้วยการพยักหน้าส่งๆ และไหวไหล่ให้เหมือนกำลังจะบอกว่า 'แล้วแต่มึง'

"เอ่อ.. ก็ได้ครับ"

เวสก้มหน้างุดตอบอย่างประหม่า อย่างไรก็ตามเขาก็รู้สึกถูกชะตากับพี่โลกันต์แปลกๆ ทั้งๆ ที่เคยเห็นในเฟสแล้วหลายครั้งแต่พอมาเจอตัวจริงกับเผลอใจสั่นซะอย่างงั้น

คำตอบของเวสเรียกรอยยิ้มของโลกันต์ได้ไม่ยาก เพราะมันทำให้เขารู้บ้านน้องและเผลอๆ อาจจะลามไปขอเบอร์ขอไลน์ได้ด้วยซ้ำ 

"น้องเวส รับแอดพี่หน่อยน้าแล้วพี่จะบอกวิธีรับมือเสือ" 

เวสหลุดหัวเราะแล้วยิ้มให้พี่เกลที่เป็นเพื่อนสนิทพี่โลกันต์จนตาหยี "ครับ"

ไม่ต้องคิดก็พอจะเดาๆ ได้ว่าเสือที่ว่าคือใคร จะว่าไปพี่โลกันต์ก็น่ากลัวเหมือนเสือจริงๆ นั่นแหละเวลาทำหน้านิ่งๆ ยื่นนิ่งๆ แลดูพร้อมที่จะกัดคนทุกเมื่อ 

"พี่จะกัดผมไหม?"

เวสถามพี่โลกันต์ขำๆ และแทบยกมือปิดปากตัวเองไม่ทันเมื่อรู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป 

โลกันต์แสยะยิ้มขยับเข้าไปใกล้น้อง "อยากโดนกัดไหมล่ะครับ พี่กัดตอนนี้เลยก็ได้นะ"

เวสหดคอหนีส่ายหัวเป็นพัลวัน "ไม่ครับๆ" แล้วหันหน้าไปหาอัลฟินที่ทำหน้าซังกะตายใส่ "อัล ขอพาราให้หน่อยสิ"

เจ้าของชื่อมองเพื่อนตัวเองและมองรุ่นพี่ที่ตีหน้ายักษ์ใส่อีกแล้ว "ข้างๆ มึงอ่ะ ยากับน้ำกินได้เลย พี่พยาบาลเขาเตรียมไว้ให้"

เวสพยักหน้าหงึกๆ แล้วหยิบยาเม็ดกับน้ำมากินด้วยความรู้สึกปั่นป่วนเพราะเขาเกลียดยาเม็ดมาก สองสามวันที่ผ่านมาก็พยายามเลี่ยงยาเม็ดหันไปพักผ่อนเยอะๆ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรสักเท่าไหร่และไม่ได้คิดว่ามันจะหนักจนสามารถทำให้เขาเป็นลมได้ แต่พอมันเป็นไปแล้วก็ต้องฝืนกินมันสักที

"ให้พี่ช่วยไหม"

โลกันต์เสนอตัวเมื่อเห็นน้องเอาแต่จ้องยาไม่ยอมกิน จนดูออกง่ายๆ ว่าเจ้าตัวไม่ชอบกินยาเม็ด

เวสส่ายหัวดิกหน้าแดงก่ำเพราะไอ้วิธีช่วยที่ว่ามันคงไม่พ้นเรื่องจูบหรืออะไรทำนองนั้นแน่ๆ 

"ไม่เป็นไรครับ"

เวสจึงโยนยาเม็ดใส่ปากกลืนน้ำตามและหลับตาปี๋เพราะชาไปทั้งลิ้นด้วยรสขม

"พี่ชื่อโลกันต์"

เวสหลุดขำเบาๆ เพราะรู้อยู่แล้ว "ผมเวส"

"น้องมีแฟนยัง? ถ้ายังพี่จะจีบ"

เวสตกใจจนสำลักน้ำลายไอค่อกแค่กพอกลับมาหายใจปกติได้ก็หันไปมองร่างสูงหวาดๆ "พี่พูดจริง?" พอเห็นพี่โลกันต์พยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจังก็ยิ่งทำเขาตกใจ เพราะนี่เพิ่งเจอกันครั้งแรกด้วยซ้ำ

เกลที่ยืนเล่นโทรศัพท์และได้ยินมาตั้งแต่ต้นพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "น้องไม่ต้องตกใจหรอก โลกันต์มันหน้าด้านอย่างงี้แหละ นานๆ ไปเดี๋ยวก็ชินเอง"

คนโดนเหน็บหันไปขู่แง่งใส่เกลแล้วหันมาถามน้องอีกรอบ

"สรุปจะกลับบ้านเลยไหม เดี๋ยวพี่พาไปส่งหรือจะแวะกินข้าวก่อนก็ได้พี่เลี้ยงเอง"

เวสมองอัลฟิน

"มึงจะไปไหนก็ไปเหอะ กูว่าจะกลับไปนอนละ" 

ร่างเล็กยิ้มแห้งๆ เมื่อโดนถีบหัวส่งแล้วพยักหน้าให้กลับพี่โลกันต์

"กลับครับ"

------------
ครานี้ธีมมหาลัย

สำหรับคนที่รอมาเฟีย รออีกสักพักนะ มีตอนต่อแน่ถ้าสิ่งที่เราเปย์มาถึงแล้ว 555555

มันต้องน่ารักมากแน่ๆ คนเขียนสัมผัสได้  :impress2:

มาเฟียเล่นไวโอลิน คิดภาพแค่นี้ก็  :haun4: ละ
 
 
 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 2

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงเคาะประตูดังลั่นในขณะที่เจ้าของห้องกำลังขัดสีฉวีวรรณอยู่ในห้องน้ำ โลกันต์ที่ยังคงนอนนิ่งอยู่หน้าประตูเหลือบมองอย่างไม่ใส่ใจเพราะยังไงแขกที่มาเยือนเวลานี้คงไม่เกี่ยวกับเขาแน่ๆ หรือต่อให้เกี่ยวกับการอยู่ในสภาพแบบนี้คงไม่มีปัญญาที่ไหนไปสู้ด้วยได้

ปัง!

"จะเคาะอะไรนักหนาวะ" พลตำรวจเอกหนุ่มบ่นงึมงำก่อนที่จะสะดุ้งเฮือกเมื่อประตูถูกกระแทกเปิดออกมาอย่างไม่คาดคิด

ผัวะ!

ประตูไม้สักเนื้อดีกระแทกเข้ากับผนังดังลั่นก่อนที่จะปรากฎร่างของสาเหตุที่ทำให้ประตูเปิดออกมา เป็นบุรุษร่างใหญ่สัญชาติไทย-เยอรมัน ผมสีบรอนด์ทองผิวสีขาวซีดบอกได้ดีถึงสัญชาติของเจ้าตัว โลกันต์หรี่ตามองขบเคี้ยวฟันหงุดหงิดเมื่อไอ้ร่างตรงหน้าเป็นคนที่อยู่ในหนึ่งในสิบอันดับที่ในชีวิตตำรวจของเขาตั้งใจจะเอาเข้าตารางให้ได้! เขาคนนี้คือ 'เฟเนกส์ อังศุชวาล' น้องชายแท้ๆ ของเวสที่ทำธุรกิจมืดประเภทเดียวกันแต่งานส่วนใหญ่นั้นอยู่ต่างประเทศ แต่สิ่งที่ทำให้พวกตำรวจอย่างพวกเขาปวดหัวจริงๆ ก็คือการค้าอาวุธสงครามยาเสพติดแทบจะซึ่งๆ หน้าแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากมอง

เฟเนกส์ใช้หางตามองร่างบนพื้นแล้วสบถ "คู่นอน? กลับมาครั้งนี้น่าแขยะแขยงกว่าเดิมอีกว่ะ" นัยน์ตาสีทองส่อประกายมาดร้ายและกระแทกเท้าเข้าไปเคาะประตูห้องน้ำแทบจะพังมันให้พังคามือด้วยซ้ำ

ปัง!

เคาะได้เพียงหนึ่งครั้งเวสก็เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ร่างกายพราวไปด้วยหยดน้ำเพราะยังเช็ดตัวไม่เสร็จดีด้วยซ้ำแต่ดีที่ยังเอาผ้าเช็ดตัวมาพันเอวได้ทันก่อนที่ประตูจะพังด้วยอารมณ์ร้ายของน้องชาย

"มีอะไร?" เวสถามเสียงเรียบเงยหน้ามองน้องชายที่สูงกว่าตัวเองเป็นเท่าตัว

เฟเนกส์แค่นยิ้มส่งเสียงเหอะ "ไอ้ที่เจอเมื่อกี้คู่นอนคนใหม่เหรอ?"

นายท่านแห่งอังศุชวาลหรี่ตามองอย่างไม่เป็นมิตรแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นน้องชายแท้ๆ ของตัวเองก็ตาม "มีอะไร" กดเสียงถามเสียงเข้มจนน่าขนลุกแต่แน่นอนว่ามันไม่ทำให้นายท่านใหญ่อีกคนของตระกูลอังศุชวาลกลัวเลยสักนิด สำหรับคนที่เป็นลูกรักยิ่งกว่าอย่างเฟเนกส์ในโลกนี้ไม่มีอะไรให้กลัวด้วยซ้ำนอกจากความตาย

"ก็แค่มาทักทาย ไม่ได้เหรอครับ คุณพี่ชาย?" เฟเนกส์แค่นเสียงหัวเราะดูถูก "ที่นี้ตอบคำถามผมได้รึยังครับ ว่าผู้ชายที่นอนตรงหน้านั่นมันคืออะไร คนเก่าไม่อร่อยเหรอ"

"ถ้าจะคุยเรื่องผลประกอบการไตรมาสแรก ฉันไม่มีอะไรจะแก้ตัว" เวสพูดเสียงต่ำทำหูทวนลมไม่สนใจคำแซะเพราะการลงไปกัดกับน้องไม่เคยให้ผลดี ทุกครั้งที่พ่อรู้เป็นเขาทุกทีที่เป็นคนผิด!

เฟเนกส์โน้มตัวเข้าหาเวสอย่างคุกคามแล้วยิ้มหวาน "ผมก็บอกแล้วว่า 'ขยะ' อย่างพี่ควรจะไสหัวไปจากตระกูลสักที ยิ่งอยู่อังศุชวาลก็ยิ่ง" เว้นระยะหายใจเพียงนิดและกระซิบเสียงต่ำ "ตกต่ำ" 

น้ำเสียงของเฟเนกส์นั้นเสียดแทงเข้าไปในใจเวสได้อย่างแม่นยำจนแผลที่กลายเป็นบาดแผลฉกรรจ์อยู่แล้วหนักกว่าเดิมหากแต่เวสไม่คิดที่จะใส่ใจนึกชื่นชมด้วยซ้ำที่เฟเนกส์รู้ว่าพูดอะไรแล้วที่ทำให้เขาเจ็บปวดที่สุด แตยังก็ตามเขาก็จะดันทุรังที่จะสู้กับมันด้วยทิฐิทั้งหมดที่ตัวเองมีอยู่

"ผลประกอบการของนายก็ไม่ต่างกัน เฟเนกส์" เวสกระตุกยิ้มกระชับผ้าเช็ดตัวที่จวนเจียนจะหลุดจากเอวให้แน่นๆ และเชิดหน้าขึ้นอย่างถือตัว "ขาดทุนร้อยล้านเลยไม่ใช่เหรอ หืม?"

แม้นว่าจะสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ผิดศีลธรรมไปมากแค่ไหนเขาก็ไม่คิดจะสนใจ เขาเคยยึดถือมันแต่สุดท้ายมันก็ทำลายเขาจนกลายเป็นปีศาจแบบนี้ เขากลายเป็นปีศาจไร้จิตใจเข่นฆ่าทุกสิ่งที่ทำให้เขารำคาญใจ 

เฟเนกส์สะอึกไปนิดเดียวแต่ก็เพียงนิดเดียวเท่านั้นก่อนที่จะถอยหลับแล้วหัวเราะลั่นใส่ "เถียงผมอีกแล้วเหรอครับ คุณพี่ชาย ของผมมันขาดทุนก็จริงแต่หลังจากนั้น" เฟเนกส์ถลึงตามองเวสอย่างดุร้ายนัยน์ตาสีทองขยายกว้างตามอารมณ์ที่ไต่ขึ้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ "หลังจากนั้นมันจะกำไร! คนที่ดีแต่พูดอย่างคุณ ระวังตัวไว้เถอะตำแหน่งที่อยู่ตอนนี้จะโดนผมเบียดตกจนกลายเป็นแค่ขยะที่ไม่ต้องทำอะไรนอกจากนอนเฉยๆ แล้วรอวันตาย!"

ใจของเวสกระตุกอีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าชนวนเหตุอะไรที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างน้องกับเขากลายเป็นแบบนี้แต่ถ้าเป็นไปได้เขาไม่อยากให้มันกลายเป็นแบบนี้สักนิด แต่มันเป็นไปแล้วและเขาก็เกลียดน้องมากพอๆ กับที่น้องเกลียดเขาด้วย

"ขอบคุณที่เตือน" เวสยิ้มจนตาหยีรับแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวอีกผืนมาเช็ดตัวราวกับว่าสิ่งที่เฟเนกส์พูดนั้นไร้สาระเกินกว่าที่จะใส่ใจไปมัน "อ้อ แล้วก็นี่ก็ดึกแล้ว จะไปไหนก็ไป"

คนโดนไล่ไหวไหล่หัวเราะ "สู้ๆ แล้วกันครับ อีกไม่นานก็คงจะโดนพ่อดีดลงแล้วล่ะ ขยะอย่างพี่น่ะ" เฟเนกส์ทำสีหน้าเหมือนเป็นห่วงนักหนาขยับเข้าไปใกล้เวสและกระชากผ้าเช็ดตัวที่พาดเอวออกโดยที่เวสไม่ทันตั้งตัว

เวสขบกรามกรอดลนลานหน้าแดงเมื่อเห็นคุณพลตำรวจเอกมองมาที่ตัวเองพอดี

เฟเนกส์แสยะยิ้มร้ายกาจ "ผมไม่ขัดเวลาผัวเมียละ ลาล่ะครับ" กระแทกเท้าเดินกลับออกจากห้องโดยไม่เอ่ยขอโทษเวสใดๆ สักคำหากแต่เมื่อใกล้ร่างของ 'ผู้ชายคนใหม่' ของพี่ น้องชายที่รักของเวสก็บรรจงขว้างผ้าเช็ดตัวใส่หัวโลกันต์และแน่นอนว่าโลกันต์ทำอะไรไม่ได้จากสะบัดหัวแรงๆ เอาผ้าออก

ปัง!!

ขามากับขากลับไม่ต่างกัน ประตูห้องเวสแทบจะพังเป็นเสี่ยงๆ ทุกครั้งที่เฟเนกส์มาเยือน

"แม่ง!" โลกันต์สบถอย่างหงุดหงิดถึงมันจะมีกลิ่นหอมๆ ติดจมูกก็เถอะแต่การโดนทำแบบนี้ใส่ไม่ว่าใครก็หงุดหงิดกันทั้งนั้น หากแต่เมื่อคุณพลตำรวจเอกจะหันไปเอาเรื่องกับเวสก็ชะงัก

โลกันต์มองตาเป็นมันกลืนน้ำลายเอือก เพราะเวสยังคงยืนนิ่งเหมือนคิดอะไรมากมายอยู่ในหัวเล็กๆ นั่น

"อ้ะ!" นายท่านแห่งอังศุชวาลเพิ่งได้สติและรีบปิดประตูทันที

แต่ก็ไม่ทันกาลเพราะคุณพลตำรวจเอกหนุ่มที่มีความจำเป็นเลิศสามารถจดจำได้หมดแล้ว..

ใบหน้าคมเข้มของพลตำรวจเอกขึ้นเค้าแดงนิดๆ นึกเกลียดตัวเองที่สามารถจดจำลักษณะคนร้ายได้ดีก็วันนี้ เนื่องจากมันทำให้เขาไม่สามารถสลัดร่างขาวๆ ที่เปลือยเปล่านั่นออกจากหัวได้เลย เผลอๆ สามารถสเก็ตภาพออกมาได้ด้วยซ้ำ

"ไอ้โลกันต์ มึงแม่ง" พลตำรวจหนุ่มบ่นงึมงำพยายามคิดเรื่องอื่นตั้งแต่ท่องสูตรคูณยันคำนวณหาความน่าจะเป็นที่ตัวเองจะหนีออกจากที่นี้ได้โดยปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน

"คุณ"

"เฮ้ย!" โลกันต์สะดุ้งจนผงะถอยหลังพอเห็นว่าไอ้สิ่งที่พยายามจะโยนจากหัวมายืนตรงหน้าแล้วแบบไม่ให้ซุ้มให้เสียงสักนิด

เวสขมวดคิ้วมุ่นกระชับเสื้อคลุมอาบน้ำตัวเองให้มิดชิดเพราะรู้สึกแปลกนิดๆ กับสายตาของคุณตำรวจที่ดูจะสนใจร่างกายเขาซะเหลือเกิน ไม่เหมือนกับเมื่อกี้ที่ขัดขืนจนน่ารำคาญ "คุณจะอาบน้ำไหม?"

สติสตังค์ของพลตำรวจเอกยังไม่เข้าที่เข้าทางนักสายตาเผลอจับจ้องที่มือของเวสอย่างเผลอไผล นึกอยากจะกระชากมันออกให้รู้แล้วรู้รอด "หือ..?"

นายท่านหนุ่มถอนหายใจยาวๆ เอาเข้าจริงเขาก็ไม่ได้โง่จนดูอะไรไม่ออกหรอกนะ

ร่างโปร่งของนายท่านหนุ่มจึงปลดเชือกเสื้อคลุมออกมาจนร่างแทบเปลือยเปล่าเพราะข้างในนั้นใส่เพียงบ็อกเซอร์เพียงตัวเดียว เวสหัวเราะนิดๆ เมื่อคุณพลตำรวจเอกหนุ่มสะดุ้งแล้วถลึงตาใส่เขา

"ผมเห็นคุณมองเยอะ นึกว่าอยากจะต่อจากเมื่อกี้" เวสหัวเราะคิกในลำคอหยอกเย้าแม้ว่าในตอนนี้หัวใจจะหนักอึ้งมากก็ตาม ไม่ว่าครั้งใดที่เขาทะเลาะกับเฟเนกส์ล้วนส่งผลให้เขารู้สึกแย่หนักอึ้งไปหมด มันเกิดขึ้นเป็นร้อยๆ ครั้งแล้วแต่เขาก็ยังคงเจ็บยังคงร้องไห้เหมือนเดิม เขาเกลียดน้องก็จริงแต่ก็อยากให้เขากับน้องมีสัมพันธ์ที่ดีแบบครอบครัวอื่นบ้าง แค่นี้เขาก็มีคนไว้ใจได้น้อยเกินพอแล้ว 

คนไว้ใจที่มีเพียงหนึ่งคนก็คือ ตัวเขาเอง..

นายท่านเวสแห่งอังศุชวาลไม่เคยไว้ใจใครจริงๆ จังๆ เพราะหวาดกลัวการถูกทรยศหักหลัง ทุกการคบหาจะมีการเผื่อใจเพื่อที่ในอนาคตหากความไว้ใจนักถูกทำลาย จะได้สามารถใช้ชีวิตต่อไปในวันพรุ่งนี้ได้อย่างไม่เจ็บปวด

นัยน์ตาสีทองหลุบมองคุณตำรวจที่โวยวายหยาบคายใส่เขาแล้วรู้สึกอิจฉานิดๆ คนที่ยึดมั่นในความดีได้มากขนาดนี้ในโลกที่เต็มไปด้วยความโสมมนี้นั้นหายาก กว่าจะหล่อหลอมจนกลายเป็นคนแบบนี้คงเจอคนที่ดีมาก่อนแน่ๆ

ต่างกับเขาที่เป็นปีศาจร้าย.. 

เวสกระพริบตาถี่ๆ กลืนก้อนสะอื้นลงคอแล้วฉีกยิ้มยียวนให้โลกันต์

"ต่อบ้าอะไรของคุณวะ! ปล่อยผมไปสักที" โลกันต์ขู่แง่งๆ สามารถกลับมาเป็นตำรวจผู้ยึดมั่นในคุณธรรมได้อย่างน่าประหลาด

"ผมปล่อยคุณไปไม่ได้หรอกคุณตำรวจ" นายท่านหนุ่มหัวเราะเบาๆ "คุณเป็นของหายากสำหรับผม ผมจับคุณได้คุณก็ต้องเป็นของผม เข้าใจไหมครับ?" 

โลกันต์ส่ายหัวดิกรู้สึกหงุดหงิดที่คล้ายกับถูกทำให้กลายเป็นสัตว์เลี้ยง "ไม่เข้าใจและไม่อยากเข้าใจ ปล่อยผม! คุณมีคนนอนด้วยอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? จะมาเอาผมทำไมวะ!!"

นัยน์ตาของเวสไหววูบแต่คุณพลตำรวจเอกมองไม่ทัน

สีหน้ายิ้มแย้มของเวสหายไปทันควันเหลือเพียงสีหน้าเย็นชา เวสกระชับเสื้อคลุมอาบน้ำตัวให้คลุมตัวดีๆ และผูกเชือกใหม่เงียบๆ ไม่เอ่ยปากพูดอะไรอีก

"เงียบทำไม? เป็นใบ้เหรอวะ! หรือว่าหิวผู้ชายจัดจนต้องเอากูเป็นผัว!" 

ถ้ามีการจัดอันดับว่าใครเลือดร้อนที่สุดในกรมตำรวจคนที่ครองตำแหน่งคงเป็นพลตำรวจเอกหนุ่มแน่นอน นอกจากจะโมโหง่ายแล้วยังปากไวเป็นที่หนึ่งเรียกได้ว่าปากของโลกันต์นั้นเรียกน้ำโหคนร้ายมานัดต่อนัดแล้ว มีหลายครั้งที่คนร้ายบรรดาโทสะยิงใส่โลกันต์แต่เจ้าตัวก็รอดมาทุกทีโดยไร้รอยขีดข่วนจนเป็นที่กล่าวขานว่าพลเอกมีของดีแต่ไม่แบ่งลูกน้อง แน่นอนว่าความจริงก็คือเจ้าตัวโชคดีเฉยๆ ไม่มีอะไรมาก

แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้ความโชคดีเวอร์ๆ ของพลเอกโลกันต์ใช้ไม่ได้ผลเพราะการตกอยู่ใต้อาณาเขตของอังศุชวาล ไม่ว่าสิ่งใดก็สามารถควบคุมได้ทั้งนั้น

คลิ๊ก

ปืนพกสีดำรุ่นทันสมัยขนาดพกพาที่สุดถูกบรรจุกระสุนเข้าเรียบร้อยจ่อเข้าที่หัวของโลกันต์

ริมฝีปากบางที่เม้มแน่นเมื่อกี้เอ่ยประโยคเตือนเสียงเย็น ถึงแม้ว่าจะสู้กันด้วยพละกำลังไม่ได้หากแต่มีเครื่องทุ่นแรงที่อยู่ในมือแล้วไม่ว่าสิ่งใดก็ล้วนสยบต่อมันทั้งนั้น "ขอโทษในความสัมพันธ์แย่ๆ ระหว่างผมกับน้องแล้วกันนะครับคุณตำรวจ ที่ทำให้คุณรู้อะไรๆ เกี่ยวกับผมมากขึ้น" นัยน์ตาสีทองเป็นประกายกร้าว "แต่ผมไม่เคยนอนกับใคร!"

โลกันต์นั่งเกร็งตัวแข็งแต่ไม่ตื่นตระหนก จะว่าชินแล้วก็ว่าได้เพราะตอนที่ยังตำแหน่งเล็กๆ เขามีงานอดิเรกคือเป็นพวกตัวล่อให้โจรออกมาและมักพลาดพลั้งจนถูกจับเป็นตัวประกัน ครั้งนี้ก็คงจะเป็นอีกครั้งที่เขาโดนแต่ครั้งนี้กลับเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกลัว

แววตาของนายท่านแห่งอังศุชวาลนั้นนราวกับหมดสิ้นความเป็นมนุษย์ ภายในนั้นไม่หลงเหลือความเห็นใจอะไรใดๆ หลงเหลือแม้แต่นิดเดียวจนโลกันต์กลัว มันน่ากลัวกว่าฆาตกรซะอีกเพราะพวกนั้นยังมีความบ้าคลั่งแต่นี้ไม่มีอะไรสักอย่าง การฆ่าคนคงไม่ต่างกับมดปลวกสำหรับคนที่มีแววตาแบบนี้

แต่ไม่รู้ว่าทำไมพอมองไปนานๆ กลับรู้สึกสงสารขึ้นมา เขาไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้คนๆ นึงสามารถกลายเป็นปีศาจไร้หัวใจได้แบบนี้ สิ่งที่เวสเคยประสบมาก่อนมันคงจะร้ายแรง..

"ผมขอโทษที่เข้าใจผิด" พลตำรวจเอกหนุ่มยิ้มไม่แยแสสิ่งที่กำลังจ่อหัวตัวเองอย่างคุกคาม "ถ้าคุณจะฆ่าผมก็เชิญแต่ถ้าคุณไม่ทำ" โลกันต์สบตากับเวส "ผมจะฆ่าปีศาจอย่างคุณเอง"

เวสเลิกคิ้วแล้วหลุดหัวเราะกับความทระนงตัวของโลกันต์ มั่นใจตัวเองมากเกินไปจนไม่เห็นว่าปืนกระบอกเล็กๆ นี้สามารถฆ่าชีวิตตัวเองได้ภายในเสี้ยววินาที

หัวเราะจนเบื่อร่างโปร่งก็หุบยิ้มแล้วเอาปืนออกจากขมับและยื่นมันให้กับพลตำรวจเอกหนุ่ม ทั้งๆ ที่รู้ว่าอีกฝ่ายถูกพันธนการข้อมือไว้

"ฆ่าผมสิ ถ้าคุณทำได้" เวสพูดยิ้มๆ พยายามซุกซ่อนความร้าวรานในดวงตา อีกสิ่งที่เวสถวิลหาก็คือความตาย อย่างน้อยการไม่มีลมหายใจก็ทำให้เขาไม่เป็นทุกข์อีกต่อไปแต่เขาก็ไม่เคยกล้าทำมันสักที

ครั้งนี้โลกันต์เห็นความร้าวรานนั่นชัดเจน

"ผมจะฆ่าปีศาจในตัวคุณเอง.. เวส" โลกันต์พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแววตาฉายความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยม "ผมจะทำให้คุณกลับมาเป็นมนุษย์"

นายท่านหนุ่มกลอกตาและถอนหายใจ คำพูดโง่ๆ แค่นี้แปลกที่ทำให้เขาใจอ่อนลงมาซะได้ ทั้งๆ ที่สามารถฆ่าให้จบๆ แล้วเรียกคนให้มาเก็บศพก็ได้

แค่คิดนะ.. เขาไม่เคยคิดจะฆ่าใครในห้องนอนตัวเองหรอก

เวสเดินไปเก็บปืนใส่โต๊ะใกล้ๆ โดยไม่ลืมล็อคชั้นเก็บของเพื่อป้องกันให้คุณตำรวจหยิบมาเล่นกับตัวเอง

"ผมจะถามคุณครั้งสุดท้ายนะ คุณจะอาบน้ำไหม?"

อารมณ์ที่เริ่มกลับมาปกติทำให้นายท่านกลับมาสุขุมถามคำถามเดิมอย่างใจเย็น

โลกันต์พยักหน้าแรงๆ ใครปฏิเสธโอกาสแบบนี้ก็โง่เต็มทีแล้ว "อาบสิ"

เวสกลับมายืนตรงหน้าพลตำรวจหนุ่มแล้วถอนหายใจยาวๆ และนั่งยองๆ เพื่อสามารถสบตาคุณตำรวจได้ชัดๆ "ผมไว้ใจคุณนะ คุณตำรวจ ผมจะไขกุญแจให้คุณ ปล่อยให้คุณเป็นอิสระ"

ดวงตาสีแดงของโลกันต์ฉาบความสงสัยไว้เต็มเปี่ยมเพราะมันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิดกับการที่เวสจะทำแบบนี้กับคนที่เปรียบเสมือนเชลยศึกดีๆ นี่เองอย่างเขา

พอเห็นสีหน้าเหมือนเสืองงเวสก็หลุดหัวเราะเบาๆ แล้วพยักเพยิดไปทางประตู "ประตูห้องผมไม่ได้ล็อก แค่ผมตะโกนขอความช่วยเหลือบอดี้การ์ดข้างนอกก็จะเข้ามาช่วยทันที หรือถ้าคุณคิดจะจับผมเป็นตัวประกัน" เวสหลุบมองพื้นแล้วแค่นยิ้มกับตัวเอง "น่าเสียดายที่มันไม่ได้ผลเพราะเขาคงไม่สนใจชีวิตผมหรอก"

คำพูดของเวสทำเอาแผนหลบหนีออกจากที่นี้ของโลกันต์แตกเป็นเสี่ยง 

"อย่าร้องไห้" โลกันต์พูดเสียงนุ่ม

เวสสะดุ้งแล้วขมวดคิ้วใส่ "ผมไม่ได้ร้อง! ถ้าขืนคุณพูดมาก ผมจะให้คนลากตัวคุณไปนอนในคุกใต้ดิน"

"ครับๆ" พลตำรวจเอกยิ้มให้นายท่านหนุ่มอย่างจริงใจ "ผมจะไม่หนีไปไหนแน่นอน"

จากการสังเกตหลายๆ ครั้งทำให้โลกันต์พบว่าเวสมีบาดแผลใหญ่ในใจ เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองสามารถทำให้มันหายได้รึเปล่าแต่ก็อยากลองพยายามดูเพราะแค่เห็นใบหน้าน่ามองนั้นทุกข์ก็รู้สึกปวดใจจะแย่แล้ว

เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำถูกไหม เขาที่เป็นถึงพลตำรวจเอกกลับให้ความช่วยเหลือผู้ทรงอิทธิพลในวงการค้ายาและอาวุธสงครามรายใหญ่ที่แสนจะเปราะบาง เป็นนายท่านที่อ่อนแอยิ่งกว่าเด็กตัวเล็กๆ ด้วยซ้ำ 

ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วว่ามันจะจบลงแบบไหน ความสัมพันธ์ที่สวนทางกันโดยสิ้นเชิงระหว่างเขากับเวส เขาไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเวสจะถูกจับเขาตารางรึเปล่าหรือว่าตัวเองจะกลายเป็นอีกคนที่โดนตำรวจหมายหัวไหม

เขาไม่รู้อะไรทั้งนั้น

เหม่อคิดเรื่องเรื่อยเปื่อยได้เพียงชั่วครู่ก็รับรู้ถึงข้อมือที่เป็นอิสระ โลกันต์ยิ้มกว้างขณะที่ลูบข้อมือที่เป็นรอยช้ำจากการขัดขืนจางๆ ยังไงก็ตามตอนนี้เขาไม่ต้องมาปวดหัวกับกุญแจมือนรกแตกแล้ว คิดได้ดังนั้นโลกันต์ก็ผลุดลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับนายท่านแห่งอังศุชวาลที่กำลังยืนทำหน้านิ่งๆ จดจ้องเขาไม่วางตา

โลกันต์ใจกระตุกนิดๆ เมื่อเห็นความหวาดกลัวในตาของเวส ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะพยายามซ่อนอะไรในใจไว้หลายอย่างเลยทีเดียว ซึ่งถ้าไม่ใช่ตำรวจที่เจอผู้คนมามากอย่างเขาคงอ่านแววตาของเวสไม่ออกเพราะการยืนด้วยท่าทีเย่อหยิงนั้นขัดกับแววตาซะเหลือเกิน ถ้าเกิดเป็นคนทั่วไปคนคิดว่ากำลังโดนอีกฝ่ายด้วยสายตาเหยียดหยามอย่างแน่นอน

"ผมหิวแล้ว คุณสั่งอะไรให้ผมกินบ้างก็ดี" พลตำรวจเอกฉีกยิ้มให้เวสและเดินผ่านเจ้าตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำตามที่เวสต้องการ ร่างสูงชะเง้อหน้าออกจากห้องน้ำอย่างนึกขึ้นได้ "อย่าลืมหาเสื้อให้ผมด้วยนะ! เสื้อคลุมอาบน้ำคลุมของคุณผมใส่ไม่ได้หรอก ตัวเล็กซะขนาดนั้น" ซึ่งพอเห็นสีหน้าอึ้งๆ ของคนตัวเล็กก็หลุดขำ

"อะ อืม" 

ร่างโปร่งรับคำมึนๆ แล้วเดินหนีเข้าห้องนอนไป

โลกันต์มองตามหลังด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ

เขาคงจะไม่คุ้นชินกับความจริงใจสินะ..
 
 


กลิ่นหอมๆ ของข้าวผัดที่โชยมาจากห้องรับแขกทำเอาท้องของตำรวจร่างใหญ่ในชุดนอนผู้ชายผ้าสีดำที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จส่งเสียงร้องโครกครากอย่างหน้าไม่อาย ซึ่งเดิมทียางอายของโลกันต์ก็ไม่มีอยู่แล้วเจ้าตัวเลยไม่สนใจอะไรเลย ค่อยๆ เดินอาดๆ ไปนั่งบนโซฟาที่โครตนุ่มและนั่งซัดข้าวผัดที่น่าจะทำจากข้าวหอมมะลิชั้นดีและหมูเกรดเอ เผลอๆ คนที่ทำอาจจะเป็นเชฟภัตตาคารดังเลยด้วยซ้ำเพราะมันอร่อยมากจนคนที่เสพติดข้าวกล่องเซเว่นอย่างโลกันต์แทบพ่นสายรุ้งออกทางปาก

ใจดี..

โลกันต์นิยามคำนี้ให้กับนายท่านเวสแห่งอังศุชวาลขณะที่วางจานเปล่าที่ไร้ข้าวสักเม็ดไว้ที่เดิม ตำรวจหนุ่มหันมองห้องน้ำแล้วชั่งใจนิดๆ ว่าจะกลับไปแปรงฟันดีไหมเพราะขี้เกียจแล้วแต่สุดท้ายก็พาร่างง่วงๆ กลับไปแปรงฟันและตามเข้าไปในห้องของนายท่านใหญ่โดยลืมเคาะประตู

ซึ่งพลตำรวจเอกก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ตอนเข้ามาในห้องนอนแล้ว 

"ฮึก..."

หัวใจของโลกันต์บีบรัดแน่นเมื่อเห็นร่างเล็กๆ ขดตัวกอดตัวเองอยู่กลางเตียงขนาดคิงส์ไซส์ ใบหน้าที่หลับตาพริ้มแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้วแต่กลับสะอื้นออกมา ยิ่งการกอดตัวเองแน่นยิ่งแสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวพยายามเข้มแข็งขนาดไหน

"ฝันร้ายสินะ.." โลกันต์พึมพำ

สุดท้ายนายท่านที่แสนจะยิ่งใหญ่แห่งตระกูลอังศุชวาลเมื่อพ้นสายตาผู้คนก็เป็นเพียงมนุษย์ที่น่าสงสารคนหนึ่งเท่านั้น

โลกันต์เดินไปปิดสวิตซ์ไฟให้เหลือเพียงไฟสลัวๆ จากไฟข้างเตียงก่อนที่จะทิ้งตัวลงข้างๆ เวสและดึงตัวอีกฝ่ายเข้ามากอดแน่นเพราะคิดวิธีปลอบที่ดีกว่านี้ไม่ออก

"ชู่ว ไม่ต้องร้อง" พลตำรวจเอกกระซิบพร้อมๆ กับลูบหัวซึ่งมันก็ได้ผลนิดๆ เมื่อเวสกอดกลับแล้วฝังตัวเข้าหาความอบอุ่น เนื้อตัวที่สั่นเทาจากความฝันเริ่มทุเลา

ความอบอุ่นแปลกประหลาดที่กำลังโอบกอดตัวเองทำให้เวสรู้สึกดีและคิดว่ามันเป็นความฝันจนอดไม่ได้ที่ซุกตัวกลับกอดมันกลับแน่นๆ และคาดหวังลึกๆ ในใจว่าตัวเองจะไม่ตื่น

เพราะสิ่งเหล่านี้คงไม่มีวันเกิดขึ้นกับเขา.
 
 ----------
ลุคนี้เผ็ดลืมโลกจริงๆ  o13

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
เวสลุคมาเฟียก็สนุก
ส่วนลุคมหาลัยก็น่ารัก
ชอบทุกแบบเลย
เลือกไม่ถูกเลย
จะมีตอนพิเศษต่อใช่ไหมคะ
รออ่านอยู่นะคะ

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
สนุกดีค่ะ เวสเปอร์น่ารัก.  :impress2:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 3

"ฮื่อออ"

เสียงครางในลำคออย่างง่วงงุนของร่างสูงทำเอาเจ้าของห้องที่กำลังแต่งตัวหน้ากระจกเหลือบมองแล้วถอนหายใจออกมาแรงๆ และนึกสงสัยในการตัดสินใจของตัวเองที่ดูจะแปลกไปกว่าทุกครั้ง สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือพวกตำรวจแต่พอเห็นหน้าพลตำรวจเอกนี่แล้วกลับใจเขวซะอย่างงั้น ยอมให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้กว่าทุกคนที่เขารู้จัก 

มาในระยะที่ใกล้เกินไปด้วยซ้ำ..

เวสสบถหยิกตัวเองแรงๆ จนแขนขึ้นรอยแดงช้ำเพื่อตักเตือนว่าอย่าเผลอใจให้คนอื่นเชียวเพราะผลตอบแทนมันไม่เคยได้แบบที่คิด ไม่ว่าเขาไว้ใจใครพวกมันก็ทรยศเขาได้ทั้งนั้น ด้วยอำนาจให้เงินตราทำให้คนดีๆ หลายคนกลายเป็นคนชั่วภายในพริบตา 

โลกใบนี้มันตลกร้าย เขาเก็บตำรวจอยู่ข้างตัวและคงจะโดนจับยัดเข้าตารางถ้าไม่ระวัง ไอ้ท่าทางแปลกๆ เหมือนจริงใจนั่นก็คงมีเพื่อลวงให้ปีศาจร้ายอย่างเขาติดกับและรอลงทัณฑ์ในที่สักที่

นัยน์ตาสีทองของนายท่านเป็นประกายวาบอย่างเย็นชาและกระชับเนคไทสีครีมให้ยาวพอดีตัวเนื่องจากในช่วงบ่ายวันนี้มีงานประมูลเพชรการกุศลที่ฉาบหน้าคือทำเพื่อเด็กๆ ในมูลนิธิเด็กกำพร้าหากแต่แท้จริงแล้วกลับเป็นงานพูดคุยธุรกิจการค้ามนุษย์ซึ่งสินค้าก็คงไม่พ้นใครที่ไหนนอกจากเด็กๆ ในมูลนิธิและเวสก็เป็นตัวแทนของตระกูลอังศุชวาลเข้าร่วมงานครั้งนี้

เวสหันซ้ายหันขวาในกระจกเพราะต้องการให้รูปลักษณ์ของเขานั้นไร้ที่ติไม่ให้ใครหน้าไหนมาตำหนิเอาได้ ทั้งจากพวกนักข่าวและคนในครอบครัว..

"..หึ" เวสสบตาตัวเองในกระจกแล้วหัวเราะเบาๆ  เสื้อสูทสีขาวที่สั่งตัดจากร้านดังโดยเฉพาะตรงหน้าอกมีสัญลักษณ์กวางทองซึ่งเป็นโลโก้ที่เขามาทำเองทีหลัง หลังจากได้ขึ้นครองตำแหน่งแทนพ่อที่โยนตำแหน่งมาให้เขาอย่างไม่เต็มใจนักเพราะอาการเจ็บปวดออดๆ แอดๆ

แต่ไม่ว่าดูยังไงเขาก็ไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้สักนิด ผู้นำตระกูลอังศุชวาลที่กำลังจะโดนดีดทิ้งเร็วๆ นี้ เขารู้ว่าตัวเองไม่คู่ควรแต่ถ้าเขาไม่ทำมันแล้วชีวิตของเขาจะอยู่ต่อไปเพื่ออะไรล่ะ เขาอยากมีชีวิตเรียบง่ายแต่เมื่อการเติบโตนั้นถูกตีกรอบไว้อย่างแน่นหนาก็ทำให้ความคิดอันอ่อนต่อโลกอย่างการเป็นนักดนตรีนั้นบิดเบี้ยวและแตกสลายไปที่สุด ความฝันนั้นที่เคยเอ่ยถึงด้วยความภาคภูมิใจในตอนนี้กลับไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยถึง

เพราะมันเป็นแค่ความฝันโง่ๆ ลมๆ แล้งๆ ที่ไม่มีวันเป็นจริง

เวสสูดหายใจลึกกลืนความขมเฝื่อนในชีวิตลงคอ เขาควรจะชินกับมันได้แล้วแต่ก็ไม่ชินสักที ไม่ว่าตื่นมาสักกี่ครั้งเขาก็ต้องมายืนสงบสติอารมณ์ตลอด เรื่องบางอย่างมันก็เจ็บปวดเกินไปสำหรับเขา

โดยไม่รู้ตัวนายท่านหนุ่มได้เผลอคิดถึงไวโอลีนคู่ใจของตัวเองขึ้นมา มันเป็นไวโอลีนที่เขาเคยเล่นและรักมันมากๆ มันถูกแขวนอยู่ในห้องทำงานชั้นล่าง เขาพยายามที่จะเลิกเล่นมันแต่ก็ทำไม่ได้สักที 

พลตำรวจเอกหนุ่มผลุดลุกขึ้นนั่งแล้วหาวหวอดง่วงๆ "ตื่นเช้าจัง" พอหันมองนาฬิกาแขวนผนังพบว่าเป็นเพิ่งจะตีห้าเท่านั้น ร่างสูงขมวดคิ้วฉับ "นี่เพิ่งตีห้าเองนะ"

เวสหน้านิ่งถอนหายใจกับสิ่งที่โลกันต์พูด

"คุณจะนอนต่อก็เชิญแต่สำหรับผมแล้วเวลาคือสิ่งมีค่า"

ราวกับยืนยันสิ่งที่ตัวเองพูดร่างโปร่งเดินไปนั่งบนโซฟาแล้วยื่นหน้าจอไอแพดที่แสดงกราฟหุ้นให้เห็นก่อนที่จะก้มลงตั้งหน้าตั้งตาเช็คข่าวสารทั้งในอีเมล์และแอพสื่อสาร

โลกันต์ยังขมวดคิ้วไม่หายเพราะการทิ้งระยะห่างที่มากขึ้นจนน่ากลัวของเวสรวมถึงพฤติกรรมแปลกๆ ของเจ้าตัวด้วย "แต่เมื่อวานคุณก็นอนเกือบเที่ยงคืนนะ"

"มันก็เรื่องของผม" เวสตัดบทเย็นชา สำหรับคนที่เคยถูกเรื่องเวลาทำร้ายชีวิตย่อมรู้ดีถึงอันตรายของมันดี ถ้าหากไม่บริหารมันให้ดีๆ "ส่วนคุณก็ไปเตรียมตัวได้แล้วเพราะบ่ายนี้มีงานและผมจะพาคุณไปด้วย"

ตำรวจหนุ่มแยกเขี้ยว"อะไรของคุณเนี่ย ถ้าบ่ายมันก็อีกชาตินึงเลยนะ งั้นเจ็ดโมงปลุกผมด้วยแล้วกัน" ไม่รอคำห้ามโลกันต์ดึงผ้าห่มมาคลุมโปงนอนต่อ ที่ตื่นขึ้นมาเมื่อกี้ก็สาเหตุมาจากเจ้าของห้องที่ขยันเกินมนุษย์มนาเนี่ยแหละ

"สิบโมง" นายท่านหนุ่มพูดโดยไม่ละสายตาจากจอไอแพดสักนิด "ผมให้เวลาคุณสิบโมงสำหรับเตรียมตัว ชุดสูทของคุณอยู่ในห้องน้ำแล้ว ทีเหลือคุณจะจัดตารางยังไงก็เชิญ ผมไม่สนใจ"

"เดี๋ยวๆๆ" โลกันต์โยนผ้าห่มออกจากตัวอย่างลนลาน "คุณเป็นอะไรของคุณเนี่ย เวส เมื่อวานผมว่าคุณไม่ได้เย็นชากับผมขนาดนี้นะ ผมทำอะไรให้คุณไม่พอใจรึเปล่า?" 

พลตำรวจเอกพยายามสบตาคนที่ทำตัวแปลกไปแต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจเลยแม้แต่นิดเดียว ราวกับว่าเวสคนเมื่อวานที่ทั้งยียวนและดุดันไม่มีอยู่จริง ไม่รู้เพราะความง่วงงุนรึเปล่าที่ทำให้เขาคล้ายกับเห็นเวสมีเขาแพะบนหัวและปีกค้างคาวแต่พอกระพริบตาครั้งนึงสิ่งนั้นก็หายไป 

ปีศาจ..?

นัยน์ตาของโลกันต์อมทุกข์ นายท่านตัวน้อยๆ นี่กำลังกลายร่างกลับไปเป็นปีศาจร้ายที่เจ้าตัวดูจะตอกย้ำตัวเองซะเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ต่างจากมนุษย์ทั่วไปแท้ๆ ที่มีทุกข์ สุด เศร้า หรือแม้แต่ความเจ็บปวด 

"เปล่า"

เวสตัดบทอย่างเย็นชาแล้วล้วงหยิบเอาสมารท์โฟนสีดำเคสลายทหารออกมาและโยนมันให้เจ้าของที่แท้จริง โลกันต์รับมันอย่างแม่นยำและจ้องมันตาเป็นประกายและแทบจะหม่นลงทันทีเมื่อเวสพูดประโยคถัดมา

"หมดเวลาเล่นสนุกแล้ว คุณตำรวจ" 

โลกันต์ขบกรามกรอดมองใบหน้าของเวสที่จ้องมาที่ตัวเองราวกับว่าเป็นคนแปลกหน้าและสามารถใช้นิ้วโป้งบดขยี้เบาๆ ก็ตายได้ไม่ต่างจากมดตัวนึง

นายท่านหนุ่มกระตุกยิ้มเย็น "ต่อให้คุณเป็นสเป็คผมแต่มันก็เท่านั้น ผมไม่ต้องการให้ใครมายุ่มย่ามกับผมทั้งนั้นโดยเฉพาะกับตำรวจน่าเบื่ออย่างพวกคุณด้วย"

เวสตัดสินใจเลือกจะตัดโลกันต์ออกจากชีวิตตัวเองเพราะไม่มีอะไรสักอย่างที่ได้รับกลับคืนมานอกจากความอันตรายและตารางที่รอให้เขาไปอยู่อย่างใจจดใจจ่อ เขาถูกใจแต่เขาก็แยกแยะเป็น เขารู้ว่าควรทำอะไรกับความรู้สึกยุ่งๆ ของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะชอบกอดอุ่นๆ ของตำรวจโง่เง่านี่ก็ตาม แต่มันก็เท่านั้นชอบไปแต่สุดท้ายก็มีแต่เขาที่เสีย โลกันต์เป็นถึงพลตำรวจเอกที่สูงส่งด้านคุณธรรมแบบนี้ไม่มีวันลดตัวลงมายุ่มย่ามกับเขาโดยไม่หวังผลอะไรหรอก มันก็เหมือนสำนวนอยากได้ลูกเสือต้องเข้าถ้ำเสือ ตำรวจโง่นี่อยากได้เขาก็เลยมามุดห้องนอนเขาเล่นไงแต่เสียใจ เขาไม่โง่!

ถึงแม้ว่าสิ่งที่กระทำจะขัดกับใจตัวเองก็ตามแต่เวสไม่สนใจ เขาโหยหาความรักแล้วยังไงล่ะ เรื่องแบบนั้นมันไม่มีอยู่จริงหรอก เขาไม่อยากเจ็บปวดเมื่อไปไว้ใจตำรวจนี้แล้ว

แต่ชีวิตของเขาที่มีแต่ธุรกิจบางทีมันก็น่าเบื่อเกินไป เขาจึงเลือกที่จะเล่นเกมสักเกมกับคุณตำรวจแล้วค่อยตัดหางปล่อยวัด ถ้าโชคดีก็รอดถ้าโชคร้ายแม้แต่ศพก็คงหาไม่เจอ

"เวส" โลกันต์เรียกเสียงเข้ม 

เจ้าของชื่อเมินสีหน้าเป็นห่วงและพูดกติกาของเกมต่ออย่างไม่ยี่หระ "ผมให้คุณไปงานการกุศลครั้งนี้ด้วยเพราะผมต้องการบอดี้การ์ดดีๆ สักคนที่ดูดีและคุณก็เขาเกณฑ์นั้น"

"ที่จัดที่โรงแรมแกรนด์พาเลส?" โลกันต์เบิกตากว้างเพราะงานนั้นเป็นงานการกุศลงานใหญ่ที่แทบจะรวบรวมคนระดับบนไว้ทั้งหมดมากองไว้ที่เดียวกัน มันเป็นงานประมูลเพชรที่ยอดประมูลไม่เคยจบที่ยี่สิบล้าน เป็นงานประมูลที่คนทั่วไปฟังแล้วได้แต่อึ้งในความร่ำรวยของเศรษฐีทั้งหลายที่มาร่วมประมูล

เวสพยักหน้านิ่งๆ "ผมจะให้คุณไปด้วยและมันก็ถึงเวลาที่คุณต้องเลือกข้างแล้ว" ยิ้มจางๆ ในประโยคหลังแต่แววตากลับเย็นเยียบ "ระหว่างผมกับตำรวจ"

โลกันต์ก้มมองโทรศัพท์ในมือพอเปิดขึ้นมาก็เห็นไลน์ที่จากลูกน้องทักมาถามไถ่อย่างเป็นห่วงและเบอร์ที่โทรเข้าอีกสิบสายซึ่งถ้าเป็นปกติเขาจะลบประวัติการโทรทิ้งและพูดคุยทิ้งเพื่อป้องกันการถูกล้วงข้อมูลเมื่อถูกจับได้แบบนี้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทันการไปมากๆ แล้ว

"ทำไมผมต้องเลือก" พลตำรวจถามเสียงแข็งมองเวสอย่างไม่เข้าใจ 

เวสหัวเราะหึ "ก็แค่เล่นสนุก ถ้าคุณเลือกฝั่งผมก็ไม่ต้องสวมหน้ากากปิดบัง แต่ถ้าเลือกฝั่งตำรวจคุณก็ใส่หน้ากากและทำหน้าที่บอดี้การ์ดที่ดีซะ พอเลิกงานผมก็ปล่อยคุณไว้แถวนั้นและคุณจะไปไหนก็ไป" นายท่านหรี่ตามองโลกันต์ "เพราะคุณมันไม่มีประโยชน์ต่ออังศุชวาลแล้ว คุณพลตำรวจเอกโลกันต์"

ยิ่งฟังคำอธิบายโลกันต์ยิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม "ทำไมคุณถึงไว้ชีวิตผม? ปกติจะฆ่าทิ้งเลยไม่ใช่เหรอ" เพราะเขาลือวงในเขาลือกันจนหนาหูว่า อังศุชวาลโหดเหี้ยมกับบุคคลที่คิดไม่ซื่อเสมอ ไม่ว่าจะเคยทำคุณงามความดีมามากขนาดไหนหากเลือกที่จะทรยศ สิ่งที่ต้องแลกเมื่อถูกจับได้นั้นคือชีวิต

เวสสะอึกไปครู่นึงแล้วพูดต่อนิ่งๆ ไม่สบตาโลกันต์ "ต่อให้คุณรู้ข้อมูลภายในหรืออะไรก็ตามแต่ในเครืออังศุชวาล มันก็ไม่ช่วยให้คุณหยุดพวกผมได้หรอก โลกใบนี้มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คุณคิด มันโสมมมันเหม็นเน่า ไม่เคยได้ยินรึไงว่าพวกตำรวจชั้นผู้ใหญ่เขาชอบเลี้ยงเด็กสิบสามสิบสี่ ฟังแค่นี้ก็สะอิดสะเอียนแล้วใช่ไหมล่ะ ตำรวจผู้รักความถูกต้องอย่างคุณน่ะ"

โลกันต์นิ่งฟังไม่ได้ตอบปล่อยให้อีกฝ่ายพูดไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่สายตายังจับจ้องมือขาวที่กำแน่นเหมือนสะกดกลั้นอารมณ์บางอย่าง

เวสสูดหายใจลึกสบตาพลตำรวจเอก "คุณกลับไปที่ของคุณเถอะ โลกันต์ ที่นี่มันไม่เหมาะสำหรับคุณหรอก"

เอาเข้าจริงเวสก็ใจร้ายกับโลกันต์ไม่ลง สิ่งที่ดีที่สุดที่ปีศาจร้ายอย่างเขาจะให้ได้คือการปล่อยให้มนุษย์กลับไปยังบ้านของตัวเอง ไม่ใช่ฉุดกระชากลงมาอยู่ในนรกกับเขา

อีกเหตุผลใหญ่ๆ ก็คงเป็นอ้อมกอดอุ่นๆ ที่ได้รับมาทั้งคืน มันรู้สึกดีเป็นบ้าจนไม่อยากลุกออกไปไหนเลย เขาเชื่อว่าถ้าอยู่แบบนั้นได้ทั้งวันก็คงอยู่ได้ แต่มันก็คงจะเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับเขาที่โตขนาดนี้แล้ว

เวสมองตำรวจหนุ่มที่มีสีหน้ายุ่งเหยิงเหมือนคิดหนักมากอย่างไม่เข้าใจนักเพราะเขาคิดไว้แล้วว่ายังไงตำรวจนี่ก็ต้องเลือกฝั่งตำรวจอยู่แล้ว จะมีที่ไหนอีกที่ปล่อยให้พลตำรวจเอกอนาคตไกลหลุดออกจากมือไปง่ายๆ แบบนี้ ถ้าเป็นคนอื่นคงจะเอาใช้ต่อรองกับพวกตำรวจแล้ว แต่กับเขาที่เส้นใหญ่กว่านั้นมันไม่มีความจำเป็นที่จะทำอะไรแบบนั้นสักนิด เพราะแค่ส่งเงินตรงงวดทุกอย่างก็แฮปปี้แล้ว วินวินสองฝ่าย ทุกคนรักกันดี

พลตำรวจเอกโลกันต์ก็แค่โง่มากๆ เท่านั้นที่ไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นเบี้ยบนกระดานใหญ่ที่ไม่ว่าขยับยังไงก็โดนกินอยู่ดีหรือต่อให้พยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถฆ่าคิงของอีกฝั่งได้นอกเสียว่าอีกฝ่ายจะยอมให้กินเอง แต่แน่ละมันไม่มีวันนั้นหรอก

"ไม่มีวัน" เวสพึมพำย้ำเตือนตัวเองแล้วพ่นลมหายใจออกมาเมื่อเป็นเวลาตีห้าครึ่งแล้วซึ่งแน่นอนการนอนน้อยมันทำให้เขาง่วงนิดๆ จนรู้สึกล้าแต่ความหวาดกลัวข้อผิดพลาดนั้นมีมากกว่าเขาจึงเลือกที่จะเมินสิ่งเหล่านั้นไป กับแค่เวลานอนนิดๆ หน่อยๆ มันไม่ทำให้เขาตายหรอก

"ว่าไงคุณตำรวจ ค่อยเลือกทีหลังก็ได้นะเพราะยังไงมันก็ไม่มีผลอะไรกับผมอยู่แล้ว"

แต่พอเห็นใบหน้าพลเอกกระตุกยิ้มเวสกลับรู้สึกใจหายแปลกๆ

"แล้วถ้าผมเลือกคุณล่ะ เวส"

เป็นนายท่านหนุ่มที่ขมวดคิ้วบ้าง "คุณบ้ารึเปล่า โลกันต์ ผมใจดีกับคุณแค่ครั้งเดียวนะ ถ้าหลังจากนี้คุณคิดจะทำอะไรตุกติกกับผม ผมฆ่าคุณแน่"

โลกันต์หลุดขำ "ยังไงผมก็เลือกคุณอยู่ดี ผมบอกคุณแล้วนี่ว่าจะทำให้คุณกลับมาเป็นมนุษย์" ลุกจากเตียงและย่างสามขุมเข้าไปหาเวสเมื่อไปหยุดตรงหน้าคนใจแข็งก็ฉีกยิ้มอ่อนโยน "ผมจะไปก็ต่อเมื่อคุณไล่ผมไป เวส" 

เวสสสบหยาบคายและมองโลกันต์ตาขวางแม้ในใจจะอ่อนยวบยวบด้วยรอยยิ้มโง่ๆ นั่นแล้วก็ตาม "ก็ตามใจ ผมถือว่าผมให้โอกาสคุณแล้ว อย่ามาเสียดายทีหลังแล้วกันมันน่ารำคาญ" พูดจบก็ลุกออกจากโซฟาและกระแทกเท้าเดินผ่านโลกันต์ออกไปอย่างไร้เยื่อใย นึกรำคาญตัวเองที่แอบดีใจอยู่ลึกๆ จนทนเห็นหน้าตำรวจนั่นไม่ได้ กลัวว่าตัวเองจะเผลอใจให้มันจริงๆ

หากแต่ยังไม่ทันก้าวขาออกจากประตูก็ถูกตำรวจหนุ่มกระชากกลับเข้ามาในอ้อมกอด เวสเกือบอุทานดังลั่นอย่างตื่นตระหนกถ้าไม่ติดว่ามีมือหนาๆ เอื้อมมาปิดปากเข้าซะก่อนพอเงยหน้ามองต้นเหตุก็เห็นอีกฝ่ายยิ้มพราวตาเป็นประกายระยับ

"คุณ!" เวสหรี่ตามองเรียกเสียงเย็น นี่มันจะล้ำอาณาเขตเข้ามาเกินไปแล้ว ทั้งๆ ที่เพิ่งเตือนไปไม่ทันขาดคำแท้ๆ 

โลกันต์ยิ้มแล้วดึงหน้านายท่านหนุ่มให้ซุกอกตัวเองแล้วลูบหลังเบาๆ เหมือนกำลังปลอบเด็กที่ขวัญอ่อนถึงแม้ว่าเด็กที่ว่าจะดิ้นสุดชีวิตก็เถอะ "มีแต่คุณที่ถามคำถามผม ทีนี้ถึงตาผมบ้าง"

"ปล่อย!" เวสโวยวาย

"คุณอยากกลับมาเป็นมนุษย์หรือเปล่า?"

น่าแปลกที่พอโลกันต์เอ่ยถามประโยคนี้เวสก็หยุดดิ้นและหลุบตาลงต่ำเม้มปากแน่น

โลกันต์เปลี่ยนจากโอบเป็นรวบเอวร่างโปร่งแน่นแล้วก้มลงไปกระซิบข้างหู "คุณเป็นมนุษย์มาตั้งแต่แรกแล้ว เวส" และขบใบหูเบาๆ "ไม่มีใครที่ไม่เคยเป็นปีศาจร้ายหรอก ขนาดผมยังเคยฆ่าคนเลย"

"ไม่ มันเหมือนกัน" เวสพูดเสียงพร่าไม่ใช่เพราะเกิดอารมณ์แต่เป็นน้ำตาที่จุกขึ้นมาถึงลำคอ "ผมไม่สมควรได้รับการให้อภัยในสิ่งที่ผมทำด้วยซ้ำ"

บางครั้งอารมณ์ของเวสก็มักจะแปรปรวนบ่อยๆ เหมือนโรคสองบุคลิก บางทีก็เย็นชาโหดเหี้ยมบางทีก็เปราะบางจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยงเพียงแค่เผลอไปแตะต้องมันเบาๆ

และตอนนี้เวสก็เป็นอย่างหลัง ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าน้ำตาคลอเบ้า ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาในอกจนแทบพยุงตัวให้ยืนไม่อยู่ เวสพยายามดึงความรู้สึกเย็นชาของตัวเองกลับมา ดึงความชั่วร้ายที่ตัวเองสรรสร้างมาเพื่อกลบความเขลาขลาดของตัวเองเพื่อที่จะได้มีชีวิตอยู่ได้ต่อไปโดยสมกับเป็นผู้นำอันไร้เทียมทานของตระกูลอังศุชวาล 

"ถ้าคุณรู้ว่ามันผิด คุณก็เลิกทำซะ" โลกันต์ปลอบอย่างใจเย็น 

คำพูดของโลกันต์เหมือนกระตุ้นอะไรสักอย่างในตัวเวสเลิกดิ้นแล้วถลึงตามองโลกันต์อย่างกราดเกรี้ยว

ในที่สุดนายท่านเวสแห่งอังศชวาลก็สามารถดึงตัวตนผู้นำตระกูลออกมาได้

"ไม่!" เวสตะคอกนัยน์ตาขึ้นสีแดงก่ำ "ถ้าผมไม่ทำแล้วผมจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรล่ะ? ทั้งชีวิตของผมมีแต่สิ่งนี้ จะให้ผมทิ้งมันไปมันก็โง่เต็มทนแล้ว! คุณไม่รู้อะไรก็หุบปากซะ ถ้าผมไม่ทำมันผมก็คงไร้ค่าไม่ต่างไปจากเศษเดนอย่างคุณ!!!"

เสียงตะคอกของเวสนั้นคล้ายกับสัตว์ร้ายสักตัวที่ทั้งดุร้ายและตื่นกลัว มันทำให้โลกันต์ประหลาดใจนิดๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้นคือหูอื้อมากกว่าเพราะเวสตะโกนใส่หูซะเต็มเสียง

โลกันต์ขมวดคิ้วเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง สัตว์ร้ายที่อยู่ในอกกำลังพยศจะรู้สึกอยากปราบให้เชื่องเป็นลูกแมวตัวน้อยๆ เลยทีเดียว

"แต่เศษเดนอย่างผมก็ทำให้คุณกลัวจนตัวสั่นได้นะครับ" นัยน์ตาสีแดงแปลกประหลาดจากคนทั่วไปจ้องเวสด้วยสายตาวาวโรจน์จนเวสเผลอตัวสั่นขึ้นมาจริงๆ

แววตาที่มองมาราวกับฆ่าทั้งเป็น.. ไม่เหมือนปกติที่แววตาของตำรวจนี่จะแฝงความอ่อนโยนเสมอ

เวสเชิดหน้าขึ้นแค่นเสียงเหอะ "ตลก"

"เดี๋ยวคุณก็รู้" โลกันต์ยิ้มพรายแล้วก้มลงจูบนายท่านหนุ่มหนักๆ โดยไร้ซึ่งความอ่อนโยน เวสทั้งชกทั้งต่อยแต่ร่างสูงตรงหน้าก็ไม่สะทกท้านจู่โจมจูบเชี่ยวชาญจนเกิดเสียงน่าอาย เวสพยายามอย่างยิ่งที่จะประคับประคองสติและความโกรธของตัวเองให้อยู่เพราะมันเหมือนจะจางหายไปเรื่อยๆ จนแทบประคองร่างให้ยืนไม่ได้ด้วยซ้ำ

เวสสะดุ้งเฮือกกับมือหยาบกร้านที่นวดคลึงสะโพกตัวเองอย่างจาบจ้วง

พยายามอยู่หลายนาทีถึงจะดันหน้าของโลกันต์ออกไปได้ "หยุด.. ฮื่ออ หยุด" เวสพูดเสียงพร่าหอบหายใจหนักรู้สึกถึงอันตรายของคนตรงหน้า

โลกันต์หัวเราะเสียงต่ำ "ผมจะทำให้คุณรู้.." มือหนาค่อยๆ ปลดกางเกงสีขาวของเวสออกและดึงมันลงให้ไปกองบนพื้นพร้อมๆ กับกางเกงชั้นใน   

นายท่านหนุ่มหน้าแดงก่ำขบเคี้ยวฟัน "ผมจะฆ่าคุณ.."

"อีกเดี๋ยวคุณจะเปลี่ยนคำพูด" โลกันต์ตอบกลับอย่างไม่ยี่หระก้มลงซุกไซร้คอนายท่านหนุ่มต่อจนเจ้าตัวครางฮือถึงจากมือที่พยายามดันอกเขาออกกลายเป็นขยำเสื้อไว้แน่น

"ผมจะฆ่าคุณ.." 

โลกันต์หัวเราะเบาๆ ในลำคอกับน้ำเสียงเบาหวิวของคนพูดเมื่อเขาสอดนิ้วเขาสำรวจด้านในที่ตอดรัดนิ้วเขากลับจนรู้สึกอยากเอามันเข้าไปเร็วๆ

"ไม่.." เวสหลับตาพูดเสียงพร่าตัวสั่น

สุดท้ายเสื้อสูทเนื้อดีสีขาวที่เวสบรรจงใส่เพื่องานในตอนบ่ายก็ยับยู่ยี่เพราะถูกโลกันต์ทั้งกัดทั้งขยำยอดอกที่ซ่อนไว้ใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว

"..อือ"

โลกันต์ยิ้มนิดๆ เมื่อนายท่านที่แสนจะพยศตอนนี้พ่ายแพ้อย่างหมดรูป สองมือขยำไหล่เขาแน่นหอบหายใจหนักจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นลมไปซะก่อนที่ 'อะไรๆ' จะเสร็จสิ้น

"ไม่ว่าจะปฏิเสธให้ตายยังคุณก็คือมนุษย์ เวส" พลตำรวจหนุ่มพูดเสียงนุ่มนวลอารมณ์ที่เดือดพล่านหายไปแล้วเมื่อเห็นท่าทีโอนอ่อนให้ของเวสแต่พร้อมกันนั้นค่อยๆ ดันร่างของเวสให้นอนบนโซฟาส่วนตัวเองก็ขึ้นคร่อม "คุณไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรงั้นก็ลองมีมันเพื่อผมไหมล่ะ? ถ้าคุณไปอยู่กับผม คุณจะทำอะไรก็ได้แล้วแต่คุณ เดี๋ยวผมเลี้ยงคุณเอง"

พอได้ฟังข้อเสนอประหลาดๆ ของโลกันต์เวสก็หัวเราะเยาะ

"คุณพูดเหมือนกับตัวเองรวยมากนะ คุณพลตำรวจเอก" ร่างโปร่งที่กำลังตกเป็นรองเชิดหน้าขึ้นพูดราวกับว่าเป็นตัวเองต่างหากที่เหนือกว่าอีกฝ่าย "คุณทำตัวเหมือนเสี่ยทั้งๆ ที่ในธนาคารคุณมีเงินไม่ถึงล้าน บ้านของคุณก็เช่าอยู่ รถของคุณก็กำลังดาวน์ ไหนจะค่ากินค่าใช้ที่คุณชักไม่ถึงหลังเพราะส่งให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกล่ะ?"

สีหน้าของโลกันต์เจ็บปวดนิดๆ เมื่อถูกนายท่านหนุ่มนี่แทงใจดำเข้าทุกดอก แต่เขาก็ยังคงยิ้มน้อยๆ อย่างใจเย็น เขารู้ดีว่าเวสกำลังทำให้เขาเขว

"มันก็จริงของคุณ" โลกันต์ยิ้มเศร้าๆ ให้เวสทำเอาคนปากร้ายหน้าเสีย "แต่จะให้ผมทิ้งที่นั่นผมก็ทำไม่ได้หรอกนะ ก็เขาเลี้ยงผมอย่างดีนี่นา"

เวสเผยสีหน้าประหลาดใจออกมาเพราะไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนหรือจะเรียกว่าไม่ได้ใส่ใจปูมหลังของคุณตำรวจนี่มากกว่า เพราะดูเจ้าตัวจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับการกำจัดความชั่วร้ายในสังคม ถ้าให้คาดเดาเล่นๆ ก็คงจะเกิดในตระกูลตำรวจสักตระกูลหรือไม่ก็ครอบครัวอบอุ่นมากๆ แต่นี่กลับตรงกันข้าม

เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าพลตำรวจเอกโลกันต์เป็นเด็กกำพร้า.. ไม่รู้เลยสักนิด

นัยน์ตาสีทองของเวสสั่นนิดๆ คิดดูสิขนาดสถานเด็กกำพร้ายังมอบความรักดีๆ ให้โลกันต์จนเป็นตำรวจที่ดีได้ขนาดนี้เลย แล้วเขาล่ะ? ทำไมพ่อถึงได้เย็นชากับเขาแบบนี้

"ไม่ต้องร้อง" 

ทั้งๆ ที่ถูกพูดทำร้ายจิตใจไปแต่โลกันต์กลับใช้นิ้วมือเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างช้าๆ ของนายท่าน แววตาของเวสในตอนนี้มันดูเจ็บปวดเอามากๆ แทบจะแตกสลายได้ในตอนนี้

"..." เวสเบือนหน้าหนีไม่ยอมรับการปลอบปละโลม "ปล่อยผม ผมต้องทำงาน"

โลกันต์ขมวดคิ้วมุ่น "งานบ้าอะไรเข้าตั้งแต่หกโมง โรงงานนรกเหรอครับ" และไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดรอดไปรีบแทนที่ตัวเองด้วยสิ่งอื่นทันที

"โอ๊ย" เวสจิกไหล่โลกันต์แน่นถลึงตามอง ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเล่นเอาความเศร้าหายไปจนหมด "เอามันออกไป!"

"ไม่ครับ" พลเอกหนุ่มหัวเราะกับสีหน้าของเวส "ผมว่าคุณถามตัวเองดีกว่า ว่าอยากให้ผมหยุดหรือเปล่า"

"หยุดดิวะ!! เอาออกไป! อือ"  ร่างโปร่งตะคอกกลับพยายามทั้งชกทั้งดันโลกันต์ออกแต่ก็เปล่าประโยชน์เหมือนเดิมจนอดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นเขาเองที่อ่อนแอหรือตำรวจนรกนี่แข็งแรงเกินไปกันแน่!

โลกันต์ส่ายหัวยิ้มๆ แล้วก้มลงจูบเวสปิดปากนายท่านหนุ่มที่เอาแต่พยศและอ้างว่าจะทำงานๆ โลกันต์ก้มลงไปกัดใบหูแล้วกระซิบข้างหูเสียงพร่า

"ถึงเวลาพักผ่อนของคุณแล้ว เวส"
 

--------
ลุคนี้มันอร่อยจริงๆ นะ 
 
 
 

ออฟไลน์ musiclove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
กลับมาอ่านตอนพิเศษ
อื้อหือ คนเขียนชอบแนวนี้สินะ
ทำให้อยากอ่านเรื่องต่อไปเลย
รออ่านเรื่องใหม่อยู่นะคะ

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
แง้ สงสารองค์ชาย :mew6:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
จบแล้วววว สนุกดีค่ะ อ่านไปก็ลุ้นไปว่าเวสเปอร์จะหายยังไง

แถมตอนพิเศษก็สนุกมากๆ ขอบคุณมากนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด