❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50  (อ่าน 562209 ครั้ง)

ออฟไลน์ yupa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอน้องข้าวจ้าวคะ :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ tangtang

  • ザ ウェイ ユー アー
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :call: รออยู่จ้าาา

ออฟไลน์ packy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เพิ่งเข้ามาอ่าน น่ารักมากก
คนนึงขี้แกล้ง คนนึงก้ขี้อาย
จะรอตอนต่ิไปนะคะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คนแต่งเป็นอะไรมั้ยน้อออ
ปกติถ้าไม่สะดวกมาต่อ
ก็จะเข้ามาแจ้งข่าวนี่นา
อย่างไรก็ขอให้สู้สู้นะ

ออฟไลน์ imagery_FN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แจ้งข่าว! นำมาจากเพจนักเขียนนะคะ

แจ้งข่าวค่า::
สวัสดีค่ะ
วันนี้แจ้งความคืบหน้าของคอมที่ส่งซ่อมนะคะ...คอมตอนนี้ซ่อมเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่มีข้อมูลอะไรหายถือว่าโชคดีมากกก
ตอนค่ำๆจะไปเอากลับ...คาดว่าจะอัพเรื่องข้าวจ้าวและราชาในวันพรุ่งนี้ค่ะ
แต่สำหรับเรื่องอานโน่และเชสของผลัดไปเป็นวันศุกร์ไม่ก็เสาร์นะคะเนื่องจากยังแต่งไม่เสร็จค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจนะคะ
ครั้งหน้าจะเก็บไฟล์ไว้หลายๆที่กันหายค่า^^
Birding

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
แอบรัก⊰❤⊱วันที่14



ช่วงเช้าของวันศุกร์ผมเดินออกมาจากห้องพักตัวเองด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและกังวลที่จะได้ไปพบกับพ่อของราชา...วันนี้ราชาบอกจะมารับให้รออยู่ที่หน้าห้องพักซึ่งเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลก็ได้แต่พยักหน้าตกลง ความจริงก็รู้ว่าต้องมีสักวันที่ต้องไปพบกับครอบครัวราชาแต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ยังไม่ทันได้เตรียมตัวหรือเตรียมใจเลย

การที่มีลูกชายที่ชอบผู้ชายนั้นคงจะเป็นเรื่องที่ครอบครัวรับไม่ได้แน่ มีไม่มากหรอกที่จะเปิดกว้างให้กับความสัมพันธ์แบบนี้
ปริ๊นๆ

ไม่นานรถหรูสีดำเงาก็มาจอดอยู่หน้า ผมพอเปิดประตูเข้าไปก็ทักทายราชานิดหน่อยก่อนที่รถจะแล่นออกสู่ถนนใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ยิ่งใกล้ถึงที่หมายก็ยิ่งรู้สึกกังวลขึ้น ใจหนึ่งอยากจะกลับแต่อีกใจก็อยากจะลองดู...ไม่อยากให้ราชาไปดูตัวทั้งๆที่ผมยังคบกับเขาอยู่แบบนี้

นี่ผมอาจจะกำลังหึงก็ได้

ผมนี่มันบ้าจริงเชียว...ราชากำลังคิดหนักแต่ผมดันมาหึงซะได้

“เป็นอะไรข้าวจ้าว...รู้สึกไม่ดีเหรอ?”เสียงทุ้มของราชาถามขึ้น

“เปล่า...แค่ตื่นเต้นและก็กังวลนิดหน่อย”ผมบอกออกไปตรงๆ

“ไม่ต้องไปกังวลมากนะผมจะช่วยเอง”รอยยิ้มที่ส่งมาทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย

“อืม”

ใช้เวลาไม่นานรถหรูสีดำเงาก็หยุดลง ณ ที่จอดรถของบริษัทภิพัฒธนมงคลหรือก็คือบริษัทที่คุณพ่อของราชาเป็นเจ้าของนั่นเอง ผมเดินตามหลังราชาที่นำขึ้นไปยังห้องที่คาดว่าจะเป็นห้องของท่านประธาน...ชั้นบนสุดของตึกถูกตกแต่งอย่างเรียบหรูด้วยหินอ่อนชั้นดีทั้งพื้นและผนัง

บานประตูสีทองอร่ามที่ถูกแกะสลักอย่างเรียบหรูทำให้รู้ได้ทันทีว่าบุคคลที่อยู่ภายในห้องนั้นต้องไม่ใช่คนสามัญปกติธรรมดาแน่นอน

“ราชา?”ผมเรียกคนที่กำลังเอื้อมมือไปเปิดประหรูตรงหน้าแต่ด้วยเหตุอะไรบางอย่างทำให้มือนั่นหยุดชะงักเหมือนกำลังลังเลอะไรสักอย่าง

“...ผมว่าผมเข้าไปคนเดียวก่อนดีกว่าข้าวจ้าวรออยู่ตรงนี้นะ”

“ไม่เอา”ผมรีบปฏิเสธทันที สิ่งที่เขาพูดก็เหมือนกับจะเข้าไปเผชิญหน้ากับพ่อตามลำพังโดยที่ผมไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยน่ะสิ

“แต่ผมไม่อยากให้ข้าวจ้าวโดน...”

“ไม่เป็นไร...ถึงจะโดนอะไรผมก็ไม่เป็นไรเพราะงั้นให้ผมไปกับราชาเถอะ...ไปด้วยกันสองคนนะ”ดวงตาสีเขียวอมเทามองลึกไปยังดวงตาคมสีน้ำตาลด้วยความแน่วแน่

ผมมาถึงตรงนี้แล้วจะให้รออยู่เฉยก็ไม่เอาหรอก

“ข้าวจ้าว...อืม...ไปด้วยกันเถอะ”ผมมองราชาที่ส่งยิ้มมาให้ก่อนจะเปิดประตูบานหรูนั่นด้วยหัวใจที่เต้นรัวยิ่งกว่าตอนเขินราชาซะอีก

หวังว่าผมจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยดีนะ

“มาตรงเวลาดีนี่”เสียงทุ้มต่ำจากบุคคลที่อยู่ภายในดังขึ้นเมื่อพวกเราเข้ามาภายในห้องแล้ว

“แน่นอนครับ”ราชาตอบพร้อมกับจับมือผมแน่นแล้วดึงให้ไปนั่งที่โซฟาสีเงินที่ตั้งอยู่กลางห้อง

เจ้าของห้องหรือท่านประธานเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามพวกเราด้วยท่าทางนิ่งๆ ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มของคนตรงหน้าเหมือนราชาแต่ให้ความรู้สึกกดดันกว่ามาก ท่านประธานหรือคุณตรีภพหันมามองผมเหมือนจะสำรวจในขณะเดียวกับที่คิ้วนั้นค่อยๆขมวดเข้าหากันจนแน่น

“แล้วแกพาวรานนท์มาทำไม?”คำถามแรกที่ได้ยินก็ตรงจุดจนลมหายใจผมแทบหยุดเต้น

“แล้วพ่อให้ผมพาใครมาล่ะครับ?”ราชาที่ดูเหมือนจะชินกับความกดดันสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว

“...เอาจริงเหรอธรณินทร์”เพียงแค่ประโยคเดียวก็ดูเหมือนเจ้าของห้องจะเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว

“ครับ”

“นี่แกคงไม่ได้จะประชดฉันใช่ไหม?”

“ไม่ใช่แน่นอน...พ่อก็รู้ว่าถ้าผมจะทำแค่ประชดคงไม่ต้องรอให้ถึงวันนี้แต่คงจะทำตั้งแต่ตอนที่ถูกสั่งให้ไปดูตัวแล้ว”ราชาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูโมโหเล็กน้อย

“นั่นสิ...ถ้าจะประชดคงไม่ต้องรอวันนี้หรอก”คุณตรีภพพึมพำกับตัวเองก่อนจะเหล่มาทางผมที่นั่งสั่นๆอยู่ข้างราชา ไม่นานดวงตาคมสีเดียวกับราชาก็หันกลับไปสบกับลูกชายตนอีกครั้ง

“คนนี้เหรอที่แกเงียบไปตอนฉันโทรไป”

“ใช่ครับ”

“ขอฉันคุยกับเธอตามลำพังหน่อย”คุณตรีภพหันมาหาผมพร้อมกับพูดด้วยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆจนไม่สามารถรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกอะไรอยู่กันแน่

“ไม่ได้ครับ”คนข้างกายผมรีบสวนแทน

“ฉันถามใครธรณินทร์”เมื่อถูกสายตาของผู้เป็นพ่อจ้องไปราชาก็ถึงกับชะงักแล้วมุ่ยหน้าเหมือนคนที่เริ่มอารมณ์เสียแล้ว

“...ผมมีสิทธิจะตอบแทนเขา”ราชายังคงบอกต่อ

“งั้นฉันก็มีสิทธิที่จะสั่งให้แกออกจากห้องเหมือนกัน”

“พ่อ!”

“ราชาไม่เป็นไรผมจะอยู่คุยกับคุณตรีภพเอง”ผมรีบคว้าแขนราชาที่กำลังจะลุกขึ้นไปประจันหน้ากับพ่อแทบจะทันที ราชาที่มักสงบนิ่งและใจเย็นแต่พออยู่ต่อหน้าพ่อเหมือนเขาใจร้อนกว่าปกติ

“แต่ว่า...”

“ไม่เป็นไร...เชื่อผมสิ”ผมย้ำอีกรอบ

“ข้าวจ้าว...”น้ำเสียงแข็งกร้าวนั่นอ่อนลงแทบจะทันทีสายตาที่สบมาเต็มไปด้วยความห่วงใยจนผมต้องคลียิ้มพร้อมกับพยักหน้ากลับไปให้

“เข้าใจแล้ว...ผมให้เวลาพ่อคุยกับเขาแค่10นาที...ถ้าถึง10นาทีเมื่อไหร่ผมจะมาพาเขากลับ”ราชาบอกกับผมก่อนจะหันไปพูดกับพ่อที่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาเหมือนไม่สนใจคำพูดของราชาสักเท่าไหร่

เมื่อราชาเดินออกไปทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอย่างรวดเร็ว...คุณตรีภพก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาก่อนแถมยังมองมาเหมือนอยากให้ผมเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาก่อนด้วย

“...สวัสดีครับคุณตรีภพ”ในเมื่อไม่รู้จะพูดอะไรสิ่งแรกที่นึกได้ก็คือการทักทายนี่แหละ

“อืม...เธอคบกันลูกชายฉันมานานแค่ไหนแล้ว?”พอจบการทักทายอีกฝ่ายก็ถามขึ้นพร้อมกับจ้องมาที่ผม

“...ไม่กี่วันก่อนครับ”ผมตอบออกไปตามตรง การโกหกเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

“พึ่งคบกันเองนี่”

“...ครับ”

“เธอต้องการอะไรจากลูกชายฉัน?”

“...”คำถามที่ได้ยินทำเอาผมถึงกับไปไม่เป็น

ต้องการอะไรงั้นเหรอ?

“ว่าไงล่ะ?”

“...ผมไม่ได้ต้องการอะไร...ถ้าบอกแบบนั้นมันก็คงเหมือนการโกหก”ผมหลับตาลงเพื่อตั้งสติก่อนจะลืมตาขึ้นเพื่อบอกสิ่งที่ตนคิดออกไป

“งั้นก็บอกความจริงมา”

“ผมต้องการเพียงหัวใจของราชาเท่านั้น”

“หัวใจ?...ไม่ใช่เงินทองมากมายที่จะทำให้เธออยู่สบายขึ้นงั้นเหรอ?...ไม่แน่ว่าที่เธอคบกับลูกชายฉันอาจเพื่อต้องการให้เป็นข่าวจนโด่งดังขึ้นมาก็เป็นได้”

“ไม่ใช่นะครับ...ผมไม่ได้ต้องการของแบบนั้น”

เงินทอง...ชื่อเสียง

ผมจะต้องการของแบบนั้นไปทำไม?!

“ฉันรู้มาว่าราชาพึ่งรู้จักเธอเมื่อไม่นานมานี้เอง...แค่เวลาสั้นๆแบบนี้จะบอกว่าเธอรักลูกชายฉันงั้นเหรอ?...นี่ไม่ใช่ในละครที่จะมีพรหมลิขิตหรือรักแรกพบหรอกนะ”

“...ผมไม่ได้พึ่งรักเขา”

“หื้อ?...ลูกฉันบอกมาเองว่าเธอเป็นเพื่อนใหม่”

“นั่นก็ถูกผมพึ่งเป็นเพื่อนกับราชาเมื่อไม่นานมานี้”

“แล้วที่เธอบอกล่ะ?...คิดจะกลับคำงั้นสิ?”

“ไม่ใช่ครับ...จริงอยู่ที่ผมพึ่งได้เป็นเพื่อนกับราชาแต่ผมน่ะ...ชอบราชา...ไม่สิ...ผมรักราชามาตั้ง11ปีแล้วเพราะงั้นความรู้สึกของผม...มันเป็นของจริงครับ!”ผมกลั้นใจบอกออกไป...บอกสิ่งที่อยากให้คนตรงหน้าได้รู้

ความรักที่มีต่อราชาของผมมันไม่ได้พึ่งเกิดขึ้นแต่มันเกิดมาตั้งนานแล้ว

“...11ปี?”คำพูดผมทำให้คุณตรีภพมองมาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

“ครับ”

“ตั้งแต่เมื่อไหร่...เล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ”

“...ตั้งแต่ม.3ครับ...คุณอาจจะไม่เชื่อพวกพรหมลิขิตหรือรักแรกพบแต่ผมอยากบอกว่ามันมีจริง...วันที่ผมได้พบราชามันเป็นเพียงความบังเอิญที่เราชนกันที่ห้องสมุดโรงเรียน...ใบหน้าที่ยิ้มแย้มและสายตาที่อ่อนโยน นั่นทำให้ผมตกหลุมรักราชาในทันที...หลังจากนั้นผมก็คอยมองราชามาตลอด”

“แล้วเธอไม่คิดจะบอกเขาเหรอ?”

“ไม่ครับ...ผมก็เป็นคนแบบนี้ไม่ค่อยกล้าพูดอะไรแถมยังขี้อายเอามากๆแค่ได้เห็นเขาจากที่ไกลๆก็มีความสุขมากแล้ว...โชคดีที่ม.ปลายเราอยู่ห้องเดียวกันถึงจะไม่เคยได้พูดคุยกันแต่การที่ได้มองเขาก็ทำให้ผมรู้สึกดีมากแล้ว”ไม่บ่อยนักที่ผมจะได้เล่าถึงอดีตของตัวเองแบบนี้

“อืม...แล้วตอนมหาลัยเธอไม่เจอคนอื่นบ้างเหรอ?”

“...ผมอยากจะตัดใจเลยมองหาคนอื่นแต่พอจะทำแบบนั้นสายตาผมก็หันไปเห็นเขากับกลุ่มเพื่อนเดินมาที่คณะตรงข้ามกับคณะผม...ยิ่งได้เห็นหน้าก็ยิ่งไม่อาจตัดใจได้จนเรียนจบผมก็ไม่เคยจะตัดใจได้เลยจริงๆ”

“แม้แต่ตอนทำงาน?...เธอน่าจะไม่ได้เจอเขาสัก3ปีเพราะฉันให้ไปเรียนต่างประเทศ”

“ครับ...พอจบไปผมก็ทำงานเลยนั่นทำให้ผมไม่มีเวลาคิดเรื่องของเขาจนเวลาผ่านไปหลายปี...ผ่านไปนานจนคิดว่าคงไม่ได้รักเขาอีกแล้วแต่พอได้บังเอิญเจอกันอีกครั้ง...คุณอาจมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระแต่หัวใจผมมันเต้นรัวอยู่ภายในอกเหมือนกับจะบอกว่าคนคนเดียวที่สามารถรักได้อยู่ตรงนั้นแล้ว”ผมเล่าเรื่องทั้งหมดก่อนจะก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตาของคุณตรีภพ

ยังไม่อยากเห็นสายตานิ่งๆนั่นตอนนี้

“...เธอเป็นเด็กดีวรานนท์”น้ำเสียงนิ่งๆที่ได้ยินมาตลอดตั้งแต่เข้ามาเริ่มเปลี่ยนไป มันอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัดจนผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองอีกฝ่ายช้าๆอย่างไม่เข้าใจ

“ครับ?”

“ฉันได้ยินเรื่องเธอมาจากวิเยอะเลยรู้ว่านิสัยเธอเป็นยังไงแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ที่พึ่งเกิดนัก...คำพูดของเธอทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองคิดผิดความรู้สึกที่เธอมีต่อลูกชายฉันมันเป็นของจริง”รอยยิ้มแรกที่เห็นทำให้ผมถึงกับอึ้ง ใบหน้านิ่งๆนั่นเวลายิ้มดูดีขึ้นอีกหลายเท่า

“...คุณตรีภพ”

“ราชาไม่เคยสนใจใครไม่ว่าฉันจะพยายามจัดการดูตัวให้สักกี่ครั้งก็ตาม...ฉันเลยค่อนข้างแปลกใจที่เขาสนใจเธอจนตกลงคบกันแบบนี้...ลูกชายฉันไม่ใช่คนที่จะบอกคบใครไปอย่างงั้นเพื่อรอวันเลิกกัน...นิสัยเด็กจริงๆ”

“...”

“ฉันรู้ว่าตัวเองไม่ใช่พ่อที่ดีนัก...เจอกันทีไรก็มักจะทะเลาะไม่ก็เถียงกันตลอด...เขาคงเกลียดฉันมากเลยละสิ”

“ผมว่าไม่ใช่นะครับ...จริงอยู่ที่ราชาไม่ชอบไปดูตัวและพูดเสียงแข็งทุกครั้งที่เจอคุณแต่ผมว่าเพราเขาไม่รู้ว่าจริงๆแล้วสิ่งที่คุณต้องการคืออะไรกันแน่...ทำไมคุณไม่ลองบอกเหตุผลจริงๆที่คุณต้องบังคับเขาแบบนั้นล่ะ...ผมเชื่อว่าถ้าคุยกันทั้งราชาและคุณจะเข้าใจกันในที่สุด”ผมแนะนำคุณตรีภพก่อนจะส่งยิ้มไปให้เล็กน้อย

คุณตรีภพในสายตาของราชาอาจดูเป็นคนที่น่ากลัวและชอบบังคับให้ทำนู้นทำนี่แต่ในสายตาผมคุณตรีภพเป็นพ่อที่เป็นห่วงลูกชายมากแต่ไม่รู้จะแสดงออกยังไง

“...ฉันเริ่มรู้แล้วว่าทำไมราชาถึงเลือกเธอ”

“ครับ?”

“ฉันยอมรับให้เธอเป็นลูกสะใภ้ในตระกูลภิพัฒธนมงคล...ต่อจากนี้เธอต้องเรียกฉันว่าคุณอา”คนตรงหน้าบอกก่อนจะส่งยิ้มมาให้อีกครั้ง รอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนมากจนอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม

“ขอบคุณนะครับ...คุณอา”




ตั้งแต่วันที่ได้ไปพูดคุยกับท่านประธานหรือพ่อของราชาก็ผ่านไปหลายเดือน การคบกันของพวกเราดูจะเป็นไปได้ด้วยดีมีเพียงแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่ทำให้เราเถียงกันบ้างโดยเฉพาะเรื่องห้องพัก...ราชาอยากให้ผมย้ายไปอยู่ที่เดียวกันหรือก็คือห้องของเขานั่นเองแต่ด้วยเหตุผลหลายอย่างทำให้ผมส่ายหน้าปฏิเสธมาตลอด

แค่ได้เจอกันทุกวันก็ทำให้ผมมีความสุขจนแทบจะหยุดหายใจแล้ว ถ้าให้ไปอยู่ห้องเดียวกันอีกผมกล้าบอกได้เลยว่าหัวใจตัวเองต้องหยุดเต้นไม่วันใดก็วันหนึ่งแน่นอน

อีกอย่างคือระยะทางตั้งแต่คอนโดของราชาไปถึงร้านแกลลอรี่ของอาวิก็มีระยะทางมากว่าห้องพักที่อยู่ตอนนี้ซะอีกเลยทำให้ผมไม่อยากย้ายไป

ในเรื่องของกิจการหอศิลป์ขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีประธานคนใหม่ไปดูแลก็ผ่านไปได้ด้วยดี...ราชาดูจะมีความรู้เกี่ยวกับศิลปะเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผมที่บอกทุกอย่างที่ตัวเองรู้ให้เขาฟัง เวลาเดินผ่านรูปภาพผมก็จะบอกว่าภาพนี้เป็นภาพประเภทไหน ใช้สีอะไรในการวาดหรือให้อารมณ์แบบไหน...อีกส่วนคงมาจากหนังสือศิลปะที่ราชาเหมามาเกือบทั้งร้าน

เวลาว่างๆราชาก็มักจะหยับมาอ่านเสริมความรู้...จากที่มองราชาดูจะชอบงานนี้มากกว่าที่เคยทำที่บริษัทเพราะทุกครั้งที่มีอะไรไม่เข้าใจผมก็จะเป็นตัวเลือกแรกที่ถูกเรียกไปไขข้อข้องใจเสมอ หนังสือที่เหมามาไม่ได้มีแค่ราชาที่อ่านแต่ผมเองก็อ่านเช่นกัน

ครืดดดด~

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเรียกให้ผมที่กำลังแต่งรูปอยู่ภายในแกลลอรี่ของอาวิสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะกดรับโทรศัพท์เมื่อรู้ว่าใครที่โทรเข้ามา

“ครับแม่”

(ตัวเล็ก!)เสียงทุ้มที่ดังจากปลายสายไม่ใช่เสียงของแม่นั่นทำให้ผมขมวดคิ้วแน่นทันที

เสียงนั่นผมรู้จัก

“พี่โอ๊ต?”

(เออสิ...ตอนนี้แย่แล้ว!)

“เกิดอะไรขึ้นพี่?”ผมรีบถามทันที

(แม่เข้าโรงพยาบาลตอนนี้อยู่ห้องไอซียู)

“ว่างไงนะ?...เกิดอะไรขึ้น?...แล้วทำไม?”

(ใจเย็นก่อนตัวเล็ก)

“...แต่ว่า...”

(ตัวเล็กรีบกลับมาได้ไหม?)คำถามของพี่ทำให้ผมชะงัก

จริงสิ...ต้องไปหาแม่

“ได้ครับ...ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”

หลังจากจบการสนทนาทางโทรศัพท์วรานนท์ก็รีบลงมาขอลากับอาวิและน้าแก้วซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ว่าอะไรแถมยังเป็นห่วงอาการของแม่ผมมากอีก การเดินทางไปยังบ้านนั้นใช้เวลาหลายชั่วโมง...ในตอนนั้นยอมรับเลยว่าผมลืมโทรไปบอกคนรักผมหรือราชาไปซะสนิทกว่าจะรู้ตัวก็มายืนอยู่หน้าโรงพยาบาลที่บ้านเกิดซะแล้ว

“พี่โอ๊ต...แม่เป็นไงบ้าง?”เมื่อรู้ว่าแม่อยู่ที่ห้องไหนผมก็รีบวิ่งไปก่อนจะเปิดประตูห้องอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เห็นพี่โอ๊ตยืนอยู่ก็ไม่รอช้าที่จะถามอาการ

“ใจเย็นๆก่อนตัวเล็ก...แม่ปลอดภัยแล้ว”

“จริงนะ”

“อืม...เห็นว่าแค่เป็นลมแดด”

“อ้าว!...ไหนพี่บอกว่าแม่เข้าห้องไอซียู?”ผมรีบถามกลับ

“...ก็แหม...ตอนนั้นมันรีบแล้วพี่ก็พึ่งมาถึงไม่นานเอง”

“ห๊ะ?”

“คนที่พาแม่มาคือพ่อแต่ตอนนี้พ่อไปจ่ายค่ายาข้างล่างอยู่”

“พี่โอ๊ต!!”พอรู้ความจริงก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนใส่พี่ชายตัวเองอย่างเคืองๆ

พี่เขาไม่รู้เลยรึไงว่าประโยคนั่นทำให้ผมตกใจขนาดไหน...ตลอดการเดินทางมานี่ใจก็แทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนึกว่าแม่จะเป็นอะไรไปซะแล้ว

“โทษทีน้องรัก...แฮะๆ”

“แฮะอะไรเล่า?...ผมโกรธจริงนะเนี่ย!”

“น่าๆ...แล้วเรามาคนเดี๋ยวเหรอ?”พี่โอ๊ตเปลี่ยนเรื่องพร้อมมองข้ามไหล่ไปยังประตูห้อง

“...ก็ใช่...ทำไมเหรอ?”ผมต้องพาใครมาด้วย?

“แล้วคนนั้นล่ะ?”

“คนไหน?”

“นี่ย้อนพี่?...ก็ไอ้คนที่เราแอบรักมา10กว่าปีนั่นไง”

“ชู่!!...เดี๋ยวแม่ตื่นพอดี”ผมรีบตะปบปากพี่ชายเมื่อเริ่มตะโกน

“ก็บอกมาสิ...โยเยอยู่ได้...สรุปว่าเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม?”

“...ทำไมถึงรู้ล่ะ?”ผมถามแบบไม่เต็มเสียง

“ว่าแล้ว...สายตาที่หมอนั่นใช้มองพี่เหมือนคนที่กำลังหึงเราเลยน่ะสิ”

“ห๊ะ?..หึง?”ผมถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินที่พี่โอ๊ตพูด

“ก็ใช่น่ะสิ...ไม่รู้ตัวเลยเหรอน้องพี่อ่อนหัดเรื่องความรักจริงๆ”

“พี่อย่ามามั่วนะ”ผมดีใจจริงนะเนี่ย

“มั่วที่ไหน...ผู้ชายด้วยกันดูออกน่า”

“ผมก็ผู้ชายนะพี่”พูดเหมือนผมเป็นผู้หญิงงั้นแหละ

“เฮ่อ...เอาเป็นว่าพี่รู้ละกัน...เราได้บอกหมอนั่นรึยังว่ามานี่น่ะ?”

“ไม่ได้บอก...”

“รีบโทรไปบอกเลย...ถ้าเขาไปหาเราที่ทำงานแล้วไม่เจอจะทำไงล่ะ?”

“เขามีงานน่าพี่”วันนี้เห็นบอกว่ามีประชุมใหญ่พ่อของราชาเป็นคนจัดการประชุมครั้งนี้ขึ้นเห็นว่าอยากซื้อภาพวาดของจิตกรคนหนึ่งเลยต้องปรึกษากันก่อนว่ายังไงดี

เพราะแบบนั้นราชาคงไม่มีเวลามาหาผมที่ร้านได้หรอก

“เอ้า...มันก็ไม่แน่นี่”

ครืดดดด~

ยังไม่ทันได้ตอบพี่โทรศัพท์ในกระเป๋าก็สั่นขึ้นพอมองดูชื่อที่ปรากฏก็ต้องขมวดอย่างไม่เชื่อสายตาว่าทำไมราชาถึงโทรมาหาได้ทั้งที่น่าจะประชุมอยู่

“นั่นไง...พี่พูดแล้วไม่มีผิด”พี่โอ๊ตดูจะภูมิใจที่ตัวเองทายถูกมากถึงขนาดส่งยิ้มกว้างมาให้

“ครับๆ...พี่เก่งมากเลยขอผมไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกก่อนนะ”

ผมบอกลาพี่เล็กน้อยก่อนจะเดินออกมายังห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีโซฟาให้นั่งพักได้...ผมกดโทรกลับหาราชาอีกรอบก่อนนี้ผมไม่ได้รับเพราะกลัวเสียงที่พูดคุยจะไปรบกวนคนที่นอนพักอยู่ในห้องแต่ถ้าเป็นพื้นที่ตรงนี้คงไม่เป็นไร

“ราชาคือ...”

(ข้าวจ้าว!...คุณอยู่ไหนน่ะผมไปที่ร้านก็ไม่เจอคุณเห็นบอกว่าคุณลางานไปหลายวัน...โทรไปก็ไม่รับรู้ไหมว่าผมเป็นห่วงน่ะ!)ยังไม่ทันพูดอะไรราชาก็แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง

“ขอโทษ”

(ผมไม่อยากได้ยินคำว่าขอโทษ...คุณอยู่ไหนข้าวจ้าว?)

“ผมอยู่โรงพยาบาล...”

(โรงพยาบาล?!)เป็นอีกครั้งที่ปลายสายไม่ยอมฟังแถมยังแทรกขัดสิ่งที่ผมอยากพูดอีก

“ราชาฟังผมก่อนนะ...ใจเย็นๆ”ผมพยายามบอกราชาที่ดูเหมือนกำลังร้อนรนอยู่

(...ไม่เป็นไรใช่ไหม?)

“อืม...แม่ผมเข้าโรงพยาบาลน่ะเป็นลมแดด...ผมเลยรีบมาหาท่าน”

(แล้วจะกลับตอนไหน?)

“น่าจะอีกสามสี่วัน”ผมบอกหลังจากทีลองนึกดู

ไหนๆก็กลับมาที่บ้านเกิดทั้งทีก็อยากจะอยู่กับพ่อแม่และน้องสักพักหนึ่ง...ก่อนมานี่ก็ได้ขอลาหยุดไว้แล้วเพราะงั้นคงไม่มีปัญหาอะไร

(...นานจัง)

“แป๊บเดียวเองราชา”มันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอุ่นใจเมื่อคำพูดของราชาเหมือนอยากให้ผมกลับไปเร็วๆ

(ไปหาได้ไหม?)

“...มีประชุมไม่ใช่เหรอ?”ผมถามออกไป

(ก็ใช่แต่เสร็จแล้ว...ไปหาได้ไหม?)ราชาถามย้ำอีกรอบ

“ก็ไม่ใช่ไม่ได้...”

(งั้นผมไปหานะ...อยู่ที่ไหนล่ะ?)

สุดท้ายผมก็ต้องยอมราชาให้มาหาจนได้...ระหว่างที่รอราชามาผมก็กลับเข้าไปที่ห้องก่อนจะพบว่าแม่ฟื้นแล้ว พวกเราคุยกันโดยมีพี่โอ๊ตกับพ่ออยู่ข้างๆ...นานมากแล้วที่ไม่ได้รู้สึกอบอุ่นแบบนี้การกลับมาที่นี่ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมากเลย

“...แล้วแม่ก็ต้องเป็นคนถูบ้านทั้งที่เป็นหน้าที่พ่อแท้ๆ...ที่แม่เป็นลมก็เพราะพ่อนั่นแหละ”แม่เริ่มเล่าถึงเหตุการณ์ที่เป็นลมให้ฟัง เริ่มตั้งแต่เช้าที่แม่ตื่นมากวาดบ้านและก็ซักผ้าโดยปกติพ่อจะเป็นคนถูบ้านแต่วันนี้พ่อต้องออกไปข้างนอกแม่เลยตัดสินใจทำแทน พอถูบ้านเสร็จก็ไปตากผ้าต่อด้วยความร้อนจากแดดและความเหนื่อยทำให้แม่เป็นลมในที่สุด

“พ่อขอโทษนะแม่...ไม่มีคราวหน้าแน่นอน”พ่อที่ฟังอยู่ข้างๆรีบเข้ามาขอโทษพร้อมกับกอดแม่อย่างรวดเร็ว

“สัญญานะ”

“แน่นอนครับผม”แล้วทั้งคู่ก็กอดกันกลม

“อ้อ...ตัวเล็กไปรับข้าวสวยที่โรงเรียนหน่อยสิ”พี่โอ๊ตหันมาคุยกับผม

“ผมเหรอ?...แล้วแม่ล่ะ?”

“หมอให้ออกจากโรงพยาบาลวันนี้แหละ...เดี๋ยวเราไปรับน้องแล้วเจอกันที่บ้านเลยจะได้พาหมอนั่นไปอวดพ่อแม่ด้วยไง”พี่โอ๊ตบอกพร้อมกับยักคิ้วให้

“พะ...พี่รู้ได้ไงว่าราชาจะมานี่น่ะ?”ผมไม่ได้บอกใครเลยนะ

“หึ...ของกล้วยๆ”พี่ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้แทนคำตอบ

“อะไรๆ...ข้าวจ้าวจะพาใครมาเหรอข้าวโอ๊ต”พ่อกับแม่ที่กอดกันกลมเริ่มหันมาสนใจทางนี้แล้วครับ

“นั่นสิๆ...บอกพ่อก่อนเร็ว”

“เอ่อ...คือ...”จะให้บอกว่าอะไรดีล่ะ?

“น้องจะพาแฟนมาบ้านน่ะครับ”พี่โอ๊ตตอบให้เสร็จสับโดยที่ผมไม่ได้ร้องขอเลยสักนิด

“พี่โอ๊ต!”

“แล้วพี่พูดผิดรึไง?”

“...ก็ไม่ใช่แต่ว่า...”

“สรุปว่าไงข้าวจ้าว”แม่มองหน้าผมพร้อมกับถามเสียงเข้ม

“...ใช่ครับแม่...แฟนผมจะมานี่ครับ”พอโดนแม่จ้องมาแบบนั้นก็ไม่สามารถโกหกได้ถึงความจริงผมไม่คิดจะโกหกก็ตาม

“ก็แค่นั้น...ว่าแต่แฟนแกนี่เป็นใครกัน...ใช่คนที่แกแอบชอบรึเปล่า?”

“มะ...แม่รู้เรื่องนี้ได้ยัง?”ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่แม่พูด

ทำไมถึงรู้ได้...จำได้ว่าไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้แม่ฟังนะ

ถ้าผมไม่ได้เป็นคนบอกก็คิดได้แค่...

ผมรีบหันควับไปหาพี่ชายตัวดีทันแต่คำตอบที่ได้ก็แค่พี่ชายส่ายหัวไปมาเท่านั้น

“ไม่มีใครบอกหรอกนะ”แม่พูดขึ้นก่อนจะคลียิ้มออกมา

“งั้นทำไม...”

“แม่แค่แอบได้ยินตอนเราคุยกับพี่เท่านั้นเอง”

“...แม่”

“ไม่คิดเลยว่าลูกชายจะบอกเรื่องนี้แค่กับพี่ชายไม่ยอมบอกแม่หรือพ่อเลย”พอพูดมาถึงตรงนี้แม่ก็ทำหน้าเศร้า

“ไม่ใช่นะครับที่ผมไม่บอกก็เพราะ...”คนที่ผมแอบรักเป็นผู้ชาย

“แม่รู้ว่าที่ลูกจะบอกคืออะไร...ไม่ว่าคนที่ข้าวจ้าวชอบจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายแม่ก็ไม่ว่าหรอกขอแค่อีกฝ่ายรักและดูแลเราได้ก็พอ”

“แม่ครับ”คำพูดของแม่ทำให้ผมถึงกับน้ำตาไหลแล้วเข้าไปกอดเอวแม่ไว้แน่น

แม่รู้...รู้ทุกอย่างแต่ก็ไม่เคยบอกว่ารู้ ท่านคงรอให้ผมเป็นฝ่ายบอกเองแต่ผมก็ไม่ยอมบอกจนถึงป่านนี้...ผมนี่เป็นลูกที่แย่จริงๆ

“สรุปว่าแฟนข้าวจ้าวใช่คนที่ลูกเคยพูดถึงรึเปล่า?”

“อืม...ใช่ครับแม่”ผมพยักหน้าทั้งน้ำตาโดยที่ยังซุกตัวอยู่ที่เอวแม่

“...แม่ชักอยากเห็นหน้าเร็วๆแล้วสิ...โอ๊ะ...ต้องรีบกลับไปแต่งก่อน”

“โธ่...คุณไม่ต้องแต่งก็สวยน่า”พ่อที่ยืนข้างๆบอกแม่ด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ได้ๆ...เดี๋ยวรีบกลับเลย...อ้อ...ลูกก็พาเขาไปรับข้าวสวยเลยสิ”แม่ออกความเห็น

“...ก็ได้ครับ”

ครืดดดด~

โทรศัพท์ในกระเป๋าที่ดังขึ้นทำให้บทสนทนาหยุดชะงักแล้วพอลองมองดูก็รู้ว่าคนที่โทรเข้ามาก็คือราชานั่นเอง...ครอบครัวผมที่เห็นแบบนั้นต่างก็บอกให้ไปได้แล้วผมเลยบอกลาก่อนจะลงไปหาราชาที่บอกว่าจอดรถอยู่ด้านล่าง

“ข้าวจ้าว”เสียงเรียกชื่อดังขึ้นทันทีที่ผมเดินออกมาจากโรงพยาบาล

“ราชา”ผมหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะเจอราชาวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับดึงตัวเข้าไปกอดไว้แน่น ผมตกใจเล็กน้อยกับการกระทำนั่นแต่พอดิ้นอีกฝ่ายก็ไม่ยอมปล่อยเลยต้องปล่อยเลยตามเลย

“ผมเป็นห่วงนะ...คราวหน้าต้องโทรหาผมเข้าใจไหม?”เสียงทุ้มกระซิบข้างๆหู

“อืม...ขอบคุณที่มาหานะ”ผมบอกไปตาม

“คิดถึงจัง”ราชาปล่อยผมให้เป็นอิสระพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ เป็นยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขจัง

“เราพึ่งเจอกันเมื่อวานเองนะ”

“ไม่รู้ล่ะ...เอาเป็นว่าคิดถึงละกัน”

“อืม...คิดถึงเหมือนกัน”ผมบอกพร้อมรอยยิ้มกว้าง

“...เล่นยิ้มแบบนั้นขี้โกงนี่”อีกฝ่ายหน้าขึ้นสีเล็กน้อยก่อนจะบ่นอุบอิบกลับมา

“ขี้โกงยังไง?”แค่ยิ้มเองนะ

“ไม่รู้จริงเหรอว่ารอยยิ้มของคุณมันสว่างขนาดไหน?”

“สว่าง?”

“ใช่...ใบหน้าปกติที่ดูนิ่งๆกลับเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนเมื่อริมฝีปากบางๆนี่คลียิ้มออกมา...เหมือนแสงสว่างยามพระอาทิตย์ขึ้นเลย”ราชาบอกพร้อมกับยกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปากผมเบาจนผมรู้สึกเขินไปหมด

เขาพูดคำพูดหวานๆนั่นออกมาอีกแล้ว

“...พอเถอะ...อย่าทำให้ผมอายไปมากกว่านี้”ผมตัดสินใจเอ่ยออกไปด้วยเสียงสั่น

“คุณน่ะน่ารัก”

“ราชา!”ผมเริ่มขึ้นเสียงเมื่อยังถูกหยอดคำหวานไม่หยุด

“ฮะฮะ...ครับๆพอแล้ว...วันนี้ผมกะจะมาค้างกับคุณด้วยล่ะได้ใช่ไหม?”หลังจากแกล้งผมจนพอใจราชาก็ถามขึ้น

“ได้สิ...ครอบครัวผมก็อยากเจอราชาเหมือนกัน”

“ข้าวจ้าวบอกเรื่องของเราแล้วเหรอ?”ราชาดูจะตกใจที่ได้ยินประโยคเมื่อครู่

“ก็ไม่เชิง...แต่ก็ใช่...ครอบครัวผมรู้เรื่องแล้ว”

“ไม่โดนว่าอะไรใช่ไหม?”สายตาที่จ้องมาแสดงความเป็นห่วงอย่างชัดเจนจนผมต้องส่ายหน้าตอบกลับไป

“ไม่เลย...พวกท่านเข้าใจ...อ้อ...เราต้องแวะไปรับน้องสาวผมก่อนนะ”

“ได้เลย...บอกทางมาละกัน”



(มีต่อค่ะ)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
ต่อค่ะ



RACHA’s part


หลังจากที่คุยกันเสร็จผมก็ขับรถมาตามทางที่คนข้างกายบอกเรื่อยๆจนถึงหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งที่มีขนาดใหญ่พอสมควร...เท่าที่ดูน่าจะเป็นโรงเรียนอันดับต้นๆของที่นี่เลยเพราะนอกจากจะมีขนาดใหญ่แล้วยังมีจำนวนนักเรียนมากด้วย ผมดูจากนักเรียนที่ค่อยๆทยอยเดินออกมาจากประตูโรงเรียนน่ะนะ

“น้องของข้าวจ้าวอยู่ไหนล่ะ?”ผมหันไปถามคนข้างกายที่ตอนนี้ชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่างรถเพื่อหาน้องสาวตัวเองที่ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ไหน

“น่าจะเลิกแล้วล่ะ...อ๊ะ...ข้าวสวย...ทางนี้ๆ”ยังไม่ทันได้พูดจบข้าวจ้าวก็หันไปตะโกนเรียกชื่อน้องสาวตัวเองพร้อมกวักมือเรียกให้อีกฝ่ายเดินมาหา

ผมเองก็มองไปตามทางที่ข้าวจ้าวมองก่อนจะพบกับกลุ่มเด็กสาวประมาณ5คนเดินออกมา...หนึ่งในกลุ่มนั้นต้องเป็นน้องสาวของข้าวจ้าวแน่ๆ ว่าแต่ชื่อของที่บ้านนี้ก็ช่างตั้งจริงนะ...

พี่ชายคนโตชื่อข้าวโอ๊ต

คนกลางชื่อข้าวจ้าว

และคนสุดท้ายน้องสาวคนเดียวของบ้าน...ข้าวสวย

ไม่รู้ว่าจะหน้าตาเป็นยังไงแต่หวังว่าจะเข้ากันได้ดีเพราะยังไงตอนนี้ผมก็เป็นคนรักของพี่ชายเธอ

“...พี่จ้าวมายังไงคะ?”เสียงหวานนุ่มดังขึ้นก่อนจะวิ่งเหยาะๆมาที่รถผม ร่างของเด็กสาวประมาณชั้นมัธยมปลายที่วิ่งมาทำให้คนที่นั่งมองไปถึงกับเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา เส้นผมสีแปลกยาวเป็นลอนจนเกือบถึงกลางหลังดวงตาสีน้ำตาลเหมือนคนไทยแท้รวมทั้งใบหน้าขาวที่ออกซีดเล็กน้อย...รอยยิ้มที่ทักทายพี่ชายตัวเองทำให้ผมขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม

ครอบครัวนี้...ไม่เหมือนกันเลยสักนิด

ตั้งแต่พี่ชายของข้าวจ้าวแล้ว...

พี่โอ๊ตเป็นชายหนุ่มผิวแทนผมสีดำดวงตาสีน้ำตาลเหมือนคนไทยแท้อีกทั้งรูปร่างดีส่วนสูงระดับนายแบบขนาดผมที่มั่นใจว่าตัวเองสูงยังรู้สึกด้อยเมื่อยืนอยู่ข้างๆ

ข้าวจ้าวเป็นชายหนุ่มหนุ่มผมขาวออกชมพูนิดๆเส้นผมสีน้ำตาลเข้มกับดวงตาสีเขียวอมเทาคู่สวย...รูปร่างก็มาตรฐานชายไทยปกติและส่วนสูงก็พอๆกับผมเลย

ข้าวสวยน้องสาวคนสุดท้องที่มีผิวสีขาวออกซีดๆเส้นผมสีเทาเข้มดูแปลกตาเหมือนสีตาของข้าวจ้าว ดวงตาสีน้ำตาลเหมือนของพี่ชายคนโต...รูปร่างและส่วนสูงนั้นก็ดูจะโดดกว่าเด็กผู้หญิงคนอื่นในวัยเดียวกันพอสมควร

ผมมองดูพี่น้องคุยกันด้วยสายที่เต็มไปด้วยความสงสัย...ถึงจะบอกว่ามีเชื้อต่างชาติแต่ลูกๆที่ออกมาทำไมถึงไปคนละทางแบบนี้ล่ะ?

“พี่มารับเรานั่นแหละ”

“รับหนู?...ทำไมล่ะ?”

“ไม่รู้สินะว่าแม่เข้าโรงพยาบาล”

“โรงพยาบาล?...เกิดอะไรขึ้นคะ?”น้องสาวถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน

“แค่เป็นลมแดดน่ะ...ตอนนี้กลับบ้านแล้ว”

“...ค่อยยังชั่วหน่อย...เอ่อ...สวัสดีค่ะ”ดวงตากลมสีน้ำตาลของน้องสาวข้าวจ้าวหันมาสบกับผมพอดีนั่นทำให้เธอเอ่ยทักทายด้วยท่าทางเกร็งๆ

“สวัสดีครับ...พี่ชื่อราชานะเรียกว่าพี่ราชาก็ได้”ผมทักทายก่อนจะส่งยิ้มไปให้ การพูดคุยครั้งแรกคือการสร้างความประทับใจ

“อุ๊ย!...หล่อจัง”

“ข้าวสวย”ข้าวจ้าวที่ได้ยินรีบเรียกชื่อน้องสาวทันที

การกระทำนั่นทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา...ที่ข้าวจ้าวทำนี่อาจจะกำลังหึงผมก็ได้นะ

เป็นแฟนกันแล้วการที่ถูกหึงหรือหวงนี่ก็รู้สึกดีไปอีกแบบ

“ขอโทษค่ะ...แล้ว...อย่าบอกนะว่าเป็นคนคนนั้นน่ะ?”ข้าวสวยขยับเข้าไปกระซิบกับพี่ชายแต่ด้วยระยะแค่นี้ผมก็ได้ยินอย่างชัดเจนเลย

คนคนนั้น?

“...คนไหนกัน?”น้ำเสียงที่ตอบกลับไปไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าว่ามันดูร้อนรนยังไงไม่รู้

“อ้าว...ก็คนที่พี่แอบชอบตั้งแต่ม.ต้น...อุ๊บ!...อื้อ...”

“หยุดพุดเลยนะ!”ยังไม่ทันที่น้องสาวจะได้พูดจบคนพี่ก็รีบใช้มือตัวเองปิดปากน้องสาวก่อนจะหันมาหาผมด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีจัดอย่างหน้าแกล้ง

“...ไม่ได้ยิน...ใช่ไหม?”น้ำเสียงสั่นๆนั่น

น่าแกล้งชะมัด

“อืม...ไม่ได้ยินเลยว่าข้าวจ้าวแอบชอบผมมาตั้งแต่ตอนม.ต้น”ผมบอกผมกับส่งยิ้มไปให้คนตรงหน้าที่ดวงตาคู่สวยนั้นเบิกกว้างขึ้น ริมฝีปากก็ขยับไปมาเหมือนจะพูดอะไรแต่สุดท้ายก็เปลี่ยนมาเม้มริมฝีปากตัวเองไว้แน่น

“ใช่คนนี้จริงๆด้วย...พี่ราชาเป็นแฟนพี่ชายหนูใช่ไหมคะ?”เด็กสาวอาศัยช่วงที่พี่ชายเขินถามผมเสียงดังด้วยแววตาที่เป็นประกาย

“ใช่...บอกพี่หน่อยได้ไหมว่าพี่ชายเราพูดถึงพี่ว่ายังบ้าง?”

“ได้แน่นอนคะ”

“งั้นขึ้นมาเลย”ผมกวักมือเรียกเธอให้ขึ้นมา

“เดี๋ยวสิ!...ห้ามพูดนะข้าวสวย!”ข้าวจ้าวที่เริ่มตั้งสติได้หันไปด้นหลังบอกน้องสาวที่นั่งอมยิ้มอยู่เสียงแข็ง

“ทำไมคะ?...พี่ราชาถามหนูนี่ถ้าไม่ตอบก็เสียมารยาทน่ะสิ”แทนที่เธอจะกลัวแต่ดูเหมือนจะตรงกันข้าม...ความจริงน้ำเสียงแข็งๆนั่นไม่ได้ดูน่ากลัวสักนิดคงไม่มีใครทำตามหรอก

“แต่ที่เราจะพูดน่ะมันเรื่องของ...ของพี่นะ”

“งั้นถ้าหนูไม่พูดพี่ก็พูดเองเลยสิคะ”เด็กสาวบอกพี่ชายตนเองก่อนจะหันมาสบตาผมผ่านทางกระจกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทันทีที่เราสบตากันผมก็รู้ได้เลยว่าเธอเหมือนกันผม...

พวกเราชอบที่จะได้แกล้งชายที่ชื่อว่าข้าวจ้าว

“ไม่มีทาง”ข้าวจ้าวย้ำเสียงแข็งด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ

ถ้าไม่ติดที่ขับรถอยู่ผมคงได้คว้าตัวอีกฝ่ายมาฟัดให้หายมันเขี้ยวแน่ๆ

ตลอดการเดินทางเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเพราะข้าวจ้าวกับข้าวสวยนั้นพูดสวนกันไปมาจนไม่มีความเงียบแม้แต่วินาทีเดียว...บรรยากาศของพี่น้องที่คุยกับแบบนี้ทำให้ผมยิ้มตามตลอด

ผมเองก็มีน้องสาวแต่เราไม่ค่อยเจอกันนัก...ถ้าถามว่าเพราะอะไรก็คงเป็นเหตุผลง่ายๆว่าเพราะผมไม่ยอมกลับบ้านเลยไม่ได้เจอแถมตอนนี้น้องสาวผมก็กำลังเรียนปริญญาโทอยู่เลยแทบไม่มีเวลาได้เจอกัน

ใช้เวลาไม่นานรถหรูสีดำเงาก็หยุดลงหน้าบ้านไม้ที่ดูมีอายุอยู่พอสมควร...รั้วเหล็กขนาดกลางล้อมรอบบ้านไม้อยู่เท่าที่มองภายนอกก็เป็นบ้านขนาดกลางที่มีพื้นที่ด้านนอกอยู่พอสมควร ข้าวสวยลงไปเปิดประตูรั้วให้ผมขับรถเข้าไปจอดด้านในก่อนที่พวกเราจะเข้าไปในบ้านพร้อมกัน

ความประหม่าและกังวลเริ่มเข้ามาทำให้ผมเดินตามช้าลงเรื่อยๆ

“ราชา?...เป็นอะไร?”ข้าวจ้าวหันมาถามก่อนจะเดินกลับมาหา

“ไม่มีอะไร”ผมไม่อยากถูกมองว่าแค่ก็ประหม่าซะได้

“...ผมมองราชามาตลอด...”

“ข้าวจ้าว...”ผมไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรกันแน่

“เพราะมองมาตลอดเลยเลยรู้ว่าเวลาที่ราชาโกหกเป็นยังไง”ดวงตาสีสวยนั่นจ้องมาอย่างสื่อความหมายพร้อมกับรอยยิ้มบางๆที่ส่งมาให้

“...”ผมว่าตัวเองรู้แล้วล่ะว่าสิ่งที่คนตรงหน้าอยากบอกคืออะไร

“ผมจะไม่ถามจู้จี้เพราะทุกคนล้วนมีเรื่องที่ไม่อยากบอกทั้งนั้นแต่ผมจะบอกว่าถ้าราชาอยากบอกเมื่อไหร่...ผมก็พร้อมที่จะฟังนะ”

“...ทำไงดีเนี่ย?”ผมมองไปยังข้าวจ้าวพร้อมกับข่มอารมณ์บางอย่างที่เกิดขึ้น

“อะไร?”ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่รู้ตัวเลยว่าทำไรลงไป

“อยากกอดคุณจัง...แต่ไว้คืนนี้ละกันเนอะ”ผมบอกพร้อมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้

“...ใครจะให้กัน!”

“จะให้ผมนอนแปลกที่คนเดียวงั้นเหรอ?”

“...ราชานอนได้อยู่แล้วนี่”

“อยากนอนกอดข้าวจ้าวนี่นา”ผมบอกออกไปตามตรง ตั้งแต่ที่เราคบกันก็มีบ้างที่ผมชวนข้าวจ้าวให้มาค้างแต่เราก็ไม่เคยได้นอนกอดกันเลย...ผมเองก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรเพราะแค่มีข้าวจ้าวอยู่ข้างๆก็มากพอแล้ว

“...เข้าไปข้างในกันเถอะ”เมื่อตอบไม่ได้อีกฝ่ายก็เปลี่ยนเรื่องก่อนจะเดินนำเข้าไปทันที

ความประหม่าและกังวลหายไปหมดแล้วตั้งแต่ที่ได้กำลังใจมา...เหลือแค่ต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่านั้นหวังว่าครอบครัวของข้าวจ้าวจะชอบผมนะ

“มาแล้วๆ...นั่นไงแฟนพี่จ้าว...พี่ราชาค่ะ”เสียงแรกที่ได้ยินตอนโผล่หน้าเข้าไปในห้องคือเสียงของน้องข้าวจ้าว

ภาพของครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้าทั้ง5คนทำให้ผมรู้สึกเกร็งพอสมควรแต่พอเห็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ลุกขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มนั่นผมก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง

“หล่อจังเลยลูกเขยแม่...ไม่รู้เลยนะว่าข้าวจ้าวจะมีแฟนหล่อขนาดนี้”คุณแม่พูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบใบหน้าผมเบาๆ

“สวัสดีครับคุณน้า...สวัสดีคุณอากับพี่โอ๊ตด้วยนะครับ...พอดีรีบมาเลยไม่ได้เตรียมของฝากอะไรมาให้”ผมบอกพร้อมกับยกมือไหว้คนที่มีอายุมากกว่าด้วยความเคารพ

“ไม่เป็นไรบ้านเราไม่มีพิธีรีตองอะไรมาหรอกเนอะเจ้าโอ๊ต”คุณอาพูก่อนจะหันไปของความเห็นลูกชายคนโต

“ครับ...บ้านนี้อยู่ง่ายๆ...กฎเพียงข้อเดียวที่นายจะเข้ามาแล้วต้องทำตาม”

“อะไรครับ?”ถ้ามีกฎอะไรมาก็พร้อมทั้งนั้น

“ดูแลข้าวจ้าวให้ดีที่สุด”พี่โอ๊ตบอก

“แน่นอนครับ...ผมสัญญา”ผมตอบอย่างหนักแน่น กฎข้อนี้ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้เพราะยังไงผมก็จะดูแลข้าวจ้าวให้ดีที่สุดอยู่แล้ว
บทสนทนายังคงมีอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงเย็นที่คุณน้าลงมือทำอาหารให้...ครอบครัวของข้าวจ้าวรับผมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวอย่างรวดเร็ว ท่าทางที่เป็นกันเองทำให้ผมกล้าที่จะพูดคุยมากขึ้นจนถึงมื้ออาหารก็ยังคงมีเรื่องคุยไม่หยุด

ห้องที่ผมได้พักอยู่ตรงข้ามกับห้องของข้าวจ้าว...ถึงจะอยากนอนกับอีกฝ่ายมากแค่ไหนแต่ก็รู้ตัวว่าสถานที่นี้ไม่ควรทำอะไรที่เสียมารยาทแบบนั้น ความเชื่อใจและไว้ใจที่ได้รับมาผมจะพยายามอย่างเต็มที่

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ระหว่างที่กำลังเคลิ้มใกล้หลับเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น นั่นทำให้ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าใครที่มาเอาเวลานี้กัน...
ไม่แน่อาจเป็นพี่โอ๊ตก็ได้

ผมคิดระหว่างเดินไปเปิดประตูออกดู...ทั้งที่คิดไว้แบบนั้นแต่ความจริงที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อหน้าทำให้ผมต้องหยิกแขนตัวเองเพื่อดูว่ามันเป็นความฝันรึเปล่า...

“...ข้าวจ้าว?”ผมเรียกชื่อคนที่ยืนอยู่หน้าห้องผมด้วยชุดนอนสีครีมในมือมีหมอนขนาดใหญ่ถูกกอดไว้แนบอก

“...นอนรึยัง?”เสียงนุ่มถามมา

“อืม...ใกล้แล้วแต่นอนไม่หลับ”

“งั้น...ให้ผมนอนด้วยไหม?”

“ห๊ะ?”คำถามนั่นทำให้ผมถึงกับไปไม่เป็น

“...อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำสิ...มันอายนะ”ข้าวจ้าวบอกก่อนจะซุกหน้าลงที่หมอนใบโตที่กอดไว้

“...พูดจริงเหรอ?”

“อืม”คนตรงหน้าพนักหัวขึ้นลงทั้งที่ยังซุกหน้าอยู่ที่หมอน

“ถ้าเข้ามาผมจะกอดคุณนะ”ผมบอกออกไปเผื่อจะทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจ

“...อืม”คำตอบดังขึ้นพร้อมกับดวงตาสีเขียวปนเทาที่เงยขึ้นมาสบอย่างสั่นๆ

เพียงแค่เห็นท่าทางนั้นผมก็ไม่รอช้ารีบคว้าตัวข้าวจ้าวเข้ามาในห้อง และทันทีที่อีกฝ่ายนอนลงผมก็รีบคว้าเอวเขากระชับเข้ามาใกล้จนร่างกายเราสัมผัสกัน...ความอุ่นที่สัมผัสได้ทำให้ผมซุกตัวเข้าไปที่เส้นผมสีน้ำตาลนุ่มนิ่มนั่นมากขึ้น

ความเงียบเข้าปกคลุมโดยไม่มีใครพูดอะไรเลยสักคำ

สิ่งที่ได้ยินมีเพียง...

เสียงหัวใจสองดวงที่ดังสอดประสานเป็นหวะเดียวกันจนเข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมกัน

...

สวัสดีค่ะ

ขอแจ้งนิดนึงเนอะพอดีคอมเราเสียทำให้ไม่สามารถมาอัพนิยายได้ซึ่งเราแจ้งเรื่องนี้ทางเพจแล้วแต่ไม่ได้แจ้งในเว็บที่ลงนิยายเพราะไม่สะดวกในหลายๆอย่าง

ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้กดติดตามเพจสามารถเข้าไปกดได้นะคะเพราะเวาลามีข่าวสารอะไรจะแจ้งทางเพจค่า

เพจคนแต่ง>>nicedog

กลับมาเรื่องข้าวจ้าวและราชา

หลังจากนี้ก็มีแต่ตอนหวานๆแล้วค่ะ

ไร้ซึ่งอุปสรรค

อ่านสบายๆไปจนจบเรื่องเลย(ความจริงก็อ่านสบายทั้งเรื่อง555)

บอกเลยละกันค่ะว่าอีก2ตอนก็จบแล้ว

มีหลายคนที่อยากอ่านตอนที่ข้าวจ้าวหลงรักราชา...

ตอนแรกกะจะไม่แต่งแต่คิดไปคิดมาแต่งดีกว่าเนอะ อิอิ

แต่จะลงเป็นตอนพิเศษหลังเรื่องจบนะคะ

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจที่มีให้มาตลอดนะคะ

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

บ๊ายบาย

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L2:  ปลื้มปริ่มปิติเหลือประมาณ

ขอบคุณที่มาต่อค่ะ

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
มดทั้งรังยังตายอะ :hao7: เป็นเบาหวานตาย

ออฟไลน์ littlegift

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ผ่านทั้ง2ครอบครัวแล้ว ใกล้จะจบแล้ว ฮือออ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
กรีดร้องด้วยความปลิ่ม หวานน้ำตาลเรียกพี่เลยอ่า ฮื่อออ
ครอบครัวข้าวเจ้าน่ารักมากเลย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ paraprove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ้ยยยยยย ปลื้มปริ่ม คือดี คือละมุน

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ทั้งข้าวจ้าว ทั้งราชา น่ารักกันทั้งคู่เลยค่ะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอตอนต่อไปนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ราบรื่น  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เลิศมากก ผ่านฉลุยทั้งสองครอบครัว

ปล.อยากเห็นข้าวจ้าวหึงราชาจัง :katai2-1:

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
หวานๆ แบบนี้ nc จะเป็นแบบไหนเน้ออ อยากรู้จังเลยคับคนเขียน   :hao6:

ออฟไลน์ snowtoy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กรี๊ดๆๆๆๆครอบครัวน่าร๊ากกกกก :impress2: เค้านอนด้วยกันแล้ววววววเค้านอนกอดกัน5555555 :hao7: อีกสองตอนจบละหรอฮือออออออ ไม่อยากให้จบเลยง่าาาาาาา :hao5: อยากอ่านตอนพิเศษเย้ๆ สู้ๆจ้าไรท์ o13 o13

ออฟไลน์ Re:Tasaitatsu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • ~:: My Little World ::~
อ่านแล้วยิ้มตามทุกตัวอักษรเลยยยยยยยยยยยยย
ผ่านไปได้ด้วยดีทั้ง 2 บ้าน

แต่ตอนสุดท้ายนั่น เดี๋ยวๆๆ ราชาใจเย็นๆ
โอ้ยยยยยยยย อิจฉาราชาอะ เขินแทนข้าวจ้าว >/////<


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ผ่านด่านครอบครัวได้นี่ดีที่สุดแล้ววว :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
กอดกันแล้วเมื่อไหร่จะย้ายไปอยู่ด้วยกัน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ละมุนนนนนน ค่อยๆรักกันไป คือดีอ่ะ

ออฟไลน์ yupa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ monkey_saru

  • ทำไมหัวใจถึงเอียงซ้าย...*
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 o13 :heaven  น่ารักสุดๆเลย ว่าแล้วพ่อต้องใจอ่อน 555555  ที่บ้านข้าวจ้าวคือรู้เรื่องทุกคน ยกเว้นข้าวจ้าวคนเดียว5555555

ปล. คำว่า เพิ่งเจอ เพิ่งรัก เพิ่งเห็น เหมือนจะเขียนแบบนี้นะคะ คำว่า พึ่ง แบบนี้ คือพึ่งพาอาศัยค่ะ

ออฟไลน์ b2friend

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เปิดตัวกับครอบครัวแล้ว  :hao3:
รอฉากสวีทๆ อีกนิด :hao6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด