ตอนที่25
ครอส talk
วันนี้เป็นวันเกิดของผม
อันที่จริงก็ไม่ได้คาดหวังหรือร้องขอให้ใครมาอวยพรหรือซื้อของขวัญมาให้หรอกนะเพราะผมได้รับสิ่งเหล่านี้จากเพื่อนในเฟสและผู้ติดตามอย่างล้นหลาม มีคนมาโพสต์หน้าวอล์ผมเป็นร้อยคนตั้งแต่ช่วงเช้าและตอนนี้พระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกดินเต็มแก่แล้วยอดโพสต์เลยเพิ่มขึ้นไม่รู้ตั้งเท่าไหร่
แต่ท่ามกลางคำอวยพรนับร้อยพันนั้นไม่มีของคนเพียงคนเดียวที่ผมต้องการ
ไอ้เคสเอาโน็ตบุ๊คผมไปนอนกกกับแวนตั้งแต่เมื่อวานส่วนคอมก็พังพอดีผมเลยต้องใช้ไอแพดเลื่อนหาชื่อเพลินอยู่หลายครั้ง จ้องหน้าจอจนตาแทบบอดเพราะกลัวจะกดข้ามไปแต่สุดท้ายผมก็ไม่เจอแอคเค้าท์ของเพลินในหน้าวอล์ของผม
ครืดดดด...
ไอ้แวนโทรมา? ผมกดรับสายอย่างแปลกใจ
“ว่าไง เพิ่งรู้ตัวว่าควรอวยพรวันเกิดเพื่อนสนิทเหรอวะ”ผมแกล้งแซวมันไปอย่างงั้นแหละรู้ดีว่ามันไม่โทรมาหาผมเพราะเรื่องพรรคนี้หรอก ผมเองก็ไม่สนใจด้วย
“ทำเสียงเป็นหมาหงอยเชียวนะมึง โดนเจ้าของทิ้งเหรอวะ”จึก! (โดนแทงใจดำ)
“นั่นปากเหรอไอ้สัส! เพลินแค่รอเซอไพรส์กูตอนกลางคืนต่างหาก เผลอๆอาจจะสารภาพรักกับกูด้วยก็ได้เว้ย!!”
“กูจำไม่ได้ว่าเคยมีเพื่อนโลกสวยขนาดนี้นะ”“มึงไม่กัดกูสักวันจะตายเหรอไอ้ห่า”
“พี่ครอสสสสสสสสส~~~~”ผมด่าไอ้แวนแต่กลับมีเสียงใสดังแทรกเข้ามาก่อน
”เปิดลำโพงเร็ว เค้าจะคุยกับพี่ชายเค้า”เป็นไอ้เคสอย่างไม่ต้องสงสัย ไอ้น้องเวรทิ้งพี่ชายไปหาผัว จำไว้
“สุขสันต์วันเกิดนะคร้าบบบบ รักพี่ครอสที่สุดในสามโลกเล้ยยยยย ขอให้หล่อๆรวยๆKใหญ่อยู่แล้วก็ขอให้เมียรักเมียหลงนะคร๊าบบบบบ”พูดดีมากไอ้น้อง
“รักกูขนาดนั้นก็กลับมาฉลองกับกูที่ห้องสิ”
“ไม่! เค้าจะอยู่กับพี่แวน เน๊อะๆๆ”“หึ! ทีงี้ล่ะหน้าระรื่นเชียวนะ เมื่อวานยังร้องไห้ตาบวมฉึ่ง”อันนี้ไอ้แวนพูดกับน้องผมครับ
“อะไรๆ เชี่ยแวนมึงทำอะไรน้องกู แกล้งน้องกูระวังจะโดนมิใช่น้อย”
“มึงจะทำอะไรกูได้”“กูก็จะแช่งให้ซันนี่เกาะมึงแน่นยิ่งกว่าทากดูดเลือดไง ฮ่าๆๆๆ เอาให้ไม่มีเวลาไปกกชู้ของมึงเลย”
“เสียใจด้วยนะตอนนี้กูไม่มีชู้ ส่วนมึงก็หัวเราะซะเยอะๆก่อนจะขำไม่ออก”ได้ยินเสียงปิดประตูแว่วๆสงสัยไอ้เคสไปเข้าห้อน้ำพอดี
“หมายความว่าไงวะ แล้วน้องชายกูอ่ะไม่เรียกว่าชู้เรอะ มึงเห็นเป็นลูกบุญธรรมรึไงเอาไปอยู่ด้วยข้ามคืนขนาดนั้น”ผมเอ่ยแซวอย่างคนไม่รู้ว่าตัวว่าพายุจะเข้า
“ไอ้เคสเป็นแค่คนที่ตามจีบกูอยู่ ส่วนจะรับรักไหมต้องพิจารณาอีกที นี่ตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่ได้แตะต้องน้องมึงเลยเนี่ย มันจะลงแดงตายห่าอยู่แล้ว หึหึหึ”“แปลกๆนะ แล้วซันนี่ล่ะ?”
“ซันมาเห็นตอนกูฟัดกับเด็กแรดนี่พอดีเลยเลิกกันแล้ว”“เหี้ยยยยยยยยยยยยยย ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ แล้วมึงก็ไม่บอกกู ไอ้สัส! เรื่องโคตรใหญ่เลยนะ”
“เมื่อวานตอนบ่ายๆ กูคิดว่าเขาไปฟูมฟายกับมึงแล้วซะอีก ยังไม่ไปเหรอวะ”“ยังเลยว่ะ เหี้ยละไง กูรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง”ผมขมวดคิ้วอย่างเครียดๆ หากเป็นปกติแค่ทะเลาะกับแวนนิดเดียวซันนี่ก็จะแจ้นมาหาผมหรือโทรตามให้ออกไปอยู่เป็นเพื่อนแล้วแต่นี่ถึงขั้นเลิกกันแต่ไม่มีแม้กระทั่งแชทมาหาเลยมันแปลกมาก
”หรือจะเลิกชอบกูแล้ววะ มึงคิดว่าไง กูไม่ได้อยู่ในเหตการณ์กูไม่รู้ว่าซันแสดงอาการยังไง”
“เมื่อวานกูบอกเขาไปแล้วว่ามึงรู้ว่าเค้าคิดยังไง อ่อ แล้วก็สาวไส้เรื่องกิ๊กทั้งหลายของเขาด้วยนิดหน่อย ซันโกรธจนแทบระเบิดแหนะ ปิดประตูห้องกูแรงจนบานพับแทบหลุด กูว่างานนี้ถ้าซันไม่เกลียดกูกับมึงไปเลยก็คงเลือดขึ้นหน้าทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มึงเป็นผัว”“กูไม่รู้จะด่ามึงเป็นภาษาอะไรเลยไอ้เลว ปากพล่อยทำกูเดือดร้อน”
“ภาษาญี่ปุ่นไง เรียนอยู่หนิ”“ขอบคุณที่แนะนำ ถุ้ย! ใช่เวลาตลกเหรอมึง!?”
“หึๆ เอาเถอะ ไว้ขอโทษมึงทีหลังแล้วกัน แต่ถ้าเมื่อวานกูไม่พูดกันท่าไปแบบนั้นน้องมึงโดนจวกเละ มันคงโดนด่าว่าเป็นลูกชู้ให้เจ็บยันแม่โน่นกูเลยขุดเรื่องของเขามาแฉก่อนจะได้หุบปาก”“เออๆ กูไม่โทษมึงหรอก กูผิดเองที่หล่อไป ใครๆก็มารุมรัก แค่นี้นะมึงกูขอคิดหาทางหนีทีไล่ก่อนล่ะ”
“ขอให้มีความสุขกับวันเกิด บาย”เหี้ยมาก ผมได้แต่ด่าในใจเพราะเจ้าตัวชิงวางสายไปก่อน
ติ๊งหน่อง...
มีคนมา?
เอาล่ะครับ มีไม่กี่คนหรอกที่จะมาหาผมถึงห้องแบบนี้ อันดับแรกคือไอ้แวนกับเคสซึ่งยืนยันหลักฐานที่อยู่กันไปเมื่อครู่ สองคือซันนี่ สามคือเพลิน
ภาวนาให้เป็นข้อสาม
ผมทำใจดีสู้เสือเดินไปเปิดประตูโดยไม่รีรอ
“อ้าว~ มาได้ยังไงน่ะซัน เข้ามาก่อนสิ”เสียงหลงเลยกู เหี้ยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ผมฉีกยิ้มเหือดแห้งไปให้หญิงสาวตรงหน้า เธอก็ส่งยิ้มหวานกลับมาให้นะแต่ทำไมรู้สึกว่ามันเคลือบยาพิษอยู่หว่า แต่ก็ช่างเถอะ ผมพาเธอมานั่งที่โซฟาก่อนเข้าครัวไปรินน้ำซ่าให้
ถือโอกาสคุยกันให้รู้เรื่องเลยก็ดี...
“แวนบอกแล้วใช่ไหม”เป็นซันนี่ที่ชิงพูดขึ้นมาก่อน แม้ขอบตาเธอจะคล้ำๆนิดหน่อยคิดว่าเมื่อคืนคงนอนไม่หลับแต่สีหน้าและมาดยังจัดอยู่ในระดับราชินีตามเดิม
“อืม”เพิ่งโทรมาสดๆร้อนๆเมื่อกี้เลยคร้าบบบ จะบอกกูให้เร็วกว่านี้นิดก็ไม่ได้นะ
ในเมื่อเธอมาเหนือมาดขนาดนี้ผมก็ต้องเก๊กขรึมไว้ก่อนแหละ เชื่อว่าต่างฝ่ายต่างใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆกันทั้งคู่ ของอย่างงี้ก็ขึ้นกับว่าใครเก๊กได้เนียนกว่ากันล่ะนะ
“แล้วครอสคิดว่ายังไงล่ะ”
คิดว่าซวยกูน่ะสิ!
“ก็ดีแล้วนี่ ซันกับมันไม่ได้ชอบกันแต่แรกจะไปทนคบอยู่ทำไมล่ะ”
“งั้นเรื่องที่เพื่อนตัวเองคบซ้อนก็ไม่ว่าอะไรงั้นสิ”
“อืม”
“แสดงว่าครอสก็ยอมรับสินะ เรื่องที่พ่อตัวเองไปมีผู้หญิงคนอื่นน่ะ หึ! แถมลูกชายของผู้หญิงคนนั้นยังมาเล่นชู้กับเพื่อนสนิทตัวเองอีก”ซันนี่กล่าวพลางแค่นยิ้มเย้ยหยัน คำพูดของเธอทำให้ผมเริ่มมีน้ำโห
“เราจำได้ว่าไม่เคยบอกซันเรื่องพ่อนะ และเชื่อว่าแวนก็ไม่ใช่คนพูด”ผมกดเสียงต่ำอย่างคนพยามข่มอารมณ์ ผมยอมรับว่าทั้งพ่อ เพื่อนและน้องของผมทำผิด แต่นั่นไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเธอ!
“เพลินเป็นคนบอก”
“โกหก!!”ผมสวนกลับไปทันที ไม่แม้แต่จะคิดหรือเคลือบแคลง
“ทำไม? เพราะเห็นเป็นเด็กดีก็เลยเชื่อใจรึไง? ครอสนี่น่าสงสารนะ โดนหน้าอ่อนๆแบบนั้นตุ๋นซะเปื่อย”
ซันกำลังใส่ร้ายเพลิน ต่อให้เธออมพระทั้งวัดมาพูดผมก็ไม่โง่หลงเชื่อหรอก
“คิดว่าพูดแบบนี้จะได้ผลเหรอซัน พอเถอะ ไม่มีประโยชน์ เราจบกันด้วยดีดีกว่านะ”ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้เหรอไงว่าสำหรับผมเพลินคือคนที่ห้ามแตะต้อง เห็นแก่ที่เพื่อนผมทำเธอไว้แสบสันเมื่อวานหรอกนะผมถึงกัดฟันทนคุยด้วยนานขนาดนี้
“เมื่อวานนี้เพลินไม่ได้มาหาครอสใช่ไหม”
“!?”
“ทำหน้าตกใจแบบนี้แสดงว่าใช่สินะ หึ”
“แล้วจะทำไม!? ซันทำอะไรเพลิน!!”
“โอ๊ยยย จะรักก็ให้มันมีขอบเขตหน่อยเถอะครอส! เมื่อวานนี้เพื่อนของซันบังเอิญเห็นเพลินที่ห้างเข้า...เขาถ่ายรูปมาให้ดูด้วยนะ อยากเห็นไหม?”
ถ้อยคำของเธอกำลังโจมตีจิตใจของผมอยู่ ผมยอมรับว่าผมกลัว มือชื้นเหงื่อไปหมด แม้แต่จะกะพริบตายังไม่กล้าเลย แล้วในที่สุดมือถือของเธอก็ถูกยื่นมาตรงหน้า แม้ไม่อยากจะเห็นแต่ก็เห็นไปแล้ว
ภาพของเพลินกับ...พี่นารายณ์
“ละ...แล้วไง อาจจะบังเอิญเจอกันก็ได้ ที่สำคัญแค่เดินกับพี่นารายณ์มีอะไรน่าแปลก ไม่รู้รึไงว่าเขาเป็นพี่น้องโรงเรียนกัน...”เหี้ย เสียงสั่น ผมเชื่อตามที่พูดไปจริงๆ แต่จะไม่หวาดหวั่นขนาดนี้ถ้าคนข้างๆเพลินในรูปไม่ใช่ผู้ชายคนนี้
“รู้สิ รู้ด้วยนะว่าเพลินแอบชอบพี่นารายณ์มาตั้งแต่โรงเรียนเก่าแล้ว มีการเดินตามไปส่งที่รถไฟฟ้าด้วยนะ ครอสล่ะ...รู้รึป่าว”
ร้ายกาจ
“ซันต้องการอะไรกันแน่”ผมแยกแยะได้ว่าอันไหนเรื่องจริงอันไหนใส่ไข่ อาการตอนนี้คือโมโหผู้หญิงตรงหน้าและเจ็บจี๊ดๆที่เพลินทิ้งผมไปเดินเที่ยวห้างแถมไม่สนใจวันเกิดกันอีก
แต่มันยังไม่หมดวันสักหน่อย
ผมเชื่อว่าเพลินไม่ลืมแต่กำลังรอเซอไพรส์ผมอยู่
“ซันต้องการให้ครอสเลิกโง่เง่างมงายสักที”
“คนที่กำลังโง่เง่าคือซันต่างหาก!! ขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าเสียเวลาเปล่า เลิกทำให้ตัวเองดูแย่ลงสักทีเถอะ ไม่เห็นแก่ใครก็เห็นแก่ตัวเองเถอะนะซัน!!”
“ครอสจะไปรู้อะไร...”
“เธอนั่นแหละ ไม่เกี่ยวด้วยสักนิดจะเสือกรู้อะไรมากนัก!!”“ปากร้ายขึ้นนะ กำลังกลัวอยู่ล่ะสิ”
“ออกจากห้องนี้ไปซะ!”
“รู้อยู่แก่ใจใช่ไหมล่ะว่าคนรักกันคบกันเป็นแฟนหรือแม้กระทั่งแต่งงานกันแล้วก็นอกใจกันอย่างง่ายดาย แถมยังทำเหมือนตัวเองไม่ผิดอะไรเลยด้วย”
“!!”
สมองผมชาไปเป็นแถบ เล่นโดนขุดโคตรตั้งแต่พ่อ น้อง เพื่อน และคนที่รักมาด่าเหมารวดเดียวขนาดนี้เป็นใครใครก็ช็อค
ผมไม่น่าเปิดประตูให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามาในห้องเลย
ผม...น่าจะรู้สึกตัวให้เร็วกว่านี้อีกนิด ตั้งสติให้เร็วกว่านี้อีกหน่อยแล้วก็เบือนหน้าหลบกลีบปากบางแต่งแต้มด้วยลิปติกสีสดซึ่งทาบทับมาที่ริมฝีปากของผม
ผมควรจะสะดุ้งแล้วก็ผลักเธอออกให้เร็วกว่านี้อีกสักนิด
ให้เร็วก่อนที่เพลินจะมาเห็น
“ครอส”
ไม่ต้องรอผมผลักซันนี่ก็ผละตัวออกไปทันทีที่ได้ยินเสียงแผ่วเบาของคนที่ผมเฝ้ารอมาทั้งวัน
ผลั่ก!
กล่องของขวัญถูกปาใส่หัวผมเต็มๆก่อนเจ้าของกล่องของขวัญที่ว่าจะวิ่งผลุนผลันออกจากห้องไปด้วยความตกใจ
“เพลิน!!”
กึก! เหี้ย!! ผมจะวิ่งตามไปแต่ซันนี่ก็กอดผมเอาไว้จากด้านหลังอย่างจังจนแทบจะล้มหน้าทิ่มทั้งคู่ เธอไม่ได้กอดผมเพราะอาลัยหรืออยากให้เพลินเข้าใจผิดอะไรทั้งนั้นเพราะเพลินเข้าใจผิดไปแล้วเต็มๆ แต่จุดประสงค์ของเธอคือรวบตัวผมเอาไว้เพื่อไม่ให้ตามเพลินทัน!!!
“เป็นเหี้ยอะไรเนี่ย ปล่อยกู!!”ผมทั้งสะบัดทั้งผลักแต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ทั้งเกาะทั้งจิกเอวผมจนเลือดแทบซิบ
“ไม่!! สมน้ำหน้า!! พวกมึงหักหน้ากูก็ต้องเจอแบบนี้แหละ โอ๊ยยยย”
โครม!
ผมถีบครับ เต็มตีนเลยด้วยจุดนี้โดนด่าว่าหน้าตัวเมียก็ไม่สนแล้วสัส พอเธอกลิ้งลงไปกองอยู่กับพื้นผมก็ฉวยจังหวะวิ่งออกจากห้องไปทันที ไม่สนว่าเธอที่มองมาด้วยสายตาโกรธแค้นจะทุบทำลายข้าวของในห้องผมรึป่าว เพราะในนั้นมันไม่มีอะไรสำคัญหรอก...ไม่มีเท่าเพลินอีกแล้ว
" ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " ' " '
ขอให้เที่ยวสงกรานต์อย่างมีความสุขนะคะ
