พิมพ์หน้านี้ - Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: Silvan ที่ 28-12-2015 16:35:25

หัวข้อ: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 28-12-2015 16:35:25
กระทู้: 4
ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: 0
ดูรายละเอียด  ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)


ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


นี่เป็นนิยายเรื่องที่สามของเราคะ เรื่องนี้ก็แฟนตาซีอีกแล้ว ฝากอ่านฝากคอมเม้นกันด้วยนะคะ

เรื่องเก่าแวะไปอ่านกันได้นะคะ

 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46572.0 
amante del diablo

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47778.0
Forbidden  dashuria รักต้องห้าม

เขียนจบแล้วทั้งสองเรื่องค่ะ

รักคนอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่1 28/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 28-12-2015 16:39:09
บทนำ

สงครามครั้งใหญ่ระหว่างเทพและปีศาจที่เรียกว่า อามาเกดอน เคยเกิดขึ้นมาแล้วและสิ้นสุดลงเมื่อปี2020 และหลังจากสงครามที่ว่าด้วยการวัดความดีความชั่วของมนุษย์ จบลงด้วยชัยชนะของเหล่าปีศาจ เนื่องจากมีคนเลวทรามบนโลกมนุษย์มากกว่าคนดี
พระเจ้าและเผ่าเทพก็ทิ้งดาวดวงนี้และมนุษย์โลกไป ปล่อยให้เหล่าปีศาจขึ้นมาจากขุมนรก ครอบครองโลกและสิ่งมีชีวิตบนโลกทั้งหมด ผ่านไปอีกห้าร้อยปี โลกมนุษย์ตอนนี้มีสามเผ่าพันธุ์หลักครอบครองอาศัยอยู่

เผ่าแรกคือ พวกมนุษย์

มนุษย์แบ่งออกเป็นสองสายพันธ์คือมนุษย์โบราณซึ่งเป็นมนุษย์ปกติไม่มีสายเลือดอื่นปลอมปน พวกนี้เป็นมนุษย์ธรรมดาแรกเริ่มก่อนที่พวกปีศาจจะเข้ามาครอบครองโลก ไม่มีความสามารถพิเศษใดใดมีแต่มันสมองเท่านั้นที่เป็นเลิศอย่างน่าพิศวง

อีกสายพันธ์หนึ่งคือพวกพ่อมดและแม่มด

พวกนี้ประกอบไปด้วย มนุษย์กลายพันธ์ พวกลูกครึ่ง และพวกมีพลังวิเศษ วิทยาการของมนุษย์กลุ่มนี้ก้าวล้ำหน้าทัดเทียมพวกปีศาจ จนพวกเขาแทบไม่คิดว่าตนเองมีสายเลือดเดียวกับพวกมนุษย์โบราณอีกต่อไป

เผ่าถัดมาคือพวกสัตวอสูร

ในกลุ่มนี้หมายถึงสัตว์ปีศาจอาทิเช่น มังกร หรือพวกอมนุษย์กลายร่างอย่างเผ่าสมิงหรือเผ่ามนุษย์หมาป่า แน่นอนว่าพวกนี้มีจำนวนน้อยและการสืบพันธ์ต่ำ พวกเขาจึงวุ่นวายอยู่กับการหาคู่มากเป็นพิเศษ

และสุดท้ายเผ่าปีศาจ

หลังจากปีศาจผู้มีสัญลักษ์แห่งบาปทั้งเจ็ดโดยการนำของลูซิเฟอร์ขึ้นครอบครองโลกใบนี้ เหล่าปีศาจก็เข้าผสมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตบนโลกจนเหลือเพียงกลุ่มหลักๆเพียงเจ็ดกลุ่มเท่านั้นที่ยังรักษาสายเลือดอันบริสุทธิ์เอาไว้ได้ และเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองรองจากพวกมนุษย์

“อื้อ”

ร้องครางเสียงแผ่วหวิวเมื่อถูกขบกัดตรงติ่งหูจนได้เลือด อัณณ์เหม่อมองดูคนที่ปากเปรอเปื้อนไปด้วยเลือดของตน ประทับจูบลงมาบนริมฝีปากของเขาเนินนานก่อนจะถอนจูบออกไป

“ปากแดงแปร๊ด น่ารักเหมือนสตรอเบอร์รี่เลยนะ”

คนถูกชมรู้สึกได้ถึงกลิ่นและรสคาวของเลือด การถูกทำร้ายกาจเช่นนี้ อัณณ์ชาชินและไม่อาจปฏิเสธ ด้วยคนตรงหน้าเป็นนายเหนือหัวและเป็นคนรักของตน

ไม่สิ จะเรียกว่าคนรัก อัณณ์เองก็ไม่หาญกล้าพอ เพราะวารินทร์ผู้นี้เป็นถึงหลานชายคนที่สามของราชาบาปราคะนามว่าแอสโมดิอุส แถมยังเป็นตัวเก็งในบรรดาบุตรที่จะได้รับสืบทอดตระกูลอันสูงส่ง หนึ่งในผู้นำของโลกใบนี้โดยการสนับสนุนของท่านลูซิเฟอร์

ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ

อัณณ์เผลอขบคิดขณะกำลังร่วมรัก พอวารินทร์จับได้เรื่องที่เขาไม่มีสมาธิ ร่างบางก็ถูกลงโทษด้วยการรังแกไม่ยอมให้เขาปลดปล่อยได้โดยง่าย

“อึก…ได้โปรด”

วอนขอคนที่ขยับกายกระแทกกระทั้นอวัยวะเพศเข้าออกอย่างเนิบนาบไปพร้อมกับใช้มือบีบรัดสกัดกั้นการปลดปล่อยของตน อัณณ์ทรมานจนบิดกายพล่านไปมาในอ้อมกอดของผู้เป็นนาย

“อยากนึกเรื่องไรสาระทำไมล่ะ”
วารินทร์กระซิบเย้าด้วยรอยยิ้มละมุนละไม ปลุกเร้าอัณณ์จนทรมานหนักกว่าเดิม

“ไม่ใช่เรื่องไร้สาระนะ…อ้า…”

อัณณ์ส่งเสียงสะอื้นไห้ ก่อนที่วารินทร์จะคลายมือปล่อยให้เครื่องเพศของเขาเป็นอิสระ ในตอนนั้นร่างบางก็ปลดปล่อยออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ถูกขยับโยกอย่างหนักหน่วงจนปีกค้างคาวอันเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจปรากฏออกมาบนแผ่นหลัง

วารินทร์หัวเราะ”หึหึ”รอยยิ้มยั่วเย้าซึ่งผุดขึ้นบนริมฝีปากของผู้เป็นนายทำเอาอัณณ์หน้าแดงซ่าน แทบจะในทันทีร่างสูงใหญ่โจนจ้วงเข้ามาหนักกว่าเดิมหลายเท่าทำให้อัณณ์ผวากอดรัดอีกฝ่ายแน่นด้วยแขนและขาอย่างไม่อาจทนต่อความเสียวสะท้านได้

หลังจากบทรักอันยาวนานสิ้นสุดลง ถึงแม้ร่างกายจะอ่อนเปลี้ยะไร้เรี่ยวแรง แต่อัณณ์ก็ยังลากสังขารกลับไปยังห้องนอนของตน เพราะกลัวว่าจะทำให้ผู้เป็นนายเสื่อมเสียชื่อเสียง เมื่อมาถึงห้องก็ตรงเข้าไปนอนบนเตียงโดยไม่คิดจะทำอะไรอื่นอีก


บทที่1

ครอบครัวของอัณณ์ตั้งแต่ต้นตระกูลเป็นปีศาจฝันซึ่งรับใช้ราชาแห่งบาปมาหลายต่อหลายรุ่น บรรพบุรุษมีความภาคภูมิใจอย่างมากที่เชื้อสายในแต่ละรุ่น ล้วนได้รับความเมตตาจากเหล่าราชาแห่งบาป

ในรุ่นของเขา ร่างบางได้ถูกมอบหมายให้รับใช้บุตรชายคนที่สามของราชาบาปแห่งราคะ ทันทีที่ได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก เมื่อตอนอายุได้แปดขวบ เขาก็ตกหลุมรักผู้เป็นนายทันที

ฝันหรือ?

อัณณ์ยืนมองดูตัวเองซึ่งเป็นเด็ก เขาในตอนเด็กยืนตื่นตะลึงในความงามอย่างเพริดแพร้วของผู้เป็นนายซึ่งอายุเท่ากัน

“สวยจัง”

อัณณ์ในวัยแปดขวบพูดอย่างเผลอไผล ผู้เป็นนายตรงหน้ามีเส้นผมสีทองเปล่งประกายดั่งดวงตะวัน ริมฝีปากแดงฉานจิ้มลิ้มดั่งผลเชอรี่ และดวงตาสีฟ้าใสแบบเดียวกับห้วงน้ำอันสวยงาม เครื่องเคราทั้งหมดถูกหลอมรวมให้มีรูปลักษณ์เหนือล้ำจนเกินจะบรรยาย งดงามเสียจนใจของเด็กน้อยเต้นระส่ำ ในตอนนั้นก็ตัดสินใจว่าจะปกป้องเจ้าหญิงตัวน้อยในฐานะเพศชายไปตลอดชีวิต

“เธอเองก็น่ารักมาก”
ผู้เป็นนายแย้มยิ้ม คำชมของเจ้าหญิงผู้แสนอ่อนหวานทำให้ใบหน้าที่แดงอยู่แล้วของอัณณ์เป็นสีแดงก่ำมากยิ่งขึ้นไปอีก

“ให้ผมได้ปกป้องคุณตลอดไปนะ”
พูดขอออกไปอย่างตะกุกตะกัก แทนคำตอบ ผู้เป็นนายผู้แสนงดงาม บรรจงจูบลงบนแก้มของเขาโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา

ฝันร้ายชัดๆ

คิดอย่างอารมณ์เสียขณะลืมตาตื่น สำหรับอัณณ์อดีตในครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของเขา
หากว่าตอนนั้นไม่เข้าใจผิดว่าผู้เป็นนายเป็นเด็กหญิง เขาในตอนนี้อาจจะได้ยืนเคียงข้างในฐานะซาคิวบัสแทนที่จะเป็นอินคิวบัสซึ่งเป็นเพศชายเหมือนกัน

นอกจากจะต้องเก็บกดกับความต่างชั้นฐานะยังต้องเจ็บใจที่ไม่อาจยืนคียงข้างในฐานะผู้ให้กำเนิดบุตรแก่คนที่ตนเฝ้าหลงไหลได้
หากว่าให้กำเนิดบุตรให้แก่วารินทร์ได้ คงจะสามารถแสดงตนออกหน้าว่าเป็นคนรักของอีกฝ่ายได้อย่างภาคภูมิ การเลือกผิดพลาดเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิต ส่งผลเสียจนยากที่อัณณ์จะแก้ไขได้

แน่นอนถ้าให้กำเนิดบุตรของวารินทร์ เขาคงจะไม่จบลงแค่เป็นชู้รักดั่งเช่นทุกวันนี้ การที่อยากจะกลายร่างเป็นผู้หญิงและให้กำเนิดบุตร เป็นความทะเยอทะยานเบื้องลึกซึ่งอยากจะใช้มันยึดเหนี่ยวผู้เป็นนายเอาไว้ ทั้งทางพฤตินัยและในทางนิตินัย แต่ทว่า เมื่อแก้ไขไม่ได้แล้ว ก็มีเพียงจะต้องทำใจยอมรับไปพร้อมกับเจ็บปวด

“ช้านะ”
ทันทีที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วไปถึงรถคันหรูซึ่งจอดรออยู่ ผู้เป็นนายก็เอ่ยทักด้วยใบหน้าอ่อนโยนเป็นเนืองนิตย์

“ขอโทษคือฉันลุกไม่ขึ้นจริงๆ”
เอ่ยขอโทษขณะขยับกายเข้าไปนั่งบนเบาะในรถเคียงข้างวารินทร์

“ถ้าไม่ฝืนสังขารลุกออกไปแล้วยอมนอนเฉยๆก็คงไม่เป็นแบบนี้”
วารินทร์ยิ้มพราย

“ไม่ได้หรอก ถ้าอยู่จนถึงเช้า พวกข้ารับใช้คนอื่นๆก็มาเห็นเข้านะสิ”
อัณณ์เบ้ปาก พร้อมกันนั้นก็รู้สึกถึงสายตาของวารินทร์ที่ทอดมองมาอย่างอ่อนโยน

“ยังจะกลัวอีกหรือ ใครๆก็รู้ว่าเธอเป็นชู้รักของผม”
อัณณ์สะอึกในลำคอ เพราะไม่อยากถูกมองเป็นแค่ชู้รักเขาถึงได้ไม่อยากให้คนอื่นมารับรู้

“ก็ไม่อยากให้ใครรู้นี่”

ถึงจะถูกแสดงท่าทางกระเง้ากระงอด แต่ผู้เป็นนายก็ยังแย้มยิ้มให้กับอาการอันไม่พึงกระทำของอัณณ์ ในจุดนี้ ร่างบางมักจะเข้าข้างตัวเองเสมอว่าตนเองนั้นพิเศษกว่าชู้รักคนอื่นๆของวารินทร์
เมื่อรถยนต์คันหรูเข้าไปจอดในสถาบันฮืสตอเรีย ทันทีที่ลงจากรถ เหล่านักเรียนหญิงชายก็กรูกันเข้ามาห้อมล้อมวารินทน์เป็นกลุ่มใหญ่

“ถอยไปสิยะ”

หนึ่งในเด็กสาวที่เข้ามาห้อมล้อมใช้ไหล่กระแทกตัวอัณณ์โดยแรงก่อนจะหันมายิ้มเยาะให้ การถูกทำแบบนี้ ร่างบางก็ชาชินอีกเช่นกัน เนื่องจากเพราะรูปโฉมอันงามล้ำของวารินทร์ บางครั้งผู้ติดตามอย่างเขายังถูกแรงหึงหวงของเหล่าสาวกเล่นงาน

“เฮอะ ก็แค่ปีศาจบำเรอชั้นต่ำ ตรงนี้ไม่มีงานของนายแล้วไสหัวไปเลย”

เด็กสาวที่เดินชนเอ่ยเสียงดัง ในตอนนั้นเหล่ากลุ่มคนที่รายล้อมวารินทร์ก็พากันหัวเราะเย้ยหยันกันท้วนหน้า อัณณ์เลือดขึ้นหน้าจนแทบถลาเข้าไปเอาเรื่อง แต่กลับถูกผู้เป็นนายออกคำสั่งเสียก่อน

“เอากระเป๋าของผมไปเก็บซะอัณณ์”

กระเป๋าของวารินทร์ถูกส่งต่อมาเป็นทอดๆจนถึงมือของอัณณ์ เด็กหนุ่มเดินปึงปังไปยังห้องเรียนประจำชั้นของเขาและเจ้านายอย่างหัวเสีย

“บ้าที่สุด”

อัณณ์โยนกระเป๋าลงบนโต๊ะเสียงโครมคราม ภายในใจคุกรุ่นด้วยไฟริษยา
อยากจะยืนเคียงข้างในฐานะคู่ชีวิต

อยากจะแสดงให้ผู้อื่นรู้ว่าตนนั้นเป็นผู้ที่รักวารินทร์ยิ่งกว่าใคร

หากแต่ไม่กล้าพอ ถ้าเขามีร่างกายเป็นสตรีแล้วให้กำเนิดบุตรได้ล่ะก็ คงจะสามารถใช้สิ่งนั้นยึดเหนี่ยวให้ผู้เป็นนายหลงไหลคลั่งใคล้ในตัวเขาก็เป็นได้

ถึงจะคิดด้วยความมั่นใจเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริง อัณณ์รู้ดี มันไม่จริงเลย เด็กหนุ่มรู้นิสัยของวารินทร์ดี
คนคนนั้นเย็นชาและรักอิสระยิ่งกว่าใคร ผู้เป็นนายจะไม่ยอมหยุดนิ่งอยู่กับใครเพียงผู้เดียว เห็นได้จากสัมพันธ์รักกับเหล่าผู้คนและปีศาจจำนวนมาก อัณณ์เจ็บปวดแทบตายทุกครั้ง ถึงจะเพียงแค่เห็นอีกฝ่ายพูดคุยสนทนากับใครแค่ไม่กี่ประโยค

“เจ็บใจนัก”

แค่เจ็บใจมันยังน้อยไป ถึงแม้จะได้มีความสัมพันธ์ทางกายกับคนที่ตนหลงใหลมานานหลายปี แต่สำหรับอัณณ์ มันไม่ไดเข้าใกล้ความรักในอุดมคติเลยซักนิด

คนรักกันต้องไม่วอกแวกไปมีคนอื่น จะต้องรักและปรารถนาแต่คนคนเดียวตลอดไป แต่วารินทร์แหกกฎความรักที่เขาขีดไว้ทุกอย่าง เข้าใจดีว่าตนเองมีความคิดความอ่านไม่เหมือนปีศาจฝันทั่วไป

แต่นับตั้งแต่มีสัมพันธ์สวาทครั้งแรกกับวารินทร์ ทั้งทั้งที่มันควรจะเป็นการเริ่มต้นประสบการ์ล่าเหยื่อในครั้งแรกซึ่งจะนำมาสู่เหยื่อรายต่อไป กลับกลายเป็นการเลือกแหล่งอาหารรายเดียวและรายสุดท้ายที่ตนจะร่วมรักด้วยไปตลอดกาล

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พอลูดพี่ลูกน้องได้ฟังต่างก็พากันหัวเราะ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน “ถึงจะล่าเหยื่อชั้นสูงได้ แต่การที่เอาแต่กินเหยื่อแบบเดิมซ้ำๆกันอาจจะหมายถึงนายกำลังป่วยอยู่ก็ได้นะ”

ป่วย คำคำนี้แทงใจนัก

ใช่เขากำลังป่วย ป่วยเป็นโรครักที่ไม่มีวันรักษาหายได้นอกจากวารินทร์เพียงผู้เดียว

อยากจะเป็นที่ยอมรับแต่ไม่กล้าเปิดเผยตัว
ด้วยรู้ทั้งรู้ ศักดิ์และฐานะของตนต่ำต้อยกว่ามาก แถมยังมีปีศาจชั้นสูงมากมายจ้องจะเกี่ยวดองกับผู้เป็นนาย เพราะฉะนั้นจึงพึงพอใจอยู่บ้างกับการได้เป็นชู้รักแบบแอบๆของวารินทร์

ถึงแม้จะมีพวกหูตาไวบางคนรู้เรื่องของพวกเขาบ้างก็ตาม แต่ก็ไม่ได้กังวล กลับดีใจที่มีคนเข้าใจฐานะของตนโดยที่ไม่ได้เอ่ยบอก อัณณ์พึงพอใจกับการที่มีคนรูด้วยตนเองมากกว่าจะป่าวประกาศออกไปให้อับอาย

“อารมณ์เสียแต่เช้าเลยนะ”

ดวงตาขุ่นตวัดมองดูผู้พูด ผู้เอ่ยทักเป็นเพื่อนสนิทของอัณณ์มีชื่อว่าศิศิรา<น้ำค้าง> คนคนนี้เป็นมนุษย์สายพันธ์พ่อมด รูปร่างหน้าตาจัดว่าสวยคมจนใครๆต่างก็อยากเข้ามาทำความรู้จัก

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
อัณณ์ถามขณะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้

“ก็ตั้งแต่นายเดินปึงปังเข้ามา”
ศิศิราหัวเราะพลางลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ

“ว่าไงสนใจวิธีการทำให้ท้องของเผ่าพ่อมดไหม รับรองแค่ทานยาเตรียมพร้อมก่อนร่วมรักอีกนิดหน่อย นายจะได้ลูกชายน่ารักๆเชื้อสายของวารินทร์มาครอบครองในทันที”

“ไม่”

“ทำไมล่ะ”
ศิศิราตีหน้าบึ้ง

“ถ้าทำแบบนั้นจะถูกเกลียดเอานะสิ ก่อนหน้านั้นชายหญิงที่จ้องจะจับวารินทร์ด้วยการมีเด็กอยากรู้ไหมว่าถูกปฏิบัติด้วยยังไง”

“ถูกทำให้แท้งเดี๋ยวนั้นไม่ว่าชายหรือหญิง”
ศิศิราเบ้หน้าตอบคำถามของอัณณ์ที่ทำสีหน้าจริงจัง

“ตามนั้นแหละ ถึงฉันจะเป็นชู้รักที่คนคนนั้นเอ็นดูมากแค่ไหน หากทำตามใจชอบมากเกินไป ก็ไม่รู้ว่าจะถูกลงโทษหรือถูกเกลียดแบบไหน”

“กลัวโดนลงโทษหรือว่ากลัวถูกเกลียดล่ะ”
ศิศิราใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางขณะมืออีกข้างหนึ่งก็เคาะลงบนโต๊ะเรียนเป็นจังหวะ

“กลัวถูกเกลียด”
อัณณ์ตอบด้วยสีหน้าขมขื่น แทบจะในทันทีรอยยิ้มสมเพชเวทนาปรากฏบนใบหน้าของศิศิรา

“นายมันก้อย่างนี้ ยอมมากเกินไป แทนที่จะมาจมปรักกับผู้ชายไม่จริงใจ ทำไมไม่หาคู่ของตัวเอง หรือไม่ก้หัดทำตัวสนุกให้สมกับเผ่าพันธ์ เล่นไม่เลือกแบบเจ้าหมอนั่นดูบ้าง”

“ทำไม่ได้” อัณณ์หลับตาลงพร้อมกับส่ายหน้า

“ทำไม”

“ถ้าทำตัวแบบนั้นก็กลัวจะกลับไปมีสัมพันธ์ลับๆกับวารินทร์ไม่ได้อีกต่อไป”

“เฮอะ น้อยไปสิ เจ้าแห่งราคะนั่นอาจจะสนุกที่ได้เป็นชู้กับนายก็ได้จริงไหมกลัวอะไรหนักหนา”

“ไม่ได้กลัวนะ” อัณณ์ตอบด้วยเสียงหงุดหงิด

“ถ้าอย่างนั้นก็ลองดูเป็นไงกับเจ้าพวกนั้นที่มองนายมาตั้งแต่เมื่อครู่”
อัณณ์หันควับไปมองตามปลายนิ้วของศิศิรา ทันทีที่มองไปกลุ่มคนจำนวนมากที่ลอบมองก้พากันเสมองไปทางอื่น

“นายมีหน้าตาที่สวยน่ารักถึงขนาดนี้อย่าให้เสียของสิ”

“ไม่น่ารักขนาดนั้นหรอกน่า”

น่ารัก สวย เคยถูกวารินทร์เอ่ยชมแบบหยอกเย้าอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะเส้นผมสีคาราเมลกับดวงตากลมโตที่มักจะได้รับคำชมมากเป็นพิเศษ พอถูกชมมากมากเข้า หัวใจดวงน้อยก็ฟูฟ่องพองโต แต่ถ้าหากว่าเขางดงามอย่างที่อีกฝ่ายบอกจริง

ทำไมกันนะ

เจ้านายผู้ที่เขาคลั่งใคล้กลับยังมีคนอื่นอีกมากมาย เพราะเป็นเจ้าแห่งราคะอย่างนั้นหรือ หรือ ลีลาร่วมรักของเขามันน่าเบื่อจืดชืดกันแน่นะ

“ว่าไง จะลองดูไหม กับใครซักคน บางที นายท่านวารินทร์อาจจะหึงหวงบ้างก็ได้น้า” ศิศิราทำหน้าเจ้าเล่ห์

“เอ่อ…จะลองพิจจารนาดูแล้วกันนะ”

“ไม่แค่ลองคิดดูสิ แต่ต้องทำเลยตกลงนะ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ฉันจะแนะนำผู้ชายดีดีให้”
อัณณ์ตอบรับแบบขอไปที ในตอนนั้น วารินทร์ผู้เป็นนายก็เดินเข้ามาพร้อมฝูงชนที่รายล้อม

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

เรื่องใหม่ค่ะชอบไม่ชอบเม้นกันบ้างน้า


หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่1 28/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: nadty27 ที่ 28-12-2015 18:37:16
รอจร้าาา
อย่าดราม่ามากนะคนแต่ง~
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่1 28/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 28-12-2015 20:37:16
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่1 28/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 28-12-2015 22:16:58
 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่1 28/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 28-12-2015 22:53:46
สนุกมากกกกกกก :hao7:

ชอบๆ นี่สนับสนุนให้อัณณ์ลองไปมีอะไรกับคนอื่นบ้าง

อย่าแต่ยึดติดกับคนแบบนั้นเลย

รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่1 28/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 29-12-2015 08:49:38
ตอนที่2

ในชั่วโมงเรียนการต่อสู้ อัณณ์ใช้ร่างลวงตาหลอกล่อคู่ซ้อมให้สับสน ก่อนจะฟาดแส้อาวุธประจำตัวไปยังเพื่อนร่วมชั้นซึ่งเป็นเผ่าอสูรกลายร่างหลายครั้ง ด้วยความแรงจากการฟาดถี่ยิบ ในที่สุด เบฮีมอธก็ค่อยๆคืนร่างกลับเป็นมนุษย์และยอมแพ้ไป

“อัณณ์ พริมโรส เป็นฝ่ายชนะ”

เมื่อคำตัดสินของอาจารย์คุ้มซ้อมดังขึ้น  อาณาเขตสีขาวที่ถูกกางเอาไว้ล้อมสนามฝึกก็ค่อยๆจางหายไป อัณณ์พอรู้สึกตัวก็เห็นสายตาของผู้คนจำนวนมากมองมาอย่างคลั่งใคล้ปะปนกับสายตาอิจฉาริษยา

“ฝีมือในการตวัดแส้ของนายยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม” ศิศิราปรบมือให้อัณณ์ที่ลงจากสนามฝึก

“อ้อ คือยังไงดีนะเจ้าเบฮีมอธนั่นบังเอิญเป็นพวกใช้แรงมากกว่าสมอง เข้าทางฉันพอดีเลย”

“ว้าวนายต้องได้เกรดเอแน่ๆวิชานี้” ศิศิราเดินมาคล้องคออัณณ์แล้วหัวเราะเสียงใส

“แล้วนายล่ะ” อัณณ์ย้อนถาม

“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันเป็นพ่อมดที่เก่งที่สุดในสถาบันฮิสตอเรียแล้วนะ”

อัณณ์ส่ายหน้ายิ้มๆ ถึงเพื่อนสนิทจะชอบโอ้อวด แต่ก็ไม่ได้เป็นการพูดเกินจริงแต่อย่างใด ตระกูลของศิศิราเองก็เป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งในหมู่พ่อมด ดังนั้นฝีมือของเขาย่อมไม่ใช่ธรรมดาแน่ๆ

“ว่าแต่ไปดูเจ้าวารินทร์กันเถอะ เจ้านั่นข่มคู่ต่อสู้น่าดูเลย”

อัณณ์พยักหน้าก่อนจะถูกคนคล้องคอลางจูงไปยังสนามฝึกซ้อมของผู้เป็นนาย เมื่อมาถึง ในอาณาเขตป้องกัน  เขาเห็นวารินทร์อัดเวทย์มนต์ใส่เผ่าพ่อมดที่พยายามร่ายเวทย์ตอบโต้มาอย่างเนิบนาบ
กระสุนแห่งลมของผู้เป็นนาย ถูกปล่อยออกมากระทบร่างคู่ซ้อมทุกครั้งที่อีกฝ่ายพยายามร่ายเวทย์โจมตีไปพร้อมกับหลบหลีก

“ยอมแพ้ไปซะ”

“ท่านวารินทร์”

เสียงเอาใจช่วยดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ คู่ต่อสู้ของวารินทร์ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พริบตาที่ความอดทนต่อการโจมตีบรรลุด้วยการร่ายเวทย์โจมตีชุดใหญ่ได้ สายฟ้าสีน้ำเงินจำนวนมากก็แหวกผ่านเมฆดำลงมาบนจุดที่วารินทร์ยืนอยู่

“ไม่นะท่านวารินทร์”

เหลาสาวกของวารินทร์หวีดร้องระงม แต่คนถูกโจมตีกลับยินนิ่งไม่หลบสายฟ้าจำนวนมากแม้แต่ขยับปลายนิ้ว เมื่อสายฟ้าผ่าลงมาบนตัวของเป้าหมายแสงวาบก็ส่องจ้าจนอัณณ์ที่ยืนมองต้องหยีตา

เมื่อแสงสว่างหายวับไป วารินทร์ซึ่งถูกโอบล้อมด้วยกระแสไฟฟ้านับล้านก็รวบรวมสายฟ้ารอบตัววาดมือซัดพลังงานอันรุนแรงย้อนกลับไปยังคู่ต่อสู้ซึ่งยืนตะลึงงัน

“ไม่น่าเชื่อแม่แต่เวทย์สายฟ้าระดับสูงก็ยังทำอะไรไม่ได้เชียวหรือ”
คู่ซ้อมร้องตะโกนก่อนจะสร้างบาเรียขึ้นมาตั้งรับ แต่แรงปะทะทำให้ร่างทั้งร่างกระเด็นไปกระแทกกับม่านพลังจนสลบแน่นิ่งไป

“วารินทร์เป็นฝ่ายชนะ”
อาจารย์คุมซ้อมประกาศ อัณณ์ดีใจจนถลาเข้าไปหมายจะแสดงความยินดี หากแต่ช้าเกินไปด้วยเหล่าสาวกจำนวนมากกรูเข้าไปห้อมล้อมวารินทร์

“แย่หน่อยน้า” ศิศิราเอ่ยยิ้มๆพลางใช้มือตบลงบนบ่าของอัณณ์

“มีคนรักเป็นคนดังก็อย่างนี้แหละ”

“อืม…”

อัณณ์ตอบรับสั้งๆ ดวงตากลมจ้องมองวารินทร์ซึ่งถูกรายล้อมด้วยแววตาละห้อย

อยากจะเข้าไปอยู่ข้างๆแสดงความยินดี อยากกอดและประทับจูบลงบนริมฝีปาก อยากจะให้รู้ว่าเขาดีใจในชัยชนะของอีกฝ่ายมากแค่ไหน แต่เวลานี้ไม่เกิดความคิดเช่นนั้นอีกแล้ว ยิ่งเหล่าสาวกออเซาะห้อมล้อมผู้เป็นนายมากเท่าไหร่ หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งหดแฟบห่อเหี่ยวอย่างน่าอนาทใจ

ทำไมต้องมาหลงรักคนคนนี้ด้วยนะ

หากว่าไม่ได้มีสัมพันธ์ทางกายอันแนบชิดกันอย่างปัจจุบัน จะสามารถตัดใจจากอีกฝ่ายได้หรือเปล่านะ

เพราะความผิดพลาดในวัยเด็กเพียงแค่ครั้งเดียว กลายเป็นต้องปักอกปักใจกับผู้ชายร้ายกาจ จนไม่แม้แต่จะมีตาไปมองผู้อื่น

ถ้าเกิดในตอนนั้นเขามีสัมพันธ์สวาทครั้งแรกกับคนอื่น ตอนนี้คงกลายเป็นอินคิวบัสที่เก็บแต้มได้มากที่สุดไปแล้วมั้ง

อัณณ์หวนนึกถึงอดีตเมื่อสมัยที่เริ่มล่าเหยื่อด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก

“ต้องเริ่มล่าเหยื่อด้วยตัวเองได้แล้วนะ”

คำประกาศิตของพ่อทำอัณณ์กลุ้มใจ เผ่าพันธุ์ปีศาจฝัน สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ด้วยการรับเอาพลังวิญญาณของเหยื่อจากากรมีเพศสัมพันธ์ อัณณ์ก่อนหน้านั้นมีพ่อกับแม่คอยถ่ายพลังวิญญาณมาให้โดยตลอด พอต้องล่าเหยื่อเองก็เกิดความกังวลอย่างมาก
ให้ไปนอนกับชายหญิงแปลกหน้านี่นะ ไม่เข้าใจท่านพ่อท่านแม่ทำได้อย่างไร

อัณณ์นั่งกอดเข่าอยู่ริมสระน้ำในคฤหาสน์ประจำตระกูลของวารินทร์ หนึ่งอาทิตย์แล้วนับจากรับคำสั่งมา เขาก็ไม่ได้รับพลังงานชีวิตจากพ่อแม่แม้แต่นิดเดียว

พลังงานหมดจนใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว

ถึงจะคิดเช่นนั้น แต่ก็ยังต้องฝึกฝนไปพร้อมกับอารักขาผู้เป็นนายอย่างวารินทร์อยู่ตลอด พอลุกขึ้นยืนจู่ๆก็เซแถดๆจนเกือบจะล้มด้วยหน้ามืด

“เป็นอะไรไป”
เสียงหวานๆดังขึ้นที่ด้านหลัง

“ท่านวารินทร์”
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เขาไม่อยากให้นายท่านผู้ที่ตนแสนจะคลั่งใคล้มาเห็นสภาพน่าสังเวชแบบนี้เลย

“เป็นอะไรไปบอกผมมาสิ”
วารินทร์ยิ้มหวานก่อนจะจูงมือพาอัณณ์ไปนั่งบนเก้าอี้ริมสระ

“คือว่าผม…”
อัณณ์อึกอักแต่พอเห็นรอยยิ้มหวาดหยดของวารินทร์ ก็เล่าออกไปด้วยความพลั้งเผลอ

“อ้าวนี้กำลังกลุ้มใจเรื่องออกล่าอยู่หรอกหรือ”

“ใช่ครับ”

“กลัวหรือไง” วารินทร์อมยิ้ม

“กลัวครับอยู่ๆจะให้ไปนอนกับคนแปลกหน้าผมทำไม่ได้”

“ถ้าไม่ใช่คนแปลกหน้าล่ะจะทำได้หรือเปล่า”
อัณณ์เอียงคอมองวารินทร์
ที่บอกว่าไม่ใช่คนแปลกหน้า เด็กชายนึกไม่ออกว่าผู้เป็นนายหมายถึงใคร

“ทำรักครั้งแรกกับผมไหมล่ะ”
อัณณ์ผงะต่อคำชวนของวารินทร์ เด็กชายผวาเอามือปิดปากผู้เป็นนายด้วยท่าทีลนลาน

“พูดอะไรออกมาน่ะครับ กับปีศาจชั้นต่ำอย่างผมใครไดยินเข้าท่านวารินทร์จะเสื่อมเสียเอานะ”
วารินทร์ยังคงยิ้มและแกะมือของอัณณ์ออก อัณณ์งุนงงสับสนไปหมด

“ผมไม่ถือซักนิดเธอต่างหาก ถ้าไม่รีบ อีกหน่อยจะขาดอาหารจนหมดแรงไปนะ”
วารินทร์พูดได้ถูกที่สุด อัณณ์ในตอนนี้แทบไม่มีแรงเหลือพอจะให้วิ่งด้วยซ้ำ

“ว่ายังไง ผมกำลังเสนอตัวเป็นเหยื่อให้เธออยู่นะ”
เจ้านายผู้งดงามยื่นหน้าเข้ามาใกล้ มือเรียวสวยลูบไล้ใบหน้าของอัณณ์อย่างยั่วเย้า

“ข..ขอความกรุณษด้วยครับ”
พริบตาที่เอ่ยบอกก้ถูกพาย้ายสถานที่มาด้วยการเทเลพอร์ต อัณณ์ถูกพามาที่หน้าเตียงอันหรูหราในห้องนอนของผู้เป็นนาย

“ถอดสิ”
วารินทร์เอ่ยสั่งเสียงนุ่มนวล หากแต่อัณณ์ยังคงมองไปมองมาเลิกลั่ก

“ไม่กล้าหรือ ถ้าอย่างนั้นผมถอดก่อน”

วารินทร์ในวัยสิบสามค่อยๆถอดเสื้อผ้าทีละชิ้น เสื้อผ้าแต่ละชิ้นซึ่งหลุดออกไปทำให้หัวใจของอัณณ์เต้นระทึกหนักขึ้นเรื่อยๆ

สวย

อัณณ์มองดูเรือนกายเปลือยเปล่าของผู้เป็นนาย วารินทร์ที่รู้สึกถึงสายตาแย้มยิ้มอ่อนหวานพลางขยับกายเข้าช่วยถอดเสื้อผ้าให้อัณณ์ รู้สึกตัวอีกทีเด็กชายทั้งสองก็ยืนเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าติดกาย

“เอ่อต้องทำอย่างไรนะ”
อัณณ์เอ่ยเสียงสูงแปลกๆ ก่อนจะถูกวารินทร์ใช้นิ้วชี้จรดริมฝีปากของตนลงมาแล้วทำเสียงชี่เป็นสัญญาณบอกให้เงียบเสียง

“อยู่เฉยๆเดี๋ยวผมจะสอนเธอเอง”

พอกล่าวจบวารินทร์ก้ประกบจูบลงมาทันทีอัณณ์แทบหมดแรงเมื่อถูกปลายลิ้นสำรวจโพรงปากอย่างลึกซึ้ง เด็กชายไม่มีเวลาแม้แต่จะตกใจในความช่ำชองของผู้เป็นนาย เพราะขณะจูบก็ถูกลูบไล้ตามลำตัวไปด้วยจนเคลิบเคลิ้ม

“ท่านวารินทร์”

เอ่ยด้วยเสียงอ่อนหวานหลังจากถอนจูบ ขณะที่ถูกปลายลิ้นของผู้เป็นนายไล้เลียลงมาบนริมฝีปากอย่างยั่วเย้า คำสั่งของวารินทร์ซึ่งให้เรียกชื่อของเขาโดยไม่ต้องเติมท่านนำหน้า อัณณ์ดีใจจนแทบตัวลอยได้

“วารินทร์ผม…ผมต้องทำยังไง”
ถึงจะถามออกไปแต่วารินทร์ก็ไม่ยอมตอบอีกฝ่ายมุ่งมั่นกับการไล่จูบโลมเลียไปทั่วเรือนร่างของอัณณ์ ทำเอาผู้ออกคำถามเข่าอ่อนจนแทบยืนไม่อยู่

“ไปที่เตียง”
พอถูกสั่งก้ทำตามอย่างว่าง่าย เมื่อนอนลงบนเตียงผู้เป็นนายส่งยิ้มมาให้ก่อนจะก้มลงกลืนกินเครื่องเพศของตนเข้าไปจนหมด

“อุก…อื้อ…”
อัณณ์บิดกายไปมา สองมือขยุ้มผ้าปูเตียงจนยับย่น การปรนเปรออย่างชำนาญของวารินทร์ ทำให้ร่างเล็กปลดปล่อยออกมาในไม่กี่นาที

“อ้า…”

เสียงหวานๆหวีดร้องจนคนปรนเปรอยิ้มพึงพอใจ ดวงตากลมโตมองดูริมฝีปากของผู้เป็นนายซึ่งเปรอะเปื้อนน้ำรักของตนแล้วรู้สึกว่าช่างเย้ายวนจนอยากจะกระโจนเข้าไปจุมพิต

“ผมอยากจูบวารินทร์จัง”

ทันทีที่ร้องขอ วารินทร์ก็ประทับจูบลงมาบนริมฝีปาก รสชาติคาวของน้ำรักตนถึงจะมีรสขมนิดๆ แต่พอเป็นจากริมฝีปากของผู้เป็นนายก็ให้คิดไปเองได้ว่ามันรสชาติดีกว่าที่คิด

“ต้องเตรียมพร้อมให้ดีเสียก่อนนะ”

วารินทร์หัวเราะน้อยๆขณะเอื้อมมือไปหยิบน้ำมันหอมมาจากโต๊ะข้างเตียง อัณณ์จับต้นชนปลายไม่ถูก มองดูผุ้เป้นนายจับขาเขาแยกออกก่อนจะทาน้ำมันหอมลงบนมือแล้วชโลมลงบนช่องทางเร้นลับของเขา

“อึก…เย็น…วารินทร์มันแปลกๆอยู่นะ”

พูดทักท้วงขณะขยับตัวมองดูวารินทร์ลูบไล้น้ำมันหอมลงบนช่องทางของตนไปมา ในตอนนั้นปลายนิ้วเรียวงามก็แหย่เข้ามาภายใน

“ด..เดี๋ยว…”

“นิ่งๆ”
ดวงตาสีฟ้าใสเปล่งแสงออกมาวูบหนึ่ง พอถูกสั่งด้วยพลังแห่งอำนาจอัณณ์ก็อยู่นิ่งตามคำสั่ง

“ผมกำลังทำตัวเป็นเหยื่อให้เธออยู่นะ อยู่นิ่งๆแล้วเธอจะได้กินจนพอใจ”

อัณณ์พยักหน้าหงึกหงัก ไม่นานนักก้รู้สึกถึงปลายนิ้วที่เข้ามาสำรวจภายใน ณ จุดจุดหนึ่งเมื่อปลายนิ้วสัมผัสโดน อารมณ์ใคร่ก็พุ่งขึ้นสูงจนดวงตาของเขาฉ่ำเยิ้ม

“ตรงนี้สินะ”

“อื้อ…”
อัณณ์พยักหน้าถี่รัว ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แต่อยากให้ผู้เป็นนายกระแทกนิ้วที่ตรงจุดจุดนั้นซ้ำๆ

“อึก…วารินทร์…”

ร้องครวญครางเสียงกระเส่า โดยที่ไม่รู้ตัว ผู้เป็นนายก็สอดใส่แก่นกายเข้ามากระแทกกระทั้นอย่างช้าๆก่อนจะถี่รัวจนร่างของอัณณ์โยกคลอนไปตามแรงกระแทก

“มัน…แปลกๆ”

อัณณ์รู้สึกถึงพลังชีวิตที่ไหลผ่านเข้ามาในร่างกาย พลังงานอันล้นปรี่ทำให้ตนกระปรี่กระเปร่าไปพร้อมกับเสียวซ่านอย่างเหลือเชื่อ

“ไม่เห็นแปลกตรงไหนดีก็บอกว่าดีสิ”
วารินทร์หยอกเย้าขณะโจนจ้วงไม่หยุด

“คราวหน้า เรามาทำแบบนี้กันอีกดีไหม”

“ด…ได้หรือ…”
อัณณืถามเสียงตะกุกตะกัก เด็กชายเสียวสะท้านจนแทบจะพูดออกมาไม่เป็นภาษา

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ แค่ป้อนอาหารให้ลูกน้องตัวเอง ผมไม่รังเกียจอยู่แล้ว”

“ข…ขอความกรุณษด้วย…”
เสียงหวีดหวานร้องดัง หลังจากนั้นอัณณ์ก็ถูกวารินทร์ให้อาหารนับครั้งไม่ถ้วน โดยที่เขาไม่ต้องร้องขอแม้แต่ครั้งเดียว

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนนี้มีสต๊อกนิยายอยู่ห้าตอนค่ะ

คงจะลงได้ถี่ๆเลย

ตอนนี้ก็เป็นncของเหล่าเด็กน้อย5555ไม่ค่อยสันทัดเรื่องแต่งncเท่าไหร่

คงพอไปวัดไปวาได้เนอะ





หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่2 29/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 29-12-2015 09:44:57
อยากจะยุให้อัณณ์ไปหาเหยื่อรายอื่นแทนจัง

สวยๆอย่างนี้เสียดายของ คิคิ :hao7:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่2 29/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-12-2015 09:47:36
  :mc4:  :mc4:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่2 29/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 29-12-2015 10:20:01
 :katai2-1: :mc4:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่2 29/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 29-12-2015 11:15:53
ว๊ายๆ หนูอัณณ์อย่าใจอ่อนเกินไปนักเลย เจอคู่นิสัยแบบนี้แย่ฝุดๆ  :hao4:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่2 29/12/58
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 15-01-2016 22:23:52
Jealousy love of devil  รักแท้ของอินคิวบัส

ตอนที่3

เพราะมัวแต่คิดถึงอดีตก็เลยเผลอสบตากับวารินทร์เข้าจนได้ ในตอนนั้นจู่จู่ผู้เป็นนายก็แหวกผู้คนเดินตรงเข้ามาหา จับมือเขาแล้วฉุดให้เดินตาม

“ม…มีอะไรหรือ”
อัณณ์ถามด้วยความสงสัยขณะมองไปยังเหล่าสาวกของวารินทร์ที่มองมาอย่างไม่พอใจ

“ทำหน้าเหมือนอยากจะทำเสียขนาดนั้น ผมเลยว่าจะตอบสนองเธอเสียหน่อย หิวแล้วสินะ”

คนพูดหัวเราะหึหึ อัณณ์แทบจะไม่มีเวลาได้เอ่ยปฏิเสธ เพราะไม่นานนักก็ถูกลากมายังห้องน้ำ ร่างบางถูกดันเข้าไปในห้องเล็กๆก่อนที่อีกฝ่ายจะลงกลอนล๊อคประตูห้อง

“ที่นี้เธอก็ไม่ต้องอดทนอีกต่อไปแล้วนะ” วารินทร์ยิ้ม

“อ…อดทนอะไร”
อัณณ์ตวาดเสียงดัง วารินทร์จรดปลายนิ้วลงบนริมฝีปากแล้วร้องเสียง’ชี่’ออกมาเมื่อได้ยินเสียงอึกทึกตรงหน้าห้องน้ำ

“ท่านวารินทร์กับเจ้าปีศาจรับใช้ไปไหนแล้ว”
เสียงของกลุ่มสาวกทำให้อัณณ์หวาดระแวง ร่างบางแทบไม่อยากจะคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคนพวกนั้นมาพบเขากับวารินทร์อยู่ด้วยกันสองต่อสองในที่ลับตา

“อุ…”
เกือบจะหวีดเสียงหวานๆออกมา เมื่อผู้เป็นนายใช้ปลายนิ้วบดบี้ยอดอกทั้งสองข้างของเขาไปมา

“อ…อย่า…”

เสียงห้ามหวานๆของอัณณ์ไม่สามารถทำให้วารินทร์หยุดมือได้ พอใช้มือคว้าจับมือทั้งสองข้างหยุดการกระทำ ผู้เป็นนายก็ประกบจูบดูดดื่มลงมา ยาวนานจนร่างบางเคลิ้มระทวย

“อย่าขัดขืน…ผมรู้ว่าเธอต้องการ…”

ผู้เป็นนายแหวกเสื้อของอัณณ์ออกเผยให้เห็นยอดอกสีหวาน ก่อนจะใช้ปลายลิ้นโลมเลียยอดอกไปพร้อมกับใช้มืออีกข้างบีบคลึงข้างที่เหลือไปพร้อมกัน

“อึก…อื้อ…”
อัณณ์พยายามกลั้นเสียงอย่างสุดความสามารถ คิดสาปแช่งเหล่าสาวกที่ไม่ยอมไปง่ายๆในใจ เพราะคนเหล่านั้นทำให้เขาทรมานมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว

“พวกเราไปกันเถอะ”
เสียงของคนในกลุ่มสาวกชักชวน อัณณ์โล่งใจอย่างมากที่พวกจุ้นจ้านยกโขยงจากไปได้เสียที

“อ้า…”
อัณณ์ร้องออกมาเต็มเสียงเมื่อถูกขบกัดเน้นย้ำบริเวณเนินอก โชคดีที่เหล่าสาวกพากันจากไปแล้วและไม่มีใคร ดังนั้นจึงสามารถปล่อยตัวปล่อยใจได้เต็มที่

“อย่า…อย่าทำแค่ที่หน้าอกสิ…”

เมื่อไม่สามารถห้ามปรามได้ อัณณ์ที่ร้อนผ่าวไปทั้งร่าง ก็อยากได้รับการปลดปล่อย อยากให้วารินทร์เล้าโลมเครื่องเพศของตนอย่างทุกที

“ไม่ได้หรอก ผมกำลังทดสอบว่าเล้าโลมแค่ตรงหน้าอก เธอจะถึงจุดสุดยอดได้ไหม”

“…………..”
อัณณ์น้ำตาคลอ ยิ่งถูกดูดดุนก็ยิ่งรู้สึกดีจนแทบคลั่ง ในตอนนี้ เครื่องเพศของเขาปูดบวมจนดุนดันกางเกงออกมา

“จ…จะเลิกทำที่หน้าอกแล้วหรือ…”
เอ่ยถามเมื่อเห็นวารินทร์ใช้มือข้างหนึ่งถอดกางเกงของเขาออกจนหมด ในขณะที่ปากยังไล้เลียหน้าอกไม่เลิก

“ใครบอก…ผมอยากจะดูปฏิกิริยาที่สัมพันธ์กันระหว่างข้างล่างกับข้างบนต่างหาก”

“อึก”
พอได้รับคำตอบอัณณ์ก็เริ่มสะอื้น ร่างบางทรทรมานจากราคะที่พุ่งสูงจนบิดกายพล่านไปมา และพร้อมจะทรุดลงกับพื้นได้ทุกเมื่อ หากไม่ถูกวารินทร์ใช้มือพยุงไว้

“ได้โปรด…ขอร้องล่ะ…”

ถึงจะร้องขอไปก็ไม่มีเสียงตอบรับ ขณะที่ถูกขบกัดอย่างแรง ความเสียวซ่านก็แล่นไปยังจุดกลางลำตัวซึ่งชูชัน จนในที่สุดอัณณ์ก็ปลดปล่อยออกมาโดยที่อีกฝ่ายเล้าโลมแค่ตรงยอดอก

“ใจร้าย…ทำในที่แบบนี้หากใครมาเห็นเข้า…แถม…แถมยัง….”

อัณณ์ไม่อยากพูดออกมาว่าเขาอดสูใจมากแค่ไหน แค่หวาดกลัวเรื่องที่จะมีคนมาเห็นเข้าก็มากพอแล้ว ยังดึงดันรังแกหน้าอกของเขาจนปลดปล่อยออกมาจนได้

แบบนี้มันไม่ได้หมายถึงตนเองร่านในราคะจนแค่หน้าอกก็ถึงสวรรค์ได้หรอกหรือ ร่างบางคิดแค้นเคืองผู้เป็นนายจนหมายจะทุบอีกฝ่ายให้หายแค้น แต่แทนที่จะได้ทำ ก็สังเกตเห็นทัศนียภาพโดยรอบซึ่งแปลกตาไป

“ที่นี่มัน”

อัณณ์ที่ถูกพยุงไว้ในอ้อมกอด กวาดมองโดยรอบอย่างงุนงง เขากับผู้เป็นนายตอนนี้อยู่ในห้องนอนอันกว้างขวางแทนที่จะเป็นในห้องน้ำคับแคบของสถาบันฮิสตอเรีย

“เพราะว่าเธอเอาแต่พูดว่าอับอายกลัวคนอื่นจะรู้ถึงความสัมพันธ์ของเรา ดังนั้น ผมก็เลยต้องเตรียมบ้านลับๆเอาไว้อาศัยอยู่กับเธออย่างไรล่ะ”
วารินทร์ยิ้มหวานให้คนที่จับต้นชนปลายไม่ถูก

“บ้านลับ…”

“ใช่แล้ว บ้านที่ผมกับเธอจะอาศัยอยู่ด้วยกันตั้งแต่วันนี้”
วารินทร์กล่าวจบก็พาคนในอ้อมกอดไปยังเตียง พอจัดการให้อัณณ์นอนลงบนเตียงได้ มือใหญ่ก็เอื้อมมาบีบกำเครื่องเพศของร่างบาง

“คราวนี้จะช่วยให้ถึงอีกครั้งนะ”
ยิ้มกริ่มพลางชักรูดแก่นกายของอัณณ์ขึ้นลง ร่างบางถึงแม้จะไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ไฟราคะที่ยังไม่มอดดีก็ลุกโพลงขึ้นมาในทันที

“เรา…เราจะไม่กลับไปยังคฤหาสน์ประจำตระกูลอีกแล้วหรือ”
อัณณ์ถามขณะครางออกมาเป็นระยะระยะ

“ใช่ เราสองคนจะอยู่ที่บ้านหลังนี้ตลอดไปเพราะว่าเธอจะสบายใจมากกว่าอยู่ที่คฤหาสน์ประจำตระกูลของผม”

ดีใจ

คำคำนี้ผุดขึ้นในใจของอัณณ์ แค่คิดว่าผู้เป็นนายเอาใจใส่ความรู้สึกของตน ร่างบางก็ปลดปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว

“เร็วจริงนะ”

คนถูกทักสะเทิ้นหน้าหนีอับอาย แต่พอหันกลับไปสบตากับวารินทร์อีกครั้ง แววตาอันเต็มไปด้วยความเอ็นดู ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่อัณณ์ตีค่าว่าตนเองเป็นที่รักที่สุดในบรรดาชู้รักซึ่งผู้เป็นนายมีทั้งหมด

“นายคงจะไม่พาใครอื่นมาที่นี่หรอกใช่ไหม”
อัณณ์บดเบียดกายออดอ้อนเจ้าของร่างกำยำ มือทั้งสองข้างโน้มคอให้ใบหน้าของวารินทร์เข้ามาประชิดกับใบหน้าของตน

“ผมไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในที่ส่วนตัวของผม”

ดีใจสุดๆ

อัณณ์ฉีกยิ้มกว้าง แทบจะในวินาทีเดียวกัน ร่างบางระดมจูบลงบนใบหน้าของผู้เป็นนายไปทั่งด้วยความรักและหลงใหล

“ถ้าอารมณ์ดีแล้วเราก็มาทำรักกันเสียทีเถอะ”

ร่างบางพยักหน้าหงึกหงัก จากนั้นการร่วมรักที่ร้อนเร่าดั่งเปลวไฟก้ดำเนินไปยาวนานจนข้ามไปถึงตอนสายของอีกวัน
เสียงทุ้มต่ำทรงเสน่ห์ของผู้เป็นนายปลุกให้อัณณ์ลืมตา หากแต่เจ้าตัวยังแกล้งหลับนอนเงียหูฟังเรื่องที่เจ้านายกำลังพูด

“ตกลงจะให้ไปพบที่คลับxxxสินะเข้าใจแล้ว”
พอเสียงวางสายกริ๊กดังขึ้น อัณณ์ก็รีบหลับตาทันที เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้เตียงเรื่อยๆก่อนจะหยุดลง

“ผมรู้นะว่าเธอตื่นอยู่”
เมื่อถูกจับได้อัณณ์ก็หัวเราะแหะๆ ดวงตากลมโตจับจ้องวารินทร์ที่งดงามเป็นพิเศษด้วยเครื่องแต่งตัวที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ซึ่งเดิมก็ดูดีอยู่แล้ว

“จะไปไหนหรือ…” อัณณ์ถามด้วยความอยากรู้

“เธอรู้แล้วจะถามผมทำไมอีก”
วารินทร์ยิ้มเย้า เป็นรอยยิ้มที่ทำให้อัณณ์หงุดหงิดจนทนไม่ไหว

“ฉันอยากรู้ว่านายไปหาใครต่างหาก”

“เพื่อนของผม เธอจะไปด้วยหรือเปล่าล่ะ”

อัณณ์อยากไปใจแทบขาด แต่ร่างกายที่เต็มอิ่มจนขยับตัวแทบไม่ได้กลายเป็นอุปสรรคใหญ่ไปเสียนี่

ไม่ไหวแฮะ
อัณณ์พยายามขยับกายลุกขึ้นนั่ง

ม่น่าระเริงรักจนข้ามวันข้ามคืนเลย

ขณะที่เจ็บใจตัวเองก้ถูกวารินทร์แนบจูบลงมาบนหน้าผาก

“ผมคงรอให้เธอมีแรงไม่ได้ ต้องโทษที่เธอลุกไม่ขึ้นเองนะ”

หลังจากผู้เป็นนายจากไป อัณณ์ที่ต้องนอนเอาแรงก้เอาแต่โทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมาจนในที่สุดก็เผลอหลับไป

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนนี้มีแต่nc55555
พรุ่งนี้จะเอาตอนต่อมาลงนะคะ

หายไปเกือบยี่สิบวันอยากจะบอกว่ามัวแต่แต่งตอนเสริมของamanteที่กำลังจะวางขายค่ะ

หมกมุ่นมาก ช่วยเม้นติชมนิยายเรื่องนี้กันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่3 15/1/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 19-01-2016 22:24:23
Jealousy love of devil  รักแท้ของอินคิวบัส

ตอนที่4

“อัณณ์”
เสียงเรียกอันเคยคุ้นปลุกอัณณ์ให้ลืมตาตื่น ที่ตรงหน้าเหนือศีรษะ ศิศิรายืนยิ้มแป้นในชุดสูทของสถาบันฮิสตอเรีย

“มาได้ยังไงนี่”
อัณณ์ขยับกายลุกขึ้นในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน

“ก็ไม่ยากอะไรที่จะตามหานาย วิธีการเป็นความลับนะ” ศิศิราขยิบตาให้

“ฉันเอากระเป๋ามาให้นาย พวกนายหายตัวไปจากโรงเรียนสองวันทำคนอื่นวุ่นวายกันไปหมด ดูสิ ฉันเลยต้องเอากระเป๋าที่นายลืมทิ้งไว้มาคืนนี่”

"ขอบใจนะ” อัณณ์ส่งยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง

“ขออาบน้ำสักแป๊บนะ”

“ได้เลย”
ศิศิราตอบ หลังจากอัณณ์อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เขาก็พาเพื่อนสนิทลงมาด้านล่างและเริ่มสำรวจบ้านลับๆที่วารินทร์พามา

“เป็นบ้านเล็กๆที่น่ารักดีนะ”

ศิศิราเอ่ยชมหลังจากสำรวจบ้านดีแล้ว บ้านหลังนี้เป็นบ้านขนาดกลางมีสองห้องนอนสองห้องน้ำ มีห้องครัวห้องรับแขกและห้องอาหารครบในตัว การตกแต่งภายในบ้านก็ดีเยี่ยมจนอัณณ์เกิดความชื่นชอบบ้านหลังนี้มากเป็นพิเศษ

อุตส่าห์เตรียมบ้านน่ารักน่ารักแบบนี้ไว้ให้ดีใจจริงๆ

ยิ่งคิดยิ่งปลาบปลื้ม อัณณ์มีความสุขจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ อยากจะเอ่ยขอบคุณ อยากจะหอมแก้มวารินทร์ซักฟอดใหญ่ๆ ตอบแทนที่อีกฝ่ายให้ความเอ็นดูเขาถึงเพียงนี้

“หิวจังเลยน้า”
ศิศิราพูดลอยๆขณะที่ทั้งคู่อยู่ในห้องครัว อัณณ์อาสาทำอาหารให้เพื่อนสนิททานโดยไม่อิดออด

“ว้าวออมเล็ต”
ศิศิรายิ้มกว้างพลางตักอาหารคำแรกเข้าปาก

“อร่อย นายนี่มันสารพัดประโยชน์จริงๆอัณณ์ รูปร่างหน้าตาก็ดี ทำอาหารก็เก่ง ฝีมือต่อสู้ก็เยี่ยม เจ้าวารินทร์ไม่หลงไม่รักก็ให้มันรู้ไป”

“ถ้าเป็นอย่างที่นายพูดก็ดีสิ”

อัณณ์เมื่อนึกถึงผู้เป็นนายก็ยิ้มสลด เขาไม่รู้ว่าตอนนี้วารินทร์จะเพลิดเพลินกับชายหญิงอื่นอยู่ที่ไหน

คลับxxxไม่เคยได้ยินชื่อเลยซักครั้ง แต่ว่าอยากจะตามไป จะให้รออยู่จนวันพรุ่งนี้ คอยเวลาเมื่อวารินทร์กลับมา มันทรมานใจเกินไปจนแทบอยากบ้า ยังไงก็อยากตามไปด้วยให้รู้ดำรู้แดง

“ศิรานายรู้จักคลับxxxไหม”

“รู้สิ” ศิศิราพูดขณะกลืนข้าวลงคอ

“เป็นคลับที่เปิดใหม่ได้เดือนเดียว เป็นคลับชั้นสูงของราชาแห่งบาปเบลเฟกอล ตอนนี้ให้ลูกชายคอยดูแลอยู่ เขาเป็นเพื่อนกับเจ้านายของนายนะสนิทกันมากด้วย”

“ทำไมฉันไม่เคยเห็นรู้” อัณณ์ขมวดคิ้วเข้าหากัน

“อ้าวนี่ไม่ได้รู้อยู่แล้วหรอกหรือ”
ศิศิราเมื่ออิ่มแล้วจึงวางช้อนลงในจาน

“ตระกูลเบลเฟกอลทำการค้ากับตระกูลแอสโมดิอุสมานาน โดยเฉพาะเจ้าลูกชายของเบลเฟกอลคนนี้ เขาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับวารินทร์หลายอย่างอยู่นา”

พอได้ฟังอัณณ์ก็เม้มปาก ข้อมูลของวารินทร์ตกหล่นไปบ้างอาจเป็นเพราะพอผู้เป็นนายจะออกไปหาผู้หญิงหรือชู้รักคนอื่นๆเขาก็ทำมึนตึงไม่ยอมติดตามอีกฝ่ายไป ใครจะรู้ละในแต่ละครั้งจะไปคุยเรื่องธุรกิจกับเพื่อนสนิทแบบนี้

“คลับxxxนี่เพิ่งเปิดใหม่เหมือนวารินทร์จะมีหุ้นอยู่ด้วยนะฉันได้ยินมา”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าคลับที่ว่านี่มันอยู่ที่ไหนล่ะ”

“มีธุระอะไรล่ะ ฉันขอไปด้วยสิ”

“อย่าเลยฉันมีธุระส่วนตัวกลัวจะขายหน้านายนะ”

“กลัวอะไร นี่อย่าบอกนะว่าเกี่ยวกับเจ้าวารินทร์ หรือว่านายจะตามไปอาละวาดใส่เจ้านั้นตอนอยู่พวกชู้”

“ชู้บ้าอะไร ทางนี้ก็เป็นแค่ชู้รักเหมือนกัน”
อัณณ์ทำสีหน้าเหนื่อยหน่ายขณะเก็บจานไปล้าง ศิศิราตีหน้าขรึม

“ถ้าหากว่ายังไม่เอาจริง เอาอย่างนี้ไหมลองคบผู้ชายที่สนใจนายอยู่เป็นไง ตอนนี้มีคนน่าสนใจอยู่เยอะ ลูกชายของหัวหน้าเผ่าแวร์วูฟก็น่าสนใจนะ”

“เอาไว้ก่อนเถอะ”
อัณณ์ยิ้มอ่อนใจ

เพื่อนสนิทคนนี้มักจะเป็นห่วงจนคอยเจ้ากี้เจ้าการเขาอยู่เป็นประจำ แต่จริงๆแล้วเรื่องของตนเองก็หนักหนาไม่แพ้กัน ศิศิรามักถูกตระกูลบังคับให้ไปดูตัวตามใจชอบถูกยัดเยียดและแทบไม่เคยได้เลือกอะไรเองเลย

“ฉันเป็นห่วงนายนะ”

“ขอบใจนะ”
อัณณ์กับศิศิรายิ้มให้แก่กัน เวลาผ่านไปจนทุ่มครึ่ง ร่างบางก็ตัดสินใจตามวารินทร์ไปยังคลับxxx หลังจากไปส่งศิศิราขึ้นรถกลับบ้าน

“จะไม่ขึ้นแท็กซี่หรือ” อัณณ์ถาม

“โอ๊ยบ้านนี้ใกล้คฤหาสน์ของฉันมากกว่าที่คิดอย่าว่าแต่เรียกแท็กซี่ใกล้จนรำคาญที่จะเรียกรถที่บ้านมารับเลยล่ะ”

“ว้าวอย่างนี้ก็เจอกันได้บ่อยๆเลยสิ” อัณณ์ยิ้มกว้าง

“แน่นอน แล้วเจอกันนะ”
อัณณ์โบกมือลาก่อนจะจับรถแท๊กซี่มุ่งหน้าไปยังคลับxxx

ที่นี่เองหรอกหรือ

อัณณ์เงยหน้าขึ้นมองตึกหรูหราแล้วทึ่งในความเงินหนาของเบลเฟกอล ร่างบางไม่รอช้าสาวเท้าหมายจะเข้าไปยังด้านใน
“โอ๊ะน้องชาย วันนี้อณุญาติให้เข้าได้เฉพาะผู้หญิงนะ”

“อะไรนะ”
อัณณ์หยุดชะงักเพราะคนเฝ้าประตูเข้ามาขวางทาง

“วันนี้เป็นคืนเลดี้ไนท์ห้ามผู้ชายเข้า” หนึ่งในคนเฝ้าประตูบอก

“ฉันจะเข้าไปหาเจ้านายที่อยู่ข้างในฉันเป็นผู้ติดตามของเขา” อัณณ์ยืนเท้าเอวตอบอย่างหัวเสีย

“เจ้านายของน้องชายเป็นใครกัน”

“ท่านวารินทร์แห่งตระกูลแอสโมดิอุส”
อัณณ์ตอบ

“จะเข้าไปถามท่านวารินทร์ รอตรงนี้ก่อน”
หนึ่งในคนเฝ้าประตูตอบหลังจากคนตอบหายเข้าไปด้านในพักใหญ่เขาก็กลับออกมาอีกครั้ง

“ท่านวารินทร์บอกว่าไม่ได้นำผู้ติดตามมาด้วย ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปวุ่นวาย”

“บ้าน่า”
อยากจะเอามือขยี้หัวให้ยุ่ง ไม่เข้าใจการกระทำของวารินทร์ อีกฝ่ายน่าจะรู้การมาของเขาจากกลิ่นไอปีศาจแน่ หากแต่กลายเป็นแบบนี้ ถ้าไม่เพราะอยากแกล้งก็ต้องมีอะไรปิดบัง

“ทำอย่างไรถึงจะเข้าไปด้านในได้” อัณณ์ถาม

“อ้อ น้องชายก็หน้าเหมือนผู้หญิงอยู่นะ ไม่ลองปลอมเป็นผู้หญิงเข้าไปดูล่ะ”

“ปลอมเป็นผู้หญิงนะนะ”
อัณณ์แทบไม่อยากเชื่อหู

“แค่แต่งหญิงก็เข้าไปได้หรือ”

“ถ้าแต่งหญิงมาเราจะอนุโลมให้ก็ได้ สาวประเภทสองก็ผู้หญิงเหมือนกันนี่”

“แน่ใจนะ”

“แน่นอนน้องชายถ้าน้องชายกล้าแต่งหญิงมานะ”
เมื่อได้คำยืนยัน อัณณ์ก็มุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดเพื่อซื้อเสื้อผ้า จากนั้นก้กลับมาในสภาพผู้หญิงเต็มยศ

“ว้าวมินิเสกิตร์ น่ารักเชียว” อัณณ์ถูกคนเฝ้าประตูชม

“น้องชายใส่ชั้นในของผู้หญิงด้วยหรือเปล่า”
อัณณ์ย่นจมูกที่ถูกละลาบละล้วงอย่างหยาบโลน แต่ถึงจะเข้ามาลวนลามก็ใช่ว่าเขาจะอ่อนแอ เขาสามารถจัดการคนพวกนี้ได้สบายมาก ดังนั้นจึงไม่ยี่หระใดใด

“ไม่ใช่เรื่องของพวกนาย”
เอ่ยตอบเสียงเย็นชาก่อนจะเดินเข้าไปด้านในของคลับ

“ขอโทษนะ ท่านวารินทร์อยู่ที่ไหน”
เมื่อเข้ามาด้านในอัณณ์ก็ถามคนที่มีลักษณะคล้ายผู้จัดการของคลับ

“คุณถามทำไมครับ”

"ฉันเป็นผู้ติดตามของท่านวารินทร์”
ชายผู้ถูกถามกวาดตามองเขาขึ้นลงอย่างไม่เชื่อถือ

“ผมคงต้องไปถามท่านวารินทร์ก่อน”

“ได้เลย”
อัณณ์ยืนเท้าเอว

คราวนี้ถ้าถูกปฏิเสธอีกจะไม่ใช้ไม้อ่อนอีกต่อไป ร่างบางตั้งใจจะใช้เวทย์มนต์พรางตัวเข้าไปหาวารินทร์ที่ด้านในเสียเลย

รอไม่นานนักผู้จัดการก็เดินกลับมา

“ท่านวารินทร์อณุญาติให้เข้าไปได้ครับตามผมมา”
อัณณ์พยักหน้าก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายไป

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนนี้สั้นมาก อีกสองสามวันจะเอาตอนต่อไปมาลงนะคะ :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่4 19/1/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 25-01-2016 22:45:46
Jealousy love of devil  รักแท้ของอินคิวบัส

ตอนที่5

หลังจากถูกพาเข้ามาในห้องหรูหรา พออัณณ์เห็นวารินทร์นั่งอยู่บนโซฟาโดยถูกรายล้อมด้วยหญิงสาวร่างบางก็แทบทนไม่ได้โผเข้าไปยืนค้ำศีรษะของอีกฝ่าย

“อะไรกันยัยนี่”

หนึ่งในจำนวนผู้หญิงรอบตัววารินทร์มองจิกมาด้วยสายตาเหยียดหยามอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมีคนทำเช่นนั้นก่อนคนในกลุ่มทั้งหมดก็หันมามองดูอัณณ์บ้าง

“ใครเชิญมากันหะ”
คำพูดทำนองใกล็ๆกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจากบรรดาหญิงสาว อัณณ์ไม่มีความหวาดเกรงเลยซักนิด

“ทำไมจะมาไม่ได้ ก็ฉันเป็นผู้ติดตามของท่านวารินทร์” อัณณ์ตอบเสียงกร้าว

“จริงหรือคะท่านวารินทร์”
สายตาทุกคู่จดจ้องวารินทร์ อัณณ์เองก็รออยู่ว่าอีกฝ่ายจะตอบออกมาอย่างไร

“ถูกต้อง เธอคนนี้เป็นผู้ติดตามของผม”

อัณณ์กระหยิ่มใจที่อีกฝ่ายไม่ผลักไสหรือกลั่นแกล้งตนอย่างที่คิด พอได้รับคำยืนยันจากผู้เป็นนาย ร่างบางก็หันไปไล่บี้แม่ผู้หญิงซึ่งนั่งข้างๆวารินทร์เป็นรายการถัดมา

“เธอลุกออกไป”
อัณณ์สั่งเสียงห้วน เขาไม่อยากทนเห็นผู้หญิงพวกนี้นั่งเกาะแขนออเซาะผู้เป็นนายอีกต่อไป

“อะไรยะ”
หญิงสาวที่อยู่ข้างขวาของวารินทร์เอ่ยเสียงดัง แต่หลังจากเจ้าหล่อนเห็นท่าทางเอาเรื่องของอัณณ์ก็ขยาดลุกหนีออกไปอย่างเสียไม่ได้

“เธอตรงนั้นด้วย”
อัณณ์ออกคำสั่งกับผู้หญิงที่ขนาบซ้ายของผู้เป็นนาย อาการแยกขี้ยวของร่างบางทำให้เจ้าหล่อนขยับลุกไปนั่งอีกฝากแทบไม่ทัน วารินทร์ที่อยู่ในเหตุการณ์หัวเราะเสียงต่ำด้วยท่าทีรื่นรมย์

“ต้องขอโทษด้วยที่ผู้ติดตามของผมดุดันกับพวกคุณมากไปหน่อย”
จังหวะที่วารินทร์ขอโทษอัณณ์ก็นั่งปุลงข้างๆผู้เป็นนาย

“น้อยไปสิคะแบบนี้เขาเรียกว่าไม่มีมารยาทนะคะ”
หญิงสาวหน้าตาน่ารักที่สุดในกลุ่มผู้หญิงเอ่ยเจ้าหล่อนที่แต่งตัวเปรี้ยวปรี๊ดด้วยเกราะอกและนุ่งสั้น มองเหยียดกับเบ้ปากให้อัณณ์

“น้อยไปหรือ ฉันระแวงพวกเธอทุกคนแหละ ไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนล่อลวงท่านวารินทร์หรือเปล่า”

ที่พูดนี่มาจากใจจริง สำหรับอัณณ์นั้น เขาได้รับคำสั่งมาจากบิดามารดาของวารินทร์ให้ระวังคนแปลกๆที่เข้ามาใกล้ผู้เป็นนาย นอกจากนั้นยังหวาดกลัวเด็กผู้หญิงพวกนี้จะมาทำให้ผู้เป็นที่รักของเขาไขว้เขว ทนไม่ได้แน่ๆหากยอดปรารถนาจะมีคนรักเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาโดยคนคนนั้นไม่ใช่ตนเอง

“ตายแล้ว ท่านวารินทร์ ผู้ติดตามของท่านพูดจาก้าวร้าวเกินไปแล้วนะคะ แก้วไม่ยอมนะคะ”
แก้ว หรือยัยคนที่แต่งตัวเปรี้ยวปรี๊ดฮึดฮัด หากแต่วารินทร์ยังแย้มยิ้มอย่างไม่อนาทรร้อนใจ ที่บรรดาชู้รักเริ่มวางมวยกันต่อหน้า

“จะให้ผมทำยังไง ลงโทษคนของผมหรือ”
อัณณ์พ่นลมหายใจออกทางจมูก แค่คิดจะต้องโนลงโทษเพราะยังผู้หญิงนี่ก็โกรธจนแทบห้ามใจไม่ให้อาละวาดไม่ได้

“ไม่ต้องถึงขนาดลงโทษหรอกค่ะ แค่ดื่มเหล้าที่แวชงให้ก็พอแล้ว”
แก้วขยับยื่นแก้วเหล้าที่หล่อนชงให้วารินทร์ อัณณ์คว้าแย่งมาแล้วกระดกดื่มในฉับพลัน

“เสียใจด้วยนะ ท่านวารินทร์ไม่ดื่มของจากมือคนแปลกหน้า” อัณณ์ยิ้มอย่างผู้มีชัย

“แก…แกทำบ้าอะไรหา…”
แก้วโวยวายเสียงดัง จังหวะที่อัณณ์ทำหน้าเย้ยหยัน จู่จู่ก็มีอาการวูบวาบตามเนื้อตัวอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“อา…”
ร้องคลางด้วยความกระสันที่พุ่งสูงจนแทบตั้งตัวไม่ทัน ดวงตาฉ่ำเยิ้มและสับสนจ้องดูผู้เป็นนายซึ่งนั่งอยู่ข้างตัว

“คุณวางยาในเหล้าของผมหรือแก้ม”
วารินทร์ซึ่งเดาเหตุการณ์ได้ไม่ยากจากอากัปกริยาของอัณณ์ใช้ดวงตาอ่อนโยนมองดูแก้วที่ตกใจเมื่อถูกจับได้

“เอ่อคือ…ฉันแค่อยากมีครั้งแรกกับท่านวารินทร์เท่านั้นค่ะ”

อัณณ์ถลึงตาใส่แม่ตัวดีที่สารภาพออกมาจนหมด จากอาการของเขาตอนนี้ยาในแก้วเหล้าต้องเป็นยาปลุกกำหนัดไม่ผิดแน่ ร่างบางเสียวสะท้านจนนั่งงอตัวเพราะกลัวว่าจะบิดกายด้วยท่วงท่าน่าอายแล้วร้องเสียงหยาบโลนออกมา

“แย่หน่อยนะที่มันไม่เป็นไปตามแผน สงสัคงต้องให้คุณดูผมรักษาอาการป่วยให้ผู้ติดตามของผมแทนเสียแล้วสิ”

ไม่นะ

อัณณ์ส่ายหน้าไปมา หากว่าร่วมรักกันที่นี่ นอกจากจะต่อหน้าคนอื่นซึ่งเขาไม่อยาก ยังเป็นการเผยตัวให้คนอื่นคิดว่าเขาวิตถารขอบแต่งตัวเป็นผู้หญิงอีกด้วย  ไหนจะต้องกังวลเรื่องสัมพันธ์สวาทอันเป็นความลับของตนกับผู้เป็นนายจะแพร่ออกไป ไม่เพียงแค่ตนเองต้องขายหน้า ยังจะทำให้วารินทร์เสื่อมเสียชื่อเสียงอีกด้วย

“ม..ไม่…”

“ไม่อะไรกัน เธอเองก็แทบจะทนไม่ไหวแล้วนี่อัณณ์”
คนพูดถลกกระโปรงของอัณณ์ขึ้นเผยให้เห็นชั้นในแบบสตรีซึ่งพองนูนด้วยเครื่องเพศซึ่งตั้งชันเต็มที่

“อะไรกันผู้ชายหรอกหรือ”
เสียงอุทานของพวกผู้หญิงยิ่งทำให้อัณณ์อับอาย แต่ไม่อาจต้านทานแรงกำหนัดอันพลุ่งพล่านได้อีกต่อไป

“ปลดปล่อยครั้งหนึ่งก่อนจะดีกว่านะ”

วารินทร์กระซิบเย้า มือใหญ่ลูบไล้เครื่องเพศของอัณณ์ก่อนจะชักรูดส่วนนั้นขึ้นลงเนิบนาบ ร่างบางร้องไห้ออกมาด้วยรู้สึกดีพอพอกับที่อดสูต่อสายตาซึ่งมองมา

“อึก….”
พยายามกลั้นเสียงอย่างสุดความสามารถ หากแต่พอถึงจุดก็หวีดร้องออกมาเต็มเสียง

“ออกมาเสียเยอะเลยนะ”
วารินทร์หัวเราะหึหึ ก่อนจะอุ้มร่างบางขึ้นมานั่งบนตักโดยให้อัณณ์เอาหลังพิงกับแผ่นอกของตน

“ต้องลงโทษพวกเธอที่คิดเล่นงานผมเสียหน่อยจงดูพวกผมทำรักจนกว่าจะจบเถอะ”

ดวงตาสีฟ้าของวารินทร์เปล่งแสงวาบ พริบตานั้นเหล่าหญิงสาวที่พยายามหนีก็ตัวแข็งทื่อ ทำได้แต่เพียงมองดูอัณณ์ที่อยู่ในอ้อมกอดของวารินทร์

“อวดร่างกาบของเธอให้พวกเขาดูสิ”

“ไม่…นะ…”

อัณณ์ส่ายหน้าไปมา แต่ไม่อาจต่อต้านผู้เป็นนายที่จับขาของเขาแหกกว้างออกจากกันได้ ช่วงล่างของเขาถูกเปิดโล่งโจ้งให้พวกผู้หญิงได้ดูจนชัดตา

“ผมจะใส่ของของผมเข้าไปในรูลามกนี้ พวกคุณดูให้ดีดีนะ”
วารินทร์ลูบไล้นิ้วไปยังช้องทางเร้นลับของอัณณ์ ก่อนจะสอดนิ้วที่ชุ่มไปด้วยน้ำรักเข้าไปยังด้านในแล้วขยับแทงเข้าและดึงออก

“อื้อ…อย่า…อ๊ะ”
หน้าขายหน้านัก อัณณ์คิดเช่นนี้ แต่กระนั้นร่างกายอันเต็มไปด้วยกิเลศยังตอบสนองทุกรสสัมผัสเล้าโลมอย่างละโมบยิ่งนัก

“เข้าไปสามนิ้วแล้วนะ พวกคุณคิดว่ามันวิเศษไหมล่ะ”
ไม่มีหญิงสาวคนไหนตอบวารินทร์สักคน เมื่อไม่มีคนตอบ ชายหนุ่มก็สอดแทรกอวัยวะร้อนผ่าวเข้าสู้ภายในขงอัณณ์

“อิ๊…อึก….”
ถูกเติมเต็มอย่างที่รอคอยมานานก็จริง แต่ต้องทนทรมานระหว่างความอัปยศซึ่งต่อสู้กับราคะจิต จนอัณณ์แทบอยากตายไปเสียให้พ้นๆ

“ไม่ต้องกลัวนะ ผมจะปล่อยในตัวเธอทุกหยาดหยด จนกว่าเธอจะพอใจเลย”
วารินทร์กระซิบยั่วเย้า อัณณ์ร้องตะโกนคำว่าไม่ด้วยอารมณ์ที่สับสนถึงขีดสุด

“…………..”

หลังจากสลบไปเพราะการ่วมรักอันรุนแรงยาวนาน เสียงอ้อร้อของหญิงสาวก็ปลุกอัณณ์ให้ตื่น ที่ตรงหน้าอัณณ์เห็นภาพบาดตาซึ่งตนเคยจินตนาการเอาไว้บ่อยครั้ง

“ท่านวารินทร์”
แก้วหัวเราะคิกคิก เจ้าหล่อนกำลังโอบกอดวารินทร์

“ทำอะไรของเธอ”

อัณณ์ถามเขาเลือดขึ้นหน้า ลุกขึ้นหมายจะเข้าไปแยกคนทั้งคู่ออกจากกัน ทว่าวารินทร์กลับจรดปลายนิ้วชี้ลงบนริมฝีปากของตนแล้วส่งเสียงชู่ออกมาเป็นสัญญาณให้อัณณ์อยู่อย่างสงบ

หมายความว่ายังไง

จะให้เขาดูคนที่ตนเฝ้าปรารถนาร่วมรักกับผู้หญิงคนอื่นอย่างนั้นหรือ

ทนไม่ได้

อัณณ์หันหลังให้คนทั้งคู่แล้วรวบรวมเสื้อผ้าของตนบนพื้นขึ้นมาสวมใส่
ถึงจะรู้ว่าผู้เป็นนายชอบเล่นสนุกในกามราคะกับคนมากหน้า แต่เขาไม่อาจทนเห็นเรื่องแบบนี้ต่อหน้าต่อตา อัณณ์เมื่อแต่งตัวเสร็จก็บ่ายหน้าหนีไปจากที่ตรงนั้นโดยไม่หันกลับไปมอง

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

เอาตอนใหม่มาลงแล้วนะคะ

ช่วงนี้อากาศหนาวฉับพลันรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่5 25/1/59
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 25-01-2016 23:28:46
ถึงพระเอกจะทำเหมือนอัญญ์พิเศษกว่าคนอื่นบางเวลา

แต่มักมากขนาดนี้นายเอกเราก็ไม่ควรทนนะ มันทำร้ายจิตใจตัวเองมากๆ :katai1:

ยุหาผู้ชายคนใหม่ไวๆ55555
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่5 25/1/59
เริ่มหัวข้อโดย: parksunghyo ที่ 26-01-2016 00:45:02
วารินทร์เป็นพระเอกจริงเหรอมักมากไปหน่อยป่ะอัณณ์เองก็เหมือนกันจะซื่อสัตกับผู้ชายคนนี้มากไปหน่อยป่ะทำตัวไม่สมกับเผ่าพันธุ์ตัวเองเลย เราคิดว่าอัณณ์น่าจะฉลาดที่จะเลือกคนที่หยุดแค่ตัวเองพอนะเพราะถ้าจะรักผู้ชายคนนี้ต่อก็เชิญช้ำในอัดอั้นจนอกแตกตายไปเถอะคนอื่นยังทำให้วารินทร์หยุดไม่ได้เลยแล้วตัวเองเป็นใครที่คิดว่าคนมักมากกกกกกกกกกกกกกกกกแบบนี้จะหยุดที่ตัวเอง
ขอโทษนะคะอินไปหน่อยอยากให้อัณณ์รักคนอื่นที่หยุดแค่ที่ตัวอัณณ์เอง
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่5 25/1/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 29-01-2016 16:56:38
Jealousy love of devil  รักแท้ของอินคิวบัส

ตอนที่6

“มาค้างที่บ้านก็ดีใจอยู่หรอกนะ แต่กะทันหันแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า”
ศิศิราเอ่ยถาม คนที่นั่งจุมปุ๊กไม่พูดไม่จา

“นี่บอกมาเถอะ พี่ชายคนนี้พร้อมรับฟังสิ่งที่นายไม่สบายใจเสมอนะ”
อัณณ์เงยหน้าขึ้นมองดูศิศิรา ในที่สุดก็ยอมเล่าความอัดอั้นในใจของตนออกไปทั้งหมด

“เจ้าวารินทร์นั่นมันบ้าชัดๆ คิดยังไงถึงร่วมรักหึคนอื่นดู แถมยังนอกใจต่อหน้าต่อตาด้วย”
ศิศิราพูดด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด

“ไม่ได้นอกใจ คนคนนั้นจะเล่นรักกับใคร ชู้รักอย่างฉันไม่มีสิทธิ์ห้ามอยู่แล้ว”

อัณณ์พูดด้วยน้ำเสียงหดหู่ เริ่มรังเกียจตัวเองที่ไม่ยึดเหนี่ยวผู้เป็นนายเอาไว้ขณะยังมีโอกาส ทั้งที่ก่อนหน้านั้น วารินทร์เคยถามเขาแล้วครั้งหนึ่งว่าอยากเป็นคนรักกันไหม แต่ทว่าเขาปฏิเสธไป เพราะตอนนั้นยังอายุแค่สิบสี่ แถมยังหวาดกลัวเรื่องที่จะมีใครรู้สัมพันธ์สวาทของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา

เขานี่มันช่างโง่

อุตส่าห์มีโอกาสดีดีอย่างการได้รับข้อเสนออันหอมหวานจากผู้เป็นนายที่ยังไร้เดียงสา กลับทำลายมันลง จนตอนนี้ไม่มีโอกาสแม่แต่จะแสดงความหึงหวงในตัววารินทร์

เกลียดตัวเองจริงๆ
อัณณ์ซบหน้าลงบนหัวเข่า ศิศิราที่มองดูอยู่ถึงกับโมโหไม่ออก ได้แต่ยืนปลอบอย่างเก้เก้กังกัง

“เอาน่า จะคิดมากทำไม ก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าแห่งราคะไม่จริงใจกับใคร”
ศิศิราเว้นประโยคคำพูด เพราะอารมณ์คุกรุ่นพลุ่งพล่าน ร่างบางเดินพล่านร้องครางฮึ่มๆไปตลอดเวลาก่อนจะหยุดเดินแล้วเสนอความคิดให้อัณณ์
“ยอมไม่ได้แล้วนะ ฉันจะแนะนำผู้ชายดีดีให้นาย ห้ามปฏืเสธ ห้ามเถียง เข้าใจนะ”

“อื้อ”
อัณณ์ตอบรับอย่างไร้เรี่ยวแรง

“แต่ฉันไม่อยากเลิกเป็นชู้รักของวารินทร์”

“ไม่เลิกก็ไม่เลิกสิ แค่เล่นละคร เล่นตัวบ้าง บางทีหากมีชายอื่น ไอ้เจ้าวารินทร์นั่นอาจจะเห็นค่าของนายขึ้นมาบ้าง ดีไหมล่ะ”

“จะเป็นอย่างนั้นแน่หรือ” อัณณ์ถาม

“ไม่ลองก็ไม่รู้หรอก”
ศิศิราพูดก่อนจะชักชวนอัณณ์เข้านอนเสียที่บ้านของตน

 รุ่งเช้าวันถัดมา อัณณ์ต้องพยายามอย่างมากที่จะเผชิญหน้ากับวารินทร์ เพราะเมื่อวานหนีกลับมาและไม่ได้ติดต่อกลับไปอย่างที่เคยทุกที เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในห้องเรียนพร้อมศิศิราเสียโวยวายของผู้คนในห้องก็ดังขึ้น

“มาจนได้นะ”
อัณณ์แทบไม่อยากเชื่อสายตานึกไม่ถึงว่ายัยแก้วจะเป็นนักเรียนสถาบันเดียวกับเขา

“มาทำอะไรที่นี่”

อัณณ์ถามเสียงกร้าว ยัยแก้วพยักเพยิดไปทางกระดานขาวหน้าห้องด้วยใบหน้ายียวน ร่างบางหันไปมองบนกระดานแล้วพบกับภาพถ่ายของเขากับวารินทร์ที่กำลังทำรักกันจำนวนมาก

บ้าน่า
อัณณ์ตกใจจนหน้าซีด เขาไม่รู้ตัวเลยว่าถูกถ่ยเอาไว้ตอนไหน

“ไอ้ผู้ติดตามนี่มันล่อลวงท่านวารินทร์ ฉวยโอกาสเอากับความใกล้ชิด”
แก้วชี้หน้าอัณณ์ขณะอธิบายให้เหล่าผู้คนที่คลั่งใคล้วารินทร์ฟัง อัณณ์ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

“พูดอะไรนะ เธอก็เหมือนกันที่มีอะไรกับท่านวารินทร์หลังจากนั้น แล้วก็ที่ฉันนอนกับท่านวารินทร์เป็นเพราะเธอวางยาท่านวารินทร์ต่างหาก”

คราวนี้แก้วต้องเป็นฝ่ายตื่นตระหนกบ้างหากแต่ยังไม่ยอมรับความผิด แต่ทว่าวารินทร์ซึ่งเป็นพยานปากเอกก็เดินเข้ามาในห้องเสียก่อน อัณณ์รีบขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นนายทันที

“ท่านวารินทร์ บอกทุกคนไปสิครับว่าหล่อนวางยาปลุกกำหนัด จนผมพลาดดื่มยาในแก้วเหล้าแทนท่าน นอกจากนั้นหล่อนยังนอนกับท่านอีกด้วย”
อัณณ์ใช้ดวงตาเว้าวอนผู้เป็นนายที่เลิกคิ้วขึ้นอย่างฉงน ใช้เวลาจ้องอยู่นานในที่สุดวารินทร์ก็เอ่ยคำพูดเข้าข้างตน

“ถูกต้อง คุณแก้วตั้งใจวางยาผม แต่พลาดไปฑโดนอัณณ์ ผมแค่ช่วยอัณณ์ไม่ให้ช็อคตายเพราะฤทธิ์ยาไปเสียก่อน”
คำตอบของวารินทร์เรียกเสียงฮือฮาจากคนรอบตัว

“เธอนอนกับท่านวารินทร์จริงๆนะหรือ”
สาวกของวารินทร์ถามด้วยอาการขุ่นเคือง แก้วเลิกลั่กแก้ตัวด้วยความกลัวเมื่อถูกล้อมกรอบ

ป…เปล่า ฉันเป็นฝ่ายจู่โจมท่านวารินทร์ แต่ท่านไม่เล่นด้วย ท่านปฎิเสธฉันอย่างสุภาพแล้วผละจากไป”

จริงนะหรือ

อัณณ์ส่งสายตาถามความเห็นไปยังวารินทร์ และได้รับรอยยิ้มละไมตอบกลับมา

หรือว่าจะไม่ได้นอนด้วยกันจริงๆ

คิดเพียงแค่นั้น หัวใจของเขาก็เหมือนกับติดปีกจนแทบจะโบยบิน

“แต่เจ้านั่นก็ยังนอนกับท่านวารินทร์อยู่ดีนะ อาจเป็นแผนซ้อนหลอกจับท่านวารินทร์ก็ได้”
แก้วตะโกนซัดทอดเสียงแตกพร่า ศิศิราที่นิ่งฟังอยู่นานไม่รอช้าตอบโต้กลับ

“เป็นไปไม่ได้ อัณณ์มีคนรักอยู่แล้ว”

“อะไรนะ”
แก้วและอัณณ์ร้องออกมาพร้อมกัน

“ตกใจอะไรอัณณ์ นายเป็นคนบอกฉันเองนี่”
ศิศิราพูดพร้อมส่งสัญยาณบางอย่างให้อัณณ์เออออตาม

“อ้อใช่ฉันมีคนรักแล้ว” อัณณ์สมอ้าง

“ใช่เลยกับท่านวารินทร์แค่เลยตามเลยเท่านั้น อย่าลืมสิว่าอัณณ์เป็นอินคิวบัส”
ผู้คนในห้องถึงบางอ้อทันที ในตอนนั้นแก้วก็ฉวยโอกาสวิ่งหนีไป หากแต่ไม่มีใครสนใจเพราะพากันเข้าไปรุมล้อมวารินทร์กันเสียหมด

“ที่นี้ก็ต้องเดินหน้าต่อไปแล้วนะ” ศิศิรายิ้มให้อัณณ์

“ร…เรื่องอะไร”

“ก็เรื่องคนรักตัวจริงของนายไง ว้าวนี่ฉันอารมณ์ดีสุดๆ”

ศิศิราอารมณ์ดีแต่อัณณ์กลับหดหู่ ร่างบางอยากจะแก้ตัวกับวารินทร์ใจแทบขาดเรื่องที่โกหกว่ามีคนรักแล้ว แต่อีกฝ่ายถูกห้อมล้อมด้วยคนจำนวนมาก แถมยังถูกเรียกตัวจากพวกอาจารย์แล้วหายไปทั้งวันจนไม่มีโอกาสได้พูดกันเลยซักคำ

ช้าจัง

อัณณ์นั่งมองนาฬิกาหลายครั้ง เขารอคอยให้วารินทร์กลับมาที่บ้านลับๆของพวกเขาอย่างจดจ่อ แต่รอแล้วรอเล่าอีกฝ่ายก็ไม่มาเสียที จนร่างบางกระวนกระวายนั่งไม่ติดที่

โกรธหรือเปล่านะ

เดินวนไปวนมาในห้องรับแขก ในตอนนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น อัณณ์รีบเข้าไปรับสาย

“วันนี้ผมไม่กลับบ้านนะมีธุระกับท่านพ่อท่านแม่ที่คฤหาสน์ประจำตระกูล”

“คือว่า…”
ยังไม่ทันพูดจบอีกฝ่ายก็วางสายไปเสียก่อน อัณณ์ทรมานใจจนแทบอยากฆ่าตัวตาย

แย่ที่สุด

ตั้งใจจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฟังแท้ๆ

อัณณ์พาร่างอ่อนระโหยไปยังเตียงแล้วล้มลงนอน ร่างบางนอนข่มตาไม่หลับด้วยกังวลไปตลอดทั้งคืน

“………”
เสียงเรียกทำให้อัณณ์ลืมตาตื่น พอตื่นขึ้นมาก็พบศิศิรายืนคำศีรษะอยู่ข้างเตียง

“ตื่นได้เสียทีนะ”

“อะไรกันนี่” อัณณ์ที่จับต้นชนปลายไม่ถูกเอ่ยถาม

“ก็อะไรเสียอีกล่ะ ไปดูตัวไง” ศิศิราฉีกยิ้ม

“ดูตัวนี่นะ”

“ใช่สิ”
ศิศิราพูดพลางหยิบเอารูปใบหนึ่งยื่นให้อัณณ์

“ใคร”
อัณณ์มองดูเด็กหนุ่มผมสีเงินในรูป คนในรูปจัดว่าหล่อหลาทีเดียวหากแต่ยังด้อยกว่าวารินทร์อยู่หลายขุม

“คนรักใหม่ของนายไง”

“ตลกนะสิ”
อัณณ์ยื่นภาพคืนให้ศิศิรา เด็กหนุ่มคิดว่าตนเองไม่มีเวลามาไร้สาระ หากทำได้อยากจะไปหาวารินทร์เพื่อง้องอนอีกฝ่ายเสียเดี๋ยวนี้

“ไม่ตลกนะ อย่าลืมสิว่านายถูกสาวกของวารินทร์เพ่งเล็งอยู่” ศิศิราตีหน้าขรึม

“ยังไงก็ต้องยอมทำตามฉันสั่งแล้วเล่นละครล่ะ หมอนี่หล่อมาก แถมนิสัยดี อัณณ์จะคบจริงๆเลยก้ได้นะ”
ศิศิราหัวเราะหึหึ

ไม่มีทางเสียล่ะ

แต่มันช่วยไม่ได้ หากมันจะทำให้เรื่องวุ่นวายมันจบเขาคงต้องตัดใจยอมทำตามน้ำไปก่อน

“เข้าใจแล้ว แล้วฉันต้องทำอย่างไร”
อัณณ์ถามหลังจากคิดดีแล้ว

“ไปอาบน้ำ แล้วออกไปพบคนคนนั้นกัน”
อัณณ์ถูกศิศิราลุนหลังให้ตรงไปยังห้องอาบน้ำ ร่างบางยอมทำตามอีกฝ่ายอย่างเสียไม่ได้

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ลงตอนใหม่แล้วนะคะ หายไปหลายวันเลย คราวที่แล้วคนอ่านเม้นด่าวารินทร์กันน่าดุ

แต่ลองอ่านไปดูก่อนนะคะ เรื่องนี้ยังมีอีกหลายตอน
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่6 29/1/59
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 30-01-2016 15:06:14
สงสารและสมน้ำหน้าอัณณ์นะ เข้าใจแหละว่าจะตัดใจจากคนที่รักที่ชอบมันไม่ง่ายเลย
แถมเจอกันแทบทุกวัน มันต้องใช้แรงใจแรงกายอย่างมาก

อบ่างน้อยในตอนนี้อัณณ์ก็ยอมไปเจอคนใหม่ๆบ้างแล้ว ถึงแม้จะไม่เต็มใจเท่าไร ฮะๆ
ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับที่ัอัณณ์เคยปฐิเสธวารินสมัยก่อนหรือเปล่า พระเอกเลยทำตัวอย่างนี้
แต่ก็นะพระเอกจะว่ากันไม่ได้หรอก ตอนนั้นอัณณ์เด็กจะตาย
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่6 29/1/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 07-02-2016 22:28:59
Jealousy love of devil  รักแท้ของอินคิวบัส

ตอนที่7

ท่ามกลางผู้คนในร้านคอฟฟี่ช็อป อัณณ์ซึ่งนั่งอยู่ข้างข้างศิศิราชะเง้อมองผู้คนที่ผ่านเข้ามาในร้านอย่างอยู่ไม่เป็นสุข

“ตื่นเต้นเกินไปแล้วนะอัณณ์”
ศิศิราหัวเราะพลางใช้มือตีที่แขนของอัณณ์ดังเพลียะ

“สงบใจหน่อย”

พอถูกตักเตือนอัณณ์ก็ปั้นหน้าขรึม สำหรับอัณณ์ที่แทบจะไม่มีโอกาสได้ออกเดตกับใครอื่นเลยนอกจากวารินทร์ การจับคู่ในคราวนี้เป็นอะไรที่แปลกใหม่มาก ถึงจะไม่อยากทำแบบนี้ก็ตามแต่ก็อดคาดหวังกับการนัดพบครั้งนี้อยู่ไม่น้อย

“ทำใจให้กว้างเข้าไว้ แล้วเลิกหมกมุ่นกับเจ้าวารินทร์เสียที แล้วนายจะพบว่าผู้ชายคนอื่นก็ดีไม่แพ้กัน”

“มันจะดีจริงๆนะหรือ” อัณณ์ลังเล

“มันดีสำหรับอัณณ์ทุกอย่าง หากว่าการนัดพบครั้งนี้สำเร็จ อัณณ์จะได้ลองคบผู้ชายคนใหม่ที่ดีกว่า หากไม่สำเร็จ อย่างน้อยอาจจะทำให้วารินทร์หึงหวงเป็นการแก้เผ็ด”

จะดีจริงๆนะหรือ

คนอย่างวารินทร์จะหึงหวงเขาจริงๆนะหรือ

อัณณ์อดกังวลไม่ได้ เพราะรู้ตัวอยู่แล้ว ตนเองไม่ได้มีสเน่ห์มากพอจะจับวารินทร์เอาไว้ให้อยู่มือ หากทำการนอกใจไปแล้ว ไม่ได้หมายถึงการบอกเลิกความสัมพันธ์ชู้สาวกับผู้เป็นนายหรอกหรือ

“ฉันไม่ชอบเลย” อัณณ์เอ่ยกระปอดกระแปด

“ไม่ได้นะ คิดสิหาหนทางที่ดีที่สุดเพื่อตนเองบ้างนะอัณณ์”
ถูกมองด้วยสายตาคมดุ อัณณ์ถึงอยากต่อต้านแต่ก็ไม่กล้าโต้เถียง เพราะอารมณ์ของศิศิราตอนนี้ฮึกเหิมจนดูน่ากลัว

“ฉันจะลองคบหากับเขาดูก่อน ท่องตามฉัน”

“เอ่อ ฉันจะลองคบหากับเขาดู” อัณณ์พูดตามด้วยถูกมองข่มขู่มา

“จะไม่ปฏิเสธคนที่เข้ามาเมื่อมีโอกาส”
เมื่อถูกหยิกตรงท้องแขน อัณณ์ก็เอ่ยตามศิศิราอีกครั้งอย่างหวาดหวาด ในตอนนั้น เด็กหนุ่มผมเงินคนหนึ่งก็เดินตรงมายังโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่

“ขอโทษครับ”
เด็กหนุ่มผมสีเงินตรงหน้าคือคนในรูปที่ศิศิราให้อัณณ์ดู ศิศิราเชิญให้อีกฝ่ายนั่งแล้วเริ่มแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน

“นี่คือแพทริค เดมซี เป็นลูกชายของหัวหน้าเผ่าแวร์วูฟคนปัจจุบัน”
ศิศิราเอ่ยแนะนำเด็กหนุ่มผมสีเงินด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะหันมาแนะนำตัวอัณณ์ให้อีกฝ่ายรู้จัก

“นี่คือ อัณณ์ พริมโรส ลูกชายคนเล็กของผู้นำเผ่าปีศาจฝัน”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
แพทริคยื่นมือมาให้อัณณ์จับ ทั้งคู่เขย่ามือกัน แพทริคยิ้ม แต่อัณณ์กลับประหม่า

“ที่นี้สองคนตกลงได้หรือยังว่าจะพากันไปเที่ยวที่ไหน” ศิศิราถามเขายิ้มกว้างไม่หุบ

“ไปสวนสนุกกันดีไหมครับอัณณ์”
แพทริคเมื่อได้โอกาสก็เอ่ยชวนทันที อัณณ์ที่ตื่นคนไม่หายอ้อมแอ้มตอบตกลงไป

“ดีเลย ถ้าอย่างนั้นฉันไม่กวนแล้วนะ”
ศิศิราลุกออกจากเก้าอี้ แต่โดนอัณณ์คว้ามือเอาไว้แน่น

“จะไปไหน”

“พวกนายจะออกเดต แล้วตัวเกะกะจะอยู่ทำไมล่ะ” ศิศิราตอบแล้วสลัดมือของอัณณ์ที่จับอยู่ออกพร้อมกับเผ่นจากไป

“จะดื่มอะไรก่อนหรือไปกันเลยดีครับ”

อัณณ์ยิ้มจืดเจื่นให้แพทริค จะปฏิเสธก็สงสารอีกฝ่ายที่กระตือรือร้นมาก แถมท่าทางเป็นกันเองด้วยรอยยิ้มอันดูดีของฝ่ายนั้นทำให้เขาไม่รังเกียจที่จะลองคบหาดู

“เอ่อ…ไปกันเลยก็ได้ครับ”
พอได้รับคำตกลง แพทริคก็เรียกบริกรให้มาเก็บเงิน อัณณ์ถึงจะควักเงินจ่ายในส่วนของตัวเองแต่ก็ถูกห้ามเอาไว้

“ผมเป็นคนอยากพบคุณ เพราะอย่างนั้นให้ผมจ่ายเถอะ”
แพทริคพูดด้วยท่าทางจริงจัง อัณณ์พยักหน้า ไม่รู้ทำไม จู่จู่ก็รู้สึกดีกับอีกฝ่ายขึ้นมา จนอยากจะทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้น หลังจากนั้นทั้งสองคนก็พากันขึ้นรถtaxi มุ่งตรงไปยังสวนสนุกขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก

“ขอตั๋วสองใบครับ”
แพทริคจ่ายเงินให้พนักงานที่ช่องซื้อตั๋ว

“คุณจะไม่ให้ผมออกเงินเลยหรือ” หลังจากได้รับตัวมาอัณณ์ก็เอ่ยถามด้วยความเกรงใจ

“ไม่จำเป็น ผมจะออกให้คุณทั้งหมด แล้วตอนนี้ผมก็ดีใจมากที่ได้นัดพบคุณ จะดีใจเพิ่มขึ้นหากคุณเรียกผมด้วยชื่อ”

“อา…อย่างนั้นก็ขอบคุณ นะครับแพทริค”

“ยินดีครับอัณณ์”

อัณณ์เดินเคียงคู่แพทริคเข้าไปในสวนสนุก เมื่อลองคิดดูแล้ว เขากับวารินทร์ไม่เคยมาเที่ยวกันแบบนี้เลย อย่างสวนสนุกนี่วารินทร์ก็ปฏิเสธ ประมาณว่าไม่สนใจการเล่นสนุกของเผ่ามนุษย์เสียเท่าไหร่

แต่อัณณ์กลับคิดว่ามันสนุกดี เมื่อสมัยยังเล็กเขาเคยขอให้พ่อกับแม่พาไปเที่ยวครั้งหนึ่งแล้วติดใจ แต่เพราะพ่อแม่ก็เห็นเป็นเรื่องไร้สาระ จึงไม่ได้มาเป็นครั้งที่สอง

ยังไงดีล่ะ จะสวนสนุกหรือสวนสัตว์ เขาไม่เคยไปกับวารินทร์เลยสักครั้ง ผู้เป็นนายมักจะพาไปทานอาหารในสถานที่หรูหราต่างๆแล้วจบด้วยการขึ้นเตียงมากกว่าจะเที่ยวเล่นแบบน่ารักๆให้สมวัย

“สนุกไหมครับอัณณ์”
แพทริคถามอัณณ์ที่รื่นเริงสุดๆด้วยการขึ้นรถไฟเหาะตีลังกาเป็นรอยที่สาม

“สนุกครับแพทริค ถึงจะไม่ต่างจากที่ผมกางปีกบินเองเท่าไหร่ก็เถอะ แต่เครื่องเล่นแบบนี้ให้อารมณ์แปลกใหม่มากๆ”

“อย่างนั้นอีกรอบไหม”

“ได้เลย”
ทั้งคู่พากันไปซื้อตั๋วอีกรอบ พอขึ้นเป็นรอบที่สี่ อัณณ์ก็พาแพทริคไปนั่งพักตรงม้านั่งใกล้ๆ

“สนุกจังเลย”
อัณณ์พูดขณะดื่มน้ำส้มที่แพทริคส่งมาให้แก้กระหาย

“อัณณ์ดูกระตือรือร้นมาก ไม่ค่อยได้มาหรือครับ”

“อื้อ มาครั้งสุดท้ายตอนอายุสิบขวบได้”

“ถ้าอย่างนั้นเรามาด้วยกันอีกดีไหมถ้าอัณณ์ชอบ”

“เอ๋…”
อัณณ์เอียงคอมองแพทริคในสมองเริ่มตีความคำพูดของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

"ผมกำลังขออัณณ์คบเป็นคนรักอยู่นะ”
พออีกฝ่ายพูดตรงๆอัณณ์ก็ประหม่า ร่างบางดูดน้ำจากหลอดเสียงดีงแก้ประหม่าให้ตนเอง

“ผมแอบชอบอัณณ์มานาน แต่ผมรู้ดี อัณณ์คบหากับท่านวารินทร์ แต่จู่จู่ศิศิราก็เปิดโอกาสให้ผม ผมไม่ชอบทำอะไรชักช้า เพราะอย่างนั้น ช่วยเอาเรื่องของผมไปคิดดูเสียหน่อยได้ไหม”
อัณณ์ยังคงตั้งหน้าตั้งตาดูดน้ำส้มโดยไม่มองแพทริค ในตอนนั้น แพทริคก็ฉวยจับมือของอัณณ์ที่ว่างอยู่ขึ้นมากุม

“ได้โปรดสนใจผมหน่อยเถอะอัณณ์” แพทริคทำหน้าเศร้า

“แพทริคจะต้องเอาคำตอบเดี๋ยวนี้เลยหรือ”
อัณณ์ถามแพทริคที่ตอนนี้ร่างกายถูกแสงตะวันจับจนดูหล่อเหลามากเป็นพิเศษ

“ผมไม่รีบ แค่อยากให้อัณณ์ พูดว่าจะรับผมไว้พิจารณา “
อัณณ์ก้มหน้าคิด

แพทริคก็ไม่ใช่ผู้ชายระดับต่ำกว่ามาตรฐาน พูดกันตามตรง เขาดีเกินกว่าที่วาดฝันเอาไว้มาก นิสัยการกระทำก็เข้าขากับตนเองไปเสียหมด เสียอย่างเดียวคือตัวเขาเองต่างหาก ที่ไม่ยอมตัดใจจากวารินทร์ไปโดยง่าย หากตอบตกลงคบกับแพทริค ย่อมหมายถึงจะต้องเลิกเป็นชู้รักของวารินทร์

“อัณณ์ผมไม่รังเกียจถ้าจะเป็นแค่หนึ่งในผู้ชายที่คุณคบหา คุณเป็นปีศาจฝัน ผมรู้พฤติกรรมของเผ่าพันธุ์คุณดี”

“คุณก็รู้ว่าผมมีสิทธิสวมเขาให้คุณได้ทุกเมื่อ คุณยอมได้หรือ”
อัณณ์ลองถามตรงประเด็น เพื่อดูอาการ หากอีฝ่ายตีหน้าโกรธ เข้าจะใช้เป็นข้ออ้างปฏิเสธการคบหาไป

“ผมจะลองพยายามดู มั่นใจว่าผมจะทำให้คุณจบอยู่แค่ที่ผมเพียงคนดียว”
รอยยิ้มของแพทริคทำเอาอัณณ์ใจเต้น เป็นครั้งแรกเลยที่ใจเต้นกับคนอื่นนอกจากวารินทร์

“ผมอาจจะทำให้คุณเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่านะ”

“ผมพร้อมจะสู้ฟาดฟันอยู่แล้ว”
อัณณ์ยิ้มเจื่อนให้กับคำพูดของแพทริค แต่กระนั้นก็ตัดสินใจว่าจะลองพิจจารณาดูอีกฝ่ายสักครั้ง

“ผมยังไม่ได้ตอบตกลงจะคบกับคุณนะแพทริค แค่ลองไปเที่ยวกับคุณบ้างเป็นครั้งคราวตามประสาเพื่อน”

“ผมรอคราวหน้าแทบไม่ไหวแล้วล่ะ”
แพทริคยิ้มกว้าง หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พากันไปนั่งชิงช้าสวรรค์ ภาพแสงไฟกับทิวทัศน์สวยๆไม่ได้เป็นการสิ้นสุดการเดตในวันนี้
คู่เดตของอัณณ์ ปิดท้ายรายการของวันด้วยการพาเขาไปทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารในโรงแรมระดับหกดาว

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มาต่อแล้วนะคะหลังจากหายไปนาน

ช่วงนี้งานหลักงานพิเศษรุมเร้าหนัก แทบจะไม่มีเวลาพิมนิยายเลย

จะพยายามมาลงให้สม่ำเสมอนะคะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่7 7/2/59
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 13-02-2016 08:12:06
ดีใจที่มาต่อ :katai2-1:

แอบสงสารอัญญ์เนอะที่ยึดติดกับเจ้านายตัวเองขนาดนี้
แต่ก็ยังดีที่ยอมออกเดทกับแพททริค

รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่7 7/2/59
เริ่มหัวข้อโดย: nekodollzz ที่ 13-02-2016 12:29:26
อยากให้คู่กับน้องหมาจัง น่ารักอ่ะ
แต่ดูจากชื่อเรื่องแล้วคงต้องได้คู่กับคุณเจ้านายแน่เลย
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่7 7/2/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 16-02-2016 17:04:08
ตอนที่8

“ผมเข้าใจว่าปีศาจฝันอย่างคุณแทบจะไม่กินอาหารแบบปกติ แต่อาหารที่นี่อร่อยมาก ผมอยากให้อัณณ์ลองทานดู”

อัณณ์พยักหน้าหงึกหงัก เรื่องที่พวกเขาไม่ค่อยทานอาหารแบบปกตินั้นเป็นเรื่องจริง ปีศาจฝันอย่างพวกเขาเมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็จะดูดซึมพลังชีวิตจากคู่ขาแล้วเปลี่ยนมาเป็นพลังงาน

ดังนั้นอาการหิวของพวกเขาก็หมายถึงการหาคู่ขามาทำรักเพื่อให้อิ่มท้อง อาหารหรือสารอาหารแบบเผ่าพันธ์อื่นจึงไม่ค่อยจำเป็นนัก แต่ไม่ได้หมายความว่าใช้ทดแทนกันไม่ได้ เพียงแต่ปริมาณที่ใช้แทนกันมันต้องจำนวนมหาศาลมากกว่าที่คิด เหล่าปีศาจฝันจึงเห็นมันไม่จำเป็นที่จะทานอาหารในรูปแบบปกติ

“ไม่มีปัญหาหรอก”
ร่างบางยิ้มกว้างส่งกลับไปแพทริค พอถูกพามาถึงหน้าโรงแรม อัณณ์ก็จำได้ในทันทีว่าที่นี่เคยเป็นสถานที่ที่วารินทร์เคยพามา

“ผมรู้จากศิศิราว่าอัณณ์ชอบทานเผ็ด อาหารที่ภัตตาคารในโรงแรมนี้ขึ้นชื่อว่าเผ็ดและอร่อยมาก”
อัณณ์ไม่อยากจะบอกเรื่องที่รู้อยู่แล้ว ในหัวของเขาแทบไม่ได้คิดถึงเมนูอาหารเลิศรสที่ได้ทานแต่กลับเอาแต่คิดถึงวารินทร์จนแทบลืมเลือนไปว่าตนเองมาที่นี่กับใคร

“โต๊ะที่จองไว้สองที่ครับ”
แพทริคบอกกับบริกร ทั้งคู่เดินตามบริกรไปยังยังโต๊ะที่จองไว้ ในตอนนั้นตาเจ้ากรรมก็ปะเข้ากับวารินทร์ซึ่งนั่งอยู่กับนายท่านและนายหญิง อัณณ์ชะงักค้างในฉับพลัน

“มีอะไรหรืออัณณ์”
แพทริคถาม แต่พอเด็กหนุ่มผมเงินมองตามสายตาของอัณณ์ไปก็ถึงบางอ้อในทันที

“อัณณ์อยากไปที่อื่นหรือเปล่า”
คำพูดของแพทริคไม่เข้าหูอัณณ์เลยซักนิด ร่างบางยืนจ้องวารินทร์อย่างไม่วางตา
แทบระงับความอยากใกล้ชิดเอาไว้ไม่ได้

เขาอยากจะเข้าไปอยู่ใกล้ชิดคอยรับใช้ดูแลระวังภัยให้ผู้เป็นนาย รอยยิ้มน้อยๆบนใบหน้างดงามยามเอื่อนเอ่ยกับบิดามารดา ทำให้อัณณ์ร้อนผ่าวถึงแม้จะไม่ได้ยิ้มให้ตนก็ตาม

“อัณณ์ครับ”

สะดุ้งกายเฮือกหนึ่งแล้วมองไปยังแพทริค อัณณ์ที่คิดว่าไม่ได้การพยายามจดจ่อความคิดไปยังคู่เดท หากวอกแวกตอนนี้สำหรับแพทริคแล้วมันน่าสงสารเกินไป แต่อยากจะเข้าไปหาผู้เป็นนายเสียเดี๋ยวนี้เลย

สุดท้ายแทนที่จะได้ปรับความเข้าใจ กลายเป็นต้องมาแสดงให้เห็นความหลายใจของตนเองต่อหน้าวารินทร์ไปเสียนี่ อัณณ์ถอนหายใจด้วยคิดว่าอีกเดี๋ยววารินทร์คงเห็นตนเข้า แล้วก็เป็นดังคิด วารินทร์ใช้ดวงตาอันเต็มไปด้วยความอ่อนโยนมองทอดมายังตัวเขา

“อา”
อัณณ์ร้องครางออกมาเบาๆ โชคดีที่แพทริคกำลังง่วนกับการสั่งอาหารให้ วารินทร์ที่มองสบสายตากับเขายิ้มละไม ทำให้คนประสานสายตาใจเต้นตึกตักทั้งที่กำลังออกเดตกับชายอื่น

ผู้ชายร้ายกาจ

เพียงแค่ยิ้มนิดหน่อยก็ทำให้อัณณ์แทบจะคลานเข่าเข้าไปสวามิภักดิ์ รูปกายและท่วงท่าอันงามสง่าชวนมอง ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็คิดได้อย่างเดียวคือสมบูรณ์พร้อมไปเสียทุกอย่าง เพราะงดงามทุกกระเบียดแบบนี้ ร่างบางจึงหลงจนโงหัวไม่ขึ้น

วารินทร์คิดอะไรอยู่กันแน่นะ

อัณณ์ไม่เข้าใจความคิดของผู้เป็นนายเลยซักนิด ทั้งที่ชู้รักอันดับหนึ่งอย่างตนกำลังนอกใจอยู่ แทนที่จะโกรธ วารินทร์กลับโปรยยิ้มพราวระยับมาให้ตลอดทุกช่วงเวลาที่เขาทานอาหาร

แทบจะทนไม่ไหว อยากจะเข้าไปกอดจูบให้ริมฝีปากของผู้เป็นนายบวมช้ำ หากแต่ติดตรงที่ตนติดพันอยู่กับแพทริคตลอดระยะเวลาทานอาหาร จนเมื่อแยกจากกันอัณณ์แทบจะไม่ได้ใส่ใจคู่เดตของตนเลยแม้แต่นิดเดียว

หลังจากแยกย้ายแล้วกลับมาถึงบ้าน อัณณ์โทรศัพท์หาผู้เป็นนายหลายต่อหลายสายหากแต่ไม่ได้รับการตอบรับ  ร่างบางกระวนกระวายจนแทบนอนไม่หลับ

โกรธอยู่หรือเปล่านะ
คิดขณะพลิกตัวนอนตะแคงบนเตียงนุ่ม

หากโกรธเรื่องที่เขาสวมเขาให้ ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ไม่สิไม่ใช่แค่เรื่องนั้น เรื่องสำคัญคือจะเอาอย่างไรกับแพทริค
อัณณ์พลิกตัวนอนแผ่แล้วครุ่นคิด

ไม่ว่าจะคิดอย่างไรมันก็ไม่ยุติธรรมต่อแพทริคเลยซักนิด

เขารักวารินทร์จนแทบคลั่งตายขนาดนนี้ รู้ตัวดี แพทริคไม่สามารถทะลวงเข้ามาอยู่ภายในใจของเขาแทนที่วารินทร์ได้
เรื่องจะใช้แพทริคเป็นตัวหมากให้วารินทร์หึงหวง นอกจากจะไม่สำเร็จเขาก็ยังละอายที่จะทำเช่นนั้น คิดไปคิดมาควรจะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง บอกปฏิเสธคนดีดีอย่างแพทริคไปเสีย ให้คนคนนั้นเจอคู่รักที่จริงใจจะดีกว่า เมื่อตัดสินใจได้ ความตึงเครียดทั้งหมดก็คลายลง อัณณ์หลับตานอนได้อย่างไม่กังวล นอนยาวหลับสนิทจนถึงเช้า

ในที่สุดก็ไม่ได้กลับมา

อัณณ์เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบวารินทร์ก็หดหู่แต่เช้า ร่างบางอาบน้ำแต่งตัวแล้วจับรถมุ่งหน้าไปยังสถาบันฮิสตอเรียแต่เช้าตรู่ หวังว่าจะได้พบหน้าของผู้เป็นนายให้เร็วยิ่งขึ้น

รู้สึกได้ถึงสายตาที่แอบมอง แต่ไม่ว่าจะหันหาต้นกำเนิดสายตาเสียเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ อัณณ์จึงได้แต่ทำลืมไปเสีย แล้วก้าวเท้าเข้าไปในห้องเรียน พอพบหน้าของศิศิรา อัณณ์ก็เริ่มบทสนทนาของตน

“แพทริคเป็นนักเรียนของสถาบันเราหรือเปล่า” อัณณ์ถามศิศิราหลังจากนั่งลงบนเก้าอี้แล้ว

“ใช่ ถามทำไม หรือจะนัดพบครั้งต่อไป” ศิศิราทำหน้าเจ้าเล่ห์

“ถูกแล้วจะนัดพบเพื่อยากจะบอกปฏิเสธให้เรียบร้อย”

“อะไรนะ”
อัณณ์รีบใช้มือปิดปากศิศิราที่ตะโกนโวยวายเสียงดัง

“มีอะไรไม่พอใจแพทริคหรือไง”

“เขาดีทุกอย่าง แต่ฉันต่างหากที่ไม่ดีเอง” อัณณ์ทำหน้าเศร้าๆ

“ยังไงไม่เข้าใจ”

“ฉันตัดใจจากวารินทร์ไม่ได้ ศิราคงไม่เข้าใจฉันหรอก”

“ก็ไม่เข้าใจนะสิ” ศิศิราตีหน้ายักษ์

“ทำไมต้องปิดกั้นตัวเองแบบนี้ด้วย”

“ไม่ได้ปิดกั้น แค่ฉันฉลาดรู้ใจตัวเองดีพอ” อัณณ์โต้แย้ง

“ฉลาดกับบิดานายสิ อย่างนี้เขาเรียกโง่ บ้าผู้ชายจนโงหัวไม่ขึ้น”
ศิศิราตรงเข้าหยิกอัณณ์จนร้องโอดโอย คนโดนหยิกลูบแขนตัวเองไปมา น้ำตาใสใสเอ่อคลอทั่วดวงตาด้วยความเจ็บ

“จะโง่หรืออะไรก็แล้วแต่ ทางนี้จะปฏิเสธไปให้มันจบจบ มันดีกับแพทริคนะ”

“เข้าใจล่ะ จะให้นัดให้เมื่อไหร่” ศิศิราเบ้หน้า

“เย็นนี้เลย”

“รีบร้อนจริงเชียวนะ ว่าแต่ฉันหิวน้ำเราไปซื้อน้ำที่ร้านขายของกันดีกว่าอยากดื่มอะไรร้อนๆ”
อัณณ์ลุกขึ้นเดินตามคนที่จูงมือลาก หลังจากไปถึงที่หน้าห้องเรียนก็ปะเข้ากับแก้วที่ทำหน้าตื่นตระหนกโดยบังเอิญ

“เธอมาหลบมุมอะไรแถวนี้”
ศิศิราถามด้วยความไม่ชอบใจ แต่ทันทีที่ถูกทักแก้วก็เผ่นหนีจากไปเสียก่อนอย่างรวดเร็ว

“อะไรกันยัยนั้น ไม่ใช่มาแอบฟังอะไรนะ”
เห็นศิศิราพูดอย่างนั้นอัณณ์ก็ชักระแวง กับแก้วเขามีคดีบาดหมางกันอยู่ ไม่รู้อีกฝ่ายมาสอดแนมอะไรหรือเปล่า

“ว่าแต่ วารินทร์ยังไม่มาเลยนะนี่ ปกติมาเช้าจะตาย” ศิศิราเอ่ยกับอัณณ์ด้วยความสงสัย

“ไม่รู้สิ ไม่ได้นอนบ้านเดียวกันมาสองวันแล้ว”
อัณณ์ทำสีหน้าโศกสลด ในขณะที่ศิศิราถอนหายใจโดยแรง

“เอาน่าอย่าคิดมาก”
ศิศิราตบมือลงบนบ่าของอัณณ์แล้วลากจูงอัณณ์ไปยังโรงอาหารของสถาบัน

รู้สึกเหมือนถูกแอบตามจริงๆด้วย
อัณณ์มองไปรอบๆตัว เขาแคลงใจมาก วันนี้ทั้งวันมีอะไรแปลกๆ ลางสังหรณ์ของตนมันร้องเตือนจนขนลุกไปหมด

“นัดแพทริคให้หรือยัง”
ร่างบางกระซิบถามศิศิราที่นั่งอยู่ด้านหน้าในคาบเรียน

“โทรไปบอกแล้ว”

“แล้วเขาบอกหรือเปล่าว่าว่างไหม” อัณณ์ซักไซ้

“ต้องบอกนายด้วยหรือ ”
ศิศิราตีหน้าขรึม ความเอาแต่ใจของเพื่อนสนิททำให้อัณณ์ชักหงุดหงิด

“รู้ว่าฉันทำให้ศิราผิดหวัง แต่มันทำไม่ได้จริงๆ จะให้ตัดใจจากวารินทร์ฉันทำไม่ได้”

“แหม หากเจ้านั่นมาได้ยินคงดีใจน่าดู ทั้งที่หมอนั่นหายหัวไปจากนายหลายวันโดยไม่ใยดีแท้ๆ ยังอุตส่าห์จงรักภักดีกับมันอยู่ได้”
ศิศิราแยกเขี้ยวขาวโชว์ด้วยความไม่พอใจ

“บอกมาเถอะ เขานัดฉันไปที่ไหนแล้วว่างหรือเปล่าหรือแพทริคไม่ว่างคุย”
อัณณ์ทำเสียงอ่อนโยนมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ รู้ดีหากทำเสียงแข็งศิศิราคงไม่แคล้วกลั่นแกล้งตนแน่ๆ

“เขาจะรอที่ห้อง3bห้องเรียนของเขา หลังเลิกเรียน นายไปหาเขาได้เลย บอกไว้ก่อนนะฉันไม่ชอบแบบนี้เลย”
ศิศิราทำหน้าบึ้งตึงแล้วใช้สายตามองจิกมาจนอัณณ์ต้องยิ้มแหยๆ

“ขอโทษนะศิราที่ฉันเอาแต่ใจ”

“เอาน่า หากร้องไห้มา ฉันพร้อมจะคอยปลอบใจนายอยู่แล้วเพื่อนกันนี่”

“ขอบใจนะ”

อัณณ์ยิ้มกว้าง ศิศิราเองตอนนี้ก็ยิ้มด้วยเช่นกัน ถึงจะเป็นยิ้มแบบอ่อนอกอ่อนใจก็ตาม

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่7 7/2/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 16-02-2016 17:08:03
ตอนที่9

“จะยังรออยู่หรือเปล่านะ”
อัณณ์สาวเท้ารัวเร็วไปยังห้องที่นัดกับแพทริคเอาไว้ หลังเลิกเรียนเด็กหนุ่มปล่อยให้อีกฝ่ายรอคอยนานมากเนื่องจากถูกอาจารย์ขอให้ช่วยแบกอุปกรณ์การเรียนไปไว้ที่ห้องพักอาจารย์

“ขอโทษที่ทำให้รอนะ”
เมื่อไปถึง ภายในห้องไม่มีใครอยู่นอกจากแพทริค คนถูกทักยิ้มกว้างทันทีที่เห็นหน้าของอัณณ์

“รอนานไหม”
อัณณ์ถามหลังจากเดินไปอยู่เบื้องหน้าของแพทริค

“ไม่เลยผมเองก็ทำนู้นทำนี่หลายอย่าง เพิ่งว่างเมื่อครู่เอง”
แพทริคยิ้ม รอยยิ้มหล่อเหลาสดใสอัณณ์เห็นแล้วอึดอัดกังวลใจ เขารีรีรอรอด้วยไม่รู้จะเริ่มต้นบอกปฏิเสธการคบหากับคนตรงหน้าอย่างไร

“มีอะไรหรือเปล่าครับอัณณ์”
อัณณ์สะดุ้ง ร่างบางยิ้มแหยๆให้แพทริค

“พูดมาเถอะครับผมรอฟังอัณณ์อยู่”
เมื่ออีกฝ่ายเปิดโอกาสให้พูดอัณณ์ก็ตัดสินใจพูดออกไป

“คือ…ว่า…”
อัณณ์อึกอัก ท่าทางยึกยักของเขาทำให้แพทริคอมยิ้ม

“อย่ากลัวเลยผมไม่แกล้งคุณหรอก”
พอได้รับการเร่งเร้า อัณณ์ก็โพล่งออกไปด้วยเสียงอ้อมแอ้ม

“ผมจะปฏิเสธเรื่องการนัดพบครั้งต่อไปของเรา”

“อัณณ์ไม่ว่างหรือครับผมไม่ได้รีบร้อนอะไรอยู่แล้ว”
แพทริคยิ้มกว้าง อัณณ์เหงื่อตก เพราะตนใช้คำพูดสื่อความหมายไม่ตรงประเด็น

“ไม่ใช่….ไม่ใช่” อัณณ์โบกมือไปมาพัลวัน

“ฉัน…เอ่อ…”
อัณณ์เริ่มลนลานด้วยความวิตก ยิ่งเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของแพทริคเขาก็ยิ่งรู้สึกผิด

ไม่ยุติธรรมกับแพทริคเลย
ร่างบางคิดเช่นนั้นและเริ่มเกลียดตัวเองอย่างมากที่ใช้มารยาหลอกปั่นหัวคนตรงหน้า หากแพทริคจะโกรธเขาจะไม่แปลกใจเลย

“ผมรักวารินทร์ ไม่ว่าจะคิดอย่างไรคุณก็แทนที่ไม่ได้ และคิดว่ามันไม่ยุติธรรมกับคุณก็เลยบอกปฏิเสธคุณให้แน่ชัด”
อัณณ์ถอนหายใจเมื่อได้พูดในสิ่งที่ตนคิดออกไปได้เสียที

“ผมบอกอัณณ์ไปแล้วว่าไม่แคร์เรื่องจะเป็นชู้รักของอัณณ์ อัณณ์จะไม่เปิดโอกาสให้ผมลองดูหน่อยหรือ”
ความใจกว้างของคนตรงหน้าทำให้เขาไม่รู้จะหาอะไรมาพูดจูงใจอีกฝ่ายให้เลิกสนใจในตัวเอง

“อย่าเลย…ผมรู้สึกไม่ดี ถ้าจะทำอย่างนั้น”
แพทริคยิ้มเศร้าๆหลังจากฟังคำยืนยันจากอัณณ์

“คุณไม่เหมือนอินคิวบัสตนอื่นๆหรือปีศาจฝันเลย เผ่าพันธุ์คุณที่ผมรู้จักปล่อยตัวปล่อยใจมากกว่านี้ ยังไงดีล่ะคุณทำให้ผมประทับใจ บอกผมหน่อยได้ไหมว่าทำไมอัณณ์ถึงมีความรักที่มั่งคงได้ขนาดนี้”

“ผมเองก็ไม่รู้”

อัณณ์ตอบ เขาเองก็ไม่รู้แน่ชัดว่าตนเองเป็นอะไร หากแต่ใครๆในเผ่าก็มักจะมองอัณณ์แล้วออกความเห็นว่าอัณณ์ป่วย หรือไม่ก็ได้รับสายเลือดมาจากท่านย่าที่เป็นหญิงสาวเผ่ามนุษย์มากจนเกินไป

ณณ์ในวัยเด็ก ถูกเลี้ยงมาด้วยน้ำมือของคุณย่าตั้งแต่เล็กจนถึงแปดขวบ ถูกกล่อมเกลี้ยงให้รักเดียวใจเดียวและรักนวลสงวนตัว
แน่นอนเขาเป็นคนหัวอ่อนและเห็นด้วยกับแนวทางของคุณย่า ร่างบางชอบในความโรแมนติคของการรักเดียวใจเดียวมากกว่าจะเผื่อแผ่ความรักไปทั่วตามนิสัยของปีศาจฝัน

คุณปู่เองก็ยังรักมั่นกับคุณย่าเพียงคนเดียวถึงกับทำพิธีกรรมคุณย่ามีชีวิตอมตะแบบเดียวกับคุณปู่ เกี่ยวกับเรื่องนี้เขาเห็นมันเป็นรูปแบบความรักที่สุดยอด เป็นคนรักเพียงหนึ่งเดียวของกันและกันตลอดไป ช่างน่าหลงใหลใฝ่ฝันยิ่งนัก

อยากจะมีรักเดียวที่ดูดดื่มเร่าร้อน

อยากถวายร่างและจิตใจให้คนรักจริงเพียงคนเดียวเหมือนอย่างปู่กับย่า

“จะไม่พิจจารนาผมอีกหน่อยหรืออัณณ์”

“อย่าเลยมันจะทำให้แพทริคต้องเจ็บปวด”
อัณณ์ยิ้มเศร้าๆก่อนจะโน้มใบหน้าจุมพิตแผ่วเบาบนริมฝีปากของแพทริคเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย

“เข้าใจแล้ว” แพทริคหัวเราะฝืดเฝื่อน

“แต่ผมคงตัดใจจากอัณณ์ไม่ได้ง่ายๆ ผมแอบชอบอัณณ์มานาน อย่างไรเสียระหว่างที่ผมยังตัดใจไม่ได้ เราคบกันเป็นเพื่อนไปก่อนจะได้ไหม”

“ถ้าแพทริคต้องการอย่างนั้นผมก็ไม่ปฏิเสธ”
แพทริคยิ้มกว้าง ในตอนนั้นลูกบอลทรงกลมซึ่งปล่ยควันออกมาได้ก็ถูกโยนเข้ามาในห้อง อัณณ์กับแพทริคหันไปมองตรงจุดที่ถูกโยนเข้ามา

“แย่หน่อยนะ คงไม่ได้เป็นเพื่อนกันหรอก เพราะนายจะเล่นงานเจ้าอัณณ์จนปางตายแทนก่อนไงล่ะ”
แก้วซึ่งยืนหัวเราะร่วนเอ่ยบอก เจ้าหล่อนยืนเท้าเอวอยู่ด้านนอกประตูห้องเรียนอย่างก๋ากั่น

“หมายความว่ายังไง”
แพทริคกับอัณณ์ถามขึ้นมาพร้อมกัน ฉับพลันแพทริคก็กระโจนเข้าหาแก้วที่ยืนอยู่หน้าประตูแต่กลับปะทะกับกำแพงโปร่งแสงดังโครม

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันใช้ลูกแก้วอาคมสร้างเขตกักกันเอาไว้ ที่นี่ฉันจะรอดูว่าควันคุ้มคลั่งจะออกฤทธิ์กับแวร์วูฟเมื่อไหร่ ควันชนิดนี้ใช้กับพวกแวร์วูฟโดยเฉพาะเลยน้า แกเสร็จแน่อัณณ์”
คนหัวเราะใช้มือปาดคอเป็นสัญญลักษ์ข่มขู่ อัณณ์จับต้นชนปลายไม่ถูก ในขณะที่แพทริคเริ่มมีอาการผิดปกติไป

“ทำไมทำแบบนี้” อัณณ์ตะคอกถาม

“ทำไมนะหรือ เพราะแกฉันถึงถูกพวกสาวกของท่านวารินทร์ตามแกล้ง รู้ไหม หลายวันมานี้ฉันต้องโดนอะไรบ้าง” แก้วยิ่งพูดก็ยิ่งเดือดดาล

“แต่ช่างมันเถอะ แค่เห็นแกสะบักสะบอมฉันก็สบายใจขึ้นมาแล้ว” แก้วหัวเราะเสียงดังด้วยความชอบใจ

อัณณ์…คุณ….ไปให้ห่างผม”
แพทริคซึ่งสูดควันเข้าไปเต็มปอดร้องขอด้วยใบหน้าที่ดูรวดร้าว อัณณ์เห็นแล้วสงสารจับใจ

“ให้ผมดูอาการคุณหน่อยเถอะ”
อัณณ์ขยับเข้าไปใกล้ แต่ก็ถูกแพทริคขู่คำรามด้วยเสียงของสัตว์ป่าจนต้องถอยห่าง

“ไปให้พ้นอัณณ์ผมจะครองสติไม่อยู่แล้ว”
แพทริคคำรามเสียงดังก่อนจะกระตุกสั่นไปทั้งร่าง ในตอนนั้นคนตรงหน้าก็กลายร่างเป็นแวร์วูฟแล้วใช้กรงเล็บโจมตีอัณณ์จนได้เลือดในชั่วพริบตา

“แพทริค”
อัณณ์ขมวดคิ้วพร้อมกับมองดูแพทริคที่ไม่เหลือสติสัมปัญชัญญะอีกต่อไป แก้วที่อยู่ด้านนอกหัวเราะชอบใจ

“เอาไว้แกสะบักสะบอมมากมาก่อนแล้วฉันจะช่วยออกมาแล้วกันนะ” แก้มพูดพร้อมแสยะยิ้ม

“เธอไม่รอดแน่ๆถ้าคนอื่นรู้เรื่อง”
อัณณ์ชี้ให้เห็นความจริงขณะเตรียมตัวรับการโจมตีของแพทริคอีกครั้ง

“พูดอะไร ฉันมีลูกแก้วดูดความจำอยู่ เดี๋ยวฉันใช้มันกับพวกแกก็สบายไปแล้ว”
อัณณ์เดาะลิ้นอย่างหัวเสีย ลูกแก้วดูดความจำเป็นไอเท็มชั้นสูงของเผ่าพ่อมด แม้แต่พวกปีศาจชั้นสูงยังลำบากหากต้องแก้ไขความทรงจำของผู้ถูกเล่นงานให้กลับคืนมา

“ฝากไว้ก่อนเถอะ”
เค้นเขี้ยวแล้วเรียกแส้ซึ่งเป็นอาวุธประตำตัวออกมา อัณณ์รู้ตัวว่าคงหลบการโจมตีด้วยความเร็วเต็มกำลังของแพททริคไม่ทัน จึงสร้างร่างลวงตาของตนขึ้นมาจำนวนมาก

“ขอโทษนะแพทริค”
อัณณ์ฟาดแส้ใส่แพทริคไม่ยั้ง ในขณะที่คู่ต่อสู้ทำร้ายร่างปลอมๆของตนหลายต่อหลายครั้ง เมื่อโจมตีเท่าไหร่ก็พบว่าเป็นร่างปลอมแวร์วูฟก็หยุดเล่นงานมั่วๆแล้วยืนทำจมูกฟุดฟิด

“ฮ่าฮ่า แกลืมไปแล้วหรือว่าสุนัขจมูกดีจะตาย ครั้งต่อไปแกไม่รอดแน่”
เสียงหัวเราะของแก้วบาดหูอัณณ์ยิ่งนัก แต่ไม่สามารถจะตะโกนตอบโต้ได้ เพราะตอนนี้แค่หลบการจู่โจมของแพทริคก็ยังทำไม่ได้เลย ร่างบางถูกกรงเล็บเล่นงานนับครั้งไม่ถ้วนในเวลาชั่วเสี้ยว

แย่แล้ว ไม่คิดว่าแพทริคจะไวถึงขนาดนี้

อัณณ์ที่ยังไม่หมดแรงพยายามตอบโต้ด้วยการฟาดแส้สวนกลับไปทว่าในจังหวะนั้นถูกกระโจนผลักจนล้มลง เหนือร่างของเขาแพทริคง้างกรงเล็บเตรียมตะปบลงมา

แต่กระนั้นแทนที่จะได้ฝังกรงเล็บลงบนร่างเนียนนุ่ม แพทริคกลับกระเด็นหวือไปกระแทกกับกำแพงด้วยมวลพลังสีดำซึ่งกระทบถูกเข้าเต็มรัก มวลพลังที่ว่าเจาะเขตกักกันจนเป็นรอยร้าวและแตกสลายหายไป อัณณ์หันไปมองที่มาของมวลพลังอันมหาศาล

“ท่านวารินทร์”
แก้วร้องครางด้วยความตกใจ ที่เบื้องหน้าอัณณ์ข้างๆตัวแก้ว วารินทร์ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ยิ้มอย่างเคยยืนตีหน้านิ่งราวรูปปั้น

คุณทำเกินไปแล้วนะแก้ว”
เมื่อไม่เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนอันเป็นรูปแบบปกติของวารินทร์บวกกับรัศมีแห่งความดุดันที่แผ่ออกมา แก้วก็ยืนตัวสั่นงันงก

“ไปให้พ้นหน้าผมซะ แล้วอย่าคิดทำแบบนี้อีก”
ดวงตาคมกริบของวารินทร์ทำเอาอัณณ์และแก้วหวาดผวา ร่างบางไม่เคยเห็นผู้เป็นนายมีแววตาเช่นนี้กับใครมาก่อน จนนึกเข้าข้างตัวเองว่าคนที่มาช่วยอาจจะโกรธแค้นแทนตนเองมากก็เป็นได้

“ลุกขึ้น”
วารินทร์ยื่นมือมาให้จับ อัณณ์คว้ามืออันอบอุ่นแล้วถูกอีกฝ่ายฉุดให้ยืนขึ้น

“ผมมารับเธอกลับบ้าน แต่เธอไม่อยู่ที่ห้องเรียนก็เลยเสียเวลาในการตามหา เธอคงไม่โกรธผมที่ปล่อยให้เธอรอนานหรอกใช่ไหม”

“ไม่เลย” อัณณ์ส่ายหน้าไปมา

“ถ้าอย่างนั้นเรากลับบ้านกันเถอะ”
วารินทร์โปรยยิ้มอ่อนหวานขณะช้อนอุ้มร่างบางขึ้นแต่อัณณืกลับขืนตัวเอาไว้เพราะเป็นห่วงแพทริคซึ่งนอนสลบอยู่

“แล้วแพทริคล่ะ”
อัณณ์หันไปมองแพทริค เมื่อหันกลับมาก็เห็นใบหน้านิ่งและรอยยิ้มเย็นบนใบหน้าของผู้เป็นนาย เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นสีหน้าแบบนี้

“อย่าทำให้ผมโกรธ เธอไม่จำเป็นต้องห่วงผู้ชายคนนั้น เดี๋ยวผมจะรับช่วงต่อเอง”
กล่าวจบวารินทร์ก็กระตุกอัณณ์ให้โผเข้ามาในอ้อมกอดแล้วประกบจูบดูดดื่มยาวนาน ร่างบางหลงไหลเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่ไม่ได้สัมผัสมานานถึงสองวันจนลืมเลือนแพทริคซึ่งนอนสลบอยู่ไป

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่8-10 16/2/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 16-02-2016 17:13:23
ตอนที่10

“ถอดเสื้อผ้าออกซะผมจะรักษาให้”
ถูกสั่งแบบนั้นหลังจากกลับมาถึงยังบ้านของพวกเขา อัณณ์ค่อยๆถอดเสื้อออกทีละชิ้นตามคำสั่ง ขณะที่ถอดก็รู้สึกถึงแววตาวาวโรจน์ของผู้เป็นนายซึ่งมองเขม่นมาตามรอยแผลของเขา

โกรธอยู่แน่ๆ
แต่อัณณ์ก็ไม่มีเวลาได้คิดหาเหตุผลมากนัก เมื่อถูกผลักให้ล้มลงบนเตียงเบาๆทันทีที่ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด

“มีรอยแผลเต็มไปหมด เธอที่ซุกซนจะทำให้ผมปวดหัววันละกี่รอบกัน”

“เรื่องนั้น…อื้อ…”
ร้องครางเสียงแผ่ว อัณณ์ถูกปลายลิ้นรอนโลมเลียที่บริเวณแผลตามร่างกาย พอถูกเลียแผลตรงไหนจุดที่เป็นแผลก็จะเลือนหายไป ความสามารถของผู้เป็นนายยังคงวิเศษและน่าทึ่งเช่นเดิม

“รักษาแบบปกติก็ได้…ทำไมต้องเลียด้วย….อา…” อัณณ์เกร็งตัวขณะที่วารินทร์ลากปลายลิ้นไปบนท้องน้อย

“ผมจะรักษาให้เธอยังไงมันก็เรื่องของผม”
หลังจากถูกดุอัณณ์ก็เบ้ปากด้วยความแง่งอน แต่พอรักษาจนแผลหายหมด วารินทร์ก็ยังไม่หยุดไล้เลีย แถมยังจับขาเขาแยกออกจากกันแล้วบรรจงลงปลายลิ้นไปยังจุดเร้นลับบริเวณบั้นท้าย

“อึก…ทำไมถึงไปเลียตรงนั้นล่ะ…”
วารินทร์ไม่ตอบคำถาม แต่ตั้งอกตั้งใจเลียไปยังจุดจุดนั้นจนเปียกชุ่ม ซ้ำยังใช้มือชักรูดอวัยวะเพศของอัณณ์ให้อีกด้วย

“อา…อื้อ….”
อัณณ์ทรมานด้วยราคะที่โหนตัวสูงขึ้น การถูกช่วยเหลือทั้งด้านหน้าและถูกรังแกที่ด้านหลัง เช่นนี้อัณณ์จึงยิ่งต้องการวารินทร์จนแทบคลั่ง ร่างบางเว้าวอนทั้งน้ำตาขอให้วารินทร์สอดใส่เข้ามาเสียที

“ได้โปรดใส่เข้ามีเถอะ”
อัณณ์ถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งที่สองทันทีในตอนที่ร้องขอ ดวงตาฉ่ำเยิ้มมองวารินทร์ที่ผละห่างออกไป

“ผมไม่มีอารมณ์จะทำรักตอนนี้ ถ้าเธอต้องการก็ทำให้ผมต้องการบ้างสิ”
รอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าผู้เป็นนาย อัณณ์เห็นแล้วอยากร้องไห้ คนตรงหน้าคงโกรธเขามากจริงๆ เพราะไม่เคยเลยที่จะได้เห็นสีหน้าแบบนี้ยามอยู่ด้วยกัน ร่างบางคลานเข่าเข้าหาวารินทร์ ใช้มือรูดซิปกางเกงของอีกฝ่ายปล่อยให้ความใหญ่โตซึ่งยังไม่ตั้งชันออกมาด้านนอก

“ไม่มีอารมณ์เลยหรือ”
อัณณ์ถามด้วยเสียงเศร้าสร้อย เขาเสียใจ ทั้งทั้งที่ตนเองมีอารมณ์ใคร่อยากมาก แต่ผู้เป็นนายทั้งเล้าโลมทั้งสัมผัสเขาแต่กลับไม่ตั้งชันขึ้นแม้แต่น้อย

“ถ้าเธอตั้งใจใช้ปาก บางทีผมอาจจะอยากขยี้เธอขึ้นมาบ้างก็ได้”

อัณณ์จรดปากครอบครองความเป็นชายของผู้เป็นนายหลังจากถูกชี้แนะ ริมฝีปากน้อยๆทั้งจุมพิตโลมเลียดูดกลืนให้วุ่นวาย พยายามอยู่นานจนในที่สุดเครื่องเพศที่ตั้งอกตั้งใจเล้าโลมก็ตั้งชันขึ้นมาจนได้
อยากให้สิ่งนั้นสอดใส่เข้ามาเสียเดี๋ยวนี้ แต่ถึงใช้สายตาเว้าวอนวารินทร์ก็ยังพูดจาโหดร้ายออกมา

“วันนี้ผมขี้เกียจ ถ้าเธอหิวก็ทำด้วยตัวเองเถอะ”

“ใจร้าย”
ถึงจะเอ่ยต่อว่า แต่อัณณ์ก็ขยับกายขึ้นคร่อมวารินทร์ด้วยตนเอง ช่องทางที่ถูกเตรียมการจนชื้นแฉะทำให้การสอดใส่เป็นไปอย่างไม่ยากเท่าที่คิด

“อึก…อื้อ….”
คิ้วเรียวขมวดมุ่น เมื่อพยายามรับเอาความแข็งขึงเข้ามาภายใน เมื่อรับเข้าไปจนหมดอัณณ์ก็หยุดนิ่งด้วยเต็มตื้นจากการถูกเติมเต็ม

"ขยับสิ”
พอถูกสั่งอัณณ์ก็ค่อยๆขยับโยกช้าๆ ความเสียวสะท้านที่เกิดขึ้นส่งผลให้การขยับไม่ราบรื่นเท่าใจคิด มันรู้สึกดีจนไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับกายกระแทกซ้ำๆด้วยตนเอง

“ไม่ได้เรื่องจริงๆ”
วารินทร์ยิ้มกริ่ม จังหวะนั้นมือใหญ่ก็ยึดจับสะโพกของอัณณ์แล้วขยับสอดประสานร่างกายเข้าหาถี่กระชั้น เพราะกะทันหันร่างบางจึงเกิดอาการตาพร่าทั้งจุกเสียดไปพร้อมๆกับมีความสุข

“อา….อ๊ะ”
อัณณ์ร้องเสียงหลงเขาถูกขบกัดที่ยอดอกโดยแรงจากนั้นก็ถูกปลอบโยนด้วยปลายลิ้นร้อนอย่างต่อเนื่องตรงบริเวณซึ่งถูกกัด

“ก…โกรธอะไรอยู่หรือเปล่า”
อัณณ์พยายามร้องถามขณะถูกกระแทกกระทั้นจนตัวโยน ตอนที่ถูกปรับเปลี่ยนท่วงท่ามาเป็นท่ามิชชันนารี่จึงออกปากถามได้สะดวกแต่ก็ยังลำบากพอดู

“แน่อนผมโกรธ ตัวเธอเป็นสมบัติของผม แต่เธฮก็ยังทำให้เกิดบาดแผล เพราะอย่างนั้นผมจึงทำโทษเธออย่างไรล่ะ”

“….อึก….”
ร้องคลางไปพร้อมกับคิดอยู่ในใจว่าโชคดีแล้วที่ยังลงโทษเบาะๆ หากลงโทษรุนแรงกว่านี้ แค่จินตนาการอัณณ์ก็หวาดผวาเพราะไม่รู้ว่าจะโดนอะไรบ้าง

“อัณณ์เธอเป็นของผม ถ้าผมไม่อนุญาตเธอก็ห้ามขัดคำสั่ง ห้ามีบาดแผลโดยที่ผมไม่ต้องการเด็ดขาด”
ถูกกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงห้วนดุ แทนที่จะกลัวอัณณ์กลับเสียวซ่านจนปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สาม จากนั้นการทำรักหรือการลงทัณอันยาวนานก็ดำเนินไปตลอดถึงสองวัน

เสียงกริ๊งกร๊างดังถี่ถี่ จนอัณณ์ต้องลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์ เมื่อรับสายเสียงของศิศิราดังลอดออกมาจากปลายสาย

“หายหัวไปอีกแล้วนะ”
เสียงของศิศิราฟังดูหงุดหงิดจนอัณณ์หวั่นวิตก

“แพทริคเข้าโรงพยาบาลวันนี้ก็ยังนอนพักอยู่ในโรงพยาบาล”
อัณณ์ตกใจ คำพูดของศิศิราทำให้นึกขึ้นมาได้ เขาลืมแพทริคไปเสียสนิท

“เขาเป็นยังไงบ้าง” อัณณ์ถามคนปลายสาย

“อาการยังแย่อยู่ เพราะไอ้ควันคุ้มคลั่งเลยทำให้นอนซมแถมคลื่นไส้จนอ้วกเป็นพักๆ ลำพังแค่บาดเจ็บจากการถูกทำร้ายก็มากพอแล้ว”

เขาอยู่ในโรงพยาบาลไหนฉันจะไปเยี่ยม”
หลังจากยืนยันความต้องการ ศิศิราก็บอกสถานที่ให้ได้รู้ อัณณ์ที่อยู่ในบ้านเพียงลำพังอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปข้างนอกมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล แต่ก็นึกอะไรบางอย่างได้

“ลืมไปเลยต้องมีของเยี่ยมด้วย”
ฉุกคิดได้อัณณ์ก็เปลี่ยนเป้าหมายการเดินทางเสียใหม่

“นี่สิบโมงครึ่งพอดี ห้างสรรพสินค้าคงเปิดแล้ว”
อัณณ์เรียกรถtaxiมุ่งตรงไปยังห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่อยู่ไม่ห่างไกลนัก

“ซื้ออะไรดีนะ”
เมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้าอัณณ์ก็เดินใจลอยหมกหมุ่นอยู่กับความคิดของตน ขณะที่เดินไปถึงหัวมุมทางเดินก็ชนเข้ากับคนคนหนึ่งจนน้ำจากแก้วที่อยู่ในมือของคนคนนั้นหกรดเสื้อของเขาจนเปรอะไปหมด

“เป็นยังไงบ้าง”
น้ำเสียงอ่อนโยนดังขึ้นเหนือศีรษะ อัณณ์เงยหน้าขึ้นมองแล้วปะกับคนรูปงามซึ่งมีผมสีดำและดวงตาสีฟ้าใส ใบหน้ารูปลักษณ์ของคนคนนี้งดงามเท่าเทียมกับผู้เป็นนายจนอัณณ์เผลอใจเต้น

“เอ่อ…ขอโทษครับผมซุ่มซ่ามไม่ทันมอง” อัณณ์ขอโทษ

"พูดอะไรทางนี้ต่างหากที่ทำให้เธอต้องเปื้อนไปหมด”
คำพูดคำจาและลักษณะท่าทางอันใกล้เคียงกับวารินทร์ อัณณ์อดเอาไปเปรียบเทียบกับผู้เป็นนายไม่ได้ คนคนนี้รูปร่างหน้าตากริยามารยาทช่างงดงามทัดเทียมจนเสมือนเป็นญาติพี่น้องของวารินทร์

“เสื้อเธอเปื้อนหมดแล้ว ผมจะพาเธอไปหาเสื้อผ้าใหม่”

“ม…ไม่ต้อง ผมจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านเองครับ”
อัณณ์โบกไม้โบกมือไปมา ชั่วเสี้ยววินาทีนั้นดวงตาสีฟ้าของคนตรงหน้าเปล่งแสง ร่างบางซึ่งสบตาของอีกฝ่ายจังงังเหมือนถูกสะกด

“อย่าทำให้ผมรู้สึกผิดไปมากกว่านี้ ไปเลือกซื้อเสื้อผ้าใหม่กับผมเถอะ”

“ได้ครับ”
ตอบตกลงไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อสติกลับมาอัณณ์ก็ปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป เพราะรู้สึกตัวอีกทีก็ถูกห้อมล้อมด้วยบรรดาคนคุ้มกันของคนตรงหน้า

“คนพวกนี้เป็นบอดี้การ์ดของผมเธอไม่ต้องกลัวนะ”
อัณณ์ยิ้มเจื่อนให้ชายปริศนาผู้งดงาม ระหว่างที่ถูกเหล่าคนคุ้มกันกดดันให้เดินเคียงข้างเจ้านายของพวกเขา ร่างบางก็เอ่ยถามชื่อของอีกฝ่าย

“ผมชื่อยูลิ แล้วเธอล่ะ”

“อัณณ์ พริมโรส ครับ”
ตอบออกไปเมื่อถูกถามกลับก่อนจะตั้งคำถามต่อไปอีก

“คุณมีคนคุ้มครองส่วนตัวหลายคนคงเป็นคนใหญ่คนโตแน่เลยมาจากตระกูลไหนหรือครับ”
ถึงเป็นการละลาบละล้วงแต่อัณณ์ก็อยากจะรู้อยู่ดี ด้วยรูปลักษณ์และบรรยากาศอันงดงามโดดเด่นเสมอกันกับวารินทร์ หากไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่เห็นทีจะเหลือเชื่อเกินไป

“เธออย่ารู้จะดีกว่า ผมกลัวเธอจะตกใจจนไม่กล้าคบหากับผม”
ยูลิยิ้มหวาน เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมตอบอัณณ์ก็ไม่ได้ซักถามให้มากความ

“เลือกได้ตามใจชอบเลยนะ”
อัณณ์ถูกพามายังร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดัง มูลค่าของเสื้อผ้าร้านนี้แค่เสื้อยืดธรรมดายังเหยียบครึ่งหมื่น เสื่อผ้าแพงพวกนี้ร่างบางแทบไม่อยากแตะหากแต่มักได้รับมาจากวารินทร์อย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่ตระกูลของเขายากจนแต่ถูกคุณย่าสอนให้รู่จักประหยัด

“เอ่อ…”
ยืนงกงกเง่นเงื่นอยู่นาน พอถูกกำชับว่าให้เลือกเถอะไม่ต้องเกรงใจ อัณณืก้ตัดสินใจเลือกเสื้อผ้าที่ราคาถูกที่สุดมาหนึ่งชุด

“เธอนี่ไม่มีความสามารถในการเลือกเสื้อผ้าจริงๆ”
ยูลิยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นอัณณ์เปลี่ยนเสื้อยืดออกมาจากห้องลองชุด

“ผมไม่รู้สึกเลยว่าได้ชดใช้อะไรให้เธอ เอาอย่างนี้ผมเลือกให้เองจะดีกว่านะ”
จนใจที่จะเอ่ยค้าน แม้กระทั่งนิสัยช่างบังคับยังละม้ายคล้ายคลึงกับวารินทร์ อัณณ์ปล่อยให้ยูลิเลือกเสื้อผ้าให้ตนอีกชุด

“เท่านี้ผมค่อยสบายใจหน่อย”
ยูลิยิมเมื่อเลือกเสื้อผ้าให้อัณณ์เสร็จ เสื้อผ้าที่ได้รับมาเป็นเสื้อแจ็คเก็ตเข้ารูป เสื้อยืดลายสวยหนึ่งตัวและกางเกงยีนขาเดฟ เสื้อผ้าที่มองดูแล้วธรรมดา แต่เนื้อผ้าที่ใช้เป็นเนื้อผ้าอย่างดีและราคาแพงระยับ ถึงอยากปฏิเสธแต่คนตรงหน้าก็จ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว

“เอ่อขอบคุณครับ”
เอ่ยขอบคุณพร้อมกับรับถุงเสื้อมาอัณณ์ปั้นหน้าไม่ถูกไม่รู้ยิ้มดีหรือทำหน้าเจื่อนดี

“เดตกันครั้งนี้ผมสนุกมาก หวังว่าครั้งหน้าเธอจะใส่ชุดที่ผมซื้อให้มาพบผมนะ”
อัณณ์เอ๋อไปพักใหญ่ หลังจากคนโมเมลาจากไปทิ้งให้ตนสับสนเรื่องการเดตอย่างไม่เป็นทางการ ร่างบางก็เดินดูรอบห้างหาซื้อของเยี่ยมแพทริคต่อไป

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

อัพเยอะเพราะมีในสต๊อกเยอะแล้วจ้า

ตอนนี้เหลือแค่เอานิยายจากสมุดมาพิมส์ลงคอม


หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่8-10 16/2/59
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 16-02-2016 17:53:52
สงสารแพคทริคอ่ะ อัญญ์ใจร้าย

ยิ่งอ่านก็ยิ่งอนาถใจอัญญ์ คือไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถออกมาจากเงาเจ้านายตัวเองได้เลยใช่ไหม :m31:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่8-10 16/2/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 29-02-2016 19:45:58
ตอนที่11
“ดีใจจังที่อัณณ์มาเยี่ยม”
แพทริคซึ่งนอนป่วยอยู่บนเตียงยิ้มกว้างให้อัณณ์ที่วางกระเช้าผลไม้ลงบนโต๊ะข้างเตียง

“คุณใกล้จะออกจากโรงพยาบาลหรือยังครับ ขอโทษนะที่ผมเพิ่งมาเยี่ยม”

“ไม่มีปัญหา อัณณ์แค่มาเยี่ยมผมก็ดีใจแล้ว”
คำพูดของแพทริคอัณณ์ฟังแล้วก็สบายใจขึ้น ร่างบางนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง

“อัณณ์ไม่บาดเจ็บผมก็ดีใจแล้ว พอตื่นขึ้นมาผมก็อยู่ในโรงพยาบาล แถมอัณณ์ก็เงียบหายไปผมกระวนกระวายใจมาก”

“ท่านวารินทร์มาช่วยผมเอาไว้นะแพทริค”

“เรื่องนั้นผมรู้แล้ว พวกการ์ดของท่านวารินทร์เล่าให้ผมฟัง พอตื่นขึ้นมาก็ถูกซักถามหลายอย่าง”

“คุณคงลำบากใจ”
อัณณ์ยิ้มเจื่อน ด้วยไม่รู้ว่าวารินทร์สั่งให้บอดีการ์ดคนอื่นทำอะไรลงไปบ้าง แต่แพทริคเล่าคร่าวๆว่าแค่ถูกซักถามเรื่องของแก้วนิดหน่อยร่างบางก็คลายใจ

"ผู้หญิงคนนั้นคงจะไม่มายุ่งกับอัณณ์อีกแล้วล่ะ” แพทริคยิ้ม

“เพราะนอกจากท่านวารินทร์จะออกคำสั่งลงไป ผมยังขอให้ตระกูลของผมจัดการกับต้นตระกูลของหล่อนด้วย”

“ขอบคุณนะแพทริค”
อัณณ์ตื้นตันจนยิ้มออกมา แค่คบกันเป็นเพื่อนไม่เท่าไหร่ คนตรงหน้าก็ช่วยเหลือเขาทั้งที่ไม่จำเป็นแถมเขายังเป็นต้นเหตุทำให้ต้องเจ็บตัวอีกด้วย

“คุณจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ครับแพทริค”

“อีกสองสามวันครับอัณณ์ ถ้ายังไงพอผมออกจากโรงพยาบาลเราไปเที่ยวกันตามประสาเพื่อนบ้างนะครับ”

“แน่นอนครับแพทริค”
หลังตอบตกลงไป อัณณ์ก็ใช้เวลาดูแลอีกฝ่ายอยู่หลายชั่วโมง ผ่านไปถึงสี่ชั่วโมงอัณณ์ก็ขอตัวกลับ แพทริคมีสีหน้าเซื่องซึมเล็กน้อย

“ยังอยากให้อัณณ์อยู่อีกหน่อย” แพทริคที่เซื่องซึมมีท่าทีคล้ายวอนขอ

“ไม่ได้หรอกแพทริค ผมต้องไปเตรียมอาหารเย็นให้ท่านวารินทร์”
หลังจากพูดออกไปเช่นนั้นแพทริคก็ยอมเข้าใจง่ายๆ อัณณ์กล่าวลาแล้วมุ่งตรงไปยังบ้านของตนเป็นเวลาเดียวกับที่ผู้เป็นนายกลับมาพอดิบพอดี

“มาเร็วจัง ฉันยังไม่ได้เตรียมอาหารเลย”
อัณณ์ถือถุงวัตถุดิบไว้ในมือส่งยิ้มกว้างให้ผู้เป้นนาย แต่ใบหน้าบึ้งตึงของวารินทร์ทำให้เขาหุบยิ้มลงโดยฉับพลัน

เกิดอะไรขึ้นนะ

คิดพลางมองสำรวจดูผู้เป็นนายอย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะสังเกตเห็นนาฬิกาเรือนหรูมีรอยร้าว แปลก คนอย่างวารินทร์รักษาของดีเสมอ ทำไมนาฬิกาถึงกระจกร้าวได้ ร่างบางไม่รอช้าถามถึงสิ่งที่สงสัยออกไป

“ทำไมกระจกนาฬิกาถึงร้าวล่ะ”

“โดนลอบทำร้าย”

“อะไรนะ”
ผู้เป็นนายเดินเข้าบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่อัณณ์ที่สติแตกไปแล้วจนแทบจะกลายร่างเป็นแม่ซึ่งตกตื่นยามลูกชายถูกรังแก เดินตามไล่สำรวจร่างกายของวารินทร์อย่างไม่ลดละ

“ไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม”
อัณณ์วางของแล้วเริ่มสำรวจดูวารินทร์ที่ยังยืนนิ่งไปทุกอนูซึ่งสามารถมองเห็นและสัมผัสได้

“ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นแค่นาฬิการ้าวเท่านั้นเอง”

“บ้าที่สุดใครมันเป็นคนทำนะ”
อัณณ์ที่หัวเสียเอ่ยเสียงดังจนเกือบจะเป็นการตะโกน ร่างบางทั้งโกรธทั้งร้อนใจ หากแต่คนถูกเล่นงานกลับนิ่งเฉยไม่รู้สึกรู้สาอะไร

“ต้องสืบหาให้พบโดยเร็ว ฉันจะติดต่อไปยังเครือข่ายของพ่อให้ช่วยหาคนทำ”
อัณณ์ตัดสินใจได้ก็คว้าโทรศัพท์เตรียมจะต่อสายถึงพ่อของตน แต่เมื่อโทรไปแล้วไม่มีคนรับมือเล็กจึงกดปุ่มรัวเร็วส่งข้อความแจ้งความประสงค์ของตนเองไป

“ว่าแต่นายไปไหนมาถึงได้โดนทำร้าย”
ถามหลังจากส่งข้อความเรียบร้อยแล้ว

“ผมถูกโจมตีระหว่างนั่งรถเดินทางไปดูตัว”

ดูตัว

คำคำนี้เล่นงานอัณณ์จนยืนแข็งค้างด้วยความงง ร่างบางขยับร่างกายไม่ได้ จวบจนเมื่อวารินทร์ขอตัวไปอาบน้ำนั่นแหละ เขาถึงได้เดินไปเตรียมอาหารเย็นด้วยอาการเหม่อลอย

สองสามวันมานี้อัณณ์ใช้ชีวิตอย่างปีศาจไร้วิญญาณ นับตั้งแต่วารินทร์บอกว่าจะไปดูตัว ร่างบางก้แทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ จากคำบอกเล่าของพ่อกับแม่ นายท่านและนายหญิงต้องการให้ผู้เป็นนายสืบทอดตระกูลและมีบุตรผู้สืบทอดสกุลให้โดยเร็ว

สุดท้ายแล้วก็เรื่องมีเด็ก เขาที่ให้กำเนิดไม่ได้ อยากจะฆ่าตัวตายไปเสียให้พ้นๆ แต่ก็กลัวว่าถ้าหากตายไปจะมีหณิงชายมากมายเข้าเสียบแทนตำแหน่งชู้รักของวารินทร์แทนตน แค่คิดก้ยอมไม่ได้

อัณณ์ยิ่งคิดยิ่งปวดร้าว หัวข้อที่ว่าถ้าตนเป็นผู้หยิงวนเวียนมาบรรจบอีกครั้ง อย่างไรก็ดีหากตนเลือกเป็นซาคิวบัสเสียแต่แรกคงไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจเฉกเช่นทุกวันนี้

“เหม่อลอยอะไรนักหนา”
คนถูกทักสะดุ้งกาย อัณณืกระพริบตาปริบๆมองดูศิศิราซึ่งตีหน้าบึ้งตึง

“สองสามวันมานี้เหม่อตลอด ตอนนี้เจ้าวารินทร์ก็ไม่อยู่ เพราะอย่สงนั้นพูดออกมาได้เต็มที่เลย”
อัณณ์อึกอักลังเลอยู่บ้าง แต่ถูกศิศิราเร่งเร้าด้วยใบหน้าดุดันจึงเล่าออกไปด้วยความเกรงกลัว

“วารินทร์กำลังจะไปดูตัวเย็นนี้”

“เอ๋ ก้ปกตินี่”

“ใช่เรื่องปกติ แต่ว่า”
อัณณ์ตีหน้าสลด เขานึกว่าศิศิราจะเข้าข้างตัวเองหรือช่วยปลอบ แต่การที่เพื่อนยอมรับได้ง่ายๆทำให้เขาใจเสีย

“นึกว่านายยอมรับเรื่องนี้ได้แล้วเสียอีก”

“ยอมไม่ได้หรอก แต่ยังไงก็ไม่มีอำนาจพอจะห้ามอะไรใครได้”

“ทรมานน่าดูเลยน้า” ศิศิรายิ้มเจ้าเล่ห์

“เลิกตอแยวารินทร์แล้วไปซบอกแพทริคตอนนี้เลยเป็นไง”

“ไม่เอา”
ตอบออกไปชัดถ้อยชัดคำ อัณณ์หลงรักวารินทร์มานาน รู้เรื่องที่ตนไม่สามารถตัดใจจากวารินทร์ได้ง่ายๆเป็นอย่างดี

“ถ้าตัดใจเป็นเรื่องง่ายก้คงทำไปแล้ว”

“นายเป็นคนทำให้มันเป็นเรื่องยากเอง ยึดติดมากเกินไปก้อย่างนี้ ลองทำใจให้ว่างแล้วมองความเป็นจริงเสียบ้าง”
พยายามคิดตามแต่ความเป็นจริงคืออัณณ์นึกได้แต่ช่วงเวลาหวานๆระหว่างตนกับวารินทร์อยู่ตลอด คำบอกรักที่ถูกเอื่อนเอ่ยจากปากผู้เป็นนายหยุดยั้งไม่ให้อัณณ์วอกแวกเผื่อใจไปให้คนอื่น
แต่เมื่อไหร่กันนะที่วารินทร์เลิกพูดบอกรักตน อัณณ์เมื่อนึกถึงอดีตได้ก็มีสีหน้าโศกสลด

“ผมรักเธอเหลือเกินอัณณ์”
วารินทร์ในวัยสิบสี่ปีเอ่ยขึ้นขณะลูบไล้ร่างกายอันเปลือยเปล่าของอัณณ์ที่นอนเคียงข้างกันบนเตียงใหญ่

“ผมก็รักท่านวารินทร์เช่นกันครับ”
อัณณ์พูดออกไปด้วยความเอียงอาย หนึ่งปีที่มีความสัมพันธ์ทางกายไม่มีวันไหนเลยที่ไม่เมือนกับใช้ชีวิตอยู่บนสรวงสวรรค์ เด็กชายมีความสุขที่สุดเพราะได้อยู่ใกล้ชิดคนซึ่งตนหลงใหลอยู่ทุกช่วงเวลา

“ไม่เอาสิเรียกวารินทร์เฉยๆ ผมชอบให้เธอเรียกแบบนั้น”
ร่างบางไม่กล้าเรียก แต่ถูกกำชับด้วยใบหน้าจริงจังก็เลยเรียกออกไป หัวใจของเขาเต้นโครมครามจนแทบระเบิดออกมา

“วารินทร์”
คนถูกเรียกคลี่ยิ้มอ่อนหวาน อัณณ์ถูกจุมพิตดูดดื่มจนแทบเมามายในรสจูบ หลังจากผละริมฝีปากออกจากกันผู้เป็นนายก็หอมแก้มของเขาดังฟอดและคลอเคลียใบหน้าด้วยริมฝีปากไม่หยุด

“รักเธอจริงๆเราเป็นคนรักกันแล้วใช่ไหม”

“เอ๋”
อัณณ์อุทานเสียงดังแล้วผุดลุกขึ้นนั่ง เรื่องเป็นคนรักคนต่ำชั้นกว่าอย่างเขาไม่กล้าคิดฝัน ยิ่งถ้าหากคนอื่นรู้เข้าผุ้เป็นนายคงจะเสื่อมเสียอย่างมาก

“เป็นไปไม่ได้หรอกครับ”

“ทำไมล่ะ” คนถูกปฏิเสธหน้าบึ้ง

“ผมกับเธอรักกัน ถ้าไม่เรียกว่าคนรักจะให้เรียกว่าอะไร”

“ยังไงก้ไม่ได้ครับ ท่านวารินทร์จะเสื่อมเสีย แค่ได้เป็นชู้รักของท่านวารินทร์ผมก้ดีใจมากแล้ว”

“แค่ชู้รักเองหรือ” วารินทร์พึมพำด้วยใบหน้านิ่งเรียบราวกับรูปปั้นสลัก

“ผมเจ็บปวดกับคำพูดของเธอมากนะแต่ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่เธอต้องการ ถ้าเธอต้องการเป็นแค่ชู้รักผมก้บังคับอะไรเธอไม่ได้”
จากนั้นบทรักอันรุนแรงจนแทบหายใจหายคอไม่ทันก็เริ่มต้นขึ้น คำบอกรักของวารินทร์นับจากนั้นก็ไม่มีมาอีกเลย มีแต่คำชมประมาณว่า เธอช่างน่ารัก หรือแค่คำว่าน่าเอ็นดูเหลือเกินเป็นคำชมแทนที่

หมดรักเราแล้วหรือเปล่านะ

ไม่สิ ถ้าหมดรักเราแล้วคงไม่ตามใจเราถึงขนาดนี้

อัณณ์พยายามคิดเข้าข้างตัวเองให้มากที่สุด เพราะไม่อยากเจ็บปวดกับความคิดในทางลบของตนให้มากกว่าเดิม แค่เจ็บปวดเรื่องชนชั้นกับเพศสภาพมันก็มากเกินพอแล้ว

ทว่าแค่คิดถึงหญิงสาววัยกำดัดที่จะมาเป็นภรรยาในอนาคตของผู้เป็นนาย ร่างทั้งร่างก็แทบจะลุกเป็นไฟด้วยความริษยา

ไม่อยากทน ไม่อยากเห็น

แต่การไปดูให้แน่ชัด ดีกว่านั่งจินตนาการถึงคู่แข่งด้วยตนเองเป็นไหนๆ ดังนั้นจึงตามติดวารินทร์ไปงานดูตัวและรอคอยให้ถึงเวลานั้นอย่างใจจดใจจ่อ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
มีต่อจ้า
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่8-10 16/2/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 29-02-2016 19:49:06
ตอนที่12

“ไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะครับนายท่านนายหญิง”
อัณณ์โค้งคำนับคาโรลและดานิกาท่านพ่อท่านแม่ของวารินทร์

“อืมไม่ได้พบกันเสียนาน ช่วงนี้ฉันยุ่งๆ อีกอย่างเธอจัดการเรื่องรักๆใคร่ๆของเธอดีแล้วเรอะ เห็นวารินทร์บอกว่าอนุญาตให้เธอออกเดตกับแฟนจนไม่มีเวลาว่างมาดูแลในฐานะบอดีการ์ด”
พอคาโรคเอ่ยจบประโยคอัณณ์ก็ยิ้มเจื่อน ร่างบางเริ่มจะกลัวถูกด่าว่าทำตัวเหลวไหล

“เราไม่ได้ตำหนิเรื่องจะมีคนรัก วารินทร์เองก้อนุญาติให้เธอไปด้วยตัวเอง แต่ขออย่าให้ลืมงานอารักษ์ขาลูกชายคนเล็กของพวกเราไปเสียล่ะ”

“ผมจำขึ้นใจเสมอครับ”
อัณณ์ยืนยันหลังดานิกาพูดจบ

“แล้วนี่วารินทร์ไปไหนปล่อยให้รอเสียนาน” ดานิกาเอ่ยถามอัณณ์

“ท่านวารินทร์กำลังสนทนากับคณะอาจารย์อยู่ครับ เลยให้ผมมาคอยรับนายท่านกับนายหญิงก่อน” อัณณ์ตอบระหว่างนั้นผู้ถูกถามถึงก็เดินตรงเข้ามาหาพอดี

“วารินทร์ลูกแม่”
ดานิกาตรงเข้ากอดรัดวารินทร์แล้วหอมแก้มลูกชายฟอดใหญ่

“อา…ลูกช่างงามสง่าสมกับเป็นผู้สืบทอดตระกูลเสียจริง ตระกูลแอสโมดิอุสของเราต้องมั่งคั่งกว่าเดิมแน่ๆหากมีลูกเป็นผู้นำ”

“ท่านแม่อย่าชมผมนักเลย” วารินทร์ยกยิ้มนุ่มนวล

“อย่าให้การดูตัวครั้งนี้ผิดพลาดเชียวล่ะ อนาคตของตระกูลเราเชียวนะ”
อัณณ์ฟังแล้วเจ็บปวดจี๊ดๆ หากพูดถึงอนาคตของตระกูลและวารินทร์ต่อให้อยากเห็นแก่ตัว ร่างบางก็ทำไม่ได้ ถ้าเพื่อตระกูลต่อให้ตนเป็นผู้หญิงยังไงก็ไม่คู่ควรกับวารินทร์

“ไปกันเถอะรถรออยู่นานแล้ว”
คาโรลชักชวนภรรยาและลูกชายให้ขึ้นรถ อัณณ์นั่งรถอีกคันตามหลังผู้เป็นนายไปตลอดการเดินทาง

"รับใช้นายน้อยวารินทร์เป็นอย่างไรบ้าง”
ญาติผู้พี่ของอัณณ์ซึ่งเป็นอินคิวบัสและเป็นบอดีการ์ดของนายท่านคาโรลเอ่ยถามขณะที่ยืนเฝ้าอยู่ตรงหน้าห้องวีไอพีของภัตตาคารร่วมกับอัณณ์

“คงจะทำรักกันบ่อยเลยล่ะสิ”

อินคิวบัสซึ่งเป็นญาติห่างๆอีกคนและเป็นบอดีการ์ดเช่นกันถาม อัณณ์เบ้หน้า ถึงแม้ไม่อยากให้ใครๆถาม แต่พวกปีสาจฝันจะไวต่อกลิ่นกายหรือพลังวิญญาณที่ติดตัวหลังจากการร่วมรักกันเป็นพิเศษ ดังนั้นต่อให้ไม่เอาไปประกาศพวกญาติๆก็จะรู้ดีว่าเขากับวารินทร์ทำรักกันบ่อยครั้ง

"อย่าได้พูดพล่อยๆจนนายท่านกับนายหญิงรู้เชียว” อัณณ์จิกตาไปยังญาติผู้พี่ทั้งสอง

“พูดอะไรอย่างนั้นท่านผู้นำตระกูลพ่อกับแม่ของนายกำลังพึงพอใจกับสายสัมพันธ์นี้อยู่มาก ท่านบอกว่าการได้รับความเอ็นดูจากนายเหนือหัวผู้มีอนาคตไกลจะทำให้ตระกูลของเรามีเส้นสายมากขึ้น”
ลูกพี่ลูกน้องที่ชื่อว่าดีแลนพูดพร้อมกับยิ้ม

“จริงด้วยการเป็นที่รักของเจ้านายถือเป็นเรื่องน่าชมเชยนอกจากนั้นยังได้รับพลังชีวิตจากปีศาจชั้นสูงมันสุดยอดจะตาย”
ญาติห่างๆที่ชื่อโจนัสเอ่ยสนับสนุน หากแต่อัณณ์กลับส่ายหน้าไปมา เขาไม่สบายใจอยู่บ่อยครั้งที่มักถูกพ่อกับแม่เรียกไปถามความคืบหน้าของความสัมพันธ์ระหว่างตนกับวารินทร์
พ่อกับแม่ของเขาทั้งสองเล็งเห็นแต่ผลประโยชน์ในอนาคตซึ่งอัณณ์ไม่เคยต้องการได้จากผู้เป็นนาย แค่ได้เป็นชู้รักของคนที่เป็นสุดยอดปรารถนาเขาก็ดีใจมากแล้วไม่หวังสิ่งอื่นใดให้มากความ
แต่ก็รู้ดีว่าตนกำลังหลอกตัวเอง สิ่งที่ต้องการจริงๆคือการยืนอยู่คียงข้างคนที่รักอย่างเปิดเผย เป็นคนรักออกหน้าเพียงผู้เดียว ถ้าทำได้แบบนั้นมันจะดีซักแค่ไหนกันนะ

“ฝากด้วยนะผมจะออกไปพักซักหน่อย”
เอ่ยด้วยเสียงที่เริ่มจะหงุดหงิด อัณณ์เมื่อขอพักได้สำเร็จก้ออกไปยังด้านนอก ทว่าระหว่างทางเลี้ยวหักโค้งก็ชนเข้ากับใครบางคนจนแทบล้ม

อีกแล้วหรือนี่
อัณณ์หัวเสีย ช่วงนี้เอาแต่เดินชนคนอยู่บ่อยๆ

“ขอโทษครับ”
เอ่ยขอโทษพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองคนที่เดินชน อัณณ์ตกตะลึงเมื่อได้เห็นคนคุ้นหน้า

“ยูลิ”

“อ้าวอัณณ์เองหรือ” คนถูกชนคลี่ยิ้มให้

“คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ มาธุระหรือ เอ้ยไม่สิขอโทษนะครับเดินชนคุณเข้าอีกแล้ว”
อัณณ์แก้คำพูดไปมาก่อนจะยิ้มเจื่อนๆให้ยูลิ

“เธอไม่ต้องขอโทษผม ทางนี้ก้เดินไม่ระวังเหมือนกัน จริงสิผมมีเรื่องจะคุยกับคุณเยอะหลังจากเสร็จธุระเราคุยกันต่อดีไหม”

“สงสัยจะไม่ได้หรอกครับ ผมต้องทำงานให้เจ้านายของผม”

“ถ้าอย่างนั้นเราเดินไปคุยกันไปจนกว่าจะถึงห้องวีไปพีของผมแล้วค่อยแยกกันเธอว่าดีหรือเปล่า”
อยากจะปฏิเสธใจแทบขาดแต่ดวงตาสีฟ้าของยูลิเปล่งแสงวาบ อัณณ์จังงังไปหลังจากสบตากับอีกฝ่ายสติสตางค์ไม่อยู่กับตัวแล้วเดินตามหลังเขาไปในที่สุด

“เอ๊ะ…ที่นี่มัน…”
ได้สติทันทีเมื่อถูกพามายังหน้าห้องที่ผุ้เป็นนายอยู่ข้างใน อัณณ์มองดูยูลิซึ่งแย้มยิ้มอย่างหวาดระแวง

“ผมนัดดูตัวกับคนข้างใน เธอรอผมได้ไหมเดี๋ยวผมจะออกมา”
ราวกับโลกนี้จะแหลกสลายในพริบตา ยูลิกับวารินทร์ล้วนมีใบหน้างดงาม เรือนกายกำยำสูงใหญ่อันไร้ที่ติของทั้งคู่มองยังไงก็ไม่มีจุดไหนที่จะไม่เหมาะสมกัน

ทั้งสองคนมาดูตัวกัน หากพึงพอใจทั้งสองฝ่ายก็จะหมั้นเอาไว้ก่อนที่จะแต่งงานกัน จากที่ได้ฟัง การนัดพบจะมีไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ข้อสรุปซึ่งพึงพอใจทั้งสองฝ่าย

นายท่านกับนายหญิงต้องพอใจแน่ๆ ก็ในเมื่อยูลิรูปงามกริยามารยาทก็เป็นผู้ดีเสียขนาดนั้น เขาจะเอาอะไรไปสู้ได้ แบบนี้เหมือนกับราชินีแห่งดอกไม้พบกับราชินีแห่งดอกไม้ซึ่งคู่ควรกัน เขาซึ่งเป็นได้แค่ผึ้งงานทำได้แค่กักเก็บน้ำหวานเป็นครั้งคราวหาได้มีความสำคัญอันลึกซึ้งไม่ แค่มีหน้าที่คอยดูแลจนกว่าเกสรดอกไม้อันงดงามจะผสมกันจนให้กำเนิดบุตรของตระกูลออกมา

พวกเขาสองคนจะมีลูกด้วยกันสินะ

อัณณ์รู้ดีว่าปีศาจชั้นสูงสามารถให้กำเนิดบุตรโดยมีพ่อแม่เป็นเพศเดียวกันได้ เขาก้เคยหวังว่าวารินทร์จะรักตนจนใช้วิธีนั้นกับตนบ้าง หากแต่ชู้รักคนอื่นซึ่งพยายามจับเขาด้วยบุตรตัวน้อยกลับถูกทำให้แท้งในเวลาต่อมาเป็นตัวอย่าง ดังนั้นจึงต้องตัดใจและไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากขอจากผู้เป็นนาย

ขอให้การดูตัวล้มเหลวในทันที

อัณณ์ภาวนาอย่างคนใจแคบ รู้ตัวดีเรื่องที่มันเป็นคำขอแย่ๆ รู้ตัวดีเรื่องที่ตนคิดอ่านแบบคนเลว แต่ห้ามไม่ได้จริงๆ ถ้าได้สมปรารถนา ต่อให้ต้องสวดขอบคุณกับพระเจ้าเขาก้พร้อมจะทำ ถึงแม้พระผุ้เป็นเจ้าจะไม่ได้สถิตอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้วก็ตาม

“จะไปแล้วหรือครับนายท่านนายหญิง”
โจนัสและดีแลนเอ่ยถามทันทีที่คาโรลกับดานิกาออกมาจากห้อง

“ก็ว่าที่คู่หมั้นได้พบกันแล้ว อยากให้พวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง” ดานิกาพูด

“อัณณ์ก็เฝ้าหน้าห้องไว้ให้ดีนะ”

“ครับ”
รับคำคาโรลอย่างเลื่อนลอย โชคดีที่ไม่ออกอาการมากจนสังเกตได้ แต่พอทุกคนออกไปเขาก็จมอยู่กับความปวดร้าวจนยากจะทานทน

ยาวนานเหลือเกินทั้งยังไม่ถึงชั่วโมงดีแท้ๆ แต่สำหรับอัณณ์มันยาวนานจนกลายเป็นชั่วนิรันด์ที่ผู้เป็นนายกับยูลิอยู่ด้วยกันเพียงลำพังในห้อง

เมื่อไหร่จะออกมาเสียทีนะ

คิดไปพร้อมกับเดินวนไปวนมาตรงหน้าห้องวีไอพีอย่างอยู่ไม่สุข ขณะที่จะเปิดประตูเข้าไปในห้องเหมือนคนไร้สติวารินทร์ก็เรียกเขาจากด้านใน

“อัณณ์ผมขอสั่งให้เธอเข้ามา”

“ห…ให้ผมเข้าไปหรือครับ” ถามด้วยไม่อยากจะเชื่อที่ได้ยิน อัณณ์เปิดประตูเข้าไปตามคำสั่ง

ภายในห้องวารินทร์และยูลิอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง การที่ทั้งสองอยู่ร่วมกันใยระยะใกล้ทำให้กลิ่นไอของความงามสง่าอบอวลไปทั่วทั้งห้อง ร่างบางยืนตะลึงงันพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปใกล้ๆผู้เป็นนาย

“มีอะไรหรือครับ”

“ผมอยากรู้ว่าเธอรู้จักกับคู่ดูตัวของผมได้ยังไง”

“เรื่องนั้น…”
อัณณ์มองดูวารินทร์และยูลิสลับกันไปมาด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าผู้เป็นนายถามเพราะอะไร แต่จากใบหน้าเย็นเยียบคงไม่ใช่เรื่องดีนัก

“บังเอิญพบกันตอนไปซื้อของเยี่ยมแพทริคนะครับ ผมเดินชนกับท่านยูลิระหว่างทาง”

“ยูลิซื้อเสื้อผ้าให้เธอด้วยสินะ”
อัณณ์ลอบคิดว่าผิดท่า ดวงตาคมของวารินทร์ซึ่งทอดมองมาช่างเย็นชาจนขนลุกเกรียว

หึงหรือเปล่านะ

แค่คิดก็ดีใจแล้ว หากแต่ถ้ามันไม่ใช่การหึงหวงในตัวเขาแต่เป็นยูลิล่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ไม่ว่ายังไงก็อยากจะกำจัดคู่แข่งของตนไปให้พ้นจากโลกใบนี้เสียเดี๋ยวนี้

จะตอบอย่างไรดีนะ จะตอบอย่างไรดีให้คนที่เป็นยอดปรารถนาไม่รู้สึกโกรธหรือไม่พอใจ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว อัณณ์ยืนนิ่งแข็งอยู่นานจนคนรอคำตอบเปลี่ยนสีหน้าเป็นบึ้งตึง
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

หายไปนานเลยตอนต่อไปอีก-ักหนึ่งอาทิตย์จะเอามาลงให้ยาวๆอีกนะคะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่11-12 29/2/59
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 29-02-2016 22:41:40
สุดท้ายอัญญ์ก็ยังทำให้เราขีดใจจนได้ :ling1:

อุตส่าห์เชียร์แพททริคแล้วแท้ๆ :katai1:

แล้วนี่ยังไงวาริณร์หึงอัญญ์แล้วเหรอ? ยูลิก็สนใจอัญญ์ หรือยังไง?!

จะมีอะไรมาทำให้นายเอกของเราถอดใจจากเจ้านายบ้างไหมเนี่ย :katai1:

ป.ล. เราว่าเรื่องนี้สนุกดีนะ อยากให้คนเข้ามาอ่านกันเยอะๆ จะได้เป็นกำลังใจให้คนเขียน :mew1:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่11-12 29/2/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 08-03-2016 21:35:06
ตอนที่13

“ผมรอเธอพูดอยู่นะ”
วารินทร์จ้องเขม็งมาที่อัณณ์ ในจังหวะนั้นยูลิก็เอ่ยประโยคขัดเหตุการณ์ซึ่งกำลังคุกรุ่นจนน่าหวาดเสียว

“อย่าเข้มงวดนักเลย ฉันก็เล่าให้นายฟังไปรอบหนึ่งแล้วนี่ ดูสิอัณณ์กลัวจนตัวสั่นแล้วนะ”

ไม่ได้กลัวจนตัวสั่นนะ

อัณณ์คำรามในใจนึกรำคาญที่ยูลิเอ่ยขัดในตอนที่ตนเรื่มจะอธิบายทุกอย่างให้ผุ้ป็นนายฟัง แบบนี้ก็กลายเป็นว่าถูกปกป้องสิ ยิ่งทำให้วารินทร์เข้าใจผิดเข้าไปอีก

“เข้าใจล่ะ ผมจะไม่ซักไซ้เธออีกแล้วอัณณ์”

อัณณ์อุทานดัง’เอ๊ะ’แทบจะในทันทีที่วารินทร์กล่าวจบ
บอกจะไม่ซักไซ้นั่นหมายความว่าไม่สนใจเรื่องของเขาแล้วหรือเปล่านะ ยิ่งคิดยิ่งมีแต่ข้อสันนิษฐานแย่ๆ ร่างบางปลายตามองยูลิด้วยความขุ่นเคือง

“แล้วเรื่องนัดพบครั้งต่อไปของเรานายคิดว่ายังไงวารินทร์”

เรียกชื่อห้วนๆเชียวหรือแก
อัณณ์เค้นเขี้ยวแค้นเคืองยูลิที่เอ่ยเสียงเนิบๆ

“ฉันนะนะบอกตามตรงไม่สนใจจะมีสัมนพันธ์ลึกซึ้งกับนายเลยซักนิด”
เยี่ยม
โห่ร้องในใจหลังจากยูลิเอ่ยจบประโยค อัณณ์เฝ้ารอให้คู่แข่งเอ่ยปฏิเสธวารินทร์อย่างเป็นทางการ

“จริงสิ สำหรับฉันอัณณ์ยังดูมีสเน่ห์น่าค้นหามากกว่านายเสียอีก ถ้าบอกว่าฉันสนใจผู้ติดตามของนายนายจะว่าอย่างไร”
เหมือนถูกชกหน้าจนเบลอ คำพูดของยูลิอัณณ์มึนงงจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่อ้าปากพะงาบพะงาบแล้วลอบมองอาการของวารินทร์

“คุณจะบอกว่ารู้สึกชอบพอแบบชู้สาวกับอัณณ์อย่างนั้นหรือ”
วารินทร์ถามด้วยใบหน้านิ่งเงียบไร้อารมณ์

“ใช่ ฉันไม่สนใจพวกฐานะอะไรหรอกนะถ้าถูกใจฉันก้อยากจะได้มาเป็นภรรยาคนสำคัญ”

“เป็นไปไม่ได้หรอกครับ” อัณณ์เอ่ยแทรกอย่างอดรนทนไม่ได้

“ผมเป็นปีศาจชั้นต่ำ ไม่คู่ควรกับผู้สูงศักดิ์อย่างท่านยูลิหรอก”
เขาหมายตามที่พูดจริงๆ อัณณ์รู้มา ยูลิเป็นบุตรชายคนเล็กของท่านลูซิเฟอร์ ชาติตระกูลสูงส่งพอพอกับวารินทร์ ไม่แค่ทำให้ลำบากใจเรื่องฐานะกับคู่แข่งทางความรักใครมันจะไปอยากคบหาญาติดีด้วย
สับสน หมอนี่ต้องสับสนอะไรแน่ๆ

“ก็ตามใจสิ”
อัณณ์ตกใจจนหันไปมองวารินทร์ เริ่มไม่เข้าใจในความหมายของคำพูดของผุ้เป็นนาย

“หากรักชอบอัณณ์จะตามจีบอัณณ์ผมไม่มีสิทธิห้ามคุณและยิ่งไม่มีสิทธิห้ามอัณณ์ไม่ให้รักชอบคุณด้วย”

“อะไรกันท่านวารินทร์”
อัณณ์ถลาเข้าหาวารินทร์ซึ่งแย้มยิ้มไม่ยี่หร่ะ

“อัณณ์ผมขอสั่งให้เธอทำตามใจท่เธอปรารถนาไม่ต้องเกรงใจผม”

“อัณณ์ อัณณ์”
เจ้าของชื่อที่ยังเอ๋อไม่เลิกถูกศิศิราเขย่าตัวเรียกไปมา

“อัณณ์”
เมื่อถูกตะโกนที่ข้างหูก็กลับมาได้สติ อัณณ์กระพริบตาปริบๆมองดูศิศิราตีหน้ายักษ์

“เป็นอะไรกันแน่ สองสามวันมานี้นายใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว”
อัณณ์มองหน้าของคนที่กำลังกรุ่นโกรธแล้วเหลียวมองไปรอบตัวที่ตอนนี้ไร้ผุ้คน เมื่อไม่มีใครเห็นเขาก็ระเบิดเสียงร้องไห้โฮอย่างไม่อาจอดกลั้น

“อ…อะไรกันนี่”
ศิศิราลนลานจนทำอะไรไม่ถูก ใช้เวลาอยู่นานจึงจะปลอบให้อัณณ์หยุดร้องไห้ได้

“เรื่องมันเป้นอย่างนี้นี่เอง”
ศิศิราเอ่ยหลังจากฟังอัณณ์เล่าเรื่องสะเทือนใจจบ

“เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือไง ยูลิอะไรนั่นทั้งหน้าตาชาติตระกูลล้วนสุดยอดดีเสียอีกที่เขาสนใจนาย”

“แต่ฉันไม่ต้องการนี่” อัณณ์ปาดน้ำตา

“ฉันรักวารินทร์นายก็รู้ อีกอย่างมันไม่เกี่ยวกับยูลิชอบฉันหรือเปล่า แต่ความปรารถนาของท่านลูซิเฟอร์ต่างหากที่เป็นตัวตัดสิน หากท่านผู้นยั้นต้องการยังไงวารินทร์กับยูลิก็ต้องแต่งงานกัน”

“ก็เป็นชู้รักเลยเป็นไงตอนนี้ก้เป็นอยู่นี่ ดีจะตายชู้รักย่อมดีกว่าเมียแต่งนา”
อัณณ์ถลึงตาให้ศิศิราที่หัวเราะร่วน

“ดีบ้านนายสิ จะให้ฉันเป็นนางบำเรอกองกลางของทั้งวารินทร์และยูลิหรือไง”

“ดีจะตายไม่ใช่หรือ แย่งชิงรักแท้มาจากทั้งวารินทร์และยูลิสามพีนี่สุดยอดไปเลยฮ่าฮ่าฮ่า”

“พอทีไม่อยากปรึกษานายอีกแล้ว”
อัณณ์ลุกขึ้นเดินเสียงปึงปังโดยมีศิศิราเดินตาม

“รอด้วยสิ ไม่สำนึกบุญคุณคนที่อุตส่าห์นั่งรอนายเอ๋อในห้องแต่งตัวเลยหรือไงเห็นไหมแม้แต่วารินทร์ยังไม่รอนายเลย”

“ขอบคุณมาก”

"เนรคุณสุดสุดเลย เอาเถอะไปห้องเรียนกันดีกว่า”
ศิศิราซึ่งไม่ได้โกรธจริงจังใช้แขนคล้องคอให้อัณณ์เดินตาม
ท่ามกลางเสียงตื่นเต้นของคนในห้องอัณณ์ที่แทบไม่เชื่อสายตามองดูยูลิยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าห้องเรียนโดยที่อาจารย์กำลังแนะนำให้ทุกคนรู้จัก

“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

ยูลิโปรยยิ้มไปรอบๆจนคนในห้องเคลิบเคลิ้ม จะมีแค่วารินทร์ที่นิ่งขรึม อัณณ์ที่เบ้หน้ากับศิศิราซึ่งยิ้มน้อยๆอย่างขบขันเท่านั้นที่มีความคิดต่างออกไปจากคนในห้อง

อัณณ์เข้าใจดีเรื่องที่ใครๆจะคลั่งใคล้ยูลิในวินาทีแรกซึ่งได้พบ แต่ในความคิดของร่างบางวารินทร์เป็นสุดยอดเพียงหนึ่งเดียวใจใจเขาเสมอ

“ผมขอนั่งตรงนั้นได้ไหมครับ”

อัณณ์สะดุ้งเมื่อยูลิชี้นิ้วมายังที่นั่งด้านขวามือของเขา อาจารย์เองก้ดูจะไม่ปฏิเสธคำขอ นักเรียนที่เคยนั่งตรงนั้นก้ถูกย้ายไปยังบริเวณอื่น

ทำไมต้องมานั่งใกล้ๆเขาด้วยนะ

อัณณ์ไม่ชอบใจเสียเลย ดวงตากลมเพ่งขู่ไปยังคนที่เดินมานั่งยังโต๊ะข้างๆตน

“ดีใจที่ได้เจอเธออีกนะอัณณ์”

ยูลิกระซิบ พอถูกทำท่าทางเหมือนสนิทสนมกันอัณณ์ซึ่งกลัววารินทร์จะโกรธก็หันไปมองดูคนทางด้านซ้ายเป็นระยะระยะ หากแต่ผู้เป็นนายยังมองตรงไปยังหน้ากระดานอย่างไม่ใส่ใจ

โกรธแหงๆ

อัณณ์ทำสีหน้าสลด แต่ถึงจะแสดงออกชัดว่ากำลังไม่สบายใจ ยูลิก็ยังชวนคุยโดยไม่สนใจใดใดทั้งสิ้น

“ผมที่ถูกย้ายมาเรียนที่นี่อย่างกะทันหัน เพราะท่านพ่อต้องการจะให้ใช้เวลาสนิทสนมกับวารินทร์ให้มากยิ่งขึ้น ต้องขอร้องท่านพ่ออยู่หลายครั้งไม่ให้บังคับย้ายไปอยู่บ้านเดียวกัน คิดว่าน่าเบื่อหน่ายแต่การได้มาเจอเธอแบบนี้ก็นับว่าโชคดีอยู่บ้าง”

ศิศิราที่นั่งอยู่ด้านหน้าและได้ยินเต็มสองหูหัวเราะคิกคัก อัณณ์ใช้กำปั้นทุบลงไปที่หลังเต็มแรงจนคนถูกประทุษร้ายหันมาชี้หน้าคาดโทษ

“แต่ฉันไม่เห็นตื่นเต้นตรงไหนนายเลิกฟุ้งซ่านได้แล้ว”
ตัดสินใจจะเลิกใช้คำสุภาพด้วย อยากจะบอกให้รู้ชัดๆว่ากำลังไม่พอใจและไม่ชอบหน้า แต่ยูลิกลับหัวเราะเสียงต่ำชอบอกชอบใจ

“อ๋อ วารินทร์ ฉันถูกบังคับให้มาเรียนที่นี่ นอกจากนั้นยังถูกบังคับให้ออกเดตกับนายบ่อยๆ จะว่าอะไรไหมถ้าระหว่างออกเดตหลอกๆกับนายฉันจะออกเดตจริงจังกับอัณณ์ที่ติดตามนายไปด้วย”

“ไม่มีปัญหาอยู่แล้วยังไงอัณณ์ก็ต้องตามผมไปทุกที่”
อัณณ์หน้าเผือดสี ไม่เข้าใจจริงๆวารินทร์ต้องการอะไร เบื่อเขาแล้วอย่างนั้นหรือถึงได้ผลักไสให้กับยูลิ แน่นอนคำพูดคำจาของยูลิเข้าหูคนในห้องทุกคน จากนั้นการกลั่นแกล้งของคนที่ไม่ชอบหน้าเขาก็เริ่มต้นขึ้น

“อุ๊ยขอโทษ”

อัณณ์ที่ถูกชนจนล้มในวิชาการต่อสู้ค่อยๆลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับกลุ่มเด็กสาวร่วมห้องเรียน เด็กผู้หญิงกลุ่มนี้แต่เดิมเป็นแฟนคลับเดนตายของวารินทร์ พอมียูลิเพิ่มขึ้นมาก็รวมตัวกันสนับสนุนยูลิเพิ่มขึ้นไปด้วย
เนื่องจากพวกเธอคลั่งไคล้ยูลิ การที่คนซึ่งคลั่งไคล้บอกจะจีบเขา จึงทำให้ไม่ชอบใจกัน เป็นผลให้ตามแกล้งตามราวีอัณณ์ทุกครั้งที่มีโอกาส

“อะไรขอโทษแล้วนี่ อย่ามามองหน้าฉันอย่างนั้นนะ”
อัณณ์เข้าใจว่าโกรธไปก็เท่านั้น แต่เพราะรู้แก่ใจ อีกฝ่ายตั้งใจจะชนให้เขาล้มจนเจ็บตัว ดังนั้นจึงอดส่งสายตาดุดันให้ไม่ได้

“อุ๊ยดูนั่นสิ ท่านยูลิกำลังขึ้นสู้แล้ว”
กลุ่มเด็กสาวพากันส่งเสียงวี้ดว้ายแล้วพากันจากไป ทิ้งให้อัณณ์ซึ่งมีแผลตรงหัวเข่ายืนกรุ่นโกรธอยู่แบบนั้น

“ทำอะไรอยู่”
อัณณ์หันไปหาวารินทร์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง

“เอ่อ…คือ…” วารินทร์เอียงคอมองอัณณ์ที่ยืนเก้เก้กังกัง

“ปล่อยให้เป็นแผลอีกแล้วหรือ ผมบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าไม่อนุญาตให้เธอมีแผล”
อัณณ์หดคอเหมือนเต่า ดวงตากลมมองละห้อยไปยังผู้เป็นนายซึ่งตีหน้าขรึม ในตอนนั้นร่างบางก็ถูกพาเคลื่อนย้ายสถานที่ด้วยเทเลพอร์ตมายังห้องพยาบาลซึ่งไร้ผู้คน

“ผมจะรักษาให้ จริงๆอยากพากลับบ้านเสียเดี๋ยวนี้แต่เราโดดกันมามากจนคณะอาจารย์เริ่มไม่ชอบ เพราะอย่างนั้นเธอก็อดทนเอาหน่อยแล้วกัน”

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
มีต่อ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่13-14 8/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 08-03-2016 21:39:10
ตอนที่14

“อื้อ”
อัณณ์ครางเบาๆขณะถูกรักษาแผลด้วยปลายลิ้น วารินทร์ไล้เลียไปยังบาดแผลบนหัวเข่าซ้ำๆจนในที่สุดตรงจุดนั้นก็ไร้รอยบาดแผล

“วารินทร์”
ดวงตาฉ่ำเยิ้มทอดมองวารินทร์ซึ่งนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า ความต้องการของอัณณ์ล้นทะลัก อยากถูกกกกอด อยากจูบ อยากสัมผัส และเหมือนความคิดของตนจะสื่อออกไปให้อีกฝ่ายรับรู้ เพราะไม่นานนักวารินทร์ก็เสนอจูบดูดดื่มยั่วเย้าจนร่างทั้งร่างสั่นระริกด้วยความยินดี

“วารินทร์”
เรียกชื่อของอีกฝ่ายซ้ำๆ หลังจากถอนจูนอัณณ์ก็ใช้ริมฝีปากคลอเคลียใบหน้าของวารินทร์อย่างหลงไหลก่อนจะแนบจูบลงไปอีครั้งด้วยตนเองและบดเบียดร่างกายของตนเข้าหาผู้เป็นนาย

รู้สึกว่าตนเองถูกรักและเป็นที่รัก

อัณณ์รับรู้ถึงราคะที่พุ่งสูงของวารินทร์ เพราะปีศาจฝันดื่มกินพลังงานจากตัณหาของคู่ทำรัก ยิ่งตัณหาสูงเท่าไหร่พลังงานที่ได้มาก็ยิ่งมากขึ้น ดังนั้นปีศาจฝันทุกตัวจึงเป็นนักรักที่ช่ำชองเรื่องการยั่วยวนบนเตียงเป็นพิเศษ ทั้งหมดเพื่อเร่งเร้าแรงตัณหาของคู่รักให้พุ่งสูงถึงขีดสุด

“อึก….วารินทร์”
พร่ำเรียกชื่อของผู้เป็นนาย ขณะประกบปากจูบซ้ำๆ ถึงจะรู้ตัวว่าเป็นที่รักแต่เพราะคลางแคลงใจบางอย่างจึงถามออกไปหลังจากหยุดจูบ

“ทำไมถึงบอกให้ทำตามใจชอบเรื่องยูลิล่ะ”
อัณณ์ถามพร้อมกับใช้ดวงตาหวานเยิ้มช้อนมองวารินทร์ก่อนจะคลายจากอาการสิเน่หาด้วยความตกใจเมื่อผู้เป็นนายตีหน้าขรึมทั้งที่ก่อนหน้านั้นยังแสดงออกชัดว่าเอ็นดูตนเองมากมายแค่ไหน

“ผมให้เธอทำตามใจชอบ ก็หมายความตามนั้น เธอไม่เข้าใจความหมายของผมหรอกหรือ”

“ทำไมจะไม่เข้าใจ แต่ฉันไม่ได้สนใจคนอื่นนอกจากนายนี่”
วารินทร์ฟังแล้วก็กระตุกยิ้มร้ายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อัณณ์ไม่เข้าใจความหมายของรอยยิ้มนั้น แต่หวาดกลัวจนคิดได้แต่เรื่องแย่ๆ

“ผมกำลังให้โอกาสเธอนะ ใช้โอกาสนั้นก่อนที่เธอจะไม่มีโอกาสเป็นครั้งที่สอง”
วารินทร์พูดด้วยรอยยิ้มร้ายๆที่ยังไม่หายไปจากใบหน้าก่อนจะผละปล่อยอัณณ์ทิ้งไว้ในห้องพยาบาลเพียงลำพัง

ให้โอกาสนี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน

อัณณ์ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ ถึงจะบอกให้โอกาสให้เขาได้เลือก แต่ไม่ได้อยากเลือกซักหน่อย ตั้งตอนที่พบกันครั้งแรกเขาก็ได้เลือกวารินทร์แต่เพียงผู้เดียวและจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

ไม่เข้าใจ ทำไมเหตุการณ์ถึงเลวร้ายถึงขั้นนี้ได้ แย่มากๆ

อัณณ์นั่งกอดเข่าครุ่นคิดเพียงลำพังในห้องพยาบาล ร่างบางพยายามปลุกปลอบตัวเองนับครั้งไม่ถ้วนให้อย่าคิดมากและมุ่งมั่นใน
ความรักของตนให้มากที่สุด

เรายังไม่หมดกำลังใจหรอก

ความรักของเขาที่มีต่อวารินทร์ไม่ใช่ความรักผิวเผินที่จะเปลี่ยนใจได้ง่ายๆ ถ้ายังดึงดันรักต่อไป อีกไม่นานผู้เป็นนายคงจะเข้าใจและอาจจะหายโกรธ ถึงไม่รู้ว่ากำลังโกรธเรื่องอะไร แต่แทนที่จะเอาเวลามาหาคำตอบสู่ทุ่มเทความจริงใจให้คนรักได้เห็นน่าจะดีกว่า

เมื่อวางแผนในใจอย่างมุ่งมั่นดีแล้ว อัณณ์ก็ลุกจากเตียงหมายจะกลับเข้าชั้นเรียนการต่อสู้อีกครั้ง ในตอนนั้นเสียงระเบิดของอะไรบางอย่างก็ดังกึกก้องพร้อมกับแรงสะเทือน วินาทีนั้นอัณณ์ถึงแต่ใบหน้าของวารินทร์

“วารินทร์”
อัณณ์พึมพำด้วยใจระทึกขณะออกวิ่งอย่างเร็วไปยังด้านนอกแล้วกางปีกโผบินไปที่สนามฝึกซ้อมในทันที

“อัณณ์”
คนถูกเรียกร่อนลงบนพื้นตรงที่ศิศิราตะโกนเรียก เมื่อหุบปีกเก็บ เพื่อนสนิทก็ตรงเข้ามาแล้วเริ่มถามนั่นถามนี่

“นายหายไปไหนมา ฉันนึกว่าจะโดนเล่นงานไปเสียแล้ว”

“เกิดอะไรขึ้น”
อัณณ์ถามขณะกวาดตามองรอบด้านซึ่งพังพินาศแถมมีแต่คนบาดเจ็บ

“มังกรโบราณนะสิมันทำลายกำแพงอาณาเขตเข้ามาอาละวาดในสถาบัน”

“แล้ววารินทร์ล่ะ” อัณณ์ถาม

“กำลังพยายามจัดการมันร่วมกับท่านยูลิอยู่บนท้องฟ้าโน้น”
หลังจากแหงนหน้ามองบนท้องฟ้าตามที่บอกก็พบกับมังกรตัวใหญ่ยักษ์ วารินทร์และยูลิลอยอยู่บนท้องฟ้าประจันหน้ากับมัน อัณณ์ร้อนใจจนทำท่าจะกางปีกอีกครั้งเพื่อบินไปช่วย แต่ถูกศิศิรายื้อเอาไว้ไม่ให้ไปไหน

“วารินทร์บอกว่าถ้านายมาก็ให้บอกนายให้อยู่เฉยๆ”

“จะได้ยังไงฉันเป็นบอดีการ์ดของวารินทร์” อัณณ์ตกคอกเสียงห้วน

“อัณณ์นั่นมันมังกรโบราณนะต่อให้เป็นพวกอาจารย์ยังรับมือได้ยากเลย”

“เพราะอย่างนั้นถึงต้องไปช่วยไง”
อัณณ์พยายามสลัดให้หลุดจากการจับกุมของศิศิราที่แรงมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่ยื้อยุดอยู่นั้น เสียงระเบิดกึกก้องก็ดังอีกครั้ง อัณณ์และศิศิราแหงนมองดูร่างมังกรโบราณระเบิดออกเป็นจุณ

“ไชโย”

เสียงโห่ร้องของบรรดาครูและนักเรียนดังแซ่ซ้อง อัณณ์อยากจะถลาเข้าไปดูแลแสดงความยินดีกับวารินทร์ที่กลับลงมาบนพื้นเรียบร้อย แต่ไม่อาจแสดงความจริงใจออกไปท่ามกลางผู้คนมากมายซึ่งรุมล้อมผู้เป็นนายอยู่ได้

เจ็บปวดใจเหลือเกิน

อัณณ์เจ็บปวดที่ไม่สามารถแสดงออกถึงความรักของตนอย่างออกหน้าได้ เขาทำได้แต่รอให้ทุกอย่างสงบลงแล้วค่อยเข้าไปหาวารินทร์เป็นคนสุดท้าย ซึ่งนั่นก็ล่วงเลยผ่านไปถึงสองวัน เพราะวารินทร์ถูกเรียกตัวไปสอบถามพร้อมยูลิเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

เหงาเสียใจ

อัณณ์จมอยู่กับความคิดเช่นนั้น ระหว่างที่ต้องอยู่ห่างจากวารินทร์ถึงสองวัน

“กลับมาแล้วหรือ”
อัณณ์รีบเข้าไปต้อนรับวารินทร์ที่เพิ่งกลับมาทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตู

“หิวหรือเปล่าฉันทำรีซอตโต้เอาไว้ทานเลยไหม”
คนถามกระตือรือร้น แต่วารินทร์กลับพยักหน้าอย่างเฉยชา อัณณ์พยายามเมินเฉยต่อท่าทีเย็นชาแล้วจูงมือผู้เป็นนายไปยังห้องอาหาร

“ฉันทำรีซอตโต้แอ๊ปเปิ้ล มังคงไม่หนักท้องเกินไปในตอนเช้า แอ๊ปเปิ้ลมีรสเปรี้ยวอมหวานนิดๆจะทำให้รสชาติสดชื้นขึ้นนะ”
อัณณ์ฉีกยิ้มหวานขณะวางจานอาหารลงตรงหน้าวารินทร์ เขาพยายามเอาอกเอาใจสุดฤทธิ์ อาจเป็นเพราะถูกปล่อยทิ้งไว้ทั้งที่ยังคาราคาซังอยู่จึงทำให้มีปฏิกริยาแบบสุดลิ้มเช่นนี้

“อร่อยไหม”
ออกปากถามวารินทร์ที่กินอาหารอย่างเงียบๆ ในใจคิดว่าโชคดีที่วารินทร์กลับมาในเช้านี้ไม่อย่างนั้นอาหารที่ทำคงจะต้องเททิ้งอีกเหมือนเมื่อสองวันก่อน

“อัณณ์ผมบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าถ้าไม่ชอบผมจะไม่เสียเวลากินเด็ดขาด”

“ก็อยากรู้นี่”
ร่างบางเบะปาก ถึงจะรู้นิสัยข้อนี้ของวารินทร์ดีอยู่แล้ว แต่ก็อยากได้รับคำชมบ่อยๆเหมือนเด็กที่อยากได้รับคำชมจากพ่อแม่ การได้คำชมจากคนที่ตนเฝ้าหลงรักถึงจะแค่เรื่องเล็กน้อยมันก็ทำให้อัณณ์ปลาบปลื้ม

“แล้วพวกคณะกรรมการป้องกันว่าอย่างไรบ้าง”

“ก็ถามนั่นถามนี่เยอะแยะเรื่องปกตินั่นแหละเธอไม่ต้องกังวลหรอก”
วารินทร์ตอบเสียงเรียบก่อนจะวางช้อนลงบนจานหลังทานอาหารจนหมด

“เธอยังมีอะไรสงสัยอีกหรืออัณณ์”
ผู้เป็นนายถาม เมื่อเห็นอัณณ์ยังทำสีหน้าไม่สบายใจ

"เอ่อ…ก็…”
อัณณ์อึกอัก แต่ได้เห็นสีหน้าดุดุของวารินทร์แล้วก็เลิกทำตัวงี่เง่าเริ่มเล่าสิ่งที่คิดออกมา

“คุณพ่อโทรมาบอกว่าการที่ถูกเล่นงานบ่อยๆ เป็นเพราะมีผู้ไม่พอใจการดูตัวของนายกับยูลิ นอกจากนั้นพวกที่สนับสนุนท่านคานอนพี่ชายของนายมากกว่าก็ไม่พอใจที่นายจะได้ตำแหน่งราชาแห่งบาปต่อจากท่านแอสโมดิอุสที่หายสาปสูญไป”

“ผมรู้อยู่แล้ว”
วารินทร์หัวเราะหึหึ ขณะมองดูอัณณ์ทำหน้ามึนงง

“ถ้ารู้แล้วทำไมไม่บอกนายท่านกับนายหญิงล่ะ คนพวกนั้นที่โจมตีหนักขึ้นเรื่อยๆแบบนี้เพราะเกรงว่าถ้านายได้หมั้นกับยูลิจะทำให้การรับตำแหน่งราชาแห่งบาปเป็นเรื่องที่แน่นอนยิ่งขึ้น ถ้าเกิดว่าปฏิเสธเรื่องดูตัวไปซะ…”

“เธอจะบอกว่าถ้าปฏิเสธเรื่องดูตัวกับยูลิไปเสียเรื่องถูกโจมตีจะสงบลงอย่างนั้นหรือ”

“นั่นมันก็ใช่…”

“เธอรู้อยู่แก่ใจอัณณ์ว่ามันไม่มีประโยชน์ ถ้าพวกไม่ประสงค์ดีไม่พอใจกับการรับตำแหน่งของผมต่อให้ไม่มียูลิปีศาจพวกนั้นก็เล่นงานผมอยู่ดี”
อัณณ์มีสีหน้าโศกสลดเมื่อถูกสั่งสอน เขารู้แก่ใจอยู่แล้วว่าทุกอย่างเป็นอย่างที่ผู้เป็นนายกล่าวมา แต่ด้วยใจริษยาและหึงหวงหากมีข้ออ้างให้ล้มเลิกการหมั้นได้ก็อยากจะใช้มันให้บรรลุจุดมุ่งหมาย

“แทนที่จะมาแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุสู้ควานหาคนทำมันไม่ตรงจุดกว่าหรือ”

“อืม…”
ตอบรับเสียงเศร้าสร้อย อยากจะหายตัวไปจากตรงหน้าวารินทร์นัก เพราะอับอายที่เปิดเผยความริษยาออกมาให้ได้เห็น โชคดีที่ผู้เป็นนายไม่เอ่ยทักเรื่องนี้ให้เขาเสียหน้า

“อัณณ์เธอไปเตรียมตัวซะ”

“เอ๋”
อัณณ์เอียงคอมองคนออกคำสั่ง

“วันนี้ผมจะไปออกเดตกับยูลิโดยมีเธอตามติดไปด้วย”

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ช่วงนี้เริ่มจะป่วยอีกแล้วค่ะ

อาการร้อนระวังไม่สบายกันนะคะ

ตอนหน้าอีกซักอาทิตย์นึงมาต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่13-14 8/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 14-03-2016 14:54:16
ตอนที่15

“ชอบไหมอัณณ์”
ยูลิยิ้มกว้างในขณะที่อัณณ์มองดูหน้าทางเข้าสวนแมลงนานาชนิดด้วยความปลาบปลื้ม

“ผมล่ะชอบพวกแมลงมากๆเลยคิดว่าอยากพาอัณณ์มาให้ได้ซักครั้ง”
อัณณ์ไม่อยากจะบอกยูลิว่าตนเองก็ชอบมากเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยดีใจที่ถูกยูลิพามาเท่าไหร่จึงได้แกล้งทำหน้าเบื่อหน่าย

“เข้าไปข้างในกันเถอะ”

ถูกจูงมือเข้าไปข้างใน อัณณ์พยายามสะบัดมืออกแต่แรงบีบมหาศาลทำให้ทำไม่ได้ดั่งใจ ร่างบางหันไปมองวารินทร์ที่เดินตามมาอย่างช้าช้าด้วยความกระวนกระวาย

ไม่โกรธเลยเหรอ

อัณณ์ปวดแปล๊บกับใบหน้าเรียบเฉยของผู้เป็นนาย ทั้งที่เขาถูกคนอื่นจับมือถือแขนแต่วารินทร์ยังไม่แสดงอาการหึงหวงออกมา หรือว่าจะเบื่อหน่ายในตัวเขาแล้วนะ

“ว้าวมดกระสุน(buttet ant)”

“ว่าไงนะ”
อัณณืหันเหความสนใจจากวารินทร์ไปยังยูลิที่ชี้นิ้วไปตรงตู้กระจกซึ่งจำลองสถานที่อยู่อาศัยให้มดกระสุน

“ว้าว รู้ไหมมดชนิดนี้ถือว่าอันตรายมากสำหรับมนุษย์ การกัดของมันไม่ฆ่ามนุษย์ก็จริงแต่ให้ความรู้สึกเจ็บเหมือนถูกปืนยิงตามชื่อของมันเลยล่ะ” อัณณ์พูดกับยูลิ

“ทางโน้นมีมดทหารด้วยนะ”

ยูลิชี้ชวนอัณณ์เดินตามคนชี้นำไปยังตู้มดทหาร หลังจากนนั้นทั้งหมดก็พากันไปดูแมลงปีศาจในโซนอื่นที่ถัดจากแมลงในโลกมนุษย์ อัณณ์ตื่นเต้นจนถึงขีดสุดเขาเดินลั้ลลาด้วยความครึ้มใจ
เขาไม่ได้หมกมุ่นเรื่องแมลงมานานมากแล้ว งานอดิเรกนี้ต้องยกเลิกไปหลังจากตามรับใช้วารินทร์ไม่นานนัก ดีใจที่ได้รื้อฟื้นความหลังเก่าๆ

“ดูสิแมลงปีกแข็งหน้าคน”

“ว้าวน่ารักสุดๆ”
อัณณ์กับยูลิรื่นเริงกันไม่หยุด กระตือรือร้นจนถึงขั้นลืมผู้เป็นนายไปเสียสนิท

“ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมพวกเธอชอบเจ้าสิ่งมีชีวิตพวกนี้นักผมว่ามันน่าเบื่อออก”
เหล่าคนที่กำลังตื่นเต้นชะงักค้าง ยูลิเมินวารินทร์ได้ในทันที หากแต่อัณณ์กลับกังวลอย่างเห็นได้ชัด

แย่ล่ะสิ

คงจะโกรธที่เราสนใจพวกแมลงมากกว่าแน่ๆ

อัณณ์สังเกตเห็นใบหน้าเหนื่อยนหน่ายของวารินทร์แล้วใจเสีย กลัวผุ้เป็นนายจะไม่พอใจดังนั้นจึงหยุดเดินตามยูลิแล้วเดินกลับไปหาคนที่อารมณ์บูดสนิท

“อ้าวไม่ดูแมลงหน้าสิงห์กันหรือ”

"ไปดูก่อนได้เลย”
ลอบมองหน้าวารินทร์ถี่ถี่ ใบหน้านิ่งราวรูปสลักหินของวารินทร์อัณณ์เห็นแล้วหมดสนุกจนไม่อยากเดินเที่ยวอีก

“เอาเถอะน่าไปดูกัน”
ถูกฉุดมือให้เดินตาม อัณณ์ยังคงมองหน้าผุ้เป็นนายไม่ยอมคลาดสายตา ใบหน้าบูดบึ้งน้อยๆของวารินทร์ทำให้เขาหวนนึกถึงอดีต

“ผมเกลียดแมลง”

“ทำไมล่ะ”
อัณณ์ซึ่งชักชวนให้วารินทร์มาดูด้วงกวางในป่าหันไปถามด้วยรอยยิ้มเจื่อน

“เพราะเวลาจะตามหาพวกมันต้องเข้าป่าทำให้เนื้อตัวมอมแมมสกปรก นอกจากนั้นผมไม่เห็นว่าพวกมันน่ารักตรงไหน”
วารินทร์เอ่ยเสียงเย็นชา

“แต่เราเป็นผู้ชายนะ สกปรกมอมแมมนิดหน่อยธรรมดาออกครับ แล้วพวกมันก็น่ารักดีนะ”
เด็กชายแสดงเจตนารมณ์ก่อนจะจดจ่ออยู่กับด้วงอีกครั้ง

“ผมเกลียดพวกมัน เพราะว่าเธอนั่นแหละ”
อัณณ์หันไปมองดูใบหน้าบึ้งตึงของวารินทร์

“ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่คฤหาสน์ของผมเธอมักจะเอาเวลาว่างตามหาพวกแมลงทั้งที่ควรจะมาอยู่กับผม ผมก้เลยเกลียดพวกมัน”
ความหมายของคำพูด อัณณ์ตีความว่าผู้เป็นนายกำลังหึงหวงเขากับพวกแมลง ด้วยความที่แอบหลงรักวารินทร์ตั้งแต่แรกพบเด็กชายเก้าขวบดีใจจนยิ้มแก้มปริ

“ท่านวารินทร์จะบอกว่าอยากให้ผมอยู่ใกล้ๆตลอดเวลามากกว่าเล่นตามหาแมลงหรือครับ”

“เธอเข้าใจได้ถูกต้อง ผมอยากให้เธออยู่ใกล้ๆผมตลอดเวลาไม่อยากให้เธอสนใจอย่างอื่นมากกว่าตัวผม”

“เข้าใจแล้ว ถ้าท่านวารินทร์ต้องการ”
อัณณ์วางด้วงลงแล้วเดินกลับมาหาวารินทร์ซึ่งคลี่ยิ้มอ่อนหวาน

“สัญญามาสิว่าเธอจะไม่สนใจอะไรอื่นอีกมากไปกว่าผม แล้วผมจะจุมพิตเธอเป็นรางวัล”

“จะจูบจริงๆหรือครับ”
อัณณ์ตื่นเต้น เด็กชายใฝ่ฝันจะได้รับจูบจากเจ้าหญิงในฐานะอัศวินมานานถึงแม้ตอนนี้จะรู้แล้วว่าวารินทร์ไม่ใช่เด็กผู้หญิง ตึความงดงามของฝ่ายนั้นตราตรึงใจจนเผลอจินตนาการให้เห็นเป็นเจ้าหญิงไปเสียทุกครั้ง

“สาบานมาสิ” วารินทร์เอ่ยเสียงหวาน

“ถ้าท่านวารินทร์จะจูบผม ผมจะสาบานว่าจะไม่สนใจใครอื่นมากไปกว่าท่านวารินทร์อีก”

“ดีมาก ผมจะให้รางวัลเธอล่ะนะ”

สิ้นคำพูดวารินทร์ก็แนบจูบลงมาแผ่วเบา อัณณ์ดีใจจนแทบจะกางปีกโบยบิน ถึงแม้จะเป็นเรื่องราวในอดีตแต่อัณณ์ก็ได้สัญญาเอาไว้แล้ว ไม่ใช่ว่าตนเองเป็นคนซื่อตรงต่อคำสาบานหากแต่หลงรักจนถวายหัว สัญญาเล็กๆน้อยๆเขาก็ไม่อยากผิดคำสาบานให้วารินทร์ขุ่นเคือง

“เบื่อแล้วหรือ”
ยูลิถามหลังจากเห็นท่าทางซังกะตายของอัณณ์

“เหนื่อยนะอยากกลับบ้านแล้ว”
พูดขณะปลายมองไปยังวารินทร์เป็นระยะอีกฝ่ายตีหน้านิ่งสนิทบอกไม่ได้ว่าอารมณ์ดีหรือไม่ดีกันแน่

“เอาเถอะเราวนเวียนอยู่ในนี้จนเย็นแล้ว เราไปทานอาหารค่ำในห้องสูทของโรงแรมที่ผมจองไว้ดีกว่า”
อัณณ์ถูกยูลิลากแขนให้เดินตามไปอีกครั้ง
หลังจากถูกพามารับประทานอาหารในห้องสูทของโรงแรง อัณณ์ก็เกือบจะยิ้มกว้างเพราะอาหารที่วางเรียงรายล้วนเป็นของที่เขาชอบ

“อัณณ์คงไม่ว่าอะไรนะที่ผมสั่งแต่อาหารรสจัดมาทั้งนั้น” ยูลิเอ่ยถาม

“อื้อก็ดี”
อัณณ์ทำเป็นไม่ชอบใจนัก ทั้งที่ใจจริงอยากจะลิ้มรสชาติอาหารบนโต๊ะเสียหลายอย่าง

“แต่ผมเกลียดอาหารรสจัด”
อัณณ์กับยูลิหันไปมองวารินทร์ที่ลุกออกจากเก้าอี้

“จะไปไหนรอด้วยสิ”
ทำท่าจะลุกขึ้นแต่อัณณ์ก้ถูกวารินทร์ห้ามเอาไว้

“เธอชอบทานเผ็ดไม่ใช่หรืออยู่ทานอาหารที่นี่แหละ เพราะวันนี้ผมไม่มีอารมณ์และไม่อยากจะป้อนอาหารให้เธอ”
ป้อนอาหาร ทานอาหาร
สำหรับปีศาจฝันก็หมายถึงการทำรักกับใครซักคน การที่วารินทร์พูดออกมาแบบนี้ อัณณ์ตีความอย่างเดียวคือผุ้เป็นนายกำลังโกรธ

“รอด้วย” อัณณ์ลุกขึ้นเตรียมจะเดินตามวารินทร์ไปแต่ถูกยูลิเรียกเข้าอีกจนได้

“นั่งลงแล้วทานอาหารซะอัณณ์ ทานอาหารให้อิ่มท้องเสียก่อน”
ดวงตาสีฟ้าเรืองแสง พออัณณ์มองสบตาก็ถูกสะกดให้ทำตาม ร่างบางขยับกายนั่งลงบนเก้าอี้แล้วเริ่มต้นทานอาหารอย่างว่าง่าย

“อร่อยไหมอัณณ์”

“อร่อย”
อัณณ์ตอบไปตามรสชาติที่ผ่านลิ้น สติสัมปัญชัญญะสั่งให้ร่างกายทานอาหารตามคำสั่ง ถึงก่อนหน้านั้นอยากจะตามวารินทร์ไป แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้มีแต่ต้องการจะทานให้อิ่มท้อง

“เธอกินเยอะจริงๆเลยอัณณ์”

“เพราะการทานอาหารปกติให้พลังงานเทียบไม่ได้เลยกับการดูดพลังตัณหาผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์” อัณณ์ตอบขณะตั้งหน้าตั้งตาทาน

“อ้อหากได้ทำรักกับวารินทร์เธอจะเต็มอิ่มกว่าสินะ”
ถูกทักตอนที่ทานอาหารหมดพอดี อัณณ์ซึ่งตื่นตระหนกเรื่องที่อีกฝ่ายทักถึงความสัมพันธ์สวาทของเขากับวารินทร์ขึ้นมาเอ่ยถามอีกฝ่ายกลับ

“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมทำอย่างว่ากับท่านวารินทร์”
เมื่อรู้ตัวว่าถามอะไรไม่เข้าท่าออกไป อัณณ์ก็ใช้มือแตะปากของตน

“เธอยอมรับแล้วสินนะ ผมแค่สังเกตแววตาเธอก็รู้ได้”

“ดูออกชัดขนาดนั้นเชียวหรือ” อัณณ์ถึงกับสลดไม่นึกว่าจะถูกมองออกได้ง่ายถึงเพียงนั้น

“แน่นอน เอโหยหาตลอดเวลา แถมวันนี้ทั้งวันยังเอาแต่ส่งสายตาเศร้าสร้อยไปให้วารินทร์ไม่หยุด”

“ขอให้นายเก็บเงียบเอาไว้ด้วยนะ”

“ทำไมต้องปกปิดด้วยล่ะ เปิดเผยออกไปมันจะดีกับเธอมากกว่าไม่ใช่หรือ”
ยูลิหัวเราะขบขัน อัณณ์เลือดขึ้นหน้าเมื่ออีกฝ่ายทำเหมือนเป็นเรื่องตลก

“ฉันไม่ยอมให้วารินทร์เสื่อมเสียชื่อเสียงเด็ดขาด หากเรื่องของฉันกับเขาแพร่ออกไป ไม่รู้ว่านายท่านนายหญิงแล้วคนรอบข้างจะคิดยังไง แต่ต้องไม่ดีกับวารินทร์แน่ๆ”

“เธอคิดเล็กคิดน้อยมากไปแล้ว”ยูลิส่ายหน้าไปมาพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนอกอ่อนใจมาให้

“ถ้าอย่างนั้นหากฉันเอาไปเล่าให้คนรู้จักทุกคนฟังล่ะจะว่าอย่างไร”

“คำบอกเล่าไร้หลักฐานใครจะเชื่อ”
อัณณ์หัวเราะเยาะความคิดของยูลิ

“ถ้าออกจากปากผมมันก็เป็นอีกเรื่อง ถึงตอนนั้นเธอกับวารินทร์จะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างนะ”
หน้าซีดเผือดทันทีที่ถูกขู่ อัณณ์แค่คิดว่าจะต้องถูกจับแยกจากวารินทร์ก้ปวดใจจนทนไม่ได้

“ต้องการอะไรกันแน่”
อัณณ์ถามด้วยเสียงกึ่งๆจะตะคอก เมื่อประมวลผลอย่างถี่ถ้วนอีกฝ่ายคงจะต้องการอะไรบางอย่างจากเขา

“ผมอยากนอนกับเธอ ผมสนใจเธอมากชัดเจนดีไหม”
อัณณ์แยกเขี้ยวใส่ยูลิ หลังจากอีกฝ่ายเผยความในใจ ความต้องการของยูลิไม่ไกลจากที่ตนคาดเดาเท่าไหร่ แต่ก็ยังรู้สึกรับไม่ได้อยู่ดี

“อยากนอนกับฉันนี่นะ ฝันไปเถอะ”
อัณณ์ชูนิ้วกลางให้ อีกฝ่ายแทนที่จะโกรธกลับเห็นเป็นเรื่องขำขันและหัวเราะน้อยๆอย่างชอบอกชอบใจ

“ผมไม่ฝันแน่ๆ เธอเลือกเอาระหว่างนอนกับผมซักครั้งหรือให้สัมพันธ์สวาทของเธอกับวารินทร์เปิดเผยออกไปให้ทุกคนทราบ”
ทำอย่างไรดี

อัณณ์กัดฟันกรอด

หากความสัมพันธ์ของพวกเขาเปิดเผยไปไม่แค่ทำให้วารินทร์ต้องอับอาย เขาเองก้อาจจะถูกจับแยกจากผุ้เป็นนาย ทนไม่ได้แน่ๆ

หากมีคนอื่นมาคอยรับใช้เคียงข้างแทนเขา ไฟริษยาคงแผดเผาจนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน

เอายังไงดี เขาเป็นปีสาจฝันการทำรักซักครั้งไม่ต่างจากการทานอาหารหนึ่งมื้อ แต่มันค้านกับจิตสำนึกของตนสิ้นดี เขาไม่อยากทำรักกับใครก็ได้ ไม่อยากทำรักกับใครนอกเหนือจากวารินทร์

“เอายังไง ผมไม่แค่จะเล่าให้ท่านพ่อท่านแม่ของวิรนททร์ฟังตาจะเล่าให้ท่านพ่อของผมทราบด้วยนะ”

“ท่านลูซิเฟอรืด้วยหรือ”

“ใช่ผมเป็นปีศาจปากเปราะเสียด้วยสิ”

“เข้าใจแล้ว”
อัณณ์ตอบรับหลังจากครุ่นคิดด้วยความตึงเครียดอยู่ชั่วครู่

“แต่แค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ แล้วต้องใช้เวทมนต์แห่งสัจจะผุกมัดเอาไว้ด้วย”

“เธอช่างรอบคอบจริงนะ”
ยูลิหัวเราะก่อนจะกรีดนิ้วของตนหยดเลือดลงในแก้วก่อนจะยื่นให้อัณณ์ทำแบบเดียวกัน หลังจากทั้งคู่ท่องบทสวดพร้อมกันจบเลือดในแก้วก็เปล่งแสงวาบอัณณ์และยูลิสลับกันดื่มเลือดในแก้ว

“เท่านี้คำสาบานก้สัมฤทธิ์ผล”
อัณณ์มองออร่าสีแดงที่เคลือบฉาบร่างของตนและยูลิในชั่วขณะหนึ่งแล้วถอนหายใจ

“เอาล่ะ ไปที่ห้องนอนแล้วเริ่มกันเสียทีเถอะ”
ยูลิยิ้มกริ่มก่อนจะใช้มือจับจูงอัณณ์ไปยังห้องด้านใน แค่ก้าวแรกที่เดินเข้าไปในห้องนอน อัณณ์ก็ลังเลขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทันทีที่ได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง ร่างบางก็รู้สึกว่าตนเองตัดสินใจได้รีบร้อนเกินไป

ไม่แน่ว่าอาจจะยังมีทางอื่นอยู่อีก

ไม่ว่าเรื่องสกปรกอะไรหากอีกฝ่ายยอมแลกเปลี่ยนอัณณ์ก็พร้อมจะทำตามเพื่อชื่อเสียงของผู้เป็นนายยกเว้นแต่เพียงเรื่องนี้ แค่คิดว่าจะต้องถูกคนอื่นแตะต้งตัวเองก็ขยะแขยง ต่อให้ดูดีแค่ไหนหรือสูงศักดิ์เท่าใดก็ไม่อาจทำให้ร่างบางหลงไหลได้เท่ากับตัวของผู้เป็นนาย

“ทำไม่ได้ ทำไม่ได้จริงๆ”
อัณณ์ผลักไสยูลิที่ทาบทับลงมาเหนือร่างตัวเองบนเตียงกว้าง ทำให้ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะยิ้มออกมา

“ทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะ แค่เธออยุ่เฉยๆและรับการปรนนิบัติจากผม”
ยูลิคลี่ยิ้มก่อนจะใช้มือเชยใบหน้าของอัณณ์ขึ้นมาหวังจะประทับจูบ แต่ก็ถูกอัณณ์เบือนหน้าหนีพร้อมทั้งแสดงอาการต่อต้านอย่างชัดเจน

“ฉันทำตามสัญญานั่นไม่ได้จริงๆ เฉพาะเรื่องนี้เท่านั้นที่ยังไงก็ทำไม่ได้ ขอเพียงปกป้องชื่อเสียงของวารินทร์เอาไว้จะให้ทำเรื่องอื่นที่สกปรกกว่านี้ฉันก็ยอม”
ทั้งที่เรื่องทำรักไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแท้ๆสำหรับปีศาจฝันอย่างเขา ทั้งที่กำลังทำเพื่อปกป้องความรักเล็กๆของตนและผุ้เป็นนาย แต่อัณณ์ก็ไม่อาจฝืนทำสิ่งนั้นลงไปได้

ช่างน่าสมเพชตัวเอง

อัณณ์ผละหนีจากยูลิที่ส่ายหน้าอย่างระอา แต่ก่อนที่จะทันได้หมุนลูกบิดประตู มือของอัณณ์ก็ถูกจับเอาไว้จากด้านหลัง

“ถ้าไม่ใช่วารินทร์ล่ะก็ เธอคงไม่ยอมเลยสินะ”
เสียงกระซิบของยูลิเต็มไปด้วยความขบขัน แม้ไม่อาจหันกลับไปมองใบหน้าของร่างสูง อัณณ์ก้พอเดาได้ว่าอีกฝ่ายทำสีหน้าเยาะเย้ยแบบไหน

“ใช่ถ้าไม่ใช่วารินทร์ให้ฉันตายจะดีกว่า”

“เธอกำลังทำตัวตลกอยู่นะอัณณ์ คิดว่มาถึงขั้นนี้แล้วผมจะยอมปล่อยเธอไปอย่างนั้นหรือ แต่ผมเป็นคนใจดีเพราะงั้นจะไม่ให้เธอต้องทนมองหน้าผม แต่จะให้จินตนาการถึงแค่วารินทร์ได้ตามใจชอบ”
ยูลิพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลทรงพลัง อัณณ์รู้ดีว่าอีกฝ่ายมีอำนาจมากแค่ไหน เพราะแค่คำพูดไม่กี่คำก็ทำให้ร่างบางเหมือนมีโซ่จำนวนมากตรึงร่างเอาไว้กับที่มันทีที่มือของยูลิเอื้อมมาปิดตาของอัณณ์ไว้ชั่วขณะ ทัศนวิสัยเบื้องหน้าก็มืดดับลง

“ขอให้สนุกนะอัณณ์”
ยูลิกระซิบด้วยเสียงหยอกเย้าก่อนที่อัณณ์จะรู้สึกได้ถึงมือที่ค่อยๆลูบไล้ไปตามร่างกาย
ขยับไม่ได้ มองไม่เห็น

“ปล่อยนะไอ้สารเลว” อัณณ์ส่งเสียงตะโกนจนแทบจะกลายเป็นการกรีดร้อง ทั้งที่พยายามขัดขืนจนสุดกำลังแต่ร่างกายกลับไม่ยอมให้ความร่วมมือ ร่างสูงที่ทาบทับอยู่ด้านหลังบดเบีบดซะจนอัณณ์ต้องแนบร่างเข้ากับประตูอย่างอดสู ไม่ว่าจะด่าทอเสียเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาจากยูลิ

ทำตัวเองแท้ๆ

อัณณ์หลั่งน้ำตาออกมาโดยไร้เสียง เมื่อถูกกระตุ้นจนตื่นตัวด้วยมือขึ้นมา ฝ่ายนั้นค่อยๆรุกเร้าล่วงเกินโดยไม่ฟังทั้งคำวิงวอนหรือต่อว่าเลยซักนิด

อยากตายไปเสียให้พ้นๆ

อัณณ์กัดริมฝีปากแน่น เมื่อช่องทางด้านหลังถูกสอดใส่และกระแทกเข้าออกอย่างรุนแรง และเหมือนว่าจะยังไม่สาแก่ใจพอ อัณณ์ถูกเหวี่ยงร่างลงไปบนเตียง ถูกร่างหนักๆทาบทับและบังคับให้ปลดปล่อยครั้งแล้วครั้งเล่า

เพราะกัดริมฝีปากของตนเองเอาไว้แน่นจึงทำให้ความพยายามที่จะบดเบียดริมฝีปากของอีกฝ่ายหยุดลงไปก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นซุกไซ้ซอกคอและขบกัดใบหูจนอัณณ์แทบหวีดร้องออกมา

จะรู้สึกดีไม่ได้อย่างเด็ดขาด

ให้ตายยังไงอัณณ์ก็ไม่ยอมรับความรู้สึกนี้ แม้ร่างกายของตนจะปรารถนาให้คนที่ยำยีตนเองกระแทกเข้ามาให้ลึกๆจนเผลอเอื้อมมือไปจิกแผ่นหลังของอีกฝ่ายเอาไว้ แต่จิตใต้สำนึกอีกด้านก็ยังสั่งการให้อัณณ์สะกดความต้องการเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

จะร้องครวญครางออกมาไม่ได้

จะยอมให้ไอ้สารเลวนั้นรูว่าเขารู้สึกดีไม่ได้

อัณณ์กัดริมฝีปากตัวเองแน่นมากยิ่งขึ้นจนเลือดไหลซึมออกมา ร่างบางดิ้นรนหนักกว่าเดิมเมื่อถูกจับง้างปากออกจากกัน อีกฝ่ายเข้ามาอุดปากเขาในเวลาต่อมา แต่อัณณ์ก็สำรอกออกมาในทันทีเช่นกัน

“วารินทร์ช่วยด้วย”

อัณณ์ร้องตะโกนสุดเสียง ดูเหมือนว่ามันจะไม่ช่วยหยุดยั้งสิ่งที่เกิดขึ้นได้เลยเมื่อร่างบางยังถูกย่ำยีอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ผ่านไปเท่าไหร่ความพยายามขัดขืนของอัณณ์ก็หมดสิ้นลงเหลือไว้แต่เสียงกระซิบเรียกหาผู้เป็นนายกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุด

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่15-16 14/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 14-03-2016 14:58:09
ตอนที่16

จบแล้วหรือ

อัณณ์คิดด้วยความยินดี หลังจากการข่มขืนอันยาวนานผ่านพ้นไป เมื่ออีกฝ่ายเสร็จสมก็ค่อยๆถอนความเป็นชายออกจากร่างบาง ในตอนนั้นดวงตาที่มืดบอดก็มองเห็นทุกสิ่งเช่นเดิม

“ไอ้สารเลว”
ทันทีที่เป็นอิสระอัณณ์ก็ขยับตัวง้างหมัดจะชกหน้ายูลิ ทว่าคนที่ทาบทับอบู่กลับเป็นวารินทร์ ร่างบางสับสนจนชะงักค้างหมัดอยู่อย่างนั้น

“นี่มันหมายความว่ายังไง”
อัณณ์ร้องคราง สภาพของวารินทร์ที่กำลังรูดซิบกางเกงบอกชัดว่าได้ผ่านอะไรมา พอหันไปมองรอบข้างก้ปะเข้ากับยูลิที่นั่งอยู่ห่างๆเครื่องแต่งกายของเขายังเรียบร้อยดีอยู่ เห็นได้ชัดว่าอะไรเป็นอะไร

“ทำไมถึงทำแบบนี้”
ถามด้วยดวงตาที่ปริ่มออกมารอบดวงตา อัณณ์พยายามสกัดกั้นอารมณ์สะเทือนใจไม่ให้ร้องไห้อีกครั้ง

“เธอหมายถึงที่ผมข่มขืนเธอนะหรือ”วารินทร์หัวเราะหึหึ ก่อนจะเชยคางแล้วแนบจูบลงมาบนหน้าผากของอัณณ์ แต่ก็ดดนผลักไสออกโดยพลัน

“แกล้งกันแบบนี้เกลียดกันนักหรือไง”
อัณณ์ตะคอกถาม ท่าทางโกรธเกรี้ยวของอัณณ์ทำให้ยูลิย่นคอด้วยความกลัว หากแต่วารินทร์กลับยิ้มสดชื่น

“พูดอะไรของเธอน่ะ ผมรักเธอจนจะตายให้ได้เลยนะ”

“คำพูดบอกรักของวารินทร์ไม่ได้เข้าหูของอัณณ์ซักนิด ร่างบางลุกขึ้นแต่งตัวแล้วพลุนพลันหนีจากห้องไปด้วยความโกรธและ
เสียใจ

“จะกลับไปหาท่านวารินทร์ได้เมื่อไหร่”

อิทธิฤทธิ์ผู้เป็นพ่อเท้าเอวขณะตั้งคำถามอัณณ์ที่ซมซานกลับมายังคฤหาสน์ของตระกูลตนเองอย่างผู้แพ้ หลังจากปล่อยให้ลูกชายฟูมฟายถึงหนึ่งอาทิตย์อิทธิฤทธิ์กับนาน่าผุ้เป็นภรรยาก็ทนไม่ได้อีกต่อไป

“ถ้ายังทำตัวแย่แย่อย่างนี้ลูกจะถูกถอดออกจากการเป็นข้ารับใช้อันดับหนึ่งของท่านวารินทร์นะ ท่านผู้นั้นคือว่าที่ราชาแห่งบาปองค์ต่อไปไม่เสียดายหรือ”
นาน่าผุ้เป็นแม่เอ่ยถาม อัณณ์หดหู่มากกว่าเดิมที่พ่อแม่ไม่ได้เป็นห่วงความรู้สึกของตนเลยซักนิด แต่กลับห่วงหน้าที่การงานและเส้นสายของตระกูลมากกว่า

“มีเรื่องอะไรก็ไม่พูด บอกมาสิพ่อช่วยเหลือได้นะ”
รู้ดีว่าพ่อกับแม่ช่วยอะไรเขาไม่ได้ ปัญหามันอย่ตรงที่สภาพจิตใจของเขาต่างหาก อัณณ์นอกจากจะเสียใจแล้วยังคิดไม่ออกถึงเหตุผลที่วารินทร์รวมหัวกับยูลิกลั่นแกล้งเขาให้อับอาย

เจ็บปวดในยิ่งนัก

แต่ถึงถูกทรยศแบบโหดร้ายก็ยังเฝ้าแต่คิดถึงผู้เป็นนายอย่างน่าเจ็บใจ นี่เขาจะไม่สามารถเกลียดวารินทร์จากหัวใจได้เลยสินะ
ผมรักเธอจนจะตายให้ได้

คำพูดนี้อัณณ์ฟังแล้วเต็มตื้นจนแทบจะตายให้ได้เช่นกัน หากแต่พอนึกถึงความร้ายกาจที่ได้รับก็ปวดร้าวจนไม่อยากจะไปเจอหน้า

“อัณณ์ลูกก็รู้ว่าตอนนี้ท่านวารินทร์อยู่ในช่วงอันตราย อยู่ห่างจากท่านแบบนี้หากท่านตายไปลูกจะเสียใจเองนะ”
นาน่าโยนเอกสารบางอย่างให้อัณณ์ดูอัณณ์เหลือบมองแวบหนึ่งก่อนจะซบหน้าลงบนข่าแล้วหวนนึกถึงอดีตแสนหวานที่อยู่ร่วมกับวารินทร์

“เธอร้องไห้ทำไมอัณณ์”
วารินทร์ซึ่งอายุได้สิบสี่ถามคนที่นั่งปาดน้ำตาในโรงหนังมืดๆ อัณณ์ร้องไห้ด้วยฉากบอกรักอันซาบซึ้งระหว่างพระเอกนางเอกที่กำลังจะจากกันไปไกลแสนไกล

“ผมสะเทือนใจ พอดูหนังเรื่องนี้แล้ว คิดว่าถ้าเราต้องแยกจากกัน ท่านวารินทร์อาจจะไม่รักผมตลอดไปอย่างที่ผมต้องการ”

“เธออยากให้ผมรักเธอไปตลอดกาลถึงแม้เราจะแยกจากกันอย่างนั้นหรือ”
รู้ว่าเป็นการหวังสูงและเอาแต่ใจแต่อัณณ์ก็เลือกที่จะพยักหน้าแสดงเจตนารมณ์ของตัวเอง

“พูดออกมาให้ชัดสิว่าเธออยากให้ผมทำอย่างไร”

“อยากให้ท่านวารินทร์รักและปรารถนาในตัวผมตลอดไป”
อัณณ์ยืนยันความต้องการตนเองอย่างละโมบ ในใจหวาดกลัวที่จะถูกปฏิเสธ แต่รอยยิ้มหวานหวานที่ปรากฏบนใบหน้าของผู้เป็นนายทำให้ลืมเลือนความกลัวนั้นไปจนหมด

“ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอปรารถนา ผมจะรักเธอตลอดไป”

คนฟังผวาเข้าจูบวารินทร์ทันทีที่ได้ยินคำนั้น ท่ามกลางความมืดในโรงหนัง ทั้งสองจูบกันและพร่ำบอกคำรักหวานชื่นอย่างไม่รู้
เบื่อ

ทำไมรวมหัวกับยูลิกลั่นแกล้งเรากันนะ มันต้องมีเหตุผลบ้างสิ

อัณณ์คิดเช่นนั้นเพราะรู้ว่าผู้เป็นนายทำอะไรลงไปมักจะมีเหตุผลเสมอ ความทรงจำหวานๆทำให้ลืมเลือนความโกรธไปจนเกือบหมด ร่างบางหยิบเอาเอกสารนที่ผุ้เป็นแม่ทิ้งไว้ขึ้นมาอ่าน

“อะไรกัน”

ร้องครางออกมาด้วยวิตกกังวล เอกสารในนั้นบ่งชัดว่าคานอนพี่ชายของวารินทร์วางแผนลอบฆ่าผู้เป็นนายครั้งแล้วครั้งเล่า อัณณ์รีบควานหาเครื่องติดตามตัวเพื่อระบุตำแหน่งที่แน่ชัดของวารินทร์ในปัจจุบันทันที โชคยังดีที่เขาถือวิสาสะแอบติดเอาไว้กับผู้เป็นนายในเครื่องประดับที่ติดตัวอยู่เสมอ

“อยู่ในสวนสาธารณะใกล้บ้านหรอกหรือ”
อัณณ์ถอนหายใจโล่งอกก่อนจะเปิดเครื่องรับสัญญาณฟังเสียงรอบตัวของผู้เป็นนาย ทันทีที่เปิดเสียง เสียงระเบิดตูมตามก็ดังลอดเครื่องออกมาให้ได้ยิน

“เกิดอะไรขึ้น”
อัณณ์ไม่เสียเวลาคิดเขาเปิดหน้าต่างกางปีกโผบินไล่ตามไปยัวสถานที่เกิดเหตุอย่างไม่รั้งรอ

"วารินทร์”
อัณณ์ร้องตะโกนเมื่อเห็นผู้เป็นนายถูกรายล้อมด้วยเหล่าผุ้ไม่หวังดีจำนวนมาก


“คนพวกนี้มันอะไรกัน”
เอ่ยถามหลังจากร่อนลงมายืนเคียงข้างวารินทร์ ไม่ทันขาดคำ เหล่าชายชุดดำก็โจมตีเข้ามา อัณณ์หวดแส้เข้าใส่คนร้ายที่ดาหน้าเข้าไม่หยุด

“ท่านคานอนพี่ชายของนายเป็นคนสั่งแน่แน่เลย”
พูดขึ้นขณะจัดการรัดคอหนึ่งในชายชุดดำจนสลบแน่นิ่งไป

“ผมรู้แล้ว แค่รอว่าท่านพี่จะโผล่หางเมื่อไหร่”
ใบหน้าปลอดโปร่งของวารินทร์ทำเอาอัณณ์ฉุนกึก ร่างบางยังไม่หายโกรธเรื่องที่ถูกกลั่นแกล้งจึงอดประชดประชันไม่ได้

“ใช่สิสำหรับนายยยท่านอออะไรๆก็อยู่ในแผนการไปเสียหมด เรื่องที่ข่มมมขืนผมเองก็ด้วยเหมือนกันสินะ”
เหน็บวารินทร์ขณะใช้ขากวาดเตะชายชุดดำที่เข้ามาใกล้วารินทร์ ความเก่งกาจของอัณณ์ทำให้ผู้เป็นนายไม่ต้องออกแรงจัดการอะไรเลยเพราะเหล่าชายชุดดำไม่สามารถเข้าหาวารินทร์ในรัศมีซึ่งอัณณ์คอยคุ้มกันอยู่

“ถ้าผมอยากจะบอกว่าที่ทำลงไปทั้งหมดเพื่อลองใจเธอเพราะโกรธล่ะ”

“อะไรนะ”
หันมาหาคนพูดในตอนนั้นวารินทร์ก็กระชากร่างของเขาจนเซ คานอนที่โผล่มาเมื่อไหร่ไม่รู้แทงดาบลงมาแต่ผู้เป็นนายรับแทนและถูกแทงที่ท้องจทะลุ

“วารินทร์”
คนในอ้อมกอดร้องเรียก อัณณ์มองดูวารินทร์ใช้ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลังฟาดใส่คานอนแต่ผู้เป็นพี่ชายก็ตีลังกาหลบแล้วไปยืนอยู่ในระยะไกล

“ฮ่าฮ่า รอให้เผลอจนเล่นงานได้อยู่นาน รู้ไหมว่าไม่ง่ายเลยที่จะหาจังหวะเหมาะให้แกลดความระวัง”
คานอนหัวเราะเยาะ อัณณ์ถลาเข้าไปเล่นงานคนซึ่งทำร้ายผู้เป็นนายอย่างขาดสติ

“ให้ตายสิชู้รักของแกนี่อารมณ์ร้อนดีแท้” คานอนพูดพลางหลบการโจมตีของอัณณ์

“อัณณ์กลับมาหาผมนี่”
วารินทร์เอ่ยเตือนขณะถอนดาบออกจากร่าง

“ไม่ถ้าไม่ได้จัดการมันฉันไม่มีวันยอม”
อัณณ์ตะโกนทั้งน้ำตา แค่เห็นใบหน้างดงามที่พยายามอดกลั้นต่อความเจ็บปวดของผู้เป็นนายเขาก็แทบใจสลาย ร่างบางลืมเลือนเรื่องบาดหมางระหว่างตนกับวารินทร์ไปจนสิ้น

“โง่ทั้งเจ้านายทั้งคนรับใช้ ยังไงแกก็สู้ฉันไม่ได้อยู่แล้ว เจ้านายของแกเองก็โดนพิษยาชาจนขยับไม่ได้ต้องยืนรอความตายอย่างเดียว”
อัณณ์ไม่ยอมแบ่งสมาธิไปไหนนอกจากมุ่งมั่นเล่นงานคานอน หากแต่โจมตีพลาดไปเสียหมด ในตอนนั้นวารินทร์ผู้ขยับไม่ได้ดั่งใจก็เริ่มต้นบทสนทนากับคานอน

“ทำแบบนี้เพื่อตำแหน่งราชาแห่งบาปหรือท่านพี่”

“ฮะฮะยังมีแรงพูดอีกนะ แน่นอนอยู่แล้ว ฉันเป็นพี่คนโตจะให้แกมาตัดหน้าแย่งชิงได้อย่างไรล่ะ”
คานอนพูดขณะคว้าจับอัณณ์เหวี่ยงออก แต่ก็ต้องหงุดหงิดที่คู่ต่อสู้ยังมุ่งมั่นพุ่งเข้าหาจนเบื่อที่จะเล่นด้วยอีกต่อไป

“ถ้าอยากได้ก็มาขอดีดีก็ได้นี่ผมไม่อยากเป็นเท่าไหร่หรอกราชาแห่งบาปอะไรนั่น”วารินทร์ยิ้มพร้อมกับลองขยับปลายนิ้วทดสอบอาการชาตามร่างกายตน

“ถ่วงเวลาเรอะวารินทร์ เอาเถอะ เดี๋ยวฉันจะจัดการแกก่อนแล้วค่อยจัดการกับชู้รักของแกที่หลังหมั้นไส้นัก”

“ไม่นะ”
อัณณ์ซึ่งถูกจับเหวี่ยงไปจนกระแทกกำแพงร้องตะโกน ถึงพยายามลุกขึ้นแต่ก็ม่ทันการเพราะคานอนพุ่งเข้าหาวารินทร์ด้วยความเร็วเกินกว่าที่เขาจะตามทัน

“อัณณ์ผมรักเธอนะ ที่ทำลงไปทั้งหมด แค่น้อยใจที่เธอไม่ยอมเปิดเผยความสัมพันธ์ของเรา เพราะเธอไม่ยอมเป็นคนรักจริงๆของผม”
อัณณ์สับสนไปหมดกับคำสารภาพของวารินทร์แต่ไม่มีเวลาคิด เขาถลาไล่ตามคานอนเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ตายซะเถอะไอ้วารินทร์”
คานอนที่เข้าถึงตัววารินทร์ใช้กรงเล็บแหวกอากาศหวักจะควักหัวใจของน้องชายออกมา หากแต่ชั่ววนาทีคนถูกเล่นงานกลับเป็นคานอนเสียเอง อัณณ์อึ้งกับการที่เห็นวารินทร์แทงฝ่ามือทะลุร่างของพี่ชายจนจับต้นชนปลายไม่ถูก

“ทำไมแก…”
คานอนแค่นเสียงกระท่อนกระแท่น

“จะถามว่าทำไมผมถึงขยับได้นะหรือ”
วารินทร์ยิ้มให้คนที่ถลึงตามองอย่างเคียดแค้น
ก็แค่ตั้งใจฝืนขยับอย่างถึงที่สุดเพื่อไม่ให้คนที่ผมรักต้องเสียน้ำตาเท่านั้น”

“แกมันบ้า ก็แค่ปีศาจชั้นต่ำเท่านั้นเอง”
คานอนที่เจ็บปวดรวดร้าวถ่มน้ำลายลงพื้นก่อนจะทรุดฮวบเมื่อวารินทร์ชักมือกลับออกจากร่างที่เป็นรูของตน

“ผมยกตำแหน่งราชาแห่งบาปให้ ผมไม่ต้องการหรอก สำหรับผมแค่มีอัณณ์ก็พอแล้ว”
วารินทร์ยิ้มให้อัณณ์ที่เข้ามาประคอง

“ยกโทษให้คนใจแคบที่ตั้งใจจะลองใจเธอหน่อยได้ไหม”

“อย่าเพิ่งพูดเลย ทำไมนะ ทำไมแผลไม่สมานตัวเหมือนปกติ”อัณณ์หัวเสียเมื่อร่างกายของวารินทร์ไม่สมานแผลเหมือนอย่างเคย
“พิษจากยาชาทำให้ร่างกายของผมสมานแผลไม่ได้พาผมไปโรงพยาบาลเถอะอัณณ์”

“ได้ได้ แต่ก่อนอื่น…”
อัณณ์หันไปเตะเท้าเข้าที่หน้าของคานอนที่นั่งทรุดอย่างแรงจนอีกฝ่ายล้มกลิ้งและสลบไป

“ยังไม่สาสมเสียด้วยซ้ำ”
หลังจากจัดการจนพอใจอยู่บ้างอัณณ์ก็กางปีกพยุงคนเจ็บนำพาไปยังโรงพยาบาลอย่างไม่รอช้า


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

เรื่องนี้แต่งใกล้จบแล้วค่ะ

เดี๋ยวจะทยอยลงไวไวเลยแน่นอนค่ะ :hao3:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่15-16 14/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 14-03-2016 16:19:21
โหยยยย วาริณบอกน้อยใจอัญญ์เลยทำประชด? ประชดแต่ละอันนี่แรงๆทั้งนั้น รวมถึงอันสุดท้าย :katai1:

แต่ก็เอาเถอะ สุดท้ายก็ยอมสารภาพความในใจออกมา ถึงจะแปลกที่ไปหน่อย5555 :hao7:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่17-18 p2 17/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 17-03-2016 22:23:33
ตอนที่17

“ยังงอนอยู่อีกหรือ”
หลังจากกลับมาจากโรงพยาบาล วารินทร์ซึ่งอมยิ้มเอ่ยถามคนที่นั่งหน้าบึ้งกอดอก อัณณ์ถึงจะยังโกรธเรื่องที่ถูกหลอกและข่มขืนไม่หายแต่ก็ยังรับหน้าที่ดูแลผู้เป็นนายอย่างดี

“วางแผนมาตั้งแต่วินาทีแรกที่ฉันพบกับยูลิแล้วสินะ” อัณณ์ถลึงตามองวารินทร์

“เธอเข้าใจถูกแล้ว ผมกับยูลิเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่แรก”

“ใจร้าย”
น้ำตาของอัณณ์ปริ่มบริเวณขอบดวงตา ถึงจะบอกว่าลองใจเขาเพราะโกรธที่นอกใจไปกับแพทริคแต่ทำถึงขนาดนี้ ทำให้อัณณ์เพิ่งรู้จักนิสัยโหดร้ายของวารินทร์เป็นครั้งแรก

“ถึงฉันจะดื้อแพ่งไม่ยอมเป็นคนรักอย่างเปิดเผยของนาย แต่น่าจะเข้าใจเหตุผลที่ทำเพื่อเราสองคนสิ หากเรื่องทุกอย่างถูกเปิดเผยไปเราสองคนจะถูกจับแยกออกจากกันนะ”

“ผมไม่มีวันแยกจากเธออัณณ์”
คนถูกต่อว่าเชยคางอัณณ์ให้เงยหน้าขึ้นมาสบตาและจูบลงบนบริเวณหน้าผากปลอบโยนคนที่ร้องไห้ จังหวะนั้นน้ำเสียงกราดเกรี้ยวของแขกไม่ได้รับเชิญก็ดังขึ้น อัณณ์และวารินทร์หันไปมองเจ้าของเสียง

“นี่มันอะไรกัน”
นายหญิงดานิกาตะคอกเสียงแหลม อัณณ์ผละออกจากวารินทร์ที่อยู่บนเตียงแต่ก็ถูกคว้าจับให้เข้าไปซบกับอ้อมอกของผู้เป็นนาย

“อธิบายมาเดี๋ยวนี้นะวารินทร์แกจูบกับปีศาจรับใช้ของแกทำไม”
คาโรลทำหน้าขรึมแต่อัณณ์รู้ดีนายท่านกำลังโกรธจัด ร่างบางดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนของวารินทร์เพื่อจะให้หลุดจากการกอดรัด แต่แรงมหาศาลของผู้เป็นนายทำให้ต้องจมอยู่ในอ้อมกอดอยู่เช่นนั้นต่อหน้านายท่านและนายหญิงที่กำลังโมโหหนัก

“ผมกับอัณณ์เราเป็นคนรักกัน ท่านพ่อท่านแม่คงเห็นแล้ว”

“แกล้อเล่นสินะวารินทร์” คาโรลถาม

“ผมเปล่าล้อเล่น”
วารินทร์ยืนยันด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่อัณณ์เหงื่อแตกพลัก ยิ่งได้เห็นแววตาราวกับจะฆ่ากันให้ได้ของนายหญิงดานิกายิ่งอยากหายตัวไปจากที่ตรงนั้น

“แกล่อลวงเจ้านายของตัวเองหรืออัณณ์ สมกับที่เป็นปีศาจฝันจริงๆ แต่ถ้าหากแกเจียมตัวยอมเป็นอนุภรรยาฉันจะปล่อยแกกับวารินทร์ให้คบกันต่อไปก็ได้นะ”
ดานิกาพูดเธอค่อนข้างใจเย็นลงมาก หากแต่คำพูดของวารินทร์ทำให้หล่อนโกรธหนักจนหน้าแดงก่ำ

“อัณณ์จะไม่เป็นอนุภรรยาหรอกครับท่านแม่ แต่จะเป็นคนรักและภรรยาเพียงผู้เดียวของผม”

“แกพูดอะไรหาวารินทร์”
คาโรลที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดตะคอกเสียงดัง อัณณ์หลับตาปี๋ด้วยความกลัว บรรยากาศภายในห้องคุกรุ่นเนื่องด้วยไม่มีใครยอมใคร

“แกต้องแต่งงานกับยูลิ ท่านลูซิเฟอร์ประสงค์ให้แกเป็นราชาแห่งบาปต่อจากท่านพ่อแอสโมดิอุส การแต่งงานจะทำให้อำนาจของแกมั่นคง แกไม่อยากเป็นราชาแห่งบาปหรอกหรือ”

“เรื่องราชาแห่งบาปอะไรนั่นยกให้ท่านพี่คานอนไปเถอะครับ”

“ท่านวารินทร์”
อัณณ์ทำท่าจะประท้วง แต่วารินทร์กลับส่งสัญญาณบอกให้เงียบ อัณณ์อยากจะบอกให้รู้ เขายอมเป็นอนุก็ได้เพื่อให้วารินทร์ได้กลายเป็นราชาแห่งบาป ตอนนี้ไม่คิดเห็นแก่ตัวอีกต่อไปแล้ว แค่ได้รู้ว่าวารินทร์ยังรักเขามากแค่ไหนก็พอ

“วารินทร์ทำตามที่พ่อกับแม่บอกซะ แต่งงานกับท่านยูลิเสียแล้วพ่อกับแม่จะให้อภัยที่ลูกทำร้ายพี่ชายตัวเอง”
ดานิกายื่นข้อเสนอ ในเวลาติดๆกันคาโรลก็ยื่นข้อเสนอตามมา

“แค่อนุภรรยาคงไม่รังเกียจสินะอัณณ์ ปีศาจรับใช้ตะกายขึ้นมาได้ขนาดนี้ อย่าปฏิเสธข้อเสนอของพวกเราดีกว่า”
คาโรลพูดกับอัณณ์ที่กำลังสับสน ขณะจะอ้าปากตอบรับวารินทร์ใช้มืออุดปากของเขาสกัดกั้นคำตอบไม่ยอมให้เขาได้พูด

“อย่าเสียเวลาเกลี่ยกล่อมอัณณ์ อัณณ์เป็นคนรักและภรรยาของผม ทั้งชีวิตนี้ผมไม่รักใครอื่นอีกนอกจากอัณณ์”

มีความสุข

อัณณ์หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความยินดีและแสนสุขจนเอ่อล้น ให้ตายตอนนี้เลยก็ยังได้ ให้ตายเพราะถูกพ่อแม่ของคนรักฆ่าเขาก็ไม่เสียดาย

“แกมันบ้าวารินทร์” ดานิกาด่าเสียงกร้าว

“ฉันขอตัดแกออกจากกองมรดกและตระกูล จากนี้ไปแกจะไปทำอะไรที่ไหนก็ตามใจ”
คาโรลโกรธจนไม่อยากมองหน้าลูกชาย เขาพาดานิกาเดินออกจากห้องไป อัณณ์เขาใจว่าตนเองเป็นผู้นำความหายนะมาให้คนรัก หดหู่ไปพร้อมกับหวานซ่านในอก เมื่อคนรักยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อจะอยู่กับเขาตลอดไป

“อัณณ์ผมยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเธอแล้วนะ เธอรังเกียจผมที่ไม่มีฐานะอะไรเลยแล้วหรือเปล่า”

“ไม่…ไม่เลย”
อัณณ์ส่ายหน้าไปก่อนจะจุมพิตไปทั่วไปหน้าของคนรักอย่างตะกรุมตะกราม

“รัก รัก ต่อให้เราสองคนต้องลำบากกว่านี้ฉันก็จะรักนายตลอดไป”

“อัณณ์เธอช่างน่ารักเหลือเกิน”
วารินทร์จับอัณณ์เปลื้องผ้า ร่างบางเองก็แก้ผ้าของคนรักด้วยมือไม้ที่สั่นเทา ไม่ได้สั่นเพราะหวาดกลัว แต่รีบร้อนเกินไปจนแทบควบคุมสติไม่ได้ พอทั้งคู่เปลือยเปล่า คนรักก็จับเขานอนลงมือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างกายขาวนวลเนียนอย่างหลงใหล

“เธออยากทำรักกับผมหรือเปล่าอัณณ์”
คนถามโปรยยิ้มหวานมาให้ อัณณ์ถึงจะนอนนิ่งๆรอคอยการมอบความรัก แต่ในใจแทบอยากจะกระโจนคลุบคนรักเอาไว้แล้วฟัดจนกว่าจะสมรักสมอารมณ์

“กอดฉันเถอะที่รัก”
อัณณ์เอ่ยคำหวานเชิญชวน ไม่รอช้าวารินทร์แนบจูบลงมาหลายครั้งก่อนจะจรดริมฝีปากลงไปบนเครื่องเพศของอัณณ์ซึ่งตอนนี้ชูชันยั่วตาแล้วครอบครองปลุกเร้าให้

“อา…วารินทร์….ที่รัก….”
ร้องครางเสียงหวานหยด หลังจากถูกทำให้ปลดปล่อยถึงสองครั้ง วารินทร์ก็ใช้ปลายลิ้นโลมเลียไปยังดอกไม้สีชมพูตรงบริเวณบั้นท้าย ไม่แค่ใช้ปลายลิ้นไล้เลียแต่คนรักยังแทงปลายลิ้นร้อนเข้ามาด้านใน อัณร์ดิ้นพล่านด้วยความหฤหรรษ์

“พอ…พอแล้วเข้ามาเถอะ”
พอร้องขอออกไปก็ได้ตามที่หวัง วารินทร์สอดใส่ความเป็นชายอันร้อนผ่าวเข้ามาจนมิดด้าม วินาทีนั้นอัณรืก็กระตุกกายปลดปล่อยอีกครั้ง

“เธอรักผมใช่ไหมอัณณ์”
วารินทร์ถามขณะที่แก่นกายสอดคาไว้และไม่คิดจะขยับโยก

“รักรัก”
อัณณ์ผงกหัวหงึกหงักด้วยความต้องการคนรักจนแทบทนไม่ไหวจึงขยับสะโพกบดเบียด เรียวขาทั้งสองข้างก็เสียดสีเข้ากับร่างกายของวารินทร์

“ได้โปรดทำทีเถอะ ฉันรักนาย”
อ้อนวอนคนที่ทาบทับร่างกาย แต่คนรักยังดูใจเย็น วารินทร์ยิ้มขณะมองดูอัณณ์ทุรนทุรายด้วยแรงตัณหา

“แค่คำบอกรักมันยังไม่พอเลย ช่วยแสดงให้เห็นเป็นรูปธรรมหน่อยได้ไหมว่าเธอรักผม”
อัณณ์ไม่รอช้ารีบขยับเปลี่ยนท่า ผลักให้วารินทร์นอนลงก่อนจะขยับโยกร่างกายด้วยตนเองโดยหวังจะให้การกระทำเช่นนี้แทนคำบอกรักของตน

“แบบนี้ได้ไหมฉันทำถึงขนาดนี้แทนคำบอกรักได้หรือเปล่า”

“ครั้งเดียวมันยังไม่พอหรอก เธอต้องทำอย่างนี้กับผมไปทั้งชีวิต”

วารินทรืกระซิบบอกก่อนกระแทกกายสวนขึ้นไปเป็นจังหวะถี่รัวจนคนที่อยู่ด้านบนแทบน้ำตาเล็ด อัณณืกับวารินทร์เริงรักกันตลอดทั้งวันยาวนานดั่งเช่นทุกครั้งที่ทำกัน แต่ครั้งนี้อัณณ์หวามในอกและตื่นตัวมากกว่าทุกครั้ง เพราะเขากับวารินทร์ได้เป็นคนรักที่แท้จริงและไม่ต้องปิดบังสถานะอีกต่อไป

หลังจากการทำรักร้อนแรงดั่งพายุผ่านพ้นไป อัณณ์ที่อ่อนล้ายังออเซาะคลอเคลียคนรักไม่ห่าง อยากจะอยู่ในสภาพนี้ตลอดไป เขาไม่อยากให้อะไรมาพรากวารินทร์กับตนออกจากกัน


“เธอทำหน้าเหมือนไม่สบายใจมีอะไรหรืออัณณ์”

เรื่องที่นายถูกตัดออกจากตระกูลนะสิ”

“เธอรังเกียจผมที่เป็นคนไร้ทรัพย์อย่างนั้นหรือ”

“ไม่…ไม่ใช่นะ” อัณณ์ปฏิเสธลนลาน

“แค่กำลังพยายามคิดว่าเราจะเอาอย่างไรต่อไปดีต่างหาก”

“เธอกำลังคิดแทนผมอย่างนั้นหรือ”

“ใช่ถึงเป็นคนรักกัน แต่ก็เป็นข้ารับใช้มาก่อน ไม่สิ เพราะเท่าเทียมกันแล้วเลยอยากแบ่งเบาภาระอยากช่วยเหลือ ให้ฉันได้เป้นคนดูแลนายเถอะนะ”
อัณณ์วอนขอ คนฟังกระตุกยิ้มร้าย ร่างบางผวาเล็กๆด้วยไม่เข้าใจรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ของคนรักว่าหมายความอย่างไร

“ถ้ามันเป็นสิ่งที่เธอต้องการล่ะก็ ทำตามปรารถนาของเธอเถอะ ผมไม่ขัดใจเธอหรอก”

“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เรามาจัดการทรัพย์สินที่เหลืออยู่กันนะ”

อัณณ์ที่ได้สมดั่งหวังกระโจนเข้ากอดวารินทร์ซึ่งแย้มยิ้มละมุนละไม ร่างบางดีใจที่ได้รับอนุญาตให้จัดการเรื่องของคนรักได้ทั้งหมด วันนี้จะขอพักเอาแรงเสียก่อน แล้วพรุ่งนี้เขาตั้งใจจะจัดการเรื่องวุ่นๆทั้งหมด เริ่มต้นจากเรื่องเงินทองซึ่งเป็นสิ่งจำเป้นนี่แหละ ในเมื่อวารินทร์ถูกขับออกจากตระกูลแล้ว เขาที่เป็นต้นเหตุจึงมีหน้าที่หาเลี้ยงอีกฝ่ายให้สมกับที่เป็นคนรักอย่างแท้จริง

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อค่ะ :katai4:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่17-18 p2 17/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 17-03-2016 22:27:59
ตอนที่18

“เราจะอยู่กันที่นี่หรือ”
อัณณ์สูดลมหายใจเข้าขณะมองดูหอพักเล็กที่วารินทร์เป็นคนเลือกหลังจากขายบ้านที่เคยอยู่ทิ้งไป

“เธอบอกเองไม่ใช่หรือว่าพวกเราจำต้องประหยัดเพราะถูกไล่ออกจากตระกูลทั้งคู่แล้ว”

“ก..ก็ใช่”
อัณณ์ยิ้มฝืดเฝื่อน พลางนึกถึงอดีตในตอนที่พบกับพ่อแม่ของตนเมื่อเร็วๆนี้

“กลับมาอยู่ที่บ้านของเราได้แล้วอัณณ์”
อิทธิฤทธิ์ออกคำสั่งทันทีที่พบหน้าลูกชาย

“ในเมื่อวารินทร์ไม่ได้เป็นปีศาจของตระกูลแอสโมดิอุสอีกแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่ลูกจะต้องคอยรับใช้อีกต่อไป”
พูดอะไรของพ่อกันหา”
อัณณ์สับสนไปหมด เขาไม่คิดมาก่อนว่าการเข้ามาปรึกษาเรื่องส่วนตัวระหว่างเขากับวารินทร์จะได้รับคำตอบแบบนี้

“แม่เห็นด้วยกับพ่อเขานะอัณณ์ วารินทร์ผู้นั้นไม่มีคุณค่าให้ลูกคอยรับใช้อีกต่อไปแล้ว กลับมาอยู่กับพวกเราเถอะแล้วเราจะหาเจ้านยายคนใหม่ให้ลูกเอง”

“ไม่ครับ”
อัณณ์ปฏิเสธด้วยใบหน้ามึนตึง คิดไม่ถึงว่าพ่อกับแม่จะเห็นแก่ลาภยศมากถึงขนาดบอกให้เขาทิ้งเจ้านายที่เคยรับใช้มาง่ายๆ สำหรับอัณณ์ถึงวารินทร์จะเหลือแต่ตัวเปล่า เขาก็จะขออยู่ข้างๆตลอดไป เพราะเขาคนนั้นเป็นผู้เป้นที่รักเพียงหนึ่งเดียวของเขา

“ผมไม่แยกห่างจากวารินทร์เด็ดขาด หากพ่อแม่ไม่สบายใจผมจะออกจากตระกูลเอง ถือซะว่าไม่เคยมีลูกอย่างผมไปก็แล้วกัน”

หลังจากตัดความสัมพันธ์กับพ่อแม่ ก็เข้าสู่เวลาวิกฤติอย่างแท้จริง อัณณ์กับวารินทร์ไร้ผู้ปกครองซึ่งเป็นที่พึ่ง เขาไม่รู้ว่าคนรักมีทรัพย์สินมากน้อยแค่ไหน แต่ตัวเขาพอจะมีอยู่บ้างหากแต่ไม่มาก ดังนั้นอัณณ์จึงเกลี่ยกล่อมให้วารินทร์ขายบ้านราคาแพงทิ้งไป แล้วออกมาอยู่ในหอพักราคาย่อมเยากว่า

“วารินทร์รอฉันก่อนนะในอนาคตฉันจะเก็บเงินซื้อบ้านที่เป็นของเราสองคน”
อัณณ์บอกกับวารินทร์เช่นนั้น หลังจากขายบ้านไปเรียบร้อยแล้ว

“เธอจะเป็นคนเก็บเงินซื้อบ้านของเราเองอย่างนั้นหรือ”

“แน่นอน”
ยืนยันคำถามของคนรักเป้นมั่นเหมาะ ไม่รู้ทำไมวารินทร์กระตุกยิ้มร้ายๆแล้วหัวเราะเบาๆด้วยความพออกพอใจ
ทั้งที่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ด้วยดีแต่แค่เห็นหอพักที่วารินทร์เป็นคนเลือกแล้วก็เริ่มหดหู่ใจ อัณณ์ถึงอยากเปลี่ยนหอพักใหม่แต่คนของบริษัทขนของก็จัดของเข้าห้องเรียบร้อยแล้ว

“เอ่อ…”
พูดไม่ออก หลังจากวารินทร์จูงมือเข้ามาในห้องพักเล็กๆข้าวของเครื่องใช้ที่อัณณ์คิดจะเก็บไว้ถูกวารินทร์จัดการขายไปจนเกือบหมดแล้วซื้อใหม่

ตอนนี้ในห้องเล็กๆมีเตียงขนาดห้าฟุตหนึ่งหลังที่แค่เตียงก็ปาเข้าไปตั้งครึ่งห้องแล้ว กระทะไฟฟ้ากับกระติกน้ำร้อนอย่างละหนึ่งชิ้น ตู้เสื้อผ้าที่เป้นของหอพักตั้งแต่ต้น แล้วก้โต๊ะเขียนหนังสืออีกหนึ่งตัว
ไม่มีโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศหรือว่าโซฟา ในห้องน้ำเล็กๆก็ไม่มีอ่างน้ำเอาไว้แช่กายมีแต่ฝักบัวและโถส้วมซึ่งรวมอยู่ในห้องเดียวกัน ยิ่งได้สัมผัส ก็ยิ่งอยากร้องไห้ ร่างบางสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ แต่แค่คิดว่าวารินทร์จะต้องมาทนลำบากเขาก็รู้สึกปวดใจ

“เธอร้องไห้ทำไมอัณร์”
วารินทร์เอ่ยถามคนที่ปาดน้ำตาปอยๆ อัณณ์สะเทือนใจจนโผเข้ากอดคนรักแล้วเริ่มพร่ำพูดคำสัญญาของตน

“ฉันจะพยายามเก็บเงินเพื่อซื้อบ้านของเราตั้งแต่พรุ่งนี้ฉันจะไปทำงาน แต่วันนี้ยังไงก็ต้องไปลาพักการเรียนที่สถาบันก่อน”

“อัณณ์เธอไม่ต้องลำบากหางานหรอกผมจะทำเอง”

“ไม่ได้นะ แค่คิดว่านายจะต้องทนลำบากทำงานใช้แรงฉันก็ทนไม่ได้แล้ว”
อัณณ์สาบานว่าจะไม่ยอมให้วารินทร์ไปลำบากมากว่านี้อย่างเด็ดขาด เขาจะทำงานหาเงินคอยดูเถอะ มันจะต้องไปได้สวย

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปที่สถาบันซักสองสามชั่วโมงนะวารินทร์ก็นอนเล่นไปก่อน เดี๋ยวจะกลับมาทำอาหารให้กน”
อัณณ์จุมพิตวารินทร์ จูบก่อนออกจากบ้านอันหวานหวามทำให้ร่างบางสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก

“เอาล่ะหลังจากลาพักก้ต้องไปสัมภาษณ์”
พึมพำกับตัวเองแล้วกระโดขึ้นรถประจำทางมุ่งหน้าไปยังสถาบันฮิสตอเรีย
หลังจากลาพักการศึกษาชั่วคราวสำเร็จ อัณณ์ก็ถูกเรียกในตอนที่เดินออกจากสถาบัน ร่างบางหันไปมองก็พบกับศิศิราวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา

“หายไปไหนมาตั้งหลายวัน”
ศิศิราตีหน้ายักษ์แล้วป้อนคำถามอื่นต่อรัวเร็ว

“นายย้ายบ้าน ทำไมถึงขายบ้านมันเกิดอะไรขึ้น”

“ใจเย็นก่อนศิรา”
อัณณ์พยายามพูดปลอบคนที่พลุ่งพล่าน แต่ศิศิราไม่ยอมสงบสติอารมณ์ง่ายๆ ร่างบางจำต้องเล่าเรื่องทั้งหมดออกไป

“แล้วนี่ก้เลยมาพักการเรียนอย่านั้นหรือ”

“ใช่” อัณณ์ตอบ

“ทำไมถึงกลายมาเป็นแบบนี้ นายต้องทนลำบากเพื่อเจ้าวารินทร์อีกซักกี่ครั้งถึงจะพอใจ”

“ฉันรักวารินทร์ ศิราเข้าใจฉันหน่อยนะ”
คนที่ออกอาการฮึดฮัดมีสีหน้าเหนื่อยหน่าย เห็นได้ชัดว่าศิศิราจะไม่หายหงุดงิดง่ายๆ

“ขอบคุณนะที่เป็นห่วง ศิราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่ฉันเคยมีมาเลยขอบคุณนะ”

“แน่นอนอยู่แล้ว”
พอถูกชมศิศิราก็คลายอาการขึงโกรธ แต่ไม่ได้หายจากอารมณ์หงุดหงิด อัณณ์ได้แต่คิดว่าก็ยังดีที่อีกฝ่ายผ่อนคลายลงบ้างแล้ว

“แล้วเอายังไงต่อ” ศิศิราถาม

“ฉันกำลังจะไปสัมภาษณ์งาน”

“ที่ไหน”

“ร้านคาเฟ่ชื่อthe cat ที่อยู่ในตัวเมือง”

“แล้วเจ้าวารินทร์ล่ะหางานหรือยัง”

“ฉันให้เขาอยู่บ้านเฉยๆ”

“อะไรนะ” ศิศิราแยกเขี้ยวพร้อมกับร้องโวยวาย

“บ้าไปแล้ว ทำไมไม่ให้เจ้าบ้านั่นช่วยทำงานเล่า”

“ฉันสงสารเขาที่ถูกไล่ออกจากตระกูลมาลำบากเพราะฉัน แค่ช่วงนี้ก็ยังดี อยากให้เขามใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายคล้ายๆกับเมื่อก่อน”

“ด้วยการให้หมอนั่นกลายเป็นแมงดานี่นะ”

“แมงดาอะไร พูดซะเสียหายน่าเกลียดออก”
อัณณ์ขมวดคิ้วเพราะเริ่มไม่ชอบใจคำจำกัดความของศิศิรา

“ก็ทำอยู่นี่ไง อยู่บ้านเฉยๆ เกาะเมียกิน”

“ฉันเป็นคนห้ามไม่ให้เขาทำเอง อย่าว่าวารินทร์เลย”  คนฟังเอามือปิดหน้าที่กำลังบูดบึ้งหลังจากเปิดเผยใบหน้าอีกครั้ง อัณณ์เห็นเส้นเลือดปูดบวมบนขมับของศิศิรา

“ถ้าเสียใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อไหร่ ก็มาให้ฉันช่วยแล้วกัน แต่นายต้องเสียใจแน่ๆเชื่อฉันเถอะ”

ศิศิรากล่าวทิ้งท้ายก่อนจะกลับเข้าห้องเรียน อัณณ์ยังไม่เข้าใจอยุ่ดี ตนเองจะต้องเสียใจที่ตรงไหน เมื่อกำลังมีความสุข คนรักของเขา มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ ยอมให้เขาจัดการทรัพย์สินและทุกๆอย่างโดยไม่ปริปากบ่น น่ายินดีจะตาย ไม่เข้าใจความหมายของศิศิราจริงๆ

“เอาล่ะ”
อัณณ์บิดขี้เกียจไปมา

“ไปสัมภาษณ์งานต่อดีกว่า”ร่างบางจับรถมุ่งหน้าไปยังร้านที่นัดสัมภาษณ์เอาไว้ในเวลาถัดมา

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

นิยายก็ใกล้จะ จบแล้วนะคะเหลืออีกไม่กี่ตอน

ยังไงก็ขอบคุณคุณazureมากนะคะที่ตามเม้นให้ตลอดเลย

เป็นกำลังใจให้เรามากจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่17-18 p2 17/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 17-03-2016 23:44:47
วาริณร์ทิ้งทุกอย่างเพื่ออัญญ์เลย หวังว่าทั้งคู่จะประคับประครองความรักนี้ให้ผ่านพ้นไปได้นะ
แต่อัญญ์นี่ดื้อมาก ให้ตายเถอะ ถามสามีตัวเองสักคำไหมว่าอยากอยู่บ้านเฉยๆไหม?
เดียวถ้าวาริณรู้เรื่องอัญญ์จะโดนมิใช่น้อยแน่ๆ 5555 :hao7: :hao7:

ส่วนตัวเราเป็นคนชอบแนวแฟนตาซีอย่างนี้มากซึ่งไม่ค่อยจะมีคนเขียนเท่าไร
 คนเขียนอย่าเพิ่งท้อนะคะ  สะสมประสบการ์ณไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งความสำเร็จมันต้องเป็นของเรา
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่17-18 p2 17/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 23-03-2016 19:08:37
ตอนที่19

หลังจากสัมภาษณ์งานผ่านอัณณ์ก้แวะซื้อของตรงซุปเปอร์มาเก็ตก่อนกลับ และเพราะอยากกลับบ้านให้เร็วขึ้นจึงเดินลัดกลับบ้านทางสวนสาธารณะ

“วันนี้ทำอาหารมื้อใหญ่ฉลองดีกว่า”
ฮัมเพลงไปตลอดทางเดินกลับบ้าน จังหวะที่เดินอยู่ในสวนสาธารนะก็สะดุดตาเข้ากับชายไร้บ้านผู้ซึ่งนอนอยู่บนม้านั่ง

“หิวเหลือเกิน ขอของกินหน่อย”
ดูเหมือนว่าอาหารทานเล่นที่อัณณ์ซื้อมาจะมีกลิ่นเตะจมูกของคนคนนั้น รู้สึกตกใจที่ถูกของของกินแต่เพราะเกิดสงสารเสียแล้วจึงยกอาหารทานเล่นที่บรรจุอยู่ในถุงยื่นให้

“ลุงเอาไปเถอะ”

“ขอบคุณนะแม่หนู”
คนฟังยิ้มฝืดๆ ถูกเรียกว่าแม่หนู อาจเป็นเพราะมีหน้าตาคล้ายผู้หยิงมากมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ชอบก็จริงแต่จะโกรธคนที่น่าสงสารก็เกินไปหน่อย จึงได้แต่บอกลาแล้วเดินจากมา

“กลับมาแล้ว”
อัณณ์เข้าไปในห้อง พอปะเข้ากับวารินทร์ซึ่งนั่งทำอาหารอยู่โดยใช้กระทะไฟฟ้า ร่างบางก็แตกตื่นในทันที

“ทำอะไรนะวารินทร์”

“ผมกำลังทำผัดผักคิดว่าจะแบ่งเบาภาระให้เธอสักนิด”
คนถูกถามยิ้มอ่อนโยนขณะลงมือตั้งใจปรุงอาหาร แต่ก้ถูกอัณณ์แย่งตะหลิวออกจากมือแล้วขอร้องให้วารินทร์นั่งรอเฉยๆ

“เธอจะไม่ให้ผมทำงานบ้านช่วยเธอเลยหรืออัณณ์”
วารินทร์เอ่ยถามขณะรับประทานอาหารที่อัณณ์เป็นคนทำต่อ

“จะได้ยังไงล่ะ ฉันไม่ยอมให้นายลำบากกว่านี้หรอก ตอนที่ยังอยู่ในตระกูลแค่ทำความสะอาดห้องยังไม่เคยทำเลยไม่ใช่หรือไง”

อัณณ์พูดความจริง ตอนที่อยู่ในคฤหาสน์ประจำตระกูลห้องของวารินทร์มักมีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ พอมาซื้อบ้านอยู่กับเขาอัณณ์ก็รับหน้าที่ทำให้ทั้งหมด ถึงคนรักจะตกต่ำ แต่อัณณ์ก็อย่างทำเรื่องต่างๆให้เหมือนกับเมื่อสมัยก่อน ไม่อยากให้อีกฝ่ายนึกเสียที่ทิ้งตระกูลมาเพื่อตนเองในภายหลัง

“ผมอยากแบ่งเบาภาระให้เธอนะ”

“อย่าเลย ให้ฉันได้ทำให้นายทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อนเถอะ”
คนถูกขอร้องหน้านิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนจะกระตุกยิ้มร้าย อัณณ์ตกใจและหวาดหวั่นกับรอยยิ้มนั้นเหลือเกิน เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่คนรักมักจะมีท่าทางร้ายๆแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง

“เข้าใจแล้ว ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอปรารถนา”
เมื่อรอยยิ้มอ่อนโบนประดับอยู่บนใบหน้าของวารินทร์อีกครั้งอัณณ์ก็โล่งอกจนโผเข้ากอดจุมพิตไปพร้อมกับพูดพร่ำขอบคุณที่คนรักยอมตามใจเขาทุกอย่าง

“อัณณ์ผมอยากได้คอมพิวเตอร์ เผลอขายทิ้งไป แต่ตอนนี้มันจำเป็นต้องใช้มากเธอซื้อมาให้หน่อยสิ”

“ได้ได้ เราไปวื้อกันเดี๋ยวนี้เลย”
อัณณ์จูงมือพาคนรักมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของตามที่อีกฝ่ายต้องการในเวลาถัดมา
หลังจากทำงานที่ร้านคาเฟ่มาได้หนึ่งเดือน อัณณ์ก้สนิทสนมกับคนในร้านยิ่งขึ้น ยิ่งคืนวันผ่านไปเขาก็ปรับตัวในฐานะคนทำงานได้อย่างกลมกลืน วันนี้ก็เช่นกัน อัณร์ทำงานจนครบเวลาแปดชั่วโมงกล่าวลาผู้จัดการก่อนกลับบ้านเหมือนทุกที

“กลับก่อนนะครับ”

“กลับดีดีล่ะ” ผู้จัดการเอ่ยคำลากับอัณณ์ หลังจากโบกมือลาเรียบร้อยก็ออกจากร้านมาช่วงเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม เขาเดินทอดน่องออกจากร้านก่อนจะหยุดชะงักเมื่อชายชุดดำสองคนเข้ามาล้อมกรอบ

"ตั้งใจจะทำอะไร”
อัณณ์มองหาทางหนีทีไล่ หากโดนจู่โจม ร่างบางตั้งใจจะสู้จนถึงที่สุดไม่ให้เสียชื่อผู้ติดตามของวารินทร์

“ท่านลูซิเฟอณ์ต้องการพบคุณครับ”
ร่างบางอุทานดังเอ๊ะ ก่อนจะมองไปยังรถยนต์หรูสีดำที่จอดอยู่ใกล้ๆ ประตูรถคันนั้นเปิดออกภายในนั้นมีชายผู้มีรูปโฉมงดงามจนยากจะอธิบายพยักเพยิดส่งสัญญาณให้อัณณ์เข้าไปในรถ

“รีบหน่อยเถอะครับคุณรีรอแบบนี้นอกจากจะเกะกะคนอื่นท่านลูซิเฟอร์จะไม่พอใจเอาเปล่าๆ”
อัณณ์ถูกรุนหลังเบาๆ เขาเข้าไปนั่งในรถประจันหน้ากับลูซิเฟอร์ด้วยอาการกึ่งงงกึ่งสับสน

“อา….”
อัณณ์ส่งเสียงอึกอัก หลังจากรถยนต์เคลื่อนตัวออกจากริมฟุตบาตร ร่างบางถูกลูซิเฟอร์จ้องหน้าอยู่นานโดยไม่พูดอะไรทำเอาใจเขาฟ่อไปหมด

“ไปจากวารินทร์ซะ”
อย่างที่คิด อีกฝ่ายอ้าปากปุ๊บก็พูดถึงวารินทร์ทันที รู้อยู่แล้วสักวันลูซิเฟอร์ต้องออกโรง ทำไมจะไม่เป็นอย่างนั้นล่ะก็ท่านผู้นี้เป็นตัวตั้งตัวตีจะให้วารินทร์แต่งงานกับยูลินี่นะ

“เธอกำลังทำให้วารินทร์ลำบาก ดูสิเขาถูกขับไล่ออกจากตระกูล ไร้บ้านไร้เงินไร้ฐานะ เธอพรากทุกอย่างไปจากเขารู้หรือเปล่า”
อัณณ์สำนึกตัวดีอยู่ตลอด แต่การที่คนอื่นมาพูดกลับทำให้เจ็บมากกว่าสำนึกด้วยตนเองเป็นร้อยเป็นพันเท่า

“ตอนนี้วารินทร์ทำอะไรอยู่”

“อยู่บ้านเฉยๆครับ” อัณณ์ตอบ

“เธอไม่รู้สึกตัวหรือว่ามันผิดวิสัยวารินทร์ เจ้าปีศาจน้อยนั่นฉันรู้จักเขามาตั้งแต่ยังเล็ก เขาไม่มีวันปล่อยตัวให้เหลวแหลกอย่างนี้ นี่เขาคงผิดหวังจนไม่อยากจะทำอะไรแล้วล่ะมั้ง”
พอถูกจี้ใจดำอัณณ์ก็มีสีหน้าสลดอาจเป็นดั่งที่ลูซิเฟอร์พูดจริง หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ถึงแม้เขาจะห้ามไม่ให้วารินทร์ทำอะไร แต่เอาเข้าจริงๆการที่คนรักนอนแผ่กลิ้งไปกลิ้งมาเฉยๆ ทำให้ร่างบางวิตกกังวลอยู่บ้างเหมือนกัน อีกฝ่ายดูเรื่อยเฉื่อยและไม่กระตือรือร้นเท่าเมื่อก่อน ที่ว่าผิดหวังอาจจะจริงอย่างที่ลูซิเฟอร์พูด

“ขอให้เธอคิดดูให้ดี อนาคตของเขากับเธออยู่ในมือเธอนะ ฉันไม่โกรธวารินทร์เลยและพร้อมจะให้อภัยเขาในการกระทำโง่ๆเสมอ”
ลูซิเฟอร์กล่าวจบรถยนต์คันหรูก้จอดเช่นกัน ประตูถูกเปิดออกโดยชายชุดดำ ด้านนอกเป็นหน้าหอพักที่เขาอาศัยอยู่ อัณณ์ก้าวเท้าลงจากรถไม่พูดไม่จา

“อัณณ์เธอไม่พอใจกับการเป็นอนุภรรยาของวารินทร์ขนาดนั้นเชียวหรือ”

ถูกยื่นเงื่อนไขอีกครั้ง สำหรับเขาใช่ว่าจะไม่พอใจที่ได้เป็นอนุภรรยา การแบ่งคนรักทำให้เจ็บปวดมากก็จริงแต่หากทำให้วารินทร์ต้องเดือดร้อนเขาก็ยอมรับได้

นั่นเป็นความคิดก่อนหน้าที่วารินทร์จะตกลงปลงใจกัดก้อนเกลือกับเขา อัณณ์ในเวลานี้เรียกได้ว่ามีความสุข หากไม่มีปัญหาใหญ่เกี่ยวกับพฤติกรรมของวารินทร์ที่เปลี่ยนไปคงจะดีกว่านี้

“กลับมาแล้ว”
ร่างบางตัดสินใจเปิดประตูหลังจากทำใจอยู่นาน พอเปิดประตูเข้าไปก็พบกับวารินทร์กำลังนั่งเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์แบบออนไลน์อย่างคร่ำเคร่ง อัณณ์เห็นแล้วหดหู่จนไม่มีแรง หนึ่งเดือนมานี้ตั้งแต่ซื้อคอมพิวเตอร์มาให้ คนรักก็เอาแต่หมกหมุ่นกับเกมส์ไร้สาระมาโดยตลอด

“วันนี้จะกินอะไรดี”

“แล้วแต่เธอผมกินทั้งนั้น”

คนถูกถามตอบโดยไม่ยอมหันมามอง อัณณ์ได้แต่ถอนหายใจ ในหัวเอาแต่เฝ้าครุ่นคิดว่าปัญหามันอยู่ที่ตรงไหน และควรจะแก้ยังไง ร่างบางไม่กล้าโวยวายในพฤติกรรมของคนรัก หากถ้าตักเตือนไปก็ไม่รู้จะมีปฏิกิริยาเช่นไร ใช่เขากลัว กลัววารินทร์จะระเบิดอารมณ์ขึงเครียดเข้าใส่ และโทษว่าเขาเป็นคนผิดที่ทำให้ต้องมาตกต่ำและลำบาก

อัณณ์รู้อยู่ว่าคนรักคงเครียดมากพฤติกรรมจึงได้เปลี่ยนแปลงไป วารินทร์ในตอนนี้มีสภาพไม่ต่างจากนีทที่วันวันเอาแต่เล่นเกมส์อยู่หน้าจอคอม

“วารินทร์มาช่วยฉันทำอาหารดีไหม”

“ก็ได้อยู่หรอก แต่ผมกำลังลงดันเจี้ยนอยู่เธอรอซักชั่วโมงนะ”
อยากร้องไห้ แต่ก็ร้องไม่ออก อัณรืได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำอาหารเพียงลำพัง มีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกันตลอด แต่อยากให้วารินทร์คนเดิมกลับมา มากกว่าจะมีสภาพเลวร้ายอย่างนี้

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่19-20 p2 23/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 23-03-2016 19:15:03
ตอนที่20

“เฮ้อ”

อัณณ์ทอดถอนหายใจหลังจากนั่งเหม่อลอยอยู่ในสวนสาธารนะใกล้บ้านนานนับชั่วโมง วันนี้เขาได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ก่อนเวลาเนื่องจากเจ้าของร้านปิดร้านฉลองวันเกิดให้ลูกสาว ร่างบางจึงได้เลิกงานตอนบ่ายมงแล้วมานั่งแกร่วอยู่ตรงนี้

ไม่อยากรีบกลับบ้านเลย

อัณณ์ถอนหายใจอีกครั้ง การที่ไม่อยากรีบกลับบ้านเพราะกลับไปต้องเจอความเดียวดายจากการถูกวารินทร์นั่งเล่นเกมส์ติดพันจนเมินเฉยต่อเขาเหมือนในวันหยุด

มันสนุกขนาดนั้นเลยหรือ

เฝ้าครุ่นคิดถึงเจ้าเกมส์ไร้สาระที่พวกมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงโชคยังดีที่วารินทร์ไม่นิยมเกมส์เสมือนจริงไม่งั้นกลับไปคงได้เห็นอีกฝ่ายเอาแต่นอนเล่นเกมส์เหมือนคนตายเป้นแน่แท้

ควรจะผสมโรงเล่นด้วยดีไหมนะ

หากเล่นด้วยกันคงจะสามารถหาเรื่องพูดคุยแล้วสนุกสนานด้วยกันได้ แต่อัณณ์ไร้ทักษะในด้านนี้โดยสิ้นเชิง เกมส์ดังๆมากมายที่ถูกศิศิรายัดเยียดให้ก็ไม่เคยเล่นจนจบซักครั้ง เกมส์ออนไลน์ก็เลิกเล่นกลางคัน เพราะทุกวันนี้โลกใบนี้มันก็แฟนตาซีมากพออยู่แล้ว

ควรจะกลับบ้านไปดีหรือเปล่านะ

อัณณ์คิดว่ากลับไปเร็วก็ต้องไปนั่งเจียมตัวเพียงลำพัง ในตอนที่เอาแต่กังวลก็ถูกทักจากชายคนหนึ่ง

“อ้าววันนี้ก็มานั่งเครียดอีกแล้วหรือคุณหนู”
อัณณ์หันไปมองคนทัก ตรงหน้าชายไร้บ้านที่เขาเคยให้ของกินเป็นประจำในระยะนี้ยืนอยู่ เสื้อผ้าปอนๆกับหนวดเครารกครึ้มทำให้ใครๆก็ไม่อยากเข้าใกล้ แต่ร่างบางชินเสียแล้วเพราะหลายวันมานี้ทั้งให้ของกินทั้งพูดคุยกันบ้างเป็นครั้งคราว

“มีเรื่องไม่สบายใจหรือ”
อีกฝ่ายถือวิสาสะนั่งลงข้างๆอัณร์ลังเลที่จะปรึกษา แต่หลายสัปดาห์มานี้อัดอั้นใจมาก ด้วยไม่กล้าเอาไปปรึกษาศิศิราจึงเอ่ยปากบอกความในใจของตนให้คนไร้บ้านฟัง

“อ๋อหนูกังวลเรื่องที่เขาเปลี่ยนไป เพราะอาจจะเครียดเรื่องที่ต้องมาทนลำบากหรอกหรือ”
ร่างบางพยักหน้า ช่วงนี้กังวลจนถึงขั้นฝันร้ายว่าถูกวารินทร์ด่าทอเรื่งที่เขาเป็นต้นเหตุให้ถูกขับออกจากตระกูล ในฝันวารินทร์กลายเป็นคนเก็บตัวพุงพลุ้ยเอาแต่นั่งเล่นเกมส์ไปวันๆ ไม่มีมาดของผู้สืบทอดราชาแห่งบาปเหลืออยู่เลย ในฝันอัณร์ร้องไห้ไปพร้อมกับคุกเข่าขอโทษไม่หยุด

“หนูไม่ถามเขาล่ะ ว่าเขาคิดยังไงต้องการอะไร หนูเอาแต่คิดไปเอง แล้วปล่อยผ่านเรื่องมันจะสายเกินแก้นะ”

“ควรจะถามหรือครับ”
อัณณ์เริ่มไม่แน่ใจว่าถามออกไปมันจะดีจริงๆนะหรือ ร่างบาวกลัวว่าถามออกไปอาจจะกลายเป็นการแตกหักเสียมากกว่า

“ถามเขาเถอะอะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิดปล่อยไว้อย่างนี้หนูลำบากใจใช่ไหม”

ร่างบางก้มหน้าครุ่นคิด หากว่าต้องแตกหักเขาก็จะง้ออีกฝ่ายจนกว่าจะคืนดีกัน แต่ยังไงก็ไม่อยากให้คนรักต้องทำตัวตกต่ำต่อไป
ปวดใจ

 ถ้าเกิดถามออกไปแล้ววารินทร์อาจจะเบิกเลิกแล้วกลับไปอยู่กับครอบครัว แต่มันอาจจะดีก็ได้เพื่อให้สุดที่รักของเขากลับมาเป็นคนเดิม ทว่า เขาจะยอมเสียสละถึงขั้นนั้นได้จริงๆนะหรือ ถึงแม้จะลังเล กระนั้นก็ยังเลือกจะกลับไปเปิดอกคุยเนื่องจากคิดว่าเป้นหนทางที่ดีที่สุดในตอนนี้

แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านอัณณ์เห็นรถยนต์คันงามจอดอยู่ตรงหน้าหอพัก คิว่ามันแปลกๆจึงแอบหลบดูสถานะการณ์ด้วยการบินขึ้นไปบนต้นไม้สูงและลอบมองอยู่ใกล้ๆ

ท่านลูซิเฟอร์หรือเปล่านะ

ร่างบางเพ่งมองไปยังประตูห้องพักของตน ในตอนนั้นประตูก็เปิดออก วารินทร์เดินออกมาจากห้องในชุดสูทราคาแพงซึ่งไม่ได้เห็นมานาน อัณณ์ปิติยินดีที่คนรักกลับมาแต่งตัวแบบเดิมหลังจากเอาแต่ใส่เสื้อยืดลายการ์ตูนกับกางเกงยีนตัวซ้ำๆตั้งแต่มาอยู่ที่หอพักนี้

แต่คนที่ก้าวเท้าตามออกมาจากห้องนี่สิทำให้ความดีใจสะดุด ชายหนุ่มผมยาวซึ่งมีรูปลักษณ์งามสง่า ยิ่งมองดูยิ่งรู้สึกถึงความงามอันเลิศล้ำแบบที่อัณณ์ชักกังวล

ใครกันนะ

อัณณ์มองดูคนรักกับคนแปลกหน้าขึ้นรถไป ร่างบางตัดสินใจกางปีกบินตามไล่หลังรถคันที่ว่าไป เมื่อถึงจดหมายปลายทาง อัณณืมองดูคนทั้งคู่หายเข้าไปในโรงแรมระดับหกดาว
นานหลายชั่วโมงทีเดียวก่อนที่ทั้งคู่จะกลับออกมาโฑดยที่คนแปลกหน้าพาวารินทร์มาส่งที่หอพัก ร่างบางสับสนไปหมด เนื่องจากไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คนรักแต่งตัวหล่อเหล่าหายเข้าไปในโรงแรมกับคนรูปงาม

ไม่นะอย่าให้เป็นอย่างที่คิด

อัณณ์ตัดสินใจรอให้ถึงเวลาหนึ่งทุ่มก่อนจะพาตัวเองกลับเข้าหอพักที่มีวารินทร์รออยู่

“กลับมาแล้ว”

“กลับมาเร็วจัง”
วารินทน์ตอบรับทั้งที่ยังเล่นเกมส์ออนไลน์ติดพัน คนรักในยามนี้แต่งตัวด้วยเสื้อยืดลายการ์ตูนกางเกงยีนเหมือนปกติ อัณณ์คิดว่าช่างแต่งต่างกับเมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมาเสียนี่กระไร

คนรูปงามคนนั้นเป็นใครกันนะ

แล้วเข้าโรงแรงไปด้วยกันเพื่ออะไร
อยากจะถามไปตรงๆ แต่ก้กลัวจะรับความจริงไม่ได้ จึงได้แต่ถามคำถามอ้อมๆออกไป

“วันนี้ไปไหนมาบ้าง”
พยายามปั้นยิ้มให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อัณณ์รู้ดีว่าอาจจะลำบาก แต่ไม่อยากให้ตัวเองดูมีพิรุธ

“ก็ไปวื้อของปกตินะไม่มีอะไรนี่”

ซื้อของ
อัณณ์ทวนคำในหัวหลายครั้ง ร่างบางไม่เข้าสใจว่าไปซื้ออะไรในโรงแรงกับคนที่รูปงามถึงเพียงนั้น

โกรธ หึงหวง น้อยใจ ผิดหวัง

แต่ไม่กล้าจะระเบิดอารมณ์ออกมาเนื่องจากไม่ต้องการถูกคนรักทิ้งไปเหมือนกับสลัดผ้าขี้ริ้วเก่าๆทิ้ง ดัวนั้นจึงได้แต่ปั้นหน้ายิ้มทั้งที่อกตรมอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาหลายวัน

“หมู่นี้เธอกลับบ้านเร็วขึ้นนะ” วารินทร์ถามขึ้นขณะรับประทานอาหารเช้าร่วมกับอัณณ์

“ไม่ดีหรือ” อัณณ์ฉีกยิ้มเอาใจ

“ทำไมจะไม่ดีล่ะผมดีใจที่ได้อยู่ใกล้ชิดเธอมากขึ้นนะ”

อัณณ์ผงกหัวหงึกๆก่อนจะลอบตีหน้าสลด ที่ตนกลับบ้านเร็วขึ้นเพราะอยากจะกลับมาจับผิดวารินทร์ว่ายังแอบพบกับคนรูปงามคนนั้นหรือเปล่า แต่ถึงกลับมาเร็วก้พบกับวารินทร์นั่งเล่นเกมส์อยู่ทีบ้าน เพราะอย่างนั้นจึงเบาใจ คิดว่าอาจจะเป้นการนอกใจแค่ชั่วครั้งชั่วคราวของคนรัก

“เธอไม่ต้องล้างจากนะอัณณ์วันนี้ผมล้างให้”

คนรักเมื่อเก็บจานก้ตรงไปที่คอมพิวเตอร์เปิดเครื่องแล้วเข้าสู่โลกออนไลน์เหมือนทุกวัน ใจหนึ่งอยากจะว้ากออกไป แต่อีกใจก็ยินดีที่อีกฝ่ายอาสาช่วยงานบ้าน

“วารินทร์ฉันทำอาหารกลางวันไว้ให้แล้วอุ่นก่อนทานด้วยนะ”

คนรักผงกหัวโดยเอาแต่จ้องหน้าจอคอม หมู่นี้คนรักเอาแต่เล่นโวเชียลพูดคุยกับคนหลายคน

อยากรู้นักว่าคุยอะไรกับใคร

แต่ก็ยังมีความเกรงใจอยู่จึงได้แต่นิ่งเงียบให้วารินทร์ทำตามใจชอบโดยไม่คิดจะถาม

รู้สึกเหมือนกำลังห่างกันออกไป

ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์บนเตียงจะยังหวานชื่นแน่นแฟ้นกันดี คนรักไม่ได้แสดงท่าทางรำคาญที่เขาออดอ้อนขอทำรักแทบทุกวัน แต่ก้เหมือนมีกำแพงกั้นที่เรียกว่าสังคมออนไลน์เข้ามาเป็นตัวกลาง
บางครั้งก็เห็นวารินทร์เปิดตารางแปลกๆในเว็บขึ้นมาดูบางครั้งก็คุยกับคนในอินเตอร์เน็ตเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนจะมาร่วมรักกับเขาเป็นการชดเชย

อยากชะโงกหน้าไปดูที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ อยากจะถาม แต่ความกลัวมีมากกว่า หากถามออกไปแล้วเกิดแตกหักขึ้นมาล่ะ เขาจะทำอย่างไร

จะต้องสูญเสียยอดดวงใจไปหรือ ทุกวันนี้ถึงวารินทร์จะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปในทางร้าย แต่อัณณ์ไม่เคยโทษคนรัก เพราะเขาลากคนรักมาลำบากต่างหากเพราะฉะนั้นเขาจะอดทน ความรักต้องชนะทุกสิ่ง หากเขายึดมั่นในความรักแบบนี้ซักวันวารินทร์จะต้องเข้าใจและกลับมาเป็นคนเดิม

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ใกล้จะจบแล้วนะคะอีกไม่กี่ตอน

รู้สึกโล่งที่เข็นออกมาได้จนจบ

ตอนนี้กำลังมองหาพล๊อตเรื่องใหม่ๆอยู่ค่ะ

ใจจริงอยากจะเขียนอินคิวบัสอีกซักเรื่องนะนี่55555
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่19-20 p2 23/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 25-03-2016 14:16:12
สงสารอัณณ์อ่ะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่19-20 p2 23/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 25-03-2016 19:14:11
 ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่19-20 p2 23/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 25-03-2016 20:48:40
ร้องไห้แปป มาม่ามาอืดเลย แต่อีกไม่กี่ตอนก็จบเนอะ รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่19-20 p2 23/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 25-03-2016 21:10:36
วาริณอาจจะทำงานออนไลน์ก็ได้นะอัญญ์. อย่างเพิ่งคิดไปเอง :mew5:

อัญญ์อยากรู้อะไรก็ถามซิ เก็บเงียบไว้มันไม่ดีกับตัวเองน้า :hao5:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่19-20 p2 23/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 31-03-2016 21:39:20
ตอนที่21
“ยังไม่หายกลุ้มใจอีกหรือคุณหนู”
อัณณ์เงยหน้ามองดูแอสชายไร้บ้านซึ่งหมู่นี้สนิทสนมกับเขามากเป็นพิเศษ เนื่องจากอัณร์มักมานั่งกลุ้มใจอยู่ที่เดิมเป็นประจำ

“หนูกังวลว่าเขาจะนอกใจอย่างนั้นหรือ”
อัณณ์ยิ้มเจื่อนๆเมื่อแอสทำหน้าตกใจ แต่ในเมื่อเผลอเล่าไปแล้วก็ช่วยไม่ได้จึงได้แต่รอฟังว่าคนตรงหน้าคิดเห็นเป้นเช่นไร

“คุณหนูถามเขาแล้วหรือยัง หากหนูไม่อยากลำบากใจหนูก็ถามเขาออกไปตรงๆสิ”
ถูกแนะนำให้ไปถามตรงๆ อัณณ์นั่งคิดอยู่หลายนาทีเรื่องจะเริ่มต้นพูดกับวารินทร์ยังไงดีจนตัดสินใจได้ว่าจะทำอย่างไรก็กล่าวลากับแอสพร้อมกับให้ของกินอีกฝ่ายเหมือนทุกครั้ง

“รถคันนี้มัน”
อัณร์พึมพำ ดวงตาเขาเบิกกว้าง เขาจำรถยนต์คันงามคันนี้ได้ว่าเป็นของใคนมันเป็นรถที่ชายรูปงามใช้รับส่งวารินทร์ไม่ผิดแน่ๆ

“มาทำไมนะก็รู้อยู่ว่าเวลานี้เป็นเวลากลับบ้านของเรา”
หน้าซีดเผือดเมื่อสันนิษฐานได้แต่เรื่องร้ายเป็นต้นว่าวารินทร์อาจจะต้องการพาชู้รักมาเปิดตัวเพื่อบอกเลิกกับตน

ไม่นะ

อัณณ์ร่ำร้องภายในใจ มือข้างซ้ายกุมที่บริเวณหน้าอกซึ่งเจ็บแปลบ

จะเข้าไปดูให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้เลย

ผลุนผลันเปิดประตูเข้าไปในห้องพัก อัณณ์เห้นวารินทร์กำลังช่วยคนรูปงามถอดสูทตัวนอกออก ไม่รอช้าร่างบางเข้าไปกระชากคนรักให้ออกห่างจากชายชู้ด้วยความโกรธจัด

“ไปให้พ้นนะ วารินทร์เป็นของของฉัน”
ตะคอกออกไปอย่างกราดเกรี้ยว ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความมาดร้าย จนชายชู้มองมาด้วยความหวาดเสียวและตื่นตกใจ

“อัณณ์นี่มันอะไรกัน”
วารินทร์ใช้มือแตะลงบนบ่าของคนรัก แต่อัณณ์ปัดมือของเขาออก

“ฉันต่างหากที่อยากจะถามว่านี่มันอะไรกัน”
อัณณ์ถามวารินทร์เสียงเย็นน้ำตาแห่งความเสียใจพร่างพรูจากดวงตาที่ส่อแววปวดร้าว

“ถ้าเกิดว่าเสียใจที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลจนเกิดเบื่อหน่ายฉันทำไมไม่บอกกันตรงๆทำไมต้องทำร้ายกันลับหลังอย่างนี้ด้วย”

“เธอพูดอะไรของเธอ”
วารินทร์ถามเสียงอ่อนโยนแต่อัณณืยังไม่หยุดฟูมฟายและพร่ำพูดความในใจออกมายาวเหยียด

“ฉันก็เสียใจนะที่ทำให้นายต้องมาตกต่ำ จะมีชู้ก็คิดว่าน่าจะทนได้ แต่ทนไม่ได้แน่ๆถ้าจะให้ไอ้ชู้นี่มาพลอดรักกับนายในบ้านของเราเบื่อฉันแล้วอย่างนั้นหรือวารินทร์”

“ผมไม่เคยคิดเบื่อเธอเลยนะ” วารินทร์ตอบ

“แล้วนี่มัรอะไรกันล่ะจะอิบายสถานการณ์นี่ว่ายังไง”
วารินทร์ยื่นสูทตัวนอกซึ่งเป็นของชายชู้ให้อัณณ์ดูร่างบางรับไปอย่างงงๆ

“กาแฟมันหกรดเสื้อของอีสเลย์ ผมจะช่วยดูแลหุ้นส่วนทางธุรกิจของผมบ้างคงไม่น่าเกลียดเกินไปมั้ง”
อัณณ์คลี่สูทออกมาองดูรอยเปื้อนบนเสื้อ เมื่อพบว่ามีอย่จริงก็ตกใจ หากแต่ยังไม่ยอมแพ้และยังไม่เลิกคิดว่าอิสเลย์เป็นชู้

“แล้วคนคนนี้เป็นใคร หุ้นส่วนที่ไหนพากันเข้าโรงแรง”
นี่เธอแอบตามผมหรือ หากเธออยากรู้ทำไมไม่เปิดเครื่งติดตามที่เธอแอบติดไว้กับเครื่องประดับของผมฟังดูล่ะ ผมใส่มันอยู่ตลอด”
ร่างบางสะอึก จริงอยู่ว่ามีเครื่องติดตามอยู่จริง แต่อัณณ์ในเวลานั้นกลัวจนไม่กล้าที่จะฟัง ไม่อยากได้ยินเสียงพลอดรักของคนรักกับชายชู้ให้บาดหู

“นายรู้เรื่องเครื่องติดตามตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ผมรู้ตั้งนานแล้ว แล้วเธอคิดว่าอย่างไร ผมรู้แก่ใจดีแต่ยังปล่อยให้เธอแอบดักฟังผมอยู่ต่อไปจนถึงทุกวันนี้ เธอคิดว่าผมยอมเธอขนาดนี้ยังคิดจะนอกใจเธออีกหรือ”

“เรื่องนั้นมัน”
อัณณ์เหมือนน้ำท่วมปากเนื่องจากถูกไล่ต้อนด้วยความจริงแต่กระนั้นก้ยังไม่ปักใจเชื่อว่าทั้งคู่ไม่ได้มีอะไรกัน

“ฉันกับวารินทร์เราทำธุรกิจร่วมกันอยู่วันนี้แค่เอาเอกสารรายรับรายจ่ายมาให้ทั้น”
อีสเลย์ยื่นเอกสารบางส่วนให้อัณณ์ดู ร่างบางกวาดตามองดูเอกสารที่เป็นรายรับรายจ่ายของโรงแรมซึ่งคนทั้งคู่พากันหายเข้าไป

“ที่ว่าหุ้นส่วนนี่คืออะไรหรือ”

“วันที่เธอเห็นคงเป็นวันที่ผมไปเซ็นสัญญาซื้อหุ้นของโรงแรม”
ความคิดของอัณณ์แล่นฉิว เมื่อเข้าใจเรื่องดีแล้วใบหน้าสวยก็แดงก่ำด้วยความอับอาย

“ผมไม่ได้นอกใจเธอแต่กำลังติดต่อกับหุ้นส่วนทางธุรกิจ รู้สึกดีนะที่เธอเอาแต่พร่ำบอกว่าจะหาเลี้ยงผมแต่ให้นั่งอยู่เฉยๆมันไม่ใช่นิสัย เธอคงไม่รู้ว่าผมเป็นปีศาจที่ทะเยอะทะยานอยู่พอสมควร”

“ดีจริงๆที่เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้”
อัณณ์ปลื้มปิติจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ที่วารินทร์ยังคงเป็นคนเดิมโดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด

“เธอร้องไห้ทำไมอีกอัณณ์”
วารินทร์เคลื่อนกายเข้าหา พร้อมกับใช้มือเช็ดน้ำตาให้คนรักที่กำลังสะอื้นด้วยความตื้นตัน

“ก็มันดีใจที่วารินทร์ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม รู้ไหมว่าพฤติกรรมไม่เอาไหนของนายมันทำให้แนเสียใจ”

“แค่ผ่อนคลายเป็นครั้งคราวเองนะ อีกอย่างผมก้ทำตามความปรารถนาของเธอทุกประการ”
วารินทร์แสยะยิ้มร้าย อัณณ์ใช้กำปั้นทุบรัวไปบนบ่าของคนรักกดว้ยความแง่งอน

“ถ้าหากรู้ว่าจะทำตัวน่าเกลียดอย่างนี้ จะไม่ขอร้องแบบนั้นออกไปหรอก เลิกเลยนะเกมส์ออนไลน์อะไรนี่”“ว้า แย่จังถึงจะแกล้งทำแต่ผมคิดว่ามันสนุกใช่ได้นะ ช่วงที่ทำตัวเรื่อยเอื่อยเล่นเกมส์นี่”

“พอเถอะฉันขอร้อง”

วารินทร์หัวเราะร่วนกับท่าทางจะเป็นจะตายของอัณณ์ ระหว่างนั้นอีสเลย์ที่เหมือนเป็นส่วนเกินก้ขอตัวลากลับ

“ในเมื่ออธิบายจนภรรยานายเข้าใจแล้วก็สามารถไปทำงานเต็มเวลาได้แล้วสิ” อิสเลย์ยิ้มก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้องพัก

“ไม่มีปัญหาที่ผมจะไปทำงานใช่ไหมอัณณ์”
อัณณ์พยักหน้าตอบวารินทร์ ร่างบางเวลานี้ไม่อยากให้วารินทร์นอนเล่มเกมส์อีกต่อไป เรื่องนอกใจก็กลายเป็นเรื่องเข้าใจผิด ดังนั้นตอนนี้จึงมีแต่ความยินดีจนยิ้มกว้าง

“ในเมื่ออนุญาตแล้วก็ดีเลยยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องขอให้วารินทร์สะสางงั้นขอตัวก่อนนะ” พอก้างขวางคอไปร่างบางก็โผเข้าจูบวารินทร์แทบจะในทันที

“ขอโทษนะที่เข้าใจผิด ขอโทษนะที่มองนายในแง่ร้าย”
อัณณ์เอ่ยขอโทษด้วยท่าทางออดอ้อน

“ผมไม่ต้องการแค่คำพูดนะอัณณ์ แต่ต้องการการกระทำ”
อัณณ์อ้ำอึ้งไม่รู้ว่าการกระทำที่ว่าหมายถึงอะไร แต่หากเป็นเรื่องบนเตียงแล้วล่ะก็จะกี่ครั้งกี่หนอัณณ์ก้จะทำให้ ร่างบางล็อคประตูห้องก่อนจะค่อยๆเปลื้องผ้าออกทีละชิ้นจนเปลือยเปล่า

“ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าจะให้เธอขอโทษด้วยเรื่องบนเตียง”
วารินทร์กระตุกยิ้มร้ายให้คนรักที่เข้ามากอดจูบและเสียดสีร่างกายเข้าหาตน

“ก็ไม่รู้จะขอโทษด้วยวิธีไหนนี่”

“เข้าใจล่ะผมยอมรับคำขอโทษนี้ก็ได้”
อัณณ์ยิ้มกว้างจนแทบแก้มปริก่อนจะจูงมือคนรักไปที่เตียง

“เพราะเป้นคำขอโทษ ดังนั้นจะให้ทำเรื่องแบบไหนก้ได้สินะ”
วารินทร์ยิ้มขณะผลักร่างบางให้ล้มลงไปบนเตียงแล้วตามไปทาบทับ

“จนป่านนี้แล้วจะอะไรก้ได้ทั้งนั้น”
อัณณ์ใช้แขนโอบรอบคอของวารินทร์ แต่ขณะที่กำลังจะเสนอจูบวารินทร์ก้ผละไปเสียดื้อๆ ภาพชายคนรักทิ้งตัวเองไว้แล้วไปรื้อคุ้ยลังกระดาษอยู่ที่มุมห้องทำให้อัณร์รู้สึกหวาดระแวงอยู่นิดๆ

“เฮ้อถึงจะรู้ว่ามีโอกาสอีกเยอะแต่วันนี้เป็นวันพิเศษที่อัณณ์บอกว่าจะให้ทำอะไรก้ได้นี่นะ” วารินทร์ดูอารมณ์ดีเสียจนอัณณ์พูดปฏิเสธไม่ออก ตอนนี้ตงิดใจแบบแปลกๆจนบอกไม่ถูก

“ครับ” เผลอพูดสุภาพออกไปเหมือนเมื่อสมัยก่อนด้วยความกลัวเสียแล้ว เริ่มไม่เข้าใจทุกทีว่าวารินทร์ต้องการจะให้ตนทำอะไรกันแน่

“คิดมาตลอดว่าชุดนี้น่าจะเหมาะกับเธอที่สุดช่วยลองสวมดูทีสิ”
ที่คุ้ยมาจากลังกระดาษเป็นชุดกระโปรงสีขาวมีระบายคล้ายกับชุดเจ้าสาว เมื่ออัณณ์ไล่มองดูโปสเตอร์ที่แปะอยู่บนกำแพงร่างบางก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว

ชุดที่ว่านี้เป็นชุดประจำตัวของนักเวทย์สาวในเกมส์ออนไลน์ที่วารินทร์เคยเล่นฆ่าเวลายามว่าง ขณะที่ตะลึงไม่หายชุดประหลาดที่ว่าก็ถูกสวมมาบนร่างกายเสียแล้ว

“เอาล่ะรีบๆใส่ให้เรียบร้อยแล้วมาเริ่มกันเสียทีจะดีกว่านะ”
วารินทร์ยกยิ้มละมุนละไม หลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมงอัณณ์ก้ถูกทำรักไปพร้อมกับแต่งคอสเพลย์เลียนแบบตัวละครในเกมส์อีกหลายต่อหลายชุด มากมายจนอัณณ์เริ่มจะกลัวงานอดิเรกของคนรักขึ้นมาจับจิตจับใจ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

หายไปนาน ตอนนี้กำลังหาพล๊อตใหม่ๆอยู่ค่ะ

จบจากเรื่องนี้คงหายไปซักพัก

ขอเวลาคิดพล๊อตก่อนนะคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่21 p2 31/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 01-04-2016 17:45:26
อัญญ์นี่มันขี้โวยวายจริงๆ มันน่ามาจับตี่ก้น :z13:

ดีนะที่วารินทร์ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่และใจเย็นกว่าไม่งั่นชีวิตคู่แย่แน่ๆ :ling3:

คนเขียนสู้ๆน้า  :L2:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่21 p2 31/3/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 08-04-2016 21:30:13
ตอนที่22

“สรุปเรื่องราวก็จบลงด้วยดี”
อัณณ์พยักหน้าให้ศิศิราที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบนเก้าอี้ในร้านกาแฟ วันนี้เป็นวันหยุดงานของเขา จึงได้นัดเพื่อนสนิทมาพบปะเล่าเรื่องของตัวเอง

“เจ้าวารินทร์นี่มันน่านัก”
ศิศิราเข้นเคี้ยว ในขณะที่อัณณ์ยิ้มเจื่อน การที่เพื่อนของเขาคนนี้ไม่ชอบหน้าคนรักก็มีสาเหตุมาจากเขา เพราะเวลาเดือดร้อนหรือทุกข์ใจเกี่ยวกัยบคนรัก ร่างบางก็มักจะมาปรึกษาศิศิราอยู่เสมอ

“แล้วเจ้านั่นตอนนี้ทำธุรกิจอยู่สินะ”

“ใช่ดูเหมือนจะลงทุนซื้อหุ้นจำพวกโรงแรมกับโรงงาน ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจนักหรอก”

“ถ้าอย่างนั้นก็ย้ายที่อยู่แล้วจะดีกว่ามั้ง”

“อยากย้ายอยู่แต่วารินทร์เขา”
อัณณ์ตีหน้าสลด หลายอาทิตย์มานี้ร่างบางเกลี่ยกล่อมให้คนรักย้ายที่อยู่ใหม่ แต่กลับได้คำพูดยืนยันกลับมาว่าอีกฝ่ายจะรอให้เขาซื้อบ้านใหม่ตามคำสัญญาที่เขาเคยพูดเอาไว้

เหมือนกินยาขม อัณณ์ไม่รู้ว่าต้องทำงานบริการในร้านคาเฟ่อีกกี่ปีถึงจะมีเงินมาซื้อบ้านในฝัน ในตอนแรกก็ฮึกเหิมหนักตั้งใจว่าจะซื้อคฤหาสน์ แต่ตอนนี้ลดความต้องการลงมาเป็นทาวเฮ้าส์เพราะร่างบาวคิดว่าน่าจะซื้อมาครอบครองได้ไวที่สุด

“ร้ายกาจมาก นี่มันแกล้งนายอยู่ชัดๆ”
ศิศิราบ่นอุบหลังจากฟังความจริงจากอัณณ์

“ย้ายกลับไปอยู่บ้ายพ่อแม่สิประท้วงที่หมอนั่นไม่ยอมซื้อบ้านดีดีอยู่”

“ไม่ได้หรอกพ่อกับแม่ยิ่งพยายามให้ฉันเลิกกับวารินทร์อยู่”
อัณณ์คิดถึงพ่อแม่ที่หมู่นี้แอบมาดักพบเพื่อเกลี่ยกล่อมเขาให้กลับบ้าน หมู่นี้ชักหนักข้อขึ้นถึงขั้นโทรไปราวีคนรักโดยตรง

“อย่างนั้นมาที่บ้านฉันไหม อยู่บ้านฉันซักเดือน ถ้ารักกันจริงเจ้าวารินทร์ต้องทุรนทุรายบ้างล่ะ”

“ไม่ดีกว่า ถ้าทำอย่างนั้นไม่ได้หมายความว่าเปิดโอกาสให้วารินทร์พาคนอื่นเข้าบ้านหรอกหรือ”

“โธ่ ไอ้นั้นก็ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่ดี นายนี่ทำให้ฉันหงุดหงิดไปกันใหญ่ ถ้าอย่างนั้นอย่ามาบ่นเรื่องหอพักอีกก็แล้วกัน”
อัณณ์ย่นคอเมื่อถูกเพื่อนโวยวายยกใหญ่ รู้ว่าตนเองเรื่องมาก แต่ไม่ต้องการจะแยกจากวารินทร์แม้แต่วินาทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการประชดประชัน

“แล้วนี่จะกลับมาเรียนเมื่อไหร่”

“เทอมหน้า”

“โอเคฉันจะรอนะ พอไม่มีนายอยู่มันเหงาเป็นบ้าเลยอัณณ์”

“ฉันก็เหมือนกัน”

“แน่ใจหรือไม่ใช่ว่ามีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดเจ้าวารินทร์หรอกหรือ”

“นั่นก้ด้วย”
อัณณ์ยิ้มแก้มปริให้ศิศิราที่ทำหน้าเหนื่อยหนาย หลังจากแยกกันอัณณ์แวะซูเปอร์มาเก็ตก่อนจะไปพบปะแบ่งอาหารให้แอสที่สวนสาธารนะอย่างเคย

“ขอบคุณคุณหนูนะที่แบ่งอาหารให้ฉันประจำ”
แอสขอบคุณขณะทานอาหารกล่อง

“ไม่เป็นไรครับตอบแทนที่เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาปรึกษาประจำ”
อัณณ์ยิ้มก่อนจะสลดลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงความเป็นอยู่ของชายยากไร้ที่อายุอานามไม่น่าจะต่ำกว่าหกสิบปีคนนี้

“ไม่มีลูกหลานเลยหรือครับ”

“ฉันมีลูกชายกับหลานชยและหลานสาว นี่ได้ข่าวว่าหลานชายคนเล็กถูกไล่ออกจากบ้านเลยหยุดพักจากการท่องเที่ยวมาคอยแอบดูเขานะ”

ท่องเที่ยว

อัณณ์ทำหน้าปุเลี่ยนๆ หากคำว่าท่องเที่ยวใกล้เคียงกับคำว่าเร่ร่อนอัณณ์ก็พอเข้าใจได้อยู่

“ในเมื่อมีลูกหลานทำไมไม่ไปอยู่กับพวกเขาล่ะครับ”

“ฉันมันเป็นพวกขี้เบื่อนะ อีกอย่างนี่ก็เที่ยวจนพอแล้วเหมือนกัน ก็ตั้งใจว่าจะมาดูหน้าหลานแล้วช่วยเขาซัหน่อย”
คนฟะงส่ายหน้ายิ้มๆ อัณณ์ไม่อยากทำร้ายจิตใจ แต่ดูจากสภาพแอสมากกว่าที่น่าจะได้รับการช่วยเหลือ

“จริงๆนะครับไปพบหน้าแล้วให้ลูกกับหลานดูแลจะดีกว่าหรือว่าจริงๆแล้วทะเลาะอะไรกับพวกเขาอยู่”

“นี่ก็ว่าจะกลับบ้านแล้วแต่ต้องเคลียเรื่องหลานคนเล็กให้ได้เสียก่อน”

“จะทำอะไรก็รีบเถอะครับ อย่างนั้นผมไปก่อนนะครับ”
อัณณ์ขอตัวเมื่อเวลาล่วงมาสงควร จากนั้นก็เดินเท้าไปจนถึงหอพักเขาได้ยินเสียงเอะอะมะเทิ่งดังมาเป็นรอก ในระยะสายตาอัณณ์เห้นวารินทร์กำลังจัดการกับคนชุดดำสามคนที่เข้ามายื้อยุด

“ให้มันน้อยๆหน่อยวารินทร์
ดานิกาตวาด อัณณ์หลบหลังกำแพงแอบดูท่าที

“แม่ไม่รู้ว่าลูกจะทำตัวเหลวไหลแบบนี้ไปผจนถึงเมื่อไหร่ หรือว่าลูกไม่พอใจเรื่องคานอนเลยประชดแม่หืม แม่กับพ่อต่อว่าคานอนให้ลูกแล้วนะเขาจะไม่ทำแบบนั้นอีก”

“มันไม่ใช่หรอกครับท่านแม่ ผมบอกไปแล้วว่าผมไม่อยากเป็นราชาแห่งบาป แล้วผมก็เต็มใจจะอยู่กับอัณณ์ที่นี่”

“แกยังไม่สำนึกอีกหรืองวารินทร์ แกต้องตกอับถึงเพียงนี้เพราะเจ้าปีศาจฝันนั่น มันทำสน่ห์แกหรือยังไง ดูสิรูหนูโสโครกนี่แกอยู่ไปได้ยังไง ถ้าหากไม่กลับฉันจะไล่บี้แกกับอัณณ์ทุกวิธีทาง อัณณ์มันทำงานที่ไหนฉันจะไปราวีมันทุกที่”
คาโรลพูดรัวเร็วด้วยความโกรธ แต่อัณณ์ยังไม่กลัวเท่ากับลูซิเฟอร์ที่ยืนอยู่ด้านหลังของดานิกาและคาโรล

“ไล่บี้อะไรกันครับยังไม่รู้ตัวอีกหรือ ว่าธุรกิจของท่านพ่อท่านแม่ได้กลายมาเป็นของผมเกินครึ่งแล้ว” วารินทร์ยิ้ม

“แกพูดอะไรของแก” คาโรลเริ่มจะงงแต่พอเข้าใจความหมายด้วยตัวเองเขาก้เริ่มมีสีหน้าดุดันขึ้นเรื่อยๆ

“ท่านพ่อคงยังไม่ลืมนักลงทุนที่ชื่อแอสลีย์กับเวอจิลที่กว้านซื้อหุ้นของท่านพ่อกับท่านแม่ใช่ไหมครับนั่นน่ะเป็นผมกับเพื่อนเอง”
แทบจะในทันทีคาโรลปล่อยกระแสไฟฟ้านับล้านโวลต์โจมตีใส่วารินทร์ อัณณ์สะดุ้งตกใจในความกราดเกร้ยวของนายท่าน แต่ยังโล่งใจอย่างมากที่วารินทร์ยังคงยืนเฉยได้อยู่

“แกไม่เป้นอะไรเลยหรือวารินทร์”
คาโรลและดานิกาแทบไม่เชื่อสายตาทั้งคู่มองดูวารินทร์ราวกับมองดูตัวประหลาด

“อย่าสร้างความลำบากให้ผมเลยท่านพ่อท่านแม่ ตอนนี้คงรู้แล้วสิว่าไม่สามารถทำอะไรผมได้ไม่ว่าจะทางด้านการเงินหรือพละกำลัง”
ดานิกาแทบกรี๊ด เธอร้องไห้โฮ คาโรลเองก้ทำอะไรไม่ได้จึงได้แต่ยืนเค้นเขี้ยวแล้วหันกลับไปขอความช่วยเหลือจากลูซิเฟอร์

“ดูสิครับท่านลูซิเฟอร์ ลูกชายของผมมันเหิมเริมขนาดนี้ ผมไม่มีความสามารถจะสั่งสอนได้โปรดช่วยจัดการทีเถอะครับ”

“ท่านลูซิเฟอร์ช่วยทีเถอะค่ะ”
ดานิกาฟูมฟายช่วยกันร้องขอให้ลูซิเฟอร์ช่วยออกหน้า

“รู้ตัวไหมว่ากำลังทำผิดอยู่”
ลูซิเฟอร์ตั้งคำถามกับวารินทร์

“ไม่เลยครับผมแค่ทำธุรกิจเพื่อความอยู่รอด ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ท่านพ่อท่านแม่ไร้ความสามารถเองการที่ไม่สามารถคงอำนาจไว้ได้ไม่ใช่ความผิดของผม”

“เรื่องนั้นฉันเห้นด้วย แต่ที่ไม่พอใจคือการที่เธอไม่ยอมแต่งงานกับลูกชายของฉัน เธอจะอธิบายยังไงกับการขัดคำสั่งของฉันกัน”

“เรื่องความรักไม่ใช่เรื่องที่จะมาบังคับกันง่ายๆท่านเองก็น่าจะเข้าใจ”

“ฉันบอกไปแล้วนี่ว่าจะให้อัณณ์เป็นอนุภรรยาของเธอเธอไม่พอใจตรงไหน”
ลูซิเฟอร์ทำท่าทางรำคาญ อัณณ์เข้าใจว่ามหาปีศาจกำลังจะหมดความอดทน

“ผมจะไม่ให้อัณณ์ต้องเป็นที่สองผมรักอัณณ์แค่คนเดียวและรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร”

“ต้องให้ลงไม้ลงมือใช่ไหม”
ลูซิเฟอร์ที่อารมณ์คุกรุ่นเอ่ยถาม กระแสไฟฟ้าบางๆแล่นเปรี๊ยะในอากาศ อัณณ์เห็นแล้ววิตกหนักจนพุ่งเข้าไปขวางกลางระหว่างวารินทร์กับลูซิเฟอร์ด้วยความเร็ว

“มาก็ดีเลยเจ้าตัวปัญหา”ลูซิเฟอร์วาดฝ่ามือทรงพลังเข้าใส่อัณณ์ร่างบางหลับตาปี๋เตรียมรับความเจ็บปวดเพราะหลบไม่ทัน ทว่าเมื่อความเจ็บปวดไม่มาถึงจึงค่อยๆลืมตามอง

“อย่าได้คิดทำร้ายคนรักของผม”
อัณณ์มองดูวารินทร์ใช้แขนปัดฝ่ามือของลูซิเฟอร์ออกไป มหาปีศาจโกรธจนตัวสั่นกับการขัดขวางและขัดใจของวารินทร์ในครั้งนี้

“ดีอย่างนั้นก็มารับการสั่งสอนของฉันด้วยตัวเองแล้วกัน”
พริบตานั้นร่างของอัณณ์ก็ถูกปกคลุมด้วยอาณาเขตคุ้มกัน ร่างบางทำได้แต่มองดูวารินทร์และลูซิเฟอร์ปะมือกันอย่างดุเดือด

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 08-04-2016 21:38:28
ตอนที่23

เสียงผัวะผะเปรี้ยงปร้างดังอย่างต่อเนื่อง อัณณ์ไม่สามารถออกจากเขตคุ้มกันได้จึงทำได้แต่มองดูสถานะการอย่างกระวนกระวาย
ยิ่งการต่อสู้ดำเนินไปร่างบางก็ยิ่งฮึกเหิม จากเหตุการณ์ฝีมือของคนรักกับมหาปีศาจก้ำกึ่งกันจนไม่มีใครเกินหน้าใคร

“ไม่น่าเป็นไปได้”
คาโรลอุทานเสียงดัง อัณณ์เข้าใจดีแม้แต่ตัวเองก็ยังตกใจไม่น้อยนความเก่งกาจของคนรัก

“ดูสิคะคุณลูกชายของเรา”
ดานิกาตื่นเต้นกับความเก่งของลูกชาย ทว่าคาโรลกลับตำหนิเธอ แน่นอนอัณณ์ก็เห็นด้วยกับคำปรามของคาโรล หากความตื่นเต้นยินดีสะกิดเอาความโกรธของลูซิเฟอร์ให้เพิ่มขึ้นไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะพลิกผันไปเช่นไร

“ไม่เบานี่”
ลูซิเฟอร์เอ่ยชมวารินทร์ที่ต้านทานเวทย์มนต์สายฟ้าของตนได้

“คงกำลังลำพองใจอยู่สินะวารินทร์”

“เปล่าเลยครับ” วารินทร์หลบลูกบอลพลังสีดำที่ลูซิเฟอร์ปล่อยออกมาถี่ยิบ

“แค่คิดว่าฝีมือของผู้นำปีศาจไม่น่าจะมีแค่นี้”

“ก็ไม่ได้มีแค่นี้นะสิ”
รอยยิ้มสนุกสนานผุดบนใบหน้าของลูซิเฟอร์ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นฝันร้ายของอัณณ์ มหาปีศาจแยกร่างออกมาเป็นร้อยร่าง แต่ละร่างมีดาบที่มีกลิ่นไอบริสุทธ์ถือครองอยู่ในมือ

“ดาบนี่ถูกสร้างจากธาตุแสงปีศาจอย่างเจ้าถ้าโดนฟันคงทุกข์ทรมานน่าดู”
สิ้นคำพูดลูซิเฟอร์ ร่างแยกทั้งร้อยร่างก้ใช้ดาบเข้าโจมตีวารินทร์พร้อมกัน อัณณ์เอาใจช่วยคนรักที่ต่อสู้ปัดป้อง กระนั้นก็ยังได้แผลจากดาบนับร้อยของลูซิเฟอร์อยุ่ดี

“เอ้ามันต้องเร็วกว่านี้นะถึงจะหลบพ้น”
ลูซิเฟอร์หัวเราะร่า ดูเหมือนกำลังสนุกสนานที่ได้สร้างบาดแผลนับไม่ถ้วนให้วารินทร์ได้ ในตอนนั้นสายฟ้าสีน้ำเงินจำนวนมากก็โจมตีเข้าที่ร่างแยกของลูซิเฟอร์ทั้งหมดไม่ต้องบอกก้รู้ว่าเป็นฝีมือของวารินทร์

แต่ถึงแม้สายฟ้าอันรุนแรงจะเข้าเป้าแต่ก็ไม่โดนทั้งหมด ร่างแยกทั้งสี่ร่างที่ไม่ได้โดนสายฟ้าแล้วหายไปเหมือนกับร่างอื่นรวมทั้งร่างจริงของลูซิเฟอร์พุ่งเข้าหาแล้วใช้ดาบหมายจะแทงร่างของวารินทร์พร้อมๆกัน

“วารินทร์”

อัณณ์กรี๊ดร้องไม่เป้นภาษา หากวารินทร์ถูกแทงด้วยดาบธาตุแสงรับรองว่าต้องบาดเจ็บหนักจนถึงขั้นเสียชีวิต แค่บาดแผลถูกฟันยังทนมองไม่ได้ หากต้องเห็นวารินทร์ถูกแทงตายตรงหน้าจะทนไหวได้อย่างไร เขาเครียดจนถึงกับอาละวาดอยู่ในอาณาเขตคุ้มกัน

แต่แล้วเหตุการณ์อันไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น  ลมหมุนรุนแรงที่เกิดขึ้นรอบตัววารินทร์กระทบเอาดาบที่ทำจากธาตุแสงหักสะบั้นคามือร่างแยกและร่างจริงของลูซิเฟอร์

“ใคร”
ลูซิเฟอร์ถามเสียงกร้าว วารินทร์และมหาปีศาจตวัดมองไปตามเสียนงหัวเราะสนุกสนานที่ดังขึ้นในระยะใกล้

“แอส”
อัณณ์กระพริบตาปริบๆ เมื่อชายแก่ในชุดซอมซ่อปรากฏตัวอย่างน่าสงสัย ร่างบางไม่แน่ใจว่าลมหมุนเมื่อครู่เกิดจากแอสจริงหรือ แล้วถ้าจริงแอสยื่นมือเข้ามายุ่งเพราะเหตุใด

“โผล่หัวออกมาได้แล้วอย่านั้นหรือแอสโมดิอุส”
ลูซิเฟอร์ที่ยืนคุมเชิงวารินทร์อยู่เอ่ยถาม เมื่อเอ่ยถึงชื่อราชาแห่งบาปราคะขึ้นมาทุกคนในที่นั้นก็เพ่งมองไปยังชายเจ้าของร่างซอมซ่อ

“รู้ไหมว่าการหายตัวไปของแกสร้างความเดือดร้อนให้ราชาตนอื่นมากแค่ไหน”

“ข้าก็กลับมาแล้วไง”
แอสหรือแอสโมดิอุสยิ้มกว้าง แต่โทสะที่มีต่อวารินทร์ยังไม่จางหายไป

“ดีจะได้มาดูฉันสั่งสอนหลานไม่รักดีของแกไปด้วยเลย”
ลูซิเฟอร์เงื้อฝ่ามือแห่งแสงตวัดเข้าใส่วารินท์ซึ่งเจ็บจนขยับตัวได้ยาก หากแต่พริบตานั้นแอสโมดิอุสก็หายวับแล้วมาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหลังพร้อมกับใช้มือคว้าจับข้อมือของลูซิเฟอร์เอาไว้เสียก่อน

“ทำอะไร”

“แค่รักษาชื่อเสียงอันดีงามให้กับเจ้า” แอสโมดิอุสยิ้มหวาน

“หมายความว่าอย่างไร”

“แต่เดิมทีเจ้าต้องการให้วารินทร์เป็นราชาแห่งบาปแทนข้าเพราะงั้นจึงอยากให้แต่งงานกับบุตรชายของตัวเองเพื่อช่วยให้ตำแหน่งของเขาไม่สั่นคลอนสินะ แต่ในเมื่อข้ากลับมาแล้วก็ไม่มีเหตุผลต้องทำเช่นนั้น การที่เจ้าจะเอาเรื่องเล็กน้อยตัดสินคร่าชีวิตหลานชายของราชาแห่งบาปไม่คิดว่าทำเกินไปหรือ แถมยังต่อหน้าข้าผู้เป็นปู่ ไม่คิดว่าจะทำให้หมู่ปีศาจกระด้างกระเดื่องและมองเจ้าในแง่ลบหรือ”

“ก็ช่างมันปะไร”
ลูซิเฟอร์ไม่ยี่หระต่อคทัดทาน ร่างโปรงยังยืนยันจะเล่นงานวารินทร์ให้ได้

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะคุกเข่าขอร้อง”
แอสโมดิอุสเปลี่ยนร่างจากชายแก่ซอมซ่อเป็นหนุ่มรูปงาม ใบหน้าของราชาแห่งราคะเหมือนกับวารินทร์ราวกับเป็นคู่แฝด

“เจ้าเอาจริงเรอะ”
ลูซิเฟอร์ทวนคำอย่างไม่เชื่อหู แทนคำตอบแอสโมดิอุสย่อกายคุเข่าแล้วจุมพิตลงบนหลังมือของมหาปีศาจโดยไม่ต้องถามซ้ำ

“ไม่น่าเชื่อปีศาจที่เหย่อหยิงจองหองอย่างเจ้าจะคุกเข่าให้ข้า”
ลูซิเฟอร์เบิกตากว้าง อัณณ์และทุกคนในที่นั้นยังไม่เข้าใจ ว่าการคุกเข่าจะหยุดอารมณ์เกรียวกราดของมหาปีศาจได้อย่างไร แต่เหมือนว่าจะได้ผลลูซิเฟอร์หัวเราะชอบอกชอบใจ

“เออแน่ะ ปีศาจที่ไม่ยอมคุกเข่าให้ผู้ใดอย่างแกในที่สุดก็ยอมเสียศักดิ์ศรีให้กับฉัน ถ้ายอมทำถึงขนาดนี้จะยอมให้อภัยในความโง่เขลาของเจ้าวารินทร์ก็ได้ หากแต่ถ้าแกหายตัวไปไม่บอกกล่าวอีกวารินทร์มันจะต้องทำตามเงื่อนไขของฉันทุกอย่าง หากทำผิดอีกมันมีโทษสถานเดียวคือตาย ปีศาจรักอิสระอย่างแกจะยอมสละความสุขเพื่อหลานที่ไม่เคยเลี้ยงดูได้เชียวหรือ”

“ข้าเองก็ท่องเที่ยวจนพอใจแล้วอยากจะอยู่กับลูกกับหลานบ้างคอยดูหน้าเหลนก้ไม่เห็นเสียหายตรงไหนนี่”
แอสโมดิอุสหัวเราะ ลูซิเฟอร์เลิกคิ้วอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก แต่ก็ผละจากไปทิ้งให้ดานิกากับคาโรลที่มึนงงไม่หายยืนแข็งค้างอยู่ตรงนั้น

“ไม่เป็นไรนะวารินทร์”

แอสโมดิอุสมองดูวารินทร์ที่กำลังรักษาแผล แต่เนื่องจากบาดแผลเกิดจากดาบธาตุแสงจึงไม่สามารถฟื้นตัวได้โดยง่าย ในขณะนั้นอัณณ์ที่ถูกกักอยู่ในอาณาเขตคุ้มกันร้องเรียกให้วารินทร์ปลดอาณาเขตออก ทันที่ที่อาณาเขตถูกปลดร่างบางก็พุ่งเข้าไปหาคนรัก

หลังจากนั้นวารินทร์ก็เข้าไปรักาตัวอยู่ในโรงพยาบาลถึงสามวัน ระหว่างนั้นนายท่านกับนายหญิงไม่ติดต่อมาแต่อย่างใด อัณณ์โล่งใจที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับพ่อแม่ของคนรัก แต่การที่แอสโมดิอุสก็ไม่มาเยี่ยมด้วยหรือส่งข่าวมาทำให้เขาไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไหร่

“เธอกำลังกลุ้มใจเรื่องอะไรหรืออัณณ์”
วารินทร์ถามคนที่นั่งปอกแอ๊ปเปิ้ล อัณณ์เมื่อถูกทักก็ส่งยิ้มหวานกลบเกลื่อน

“อย่าโกหกเธอไม่สบายใจอยู่ผมรู้ดี บอกมาเดี๋ยวนี้”
อัณณ์บอกเรื่องที่ไม่สบายใจออกไปจนหมด ร่างบางกังวลใจเรื่องที่จะถูกจับแยกกันอีกเนื่องถึงไม่ต้องแต่งงานกับยูลิแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่านายท่านนายหญิงจะไม่หาคู่ครองอื่นมาให้

“อย่ากังวลไปผมไม่สนใจใครอื่นนอกจากเธอ”

ถึงจะได้รับคำยืนยันจากปากคนรักแต่อัณณ์ก็ยังยิ้มเศร้าๆ ไม่รู้ว่าต้องฝันฝ่าอุปสรรคอีกเท่าไหร่ อนาคตที่วาดฝันไว้จะมาถึง ร่างบางอยากจะเป็นรักแท้เพียงหนึ่งเดียวของวารินทร์ตลอดไปก็ได้สมหวังแล้ว เหลือแต่การครอบครองเพียงผู้เดียวตลอดไปที่ยังไม่แน่ใจว่าได้มาแล้วหรือยัง จังหวะนั้นได้ยินเสียงเคาะประตูตรงหน้าห้องตามด้วยเสียงขออนุญาตจากแอสโมดิอุส อัณณ์รีบเชิญอีกฝ่ายเข้ามา

“เป็นอย่างไรบ้าง”
แอสโมดิอุสยิ้มกริ่มเดินนำคาโรลกับดานิกาเข้ามาในห้อง อัณณ์ตื่นตัวจนแข็งเกร็งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับทั้งสองคนโดยไม่ได้เตรียมใจ

“อาการดีขึ้นมากแล้วครับพรุ่งนี้คงจะออกจากโรงพยาบาลได้” วารินทร์ตอบคำถามของแอสโมดิอุส

“แล้วจะเอาอย่างไรต่อ หลังจากนี้จะกลับเข้าตระกูลใหมพ่อแม่หลานให้อภัยแล้วนะ”

“ถ้าท่านพ่อท่านแม่เมตตา แต่ถ้ามีข้อแม้ที่เกี่ยวกับอัณร์ผมจะไม่กลับไป”

“อ้อเรื่องนั้นไม่มีปัญหาใช่ไหมคาโรลดานิกา”
แอสโมดิอุสหันไปถามบุตรชายกับลูกสะใภ้ที่ยิ้มเจื่อนส่งมา อัณณ์ไม่รู้ว่าแอสโมดิอุสไปเกลี่ยกล่อมยังไง แต่เริ่มจะยิ้มด้วยความดีใจ

“วารินทร์ก็โตแล้วยังไงเขาก็มีสิทธิ์ตัดสินใจเอง” คาโรลกระอ้อมกระแอ้ม

“เราเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไรอัณณ์ แต่แรกตระกูลพริมโรสก้เป็นตระกูลที่มีหน้ามีตานับว่าไม่มีข้อเสียให้ลำบากใจ”
วารินทร์เลิกคิ้วให้กับคำพูดเสริมของดานิกา เมื่ออัณณ์เข้าใจว่าไม่ได้เป็นที่รังเกียจเขาก็ดีใจอย่างบอกไม่ถูก

“ฝากดูแลลูกชายเราด้วยนะ”
คาโรลพูดกับอัณณ์ถึงจะตะขิดตะขวงใจจนเห็นได้ชัดแต่อัณณ์ก็ไม่ถือสา

“หวังว่าเธอคงไม่ทำให้เราผิดหวังนะ”
ดานิกากำชับด้วยใบหน้าขึงขัง อัณณ์ก้มคำนับถี่รัวพูดพร่ำแต่คำยืนยันเช่นว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังหลายครั้งจนคาโรลกับดานิกาต้องห้ามให้พอได้แล้ว ร่างบางจึงหยุดสะแดงความจริงใจ

“ในเมื่อเคลียกันเรียบร้อยแล้วทางนี้ก็อยากจัดงานแต่งงานให้พวกเธอคิดว่าอย่างไร”
ดานิกาเอ่ยอย่างกะทันหัน อัณร์ตกใจเล็กน้อยที่นายหญิงเป็นคนเสนอขึ้นมา

“ไม่ดีกว่าครับสิ้นเปลืองเปล่าๆ ถึงไม่จัดงานทุกวันนี้เราก็อยู่กันแบบสามีภรรยาอยู่แล้ว”
วารินทร์ปฏิเสธ ในขณะที่อัณณ์นึกเสียดาย งานแต่งงานสำหรับอัณณ์เป้นเสมือนการป่าวประกาศให้ใครๆรู้ทั่วกันว่าวารินทร์เป็นของเขา แต่ถ้าคนรักไม่ต้องการร่างบางก็ไม่ใส่ใจ

“ก็ตามใจแก”
คาโรลทำท่าฮึดฮัด อัณณ์เข้าใจว่านายท่านคงจะไม่พอใจ สำหรับนายท่านที่ถือหน้าถือตาเป็นสำคัญการไม่จัดงานให้เรียบร้อยคงไม่พอใจน่าดู

“แล้วเริ่องทายาทล่ะ จะมีเมื่อไหร่ถึงอัณณ์เป็นอินคิวบัสแต่เราก็มีวิธีทำให้มีทายาทได้นี่ก็เป็นเรื่องสำคัญนะ”
ดานิกาถามความเห็น อัณณ์หันไปมองดูคนรักซึ่งทำหน้านิ่งๆ ไม่รู้อีกฝ่ายคิดอะไรอยู่แต่เดิมร่างบางอยากมีลูกเพื่อผูกมัดวารินทร์เอาไว้ ตอนนี้ก็ยังอยากมีอยู่ แต่ไม่รุนแรงมากเท่าเก่า เพราะเขาได้วารินทร์มาครอบครองโดยสมบูรณ์แล้ว

“เธออยากมีลูกกับผมหรืออัณณ์”
พอถูกถามอย่างกระทันหันอัณณ์ก็นิ่งอึ้ง เขาอยากมี เหตุผลก็ง่ายๆ ร่างบางอยากให้ครอบครัวของเขากับวารินทร์สมบูรณ์เหมือนกับครอบครัวของปู่กับย่า

“อยากอยู่หรอก แต่ถ้าวารินทร์ไม่ต้องการแล้วล่ะก็” อัณณ์อึกอัก

“ใช่ผมไม่ต้องการ”
ร่างบางตะลึงกับคำยืนยันแทบจะในทันทีของวารินทร์ ถึงจะรู้สึกน้อยใจหรือขัดใจอย่างมากแต่ก็รอฟังเหตุผลของคนรัก

“ทั้งหมดฟังผมให้ดีนะ ผมเป็นปีศาจใจแคบที่ไม่ต้องการแบ่งความรักของอัณณ์ให้ใครแม้แต่ลูกของผมเอง ถ้าอัณณ์แสดงออกว่าแบ่งปันความรักไปให้ต่อให้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขผมก็ไม่พอใจเช่นกัน”

พูดจบก็จุมพิตลงบนริมฝีปากของอัณณ์แผ่วเบา รอยจูบหวานๆทำเอาอัณร์วาบหวามและคิดขึ้นได้ ถึงไม่มีลูกพวกเขาก็ยังเป็นคู่รักที่รักใคร่กลมเกลียวกันดี

“สรุปเอาตามนี้ละนะ”
แอสโมดิอุสตบบ่าคาโรลที่ทำหน้าปุเลี่ยนๆ ดานิกาเองก็อ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออกกับความเอาแต่ใจของบุตรชายคนโปรด

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่รบกวนแล้วละนะ อยู่กันให้สบายล่ะ”
แอสโมดิอุสกล่าวลาก่อนจะนำพาบุตรชายและบุตรสะใภ้ตามออกไปด้วยทิ้งให้อัณณืกับวารินทร์อยู่ตามลำพังกันอีกครั้ง

“เธอเสียใจหรือผิดหวังหรือเปล่าที่จะไม่ได้มีลูกกับผม”

“กลัวว่าฉันจะใส่ใจลูกมากกว่าตัวเองอย่างนั้นหรือ” อัณณ์ถาม

“กลัวมากเลยล่ะ เธอไม่รู้หรือทุกวันนี้ทั้งสายตาคำพูดการกระทำของเธอซึ่งเต็มไปด้วความรักมันทำให้ผมเสพติด และผมต้องการมันไปเรื่อยๆ ผมคงจะทนไม่ได้ถ้ามันจะน้อยลงหรือถูกแบ่งไปให้ใครอื่น ผมรักเธอนะอัณณ์ มอบทุกสิ่งทุกอย่างของเธอให้ผมเถอะ แล้วผมจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างของผมให้เธอเช่นกัน”

“จริงหรือ”
ร่างบางลังเล อัณณ์เคยฝันนับครั้งไม่ถ้วนถึงวันนี้มาเกิดขึ้นจริงๆก็แทบจะโห่ร้องด้วยความยินดีหากแต่ยังไม่แน่ใจอยู่

“ผมรู้ว่าคำสาบานมันไม่จีรังยั่งยืนและกลับคำได้ง่าย แต่ผมจะขอสาบานด้วยหัวใจของผม ผมจะไม่มีวันรักใครมากกว่าเธอ ทุกสิ่งทุกอย่างของผมมอบให้เธอทั้งหมด”

อัณณ์โผเข้าไปจุมพิตไปทั่วใบหน้าของวารินทร์แทบจะในทันทีที่คนรักจบประโยค ร่างบางปลาบปลื้มดีใจจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ได้แต่จุมพิตนับครั้งไม่ถ้วน อัณณ์และวารินทร์แลกจูบกันเนินนานแทนคำสาบานว่าจะรักกันตราบชั่วนิจนิรันด์

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

จบแล้วค่ะ

ใช้เวลานานมากกับการแต่งเรื่องนี้ต้องยอมรับว่ากว่าจะเข็นให้จบได้ก็เหนื่อยเหมือนกัน :hao3:

พอจบจากเรื่องนี้ว่าจะขอเก็บตัวหาข้อมูลนิดนึง

อยากจะเขียนนิยายต่ออีกค่ะ  แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเขียนอะไรดี

สุดท้ายนี้ขอบคุณคนอ่านที่เข้ามาติดตามจนจบนะคะ





หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 09-04-2016 01:49:27
ชอบนิสัยของอัณณ์นะ รักมั่นคงดี ไม่มีนอกใจ ขอบคุณคนแต่งน๊าา อ่านรวดเดียวจบเลย รอติดตามเรื่องใหม่น๊า^^
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 09-04-2016 09:59:44
อร๊ายยยย จบลงด้วยดี อยสกได้ตอนพิเศษซักตอนอ๊าคนแต่งจ๋า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 09-04-2016 10:25:15
แปะไว้ก่อนเดียวมาเม้นท์น้า :mew1:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 09-04-2016 10:53:02
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 09-04-2016 12:09:05
 o13
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 22-04-2016 21:57:28
กว่าจะได้กลับมาเม้นท์นานมาก ขอโทษคนเขียนด้วยน้า

ดีใจที่จบลงแบบแฮปปี้แอนดิ่ง แต่แอบเสียดายที่อัณณ์ไม่ได้มีลูก
เพราะวารินทร์แท้ๆ...... เพิ่งมารู้ว่าพระเอกเราขี้หึงสุดๆก็ตอนจบนี้เอง55555

ขอบคุณอีกครั้งนะคะสำหรับการแต่งนิยายเรื่องนี้  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kitsune1st ที่ 22-04-2016 23:22:31
ถึงสำเนียงการแต่งจะดูหลวมๆไปบ้าง
แต่โดยรวมเนื้อเรื่องก็สนุกดีงะ
คือตัวละครมีความแปลกใหม่
ขอบคุณที่แต่งให้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-04-2016 21:45:09
 :pig4: :pig4: :pig4: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 19-11-2020 12:40:13
โห้ยยยกว่าจะลงเอยรักจนอยู่ด้วยกันมันขัดใจเยอะละเกินแต่ดีแล้วที่จบแบบนี้ สมกันดีอยู่ 5555  :katai2-1: