พยัคฆ์ร้ายกับรัชทายาทปัญญาอ่อน ตอนพิเศษ : สอนเสือเป่าขลุ่ย (?)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พยัคฆ์ร้ายกับรัชทายาทปัญญาอ่อน ตอนพิเศษ : สอนเสือเป่าขลุ่ย (?)  (อ่าน 159717 ครั้ง)

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
คิดถึงพ่อเสือกับกวางน้อย
น่ารักทั้งคู่เหมือนเดิม
อ๊ะ ตอนนี้เป็นเสือถอดเขี้ยวเต็มตัวแล้วนิ
อยากอ่านตอนพิเศษเพิ่มอีกจัง
สวัสดีปีใหม่นะ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2

ออฟไลน์ 7lenzjibi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เมื่อกี้แอบเห็นรูปสปอยปกจากนักวาดคนหนึ่ง  :katai5:
ถึงกับย้อนกลับมาดูรูปสปอยในกระทู้เทียบเลย เฮ้ย มันใช่
หนูเวสเปอร์น่ารักม๊วกกก
รออุดหนุนรูปเล่มอยู่นะคะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Legpptk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เสือน่ารักกกกก  แรกๆๆก็เป็ฯนักฆ่าน่าเกรงขาม หลังๆๆนี้เป็นแมวน้อยขององค์ชาย น่ารักกกกกก :-[ :-[ :-[

เนื้อเรื่องสนุกดี ปกติไม่ค่อยได้อ่านเรื่ืองแฟนตาซีนะ 
ตอนอ่านแรกๆๆ สงสารองค์ชายมาก แต่พอองค์ชายได้เจอเจ้าแมวกับเจ้าเสือแล้ว มันดีต่อใจจริงๆๆๆๆๆๆๆ :-[ :-[

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4

ออฟไลน์ ✥Gryffindor✥

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1


รายละเอียด VV

https://www.facebook.com/YholicBooks/photos/a.605025269691203.1073741828.385300378330361/605025253024538/?type=3&theater


กลับมาแล่ว พร้อมกับข่าวดี้ดี 5555  เจ้าเสือเปิดจองแล้วนะคะ ของแถมมากมายตามภาพซึ่งเราจะไม่พูดถึง

เราจะพูดถึงตอนพิเศษที่มีในเล่มค่ะ มีด้วยกันสี่ตอน ตอนนึงเคลียร์ปม อีกสามตอนนี่โคตรน่ารัก

แบบหาอ่านในเรื่องไม่ได้เลยเอาซะตอนกอดนี่ชิดซ้ายตอนจูบนี่ชิดขวา

เราจะสปอยตอนพิเศษแค่หนึ่งเรื่องคือมีตอนสอนเสือเป่าขลุ่ยด้วยส่วนอีกสองตอนไปลุ้นกันเอาเองค่ะ <3

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเสมอนะคะ  :กอด1:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GF_pp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เวสเปอร์น่ารักมากกกกกก

โลกัสก็เท๊เท่ห์

ฟินด์ก็ขี้อ้อน น่ารักกก

ชอบเรื่องนี้มากๆๆๆค่ะ สนุกดี

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนพิเศษ : โลกปัจจุบัน

ณ เวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จักนามสกุล 'อังศุชวาล' ตระกูลของเจ้าสัวใหญ่สัญชาติจีน-เยอรมัน ซึ่งในมือถือครองธุรกิจอหังสาริมทรัพย์แทบทุกประเภท ตั้งแต่หมู่บ้านจัดสรรจนถึงคอนโดในย่านดังของกรุงเทพ ทำให้มีฐานะติดอันดับต้นๆ ของคนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย

หากแต่ความร่ำรวยของเจ้าสัวก็ไม่มีได้มีที่มาเป็นสีขาวเสมอไป เบื้องหลังเงินทองที่มากมายนั้นถูกแลกด้วยเลือดจำนวนไม่น้อยเช่นกัน มีผู้คนมากมายที่พยายามขัดขืนไม่ขายที่ให้เจ้าสัวแต่สุดท้ายก็ยอมขายด้วยร่างไร้วิญญาณ ความจริงเรื่องนี้ใช่ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะไม่รู้เพียงแต่ไม่กล้าปริปากพูดอะไรเท่านั้น

แต่ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่สามารถใช้เป็นข่าวซุบซิบวงในได้สนุกปาก เจ้าสัวพยายามอย่างยิ่งทั้งยัดเงินทั้งอะไรแต่ก็ไม่ได้ผล จึงได้แต่พยายามกลบข่าวด้วยข่าวอื่นที่ใหญ่กว่าเมื่อมีคนปูดเรื่องนั้นขึ้นมา

เรื่องที่ว่าลูกชายคนโตของเจ้าสัวอังศุชวาลเป็นออทิสติก! 

ทุกงานแถลงข่าวหรืองานเลี้ยงเจ้าสัวจะไม่พูดถึงลูกชายคนโตของตัวเองราวกับไม่มีตัวตนอยู่ แต่พูดถึงลูกชายคนรองของตัวเองแทน ลูกชายที่เพียบพร้อมไปทั้งรูปลักษณ์และสติปัญญาอีกทั้งยังจบเจ้ามหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เจ้าสัวภูมิใจกับลูกชายคนนี้มากและมักเปรยต่อหน้าสื่อบ่อยๆ ว่าจะให้รับช่วงกิจการต่อ ส่วนลูกชายคนเล็กนั้นยังคงเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลาย

น่าเสียดายที่พวกนักข่าวไม่ได้ชอบข่าวธรรมดาแต่ชอบข่าวคาวซะมากกว่า ต่อให้เงินจำนวนมากมายเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหยุดความสอดรู้ของพวกเขาได้ มีหลายครั้งที่นักข่าวพยายามตะล่อมขอเข้าไปถ่ายทำรายการชีวิตเจ้าสัวข้างในบ้านที่ใหญ่ราวกับคฤหาสน์แต่หารู้ไม่จุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขาคือตัวลูกชายคนโตต่างหาก!

มีครั้งหนึ่งที่มีแม่บ้านลาออกจากบ้านเจ้าสัวมาขายข่าวให้กับนักข่าวทำให้พวกนักข่าวตื่นเต้นกันมาก เพราะแม่บ้านเล่าว่าลูกชายคนโตของเจ้าสัวนั้นถูกขังเอาไว้ในบ้านหลังเล็กซึ่งในบ้านหลังนั้นก็มีแค่เปียโนหลังหนึ่งกับตู้หนังสือเท่านั้นไม่มีอะไรอีก แต่ทันทีที่พวกเขากำลังจะปล่อยข่าวนี้ลงอินเทอร์เน็ตกลับถูกสายลึกลับโทรมาขู่ฆ่าซะก่อน แน่นอนว่าแม่บ้านคนนั้นก็หายไปอย่างลึกลับเช่นกัน

แต่นั้นก็ยิ่งทำให้พวกเขาอยากรู้จนตัวสั่นแต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้น หากมากกว่านี้ก็คงจะอันตรายต่อชีวิตจนเกินไป เช้าวันต่อมาเจ้าสัวออกมาแนะนำลูกชายที่เคยบอกว่าเป็นคนรองของตัวเองว่าเป็นลูกชายคนโตและพร้อมจะรับตำแหน่งเจ้าสัวคนต่อไป

ทำให้เรื่องราวของลูกชายคนโตของอังศุชวาลค่อยๆ จางหายไปจากตระกูลอังศุชวาล
 
 


"งานนี้ขอให้เร่งมือหน่อย ถ้าไอ้เสี่ยอ้วนมันขัดขืนก็ฆ่าทิ้งไปได้เลย ส่วนเรื่องเงินเจ้าสัวบอกแล้วแต่มึงจะเรียก" ชายร่างท้วมซึ่งมีฐานะเป็นพวกซักล้างของเจ้าสัวพูดกับชายร่างใหญ่ที่อยู่ในชุดคลุมดำทั้งตัว ถึงแม้จะเคยคุยกันมาสองสามครั้งแต่สิ่งที่ชายร่างท้วมเคยเห็นมีเพียงนัยน์ตาสีดำอำมหิตราวกับนักล่าเท่านั้น 

ซึ่งมันก็สมกับฉายาพยัคฆ์ดำ นักฆ่าที่ลงมือฆ่าได้รวดเร็วและฉับไว ไร้ความลังเลใดๆ คล้ายกับว่าในจิตใจของมันไม่เคยมีความเมตตา 

สิ่งที่ชายร่างท้วมพอรู้นั้นมีเพียงชื่อกับข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ทำให้ทุกครั้งที่เจอกันชายร่างท้วมมักจะลอบใช้ดวงตาเล็กๆ ราวกับเม็ดถั่วของตัวเองสำรวจร่างของโลกันต์ มือปืนชื่อดังในธุรกิจมืดที่เก่งเรื่องพรางตัวและลงมือฉับไว เพราะความเก่งกาจทำให้มันไม่จำเป็นต้องอยู่ในสังกัดใคร ใครที่ให้เงินมากที่สุดมันก็จะรับงานนั้น

"ล้านนึง บัญชีเดิม" เจ้าของฉายาพยัคฆ์ตอบเสียงราบเรียบและสาวเท้าออกทันที ราวกับว่าการหายใจร่วมกับคนเป็นนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับมัน

"แม่งแค่ฆ่าคนเดียวได้ตั้งล้านนึงเลยเหรอวะ" คนพวกซักล้างบ่นอย่างไม่พอใจนักกึ่งอิจฉา   

ปัง!

ชายร่างท้วมสะดุ้งเฮือกตัวสั่นเทาเมื่อข้างๆ เท้าตัวเองเป็นรอยกระสุน พอเงยหน้าขึ้นมามองก็เห็นนัยน์ตาสีดำนั่นวาวโรจน์ โดยไม่รู้ตัวแข้งข้านั้นอ่อนยวบจนทรุดไปกองบนพื้นด้วยความหวาดกลัว

ถ้าหากเปรียบโลกันต์เป็นพยัคฆ์ มนุษย์ทุกคนที่ยืนตรงหน้ามันคงไม่ต่างอะไรจากกวางที่มันสามารถขย้ำให้ตายในครั้งเดียว!

เสือร้ายที่เพิ่งทำคนกลัวจนเข่าอ่อนถอนหายใจไม่สบอารมณ์นัก เพราะตอนนี้มันกำลังเดินอยู่ในสวนของตระกูลอังศุชวาลที่ยุงเยอะเป็นบ้าและตอนนี้ก็ใกล้จะเช้าแล้วมันยังไม่ได้นอนเลยสักชั่วโมง มันเดินไปเรื่อยๆ อย่างหงุดหงิดเพื่อหาแมวที่ตัวเองเอามาด้วย ไม่รู้ว่าแมวบ้านั่นมันคลั่งอะไรถึงวิ่งตามอะไรสักอย่างไปตอนที่มันกำลังจะรับงานจากไอ้อ้วนนั่น

เพราะเจ้าแมวนั่นชอบเดินเล่นออกจากห้องพักแล้วโดนหมาฟัดกลับบ้านมาเกือบตายบ่อยๆ มันเลยไม่ไว้ใจให้แมวตัวนี้อยู่บ้านคนเดียว มักจะพาติดตัวไปทำงานด้วยเรื่อยๆ โดยจะยัดไว้ในรถตู้หรือตู้สักตู้ที่พอจะหาได้แถวนั้น ดีที่มันพอรู้งาน ไม่ร้องแหกปากโวยวายเวลาโดนขัง ทำเพียงแค่นอนรอเงียบๆ เท่านั้น

เมี้ยว~~

นัยน์ตาดุร้ายวาววับ ไอ้แมวเวรนั่น! โลกันต์สาวเท้าเร็วๆ ไปทางต้นเสียงที่เป็นป่ารกครึ้มทันทีเพราะอยากกลับบ้านไปนอนเต็มทน หากแต่เมื่อกำลังจะตะคอกด่า คำพูดทุกคนกลับจุกอยู่ที่ลำคอเพราะภาพตรงหน้า

ชายร่างโปร่งซึ่งมีผมสีขาวโพลนระต้นคอนัยน์ตาสีทองกำลังเล่นกับแมวบัดซบของมันด้วยรอยยิ้มกว้างและส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอ

กร็อบ

บัดซบ มันเผลอเหยียบใบไม้!

แน่นอนว่าคนที่ถูกลอบมองอยู่ก็รู้ตัวเงยหน้าขึ้นมามองทันที ยิ่งพอเห็นว่าเป็นคนแปลกหน้าใบหน้านั่นก็ซีดลงถนัดตาและลนลานจนทำอะไรไม่ถูกจึงตัดสินใจนั่งอยู่ที่เดิมยกมือสองข้างขึ้นมาบังตัวเองตัวสั่นเทา

"ขะ.. ขอ ขอโทษ ฮึก ไม่ ไม่ เล่นแล้ว"

เสียงทุ้มนุ่มดังแว่วออกจากริมฝีปากบางเฉียบ

แง้ว

เจ้าแมวเหลือบมองเจ้านายตัวเองแล้วขู่ฟ่อใส่ ข้อหาทำให้คนที่มันถูกใจร้องไห้

"แมวเวร เลี้ยงเสียข้าวสุก" โลกันต์สบถใส่แมวเนรคุณของตัวเองอย่างไม่จริงจังนักแต่ก็สาวเท้าเข้าไปใกล้ร่างเล็กที่ถอยหนีชนหลังติดกำแพงด้วยความหวาดกลัว

นัยน์ตาสีทองที่ได้จากทวดน้ำตาคลอเบ้านิดๆ เมื่อรู้สึกว่าตนเองจนมุม มือสองข้างเปลี่ยนเป็นไหว้ขอขมาด้วยความเคยชิน "ฮึก ขะ ขอโทษ ไม่ ไม่ทำแล้ว เวส เวส ขอโทษ"

ร่างสูงถอนหายใจแล้วนั่งยองๆ ตรงหน้าคนที่กลัวจนตัวสั่นไม่หยุด

"ร้องไห้ทำไม"

"ฮึก เล่น เล่นแมว แมวใครไม่รู้"

โลกันต์สบมองแมวตัวเองที่ตอนนี้ยืนขวางเวสราวกับกำลังปกป้อง ทั้งๆ ที่ตัวเองนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายกลัวจนตัวสั่น

"ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย" มือหยาบที่จับแต่กระบอกปืนและมีดสัมผัสกับกลุ่มผมนุ่มเบาๆ ราวกับกำลังจะปลอบประโลมเท่าที่เสือดุร้ายตัวนึงจะทำได้

แน่นอนว่าพยัคฆ์ดำก็เคยได้ยินเรื่องราวของลูกชายตระกูลอังศุชวาลมาบ้าง ความรู้สึกแรกที่รู้ไม่มีความเห็นใจแทรกอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว หากแต่เมื่อเห็นอยู่ตรงหน้าตัวเองกลับปล่อยผ่านไม่ได้เพราะร่างตรงหน้านั้นอ่อนแอราวกับกำลังจะแตกสลายได้ตลอดเวลา

“ฮึก ขอโทษ” ร่างเล็กยังคงสะอื้นแม้ว่าจะเลิกตัวสั่นแล้วก็ตาม น่าแปลกที่มืออุ่นๆ นั้นให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาดและมันเป็นความรู้สึกที่เวสต้องการมาตลอด จึงเผลอจับมือนั้นไว้แน่นกลัวว่ามันจะหายไป

“เป็นอะไร หืม?” ใบหน้าคมคายที่ซ่อนใต้ผ้าคลุมยิ้มมุมปากแกล้งชักมือออกซึ่งก็ถูกดึงไว้แน่นไม่ไปไหน

แง้ว!

“หุบปากน่า ฟินด์” โลกันต์มองแมวตัวเองหน่ายๆ แล้วสบมองลูกชายคนโตของอังศุชวาลที่กำลังมองตัวเองไม่วางตา

“แผลบน บนหน้า.. เจ็บไหม” 

นานแล้วสินะที่ไม่มีใครถามแบบนี้

พยัคฆ์ดำยิ้มเอ็นดูแล้วส่ายหัว "มดกัด" ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วตอนได้แผลนี้มาเจ็บจนแทบเสียสติ "แล้วเวสล่ะ ทำไมยังไม่นอน นี่มันจะเช้าแล้ว"

พอโดนเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงใจดี เวสก็ยิ้มกว้างเพราะแทบไม่มีใครเรียกเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้แล้ว พวกแม่บ้านอย่างมากก็มาทำความสะอาดให้พอเสร็จแล้วก็ไป ส่วนอาหารจะถูกวางบนโต๊ะอาหารทุกเช้าและเย็น คนตัวเล็กกินข้าวแค่สองมื้อเพราะวันๆ ใช้ชีวิตหมกมุ่นอยู่กับสิ่งๆ หนึ่งจนลืมหิวไปเลย

"เล่น เล่นเปียโนน่ะ" เวสพูดเสียงกระตือรือร้น "อยาก อยากฟังไหม เวสจะเล่นให้.. ฟัง"

ร่างสูงตอนนี้เริ่มไม่รู้สึกอยากนอนเท่าไหร่ "อยากสิ" น่าแปลกที่อยู่ๆ ก็ถูกชะตากับลูกชายคนโตคนนี้ของเจ้าสัวอย่างน่าประหลาด ทั้งๆ ที่ปกติเขามักจะสนใจผู้หญิงแท้ๆ

เวสดึงมือเจ้าของฉายาพยัคฆ์ดำไปยืนข้างๆ ส่วนตัวเองก็ไปนั่งที่ประจำตัวตั้งแต่จำความได้ 

"เวส เวสจะเล่นแล้วนะ ตะ ตั้งใจฟังดีๆ ล่ะ" ร่างโปร่งเปรยก่อนที่จะหลับตาและเล่นเพลงตามความรู้สึกของตัวเองทันที นิ้วเล็กกดตามตัวโน๊ตที่ปรากฎขึ้นในสมองอย่างชำนาญจนเกิดเป็นเพลงไพเราะออกมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดูด้วยซ้ำแต่เวสก็ไม่ได้กดโน๊ตผิดแม้แต่ตัวเดียว จะเรียกคำว่าชำนาญก็คงไม่ถูกนักต้องเรียกว่าสัญชาตญาณซะมากกว่า

เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ยอมอยู่กับเวสมาตลอดโดยไม่อิดออด

คนเป็นมือปืนเบิกตากว้างมองคนที่ถูกตราหน้าว่าเป็นออทิสติกอึ้งๆ

ทั้งๆ ที่มันไม่ค่อยได้ฟังเพลงหรือสนใจอะไรพวกนี้เท่าไหร่แต่กลับรู้สึกขนลุกกับการเล่นเพลงของเวส ทั้งการกดอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้มองและเสียงเพลงที่ทั้งทรงพลังและแฝงความถ่อมตัวของคนเล่น

ไม่น่าเชื่อคนที่น่าจะกลายเป็นขุมทรัพย์ของนักดนตรีกลับถูกตรวนโซ่ไว้ให้อยู่ในกรงแบบนี้ ทั้งๆ ที่มีความสามารถกลับถูกกับแค่คำว่าออทิสติกตรึงไว้ให้จมปลักอยู่ที่เดิม

นัยน์ตามาดร้ายของโลกันต์ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นมุ่งมั่น มองเวสราวกับสมบัติล้ำค่า

"ฉันจะพานายออกไปจากกรงนี่เอง"

หากแต่มันก็ไม่ได้เข้าสู่โสตประสาทของคนที่จมไปในโลกดนตรีแล้วแต่อย่างใด

โลกันต์จึงเลือกที่จะมองเงียบๆ โดยมีแมวตัวหนึ่งนั่งเลียขนอยู่ข้างๆ

เฝ้ารอเพื่อที่จะปลดปล่อยจากโซ่ตรวนที่มีชื่อว่าตระกูลอังศุชวาลตระกูลที่รุ่งเรื่องไปด้วยรัศมีโชติช่วง

--------------
ตอนแรกคิดพลอตเล่นๆ ตอนเช้าว่า เวสเปอร์คงจะเป็นคุณชาย ส่วนเจ้าเสือคงจะเป็นมือปืน
คิดไปคิดมาเขียนเฉยเลย  o22

ปล. ตอนนี้เจ้าเสือใกล้ปิดจองแล้วน้า  :o8: ใครอยากอ่านตอนพิเศษ 3 ตอนกดเบย

https://www.facebook.com/YholicBooks/photos/a.605025269691203.1073741828.385300378330361/605025253024538/?type=3&theater

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ยุคปัจจุบันก็ยังเท่นะโลกัส  เอ้ย โลกันต์

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนพิเศษ : พิสูจน์ตัวเอง

โครม!!!

เก้าอี้รับแขกถูกเจ้าสัวถีบจนล้มด้วยความโมโห

มีอยู่ไม่กี่สิ่งที่ทำให้เจ้าสัวโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ ซึ่งลูกชายคนโตของตระกูลอังศุชวาลก็คือหนึ่งในนั้น ทันทีที่ท่านเจ้าสัวรู้ข่าวว่าลูกชายที่เป็นความอับอายของตระกูลหายตัวไปก็อาละวาดไม่หยุด 

"เฟเนกซ์ รู้ไหมว่าไอ้พี่เหี้ยของมึงมันหายหัวไปไหน!!! ตามตัวมันมาให้ได้ อย่าให้มันออกไปจากบ้านหลังนี้ได้ อย่าให้พวกนักข่าวเห็นเด็ดขาด!!!!"

ถึงแม้อายุอารามของเจ้าสัวไซมอนจะปาเข้าไปห้าสิบหกสิบแล้ว ความโมโหและความเลือดร้อนยังอยู่ในสายเลือดอย่างเข้มข้นราวกับชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ ใบหน้าที่มีเค้าต่างชาติจากเชื้อเยอรมันบิดเบี้ยวด้วยแรงโทสะ

มันเป็นความอับอายที่สุดในตระกูลอังศุชวาล ขืนมันออกไป นักข่าวคงเล่นข่าวนี้จนเขาไม่มีหน้าออกไปไหนแน่ๆ ถึงมันจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นหรือนักลงทุน แต่มันกระทืบกับเส้นความเกลียดของเขามากที่สุด!

เขาไม่เคยเข้าใจว่าทำไมภรรยาของเขาถึงได้เอ็นดูมันนัก ทั้งๆ เพราะมันที่ทำให้ภรรยาของเขาต้องป่วยกระเสาะกระแสะมาตลอดและต้องมาเครียดกับการดูแลลูกที่เป็นออทิสติก เขาจ้างแม่บ้านแล้วแต่เธอก็ยังดึงดันที่จะดูแลจนสุดท้ายก็ป่วยด้วยโรคเรื้อรังตาย

ทั้งๆ ที่อาการหนักขึ้นทุกวันกลับไม่เคยปริปากพูดอะไร เอาแต่นั่งฟังไอ้เด็กออทิสติกนั่นเล่นเปียโน ทั้งๆ ที่กำลังจะตายอยู่แล้วกลับเลือกที่จะไม่ไปรักษาตัวแต่อยู่ดูแลไอ้เด็กเวรนั่นที่เป็นไข้แทน

เขาไม่เข้าใจเลยสักนิด ทำไมภรรยาของเขาถึงเอาแต่หมกมุ่นดูแลเด็กเวรนั่น ทำไมไม่สนใจเฟเนกส์ลูกชายคนรองที่เก่งไปซะทุกเรื่องเป็นลูกชายที่เขาภูมิใจมากที่สุดหรือไม่ก็ไอ น้องเล็กที่ป้ำๆ เป๋อๆ ไปบ้างแต่ยังไงก็ต้องดีกว่าไอ้เด็กบัดซบนั่นแน่ๆ!

"ครับพ่อ ผมจะรีบตามตัว 'มัน' กลับมา" คนอยู่ปลายสายรับคำขึงขัง ปลายนิ้วจิกลงบนพวงมาลัยอย่างกราดเกรี้ยวไม่แพ้ผู้เป็นพ่อ

มันกำลังหนี... ทั้งๆ ที่อีกไม่นานเขาจะได้ทุกอย่างแล้วแท้ๆ 

"ดี อย่าให้พ่อผิดหวังล่ะ" เจ้าสัวพูดเสียงเข้มกดวางโทรศัพท์แล้วโยนไว้บนโต๊ะเหลือบมองเลขาที่เป็นชายวัยกลางคนข้างๆ "เรื่องพยัคฆ์ดำว่ายังไง"

"ตกลงครับ ล้านนึง"

เจ้าสัวยิ้มเยาะ "นับวันยิ่งเหลิง ฆ่าคนเดียวเอาล้านนึง แต่เอาเถอะ ยังไงมันก็ทำงานดี ไม่พูดมาก" พูดจบก็หัวเราะในลำคอ "ให้มันล้านสองไปเลย โบนัส"

"ครับ นาย"  คนเป็นเลขารับคำ "แล้วนายจะรับอาหารเที่ยงเลยไหมครับ"

คนเป็นนายแค่นเสียงแทนคำตอบ

เพียงเท่านั้นชายวัยกลางคนก็ผงกหัวรับรู้แทนคำตอบแล้วรีบสาวเท้าออกจากห้องทันทีเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของตัวเอง ท่านเจ้าสัวตอนนี้กำลังโกรธจนกินอะไรไม่ลง จนกว่าจะเจ้าสัวจะเรียกอีกครั้งเขาก็ไม่ควรโผล่หน้าไปให้เจ้าสัวรำคาญใจ ข้างเอวของเจ้าสัวห้อยกระบอกปืนอยู่ สิ่งที่เขาควรทำที่สิ่งคือการไม่เอาหัวตัวเองไปเป็นเป้าซ้อมยิงของนาย

แต่บางทีเขาก็อดฉงนใจไม่ได้ 

ทำไมถึงต้องโกรธต้องเกลียดเวสถึงขนาดนั้นกัน?
 
 

"เสือ เสือ เสือจะพาเวส เวสไปไหนเหรอ" ร่างโปร่งกระซิบถามเสียงเบาขณะที่ถูกวางพาดไว้บนไหล่ราวกับกระสอบข้าวสาร

"เดี๋ยวก็รู้" โลกันต์ตอบปัด "อย่าพูดสิ เดี๋ยวมีคนหาพวกเราเจอนะ" 

เวสตาวาวหัวเราะคิกในลำคอเชื่ออย่างง่ายดาย "จริงด้วย" ยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง

เจ้าของฉายาพยัคฆ์ดำหันซ้ายหันขวาอย่างหวาดระแวงเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ลักพาตัวคนติดมือกลับบ้านมาด้วย ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีดีไหมที่ด้านหลังสวนของบ้านอัจศุชวาลนั้นไม่มีกล้องวงจรปิดแม้แต่ตัวเดียว มีแต่ยามที่ตอนนี้หลับคาป้อมไปแล้วทำให้โลกันต์สามารถขโมยนกออกจากกรงทองได้อย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนและหลักฐาน

รถเก๋งยี่ห้อดาษดื่นสีดำค่อยๆ วิ่งเข้าสู่ถนนใหญ่อย่างแนบเนียน โลกันต์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อออกจากอาณาเขตของอัจศุชวาลได้แต่อย่างไรก็ตามมันก็ต้องระวังมากๆ อยู่ดี ในโลกมืดใครๆ ก็รู้ว่าเจ้าสัวเกลียดลูกชายคนโตของตัวเองขนาดไหนเหลืออย่างเดียวก็คือไม่ลงมือฆ่าเท่านั้น

ดีที่เจ้าสัวไม่จ้างมันฆ่าไม่เช่นนั้นมันคงทำไมลงและเสียชื่อพยัคฆ์ดำนักฆ่าอำมหิตที่คนลือนักลือหนา

ฟี้~

ใบหน้าคมยิ้มนิดๆ เมื่อได้ยินเสียงกรนเบาๆ จากร่างโปร่งที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองถูกลักพาตัว แต่ใครสนล่ะ มันเนี่ยแหละที่จะปั้นให้นกน้อยตัวนี้กลายเป็นนกอินทรีย์ที่สามารถปกป้องตัวเองได้เป็นที่รู้จักและทำลายโซ่ตรวนอัจศุชวาลได้

แง้ว

"ให้มันน้อยๆ หน่อย ฟินด์" โลกันต์กลอกตาใส่ฟินด์ที่เอาหน้าถูไถหน้าท้องของเวสแล้วก็ลงตัวนอนแบ็บตรงนั้น ซึ่งนอกจากไม่สำนึกที่โดนด่าแล้วยังกลิ้งไปกลิ้งมาต่ออีก

พยัคฆ์ร้ายที่พ่ายแพ้ให้กับแมวตัวเล็กๆ ถอนหายใจอย่างระอาใจแล้วตบไฟเลี้ยวเข้าไปยังโรงแรมชื่อดังระดับประเทศใจกลางเมืองที่ตั้งอยู่ข้างสำนักงานใหญ่ของตระกูลอังศุชวาล โลกันต์ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีที่พาเวสมาซ่อนตัวและฟูมฟักที่นี่แต่อย่างว่าสถานที่ๆ อันตรายที่สุดก็คือที่ๆ ปลอดภัยที่สุด เจ้าสัวคงไม่คาดคิดว่าลูกของตัวเองจะมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ได้

ทันทีที่รปภ. เห็นป้ายทะเบียนของโลกันต์ก็ยอมปล่อยให้เข้าไปอย่างง่ายดายอีกทั้งยังตะเบ๊ะท่าทำความเคารพด้วยท่าทีที่ทำแบบเดียวกับเจ้านายตัวเองเพราะเจ้านายสั่งไว้ว่าคนๆ นี้มีฐานะเป็นเพื่อนสนิทของเจ้านายและพ่อของเขาก็รู้จักพ่อของนายด้วย

แน่นอนว่าสำหรับร่างสูงนั้นเป็นเรื่องปกติจึงเข้าทางด้านหลังของโรงแรมอย่างชำนาญทางและอุ้มร่างเล็กขึ้นลิฟต์ส่วนตัวที่จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อมีบัตรพิเศษเท่านั้น พยัคฆ์ดำมองเลขลิฟต์ง่วงๆ เพราะตัวมันเองก็ง่วงไม่แพ้คนที่ถูกอุ้มในอ้อมกอดหรอก แต่ไม่รู้เวรกรรมอะไรที่ห้องของมันนั้นอยู่ชั้นเกือบบนสุดใกล้ๆ กับชั้นของลูกสาวเจ้าของโรมแรง ไม่สิ.. ตอนนี้คงต้องเรียกว่าเจ้าของเต็มตัวซะมากกว่า

ติ๊ง

ใบหน้าคมคายขมวดคิ้วฉับเมื่อลิฟต์ถูกเปิดระหว่างทาง เพื่อป้องกันการถูกจับได้มันได้มันบังคับเวสใส่เสื้อคลุมดำของมันตั้งแต่ก่อนลงมาจากรถ มันมองประตูลิฟต์อย่างเย็นชาไม่ว่าใครที่เข้ามาใช้ตอนนี้มันก็หงุดหงิดทั้งนั้น

หญิงสาวมีสีหน้าประหลาดใจก่อนที่ตาจะลุกวาวอย่างใคร่รู้สาวเท้าเข้าใกล้คนที่มีฉายาว่าพยัคฆ์ดำอย่างไม่เกรงกลัว "อ้าว! โลกันต์ มาทำไมไม่บอกจ๊ะ แล้วนั่นอะไรในมือ บอกเจ๊มาเดี๋ยวนี้นะ" 

พอรู้ว่าเป็นใครพยัคฆ์ดำก็มองเบื่อๆ ความหงุดหงิดหายยังคงอยู่แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่

เกล กัญญลักษณ์ หญิงสาวที่เป็นทั้งเพื่อนคนเดียวของโลกันต์และเป็นเจ้าของโรงแรม Palace ชื่อดังของเมืองไทยที่มักจะมีบุคคลสำคัญมาเยี่ยมเยียนอยู่บ่อยๆ อีกทั้งบางฟลอร์มักจะเคยถูกใช้ในการจัดงานใหญ่ๆ หลายงาน ทั้งการประชุม งานแต่งงาน หรือจัดการแสดงทางดนตรี โรงแรมแห่งนี้ก็สามารถเนรมิตให้คุณได้ถ้าคุณมีเงินมากพอ ด้วยบริการที่ดีเยี่ยมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้โรงแรมนี้ไม่เคยหลุดโผจากการจัดอันดับสิบโรงแรมที่ดีที่สุดของเมืองไทย

อีกสิ่งที่ทำให้โรงแรมนี้โด่งดังคือชื่อเสียงของเกล เพราะรูปลักษณ์ที่สวยไม่แพ้ดาราดัง เกลยังมีงานอดิเรกคือการเดินแบบหรือออกงานอยู่บ่อยๆ จนมีกลายเป็นคนที่มีชื่อพอๆ กับคนของตระกูลของอัจศุชวาล

"อย่าพูดมาก เขาหลับอยู่" โลกันต์ก้มมองร่างโปร่งที่เบามากในมือ "เคยได้ยินเรื่องลูกชายคนโตของเจ้าสัวอังศุชวาลไหม"

เกลเบิกตากว้างเลิกเสื้อคลุมที่บังใบหน้าคนลึกลับออกอย่างตื่นเต้น "เคยสิ" ยิ่งพอเห็นผมสีขาวก็ตื่นเต้นขึ้นไปอีก "ผมสีขาวล้วนจริงๆ ด้วย นึกว่าเรื่องโกหกนะเนี่ย ไม่สิ สิ่งที่เจ๊ต้องตกใจคือแกไปเอาเขามาได้ไงเนี่ย"

"ไปรับงานที่บ้านเจ้าสัว เห็นน่ารักดีก็เลยเอามาด้วย" นักฆ่าไร้หัวใจยิ้มนิดๆ ขณะที่พูด

"โห นี่เขาเรียกลักพาตัวแล้ว ไอ้บ้า" เกลพูดเสียงกลั้วหัวเราะ ในวงในก็มีพูดคุยกันบ้างถึงเรื่องนี้ ที่เธอพอรู้ก็แค่เป็นออทิสติก ผมสีขาวทั้งหัว ถูกขังไว้ที่บ้านแค่นั้นส่วนมากกว่านั้นก็รู้เท่าคนทั่วไป ช่วยไม่ได้ท่านเจ้าสัวสามารถเหยียบข่าวลูกตัวเองได้มิดชิดเลยทีเดียว

แต่สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจจริงๆ ก็คงจะรอยยิ้มที่หาได้ยากของโลกันต์ คงจะถูกใจลูกเจ้าสัวแล้วจริงๆ นั่นแหละ ไม่งั้นคงไม่กล้ากระตุกหนวดเสือด้วยกันเองขนาดนี้ คิดดูถ้าหากเจ้าสัวรู้คงไม่วายซวยไปตามๆ กันแน่ๆ 

"แล้วจะเอาไงต่อ ฝากเจ๊ดูแลเหรอ ห้องนี้แกก็ไม่ค่อยมาอยู่" เกลพูดอย่างกังวลนิดๆ เพราะห้องพักจริงๆ ของโลกันต์อยู่ค่อนข้างที่คนพลุกพล่าน ไม่รู้เพราะอะไรเจ้าตัวถึงไม่ยอมมาอยู่ที่ห้องนี้อย่างถาวรสักที

ร่างสูงพยักหน้า "คงงั้นฝากไว้ครึ่งวัน เดี๋ยวตอนเย็นมารับ"

ใบหน้าสวยหมองลงนิดๆ "เรื่องนั้น?"

"อืม" โลกันต์ตอบไม่ใส่ใจนัก สำหรับมันแล้วนี่แทบจะเป็นเรื่องปกติสามัญในชีวิตเลยก็ว่าได้ คนเราทุกคนยังไงก็ต้องตายกันทั้งนั้นเพียง มันมีหน้าที่เร่งเวลาให้เท่านั้นเอง 

นัยน์ตาสีดำด้านสบมองใบหน้าที่หลับตาพริ้ม ชั่งใจคิดถึงเรื่องนั้นสักพักและตัดสินใจพูดออกมา

"ได้ข่าวว่าขาดคนเล่นเปียโนใช่ไหม"

เกลพยักหน้ารุนแรงบ่นกระปอดกระแปด "ใช่ เจ๊โคตรเซ็งเลย ไอ้คนที่นัดไว้มันแขนหักจนเล่นไม่ได้ นี่ก็ยังหาไม่ได้เลยเนี่ย งานจะเริ่มอาทิตย์หน้าแล้ว"

"เขาเล่นได้"

"อะไรนะ" หญิงสาวถามซ้ำเพราะไม่แน่ใจในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

โลกันต์พ่นลมหายใจออกมาราวกับหมดความอดทน "ลูกชายคนโตของเจ้าสัวเล่นเปียโนได้ ระหว่างที่ไม่อยู่ก็เอาไปลองเล่นดู ถ้าชอบก็เอาเข้างานใหญ่เลย"

"แล้วไม่กลัวเจ้าสัวจับได้?"

คนเป็นนักฆ่าตาลุกวาว "ได้ข่าวว่าสื่อมากันเยอะนี่งานนี้ของเจ๊ ถ้ามันกล้าแย่งกลับไปก็ลองดู"

น่าเสียดายที่เกลไม่ได้สนใจเรื่องนั้น "กรี๊ด! แกเรียกฉันเจ๊แล้ว" เอาแต่ตื่นเต้นกับสรรพนามใหม่ที่โลกันต์ใช้เรียก

ติ๊ง

เคราะห์ดีที่ถึงชั้นที่โลกันต์ต้องการพอดี ร่างสูงจึงเหลือบมองด้วยหางตาแล้วสาวเท้าออกไปทันทีทำเอาหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของโรงแรมสบถตามหลังเซ็งๆ "ไอ้เสือกินเด็กเอ๊ย"

พอกลับมาถึงห้องพักหรูของตัวเองโลกันต์ก็วางเวสลงไปเตียงและดึงแมวนรกออกจากอ้อมกอดลูกชายคนโตของเจ้าสัวด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว

แง้ว

ฟินด์ตะเกียกตะกายพยายามเรียกร้องกลับไปหาอ้อมกอดอุ่น

"อย่าเยอะให้มันมาก" ร่างสูงเอ่ยอย่างรำคาญแต่ก็ยอมปล่อยให้มันกลับไปที่เดิม ส่วนตัวเองก็เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวพอให้รู้สึกสะอาดจึงกลับมาล้มตัวนอนข้างๆ เวสและหลับไปอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่มันจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

เพื่อส่งต่ออีกชีวิตคืนสู่ผืนดิน

 
 

ภายในห้องโถงขนาดใหญ่ที่ถูกจัดแต่งอย่างสวยงามเป็นธีมสวรรค์ตามชื่อของโรงแรม มีร่างสองร่างที่กำลังพูดคุยกันอยู่บนเวทีใหญ่ซึ่งมีแกรนด์เปียโนแบบเดียวกับที่บ้านของเวสตั้งอยู่ หากแต่ที่บ้านของเวสนั้นเป็นสีขาวไม่ใช่สีดำ

"ไหน เวส ลองเล่นให้เจ๊คนสวยฟังหน่อยซิ" เกลที่ตอนนี้มีสถานะเป็นเจ๊ของเวสพูดอย่างสนิทสนมซึ่งเจ้าของชื่อก็ยิ้มจนตาหยีรับ

"อื้อ! ได้ ได้เลย เจ๊ เจ๊คนสวย อยากฟังอะไร" ร่างโปร่งพูดอย่างผ่อนคลายและเป็นกันเองเพราะเสือแนะนำว่าคนๆ นี้เป็นเพื่อนของเสือ ใจดีมากๆ แน่นอนว่าเวสชอบคนที่ใจดีกับเขามากที่สุด

"เวสพออ่านโน๊ตได้ไหม เจ๊อยากฟังเพลงนี้อ่ะ" คนถูกเรียกว่าเจ๊ยื่นโน๊ตเพลงเจ้าปัญหาของนักดนตรีนั่นให้กับเวสซึ่งเธอก็พอได้ยินมาบ้างว่าเพลงบ้านี่เพราะแต่ถ้าจะเล่นให้ดีเล่นยากมาก แต่ไอ้เพลงนี้เนี่ยแหละที่นักดนตรีนั่นโม้ใหญ่ว่าแขกทุกคนต้องชอบแน่ๆ เพราะเนื้อเพลงและทำนองของมันชวนฝันเอาสุดๆ   

เวสยิ้ม "อื้อ! เป็น เป็นสิ อ่านออก พร้อมๆ กับ กอไก่นั่นแหละ" แล้วรับมันดู "อ้ะ เพลงนี้ เวส เวสเล่นเป็น!" พูดอย่างตื่นเต้นนัยน์ตาสีทองแพรวพราว "แม่ แม่ชอบให้เวส เวสเล่นเพลงนี้มากเลย"

ทั้งๆ ที่ดวงตานั่นเปี่ยมไปด้วยความสุขแต่เกลกลับรู้สึกสลดเต็มทน ราวกับว่ามีหมอกขมุกขมัวปกคลุมทั้งร่างของเธอ.. 

ข่าวการตายของภรรยาเจ้าสัวบ้านอังศุชวาลเป็นข่าวที่ค่อนข้างดังเพราะเจ้าสัวรักภรรยาตัวเองมาก จนมีหลายสำนักข่าวนำข่าวความสูญเสียไปเล่นเป็นประเด็นแล้วเจ้าสัวตามไปเก็บรายตัว

แล้วคนๆ นี้จะรู้ถึงข่าวนี้รึเปล่านะ?

เกลตั้งคำถามในใจไม่กล้าพูดอะไร พยายามรักษาสีหน้ายิ้มแย้มของตัวเองเอาไว้

"แต่แม่ แม่.. ไม่อยู่แล้ว" เวสพูดด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ "แต่ แต่เวสก็ยังชอบ.. เพลงนี้อยู่ดี"

ร่างโปร่งค่อยๆ หลับตาลงน้ำตาค่อยๆ หยดลงมาอย่างเชื่องช้าพร้อมๆ กับการพรมนิ้วบนแป้นด้วยความนุ่มนวล เสียงที่ดังออกมาน้ำเต็มไปด้วยความละมุนละไมและลื่นหู

แต่ไม่รู้ทำไมคนฟังอย่างเกลถึงเผลอหลั่งน้ำตาออกมาซะอย่างงั้น

เธอเคยฟังของนักดนตรีคนเก่าเล่น มันคล้ายกันก็จริงแต่ก็ไม่ชวนให้เพลิดเพลินตามขนาดนี้ เพลงที่เวสเล่นออกมานั้นมันทั้งลื่นหูและเพลิดเพลินชวนให้ฝัน ถึงแม้เนื้อเพลงจริงๆ จะกล่าวถึงหญิงสาวที่สวยงามในแบบที่เป็นอยู่แล้วก็ตาม หากแต่เมื่อมาเล่นในแบบของเปียโนนั้นแล้วกลับให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป มันชวนให้เราจินตนาการถึงอนาคตหรืออะไรสักอย่าง ที่เราไม่ที่ทางรู้และแน่นอนว่าเราต้องรับมันให้ได้

โดยที่เรายังต้องเป็นตัวของเราเอง

จนกระทั่งเพลงจบเกลก็ยังไม่สามารถหยุดน้ำตาตัวเองได้เลยพยายามปรบมือให้เวสแทน 

"เจ๊ เจ๊ว่าเวส เวสเล่นดีไหม.. แม่ แม่บอกว่าเวสเล่นเพราะมาก" 

"เพราะสิ" เกลหยุดยืนข้างเวสแล้วลูบหัวสีขาวนุ่มๆ "อยากเล่นเพลงให้คนอื่นฟังไหม?"
แทบไม่ต้องคิดเวสพยักหน้าหงึกหงักเพราะมันเป็นความฝันของตัวเองมาตลอดแต่เวสก็รู้ตัวดีว่าตัวเองมีอะไรบางอย่างที่ต่างจากคนอื่นถึงได้ถูกกีดกันออกไปให้อยู่คนเดียว เวสไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ก็ไม่คิดจะเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเอง ของที่ว่านั่นตั้งแต่จำความได้มันก็ไม่มีมาตั้งแต่แรกแล้ว

"อยาก อยากเจ๊ เจ๊จะให้เวสเล่นเหรอ"

"อืม" หญิงสาวยิ้มทั้งๆ ที่น้ำตาคลอเบ้า
"ขอบคุณ ฮืออ ขอบ ขอบคุณ เวส เวสรักเจ๊ที่สุด รัก รักมากๆ"

เธอจับน้ำเสียงความดีใจเอามากๆ ของเวสได้ เธอก็พอเดาๆ ได้ว่าที่ผ่านมาเวสคงจะถูกขังไว้ในบ้านตามที่ข่าวลือนั่นว่าจริงๆ นี่อาจจะเป็นโอกาสครั้งแรกที่เวสได้รับจากคนอื่น

"ไม่เอา ไม่ต้องร้อง" มือบางลูบหัวทุยๆ "เดี๋ยวเจ๊โทรเรียกช่างมาตัดสูทให้ สีขาวน่าจะเหมาะกับเวส"

"อื้อ!" เวสยิ้มจนตาหยีผวากอดเกลทั้งน้ำตา "เวส ขอบ ขอบคุณจริงๆ นะ"

หญิงสาวยิ้มรับคำขอบคุณนึกไม่แปลกใจทำไมเสือร้ายนั่นถึงตกหลุมพรางจนพาเวสกลับมาได้

ถ้าเวสจะน่าเอ็นดูขนาดนี้...
 
 


ในอีกฟากของเมืองหลวงประเทศไทย บรรยากาศรอบข้างเครียดเขม็งเมื่อเสี่ยอ้วนเจ้าปัญหาที่ฮุบที่แปลงใหญ่เอาไว้ไม่ยอมขายกำลังพูดเจรจาต่อชีวิตตัวเอง

"น่า.. ท่าน ท่านก็น่าจะรู้นี่ว่าอีกปีสองปีฉันก็จะขายแล้ว" เสี่ยร่างท้วมพูดเสียงสั่นกับโทรศัพท์ในมือ สายตามองหลุกหลิกรอบตัวอย่างหวาดกลัวเมื่อถูกล้อมไปด้วยพรรคพวกของเจ้าสัวใหญ่ ส่วนพรรคพวกของมันน่ะเหรอ นอนกองใต้ตีนพวกมันหมดแล้ว! ด้วยฝีมือของคนๆ เดียว

เสี่ยอ้วนกลืนน้ำลายเอื๊อกเมื่อเผลอไปสบตาสีดำอำมหิต ทั้งๆ ที่เห็นแค่นั้นกลับรู้สึกกลัวจนตัวสั่นหนักยิ่งกว่าเดิม

// สรุปจะไม่ขาย..? //

เสียงในโทรศัพท์ถามกลับมาเสียงเย็นเยียบ

"โถ่ ท่านเจ้าสัว ถ้าฉันขายตอนนี้ฉันก็ไม่คุ้มสิ ขอเถอะนะ ท่าน รอให้ราคาที่มันดีดขึ้นกว่านี้ก่อน" เสี่ยพยายามพูดสุดชีวิตเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองและลูกหลาน สำหรับเสี่ยแล้วถ้าหากขายให้กับเจ้าสัวตอนนี้มีแต่ขาดทุน ยิ่งในตอนนี้ทั้งลูกของเสี่ยกำลังจะเข้ามหาลัยทั้งตัวเสี่ยและเมียที่ประสบกับปัญหาโรคเรื้อรัง ขืนขายออกไปด้วยราคานี้คงจะสายป่านขาดกันทั้งบ้าน ดังนั้นเขายอมไม่ได้หรอกที่จะต้องสูญเสียพื้นที่ตรงนี้ไป

// โลกันต์ //

สิ้นคำเรียกพยัคฆ์ดำก็หยิบกระบอกปืนขึ้นมาเล็งที่หัวของเสี่ยอ้วนด้วยสายตาลุกวาว

เสี่ยอ้วนน้ำตาไหลพรากสะอื้นฮัก "ได้โปรดท่านเจ้าสัว ฉันกับเมียก็ไม่สบาย ลูกก็ต้องเข้ามหาลัย ธุรกิจร้านอาหารฉันช่วงนี้ก็ไม่ค่อยจะดี ฮือ ถ้าฉันขายมันให้เสี่ยตอนนี้ เงินต้องไม่พอแน่ๆ"

// ฉันรอมาสามปีแล้ว อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าแกเอาเงินไปเที่ยวผู้หญิงที่ไหน //

ถึงแม้จะมีเชื้อต่างชาติแต่เจ้าสัวกลับพูดไทยชัดเจน

เสี่ยยกมือขึ้นพนมมือไหว้โลกันต์ตัวสั่นหนักกว่าเดิมเมื่อชนักที่ติดหลังถูกเปิดเผย ใบหน้าอวบเต็มไปด้วยน้ำตาจ้องพยัคฆ์ดำเพื่อขอความเห็นใจ

// ไม่ขายใช่ไหม ตอบมาเดี๋ยวนี้ //

"..." ความหวาดกลัวนั้นเกาะกุมจนพูดอะไรไม่ออก

// งั้นมึงก็เอาแบบเดียวกับเพื่อนมึงแล้วกัน เสี่ย เที่ยวให้สนุกล่ะ //

ปัง

กระสุนเจาะกลางกะโหลกเสี่ยอ้วนโดยไม่ทันได้กรีดร้อง ดวงตาของเสี่ยอ้วนถลนออกมาด้วยความตกใจก่อนที่ร่างทั้งร่างที่เคยนั่งบนเก้าอี้จะล้มลงมากองกับพื้นกลายเป็นร่างไร้วิญญาณ

โลกันต์เหลือบมองพรรคพวกของเจ้าสัวใหญ่เชิงว่างานของตัวเองนั้นเสร็จแล้วก็แยกตัวออกไปทันที
งานของพยัคฆ์ดำเหมือนจะง่ายก็จริงแต่ก็ไม่ได้ง่ายเพราะเป็นทั้งคนที่หาตำแหน่งเสี่ยอ้วนที่หลบซ่อนตัวอยู่ปลายปีและล่อให้มันออกมาก่อนที่จะปลิดชีวิตมันอย่างเลือดเย็น

ทุกอย่างที่แลกเงินก้อนใหญ่มันไม่เคยง่ายหรอก สิ่งที่โลกันต์ต้องแลกกับงานนี้มีมากมายจนเจ้าตัวหน่ายที่จะใส่ใจเพราะในหัวตอนนี้ปรากฎภาพร่างโปร่งกำลังเล่นเปียโนอย่างเพลิดเพลิน

รู้สึกว่าเปียโนของเกลในห้องโถงจะเป็นสีดำแต่ในบ้านหลังนั้นเป็นสีขาว..

ใบหน้าคมคายยิ้มเมื่อนึกอะไรออก

ถ้าเวสได้เล่นเปียโนสีขาวด้วยก็คงดีไม่หยอก
 
 



ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
เวสใช้เวลาซ้อมเพลงในการเล่นร่วมกับวงอยู่สองสามวันก็สามารถเล่นได้อย่างคล่องแคล่วจนนักดนตรีเก่าที่แขนหักและมาช่วยซ้อมเอ่ยปากชม แน่นอนว่าพวกดนตรีไม่รู้ว่าเวสเป็นลูกชายคนโตของเจ้าสัวใหญ่ รู้แค่ว่าเป็นญาติที่เกลหามาได้และเล่นเปียโนเก่งเอามากๆ ซึ่งก็มีนิสัยขี้อายไม่ค่อยพูดแต่กลับไปย้อมผมสีขาวเพราะชื่นชอบศิลปินคนหนึ่งที่พวกเขาไม่รู้จัก

พอมีคนชมว่าเล่นดีเวสก็ยิ้มไม่หุบ ถึงแม้จะอยากพูดคุยกับพวกนักดนตรีแต่ก็ต้องฝืนไม่คุยเพราะเกลสั่งห้ามไว้ ถ้าพูดคุยจะไม่ให้ขึ้นเวทีแสดงทันที เวสจึงยอมทำตามอย่างง่ายดาย

 เวสและนักดนตรีซ้อมใหญ่กันทั้งวันก่อนวันงานในวันพรุ่งนี้ซึ่งวันนี้ก็พิเศษกว่าวันอื่นตรงที่เสือของเวสก็มานั่งดูอีกฝ่ายเล่นด้วย ใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ในชุดสูทสีดำส่งยิ้มจางๆ เชิงให้กำลังใจกับร่างโปร่ง 

แน่นอนว่าทุกอย่างไม่พ้นจากสายตาของนักดนตรีและเกล พวกนักดนตรีแอบพูดคุยและแซวอย่างออกนอกหน้าว่าสองคนนี้มีอะไรๆ กันหรือเปล่าเนี่ย ซึ่งโลกันต์ก็ไม่ใช่คนที่เฟรนด์ลีอะไรจึงส่งยิ้มนุ่มๆ แทนคำตอบกับทุกคำถามจนเกลรำคาญออกมาตอบแทนว่าสองคนนี้นอนห้องเดียวกัน ทำเอาพวกนักดนตรีหัวเราะชอบใจกันยกใหญ่ ส่งรอยยิ้มแซวเวสไม่หยุด

แต่น่าเสียดายเวสไม่เข้าใจความสัมพันธ์ทำนองนั้นสักเท่าไหร่ รู้แค่ว่าตัวเองชอบอยู่กับเสือแล้วก็ฟินด์มากกว่าคนอื่นๆ เท่านั้น

เวสโบกมือให้โลกันต์ก่อนที่จะลงไปในห้วงของเสียงเพลงที่ตัวเองสร้างขึ้นมาในหัว โลกันต์โบกมือกลับมองตามอย่างเพลินตาเมื่อเห็นอีกฝ่ายได้เล่นเพลงเดี่ยวบนเวทีใหญ่ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นเพลงสุดท้ายที่ใช้ปิดงาน

เจ้าของฉายาพยัคฆ์ดำเลียริมฝีปากตัวเองขณะที่มองร่างโปร่งที่สามารถเล่นเพลงได้ทรงพลังสะท้านใจคนฟังต่างจากรูปร่างผอมบาง

งานนี้มีนักข่าวแน่นอนว่าเวสต้องดังแน่นอนและเจ้าสัวก็จะรู้เรื่องนี้

นัยน์ตาสีดำด้านทอประกายวาวโรจน์

แต่มันไม่สนหรอกโซ่ตรวนของตระกูลอังศุชวาลน่ะ 

มันไร้สาระ
 
 


"ตื่นเต้นไหม?" โลกันต์ถามเวสเสียงนุ่มนวลขณะที่ย่อตัวลงจัดเนกไทด์สีขาวให้

"อื้อ แต่ แต่ก็น่าสนุก" เวสยิ้มจนตาหยีให้เสือร้าย "หอมแก้มๆ เวลา เวลาเวสเล่นดี แม่จะหอมแก้มเวส"

เสือร้ายโคลงหัวแล้วหัวเราะหึยอมก้มลองไปหอมแก้มคนใจเด็กและทิ้งท้ายด้วยจูบเบาๆ บนริมฝีปาก

โชคดีที่ในห้องเปลี่ยนชุดมีเพียงสามคน เกลจึงสามารถจิกกัดได้อย่างสบายใจ "แหม หวานจังเลย เค้กตรงนั้นจะหวานเท่าตรงนี้ไหมน้า"

โลกันต์ไม่ตอบไม่สนใจเกลด้วยซ้ำ มือหยาบเกลี่ยผมนุ่มที่ชี้ขึ้นมาให้กลายเป็นทรง "ถึงเวลาแล้วนี่เตรียมตัวออกไปได้แล้ว เวส"

เวสลุกพรวดกอดร่างสูงที่นั่งยองๆ อยู่จนเกือบล้ม "เสือ เสือต้องตั้งใจ ตั้งใจฟังเวสนะ" แล้ววิ่งหนีออกจากห้องไปรวมกับพวกนักดนตรีทันทีไม่ต่างกับเด็กซนๆ คนนึง

"คิดว่าจะรับมือเจ้าสัวไหวไหม?" 

เจ้าของฉายาพยัคฆ์ดำหัวเราะในลำคอพูดอย่างหยิ่งผยอง "มีคุณกัญญลักษณ์สนับสนุนอยู่ ผมจะกลัวอะไรอีก ไหนจะพวกนักข่าว ถ้าเจ้าสัวมีปัญหามาก ผมก็คงจะต้องลงไม้ลงมือกับคนสนิทเจ้าสัวบ้าง"

เกลส่ายหัวระอาใจ

"หวังว่าเจ้าสัวจะลืมๆ ลูกตัวเองไปสักวันแล้วกัน"

♪~

"เริ่มแล้ว" โลกันต์พูดออกมาเพื่อเป็นการตัดบทแล้วเดินออกห้องไปนั่งยังที่พิเศษของตัวเองทันที ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ในที่นี่ของพวกแขกแต่มันก็ก็พอใจกับที่ตรงนี้ ที่ใกล้ๆ กับเวสซึ่งมันก็อยู่แถวหลังฉากนั่นแหละและมันดีตรงที่เขาสามารถมองเวสได้อย่างชัดเจน

งานวันนี้เป็นงานเลี้ยงเต้นรำของนักการเมืองตำแหน่งใหญ่ที่เชิญแขกผู้เข้าร่วมงานมามากมายทั้งดารานักแสดง ผู้ทรงอิทธิพลหรือแม้แต่เจ้าสัวใหญ่ก็ถูกเชิญแน่นอนว่าลูกชายคนโตอย่างเฟเนกส์ก็ถูกหนีบมาด้วย งานเลี้ยงเป็นไปอย่างเรียบหรูและถูกถ่ายทอดสดและเก็บบรรยากาศแทบจะตลอดเวลา ผู้คนในงานเริ่มทยอยเข้ามาร่วมงานเลี้ยงที่จัดในเวลาค่ำแต่เจ้าสัวใหญ่ยังไม่ได้มา

มีนักข่าวและแขกผู้ร่วมงานหลายคนที่ให้ความสนใจนักดนตรีที่หลับตาพริ้มเล่นเปียโนด้วยความชื่นชม เสียงที่ดังจากเปียโนนั้นนุ่มนวลลื่นหู อีกทั้งคนที่เล่นที่มีรูปลักษณ์น่าสนใจด้วยทำให้เวสถูกเก็บภาพไปลงเพจและในเฟสของดาราดังหลายคนภายใต้แคปชั่น #นักเปียโนน่ากิน

งานเลี้ยงดำเนินค่อนไปครึ่งงานก็มีช่วงที่นักดนตรีให้สัมภาษณ์หรือคุยเล่น มีนักข่าวหลายคนที่พยายามเข้าไปสัมภาษณ์เวสแต่เวสที่ถูกเตี๊ยมให้ไปพักตั้งแต่แรกก็เลยหายตัวไปจนนักข่าวอดไปตามๆ กัน 

ทันทีที่เวสกลับมาอีกครั้งก็ต้องกลับเล่นดนตรีต่อ เวสปฎิเสธผู้คนที่พยายามจะตอบคำถามด้วยรอยยิ้มแล้วก้มหน้าก้มตาเล่นเพลงตามความเคยชินของตัวเอง หากแต่เมื่อเล่นไปด้วยช่วงหนึ่งปลายนิ้วของเวสก็ชะงักค้างแต่ก็เล่นต่อแทบจะทันทีในครั้งนี้เล่นตามสัญชาตญาณเพราะหัวใจอกเต้นไม่เป็นส่ำ

สาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เมื่อกี้ขึ้นแน่นอนว่าคือสิ่งที่ทรงอิทธิพลสำหรับเวสมากที่สุด

เจ้าสัวใหญ่แห่งตระกูลอังศุชวาล

นัยน์ตาคมกริบจดจ้องคนที่เล่นเปียโนตาวาวมือที่กำแก้วไวน์กำแน่นจนแก้วแทบตาคามือไม่ต่างจากคนข้างๆ กายเจ้าสัวที่มองเวสตาไม่กระพริบราวกับจะฆ่าทั้งเป็น

พวกเขาจำคนที่ตัวเองเกลียดได้ดี ไม่รู้จะเรียกว่าจุดใต้ตำตอหรืออะไรดีที่คนที่ตามล่าหาตัวแทบพลิกแผ่นดินมาตลอดหลายวันนี้กลับมาปรากฎตัวที่นี้ได้

สายตาเจ้าสัวและลูกชายจึงหันไปมองกดดันเกลที่เดินมาต้อนรับพอดี แน่นอนว่าเธอต้องมีส่วนรู้เห็นอะไรสักอย่างในตัวลูกชังที่เจ้าสัวเกลียดนัก

"ชอบนักเปียโนเหรอคะ เจ้าสัว มองไม่วางตาเชียว" เกลกับเจ้าสัวใหญ่เคยสนิทกันในระดับหนึ่ง สนิทแบบพวกนักธุรกิจวินวินทั้งสองฝ่ายอะไรแบบนั้น

เจ้าสัวกระตุกยิ้มเย็น "ครับ ก็แปลกใจทำไมคนเล่นเปียโนหน้าตาถึงได้คุ้นหน้าคุ้นตาผมนัก"

เกลแสร้งทำสีหน้าประหลาดใจ "จริงเหรอคะเนี่ย อันนี้เป็นนักดนตรีที่เกลรู้จักมาจากเพื่อนค่ะ เจ้าสัว เห็นว่าพ่อแม่ก็เก่งดนตรีเหมือนกัน น่าจะนามสกุลอะไรสักอย่าง เกลก็จำไม่ได้แต่ไม่ใช่อังศุชวาลแน่ๆ " หญิงสาวยิ้มเย็นไม่แพ้กัน

เจ้าสัวเลิกคิ้วครุ่นคิดถึงข้อเสนอที่มาแบบไปทันตั้งตัวสักพักก่อนที่จะยิ้มเป็นมิตรมากขึ้น

ถ้าอยากได้เศษเดนนักก็เอาไปเลย

"ก็คงจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะผมเป็นลูกแค่สองคน ใช่ไหมเฟเนกส์?" ทั้งๆ ที่ประโยคสุดท้ายพูดกับเฟเนกส์แต่กลับจ้องเกลไม่วางตา

"ครับพ่อ"

เกลพอจะอ่านสิ่งที่แฝงอยู่ในคำพูดและแววตาของเจ้าสัวออก

เจ้าสัวยอมยกให้ก็จริงแต่ถ้าหากเปิดโปงเมื่อไหร่ ทั้งเจ้าสัวและตัวเธอเองคงต้องเปิดศึกกัน แน่นอนว่าเธอไม่ต้องการความวุ่นวายขนาดนั้นในชีวิตจึงพยักหน้าให้เจ้าสัว เป็นอันตกลงในข้อตกลงนี่

"เอาล่ะครับ มาถึงช่วงสุดท้ายที่ทุกคนรอคอย เดี่ยวเปียโนของนักดนตรีรูปหล่อของเราครับ!"

ทุกคนรอ..? หึ ใครมันจะไปอยากฟังเพลงจะเศษสวะ

เจ้าสัวแค่นเสียงหึอย่างดูถูกและต้องเผลอสะดุ้งกับเสียงปรบมือดังลั่น

เสียงปรบมือดังเกรียวกราวก่อนที่ไฟทั้งห้องจะดับลงเหลือเพียงบริเวณแกรนด์เปียโนสีขาวสะอาดตา ร่างโปร่งในชุดสูทสะอาดยิ้มแล้วผงกหัวให้อย่างสุภาพแล้วเริ่มเล่นเพลงโดยทิ้งทุกอย่างที่กังวลไปในหัวและจมลงในห้วงของเสียงเพลงที่ซื่อสัตย์กับเขามากที่สุด

Just the Way You Are - Bruno Mars (Piano/Cello Cover) - The Piano Guys

https://www.youtube.com/watch?v=rIBRcQdzWQs



นิ้วขาวพรมลงบนแป้นอย่างนุ่มนวลไปตามอารมณ์ของคนเล่นส่งผลให้ดนตรีออกมานุ่มมากจนนักดนตรีบางคนที่มาฟังอดอุทานออกมาเบาๆ ไม่ได้ ทุกคนคล้ายกับถูกต้องในมนต์สะกดของเสียงเพลง จดจ้องมองเวสและการเล่นดนตรีไม่วางตา สิ่งที่อยู่ในหัวคล้ายจะถูกชักจูงไปในทางเดียวกันด้วยเสียงเพลงอันเนิบนุ่มแต่ทรงพลัง

เวสเล่นต่อไปเรื่อยๆ จนจบเพลงทุกคนก็ยังไม่ได้สติ ใบหน้าน่ามองตกใจนิดๆ แล้วผลุดลุกขึ้นยืนโค้งขอบคุณตามแบบที่เสือสอน ทุกคนจึงกลับมาได้สติปรบมือเป่าปากกันเสียงดังลั่น 

ร่างโปร่งยิ้มกว้างมองรอบกายอย่างไม่เชื่อสายตาน้ำตาอาบใบหน้า มันเป็นครั้งแรกที่มีคนยอมรับคนที่แตกต่างจากคนอื่นอย่างเขามากกว่านี้ เวสหันไปยิ้มให้โลกันต์และได้รอยยิ้มกว้างกับสายตาอบอุ่นกลับมา พอหันมองสำรวจคนนั้นคนนี้ต่อก็ต้องมาชะงักกับพ่อของตัวเอง..

เจ้าสัวใหญ่มองลูกตัวเองอย่างไม่พอใจนักและเดินออกจากห้องโถงทันทีโดยให้เหตุผลว่ามีสายด่วนเข้ามาจากต่างประเทศ ส่วนเฟเนกส์ก็ถลึงตามองอย่างกราดเกรี้ยวและตามพ่อไปติดๆ

ครั้งนี้นักข่าวไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปถลาเข้าไปสัมภาษณ์เวสกันทันที

แต่คนที่ไหวตัวทันก่อนก็คือโลกันต์ ส่งซิกส์ให้เกลสั่งให้ปิดไฟ พอไฟดับหมดก็รีบถลาเข้าไปรวบตัวเวสขึ้นมาอุ้มและหนีออกไปในทางลับ

เวสหัวเราะร่วนใบหน้ามีความสุข

"เสือ เสือ เวสดีใจจัง ที่พ่อ พ่อฟังจนจบ"

โลกันต์ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบเพราะรู้ว่านั่นคงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของเจ้าสัว

"วันนี้ทำดีมาก"

เวสยิ้มทะเล้นเล่นหูเล่นตา "เสือ เสือจะให้รางวัลใช่ไหม"

แทนคำตอบของเวสโลกันต์ก้มลงจูบจนเวสหอบหายใจไม่ทัน

"แน่นอน"

พยัคฆ์ดำยิ้มร้าย

เขาไม่เคยปล่อยให้เหยื่อรอดจากปากอยู่แล้ว
 
 --------------
ตอนนี้แต่งตั้งแต่สองทุ่มยันเที่ยงคืนสิบนาที  :heaven

สภาพวันนี้ศพเดินได้ 5555
 
 
 

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2

ออฟไลน์ marshall

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ภาคปัจจุบันยิ่งน่ารัก รักคู่นี้  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่เสือจะให้รางวัลอะไรเวสอ่ะ เราอยากรู้ :z1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2

ออฟไลน์ numildkub

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มีความชอบองค์ชายมากกกกก น่ารักอ่ะ
ปกติจะเหลียดมาดเลยนะพวกงุ้งงิ้ง งี่เง่าติ้งต๊อง
แต่องค์ชายเรายอมมมมมมม น่ารักมากก จะแบ๊วไปไหน 5555
ขอบคุณนักเขียนมากนะค้า....<3

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เสือจัดรางวัลชุดใหญ่ให้เวสเลยสินะ 55555

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนพิเศษ : เสือพาเที่ยว
               
               ตลอดเวลาของชีวิตที่ผ่านมานั้นชีวิตของโลกัสไม่เคยรู้จักคำว่า 'เที่ยว' มาก่อนเพราะตั้งแต่จำความได้ก็สูญเสียพ่อแม่ไปแล้วและใช้ชีวิตอยู่ในป่ากับพยัคฆ์ทมิฬพอหลังจากนั้นอีกก็ใช้ชีวิตอีกค่อนชีวิตในการตามแก้แค้น

ทำให้สถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างอึดอัดพอสมควรสำหรับพยัคฆ์ดำ

"โลกัส ไหนๆ ช่วงนี้ร้านข้าก็หยุดแล้ว เจ้าก็พาเวสเปอร์ไปเที่ยวสิ" เกลพูดขึ้นมาบนโต๊ะอาหารที่ประกอบด้วยเสือร้าย องค์ชาย และฟินด์ในร่างเสือที่กำลังนั่งแทะกระดูก

องค์ชายที่กำลังใช้มีดตัดเนื้อปลาให้โลกัสเลิกคิ้วด้วยความสนใจ 

โลกัสกลืนน้ำลายเอือกนึกก่นด่าสาปแช่งเกลในใจแต่พอเห็นสีหน้าคาดหวังขององค์ชาย พยัคฆ์ร้ายอย่างเขาก็ปฏิเสธอะไรไม่ออกทั้งนั้น "เอาสิ"

เพราะยังไงเขาก็เคยรับปากองค์ชายไว้แล้วว่าจะพาเที่ยว

หญิงงามประจำเมืองเบิกตากว้าง "นี่ข้าหูฝาดรึเปล่า พยัคฆ์ดำผู้โหดเหี้ยมจะพากวางตัวน้อยๆ ออกไปหาทุ่งหญ้า!" แสร้งทำท่าทีตกใจเกินเหตุ 

"ข้าเคยรับปากไว้" โลกัสตอบนิ่งๆ และยิ้มให้กับองค์ชายที่ตักเนื้อใส่จานให้ "อยากไปไหนล่ะ องค์ชาย"

นัยน์ตาสีทองที่มักจะนิ่งเฉยตอนนี้เป็นประกายวาววับ

"ข้าอยากไปน้ำตก"

โลกัสหน้าถมึงทึงทันควัน

ถ้าไปน้ำตกกวางของเขาก็ต้องเล่นน้ำ พอเล่นน้ำก็จะมีคนเห็นกวางของเขา! คิดดูสิแค่คิดก็รู้สึกเลือดในกายร้อนผ่าวๆ จนแทบทนไม่ไหวแล้ว!

"สีหน้าแบบนั้น ข้ารู้นะว่าเจ้ากำลังคิดอะไร" เกลพยายามกลั้นหัวเราะ ช่วยไม่ได้เพราะรู้จักอีกฝ่ายมานานจนเกินไปทำให้รู้ว่าในหัวนั่นต้องกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ 

"ข้าอยากเล่นน้ำ" องค์ชายที่ถูกความดีใจครอบงำสติพูดด้วยรอยยิ้มกว้างโดยไม่ได้สังเกตรังสีทะมึนจากร่างเสือดำสักนิด

"...ได้สิ"

โลกัสกัดฟันพูดกำหมัดแน่นใต้โต๊ะ แน่นอนว่าถ้าถึงเวลาที่เวสเปอร์ลงเล่นน้ำจริงๆ เขาจะไล่ทุกคนออกจากน้ำตกเลยคอยดูหรือถ้ามันขัดขืนก็ฆ่าไม่ก็แทงลูกตามันซะ

ฮื่อ!

ฟินด์กระโจนขึ้นไปเกาะหน้าตักเวสเปอร์คำรามฮื่อๆ ออดอ้อนของเนื้อติดกระดูกอีก

องค์ชายยิ้มไม่ต่างจากเด็กๆ ลูบหัวฟินด์

"ฟินด์ไปเล่นน้ำกัน"

ฮื่อ~

ฟินด์คำรามตอบรับเพื่อเอาใจก่อนที่มันจะเผลอร้องโฮกออกมาเมื่อถูกเหยียบหางอย่างแรง มันกำลังจะหันไปแยกเขี้ยวใส่เจ้านายตัวเองแต่ก็ชะงักกับสีหน้าอำมหิตของเจ้านายเลยผละออกจากองค์ชายแล้วลงไปนอนรอบนพื้นพรมอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว

เวสเปอร์หันไปมองฟินด์งงๆ แต่ไม่ได้เอะใจอะไรเลยโยนเนื้อติดกระดูกอันใหญ่ที่มันต้องการไปให้

"โลกัส ข้าอยากไปลองเล่นดนตรีเปิดหมวกด้วย" องค์ชายพูดอย่างตื่นเต้น ความฝันที่เคยเลือนรางจนคิดว่าไม่มีทางเป็นจริงได้ ผุดขึ้นมาในหัวเป็นฉากๆ เล่นดนตรีเปิดหมวกก็เป็นหนึ่งในนั้น

"..ได้สิ ข้าจะทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการ"

โลกัสพูดด้วยรอยยิ้มลอบลูบขาองค์ชายใต้โต๊ะ ถึงแม้จะรู้สึกหึงหวงจนแทบทนไม่ไหวแต่รอยยิ้มองค์ชายก็คุ้มค่าที่จะพอทำเหมือนกัน

"แหม พวกหลงเด็ก" เกลเหน็บและรีบแย่งเนื้อแย่งชิ้นสุดท้ายจากในจานโลกัสมากิน แน่นอนว่าโลกัสถลึงต่อมองเกลอย่างดุร้ายไม่ต่างจากเสือโฉดสักตัว

"ยังไงถ้าเจ้าอยากกิน เวสเปอร์ก็ทำให้อยู่แล้ว ไม่ต้องมาทำหน้าโหดขนาดนั้นก็ได้" หญิงงามประจำเมืองใช้ส้อมชี้หน้าโลกัส  "อย่าลืมนะ เนื้อนี่ข้าเป็นคนไปซื้อมาจากตลาด"

"เวสเปอร์ตักให้ข้า!" โลกัสขู่แง่ง ความน่ารักของเวสเปอร์เขาไม่มีวันแบ่งให้ใครทั้งนั้น มือที่ลอบลูบขาถูกองค์ชายรวบไปจับและบีบนวดราวกับกำลังบอกกลายๆ ว่าให้ใจเย็นๆ

"งกจริง" เกลกลอกตาหน่ายๆ แล้วหันไปยิ้มให้เวสเปอร์ "ถ้าน้ำตกสวยๆ แถวเมืองเวลล์ก็มีนะแต่อยู่นอกเมืองนิดหน่อย เจ้าไปนั่งรถม้าท้ายตลาดสักชั่วโมงนึงก็ถึงแล้วล่ะ แต่ที่นั่นคนเยอะมากกกกก"

องค์ชายตาเป็นประกายเหมือนเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจ

"ไปสิ ไปเปิดหมวกที่นั่นด้วย!"

ผิดกับโลกัสที่ถลึงตามองเกลอย่างดุร้าย

บัดซบ!!! ทีแรกเขาจะพาองค์ชายไปหาน้ำตกเงียบๆ ไม่มีคนสักที่เพื่อที่จะได้ไม่เปลืองเนื้อเปลืองตัวนักแต่นี้อะไร แผนเขาพังหมดแล้ว!!!



พอลงจากรถม้าได้องค์ชายก็ชะเง้อคอมองหาน้ำตาทันที

"โลกัส คนเยอะมากเลย" องค์ชายพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อภาพตรงหน้าคือน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีปลาว่ายอยู่เต็มคลองน้ำและในนั้นก็เต็มไปด้วยทั้งมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เป็นจำนวนมาก

โลกัสกระชับมือองค์ชายและมองตามอย่างระเหี่ยใจ 

คนเยอะขนาดนี้เชียว...

"ไปเล่นกันน้ำกัน ข้าว่าน้ำนั่นต้องเย็นมากเหมือนที่หนังสือว่าแน่ๆ "

"อืม" 

โลกัสรับคำไม่เต็มใจนักแต่ก็พาองค์ชายฝ่าหมู่ชนที่เดินกันเต็มไปหมด มีทั้งการตั้งร้านขายของอาหารทั่วไปหรือแม้แต่เล่นดนตรีเปิดหมวกก็มี เวสเปอร์หยุดฟังชายคนหนึ่งหน้าตาหล่อเหลาซึ่งกำลังเป่าขลุ่ยด้วยตาเป็นประกาย

เพราะทำนองที่เน้นความตื่นเต้นเร้าใจและเร่าร้อนทำให้มีคนอยู่มุงชายหนุ่มคนนั้นเป็นจำนวนมากแต่ก็มีอีกส่วนที่หลงใหลในหน้าตาเช่นกัน น่าแปลกที่พอองค์ชายหยุดฟังได้สักพักเพลงของชายหนุ่มก็จบพอดี ใบหน้าคมคายยิ้มแย้มให้ทุกคนที่กล่าวชมและใส่เงินลงไปในหมวกใบใหญ่ก่อนที่จะผิวปากเบาๆ เรียกให้หนูตัวเล็กสีขาวซึ่งซุกตัวอยู่ในอกเสื้อมาทำหน้าที่เก็บเหรียญใส่กระเป๋าออกมาทำงาน

เจ้าหนูสีขาวกระดิกหูแล้วอ้าปากหาวหวอด มันปรือตาปีนออกมาจากเสื้อและวิ่งลงไปเก็บเงินใส่กระเป๋าที่เจ้าของวางไว้ให้อย่างขะมักขเม้น

"เพลงมันเกี่ยวกับอะไรเหรอ?" องค์ชายสาวเท้าเข้าไปใกล้ถามเสียงนุ่มอย่างสนใจซึ่งพอเห็นขลุ่ยที่แกะสลักเป็นลวดลายมังกรไฟก็ยิ่งสนใจเข้าไปใหญ่ มองขลุ่ยในมือชายหนุ่มไม่วางตา

ชายหนุ่มที่นานมากแล้วไม่มีใครถามเกี่ยวกับเพลงยิ้มให้อย่างเป็นมิตรแม้ว่าผู้ที่ทักตัวเองจะอยู่ในชุดคลุมสีดำก็ตามแต่เพราะนั่งในมุมที่ต่ำกว่าจึงเห็นใบหน้าน่ามองและนัยน์ตาสีทองเป็นประกาย

แปลกที่มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกประหลาด

เขาชอบแววตาหลงใหลเทิดทูนในดนตรีนี่ชะมัด..

"อีรอส ความรักของคู่รักที่เร่าร้อน"

มององค์ชายไม่วางตา

เวสเปอร์ยังคงไม่รู้ตัวตาเป็นประกายมากกว่าเดิม "เจ้าแต่งเองเหรอ ข้าไม่เคยได้ยินทำนองแบบนั้นมาก่อนเลย มันสนุกจนเหมือนไม่ใช่เสียงขลุ่ยเลย"

เพลงที่องค์ชายเล่นส่วนใหญ่มักจะเน้นไปที่จังหวะสนุกไม่ก็ผ่อนคลายซะมากกว่า ถ้าเพลงชวนให้รู้สึกร่างกายร้อนผ่าวแบบนี้องค์ชายไม่เคยเล่นดูสักทีแต่ก็ยอมรับว่าอยากลองดูไม่น้อย

ชายหน่มยิ้มนุ่ม "อืม ข้าแต่งเอง เจ้าอยากลองเล่นไหมล่ะ?" นัยน์ตาแพรวพราว "เดี๋ยวข้าสอนให้ตัวต่อตัวเลย"

หากแต่องค์ชายยังไม่ทันพยักหน้าก็ถูกกระชากตัวไปไว้ข้างหลังโลกัสแทบจะทันที

ใบหน้าคมของชายหนุ่มเลิกคิ้วงงๆ แล้วกลายเป็นสะดุ้งเมื่อสบตาเข้ากับนัยน์ตาสีแดงที่ตอนนี้ถลึงตามองมาราวกับจะจับฆ่าทั้งเป็น!

"โลกัส! ข้ายังคุยไม่จบเลย" องค์ชายโวยวายหน้าบึ้ง "เจ้าพาข้ามาเที่ยวนะ"

ลึกๆ โลกัสจะอยากถลาเข้าไปบีบคอชายหนุ่มที่บังอาจจะล่อลวงกวางของเขาไปแต่ก็ทำได้เพียงแค่คิดจึงหันไปเอ็ดองค์ชายที่ไม่เคยรู้อะไรเลยเสียงดุ

"ไอ้บัดซบนี่มันชอบเจ้า!" กระซิบเสียงเบา

องค์ชายกลอกตา "งี่เง่าน่า แค่สอนเล่นเพลงเอง"  และชะเง้อหน้าออกจากหลังโลกัส "ข้าพอจะเล่นขลุ่ยเป็นอยู่ เจ้าลองเล่นให้ข้าฟังดูอีกรอบ ข้าก็น่าจะเล่นตามได้แล้ว"

อย่าลืมว่าเวสเปอร์ขลุกอยู่กับเครื่องดนตรีมาตั้งแต่เด็กกับการจำเนื้อเพลงของอีกฝ่ายจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไรนัก ถ้าเล่นเพลงนี้ได้ก็คงจะไปต่อยอดเพลงอื่นๆ ได้ ถึงเวลาเขาคงจะไปหายืมเพลงจังหวะแบบนั้นจากเกลมาลองเล่นดู

ชายหนุ่มยิ้มแห้ง "ได้สิ" ด่าชายร่างยักษ์ที่น่ากลัวราวกับพยัคฆ์ในใจไม่หยุด ยกมือขลุ่ยในมือขึ้นมาเป่าอีกครั้งด้วยสภาพจิตใจที่เศร้าสลดนิดๆ

ให้ตายสิ พอเจอคนที่ถูกใจก็ดันมีเจ้าของไปซะแล้วและยังน่ากลัวมากด้วย อะไรกัน เขาแค่มองกับคุยเฉยๆ ยังทำท่าจะเข้ามาฆ่าซะอย่างงั้น

ถึงแม้ในใจจะปั่นป่วนแค่ไหนแต่ชายหนุ่มก็ยังมีความมืออาชีพมากอยู่ดีเล่นเพลงต่อไปอย่างไม่อิดออดโดยเปลี่ยนเป็นเพลงใหม่ที่จังหวะเร่าร้อนมากกว่าเดิม จนคนที่รักดนตรีอย่างองค์ชายแทบอยู่ไม่เป็นสุขจนเจ้าเสือต้องดึงตัวไว้ไม่ให้เข้าไปใกล้ชายหนุ่มนั่นมากกว่านี้

องค์ชายที่ตาเป็นประกายจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้ชายหนุ่มยิ้มกระหย่องในใจอย่างผู้ชนะ อย่างน้อยเขาก็สามารถทำให้คนๆ นี้หลงใหลเขาได้แล้วกัน 

เมื่อบทเพลงเริ่มต้นใหม่คนที่เดินผ่านหน้าใหม่หน้าเก่าก็กลับมายืนมุงกับอีกรอบเพราะตอนที่ชายหนุ่มเล่นดนตรีมันมีสเน่ห์จนปล่อยผ่านไม่ได้
โลกัสสบถหงุดหงิด ยอมรับว่าเพลงเพราะก็จริงแต่หงุดหงิดที่คนของเขาหลงระเริงกับหมอนี่ด้วยมากกว่าจึงตัดสินใจรวบเอวองค์ชายเข้าหาตัวเอง

พอโดนขัดอารมณ์ศิลป์บ่อยๆ เข้าองค์ชายก็เริ่มอารมณ์บูดจริงจัง

"โลกัส.." มองเจ้าเสือไม่สบอารมณ์

คราวนี้โลกัสเถียงไม่ออกมองเวสเปอร์ด้วยสีหน้าหงอยๆ "เจ้าจะเล่นน้ำตกไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวข้าพาไป"

องค์ชายถอนหายใจเฮือกใหญ่ในความหึงหวงเหมือนเด็กหวงของเล่นของโลกัสจึงยืนพิงอกโลกัสเพื่อตัดปัญญาน่ารำคาญ "จบเพลงนี้ก่อน"

โลกัสแสยะยิ้มเหนือกว่าให้ชายหนุ่มแล้วโอบเอวองค์ชายไว้หลวมๆ

เสียงเพลงคล้ายจะขาดช่วงไปช่วงหนึ่งเพราะชายหนุ่มรู้สึกอยากเอาขลุ่ยมาฟาดหัวร่างเสือร้ายให้รู้แล้วรู้รอดซึ่งถ้าเขารู้ว่าบุคคลตรงหน้าคือพยัคฆ์ดำที่ตายไปแล้วคงไม่วายหวาดกลัวในความคิดของตัวเองที่กล้าถึงขนาดนั้น

พอฟังไปครึ่งเพลงองค์ชายก็เริ่มจับจังหวะเพลงได้จนโยกตัวตามเบาๆ นัยน์ตาสีทองเปล่งประกายเปี่ยมสุขเพราะไม่บ่อยนักที่จะได้มาเป็นผู้ฟัง

พยัคฆ์ดำยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนที่อยู่ๆ จะจามถึงสองครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้ว

จามสองครั้งมีคนนินทา..

หัวเราะในลำคออย่างอดไม่ได้

คงจะเป็นฟินด์ล่ะมั้งเพราะขี้เกียจมีก้างขวางคอและเป็นแนวร่วมให้องค์ชาย โลกัสจึงตัดสินใจยัดฟินด์ไว้ในห้องน้ำอันหรูหราของเกล แน่นอนว่าฟินด์ร้องโฮกๆ โหยหวนจะไปด้วยแทบตาย

"ปล่อยก่อน  ข้าจะไปใส่เหรียญ" องค์ชายดึงแขนออกเบาๆ

"อืม" โลกัสยอมปล่อยองค์ชายไปง่ายๆ 

องค์ชายเหลือบมองเจ้าเสือแล้วถอนหายใจอีกรอบ ล้วงหยิบเงินในกระเป๋าตัวเองออกมาจำนวนนึงแล้วเอาใส่หมวกที่วางไว้และหยิบเหรียญนึงยื่นให้เจ้าหนูตัวเล็ก

เจ้าหนูเอื้อมมือเล็กๆ ขึ้นไปรับก่อนที่มันจะใช้หัวไถมือองค์ชายที่ลูบหัวมันอย่างเอ็นดูซึ่งถ้าหากฟินด์อยู่ตรงนี้คงไม่วายจับมันยัดใส่ปากทันทีไม่ต่างจากเจ้านายมันที่เอาแต่ส่งสายตาอำมหิตใส่ชายหนุ่ม

"ขอบคุณนะ" ชายหนุ่มยังไม่ยอมแพ้ยิ้มให้เวสเปอร์ "เจ้าบอกเล่นดนตรีเป็นแล้วเจ้าจะเล่นเปิดหมวกรึเปล่า ข้าอยากลองฟังดูบ้าง"

องค์ชายยิ้มเหลือบไปมองเห็นหน้าบอกบุญไม่รับของโลกัสก็ส่ายหัว

"ข้าอยากนะแต่คงจะไม่ได้ ถ้าเจ้าอยากฟังจริงๆ ก็ไปฟังที่ร้านเกลก็ได้"

ชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างสนใจ "อ๋อ เจ้าเป็นนักดนตรีร้านนั้นงั้นเหรอ เล่นตำแหน่งไหนงั้นเหรอ"

"ขลุ่ยน่ะ" องค์ชายยิ้มนุ่มให้กับสีหน้าตื่นตกใจของชายหนุ่ม

"..กวางระเริงเพลง?"

ชายหนุ่มพูดคล้ายกับเหม่อลอยเพราะไม่เคยมีใครเห็นหน้ากวางระเริงเพลงมาก่อน งั้นก็หมายความว่าเขาอาจจะเป็นคนแรกที่เห็นหน้ากวางระเริงเพลงงั้นสิ! เขาเคยได้ยินว่าเพลงที่กวางระเริงเล่นนั้นเพราะมากแต่ก็ไม่ว่างไปฟังสักที นี่คงจะเป็นโอกาสอันดีที่จะเข้าไปฟัง นัยน์ตาสีดำเป็นประกายวับ

และแย่งกวางระเริงเพลงมาเป็นของเขา!

น่าเสียดายที่ความคิดของเขาถูกทำลายแทบจะทันควันเมื่อชายที่มากับกวางระเริงเพลงดึงตัวไปไม่ให้พูดคุยต่ออีกและจิตสังหารรุนแรงจนสั่นสะท้านไปทั้งวิญญาณ

ชายหนุ่มสั่นเทาไม่หยุดจนเจ้าหนูส่งเสียงจี๊ดๆ อย่างเป็นห่วง

เขาโยนความคิดที่จะแย่งออกอย่างไม่คิดชีวิต

จิตสังหารเมื่อกี้มันของนักฆ่าชัดๆ...
 
 



"โลกัส ถ้าเจ้าไม่ให้ข้าถอดเสื้อคลุมนี่ออกแล้วข้าจะเล่นน้ำยังไง"

องค์ชายที่ถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้วเหลือแต่กางเกงขาสั้นและเสื้อคลุมสีดำที่เจ้าเสือยื้อไม่ให้ถอดสักที

โลกัสไม่รู้จะตอบยังไงสำหรับเขาหวงก็คือหวงนั่นแหละ

"นี่มันจะเย็นแล้วนะ" องค์ชายหน้าบูดตัดสินใจใช้จังหวะที่เจ้าเสือเผลอโยนเสื้อคลุมออกแล้วกระโดดลงน้ำทันที องค์ชายโผล่ขึ้นจากน้ำหัวเราะร่าเริงเมื่อเสือร้ายทำหน้าเหวออยู่ที่เดิม

"ลงมาสิ น้ำเย็นนะ" เวสเปอร์วักน้ำขึ้นมาเล่นหัวเราะเมื่อมีปลาว่ายเข้ามาตอดขา

ครั้งนี้เป็นโลกัสที่ถมึงทึงบ้าง พยัคฆ์ดำหันซ้ายหันขวาสำรวจสิ่งมีชีวิต ดีที่ต่างคนต่างสนใจแต่ตัวเองกับเพื่อนไม่มีใครสนใจเขากับองค์ชายนักจึงยอมลงมายืนข้างๆ น่าแปลกที่ไม่มีปลาสักตัวกล้าตอดโลกัส

องค์ชายยิ้มมองภาพสะท้อนตัวในน้ำที่ตอนนี้กลายเป็นผมสีดำอีกครั้ง ดูแปลกตาดีสำหรับการปลอมตัวแค่สีผม ช่วยไม่ได้ผู้คนส่วนใหญ่รู้แค่องค์ชายเวสเปอร์มีผมสีขาวโพลนเท่านั้นส่วนหน้าตาก็คงจะจำกันไม่ได้แล้วเพราะผ่านมาเกือบปีแล้วสำหรับเหตุการณ์นั้น

"เจ้าอยากไปไหนอีกรึเปล่า?" 

เวสเปอร์หันไปยิ้มให้เจ้าเสือจนตาหยี "อยากสิ เจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าเก็บกดแค่ไหนตอนเด็กๆ" 

เพราะจับความเศร้าในประโยคได้โลกัสถึงได้ก้าวเข้าไปลูบหัวเบาๆ

"อยากไปไหนก็บอกข้ามาแล้วกัน เดี๋ยวข้าพาไป" โลกัสลูบผมสีดำที่คราวนี้องค์ชายเป็นคนเปลี่ยนเองอย่างเพลินมือ 

องค์ชายหัวเราะขยับตัวเข้าใกล้โลกัสแล้วกอดแน่น

"อืม"

ทั้งๆ ที่กลับมาเป็นปกติแล้วแต่อุปนิสัยบางอย่างขององค์ชายยังคงเดิม บางทีองค์ชายก็รู้สึกอยากอ้อนเจ้าเสืออยู่เหมือนกันแต่ก็รู้สึกกระดากอายมาตลอดแต่วันนี้คงจะเพราะทั้งบรรยากาศและความใจดีของเจ้าเสือจึงทำให้องค์ชายอดไม่ได้ที่จะกอดแน่นคล้ายกับจะอ้อน

อึก

โลกัสกลืนน้ำลายเอือก

เป็นครั้งแรกที่นึกอยากกดองค์ชายมันซะตรงนี้ ให้ตายสิ... ถึงคราวอ้อนก็อ้อนหนักเกินไปจริงๆ

พอกอดจนพอใจองค์ชายก็ปล่อยและว่ายน้ำเล่นต่อ

"น่าเสียดายที่ฟินด์ไม่สบายวันนี้พอดี" องค์ชายบ่นหน้าเศร้าๆ

โลกัสพยายามไม่หลุดหัวเราะ

ไอ้เสือที่จะกินหัวเขาตอนเช้านั้นน่ะนะที่เรียกว่าไม่สบาย ช่วยไม่ได้ถ้าเอาฟินด์มาด้วย มันต้องขัดขวางความสุขเขาทุกอย่างแน่นอน ไอ้เสือเนรคุณแย่งความรักของเจ้านาย

"มาคนเดียวเหรอ หืม? ให้ข้าพาเที่ยวไหม"

ฉับพลันแววตาของโลกัสก็วาวโรจน์เมื่อมีไอ้หน้าไหนไม่รู้ว่ายมาหาเวสเปอร์

แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เขาต้องฆ่าไอ้บัดซบนี่!
 
 
 
 
 --------------------
จะปิดจองแล้วเด้อออ ใครสนใจเจ้าเสือ กดเลยย <3

https://www.facebook.com/YholicBooks/photos/a.605025269691203.1073741828.385300378330361/605025253024538/?type=3&theater



 

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
ีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีมาีอีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีกแล้วีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีี

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด