ต่อค่ะ
RACHA’s part
หลังจากที่คุยกันเสร็จผมก็ขับรถมาตามทางที่คนข้างกายบอกเรื่อยๆจนถึงหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งที่มีขนาดใหญ่พอสมควร...เท่าที่ดูน่าจะเป็นโรงเรียนอันดับต้นๆของที่นี่เลยเพราะนอกจากจะมีขนาดใหญ่แล้วยังมีจำนวนนักเรียนมากด้วย ผมดูจากนักเรียนที่ค่อยๆทยอยเดินออกมาจากประตูโรงเรียนน่ะนะ
“น้องของข้าวจ้าวอยู่ไหนล่ะ?”ผมหันไปถามคนข้างกายที่ตอนนี้ชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่างรถเพื่อหาน้องสาวตัวเองที่ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ไหน
“น่าจะเลิกแล้วล่ะ...อ๊ะ...ข้าวสวย...ทางนี้ๆ”ยังไม่ทันได้พูดจบข้าวจ้าวก็หันไปตะโกนเรียกชื่อน้องสาวตัวเองพร้อมกวักมือเรียกให้อีกฝ่ายเดินมาหา
ผมเองก็มองไปตามทางที่ข้าวจ้าวมองก่อนจะพบกับกลุ่มเด็กสาวประมาณ5คนเดินออกมา...หนึ่งในกลุ่มนั้นต้องเป็นน้องสาวของข้าวจ้าวแน่ๆ ว่าแต่ชื่อของที่บ้านนี้ก็ช่างตั้งจริงนะ...
พี่ชายคนโตชื่อข้าวโอ๊ต
คนกลางชื่อข้าวจ้าว
และคนสุดท้ายน้องสาวคนเดียวของบ้าน...ข้าวสวย
ไม่รู้ว่าจะหน้าตาเป็นยังไงแต่หวังว่าจะเข้ากันได้ดีเพราะยังไงตอนนี้ผมก็เป็นคนรักของพี่ชายเธอ
“...พี่จ้าวมายังไงคะ?”เสียงหวานนุ่มดังขึ้นก่อนจะวิ่งเหยาะๆมาที่รถผม ร่างของเด็กสาวประมาณชั้นมัธยมปลายที่วิ่งมาทำให้คนที่นั่งมองไปถึงกับเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา เส้นผมสีแปลกยาวเป็นลอนจนเกือบถึงกลางหลังดวงตาสีน้ำตาลเหมือนคนไทยแท้รวมทั้งใบหน้าขาวที่ออกซีดเล็กน้อย...รอยยิ้มที่ทักทายพี่ชายตัวเองทำให้ผมขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
ครอบครัวนี้...ไม่เหมือนกันเลยสักนิด
ตั้งแต่พี่ชายของข้าวจ้าวแล้ว...
พี่โอ๊ตเป็นชายหนุ่มผิวแทนผมสีดำดวงตาสีน้ำตาลเหมือนคนไทยแท้อีกทั้งรูปร่างดีส่วนสูงระดับนายแบบขนาดผมที่มั่นใจว่าตัวเองสูงยังรู้สึกด้อยเมื่อยืนอยู่ข้างๆ
ข้าวจ้าวเป็นชายหนุ่มหนุ่มผมขาวออกชมพูนิดๆเส้นผมสีน้ำตาลเข้มกับดวงตาสีเขียวอมเทาคู่สวย...รูปร่างก็มาตรฐานชายไทยปกติและส่วนสูงก็พอๆกับผมเลย
ข้าวสวยน้องสาวคนสุดท้องที่มีผิวสีขาวออกซีดๆเส้นผมสีเทาเข้มดูแปลกตาเหมือนสีตาของข้าวจ้าว ดวงตาสีน้ำตาลเหมือนของพี่ชายคนโต...รูปร่างและส่วนสูงนั้นก็ดูจะโดดกว่าเด็กผู้หญิงคนอื่นในวัยเดียวกันพอสมควร
ผมมองดูพี่น้องคุยกันด้วยสายที่เต็มไปด้วยความสงสัย...ถึงจะบอกว่ามีเชื้อต่างชาติแต่ลูกๆที่ออกมาทำไมถึงไปคนละทางแบบนี้ล่ะ?
“พี่มารับเรานั่นแหละ”
“รับหนู?...ทำไมล่ะ?”
“ไม่รู้สินะว่าแม่เข้าโรงพยาบาล”
“โรงพยาบาล?...เกิดอะไรขึ้นคะ?”น้องสาวถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“แค่เป็นลมแดดน่ะ...ตอนนี้กลับบ้านแล้ว”
“...ค่อยยังชั่วหน่อย...เอ่อ...สวัสดีค่ะ”ดวงตากลมสีน้ำตาลของน้องสาวข้าวจ้าวหันมาสบกับผมพอดีนั่นทำให้เธอเอ่ยทักทายด้วยท่าทางเกร็งๆ
“สวัสดีครับ...พี่ชื่อราชานะเรียกว่าพี่ราชาก็ได้”ผมทักทายก่อนจะส่งยิ้มไปให้ การพูดคุยครั้งแรกคือการสร้างความประทับใจ
“อุ๊ย!...หล่อจัง”
“ข้าวสวย”ข้าวจ้าวที่ได้ยินรีบเรียกชื่อน้องสาวทันที
การกระทำนั่นทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา...ที่ข้าวจ้าวทำนี่อาจจะกำลังหึงผมก็ได้นะ
เป็นแฟนกันแล้วการที่ถูกหึงหรือหวงนี่ก็รู้สึกดีไปอีกแบบ
“ขอโทษค่ะ...แล้ว...อย่าบอกนะว่าเป็นคนคนนั้นน่ะ?”ข้าวสวยขยับเข้าไปกระซิบกับพี่ชายแต่ด้วยระยะแค่นี้ผมก็ได้ยินอย่างชัดเจนเลย
คนคนนั้น?
“...คนไหนกัน?”น้ำเสียงที่ตอบกลับไปไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าว่ามันดูร้อนรนยังไงไม่รู้
“อ้าว...ก็คนที่พี่แอบชอบตั้งแต่ม.ต้น...อุ๊บ!...อื้อ...”
“หยุดพุดเลยนะ!”ยังไม่ทันที่น้องสาวจะได้พูดจบคนพี่ก็รีบใช้มือตัวเองปิดปากน้องสาวก่อนจะหันมาหาผมด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีจัดอย่างหน้าแกล้ง
“...ไม่ได้ยิน...ใช่ไหม?”น้ำเสียงสั่นๆนั่น
น่าแกล้งชะมัด
“อืม...ไม่ได้ยินเลยว่าข้าวจ้าวแอบชอบผมมาตั้งแต่ตอนม.ต้น”ผมบอกผมกับส่งยิ้มไปให้คนตรงหน้าที่ดวงตาคู่สวยนั้นเบิกกว้างขึ้น ริมฝีปากก็ขยับไปมาเหมือนจะพูดอะไรแต่สุดท้ายก็เปลี่ยนมาเม้มริมฝีปากตัวเองไว้แน่น
“ใช่คนนี้จริงๆด้วย...พี่ราชาเป็นแฟนพี่ชายหนูใช่ไหมคะ?”เด็กสาวอาศัยช่วงที่พี่ชายเขินถามผมเสียงดังด้วยแววตาที่เป็นประกาย
“ใช่...บอกพี่หน่อยได้ไหมว่าพี่ชายเราพูดถึงพี่ว่ายังบ้าง?”
“ได้แน่นอนคะ”
“งั้นขึ้นมาเลย”ผมกวักมือเรียกเธอให้ขึ้นมา
“เดี๋ยวสิ!...ห้ามพูดนะข้าวสวย!”ข้าวจ้าวที่เริ่มตั้งสติได้หันไปด้นหลังบอกน้องสาวที่นั่งอมยิ้มอยู่เสียงแข็ง
“ทำไมคะ?...พี่ราชาถามหนูนี่ถ้าไม่ตอบก็เสียมารยาทน่ะสิ”แทนที่เธอจะกลัวแต่ดูเหมือนจะตรงกันข้าม...ความจริงน้ำเสียงแข็งๆนั่นไม่ได้ดูน่ากลัวสักนิดคงไม่มีใครทำตามหรอก
“แต่ที่เราจะพูดน่ะมันเรื่องของ...ของพี่นะ”
“งั้นถ้าหนูไม่พูดพี่ก็พูดเองเลยสิคะ”เด็กสาวบอกพี่ชายตนเองก่อนจะหันมาสบตาผมผ่านทางกระจกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทันทีที่เราสบตากันผมก็รู้ได้เลยว่าเธอเหมือนกันผม...
พวกเราชอบที่จะได้แกล้งชายที่ชื่อว่าข้าวจ้าว
“ไม่มีทาง”ข้าวจ้าวย้ำเสียงแข็งด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ
ถ้าไม่ติดที่ขับรถอยู่ผมคงได้คว้าตัวอีกฝ่ายมาฟัดให้หายมันเขี้ยวแน่ๆ
ตลอดการเดินทางเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเพราะข้าวจ้าวกับข้าวสวยนั้นพูดสวนกันไปมาจนไม่มีความเงียบแม้แต่วินาทีเดียว...บรรยากาศของพี่น้องที่คุยกับแบบนี้ทำให้ผมยิ้มตามตลอด
ผมเองก็มีน้องสาวแต่เราไม่ค่อยเจอกันนัก...ถ้าถามว่าเพราะอะไรก็คงเป็นเหตุผลง่ายๆว่าเพราะผมไม่ยอมกลับบ้านเลยไม่ได้เจอแถมตอนนี้น้องสาวผมก็กำลังเรียนปริญญาโทอยู่เลยแทบไม่มีเวลาได้เจอกัน
ใช้เวลาไม่นานรถหรูสีดำเงาก็หยุดลงหน้าบ้านไม้ที่ดูมีอายุอยู่พอสมควร...รั้วเหล็กขนาดกลางล้อมรอบบ้านไม้อยู่เท่าที่มองภายนอกก็เป็นบ้านขนาดกลางที่มีพื้นที่ด้านนอกอยู่พอสมควร ข้าวสวยลงไปเปิดประตูรั้วให้ผมขับรถเข้าไปจอดด้านในก่อนที่พวกเราจะเข้าไปในบ้านพร้อมกัน
ความประหม่าและกังวลเริ่มเข้ามาทำให้ผมเดินตามช้าลงเรื่อยๆ
“ราชา?...เป็นอะไร?”ข้าวจ้าวหันมาถามก่อนจะเดินกลับมาหา
“ไม่มีอะไร”ผมไม่อยากถูกมองว่าแค่ก็ประหม่าซะได้
“...ผมมองราชามาตลอด...”
“ข้าวจ้าว...”ผมไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรกันแน่
“เพราะมองมาตลอดเลยเลยรู้ว่าเวลาที่ราชาโกหกเป็นยังไง”ดวงตาสีสวยนั่นจ้องมาอย่างสื่อความหมายพร้อมกับรอยยิ้มบางๆที่ส่งมาให้
“...”ผมว่าตัวเองรู้แล้วล่ะว่าสิ่งที่คนตรงหน้าอยากบอกคืออะไร
“ผมจะไม่ถามจู้จี้เพราะทุกคนล้วนมีเรื่องที่ไม่อยากบอกทั้งนั้นแต่ผมจะบอกว่าถ้าราชาอยากบอกเมื่อไหร่...ผมก็พร้อมที่จะฟังนะ”
“...ทำไงดีเนี่ย?”ผมมองไปยังข้าวจ้าวพร้อมกับข่มอารมณ์บางอย่างที่เกิดขึ้น
“อะไร?”ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่รู้ตัวเลยว่าทำไรลงไป
“อยากกอดคุณจัง...แต่ไว้คืนนี้ละกันเนอะ”ผมบอกพร้อมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้
“...ใครจะให้กัน!”
“จะให้ผมนอนแปลกที่คนเดียวงั้นเหรอ?”
“...ราชานอนได้อยู่แล้วนี่”
“อยากนอนกอดข้าวจ้าวนี่นา”ผมบอกออกไปตามตรง ตั้งแต่ที่เราคบกันก็มีบ้างที่ผมชวนข้าวจ้าวให้มาค้างแต่เราก็ไม่เคยได้นอนกอดกันเลย...ผมเองก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรเพราะแค่มีข้าวจ้าวอยู่ข้างๆก็มากพอแล้ว
“...เข้าไปข้างในกันเถอะ”เมื่อตอบไม่ได้อีกฝ่ายก็เปลี่ยนเรื่องก่อนจะเดินนำเข้าไปทันที
ความประหม่าและกังวลหายไปหมดแล้วตั้งแต่ที่ได้กำลังใจมา...เหลือแค่ต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่านั้นหวังว่าครอบครัวของข้าวจ้าวจะชอบผมนะ
“มาแล้วๆ...นั่นไงแฟนพี่จ้าว...พี่ราชาค่ะ”เสียงแรกที่ได้ยินตอนโผล่หน้าเข้าไปในห้องคือเสียงของน้องข้าวจ้าว
ภาพของครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้าทั้ง5คนทำให้ผมรู้สึกเกร็งพอสมควรแต่พอเห็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ลุกขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มนั่นผมก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง
“หล่อจังเลยลูกเขยแม่...ไม่รู้เลยนะว่าข้าวจ้าวจะมีแฟนหล่อขนาดนี้”คุณแม่พูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบใบหน้าผมเบาๆ
“สวัสดีครับคุณน้า...สวัสดีคุณอากับพี่โอ๊ตด้วยนะครับ...พอดีรีบมาเลยไม่ได้เตรียมของฝากอะไรมาให้”ผมบอกพร้อมกับยกมือไหว้คนที่มีอายุมากกว่าด้วยความเคารพ
“ไม่เป็นไรบ้านเราไม่มีพิธีรีตองอะไรมาหรอกเนอะเจ้าโอ๊ต”คุณอาพูก่อนจะหันไปของความเห็นลูกชายคนโต
“ครับ...บ้านนี้อยู่ง่ายๆ...กฎเพียงข้อเดียวที่นายจะเข้ามาแล้วต้องทำตาม”
“อะไรครับ?”ถ้ามีกฎอะไรมาก็พร้อมทั้งนั้น
“ดูแลข้าวจ้าวให้ดีที่สุด”พี่โอ๊ตบอก
“แน่นอนครับ...ผมสัญญา”ผมตอบอย่างหนักแน่น กฎข้อนี้ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้เพราะยังไงผมก็จะดูแลข้าวจ้าวให้ดีที่สุดอยู่แล้ว
บทสนทนายังคงมีอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงเย็นที่คุณน้าลงมือทำอาหารให้...ครอบครัวของข้าวจ้าวรับผมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวอย่างรวดเร็ว ท่าทางที่เป็นกันเองทำให้ผมกล้าที่จะพูดคุยมากขึ้นจนถึงมื้ออาหารก็ยังคงมีเรื่องคุยไม่หยุด
ห้องที่ผมได้พักอยู่ตรงข้ามกับห้องของข้าวจ้าว...ถึงจะอยากนอนกับอีกฝ่ายมากแค่ไหนแต่ก็รู้ตัวว่าสถานที่นี้ไม่ควรทำอะไรที่เสียมารยาทแบบนั้น ความเชื่อใจและไว้ใจที่ได้รับมาผมจะพยายามอย่างเต็มที่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ระหว่างที่กำลังเคลิ้มใกล้หลับเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น นั่นทำให้ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าใครที่มาเอาเวลานี้กัน...
ไม่แน่อาจเป็นพี่โอ๊ตก็ได้
ผมคิดระหว่างเดินไปเปิดประตูออกดู...ทั้งที่คิดไว้แบบนั้นแต่ความจริงที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อหน้าทำให้ผมต้องหยิกแขนตัวเองเพื่อดูว่ามันเป็นความฝันรึเปล่า...
“...ข้าวจ้าว?”ผมเรียกชื่อคนที่ยืนอยู่หน้าห้องผมด้วยชุดนอนสีครีมในมือมีหมอนขนาดใหญ่ถูกกอดไว้แนบอก
“...นอนรึยัง?”เสียงนุ่มถามมา
“อืม...ใกล้แล้วแต่นอนไม่หลับ”
“งั้น...ให้ผมนอนด้วยไหม?”
“ห๊ะ?”คำถามนั่นทำให้ผมถึงกับไปไม่เป็น
“...อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำสิ...มันอายนะ”ข้าวจ้าวบอกก่อนจะซุกหน้าลงที่หมอนใบโตที่กอดไว้
“...พูดจริงเหรอ?”
“อืม”คนตรงหน้าพนักหัวขึ้นลงทั้งที่ยังซุกหน้าอยู่ที่หมอน
“ถ้าเข้ามาผมจะกอดคุณนะ”ผมบอกออกไปเผื่อจะทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจ
“...อืม”คำตอบดังขึ้นพร้อมกับดวงตาสีเขียวปนเทาที่เงยขึ้นมาสบอย่างสั่นๆ
เพียงแค่เห็นท่าทางนั้นผมก็ไม่รอช้ารีบคว้าตัวข้าวจ้าวเข้ามาในห้อง และทันทีที่อีกฝ่ายนอนลงผมก็รีบคว้าเอวเขากระชับเข้ามาใกล้จนร่างกายเราสัมผัสกัน...ความอุ่นที่สัมผัสได้ทำให้ผมซุกตัวเข้าไปที่เส้นผมสีน้ำตาลนุ่มนิ่มนั่นมากขึ้น
ความเงียบเข้าปกคลุมโดยไม่มีใครพูดอะไรเลยสักคำ
สิ่งที่ได้ยินมีเพียง...
เสียงหัวใจสองดวงที่ดังสอดประสานเป็นหวะเดียวกันจนเข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมกัน
...
สวัสดีค่ะ
ขอแจ้งนิดนึงเนอะพอดีคอมเราเสียทำให้ไม่สามารถมาอัพนิยายได้ซึ่งเราแจ้งเรื่องนี้ทางเพจแล้วแต่ไม่ได้แจ้งในเว็บที่ลงนิยายเพราะไม่สะดวกในหลายๆอย่าง
ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้กดติดตามเพจสามารถเข้าไปกดได้นะคะเพราะเวาลามีข่าวสารอะไรจะแจ้งทางเพจค่า
เพจคนแต่ง>>
nicedogกลับมาเรื่องข้าวจ้าวและราชา
หลังจากนี้ก็มีแต่ตอนหวานๆแล้วค่ะ
ไร้ซึ่งอุปสรรค
อ่านสบายๆไปจนจบเรื่องเลย(ความจริงก็อ่านสบายทั้งเรื่อง555)
บอกเลยละกันค่ะว่าอีก2ตอนก็จบแล้ว
มีหลายคนที่อยากอ่านตอนที่ข้าวจ้าวหลงรักราชา...
ตอนแรกกะจะไม่แต่งแต่คิดไปคิดมาแต่งดีกว่าเนอะ อิอิ
แต่จะลงเป็นตอนพิเศษหลังเรื่องจบนะคะ
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจที่มีให้มาตลอดนะคะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
บ๊ายบาย
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪