❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly  (อ่าน 92640 ครั้ง)

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
@ ่jum
แฟนฉันก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ผมหยิบเอาบรรยากาศในอดีตมาเป็น Reference ครับ ขอบคุณที่มาติดตามอ่านนะครับ อยากให้อ่านถึงตอนปัจจุบันไวๆ

@Jibbubu, @Kaemmiizz
เรื่องนี้จะมีอะไรที่ผิดคาดจากที่แสดงความคิดเห็นพอสมควรครับ แต่บอกไม่ได้ อิๆ

@alternative
ใครกันนะจะเป็นคนต้มมาม่าหม้อนี้กันแน่ :laugh:

@กบกระชายไทยนิยม
ผมก็ฟินกับแฟรงค์มากๆ เหมือนกันครับ เขียนเรื่องนี้แล้วผมก็เพิ่งรู้ตัวว่าสามารถสร้างคาแรคเตอร์ของผู้ชายที่ดูอบอุ่นอย่างแฟรงค์ได้ด้วย

@GuoJeng
เพราะแค่ชอบกินแท้ๆ ถึงได้เกิดเรื่องวุ่นวายอย่างนี้ 555 เป็นพล็อตเรื่องที่แปลกสุดๆ เลยสำหรับผม มีปัญหาเพราะชอบกินไอติม

@kitty08
ประเด็นนี้จะขอบอกคนอ่านตรงๆ ว่าเรื่องนี้ถึงไม่มีนางร้ายก็จะดราม่าได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ

@Mouse2U
ดูเหมือนแฟรงค์จะชัดเจนอยู่นะครับ แต่...

@Magis
ถ้าเป็นแบบนี้เรื่องน่าจะจบสักในตอนที่ 5 แล้วล่ะครับ ไม่น่าจะจบไวขนาดนั้น

@Freja
เรื่องโดนผู้หญิงหลอกนี่ผมได้มาจากเพื่อนใกล้ๆ ตัวหลายคนเลย

@BlueCherries
ผมคิดว่าหลายๆ คนที่เคยอ่านต้น-สนจะเข้าใจว่าเรื่องนี้จะคล้ายกัน แต่เรื่องนี้ไปคนละทิศทางกับต้น-สนแน่ๆ ครับ ดูคล้ายแค่ช่วงแรกๆ เท่านั้น ชื่อเรื่องมันบ่งบอกอะไรบางอย่างอยู่นะ อิๆ

@PFlove
มีใครบางคนที่จะทำให้เรื่องยากกว่าที่คิดอีกครับ คิกๆ

@└X • €NouGh •
แฟรงค์นี่ชัดเลยล่ะ หวังว่าใครบางคนก็ชัดเจนเหมือนแฟรงค์ อิๆ

Sarawatta

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
หัวใจไม่ไร้รัก

อื้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

เหมือนกับความรักที่พ่อแม่มีให้ลูกป่ะคะ แบบว่ารักที่ลูกเป็นลูก (มโน)


เดาแหลกเลยตอนนี้ 5555+

แล้วใครจะทำให้เรื่องวุ่นวายยยยยยยยยมากกว่าเดิมล่ะนี่ มือที่สามหรือนังอดีตแฟน? (อ่านแล้วขึ้น อิพวกชอบแย่งผลงาน แล้วหลอกใช้  :fire:)

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
มาอ่านตามเมสเสจเรยยยย

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly

ตอนที่ 4 ✢ เงารักลวงใจ



ตั้งแต่เมื่อวานที่ไปนำเสนองานที่บ้านของแฟรงค์มา ผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีเลยที่เหมือนตัวเองเป็นสาเหตุให้แฟรงค์กับเพียวต้องผิดใจกัน ผมพอจะเดาได้ว่าเพียวโกรธแฟรงค์เรื่องอะไร แต่ที่ไม่ค่อยแน่ใจหรือไม่รู้เลยก็คือทำไมเพียวถึงโกรธมากจนถึงกับลุกหนีไป ผมกับแฟรงค์ก็เป็นแค่พี่น้องที่รู้จักกัน ไม่ได้เป็นอะไรกับแฟรงค์มากไปกว่านั้นเสียหน่อย

แฟรงค์ก็ไม่ยอมโทรหาเพียว ผมไม่เข้าใจแฟรงค์เลยว่าทำไมถึงไม่ง้อแฟน แถมยังมาทำงานที่รีสอร์ทอีก ความจริงจ้างผมมาแล้วก็ไม่ต้องมาเลยก็ยังได้ ที่รีสอร์ทอื่นๆ คนที่เป็นเจ้าของแทบจะไม่เคยโผล่มาให้เห็นด้วยซ้ำ ลูกค้าที่ไปพักเห็นแค่คนที่จ้างมาช่วยดูแล

ตอนเช้าวุ่นๆ นิดหน่อยเพราะมีกลุ่มข้าราชการมาจัดงาน ผมต้องคอยช่วยดูแลเรื่องเบรก อาหารและอุปกรณ์ต่างๆ ตามที่ขอมา เนื่องจากติดต่อกับผู้จัดการคนเก่าไว้ จึงมีข้อมูลบางอย่างที่ผมยังไม่รับรู้ แต่พอสื่อสารกันชัดเจนแล้วก็ไม่มีปัญหา พอเข้าที่เข้าทางแล้วตอนบ่ายผมจึงค่อยวางมือและดูอยู่ห่างๆ

ตอนบ่ายๆ ผมออกมากินข้าวกลางวันที่ร้านอาหารกลางน้ำกับแฟรงค์ เราคุยกันไปเรื่อยเปื่อย เรื่องใหม่บ้าง เก่าบ้าง ดูแฟรงค์มีความสุขเหมือนกับไม่ทุกข์ร้อนเรื่องแฟนเลย ตอนเดินกลับเข้ามาทำงานด้วยกันผมจึงอดรนทนไม่ไหว

"แฟรงค์ ถ้านัทจำไม่ผิด เหมือนแฟรงค์จะเคยบอกนัทว่าจะนัดให้ทีมงานถ่ายรูปพรีเว็ดดิ้งเข้ามาหาอาทิตย์นี้ใช่มั้ย"

แฟรงค์ดูอึ้งไปเล็กน้อย แต่แล้วก็รีบยิ้มกลบเกลื่อนพร้อมกับพยักหน้า

"อืม...วันพฤหัสนี้แหละ กินกาแฟกันหน่อยไหม ไม่มีคนแล้ว"

ผมพยักหน้าตกลง แฟรงค์จึงเดินนำผมเข้าไปในร้านที่เราสองคนกำลังเดินผ่านมาพอดี หลังจากที่สั่งกาแฟที่ต้องการแล้ว ผมก็เป็นฝ่ายเริ่มการสนทนาก่อน

"แฟรงค์ได้คุยกับเพียวมั่งหรือยัง"

สีหน้าแฟรงค์ดูเรียบๆ แต่ผมก็พอสังเกตเห็นแววกังวลอยู่ในตาคู่นั้น แฟรงค์ส่ายหน้าปฏิเสธและไม่พูดสักคำ

"ทำไมล่ะแฟรงค์"

แฟรงค์ถอนหายใจแล้วนั่งนิ่ง ก้มหน้าเหมือนกับไม่อยากพูด

"นัทขอโทษนะถ้านัทยุ่งเรื่องของแฟรงค์มากไป นัทก็แค่...เป็นห่วงแฟรงค์เท่านั้นแหละ"

ผมรีบออกตัวอย่างเกรงใจ นึกตำหนิตัวเองในใจที่ลืมคิดไปว่าเพิ่งกลับมาเจอกับแฟรงค์ได้ไม่กี่วัน คงไม่สนิทสนมมากพอที่จะละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัว

"ไม่ใช่อย่างงั้นหรอก อย่าคิดมาก แฟรงค์แค่ไม่รู้จะอธิบายให้นัทฟังได้ยังไง"

ในที่สุดแฟรงค์ก็ยอมพูด ผมเอนหลังติดพนักเก้าอี้แล้วก็เอียงคอสงสัย

"เพียวเค้าเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ถึงแฟรงค์จะชอบเพียวเพราะเพียวชอบกินไอติมเหมือนนัทตอนเด็กๆ แต่จริงๆ มันก็ไม่เห็นมีอะไรเกี่ยวกันเลย ก็แค่ความชอบส่วนตัวของแฟรงค์เฉยๆ อีกอย่าง...นัทกับแฟรงค์ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย"

ดูเหมือนแฟรงค์ชะงักหรือสะดุ้งหน่อยๆ ตรงประโยคท้ายๆ ที่ผมพูด

"นั่นน่ะสิ" เสียงแฟรงค์เบาจนเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับผม

"เพียวเค้าคงไม่ได้เข้าใจผิดว่านัทกับแฟรงค์...มีอะไรพิเศษกันใช่มั้ย"

แฟรงค์เหลือบตาขึ้นมองผม น่าแปลกใจเหมือนกันที่แฟรงค์เหมือนไม่ค่อยอยากสบตากับผมตรงๆ เท่าไหร่

"ไม่หรอกมั้ง" แฟรงค์ตอบด้วยสีหน้าที่ยังดูกังวลเหมือนเดิม

"จะให้นัทช่วยอธิบายกับเพียวให้มั้ย"

ผมไม่รู้ว่าดีหรือเปล่าที่ถามไปอย่างนั้น แต่ถ้าช่วยได้ผมก็อยากช่วย แม้ว่าจะดูเหมือนจุ้นจ้านไปหน่อยก็ตาม

"ไม่ต้องหรอกนัท เดี๋ยว...แฟรงค์จะโทรไปคุยกับเพียวเอง"

"ดีแล้ว แฟรงค์บอกเพียวนะว่าแฟรงค์กับนัทไม่ได้เป็นอะไรกัน เราสองคนก็แค่รู้จักกัน เคยคบกันเป็นพี่เป็นน้องเฉยๆ ไม่มีอะไรในกอไผ่อย่างที่เพียวเข้าใจหรอก ขอโทษที่ทึกทักไปเองนะ ความจริงนัทก็ไม่รู้หรอกว่าเพียวเข้าใจผิดเรื่องอะไร นัทแค่เดาว่าเป็นเรื่องนี้เฉยๆ"

แฟรงค์ยิ้มจางๆ พร้อมกับขำเบาๆ จากนั้นก็ทำหน้าเครียดอีก

"นัท..."

แฟรงค์เรียกชื่อผมแล้วก็หยุดเว้นจังหวะรอความสนใจ

"ถ้าเกิดนัทเพิ่งรู้ตัวว่านัทชอบใครบางคนที่ไม่ใช่คนที่นัทกำลังคบอยู่ นัทจะทำยังไง"

ผมขยับนั่งตัวตรง รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ กับสิ่งที่แฟรงค์พูดไม่น้อย ตั้งแต่เจอกัน แฟรงค์กับผมอยู่ใกล้ชิดกันและทำหลายๆ อย่างที่แตกต่างจากผู้ชายธรรมดาทั่วไป ผมก็แอบกลัวอยู่เหมือนกันว่าแฟรงค์กำลังพยายามสื่อสารบางสิ่งบางอย่างให้ผมรู้ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ผมไม่อยากรู้และไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย

"ไม่รู้สิ นัทน่ะ...ไม่อยากรักใครอีกแล้ว ก็เลยไม่รู้ว่าจะแนะนำยังไง" ผมพยายามตอบเลี่ยงๆ

"นัทจะไม่รักใครอีกแล้วจริงๆ เหรอ"

ผมเป็นฝ่ายอึ้งไปบ้าง โชคดีที่จังหวะนั้นกาแฟของเรามาเสิร์ฟพอดี ผมจึงยังพอมีเวลาเพิ่มคิดหาคำตอบได้อีกหน่อย เราหยิบถ้วยกาแฟมาจิบชิม พอเห็นว่ารสชาติถูกใจก็จิบอีกสองสามครั้ง ก่อนที่ผมจะตัดสินใจตอบคำถามนั้นของแฟรงค์

"แฟรงค์ก็รู้แล้วนี่ว่านัทเจออะไรมาบ้าง นัท...เกลียดการรอคอย เกลียดการหลอกลวง แต่ความรักของนัท...ก็มีแต่การรอคอยแล้วก็การหลอกลวงทั้งนั้น"

แฟรงค์ขมวดคิ้วแน่น ดูเหมือนจะสงสัยมากเสียด้วย

"นัท...นัทหมายถึงอะไร...หรือใคร"

นั่นสินะ นี่ผมหมายถึงอะไร...หรือใครกันแน่ อย่าว่าแต่แฟรงค์เลย ผมก็ยังสงสัยสิ่งที่ตัวเองเพิ่งพูดไป ผมถอนหายใจแล้วก็มองออกไปข้างนอกตัวร้าน ช่วงนี้ลูกค้าน้อยจนแทบจะเหลือแต่พนักงานด้วยกันเอง แต่ก็ยังพอมีคนเดินเล่นและทำกิจกรรมทางน้ำที่ทะเลสาบอยู่บ้าง

ผมหันกลับมามองหน้าแฟรงค์อีกครั้งและครุ่นคิด ตั้งแต่ได้เจอกับแฟรงค์ ผมพบว่ามีบางเรื่องที่ผมต้องย้อนคิดทบทวนใหม่ให้แน่ใจอีกครั้ง บางทีอาจจะมีบางอย่างไม่เป็นอย่างที่ผมเคยรู้หรือเข้าใจก็ได้

"นัทไม่รู้จะอธิบายให้แฟรงค์เข้าใจได้ยังไง เอาเป็นว่า...นัทจะไม่รักใครอีก เพราะนัทไม่อยากรอ ไม่อยากถูกหลอก นัทเข็ด...แล้วก็เจ็บปวดมาก นับตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าใครจะพยายามแค่ไหน นัทก็บอกได้เลยว่าเสียเวลาเปล่า อย่ารักนัทเลย นัทไม่มีหัวใจให้ใครอีกแล้ว ชีวิตของนัท แค่มีแม่ มีพี่นิว แล้วก็...พี่แฟรงค์ ที่นัทรักเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง ก็พอแล้วล่ะ"

"นัท..."

แฟรงค์เรียกเสียงเบาด้วยสีหน้าที่เหมือนไม่เชื่อที่ผมบอก จะเป็นไปได้หรือที่คนวัยหนุ่มอย่างผมจะเข็ดกลัวความรักจนไม่อยากรักใครอีก เพิ่งผิดหวังเพียงครั้งเดียวไม่น่าคิดอย่างนี้ แต่ผมก็จะทำอย่างที่พูดจริงๆ

... ... ...

หลังจากที่คุยกันวันนั้น ผมเดาว่าแฟรงค์คงโทรไปคุยกับเพียวแล้ว พอถึงวันพฤหัสบดีที่แฟรงค์นัดทีมถ่ายภาพพรีเว็ดดิ้งไว้ ผมก็เห็นเพียวมาหาแฟรงค์ที่รีสอร์ทด้วย ไม่เห็นท่าทีบาดหมางหรือผิดใจกันเลย ที่ผมเดาไว้ก็น่าจะถูกแล้วล่ะ ก็ดีแล้วที่เป็นอย่างนั้น ผมรู้ว่าการง้อผู้หญิงไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของแฟรงค์หรอก ที่ผ่านมาแฟรงค์ก็คงทำบ่อยๆ

หนึ่งในทีมงานที่มาสามคนเป็นเพื่อนสมัยเรียนของแฟรงค์เอง เพราะแฟรงค์ชอบสนับสนุนธุรกิจของเพื่อน ด้วยเหตุผลว่าดีกว่าเอาเงินไปให้คนอื่น เพียวบอกให้ผมอยู่ช่วยเลือกแนวบรรยากาศหรือธีมด้วยกันด้วย มีหลายๆ คนจะได้ช่วยกันออกความคิดเห็น ผมก็เลยต้องนั่งร่วมอยู่ในนั้นอย่างเคอะเขินหน่อยๆ

มีแนวบรรยากาศให้เลือกหลายรูปแบบและหลายสถานที่ มีทั้งในกรุงเทพ ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ ผมแอบคิดเล่นๆ ว่าถ้าผมเปิดบริษัทแบบนี้บ้าง ผมจะเพิ่มตัวเลือกแนวบรรยากาศบนดวงจันทร์เข้าไปด้วย เผลอๆ จะรวยไม่รู้เรื่องเพราะยังไม่มีใครทำ

ผมไม่ได้ออกความคิดเห็นช่วยสองคนนั้นมากหรอก ความชอบของผมไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เท่าไหร่ ก็เลยได้แต่นั่งดู ปล่อยให้แฟรงค์กับเพียวตัดสินใจเลือกกันเอง

นั่งดูได้ไม่ถึงสิบนาทีผมก็ขอตัวออกไปทำงานข้างนอก แฟรงค์ไม่ได้ว่าอะไรเพราะคงรู้ว่าผมไม่อยากโกงเวลาทำงาน อีกอย่างเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผู้จัดการรีสอร์ทอย่างผมควรมีส่วนร่วมด้วย

ผมเดินมาดูความเรียบร้อยของห้องประชุมที่ข้าราชการกลุ่มนั้นมาขอเช่าใช้อยู่ วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ช่วงหลังๆ เริ่มเข้าที่จึงไม่ค่อยมีเรื่องที่ผมต้องจัดการมากเท่าไหร่ ดีหน่อยที่ไม่ได้เชิญคนใหญ่โตมาปิดงาน ผมจำได้ว่าเพื่อนที่ทำงานเก่าบ่นเป็นประจำว่ายุ่งยากจนชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์บางอย่างหาย ก็เป็นธรรมดา วัฒนธรรมการทำงานของข้าราชการเป็นแบบนี้ ผู้ให้บริการคงจะเปลี่ยนให้เป็นอย่างอื่นไม่ได้ ยังไงก็ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับลูกค้าจนได้

ตอนเที่ยงผมไม่ได้ไปกินข้าวกับแฟรงค์และเพียว ปล่อยให้สองคนอยู่ด้วยกันตามลำพังกันดีกว่า คนเป็นแฟนกันคงไม่ค่อยอยากให้มีคนอื่นเข้าไปยุ่งหรอก ผมคอยดูแลเรื่องอาหารการกินของกลุ่มข้าราชการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ที่นี่เป็นรีสอร์ทของครอบครัว ระบบไม่ซับซ้อน แต่ฟังก์ชันหลายๆ อย่างก็คล้ายโรงแรม คนที่ถูกจ้างมาจึงต้องทำแทบทุกอย่าง คอยดูทุกเรื่อง ผมก็ไม่คิดว่าเป็นปัญหาหรอกในเมื่อผมมาทำงานที่นี่เพื่อเรียนรู้การทำงานรีสอร์ท เวลาทำของตัวเองจะได้เอาประสบการณ์ที่นี่ไปใช้ต่อได้ จะว่าไปแฟรงค์นี่ก็แปลกเหมือนกัน แฟรงค์ให้งานผมทำทั้งๆ ที่รู้ว่าผมจะอยู่ที่นี่เพียงสองสามปีแล้วไปทำรีสอร์ทของตัวเอง ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่จ้างผมแน่

จนกระทั่งบ่ายแก่ๆ พอผมดูแลทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว จึงได้โผล่หน้าเข้าไปในห้องของแฟรงค์อีกครั้ง แฟรงค์นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ ส่วนเพียวนั่งเล่นไอแพดอยู่เงียบๆ ที่โซฟา แปลกดีที่ต่างคนต่างไม่คุยกัน หรือไม่ก็คงคุยกันเบื่อจนไม่รู้จะคุยอะไรแล้ว

"อ้าวนัท...เป็นไง เรียบร้อยดีมั้ย"

แฟรงค์เงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์มาถาม ส่วนเพียวหันมามองแล้วก็ยิ้ม

"เรียบร้อยดี นัทจะมาบอกแฟรงค์ว่า...เดี๋ยวเย็นนี้นัทจะกลับไปที่คอนโดนะ นัทว่าจะขนของที่เหลือมาให้หมด"

แฟรงค์เป็นคนบอกผมเองว่าให้ย้ายมาอยู่ที่นี่เลย ส่วนคอนโดก็เก็บไว้ก่อน หรือไม่ก็ปล่อยเช่าต่อ ดีกว่าไปๆ กลับๆ ไกลก็ไกล รถก็ติด เสียเวลาและเสียสุขภาพจิตด้วย

"แล้วจะไปยังไง ให้แฟรงค์ไปส่งมั้ย"

"ไม่ต้องหรอก" ผมรีบร้องบอก

"เดี๋ยวนัทนั่งแท็กซี่ไป ขามานัทจะขับรถมาเอง พอจำทางได้อยู่ ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ใช้เนวิเกเตอร์ได้ ไม่ต้องห่วงหรอก วันนี้จะออกไปข้างนอกกับเพียวไม่ใช่เหรอ ไปกับแฟนเหอะ"

ผมหันไปยิ้มกับเพียวตรงประโยคท้ายๆ

"เอางั้นเหรอ" แฟรงค์ถามเหมือนไม่แน่ใจ

"อืม...เดี๋ยวอีกชั่วโมงนัทก็จะออกไปแล้ว ไม่ต้องห่วงงานนะ นัทจัดการให้หมดแล้ว"

"พี่ไม่ห่วงเรื่องนั้นหรอก พี่รู้ว่านัทรับผิดชอบงานได้ดีอยู่แล้ว"

ผมเลิกคิ้วแปลกใจนิดหน่อยที่แฟรงค์เรียกแทนตัวว่า "พี่" กับผมโดยไม่ทราบสาเหตุ ปกติแฟรงค์จะเรียกตัวเองอย่างนั้นในตอนที่มีบางอย่างพิเศษเท่านั้น ไม่ค่อยพูดในการทำงานหรือพูดคุยทั่วไป ดูเหมือนเพียวก็คงสงสัยเหมือนผม เธอเงยหน้าจากไอแพดมามองแวบหนึ่งแล้วก็หันไปสนใจไอแพดของเธอต่อ

แฟรงค์ลุกจากเก้าอี้ทำงานมาหาผม แตะไหล่ผมเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้ม

"ถ้ามีอะไร...ก็โทรหาพี่นะ ไม่ว่านัทจะอยู่ที่ไหน พี่จะไปหานัททุกเวลาที่นัทต้องการ"

เอาอีกแล้วนะแฟรงค์ เพิ่งจะปรับความเข้าใจกับเพียวได้หยกๆ แท้ๆ พูดแบบนี้เดี๋ยวก็จะมีปัญหากันอีกหรอก

"อืมๆ แค่ขนของนิดหน่อยนัทไม่มีปัญหาหรอก ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวนัทขอตัวก่อนนะ นัทไปก่อนนะเพียว ขอให้สนุกนะ"

ผมไม่ลืมที่จะร่ำลาเพียวด้วย แม้ว่าเธอจะยิ้มและพูดตอบบางอย่างกลับมา แต่ก็เดายากว่าเธอกำลังคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่ ผมไม่ค่อยชอบเลยถ้าต้องมีส่วนทำให้คู่รักมีปัญหากัน ได้แต่หวังว่าแฟรงค์กับเพียวคงจะไม่ทะเลาะกันอีกหลังจากที่ผมเดินออกไปจากห้องนี้

... ... ...

"ไอ้ปอนด์ กูได้งานที่นี่แล้วนะเว้ย ขอบใจมึงมากที่มึงแนะนำให้กูมาที่นี่"

ผมเกือบจะลืมโทรไปบอกเพื่อนเลยเพราะมัวแต่ยุ่งๆ กับงานใหม่ พอสบโอกาสตอนที่นั่งแท็กซี่ออกมาจึงโทรไปหามันเสียหน่อย

"จริงเหรอวะนัท กูดีใจด้วย แต่มึงไม่ลืมสัญญาใช่มั้ย"

"ไอ้นี่ กูไม่ลืมหรอก นัดเพื่อนๆ คนอื่นๆ ให้กูด้วยละกัน จะได้รียูเนี่ยนกันหน่อย" ผมว่าเพื่อนอย่างขำๆ ที่มันทวงเรื่องนั้นขึ้นมา

"ได้ๆ เดี๋ยวกูนัดมาให้หมดเลย มึงหมดตัวแน่งานนี้" ไอ้ปอนด์สัพยอกแล้วก็ถามต่อ

"ทำไมมึงได้งานไวจังวะ เพิ่งไปสมัครไม่กี่วันนี่เองไม่ใช่เหรอ"

"กูเด็กเส้นเว้ย" ผมตอบพลางหัวเราะชอบใจ

"เด็กเส้นอะไรของมึงวะ มึงรู้จักคนในนั้นเหรอ"

"เออดิ"

"ใครวะ"

"เจ้าของรีสอร์ทไง"

"จริงเหรอวะ!"

"เออดิ เป็นพี่ที่กูรู้จักตั้งแต่เด็กๆ ที่เขาค้อ โตมาด้วยกัน ขี่จักรยานไปโรงเรียนด้วยกันทุกวัน"

"จริงเหรอวะไอ้นัท มึงนี่โชคดีจังเลยว่ะ ว่าแต่...พี่คนนั้นเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงวะ ถ้าเค้าเป็นผู้หญิงแล้วยังโสดนะเว้ย มึงก็จีบเลย จะได้เป็นผัวเจ้าของรีสอร์ทไง คราวนี้สบายไปทั้งชาติ"

ปอนด์หัวเราะเสียงดังชอบใจใหญ่

"ผู้ชายเว้ย แล้วนี่มึงอยู่ไหนวะ หัวเราะซะเสียงดังเลย ไม่กลัวชาวบ้านเค้าเอาอะไรปาเหรอ"

"เพิ่งกลับถึงบ้าน ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ แล้วมึง...จะให้กูนัดเพื่อนๆ มาวันไหนวะ กำหนดวันมาเลยสิ ไม่งั้นมึงจะให้กูโทรไปบอกพวกมันว่ายังไง"

"ห่วงจริงนะมึงเรื่องนี้"

"เออสิวะ หรือมึงไม่อยาก"

ผมหัวเราะที่เพื่อนรู้ทัน

"เอางี้ สิ้นเดือนเลยละกัน มาตอนที่เงินเพิ่งออกนี่แหละดี พวกมันจะได้มีกำลังใจมา มึงหาร้านไว้ด้วยละกัน แถวๆ นี้ก็ได้ กูว่ามึงน่าจะรู้จักหลายที่อยู่ เปลี่ยนบรรยากาศมาแถวนี้ก็ดีนะเว้ย ให้พวกมันมาสัมผัสบรรยากาศลานเบียร์กลางท้องทุ่งมั่ง"

"เออๆ เอาอย่างงั้นก็ได้ ว่าแต่...อีกตั้งสองอาทิตย์เลยเหรอวะ"

ปอนด์ทำเสียงเหมือนคนบ่นๆ ตอนท้าย

"ถ้ามึงจะลงแดงก็โทรหากูก็ได้ เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน จะได้ถือโอกาสไปดูสถานที่ด้วยไง ดีมั้ย"

ผมเสนอไปอย่างขำๆ แต่ปอนด์ก็ดันเห็นดีด้วย

"เออๆ ก็ดีเหมือนกัน กูก็เซ็งๆ ว่ะ เบื่อเจ้านายชิบหายเลย สงสัยกูก็จะลาออกเหมือนมึงอีกคนแล้วเนี่ย กูไปทำงานที่รีสอร์ทกับมึงได้ปะวะ มึงขอพี่คนนั้นให้กูหน่อยดิ"

"ใจเย็นๆ ดิ ไม่ต้องทำเหมือนกูทุกอย่างก็ได้"

ผมสัพยอกบ้าง ปอนด์ทำงานที่ส่วนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวที่สำนักงานเขตหนองจอกมาได้หลายปีแล้ว ผมเพิ่งได้กลับมาติดต่อกับมันช่วงไม่ถึงเดือนนี่เอง แต่ก็ได้ยินมันบ่นเรื่องที่ทำงานให้ฟังบ่อยๆ

"เออๆ กูก็พูดไปอย่างงั้นแหละ ก็คงต้องทนๆ กันไป ว่าแต่มึงห้ามลืมนะเว้ย"

"เออน่า"

ผมบอกแล้วก็หัวเราะ คุยต่อกับปอนด์อีกสักพักผมจึงวางสายไปแล้วก็นั่งคิดในรถเงียบๆ พอพี่คนขับเห็นผมวางสายไปแล้วก็ชวนคุยบ้าง ผมก็เออๆ ออๆ ไปตามเรื่อง ฟังบ้างไม่ฟังบ้างเพราะมีเรื่องที่ผมยังวนเวียนคิดไม่จบ เผลอหรือว่างเมื่อไหร่เป็นต้องคิดเรื่องนี้บ่อยๆ

ผมมาถึงที่คอนโดก็สามทุ่มแล้ว ก่อนจะขึ้นมาก็แวะกินข้าวที่ร้านข้าวแกงใกล้ๆ คอนโดให้เรียบร้อย ขึ้นมาถึงห้องผมก็ยกกระเป๋าเดินทางลงมาจากตู้เสื้อผ้าแล้วเอามาวางไว้บนเตียง จากนั้นก็เก็บเสื้อผ้าและของใช้สำคัญๆ ต่างๆ มากองไว้ข้างๆ พื่อเตรียมจัดใส่กระเป๋า

จู่ๆ ผมก็นึกอยากเดินไปดูที่ถังขยะใบเล็กที่ผมมีไว้สำหรับทิ้งของที่ไม่เหม็นในห้อง ความรู้สึกมันมากจนห้ามตัวเองไม่ไหว ผมวางเสื้อผ้าลงแล้วก็ปล่อยให้ขาพาตัวเองไปตรงนั้นอย่างช้าๆ พอถึงแล้วผมก็ก้มดู มีรูปใบหนึ่งที่ผมฉีกทิ้งอยู่ปนๆ กับขยะอย่างอื่นในนั้นด้วย

ถ้าจะถามว่ารูปอะไร มันก็เป็นรูปที่ผมถ่ายคู่กับต้องตานั่นแหละ ผมเพิ่งฉีกมันทิ้งก่อนที่จะไปสมัครงานที่รีสอร์ทได้ไม่กี่วัน จู่ๆ ก็อยากจะหยิบมันขึ้นมาดูอีกครั้งเสียอย่างนั้น ผมจึงค่อยๆ ย่อตัวลงแล้วหยิบเศษรูปที่ขาดตรงส่วนที่มีใบหน้าของต้องตาขึ้นมาดู เหตุการณ์เก่าที่ติดอยู่ในใจก็พลันแล่นเข้ามาในห้วงความคิดของผม

"นัท...พี่ล่ะกลั๊วกลัว วันหนึ่งถ้านัทไปเจอสาวๆ สวยๆ กว่าพี่ นัทจะทิ้งพี่หรือเปล่า"

"ไม่หรอกพี่ตา ผมรักพี่ตาคนเดียวนะ"

ว่าแล้วผมก็ซุกตัวเองลงกับอ้อมอกของเธอบนเตียงนอนของเราเพื่อเอาใจ รู้สึกดีและอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้ทำอย่างนี้กับคนที่ผมรัก

"ให้มันจริงเถอะ นัทนี่ก็แปลกนะ ทำไมมาชอบคนแก่ๆ อย่างพี่ได้"

ต้องตาลูมผมของผมเบาๆ พลางหัวเราะ ผมช้อนตาขึ้นมองแล้วก็ยิ้มให้เธอ

"พี่ตาก็ พี่ไม่ได้แก่ขนาดนั้นซะหน่อย อายุมากกว่าผมแค่เดือนสองเดือนเอง" ผมรีบแก้ตัวแทน

"ก็นั่นแหละ ปกติ...ไม่ค่อยมีผู้ชายที่ไหนชอบผู้หญิงที่อายุเยอะกว่าหรอก เห็นแต่ชอบเด็กๆ สาวๆ เอ๊าะๆ น่ารักๆ กันทั้งนั้น"

"แต่ผมไม่ชอบนี่ครับ ผมว่าผู้หญิงพวกนั้นน่าเบื่อจะตาย ง้องแง้งๆ ไม่มีสาระอะไรเลย ผมชอบผู้หญิงอย่างพี่ตามากกว่า ยังไงๆ พี่ตาก็สวยน่ารักสำหรับผมเสมอ ที่สำคัญ...อบอุ่นด้วย เอาใจก็เก่ง ถ้าผมมีแฟนเป็นเด็กๆ ผมก็ต้องไปเอาใจเค้า คงปวดหัวน่าดู"

ต้องตาหัวเราะกิ๊ก คงจะชอบใจที่ผมพูดมากเลยล่ะ

"ปากหวานนะเราน่ะ พี่จะคอยดูละกัน แล้วก็ชอบเรียกพี่อยู่ได้ ก็บอกแล้วไงว่าไม่ให้เรียกพี่ จำไม่ได้เหรอ"

ปากก็ห้ามไปอยางนั้น เพราะต้องตาเรียกแทนตัวเองกับผมว่าพี่จนติดปากไปแล้ว

"โธ่...ก็ผมชอบนี่ครับ ให้ผมเรียกพี่ตาว่าพี่นะครับ ผมชอบเรียกแบบนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม"

"ตามใจๆ จะเรียกพี่ว่าอะไรก็เรียกไปเถอะ เอาที่นัทสบายใจละกัน"


ผมค่อยๆ วางเศษรูปใบนั้นทิ้งลงตะกร้าเหมือนเดิมพร้อมกับหยุดคิดถึงเหตุการณ์นั้น ทรุดตัวลงนั่งตรงนั้นอย่างช้าๆ แล้วปล่อยให้น้ำตาค่อยๆ ไหลลงมาอย่างไม่อาจห้ามได้ พอมองไปที่เตียงนอนของตัวเอง ภาพเก่าๆ ที่ผมเคยหยอกล้อและแสดงบทรักกับเธอก็ปรากฎขึ้นรางๆ ในห้องนี้เต็มไปด้วยความทรงจำมากมายที่ผมกับต้องตามีร่วมกัน แม้ว่าจะไม่ใช่รักจริง แต่ตอนที่ไม่รู้ตัวว่าถูกหลอกนั้นผมก็ทุ่มเทความรักให้เธอมากเหลือเกิน มากจนผมก็ยังเคยสงสัยตัวเองว่าทำไม

ผมกอดเข่าแล้วก็ซบหน้าลงร้องไห้หนักขึ้น นึกตำหนิตัวเองในใจที่กลับมาที่นี่คนเดียวแล้วก็ต้องมานั่งร้องไห้อย่างนี้อีก ก่อนหน้านี้ผมเครียดมาก มากจนต้องออกไปกินเหล้ากับเพื่อน ถึงไม่มีเพื่อนก็กินคนเดียว จนดึกดื่นค่อนคืนถึงได้กลับมานอน ไม่อย่างนั้นแล้วผมก็คงบ้าตายจากการคิดฟุ้งซ่าน

ผมเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาแล้วมองไปที่เตียงอีกครั้ง แต่คราวนี้แทนที่ผมจะเห็นภาพของผมกับต้องตาเหมือนเดิม ผมกลับเห็นภาพของตัวเองนอนอยู่บนตักของใครอีกคนแทน สักพักก็สลับมาเป็นภาพของผมกับต้องตา แล้วก็เปลี่ยนไปเป็นภาพของใครอีกคน สลับกันไปสลับกันมาจนหัวผมแทบระเบิด

ทำไมผมถึงเห็นเหมือนว่าต้องตากับแฟรงค์มีเงาซ้อนทับกันอยู่ แนบชิดเสียจนผมแทบจะแยกไม่ออก แล้วผมก็พลันนึกถึงวันที่ตัวเองขี่จักรยานไปบ้านเก่าของแฟรงค์เป็นวันสุดท้าย ตอนนั้นผมอยู่มอหนึ่งแล้ว วัยนั้นเป็นวัยที่พอจะเข้าใจความรู้สึกบางอย่างที่ตอนเด็กๆ ไม่สนใจได้ ผมยืนมองบ้านหลังนั้นเนิ่นนาน รู้สึกเศร้าจนอยากจะร้องไห้ ยิ่งนึกถึงความผูกพันของผมกับแฟรงค์ ก็ยิ่งใจหายเมื่อรู้ว่าวันคืนเก่าๆ จะไม่กลับมาอีกแล้ว

ปีเศษๆ แล้วที่ผมยังมาที่บ้านหลังนี้ไม่เคยขาด มาทั้งๆ ที่รู้ว่ายังไงก็คงไม่ได้เจอแฟรงค์อยู่ดี ความรู้สึกอะไรกันหนอที่ทำให้ผมยังมาที่นี่ ผมเคยคิดว่าผมสนิทกับแฟรงค์อย่างเพื่อนและพี่ชายมาตลอด แต่วันนั้น...ผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่แตกต่างไป ความรู้สึกที่ตอนเด็กๆ ผมไม่เคยมีเลย

ตกลงผมรักใครก่อนใครกันแน่!?

ภาพของแฟรงค์กับต้องตาวิ่งวนสลับกันไปมาในความคิดผม รู้สึกสับสนจนผมอยากจะตะโกนออกมาดังๆ ถ้าไม่ติดว่าต้องเกรงใจข้างห้อง สุดท้ายผมก็เลือกที่จะซบหน้าลงกับหัวเข่าตัวเองอีกครั้ง จนกระทั่งภาพเหล่านั้นค่อยๆ หายไป แต่เสียงๆ หนึ่งก็ดังขึ้นมาแทน เสียงที่แสนอบอุ่นอ่อนโยนที่ผมเฝ้าเรียกหา เสียงเดียวที่ไม่เปลี่ยนเป็นเสียงของใครอีกเลย

"ก็บอกแล้วไงว่าไม่ให้เรียกพี่ จำไม่ได้เหรอ"

"พี่ไม่รำคาญนัทหรอก นัทไม่ต้องกลัวนะ พี่มาอยู่กับนัทแล้ว พี่จะไม่ทิ้งนัทไปไหนอีก"

"นัท...น้องพี่"

"พี่ขอโทษนะนัท นัทอย่าโกรธพี่นะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ"

"พี่คิดถึงนัทไง...ก็เลยมาหา"

"เริ่มต้นใหม่นะนัท นัทมาอยู่กับพี่แล้ว พี่จะไม่ให้ใครมาหลอกน้องของพี่อีก ถ้าใครมาทำนัทนะ ได้เห็นดีกับพี่แน่ คอยดูสิ"

"ถ้ามีอะไร...ก็โทรหาพี่นะ ไม่ว่านัทจะอยู่ที่ไหน พี่จะไปหานัททุกเวลาที่นัทต้องการ"


พอมาถึงประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยิน ผมก็ร้องเรียกชื่อคนๆ นั้นออกมาทั้งๆ ที่ยังซบหน้าอยู่ คนๆ นี้ที่ผมอยากให้มาหาเสียตอนนี้เลย

"พี่แฟรงค์"

ก่อนที่ผมจะปล่อยโฮอีกคำรบ จู่ๆ เสียงกริ่งห้องผมก็ดังขึ้น หวังว่าคงจะไม่ใช่ต้องตา แต่เธอก็ไม่น่าจะมาได้เพราะไม่มีคีย์การ์ดแล้ว หรือว่าเจ้าหน้าที่ของคอนโดจะมาหา แต่ปกติก็มักจะโทรขึ้นมาหาและบอกให้ลงไปมากกว่าที่จะขึ้นมาหาที่ห้องเอง

ใครกันที่จะมาที่นี่ในเวลานี้ คนที่ไม่มีคีย์การ์ดคงเข้ามาเองไม่ได้ ยกเว้นว่าจะอาศัยจังหวะทีเผลอเวลาคนในคอนโดเปิดประตูเข้าออก เสี่ยงพอสมควรแต่ก็มีคนทำอยู่บ่อยๆ

ผมค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างช้าๆ แล้วเดินไปที่ประตูห้อง จากนั้นจึงส่องผ่านตาแมวออกไป พอเห็นว่าใครยืนอยู่ผมก็ตกใจ มือไม้สั่นรีบเปิดประตูแทบจะทันที ทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าจะกลับมาล้างหน้าล้างตาก่อนแล้วค่อยไปเปิด

"พี่แฟรงค์"

"นัท"

แฟรงค์เดินเข้ามาในห้อง สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความห่วงใย พอปิดประตูแล้วก็กอดผมแน่นเพื่อปลอบโยนคนที่เสียขวัญให้สงบลง สัมผัสที่แสนคุ้นเคยนี้ทำให้ผมหมดแรงต้านทานขัดขืน ทำได้เพียงปล่อยให้กระแสความอบอุ่นนั้นไหลผ่านเข้ามาสู่ร่างกายและส่งผ่านไปจนถึงหัวใจ

"ไม่เป็นไรนะนัท พี่มาหานัทแล้ว นัทอย่าร้องไห้นะ"

แฟรงค์มาถึงนี่ราวกับสัมผัสได้เองว่าใครบางคนกำลังต้องการแฟรงค์อยู่

"พี่แฟรงค์ ฮือๆ"

ผมเป็นอย่างนี้อีกแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม พอเห็นแฟรงค์อยู่ใกล้ๆ ทีไรผมก็กลับเป็นอย่างนี้ไปได้ ไม่ใช่อ่อนแอเพราะเป็นคนอ่อนแอโดยนิสัย แต่เป็นความอ่อนแอเพราะอยากอ่อนแอเสียมากกว่า

"น้องพี่...ถึงใครไม่รักนัท แต่พี่ก็รักนัทนะ นัทอย่าเสียใจให้คนที่เค้าไม่รักนัทอีกเลย อย่าร้องไห้นะคนดีของพี่"

ผมกอดกระชับลำตัวของแฟรงค์แน่นขึ้นแทนการพูดตอบโดยตรง น้ำเสียงและสัมผัสของพี่ชายคนนี้ช่างอบอุ่นและอ่อนโยนเหลือเกิน ผมจึงปล่อยให้ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั้นต่อไปสักพัก จนกระทั่งอาการเศร้าเสียใจค่อยๆ หายไปในเวลาเพียงไม่นาน

แฟรงค์จับมือจูงผมเดินมาที่เตียงนอน พอเห็นผมกองเสื้อผ้าทิ้งไว้ยังไม่ได้เก็บก็หันมาบอก

"เดี๋ยวพี่ช่วยนัทเก็บนะ เราจะไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด ต่อไป พี่จะไม่ให้นัทกลับมาที่ห้องนี้คนเดียวอีก"

ผมพยักหน้าเห็นด้วย ยิ้มบางๆ ให้กับแฟรงค์แล้วก็เอ่ยถาม

"ทำไมพี่แฟรงค์ไม่ไปกับเพียวล่ะ"

"ก็พี่เป็นห่วงนัทไง"

แฟรงค์ยิ้มตอบกลับมา ไม่รู้ทำไม ผมชอบรอยยิ้มนี้ของแฟรงค์มากทีเดียว

"พี่กลัวว่าพอนัทเห็นอะไรเก่าๆ นัทก็จะเสียใจอีก พี่ก็เลยไปส่งเพียวแล้วก็รีบตามนัทมาเลย"

"ทำไมพี่แฟรงค์ทำอย่างงั้นล่ะ ไม่กลัวเพียวเสียใจเหรอ"

แฟรงค์หยุดชะงัก ที่ยิ้มอยู่ก็ค่อยๆ หุบยิ้มไป

"พี่กลัวนัทไม่มีใครมากกว่า จำไม่ได้เหรอ พี่บอกนัทแล้วไงว่านัทน่ะ...สำคัญที่หนึ่งสำหรับพี่ พี่เคยทิ้งให้นัทรอเป็นสิบๆ ปี ไม่เคยกลับไปหา นัทรู้ไหมว่าพี่เสียใจ เสียใจมาตลอดเลย พี่อยากขอบคุณใครซักคนมากที่ทำให้นัทกลับมาหาพี่ พี่รู้สึกเหมือนพี่ได้ของที่รักมากๆ กลับคืนมา เพราะฉะนั้น ต่อไป...พี่จะไม่ให้นัทต้องรอคอยพี่อีก ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่พี่รู้ว่านัทต้องการพี่ พี่จะมาหานัททันที ไม่ว่าพี่จะอยู่ไกลแค่ไหน จำไว้นะนัท"

คำพูดประโยคสุดท้ายคล้ายกับมีหินก้อนใหญ่กระแทกเข้าไปที่หัวใจของผมอย่างจัง หรือว่าอาจจะไม่ใช่แค่หัวใจ อาจจะเป็นจิตใต้สำนึกที่อยู่ลึกกว่านั้นด้วยก็ได้ เหมือนมีคลื่นสองคลื่นที่มีความถี่เดียวกันเดินทางมาเจอกันในความคิดของผม จากนั้นก็ซ้อนทับกันจนสนิทและขยายตัวเป็นคลื่นที่ใหญ่ขึ้น คงมีบางอย่างในคำพูดนี้ที่ทำให้เกิดความรู้สึกที่รุนแรงอย่างนั้นได้

ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ มองแฟรงค์ด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าผมกำลังสับสนและไม่เข้าใจบางสิ่งบางอย่างมากแค่ไหน

"พี่แฟรงค์!"


TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2017 12:37:47 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ชัดเข้ามาอีกนิดแล้วสิ
กลัวพันธะผูกมัดที่แฟรงก์มีกับเพียวนี่สิ
กลัวว่าจะมารู้ใจกันช้าไปนิด

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
หรือว่าแฟรงค์จะบอกเลิกเพียวไปแล้วคะแต่เพียวไม่ยอมเลิก แฟรงค์ก็เลยแสดงออกให้เพียวเห็นชัดๆ ทั้งภาพและเสียงกันไปเลยว่าใครกันแน่ที่สำคัญกว่า อาจฟังดูใจร้ายไปหน่อยนะคะแฟรงค์ แต่ตอนที่นัทท้วง แฟรงค์ยังดูตั้งอกตั้งใจจะทำแบบนั้นต่อไปจริงๆ นี่นา :m17: ..

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
ต้องรอดูกันต่อไป

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ดูนัทสับสนมากๆๆๆ อ่านตอนนี้ละสะเทือนใจบอกไม่ถูกคือทั้งสงสารทั้งสับสนแทน


จะร้องไห้แทนนัทเลยอ่า ผมอาจจะอินไป



ส่วนพี่แฟรงค์ เป็นพี่ที่แสนดีจริงๆ  แต่จัดการเรื่องกับเพียวก่อนนะ
ถ้าไม่ได้รักก็บอกไป ตอนนี้ยังทัน ฮือๆๆ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อืมม

ก่อนปัญหาจะเกิดจากคนอื่น

ตอนนี้คือเมื่อไหร่นัทจะรู้ใจตัวเองซะที???

พี่แฟรงค์รู้ใจตัวเองแล้ว จงไปยกเลิกกันแม่นางเพียวเถอะ เด๋ยวมันจะบานปลายยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
คาดเดาดราม่า เราคิดว่าจุดหนึ่งคือ ความสัมพันธ์ระหว่างแฟรงค์กับเพียวที่กำลังจะแต่งงานกันใช่ไหมคะ

อีกจุดหนึ่งคือ นัทไม่ยอมทำตามหัวใจตนเอง ในตอนต่อๆ จากนี้นัทอาจจะยอมรับว่ารักแฟรงค์มากกว่าพี่ชาย แต่น่าจะไม่ยอมพัฒนาความสัมพันธ์ไปมากกว่าพี่น้อง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
       คุณแฟรงค์เขามาแบบซึ้งๆอีกล่ะ นัทจะอ่อนระทวยมั้ยน่ะ ๕๕๕ แฟรงค์เริ่มบอกนัทเป็นนัยยะแล้วนะ ต่อไปนี้ไม่ปล่อยแล้ว
 รอ รอ รออ่านตอนต่อไป นัทจะทำยังไง

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
อยากให้แฟรงค์ เคลียร์เรื่องเพียวให้ชัดเจนเลยอะ จะได้กลับมาจีบนัทได้อย่างเต็มที่เลย

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: คู่นี้น่ะยิ่งอ่านยิ่งฟินเข้าไปใหญ่เลยน่ะ แอบสงสารเพียวน่ะ  :mew6: แต่เราต้องเปิดให้หนุ่ม ๆ เขากินกันเองน่ะ  :z1: แฟรงค์พูดแบบนี้ใครจะไม่ใจละลายล่ะ   :o8: กำลังอ่อนแออยู่ด้วยน่ะ  :impress2:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
อ่านแล้วรู้สึกอึดอัด หนักหน่วง เข้าใจความรู้สึกของนัทนะ    :mew6:   ... เขารักแฟร้งมากก็จริงแต่เขาก็มีความเป็นลูกผู้ชายพอที่จะไม่ไปทำลายความรักของเพียวกับแฟร้ง..ส่วนแฟร้งก็รักนัทแต่เหมือนมีบางสิ่งที่เขาลังเลอยู่ในใจ..แต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ทุกครั้งที่เขาเจอนัท .... ตอนที่แฟร้งมาหานัทช่วงที่นัดอ่อนแอ..และเขาได้กอดกัน.แต่มันกลับไม่ได้ให้ความสุขถึงที่สุดเหมือนมันค้างๆคาๆยังไงก็ไม่รู้   :เฮ้อ:  ...นัทเองก็รักแฟร้งมากแต่คงไม่ยอมที่เปลี่ยนสถานะแน่ๆยิ่งจะแต่งงานกันแบบนี้ด้วย...(เพ้อมากนะคนอ่าน..แม่เรียกกินยาแหละ...ไปละ..ฮ่าๆ ) 

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนัทและพี่แฟรงค์ แต่จะยอมรับและเคลียร์ความสัมพันธ์ต่างๆ ตอนนี้กันยังไง

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
รู้สึกว่านัทสับสน สงสารนัท

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly

ตอนที่ 5 ✢ เพียงหนึ่งคืนที่ฝันร้าย



"หลับตาเถอะนะ แล้วเราก็จะพบกัน อาจเป็นเพียงฝัน ก็พอใจ หลับตาเถอะนะ ถึงตัวเราจะแสนไกล ห่างกันเพียงไหน เหมือนใกล้กัน..."

ผมร้องเพลงคลอไปกับเพลงโปรดเพลงหนึ่งที่เปิดดังขึ้นในรถ แม้ว่าจะสี่ทุ่มแล้วแต่การจราจรในกรุงเทพช่วงออกนอกเมืองก็ยังคงหนาแน่นพอสมควร แต่ก็เริ่มบางตาลงและขับได้สบายขึ้น เมื่อกี้ผมเพิ่งบอกคนข้างๆ ไปว่าเมื่อก่อนผมชอบฟังเพลงนี้ ฟังทีไรก็มักจะนึกถึงคนที่รอคอยอยู่ที่บ้านเกิดเสมอๆ ปกติผมก็ไม่ค่อยร้องเพลงหรอก จำเพลงไม่ค่อยได้ด้วย ยิ่งเพลงสมัยใหม่ยิ่งแล้วใหญ่ แต่เพลงนี้ดูเหมือนจะเป็นแค่เพลงเดียวที่ผมจำและร้องได้ขึ้นใจ

"เสียงพี่แฟรงค์ก็เพราะดีเหมือนกันนะเนี่ย เสียงเท่ไม่เบาเลย"

เจ้าน้องชายของผมชมแล้วก็หัวเราะคิกคักชอบใจ ไม่รู้ว่าชมจริงหรือแกล้งชม แต่เห็นอารมณ์ดีขึ้นผมก็ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย ที่ร้องเพลงให้ฟังก็เพราะอยากให้อารมณ์ดีนี่แหละ

"ชอบมั้ย"

นัทพยักหน้า

"เก่าไปหน่อย แต่ก็เพราะดี"

ผมขำเบาๆ แล้วก็เอื้อมมือไปลูบหัวน้องชายต่างพ่อต่างแม่ที่แสนรัก เวลาอยู่ด้วยกันสองคนอย่างนี้ ผมมีความสุขเหลือเกิน ยิ่งมีเสียงเพลงนี้คอยย้ำเตือนความทรงจำเก่าๆ ผมก็ยิ่งมีความสุขจนอยากจะหยุดเวลาไว้ให้เหลือแค่คืนนี้

"แล้วนัทไม่มีเพลงที่ฟังแล้วคิดถึงพี่มั่งเหรอ"

"ไม่มี" นัททำสีหน้ารู้สึกผิด

"น้อยใจจัง" ผมแกล้งทำหน้าม่อยเป็นเชิงหยอกเล่น

"งั้นต่อไป...ให้เพลงๆ นี้เป็นเพลงของเราสองคนนะ ตกลงมั้ย"

นัทหันมาพยักหน้าเห็นดีด้วย

"ต่อไป...ถ้าเกิดนัทกลับไปทำรีสอร์ทที่เขาค้อ หรือถ้าเกิดเราสองคนไม่ได้เจอกันอีก คิดถึงพี่เมื่อไหร่ก็ฟังเพลงนี้นะ"

"ได้ แต่พี่แฟรงค์ก็อย่าลืมไปหานัทบ่อยๆ ด้วยละกัน ปีละครั้งสองครั้งก็ยังดี ฟังเพลงน่ะฟังได้ไม่มีปัญหาหรอก แต่นัทอยากเจอพี่แฟรงค์ตัวเป็นๆ มากกว่า แล้วนัทเองก็จะพยายามขึ้นมาหาพี่แฟรงค์ที่กรุงเทพบ่อยๆ ด้วย ดีมั้ย"

ผมพยักหน้าตกลง นึกถึงเรื่องนี้แล้วก็ใจหายไม่น้อยเลย พอนัทกลับมาหาแล้ว ผมก็ไม่เคยมีความคิดว่าอยากจะให้เราจากกันไปไหนอีก ผมอยากเห็นน้องที่แสนรักคนนี้คอยยิ้ม หัวเราะหรือขี้แงบ้างอยู่ข้างๆ กันตลอดไป แต่จะทำยังไงดีล่ะ ผมมีทางเลือกไม่มากนักในตอนนี้ เวลาก็เหลือน้อยลงไปเต็มทีแล้ว

"วันนี้ไปนอนบ้านพี่นะ พรุ่งนี้เช้าค่อยออกไปทำงานด้วยกัน"

"เหรอ...ทำไมล่ะ"

"ก็มันถึงก่อนไง อีกอย่าง...พี่อยากให้นัทดูการ์ดของนัทที่พี่เก็บไว้ด้วย อยากดูมั้ย"

นัทพยักหน้าเร็วๆ อย่างตื่นเต้น

"ดีเลย นัทอยากเห็นลายมือสมัยเด็กๆ ของตัวเอง ไม่รู้จะเหมือนเดิมหรือเปล่า"

ผมหันไปส่งยิ้มอ่อนโยนให้

"นัทสบายใจขึ้นหรือยัง"

"ก็ดีขึ้นเยอะ" ยิ้มด้วยสีหน้าเศร้าเล็กน้อย แต่ก็ดูดีขึ้นกว่าตอนที่เพิ่งออกมาจากคอนโดมากทีเดียว

"ดีแล้ว จำไว้นะนัท พี่แฟรงค์คนนี้...จะทำให้นัทมีความสุขที่สุดในโลก เหมือนตอนเด็กๆ ที่เราเคยไปโรงเรียนด้วยกันเลย"

เราสองคนยิ้มให้กันในไฟสลัวๆ ที่สาดเข้ามาภายในตัวรถ แล้วผมก็ดึงศีรษะของนัทมาซบไหล่ผมไว้

"เหนื่อยก็นอนพักได้นะ พักกับไหล่พี่นี่แหละ"

นัทยอมทำตามที่ผมบอกอย่างว่าง่าย พอซบลงไปแล้วก็หลับตาลงอย่างคนอ่อนล้า ช่วงที่ผ่านมานัทคงหมดพลังกับเรื่องร้ายๆ เต็มที ถ้าเราเจอกันเร็วกว่านี้ ผมคงได้ช่วยปลอบใจน้องตั้งแต่ตอนนั้น แต่เอาเถอะ อีกไม่ช้านัทก็คงจะหายดีแล้ว อดทนอีกนิดเดียวละกันนะน้องพี่ พี่คนนี้แหละที่จะทำให้น้องคนนี้ลืมเรื่องราวเลวร้ายที่ผ่านมาให้ได้

เสียงเพลงของเราสองคนจบไปแล้ว ผมกดเล่นอีกครั้งเพื่อกล่อมให้คนข้างๆ กายได้หลับใหลอย่างเป็นสุข นอกจากนี้ก็ช่วยทำให้บรรยากาศการเดินทางไม่เงียบเหงาจนเกินไปด้วย

ผมพานัทมาถึงบ้านตอนเกือบๆ ห้าทุ่ม พ่อกับแม่ขึ้นข้างบนไปแล้วจึงไม่มีใครอยู่ข้างล่าง ผมก็เลยพานัทขึ้นมาที่ห้องของตัวเองโดยไม่ต้องทักทายใครก่อน ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในห้องผม นัทก็ดูจะตื่นเต้นไม่น้อย

"โห...ห้องใหญ่จัง นัทอยากมีห้องแบบนี้จังเลยพี่แฟรงค์"

ผมยิ้มให้กับคนที่หันมองไปรอบๆ ห้องของผมด้วยสายตาชื่นชมและมีประกายฝัน

"มาอยู่กับพี่มั้ยล่ะ"

นัทถึงกับชะงักและหันมามอง คงนึกว่าตัวเองฟังผิดหรือไม่ก็ไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดดีนัก ผมก็หยอกเล่นไปอย่างนั้นแหละ แต่ถ้ามาอยู่จริงๆ ก็ไม่ขัดข้องหรอก เพราะอยากให้มาอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว

"วันไหนเบื่อนอนรีสอร์ท มานอนกับพี่ที่บ้านก็ได้นะ"

ผมแสร้งพูดเสไปเพื่อให้เจ้าตัวหยุดทำหน้าสงสัยเสียที พอนึกขึ้นได้ว่าอยากให้นัทดูของที่เก็บไว้ ผมจึงเดินไปค้นตู้เก็บของในห้อง พอเจอของที่ต้องการแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ สิ่งของสองอย่างนี้ผมใส่กรอบไว้อย่างดี คงไม่ต้องบอกว่าผมรักและหวงมากแค่ไหน พอนัทเห็นว่าน่าจะเป็นอะไรก็รีบเดินมาหาผมด้วยความตื่นเต้น

ผมส่งการ์ดและรูปที่ผมเก็บใส่กรอบไปให้นัท พอเห็นชัดๆ แล้วเจ้าตัวก็ค่อยๆ ระบายยิ้มดีใจจนเต็มใบหน้า จ้องมองดูและใช้มือลูบสัมผัสอย่างทะนุถนอม ดูเหมือนนัทจะให้ความสนใจกับการ์ดที่เคยเขียนให้ผมมากเป็นพิเศษเพราะจ้องดูอยู่นาน ผมจำข้อความนั้นได้ดี นัทเขียนว่า

"ขอบคุณครับพี่ชาย ผมจะไม่ลืมพี่แฟรงค์นะครับ"

ผมยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ไม่เคยลืม โดยเฉพาะตอนที่ผมขี่จักรยานออกมา แล้วก็ได้ยินเสียงเรียกพี่แฟรงค์ๆ ตามหลัง ผมรู้สึกเหมือนจะขาดใจเสียให้ได้ แม้ว่าหลังๆ แทบจะไม่ได้มีโอกาสหยิบการ์ดใบนี้ขึ้นมาดู แต่ผมก็รู้ว่ามันยังอยู่ โชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นในช่วงที่เทคโนโลยียังไม่ทันสมัย เราจึงรับเอาข้อมูลเข้ามาน้อย แต่ก็มักเป็นเรื่องที่เราประทับใจและจำได้ไม่ลืม แต่ในยุคปัจจุบันที่เข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วทุกที่ทุกเวลา เรากลับจำอะไรไม่ค่อยได้ มีเรื่องประทับใจน้อยลงเพราะรับข้อมูลมากเกินไป แถมจะทำอะไรก็สะดวกง่ายดายไปหมด เช่นการ์ดใบนี้ จะใช้คอมพิวเตอร์ทำก็ได้ ทำให้สวยขนาดไหนก็ไม่ยาก เสร็จแล้วก็แค่ส่งไลน์หรืออีเมล์ให้กัน แต่การ์ดนี้เขียนด้วยมือ แม้จะเป็นแค่คำง่ายๆ บนกระดาษที่แสนเชย แต่ก็กลั่นออกมาจากหัวใจ

ผมปล่อยให้นัทอยู่กับการ์ดใบนั้นเนิ่นนานเท่าที่ต้องการ พอเห็นแล้วก็คงทำให้เจ้าตัวนึกถึงความทรงจำเก่าๆ มากมาย แม้จะเลือนลาง แต่ผมกับนัทก็รู้ดีว่าเราสองคนมีความรู้สึกดีๆ ให้กันมากแค่ไหนในตอนนั้น ถึงผมไม่อยากให้นัทเรียกพี่ แต่ลึกๆ ในใจก็รู้ว่าเป็นพี่ ก็เป็นธรรมดาที่พี่จะคอยดูแลปกป้อง ทั้งนัทและเฟิร์น เพียงแต่ผมสนิทกับนัทมากกว่าในช่วงหลังๆ จึงทำให้นัทติดผมเป็นตุ๊กแก แล้วผมเองก็คงจะเป็นตุ๊กแกตัวที่สองเพราะติดนัท จะทำอะไรหรือไปไหนต้องมีนัทไปด้วย ไม่งั้นไม่สนุก

"ลายมือของนัทสวยกว่าตอนนี้เยอะเลย"

หลังจากที่เงียบไปนานนัทก็เงยหน้ามาคุยด้วย

"ก็แหงล่ะสิ ตอนนี้ใช้แต่คอม แทบไม่ได้ใช้มือเขียนเลย"

นัทพยักหน้าเห็นด้วย

"อืม...เดี๋ยวพี่จะลงไปหาอะไรกินในครัวซะหน่อย ยังไม่ได้กินอะไรเลย นัทจะไปกับพี่มั้ย"

"ไม่ดีกว่า นัทกินแล้ว เดี๋ยวนัทอาบน้ำก่อนละกัน" พูดพลางส่ายหน้า

"ถ้างั้นก็ตามสบายเลยนะ ถ้าขี้เกียจเอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า ใส่เสื้อพี่ไปก่อนก็ได้ อยู่ในตู้เสื้อผ้านั่นแหละ ใส่ตัวไหนก็ได้ที่นัทอยากใส่ ถ้าเกิดเปลี่ยนใจอยากกินอะไรก็โทรหาพี่ เดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านเตรียมให้"

นัทยิ้มบางๆ และพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงรับรู้ ผมจึงขอตัวลงมาจัดการปากท้องของตัวเอง ก็เพราะความเป็นห่วงผมจึงรีบไปหานัทโดยไม่แวะพักกินอะไรระหว่างทางเลย ตอนนั้นไม่รู้สึกหิวด้วยซ้ำ คิดแต่เพียงว่าต้องไปหานัทให้เร็วที่สุด เพราะผมสังหรณ์ใจว่าน้องกำลังต้องการผม แล้วสัมผัสที่หกของผมก็ทำงานไม่ผิดเพี้ยนเสียด้วย

หลังจากที่จัดการปากท้องและทำความสะอาดร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ผมกับนัทก็อยู่ในชุดสบายๆ ที่พร้อมจะนอนหลับพักผ่อน ดูเหมือนนัทจะชอบเตียงนอนของผมมาก เห็นนอนกลิ้งไปกลิ้งมาแถมยังขย่มเล่นเบาๆ อย่างสนุกสนาน

"ชอบอย่างงี้...สงสัยพี่ต้องพามานอนที่ห้องพี่บ่อยๆ แล้วล่ะ"

ผมสัพยอกพร้อมกับหัวเราะอย่างเอ็นดู เจ้าตัวก็เลยชะงักและหยุดเล่นแล้วเขยิบตัวขึ้นมานั่งพิงกับหัวเตียง

"อย่าเลย รบกวนพี่แฟรงค์เปล่าๆ กลับบ้านเหนื่อยๆ พี่แฟรงค์จะได้มีเวลาส่วนตัว"

"พี่อยู่กับนัท...พี่ก็ไม่เห็นว่าพี่จะไม่เป็นส่วนตัวตรงไหนเลยนะ"

ผมพูดพร้อมกับขึ้นไปนอนบนเตียงในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ครึ่งท่อน

"ก็เผื่อพี่แฟรงค์อยากจะพาคนพิเศษมานอนที่นี่ไง นัทเกรงใจ ไม่อยากรบกวนพี่แฟรงค์หรอก"

"แล้วนัทรู้มั้ยว่าคนพิเศษของพี่เป็นใคร"

ผมหันไปถามพลางจ้องหน้าอย่างจริงจัง นัทนั่งนิ่งแล้วก็ค่อยๆ หลบสายตาไป ก้มหน้าเล็กน้อย

"ก็เพียวไง"

ผมชะงักเล็กน้อย แต่ใครๆ ก็คงเข้าใจว่าอย่างนั้นอยู่แล้ว

"พี่แฟรงค์"

"หืม..."

ผมหันไปมองอย่างสงสัย นัทยังคงท่าก้มหน้าอยู่

"นัทขอถามอะไรพี่แฟรงค์ตรงๆ ซักเรื่องได้มั้ย"

"ได้ ถามหลายๆ เรื่องก็ได้"

ผมพูดเล่นสนุก พอนัทหันหน้ามา ผมก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องที่ถามน่าจะไม่สนุกเสียแล้ว

"พี่แฟรงค์...คิดอะไรกับนัทหรือเปล่า"

"ยังไง"

ผมถามด้วยอาการที่ดูก็รู้ว่ากำลังตกใจ แม้ว่าที่ทำไปทั้งหมดก็อยากให้นัทรู้นั่นแหละ แต่พอนัทเกิดสงสัยและถามตรงๆ กลับกลัวที่จะพูดความจริง

"ก็...รู้สึกมากกว่าน้อง แล้วก็...มากกว่าเพื่อน"

แม้อึกอักที่จะพูด แต่นัทก็พูดออกมาตรงๆ จนได้

"แล้ว...นัทคิดว่ายังไงล่ะ นัทเห็นอะไร นัทถึงคิดอย่างงั้น"

คราวนี้สายตาของนัทมีแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด

"ก็..." เหมือนเจ้าตัวจะไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ

ผมถอนหายใจแล้วก็เงยหน้ามองเพดานห้อง

"นัทเห็นอะไร คิดอะไร พี่ก็เป็นอย่างที่นัทเห็น เป็นอย่างที่นัทคิด แล้วพี่ก็คิดว่า...นัทคงรู้คำตอบอยู่ในใจแล้วล่ะ"

ผมก้มหน้าลงตามเดิมอย่างช้าๆ

"พี่แฟรงค์...พี่แฟรงค์คบกับเพียวมาตั้งหลายปีแล้วนะ ผมไม่อยากเป็นต้นเหตุให้พี่แฟรงค์กับเพียว...ต้อง...เลิกกัน"

ผมหันไปสบตากับนัทด้วยความตกใจ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมเองก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะคิด แต่ถ้าจะเปลี่ยนใจแล้วก็คงต้องเดินไปถึงจุดนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่ว่ามันอาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิดนักหรอก ผมกับเพียวมาไกลถึงเพียงนี้แล้ว

"พี่แฟรงค์...เราสองคนเพิ่งกลับมาเจอกันได้แค่ไม่กี่วัน สิบสามปีที่เราไม่ได้เจอกัน นัทก็อาจจะมีหลายอย่างเปลี่ยนไป พี่แฟรงค์ก็คงเหมือนกัน ถึงจะเคยสนิทกันมาก่อน แต่นัทกับพี่แฟรงค์ ก็ยังมีอะไรอีกตั้งหลายอย่างที่ยังไม่รู้จักกันดีพอ รู้จักกันน้อยไปด้วยซ้ำ"

นั่นสินะ จะว่าไป ผมกับนัทก็เพิ่งกลับมาเจอกันได้ไม่กี่วัน ใครๆ คงหาว่าผมบ้าที่จะทิ้งคนที่คบกันมากว่าสี่ห้าปี แล้วมาหาคนที่เพิ่งกลับมาเจอกัน แม้แต่ตัวผมเองก็ยังไม่กล้าการันตีด้วยซ้ำ ว่าความรู้สึกที่ผมมีต่อนัทในตอนนี้จะยั่งยืนไปอีกนานแค่ไหน

บางที...ผมกับนัทก็อาจต้องการเวลาที่จะเรียนรู้กันมากกว่านี้ แต่ผมก็มีเวลาเหลือยู่น้อยเต็มที นึกไม่ออกเลยว่า ผมจะพิสูจน์หัวใจของผมกับนัทในช่วงเวลาที่เหลือน้อยนิดได้ทันการหรือเปล่า

หรือว่ามันจะสายไปแล้ว ผมไม่น่ามีทางเลือกอื่นใดเหลืออยู่เลยนอกจากตัดใจจากนัทไป

"ผมไม่อยากให้พี่แฟรงค์ตัดสินใจเร็วเกินไป บางที...พอเวลาผ่านไปมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่พี่แฟรงค์คิดก็ได้"

สิ่งที่นัทพูดมาแทงใจดำผมเหลือเกิน แต่ละประโยคจี้ไปยังจุดที่ผมกลัวอย่างร้ายกาจ ราวกับมานั่งอยู่ในใจของผมเอง  ผมยอมรับว่ากำลังสับสนมาก ไม่แน่ใจเลยว่าถ้าตัดสินใจเลือกตอนนี้จะเร็วเกินไปหรือเปล่า ถ้าฟังเสียงหัวใจมันก็อาจจะใช่ แต่ตัวแปรอื่นๆ ก็ยังมีอีกมากมายที่จะทำให้หลายๆ อย่างไม่เป็นหรือง่ายอย่างที่คิด

"เราเป็นผู้ชายเหมือนกันนะพี่แฟรงค์ มันคงไม่ง่ายหรอก แต่นัทก็ไม่ปฏิเสธหรอกว่าความรักเกิดกับใครก็ได้ เพศไหนก็ได้ นัทว่านะ...ตัดใจได้ตอนนี้จะดีที่สุด คงไม่เจ็บมาก แต่ถ้าช้า...ก็อาจจะเจ็บมาก เจ็บกันหลายคน อีกอย่าง...นัทเองก็ไม่ได้คิดกับพี่แฟรงค์เกินกว่าพี่ชาย ไม่ว่าพี่แฟรงค์จะพยายามยังไง นัทก็คง...รักพี่อย่างงั้นไม่ได้ พี่แฟรงค์อย่าพยายามเลยดีกว่า"

นัทย้ำเรื่องนี้อีกแล้ว ผมรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าเข้ากลางหัวใจ นี่แหละคืออีกเรื่องหนึ่งที่ผมกลัว ผมปล่อยมือเพียวแล้วก็ใช่ว่านัทจะยอมจับมือไปกับผมด้วย สุดท้ายผมก็อาจจะไม่เหลือใครเลย

"ขอโทษนะที่นัทต้องพูดกับพี่แฟรงค์ตรงๆ แต่นัทก็ไม่อยากให้เราสองคน...ทำให้เพียวเสียใจ อย่าทำให้เพียวเสียใจเลยนะพี่แฟรงค์ พี่แฟรงค์ลองคิดดูดีๆ สิ สี่ห้าปีที่คบกันมา...นัทรู้ว่าพี่แฟรงค์กับเพียวผูกพันกันมาก เพียวเค้ารักพี่แฟรงค์มากนะ แล้วพี่แฟรงค์เอง...ก็คงรักเพียวมากเหมือนกัน พี่แฟรงค์จะทำร้ายเค้าได้ลงคอเหรอ แล้วที่สำคัญ ถ้าเราทำอย่างงั้น...นัทกับพี่แฟรงค์คงจะรู้สึกผิดกันไปจนตาย"

"นัท..."

ผมครางเสียงเบา พอฟังที่นัทพูดแล้วผมก็เถียงไม่ออก นัทพูดได้ตรงกับทุกเรื่องที่ผมคิดและรู้สึก ตรงกับทุกเรื่องที่ผมกังวลและกลัวอยู่ในใจ

"แล้วนัท...ไม่ได้คิดอะไรกับพี่เลยเหรอ พี่ว่า...พี่รู้สึกได้นะว่านัท..."

เสียงผมหายไปเหมือนกับไม่กล้าที่จะพูดสิ่งที่คิดเอาไว้

"ตัดใจจากนัทนะพี่แฟรงค์ เราสองคน...เป็นแค่พี่น้องกันก็พอนะพี่แฟรงค์ ขอบคุณมากที่พี่แฟรงค์รู้สึกดีๆ กับนัท นัทขอโทษถ้านัททำให้พี่แฟรงค์ผิดหวัง แต่นัท...ก็เดินไปกับพี่แฟรงค์ไม่ได้จริงๆ"

ผมรู้สึกชาไปทั้งตัวและหัวใจ ความรู้สึกของผมมาจนถึงจุดที่เกินจะอดกลั้นแล้ว น้ำตาจึงไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

"นัท"

ผมดึงนัทมากอดไว้แล้วก็ร้องไห้อย่างสะเทือนใจ

"พี่แฟรงค์ นัทขอโทษ..."

ไปๆ มาๆ เราทั้งคู่ต่างก็ร้องไห้

"ไม่เป็นไรนัท...พี่เข้าใจ"

ผมบอกไปแล้วก็กอดนัทแน่นขึ้น ยิ่งได้สัมผัสแนบชิดอย่างนี้ก็ยิ่งรู้ว่ารักมากแค่ไหน ยิ่งรู้ว่าจะสูญเสียความรู้สึกนั้นไปก็ยิ่งรู้สึกเหมือนใจจะขาด

"พี่แฟรงค์...นัทขอโทษนะที่ทำให้พี่แฟรงค์ร้องไห้...นัทขอโทษ..."

พอได้ยินนัทพูดอย่างนั้น ผมก็สะอึกสะอื้นไห้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่เคยรู้สึกทรมานอย่างนี้เลย คนที่อยากรักอยู่ในอ้อมแขนแท้ๆ แต่กลับสานต่อความสัมพันธ์ไม่ได้ แม้แต่จะคิดก็ยังผิดด้วยซ้ำ

"ขอเวลาพี่ได้ไหมนัท พี่รู้ว่าพี่มีเวลาเหลือไม่เยอะ แต่พี่ก็เชื่ออย่างหนึ่งว่า...ถ้าฟ้าส่งนัทกลับคืนมาหาพี่ เราสองคน...ก็ต้องมีชะตาชีวิตร่วมกัน พี่เชื่ออย่างงั้นนะนัท พี่เชื่อ...เชื่อว่าเราสองคน...ไม่ได้แค่บังเอิญกลับมาเจอกัน...แล้วก็จากกันไป"

ราตรีที่แสนโศกล่วงเลยผ่านไปพอสมควรแล้ว ต่างคนก็ต่างเหนื่อยอ่อน ร่างกายที่เหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันก็ควรจะถึงเวลาหยุดพัก เสียงร้องไห้คร่ำครวญเสียใจเงียบลงไปแล้ว ต่างคนก็ต่างจมดิ่งอยู่ในห้วงความคิดในโลกของตัวเอง จนกระทั่งการรับรู้ระดับจิตสำนึกหายไปตามกลไกของธรรมชาติ ความทุกข์ทรมานจึงสิ้นสุดลงไปชั่วคราว หวังเพียงว่าเช้าวันใหม่ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า จะช่วยทำให้ค่ำคืนที่แสนโศกนี้เป็นเพียงหนึ่งคืนที่ฝันร้าย

... ... ...

ช่วงเช้าวันนี้ผมกับนัทวุ่นๆ กับงานพอสมควร ตอนเช้าผมกับนัทเข้าไปพบกับผู้อำนวยการสำนักงานเขตที่นัทช่วยติดต่อไว้ ก็เรื่องที่จะขออนุญาตใช้ชื่อเขตเป็นชื่อรีสอร์ทนั่นแหละครับ หลังจากนำเสนอให้ท่านเห็นรีสอร์ทของเราและความเป็นมา ทุกอย่างก็เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร เราก็คงจะได้ใช้ชื่อรีสอร์ทว่า "หนองจอกรีสอร์ทแอนด์ฟิชชิ่งปาร์ค" ตามที่นัดเสนอ ผมได้เจอเพื่อนของนัทที่ชื่อปอนด์ด้วย ดูเป็นคนตลกๆ แต่ก็จริงใจทีเดียว

ประมาณสิบเอ็ดโมงเศษๆ เราก็กลับมาที่รีสอร์ท พอมาถึงก็เที่ยงพอดีจึงทานอาหารกลางวันกันก่อน ตอนบ่าย นัทขอตัวไปทำเรื่องสรุปงบประมาณที่จะใช้ในการปรับปรุงทั้งหมด นอกจากนี้ก็ยังได้นัดให้ผู้รับเหมาเข้ามาประเมินราคาด้วยสองสามเจ้า ผมไม่ได้ตามไปดูเพราะไว้ใจว่านัทจะทำได้อย่างไม่มีปัญหา ถ้ามีอะไรก็ติดต่อผมได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว

ผมจึงใช้เวลาช่วงบ่ายทำเรื่องที่ออกจะดูไร้สาระเสียหน่อย พอเปิดคอมพิวเตอร์ผมก็ล็อกอินเข้าไปในเฟสบุ๊คของตัวเอง นัทเป็นเพื่อนในลิสต์ของผมแล้ว ผมจึงถือวิสาสะเข้าไปดูข้อมูลต่างๆ ที่นัทเคยโพสต์ไว้ในหน้าโพรไฟล์ของนัท

โพสต์ล่าสุดนั้นนัทโพสต์ไว้นานหลายสัปดาห์แล้ว มีเพียงข้อความเขียนสั้นๆ ว่า "โง่" ถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะเขียนหลังจากที่รู้ตัวว่าถูกหลอกแล้ว

ผมเลื่อนลงไปเรื่อยๆ ก็เห็นรูปสวีทหวานแหววของนัทกับต้องตาหลายรูป ถ่ายคู่กันตามที่ต่างๆ ทั้งในงานหรือเวลาส่วนตัว บางรูปก็ดูใกล้ชิดกันมากเสียจนผมยังอายแทน ผมเองยังไม่เคยลงรูปที่ถ่ายใกล้ชิดกับเพียวขนาดนี้เลย นี่ถ้าเกิดว่าสองคนนี้ยังรักกันอยู่ ผมคงหัวใจสลายที่เห็นภาพแบบนี้

ผมไล่ดูโพสต์ของนัทไปเรื่อยๆ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีอะไรที่ตรงกับสิ่งที่ผมอยากรู้เท่าไหร่ ส่วนมากก็มีแค่เรื่องงานบ้าง ไปเที่ยวบ้าง หรือโพสต์ที่แชร์กันทั่วๆ ไปบ้าง หาอยู่นานจนเกือบจะถอดใจอยู่แล้ว ผมก็พลันมาเจอโพสต์นี้ที่นัทโพสต์ไว้เมื่อสามปีก่อน

"ไม่น่าเชื่อว่า แค่ประโยคสั้นๆ ง่ายๆ ว่าอย่าเรียกพี่ได้มั้ย จะทำให้เราสองคนได้มารักกัน สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่ต้องตา ขอบคุณที่รักกันมาตลอดครับ"

โพสต์นี้ของนัททำให้ผมตาโตราวกับได้เจอขุมทรัพย์ ผมรู้มาว่าต้องตาอายุมากกว่านัทนิดหน่อยจากที่นัทเล่า ข้อความนี้ที่นัทเขียนไว้ทำให้ผมเห็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของสองคนนี้แล้ว ทำไมมันช่างเหมือนคำพูดที่ผมชอบพูดกับนัทบ่อยๆ ตอนเด็กๆ เสียเหลือเกิน

นัทชอบต้องตาเพราะเธอพูดคล้ายๆ ที่ผมเคยพูดกับนัทตอนเด็กๆ หรือเปล่า!?

นัทน้องพี่...เราสองคนคงประสบชะตาชีวิตเดียวกันแล้วล่ะ ผมสนใจเพียวและตัดสินใจจีบเธอเพราะเธอชอบกินไอศครีมเหมือนนัท ส่วนนัทก็เป็นแฟนกับต้องตาเพียงเพราะเธอขอนัทไว้ว่าอย่าเรียกเธอว่าพี่ ทั้งสองอย่างนี้ต่างก็เป็นเรื่องประทับใจที่ฝังติดอยู่ในความทรงจำของผมกับนัทมาตลอด เวลานึกถึงนัท ผมก็นึกถึงน้องที่ชอบกินไอศครีมจนผมต้องเจียดเงินค่าขนมตัวเองไปซื้อให้กินบ่อยๆ ส่วนนัทก็คงนึกถึงผมเรื่องไม่ให้เรียกพี่เพราะอายุใกล้กัน ทั้งชีวิตของนัทตั้งแต่เกิดจนตาย อาจจะมีแค่ผมกับต้องตาเท่านั้นที่พูดกับนัทอย่างนี้

เราสองคนต่างมีเงาของกันและกันติดตัวไปตลอดตั้งแต่จากกันไปคราวนั้น ผมทั้งตกใจและตื่นเต้นดีใจกับสิ่งที่เพิ่งค้นพบจนขนลุกไปทั้งตัว แน่แล้วล่ะนัทน้องพี่ ความประทับใจในความผูกพันของเราเมื่อครั้งเยาว์วัย ทำให้เราสองคนไขว่คว้าหาสิ่งที่คล้ายกับตอนนั้นมาชดเชยความรู้สึกสูญเสียของเราเอง

ในวันนั้น ผมกับนัทคงรู้แล้วว่าคนแบบไหนที่จะเติมเต็มชีวิตให้เราได้อย่างแท้จริง ที่ผมกับนัทไม่คิดจะมีแฟนก่อนหน้านั้นก็เพราะเราหาคนที่ตรงกับความชอบในอดีตไม่เจอ พอได้เจอคนที่ดูคล้ายกับสิ่งที่อยากได้ เราจึงไม่รีรอที่จะไขว่คว้าไว้

แล้วมันจะแปลกอะไรที่ผมจะเชื่อว่าผมรักนัทอย่างแท้จริง แม้จะกลับมาเจอกันเพียงไม่กี่วัน แต่ความรู้สึกนั้นก็เกิดขึ้นต่อเนื่องมาอย่างยาวนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิดแค่วันสองวันนี้ เหมือนกับกุญแจห้องที่หายไป เมื่อหาเจอแล้วก็สามารถเสียบเข้าไปและไขได้เลยไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน

ผมนั่งมือไม้สั่นด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจ อยากจะวิ่งออกไปหานัทเสียเดี๋ยวนี้แต่ก็ติดที่นัทยังคงทำงานอยู่ คงจะอีกนานพอสมควรกว่าจะคุยกับผู้รับเหมาได้หมดทุกราย เผลอๆ ก็อาจจะเย็น

เย็นนี้ผมต้องไปส่งเพียวที่สนามบินเสียด้วย ช่วงนี้เธอมีแข่งกีฬาวอลเลย์บอลในนามของทีมชาติที่ต่างประเทศสองสัปดาห์ติดกัน ทุกครั้งที่เธอไปแข่งผมก็จะไปส่งที่สนามบินทุกครั้ง ครั้งนี้จะไม่ไปก็ดูกระไรอยู่

คิดแล้วผมก็รีบเดินออกไปจากห้องทำงาน ตรงดิ่งไปหานัทที่อยู่ที่เรือนพักหลังหนึ่ง ตอนนี้คงกำลังคุยกับบริษัทที่มาช่วยประเมินราคาการปรับเปลี่ยนระบบทำน้ำอุ่นน้ำเย็นในห้องน้ำอยู่ รีสอร์ทของเราเก่ามากจึงยังใช้แบบสองท่อแยกกัน ผู้ใช้ต้องหมุนเปิดท่อน้ำร้อนกับน้ำเย็นผสมกันเอง ทำให้เสียเวลาและความรื่นรมย์ในการอาบน้ำพอสมควร จนลูกค้าบ่นกันบ่อยๆ

พอมาถึงผมก็เดินเข้าไปในเรือนพักนั้นอย่างไม่รอช้า เสียงคุยกันทำให้ผมรู้ว่ายังมีคนอยู่ในนั้นอยู่ นัทกำลังพูดคุยอะไรบางอย่างกับทีมงานผู้ชายสองคนที่เป็นตัวแทนของบริษัทอยู่พอดี

"ขอโทษนะครับ"

ผมเอ่ยขึ้นขัดจังหวะ ชายหนุ่มสามคนที่ยืนอยู่จึงหันมามองผมเป็นตาเดียวกันพร้อมกับหยุดพักสิ่งที่ทำไว้ ก่อน

นัทเดินมาหาผมแล้วก็ถามอย่างสงสัย "มีอะไรเหรอแฟรงค์"

"พี่ขอคุยกับนัทตอนสี่โมงเย็นหน่อยได้มั้ย พี่มีเรื่องสำคัญจะถามนัท เรื่องสำคัญมาก นัทมาให้ได้นะ"

ผมเห็นนัทครุ่นคิดเหมือนกับลังเล

"ถ้านัทเสร็จงาน นัทจะไปหาแฟรงค์นะ"

นัทแบ่งรับแบ่งสู้ พอถึงเวลา นัทก็ไม่มาหาผมตามเวลาที่นัด มีเพียงข้อความส่งมาทางไลน์ว่า

"ขอโทษด้วยที่มาหาไม่ได้ นัทมีธุระต้องไปกับเพื่อน"

ผมจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรีบเดินทางไปรับเพียวที่บ้านแล้วพาเธอไปส่งสนามบิน นอกจากนัทที่บอกให้ผมโทรไปง้อเพียวแล้ว ที่บ้านผมก็จับตาดูเรื่องนี้อยู่ แม่ถึงกับเป็นคนมาขอผมด้วยตัวเองให้ผมโทรไปคุยกับเพียว ท่านเป็นห่วงว่าจะแต่งงานกันอยู่แล้วไม่ควรมีเรื่องโกรธเคืองกัน ผมจึงต้องทำตามที่ท่านขอ อันที่จริงผมก็รู้ว่าต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้ว คงจะปล่อยให้เพียวโกรธเคืองนานๆ ไม่ได้ ก็โชคดีไปที่เธอเชื่อว่าผมกับนัทไม่ได้มีอะไรพิเศษต่อกัน แม้ว่าแรกๆ จะกระเง้ากระงอดบ้าง แต่ใครๆ ก็คงไม่คิดหรอกว่าคนที่จากกันไปสิบสามปีจะยังมีเยื่อใยบางอย่างผูกมัดกันไว้อยู่ ที่สำคัญ ตอนนั้นผมกับนัทก็เด็กเกินกว่าที่จะคิดเรื่องชู้สาว จึงไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยเลยเถิดไปถึงขนาดนั้น

ดูเหมือนว่านัทจงใจที่จะหลบหน้าผมเสียแล้ว สังเกตุจากท่าทางของนัทตอนที่ผมเดินไปตามก็พอรู้ว่ากระอักกระอ่วนใจที่จะรับปาก ผมไม่โกรธนัทหรอกที่ไม่ยอมมาหา แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็จะเดินหน้าพิสูจน์หัวใจของผมกับนัทต่อไป เพื่อให้ทันเวลาที่เหลืออีกเพียงน้อยนิดของผม ก่อนที่อะไรๆ จะสายจนเกินไป

ไม่ว่าจะยากลำบากสักแค่ไหน หรือว่าจะต้องยอมเสียสละอะไรไป ผมก็จะทำให้นัทรู้ใจและยอมรับให้ได้ว่า...นัทรักผม และเราสองคนไม่เคยรักคนอื่นเลยตลอดช่วงเวลาสิบสามปีที่จากกัน!!!


TBC

ชอบงานใคร อย่าลืมบวกเป็ด/คอมเมนต์ให้นักเขียนทุกคน ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ :)

หลับตา (โต๋)

https://www.youtube.com/v/YqHOu-zlVOA

หลับตาเถิดนะ แล้วเราก็จะพบกัน
อาจเป็นเพียงฝัน ก็พอใจ
หลับตาเถิดนะ ถึงตัวเราจะแสนไกล
ห่างกันเพียงไหน เหมือนใกล้กัน

ชีวิตขีดเส้นทาง ไว้ให้เราเจอกัน
ขีดทางที่ผกผัน ให้มีวันห่างไกล
หลับตานานๆ คิดถึงวันเก่า จะยังมีเราสองคน

สักวันเถิดนะ แล้วเราคงได้พบกัน
อาจมีวันนั้น ที่ได้เจอ
จากกันวันนี้ หัวใจยังอยูใกล้เธอ
ติดตามไปเสมอ ถึงแสนไกล

ขอบฟ้าอยู่ไม่ไกล เพราะว่าใจเป็นหนึ่ง
และใจนั้นส่งถึง เพราะว่ายังห่วงใย
หลับตานานๆ คิดถึงวันเก่า จะยังมีเราสองคน

ชีวิตขีดเส้นทาง ไว้ให้เราเจอกัน
ขีดทางที่ผกผัน ให้มีวันห่างไกล
หลับตานานๆ คิดถึงวันเก่า จะยังมีเราสองคน

หลับตานานๆ คิดถึงวันเก่า จะยังมีเราสองคน

หลับตาเถิดนะ แล้วเราก็จะพบกัน
อาจเป็นเพียงฝัน ก็พอใจ
หลับตาเถิดนะ ถึงตัวเราจะแสนไกล
ห่างกันเพียงไหน เหมือนใกล้กัน
หลับตาเถิดนะเธอ ส่งใจคิดถึงกัน
และคงจะไม่นาน ฝันนั้นจะเป็นจริง

...อ้างอิง http://sz4m.com/t2489
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2017 12:41:29 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
โศกสมกับชื่อตอนจริงๆค่ะ..เฮ้อ...ทั้งที่รู้ความรุ้สึกของกันและกันแล้วนะแต่..มันกลับไปต่อไม่ได้ก็เพราะแฟร้งมีเพียวอยู่แล้ว
คบกันมานานจนตกลงแต่งงานกันอยู่แล้ว..เฮ้อ..หน่วงมากค่ะ..ไม่รุู้จะบรรยายยังไงมันอึดอัดแทนนัทจริงๆ  :ling1:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ในเมื่อแฟรงค์เลือกแล้วว่าจะทำทุกวิถีทางให้นัทยอมรับให้ได้ว่ารู้สึกเหมือนกันกับตัวเอง แฟรงค์ก็ต้องปล่อยมือเพียวไปเลยนะคะ ไม่ใช่ยังกั๊กเอาไว้เผื่อพลาดจากนัทแบบนี้

ปล. คำผิดจ้า.. ผูกพันธ์=ผูกพัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
    ความยุ่งเหยิงกำลังก่อตัวแล้วสินะคับ  สองอาทิตย์ที่เพียวไม่อยู่ แฟรงค์กับนัทจะทำยังไง ลุ้นว่านัทก็ชอบแฟรงค์อ่ะ ตื้อบ่อยๆเดี๋ยวนัทก็ใจอ่อน ๕๕๕ 
   รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
เหมือนนัทยังไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเองนะ ยิ่งนัทรู้ว่าพี่แฟรงค์มีแฟนแล้วก็คงยอมรับยากแหละ
คงไม่อยากทำให้ใครเสียใจ อันนี้ก็เป็นปัญหาอยู่

พี่แฟรงค์รู้แบบนี้แล้วก็สู้ๆ นะ
แต่ก่อนอื่นไปเคลียร์กับเพียวก่อนไป ยังไงก็ต้องมีคนเจ็บแหละ เฮ้ออออ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
ถ้าตัดสินใจจะพุ่งชนกับนัทแล้วล่ะก็ ควรปล่อยเพียวนะ ไม่ใช่มากั๊กไว้แบบนี้ ถ้าเราเป็นนัทเราก็ไม่เสี่ยงด้วยหรอก

 จะจับมือใครก็จับคนนั้นแค่คนเดียวจะได้แน่นพอที่จะไม่ปล่อยให้หลุดมือไป

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
เวลาที่จะพิสูจน์ใจตัวแฟรงค์เองกับนัท  มันน้อยจังแฮะ แบบนี้มันไม่สายไปรึเปล่า ถ้าพอรู้ตัวและใจตัวเอง

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
หน่วงอารมณ์มากเลย   แต่ก็เข้าใจนะที่เป็นแบบนี้   แฟรงก์กลัวที่จะไม่เหลือใคร  แต่ก็ควรระวังว่ามันจะครึ่งๆกลาง  จะเข้าก้ไม่เข้า จะออกก็ไม่ออกกลาวเป็นการยืนขวางลำที่มีเพียวโดนลากมาด้วย  นัทยังอยู่ในช่วงกลไกการป้องกันตัวเองทำงานหนักมาก   ยังต้องอีกนานกว่าจะค่อยๆคลาย    จะว่าไปนัทน่าจะรู้สึกเจ็บกับต้องตาเป็นครั้งที่สองนะ ครั้งแรกน่าจะเป็นแฟรงก์ที่อยู่ๆก็หายไป ทิ้งที่ว่างใหญ่มากๆจนหาอะไรมาถมก็ไม่หมด มีตามมาเป็นเงาแฝงตลอด

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ตอนหน้าน่าจะเริ่มเห็นเค้ารางของปัญหาบางอย่างที่ชัดขึ้น
ปัญหาที่แฟรงค์ก็คงอึ้งและคาดไม่ถึง อิๆ
ช่วงนี้จะดราม่าพอสมควรนะครับ
โชคดีที่เรื่องนี้ไม่ยาวเท่าไหร่ ยี่สิบกว่าตอนก็น่าจะจบแล้วครับ
ไม่งั้นผมคงดำดิ่งไปอีกนาน 555

เพิ่มเติม (แก้ไข)
ไม่เกี่ยวกับใครท้องหรือไม่ท้อง ไม่อยากใช้มุกนี้แล้ว เชย 555

Sarawatta
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-12-2015 10:54:50 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ปัญหาอะไร อย่าบอกนะว่าแฟนเก่าของนัทท้อง? เพียวท้อง? (555555)

โอยยย อ่านแล้วมันงึด

นัทไม่คิดพี่แฟรงค์เกินกว่าพี่ชายจริงๆเหรอ? (ดูท่าน้องเองก็ยังไม่รุ้ตัวหรอก คึคึ)



ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
รอลุ้นว่านัทจะยอมรับใจตัวเองเมื่อไหร่ แต่ถ้าจะให้ง่ายพี่แฟรงค์เลิกกับเพียว

เราว่านัทอาจจะตัดสินใจอะไรๆ ได้ง่ายขึ้นก็ได้แต่ก็คงไม่พ้นต้องรู้สึกผิดกับเพียว

นอกซะจากว่าเพียวจะไปมีคนใหม่แล้วมาเลิกกับพี่แฟรงค์ มันคงจะทำให้รู้สึกผิดน้อยลง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด