“กาแฟไหม” ไอ้เหมอยิ้มทักทายพร้อมเอ่ยถามคนรูปหล่อที่เดินตัวหอมฉุยมาที่ระเบียงที่พวกไอ้เหมอกำลังจิบกาแฟแก้แฮงค์กันอยู่ หน้าตาไอ้เหมอมันแจ่มใสกว่าเพื่อนเพราะไม่ได้มีอาการเมาค้าง ไม่เหมือนกับไอ้ชายและไอ้ปิ๊กที่หน้าบวมๆ ของพวกมันแทบจูบแก้วกาแฟ
“อืม” ชนะตอบรับสั้นๆ ไอ้เหมอจึงลุกขึ้นเดินกลับเข้าบ้านไปหยิบถ้วยกาแฟที่วางเป็นเซ็ตในตะกร้าที่ทางรีสอร์ทเตรียมเอาไว้ให้ แต่ยังไม่ทันที่จะได้หมุนตัวกลับ ร่างทั้งร่างของมันก็ถูกโอบรัดจากทางข้างหลัง กลิ่นหอมที่คุ้นเคยกับจมูกโด่งที่ฝังลงข้างแก้มทำให้ไอ้เหมอยิ้มเล็กๆ พร้อมกับเบี่ยงตัวออกเล็กน้อย
“ทำอะไรเนี่ย ตกใจหมด” ไอ้เหมอถามพร้อมพยายามเดินเลี่ยงคนรูปหล่อที่ตามมาขวางมันทุกทาง “ชะน้าาาา เล่นอะไรแต่เช้าเลย”
“กอดไม่ได้เหรอ” ชนะถามพลางสบตามองไอ้เหมอจริงจัง ...ไม่ได้คิดไปเอง แต่ไอ้เหมอไม่เหมือนเดิมจริงๆ “รังเกียจผมใช่ไหม”
“นะ เหมอไม่ได้รังเกียจ แต่เพื่อนก็อยู่” ไอ้เหมอตอบอ้อมแอ้ม หลบเลี่ยงที่จะสบตา “ออกไปกันเถอะ เข้ามานานเดี๋ยวพวกมันสงสัย”
ชนะไม่ขยับเขยื้อน แต่พอไอ้เหมอเลี่ยงเดินไปทางซ้าย ก็โดนดักทางไว้ พร้อมกับที่ทั้งร่างของมันถูกดันจนชิดผนัง แก้วกาแฟกำแน่นอยู่ในมือ แต่ข้อมือนั้นถูกมือใหญ่ของชนะตรึงไว้
“นะ...ปล่อย” ไอ้เหมอบอกเสียงเข้ม ข้อมือมันเริ่มเจ็บเมื่อถูกบีบ “นะ เหมอเจ็บ อื้อออออ”
ริมฝีปากของไอ้เหมอถูกปิดด้วยริมฝีปากได้รูปสวยของชนะ มันจึงเม้มปากแน่น ไม่ให้ลิ้นของอีกฝ่ายได้รุกล้ำเข้ามาได้ ชนะจึงหยุดการกระทำของตัวเองเพียงเท่านั้น แล้วปล่อยมือออกจากข้อมือของไอ้เหมอ
“ขอโทษนะ เหมอออกไปก่อนเถอะ” ชนะกระตุกยิ้ม แต่ดวงตาไม่ได้ยิ้มตาม “ขอผมสงบสติอารมณ์สักพัก”
“อืม แล้วรีบตามมานะ”
“ครับ”
คล้อยหลังไอ้เหมอ ผนังปูนแข็งกร้าวก็ถูกมือใหญ่ทุบเข้าเต็มแรง แต่ผนังปูนไร้ชีวิตมีหรือจะเจ็บปวด มีแต่เพียงคนที่ทุบมันเท่านั้นที่เจ็บจนแทบพูดไม่ออก... เพราะยิ่งทุบแรงเท่าไหร่...ก็ยิ่งเจ็บเท่านั้น
“ไอ้เหมอ มึงเป็นไรวะ คืนดีกับไอ้นะมันแล้วก็ยิ้มหน่อยดิ มานั่งหน้าขรึมให้กาแฟกูเข้มขึ้นกว่าเดิมอีกไอ้สัด” ไอ้เชษฐ์ที่พอรู้เหตุการณ์ง้องอนของไอ้เหมอกับพ่อดาวประจำใจของมันเมื่อคืนเพราะไอ้เชษฐ์ก็ยืนคุยโทรศัพท์กับวิมปรีประภาอยู่ไม่ไกลเอ่ยทักขึ้นเพราะเห็นสีหน้าไอ้เหมอไม่ได้สดชื่นเหมือนคนที่เพิ่งคืนดีกับคนที่รัก
“มึง”
“ไรวะ”
“ถ้าพ่อวิมไม่ชอบมึง มึงยังจะจีบลูกเขาต่อป่ะวะ”
ไอ้เชษฐ์หันมองหน้าไอ้ชายกับไอ้ปิ๊กที่ตาสว่างมาเสือกเรื่องของไอ้เหมอมันทันที
“คือ...กูก็ไม่รู้ว่าทำไมมึงถามแบบนี้หรอก แต่กูชอบลูกเขา ไม่ได้ชอบพ่อเขา อีกอย่าง...วันนี้เขาไม่ชอบ สักวันเขาก็ต้องชอบกู กูมีดีพอตัวอ่ะ หล่อ นั่นประเด็นหลัก”
“ไอ้เหี้ยเชษฐ์ ขอสาระ” ไอ้ปิ๊กโบกหัวไอ้หล่อประเด็นหลักไปหนึ่งที
“นี่สาระล้วนๆ ไอ้ห่าปิ๊ก แล้วไอ้เหมอ มึงน่ะ เลิกป๊อดได้แล้ว ถ้าพ่อไอ้นะมันไม่ชอบมึง มึงก็เข้าทางคนอื่นสิวะ แม่มันเป็นไง แม่มันชอบมึงไหม”
“แม่เลี้ยงน่ะรักกูจะตาย” ไอ้เหมอได้ทีโม้ แต่ก็ไม่ใช่เกินจริง ขุ่นแม่เพี้ยนน่ะเข้ากับมันเป็นปี่เป็นขลุ่ย แต่ตอนนี้แม่เลี้ยงดันกลายเป็นศัตรูหัวใจกันไปเสียแล้ว จะว่าศัตรูหัวใจมันก็ไม่ใช่เสียทีเดียว... แค่เพราะชนะ...อ่า...ช่างเถอะ
“เออ แล้วมึงมากังวลอะไร”
“ช่างเถอะๆ” ไอ้เหมอกล่าวตัดบทเมื่อเห็นว่าคนที่เป็นประเด็นเดินออกมาจากห้อง ใบหน้าของชนะเรียบนิ่ง กล่าวทักทายกับไอ้เชษฐ์ ไอ้ชายและไอ้ปิ๊กเล็กน้อยแล้วขอตัวกลับ ไอ้เหมอแทบผวาตามแต่สุดท้ายก็เพียงนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ มองกาแฟที่มันอุตส่าห์เตรียมไว้ให้คนรูปหล่อด้วยท่าทีเลื่อนลอย
“มือซ้ายไอ้นะมันดูแปลกๆ ว่ะ” ไอ้ปิ๊กพูดขึ้น “เหมือนมีเลือดด้วย แต่กูคงตาฝาดไปเอง เหล้าแม่งแรงว่ะ เมาค้างมาจนตอนนี้ พูดแล้วอยากอ้วก”
“แต่กูก็เห็นนะ นี่อ่ะ เลือดยังหยดเป็นทางอยู่เลย ไอ้เหมอ มึงไปดูมันหน่อยดิ ไม่รู้ไปโดนอะไรในห้องบาดเข้า”
ไม่ต้องบอกให้ไอ้ชายพูดซ้ำ ไอ้เหมอก็รีบสปีดฝีเท้าของมันไปยังที่พักของชนะเป็นที่เรียบร้อย ความจริงมันก็ไม่รู้หรอกว่าชนะพักที่ไหน แต่เพราะใส่เกียร์หมามาจึงทันเห็นหลังไวๆ ของคนรูปหล่อหายเข้าไปในวิลล่าสวยงามหลังนี้ที่ดูจะหรูหรายิ่งกว่ากระท่อมปลายหน้าหลังสุดท้ายที่พวกไอ้เหมอพักอยู่นัก
ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆ
ไอ้เหมอระดมเคาะประตูอยู่นาน กว่าที่คนภายในบ้านจะมาเปิด ชนะมองไอ้เหมอเล็กน้อยแต่ก็ไม่ขยับเปิดประตูให้กว้างเพื่อต้อนรับไอ้เหมอเข้าไป
“มีอะไรเหรอ”
“เหมอขอเข้าไปหน่อย”
“...”
“นะ ให้เหมอเข้าไปหน่อยนะ”
“อืม”
ชนะยอมเปิดประตูให้กว้าง ไอ้เหมอจึงได้ทีแทรกตัวผ่านเข้าไป มันมองสำรวจคนรูปหล่อตรงหน้าที่ยืนซ่อนแขนซ้ายไว้ข้างหลัง
“ยื่นมือมาหน่อย”
ชนะไม่ทำตาม เดินเลี่ยงหนีเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งไอ้เหมอให้ยืนเคว้งอยู่กลางห้อง
“ชนะ เปิดประตู” ไอ้เหมอตามไปทุบประตูห้องน้ำอย่างไม่เกรงใจ “มือเป็นอะไร บอกมาเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับเหมอ”
“เกี่ยว ทำไมจะไม่เกี่ยว มาให้เหมอดูหน่อย เหมอเป็นห่วง”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่ได้เป็นอะไร”
“ไม่ได้เป็นอะไรก็ออกมาคุยกันหน่อย เหมอมาคุยด้วยนะ จะหลบหน้าเหมอเหรอ”
“ใครกันแน่ที่เลี่ยงผม”
“ไม่ได้เลี่ยง ก็ที่บ้านเพื่อนอยู่ เหมออายเพื่อน”
ชนะยอมเปิดประตูออกมายืนตรงหน้าไอ้เหมอ พร้อมยื่นมือซ้ายมาให้ดู รอยแตกบนมือขาวมีเลือดซึมออกมา ไอ้เหมอจับมือนั้นไว้อย่างแผ่วเบา เงยหน้าขึ้นมองคนรูปหล่อด้วยสายตาดุจัด
“ไปโดนอะไรมา”
“ผนัง”
“ทำอะไรมัน”
“ต่อย” ชนะตอบเสียงอ้อมแอ้ม เพราะหน้าของไอ้เหมอตอนนี้กำลังหงุดหงิดได้ที่เลยทีเดียว
“มันผิดอะไร” ไอ้เหมอถามเสียงเข้ม
“ผมโมโห”
“โมโหแล้วต้องทำแบบนี้เหรอ ทำแล้วตัวเองก็เจ็บ นิ้วหักรึเปล่าก็ไม่รู้ ชนะงี่เง่า” ไอ้เหมอกลายร่างเป็นเสือจนชนะไม่กล้าเถียงกลับ ได้แต่ทำเสียงอ้อนเข้าสู้
“อย่าดุได้ไหม...ตอนโมโหอะไรก็ไม่ทันคิด”
“ต้องคิดให้มาก สูญเสียไปเท่าไหร่แล้วกับคำว่าโมโหเนี่ย” ไอ้เหมอยังขึงตาดุ มองพ่อดาวประจำใจที่ชอบทำให้นึกห่วงด้วยความหงุดหงิด
“เพิ่งรู้ว่าขี้บ่น”
“เหมอบ่นเพราะเป็นห่วง ไปนั่งรอที่โซฟา เดี๋ยวเหมอไปขอกล่องยาที่พนักงานมาทำแผลให้” เอ่ยปากสั่งแล้วชี้นิ้วไปที่โซฟา ชนะทำหน้าหงอย มองไอ้เหมอราวกับเด็กที่กลัวถูกลงโทษ
“เหมออย่าดุได้ไหม แล้วกล่องยาน่ะโทรบอกให้เอามาให้ก็ได้”
ไอ้เหมอพยักหน้า ต่อสายถึงหน้าฟร้อนเพื่อขอกล่องยา ก่อนจะเดินกลับมานั่งโซฟาข้างๆ ชนะ ก้มหน้าก้มตาดูแผลที่มือให้พ่อดาวประจำใจของมันอย่างตั้งอกตั้งใจ ปากก็บ่นไปด้วย จนคนรูปหล่อต้องจูบปิดปากให้มันเงียบเสียง
“อือ...นะ พอแล้ว” ไอ้เหมอเบี่ยงหน้าหลบริมฝีปากของชนะ “นะ เหมอบอกให้พอ”
ชนะชะงัก หัวใจชาวาบกับเสียงแข็งกระด้างของไอ้เหมอที่บ่งบอกได้ว่ามันไม่ชอบสัมผัสจากเขาจริงๆ
“ขอโทษนะ เพิ่งรู้ว่าไม่ชอบ”
ไอ้เหมอเม้มปากแน่น ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุม ชนะเอนตัวพิงพนักโซฟาอีกฝั่ง ขยับเว้นระยะจากไอ้เหมอพอสมควร ในขณะที่ไอ้เหมอนั้นยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ครั้นพอเสียงเคาะประตูดังขึ้น ชนะก็เป็นคนลุกไปเปิด แล้วกลับมาพร้อมกับกล่องยาในมือ
“เดี๋ยวผมทำเองได้ เหมอกลับเถอะ” ชนะบอกเสียงเรียบ “ผมไม่อยากรบกวน”
“ไม่ได้รบกวน” ไอ้เหมอเถียง ชักสีหน้าใส่ ชนะเห็นดังนั้นก็ยิ้มให้มันแล้วพูดเสียงนุ่ม
“ไม่เป็นไร ผมทำเองได้จริงๆ เหมอกลับเถอะ ขอผมอยู่คนเดียวนะ”
แต่ไอ้เหมอมันไม่ฟัง บทมันจะดื้อก็ดื้อเสียจนไม่ฟังใคร มันจัดการทำแผลให้ชนะอย่างรวดเร็ว พันผ้าพันแผลเรียบร้อยก็ไม่ลืมที่จะเป่าเพี้ยงให้รีบหายเร็วๆ ชนะมองมันอย่างเอ็นดู ก่อนมือข้างไม่เจ็บจะรั้งใบหน้ามันเข้ามาใกล้ แต่เมื่อริมฝีปากกำลังจะแตะถึงกันคนรูปหล่อก็ชะงักนิ่ง
“ขอโทษ ผมลืมตัว”
เป็นไอ้เหมอเสียเองที่เม้มริมฝีปากแล้วตัดสินใจเข้าทาบทับริมฝีปากของชนะ มันสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของคนรูปหล่ออย่างโหยหา ดูดกัดตะกละตะกลามราวกับคนอดอยากมานานแรมปี ชนะยกมือขึ้นโอบรัดเอวของไอ้เหมอไว้
“ไม่ใช่ไม่ชอบ...แต่ชอบมาก...ชอบจนจะบ้าตายอยู่แล้ว” ไอ้เหมอสารภาพจนหมดเปลือก ยกแขนขึ้นโอบรอบคออีกฝ่ายแน่น “ชนะ...ใจร้าย”
“อืม...ผมมันใจร้าย”
“เหมอไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว...ชนะ บอกเหมอทีว่าต้องทำยังไง”
เสียงของไอ้เหมออ่อนแรง ใบหน้าของมันซุกซบลงกับไหล่กว้าง มันอยากทำใจแข็งให้มากกว่านี้เพราะกลัวในความเป็นไปไม่ได้ระหว่างมันกับชนะ แต่พอเห็นสีหน้าทรมานใจของคนที่มันรัก...ไอ้เหมอก็ใจร้ายทำหลีกเลี่ยงอีกฝ่ายไม่ลง
ชนะยกมือขึ้นลูบศีรษะไอ้เหมอเบาๆ พร้อมกับจูบขมับปลอบคนที่กำลังงอแง “แค่มีความสุขไปด้วยกันกับผม...อยู่ข้างๆ ผม เชื่อใจผมก็พอ ไม่เห็นต้องคิดมากเลย”
ไอ้เหมอพยักหน้าหงึก ก่อนจะผละออกจากตัวของชนะแล้วขยับขึ้นนั่งคร่อมตักของคนรูปหล่อไว้แทน สองแขนของมันก็ยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่ง
“เหมอรักชนะ รักจนเหมือนคนโง่ รักจนเหมือนแค่หมาตัวหนึ่งที่เอาแต่วิ่งวนรอบเจ้าของโดยที่ไม่รู้ว่าเจ้าของมันรักมันรึเปล่า เหมอไม่แน่ใจอะไรเลย แล้วจะให้เหมอเชื่อใจนะได้ยังไง”
ชนะฝังจมูกลงบนแก้มไอ้เหมอ พลางกระซิบบอกเสียงนุ่มว่า
“เชื่อใจผมได้ เพราะใจของผม...ให้เหมอไปหมดแล้วตอนนี้”ไอ้เหมอเบิกตาโต ตาแป๋วๆ ของมันสบมองกับดวงตาคู่สวยของชนะด้วยความไม่เชื่อ ไม่มีความเชื่อแม้แต่น้อยว่าสิ่งที่มันได้ยินเป็นเรื่องจริง...
“เหมอ...เหมออยากฟังอีกที”
“...”
“นะ...บอกให้เหมอฟังอีกที เหมอไม่รู้ว่าเหมอฝันไปรึเปล่า เหมอไม่แน่ใจ”
ใบหูของชนะขึ้นสีแดงระเรื่อ แก้มขาวก็ซับสี ริมฝีปากเม้มแน่นก่อนจะคลายออก แล้วเอื้อนเอ่ยคำพูดให้ไอ้เหมอฟังช้าๆ ชัดๆ เรียกเอาเลือดไปกองกันที่ใบหน้าและใบหูของไอ้เหมอทีละเล็กทีละน้อยจนเป็นสีแดงก่ำ
“ผมบอกว่า...เชื่อใจผมได้ เพราะใจของผม ให้เหมอไปหมดแล้ว ผมรักเหมอนะ รักมาก ไม่น้อยไปกว่าที่เหมอรักผมเลย ผมกล้าสาบาน”
“พะ...พูดยาวกว่า...เดิมอีก” ไอ้เหมอพูดตะกุกตะกัก หัวใจเต้นถี่รัวราวกับมันกำลังจะกระเด้งกระดอนหลุดออกมานอกอก
“ไม่อยากฟังเหรอ”
“อยาก อัดเสียงเก็บไว้ได้ไหม...เหมออยากเก็บไว้ฟังก่อนนอนทุกวันเลย” ไม่คิดว่าจะได้ยิน ไม่เคยหวังอะไรเลยจริงๆ ไอ้เหมอแค่รัก...รัก และรักชนะเท่านั้น แม้มันจะห้ามความหึงหวง ความน้อยอกน้อยใจ ความอยากเป็นที่สนใจต่อคนที่มันรักไม่ได้ แต่มันก็ไม่เคยคาดคั้นหรือบีบบังคับให้อีกฝ่ายรักมันตอบ
“เสมอ...เว่อแล้ว ผมอายนะรู้ไหม”
“แฮ่...ก็มันน่าฟังนี่นา” ไอ้เหมอยิ้มเขิน สบตากับชนะแล้วก็ก้มหน้างุด
“กลับมายิ้มเหมือนเดิมแล้ว... ดีจังเลย ผมชอบรอยยิ้มของเหมอ” ชนะจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากล่างของไอ้เหมอ ยิ่งเรียกเลือดมากองที่หน้าบ้านๆ ของมันอีกโข “แต่ไม่ชอบเลยตอนที่เหมอยิ้มให้คนอื่น”
“ขี้หวงอ่ะ”
“หึงด้วย ได้นั่งรถกับไอ้โยล่ะหน้าบานเชียว”
“เห็นเหรอ ทำไมเหมอไม่เห็นนะ”
“เพราะเหมอมัวแต่มองหน้าไอ้โยอยู่ไง นิสัยไม่ดี”
“ก็โย...น่าเหมือนนะ เหมอชอบโย เพราะโยหน้าเหมือนนะ ไม่ได้ชอบนะเพราะนะหน้าเหมือนโยซะหน่อย เหมอชอบนะมาตั้งนานแล้ว นะคงจำเหมอไม่ได้หรอก”
ชนะเลิกคิ้วมองไอ้หัวเกรียนที่ยิ้มกริ่ม ท่าทางมีลับลมคมใน “นานแค่ไหน ไหนบอกผมมาหน่อย”
ไอ้เหมอยิ้มเต็มใบหน้า หอมแก้มคนรูปหล่อของมันแล้วเริ่มเล่า
“ตั้งแต่ปอหนึ่ง นะจำเด็กที่ไล่จูบนะได้ไหมอ่ะ คนนั้นคือเหมอแหละ” ไอ้เหมอสารภาพตามตรง ความทรงจำที่มันสู้อุตส่าห์เก็บไว้มานาน กลับพรั่งพรูออกจากปากเพราะแค่คำว่ารักที่ได้ฟังจากชนะ ในเมื่ออีกฝ่ายเปิดใจให้ มันก็ไม่อยากมีเรื่องปิดบังสุดที่รักของมันอีก
“โหววว เหมอนี่ไม่น่าโตอ่ะ” ชนะบอกแล้วหัวเราะ เมื่อจำได้ลางๆ ว่ามีเด็กที่เคยวิ่งไล่จูบเขาเมื่อครั้งยังเรียนอยู่ที่ไทยกับน้องๆ ตอนปอหนึ่ง “เมื่อก่อนตัวเล็ก ขาวด้วย แต่หน้าแป้นแล้น จำได้ว่าตลก แล้วทำไมตอนนี้...”
“อย่ามองงั้นสิ ร่างกายคนเรามันก็โตตามวัย แล้วเหมอเป็นทหารด้วย จะให้ตัวขาวอยู่ได้ไง ไม่กลากขึ้นก็บุญแล้วเนี่ย” ไอ้เหมอเปิดโชว์ผิวสองสีทูโทนของมันที่แบ่งขาวแบ่งดำชัดเจน อันไหนออกแดดมันก็ดำ อันไหนไม่โดนแดดมันก็พอมีให้เห็นความขาวอยู่บ้าง แถมมันยังเป็นประเภทขี้เกียจอาบน้ำ ไม่มีกลากเกลื้อนขึ้นก็นับว่าเป็นบุญของมันแล้วที่ไม่ตัวลายเหมือนตุ๊กแก
“ก็ถึงบอกว่าไม่น่าโต ฮ่าๆๆๆ โอยย เสมอ ผมเจ็บ อย่าหยิกสิ ใช้มือได้ข้างเดียว สู้ไม่ได้เลยเนี่ย แต่อยู่กับผมต้องอาบน้ำนะรู้ไหม ผมไม่ชอบคนซกมก”
ไอ้เหมอผู้เป็นคำจำกัดความของเด็กที่ควรหยุดโตเมื่อตอนปอหนึ่งถึงกับแยกเขี้ยวงุด “ไม่ซกมกซะหน่อย แค่บางทีก็ลืมอาบ แล้วตอนนั้นวิ่งหนีเหมอทำไม วิ่งสะดุดเท้าตัวเองหัวไปโหม่งกระถาง แตกเลย” ไอ้เหมอจำรายละเอียดได้ดีราวกับเหตุการณ์เพิ่งเกิดเมื่อเร็วๆ นี้
“ก็...เหมอเหมือนผีจีน ที่มันกระโดดดึ๋งๆ อ่ะ ช่วงนั้นเพี้ยนชอบชวนดูหนังผี ก็เลย...กลัว เหมอปากแดงด้วย” ชนะบอก อมยิ้มแล้วยกนิ้วขึ้นเกลี่ยริมฝีปากของไอ้เหมอ
“ก็อุตส่าห์ขโมยลิปสติกคุณหญิงแม่ไปโรงเรียน เขาจะให้จูบแรกกับตัวเอง แต่ตัวเองก็หนี รู้ไหมว่ากลับบ้าน ท่านบิดารู้ว่าเหมอเอาลิปสติกไปโรงเรียนนี่โดนสั่งงดขนมไปสามวันเลยอ้ะ”
“ฮ่าๆๆ เสมอเอ้ย”
ไอ้เหมอยิ้มเอาใจ ซุกซบกับอกกว้างของชนะสุดที่รักของมันแล้วยกนิ้วขึ้นเกลี่ยเล่น “ทีนี้รู้แล้วน้าว่าเหมอรักนะมานานมากกกกก โตมาก็เอาแต่นึกถึงหน้านะตอนเด็กๆ เพราะไม่รู้หน้าตอนโต แต่พอเห็น CY อ่ะ เหมอก็รู้เลยว่านะต้องหน้าคล้ายๆ คนนี้แน่ๆ ก็เลยตามติ่งมาตลอด แฮ่ๆ แล้วตอนมาเจอชะน้าาาตัวจริง เหมอก็เลิกติ่งตัวแทนแล้วมาฟินกับตัวจริงไง ฮี่ๆ”
“น่ารักว่ะ ไม่ใช่หน้านะ นิสัยอ่ะ”
“โอ้ย ไม่ต้องพูดขัดก็ได้ เหมอรู้หรอกว่าเหมอหน้าตาไม่ดี” ไอ้เหมอหน้ายุ่ง มองสุดที่รักของมันอย่างน้อยอกน้อยใจ
“หน้าตาไม่ดี แต่ผมรัก กับหน้าตาดีแต่ผมไม่รัก...เหมออยากเป็นแบบไหน” ชนะอมยิ้มตั้งคำถามกับไอ้หัวเกรียนที่บิดตัวเขินอาย
“อยากเป็นแบบที่นะรัก”
“งั้นก็เป็นแบบที่เหมอเป็น แค่นี้ก็พอแล้ว”
ไอ้เหมอลั่นกลองชัยในใจกึกก้อง โห่ร้องยิ่งกว่าผีแดงจะได้ถ้วยพรีเมียร์ลีกสี่สมัยซ้อน แต่มันก็ยังคงความเกรียนได้เป็นอย่างดี ทำมองซ้ายมองขวาเลิ่กลั่กจนชนะขมวดคิ้วมอง
“ไม่หลอกเหมอใช่ป้ะ ไม่ได้มีซ่อนกล้อง พนันเพื่อน หรือเกมอะไรก็ตามที่มาหลอกเหมอนะ”
ชนะอยากยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองกับท่าทางของไอ้เหมอมันเหลือเกิน “ถึงผมจะใจร้าย แต่ก็ไม่ได้เลือดเย็นขนาดนั้นนะ เชื่อได้แล้ว...เรื่องจริงทั้งหมด ผมคนจริง จำไม่ได้เหรอ”
“แหะๆ เชื่อแล้วจ้ะ”
ไอ้เหมอคงจะบอกไม่ได้ว่า...ความสุขของมันตอนนี้มีปริมาณมากแค่ไหน รู้แค่ว่าตอนนี้หัวใจเต้นถี่รัว พองโต คับอก เหมือนคนที่ไต่ยอดเขาเอเวอเรสท์มาหลายเดือนหลายปี จะตกแหล่มิตกแหล่ก็หลายครั้ง หวิดตายก็หลายหน แต่สุดท้ายก็ปีนขึ้นมาปักธงชัยจนได้
อยากปิดซอยเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้าน แต่ก็ติดว่าเบี้ยเลี้ยงนักเรียนนายร้อยนั้นช่างน้อยนิด ทั้งมันยังมีหนี้สินที่ยื้มไอ้ชายมาซื้อตั๋วเครื่องบินตามหาสุดที่รักของมันอีก ไอ้เหมอจนกรอบแล้วตอนนี้...แต่สามีมันรวย ลองอ้อนสักหน่อยก็อาจจะได้จัดงานเลี้ยงยินดี ฮี่ๆ
.................................................................TBC...................................................................
ไม่รู้เหมือนกัน แต่เราอยากให้เสมอสู้ เสมอสู้ๆ นะ สู้เขาไอ้เกรียนนน สตรองงงงงง แต่ตอนนี้เรานี่แหละต้องสตรองงงง ไอ้เหมออออ คืนชนะมาาาาาาาาาาาา

ไม่ดราม่านานหรอก เราบอกว่านิยายของเรารักใสๆ ไง ต้องให้ย้ำกันอีกกี่ครั้งงงง ถึงจะเชื่อใจกันนนน หืมมมมมมมมม
