Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Jealousy love of devil รักแท้ของอินคิวบัส ตอนที่22-23 p2 8/3/59 จบแล้วค่ะ  (อ่าน 9210 ครั้ง)

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่15

“ชอบไหมอัณณ์”
ยูลิยิ้มกว้างในขณะที่อัณณ์มองดูหน้าทางเข้าสวนแมลงนานาชนิดด้วยความปลาบปลื้ม

“ผมล่ะชอบพวกแมลงมากๆเลยคิดว่าอยากพาอัณณ์มาให้ได้ซักครั้ง”
อัณณ์ไม่อยากจะบอกยูลิว่าตนเองก็ชอบมากเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยดีใจที่ถูกยูลิพามาเท่าไหร่จึงได้แกล้งทำหน้าเบื่อหน่าย

“เข้าไปข้างในกันเถอะ”

ถูกจูงมือเข้าไปข้างใน อัณณ์พยายามสะบัดมืออกแต่แรงบีบมหาศาลทำให้ทำไม่ได้ดั่งใจ ร่างบางหันไปมองวารินทร์ที่เดินตามมาอย่างช้าช้าด้วยความกระวนกระวาย

ไม่โกรธเลยเหรอ

อัณณ์ปวดแปล๊บกับใบหน้าเรียบเฉยของผู้เป็นนาย ทั้งที่เขาถูกคนอื่นจับมือถือแขนแต่วารินทร์ยังไม่แสดงอาการหึงหวงออกมา หรือว่าจะเบื่อหน่ายในตัวเขาแล้วนะ

“ว้าวมดกระสุน(buttet ant)”

“ว่าไงนะ”
อัณณืหันเหความสนใจจากวารินทร์ไปยังยูลิที่ชี้นิ้วไปตรงตู้กระจกซึ่งจำลองสถานที่อยู่อาศัยให้มดกระสุน

“ว้าว รู้ไหมมดชนิดนี้ถือว่าอันตรายมากสำหรับมนุษย์ การกัดของมันไม่ฆ่ามนุษย์ก็จริงแต่ให้ความรู้สึกเจ็บเหมือนถูกปืนยิงตามชื่อของมันเลยล่ะ” อัณณ์พูดกับยูลิ

“ทางโน้นมีมดทหารด้วยนะ”

ยูลิชี้ชวนอัณณ์เดินตามคนชี้นำไปยังตู้มดทหาร หลังจากนนั้นทั้งหมดก็พากันไปดูแมลงปีศาจในโซนอื่นที่ถัดจากแมลงในโลกมนุษย์ อัณณ์ตื่นเต้นจนถึงขีดสุดเขาเดินลั้ลลาด้วยความครึ้มใจ
เขาไม่ได้หมกมุ่นเรื่องแมลงมานานมากแล้ว งานอดิเรกนี้ต้องยกเลิกไปหลังจากตามรับใช้วารินทร์ไม่นานนัก ดีใจที่ได้รื้อฟื้นความหลังเก่าๆ

“ดูสิแมลงปีกแข็งหน้าคน”

“ว้าวน่ารักสุดๆ”
อัณณ์กับยูลิรื่นเริงกันไม่หยุด กระตือรือร้นจนถึงขั้นลืมผู้เป็นนายไปเสียสนิท

“ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมพวกเธอชอบเจ้าสิ่งมีชีวิตพวกนี้นักผมว่ามันน่าเบื่อออก”
เหล่าคนที่กำลังตื่นเต้นชะงักค้าง ยูลิเมินวารินทร์ได้ในทันที หากแต่อัณณ์กลับกังวลอย่างเห็นได้ชัด

แย่ล่ะสิ

คงจะโกรธที่เราสนใจพวกแมลงมากกว่าแน่ๆ

อัณณ์สังเกตเห็นใบหน้าเหนื่อยนหน่ายของวารินทร์แล้วใจเสีย กลัวผุ้เป็นนายจะไม่พอใจดังนั้นจึงหยุดเดินตามยูลิแล้วเดินกลับไปหาคนที่อารมณ์บูดสนิท

“อ้าวไม่ดูแมลงหน้าสิงห์กันหรือ”

"ไปดูก่อนได้เลย”
ลอบมองหน้าวารินทร์ถี่ถี่ ใบหน้านิ่งราวรูปสลักหินของวารินทร์อัณณ์เห็นแล้วหมดสนุกจนไม่อยากเดินเที่ยวอีก

“เอาเถอะน่าไปดูกัน”
ถูกฉุดมือให้เดินตาม อัณณ์ยังคงมองหน้าผุ้เป็นนายไม่ยอมคลาดสายตา ใบหน้าบูดบึ้งน้อยๆของวารินทร์ทำให้เขาหวนนึกถึงอดีต

“ผมเกลียดแมลง”

“ทำไมล่ะ”
อัณณ์ซึ่งชักชวนให้วารินทร์มาดูด้วงกวางในป่าหันไปถามด้วยรอยยิ้มเจื่อน

“เพราะเวลาจะตามหาพวกมันต้องเข้าป่าทำให้เนื้อตัวมอมแมมสกปรก นอกจากนั้นผมไม่เห็นว่าพวกมันน่ารักตรงไหน”
วารินทร์เอ่ยเสียงเย็นชา

“แต่เราเป็นผู้ชายนะ สกปรกมอมแมมนิดหน่อยธรรมดาออกครับ แล้วพวกมันก็น่ารักดีนะ”
เด็กชายแสดงเจตนารมณ์ก่อนจะจดจ่ออยู่กับด้วงอีกครั้ง

“ผมเกลียดพวกมัน เพราะว่าเธอนั่นแหละ”
อัณณ์หันไปมองดูใบหน้าบึ้งตึงของวารินทร์

“ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่คฤหาสน์ของผมเธอมักจะเอาเวลาว่างตามหาพวกแมลงทั้งที่ควรจะมาอยู่กับผม ผมก้เลยเกลียดพวกมัน”
ความหมายของคำพูด อัณณ์ตีความว่าผู้เป็นนายกำลังหึงหวงเขากับพวกแมลง ด้วยความที่แอบหลงรักวารินทร์ตั้งแต่แรกพบเด็กชายเก้าขวบดีใจจนยิ้มแก้มปริ

“ท่านวารินทร์จะบอกว่าอยากให้ผมอยู่ใกล้ๆตลอดเวลามากกว่าเล่นตามหาแมลงหรือครับ”

“เธอเข้าใจได้ถูกต้อง ผมอยากให้เธออยู่ใกล้ๆผมตลอดเวลาไม่อยากให้เธอสนใจอย่างอื่นมากกว่าตัวผม”

“เข้าใจแล้ว ถ้าท่านวารินทร์ต้องการ”
อัณณ์วางด้วงลงแล้วเดินกลับมาหาวารินทร์ซึ่งคลี่ยิ้มอ่อนหวาน

“สัญญามาสิว่าเธอจะไม่สนใจอะไรอื่นอีกมากไปกว่าผม แล้วผมจะจุมพิตเธอเป็นรางวัล”

“จะจูบจริงๆหรือครับ”
อัณณ์ตื่นเต้น เด็กชายใฝ่ฝันจะได้รับจูบจากเจ้าหญิงในฐานะอัศวินมานานถึงแม้ตอนนี้จะรู้แล้วว่าวารินทร์ไม่ใช่เด็กผู้หญิง ตึความงดงามของฝ่ายนั้นตราตรึงใจจนเผลอจินตนาการให้เห็นเป็นเจ้าหญิงไปเสียทุกครั้ง

“สาบานมาสิ” วารินทร์เอ่ยเสียงหวาน

“ถ้าท่านวารินทร์จะจูบผม ผมจะสาบานว่าจะไม่สนใจใครอื่นมากไปกว่าท่านวารินทร์อีก”

“ดีมาก ผมจะให้รางวัลเธอล่ะนะ”

สิ้นคำพูดวารินทร์ก็แนบจูบลงมาแผ่วเบา อัณณ์ดีใจจนแทบจะกางปีกโบยบิน ถึงแม้จะเป็นเรื่องราวในอดีตแต่อัณณ์ก็ได้สัญญาเอาไว้แล้ว ไม่ใช่ว่าตนเองเป็นคนซื่อตรงต่อคำสาบานหากแต่หลงรักจนถวายหัว สัญญาเล็กๆน้อยๆเขาก็ไม่อยากผิดคำสาบานให้วารินทร์ขุ่นเคือง

“เบื่อแล้วหรือ”
ยูลิถามหลังจากเห็นท่าทางซังกะตายของอัณณ์

“เหนื่อยนะอยากกลับบ้านแล้ว”
พูดขณะปลายมองไปยังวารินทร์เป็นระยะอีกฝ่ายตีหน้านิ่งสนิทบอกไม่ได้ว่าอารมณ์ดีหรือไม่ดีกันแน่

“เอาเถอะเราวนเวียนอยู่ในนี้จนเย็นแล้ว เราไปทานอาหารค่ำในห้องสูทของโรงแรมที่ผมจองไว้ดีกว่า”
อัณณ์ถูกยูลิลากแขนให้เดินตามไปอีกครั้ง
หลังจากถูกพามารับประทานอาหารในห้องสูทของโรงแรง อัณณ์ก็เกือบจะยิ้มกว้างเพราะอาหารที่วางเรียงรายล้วนเป็นของที่เขาชอบ

“อัณณ์คงไม่ว่าอะไรนะที่ผมสั่งแต่อาหารรสจัดมาทั้งนั้น” ยูลิเอ่ยถาม

“อื้อก็ดี”
อัณณ์ทำเป็นไม่ชอบใจนัก ทั้งที่ใจจริงอยากจะลิ้มรสชาติอาหารบนโต๊ะเสียหลายอย่าง

“แต่ผมเกลียดอาหารรสจัด”
อัณณ์กับยูลิหันไปมองวารินทร์ที่ลุกออกจากเก้าอี้

“จะไปไหนรอด้วยสิ”
ทำท่าจะลุกขึ้นแต่อัณณ์ก้ถูกวารินทร์ห้ามเอาไว้

“เธอชอบทานเผ็ดไม่ใช่หรืออยู่ทานอาหารที่นี่แหละ เพราะวันนี้ผมไม่มีอารมณ์และไม่อยากจะป้อนอาหารให้เธอ”
ป้อนอาหาร ทานอาหาร
สำหรับปีศาจฝันก็หมายถึงการทำรักกับใครซักคน การที่วารินทร์พูดออกมาแบบนี้ อัณณ์ตีความอย่างเดียวคือผุ้เป็นนายกำลังโกรธ

“รอด้วย” อัณณ์ลุกขึ้นเตรียมจะเดินตามวารินทร์ไปแต่ถูกยูลิเรียกเข้าอีกจนได้

“นั่งลงแล้วทานอาหารซะอัณณ์ ทานอาหารให้อิ่มท้องเสียก่อน”
ดวงตาสีฟ้าเรืองแสง พออัณณ์มองสบตาก็ถูกสะกดให้ทำตาม ร่างบางขยับกายนั่งลงบนเก้าอี้แล้วเริ่มต้นทานอาหารอย่างว่าง่าย

“อร่อยไหมอัณณ์”

“อร่อย”
อัณณ์ตอบไปตามรสชาติที่ผ่านลิ้น สติสัมปัญชัญญะสั่งให้ร่างกายทานอาหารตามคำสั่ง ถึงก่อนหน้านั้นอยากจะตามวารินทร์ไป แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้มีแต่ต้องการจะทานให้อิ่มท้อง

“เธอกินเยอะจริงๆเลยอัณณ์”

“เพราะการทานอาหารปกติให้พลังงานเทียบไม่ได้เลยกับการดูดพลังตัณหาผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์” อัณณ์ตอบขณะตั้งหน้าตั้งตาทาน

“อ้อหากได้ทำรักกับวารินทร์เธอจะเต็มอิ่มกว่าสินะ”
ถูกทักตอนที่ทานอาหารหมดพอดี อัณณ์ซึ่งตื่นตระหนกเรื่องที่อีกฝ่ายทักถึงความสัมพันธ์สวาทของเขากับวารินทร์ขึ้นมาเอ่ยถามอีกฝ่ายกลับ

“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมทำอย่างว่ากับท่านวารินทร์”
เมื่อรู้ตัวว่าถามอะไรไม่เข้าท่าออกไป อัณณ์ก็ใช้มือแตะปากของตน

“เธอยอมรับแล้วสินนะ ผมแค่สังเกตแววตาเธอก็รู้ได้”

“ดูออกชัดขนาดนั้นเชียวหรือ” อัณณ์ถึงกับสลดไม่นึกว่าจะถูกมองออกได้ง่ายถึงเพียงนั้น

“แน่นอน เอโหยหาตลอดเวลา แถมวันนี้ทั้งวันยังเอาแต่ส่งสายตาเศร้าสร้อยไปให้วารินทร์ไม่หยุด”

“ขอให้นายเก็บเงียบเอาไว้ด้วยนะ”

“ทำไมต้องปกปิดด้วยล่ะ เปิดเผยออกไปมันจะดีกับเธอมากกว่าไม่ใช่หรือ”
ยูลิหัวเราะขบขัน อัณณ์เลือดขึ้นหน้าเมื่ออีกฝ่ายทำเหมือนเป็นเรื่องตลก

“ฉันไม่ยอมให้วารินทร์เสื่อมเสียชื่อเสียงเด็ดขาด หากเรื่องของฉันกับเขาแพร่ออกไป ไม่รู้ว่านายท่านนายหญิงแล้วคนรอบข้างจะคิดยังไง แต่ต้องไม่ดีกับวารินทร์แน่ๆ”

“เธอคิดเล็กคิดน้อยมากไปแล้ว”ยูลิส่ายหน้าไปมาพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนอกอ่อนใจมาให้

“ถ้าอย่างนั้นหากฉันเอาไปเล่าให้คนรู้จักทุกคนฟังล่ะจะว่าอย่างไร”

“คำบอกเล่าไร้หลักฐานใครจะเชื่อ”
อัณณ์หัวเราะเยาะความคิดของยูลิ

“ถ้าออกจากปากผมมันก็เป็นอีกเรื่อง ถึงตอนนั้นเธอกับวารินทร์จะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างนะ”
หน้าซีดเผือดทันทีที่ถูกขู่ อัณณ์แค่คิดว่าจะต้องถูกจับแยกจากวารินทร์ก้ปวดใจจนทนไม่ได้

“ต้องการอะไรกันแน่”
อัณณ์ถามด้วยเสียงกึ่งๆจะตะคอก เมื่อประมวลผลอย่างถี่ถ้วนอีกฝ่ายคงจะต้องการอะไรบางอย่างจากเขา

“ผมอยากนอนกับเธอ ผมสนใจเธอมากชัดเจนดีไหม”
อัณณ์แยกเขี้ยวใส่ยูลิ หลังจากอีกฝ่ายเผยความในใจ ความต้องการของยูลิไม่ไกลจากที่ตนคาดเดาเท่าไหร่ แต่ก็ยังรู้สึกรับไม่ได้อยู่ดี

“อยากนอนกับฉันนี่นะ ฝันไปเถอะ”
อัณณ์ชูนิ้วกลางให้ อีกฝ่ายแทนที่จะโกรธกลับเห็นเป็นเรื่องขำขันและหัวเราะน้อยๆอย่างชอบอกชอบใจ

“ผมไม่ฝันแน่ๆ เธอเลือกเอาระหว่างนอนกับผมซักครั้งหรือให้สัมพันธ์สวาทของเธอกับวารินทร์เปิดเผยออกไปให้ทุกคนทราบ”
ทำอย่างไรดี

อัณณ์กัดฟันกรอด

หากความสัมพันธ์ของพวกเขาเปิดเผยไปไม่แค่ทำให้วารินทร์ต้องอับอาย เขาเองก้อาจจะถูกจับแยกจากผุ้เป็นนาย ทนไม่ได้แน่ๆ

หากมีคนอื่นมาคอยรับใช้เคียงข้างแทนเขา ไฟริษยาคงแผดเผาจนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน

เอายังไงดี เขาเป็นปีสาจฝันการทำรักซักครั้งไม่ต่างจากการทานอาหารหนึ่งมื้อ แต่มันค้านกับจิตสำนึกของตนสิ้นดี เขาไม่อยากทำรักกับใครก็ได้ ไม่อยากทำรักกับใครนอกเหนือจากวารินทร์

“เอายังไง ผมไม่แค่จะเล่าให้ท่านพ่อท่านแม่ของวิรนททร์ฟังตาจะเล่าให้ท่านพ่อของผมทราบด้วยนะ”

“ท่านลูซิเฟอรืด้วยหรือ”

“ใช่ผมเป็นปีศาจปากเปราะเสียด้วยสิ”

“เข้าใจแล้ว”
อัณณ์ตอบรับหลังจากครุ่นคิดด้วยความตึงเครียดอยู่ชั่วครู่

“แต่แค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ แล้วต้องใช้เวทมนต์แห่งสัจจะผุกมัดเอาไว้ด้วย”

“เธอช่างรอบคอบจริงนะ”
ยูลิหัวเราะก่อนจะกรีดนิ้วของตนหยดเลือดลงในแก้วก่อนจะยื่นให้อัณณ์ทำแบบเดียวกัน หลังจากทั้งคู่ท่องบทสวดพร้อมกันจบเลือดในแก้วก็เปล่งแสงวาบอัณณ์และยูลิสลับกันดื่มเลือดในแก้ว

“เท่านี้คำสาบานก้สัมฤทธิ์ผล”
อัณณ์มองออร่าสีแดงที่เคลือบฉาบร่างของตนและยูลิในชั่วขณะหนึ่งแล้วถอนหายใจ

“เอาล่ะ ไปที่ห้องนอนแล้วเริ่มกันเสียทีเถอะ”
ยูลิยิ้มกริ่มก่อนจะใช้มือจับจูงอัณณ์ไปยังห้องด้านใน แค่ก้าวแรกที่เดินเข้าไปในห้องนอน อัณณ์ก็ลังเลขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทันทีที่ได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง ร่างบางก็รู้สึกว่าตนเองตัดสินใจได้รีบร้อนเกินไป

ไม่แน่ว่าอาจจะยังมีทางอื่นอยู่อีก

ไม่ว่าเรื่องสกปรกอะไรหากอีกฝ่ายยอมแลกเปลี่ยนอัณณ์ก็พร้อมจะทำตามเพื่อชื่อเสียงของผู้เป็นนายยกเว้นแต่เพียงเรื่องนี้ แค่คิดว่าจะต้องถูกคนอื่นแตะต้งตัวเองก็ขยะแขยง ต่อให้ดูดีแค่ไหนหรือสูงศักดิ์เท่าใดก็ไม่อาจทำให้ร่างบางหลงไหลได้เท่ากับตัวของผู้เป็นนาย

“ทำไม่ได้ ทำไม่ได้จริงๆ”
อัณณ์ผลักไสยูลิที่ทาบทับลงมาเหนือร่างตัวเองบนเตียงกว้าง ทำให้ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะยิ้มออกมา

“ทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะ แค่เธออยุ่เฉยๆและรับการปรนนิบัติจากผม”
ยูลิคลี่ยิ้มก่อนจะใช้มือเชยใบหน้าของอัณณ์ขึ้นมาหวังจะประทับจูบ แต่ก็ถูกอัณณ์เบือนหน้าหนีพร้อมทั้งแสดงอาการต่อต้านอย่างชัดเจน

“ฉันทำตามสัญญานั่นไม่ได้จริงๆ เฉพาะเรื่องนี้เท่านั้นที่ยังไงก็ทำไม่ได้ ขอเพียงปกป้องชื่อเสียงของวารินทร์เอาไว้จะให้ทำเรื่องอื่นที่สกปรกกว่านี้ฉันก็ยอม”
ทั้งที่เรื่องทำรักไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแท้ๆสำหรับปีศาจฝันอย่างเขา ทั้งที่กำลังทำเพื่อปกป้องความรักเล็กๆของตนและผุ้เป็นนาย แต่อัณณ์ก็ไม่อาจฝืนทำสิ่งนั้นลงไปได้

ช่างน่าสมเพชตัวเอง

อัณณ์ผละหนีจากยูลิที่ส่ายหน้าอย่างระอา แต่ก่อนที่จะทันได้หมุนลูกบิดประตู มือของอัณณ์ก็ถูกจับเอาไว้จากด้านหลัง

“ถ้าไม่ใช่วารินทร์ล่ะก็ เธอคงไม่ยอมเลยสินะ”
เสียงกระซิบของยูลิเต็มไปด้วยความขบขัน แม้ไม่อาจหันกลับไปมองใบหน้าของร่างสูง อัณณ์ก้พอเดาได้ว่าอีกฝ่ายทำสีหน้าเยาะเย้ยแบบไหน

“ใช่ถ้าไม่ใช่วารินทร์ให้ฉันตายจะดีกว่า”

“เธอกำลังทำตัวตลกอยู่นะอัณณ์ คิดว่มาถึงขั้นนี้แล้วผมจะยอมปล่อยเธอไปอย่างนั้นหรือ แต่ผมเป็นคนใจดีเพราะงั้นจะไม่ให้เธอต้องทนมองหน้าผม แต่จะให้จินตนาการถึงแค่วารินทร์ได้ตามใจชอบ”
ยูลิพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลทรงพลัง อัณณ์รู้ดีว่าอีกฝ่ายมีอำนาจมากแค่ไหน เพราะแค่คำพูดไม่กี่คำก็ทำให้ร่างบางเหมือนมีโซ่จำนวนมากตรึงร่างเอาไว้กับที่มันทีที่มือของยูลิเอื้อมมาปิดตาของอัณณ์ไว้ชั่วขณะ ทัศนวิสัยเบื้องหน้าก็มืดดับลง

“ขอให้สนุกนะอัณณ์”
ยูลิกระซิบด้วยเสียงหยอกเย้าก่อนที่อัณณ์จะรู้สึกได้ถึงมือที่ค่อยๆลูบไล้ไปตามร่างกาย
ขยับไม่ได้ มองไม่เห็น

“ปล่อยนะไอ้สารเลว” อัณณ์ส่งเสียงตะโกนจนแทบจะกลายเป็นการกรีดร้อง ทั้งที่พยายามขัดขืนจนสุดกำลังแต่ร่างกายกลับไม่ยอมให้ความร่วมมือ ร่างสูงที่ทาบทับอยู่ด้านหลังบดเบีบดซะจนอัณณ์ต้องแนบร่างเข้ากับประตูอย่างอดสู ไม่ว่าจะด่าทอเสียเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาจากยูลิ

ทำตัวเองแท้ๆ

อัณณ์หลั่งน้ำตาออกมาโดยไร้เสียง เมื่อถูกกระตุ้นจนตื่นตัวด้วยมือขึ้นมา ฝ่ายนั้นค่อยๆรุกเร้าล่วงเกินโดยไม่ฟังทั้งคำวิงวอนหรือต่อว่าเลยซักนิด

อยากตายไปเสียให้พ้นๆ

อัณณ์กัดริมฝีปากแน่น เมื่อช่องทางด้านหลังถูกสอดใส่และกระแทกเข้าออกอย่างรุนแรง และเหมือนว่าจะยังไม่สาแก่ใจพอ อัณณ์ถูกเหวี่ยงร่างลงไปบนเตียง ถูกร่างหนักๆทาบทับและบังคับให้ปลดปล่อยครั้งแล้วครั้งเล่า

เพราะกัดริมฝีปากของตนเองเอาไว้แน่นจึงทำให้ความพยายามที่จะบดเบียดริมฝีปากของอีกฝ่ายหยุดลงไปก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นซุกไซ้ซอกคอและขบกัดใบหูจนอัณณ์แทบหวีดร้องออกมา

จะรู้สึกดีไม่ได้อย่างเด็ดขาด

ให้ตายยังไงอัณณ์ก็ไม่ยอมรับความรู้สึกนี้ แม้ร่างกายของตนจะปรารถนาให้คนที่ยำยีตนเองกระแทกเข้ามาให้ลึกๆจนเผลอเอื้อมมือไปจิกแผ่นหลังของอีกฝ่ายเอาไว้ แต่จิตใต้สำนึกอีกด้านก็ยังสั่งการให้อัณณ์สะกดความต้องการเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

จะร้องครวญครางออกมาไม่ได้

จะยอมให้ไอ้สารเลวนั้นรูว่าเขารู้สึกดีไม่ได้

อัณณ์กัดริมฝีปากตัวเองแน่นมากยิ่งขึ้นจนเลือดไหลซึมออกมา ร่างบางดิ้นรนหนักกว่าเดิมเมื่อถูกจับง้างปากออกจากกัน อีกฝ่ายเข้ามาอุดปากเขาในเวลาต่อมา แต่อัณณ์ก็สำรอกออกมาในทันทีเช่นกัน

“วารินทร์ช่วยด้วย”

อัณณ์ร้องตะโกนสุดเสียง ดูเหมือนว่ามันจะไม่ช่วยหยุดยั้งสิ่งที่เกิดขึ้นได้เลยเมื่อร่างบางยังถูกย่ำยีอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ผ่านไปเท่าไหร่ความพยายามขัดขืนของอัณณ์ก็หมดสิ้นลงเหลือไว้แต่เสียงกระซิบเรียกหาผู้เป็นนายกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุด

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อค่ะ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่16

จบแล้วหรือ

อัณณ์คิดด้วยความยินดี หลังจากการข่มขืนอันยาวนานผ่านพ้นไป เมื่ออีกฝ่ายเสร็จสมก็ค่อยๆถอนความเป็นชายออกจากร่างบาง ในตอนนั้นดวงตาที่มืดบอดก็มองเห็นทุกสิ่งเช่นเดิม

“ไอ้สารเลว”
ทันทีที่เป็นอิสระอัณณ์ก็ขยับตัวง้างหมัดจะชกหน้ายูลิ ทว่าคนที่ทาบทับอบู่กลับเป็นวารินทร์ ร่างบางสับสนจนชะงักค้างหมัดอยู่อย่างนั้น

“นี่มันหมายความว่ายังไง”
อัณณ์ร้องคราง สภาพของวารินทร์ที่กำลังรูดซิบกางเกงบอกชัดว่าได้ผ่านอะไรมา พอหันไปมองรอบข้างก้ปะเข้ากับยูลิที่นั่งอยู่ห่างๆเครื่องแต่งกายของเขายังเรียบร้อยดีอยู่ เห็นได้ชัดว่าอะไรเป็นอะไร

“ทำไมถึงทำแบบนี้”
ถามด้วยดวงตาที่ปริ่มออกมารอบดวงตา อัณณ์พยายามสกัดกั้นอารมณ์สะเทือนใจไม่ให้ร้องไห้อีกครั้ง

“เธอหมายถึงที่ผมข่มขืนเธอนะหรือ”วารินทร์หัวเราะหึหึ ก่อนจะเชยคางแล้วแนบจูบลงมาบนหน้าผากของอัณณ์ แต่ก็ดดนผลักไสออกโดยพลัน

“แกล้งกันแบบนี้เกลียดกันนักหรือไง”
อัณณ์ตะคอกถาม ท่าทางโกรธเกรี้ยวของอัณณ์ทำให้ยูลิย่นคอด้วยความกลัว หากแต่วารินทร์กลับยิ้มสดชื่น

“พูดอะไรของเธอน่ะ ผมรักเธอจนจะตายให้ได้เลยนะ”

“คำพูดบอกรักของวารินทร์ไม่ได้เข้าหูของอัณณ์ซักนิด ร่างบางลุกขึ้นแต่งตัวแล้วพลุนพลันหนีจากห้องไปด้วยความโกรธและ
เสียใจ

“จะกลับไปหาท่านวารินทร์ได้เมื่อไหร่”

อิทธิฤทธิ์ผู้เป็นพ่อเท้าเอวขณะตั้งคำถามอัณณ์ที่ซมซานกลับมายังคฤหาสน์ของตระกูลตนเองอย่างผู้แพ้ หลังจากปล่อยให้ลูกชายฟูมฟายถึงหนึ่งอาทิตย์อิทธิฤทธิ์กับนาน่าผุ้เป็นภรรยาก็ทนไม่ได้อีกต่อไป

“ถ้ายังทำตัวแย่แย่อย่างนี้ลูกจะถูกถอดออกจากการเป็นข้ารับใช้อันดับหนึ่งของท่านวารินทร์นะ ท่านผู้นั้นคือว่าที่ราชาแห่งบาปองค์ต่อไปไม่เสียดายหรือ”
นาน่าผุ้เป็นแม่เอ่ยถาม อัณณ์หดหู่มากกว่าเดิมที่พ่อแม่ไม่ได้เป็นห่วงความรู้สึกของตนเลยซักนิด แต่กลับห่วงหน้าที่การงานและเส้นสายของตระกูลมากกว่า

“มีเรื่องอะไรก็ไม่พูด บอกมาสิพ่อช่วยเหลือได้นะ”
รู้ดีว่าพ่อกับแม่ช่วยอะไรเขาไม่ได้ ปัญหามันอย่ตรงที่สภาพจิตใจของเขาต่างหาก อัณณ์นอกจากจะเสียใจแล้วยังคิดไม่ออกถึงเหตุผลที่วารินทร์รวมหัวกับยูลิกลั่นแกล้งเขาให้อับอาย

เจ็บปวดในยิ่งนัก

แต่ถึงถูกทรยศแบบโหดร้ายก็ยังเฝ้าแต่คิดถึงผู้เป็นนายอย่างน่าเจ็บใจ นี่เขาจะไม่สามารถเกลียดวารินทร์จากหัวใจได้เลยสินะ
ผมรักเธอจนจะตายให้ได้

คำพูดนี้อัณณ์ฟังแล้วเต็มตื้นจนแทบจะตายให้ได้เช่นกัน หากแต่พอนึกถึงความร้ายกาจที่ได้รับก็ปวดร้าวจนไม่อยากจะไปเจอหน้า

“อัณณ์ลูกก็รู้ว่าตอนนี้ท่านวารินทร์อยู่ในช่วงอันตราย อยู่ห่างจากท่านแบบนี้หากท่านตายไปลูกจะเสียใจเองนะ”
นาน่าโยนเอกสารบางอย่างให้อัณณ์ดูอัณณ์เหลือบมองแวบหนึ่งก่อนจะซบหน้าลงบนข่าแล้วหวนนึกถึงอดีตแสนหวานที่อยู่ร่วมกับวารินทร์

“เธอร้องไห้ทำไมอัณณ์”
วารินทร์ซึ่งอายุได้สิบสี่ถามคนที่นั่งปาดน้ำตาในโรงหนังมืดๆ อัณณ์ร้องไห้ด้วยฉากบอกรักอันซาบซึ้งระหว่างพระเอกนางเอกที่กำลังจะจากกันไปไกลแสนไกล

“ผมสะเทือนใจ พอดูหนังเรื่องนี้แล้ว คิดว่าถ้าเราต้องแยกจากกัน ท่านวารินทร์อาจจะไม่รักผมตลอดไปอย่างที่ผมต้องการ”

“เธออยากให้ผมรักเธอไปตลอดกาลถึงแม้เราจะแยกจากกันอย่างนั้นหรือ”
รู้ว่าเป็นการหวังสูงและเอาแต่ใจแต่อัณณ์ก็เลือกที่จะพยักหน้าแสดงเจตนารมณ์ของตัวเอง

“พูดออกมาให้ชัดสิว่าเธออยากให้ผมทำอย่างไร”

“อยากให้ท่านวารินทร์รักและปรารถนาในตัวผมตลอดไป”
อัณณ์ยืนยันความต้องการตนเองอย่างละโมบ ในใจหวาดกลัวที่จะถูกปฏิเสธ แต่รอยยิ้มหวานหวานที่ปรากฏบนใบหน้าของผู้เป็นนายทำให้ลืมเลือนความกลัวนั้นไปจนหมด

“ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอปรารถนา ผมจะรักเธอตลอดไป”

คนฟังผวาเข้าจูบวารินทร์ทันทีที่ได้ยินคำนั้น ท่ามกลางความมืดในโรงหนัง ทั้งสองจูบกันและพร่ำบอกคำรักหวานชื่นอย่างไม่รู้
เบื่อ

ทำไมรวมหัวกับยูลิกลั่นแกล้งเรากันนะ มันต้องมีเหตุผลบ้างสิ

อัณณ์คิดเช่นนั้นเพราะรู้ว่าผู้เป็นนายทำอะไรลงไปมักจะมีเหตุผลเสมอ ความทรงจำหวานๆทำให้ลืมเลือนความโกรธไปจนเกือบหมด ร่างบางหยิบเอาเอกสารนที่ผุ้เป็นแม่ทิ้งไว้ขึ้นมาอ่าน

“อะไรกัน”

ร้องครางออกมาด้วยวิตกกังวล เอกสารในนั้นบ่งชัดว่าคานอนพี่ชายของวารินทร์วางแผนลอบฆ่าผู้เป็นนายครั้งแล้วครั้งเล่า อัณณ์รีบควานหาเครื่องติดตามตัวเพื่อระบุตำแหน่งที่แน่ชัดของวารินทร์ในปัจจุบันทันที โชคยังดีที่เขาถือวิสาสะแอบติดเอาไว้กับผู้เป็นนายในเครื่องประดับที่ติดตัวอยู่เสมอ

“อยู่ในสวนสาธารณะใกล้บ้านหรอกหรือ”
อัณณ์ถอนหายใจโล่งอกก่อนจะเปิดเครื่องรับสัญญาณฟังเสียงรอบตัวของผู้เป็นนาย ทันทีที่เปิดเสียง เสียงระเบิดตูมตามก็ดังลอดเครื่องออกมาให้ได้ยิน

“เกิดอะไรขึ้น”
อัณณ์ไม่เสียเวลาคิดเขาเปิดหน้าต่างกางปีกโผบินไล่ตามไปยัวสถานที่เกิดเหตุอย่างไม่รั้งรอ

"วารินทร์”
อัณณ์ร้องตะโกนเมื่อเห็นผู้เป็นนายถูกรายล้อมด้วยเหล่าผุ้ไม่หวังดีจำนวนมาก


“คนพวกนี้มันอะไรกัน”
เอ่ยถามหลังจากร่อนลงมายืนเคียงข้างวารินทร์ ไม่ทันขาดคำ เหล่าชายชุดดำก็โจมตีเข้ามา อัณณ์หวดแส้เข้าใส่คนร้ายที่ดาหน้าเข้าไม่หยุด

“ท่านคานอนพี่ชายของนายเป็นคนสั่งแน่แน่เลย”
พูดขึ้นขณะจัดการรัดคอหนึ่งในชายชุดดำจนสลบแน่นิ่งไป

“ผมรู้แล้ว แค่รอว่าท่านพี่จะโผล่หางเมื่อไหร่”
ใบหน้าปลอดโปร่งของวารินทร์ทำเอาอัณณ์ฉุนกึก ร่างบางยังไม่หายโกรธเรื่องที่ถูกกลั่นแกล้งจึงอดประชดประชันไม่ได้

“ใช่สิสำหรับนายยยท่านอออะไรๆก็อยู่ในแผนการไปเสียหมด เรื่องที่ข่มมมขืนผมเองก็ด้วยเหมือนกันสินะ”
เหน็บวารินทร์ขณะใช้ขากวาดเตะชายชุดดำที่เข้ามาใกล้วารินทร์ ความเก่งกาจของอัณณ์ทำให้ผู้เป็นนายไม่ต้องออกแรงจัดการอะไรเลยเพราะเหล่าชายชุดดำไม่สามารถเข้าหาวารินทร์ในรัศมีซึ่งอัณณ์คอยคุ้มกันอยู่

“ถ้าผมอยากจะบอกว่าที่ทำลงไปทั้งหมดเพื่อลองใจเธอเพราะโกรธล่ะ”

“อะไรนะ”
หันมาหาคนพูดในตอนนั้นวารินทร์ก็กระชากร่างของเขาจนเซ คานอนที่โผล่มาเมื่อไหร่ไม่รู้แทงดาบลงมาแต่ผู้เป็นนายรับแทนและถูกแทงที่ท้องจทะลุ

“วารินทร์”
คนในอ้อมกอดร้องเรียก อัณณ์มองดูวารินทร์ใช้ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลังฟาดใส่คานอนแต่ผู้เป็นพี่ชายก็ตีลังกาหลบแล้วไปยืนอยู่ในระยะไกล

“ฮ่าฮ่า รอให้เผลอจนเล่นงานได้อยู่นาน รู้ไหมว่าไม่ง่ายเลยที่จะหาจังหวะเหมาะให้แกลดความระวัง”
คานอนหัวเราะเยาะ อัณณ์ถลาเข้าไปเล่นงานคนซึ่งทำร้ายผู้เป็นนายอย่างขาดสติ

“ให้ตายสิชู้รักของแกนี่อารมณ์ร้อนดีแท้” คานอนพูดพลางหลบการโจมตีของอัณณ์

“อัณณ์กลับมาหาผมนี่”
วารินทร์เอ่ยเตือนขณะถอนดาบออกจากร่าง

“ไม่ถ้าไม่ได้จัดการมันฉันไม่มีวันยอม”
อัณณ์ตะโกนทั้งน้ำตา แค่เห็นใบหน้างดงามที่พยายามอดกลั้นต่อความเจ็บปวดของผู้เป็นนายเขาก็แทบใจสลาย ร่างบางลืมเลือนเรื่องบาดหมางระหว่างตนกับวารินทร์ไปจนสิ้น

“โง่ทั้งเจ้านายทั้งคนรับใช้ ยังไงแกก็สู้ฉันไม่ได้อยู่แล้ว เจ้านายของแกเองก็โดนพิษยาชาจนขยับไม่ได้ต้องยืนรอความตายอย่างเดียว”
อัณณ์ไม่ยอมแบ่งสมาธิไปไหนนอกจากมุ่งมั่นเล่นงานคานอน หากแต่โจมตีพลาดไปเสียหมด ในตอนนั้นวารินทร์ผู้ขยับไม่ได้ดั่งใจก็เริ่มต้นบทสนทนากับคานอน

“ทำแบบนี้เพื่อตำแหน่งราชาแห่งบาปหรือท่านพี่”

“ฮะฮะยังมีแรงพูดอีกนะ แน่นอนอยู่แล้ว ฉันเป็นพี่คนโตจะให้แกมาตัดหน้าแย่งชิงได้อย่างไรล่ะ”
คานอนพูดขณะคว้าจับอัณณ์เหวี่ยงออก แต่ก็ต้องหงุดหงิดที่คู่ต่อสู้ยังมุ่งมั่นพุ่งเข้าหาจนเบื่อที่จะเล่นด้วยอีกต่อไป

“ถ้าอยากได้ก็มาขอดีดีก็ได้นี่ผมไม่อยากเป็นเท่าไหร่หรอกราชาแห่งบาปอะไรนั่น”วารินทร์ยิ้มพร้อมกับลองขยับปลายนิ้วทดสอบอาการชาตามร่างกายตน

“ถ่วงเวลาเรอะวารินทร์ เอาเถอะ เดี๋ยวฉันจะจัดการแกก่อนแล้วค่อยจัดการกับชู้รักของแกที่หลังหมั้นไส้นัก”

“ไม่นะ”
อัณณ์ซึ่งถูกจับเหวี่ยงไปจนกระแทกกำแพงร้องตะโกน ถึงพยายามลุกขึ้นแต่ก็ม่ทันการเพราะคานอนพุ่งเข้าหาวารินทร์ด้วยความเร็วเกินกว่าที่เขาจะตามทัน

“อัณณ์ผมรักเธอนะ ที่ทำลงไปทั้งหมด แค่น้อยใจที่เธอไม่ยอมเปิดเผยความสัมพันธ์ของเรา เพราะเธอไม่ยอมเป็นคนรักจริงๆของผม”
อัณณ์สับสนไปหมดกับคำสารภาพของวารินทร์แต่ไม่มีเวลาคิด เขาถลาไล่ตามคานอนเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ตายซะเถอะไอ้วารินทร์”
คานอนที่เข้าถึงตัววารินทร์ใช้กรงเล็บแหวกอากาศหวักจะควักหัวใจของน้องชายออกมา หากแต่ชั่ววนาทีคนถูกเล่นงานกลับเป็นคานอนเสียเอง อัณณ์อึ้งกับการที่เห็นวารินทร์แทงฝ่ามือทะลุร่างของพี่ชายจนจับต้นชนปลายไม่ถูก

“ทำไมแก…”
คานอนแค่นเสียงกระท่อนกระแท่น

“จะถามว่าทำไมผมถึงขยับได้นะหรือ”
วารินทร์ยิ้มให้คนที่ถลึงตามองอย่างเคียดแค้น
ก็แค่ตั้งใจฝืนขยับอย่างถึงที่สุดเพื่อไม่ให้คนที่ผมรักต้องเสียน้ำตาเท่านั้น”

“แกมันบ้า ก็แค่ปีศาจชั้นต่ำเท่านั้นเอง”
คานอนที่เจ็บปวดรวดร้าวถ่มน้ำลายลงพื้นก่อนจะทรุดฮวบเมื่อวารินทร์ชักมือกลับออกจากร่างที่เป็นรูของตน

“ผมยกตำแหน่งราชาแห่งบาปให้ ผมไม่ต้องการหรอก สำหรับผมแค่มีอัณณ์ก็พอแล้ว”
วารินทร์ยิ้มให้อัณณ์ที่เข้ามาประคอง

“ยกโทษให้คนใจแคบที่ตั้งใจจะลองใจเธอหน่อยได้ไหม”

“อย่าเพิ่งพูดเลย ทำไมนะ ทำไมแผลไม่สมานตัวเหมือนปกติ”อัณณ์หัวเสียเมื่อร่างกายของวารินทร์ไม่สมานแผลเหมือนอย่างเคย
“พิษจากยาชาทำให้ร่างกายของผมสมานแผลไม่ได้พาผมไปโรงพยาบาลเถอะอัณณ์”

“ได้ได้ แต่ก่อนอื่น…”
อัณณ์หันไปเตะเท้าเข้าที่หน้าของคานอนที่นั่งทรุดอย่างแรงจนอีกฝ่ายล้มกลิ้งและสลบไป

“ยังไม่สาสมเสียด้วยซ้ำ”
หลังจากจัดการจนพอใจอยู่บ้างอัณณ์ก็กางปีกพยุงคนเจ็บนำพาไปยังโรงพยาบาลอย่างไม่รอช้า


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

เรื่องนี้แต่งใกล้จบแล้วค่ะ

เดี๋ยวจะทยอยลงไวไวเลยแน่นอนค่ะ :hao3:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
โหยยยย วาริณบอกน้อยใจอัญญ์เลยทำประชด? ประชดแต่ละอันนี่แรงๆทั้งนั้น รวมถึงอันสุดท้าย :katai1:

แต่ก็เอาเถอะ สุดท้ายก็ยอมสารภาพความในใจออกมา ถึงจะแปลกที่ไปหน่อย5555 :hao7:

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่17

“ยังงอนอยู่อีกหรือ”
หลังจากกลับมาจากโรงพยาบาล วารินทร์ซึ่งอมยิ้มเอ่ยถามคนที่นั่งหน้าบึ้งกอดอก อัณณ์ถึงจะยังโกรธเรื่องที่ถูกหลอกและข่มขืนไม่หายแต่ก็ยังรับหน้าที่ดูแลผู้เป็นนายอย่างดี

“วางแผนมาตั้งแต่วินาทีแรกที่ฉันพบกับยูลิแล้วสินะ” อัณณ์ถลึงตามองวารินทร์

“เธอเข้าใจถูกแล้ว ผมกับยูลิเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่แรก”

“ใจร้าย”
น้ำตาของอัณณ์ปริ่มบริเวณขอบดวงตา ถึงจะบอกว่าลองใจเขาเพราะโกรธที่นอกใจไปกับแพทริคแต่ทำถึงขนาดนี้ ทำให้อัณณ์เพิ่งรู้จักนิสัยโหดร้ายของวารินทร์เป็นครั้งแรก

“ถึงฉันจะดื้อแพ่งไม่ยอมเป็นคนรักอย่างเปิดเผยของนาย แต่น่าจะเข้าใจเหตุผลที่ทำเพื่อเราสองคนสิ หากเรื่องทุกอย่างถูกเปิดเผยไปเราสองคนจะถูกจับแยกออกจากกันนะ”

“ผมไม่มีวันแยกจากเธออัณณ์”
คนถูกต่อว่าเชยคางอัณณ์ให้เงยหน้าขึ้นมาสบตาและจูบลงบนบริเวณหน้าผากปลอบโยนคนที่ร้องไห้ จังหวะนั้นน้ำเสียงกราดเกรี้ยวของแขกไม่ได้รับเชิญก็ดังขึ้น อัณณ์และวารินทร์หันไปมองเจ้าของเสียง

“นี่มันอะไรกัน”
นายหญิงดานิกาตะคอกเสียงแหลม อัณณ์ผละออกจากวารินทร์ที่อยู่บนเตียงแต่ก็ถูกคว้าจับให้เข้าไปซบกับอ้อมอกของผู้เป็นนาย

“อธิบายมาเดี๋ยวนี้นะวารินทร์แกจูบกับปีศาจรับใช้ของแกทำไม”
คาโรลทำหน้าขรึมแต่อัณณ์รู้ดีนายท่านกำลังโกรธจัด ร่างบางดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนของวารินทร์เพื่อจะให้หลุดจากการกอดรัด แต่แรงมหาศาลของผู้เป็นนายทำให้ต้องจมอยู่ในอ้อมกอดอยู่เช่นนั้นต่อหน้านายท่านและนายหญิงที่กำลังโมโหหนัก

“ผมกับอัณณ์เราเป็นคนรักกัน ท่านพ่อท่านแม่คงเห็นแล้ว”

“แกล้อเล่นสินะวารินทร์” คาโรลถาม

“ผมเปล่าล้อเล่น”
วารินทร์ยืนยันด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่อัณณ์เหงื่อแตกพลัก ยิ่งได้เห็นแววตาราวกับจะฆ่ากันให้ได้ของนายหญิงดานิกายิ่งอยากหายตัวไปจากที่ตรงนั้น

“แกล่อลวงเจ้านายของตัวเองหรืออัณณ์ สมกับที่เป็นปีศาจฝันจริงๆ แต่ถ้าหากแกเจียมตัวยอมเป็นอนุภรรยาฉันจะปล่อยแกกับวารินทร์ให้คบกันต่อไปก็ได้นะ”
ดานิกาพูดเธอค่อนข้างใจเย็นลงมาก หากแต่คำพูดของวารินทร์ทำให้หล่อนโกรธหนักจนหน้าแดงก่ำ

“อัณณ์จะไม่เป็นอนุภรรยาหรอกครับท่านแม่ แต่จะเป็นคนรักและภรรยาเพียงผู้เดียวของผม”

“แกพูดอะไรหาวารินทร์”
คาโรลที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดตะคอกเสียงดัง อัณณ์หลับตาปี๋ด้วยความกลัว บรรยากาศภายในห้องคุกรุ่นเนื่องด้วยไม่มีใครยอมใคร

“แกต้องแต่งงานกับยูลิ ท่านลูซิเฟอร์ประสงค์ให้แกเป็นราชาแห่งบาปต่อจากท่านพ่อแอสโมดิอุส การแต่งงานจะทำให้อำนาจของแกมั่นคง แกไม่อยากเป็นราชาแห่งบาปหรอกหรือ”

“เรื่องราชาแห่งบาปอะไรนั่นยกให้ท่านพี่คานอนไปเถอะครับ”

“ท่านวารินทร์”
อัณณ์ทำท่าจะประท้วง แต่วารินทร์กลับส่งสัญญาณบอกให้เงียบ อัณณ์อยากจะบอกให้รู้ เขายอมเป็นอนุก็ได้เพื่อให้วารินทร์ได้กลายเป็นราชาแห่งบาป ตอนนี้ไม่คิดเห็นแก่ตัวอีกต่อไปแล้ว แค่ได้รู้ว่าวารินทร์ยังรักเขามากแค่ไหนก็พอ

“วารินทร์ทำตามที่พ่อกับแม่บอกซะ แต่งงานกับท่านยูลิเสียแล้วพ่อกับแม่จะให้อภัยที่ลูกทำร้ายพี่ชายตัวเอง”
ดานิกายื่นข้อเสนอ ในเวลาติดๆกันคาโรลก็ยื่นข้อเสนอตามมา

“แค่อนุภรรยาคงไม่รังเกียจสินะอัณณ์ ปีศาจรับใช้ตะกายขึ้นมาได้ขนาดนี้ อย่าปฏิเสธข้อเสนอของพวกเราดีกว่า”
คาโรลพูดกับอัณณ์ที่กำลังสับสน ขณะจะอ้าปากตอบรับวารินทร์ใช้มืออุดปากของเขาสกัดกั้นคำตอบไม่ยอมให้เขาได้พูด

“อย่าเสียเวลาเกลี่ยกล่อมอัณณ์ อัณณ์เป็นคนรักและภรรยาของผม ทั้งชีวิตนี้ผมไม่รักใครอื่นอีกนอกจากอัณณ์”

มีความสุข

อัณณ์หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความยินดีและแสนสุขจนเอ่อล้น ให้ตายตอนนี้เลยก็ยังได้ ให้ตายเพราะถูกพ่อแม่ของคนรักฆ่าเขาก็ไม่เสียดาย

“แกมันบ้าวารินทร์” ดานิกาด่าเสียงกร้าว

“ฉันขอตัดแกออกจากกองมรดกและตระกูล จากนี้ไปแกจะไปทำอะไรที่ไหนก็ตามใจ”
คาโรลโกรธจนไม่อยากมองหน้าลูกชาย เขาพาดานิกาเดินออกจากห้องไป อัณณ์เขาใจว่าตนเองเป็นผู้นำความหายนะมาให้คนรัก หดหู่ไปพร้อมกับหวานซ่านในอก เมื่อคนรักยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อจะอยู่กับเขาตลอดไป

“อัณณ์ผมยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเธอแล้วนะ เธอรังเกียจผมที่ไม่มีฐานะอะไรเลยแล้วหรือเปล่า”

“ไม่…ไม่เลย”
อัณณ์ส่ายหน้าไปก่อนจะจุมพิตไปทั่วไปหน้าของคนรักอย่างตะกรุมตะกราม

“รัก รัก ต่อให้เราสองคนต้องลำบากกว่านี้ฉันก็จะรักนายตลอดไป”

“อัณณ์เธอช่างน่ารักเหลือเกิน”
วารินทร์จับอัณณ์เปลื้องผ้า ร่างบางเองก็แก้ผ้าของคนรักด้วยมือไม้ที่สั่นเทา ไม่ได้สั่นเพราะหวาดกลัว แต่รีบร้อนเกินไปจนแทบควบคุมสติไม่ได้ พอทั้งคู่เปลือยเปล่า คนรักก็จับเขานอนลงมือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างกายขาวนวลเนียนอย่างหลงใหล

“เธออยากทำรักกับผมหรือเปล่าอัณณ์”
คนถามโปรยยิ้มหวานมาให้ อัณณ์ถึงจะนอนนิ่งๆรอคอยการมอบความรัก แต่ในใจแทบอยากจะกระโจนคลุบคนรักเอาไว้แล้วฟัดจนกว่าจะสมรักสมอารมณ์

“กอดฉันเถอะที่รัก”
อัณณ์เอ่ยคำหวานเชิญชวน ไม่รอช้าวารินทร์แนบจูบลงมาหลายครั้งก่อนจะจรดริมฝีปากลงไปบนเครื่องเพศของอัณณ์ซึ่งตอนนี้ชูชันยั่วตาแล้วครอบครองปลุกเร้าให้

“อา…วารินทร์….ที่รัก….”
ร้องครางเสียงหวานหยด หลังจากถูกทำให้ปลดปล่อยถึงสองครั้ง วารินทร์ก็ใช้ปลายลิ้นโลมเลียไปยังดอกไม้สีชมพูตรงบริเวณบั้นท้าย ไม่แค่ใช้ปลายลิ้นไล้เลียแต่คนรักยังแทงปลายลิ้นร้อนเข้ามาด้านใน อัณร์ดิ้นพล่านด้วยความหฤหรรษ์

“พอ…พอแล้วเข้ามาเถอะ”
พอร้องขอออกไปก็ได้ตามที่หวัง วารินทร์สอดใส่ความเป็นชายอันร้อนผ่าวเข้ามาจนมิดด้าม วินาทีนั้นอัณรืก็กระตุกกายปลดปล่อยอีกครั้ง

“เธอรักผมใช่ไหมอัณณ์”
วารินทร์ถามขณะที่แก่นกายสอดคาไว้และไม่คิดจะขยับโยก

“รักรัก”
อัณณ์ผงกหัวหงึกหงักด้วยความต้องการคนรักจนแทบทนไม่ไหวจึงขยับสะโพกบดเบียด เรียวขาทั้งสองข้างก็เสียดสีเข้ากับร่างกายของวารินทร์

“ได้โปรดทำทีเถอะ ฉันรักนาย”
อ้อนวอนคนที่ทาบทับร่างกาย แต่คนรักยังดูใจเย็น วารินทร์ยิ้มขณะมองดูอัณณ์ทุรนทุรายด้วยแรงตัณหา

“แค่คำบอกรักมันยังไม่พอเลย ช่วยแสดงให้เห็นเป็นรูปธรรมหน่อยได้ไหมว่าเธอรักผม”
อัณณ์ไม่รอช้ารีบขยับเปลี่ยนท่า ผลักให้วารินทร์นอนลงก่อนจะขยับโยกร่างกายด้วยตนเองโดยหวังจะให้การกระทำเช่นนี้แทนคำบอกรักของตน

“แบบนี้ได้ไหมฉันทำถึงขนาดนี้แทนคำบอกรักได้หรือเปล่า”

“ครั้งเดียวมันยังไม่พอหรอก เธอต้องทำอย่างนี้กับผมไปทั้งชีวิต”

วารินทรืกระซิบบอกก่อนกระแทกกายสวนขึ้นไปเป็นจังหวะถี่รัวจนคนที่อยู่ด้านบนแทบน้ำตาเล็ด อัณณืกับวารินทร์เริงรักกันตลอดทั้งวันยาวนานดั่งเช่นทุกครั้งที่ทำกัน แต่ครั้งนี้อัณณ์หวามในอกและตื่นตัวมากกว่าทุกครั้ง เพราะเขากับวารินทร์ได้เป็นคนรักที่แท้จริงและไม่ต้องปิดบังสถานะอีกต่อไป

หลังจากการทำรักร้อนแรงดั่งพายุผ่านพ้นไป อัณณ์ที่อ่อนล้ายังออเซาะคลอเคลียคนรักไม่ห่าง อยากจะอยู่ในสภาพนี้ตลอดไป เขาไม่อยากให้อะไรมาพรากวารินทร์กับตนออกจากกัน


“เธอทำหน้าเหมือนไม่สบายใจมีอะไรหรืออัณณ์”

เรื่องที่นายถูกตัดออกจากตระกูลนะสิ”

“เธอรังเกียจผมที่เป็นคนไร้ทรัพย์อย่างนั้นหรือ”

“ไม่…ไม่ใช่นะ” อัณณ์ปฏิเสธลนลาน

“แค่กำลังพยายามคิดว่าเราจะเอาอย่างไรต่อไปดีต่างหาก”

“เธอกำลังคิดแทนผมอย่างนั้นหรือ”

“ใช่ถึงเป็นคนรักกัน แต่ก็เป็นข้ารับใช้มาก่อน ไม่สิ เพราะเท่าเทียมกันแล้วเลยอยากแบ่งเบาภาระอยากช่วยเหลือ ให้ฉันได้เป้นคนดูแลนายเถอะนะ”
อัณณ์วอนขอ คนฟังกระตุกยิ้มร้าย ร่างบางผวาเล็กๆด้วยไม่เข้าใจรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ของคนรักว่าหมายความอย่างไร

“ถ้ามันเป็นสิ่งที่เธอต้องการล่ะก็ ทำตามปรารถนาของเธอเถอะ ผมไม่ขัดใจเธอหรอก”

“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เรามาจัดการทรัพย์สินที่เหลืออยู่กันนะ”

อัณณ์ที่ได้สมดั่งหวังกระโจนเข้ากอดวารินทร์ซึ่งแย้มยิ้มละมุนละไม ร่างบางดีใจที่ได้รับอนุญาตให้จัดการเรื่องของคนรักได้ทั้งหมด วันนี้จะขอพักเอาแรงเสียก่อน แล้วพรุ่งนี้เขาตั้งใจจะจัดการเรื่องวุ่นๆทั้งหมด เริ่มต้นจากเรื่องเงินทองซึ่งเป็นสิ่งจำเป้นนี่แหละ ในเมื่อวารินทร์ถูกขับออกจากตระกูลแล้ว เขาที่เป็นต้นเหตุจึงมีหน้าที่หาเลี้ยงอีกฝ่ายให้สมกับที่เป็นคนรักอย่างแท้จริง

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อค่ะ :katai4:

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่18

“เราจะอยู่กันที่นี่หรือ”
อัณณ์สูดลมหายใจเข้าขณะมองดูหอพักเล็กที่วารินทร์เป็นคนเลือกหลังจากขายบ้านที่เคยอยู่ทิ้งไป

“เธอบอกเองไม่ใช่หรือว่าพวกเราจำต้องประหยัดเพราะถูกไล่ออกจากตระกูลทั้งคู่แล้ว”

“ก..ก็ใช่”
อัณณ์ยิ้มฝืดเฝื่อน พลางนึกถึงอดีตในตอนที่พบกับพ่อแม่ของตนเมื่อเร็วๆนี้

“กลับมาอยู่ที่บ้านของเราได้แล้วอัณณ์”
อิทธิฤทธิ์ออกคำสั่งทันทีที่พบหน้าลูกชาย

“ในเมื่อวารินทร์ไม่ได้เป็นปีศาจของตระกูลแอสโมดิอุสอีกแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่ลูกจะต้องคอยรับใช้อีกต่อไป”
พูดอะไรของพ่อกันหา”
อัณณ์สับสนไปหมด เขาไม่คิดมาก่อนว่าการเข้ามาปรึกษาเรื่องส่วนตัวระหว่างเขากับวารินทร์จะได้รับคำตอบแบบนี้

“แม่เห็นด้วยกับพ่อเขานะอัณณ์ วารินทร์ผู้นั้นไม่มีคุณค่าให้ลูกคอยรับใช้อีกต่อไปแล้ว กลับมาอยู่กับพวกเราเถอะแล้วเราจะหาเจ้านยายคนใหม่ให้ลูกเอง”

“ไม่ครับ”
อัณณ์ปฏิเสธด้วยใบหน้ามึนตึง คิดไม่ถึงว่าพ่อกับแม่จะเห็นแก่ลาภยศมากถึงขนาดบอกให้เขาทิ้งเจ้านายที่เคยรับใช้มาง่ายๆ สำหรับอัณณ์ถึงวารินทร์จะเหลือแต่ตัวเปล่า เขาก็จะขออยู่ข้างๆตลอดไป เพราะเขาคนนั้นเป็นผู้เป้นที่รักเพียงหนึ่งเดียวของเขา

“ผมไม่แยกห่างจากวารินทร์เด็ดขาด หากพ่อแม่ไม่สบายใจผมจะออกจากตระกูลเอง ถือซะว่าไม่เคยมีลูกอย่างผมไปก็แล้วกัน”

หลังจากตัดความสัมพันธ์กับพ่อแม่ ก็เข้าสู่เวลาวิกฤติอย่างแท้จริง อัณณ์กับวารินทร์ไร้ผู้ปกครองซึ่งเป็นที่พึ่ง เขาไม่รู้ว่าคนรักมีทรัพย์สินมากน้อยแค่ไหน แต่ตัวเขาพอจะมีอยู่บ้างหากแต่ไม่มาก ดังนั้นอัณณ์จึงเกลี่ยกล่อมให้วารินทร์ขายบ้านราคาแพงทิ้งไป แล้วออกมาอยู่ในหอพักราคาย่อมเยากว่า

“วารินทร์รอฉันก่อนนะในอนาคตฉันจะเก็บเงินซื้อบ้านที่เป็นของเราสองคน”
อัณณ์บอกกับวารินทร์เช่นนั้น หลังจากขายบ้านไปเรียบร้อยแล้ว

“เธอจะเป็นคนเก็บเงินซื้อบ้านของเราเองอย่างนั้นหรือ”

“แน่นอน”
ยืนยันคำถามของคนรักเป้นมั่นเหมาะ ไม่รู้ทำไมวารินทร์กระตุกยิ้มร้ายๆแล้วหัวเราะเบาๆด้วยความพออกพอใจ
ทั้งที่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ด้วยดีแต่แค่เห็นหอพักที่วารินทร์เป็นคนเลือกแล้วก็เริ่มหดหู่ใจ อัณณ์ถึงอยากเปลี่ยนหอพักใหม่แต่คนของบริษัทขนของก็จัดของเข้าห้องเรียบร้อยแล้ว

“เอ่อ…”
พูดไม่ออก หลังจากวารินทร์จูงมือเข้ามาในห้องพักเล็กๆข้าวของเครื่องใช้ที่อัณณ์คิดจะเก็บไว้ถูกวารินทร์จัดการขายไปจนเกือบหมดแล้วซื้อใหม่

ตอนนี้ในห้องเล็กๆมีเตียงขนาดห้าฟุตหนึ่งหลังที่แค่เตียงก็ปาเข้าไปตั้งครึ่งห้องแล้ว กระทะไฟฟ้ากับกระติกน้ำร้อนอย่างละหนึ่งชิ้น ตู้เสื้อผ้าที่เป้นของหอพักตั้งแต่ต้น แล้วก้โต๊ะเขียนหนังสืออีกหนึ่งตัว
ไม่มีโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศหรือว่าโซฟา ในห้องน้ำเล็กๆก็ไม่มีอ่างน้ำเอาไว้แช่กายมีแต่ฝักบัวและโถส้วมซึ่งรวมอยู่ในห้องเดียวกัน ยิ่งได้สัมผัส ก็ยิ่งอยากร้องไห้ ร่างบางสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ แต่แค่คิดว่าวารินทร์จะต้องมาทนลำบากเขาก็รู้สึกปวดใจ

“เธอร้องไห้ทำไมอัณร์”
วารินทร์เอ่ยถามคนที่ปาดน้ำตาปอยๆ อัณณ์สะเทือนใจจนโผเข้ากอดคนรักแล้วเริ่มพร่ำพูดคำสัญญาของตน

“ฉันจะพยายามเก็บเงินเพื่อซื้อบ้านของเราตั้งแต่พรุ่งนี้ฉันจะไปทำงาน แต่วันนี้ยังไงก็ต้องไปลาพักการเรียนที่สถาบันก่อน”

“อัณณ์เธอไม่ต้องลำบากหางานหรอกผมจะทำเอง”

“ไม่ได้นะ แค่คิดว่านายจะต้องทนลำบากทำงานใช้แรงฉันก็ทนไม่ได้แล้ว”
อัณณ์สาบานว่าจะไม่ยอมให้วารินทร์ไปลำบากมากว่านี้อย่างเด็ดขาด เขาจะทำงานหาเงินคอยดูเถอะ มันจะต้องไปได้สวย

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปที่สถาบันซักสองสามชั่วโมงนะวารินทร์ก็นอนเล่นไปก่อน เดี๋ยวจะกลับมาทำอาหารให้กน”
อัณณ์จุมพิตวารินทร์ จูบก่อนออกจากบ้านอันหวานหวามทำให้ร่างบางสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก

“เอาล่ะหลังจากลาพักก้ต้องไปสัมภาษณ์”
พึมพำกับตัวเองแล้วกระโดขึ้นรถประจำทางมุ่งหน้าไปยังสถาบันฮิสตอเรีย
หลังจากลาพักการศึกษาชั่วคราวสำเร็จ อัณณ์ก็ถูกเรียกในตอนที่เดินออกจากสถาบัน ร่างบางหันไปมองก็พบกับศิศิราวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา

“หายไปไหนมาตั้งหลายวัน”
ศิศิราตีหน้ายักษ์แล้วป้อนคำถามอื่นต่อรัวเร็ว

“นายย้ายบ้าน ทำไมถึงขายบ้านมันเกิดอะไรขึ้น”

“ใจเย็นก่อนศิรา”
อัณณ์พยายามพูดปลอบคนที่พลุ่งพล่าน แต่ศิศิราไม่ยอมสงบสติอารมณ์ง่ายๆ ร่างบางจำต้องเล่าเรื่องทั้งหมดออกไป

“แล้วนี่ก้เลยมาพักการเรียนอย่านั้นหรือ”

“ใช่” อัณณ์ตอบ

“ทำไมถึงกลายมาเป็นแบบนี้ นายต้องทนลำบากเพื่อเจ้าวารินทร์อีกซักกี่ครั้งถึงจะพอใจ”

“ฉันรักวารินทร์ ศิราเข้าใจฉันหน่อยนะ”
คนที่ออกอาการฮึดฮัดมีสีหน้าเหนื่อยหน่าย เห็นได้ชัดว่าศิศิราจะไม่หายหงุดงิดง่ายๆ

“ขอบคุณนะที่เป็นห่วง ศิราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่ฉันเคยมีมาเลยขอบคุณนะ”

“แน่นอนอยู่แล้ว”
พอถูกชมศิศิราก็คลายอาการขึงโกรธ แต่ไม่ได้หายจากอารมณ์หงุดหงิด อัณณ์ได้แต่คิดว่าก็ยังดีที่อีกฝ่ายผ่อนคลายลงบ้างแล้ว

“แล้วเอายังไงต่อ” ศิศิราถาม

“ฉันกำลังจะไปสัมภาษณ์งาน”

“ที่ไหน”

“ร้านคาเฟ่ชื่อthe cat ที่อยู่ในตัวเมือง”

“แล้วเจ้าวารินทร์ล่ะหางานหรือยัง”

“ฉันให้เขาอยู่บ้านเฉยๆ”

“อะไรนะ” ศิศิราแยกเขี้ยวพร้อมกับร้องโวยวาย

“บ้าไปแล้ว ทำไมไม่ให้เจ้าบ้านั่นช่วยทำงานเล่า”

“ฉันสงสารเขาที่ถูกไล่ออกจากตระกูลมาลำบากเพราะฉัน แค่ช่วงนี้ก็ยังดี อยากให้เขามใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายคล้ายๆกับเมื่อก่อน”

“ด้วยการให้หมอนั่นกลายเป็นแมงดานี่นะ”

“แมงดาอะไร พูดซะเสียหายน่าเกลียดออก”
อัณณ์ขมวดคิ้วเพราะเริ่มไม่ชอบใจคำจำกัดความของศิศิรา

“ก็ทำอยู่นี่ไง อยู่บ้านเฉยๆ เกาะเมียกิน”

“ฉันเป็นคนห้ามไม่ให้เขาทำเอง อย่าว่าวารินทร์เลย”  คนฟังเอามือปิดหน้าที่กำลังบูดบึ้งหลังจากเปิดเผยใบหน้าอีกครั้ง อัณณ์เห็นเส้นเลือดปูดบวมบนขมับของศิศิรา

“ถ้าเสียใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อไหร่ ก็มาให้ฉันช่วยแล้วกัน แต่นายต้องเสียใจแน่ๆเชื่อฉันเถอะ”

ศิศิรากล่าวทิ้งท้ายก่อนจะกลับเข้าห้องเรียน อัณณ์ยังไม่เข้าใจอยุ่ดี ตนเองจะต้องเสียใจที่ตรงไหน เมื่อกำลังมีความสุข คนรักของเขา มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ ยอมให้เขาจัดการทรัพย์สินและทุกๆอย่างโดยไม่ปริปากบ่น น่ายินดีจะตาย ไม่เข้าใจความหมายของศิศิราจริงๆ

“เอาล่ะ”
อัณณ์บิดขี้เกียจไปมา

“ไปสัมภาษณ์งานต่อดีกว่า”ร่างบางจับรถมุ่งหน้าไปยังร้านที่นัดสัมภาษณ์เอาไว้ในเวลาถัดมา

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

นิยายก็ใกล้จะ จบแล้วนะคะเหลืออีกไม่กี่ตอน

ยังไงก็ขอบคุณคุณazureมากนะคะที่ตามเม้นให้ตลอดเลย

เป็นกำลังใจให้เรามากจริงๆค่ะ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
วาริณร์ทิ้งทุกอย่างเพื่ออัญญ์เลย หวังว่าทั้งคู่จะประคับประครองความรักนี้ให้ผ่านพ้นไปได้นะ
แต่อัญญ์นี่ดื้อมาก ให้ตายเถอะ ถามสามีตัวเองสักคำไหมว่าอยากอยู่บ้านเฉยๆไหม?
เดียวถ้าวาริณรู้เรื่องอัญญ์จะโดนมิใช่น้อยแน่ๆ 5555 :hao7: :hao7:

ส่วนตัวเราเป็นคนชอบแนวแฟนตาซีอย่างนี้มากซึ่งไม่ค่อยจะมีคนเขียนเท่าไร
 คนเขียนอย่าเพิ่งท้อนะคะ  สะสมประสบการ์ณไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งความสำเร็จมันต้องเป็นของเรา

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่19

หลังจากสัมภาษณ์งานผ่านอัณณ์ก้แวะซื้อของตรงซุปเปอร์มาเก็ตก่อนกลับ และเพราะอยากกลับบ้านให้เร็วขึ้นจึงเดินลัดกลับบ้านทางสวนสาธารณะ

“วันนี้ทำอาหารมื้อใหญ่ฉลองดีกว่า”
ฮัมเพลงไปตลอดทางเดินกลับบ้าน จังหวะที่เดินอยู่ในสวนสาธารนะก็สะดุดตาเข้ากับชายไร้บ้านผู้ซึ่งนอนอยู่บนม้านั่ง

“หิวเหลือเกิน ขอของกินหน่อย”
ดูเหมือนว่าอาหารทานเล่นที่อัณณ์ซื้อมาจะมีกลิ่นเตะจมูกของคนคนนั้น รู้สึกตกใจที่ถูกของของกินแต่เพราะเกิดสงสารเสียแล้วจึงยกอาหารทานเล่นที่บรรจุอยู่ในถุงยื่นให้

“ลุงเอาไปเถอะ”

“ขอบคุณนะแม่หนู”
คนฟังยิ้มฝืดๆ ถูกเรียกว่าแม่หนู อาจเป็นเพราะมีหน้าตาคล้ายผู้หยิงมากมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ชอบก็จริงแต่จะโกรธคนที่น่าสงสารก็เกินไปหน่อย จึงได้แต่บอกลาแล้วเดินจากมา

“กลับมาแล้ว”
อัณณ์เข้าไปในห้อง พอปะเข้ากับวารินทร์ซึ่งนั่งทำอาหารอยู่โดยใช้กระทะไฟฟ้า ร่างบางก็แตกตื่นในทันที

“ทำอะไรนะวารินทร์”

“ผมกำลังทำผัดผักคิดว่าจะแบ่งเบาภาระให้เธอสักนิด”
คนถูกถามยิ้มอ่อนโยนขณะลงมือตั้งใจปรุงอาหาร แต่ก้ถูกอัณณ์แย่งตะหลิวออกจากมือแล้วขอร้องให้วารินทร์นั่งรอเฉยๆ

“เธอจะไม่ให้ผมทำงานบ้านช่วยเธอเลยหรืออัณณ์”
วารินทร์เอ่ยถามขณะรับประทานอาหารที่อัณณ์เป็นคนทำต่อ

“จะได้ยังไงล่ะ ฉันไม่ยอมให้นายลำบากกว่านี้หรอก ตอนที่ยังอยู่ในตระกูลแค่ทำความสะอาดห้องยังไม่เคยทำเลยไม่ใช่หรือไง”

อัณณ์พูดความจริง ตอนที่อยู่ในคฤหาสน์ประจำตระกูลห้องของวารินทร์มักมีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ พอมาซื้อบ้านอยู่กับเขาอัณณ์ก็รับหน้าที่ทำให้ทั้งหมด ถึงคนรักจะตกต่ำ แต่อัณณ์ก็อย่างทำเรื่องต่างๆให้เหมือนกับเมื่อสมัยก่อน ไม่อยากให้อีกฝ่ายนึกเสียที่ทิ้งตระกูลมาเพื่อตนเองในภายหลัง

“ผมอยากแบ่งเบาภาระให้เธอนะ”

“อย่าเลย ให้ฉันได้ทำให้นายทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อนเถอะ”
คนถูกขอร้องหน้านิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนจะกระตุกยิ้มร้าย อัณณ์ตกใจและหวาดหวั่นกับรอยยิ้มนั้นเหลือเกิน เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่คนรักมักจะมีท่าทางร้ายๆแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง

“เข้าใจแล้ว ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอปรารถนา”
เมื่อรอยยิ้มอ่อนโบนประดับอยู่บนใบหน้าของวารินทร์อีกครั้งอัณณ์ก็โล่งอกจนโผเข้ากอดจุมพิตไปพร้อมกับพูดพร่ำขอบคุณที่คนรักยอมตามใจเขาทุกอย่าง

“อัณณ์ผมอยากได้คอมพิวเตอร์ เผลอขายทิ้งไป แต่ตอนนี้มันจำเป็นต้องใช้มากเธอซื้อมาให้หน่อยสิ”

“ได้ได้ เราไปวื้อกันเดี๋ยวนี้เลย”
อัณณ์จูงมือพาคนรักมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของตามที่อีกฝ่ายต้องการในเวลาถัดมา
หลังจากทำงานที่ร้านคาเฟ่มาได้หนึ่งเดือน อัณณ์ก้สนิทสนมกับคนในร้านยิ่งขึ้น ยิ่งคืนวันผ่านไปเขาก็ปรับตัวในฐานะคนทำงานได้อย่างกลมกลืน วันนี้ก็เช่นกัน อัณร์ทำงานจนครบเวลาแปดชั่วโมงกล่าวลาผู้จัดการก่อนกลับบ้านเหมือนทุกที

“กลับก่อนนะครับ”

“กลับดีดีล่ะ” ผู้จัดการเอ่ยคำลากับอัณณ์ หลังจากโบกมือลาเรียบร้อยก็ออกจากร้านมาช่วงเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม เขาเดินทอดน่องออกจากร้านก่อนจะหยุดชะงักเมื่อชายชุดดำสองคนเข้ามาล้อมกรอบ

"ตั้งใจจะทำอะไร”
อัณณ์มองหาทางหนีทีไล่ หากโดนจู่โจม ร่างบางตั้งใจจะสู้จนถึงที่สุดไม่ให้เสียชื่อผู้ติดตามของวารินทร์

“ท่านลูซิเฟอณ์ต้องการพบคุณครับ”
ร่างบางอุทานดังเอ๊ะ ก่อนจะมองไปยังรถยนต์หรูสีดำที่จอดอยู่ใกล้ๆ ประตูรถคันนั้นเปิดออกภายในนั้นมีชายผู้มีรูปโฉมงดงามจนยากจะอธิบายพยักเพยิดส่งสัญญาณให้อัณณ์เข้าไปในรถ

“รีบหน่อยเถอะครับคุณรีรอแบบนี้นอกจากจะเกะกะคนอื่นท่านลูซิเฟอร์จะไม่พอใจเอาเปล่าๆ”
อัณณ์ถูกรุนหลังเบาๆ เขาเข้าไปนั่งในรถประจันหน้ากับลูซิเฟอร์ด้วยอาการกึ่งงงกึ่งสับสน

“อา….”
อัณณ์ส่งเสียงอึกอัก หลังจากรถยนต์เคลื่อนตัวออกจากริมฟุตบาตร ร่างบางถูกลูซิเฟอร์จ้องหน้าอยู่นานโดยไม่พูดอะไรทำเอาใจเขาฟ่อไปหมด

“ไปจากวารินทร์ซะ”
อย่างที่คิด อีกฝ่ายอ้าปากปุ๊บก็พูดถึงวารินทร์ทันที รู้อยู่แล้วสักวันลูซิเฟอร์ต้องออกโรง ทำไมจะไม่เป็นอย่างนั้นล่ะก็ท่านผู้นี้เป็นตัวตั้งตัวตีจะให้วารินทร์แต่งงานกับยูลินี่นะ

“เธอกำลังทำให้วารินทร์ลำบาก ดูสิเขาถูกขับไล่ออกจากตระกูล ไร้บ้านไร้เงินไร้ฐานะ เธอพรากทุกอย่างไปจากเขารู้หรือเปล่า”
อัณณ์สำนึกตัวดีอยู่ตลอด แต่การที่คนอื่นมาพูดกลับทำให้เจ็บมากกว่าสำนึกด้วยตนเองเป็นร้อยเป็นพันเท่า

“ตอนนี้วารินทร์ทำอะไรอยู่”

“อยู่บ้านเฉยๆครับ” อัณณ์ตอบ

“เธอไม่รู้สึกตัวหรือว่ามันผิดวิสัยวารินทร์ เจ้าปีศาจน้อยนั่นฉันรู้จักเขามาตั้งแต่ยังเล็ก เขาไม่มีวันปล่อยตัวให้เหลวแหลกอย่างนี้ นี่เขาคงผิดหวังจนไม่อยากจะทำอะไรแล้วล่ะมั้ง”
พอถูกจี้ใจดำอัณณ์ก็มีสีหน้าสลดอาจเป็นดั่งที่ลูซิเฟอร์พูดจริง หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ถึงแม้เขาจะห้ามไม่ให้วารินทร์ทำอะไร แต่เอาเข้าจริงๆการที่คนรักนอนแผ่กลิ้งไปกลิ้งมาเฉยๆ ทำให้ร่างบางวิตกกังวลอยู่บ้างเหมือนกัน อีกฝ่ายดูเรื่อยเฉื่อยและไม่กระตือรือร้นเท่าเมื่อก่อน ที่ว่าผิดหวังอาจจะจริงอย่างที่ลูซิเฟอร์พูด

“ขอให้เธอคิดดูให้ดี อนาคตของเขากับเธออยู่ในมือเธอนะ ฉันไม่โกรธวารินทร์เลยและพร้อมจะให้อภัยเขาในการกระทำโง่ๆเสมอ”
ลูซิเฟอร์กล่าวจบรถยนต์คันหรูก้จอดเช่นกัน ประตูถูกเปิดออกโดยชายชุดดำ ด้านนอกเป็นหน้าหอพักที่เขาอาศัยอยู่ อัณณ์ก้าวเท้าลงจากรถไม่พูดไม่จา

“อัณณ์เธอไม่พอใจกับการเป็นอนุภรรยาของวารินทร์ขนาดนั้นเชียวหรือ”

ถูกยื่นเงื่อนไขอีกครั้ง สำหรับเขาใช่ว่าจะไม่พอใจที่ได้เป็นอนุภรรยา การแบ่งคนรักทำให้เจ็บปวดมากก็จริงแต่หากทำให้วารินทร์ต้องเดือดร้อนเขาก็ยอมรับได้

นั่นเป็นความคิดก่อนหน้าที่วารินทร์จะตกลงปลงใจกัดก้อนเกลือกับเขา อัณณ์ในเวลานี้เรียกได้ว่ามีความสุข หากไม่มีปัญหาใหญ่เกี่ยวกับพฤติกรรมของวารินทร์ที่เปลี่ยนไปคงจะดีกว่านี้

“กลับมาแล้ว”
ร่างบางตัดสินใจเปิดประตูหลังจากทำใจอยู่นาน พอเปิดประตูเข้าไปก็พบกับวารินทร์กำลังนั่งเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์แบบออนไลน์อย่างคร่ำเคร่ง อัณณ์เห็นแล้วหดหู่จนไม่มีแรง หนึ่งเดือนมานี้ตั้งแต่ซื้อคอมพิวเตอร์มาให้ คนรักก็เอาแต่หมกหมุ่นกับเกมส์ไร้สาระมาโดยตลอด

“วันนี้จะกินอะไรดี”

“แล้วแต่เธอผมกินทั้งนั้น”

คนถูกถามตอบโดยไม่ยอมหันมามอง อัณณ์ได้แต่ถอนหายใจ ในหัวเอาแต่เฝ้าครุ่นคิดว่าปัญหามันอยู่ที่ตรงไหน และควรจะแก้ยังไง ร่างบางไม่กล้าโวยวายในพฤติกรรมของคนรัก หากถ้าตักเตือนไปก็ไม่รู้จะมีปฏิกิริยาเช่นไร ใช่เขากลัว กลัววารินทร์จะระเบิดอารมณ์ขึงเครียดเข้าใส่ และโทษว่าเขาเป็นคนผิดที่ทำให้ต้องมาตกต่ำและลำบาก

อัณณ์รู้อยู่ว่าคนรักคงเครียดมากพฤติกรรมจึงได้เปลี่ยนแปลงไป วารินทร์ในตอนนี้มีสภาพไม่ต่างจากนีทที่วันวันเอาแต่เล่นเกมส์อยู่หน้าจอคอม

“วารินทร์มาช่วยฉันทำอาหารดีไหม”

“ก็ได้อยู่หรอก แต่ผมกำลังลงดันเจี้ยนอยู่เธอรอซักชั่วโมงนะ”
อยากร้องไห้ แต่ก็ร้องไม่ออก อัณรืได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำอาหารเพียงลำพัง มีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกันตลอด แต่อยากให้วารินทร์คนเดิมกลับมา มากกว่าจะมีสภาพเลวร้ายอย่างนี้

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่20

“เฮ้อ”

อัณณ์ทอดถอนหายใจหลังจากนั่งเหม่อลอยอยู่ในสวนสาธารนะใกล้บ้านนานนับชั่วโมง วันนี้เขาได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ก่อนเวลาเนื่องจากเจ้าของร้านปิดร้านฉลองวันเกิดให้ลูกสาว ร่างบางจึงได้เลิกงานตอนบ่ายมงแล้วมานั่งแกร่วอยู่ตรงนี้

ไม่อยากรีบกลับบ้านเลย

อัณณ์ถอนหายใจอีกครั้ง การที่ไม่อยากรีบกลับบ้านเพราะกลับไปต้องเจอความเดียวดายจากการถูกวารินทร์นั่งเล่นเกมส์ติดพันจนเมินเฉยต่อเขาเหมือนในวันหยุด

มันสนุกขนาดนั้นเลยหรือ

เฝ้าครุ่นคิดถึงเจ้าเกมส์ไร้สาระที่พวกมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงโชคยังดีที่วารินทร์ไม่นิยมเกมส์เสมือนจริงไม่งั้นกลับไปคงได้เห็นอีกฝ่ายเอาแต่นอนเล่นเกมส์เหมือนคนตายเป้นแน่แท้

ควรจะผสมโรงเล่นด้วยดีไหมนะ

หากเล่นด้วยกันคงจะสามารถหาเรื่องพูดคุยแล้วสนุกสนานด้วยกันได้ แต่อัณณ์ไร้ทักษะในด้านนี้โดยสิ้นเชิง เกมส์ดังๆมากมายที่ถูกศิศิรายัดเยียดให้ก็ไม่เคยเล่นจนจบซักครั้ง เกมส์ออนไลน์ก็เลิกเล่นกลางคัน เพราะทุกวันนี้โลกใบนี้มันก็แฟนตาซีมากพออยู่แล้ว

ควรจะกลับบ้านไปดีหรือเปล่านะ

อัณณ์คิดว่ากลับไปเร็วก็ต้องไปนั่งเจียมตัวเพียงลำพัง ในตอนที่เอาแต่กังวลก็ถูกทักจากชายคนหนึ่ง

“อ้าววันนี้ก็มานั่งเครียดอีกแล้วหรือคุณหนู”
อัณณ์หันไปมองคนทัก ตรงหน้าชายไร้บ้านที่เขาเคยให้ของกินเป็นประจำในระยะนี้ยืนอยู่ เสื้อผ้าปอนๆกับหนวดเครารกครึ้มทำให้ใครๆก็ไม่อยากเข้าใกล้ แต่ร่างบางชินเสียแล้วเพราะหลายวันมานี้ทั้งให้ของกินทั้งพูดคุยกันบ้างเป็นครั้งคราว

“มีเรื่องไม่สบายใจหรือ”
อีกฝ่ายถือวิสาสะนั่งลงข้างๆอัณร์ลังเลที่จะปรึกษา แต่หลายสัปดาห์มานี้อัดอั้นใจมาก ด้วยไม่กล้าเอาไปปรึกษาศิศิราจึงเอ่ยปากบอกความในใจของตนให้คนไร้บ้านฟัง

“อ๋อหนูกังวลเรื่องที่เขาเปลี่ยนไป เพราะอาจจะเครียดเรื่องที่ต้องมาทนลำบากหรอกหรือ”
ร่างบางพยักหน้า ช่วงนี้กังวลจนถึงขั้นฝันร้ายว่าถูกวารินทร์ด่าทอเรื่งที่เขาเป็นต้นเหตุให้ถูกขับออกจากตระกูล ในฝันวารินทร์กลายเป็นคนเก็บตัวพุงพลุ้ยเอาแต่นั่งเล่นเกมส์ไปวันๆ ไม่มีมาดของผู้สืบทอดราชาแห่งบาปเหลืออยู่เลย ในฝันอัณร์ร้องไห้ไปพร้อมกับคุกเข่าขอโทษไม่หยุด

“หนูไม่ถามเขาล่ะ ว่าเขาคิดยังไงต้องการอะไร หนูเอาแต่คิดไปเอง แล้วปล่อยผ่านเรื่องมันจะสายเกินแก้นะ”

“ควรจะถามหรือครับ”
อัณณ์เริ่มไม่แน่ใจว่าถามออกไปมันจะดีจริงๆนะหรือ ร่างบาวกลัวว่าถามออกไปอาจจะกลายเป็นการแตกหักเสียมากกว่า

“ถามเขาเถอะอะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิดปล่อยไว้อย่างนี้หนูลำบากใจใช่ไหม”

ร่างบางก้มหน้าครุ่นคิด หากว่าต้องแตกหักเขาก็จะง้ออีกฝ่ายจนกว่าจะคืนดีกัน แต่ยังไงก็ไม่อยากให้คนรักต้องทำตัวตกต่ำต่อไป
ปวดใจ

 ถ้าเกิดถามออกไปแล้ววารินทร์อาจจะเบิกเลิกแล้วกลับไปอยู่กับครอบครัว แต่มันอาจจะดีก็ได้เพื่อให้สุดที่รักของเขากลับมาเป็นคนเดิม ทว่า เขาจะยอมเสียสละถึงขั้นนั้นได้จริงๆนะหรือ ถึงแม้จะลังเล กระนั้นก็ยังเลือกจะกลับไปเปิดอกคุยเนื่องจากคิดว่าเป้นหนทางที่ดีที่สุดในตอนนี้

แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านอัณณ์เห็นรถยนต์คันงามจอดอยู่ตรงหน้าหอพัก คิว่ามันแปลกๆจึงแอบหลบดูสถานะการณ์ด้วยการบินขึ้นไปบนต้นไม้สูงและลอบมองอยู่ใกล้ๆ

ท่านลูซิเฟอร์หรือเปล่านะ

ร่างบางเพ่งมองไปยังประตูห้องพักของตน ในตอนนั้นประตูก็เปิดออก วารินทร์เดินออกมาจากห้องในชุดสูทราคาแพงซึ่งไม่ได้เห็นมานาน อัณณ์ปิติยินดีที่คนรักกลับมาแต่งตัวแบบเดิมหลังจากเอาแต่ใส่เสื้อยืดลายการ์ตูนกับกางเกงยีนตัวซ้ำๆตั้งแต่มาอยู่ที่หอพักนี้

แต่คนที่ก้าวเท้าตามออกมาจากห้องนี่สิทำให้ความดีใจสะดุด ชายหนุ่มผมยาวซึ่งมีรูปลักษณ์งามสง่า ยิ่งมองดูยิ่งรู้สึกถึงความงามอันเลิศล้ำแบบที่อัณณ์ชักกังวล

ใครกันนะ

อัณณ์มองดูคนรักกับคนแปลกหน้าขึ้นรถไป ร่างบางตัดสินใจกางปีกบินตามไล่หลังรถคันที่ว่าไป เมื่อถึงจดหมายปลายทาง อัณณืมองดูคนทั้งคู่หายเข้าไปในโรงแรมระดับหกดาว
นานหลายชั่วโมงทีเดียวก่อนที่ทั้งคู่จะกลับออกมาโฑดยที่คนแปลกหน้าพาวารินทร์มาส่งที่หอพัก ร่างบางสับสนไปหมด เนื่องจากไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คนรักแต่งตัวหล่อเหล่าหายเข้าไปในโรงแรมกับคนรูปงาม

ไม่นะอย่าให้เป็นอย่างที่คิด

อัณณ์ตัดสินใจรอให้ถึงเวลาหนึ่งทุ่มก่อนจะพาตัวเองกลับเข้าหอพักที่มีวารินทร์รออยู่

“กลับมาแล้ว”

“กลับมาเร็วจัง”
วารินทน์ตอบรับทั้งที่ยังเล่นเกมส์ออนไลน์ติดพัน คนรักในยามนี้แต่งตัวด้วยเสื้อยืดลายการ์ตูนกางเกงยีนเหมือนปกติ อัณณ์คิดว่าช่างแต่งต่างกับเมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมาเสียนี่กระไร

คนรูปงามคนนั้นเป็นใครกันนะ

แล้วเข้าโรงแรงไปด้วยกันเพื่ออะไร
อยากจะถามไปตรงๆ แต่ก้กลัวจะรับความจริงไม่ได้ จึงได้แต่ถามคำถามอ้อมๆออกไป

“วันนี้ไปไหนมาบ้าง”
พยายามปั้นยิ้มให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อัณณ์รู้ดีว่าอาจจะลำบาก แต่ไม่อยากให้ตัวเองดูมีพิรุธ

“ก็ไปวื้อของปกตินะไม่มีอะไรนี่”

ซื้อของ
อัณณ์ทวนคำในหัวหลายครั้ง ร่างบางไม่เข้าสใจว่าไปซื้ออะไรในโรงแรงกับคนที่รูปงามถึงเพียงนั้น

โกรธ หึงหวง น้อยใจ ผิดหวัง

แต่ไม่กล้าจะระเบิดอารมณ์ออกมาเนื่องจากไม่ต้องการถูกคนรักทิ้งไปเหมือนกับสลัดผ้าขี้ริ้วเก่าๆทิ้ง ดัวนั้นจึงได้แต่ปั้นหน้ายิ้มทั้งที่อกตรมอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาหลายวัน

“หมู่นี้เธอกลับบ้านเร็วขึ้นนะ” วารินทร์ถามขึ้นขณะรับประทานอาหารเช้าร่วมกับอัณณ์

“ไม่ดีหรือ” อัณณ์ฉีกยิ้มเอาใจ

“ทำไมจะไม่ดีล่ะผมดีใจที่ได้อยู่ใกล้ชิดเธอมากขึ้นนะ”

อัณณ์ผงกหัวหงึกๆก่อนจะลอบตีหน้าสลด ที่ตนกลับบ้านเร็วขึ้นเพราะอยากจะกลับมาจับผิดวารินทร์ว่ายังแอบพบกับคนรูปงามคนนั้นหรือเปล่า แต่ถึงกลับมาเร็วก้พบกับวารินทร์นั่งเล่นเกมส์อยู่ทีบ้าน เพราะอย่างนั้นจึงเบาใจ คิดว่าอาจจะเป้นการนอกใจแค่ชั่วครั้งชั่วคราวของคนรัก

“เธอไม่ต้องล้างจากนะอัณณ์วันนี้ผมล้างให้”

คนรักเมื่อเก็บจานก้ตรงไปที่คอมพิวเตอร์เปิดเครื่องแล้วเข้าสู่โลกออนไลน์เหมือนทุกวัน ใจหนึ่งอยากจะว้ากออกไป แต่อีกใจก็ยินดีที่อีกฝ่ายอาสาช่วยงานบ้าน

“วารินทร์ฉันทำอาหารกลางวันไว้ให้แล้วอุ่นก่อนทานด้วยนะ”

คนรักผงกหัวโดยเอาแต่จ้องหน้าจอคอม หมู่นี้คนรักเอาแต่เล่นโวเชียลพูดคุยกับคนหลายคน

อยากรู้นักว่าคุยอะไรกับใคร

แต่ก็ยังมีความเกรงใจอยู่จึงได้แต่นิ่งเงียบให้วารินทร์ทำตามใจชอบโดยไม่คิดจะถาม

รู้สึกเหมือนกำลังห่างกันออกไป

ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์บนเตียงจะยังหวานชื่นแน่นแฟ้นกันดี คนรักไม่ได้แสดงท่าทางรำคาญที่เขาออดอ้อนขอทำรักแทบทุกวัน แต่ก้เหมือนมีกำแพงกั้นที่เรียกว่าสังคมออนไลน์เข้ามาเป็นตัวกลาง
บางครั้งก็เห็นวารินทร์เปิดตารางแปลกๆในเว็บขึ้นมาดูบางครั้งก็คุยกับคนในอินเตอร์เน็ตเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนจะมาร่วมรักกับเขาเป็นการชดเชย

อยากชะโงกหน้าไปดูที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ อยากจะถาม แต่ความกลัวมีมากกว่า หากถามออกไปแล้วเกิดแตกหักขึ้นมาล่ะ เขาจะทำอย่างไร

จะต้องสูญเสียยอดดวงใจไปหรือ ทุกวันนี้ถึงวารินทร์จะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปในทางร้าย แต่อัณณ์ไม่เคยโทษคนรัก เพราะเขาลากคนรักมาลำบากต่างหากเพราะฉะนั้นเขาจะอดทน ความรักต้องชนะทุกสิ่ง หากเขายึดมั่นในความรักแบบนี้ซักวันวารินทร์จะต้องเข้าใจและกลับมาเป็นคนเดิม

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ใกล้จะจบแล้วนะคะอีกไม่กี่ตอน

รู้สึกโล่งที่เข็นออกมาได้จนจบ

ตอนนี้กำลังมองหาพล๊อตเรื่องใหม่ๆอยู่ค่ะ

ใจจริงอยากจะเขียนอินคิวบัสอีกซักเรื่องนะนี่55555

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
สงสารอัณณ์อ่ะ

ออฟไลน์ yaoisamasang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Yaoi-Sama/463499467036395?ref=hl
 ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า ไม่เอามาม่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ร้องไห้แปป มาม่ามาอืดเลย แต่อีกไม่กี่ตอนก็จบเนอะ รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
วาริณอาจจะทำงานออนไลน์ก็ได้นะอัญญ์. อย่างเพิ่งคิดไปเอง :mew5:

อัญญ์อยากรู้อะไรก็ถามซิ เก็บเงียบไว้มันไม่ดีกับตัวเองน้า :hao5:

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่21
“ยังไม่หายกลุ้มใจอีกหรือคุณหนู”
อัณณ์เงยหน้ามองดูแอสชายไร้บ้านซึ่งหมู่นี้สนิทสนมกับเขามากเป็นพิเศษ เนื่องจากอัณร์มักมานั่งกลุ้มใจอยู่ที่เดิมเป็นประจำ

“หนูกังวลว่าเขาจะนอกใจอย่างนั้นหรือ”
อัณณ์ยิ้มเจื่อนๆเมื่อแอสทำหน้าตกใจ แต่ในเมื่อเผลอเล่าไปแล้วก็ช่วยไม่ได้จึงได้แต่รอฟังว่าคนตรงหน้าคิดเห็นเป้นเช่นไร

“คุณหนูถามเขาแล้วหรือยัง หากหนูไม่อยากลำบากใจหนูก็ถามเขาออกไปตรงๆสิ”
ถูกแนะนำให้ไปถามตรงๆ อัณณ์นั่งคิดอยู่หลายนาทีเรื่องจะเริ่มต้นพูดกับวารินทร์ยังไงดีจนตัดสินใจได้ว่าจะทำอย่างไรก็กล่าวลากับแอสพร้อมกับให้ของกินอีกฝ่ายเหมือนทุกครั้ง

“รถคันนี้มัน”
อัณร์พึมพำ ดวงตาเขาเบิกกว้าง เขาจำรถยนต์คันงามคันนี้ได้ว่าเป็นของใคนมันเป็นรถที่ชายรูปงามใช้รับส่งวารินทร์ไม่ผิดแน่ๆ

“มาทำไมนะก็รู้อยู่ว่าเวลานี้เป็นเวลากลับบ้านของเรา”
หน้าซีดเผือดเมื่อสันนิษฐานได้แต่เรื่องร้ายเป็นต้นว่าวารินทร์อาจจะต้องการพาชู้รักมาเปิดตัวเพื่อบอกเลิกกับตน

ไม่นะ

อัณณ์ร่ำร้องภายในใจ มือข้างซ้ายกุมที่บริเวณหน้าอกซึ่งเจ็บแปลบ

จะเข้าไปดูให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้เลย

ผลุนผลันเปิดประตูเข้าไปในห้องพัก อัณณ์เห้นวารินทร์กำลังช่วยคนรูปงามถอดสูทตัวนอกออก ไม่รอช้าร่างบางเข้าไปกระชากคนรักให้ออกห่างจากชายชู้ด้วยความโกรธจัด

“ไปให้พ้นนะ วารินทร์เป็นของของฉัน”
ตะคอกออกไปอย่างกราดเกรี้ยว ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความมาดร้าย จนชายชู้มองมาด้วยความหวาดเสียวและตื่นตกใจ

“อัณณ์นี่มันอะไรกัน”
วารินทร์ใช้มือแตะลงบนบ่าของคนรัก แต่อัณณ์ปัดมือของเขาออก

“ฉันต่างหากที่อยากจะถามว่านี่มันอะไรกัน”
อัณณ์ถามวารินทร์เสียงเย็นน้ำตาแห่งความเสียใจพร่างพรูจากดวงตาที่ส่อแววปวดร้าว

“ถ้าเกิดว่าเสียใจที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลจนเกิดเบื่อหน่ายฉันทำไมไม่บอกกันตรงๆทำไมต้องทำร้ายกันลับหลังอย่างนี้ด้วย”

“เธอพูดอะไรของเธอ”
วารินทร์ถามเสียงอ่อนโยนแต่อัณณืยังไม่หยุดฟูมฟายและพร่ำพูดความในใจออกมายาวเหยียด

“ฉันก็เสียใจนะที่ทำให้นายต้องมาตกต่ำ จะมีชู้ก็คิดว่าน่าจะทนได้ แต่ทนไม่ได้แน่ๆถ้าจะให้ไอ้ชู้นี่มาพลอดรักกับนายในบ้านของเราเบื่อฉันแล้วอย่างนั้นหรือวารินทร์”

“ผมไม่เคยคิดเบื่อเธอเลยนะ” วารินทร์ตอบ

“แล้วนี่มัรอะไรกันล่ะจะอิบายสถานการณ์นี่ว่ายังไง”
วารินทร์ยื่นสูทตัวนอกซึ่งเป็นของชายชู้ให้อัณณ์ดูร่างบางรับไปอย่างงงๆ

“กาแฟมันหกรดเสื้อของอีสเลย์ ผมจะช่วยดูแลหุ้นส่วนทางธุรกิจของผมบ้างคงไม่น่าเกลียดเกินไปมั้ง”
อัณณ์คลี่สูทออกมาองดูรอยเปื้อนบนเสื้อ เมื่อพบว่ามีอย่จริงก็ตกใจ หากแต่ยังไม่ยอมแพ้และยังไม่เลิกคิดว่าอิสเลย์เป็นชู้

“แล้วคนคนนี้เป็นใคร หุ้นส่วนที่ไหนพากันเข้าโรงแรง”
นี่เธอแอบตามผมหรือ หากเธออยากรู้ทำไมไม่เปิดเครื่งติดตามที่เธอแอบติดไว้กับเครื่องประดับของผมฟังดูล่ะ ผมใส่มันอยู่ตลอด”
ร่างบางสะอึก จริงอยู่ว่ามีเครื่องติดตามอยู่จริง แต่อัณณ์ในเวลานั้นกลัวจนไม่กล้าที่จะฟัง ไม่อยากได้ยินเสียงพลอดรักของคนรักกับชายชู้ให้บาดหู

“นายรู้เรื่องเครื่องติดตามตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ผมรู้ตั้งนานแล้ว แล้วเธอคิดว่าอย่างไร ผมรู้แก่ใจดีแต่ยังปล่อยให้เธอแอบดักฟังผมอยู่ต่อไปจนถึงทุกวันนี้ เธอคิดว่าผมยอมเธอขนาดนี้ยังคิดจะนอกใจเธออีกหรือ”

“เรื่องนั้นมัน”
อัณณ์เหมือนน้ำท่วมปากเนื่องจากถูกไล่ต้อนด้วยความจริงแต่กระนั้นก้ยังไม่ปักใจเชื่อว่าทั้งคู่ไม่ได้มีอะไรกัน

“ฉันกับวารินทร์เราทำธุรกิจร่วมกันอยู่วันนี้แค่เอาเอกสารรายรับรายจ่ายมาให้ทั้น”
อีสเลย์ยื่นเอกสารบางส่วนให้อัณณ์ดู ร่างบางกวาดตามองดูเอกสารที่เป็นรายรับรายจ่ายของโรงแรมซึ่งคนทั้งคู่พากันหายเข้าไป

“ที่ว่าหุ้นส่วนนี่คืออะไรหรือ”

“วันที่เธอเห็นคงเป็นวันที่ผมไปเซ็นสัญญาซื้อหุ้นของโรงแรม”
ความคิดของอัณณ์แล่นฉิว เมื่อเข้าใจเรื่องดีแล้วใบหน้าสวยก็แดงก่ำด้วยความอับอาย

“ผมไม่ได้นอกใจเธอแต่กำลังติดต่อกับหุ้นส่วนทางธุรกิจ รู้สึกดีนะที่เธอเอาแต่พร่ำบอกว่าจะหาเลี้ยงผมแต่ให้นั่งอยู่เฉยๆมันไม่ใช่นิสัย เธอคงไม่รู้ว่าผมเป็นปีศาจที่ทะเยอะทะยานอยู่พอสมควร”

“ดีจริงๆที่เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้”
อัณณ์ปลื้มปิติจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ที่วารินทร์ยังคงเป็นคนเดิมโดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด

“เธอร้องไห้ทำไมอีกอัณณ์”
วารินทร์เคลื่อนกายเข้าหา พร้อมกับใช้มือเช็ดน้ำตาให้คนรักที่กำลังสะอื้นด้วยความตื้นตัน

“ก็มันดีใจที่วารินทร์ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม รู้ไหมว่าพฤติกรรมไม่เอาไหนของนายมันทำให้แนเสียใจ”

“แค่ผ่อนคลายเป็นครั้งคราวเองนะ อีกอย่างผมก้ทำตามความปรารถนาของเธอทุกประการ”
วารินทร์แสยะยิ้มร้าย อัณณ์ใช้กำปั้นทุบรัวไปบนบ่าของคนรักกดว้ยความแง่งอน

“ถ้าหากรู้ว่าจะทำตัวน่าเกลียดอย่างนี้ จะไม่ขอร้องแบบนั้นออกไปหรอก เลิกเลยนะเกมส์ออนไลน์อะไรนี่”“ว้า แย่จังถึงจะแกล้งทำแต่ผมคิดว่ามันสนุกใช่ได้นะ ช่วงที่ทำตัวเรื่อยเอื่อยเล่นเกมส์นี่”

“พอเถอะฉันขอร้อง”

วารินทร์หัวเราะร่วนกับท่าทางจะเป็นจะตายของอัณณ์ ระหว่างนั้นอีสเลย์ที่เหมือนเป็นส่วนเกินก้ขอตัวลากลับ

“ในเมื่ออธิบายจนภรรยานายเข้าใจแล้วก็สามารถไปทำงานเต็มเวลาได้แล้วสิ” อิสเลย์ยิ้มก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้องพัก

“ไม่มีปัญหาที่ผมจะไปทำงานใช่ไหมอัณณ์”
อัณณ์พยักหน้าตอบวารินทร์ ร่างบางเวลานี้ไม่อยากให้วารินทร์นอนเล่มเกมส์อีกต่อไป เรื่องนอกใจก็กลายเป็นเรื่องเข้าใจผิด ดังนั้นตอนนี้จึงมีแต่ความยินดีจนยิ้มกว้าง

“ในเมื่ออนุญาตแล้วก็ดีเลยยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องขอให้วารินทร์สะสางงั้นขอตัวก่อนนะ” พอก้างขวางคอไปร่างบางก็โผเข้าจูบวารินทร์แทบจะในทันที

“ขอโทษนะที่เข้าใจผิด ขอโทษนะที่มองนายในแง่ร้าย”
อัณณ์เอ่ยขอโทษด้วยท่าทางออดอ้อน

“ผมไม่ต้องการแค่คำพูดนะอัณณ์ แต่ต้องการการกระทำ”
อัณณ์อ้ำอึ้งไม่รู้ว่าการกระทำที่ว่าหมายถึงอะไร แต่หากเป็นเรื่องบนเตียงแล้วล่ะก็จะกี่ครั้งกี่หนอัณณ์ก้จะทำให้ ร่างบางล็อคประตูห้องก่อนจะค่อยๆเปลื้องผ้าออกทีละชิ้นจนเปลือยเปล่า

“ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าจะให้เธอขอโทษด้วยเรื่องบนเตียง”
วารินทร์กระตุกยิ้มร้ายให้คนรักที่เข้ามากอดจูบและเสียดสีร่างกายเข้าหาตน

“ก็ไม่รู้จะขอโทษด้วยวิธีไหนนี่”

“เข้าใจล่ะผมยอมรับคำขอโทษนี้ก็ได้”
อัณณ์ยิ้มกว้างจนแทบแก้มปริก่อนจะจูงมือคนรักไปที่เตียง

“เพราะเป้นคำขอโทษ ดังนั้นจะให้ทำเรื่องแบบไหนก้ได้สินะ”
วารินทร์ยิ้มขณะผลักร่างบางให้ล้มลงไปบนเตียงแล้วตามไปทาบทับ

“จนป่านนี้แล้วจะอะไรก้ได้ทั้งนั้น”
อัณณ์ใช้แขนโอบรอบคอของวารินทร์ แต่ขณะที่กำลังจะเสนอจูบวารินทร์ก้ผละไปเสียดื้อๆ ภาพชายคนรักทิ้งตัวเองไว้แล้วไปรื้อคุ้ยลังกระดาษอยู่ที่มุมห้องทำให้อัณร์รู้สึกหวาดระแวงอยู่นิดๆ

“เฮ้อถึงจะรู้ว่ามีโอกาสอีกเยอะแต่วันนี้เป็นวันพิเศษที่อัณณ์บอกว่าจะให้ทำอะไรก้ได้นี่นะ” วารินทร์ดูอารมณ์ดีเสียจนอัณณ์พูดปฏิเสธไม่ออก ตอนนี้ตงิดใจแบบแปลกๆจนบอกไม่ถูก

“ครับ” เผลอพูดสุภาพออกไปเหมือนเมื่อสมัยก่อนด้วยความกลัวเสียแล้ว เริ่มไม่เข้าใจทุกทีว่าวารินทร์ต้องการจะให้ตนทำอะไรกันแน่

“คิดมาตลอดว่าชุดนี้น่าจะเหมาะกับเธอที่สุดช่วยลองสวมดูทีสิ”
ที่คุ้ยมาจากลังกระดาษเป็นชุดกระโปรงสีขาวมีระบายคล้ายกับชุดเจ้าสาว เมื่ออัณณ์ไล่มองดูโปสเตอร์ที่แปะอยู่บนกำแพงร่างบางก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว

ชุดที่ว่านี้เป็นชุดประจำตัวของนักเวทย์สาวในเกมส์ออนไลน์ที่วารินทร์เคยเล่นฆ่าเวลายามว่าง ขณะที่ตะลึงไม่หายชุดประหลาดที่ว่าก็ถูกสวมมาบนร่างกายเสียแล้ว

“เอาล่ะรีบๆใส่ให้เรียบร้อยแล้วมาเริ่มกันเสียทีจะดีกว่านะ”
วารินทร์ยกยิ้มละมุนละไม หลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมงอัณณ์ก้ถูกทำรักไปพร้อมกับแต่งคอสเพลย์เลียนแบบตัวละครในเกมส์อีกหลายต่อหลายชุด มากมายจนอัณณ์เริ่มจะกลัวงานอดิเรกของคนรักขึ้นมาจับจิตจับใจ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

หายไปนาน ตอนนี้กำลังหาพล๊อตใหม่ๆอยู่ค่ะ

จบจากเรื่องนี้คงหายไปซักพัก

ขอเวลาคิดพล๊อตก่อนนะคะ  :hao5:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
อัญญ์นี่มันขี้โวยวายจริงๆ มันน่ามาจับตี่ก้น :z13:

ดีนะที่วารินทร์ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่และใจเย็นกว่าไม่งั่นชีวิตคู่แย่แน่ๆ :ling3:

คนเขียนสู้ๆน้า  :L2:

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่22

“สรุปเรื่องราวก็จบลงด้วยดี”
อัณณ์พยักหน้าให้ศิศิราที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบนเก้าอี้ในร้านกาแฟ วันนี้เป็นวันหยุดงานของเขา จึงได้นัดเพื่อนสนิทมาพบปะเล่าเรื่องของตัวเอง

“เจ้าวารินทร์นี่มันน่านัก”
ศิศิราเข้นเคี้ยว ในขณะที่อัณณ์ยิ้มเจื่อน การที่เพื่อนของเขาคนนี้ไม่ชอบหน้าคนรักก็มีสาเหตุมาจากเขา เพราะเวลาเดือดร้อนหรือทุกข์ใจเกี่ยวกัยบคนรัก ร่างบางก็มักจะมาปรึกษาศิศิราอยู่เสมอ

“แล้วเจ้านั่นตอนนี้ทำธุรกิจอยู่สินะ”

“ใช่ดูเหมือนจะลงทุนซื้อหุ้นจำพวกโรงแรมกับโรงงาน ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจนักหรอก”

“ถ้าอย่างนั้นก็ย้ายที่อยู่แล้วจะดีกว่ามั้ง”

“อยากย้ายอยู่แต่วารินทร์เขา”
อัณณ์ตีหน้าสลด หลายอาทิตย์มานี้ร่างบางเกลี่ยกล่อมให้คนรักย้ายที่อยู่ใหม่ แต่กลับได้คำพูดยืนยันกลับมาว่าอีกฝ่ายจะรอให้เขาซื้อบ้านใหม่ตามคำสัญญาที่เขาเคยพูดเอาไว้

เหมือนกินยาขม อัณณ์ไม่รู้ว่าต้องทำงานบริการในร้านคาเฟ่อีกกี่ปีถึงจะมีเงินมาซื้อบ้านในฝัน ในตอนแรกก็ฮึกเหิมหนักตั้งใจว่าจะซื้อคฤหาสน์ แต่ตอนนี้ลดความต้องการลงมาเป็นทาวเฮ้าส์เพราะร่างบาวคิดว่าน่าจะซื้อมาครอบครองได้ไวที่สุด

“ร้ายกาจมาก นี่มันแกล้งนายอยู่ชัดๆ”
ศิศิราบ่นอุบหลังจากฟังความจริงจากอัณณ์

“ย้ายกลับไปอยู่บ้ายพ่อแม่สิประท้วงที่หมอนั่นไม่ยอมซื้อบ้านดีดีอยู่”

“ไม่ได้หรอกพ่อกับแม่ยิ่งพยายามให้ฉันเลิกกับวารินทร์อยู่”
อัณณ์คิดถึงพ่อแม่ที่หมู่นี้แอบมาดักพบเพื่อเกลี่ยกล่อมเขาให้กลับบ้าน หมู่นี้ชักหนักข้อขึ้นถึงขั้นโทรไปราวีคนรักโดยตรง

“อย่างนั้นมาที่บ้านฉันไหม อยู่บ้านฉันซักเดือน ถ้ารักกันจริงเจ้าวารินทร์ต้องทุรนทุรายบ้างล่ะ”

“ไม่ดีกว่า ถ้าทำอย่างนั้นไม่ได้หมายความว่าเปิดโอกาสให้วารินทร์พาคนอื่นเข้าบ้านหรอกหรือ”

“โธ่ ไอ้นั้นก็ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่ดี นายนี่ทำให้ฉันหงุดหงิดไปกันใหญ่ ถ้าอย่างนั้นอย่ามาบ่นเรื่องหอพักอีกก็แล้วกัน”
อัณณ์ย่นคอเมื่อถูกเพื่อนโวยวายยกใหญ่ รู้ว่าตนเองเรื่องมาก แต่ไม่ต้องการจะแยกจากวารินทร์แม้แต่วินาทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการประชดประชัน

“แล้วนี่จะกลับมาเรียนเมื่อไหร่”

“เทอมหน้า”

“โอเคฉันจะรอนะ พอไม่มีนายอยู่มันเหงาเป็นบ้าเลยอัณณ์”

“ฉันก็เหมือนกัน”

“แน่ใจหรือไม่ใช่ว่ามีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดเจ้าวารินทร์หรอกหรือ”

“นั่นก้ด้วย”
อัณณ์ยิ้มแก้มปริให้ศิศิราที่ทำหน้าเหนื่อยหนาย หลังจากแยกกันอัณณ์แวะซูเปอร์มาเก็ตก่อนจะไปพบปะแบ่งอาหารให้แอสที่สวนสาธารนะอย่างเคย

“ขอบคุณคุณหนูนะที่แบ่งอาหารให้ฉันประจำ”
แอสขอบคุณขณะทานอาหารกล่อง

“ไม่เป็นไรครับตอบแทนที่เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาปรึกษาประจำ”
อัณณ์ยิ้มก่อนจะสลดลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงความเป็นอยู่ของชายยากไร้ที่อายุอานามไม่น่าจะต่ำกว่าหกสิบปีคนนี้

“ไม่มีลูกหลานเลยหรือครับ”

“ฉันมีลูกชายกับหลานชยและหลานสาว นี่ได้ข่าวว่าหลานชายคนเล็กถูกไล่ออกจากบ้านเลยหยุดพักจากการท่องเที่ยวมาคอยแอบดูเขานะ”

ท่องเที่ยว

อัณณ์ทำหน้าปุเลี่ยนๆ หากคำว่าท่องเที่ยวใกล้เคียงกับคำว่าเร่ร่อนอัณณ์ก็พอเข้าใจได้อยู่

“ในเมื่อมีลูกหลานทำไมไม่ไปอยู่กับพวกเขาล่ะครับ”

“ฉันมันเป็นพวกขี้เบื่อนะ อีกอย่างนี่ก็เที่ยวจนพอแล้วเหมือนกัน ก็ตั้งใจว่าจะมาดูหน้าหลานแล้วช่วยเขาซัหน่อย”
คนฟะงส่ายหน้ายิ้มๆ อัณณ์ไม่อยากทำร้ายจิตใจ แต่ดูจากสภาพแอสมากกว่าที่น่าจะได้รับการช่วยเหลือ

“จริงๆนะครับไปพบหน้าแล้วให้ลูกกับหลานดูแลจะดีกว่าหรือว่าจริงๆแล้วทะเลาะอะไรกับพวกเขาอยู่”

“นี่ก็ว่าจะกลับบ้านแล้วแต่ต้องเคลียเรื่องหลานคนเล็กให้ได้เสียก่อน”

“จะทำอะไรก็รีบเถอะครับ อย่างนั้นผมไปก่อนนะครับ”
อัณณ์ขอตัวเมื่อเวลาล่วงมาสงควร จากนั้นก็เดินเท้าไปจนถึงหอพักเขาได้ยินเสียงเอะอะมะเทิ่งดังมาเป็นรอก ในระยะสายตาอัณณ์เห้นวารินทร์กำลังจัดการกับคนชุดดำสามคนที่เข้ามายื้อยุด

“ให้มันน้อยๆหน่อยวารินทร์
ดานิกาตวาด อัณณ์หลบหลังกำแพงแอบดูท่าที

“แม่ไม่รู้ว่าลูกจะทำตัวเหลวไหลแบบนี้ไปผจนถึงเมื่อไหร่ หรือว่าลูกไม่พอใจเรื่องคานอนเลยประชดแม่หืม แม่กับพ่อต่อว่าคานอนให้ลูกแล้วนะเขาจะไม่ทำแบบนั้นอีก”

“มันไม่ใช่หรอกครับท่านแม่ ผมบอกไปแล้วว่าผมไม่อยากเป็นราชาแห่งบาป แล้วผมก็เต็มใจจะอยู่กับอัณณ์ที่นี่”

“แกยังไม่สำนึกอีกหรืองวารินทร์ แกต้องตกอับถึงเพียงนี้เพราะเจ้าปีศาจฝันนั่น มันทำสน่ห์แกหรือยังไง ดูสิรูหนูโสโครกนี่แกอยู่ไปได้ยังไง ถ้าหากไม่กลับฉันจะไล่บี้แกกับอัณณ์ทุกวิธีทาง อัณณ์มันทำงานที่ไหนฉันจะไปราวีมันทุกที่”
คาโรลพูดรัวเร็วด้วยความโกรธ แต่อัณณ์ยังไม่กลัวเท่ากับลูซิเฟอร์ที่ยืนอยู่ด้านหลังของดานิกาและคาโรล

“ไล่บี้อะไรกันครับยังไม่รู้ตัวอีกหรือ ว่าธุรกิจของท่านพ่อท่านแม่ได้กลายมาเป็นของผมเกินครึ่งแล้ว” วารินทร์ยิ้ม

“แกพูดอะไรของแก” คาโรลเริ่มจะงงแต่พอเข้าใจความหมายด้วยตัวเองเขาก้เริ่มมีสีหน้าดุดันขึ้นเรื่อยๆ

“ท่านพ่อคงยังไม่ลืมนักลงทุนที่ชื่อแอสลีย์กับเวอจิลที่กว้านซื้อหุ้นของท่านพ่อกับท่านแม่ใช่ไหมครับนั่นน่ะเป็นผมกับเพื่อนเอง”
แทบจะในทันทีคาโรลปล่อยกระแสไฟฟ้านับล้านโวลต์โจมตีใส่วารินทร์ อัณณ์สะดุ้งตกใจในความกราดเกร้ยวของนายท่าน แต่ยังโล่งใจอย่างมากที่วารินทร์ยังคงยืนเฉยได้อยู่

“แกไม่เป้นอะไรเลยหรือวารินทร์”
คาโรลและดานิกาแทบไม่เชื่อสายตาทั้งคู่มองดูวารินทร์ราวกับมองดูตัวประหลาด

“อย่าสร้างความลำบากให้ผมเลยท่านพ่อท่านแม่ ตอนนี้คงรู้แล้วสิว่าไม่สามารถทำอะไรผมได้ไม่ว่าจะทางด้านการเงินหรือพละกำลัง”
ดานิกาแทบกรี๊ด เธอร้องไห้โฮ คาโรลเองก้ทำอะไรไม่ได้จึงได้แต่ยืนเค้นเขี้ยวแล้วหันกลับไปขอความช่วยเหลือจากลูซิเฟอร์

“ดูสิครับท่านลูซิเฟอร์ ลูกชายของผมมันเหิมเริมขนาดนี้ ผมไม่มีความสามารถจะสั่งสอนได้โปรดช่วยจัดการทีเถอะครับ”

“ท่านลูซิเฟอร์ช่วยทีเถอะค่ะ”
ดานิกาฟูมฟายช่วยกันร้องขอให้ลูซิเฟอร์ช่วยออกหน้า

“รู้ตัวไหมว่ากำลังทำผิดอยู่”
ลูซิเฟอร์ตั้งคำถามกับวารินทร์

“ไม่เลยครับผมแค่ทำธุรกิจเพื่อความอยู่รอด ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ท่านพ่อท่านแม่ไร้ความสามารถเองการที่ไม่สามารถคงอำนาจไว้ได้ไม่ใช่ความผิดของผม”

“เรื่องนั้นฉันเห้นด้วย แต่ที่ไม่พอใจคือการที่เธอไม่ยอมแต่งงานกับลูกชายของฉัน เธอจะอธิบายยังไงกับการขัดคำสั่งของฉันกัน”

“เรื่องความรักไม่ใช่เรื่องที่จะมาบังคับกันง่ายๆท่านเองก็น่าจะเข้าใจ”

“ฉันบอกไปแล้วนี่ว่าจะให้อัณณ์เป็นอนุภรรยาของเธอเธอไม่พอใจตรงไหน”
ลูซิเฟอร์ทำท่าทางรำคาญ อัณณ์เข้าใจว่ามหาปีศาจกำลังจะหมดความอดทน

“ผมจะไม่ให้อัณณ์ต้องเป็นที่สองผมรักอัณณ์แค่คนเดียวและรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร”

“ต้องให้ลงไม้ลงมือใช่ไหม”
ลูซิเฟอร์ที่อารมณ์คุกรุ่นเอ่ยถาม กระแสไฟฟ้าบางๆแล่นเปรี๊ยะในอากาศ อัณณ์เห็นแล้ววิตกหนักจนพุ่งเข้าไปขวางกลางระหว่างวารินทร์กับลูซิเฟอร์ด้วยความเร็ว

“มาก็ดีเลยเจ้าตัวปัญหา”ลูซิเฟอร์วาดฝ่ามือทรงพลังเข้าใส่อัณณ์ร่างบางหลับตาปี๋เตรียมรับความเจ็บปวดเพราะหลบไม่ทัน ทว่าเมื่อความเจ็บปวดไม่มาถึงจึงค่อยๆลืมตามอง

“อย่าได้คิดทำร้ายคนรักของผม”
อัณณ์มองดูวารินทร์ใช้แขนปัดฝ่ามือของลูซิเฟอร์ออกไป มหาปีศาจโกรธจนตัวสั่นกับการขัดขวางและขัดใจของวารินทร์ในครั้งนี้

“ดีอย่างนั้นก็มารับการสั่งสอนของฉันด้วยตัวเองแล้วกัน”
พริบตานั้นร่างของอัณณ์ก็ถูกปกคลุมด้วยอาณาเขตคุ้มกัน ร่างบางทำได้แต่มองดูวารินทร์และลูซิเฟอร์ปะมือกันอย่างดุเดือด

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่23

เสียงผัวะผะเปรี้ยงปร้างดังอย่างต่อเนื่อง อัณณ์ไม่สามารถออกจากเขตคุ้มกันได้จึงทำได้แต่มองดูสถานะการอย่างกระวนกระวาย
ยิ่งการต่อสู้ดำเนินไปร่างบางก็ยิ่งฮึกเหิม จากเหตุการณ์ฝีมือของคนรักกับมหาปีศาจก้ำกึ่งกันจนไม่มีใครเกินหน้าใคร

“ไม่น่าเป็นไปได้”
คาโรลอุทานเสียงดัง อัณณ์เข้าใจดีแม้แต่ตัวเองก็ยังตกใจไม่น้อยนความเก่งกาจของคนรัก

“ดูสิคะคุณลูกชายของเรา”
ดานิกาตื่นเต้นกับความเก่งของลูกชาย ทว่าคาโรลกลับตำหนิเธอ แน่นอนอัณณ์ก็เห็นด้วยกับคำปรามของคาโรล หากความตื่นเต้นยินดีสะกิดเอาความโกรธของลูซิเฟอร์ให้เพิ่มขึ้นไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะพลิกผันไปเช่นไร

“ไม่เบานี่”
ลูซิเฟอร์เอ่ยชมวารินทร์ที่ต้านทานเวทย์มนต์สายฟ้าของตนได้

“คงกำลังลำพองใจอยู่สินะวารินทร์”

“เปล่าเลยครับ” วารินทร์หลบลูกบอลพลังสีดำที่ลูซิเฟอร์ปล่อยออกมาถี่ยิบ

“แค่คิดว่าฝีมือของผู้นำปีศาจไม่น่าจะมีแค่นี้”

“ก็ไม่ได้มีแค่นี้นะสิ”
รอยยิ้มสนุกสนานผุดบนใบหน้าของลูซิเฟอร์ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นฝันร้ายของอัณณ์ มหาปีศาจแยกร่างออกมาเป็นร้อยร่าง แต่ละร่างมีดาบที่มีกลิ่นไอบริสุทธ์ถือครองอยู่ในมือ

“ดาบนี่ถูกสร้างจากธาตุแสงปีศาจอย่างเจ้าถ้าโดนฟันคงทุกข์ทรมานน่าดู”
สิ้นคำพูดลูซิเฟอร์ ร่างแยกทั้งร้อยร่างก้ใช้ดาบเข้าโจมตีวารินทร์พร้อมกัน อัณณ์เอาใจช่วยคนรักที่ต่อสู้ปัดป้อง กระนั้นก็ยังได้แผลจากดาบนับร้อยของลูซิเฟอร์อยุ่ดี

“เอ้ามันต้องเร็วกว่านี้นะถึงจะหลบพ้น”
ลูซิเฟอร์หัวเราะร่า ดูเหมือนกำลังสนุกสนานที่ได้สร้างบาดแผลนับไม่ถ้วนให้วารินทร์ได้ ในตอนนั้นสายฟ้าสีน้ำเงินจำนวนมากก็โจมตีเข้าที่ร่างแยกของลูซิเฟอร์ทั้งหมดไม่ต้องบอกก้รู้ว่าเป็นฝีมือของวารินทร์

แต่ถึงแม้สายฟ้าอันรุนแรงจะเข้าเป้าแต่ก็ไม่โดนทั้งหมด ร่างแยกทั้งสี่ร่างที่ไม่ได้โดนสายฟ้าแล้วหายไปเหมือนกับร่างอื่นรวมทั้งร่างจริงของลูซิเฟอร์พุ่งเข้าหาแล้วใช้ดาบหมายจะแทงร่างของวารินทร์พร้อมๆกัน

“วารินทร์”

อัณณ์กรี๊ดร้องไม่เป้นภาษา หากวารินทร์ถูกแทงด้วยดาบธาตุแสงรับรองว่าต้องบาดเจ็บหนักจนถึงขั้นเสียชีวิต แค่บาดแผลถูกฟันยังทนมองไม่ได้ หากต้องเห็นวารินทร์ถูกแทงตายตรงหน้าจะทนไหวได้อย่างไร เขาเครียดจนถึงกับอาละวาดอยู่ในอาณาเขตคุ้มกัน

แต่แล้วเหตุการณ์อันไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น  ลมหมุนรุนแรงที่เกิดขึ้นรอบตัววารินทร์กระทบเอาดาบที่ทำจากธาตุแสงหักสะบั้นคามือร่างแยกและร่างจริงของลูซิเฟอร์

“ใคร”
ลูซิเฟอร์ถามเสียงกร้าว วารินทร์และมหาปีศาจตวัดมองไปตามเสียนงหัวเราะสนุกสนานที่ดังขึ้นในระยะใกล้

“แอส”
อัณณ์กระพริบตาปริบๆ เมื่อชายแก่ในชุดซอมซ่อปรากฏตัวอย่างน่าสงสัย ร่างบางไม่แน่ใจว่าลมหมุนเมื่อครู่เกิดจากแอสจริงหรือ แล้วถ้าจริงแอสยื่นมือเข้ามายุ่งเพราะเหตุใด

“โผล่หัวออกมาได้แล้วอย่านั้นหรือแอสโมดิอุส”
ลูซิเฟอร์ที่ยืนคุมเชิงวารินทร์อยู่เอ่ยถาม เมื่อเอ่ยถึงชื่อราชาแห่งบาปราคะขึ้นมาทุกคนในที่นั้นก็เพ่งมองไปยังชายเจ้าของร่างซอมซ่อ

“รู้ไหมว่าการหายตัวไปของแกสร้างความเดือดร้อนให้ราชาตนอื่นมากแค่ไหน”

“ข้าก็กลับมาแล้วไง”
แอสหรือแอสโมดิอุสยิ้มกว้าง แต่โทสะที่มีต่อวารินทร์ยังไม่จางหายไป

“ดีจะได้มาดูฉันสั่งสอนหลานไม่รักดีของแกไปด้วยเลย”
ลูซิเฟอร์เงื้อฝ่ามือแห่งแสงตวัดเข้าใส่วารินท์ซึ่งเจ็บจนขยับตัวได้ยาก หากแต่พริบตานั้นแอสโมดิอุสก็หายวับแล้วมาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหลังพร้อมกับใช้มือคว้าจับข้อมือของลูซิเฟอร์เอาไว้เสียก่อน

“ทำอะไร”

“แค่รักษาชื่อเสียงอันดีงามให้กับเจ้า” แอสโมดิอุสยิ้มหวาน

“หมายความว่าอย่างไร”

“แต่เดิมทีเจ้าต้องการให้วารินทร์เป็นราชาแห่งบาปแทนข้าเพราะงั้นจึงอยากให้แต่งงานกับบุตรชายของตัวเองเพื่อช่วยให้ตำแหน่งของเขาไม่สั่นคลอนสินะ แต่ในเมื่อข้ากลับมาแล้วก็ไม่มีเหตุผลต้องทำเช่นนั้น การที่เจ้าจะเอาเรื่องเล็กน้อยตัดสินคร่าชีวิตหลานชายของราชาแห่งบาปไม่คิดว่าทำเกินไปหรือ แถมยังต่อหน้าข้าผู้เป็นปู่ ไม่คิดว่าจะทำให้หมู่ปีศาจกระด้างกระเดื่องและมองเจ้าในแง่ลบหรือ”

“ก็ช่างมันปะไร”
ลูซิเฟอร์ไม่ยี่หระต่อคทัดทาน ร่างโปรงยังยืนยันจะเล่นงานวารินทร์ให้ได้

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะคุกเข่าขอร้อง”
แอสโมดิอุสเปลี่ยนร่างจากชายแก่ซอมซ่อเป็นหนุ่มรูปงาม ใบหน้าของราชาแห่งราคะเหมือนกับวารินทร์ราวกับเป็นคู่แฝด

“เจ้าเอาจริงเรอะ”
ลูซิเฟอร์ทวนคำอย่างไม่เชื่อหู แทนคำตอบแอสโมดิอุสย่อกายคุเข่าแล้วจุมพิตลงบนหลังมือของมหาปีศาจโดยไม่ต้องถามซ้ำ

“ไม่น่าเชื่อปีศาจที่เหย่อหยิงจองหองอย่างเจ้าจะคุกเข่าให้ข้า”
ลูซิเฟอร์เบิกตากว้าง อัณณ์และทุกคนในที่นั้นยังไม่เข้าใจ ว่าการคุกเข่าจะหยุดอารมณ์เกรียวกราดของมหาปีศาจได้อย่างไร แต่เหมือนว่าจะได้ผลลูซิเฟอร์หัวเราะชอบอกชอบใจ

“เออแน่ะ ปีศาจที่ไม่ยอมคุกเข่าให้ผู้ใดอย่างแกในที่สุดก็ยอมเสียศักดิ์ศรีให้กับฉัน ถ้ายอมทำถึงขนาดนี้จะยอมให้อภัยในความโง่เขลาของเจ้าวารินทร์ก็ได้ หากแต่ถ้าแกหายตัวไปไม่บอกกล่าวอีกวารินทร์มันจะต้องทำตามเงื่อนไขของฉันทุกอย่าง หากทำผิดอีกมันมีโทษสถานเดียวคือตาย ปีศาจรักอิสระอย่างแกจะยอมสละความสุขเพื่อหลานที่ไม่เคยเลี้ยงดูได้เชียวหรือ”

“ข้าเองก็ท่องเที่ยวจนพอใจแล้วอยากจะอยู่กับลูกกับหลานบ้างคอยดูหน้าเหลนก้ไม่เห็นเสียหายตรงไหนนี่”
แอสโมดิอุสหัวเราะ ลูซิเฟอร์เลิกคิ้วอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก แต่ก็ผละจากไปทิ้งให้ดานิกากับคาโรลที่มึนงงไม่หายยืนแข็งค้างอยู่ตรงนั้น

“ไม่เป็นไรนะวารินทร์”

แอสโมดิอุสมองดูวารินทร์ที่กำลังรักษาแผล แต่เนื่องจากบาดแผลเกิดจากดาบธาตุแสงจึงไม่สามารถฟื้นตัวได้โดยง่าย ในขณะนั้นอัณณ์ที่ถูกกักอยู่ในอาณาเขตคุ้มกันร้องเรียกให้วารินทร์ปลดอาณาเขตออก ทันที่ที่อาณาเขตถูกปลดร่างบางก็พุ่งเข้าไปหาคนรัก

หลังจากนั้นวารินทร์ก็เข้าไปรักาตัวอยู่ในโรงพยาบาลถึงสามวัน ระหว่างนั้นนายท่านกับนายหญิงไม่ติดต่อมาแต่อย่างใด อัณณ์โล่งใจที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับพ่อแม่ของคนรัก แต่การที่แอสโมดิอุสก็ไม่มาเยี่ยมด้วยหรือส่งข่าวมาทำให้เขาไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไหร่

“เธอกำลังกลุ้มใจเรื่องอะไรหรืออัณณ์”
วารินทร์ถามคนที่นั่งปอกแอ๊ปเปิ้ล อัณณ์เมื่อถูกทักก็ส่งยิ้มหวานกลบเกลื่อน

“อย่าโกหกเธอไม่สบายใจอยู่ผมรู้ดี บอกมาเดี๋ยวนี้”
อัณณ์บอกเรื่องที่ไม่สบายใจออกไปจนหมด ร่างบางกังวลใจเรื่องที่จะถูกจับแยกกันอีกเนื่องถึงไม่ต้องแต่งงานกับยูลิแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่านายท่านนายหญิงจะไม่หาคู่ครองอื่นมาให้

“อย่ากังวลไปผมไม่สนใจใครอื่นนอกจากเธอ”

ถึงจะได้รับคำยืนยันจากปากคนรักแต่อัณณ์ก็ยังยิ้มเศร้าๆ ไม่รู้ว่าต้องฝันฝ่าอุปสรรคอีกเท่าไหร่ อนาคตที่วาดฝันไว้จะมาถึง ร่างบางอยากจะเป็นรักแท้เพียงหนึ่งเดียวของวารินทร์ตลอดไปก็ได้สมหวังแล้ว เหลือแต่การครอบครองเพียงผู้เดียวตลอดไปที่ยังไม่แน่ใจว่าได้มาแล้วหรือยัง จังหวะนั้นได้ยินเสียงเคาะประตูตรงหน้าห้องตามด้วยเสียงขออนุญาตจากแอสโมดิอุส อัณณ์รีบเชิญอีกฝ่ายเข้ามา

“เป็นอย่างไรบ้าง”
แอสโมดิอุสยิ้มกริ่มเดินนำคาโรลกับดานิกาเข้ามาในห้อง อัณณ์ตื่นตัวจนแข็งเกร็งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับทั้งสองคนโดยไม่ได้เตรียมใจ

“อาการดีขึ้นมากแล้วครับพรุ่งนี้คงจะออกจากโรงพยาบาลได้” วารินทร์ตอบคำถามของแอสโมดิอุส

“แล้วจะเอาอย่างไรต่อ หลังจากนี้จะกลับเข้าตระกูลใหมพ่อแม่หลานให้อภัยแล้วนะ”

“ถ้าท่านพ่อท่านแม่เมตตา แต่ถ้ามีข้อแม้ที่เกี่ยวกับอัณร์ผมจะไม่กลับไป”

“อ้อเรื่องนั้นไม่มีปัญหาใช่ไหมคาโรลดานิกา”
แอสโมดิอุสหันไปถามบุตรชายกับลูกสะใภ้ที่ยิ้มเจื่อนส่งมา อัณณ์ไม่รู้ว่าแอสโมดิอุสไปเกลี่ยกล่อมยังไง แต่เริ่มจะยิ้มด้วยความดีใจ

“วารินทร์ก็โตแล้วยังไงเขาก็มีสิทธิ์ตัดสินใจเอง” คาโรลกระอ้อมกระแอ้ม

“เราเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไรอัณณ์ แต่แรกตระกูลพริมโรสก้เป็นตระกูลที่มีหน้ามีตานับว่าไม่มีข้อเสียให้ลำบากใจ”
วารินทร์เลิกคิ้วให้กับคำพูดเสริมของดานิกา เมื่ออัณณ์เข้าใจว่าไม่ได้เป็นที่รังเกียจเขาก็ดีใจอย่างบอกไม่ถูก

“ฝากดูแลลูกชายเราด้วยนะ”
คาโรลพูดกับอัณณ์ถึงจะตะขิดตะขวงใจจนเห็นได้ชัดแต่อัณณ์ก็ไม่ถือสา

“หวังว่าเธอคงไม่ทำให้เราผิดหวังนะ”
ดานิกากำชับด้วยใบหน้าขึงขัง อัณณ์ก้มคำนับถี่รัวพูดพร่ำแต่คำยืนยันเช่นว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังหลายครั้งจนคาโรลกับดานิกาต้องห้ามให้พอได้แล้ว ร่างบางจึงหยุดสะแดงความจริงใจ

“ในเมื่อเคลียกันเรียบร้อยแล้วทางนี้ก็อยากจัดงานแต่งงานให้พวกเธอคิดว่าอย่างไร”
ดานิกาเอ่ยอย่างกะทันหัน อัณร์ตกใจเล็กน้อยที่นายหญิงเป็นคนเสนอขึ้นมา

“ไม่ดีกว่าครับสิ้นเปลืองเปล่าๆ ถึงไม่จัดงานทุกวันนี้เราก็อยู่กันแบบสามีภรรยาอยู่แล้ว”
วารินทร์ปฏิเสธ ในขณะที่อัณณ์นึกเสียดาย งานแต่งงานสำหรับอัณณ์เป้นเสมือนการป่าวประกาศให้ใครๆรู้ทั่วกันว่าวารินทร์เป็นของเขา แต่ถ้าคนรักไม่ต้องการร่างบางก็ไม่ใส่ใจ

“ก็ตามใจแก”
คาโรลทำท่าฮึดฮัด อัณณ์เข้าใจว่านายท่านคงจะไม่พอใจ สำหรับนายท่านที่ถือหน้าถือตาเป็นสำคัญการไม่จัดงานให้เรียบร้อยคงไม่พอใจน่าดู

“แล้วเริ่องทายาทล่ะ จะมีเมื่อไหร่ถึงอัณณ์เป็นอินคิวบัสแต่เราก็มีวิธีทำให้มีทายาทได้นี่ก็เป็นเรื่องสำคัญนะ”
ดานิกาถามความเห็น อัณณ์หันไปมองดูคนรักซึ่งทำหน้านิ่งๆ ไม่รู้อีกฝ่ายคิดอะไรอยู่แต่เดิมร่างบางอยากมีลูกเพื่อผูกมัดวารินทร์เอาไว้ ตอนนี้ก็ยังอยากมีอยู่ แต่ไม่รุนแรงมากเท่าเก่า เพราะเขาได้วารินทร์มาครอบครองโดยสมบูรณ์แล้ว

“เธออยากมีลูกกับผมหรืออัณณ์”
พอถูกถามอย่างกระทันหันอัณณ์ก็นิ่งอึ้ง เขาอยากมี เหตุผลก็ง่ายๆ ร่างบางอยากให้ครอบครัวของเขากับวารินทร์สมบูรณ์เหมือนกับครอบครัวของปู่กับย่า

“อยากอยู่หรอก แต่ถ้าวารินทร์ไม่ต้องการแล้วล่ะก็” อัณณ์อึกอัก

“ใช่ผมไม่ต้องการ”
ร่างบางตะลึงกับคำยืนยันแทบจะในทันทีของวารินทร์ ถึงจะรู้สึกน้อยใจหรือขัดใจอย่างมากแต่ก็รอฟังเหตุผลของคนรัก

“ทั้งหมดฟังผมให้ดีนะ ผมเป็นปีศาจใจแคบที่ไม่ต้องการแบ่งความรักของอัณณ์ให้ใครแม้แต่ลูกของผมเอง ถ้าอัณณ์แสดงออกว่าแบ่งปันความรักไปให้ต่อให้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขผมก็ไม่พอใจเช่นกัน”

พูดจบก็จุมพิตลงบนริมฝีปากของอัณณ์แผ่วเบา รอยจูบหวานๆทำเอาอัณร์วาบหวามและคิดขึ้นได้ ถึงไม่มีลูกพวกเขาก็ยังเป็นคู่รักที่รักใคร่กลมเกลียวกันดี

“สรุปเอาตามนี้ละนะ”
แอสโมดิอุสตบบ่าคาโรลที่ทำหน้าปุเลี่ยนๆ ดานิกาเองก็อ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออกกับความเอาแต่ใจของบุตรชายคนโปรด

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่รบกวนแล้วละนะ อยู่กันให้สบายล่ะ”
แอสโมดิอุสกล่าวลาก่อนจะนำพาบุตรชายและบุตรสะใภ้ตามออกไปด้วยทิ้งให้อัณณืกับวารินทร์อยู่ตามลำพังกันอีกครั้ง

“เธอเสียใจหรือผิดหวังหรือเปล่าที่จะไม่ได้มีลูกกับผม”

“กลัวว่าฉันจะใส่ใจลูกมากกว่าตัวเองอย่างนั้นหรือ” อัณณ์ถาม

“กลัวมากเลยล่ะ เธอไม่รู้หรือทุกวันนี้ทั้งสายตาคำพูดการกระทำของเธอซึ่งเต็มไปด้วความรักมันทำให้ผมเสพติด และผมต้องการมันไปเรื่อยๆ ผมคงจะทนไม่ได้ถ้ามันจะน้อยลงหรือถูกแบ่งไปให้ใครอื่น ผมรักเธอนะอัณณ์ มอบทุกสิ่งทุกอย่างของเธอให้ผมเถอะ แล้วผมจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างของผมให้เธอเช่นกัน”

“จริงหรือ”
ร่างบางลังเล อัณณ์เคยฝันนับครั้งไม่ถ้วนถึงวันนี้มาเกิดขึ้นจริงๆก็แทบจะโห่ร้องด้วยความยินดีหากแต่ยังไม่แน่ใจอยู่

“ผมรู้ว่าคำสาบานมันไม่จีรังยั่งยืนและกลับคำได้ง่าย แต่ผมจะขอสาบานด้วยหัวใจของผม ผมจะไม่มีวันรักใครมากกว่าเธอ ทุกสิ่งทุกอย่างของผมมอบให้เธอทั้งหมด”

อัณณ์โผเข้าไปจุมพิตไปทั่วใบหน้าของวารินทร์แทบจะในทันทีที่คนรักจบประโยค ร่างบางปลาบปลื้มดีใจจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ได้แต่จุมพิตนับครั้งไม่ถ้วน อัณณ์และวารินทร์แลกจูบกันเนินนานแทนคำสาบานว่าจะรักกันตราบชั่วนิจนิรันด์

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

จบแล้วค่ะ

ใช้เวลานานมากกับการแต่งเรื่องนี้ต้องยอมรับว่ากว่าจะเข็นให้จบได้ก็เหนื่อยเหมือนกัน :hao3:

พอจบจากเรื่องนี้ว่าจะขอเก็บตัวหาข้อมูลนิดนึง

อยากจะเขียนนิยายต่ออีกค่ะ  แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเขียนอะไรดี

สุดท้ายนี้ขอบคุณคนอ่านที่เข้ามาติดตามจนจบนะคะ






ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ชอบนิสัยของอัณณ์นะ รักมั่นคงดี ไม่มีนอกใจ ขอบคุณคนแต่งน๊าา อ่านรวดเดียวจบเลย รอติดตามเรื่องใหม่น๊า^^

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
อร๊ายยยย จบลงด้วยดี อยสกได้ตอนพิเศษซักตอนอ๊าคนแต่งจ๋า  :กอด1:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
แปะไว้ก่อนเดียวมาเม้นท์น้า :mew1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
กว่าจะได้กลับมาเม้นท์นานมาก ขอโทษคนเขียนด้วยน้า

ดีใจที่จบลงแบบแฮปปี้แอนดิ่ง แต่แอบเสียดายที่อัณณ์ไม่ได้มีลูก
เพราะวารินทร์แท้ๆ...... เพิ่งมารู้ว่าพระเอกเราขี้หึงสุดๆก็ตอนจบนี้เอง55555

ขอบคุณอีกครั้งนะคะสำหรับการแต่งนิยายเรื่องนี้  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Kitsune1st

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ถึงสำเนียงการแต่งจะดูหลวมๆไปบ้าง
แต่โดยรวมเนื้อเรื่องก็สนุกดีงะ
คือตัวละครมีความแปลกใหม่
ขอบคุณที่แต่งให้อ่านค่ะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โห้ยยยกว่าจะลงเอยรักจนอยู่ด้วยกันมันขัดใจเยอะละเกินแต่ดีแล้วที่จบแบบนี้ สมกันดีอยู่ 5555  :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด