Chapter 10ดวงตะวันกำลังส่องแสงที่ปลายขอบฟ้าไกลๆในที่สุดรถบัสทั้งสามคันก็แล่นเข้าสู่เขตจังหวัดลำพูนสถานที่ที่จุดหมายปลายทางในการเดินทางครั้งนี้
ทัณฑ์กำลังมีความสุขที่ตอนนี้คนตัวเล็กกำลังนอนหลับสบายพิงไหล่กว้างของเขาอยู่อยากที่จะกดจมูกไปที่หน้าผากน้อยหัวทุยๆ
นี่เสียจริงแต่ก็กลัวรบกวนเวลานอนของนัทเมื่อคืนกว่าเขาจะข่มตานอนหลับลงได้ก็ใช้เวลานานเลยทีเดียวส่วนคนตัวเล็กไม่รูว่า
ได้นอนรึเปล่าเพราะเมื่อรถจอดแวะพักรถสองครั้งต้องลงไปดูความเรียบร้อยท่าทางคงจะเหนื่อยน่าดูอากาศยามเช้าหนาวมาก
มองออกไปข้างนอกหมอกยังหนาอยู่เลยทัณฑ์เลื่อนผ้าห่มให้นัทโชคดีที่เขาเตรียมผ้าห่มผืนเล็กมาด้วยนี่ซินะคือข้อดีของกูเกิ้ล
เขาค้นหาข้อมูลคร่าวๆเกี่ยวกับออกค่ายต้องเตรียมอะไรไปบ้างรู้สึกว่าบางทีจะเข้าท่าก็ได้
“นัท นัท ตื่นเร็วถึงแล้ว”
“อืม อือ ถึงแล้วหรอ อรุณสวัสดิ์ทัณฑ์”นัทตื่นมานั่งตัวตรงทำหน้างงกับทรงผมที่เพิ่งตื่นนี่น่ารักอย่าบอกใครจนทำให้ทัณฑ์อดคิดไม่ได้ว่าถ้าทุกเช้าตื่นขึ้นมาเห็นนัทอย่างนี้ทุกเช้าก็คงดี
“สวัสดีทุกคนครับผมรับหน้าเป็นประธานค่ายครั้ง.....”นักศึกษาจากตัวแทนสามมหาวิทยาลัยจากทั้งสามภาคมาพร้อมกันแล้ว
ตอนนี้คนที่ทำหน้าที่เป็นประธานค่ายคิมกำลังพูดจาทักทายปีนี้มหาวิทยาลัยจากภาคเหนือเป็นเจ้าภาพพร้อมทั้งแจ้งกำหนดการ
และมีคณะกรรมการของแต่มหาวิทยาลัยออกไปยืนด้านหน้าส่วนทัณฑ์และเพื่อนๆกำลังขนของไปเก็บไว้ที่ห้องที่เตรียมไว้สำหรับเก็บของชั่วคราว
“โห เต้นนอนน่ารักดีอ่ะน่านอนกว่าที่พวกผู้หญิงนอนในอาคารอีกนะ”สองตื่นเต้นกับที่พักแบบเป็นเต็นท์ทรงสูงแล้วมีผ้าใบผันรอบ
พื้นมีไม้กระดานยกสูงเว้นที่ตรงกลางสำหรับเดิน
“เดี๋ยวค่อยมาจัดที่นอนเราไปทานข้าวกันก่อนดีกว่า”
“เฮ้ย ทัณฑ์กินข้าว มองเขาอยู่ได้จะอิ่มไหมน่ะ”ตอนนี้ทุกคนออกมานั่งทานข้าวเป็นกลุ่มวงกลมเพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสนั่งกินข้าวกับคนอื่น
“เออ แต่ถ้ากูได้กินเขาจริงคงอิ่มไปหลายวันเลยละ”ทัณฑ์พูดออกไปเบาๆด้วยน้ำเสียงเคืองๆ
“ฮ่า ฮ่า เพื่อนกูท่าทางจะคิดมาก”
“สองว่าน่าหมั่นไส้อ่ะไอ้พี่หมอนั่นทำเอาเรื่องคณะกรรมการมาอ้างที่จริงอยากเข้าใกล้นัทละซิไม่ว่า เชอะ”ทัณฑ์มองคนร่างบาง
กำลังนั่งทานข้าวกับคณะกรรมการทั้งสามมหาวิทยาลัยบอกได้ทันทีว่าไม่ค่อยพอใจ
“ขอโทษนะคะตองนี้ว่างไหมคะ ขอพวกเรานั่งด้วยนะคะ”
“ว่างครับเชิญๆตามสบาย”
“ขอบคุณค่ะไม่ทราบว่ามาที่ไหนกับคะไหมค่ะนี่ แอม กอหญ้าและฝ้ายพวกเรามาจากมหาวิทยาลัยภาคเหนือค่ะ”ไหมแนะนำตัว
เองและเพื่อนแต่สายตากำลังมองบอกว่าสนใจคนร่างสูงที่สายตายังมองไปนัทเป็นระยะไม่สนใจอะไร
“ผมเจมส์ครับนี่เอกนนท์ทัณฑ์หนึ่งสองและเต็มสิบพวกเรามาจากมหาวิทยาลัยภาคกลางครับ”เจมส์มองออกทันทีว่าไหมมา
ท่าทางเพื่อนของเขาเสียงพูดคุยทักทายดังเป็นระยะสลับกับเสียงหัวเราะภายในโรงอาหาร
หลังจากที่ทานข้าวเช้าไม่นานพิธีเปิดค่ายอาสาก็เปิดขึ้นโดยมีผู้ใหญ่ทางมหาวิทยาลัยเจ้าภาพมีเป็นประธานและผู้สนับสนุนมอบ
เงินให้พิธีการผ่านไปอย่างเรียบง่ายโดยมีกลุ่มนักศึกษาและชาวบ้านบางส่วนร่วมเป็นสักขีพยานเสร็จงานพิธีการชาวก็เข้ามาร่วม
ทานข้าวเที่ยงด้วยกันถึงแม้จะพูดคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ทุกคนก็ยิ้มพยักหน้าแทนคำตอบตกบ่ายชาวบ้านแยกย้ายส่งแขกผู้หลัก
ผู้ใหญ่งานของทุกคนก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังช่วงเวลาที่แสนวุ่นวายและดูเร่งรีบภายใต้แสงตะวันที่ร้อนระอุแต่ยังโชคดีที่ยังมีร่ม
เงาจากต้นไม้อาคารและลมพัดโชยตลอดเวลาช่วยบรรเทาความรู้แย่ๆลงไปได้
นัทตัดสินใจหย่อนก้นลงนั่งม้าหินอ่อนที่อยู่ใต้ต้นไม้เพื่อพักเหนื่อยกว่าจะหนีจากพี่หมอที่เป็นประธานค่ายมหาวิทยาลัยภาคเหนือ
มาได้แทบตายคนอะไรไม่รู้ตามตื้ออยู่ได้จนน่ารำคาญแล้วงานนี่มันอะไรกันทำไมมันถึงเยอะขนาดนี้นี้นะให้ตายเถอะพี่รหัสนะพี่
รหัสทำกับเขาได้กลับเมื่อไหร่เรื่องนี้ไม่จบง่ายแน่แต่ที่แน่ๆเขาจะกลับไปโดยครบสามสองรึเปล่าแค่วันแรกก็แทบแย่แล้วเขาวาง
ปึกเอกสารวงบนโต๊ะแล้วฟลุบหน้าลงไปพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ
“อุ๊ย”นัทตกใจที่มีอะไรเย็นมาสัมที่แก้ม
“เหนื่อยละซิ ทานนี่หน่อยไหมเพิ่มพลัง”นัทหันหน้าไปเห็นทัณฑ์ที่นั่งลงข้างๆแล้วส่งไอติมกะทิมาให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมาทีที่เห็น
คนตัวโตไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่เห็นหน้าทัณฑ์ทำให้นัทรู้สึกดีทุกครั้งแบบเรียกว่าชอบได้รึเปล่านะไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าเหมือนกับว่า
ทัณฑ์จะเฝ้ามองเขาตลอกเวลาเพราะเมื่อใดที่นัทมองไปก็จะเห็นทัณฑ์ที่กำลังมองมาที่ตลอด
“อืมขอบใจนะ ว่าแต่ทัณฑ์ไปซื้อมาจากไหนอ่ะ”นัทรับรับถ้วยไอติมมาแล้วตักเข้าปากได้อยู่กับทัณฑ์แล้วรู้สึกดีจังเลยเขารู้ทัณฑ์
ชอบเขาแต่นัทก็ยากให้เรียนรู้อะไรให้มากกว่านี้
“นั่นไงมีรถเข้ามาของในค่ายด้วยเดี๋ยวต่อไปคงมีคนเข้ามาขายของเลยล่ะ”นัทมองที่รถขายไอติมที่คนเดินยืนรุมยิ่งอากาศร้อนได้
กินอะไรเย็นที่ช่วยได้เยอะทีเดียว
“นัท”สองและเพื่อนมาที่โต๊ะที่คนทั้งคู่นั่งอยู่
“นัท นัทดูนี่ไอติมของสองเป็นรูปผีเสื้อด้วยดูสิดูสิสวยใช่ใหม่”สองที่แกะไอศกรีมยี่ห้อหนึ่งออกมาจากบรรจุภัณ์กำลังแสดงให้นัท
ดู
“อื้ม อร่อยด้วย”
“อ้า นัทขโมยกินของสองทำไมปีกแหว่งเลย”การกระทำของนัทและสองเรียกเสียงหัวเราะให้เพื่อนทำให้ความรู้สึกเหนื่อยของทุกคนดีขึ้น
“รีบกินเถอะสองเดียวละลายหมด”
“สองกินกี่แท่งแล้วนิ่ เดี๋ยวก็ท้องเสีย”นัททำเสียงดุใส่สองแต่สองไม่สองตอบทำท่าทางไม่สนใจ
“สาวๆในค่ายนี่มีแต่สวยๆทั้งนั้น แต่แต่งตัวแม่งเหมือนมาเที่ยวไม่เหมือนมาค่ายอาสา”เจมส์กำลังบ่นให้เอกกับนนท์ฟัง
“ชอบไม่ใช่หรอวะ ดีแล้วผู้ชายอย่างเราจะได้มีกำลังทำงาน”
“แต่กูว่ามันไม่ค่อยศักดิ์สิทธิ์หรือแบบว่าน่าเชื่อถือว่ะพวกมึงอย่าลืมนะว่าตอนนี้พวกเราได้เชื่อว่าเป็นนักศึกษาเป็นอนาคตของชาติ
แล้วตอนนี้มีคนทั้งหมู่บ้านกำลังจับตามองเราอยู่อีกทั้งเด็กๆที่เป็นนักเรียนที่โรงเรียนนี้ก็เข้ามาดู”
“นัทก็คิดเหมือนเอกพูดนะถ้าผู้หญิงแต่ตัวไม่เหมาะสมมันเป็นอันตรายอย่าลืมว่านะที่นี่ก็มีวัยรุ่นในพื้นที่ด้วยเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร
ขึ้นที่นี่บนภูเขานะทั้งภาษา วัฒนธรรม ความเชื่อก็ต่างกันแล้วพวกเราก็ต้องเซฟตัวเองให้มากที่สุด”
“โฮ นัทพูดซะสองกลัวเลย”
“นัทเขาไม่ได้พูดให้กลัวแต่พูดให้คิดทำอะไรแกคิดก่อนทำเจ้าสอง”
“หนึ่งอ่ะว่าสองอยู่เรื่อย”
“น้องนัท”
“ครับพี่พงษ์”
“นัทเข้าเมืองกับพวกพี่หมอหน่อยสิพอดีต้องติดต่อเรื่องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูความเรียบร้อยให้ส่วนพวกพี่จะดูแลทางนี้เอง”
“ตอนนี้เลยหรือครับ”
“ใช่ทุกคนรอนัทอยู่โทษทีนะพอดีพี่งานค้างอยู่ทางนี้แต่ถ้าทางเราไม่มีใครไปเลยมันจะน่าเกลียดรถจอดรออยู่หน้าอาคารพี่ฝาก
ด้วยนะ”พี่พงษ์วิ่งมาสั่งแล้ววิ่งจากไปทิ้งให้นัทต้องลำบากใจอยู่ไม่น้อยแต่มันคือหน้าที่นัทก็ต้องวิ่งไปขึ้นที่หน้าอาคารตามที่พี่
พงษ์บอก
“น่าสงสารนัทเนอะสองยังไม่เห็นนัทได้พักเลย กลับไปสองไปจัดการพี่รหัสนัทซะหน่อย....”สองบ่นสงสารเพื่อนตัวเล็กทัณฑ์
มองไปตามร่างเล็กที่วิ่งไปที่รถที่จอดรอมีไอ้พี่หมอที่เปิดประตูให้นัทเข้าไปนั่งแล้วก็ตามเข้าไปใหตายเถอะทำไมหัวใจเขามัน
รู้สึกเจ็บแปลบๆขึ้นมาทันที
“ทัณฑ์มึงเป็นอะไรวะหรือไม่สบายอีกแล้ว”
“เปล่า”
“ไม่สบายรีบบอกนะเว้ย”
“ไม่เป็นไร ขอบใจว่ะ”ทัณฑ์ที่เฝ้าแต่คิดเรื่องของนัทจนรู้สึกแย่รีบรวบรวมสติกลับมาสนใจงานที่อยู่ตรงหน้า
งานก่อสร้างคืองานหลักสร้างอาคารเอนกประสงค์หนึ่งหลังโรงอาหารหรึ่งหลังและห้องสมุดอีกหนึ่งหลังเป็นงานที่หนักมากเพราะ
ต้องแข่งกับเวลานักศึกษาบางคนก็เริ่มบนออกมาแล้วและแล้วการทำงานของวันนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดีทั้งที่ต้องเหนื่อยจากเดินทาง
มาไกลแล้วต้องมาเริ่มทำงานหนักตั้งแต่วันแรกแล้วยังอากาศที่ร้อนในเวลากลางวันพอเริ่มตกเย็นอากาศที่เริ่มเย็นขึ้นมาทันที
ทำให้หลายคนมีการป่วยตามมา
“ไอ้หล่อนั่นมันเป็นใครวะ”เจมส์พูดมาขณะที่ทุกคนกำลังนั่งล้อมวงกินข้าว
“สองได้ยินนัทบอกว่าเป็นผู้กองอะไรสักอย่างจะมาช่วยดูแลความปลอดภัยของพวกน่ะ”
“สองนี่เก่งนะรู้ไปทุกเรื่องเลย”
“อะไรนะนายที่พูดหมายความว่ายังนายว่าฉันสอดรู้สอดเห็นหรอ”
“ก็เปล่า”สองกับเจมส์พูดคุยกันอย่างสนุกคงมีแต่เท่าที่รู้ทัณฑ์ไม่ค่อยพอใจที่นายผู้กองคนนั้นทำตัวสนิทสนมกับนัทมากเกินไป
“ข้าวทุกจานอาหารทุกอย่างอย่ากินทิ้งขว้างเป็นของมีค่าผู้คนอดยากมีมากหนักหนาสงสารบรรดาเด็กตาดำดำ”เสียงท่องบทสวด
ก่อนทานข้าวดังขึ้นทุกคนก็พร้อมนั่งประจำที่หลังจากที่ทำงานมาเหนื่อยๆอาหารที่อยู่ตรงหน้ามันดูคุณค่ามาก
“ให้ตายเถอะกูไม่เคยกินข้าวที่ไหนอร่อยเท่าที่นี่มาก่อนเลยหิวจนมือสั่นกูนึกว่ากูลงแดง”
“เออ กูรู้คุณค่าของอาหารเลย”
“ไอ้นนท์กินไม่พูดไม่จาเลยท่าทางจะหิวมาก”
“เปล่ากูมีมรรยาทเวลากินข้าวเขาไม่ให้พูดเสด็จพ่อเสด็จแม่สอนมาดี”
“หรอ”ประสานเสียง
“ดีนะสองเอาขนมของกินมาด้วยอีกอย่างร้านขายของที่นี่ก็อยู่ตั้งไกล”
“สองแอบออกไปข้างนอกมาหรอ”
“เปล่านะหนึ่งสองถามเด็กนักเรียนที่เข้ามาเล่นที่โรงเรียนไงเด็กเขาเข้ามาเล่นกับสอง”
“อย่าซนนะถ้าซนมากหนึ่งจะบอกนัทให้จัดการ”
“งื้อ สองไม่ซนหนึ่งอย่าว่าสองสิ”ความมืดที่คลืบคลานมาแทนที่แสงสว่างไม่พอยังหอบเอาความหนาวเย็นพร้อมลมมาด้วย
กับข้าวมื้อเย็นผ่านไปด้วยความเงียบเพราะงานที่หนักทำให้ทุกคนหมดแรงไปตามๆกัน
“เหนื่อยว่ะ แล้วยิ่งกินข้าวอิ่มยิ่งง่วง”
“บ่นอยู่ได้ไอ้เอกเหนื่อยเป็นคนเดียวรึไงมึง”
“อ้าว นัทจังเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“แฮ่ ๆ สิบนาทีได้แล้วมั้งนัทเพลียน่ะเลยว่าแอบงีบเดี๋ยวมีกิจกรรมสันทนาการอีกนัทต้องประต่ออีกแล้วเห็นว่านัทต้องไปตลาดไปช่วยซื้อของอีก”
“นัทของสองสู้ๆนะ”สองเข้าไปสวมกอดนัทที่นั่งอยู่บนที่นอน ทุกคนจัดที่นอนให้เข้าที่สองนัทหนึ่งและเต็มสิบนอนด้วยกันเจมส์ทัณฑ์นนท์และเอกนอนฝั่งตรงกับนัท
“ทำไมเราไม่นอนฝั่งนั้นวะ”
“นอนฝั่งนี้กูจะมองเห็นเขา มึงคิดว่านอนฝั่งกูจะได้นอนใกล้เขารึไง”
“เออว่ะ แต่นั่งมองตรงนี้เห็นชัดเลยสิมึง”
“อืม”
“พวกมึงไปอาบน้ำว่ะกูเหนียวตัวดึกแล้วจะหนาวด้วย”
“ก็ดีกว่าจะเรียกรวมอีกครั้ง สองไปอาบด้วยกันไหม”สองหันมาแลบลิ้นใส่เจมส์แต่ก็เดินออกไปอาบน้ำพร้อมกัน ทุกคนปล่อยให้
นัทได้พักไม่มีรู้นัทนอนพักสายตาไปนานเท่าไหร่เขารู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงกลองที่ตีเป็นจังหวะพร้อมหัวเราะสลับกับเสียงปรบมือ
นี่เขาหลับไปนานแค่ไหน?นัทหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาสามสิบนาทีแล้วที่เขาหลับไป
“นัท ตื่นแล้วหรอ”
“อ่อเออครับ พี่หมอมีอะไรกับนัทรึเปล่า”
“เปล่าหรอกพี่แค่เดินดูความเรียบร้อยเฉยๆน่ะ เห็นว่ามีชาวค่ายบางคนป่วยด้วยว่าแต่นัทคงไม่ได้ป่วยหรอกใช่ไหม”ยังไม่ทันตั้ง
ตัวพี่หมอก็ใช้มือวางบนที่หน้าผากของนัทเบาๆนัทไม่ชอบพี่เขาเลยติดรำคาญด้วยซ้ำเขาคิดว่าแสดงท่าทางชัดเจนแล้วนะว่าไม่
ชอบแต่ทำไมถึงชอบจับโน่นจับนี่เขาอยู่เรื่อยทำท่าทางไม่พอใจยังยิ้มให้อยู่ได้หลังกิจกรรมทุกอย่างเสร็จสิ้นลงชาวค่ายต่างกลับ
ที่พักซึ่งแยกชายคนละฝากฝั่งยิ่งดึกอากาศยิ่งหนาวยิ่งที่ห่างไกลความเจริญไม่มีเสียงเครื่องยนต์มีเพลงเสียงแมลงตอนกลางคืน
ร้องแข่งกับเสียงใบไม้ใบที่เสียดสีกับแรงลมและเสียงพูดคุยกันของกลุ่มผู้ชายชาวค่ายผู้ใหญ่บ้านลูกบ้านจำนวนหนึ่งและตำรวจ
นอกเครื่องแบบกำลังนั่งเวรยามสลับกันพร้อมทั้งก่อไฟไล่ความหนาว
“นัทให้ทัณฑ์ไปเป็นเพื่อนไหม”นัทตกใจเล็กน้อยที่เดินออกจากเต็นท์จะไปอาบน้ำเห็นทัณฑ์ยืนรออยู่
“อื้ม รบกวนด้วยนะทัณฑ์ไม่ง่วงรึไงดึกขนาดนี้แล้วแล้วอากาศยังหนาวอีกตะหาก”
“เป็นห่วงเห็นนัทยังไม่เข้ามาเลยรอ กำลังจะเข้าไปเห็นนัทเดินออกมาก่อนเพิ่งประชุมเสร็จหรอ”
“ทัณฑ์สนุกไหมมาค่ายกับนัทนัทขอโทษนะที่ไม่มีได้คุยกับทัณฑ์เลยอีกอย่างนัทกลัวทัณฑ์เบื่อ”
“ไม่หรอก พรุ่งนี้เช้าให้ทัณฑ์ไปช่วยไหม”ทัณฑ์พูดแต่หันหน้าไปทางอื่น
“แล้วกลับไปนัทจะเลี้ยงหนังตอบแทนนะ”นัทบอกแล้ววิ่งเข้าไปอาบน้ำปล่อยให้ทัณฑ์ยืนใจเต้นด้วยความดีใจมันหมายถึงเดทรึ
เปล่านะทัณฑ์อดที่ยิ้มกับความคิดของตัวเองไม่ได้ทัณฑ์นั่งฟังเสียงน้ำตกกระทบพื้นเป็นระยะไม่นานคนตัวบางใบหน้าซีดก็โผล่
ออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมๆฉพาะของเจ้าตัวทัณฑ์อยากดึงนัทเข้ามากอดแต่กลัวว่ามันจะไม่ค่อยเหมาะ
“หนาวระสิเดี๋ยวก็ไม่สบาย ผ้าห่มอุ่นรึเปล่า”
“อุ่นนะ”
“งั้นให้ทัณฑ์นอนด้วยคนสิ”ทัณฑ์พูดยิ้มให้นัท
“บ้า”นัทรีบหลบหน้าทัณฑ์แล้วรีบเดินกลับเข้าไปในเต็นท์ทัณฑ์เดินตามนัทแล้วหัวเราะกับท่าทางน่าเอ็นดู
...................................................................
ไฟในเต็นท์นอนกับอาคารนอนถูกปิดลงหมดแล้วเสียงลงพัดกระทบกับผืนผ้าใบสีน้ำเงิน
“นัท นัท ตื่นได้แล้ว”ทัณฑ์ตั้งนาฬิกาไว้ตามเวลาที่นัทบอกแล้วเดินไปปลุกคนตัวเล็กที่กำลังนอนสบายโดยมีสองฝาแฝดขนาบ
ซ้ายขวาทัณฑ์หันไปทางขวารู้สึกแปลกใจกับภาพที่เห็นแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะไม่ใช่เรื่องของเขา
“อื้อ ทัณฑ์รอนัทแปป”ทัณฑ์ออกมายืนยืดเส้นยืดสายรอนัทด้านนอก
“เรียบร้อยแล้วหรอ เดี๋ยวก่อน”ทัณฑ์เรียกนัทให้หยุดแล้วสวมผ้าพันคอให้
“สวมไว้จะได้อุ่นๆ”
“ขอบใจนะ”
ทั้งๆที่เป็นช่วงปิดเทอมทำไมนัทต้องมาตื่นแต่เช้าขนาดนี้ด้วยนะโอ้ยคิดถึงที่นอนนุ่มๆอุ่นๆจังเลยแต่ก็รู้สึกดีใจที่มีโอกาสออกค่าย
อาสาถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตว่าแต่ตลาดที่จะซื้อของที่ว่านี่มันอยู่อีกไกลไหมเนี่ยผ้าผันคอนี่กลิ่นเดียวกับเจ้าของเลยนะ
“อ้าวเด็กๆลงได้แล้วลุงจะจอดลงตรงนี้นะอะไรที่หนักถือเอาทิ้งไว้ที่รถก่อน”ลุงคนขับรถบอกทุกคนจากนั้นหัวหน้าก็แบ่งหน้าที่ไป
ซื้อของไม่นานของที่ต้องการก็เต็มรถยังพอมีเวลาทุกคนได้เวลาเดินเที่ยว
“ทัณฑ์ซื้ออะไรน่ะ”
“ของใช้กับอาหารเสริมมาให้คนแถวนี้เดี๋ยวป่วยแล้วอดไปดูหนังฟรี”คำพูดของทัณฑ์ทำให้นัทยิ้มออกมาทันที
ระหว่างทางตอนที่ออกมาจากค่ายท้องฟ้ามืดสนิทไม่มีแสงไฟแต่ตอนขากลับมองเห็นแสงตะวันอยู่ไกลๆปลายขอบฟ้าหมอกยาม
เช้ายังปกคลุมความหนาวเย็นยังคงอยู่มันช่างเป็นภาพและความรู้สึกที่น่าจดจำเสียจริง
.......................................................................................
ใกล้จบแล้ว ใกล้จบแล้ว
โปรดติดตามตอนต่อไป