นนร. เสมอ ที่ได้รับฉายาเสือจากเพื่อนๆ เพราะมันเจ๋งสุดเท่าที่เคยเห็นมา ไอ้เหมอยิงปืนแม่น ทดลองยิงสิบนัดมันเข้าไปสิบนัดไม่มีพลาด ขี่ม้าเก่ง แต่ไม่เข้าชมรมขี่ม้า มันเดินตามรอยคุณหญิงแม่ที่เป็นแชมป์ยูโดระดับประเทศแต่ก็เก่งกาจเชี่ยวชาญคาราเต้ มันจึงเข้าเป็นนักกีฬายูโดของทางโรงเรียน แต่มวยไทยหรือคาราเต้มันก็เก่งไม่แพ้กัน เคยเห็นได้จากมันช่วยไอ้ปิ๊กจากพวกนักเลงที่ไปมีเรื่องกันร้านเหล้า ไม่พอเพียงเท่านั้นตอนที่ฝึกภาคสนาม มันยังคงความเก่งความเท่ของมันไว้ได้แม้คนอื่นๆ พากันเหนื่อยแทบขาดใจ บางคนถึงขั้นล้มป่วย บางคนถึงขั้นถอดใจลาออก
แต่เพราะกลุ่มไอ้เชษฐ์มีไอ้เหมอที่เป็นเหมือนคนประคับประคองให้เดินไปด้วยกันจนรอด มันเป็นคนมีกำลังใจเหลือล้น ยิ้มแย้มตลอดเวลา แม้จะยากลำบาก คำพูดจากมัน ความช่วยเหลือจากมัน ฉุดไอ้เชษฐ์และเพื่อนอีกสองคนให้ยืนได้บ่อยครั้ง เพราะฉะนั้นไม่ว่าไอ้เหมอมันจะต้องการความช่วยเหลือแบบไหน หรือกำลังตกที่นั่งลำบากอยู่ก็ตาม ไอ้เชษฐ์และเพื่อนๆ จะไม่รอช้าที่จะช่วยเหลือ
“มึง” ไอ้ปิ๊กเดินเข้ามากอดคออีกข้าง ไอ้เชษฐ์เหลือบแลมาสบตากันก่อนจะพยักหน้าให้พูด “มีไรให้พวกกูช่วยก็บอกนะเว้ย”
“อะไรวะ?” ไอ้เหมอถามอย่างงงๆ “กูมีเรื่องอะไรต้องให้พวกมึงช่วยด้วยเหรอ”
“ก็เผื่อว่ามี” ไอ้ปิ๊กบอกสบายๆ
“เออ ถ้ามีกูจะไม่รอช้าเลย จิกหัวใช้พวกมึงนี่ชอบนักเชียว” ไอ้เหมอมันพูดแล้วหัวเราะเอิ้กอ้าก
“แสรดดดด” ไอ้ปิ๊กกับไอ้เชษฐ์พูดขึ้นพร้อมกัน ก่อนไอ้ปิ๊กมันจะต่อด้วยความจริงจัง “พูดจริงๆ นะเว้ย ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอก เรื่องคนนั้นก็ได้” ไอ้ปิ๊กบุ้ยปากไปทางด้านหลังที่ไอ้รูปหล่อชนะกำลังตั้งหน้าตั้งตาถ่ายรูปเปลือกหอย
ไอ้เหมอมองตาม คลี่ยิ้มจาง “ต่อให้กูอยากให้ช่วย พวกมึงก็ช่วยไม่ได้หรอกว่ะ ปัญหามันใหญ่”
“ใหญ่แค่ไหนพวกกูก็อยากจะช่วย”
“จะให้ช่วยยังไงวะ ขนาดกูยังไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงให้พ่อเขาชอบกู พ่อกูด้วย...มาทะเลครั้งนี้ถ้าไม่ได้พี่หมัย กูคงไม่ได้มา” ไอ้เหมอถอนหายใจ “ความรักของกูมันเป็นไปไม่ได้เหรอวะ ทำไมถึงไม่มีใครยินดีกับกูเลยสักคน”
ไอ้เชษฐ์ตบหัวไอ้เหมอไปหนึ่งที ส่วนไอ้ปิ๊กก็ตบหลังมันด้วย “มีพวกกูนี่ไง กู ไอ้ปิ๊ก ไอ้ชาย ไอ้กวิ้น แล้ววิมแฟนกูด้วย พวกเรายินดีกับมึง แล้วกูเชื่อว่ายังมีอีกหลายคน คุณหญิงแม่มึงล่ะ พี่สมัยของมึง ทางฝั่งไอ้นะกูไม่รู้จักใครหรอก แต่กูคิดว่ามันต้องมีแน่ๆ คนที่ยินดีไปกับมึง อย่าคิดมากดิวะ”
ไอ้เหมอมันกระตุกยิ้ม ก่อนจะตอบเหมือนคนที่ลืมนึกคิดไป “เออ จริงว่ะ แล้วนี่พวกมึง กล้าตบหัวกูเหรอวะ ห้ะ! เรียงหน้ามาให้กูเตะซะดีๆ ไอ้พวกเวร!”
ไอ้เชษฐ์กับไอ้ปิ๊กแตกกันออกไปคนละทาง แต่ไอ้เหมอมันไวสมฉายาเสือ ล็อคคอไอ้เชษฐ์ได้ทัน มืออีกข้างมันก็ดึงเสื้อของไอ้ปิ๊กเอาไว้ เป็นอันว่าไอ้สองเพื่อนซี้ที่อยากช่วยโดนเตะกันไปคนละทีตามระเบียบ แต่หลังจากนั้นไอ้เสือเหมอมันโดนเอาคืนจากการแท็คทีมกันของสามเสือและหนึ่งนก ไอ้กวิ้นร้องอย่างสะใจที่ได้ช่วยกันแบกไอ้เหมอไปโยนลงน้ำ
ตูมมมมมมมม!!!!
เสียงเสือตกน้ำประกอบไปด้วยเสียงหัวเราะของพวกเพื่อนๆ ชนะที่ละความสนใจจากการถ่ายรูปแล้วก็หัวเราะไปด้วย
“ไอ้พวกเวรรรรรรรรรรรรรร!! มึงไม่รู้จักกูซะแล้วววว มึงตายก่อนเลยไอ้นกเพนกวิ้น” ไอ้กวิ้นอ่อนกากที่สุดในกลุ่ม อย่างน้อยร่างกายมันก็ไม่ได้ผ่านการฝึกให้มีมัดกล้ามเหมือนอย่างอีกสามนักเรียนนายร้อย มันจึงตกเป็นเหยื่อการแก้แค้นของไอ้เหมอ ไอ้กวิ้นถูกไอ้เหมออุ้มขึ้นอย่างง่ายดาย ก่อนทั้งร่างมันจะถูกจับทุ่มลงกับคลื่นทะเลระลอกสวยของหาดสังวาลย์
“ไอ้ชายยยยย ช่วยกูด้วยยยยยยยย” ไอ้กวิ้นร้องลั่น แต่ไม่ทันการ ร่างมันมุดลงไปใต้น้ำก่อนจะขึ้นมาไอค่อกแค่กเพราะสำลักความเค็มจากน้ำทะเล
“เดี๋ยวกูจะแก้แค้นให้มึงเองงงงง” ไอ้ชายมันเป็นคู่ซี้กับไอ้กวิ้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ แต่ตอนนี้มันกระโจนเข้าหาไอ้เหมอที่ร้องเรียกลูกสมุนของมันมาประจำที่
“ไอ้ปิ๊กกกกก ผนึกกำลัง!!!” ไอ้ปิ๊กลูกน้องทรยศเมื่อก่อนหน้าราวกับถูกยันต์สะกด มันกลับมาเป็นลิ่วล้อให้ไอ้เหมอตามเดิม คงเพราะเรื่องเทียนไขที่มันขโมยไปเมื่อปีมะโว้ยังไม่ทำการปิดบัญชีหนังหมา
“ไอ้ปิ๊ก มึงจะสู้ใช่ไหมมมม ด้ายยยยยย” ไอ้ชายทำทีกร่าง มองไอ้หนุ่มใต้ที่ยักคิ้วกวนส่งมาให้ แต่เพราะยืนคุมเชิงกันอยู่นาน ไอ้เสือเหมอใจร้อนมันจึงทนไม่ไหว ถีบพลั่กเข้าที่ก้นไอ้ปิ๊ก ทำเอาไอ้หนุ่มใต้ร้องลั่น เอนตัวเข้าหาไอ้ชายอย่างไม่ทันตั้งตัว และจากนั้น...ริมฝีปากของหนุ่มอีสานกับหนุ่มใต้ก็สัมผัสกันแนบแน่น!!!
“ไอ้เหมออออ มึงทำอะไรลงไป” ไอ้กวิ้นเพื่อนโง่ถามพลางหัวเราะก๊าก ทำเอาไอ้เชษฐ์ที่กำลังหยอดแฟนสาวของมันต้องหันมอง แล้วก็สตั้นไปสิบวินาทีด้วยฉากรักท่ามกลางน้ำทะเลแสนเค็มของไอ้เพื่อนร่างถึกทั้งสอง
พลั่กกกกก!
ทั้งไอ้ปิ๊กและไอ้ชายต่างยกเท้าขึ้นถีบอีกฝ่ายแล้วล้มกันไปคนละทาง
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พวกมึงแม่งงงง จูบกันทำไมวะ โอ้ยยย ฮ่าๆๆ กูขำไม่ไหวแล้ว” ไอ้เหมอมันไม่มีจะสำนึกผิด ทั้งๆ ที่เป็นเพราะมันถึงทำให้ไอ้ชายเกือบเสียชายและไอ้ปิ๊กเกือบได้เป็นชายเหนือชาย
ไอ้เหมอหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง มันเดินขึ้นจากน้ำด้วยหน้าตาแดงก่ำ ก่อนจะคลานนอนลงไปบนทราย แต่ก็ยังคงหัวเราะ
“แกล้งเพื่อน” คนรูปหล่อเห็นไอ้หัวเกรียนมันเอาแต่นอนหัวเราะจึงเดินมานั่งลงเคียงข้าง
“ไม่ได้แกล้ง พวกมันดันจูบกันเอง ฮ่าๆๆๆ นะเห็นหน้าไอ้ชายป้ะ แม่งโคตรฮา” ไอ้เหมอมันยังคงหัวเราะไม่หยุด
“ไอ้ชายร้องไห้ไปแล้วมั้ง ตัวแสบเอ้ย” ชนะลูบหัวเกรียนๆ ของไอ้เหมออย่างเอ็นดู “ดูนั่นดิ ทะเลาะกันใหญ่เลย”
จริงตามชนะว่าไอ้ชายกับไอ้ปิ๊กเปิดศึกกันในทะเลโดยมีไอ้กวิ้นบินไปรอบๆ ให้ทั้งสองคนปวดหัวเล่น ไอ้เหมอเห็นก็ยิ่งหัวเราะ ก่อนจะพยายามบอกให้ไอ้เชษฐ์ไปห้าม แต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก ไอ้เชษฐ์ที่กำลังวุ่นกับการส่งสายตากำราบผู้ชายที่มองแฟนมันอยู่ก็ไม่ได้สนใจกับศึกติ๊งต๊องของไอ้พวกลิงทะโมนนัก
“เสมอ” เสียงของคนรูปหล่อนุ่มทุ้ม มือก็ยังลูบหัวไอ้เหมอไม่หยุด “เมื่อกี้คุยอะไรกับเพื่อนเหรอ ดูไม่ร่าเริงเลย”
“คุยเรื่อยเปื่อย” ไอ้เหมอบอกพลางยิ้มแฉ่ง “แล้วถ่ายรูปอะไรบ้าง ขอเหมอดูหน่อย”
“มานี่สิ”
ชนะตบที่นั่งตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างของตัวเอง ไอ้เหมอหันมองรอบตัว ยามเช้าแบบนี้ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน มันจึงยอมคลานไปนั่ง ปล่อยให้คนรูปหล่อโอบจากข้างหลัง กล้องราคาแพงอยู่ตรงหน้ามันโดยมีเจ้าของกล้องที่วางคางลงบนไหล่ช่วยเปิดรูปให้ดู
“ทำไมมีแต่รูปเหมอ” ไอ้เหมอถามอย่างข้องใจ ก็เห็นคนรูปหล่อตั้งหน้าตั้งตาถ่ายแต่วิวธรรมชาติ ไม่ได้หันกล้องมาโฟกัสมันเลยสักครั้ง “แอบถ่ายเหรอ”
“ไม่แอบถ่ายคงไม่รู้หรอกว่าเหมอไม่ร่าเริง” ชนะตอบเสียงนุ่ม “ถ้าบอกว่าเหมอ ถ่ายรูปหน่อย เหมอก็ต้องยิ้มใส่กล้องอยู่แล้ว”
ไอ้เหมอเงียบ เพราะมันเถียงอะไรไม่ได้ ชนะมองเสี้ยวหน้าของมันแล้วถอนหายใจ ก่อนริมฝีปากสวยจะบรรจงจูบลงข้างแก้ม แต่สัมผัสได้แค่เฉียดๆ เพราะเจ้าของแก้มดันผละหนี
“ขอหอมหน่อย”
“เหมอสกปรก เล่นน้ำแล้วมานอนคลุกทรายด้วย”
“ผมทำให้สะอาดเอง”
“ไม่เอา” ไอ้เหมอปฏิเสธเสียงแข็ง แต่มีหรือคนรูปหล่อจะยอมฟัง ปล้นหอมแก้มมันไปหลายทีจนไอ้เหมอมันไม่ขัดขืน ปล่อยให้กอดให้หอมตามใจชอบ
“เฮ้ยๆๆ พอได้แล้วม้างงงไอ้นะ เพื่อนกูช้ำหมดแล้ว โอ้ยย วิม หยิกผมทำไมครับเนี่ย” ไอ้เชษฐ์เอ่ยแซวจนโดนวิมแฟนสาวหยิกเข้าให้
“อย่าไปกวนคนอื่นสิคะ ตามสบายเลยนะเหมอ ขอโทษที่เชษฐ์เขาปากพล่อย”
“วิม นี่วิมว่าผมเหรออออ”
“ไปซื้อน้ำมะพร้าวกันดีกว่าค่ะเชษฐ์ วิมหิวน้ำ”
ไอ้เชษฐ์ถูกลากหลบฉากไป แต่ไอ้เหมอที่ถูกแซวรีบผละออกจากอ้อมแขนของคนรูปหล่ออย่างรวดเร็ว
“อายเหรอ” ชนะถามเสียงเรียบ “ถูกผมกอดน่าอายใช่ไหม”
“ชนะ...ไม่ใช่ แต่มัน...พวกเราเป็นผู้ชาย” ไอ้เหมอส่ายหน้า รีบอธิบาย
“อืม” ชนะพยักหน้า ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจนไอ้เหมอหน้าเหวอ “ผมเข้าใจ”
ไอ้เหมอแน่ใจได้ว่าชนะไม่เข้าใจอย่างที่พูด เพราะหลังจากนั้นก็เลี่ยงที่จะเข้าใกล้ไอ้เหมอ คนรูปหล่อยิ้มแย้มพูดคุยกับคนอื่นตามปกติ แต่กับไอ้เหมอ...ไม่มีแม้จะหันมองหรือพูดคุยใดๆ ไอ้เหมอที่ไม่อยากให้ทริปนี้ต้องกร่อยเพราะมันจึงเอาแต่เล่นสนุกสนานกับเพื่อนๆ จวบจนเย็นย่ำ จึงพากันกลับที่พัก อาบน้ำชำระร่างกายเพื่อเตรียมเริ่มปาร์ตี้บาร์บีคิวในคืนนี้ที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมของเอาไว้ให้แล้ว
ไอ้เหมออาบน้ำเสร็จก็ลงมาสมทบกับคนอื่นๆ เห็นคนรูปหล่อของมันที่อาบน้ำเสร็จแล้วลงมาก่อนโดยไม่รอนั่งถ่ายรูปอยู่อีกมุม ใจหนึ่งมันอยากเข้าไปหา แต่ก็ตัดใจอยู่ช่วยวิมกับไอ้เชษฐ์ปิ้งบาร์บีคิวที่หน้าเตา
“ทะเลาะกันเหรอวะ” ไอ้เชษฐ์ถาม “เพราะกูรึเปล่าวะ ยังไงก็ขอโทษนะมึง กูแค่แซวเล่น”
“วิมก็บอกแล้วนี่คะว่าอย่าพูดๆ เชษฐ์ก็ไม่เคยฟัง”
“จ่ะ ขอโทษจ่ะแม่” ไอ้เชษฐ์มันเล่นหูเล่นตาจนโดนคนสวยหยิกเข้าให้อีก ไอ้เหมอมองคู่รักข้าวใหม่ปลามันแล้วนึกคิดอยู่ในใจ ทำไมถึงดูเป็นธรรมชาติ ดูปกติทั่วไป คงเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง และอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย มันถึงได้สมกันตามที่ธรรมชาติสร้างมา จะหยอกล้อหรือแนบชิดสนิทสนมก็ไม่ดูผิดธรรมชาติ
“ไม่ใช่เพราะมึงหรอกว่ะ” ไอ้เหมอบอกให้เพื่อนสบายใจ ก่อนจะหยิบเอาบาร์บีคิวห้าไม้ใส่จาน ไปวางไว้ให้ไอ้สองเสือกับอีกหนึ่งนกที่กำลังช่วยกันทำยำมาม่าที่พวกมันไปซื้อของกันมาเอง ไม่รู้ไปซื้อจากที่ไหน เห็นหายไปด้วยกันสามคนตั้งแต่ก่อนกลับมาที่พักแล้ว
“ไอ้ชาย มึงใส่พริกเยอะไปแล้ว ไอ้นะมันกินเผ็ดไม่ได้” ไอ้กวิ้นเบรคหนุ่มอีสานที่ชอบกินเผ็ด “เออ ใส่นิดเดียวพอ แค่นั้นแหละ ใส่เลยๆ”
ไอ้เหมอมองไอ้กวิ้นที่ดูเหมือนมันจะสนิทกับไอ้ชายเพราะเข้าขากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยแล้วก็ได้แต่โล่งใจ เพราะไอ้กวิ้นมันเข้ากับคนยาก คิดอยู่ว่าถ้าเจอเพื่อนมันที่โรงเรียนจะสนิทกันได้ไหม สุดท้ายผลที่ได้ก็น่าปลื้มใจ
“กวิ้น กูไปนอนก่อนนะ ปวดหัว” ชนะเดินมาหาไอ้กวิ้น ดึงชายเสื้อไอ้นกบินไม่ได้แล้วบอกเสียงอ่อน “มึงมียาไหม”
เห็นคนรูปหล่อหน้าแดงก่ำราวกับมีไข้แล้วไอ้เหมอก็อดห่วงไม่ได้ อยากเข้าไปถามไถ่ แต่คนที่ชนะเลือกจะเดินเข้าหาก่อนกลับไม่ใช่มัน
“มีๆ เดี๋ยวกูเอาให้ แล้วนี่กินข้าวรึยัง ต้องกินข้าวก่อนกินยานะ มึงกินนี่ก่อนดิ ไอ้เหมอเพิ่งปิ้งมา” ไอ้กวิ้นรีบกุลีกุจอจัดหาข้าวหายา เพราะปกติเวลาไอ้รูปหล่อมันไปค้างที่บ้าน บางทีมันก็ป่วยตามประสาลูกคุณหนูบอบบาง นี่ก็คงเพราะเล่นเดินตากแดดทั้งวันถึงได้มายืนหน้าแดงก่ำอยู่อย่างนี้ ไอ้กวิ้นมันก็ดูแลเป็นประจำจึงไม่ได้รู้สึกผิดแปลกอะไร
“กูกินอันนี้ก็ได้” ชนะบอกแล้วชี้ไปที่ยำมาม่าฝีมือไอ้ชาย ไม่ยอมแลบาร์บีคิวเลยสักนิดจนไอ้เหมอคิ้วกระตุก ยิ่งเห็นไอ้กวิ้นมันดูแลคนรูปหล่อได้ดีหน้ามันก็ยิ่งชา ในอกร้อนวาบอย่างไม่ทราบสาเหตุ หรือทราบแต่ไม่อยากยอมรับกันแน่
ไอ้เหมอเพิ่งรู้ว่าการโดนเมิน...ถูกทำให้เป็นส่วนเกินระหว่างคนสองคนมันรู้สึกอย่างไร ไม่รู้ว่าไอ้กวิ้นที่อยู่กับพวกมันสองคนมาตลอดจะรู้สึกแบบเดียวกันไหม
“เผ็ดไหม ถ้าเผ็ดเดี๋ยวกูโทรสั่งข้าวมาให้” ไอ้กวิ้นยังคงทำหน้าที่เพื่อนที่ดี มันอดห่วงไอ้ผู้ชายกินยากอย่างเพื่อนรูปหล่อของมันไม่ได้ มือก็ใช้ช้อนจัดการเขี่ยพริกออกให้เพื่อไม่ให้ไอ้หล่อมันกินเข้าไป
“ไม่อ่ะ กูอิ่มละ เอายามาก็พอ”
“อืมๆ มึงขึ้นไปนอนเลย เดี๋ยวกูเอาไปให้” ไอ้กวิ้นบอกแค่นั้น ชนะก็ลุกขึ้นแล้วเดินผ่านไอ้เหมอเข้าบ้าน ทำเอาไอ้หัวเกรียนถึงกับตีหน้าขรึมอย่างที่ไอ้ปิ๊กกับไอ้ชายมันรู้ดีทีเดียวว่าเป็นสัญญาณอันตราย ส่งซิกหากันโดยไม่ได้นัดหมาย
ไอ้กวิ้นที่กำลังจะตามเข้าบ้านไปหยุดชะงักเพราะมือไอ้เหมอที่จับไหล่ สายตานิ่งสงบของไอ้เสือทำเอาไอ้นกบินไม่ได้เสียววาบ
“ยามึงอยู่ไหน” ไอ้เหมอถามเสียงนิ่ง
“อยู่ในกระเป๋าเล็กในกระเป๋าเสื้อผ้าอ่ะ” ไอ้กวิ้นตอบ มองไอ้เหมอด้วยความหวั่นใจ “มึงเป็นไรอ่ะ โกรธอะไรกูรึเปล่า”
เพราะสายตาที่มองมาของไอ้เหมอมีแต่ความหงุดหงิด จึงทำให้ไอ้กวิ้นงงเป็นนกตาแตก
“มึงอยู่ที่นี่แหละ ไม่ต้องยุ่ง” ไอ้เหมอเสียงเข้ม ไอ้กวิ้นมันจึงยอมพยักหน้า หันมองไอ้ปิ๊กไอ้ชายด้วยใบหน้างงงวย “อะไรของมันวะ?”
แต่คำถามของไอ้กวิ้นไม่ได้รับคำตอบ ไอ้ชายไอ้ปิ๊กพร้อมกันยักไหล่ แล้วลากไอ้เพนกวิ้นกลับเข้าสู่วงยำมาม่าตามเดิม
ไอ้เหมอเดินเข้าไปในบ้าน ขึ้นชั้นสอง ไม่ลืมเอาน้ำเปล่าไปด้วย แวะเอายาตามที่ไอ้กวิ้นบอกแล้ววกกลับมาที่ห้องตัวเอง เปิดประตูเข้าไปก็เห็นชนะนอนอยู่บนเตียง ไอ้เหมอเดินไปนั่งลงข้างๆ ใช้มือสะกิดคนรูปหล่อที่นอนหลับตาอยู่ค่อนข้างแรง
“กินยา” ไอ้เหมอบอกเสียงนิ่ง เทยาจากกระปุกสองเม็ด แล้วเทน้ำใส่แก้วยื่นให้
“ไอ้กวิ้นล่ะ” ชนะถาม รับยาจากมือไอ้เหมอ
“อยู่ข้างล่าง ถามถึงมันทำไม” ไอ้เสือแทบแยกเขี้ยว ตะครุบเหยื่อตรงหน้าแล้วฉีกขย้ำด้วยโทสะที่มีมากล้น
“ก็มันบอกจะเอายามาให้” ชนะตอบกลับ โยนยาเข้าปากพร้อมกันทั้งสองเม็ดแล้วยกน้ำตาม “ขอบใจ”
คำพูดสั้นๆ จากคนรูปหล่อทำเอาไอ้เหมอกัดฟันกรอด แต่เพราะอีกฝ่ายกำลังป่วยมันจึงพยายามข่มโทสะของตัวเอง จัดผ้าห่มให้แล้วบอกเสียงค่อนข้างกระด้างว่า “นอนพักเถอะ”
ไอ้เหมอกลับมาร่วมวงปาร์ตี้กับเพื่อนๆ มันไม่แตะกับแกล้มเลยสักนิด เอาแต่กระดกเหล้าลงคออย่างเดียวจนว่าที่คุณหมอคนสวยแฟนไอ้เชษฐ์ต้องเตือนให้กินบ้าง ไม่งั้นคงไม่ดีต่อกระเพาะต่อลำไส้เป็นแน่ ไอ้เหมอมันเกรงใจผู้หญิงอยู่แล้วจึงยอมกินยำมาม่ากับบาร์บีคิวเข้าไปบ้าง มันอยู่ร่วมวงด้วยไม่นานก็ขอตัวกลับขึ้นห้อง เพื่อนๆ ก็ไม่มีใครรั้งมันไว้เพราะคงรู้ว่าไอ้เหมอเป็นห่วงคนรูปหล่อที่นอนป่วยไม่ได้มาร่วมวงด้วย
มือแกร่งผลักประตูเปิดออกแผ่วเบาเพราะเกรงจะรบกวนคนป่วย ไอ้เหมอเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้า เดินเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายอีกครั้ง เพราะกลิ่นบาร์บีคิวกับกลิ่นเหล้าที่ติดตัวคงทำให้นอนไม่สบายตัว อีกทั้งเกรงใจคนที่นอนข้างๆ
ไอ้เหมอออกมาจากห้องน้ำ สวมกางเกงนอนเพียงตัวเดียว พาดผ้าขนหนูผืนเล็กไว้บนบ่าแล้วเดินไปยืนชมแสงจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่บนฟ้า เบื้องล่างเป็นผืนน้ำทะเลสีดำสนิท เสียงคลื่นซัดฝั่งดังแว่วให้ได้ยิน อยากเลื่อนบานกระจกให้เปิดออกแต่ก็เกรงว่าจะทำให้คนป่วยขี้หนาวหนาวไปกันใหญ่
“คิดอะไรอยู่” เสียงเรียบนิ่งดังขึ้นจากข้างหลัง ไอ้เหมอหันมองก็เห็นคนบนเตียงนอนตะแคงข้างมองมาทางมัน
“ทำให้ตื่นเหรอ” ไอ้เหมอไม่ตอบแต่กลับตั้งถาม น้ำเสียงของมันดีกว่าเมื่อตอนที่เอายามาให้คนรูปหล่อกินนัก “ดีขึ้นรึยัง”
“ดีขึ้นแล้ว”
“อืม” ไอ้เหมอพึมพำ สักพักมันก็เดินกลับมาที่เตียง ก่อนจะขึ้นนอนบนเตียงอีกฝั่ง ระยะห่างที่เว้นไว้จากคนข้างๆ นั้นมีไม่มาก แต่ในใจกลับรู้สึกว่าห่างเหลือเกิน
“เหมออยากเลิกกับผมรึเปล่า” คำถามที่ไม่คิดว่าจะได้ยินกลับดังก้องในสมอง ไอ้เหมอหันขวับมองคนข้างๆ ด้วยโทสะที่เริ่มแล่นริ้วขึ้นในอก
“ทำไม นะอยากเลิกหรือไง” เสียงของไอ้เหมอเป็นเสียงตวาดที่มันไม่เคยคิดใช้กับพ่อดาวประจำใจของมันเลยสักครั้ง
“เหมอถามตัวเองก่อนดีไหม” น้ำเสียงของชนะยังคงสงบนิ่ง แต่ไอ้เหมอมันสงบตามไม่ลง
“นะต่างหากที่ควรถาม” เสียงของไอ้เหมอแข็งกระด้าง “จะเอาไงก็ว่ามาเลย พูดมาให้ชัดๆ เหมอเหนื่อยมากแล้วนะ ทั้งเหนื่อยทั้งเบื่อ! มันจะอะไรหนักหนา ถ้าอยากเลิกก็เลิกไปเลย!”
เพราะโทสะของมัน ทำให้ไอ้เหมอหลุดพูดคำที่มันไม่คิดอยากพูดออกไป มันเอาแต่บอกชนะให้ใจเย็น อย่าให้โทสะครอบงำ แต่ตัวมันเองกลับทำไม่ได้ ไอ้เหมอไม่เคยเสียการควบคุมแบบนี้ แต่เพราะมันมีเรื่องให้คิด มีเรื่องให้กังวลมากจนเกินกว่าจะอยู่ในอารมณ์ปกติ
“ขอโทษที่ทำให้เหนื่อย” น้ำเสียงของชนะไม่เปลี่ยน แต่ไอ้เหมอรับรู้ได้ถึงความเสียใจ มันรีบเข้ากอดคนที่มันรักสุดหัวใจไว้ แต่อีกฝ่ายไม่ยอมกอดมันตอบ
“เหมอขอโทษ นะจ๋า เหมอขอโทษ” ไอ้เหมอเหมือนคนเพิ่งได้สติ หัวใจราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นบีบแน่น
“ขอโทษทำไม ในเมื่อมันออกมาจากใจของเหมอ” ชนะผลักตัวไอ้เหมอออก “ทำตามที่เหมอต้องการ ถ้าเหนื่อยถ้าเบื่อมาก เลิกกันก็ได้ คบกับผมมันน่าอาย มีแต่ทำให้ลำบากใจ”
ชนะหลับตาลงอย่างปวดร้าว ทำมองเมินกับเสมอที่ไม่ร่าเริงเหมือนปกติ พยายามหาสาเหตุของรอยยิ้มที่ไม่สดใสเช่นทุกครั้ง พยายามเอาใจ พยายามแสดงความรักที่มีให้มากมาย...แต่สุดท้ายก็กลายเป็นทำให้อีกฝ่ายทั้งเหนื่อยทั้งเบื่อ ที่บอกจะไม่ปล่อย...ที่คิดเอาแต่ใจว่าอยากให้อยู่ด้วย... แต่เห็นเสมอทุกข์ใจแบบนี้ ก็คงรั้งไว้ไม่ไหวเหมือนกัน
“นะ...เหมอไม่เลิก ไม่เอา เหมอขอโทษ ขอโทษ” ไอ้เหมออ้อนวอน มันบ้าไปเอง พูดออกมาได้ยังไงว่าเหนื่อยว่าเบื่อ ทั้งๆ ที่...มันมีความสุขที่ได้อยู่ข้างๆ คนรูปหล่อคนนี้มากแท้ๆ
ใครบอกว่าการปีนยอดเขาสูง แล้วขึ้นไปปักธงชัยบนยอดสูงสุดได้นั่นคือชัยชนะ... แต่ไอ้เหมอกลับคิดว่ามันคือชัยชนะจอมปลอม ธงชัยบนยอดเขาสูงจะปักแน่นโดยไม่ล้มไปอีกนานเท่าไหร่ ยอดเขาที่มีทั้งลมพัดแรงและพายุโหมกระหน่ำจะทำให้ธงแห่งชัยชนะคงอยู่ได้หรือ อาจหักโค่นลงเสียก่อนหรือปลิวหายไปกับพายุ หรือสักวัน...อาจมีใครอีกคนที่สามารถพิชิตได้...นำธงชัยผืนใหม่ขึ้นมาปักแทนที่
“ปล่อยเถอะ” ชนะพยายามขืนตัวออกจากอ้อมกอดของไอ้เหมอแต่ไม่เป็นผล “เหมอ! ผมบอกให้ปล่อย! พูดไม่รู้เรื่องรึไง!”
“เหมอไม่ปล่อย! อยากให้ปล่อยก็เอามีดมาตัดแขนเลย!” ไอ้เหมอเลือดขึ้นหน้า ร่างกายมันไม่ได้บอบบางอรชรอ้อนแอ้น แรงมันก็เยอะ มันรัดร่างกายของชนะ ยืนยันคำพูดของตัวเองเสียจนคนรูปหล่อเจ็บร้าวไปทั้งตัว ยิ่งเพราะพิษไข้ที่ทำให้ไม่มีแรงสู้อะไรมันได้เลย
ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูดังรัวแรง ก่อนเสียงไอ้กวิ้นจะดังขึ้น “พวกมึงเป็นอะไรรึเปล่าวะ ทะเลาะกันเสียงดังไปจนถึงข้างล่าง”
“มึงไม่ต้องมายุ่ง ไม่ใช่เรื่องของมึง เสือก!” ไอ้เหมอด่ากราดกลับไป แต่เสียงที่ตอบกลับมาเล่นทำให้รู้สึกผิด
“ขอโทษนะมึง กูแค่เป็นห่วง” ไอ้กวิ้นตอบกลับมาแค่นั้นก็ได้ยินเสียงเดินจากไป
ไอ้เหมอเม้มริมฝีปาก พยายามสะกดกลั้นความรู้สึกของตัวเองแต่ก็ทำได้ยาก ยิ่งได้เห็นคนรูปหล่อในอ้อมกอดของมันมองมาด้วยสายตาผิดหวัง มันก็ยิ่งคุมตัวเองไม่อยู่
“ทำไมต้องไปว่ามันขนาดนั้น” ชนะถามเสียงเข้มจัด
ไอ้เหมอโกรธจนเลือดขึ้นหน้าอีกครั้ง มันไม่ฟังเหตุฟังผลใดๆ แสยะยิ้มร้าย มองชนะด้วยสายตาดูถูก “อะฮะ โทษทีละกัน เหมอไม่น่าฝากปลาย่างไว้กับแมว ไปสิ ไปปลอบมัน ไปโอ๋มันหน่อย คงสะเทือนใจมากแล้วที่โดนด่า”
“เสมอ!” ชนะเข้าใจคำพูดของไอ้เหมอเป็นอย่างดี ทั้งแววตาที่มองมาก็พอรู้ว่าในใจของไอ้หัวเกรียนมันกำลังคิดอะไร
ไอ้เหมอยักคิ้วยียวนกวนประสาทเป็นที่สุด มันปล่อยคนรูปหล่อให้เป็นอิสระแล้ว “ไปสิ”
“ผมไปแน่!”
“เชิญ”
ไอ้เหมอยังคงยิ้ม แต่สายตามันว่างเปล่า ชนะลุกเดินไปที่ประตู เปิดแล้วก้าวออกไป พลันเสียงประตูปิดดังปัง รอยยิ้มก็เลือนหายไปจากใบหน้า ไอ้เหมอหัวเราะเสียงขื่น ก่อนล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยล้า
มันพาลไปทั่ว...พาลเพราะไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกนึกคิดของตัวเองได้ มันหลับตานิ่ง หวนนึกไปถึงเมื่อเย็นวานที่ได้กลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวมาเที่ยวทะเลกับเพื่อนและคนรัก ทว่า...ไม่มีอะไรได้ดั่งใจคิด พี่ชายยังไม่กลับจากการเข้าเวร ส่วนคุณหญิงแม่ออกไปจ่ายตลาดกับแม่บ้านคนสนิท ไอ้เหมอที่กลับมากับท่านบิดาของมันจึงเหมือนถูกปิดประตูตีแมว
‘จะไปไหน เพิ่งกลับมาถึงบ้าน จะไม่อยู่ติดบ้านบ้างรึไง’
‘จะไปทะเลกับเพื่อน ขอคุณหญิงแม่แล้ว’
‘นี่แกไม่คิดจะขออนุญาตพ่อบ้างเลยรึไง!’ไอ้เหมอตอนนั้นนึกเคืองพ่อมันอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าการที่มันทั้งถูกยึดมือถือถูกลงโทษนั้นเป็นฝีมือใคร
‘ไม่เห็นต้องขอ เพราะถึงขอท่านบิดาก็ไม่ให้เหมอไปอยู่แล้ว คราวนี้เหมอไปกับเพื่อนไปกับแฟนเหมอด้วย’
‘แฟนแกมันเป็นใคร’
‘เป็นผู้ชายที่เหมอไปนอนกับเขาเมื่ออาทิตย์ก่อนโน้นนน’
‘ไอ้เหมอ!’ไอ้เหมอที่ชอบแกล้งยั่วอารมณ์พ่อของมันเห็นความโกรธเป็นจริงเป็นจังนั้นแล้วก็ได้แต่นึกอยากตบปากตัวเอง แต่คงไม่ทันเสียแล้ว เพราะพ่อตบมันเข้าให้ก่อน
‘พ่อไม่ได้เลี้ยงแกให้โตมาเป็นแบบนี้!’
‘แต่เหมอเป็นแบบนี้! เหมอเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว! ทำไมพ่อไม่เข้าใจเหมอสักที!’
‘ไปเลิกกับมันซะ ตอนนี้หน้าที่ของแกคือตั้งใจเรียน’ไอ้เหมอมองพ่อที่ไม่เคยตีมันแรงๆ เลยสักครั้งด้วยดวงตาแดงก่ำ พ่อไม่ยอมสบตามัน ไม่ยอมมองมาที่มันเลยว่ามันกำลังเสียใจมากแค่ไหน
‘เหมอเคยขอว่าถ้าเหมอเป็นทหาร พ่อจะให้เหมอตามที่เหมอขอบ้าง แต่พ่อผิดคำพูด พ่อไม่เคยคิดจะทำตามที่ให้สัญญาไว้เลย’
‘แกไม่ต้องมาย้อนพ่อ! ถ้าอยากคบกันนัก ก็ตัดพ่อตัดลูกกันไปเลย! ตระกูลฉันไม่อยากได้พวกวิปริตอย่างแกหรอกไอ้เหมอ!’ทำไมจะไม่รู้ว่าตัวเองผิดแปลก ไอ้เหมอรู้ดี...ว่ามันฝืนความชอบตามที่ธรรมชาติให้มา ผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง...เป็นเวลาช้านานมาแล้วที่การคงอยู่ของมนุษย์เกิดจากการที่เพศทั้งสองสืบพันธุ์เพื่อผลิตประชากร มันเข้าใจดีทุกอย่าง ทว่ามันผิดหรือ...ที่คนรักของมันไม่ใช่ผู้หญิง ผิดหรือที่ได้มอบหัวใจให้กับผู้ชายเพียงคนเดียวที่มันหลงรักมาตั้งแต่ยังเด็ก ผิดใช่ไหม...ที่หัวใจของมันควบคุมหรือเป็นไปตามที่พ่อต้องการไม่ได้
เหนื่อย...กับการที่จะบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร เบื่อ...กับการคิดหาทางออกที่ไม่มีทางไหนให้ไปเลยสักทาง และตอนนี้...โกรธ...ที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ มันไม่ได้เก่งอย่างที่ใครคิด ไอ้เหมออ่อนแอโดยเฉพาะเรื่องความรัก
มันลุกออกจากเตียง เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า จัดการเก็บกระเป๋าเป้ของตัวเอง ถอดแหวนวางไว้บนตุ๊กตาสองตัวที่ยังนอนเคียงข้างกัน ก่อนจะเดินออกจากห้อง ย่องลงบันไดอย่างเงียบเชียบ ทักษะซุ่มโจมตีของมันเป็นเลิศอยู่แล้วในการฝึกภาคสนาม แค่จะเดินผ่านวงปาร์ตี้ที่กำลังหัวเราะเฮฮาคงไม่ใช่เรื่องยาก
อยากเลิกนัก...เลิกให้ก็ได้วะ!..............................................................TBC....................................................................

หนุ่มไร่อ้อย...แม่งสู้ความเค็มของน้ำทะเลไม่ได้เลย กระจอกมากกกกกกกกกกก
เฮ้ย ไม่สู้จะชนะได้ไง ไม่สู้ไม่มีทางชนะหรือเสมอหรอก ไม่สู้มีแต่แพ้นะเว้ยยย บอกตัวเองนี่แหละให้สตรอง ใครไม่สตรอง เราสตรอง!!