หลังจากเสร็จสิ้นพิธีสาบานรักในความคิดของไอ้เหมอ บรรยากาศระหว่างเพื่อนซี้สองคนก็กลับมาหวานแหววตามปกติ มีไอ้กวิ้นเพื่อนโง่นอนงึมงำอยู่กับขวดเหล้าเป็นสักขีพยาน
"คืนนี้ไม่ได้ฟังเพลงผ่านทางโทรศัพท์แล้ว แต่เหมอมาร้องให้ฟังต่อหน้า ไม่รู้ว่าคนแถวนี้จะหลับฝันดียิ่งกว่าทุกคืนรึเปล่า" เหมอเอ่ยกระเซ้า มองคนที่เริ่มเกากีต้าร์ขึ้นอินโทรเพลงด้วยความรักใคร่
"ไม่รู้ อาจจะนอนไม่หลับเลยก็ได้" ชนะตอบกลับ มองสบตากันแล้วเหมอก็เป็นฝ่ายเบือนหน้าหนี พร้อมเอ่ยถามอย่างมีจริตว่า "ทำไมอ่ะ"
"ก็อยากมองคนร้องไปนานๆ"
ฮือออออออออ พี่หมัยยยย ฝากดูแลท่านบิดากับคุณหญิงแม่ด้วย! เหมอไม่มีห่วงอะไรในโลกนี้อีกแล้ว! เหมอพร้อมไป ให้เหมอไปเถอะ ไปยังดินแดนทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่มีแต่เหมอกับชนะครองคู่!
"ฮ่าๆ เสมอเอ้ย กลิ้งเป็นหมาแล้ว" ชนะมองคนที่กำลังกลิ้งออกนอกเสื่อ หน้าไถกับพื้นหญ้าอย่างไม่กลัวอาการแพ้อาการคันแต่อย่างใด "เขินผมอีกแล้วเหรอ"
"ก็นะพูดอะไรก็ไม่รู้อ่ะ"
"ผมพูดในสิ่งที่ผมคิด ไม่ใช่อะไรก็ไม่รู้สักหน่อย" ชนะตอบง่ายๆ ยกยิ้มยักคิ้วให้กับเหมอที่ตาพร่าไปกับความหล่อเหลาของเพื่อน "แล้วมีเพื่อนคนไหนของเหมอ พูดเหมือนผมบ้างไหม"
"ไม่มี...มีนะคนเดียว" แค่นึกภาพไอ้ชายกับไอ้กวิ้นพูด เหมอก็แทบอยากโก่งคออ้วก
"ดีแล้ว" ชนะยิ้มกว้างถูกใจ "ผมไม่อยากเหมือนเพื่อนคนอื่น"
"งื้อออ นะไม่เหมือนใครอยู่แล้ว นะพิเศษกว่า" เพราะชนะคือคนเดียวที่ได้หัวใจของเหมอไป ชนะเป็นคนเดียวที่เหมออยากทำอะไรดีๆ ให้ อยากให้ยิ้ม อยากให้หัวเราะ อยากให้มีความสุข...
"แล้วเหมอ...ใส่ใจพิเศษมากกว่าคนอื่นหรือเปล่า ทั้งกับไอ้กวิ้น กับเพื่อน...ของเหมอ ผมได้มากกว่าพวกเขาไหม"
ชนะเป็นคนเอาแต่ใจเหมอรู้ดี แต่กับความคิดเด็กๆ ที่อยากจะเป็นที่หนึ่งอย่างนี้...เหมอไม่เคยรู้มาก่อน เหมอมองสบตากับคนที่กำลังขมวดคิ้วมุ่น แล้วขยับยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ เห็นเด็กชายชนะที่ไม่มีความละเอียดอ่อนในด้านความรู้สึกซุกซ่อนอยู่ภายในดวงตาคู่สวย ชนะมองกลับมา ยิ่งขมวดคิ้วมากกว่าเดิมเมื่อเหมอโน้มหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้น ใบหน้าของมันเอียงทำมุมองศาเล็กน้อย แม้กีต้าร์ของไอ้กวิ้นจะขวางกั้นไว้ก็ไม่เป็นผล เพราะเมื่อริมฝีปากของเหมอประทับลงเบาๆ บนริมฝีปากของคนรูปหล่อที่เหมอเฝ้าจินตนาการถึงมาตลอดสองปีกว่าๆ เท่านั้น...ความยับยั้งชั่งใจที่เมื่อหลายสิบนาทีก่อนคิดจะมี ก็ถูกพังทลายลงจนหมด
บัดนี้...ริมฝีปากของชนะ โรจนโภคิน ถูกนักเรียนนายร้อยอย่างเสมอ เดชาโชติกุล หรือไอ้เสือเหมอของเพื่อนๆ ครอบครองเสียแล้ว
"เหมอไม่เคยทำแบบนี้กับเพื่อนคนไหน" เสียงกระซิบลอดผ่านไรฟัน ริมฝีปากที่เคล้าเคลียชิดใกล้ ดึงดูดให้ส่งลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจลิ้มรส เคยฝันถึงอยู่ทุกวัน แต่ไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ฝันเป็นจริง
ในโพรงปากของคนรูปหล่อแม้จะฝาดเฝื่อนไปด้วยรสของรีเจนซี่เข้มข้น แต่เมื่อได้ลองลิ้มชิมรสก็มีแต่ติดใจ ไม่หวานมาก...แต่กำลังดี ไอ้เหมอมองสบตา จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคนตรงหน้า ก็ยากจะเข้าใจว่าชนะกำลังรู้สึกหรือคิดเห็นกับความเอาแต่ใจของเหมอในตอนนี้อย่างไรบ้าง มือของชนะก็ยังคงจับแก้วเหล้าและนิ่งค้างอยู่บนสายกีต้าร์ ไม่ผลักออกหรือขยับเข้าหา มีแต่ไอ้เหมอเองที่มันใช้มือตัวเองกดท้ายทอยเพื่อนให้ขยับมาแนบชิด บดริมฝีปากลงอย่างนุ่มนวล หยอกล้อเล่นลิ้นกับอีกฝ่ายเพื่อกลืนกินความหวาน ที่ยิ่งได้ชิมก็ยิ่งหวานล้ำ
"ตอนนี้รู้แล้วหรือยัง ว่าได้มากกว่าคนอื่น" เหมอยิ้มเอาใจ จูบผะแผ่วลงบนปลายคางของคนรูปหล่อแล้วเลื่อนริมฝีปากขึ้นชิดกับริมฝีปากของอีกฝ่ายด้วยความโหยหา
"หิววววน้ามมมมม" เสียงของไอ้กวิ้นราวกับเสียงระฆังตีหมดยก เหมอผละออก ปล่อยแขนที่โอบรัดรอบคอของเพื่อนรูปหล่อแล้วขยับมานั่งเข้าที่ตามเดิม "ไอ้เหมอออ หิวน้ามมมม"
"เออๆ เดี๋ยวกูเอาให้" เหมอเสียงพร่าเล็กน้อย เทน้ำเปล่าใส่แก้วพร้อมน้ำแข็งแล้วยื่นให้ไอ้กวิ้นที่นั่งหน้ายุ่งมองมา "เมาแล้วเป็นเด็กประถมเลยไอ้สัด ลุกไปนอนในเต็นท์ไป"
"เสมอดุกูเหรออออ เดี๋ยวมึงโดนท่าโจมตีด้วยน้ำแข็งพิฆาตตต" ไอ้กวิ้นไม่ว่าเปล่า มือล้วงเข้าไปในแก้วของชนะแล้วหยิบน้ำแข็งมาโจมตีไอ้เหมอ โดนเลียนแบบท่าขว้างดาวกระจายประหนึ่งนินจา
"ไอ้กวิ้น แก้วกู!" ชนะโวยวาย ตบหัวไอ้กวิ้นเรียกสติไปสองทีซ้อน จนไอ้คนเมามันร่วงสู่พื้นตามเดิม
"เอ่อ...เหมอว่า พามันเข้านอนในเต็นท์ดีกว่า" ถ้าไอ้กวิ้นส่วนเกินมันไม่สลบไปตอนนี้ เหมอจะไปกระซิบถามมันเลยว่าหลังจากที่ถือโอกาสจูบคนที่แอบชอบไปแล้วนี่ ควรทำหน้าแบบไหน ทำตัวยังไง แล้วควรคุยด้วยน้ำเสียงแบบไหนวะ!
"อืม เอาดิ" ชนะเห็นด้วย ใช้เท้าเขี่ยเจ้าของเต็นท์แล้วเข้ามาช่วยเหมอยกร่างไอ้กวิ้นให้เข้าไปนอนในเต็นท์ จะได้ไม่ลุกมาขัดจังหวะ เอ้ย! ก่อความวุ่นวายได้อีก
"ตัวหนักอย่างกะช้าง แม่งน่าจะชื่อช้าง ไม่ใช่เพนกวิ้น" ชนะบ่น ตบหัวไอ้กวิ้นไปอีกรอบ แล้วเขี่ยให้มันไปนอนริมสุด "เหมอง่วงยัง"
"อืม รู้สึกมึนๆ หัวแล้ว กินเหล้าไปเยอะ นะล่ะ" เหมออ้างไปเรื่อย ความจริงมันไม่ได้เมาเหล้า ไอ้เสือเหมอคอทองแดงที่ไอ้ชาย ไอ้เชษฐ์และไอ้ปิ๊กกราบบูชานั้น แค่รีเจนซี่ไม่ทำให้มันสิ้นท่าได้ แต่ที่เมาๆ มึนๆ อยู่ตอนนี้ สงสัยจะเป็น...น้ำหวานๆ จากในโพรงปากของคนรูปหล่อตรงหน้าที่ทำให้ในหัวมันโล่งๆ เคลิ้มอย่างกะได้ดูดเนื้อ มองอะไรก็สีชมพู เห็นอะไรก็อยากยิ้มให้ไปหมด
"เหมือนกัน" ชนะตอบ ในขณะที่เหมอได้แต่ลอบกลืนน้ำลาย มองริมฝีปากสีสดของอีกฝ่ายตอนขยับพูดแล้วอยากจะเข้าไปบดเบียดอีกรอบ ให้ริมฝีปากที่แดงและบวมจากการถูกดูดถูกงับ...สีสดมากกว่าเดิม
"งั้นนะ นอนก่อน เดี๋ยวเหมอเก็บของรวมๆ ไว้แล้วจะมานอนด้วย" คำว่า 'นอนด้วย' ไอ้เหมอมันก็จงใจส่งยิ้มกรุ้มกริ่มไปให้ ชนะพยักหน้า แล้วล้มตัวลงนอน พร้อมพูดพึมพำ "อยากอาบน้ำ แต่ไม่ไหวแล้ว"
"อืม ทนหน่อยเนอะ" เหมอปลอบใจ ลูบผมนุ่มของชนะที่หลับตารับสัมผัสโดยไม่ขยับหนี "ถึงไม่อาบ นะก็ตัวหอม"
"แต่เหมอไม่หอม กลิ้งหญ้ามาอีก ...เหมือนหมา หึหึ" ชนะยิ้ม ลืมตาขึ้นมองไอ้หมาเกรียนแล้วถูกใจกับสีหน้าบึ้งๆ ของมัน
"เออ เหมอเป็นหมาก็ได้" เป็นหมาที่ได้เลียปากชนะด้วย เป็นหมาที่โชคดีที่สุดในโลกเลย
"งั้น...ให้ผมเป็นเจ้าของหมา หมาที่ชอบเลียปากเจ้าของอ่ะ ให้ไปอยู่กับคนอื่นไม่ได้หรอก เขาจะเตะเอา แต่ผมใจดี ไม่ถือสา ไหนขอมือ"
ชนะยื่นมือมาตรงหน้า เหมอรีบวางมือไว้แล้วส่งเสียง บ๊อกๆ พลางแลบลิ้นห้อย ทำเอาเจ้าของหัวเราะร่วนแล้วลูบหัวอ่อนโยน "เด็กดีๆ"
"ฮี่ๆ เดี๋ยวเหมอมานะ ไปเก็บของแป๊บ"
"อื้ม"
ทั้งที่ไม่อยากละจากมือใหญ่อบอุ่นของสุดที่รัก แต่เหมอก็จำต้องออกจากเต็นท์ไปเก็บรวบรวมของใส่ตระกร้า เพื่อว่าพี่แต้วตื่นมาจะได้เก็บของได้สะดวก เก็บจานเก็บแก้วใส่ตระกร้าไว้จนหมดแล้ว ล้างมือด้วยน้ำแร่ที่ไอ้กวิ้นเอามาเป็นมิกเซอร์เสร็จก็คลานเข้าไปในเต็นท์
"ช้า" คนที่คิดว่านอนไปก่อนแล้วส่งเสียงแผ่วเบาขึ้นทัก
"นึกว่านอนไปแล้วเสียอีก" เหมอนอนลงข้างๆ คนรูปหล่อ "ไหนบอกง่วง"
"ก็บอกว่าจะคุยถึงเช้า ลืมเหรอ"
เหมอนึกขึ้นได้ว่าตอนคุยโทรศัพท์ พ่อดาวประจำใจออดอ้อนไว้ให้ใจระทวยอย่างไรบ้าง แต่ก็นึกว่าอีกฝ่ายจะพูดเล่น เหมอก็เลยไม่ได้ใส่ใจมากเท่าไรนัก มาไกลถึงขนาดนี้เหมอก็ดีใจมากแล้ว ไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่านี้เลย แต่ถ้าคืนนี้ได้อีกสักจูบสองจูบ กอดสองกอด ก็คงดีงาม ฮิฮิ
"ไม่ลืมหรอก นะยื่นแขนมา เหมอนวดให้ จะได้นอนสบาย"
ชนะยื่นแขนไปพาดลำตัวของคนหัวเกรียนอย่างว่าง่าย ปล่อยให้มืออีกฝ่ายบีบนวดให้ตามคำร้องขอ ไม่ได้รู้เลยว่าไอ้เหมอมันยิ้มกริ่มเพราะชอบใจที่ได้สัมผัสท่อนแขนแข็งแรงนี้มากขนาดไหน
"เหมอ...คืนนี้ผมเมาจริงๆ" แล้วคนรูปหล่อก็เริ่มเปิดประเด็น "ไม่เคยดื่มจนมึนอย่างนี้ ตอนนี้นอนไม่หลับเลย เวียนหัว"
"อือ ก็เห็นไอ้กวิ้นชงให้ทีไร นะก็ยกดื่มจนหมดตลอด ไม่เมาก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว" เห็นทีแรกก็นึกห่วง แต่ชนะคอค่อนข้างแข็ง แม้จะไม่คอทองแดงเท่าเหมอ แต่ก็นั่งกินกับไอ้กวิ้นได้พอฟัดพอเหวี่ยง ส่วนไอ้กวิ้นคออ่อนที่สุดในกลุ่ม แต่ชอบกินเยอะที่สุด นั่งกินกับมันไม่มีคำว่าจิบ ต้องยกหมดแก้วเท่านั้น ถ้าไปกินข้างนอกคงนึกห่วงพ่อดาวประจำใจของเหมอมากกว่านี้ แต่นี่นั่งกินที่บ้านไอ้กวิ้น อยู่ในสายตาเหมอ เหมอก็ไม่ห่วงเท่าไหร่ อีกอย่าง...ชนะเมาช้ากว่าคนอื่น ประมาณว่าคนทั่วไปเขาเมาจนจะสร่างแล้ว สุดที่รักของเหมอเพิ่งจะรู้สึกเมา แล้วเวลาเมาน่ะโคตรน่ารัก...จากที่นิ่งๆ ไม่ค่อยพูด จะชวนคุยนั่นนี่ไปเรื่อย ปากก็จะเรียกหาเหมอไม่ขาด
"อื้อ หลับตาแล้วอยากจะอ้วก เหมอ ผมไม่อ้วกนะ หมูที่เหมอปิ้งให้อร่อย ผมเสียดาย" เห็นไหมล่ะ...น่ารักจะตาย ชะน้าาาาของเหมอออออ
"ครับ เหมอตามใจทุกอย่างเลย นะนอนดีๆ เดี๋ยวไปโดนไอ้กวิ้น"
"ทำไม เหมอห่วงมันเหรอ ผมจะถีบมันไปไกลๆ เลย เหมอห้ามไปใกล้มันด้วย" ชนะไม่ว่าเปล่า ยกเท้าขึ้นถีบไอ้กวิ้นจริงๆ แต่ไอ้กวิ้นมันหลับไม่รู้เรื่องไปแล้วถึงไม่ลุกมาโวยวาย
"ครับๆ ไม่ไปๆ ไหนมาดูหน่อย เท้าเจ็บรึเปล่า ถีบมันก็ไม่สะเทือนหรอกไอ้กวิ้นมันถึกจะตาย หูยยย เท้าก็ดูดี คนหล่อนี่น่ามองไปทั้งตัวรึเปล่าครับ" เหมออมยิ้ม ลุกขึ้นนั่ง ใช้มือสัมผัสเท้าของชนะแผ่วเบาแล้วลงมือนวดให้
"ฮ่าๆ เว่อแล้วเสมอ"
"เหมอพูดจริง" นวดเท้าให้เสร็จก็ล้มตัวนอนตามเดิม ในขณะที่ชนะพลิกตัวตะแคงข้างมามองสบตากัน
"นะ"
"หืม"
"เหมอมีความสุข" รอยยิ้มของเหมอบ่งชัดปริมาณความสุขที่เจ้าตัวมี แม้จะเป็นสุขชั่วคราว เป็นสุขที่คงไม่ได้สุขไปตลอด แต่แค่นี้...ก็ต่อชีวิต...ต่อความฟินของเหมอไปได้อีกหลายปี จะให้อยู่แค่ตรงนี้ก็ได้ แล้วเหมอจะใช้...ความรู้สึกที่ได้สัมผัสกับริมฝีปากของชนะ...หล่อเลี้ยงหัวใจตัวเอง
"เหมือนกัน" ชนะจะไม่พูดว่าเหมือนกัน...หากได้รู้ว่าในใจของเหมอนั้น...คิดสกปรกแค่ไหน เหมอหลับตาฝันลงคราใด ก็เห็นแต่ภาพตัวเองกอดรัดร่างกายที่เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ของชนะไว้แน่น ดูหนังเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมรักของผู้ชายด้วยกัน...เหมอก็เอาแต่คิดว่าเมื่อไหร่...เมื่อไหร่ที่จะมีโอกาสได้ตกต้องเป็นของชนะเสียที
"นะคิดว่าแปลกรึเปล่าที่เราจูบกัน"
คำถามนี้ เหมอลุ้นจนตัวเกร็งกับคำตอบ เพราะชนะนิ่งคิดอยู่นาน คิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากันวุ่น "ก็ไม่แปลกมั้ง เพื่อนป๋าสองคนที่เป็นเพื่อนกัน พวกเขาก็จูบกันแบบนี้"
"หืม ใครกับใครนะ"
"เพื่อนของป๋า ลุงเอกับลุงเกมที่ผมไปอยู่ด้วยที่อเมริกา ตอนเรียนไฮสกูล"
"แล้ว...แล้วเขาไม่ใช่แฟนกันเหรอ หรือนะไม่รู้"
"ไม่น่าใช่ ถ้าแฟนก็ต้องเหมือนป๋ากับเพี้ยน แต่ลุงเอกับลุงเกมเขาก็พูดคุยกันปกติ ไม่เหมือนเพี้ยนที่เอาแต่อ้อนป๋าเลย"
เหมอมองหน้าสุดที่รักแล้วอยากตบกะโหลกตัวเองสักสามสิบครั้งเพื่อที่จะได้เข้าใจกับความคิดของชนะให้ถ่องแท้ อยากรู้มาตรฐานการแยกแยะ 'เพื่อน' กับ 'แฟน' ของชนะเสียจริง ทำไมมันถึงแปลกประหลาดยิ่งกว่าความรักของเหมอก็ไม่รู้
"แต่จูบ...มันก็ต้องทำกับแฟน...ไม่ใช่เหรอ"
"ที่อเมริกา คนไม่ใช่แฟนกันเขาก็จูบกัน" ชนะเถียงเหมือนเด็กๆ ท่าทางฮึดฮัดขัดใจจนเหมอต้องยอมความ
"เหรอ เหมอไม่รู้อ่ะ ไม่เคยไปอเมริกา แหะๆ"
"อืม ไว้ปิดเทอม เราไปด้วยกัน ดีไหม"
"เหมอไม่มีตังค์หรอก ตั๋วแพง"
"ผมออกให้ ผมพอมีตังค์อยู่นิดหน่อย" นิดหน่อยของชนะ คงมากกว่าเงินเดือนนักเรียนนายร้อยของเหมอเป็นร้อยเท่า
"อื้ม งั้นเหมอตั้งตารอเลยนะ"
"ครับๆ กาปฏิทินนับวันรอเลย"
เสียงพูดคุยของสองเพื่อนซี้ยังคงดังงึมงำขับกล่อมเพนกวิ้นที่สลบเหมือดเพราะฤทธิ์เหล้าไปจนเกือบเช้า แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เพนกวิ้นตื่นเพราะปวดปัสสาวะ ลุกขึ้นนั่งมองไปข้างกายก็เห็น ไอ้เหมอกับไอ้นะมันนอนแนบชิดกัน ปล่อยเพนกวิ้นนอนอีกฝั่งด้วยความเหน็บหนาว ครั้นจะเอ่ยปากแขวะตามนิสัย ก็ปิดปากเงียบสนิท เมื่อเห็นว่าแท้จริงของร่างที่แนบชิด ไม่ได้แนบชิดแค่ลำตัว แต่เป็นริมฝีปากของคนทั้งคู่ที่บดเบียดเข้าหากัน เพนกวิ้นมองแล้วส่ายหน้า คิดไปว่าตัวเองคงกำลังฝัน เพราะเห็นเพื่อนสนิทอีกสองคนกำลังแลกน้ำลายกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงดูดดุนแผ่วเบา แต่เพนกวิ้นก็ได้ยินชัด ลืมเรื่องที่ตัวเองปวดปัสสาวะไปจนหมด แล้วล้มตอนนอนลงเงียบๆ เพื่อไม่ให้ไปขัดจังหวะเพื่อนรักทั้งสอง เพราะถ้าเป็นฝ่ายไอ้เหมอขึ้นคร่อม เพนกวิ้นคงจะถีบมันให้กระเด็นโทษฐานแอบลักหลับเพื่อนรูปหล่อ แต่ภาพที่เห็น...ดันเป็นเพื่อนซี้ดีกรีเดือนมหาลัยที่คร่อมไอ้เหมอมันเสียเอง แถมยังปล่อยให้แขนที่มีกล้ามเป็นมัดของไอ้เหมอโอบรอบคอไว้เสียด้วย
"เหมอทำให้ผมเมาหนักยิ่งกว่าเดิม..." เพื่อนรูปหล่อกระซิบเสียงนุ่ม จนไอ้กวิ้นที่เงี่ยหูฟังต้องปิดปากตัวเองไม่ให้พูดแทรกขึ้น
"อื้ม...เพิ่งรู้ว่านะเมาแล้วชอบจูบ" แต่เสียงไอ้เหมอเพื่อนยากกลับทำให้เพนกวิ้นขนลุกสุดกู่ มันทั้งอ่อย ทั้งยั่วเย้า หมดสิ้นภาพลักษณ์นักเรียนนายร้อยหัวเกรียน "จูบเก่งด้วย"
"เหมอเก่งกว่า ไปฝึกกับใครที่ไหนมา หืม"
"เหมอฝึกม้วนก้านเชอร์รี่บ่อยๆ ไม่ได้ฝึกกับคนหรอก นะ...อื้มมม... เหมอจะบ้าอยู่แล้ว"
"อย่าถือสาผมเลย...ผมเมา ผมทำอะไรก็ไม่ผิด"
"ไม่ถือหรอก...จูบอีกเยอะๆ เลย เหมอชอบ ฮี่ๆ"
"เสมอยั่วผมเหรอ"
"อื้มมม ฮิฮิ ปากนะหวานนี่นา"
เพนกวิ้นร้องครวญในใจเพราะเสียงพูดคุยที่หายไปแทนที่ด้วยเสียงของคนสองคนที่แลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม มันไม่ได้ดังมาก แต่เพราะกวิ้นนอนหันหลังชิดพวกมันสองคนอยู่ จูบกันไปพลาง ส่งเสียงกระเซ้ากันไปพลาง นี่ไม่รู้ว่าสร่างเมาแล้วระหว่างพวกมันจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า ...แต่เรื่องของสองคนนั้นช่างหัวพวกมัน ตอนนี้ปวดฉี่มาก แต่ไม่อยากตื่นแล้วทำหน้าไม่ถูก ก็เลยต้องหลับตาปี๋ นับแกะร้อยตัวในใจ
ไอ้เหมอนะไอ้เหมอ มึงยั่วคนเมาจนเขาจูบมึงขนาดนี้ได้ยังไงวะ สงสารกูบ้างงงง กูปวดฉี่ ฮือออออ!!.........................................................TBC.................................................................
หวังว่าเพนกวิ้นของพวกเราจะไม่เป็นนิ่ว #ได้แต่ภาวนา
