บทนำ
สงครามครั้งใหญ่ระหว่างเทพและปีศาจที่เรียกว่า อามาเกดอน เคยเกิดขึ้นมาแล้วและสิ้นสุดลงเมื่อปี2020 และหลังจากสงครามที่ว่าด้วยการวัดความดีความชั่วของมนุษย์ จบลงด้วยชัยชนะของเหล่าปีศาจ เนื่องจากมีคนเลวทรามบนโลกมนุษย์มากกว่าคนดี
พระเจ้าและเผ่าเทพก็ทิ้งดาวดวงนี้และมนุษย์โลกไป ปล่อยให้เหล่าปีศาจขึ้นมาจากขุมนรก ครอบครองโลกและสิ่งมีชีวิตบนโลกทั้งหมด ผ่านไปอีกห้าร้อยปี โลกมนุษย์ตอนนี้มีสามเผ่าพันธุ์หลักครอบครองอาศัยอยู่
เผ่าแรกคือ พวกมนุษย์
มนุษย์แบ่งออกเป็นสองสายพันธ์คือมนุษย์โบราณซึ่งเป็นมนุษย์ปกติไม่มีสายเลือดอื่นปลอมปน พวกนี้เป็นมนุษย์ธรรมดาแรกเริ่มก่อนที่พวกปีศาจจะเข้ามาครอบครองโลก ไม่มีความสามารถพิเศษใดใดมีแต่มันสมองเท่านั้นที่เป็นเลิศอย่างน่าพิศวง
อีกสายพันธ์หนึ่งคือพวกพ่อมดและแม่มด
พวกนี้ประกอบไปด้วย มนุษย์กลายพันธ์ พวกลูกครึ่ง และพวกมีพลังวิเศษ วิทยาการของมนุษย์กลุ่มนี้ก้าวล้ำหน้าทัดเทียมพวกปีศาจ จนพวกเขาแทบไม่คิดว่าตนเองมีสายเลือดเดียวกับพวกมนุษย์โบราณอีกต่อไป
เผ่าถัดมาคือพวกสัตวอสูร
ในกลุ่มนี้หมายถึงสัตว์ปีศาจอาทิเช่น มังกร หรือพวกอมนุษย์กลายร่างอย่างเผ่าสมิงหรือเผ่ามนุษย์หมาป่า แน่นอนว่าพวกนี้มีจำนวนน้อยและการสืบพันธ์ต่ำ พวกเขาจึงวุ่นวายอยู่กับการหาคู่มากเป็นพิเศษ
และสุดท้ายเผ่าปีศาจ
หลังจากปีศาจผู้มีสัญลักษ์แห่งบาปทั้งเจ็ดโดยการนำของลูซิเฟอร์ขึ้นครอบครองโลกใบนี้ เหล่าปีศาจก็เข้าผสมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตบนโลกจนเหลือเพียงกลุ่มหลักๆเพียงเจ็ดกลุ่มเท่านั้นที่ยังรักษาสายเลือดอันบริสุทธิ์เอาไว้ได้ และเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองรองจากพวกมนุษย์
“อื้อ”
ร้องครางเสียงแผ่วหวิวเมื่อถูกขบกัดตรงติ่งหูจนได้เลือด อัณณ์เหม่อมองดูคนที่ปากเปรอเปื้อนไปด้วยเลือดของตน ประทับจูบลงมาบนริมฝีปากของเขาเนินนานก่อนจะถอนจูบออกไป
“ปากแดงแปร๊ด น่ารักเหมือนสตรอเบอร์รี่เลยนะ”
คนถูกชมรู้สึกได้ถึงกลิ่นและรสคาวของเลือด การถูกทำร้ายกาจเช่นนี้ อัณณ์ชาชินและไม่อาจปฏิเสธ ด้วยคนตรงหน้าเป็นนายเหนือหัวและเป็นคนรักของตน
ไม่สิ จะเรียกว่าคนรัก อัณณ์เองก็ไม่หาญกล้าพอ เพราะวารินทร์ผู้นี้เป็นถึงหลานชายคนที่สามของราชาบาปราคะนามว่าแอสโมดิอุส แถมยังเป็นตัวเก็งในบรรดาบุตรที่จะได้รับสืบทอดตระกูลอันสูงส่ง หนึ่งในผู้นำของโลกใบนี้โดยการสนับสนุนของท่านลูซิเฟอร์
ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
อัณณ์เผลอขบคิดขณะกำลังร่วมรัก พอวารินทร์จับได้เรื่องที่เขาไม่มีสมาธิ ร่างบางก็ถูกลงโทษด้วยการรังแกไม่ยอมให้เขาปลดปล่อยได้โดยง่าย
“อึก…ได้โปรด”
วอนขอคนที่ขยับกายกระแทกกระทั้นอวัยวะเพศเข้าออกอย่างเนิบนาบไปพร้อมกับใช้มือบีบรัดสกัดกั้นการปลดปล่อยของตน อัณณ์ทรมานจนบิดกายพล่านไปมาในอ้อมกอดของผู้เป็นนาย
“อยากนึกเรื่องไรสาระทำไมล่ะ”
วารินทร์กระซิบเย้าด้วยรอยยิ้มละมุนละไม ปลุกเร้าอัณณ์จนทรมานหนักกว่าเดิม
“ไม่ใช่เรื่องไร้สาระนะ…อ้า…”
อัณณ์ส่งเสียงสะอื้นไห้ ก่อนที่วารินทร์จะคลายมือปล่อยให้เครื่องเพศของเขาเป็นอิสระ ในตอนนั้นร่างบางก็ปลดปล่อยออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ถูกขยับโยกอย่างหนักหน่วงจนปีกค้างคาวอันเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจปรากฏออกมาบนแผ่นหลัง
วารินทร์หัวเราะ”หึหึ”รอยยิ้มยั่วเย้าซึ่งผุดขึ้นบนริมฝีปากของผู้เป็นนายทำเอาอัณณ์หน้าแดงซ่าน แทบจะในทันทีร่างสูงใหญ่โจนจ้วงเข้ามาหนักกว่าเดิมหลายเท่าทำให้อัณณ์ผวากอดรัดอีกฝ่ายแน่นด้วยแขนและขาอย่างไม่อาจทนต่อความเสียวสะท้านได้
หลังจากบทรักอันยาวนานสิ้นสุดลง ถึงแม้ร่างกายจะอ่อนเปลี้ยะไร้เรี่ยวแรง แต่อัณณ์ก็ยังลากสังขารกลับไปยังห้องนอนของตน เพราะกลัวว่าจะทำให้ผู้เป็นนายเสื่อมเสียชื่อเสียง เมื่อมาถึงห้องก็ตรงเข้าไปนอนบนเตียงโดยไม่คิดจะทำอะไรอื่นอีก
บทที่1
ครอบครัวของอัณณ์ตั้งแต่ต้นตระกูลเป็นปีศาจฝันซึ่งรับใช้ราชาแห่งบาปมาหลายต่อหลายรุ่น บรรพบุรุษมีความภาคภูมิใจอย่างมากที่เชื้อสายในแต่ละรุ่น ล้วนได้รับความเมตตาจากเหล่าราชาแห่งบาป
ในรุ่นของเขา ร่างบางได้ถูกมอบหมายให้รับใช้บุตรชายคนที่สามของราชาบาปแห่งราคะ ทันทีที่ได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก เมื่อตอนอายุได้แปดขวบ เขาก็ตกหลุมรักผู้เป็นนายทันที
ฝันหรือ?
อัณณ์ยืนมองดูตัวเองซึ่งเป็นเด็ก เขาในตอนเด็กยืนตื่นตะลึงในความงามอย่างเพริดแพร้วของผู้เป็นนายซึ่งอายุเท่ากัน
“สวยจัง”
อัณณ์ในวัยแปดขวบพูดอย่างเผลอไผล ผู้เป็นนายตรงหน้ามีเส้นผมสีทองเปล่งประกายดั่งดวงตะวัน ริมฝีปากแดงฉานจิ้มลิ้มดั่งผลเชอรี่ และดวงตาสีฟ้าใสแบบเดียวกับห้วงน้ำอันสวยงาม เครื่องเคราทั้งหมดถูกหลอมรวมให้มีรูปลักษณ์เหนือล้ำจนเกินจะบรรยาย งดงามเสียจนใจของเด็กน้อยเต้นระส่ำ ในตอนนั้นก็ตัดสินใจว่าจะปกป้องเจ้าหญิงตัวน้อยในฐานะเพศชายไปตลอดชีวิต
“เธอเองก็น่ารักมาก”
ผู้เป็นนายแย้มยิ้ม คำชมของเจ้าหญิงผู้แสนอ่อนหวานทำให้ใบหน้าที่แดงอยู่แล้วของอัณณ์เป็นสีแดงก่ำมากยิ่งขึ้นไปอีก
“ให้ผมได้ปกป้องคุณตลอดไปนะ”
พูดขอออกไปอย่างตะกุกตะกัก แทนคำตอบ ผู้เป็นนายผู้แสนงดงาม บรรจงจูบลงบนแก้มของเขาโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
ฝันร้ายชัดๆ
คิดอย่างอารมณ์เสียขณะลืมตาตื่น สำหรับอัณณ์อดีตในครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของเขา
หากว่าตอนนั้นไม่เข้าใจผิดว่าผู้เป็นนายเป็นเด็กหญิง เขาในตอนนี้อาจจะได้ยืนเคียงข้างในฐานะซาคิวบัสแทนที่จะเป็นอินคิวบัสซึ่งเป็นเพศชายเหมือนกัน
นอกจากจะต้องเก็บกดกับความต่างชั้นฐานะยังต้องเจ็บใจที่ไม่อาจยืนคียงข้างในฐานะผู้ให้กำเนิดบุตรแก่คนที่ตนเฝ้าหลงไหลได้
หากว่าให้กำเนิดบุตรให้แก่วารินทร์ได้ คงจะสามารถแสดงตนออกหน้าว่าเป็นคนรักของอีกฝ่ายได้อย่างภาคภูมิ การเลือกผิดพลาดเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิต ส่งผลเสียจนยากที่อัณณ์จะแก้ไขได้
แน่นอนถ้าให้กำเนิดบุตรของวารินทร์ เขาคงจะไม่จบลงแค่เป็นชู้รักดั่งเช่นทุกวันนี้ การที่อยากจะกลายร่างเป็นผู้หญิงและให้กำเนิดบุตร เป็นความทะเยอทะยานเบื้องลึกซึ่งอยากจะใช้มันยึดเหนี่ยวผู้เป็นนายเอาไว้ ทั้งทางพฤตินัยและในทางนิตินัย แต่ทว่า เมื่อแก้ไขไม่ได้แล้ว ก็มีเพียงจะต้องทำใจยอมรับไปพร้อมกับเจ็บปวด
“ช้านะ”
ทันทีที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วไปถึงรถคันหรูซึ่งจอดรออยู่ ผู้เป็นนายก็เอ่ยทักด้วยใบหน้าอ่อนโยนเป็นเนืองนิตย์
“ขอโทษคือฉันลุกไม่ขึ้นจริงๆ”
เอ่ยขอโทษขณะขยับกายเข้าไปนั่งบนเบาะในรถเคียงข้างวารินทร์
“ถ้าไม่ฝืนสังขารลุกออกไปแล้วยอมนอนเฉยๆก็คงไม่เป็นแบบนี้”
วารินทร์ยิ้มพราย
“ไม่ได้หรอก ถ้าอยู่จนถึงเช้า พวกข้ารับใช้คนอื่นๆก็มาเห็นเข้านะสิ”
อัณณ์เบ้ปาก พร้อมกันนั้นก็รู้สึกถึงสายตาของวารินทร์ที่ทอดมองมาอย่างอ่อนโยน
“ยังจะกลัวอีกหรือ ใครๆก็รู้ว่าเธอเป็นชู้รักของผม”
อัณณ์สะอึกในลำคอ เพราะไม่อยากถูกมองเป็นแค่ชู้รักเขาถึงได้ไม่อยากให้คนอื่นมารับรู้
“ก็ไม่อยากให้ใครรู้นี่”
ถึงจะถูกแสดงท่าทางกระเง้ากระงอด แต่ผู้เป็นนายก็ยังแย้มยิ้มให้กับอาการอันไม่พึงกระทำของอัณณ์ ในจุดนี้ ร่างบางมักจะเข้าข้างตัวเองเสมอว่าตนเองนั้นพิเศษกว่าชู้รักคนอื่นๆของวารินทร์
เมื่อรถยนต์คันหรูเข้าไปจอดในสถาบันฮืสตอเรีย ทันทีที่ลงจากรถ เหล่านักเรียนหญิงชายก็กรูกันเข้ามาห้อมล้อมวารินทน์เป็นกลุ่มใหญ่
“ถอยไปสิยะ”
หนึ่งในเด็กสาวที่เข้ามาห้อมล้อมใช้ไหล่กระแทกตัวอัณณ์โดยแรงก่อนจะหันมายิ้มเยาะให้ การถูกทำแบบนี้ ร่างบางก็ชาชินอีกเช่นกัน เนื่องจากเพราะรูปโฉมอันงามล้ำของวารินทร์ บางครั้งผู้ติดตามอย่างเขายังถูกแรงหึงหวงของเหล่าสาวกเล่นงาน
“เฮอะ ก็แค่ปีศาจบำเรอชั้นต่ำ ตรงนี้ไม่มีงานของนายแล้วไสหัวไปเลย”
เด็กสาวที่เดินชนเอ่ยเสียงดัง ในตอนนั้นเหล่ากลุ่มคนที่รายล้อมวารินทร์ก็พากันหัวเราะเย้ยหยันกันท้วนหน้า อัณณ์เลือดขึ้นหน้าจนแทบถลาเข้าไปเอาเรื่อง แต่กลับถูกผู้เป็นนายออกคำสั่งเสียก่อน
“เอากระเป๋าของผมไปเก็บซะอัณณ์”
กระเป๋าของวารินทร์ถูกส่งต่อมาเป็นทอดๆจนถึงมือของอัณณ์ เด็กหนุ่มเดินปึงปังไปยังห้องเรียนประจำชั้นของเขาและเจ้านายอย่างหัวเสีย
“บ้าที่สุด”
อัณณ์โยนกระเป๋าลงบนโต๊ะเสียงโครมคราม ภายในใจคุกรุ่นด้วยไฟริษยา
อยากจะยืนเคียงข้างในฐานะคู่ชีวิต
อยากจะแสดงให้ผู้อื่นรู้ว่าตนนั้นเป็นผู้ที่รักวารินทร์ยิ่งกว่าใคร
หากแต่ไม่กล้าพอ ถ้าเขามีร่างกายเป็นสตรีแล้วให้กำเนิดบุตรได้ล่ะก็ คงจะสามารถใช้สิ่งนั้นยึดเหนี่ยวให้ผู้เป็นนายหลงไหลคลั่งใคล้ในตัวเขาก็เป็นได้
ถึงจะคิดด้วยความมั่นใจเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริง อัณณ์รู้ดี มันไม่จริงเลย เด็กหนุ่มรู้นิสัยของวารินทร์ดี
คนคนนั้นเย็นชาและรักอิสระยิ่งกว่าใคร ผู้เป็นนายจะไม่ยอมหยุดนิ่งอยู่กับใครเพียงผู้เดียว เห็นได้จากสัมพันธ์รักกับเหล่าผู้คนและปีศาจจำนวนมาก อัณณ์เจ็บปวดแทบตายทุกครั้ง ถึงจะเพียงแค่เห็นอีกฝ่ายพูดคุยสนทนากับใครแค่ไม่กี่ประโยค
“เจ็บใจนัก”
แค่เจ็บใจมันยังน้อยไป ถึงแม้จะได้มีความสัมพันธ์ทางกายกับคนที่ตนหลงใหลมานานหลายปี แต่สำหรับอัณณ์ มันไม่ไดเข้าใกล้ความรักในอุดมคติเลยซักนิด
คนรักกันต้องไม่วอกแวกไปมีคนอื่น จะต้องรักและปรารถนาแต่คนคนเดียวตลอดไป แต่วารินทร์แหกกฎความรักที่เขาขีดไว้ทุกอย่าง เข้าใจดีว่าตนเองมีความคิดความอ่านไม่เหมือนปีศาจฝันทั่วไป
แต่นับตั้งแต่มีสัมพันธ์สวาทครั้งแรกกับวารินทร์ ทั้งทั้งที่มันควรจะเป็นการเริ่มต้นประสบการ์ล่าเหยื่อในครั้งแรกซึ่งจะนำมาสู่เหยื่อรายต่อไป กลับกลายเป็นการเลือกแหล่งอาหารรายเดียวและรายสุดท้ายที่ตนจะร่วมรักด้วยไปตลอดกาล
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พอลูดพี่ลูกน้องได้ฟังต่างก็พากันหัวเราะ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน “ถึงจะล่าเหยื่อชั้นสูงได้ แต่การที่เอาแต่กินเหยื่อแบบเดิมซ้ำๆกันอาจจะหมายถึงนายกำลังป่วยอยู่ก็ได้นะ”
ป่วย คำคำนี้แทงใจนัก
ใช่เขากำลังป่วย ป่วยเป็นโรครักที่ไม่มีวันรักษาหายได้นอกจากวารินทร์เพียงผู้เดียว
อยากจะเป็นที่ยอมรับแต่ไม่กล้าเปิดเผยตัว
ด้วยรู้ทั้งรู้ ศักดิ์และฐานะของตนต่ำต้อยกว่ามาก แถมยังมีปีศาจชั้นสูงมากมายจ้องจะเกี่ยวดองกับผู้เป็นนาย เพราะฉะนั้นจึงพึงพอใจอยู่บ้างกับการได้เป็นชู้รักแบบแอบๆของวารินทร์
ถึงแม้จะมีพวกหูตาไวบางคนรู้เรื่องของพวกเขาบ้างก็ตาม แต่ก็ไม่ได้กังวล กลับดีใจที่มีคนเข้าใจฐานะของตนโดยที่ไม่ได้เอ่ยบอก อัณณ์พึงพอใจกับการที่มีคนรูด้วยตนเองมากกว่าจะป่าวประกาศออกไปให้อับอาย
“อารมณ์เสียแต่เช้าเลยนะ”
ดวงตาขุ่นตวัดมองดูผู้พูด ผู้เอ่ยทักเป็นเพื่อนสนิทของอัณณ์มีชื่อว่าศิศิรา<น้ำค้าง> คนคนนี้เป็นมนุษย์สายพันธ์พ่อมด รูปร่างหน้าตาจัดว่าสวยคมจนใครๆต่างก็อยากเข้ามาทำความรู้จัก
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
อัณณ์ถามขณะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้
“ก็ตั้งแต่นายเดินปึงปังเข้ามา”
ศิศิราหัวเราะพลางลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ
“ว่าไงสนใจวิธีการทำให้ท้องของเผ่าพ่อมดไหม รับรองแค่ทานยาเตรียมพร้อมก่อนร่วมรักอีกนิดหน่อย นายจะได้ลูกชายน่ารักๆเชื้อสายของวารินทร์มาครอบครองในทันที”
“ไม่”
“ทำไมล่ะ”
ศิศิราตีหน้าบึ้ง
“ถ้าทำแบบนั้นจะถูกเกลียดเอานะสิ ก่อนหน้านั้นชายหญิงที่จ้องจะจับวารินทร์ด้วยการมีเด็กอยากรู้ไหมว่าถูกปฏิบัติด้วยยังไง”
“ถูกทำให้แท้งเดี๋ยวนั้นไม่ว่าชายหรือหญิง”
ศิศิราเบ้หน้าตอบคำถามของอัณณ์ที่ทำสีหน้าจริงจัง
“ตามนั้นแหละ ถึงฉันจะเป็นชู้รักที่คนคนนั้นเอ็นดูมากแค่ไหน หากทำตามใจชอบมากเกินไป ก็ไม่รู้ว่าจะถูกลงโทษหรือถูกเกลียดแบบไหน”
“กลัวโดนลงโทษหรือว่ากลัวถูกเกลียดล่ะ”
ศิศิราใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางขณะมืออีกข้างหนึ่งก็เคาะลงบนโต๊ะเรียนเป็นจังหวะ
“กลัวถูกเกลียด”
อัณณ์ตอบด้วยสีหน้าขมขื่น แทบจะในทันทีรอยยิ้มสมเพชเวทนาปรากฏบนใบหน้าของศิศิรา
“นายมันก้อย่างนี้ ยอมมากเกินไป แทนที่จะมาจมปรักกับผู้ชายไม่จริงใจ ทำไมไม่หาคู่ของตัวเอง หรือไม่ก้หัดทำตัวสนุกให้สมกับเผ่าพันธ์ เล่นไม่เลือกแบบเจ้าหมอนั่นดูบ้าง”
“ทำไม่ได้” อัณณ์หลับตาลงพร้อมกับส่ายหน้า
“ทำไม”
“ถ้าทำตัวแบบนั้นก็กลัวจะกลับไปมีสัมพันธ์ลับๆกับวารินทร์ไม่ได้อีกต่อไป”
“เฮอะ น้อยไปสิ เจ้าแห่งราคะนั่นอาจจะสนุกที่ได้เป็นชู้กับนายก็ได้จริงไหมกลัวอะไรหนักหนา”
“ไม่ได้กลัวนะ” อัณณ์ตอบด้วยเสียงหงุดหงิด
“ถ้าอย่างนั้นก็ลองดูเป็นไงกับเจ้าพวกนั้นที่มองนายมาตั้งแต่เมื่อครู่”
อัณณ์หันควับไปมองตามปลายนิ้วของศิศิรา ทันทีที่มองไปกลุ่มคนจำนวนมากที่ลอบมองก้พากันเสมองไปทางอื่น
“นายมีหน้าตาที่สวยน่ารักถึงขนาดนี้อย่าให้เสียของสิ”
“ไม่น่ารักขนาดนั้นหรอกน่า”
น่ารัก สวย เคยถูกวารินทร์เอ่ยชมแบบหยอกเย้าอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะเส้นผมสีคาราเมลกับดวงตากลมโตที่มักจะได้รับคำชมมากเป็นพิเศษ พอถูกชมมากมากเข้า หัวใจดวงน้อยก็ฟูฟ่องพองโต แต่ถ้าหากว่าเขางดงามอย่างที่อีกฝ่ายบอกจริง
ทำไมกันนะ
เจ้านายผู้ที่เขาคลั่งใคล้กลับยังมีคนอื่นอีกมากมาย เพราะเป็นเจ้าแห่งราคะอย่างนั้นหรือ หรือ ลีลาร่วมรักของเขามันน่าเบื่อจืดชืดกันแน่นะ
“ว่าไง จะลองดูไหม กับใครซักคน บางที นายท่านวารินทร์อาจจะหึงหวงบ้างก็ได้น้า” ศิศิราทำหน้าเจ้าเล่ห์
“เอ่อ…จะลองพิจจารนาดูแล้วกันนะ”
“ไม่แค่ลองคิดดูสิ แต่ต้องทำเลยตกลงนะ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ฉันจะแนะนำผู้ชายดีดีให้”
อัณณ์ตอบรับแบบขอไปที ในตอนนั้น วารินทร์ผู้เป็นนายก็เดินเข้ามาพร้อมฝูงชนที่รายล้อม
เรื่องใหม่ค่ะชอบไม่ชอบเม้นกันบ้างน้า