ตอนบ่ายวันเสาร์ ไอ้เหมอเดินยิ้มร่าเข้าบ้าน กำหนดการที่จะกลับเย็นอย่างตั้งใจทีแรกเป็นอันต้องพับเพราะชนะต้องไปจัดการธุระกับแฟนสาวให้เสร็จสิ้น
“ไอ้เหมอออออ!” เสียงเหี้ยมเกรียมของท่านนายพลสมานดังต้อนรับมันตั้งแต่ประตูทางเข้า “หายหัวไปไหนมา!”
“แว้กกกกกกกกกกก!! พี่หมัยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ช่วยเหมอด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!” ไอ้เหมออาศัยทักษะทางทหารกลิ้งตัวหลบหลังกระถางลีลาวดีสุดรักสุดหัวของท่านนายพลอย่างว่องไวเพราะเห็นปืนลูกซองประจำกายของผู้เป็นพ่อยกขึ้นเล็งมาทางมัน
“พ่ออออออออ พ่อครับ มีอะไรกัน” สมัย นายทหารหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตเรียบร้อยตามสไตล์หนุ่มเจ้าระเบียบวิ่งหน้าตั้งมาพร้อมกับไม้กอล์ฟที่กำลังขัดให้ขึ้นเงา “น้องเหมอออออของพี่ พ่อ ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ”
“ไอ้หมัย แกหลีกไปเดี๋ยวนี้!” ท่านนายพลตะเบ็งเสียง มองลูกชายคนโตที่เดินไปหาน้องรักของมันที่กระโดดออกจากหลังกระถางไปที่แผ่นหลังของพี่ชาย “น้องแกถ้าไม่ถูกตีมันจะไม่มีทางเข็ด หายหัวไปไม่มีติดต่อกลับ รู้ไหมว่าพ่อแม่เป็นห่วงแค่ไหน!”
“ท่านบิดาไม่ต้องเป็นห่วงเหมอหรอก ต่อให้เหมอจะไปนอนกับผู้ชายมาเมื่อคืน เหมอก็ไม่ท้อง!”
“แกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!”
“ตายแล้วววว คุณพี่คะ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ค่ะคุณพี่ ฟังน้องค่ะ ใจเย็นๆ ไม่เครียดค่ะไม่เครียด” คุณหญิงเสมือนยอมละงานในครัวมาห้ามสงครามขนาดย่อมกลางบ้าน
“ไอ้เหมอ ไอ้ลูกตัวดี อย่าทำให้ท่านบิดาแกกริ้วไปมากกว่านี้ มายอมรับผิดดีๆ ไม่กวนตีนลูก” คุณหญิงตวัดสายตามองลูกชายคนเล็กที่หลบหลังพี่ชายด้วยความเข้มงวด “แกผิดต้องยอมรับผิด”
“เหมอยอมรับผิดก็ได้ แต่ไม่ยิงเหมอดิ เหมอจะตายได้นะถ้าโดนยิงอ่ะ แค่ตีก็พอ เคล็ดมะยมเหมือนเดิมไหม แต่เหมอไม่เอาหวายนะ เหมอไม่ปลื้ม”
“คุณหญิง ดูมัน!!! อย่างแกต้องโดนไม้หน้าสามไอ้เหมอ! ข้อหากวนตีนบุพการี” ท่านนายพลหลังจากสูดความหอมจากยาดมไปอึดใหญ่ก็คลายความตึงเครียดลงได้บ้าง
“เหมอไม่ได้กวนตีน เหมอไปนอนกับผู้ชายมาจริงๆ นะ แต่ไม่ได้มีอะไรกันหรอก ถึงเหมอจะสมยอม แต่เขายังไม่พร้อมอ้ะ”
“คุณหญิงงงงงงงงงงง!!”
“ไอ้เหมอ ลูก หุบปากก่อน แล้วเดินมากอดอกตรงนี้ หวายไม่เอาก็ได้ ได้ตามเคล็ดมะยมที่แกขอ แต่...ร้อยที ไม่มีให้พี่หมัยช่วย โอเค๊!”
“ชายชาติทหาร ไม่มีกลัวแค่เคล็ดมะยม” ไอ้เหมอปากกล้า แต่ไม่ขยับตัวออกห่างจากแผ่นหลังของพี่ชาย มันกระตุกชายเสื้อของสมัยแล้วส่งสายตาออดอ้อนให้
“โธ่ น้องเหมอ คุณแม่ครับ น้องแค่ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนแล้วลืมบอกที่บ้านแค่นั้น ไม่จำเป็นต้องตีกันถึงร้อยที สมัยนี้เขาเลิกทารุณลูกด้วยไม้เรียวกันแล้ว น้องเหมอเป็นเด็กดีที่อาจจะมีทำพลาดกันได้บ้างตามธรรมชาติของมนุษย์ทั่วไป คุณแม่พิจารณาโทษอีกทีเถอะครับ” แต่สมัยก็ยังคงเป็นสมัยที่รักน้องไม่เสื่อมคลาย รักแบบไม่ลืมหูลืมตา น้องทำผิดไม่เคยว่า น้องด่าก็คิดว่าน้องรักพี่ น้องสนิทกับพี่มาก น้องปีนเกลียวแค่ไหน สมัยก็ไม่เคยถือสา เพราะรักดั่งดวงชีวา รักดั่งแก้วตาดวงใจ แม้ในช่วงนี้น้องเหมอของสมัยจะไม่มีเวลาให้พี่ชายได้พะเน้าพะนอตามใจเลยก็ตาม
“โอเค เหลือสิบทีก็พอ” คุณหญิงเสมือนก็ช่างใจอ่อน คงเพราะเป็นลูกคนเล็กถึงได้ทั้งรักทั้งหมั่นไส้เหลือเกิน
“คุณหญิง จากร้อยทีเหลือสิบทีมันเกินไป” ท่านนายพลก็ยังคงเข้มงวด อยากฟาดน่องไอ้ลูกตัวดีใจแทบขาด “ไอ้เหมอมันถึงได้เกเรแบบนี้”
“เหมอไม่ได้เกเรซะหน่อย เหมอแค่ทำตามเสียงหัวใจตัวเองเรียกร้อง นี่ ท่านบิดา เหมออ่ะ หาลูกเขยให้ได้แล้วนะ ไม่ได้พูดเล่นเลย”
“แกว่าไงนะ!!”
“พอๆ พอกันก่อน มานี่ไอ้เหมอ มาให้แม่ตี”
ไอ้เหมอยิ้มหน้าซีด มองหน้าพี่สมัยที่เจ็บร้าวใจไม่ต่างจากมัน “น้องน้อยของพี่เจ็บ พี่ก็เจ็บยิ่งกว่า คุณแม่ตีเบาๆ นะครับ เดี๋ยวผิวน้องเป็นรอย”
คุณหญิงเสมือนไม่รับปาก แต่ไอ้เหมอรู้ว่าคุณหญิงแม่ของมันต่อให้บอกว่าจะ ‘ตีเบาๆ’ แต่มือท่านหนักยิ่งกว่ามือท่านนายพลสมานเสียอีก ถูกพ่อตีไอ้เหมอไม่เคยร้อง แม้จะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่มันยังเด็ก แต่ท่านบิดาของมันก็ออกแรงตีเบาราวกับกระดาษ ดุด่าว่าลูก ทั้งเตะตูดทั้งเคี่ยวเข็ญให้มันเป็นชายชาตรีสมกับอยู่ในตระกูลนายทหาร แต่สักครั้งก็ไม่มีจะลงแรงหนัก ต่างจากคุณหญิงเสมือนที่ตามอกตามใจ พอครั้นได้ลงมือตีเมื่อไหร่ ไอ้เหมอเจ็บหนักไปเสียหลายวัน
ไอ้เหมอเดินไปยืนกอดอกตรงหน้าคุณหญิงแม่ของมัน มีพี่สมัยมองตาละห้อย แทบอยากจะปรี่เข้าไปหักไม้เรียวของแม่ทิ้ง
“คุณแม่...เบาๆ”
เพียะ!!!!
เคล็ดมะยมฟาดแรงลงบนผิวน่องของไอ้เหมอ มันดิ้นพล่านร้องจ๊ากลั่นบ้าน พี่สมัยมันรีบเข้าโอบประคอง น้ำตาซึมเพราะเห็นน้องเจ็บหนัก
“เจ็บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ!!”
“เพี้ยงๆๆๆๆ ไม่เจ็บแล้วไม่เจ็บ” สมัย กดหน้าน้องชายลงบนไหล่ มือก็ลูบหัวปลอบใจคนน้องที่ยังร้องลั่น
“ดี จับน้องไว้อย่างนี้ แม่จะได้ตีถนัด”
เพียะ!!
เสียงลงโทษยังคงดังต่อไปจนครบสิบที ไอ้เหมอตอนนี้ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล พี่สมัยของมันก็น้ำตารื้น ลูบหัวน้องชาย ส่วนท่านนายพลหน้าเสีย เห็นลูกร้องก็ทำฟอร์มดุต่อไม่ไหว
“คุณ ตีแรงไปแล้ว” กระซิบบอกภรรยาสุดที่รัก ไอ้เหมอเวลามันร้องไห้นั้นสุดแสนน่าสงสาร แม้มันจะกวนตีน แต่มันช่างออดอ้อนน่าเอ็นดู ท่านนายพลเวลาดุด่าว่ากล่าวทำโหดใส่ ก็ไม่เคยทำจากใจเลยสักครั้ง แค่ทำให้ลูกกลัวแค่นั้นเอง
“เสมอ ฟังแม่ หยุดร้องเดี๋ยวนี้” คุณหญิงเสมือนขึ้นชื่อในเรื่องขาโหดสมัยยังสาว เก่งทั้งคาราเต้และยูโด การันตีความเจ๋งด้วยตำแหน่งแชมป์ระดับประเทศ อ่อนหวานก็ทำเป็น แต่ให้โหดเข้มก็ทำได้
“น้องเหมอ ฮึบไว้ครับ ฮึบนะคนดี เดี๋ยวโดนตีอีก” สมัยปลอบน้องเสียงเบา กับพ่อ สมัยไม่กลัว แต่กับแม่ สมัยทั้งกลัวทั้งเกรงใจ “พี่หมัยจะทายาให้นะครับ ไม่ร้องแล้วนะคนเก่ง”
“เหมอเจ็บบบบ คุณหญิงแม่ไม่รักเหมออออออ”
“แม่ตีเพราะเหมอทำผิด เหมอทำให้ทุกคนเป็นห่วง ทำไมจะไปไหนไม่โทรบอกที่บ้านก่อน อายุ 19 แล้ว เป็นถึงนักเรียนทหาร อยู่ในระเบียบวินัย แต่ทำไมแค่เรื่องง่ายๆ ถึงคิดไม่ได้”
“ก็เหมอกลัวว่าโทรมาบอกแล้วคุณหญิงแม่จะไม่ให้ไป” ไอ้เหมอตอบเสียงอ่อย ปาดน้ำตาออกจากแก้ม
“แล้วที่แม่ไม่ให้ไปเพราะอะไร รู้เหตุผลใช่ไหม”
“รู้ครับ แต่คุณหญิงแม่...เหมออยากไปจริงๆ นะครับ มันเป็นความสุขของเหมอเลย” ไอ้เหมอยังคงยืนกรานเหตุผลของมันเข้าสู้ คุณหญิงเสมือนจึงถอนหายใจ แล้วสั่งสอนกันอีกชุด
“ความสุขของเหมอ ต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนใจ เหมอทำให้พี่หมัยนอนไม่หลับ รู้ไหมว่าพี่เขารอเหมอทั้งคืน โทรถามน้องกวิ้นถึงจะรู้ว่าเหมอไปค้างบ้านเพื่อนอีกคน คุณพ่อก็เป็นห่วง เพราะกลับจากโรงเรียน เหมอไม่ตรงกลับบ้านมาขออนุญาตก่อน แต่นึกอยากไปก็ไปเลยอย่างนี้ ไม่เห็นหัวใคร”
“ขอโทษครับ”
“ดี สำนึกผิดก็ดีแล้ว ดันพื้นอีกห้าสิบครั้งค่อยเข้าบ้าน” คุณหญิงเสมือนประกาศก้อง ทำเอาไอ้เหมออ้าปากค้าง พี่สมัยของมันก็เช่นกัน มีแต่ท่านบิดาที่ช่วยพูด “คุณหญิง ช่างมันเถอะน่า ให้หมัยมันพาน้องไปใส่ยาก่อน น่องแตกหมดแล้ว”
“งั้นคุณพี่จะทำแทนหรือคะ” คุณหญิงเอ่ยถามเสียงนิ่ง “กับสมัยคนละยี่สิบห้าครั้ง แล้วให้เหมอเข้าบ้านไปใส่ยาได้”
“ผมตกลงครับแม่” สมัยเอ่ยปากไม่ลังเล ส่งไม้กอล์ฟแสนรักให้น้องชายถือไว้แล้วลงไปเตรียมดันพื้น ส่วนท่านนายพลนั้นมีแต่ความลังเล เพราะสังขารที่เริ่มเข้าสู่วัยชราไม่ได้เอื้อเหมือนลูกชายคนโต
“ท่านบิดา...ช่วยเหมอด้วย” ไอ้เหมอส่งสายตาออดอ้อน คนเป็นพ่อจึงได้แต่แยกเขี้ยวส่งมาให้ แต่พอเห็นน่องไอ้ลูกชายที่เลือดไหลซึมก็ถอนหายใจ
“เออๆ ไป เข้าไปใส่ยาในบ้าน หมัย พ่อขอสิบทีได้เปล่า ลูกทำเพิ่มอีกสิบห้า” ดันหลังคุณหญิงกับลูกคนเล็กเข้าบ้านแล้วก็หันมาต่อรองกับลูกชายคนโต
“ยี่สิบได้ไหมครับพ่อ ผมก็หลังยึดไปหมดแล้ว” สมัยกระซิบตอบ
“สิบห้า พ่อได้แค่นั้นจริงๆ ว่ะ”
แล้วสองหนุ่มชายชาติทหารผู้ปฏิบัติตนตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัดก็เริ่มนับเลขเสียงดังก้อง มีนายจ้อยพลทหารที่ได้รับมอบหมายจากคุณหญิงแอบสังเกตุการณ์ แล้วนำไปรายงานอีกที ว่าสองพ่อลูกทำได้ครบตามจำนวนหรือไม่
“อูยยย พี่หมัยยย เบาๆ เจ็บๆๆๆๆ” ไอ้เหมอกำลังนอนให้พี่สมัยที่รับโทษแทนมันเสร็จแล้วใส่ยาให้
“คุณแม่ทำเกินไปจริงๆ” สมัยบ่น “แค่น้องไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนแค่นั้นเอง”
“ไม่หรอก...คุณหญิงแม่ทำถูกแล้วล่ะพี่หมัย เหมอขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง” ไอ้เหมอรับผิด เอ่ยขอโทษพี่ชายที่แสนดีของมัน
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ไม่เคยโกรธน้องเหมอเลย อะไรที่น้องเหมอทำแล้วมีความสุข พี่ก็มีความสุขไปด้วย”
สมัยเป็นพี่ชายที่น้องหลายๆ คนนึกฝันอยากมี ไอ้กวิ้นยังเคยพูดว่าถ้าได้พี่สมัยเป็นพี่ชาย ชีวิตคงสุขสบายเพราะไม่ต้องทำอะไร พี่สมัยก็ประเคนให้หมด
“พี่หมัย เหมอมีคนที่อยากให้พี่หมัยรู้จักแหละ”
“ใครเหรอครับ”
“คนที่เหมอแอบชอบ”
สมัยหยุดนิ้วที่แต้มยาให้น้องชายก่อนจะระบายยิ้ม “พี่ก็อยากรู้จัก คนที่ทำให้น้องของพี่ยิ้มน่ารักได้แบบนี้”
“เขาหล่อมากเลยนะพี่หมัย”
“นิสัยดีรึเปล่า” เอ่ยถามโดยไม่ตะขิดตะขวงใจกับความหล่อของคนที่น้องชายแอบชอบ คงเพราะเลี้ยงดูไอ้เหมอมันมานาน ถึงได้รู้รสนิยมของน้องเป็นอย่างดี เพราะตั้งแต่ยังเด็กก็เอาแต่เพ้อหาเด็กผู้ชายที่ชอบ
“ดี...” ไอ้เหมออยากบอกว่า ดี...แต่ใจร้าย ก็กลัวจะขัดแย้งในตัวเองมากไป “ยิ่งรู้จักยิ่งหลงรัก”
“ถ้าพี่หมัยรู้จัก จะไม่หลงรักไปด้วยเหรอ”
“อย่าเชียว เดี๋ยวจะเป็นศึกสายเลือด เพราะคนนี้ ต่อให้เป็นพี่หมัย เหมอก็ไม่ยกให้หรอก พี่หมัยเอาไอ้กวิ้นไปสิ” แยกเขี้ยวใส่พี่ชายแล้วไอ้เหมอมันยังยัดเยียดไอ้กวิ้นเพื่อนโง่ที่ป่านนี้คงต่อจิ๊กซอว์หมื่นชิ้นของมันไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ที่บ้านเสียอีก
“ฮ่าๆๆ ไม่เอาๆ พี่อยู่ดูแลน้องเหมอไปแบบนี้ดีกว่า เอ้า! เพี้ยง! เสร็จแล้ว” เป่าคาถาบรรเทาเจ็บที่แผลของไอ้เหมอเสร็จ สมัยก็บรรจงเก็บอุปกรณ์ทำแผลใส่ในกล่องยาตามเดิม
“พี่หมัย เหมอกลัวว่าท่านบิดาจะไม่ชอบเขา” ไอ้เหมอบอกด้วยความกังวล อยากพาชนะมาเปิดตัวกับที่บ้านจะแย่ อยากให้ได้เจอทั้งพี่สมัยสุดที่รักของมันและลุงข้างบ้าน เอ้ย! ท่านบิดา แต่ก็เกรงว่าท่านนายพลสมานจะออกปฏิกิริยาไม่ชอบใจจนทำให้ชนะอึดอัด
“พ่อน่ะอยากให้น้องเหมอแต่งงานมีลูกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ถ้าถามพี่หมัยกับคุณแม่ น้องเหมอชอบใคร พวกเราก็จะชอบด้วย ไม่ต้องกังวลอะไรหรอก แค่น้องเหมอมีความสุขก็พอนะครับ”
“เหมอรักพี่หมัยที่สุดในโลกเลย”
“พี่ก็รักน้องเหมอ ไปครับ พี่พาไปล้างหน้าล้างตานะ ร้องไห้แบบนี้ตาบวมหมดเลย”
“ก็คุณหญิงแม่ตีเจ็บ...” ไอ้เหมออยากบอกว่าถึงจะเจ็บ แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้ไอ้เสือเหมอร้องไห้ไปได้ แต่ที่มันร้องแค่สำออยเรียกความสนใจจากพ่อและพี่ชายก็เท่านั้น ท่านนายพลสมานท่าทางโหดอย่างนั้นพอเห็นไอ้เหมอมันร้องไห้ ก็ลืมความโกรธทุกกรณีที่เกิดจากไอ้เหมอไปหมดสิ้น ไอ้เหมอรู้ทางท่านบิดาของมันดีจึงเปิดก๊อกหลั่งน้ำตาดราม่าอย่างถึงพริกถึงขิง
“เดินไหวรึเปล่า มานี่ดีกว่า พี่อุ้ม เดินมากแผลกระเทือนอีก”
“เย้ๆ พี่หมัยใจดีที่สุดเลย”
“ก็พี่รักน้องน้อยของพี่นี่ครับ”
สมัยอุ้มน้องชายไปที่ห้องน้ำแล้ว เหลือทิ้งไว้แต่ท่านนายพลสมานที่แอบลอบมองลูกชายคนเล็กด้วยความเป็นห่วง
“มาแอบอะไรอยู่ตรงนี้คะคุณพี่” คุณหญิงเสมือนเดินออกจากครัวมาเห็นผู้เป็นสามียืนด้อมๆ มองๆ อยู่หลังตู้โชว์
ท่านนายพลสะดุ้งเฮือก หันมองคู่ชีวิตแล้วตอบเสียงสูง “เปล๊า!”
“ช่างเถอะค่ะ น้องทำทับทิมกรอบเป็นของหวานเที่ยงนี้ คุณพี่จะรับเลยไหมคะ”
“รอไอ้เหมอมันก่อน ของโปรดมัน หมัยพาไปล้างหน้าอยู่น่ะ”
คุณหญิงอมยิ้มแล้วมองสามีด้วยความรักใคร่ “รักลูกแต่ก็ชอบดุชอบด่า เป็นห่วงทำไมไม่ไปดูใกล้ๆ ล่ะคะ”
“ไม่ได้ห่วงงง ใครบอกผมห่วง แต่คุณหญิงก็ไม่น่าตีมันแรง ไอ้เหมอกลับโรงเรียนก็ต้องไปวิ่งไปฝึกหนักอีก”
“แค่นี้ทนไม่ได้ก็ไม่ใช่ลูกชายฉันหรอกค่ะ”
“เอาเถอะ ว่าแต่...คุณหญิงรู้ไหมว่าไอ้เหมอมันไปนอนกับใคร”
“คงเพื่อนผู้ชายอย่างที่บอก” คุณหญิงตอบแล้วลอบมองสีหน้าสามี
“มันจะชอบผู้ชายจริงๆ หรือคุณหญิง” ใบหน้าของท่านนายพลเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม “ชีวิตจะมีความสุขหรือ”
“ลูกของเราบอกว่าชอบผู้ชายมาตั้งแต่อยู่ปอหนึ่งแล้วนะคะคุณพี่ คุณพี่ยังทำใจไม่ได้อีกเหรอ”
“ผมอุตส่าห์ส่งมันเข้าโรงเรียนทหาร”
“หัวใจคนเรามันเปลี่ยนกันไม่ได้นะคะ ถ้ามันเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ น้องคงไม่อยู่กินกับคุณพี่มาเป็นยี่สิบสามสิบปีอย่างนี้หรอกค่ะ”
“คุณหญิง...แต่ผมว่า”
“ทำใจนะคะที่รัก ให้ลูกตัดสินใจเอง อย่ารังเกียจเลยค่ะ ความรักไม่ว่าจะเกิดขึ้นในรูปแบบไหน ก็สวยงามเสมอ เหมือนที่คุณพี่รักน้อง และน้องก็รักคุณพี่” คุณหญิงยิ้มอ่อนหวาน โอบประคองใบหน้าสามีแล้วจุมพิตลงผิวแก้มแผ่วเบา “ไม่มีความแตกต่างเลย รักของเสมอกับรักของพวกเราที่มีให้กัน”
“ผมไม่ได้รังเกียจ แต่ผมไม่เคยรู้จักความรักแบบนั้น เสมอจะไม่มีความสุขกว่าหรือถ้าได้แต่งงานกับภรรยาที่อ่อนหวานเหมือนคุณหญิง และมีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจ ผมอาจจะเป็นผู้ชายที่หัวโบราณไปสักหน่อย แต่ผมไม่เห็นความยั่งยืนในความรักที่ไอ้เหมอมันมี”
“คุณพี่เป็นห่วงเสมอมาก น้องรู้”
“เฮ้ยยย ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้ห่วง คุณหญิงเอาอะไรมาพูด” ท่านนายพลทำตาเหลือก รับไม่ได้กับข้อกล่าวหา เพราะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับไอ้เหมอมันมานาน จะให้พูดว่ารักว่าห่วงกันตรงๆ ก็กระดากปาก
“ปากแข็งจริงเชียว ตอนลูกไปฝึกภาคสนาม ก็มีแต่คุณพี่ที่นอนไม่หลับ”
“ผมแค่เครียดเรื่องงาน จริงๆ นะคุณหญิง ไม่ต้องยิ้มล้อผมเลย” ท่านนายพลตอบเสียงอ้อมแอ้ม “แต่คุณหญิงไม่ห่วงมันหรือ อยู่ที่บ้านไอ้หมัยมันก็ทำทุกอย่างให้...ผมคิดไม่ออกด้วยซ้ำว่ามันจะหาอะไรกินเองได้ จะนอนก็ให้ไอ้หมัยมันกล่อม มันไปนอนกลางป่ากลางเขา จะมีใครกล่อมมัน ...แถมปากมันก็บอกว่าชอบผู้ชาย ผมกลัวมันจะโดนเพื่อนรังแก กลัวมันไปทำสะดิ้งจนถูกข่มเหง...”
“คุณพี่คิดมากไปแล้วนะคะ ไอ้เหมอมันผ่านเตรียมทหารมาสามปี คุณพี่ก็ควรเลิกกังวลได้แล้ว”
“แต่นายร้อยหนักกว่าเยอะ ผมผ่านมาก่อน...ผมรู้สิว่าลำบาก”
“แล้วอยากให้ลูกไปเรียนทำไมล่ะคะ” คุณหญิงเสมือนมองสามีอย่างนึกเอ็นดู นานวันเข้าก็เหมือนจะมีลูกชายเพิ่มมาอีกคน
“ก็...อยากให้เป็นทหารเหมือนผม คุณหญิงอย่ามองผมอย่างนั้นสิ ผมยอมรับก็ได้ว่าอยากให้มันเป็นผู้ชายเต็มตัว...ไม่รู้แหละ ยังไงผมก็อยากได้ลูกสะใภ้” ท่านนายพลพูดอย่างดื้อดึง ในขณะที่คุณหญิงมองสามีหัวดื้อที่นิสัยคล้ายคลึงกับไอ้เหมออย่างอ่อนใจ
“แต่ว่าที่ลูกเขยหล่อนะคะ ไอ้เหมอมันพามาที่บ้านสัปดาห์ก่อนโน้น”
“โอ้โห มันกล้า! ถ้าผมอยู่ล่ะก็...” ท่านนายพลเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน นึกภาพตัวเองตบกะโหลกไอ้เหมอมันไปเรียบร้อยแล้วก็ยิ้มกริ่ม
“อย่าทำอะไรให้ลูกลำบากใจเชียวนะคะคุณพี่ ถือว่าน้องขอ” คุณหญิงยิ้มเย็นจนสามีต้องเกรงใจ ท่านนายพลพยักหน้ารับ แต่ในใจยังมิวายวางแผนนำพาไอ้เหมอสู่ความเป็นชายชาตรีทั้งกายและใจ
“ไม่ทำอะไรหรอก คุณหญิงเชื่อใจผมได้ เหมือนที่เชื่อมาตลอดนะครับคนดี”
“ปากหวานจริง ลูกสองแล้วด้วย”
สามีภรรยาเอ่ยกระเซ้ากันไปมา จนลูกชายทั้งสองเข้ามาแทรกกลางบทเกี้ยวสาวของผู้เป็นพ่อ จึงได้เวลาพากันไปลิ้มรสทับทิมกรอบฝีมือคุณหญิงเสมือน ไอ้เหมอที่ทำงอนคุณหญิงแม่ก็ยิ้มกริ่มแล้วเข้าไปออดอ้อนตามเคยเพราะคุณหญิงอุตส่าห์ทำของโปรดง้องอนมัน
...............................................................TBC..............................................................
ใครหวัง NC กับนิยายใสๆ เรื่องนี้ของเราาาาาาา พวกเธอออออออออออออออออออ อย่ามาพากันฮาร์ดคอร์ อย่ามาพากันดาร์คคคค บอกแล้วว่าไม่เกรย์!!! อิ๊อิ๊
