ตอนที่15
“ชอบไหมอัณณ์”
ยูลิยิ้มกว้างในขณะที่อัณณ์มองดูหน้าทางเข้าสวนแมลงนานาชนิดด้วยความปลาบปลื้ม
“ผมล่ะชอบพวกแมลงมากๆเลยคิดว่าอยากพาอัณณ์มาให้ได้ซักครั้ง”
อัณณ์ไม่อยากจะบอกยูลิว่าตนเองก็ชอบมากเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยดีใจที่ถูกยูลิพามาเท่าไหร่จึงได้แกล้งทำหน้าเบื่อหน่าย
“เข้าไปข้างในกันเถอะ”
ถูกจูงมือเข้าไปข้างใน อัณณ์พยายามสะบัดมืออกแต่แรงบีบมหาศาลทำให้ทำไม่ได้ดั่งใจ ร่างบางหันไปมองวารินทร์ที่เดินตามมาอย่างช้าช้าด้วยความกระวนกระวาย
ไม่โกรธเลยเหรอ
อัณณ์ปวดแปล๊บกับใบหน้าเรียบเฉยของผู้เป็นนาย ทั้งที่เขาถูกคนอื่นจับมือถือแขนแต่วารินทร์ยังไม่แสดงอาการหึงหวงออกมา หรือว่าจะเบื่อหน่ายในตัวเขาแล้วนะ
“ว้าวมดกระสุน(buttet ant)”
“ว่าไงนะ”
อัณณืหันเหความสนใจจากวารินทร์ไปยังยูลิที่ชี้นิ้วไปตรงตู้กระจกซึ่งจำลองสถานที่อยู่อาศัยให้มดกระสุน
“ว้าว รู้ไหมมดชนิดนี้ถือว่าอันตรายมากสำหรับมนุษย์ การกัดของมันไม่ฆ่ามนุษย์ก็จริงแต่ให้ความรู้สึกเจ็บเหมือนถูกปืนยิงตามชื่อของมันเลยล่ะ” อัณณ์พูดกับยูลิ
“ทางโน้นมีมดทหารด้วยนะ”
ยูลิชี้ชวนอัณณ์เดินตามคนชี้นำไปยังตู้มดทหาร หลังจากนนั้นทั้งหมดก็พากันไปดูแมลงปีศาจในโซนอื่นที่ถัดจากแมลงในโลกมนุษย์ อัณณ์ตื่นเต้นจนถึงขีดสุดเขาเดินลั้ลลาด้วยความครึ้มใจ
เขาไม่ได้หมกมุ่นเรื่องแมลงมานานมากแล้ว งานอดิเรกนี้ต้องยกเลิกไปหลังจากตามรับใช้วารินทร์ไม่นานนัก ดีใจที่ได้รื้อฟื้นความหลังเก่าๆ
“ดูสิแมลงปีกแข็งหน้าคน”
“ว้าวน่ารักสุดๆ”
อัณณ์กับยูลิรื่นเริงกันไม่หยุด กระตือรือร้นจนถึงขั้นลืมผู้เป็นนายไปเสียสนิท
“ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมพวกเธอชอบเจ้าสิ่งมีชีวิตพวกนี้นักผมว่ามันน่าเบื่อออก”
เหล่าคนที่กำลังตื่นเต้นชะงักค้าง ยูลิเมินวารินทร์ได้ในทันที หากแต่อัณณ์กลับกังวลอย่างเห็นได้ชัด
แย่ล่ะสิ
คงจะโกรธที่เราสนใจพวกแมลงมากกว่าแน่ๆ
อัณณ์สังเกตเห็นใบหน้าเหนื่อยนหน่ายของวารินทร์แล้วใจเสีย กลัวผุ้เป็นนายจะไม่พอใจดังนั้นจึงหยุดเดินตามยูลิแล้วเดินกลับไปหาคนที่อารมณ์บูดสนิท
“อ้าวไม่ดูแมลงหน้าสิงห์กันหรือ”
"ไปดูก่อนได้เลย”
ลอบมองหน้าวารินทร์ถี่ถี่ ใบหน้านิ่งราวรูปสลักหินของวารินทร์อัณณ์เห็นแล้วหมดสนุกจนไม่อยากเดินเที่ยวอีก
“เอาเถอะน่าไปดูกัน”
ถูกฉุดมือให้เดินตาม อัณณ์ยังคงมองหน้าผุ้เป็นนายไม่ยอมคลาดสายตา ใบหน้าบูดบึ้งน้อยๆของวารินทร์ทำให้เขาหวนนึกถึงอดีต
“ผมเกลียดแมลง”
“ทำไมล่ะ”
อัณณ์ซึ่งชักชวนให้วารินทร์มาดูด้วงกวางในป่าหันไปถามด้วยรอยยิ้มเจื่อน
“เพราะเวลาจะตามหาพวกมันต้องเข้าป่าทำให้เนื้อตัวมอมแมมสกปรก นอกจากนั้นผมไม่เห็นว่าพวกมันน่ารักตรงไหน”
วารินทร์เอ่ยเสียงเย็นชา
“แต่เราเป็นผู้ชายนะ สกปรกมอมแมมนิดหน่อยธรรมดาออกครับ แล้วพวกมันก็น่ารักดีนะ”
เด็กชายแสดงเจตนารมณ์ก่อนจะจดจ่ออยู่กับด้วงอีกครั้ง
“ผมเกลียดพวกมัน เพราะว่าเธอนั่นแหละ”
อัณณ์หันไปมองดูใบหน้าบึ้งตึงของวารินทร์
“ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่คฤหาสน์ของผมเธอมักจะเอาเวลาว่างตามหาพวกแมลงทั้งที่ควรจะมาอยู่กับผม ผมก้เลยเกลียดพวกมัน”
ความหมายของคำพูด อัณณ์ตีความว่าผู้เป็นนายกำลังหึงหวงเขากับพวกแมลง ด้วยความที่แอบหลงรักวารินทร์ตั้งแต่แรกพบเด็กชายเก้าขวบดีใจจนยิ้มแก้มปริ
“ท่านวารินทร์จะบอกว่าอยากให้ผมอยู่ใกล้ๆตลอดเวลามากกว่าเล่นตามหาแมลงหรือครับ”
“เธอเข้าใจได้ถูกต้อง ผมอยากให้เธออยู่ใกล้ๆผมตลอดเวลาไม่อยากให้เธอสนใจอย่างอื่นมากกว่าตัวผม”
“เข้าใจแล้ว ถ้าท่านวารินทร์ต้องการ”
อัณณ์วางด้วงลงแล้วเดินกลับมาหาวารินทร์ซึ่งคลี่ยิ้มอ่อนหวาน
“สัญญามาสิว่าเธอจะไม่สนใจอะไรอื่นอีกมากไปกว่าผม แล้วผมจะจุมพิตเธอเป็นรางวัล”
“จะจูบจริงๆหรือครับ”
อัณณ์ตื่นเต้น เด็กชายใฝ่ฝันจะได้รับจูบจากเจ้าหญิงในฐานะอัศวินมานานถึงแม้ตอนนี้จะรู้แล้วว่าวารินทร์ไม่ใช่เด็กผู้หญิง ตึความงดงามของฝ่ายนั้นตราตรึงใจจนเผลอจินตนาการให้เห็นเป็นเจ้าหญิงไปเสียทุกครั้ง
“สาบานมาสิ” วารินทร์เอ่ยเสียงหวาน
“ถ้าท่านวารินทร์จะจูบผม ผมจะสาบานว่าจะไม่สนใจใครอื่นมากไปกว่าท่านวารินทร์อีก”
“ดีมาก ผมจะให้รางวัลเธอล่ะนะ”
สิ้นคำพูดวารินทร์ก็แนบจูบลงมาแผ่วเบา อัณณ์ดีใจจนแทบจะกางปีกโบยบิน ถึงแม้จะเป็นเรื่องราวในอดีตแต่อัณณ์ก็ได้สัญญาเอาไว้แล้ว ไม่ใช่ว่าตนเองเป็นคนซื่อตรงต่อคำสาบานหากแต่หลงรักจนถวายหัว สัญญาเล็กๆน้อยๆเขาก็ไม่อยากผิดคำสาบานให้วารินทร์ขุ่นเคือง
“เบื่อแล้วหรือ”
ยูลิถามหลังจากเห็นท่าทางซังกะตายของอัณณ์
“เหนื่อยนะอยากกลับบ้านแล้ว”
พูดขณะปลายมองไปยังวารินทร์เป็นระยะอีกฝ่ายตีหน้านิ่งสนิทบอกไม่ได้ว่าอารมณ์ดีหรือไม่ดีกันแน่
“เอาเถอะเราวนเวียนอยู่ในนี้จนเย็นแล้ว เราไปทานอาหารค่ำในห้องสูทของโรงแรมที่ผมจองไว้ดีกว่า”
อัณณ์ถูกยูลิลากแขนให้เดินตามไปอีกครั้ง
หลังจากถูกพามารับประทานอาหารในห้องสูทของโรงแรง อัณณ์ก็เกือบจะยิ้มกว้างเพราะอาหารที่วางเรียงรายล้วนเป็นของที่เขาชอบ
“อัณณ์คงไม่ว่าอะไรนะที่ผมสั่งแต่อาหารรสจัดมาทั้งนั้น” ยูลิเอ่ยถาม
“อื้อก็ดี”
อัณณ์ทำเป็นไม่ชอบใจนัก ทั้งที่ใจจริงอยากจะลิ้มรสชาติอาหารบนโต๊ะเสียหลายอย่าง
“แต่ผมเกลียดอาหารรสจัด”
อัณณ์กับยูลิหันไปมองวารินทร์ที่ลุกออกจากเก้าอี้
“จะไปไหนรอด้วยสิ”
ทำท่าจะลุกขึ้นแต่อัณณ์ก้ถูกวารินทร์ห้ามเอาไว้
“เธอชอบทานเผ็ดไม่ใช่หรืออยู่ทานอาหารที่นี่แหละ เพราะวันนี้ผมไม่มีอารมณ์และไม่อยากจะป้อนอาหารให้เธอ”
ป้อนอาหาร ทานอาหาร
สำหรับปีศาจฝันก็หมายถึงการทำรักกับใครซักคน การที่วารินทร์พูดออกมาแบบนี้ อัณณ์ตีความอย่างเดียวคือผุ้เป็นนายกำลังโกรธ
“รอด้วย” อัณณ์ลุกขึ้นเตรียมจะเดินตามวารินทร์ไปแต่ถูกยูลิเรียกเข้าอีกจนได้
“นั่งลงแล้วทานอาหารซะอัณณ์ ทานอาหารให้อิ่มท้องเสียก่อน”
ดวงตาสีฟ้าเรืองแสง พออัณณ์มองสบตาก็ถูกสะกดให้ทำตาม ร่างบางขยับกายนั่งลงบนเก้าอี้แล้วเริ่มต้นทานอาหารอย่างว่าง่าย
“อร่อยไหมอัณณ์”
“อร่อย”
อัณณ์ตอบไปตามรสชาติที่ผ่านลิ้น สติสัมปัญชัญญะสั่งให้ร่างกายทานอาหารตามคำสั่ง ถึงก่อนหน้านั้นอยากจะตามวารินทร์ไป แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้มีแต่ต้องการจะทานให้อิ่มท้อง
“เธอกินเยอะจริงๆเลยอัณณ์”
“เพราะการทานอาหารปกติให้พลังงานเทียบไม่ได้เลยกับการดูดพลังตัณหาผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์” อัณณ์ตอบขณะตั้งหน้าตั้งตาทาน
“อ้อหากได้ทำรักกับวารินทร์เธอจะเต็มอิ่มกว่าสินะ”
ถูกทักตอนที่ทานอาหารหมดพอดี อัณณ์ซึ่งตื่นตระหนกเรื่องที่อีกฝ่ายทักถึงความสัมพันธ์สวาทของเขากับวารินทร์ขึ้นมาเอ่ยถามอีกฝ่ายกลับ
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมทำอย่างว่ากับท่านวารินทร์”
เมื่อรู้ตัวว่าถามอะไรไม่เข้าท่าออกไป อัณณ์ก็ใช้มือแตะปากของตน
“เธอยอมรับแล้วสินนะ ผมแค่สังเกตแววตาเธอก็รู้ได้”
“ดูออกชัดขนาดนั้นเชียวหรือ” อัณณ์ถึงกับสลดไม่นึกว่าจะถูกมองออกได้ง่ายถึงเพียงนั้น
“แน่นอน เอโหยหาตลอดเวลา แถมวันนี้ทั้งวันยังเอาแต่ส่งสายตาเศร้าสร้อยไปให้วารินทร์ไม่หยุด”
“ขอให้นายเก็บเงียบเอาไว้ด้วยนะ”
“ทำไมต้องปกปิดด้วยล่ะ เปิดเผยออกไปมันจะดีกับเธอมากกว่าไม่ใช่หรือ”
ยูลิหัวเราะขบขัน อัณณ์เลือดขึ้นหน้าเมื่ออีกฝ่ายทำเหมือนเป็นเรื่องตลก
“ฉันไม่ยอมให้วารินทร์เสื่อมเสียชื่อเสียงเด็ดขาด หากเรื่องของฉันกับเขาแพร่ออกไป ไม่รู้ว่านายท่านนายหญิงแล้วคนรอบข้างจะคิดยังไง แต่ต้องไม่ดีกับวารินทร์แน่ๆ”
“เธอคิดเล็กคิดน้อยมากไปแล้ว”ยูลิส่ายหน้าไปมาพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนอกอ่อนใจมาให้
“ถ้าอย่างนั้นหากฉันเอาไปเล่าให้คนรู้จักทุกคนฟังล่ะจะว่าอย่างไร”
“คำบอกเล่าไร้หลักฐานใครจะเชื่อ”
อัณณ์หัวเราะเยาะความคิดของยูลิ
“ถ้าออกจากปากผมมันก็เป็นอีกเรื่อง ถึงตอนนั้นเธอกับวารินทร์จะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างนะ”
หน้าซีดเผือดทันทีที่ถูกขู่ อัณณ์แค่คิดว่าจะต้องถูกจับแยกจากวารินทร์ก้ปวดใจจนทนไม่ได้
“ต้องการอะไรกันแน่”
อัณณ์ถามด้วยเสียงกึ่งๆจะตะคอก เมื่อประมวลผลอย่างถี่ถ้วนอีกฝ่ายคงจะต้องการอะไรบางอย่างจากเขา
“ผมอยากนอนกับเธอ ผมสนใจเธอมากชัดเจนดีไหม”
อัณณ์แยกเขี้ยวใส่ยูลิ หลังจากอีกฝ่ายเผยความในใจ ความต้องการของยูลิไม่ไกลจากที่ตนคาดเดาเท่าไหร่ แต่ก็ยังรู้สึกรับไม่ได้อยู่ดี
“อยากนอนกับฉันนี่นะ ฝันไปเถอะ”
อัณณ์ชูนิ้วกลางให้ อีกฝ่ายแทนที่จะโกรธกลับเห็นเป็นเรื่องขำขันและหัวเราะน้อยๆอย่างชอบอกชอบใจ
“ผมไม่ฝันแน่ๆ เธอเลือกเอาระหว่างนอนกับผมซักครั้งหรือให้สัมพันธ์สวาทของเธอกับวารินทร์เปิดเผยออกไปให้ทุกคนทราบ”
ทำอย่างไรดี
อัณณ์กัดฟันกรอด
หากความสัมพันธ์ของพวกเขาเปิดเผยไปไม่แค่ทำให้วารินทร์ต้องอับอาย เขาเองก้อาจจะถูกจับแยกจากผุ้เป็นนาย ทนไม่ได้แน่ๆ
หากมีคนอื่นมาคอยรับใช้เคียงข้างแทนเขา ไฟริษยาคงแผดเผาจนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน
เอายังไงดี เขาเป็นปีสาจฝันการทำรักซักครั้งไม่ต่างจากการทานอาหารหนึ่งมื้อ แต่มันค้านกับจิตสำนึกของตนสิ้นดี เขาไม่อยากทำรักกับใครก็ได้ ไม่อยากทำรักกับใครนอกเหนือจากวารินทร์
“เอายังไง ผมไม่แค่จะเล่าให้ท่านพ่อท่านแม่ของวิรนททร์ฟังตาจะเล่าให้ท่านพ่อของผมทราบด้วยนะ”
“ท่านลูซิเฟอรืด้วยหรือ”
“ใช่ผมเป็นปีศาจปากเปราะเสียด้วยสิ”
“เข้าใจแล้ว”
อัณณ์ตอบรับหลังจากครุ่นคิดด้วยความตึงเครียดอยู่ชั่วครู่
“แต่แค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ แล้วต้องใช้เวทมนต์แห่งสัจจะผุกมัดเอาไว้ด้วย”
“เธอช่างรอบคอบจริงนะ”
ยูลิหัวเราะก่อนจะกรีดนิ้วของตนหยดเลือดลงในแก้วก่อนจะยื่นให้อัณณ์ทำแบบเดียวกัน หลังจากทั้งคู่ท่องบทสวดพร้อมกันจบเลือดในแก้วก็เปล่งแสงวาบอัณณ์และยูลิสลับกันดื่มเลือดในแก้ว
“เท่านี้คำสาบานก้สัมฤทธิ์ผล”
อัณณ์มองออร่าสีแดงที่เคลือบฉาบร่างของตนและยูลิในชั่วขณะหนึ่งแล้วถอนหายใจ
“เอาล่ะ ไปที่ห้องนอนแล้วเริ่มกันเสียทีเถอะ”
ยูลิยิ้มกริ่มก่อนจะใช้มือจับจูงอัณณ์ไปยังห้องด้านใน แค่ก้าวแรกที่เดินเข้าไปในห้องนอน อัณณ์ก็ลังเลขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทันทีที่ได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง ร่างบางก็รู้สึกว่าตนเองตัดสินใจได้รีบร้อนเกินไป
ไม่แน่ว่าอาจจะยังมีทางอื่นอยู่อีก
ไม่ว่าเรื่องสกปรกอะไรหากอีกฝ่ายยอมแลกเปลี่ยนอัณณ์ก็พร้อมจะทำตามเพื่อชื่อเสียงของผู้เป็นนายยกเว้นแต่เพียงเรื่องนี้ แค่คิดว่าจะต้องถูกคนอื่นแตะต้งตัวเองก็ขยะแขยง ต่อให้ดูดีแค่ไหนหรือสูงศักดิ์เท่าใดก็ไม่อาจทำให้ร่างบางหลงไหลได้เท่ากับตัวของผู้เป็นนาย
“ทำไม่ได้ ทำไม่ได้จริงๆ”
อัณณ์ผลักไสยูลิที่ทาบทับลงมาเหนือร่างตัวเองบนเตียงกว้าง ทำให้ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะยิ้มออกมา
“ทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะ แค่เธออยุ่เฉยๆและรับการปรนนิบัติจากผม”
ยูลิคลี่ยิ้มก่อนจะใช้มือเชยใบหน้าของอัณณ์ขึ้นมาหวังจะประทับจูบ แต่ก็ถูกอัณณ์เบือนหน้าหนีพร้อมทั้งแสดงอาการต่อต้านอย่างชัดเจน
“ฉันทำตามสัญญานั่นไม่ได้จริงๆ เฉพาะเรื่องนี้เท่านั้นที่ยังไงก็ทำไม่ได้ ขอเพียงปกป้องชื่อเสียงของวารินทร์เอาไว้จะให้ทำเรื่องอื่นที่สกปรกกว่านี้ฉันก็ยอม”
ทั้งที่เรื่องทำรักไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแท้ๆสำหรับปีศาจฝันอย่างเขา ทั้งที่กำลังทำเพื่อปกป้องความรักเล็กๆของตนและผุ้เป็นนาย แต่อัณณ์ก็ไม่อาจฝืนทำสิ่งนั้นลงไปได้
ช่างน่าสมเพชตัวเอง
อัณณ์ผละหนีจากยูลิที่ส่ายหน้าอย่างระอา แต่ก่อนที่จะทันได้หมุนลูกบิดประตู มือของอัณณ์ก็ถูกจับเอาไว้จากด้านหลัง
“ถ้าไม่ใช่วารินทร์ล่ะก็ เธอคงไม่ยอมเลยสินะ”
เสียงกระซิบของยูลิเต็มไปด้วยความขบขัน แม้ไม่อาจหันกลับไปมองใบหน้าของร่างสูง อัณณ์ก้พอเดาได้ว่าอีกฝ่ายทำสีหน้าเยาะเย้ยแบบไหน
“ใช่ถ้าไม่ใช่วารินทร์ให้ฉันตายจะดีกว่า”
“เธอกำลังทำตัวตลกอยู่นะอัณณ์ คิดว่มาถึงขั้นนี้แล้วผมจะยอมปล่อยเธอไปอย่างนั้นหรือ แต่ผมเป็นคนใจดีเพราะงั้นจะไม่ให้เธอต้องทนมองหน้าผม แต่จะให้จินตนาการถึงแค่วารินทร์ได้ตามใจชอบ”
ยูลิพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลทรงพลัง อัณณ์รู้ดีว่าอีกฝ่ายมีอำนาจมากแค่ไหน เพราะแค่คำพูดไม่กี่คำก็ทำให้ร่างบางเหมือนมีโซ่จำนวนมากตรึงร่างเอาไว้กับที่มันทีที่มือของยูลิเอื้อมมาปิดตาของอัณณ์ไว้ชั่วขณะ ทัศนวิสัยเบื้องหน้าก็มืดดับลง
“ขอให้สนุกนะอัณณ์”
ยูลิกระซิบด้วยเสียงหยอกเย้าก่อนที่อัณณ์จะรู้สึกได้ถึงมือที่ค่อยๆลูบไล้ไปตามร่างกาย
ขยับไม่ได้ มองไม่เห็น
“ปล่อยนะไอ้สารเลว” อัณณ์ส่งเสียงตะโกนจนแทบจะกลายเป็นการกรีดร้อง ทั้งที่พยายามขัดขืนจนสุดกำลังแต่ร่างกายกลับไม่ยอมให้ความร่วมมือ ร่างสูงที่ทาบทับอยู่ด้านหลังบดเบีบดซะจนอัณณ์ต้องแนบร่างเข้ากับประตูอย่างอดสู ไม่ว่าจะด่าทอเสียเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาจากยูลิ
ทำตัวเองแท้ๆ
อัณณ์หลั่งน้ำตาออกมาโดยไร้เสียง เมื่อถูกกระตุ้นจนตื่นตัวด้วยมือขึ้นมา ฝ่ายนั้นค่อยๆรุกเร้าล่วงเกินโดยไม่ฟังทั้งคำวิงวอนหรือต่อว่าเลยซักนิด
อยากตายไปเสียให้พ้นๆ
อัณณ์กัดริมฝีปากแน่น เมื่อช่องทางด้านหลังถูกสอดใส่และกระแทกเข้าออกอย่างรุนแรง และเหมือนว่าจะยังไม่สาแก่ใจพอ อัณณ์ถูกเหวี่ยงร่างลงไปบนเตียง ถูกร่างหนักๆทาบทับและบังคับให้ปลดปล่อยครั้งแล้วครั้งเล่า
เพราะกัดริมฝีปากของตนเองเอาไว้แน่นจึงทำให้ความพยายามที่จะบดเบียดริมฝีปากของอีกฝ่ายหยุดลงไปก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นซุกไซ้ซอกคอและขบกัดใบหูจนอัณณ์แทบหวีดร้องออกมา
จะรู้สึกดีไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ให้ตายยังไงอัณณ์ก็ไม่ยอมรับความรู้สึกนี้ แม้ร่างกายของตนจะปรารถนาให้คนที่ยำยีตนเองกระแทกเข้ามาให้ลึกๆจนเผลอเอื้อมมือไปจิกแผ่นหลังของอีกฝ่ายเอาไว้ แต่จิตใต้สำนึกอีกด้านก็ยังสั่งการให้อัณณ์สะกดความต้องการเอาไว้อย่างสุดความสามารถ
จะร้องครวญครางออกมาไม่ได้
จะยอมให้ไอ้สารเลวนั้นรูว่าเขารู้สึกดีไม่ได้
อัณณ์กัดริมฝีปากตัวเองแน่นมากยิ่งขึ้นจนเลือดไหลซึมออกมา ร่างบางดิ้นรนหนักกว่าเดิมเมื่อถูกจับง้างปากออกจากกัน อีกฝ่ายเข้ามาอุดปากเขาในเวลาต่อมา แต่อัณณ์ก็สำรอกออกมาในทันทีเช่นกัน
“วารินทร์ช่วยด้วย”
อัณณ์ร้องตะโกนสุดเสียง ดูเหมือนว่ามันจะไม่ช่วยหยุดยั้งสิ่งที่เกิดขึ้นได้เลยเมื่อร่างบางยังถูกย่ำยีอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ผ่านไปเท่าไหร่ความพยายามขัดขืนของอัณณ์ก็หมดสิ้นลงเหลือไว้แต่เสียงกระซิบเรียกหาผู้เป็นนายกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุด
มีต่อค่ะ