me die
18 : แฟน (ทาม x ติวเตอร์)
“เล่นกันแบบนี้ใช่ไหม ถ้านายต้องการตัวผมนัก ผมจะจัดให้นายเอง ทาม” ห้าง z
“น้องติวเตอร์มีอะไรจะบอกพี่ทามหรอครับ ถึงได้นัดออกมาทานอาหารกันสองคนแบบนี้”
น้ำเสียงที่หยอกเย้าอีกฝ่ายดังออกจากปากทาม เมื่อติวเตอร์มาถึงร้านอาหารที่ตนเป็นคนนัดไว้ หน้าตายิ้มแย้มที่ดูเหมือนดีใจซะเว่อร์ ทำให้ติวเตอร์ถึงกับแบะปาก หันหน้าหนีด้วยความหมั่นไส้
“ผมมีเรื่องที่จะต้องตกลงกับนาย”
ติวเตอร์หันกับไปมองทาม ทำสีหน้าจริงจัง แล้วเอ่ยออกไป
“เรื่องอะไรครับ อ่อ เรื่องนั้นสินะ หวังว่าคำตอบคงจะเป็นที่น่าพอใจสำหรับพี่”
ทามอมยิ้ม ตาหนีพูดทีเล่นทีจริงตามเดิม
“ผม..ผมต้องการ ให้นายช่วย..”
“อ๊ะ ขอร้องพี่ดีๆสิครับ แล้วก็ช่วยเรียกพี่ว่า พี่ทาม ลงท้ายด้วยคำว่า ครับ ด้วยสิที่รัก พูดไม่เพราะระวังพี่ไม่ช่วยนะ ^^”
ติวเตอร์ยังพูดไม่ทันจบประโยคก็โดนทามพูดแทรกขึ้นมา เมื่อฟังจบติวเตอร์โมโหจนหน้าแดงแต่ก็กัดฟันทนไว้ เบือนหน้าหนีไม่อยากมองใบหน้าที่ยิ้มยียวนกับท่าทางที่มีชัยเหนือตนเองนัก
“แหม่ หน้าแดงเชียว ไม่ต้องเขินพี่หรอกครับที่รัก คนกันเอง หึหึ”
ยิ่งเห็นติวเตอร์แสดงสีหน้าไม่พอใจตน ทามก็ยิ่งอยากแกล้งให้โมโหเข้าไปอีก เรียกใบหน้าแดงๆที่น่ารักมากกว่าน่ากลัวให้ยิ่งแดงมากขึ้น
“ผม..ต้องการ..ให้ พี่ เอ่อ พี่ทาม ช่วยเหลือ อึก ครอบครัวของผมฮะ”
ติวเตอร์พูดติดๆขัดๆ กัดฟันพูดแน่นจนปวดไปหมด หน้าแดงด้วยความโมโหและความอาย ที่จะต้องมาขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่ชอบขี้หน้าและทั้งๆที่เป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของเขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากแบบนี้เองแท้ๆกลับมานั่งยิ้มสบายใจอยู่ตรงหน้านี่ได้
“หึหึ น้องติวเตอร์รู้รึเปล่าครับ ว่าเงื่อนไขคืออะไร”
รอยยิ้มมุมปากของทามพุดขึ้นแล้วเลือนหายไปแทนที่ด้วยใบหน้าและรอยยิ้มยียวนเหมือนเดิม เมื่อได้ยินอีกฝ่ายที่ยอมอ่อนข้อจนต้องยอมทำตามคำที่เขาบอกทุกอย่าง
“ระ รู้ฮะ”
ติวเตอร์พยักหน้าเข้าใจในความหมาย มือกุมกันแน่นเกร็งไปทั้งตัว ในใจอยากจะชกหน้าแล้วตาว่าให้หายโมโห แต่ก็ต้องได้แต่อดทน เขาคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยครอบครัวได้ แล้วถ้าจะถามว่าทำไมต้องยอมทำตามก็เพราะอำนาจทางสังคมของพวกมันบีบบังคับไม่ให้ใครช่วยเหลือครอบครัวของผมเพราะข่าววงในบ้าๆนั่น ทั้งยังซื้อคนของพ่อผมด้วยอำนาจเงินที่มากกว่าไปอีก ทางนี้คงเป็นทางเดียวที่ผมจะแก้แค้นได้ละมั้ง รวมถึงเรื่องที่ผมได้ยินมา ถ้าผมไม่ทำซะเอง พ่อของผมคงจะเดือดร้อนแน่ๆ ผมรักพ่อมาก เราเหลือกันอยู่แค่สองคน ผมจะข่วยเหลือพ่อบ้าง
“งั้นพี่่ทาม จะยอมช่วยนะครับ ถ้า น้องติวเตอร์ทำตัวเป็นแฟนที่ดีของพี่”
“แฟน!”
ติวเตอร์ตกใจตาโต ตะโกนเสียงดังจนคนรอบข้างหันมามอง เมื่อรู้ตัวจึงหันไปก้มหน้าขอโทษขอโพยคนอื่นเป็นการใหญ่
“ใช่ครับ แฟน ไหนว่ารู้ข้อตกลง หึหึ แต่ต้องทำให้พี่เชื่อนะ แต่ถ้าพี่ไม่เชื่อ...คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น เอาล่ะ! ตอนนี้น้องติวเตอร์ช่วยไปดูหนังกับสักเรื่องก่อนละกัน”
“เดี๋ยว ผมอยากรู้เงื่อนไข”
“หึ ครับ งั้นฟังดีๆพี่จะบอกคร่าวๆละกันนะ น้องติวเตอร์จะต้องไปอยู่บ้านพี่เป็นเวลา 3 เดือน”
“ฐานะอะไร”
“นางบำเรอ!”
“อึก!”
“ไม่รู้แล้วยังจะมาขอ แล้วยังไง ยังเหมือนเดิมอยู่ไหมครับ”
“มะ เหมือนเดิม ผมยอมรับเงื่ิอนไขนั่น”
“งั้นก็ดีครับ ไปกันได้รึยัง”
ใบหน้าทามยังยิ้มดั่งผู้ชนะตลอดเวลาดวงตาแพรวพราวดูเจ้าเล่ห์ ต่างจากติวเตอร์ที่หน้าซีดเผือด ได้แต่ยอมรับ พยักหน้าตกลง แต่ในใจแค้นมากจึงได้แต่กัดฟันทนจนปวดไปหมด หน้าแดงก่ำด้วยความโมโหและอาย อยากจะลุกหนีไปแต่ทำไม่ได้ ว่าแล้วทามก็ลุกขึ้นยืน ยื่นมือออกไปหาติวเตอร์ รอให้อีกฝ่ายจับ
“มือครับที่รัก เราจะได้ไปกัน”
เมื่อติวเตอร์ไม่เข้าใจ ทามจึงเอ่ยออกไป พร้อมกับพยักหน้าด้วยสายตากึ่งบังคับ ติวเตอร์จึงจำเป็นต้องยื่นแขนของตนออกไปจับกับคนตัวสูงกว่ามากช้าๆ ทามจึงลากแขนติวเตอร์ออกนอกร้านไปทันทีที่ยอมจับมือ โดยที่ไม่ลืมวางเงินไม้บนโต๊ะก่อนออกไป
“เดี๋ยวสิ ผมยังพูดไม่จบนะ”
ระหว่างที่เดินไป ติวเตอร์ขืนตัวไว้ได้ในที่สุด แล้วรีบพูดอย่างรวดเร็ว เมื่อทามได้ยินจึงหยุดชะงักแล้วหันหน้ามาฟังติวเตอร์พูดอีกครั้ง ด้วยท่าทีสบายๆตามแบบตน ตาคมมองติวเตอร์นิ่งๆ รอฟังอีกคนพูด
“ผม มีเงื่อนไขอื่นอีก”
ติวเตอร์ที่มัวแต่อ้ำอึ้ง ทำสีหน้าลำบากใจที่จะพูด หลบสายตาเขาไปมาอย่างระแวงกลัวจะโดนดุ ทามยกยิ้มมุมปากพอใจและนึกขำกับท่าทางเด็กๆของอีกฝ่าย จึงพูดขึ้นเป็นเชิงอนุญาต แล้วก็ได้ผลติวเตอร์ดูผ่อนคลายขึ้น
“เอ่อ...ข้อแรก พี่ พี่ทามห้ามเรียกผมว่าที่รักและชมว่าน่ารักทั้งก่อนและหลังวันนั้น”
จู่ๆแก้มใสๆของติวเตอร์เปลี่ยนเป็นสีอมชมพูเมื่อตนพูดจบ หันใบหน้าหนีไปอีกข้าง ติวเตอร์ไม่เคยชอบพวกนี้เลย ไม่ว่าจะที่รักหรือน่ารักก็ตาม เพราะเขามักจะเขินอายเสมอ ทามได้มองอีกฝ่ายนิ่งๆอย่างตะลึงเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกครั้งจะมีแต่ทำหน้างอไม่ก็โมโหใส่เขาตลอดเวลา
“อ๊ะ ตะ ตกลงไหมฮะ พี่ ทาม”
เห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปจึงหันกลับมา สบตากับตาคมของทามพอดี จึงสะดุ้งแล้วตะโกนถามทามอีกครั้ง ซ่อนใบหน้าอมชมพูของตนด้วยใบหน้าหงิกไม่พอใจเช่นเดิม รอยยิ้มแสดงความพอใจถูกยกขึ้นมุมปากทาม แล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มหล่อแบบเดิมแบบที่สาวๆมักเรียกว่ายิ้มใจละลาย มองคนตัวเล็กกว่าที่หลบสายตาไปมา
“อืม...ข้อนี้ พี่จะพยายามไม่เรียกน้องติวเตอร์ว่าที่รักอีก แต่ก่อนอื่นน้องติวเตอร์ต้องแทนตัวเองด้วยชื่อ รวมทั้งถ้าน้องติวเตอร์ลืมเรียกพี่ว่า พี่ทาม ลืมคำลงท้าย และหลุดคำหยาบที่ทำให้พี่หัวใจดวงน้อยๆของพี่สั่นกลัวออกมาละก็ พี่จะทำโทษน้องติวเตอร์ด้วยวิธีการของพี่ตกลงไหมครับ”
“เหอะ หัวใจดวงน้อยๆหรอ พูดออกมาได้นะตัวยังกับยักษ์ ถ้าเป็นเด็กตัวเล็กๆน่ารักๆก็ว่าไปอย่าง แล้วคนอย่างพี่หรอจะสั่นกลัวผม ไม่มีทาง”
ติวเตอร์ถึงกับเบะปากเมื่อฟังทามพูดจบ อดที่จะแขวะกับไปไม่ได้
“อ๊ะๆ ไม่ทันไร ก็ผิดคำพูดซะแล้ว พี่ทำโทษเลยดีไหมนะ”
ทามทำท่าโน้มใบหน้าหล่อที่มีรอยยิ้มกวนประสาทติวเตอร์ยิ่งนักลงมาใกล้ ใบหน้าที่อมชมพูของติวเตอร์หายไปแทนที่ด้วยการทำหน้างงๆปนไม่พอใจกับการกระทำของอีกฝ่าย ใบหน้าหล่อที่มีรอยยิ้มมัดใจสาวๆหนุ่มๆมานักต่อนักถูกก้มลงแทบชิดกับใบหน้าใสของติวเตอร์ ใกล้ขึ้นๆ จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของอีกฝ่าย ติวเตอร์ได้แต่ตาโต เกร็งไปทั้งตัว ทำอะไรไม่ถูก หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นตกใจ
ทามพ่นลมหายใจอุ่นๆของตนออกทางจมูกไล่ตั้งแต่จมูกเล็กๆไปยังแก้มใสโดยตั้งใจให้ติวเตอร์ตกใจตกใจเล่น แล้วเลื่อนใบหน้าตนไปกระซิบเบาๆที่ข้างหูของติวเตอร์
“เอาเป็นว่าครั้งนี้ปล่อยไปก่อนล่ะกันนะครับคนดี หึหึ”
“อ๊ะ ปล่อยผม! ไม่ หยุดอยู่นั้นนะ แค่จะพูดว่า ปะ ปล่อยเตอร์นะฮะ!”
พอตั้งสติได้จึงผลักทามให้ออกห่าง ใบหน้าใสขึ้นสีชมพูจางๆอีกครั้งที่ข้างแก้มโดยไม่รู้ตัว พูดผิดจนทามทำท่าจะเดินเข้ามาหาอีกครั้ง จึงรีบแก้ใหม่พร้อมถอยกายหนีทันที
“แค่นี้ใช่ไหม เราจะได้ไปดูหนังกันสักที”
“ยังฮะ ข้อ2 ช่วยพยายามห้ามถูกเนื้อต้องตัวผมจนกว่าจะถึงวันนั้น รวมทั้งแบบเมื่อกี้ด้วย”
ติวเตอร์เงยหน้าขึ้นมองสบตากับทามแล้วจึงหันหนีด้วยความอายเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ ได้แต่หันไปมองด้านอื่น
“พี่ว่าพี่จำเป็นต้องถูกเนื้อต้องตัวน้องติวเตอร์เพราะน้องติวเตอร์ต้องเป็นแฟนให้กับพี่ ดังนั้นพี่ไม่รับปาก พูดข้ออื่นมาได้เลย”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ครับ เว้นแต่ว่าน้องติวเตอร์ไม่ต้องการความช่วยเหลือ”
ทามทำท่าสบายๆไม่สนใจท่าทีของติวเตอร์ที่ไม่พอใจ คิ้วที่ขมวดมุ่น ปากจู๋ยื่นออกมาเมื่อคนตัวเล็กชอบทำเมื่อถูกขัดใจอะไรสักอย่าง ทามจ้องมองปฏิกิริยาอีกฝ่ายนิ่งๆอย่างสนใจ
“งั้นข้อ3 เมื่อครบ3เดือนตามข้อตกลง ครอบครัวของเตอร์ต้องเหมือนเดิมทุกอย่าง และทั้งพี่ทั้งครอบครัวต้องเลิกยุ่งวุ่นวายกับเตอร์และครอบครัวของเตอร์อีกเด็ดขาด!”
“อืม..ข้อนี้พี่ทามตกลงแน่นอนครับ ไม่ต้องห่วงไป ระยะเวลาตั้ง3เดือนที่น้องติวเตอร์ต้องมารับใช้พี่ ร่างกายของติวเตอร์คง...”
ทามเหลือบตามองต่ำลงไปที่บั้นท้ายของติวเตอร์นิ่งๆ ติวเตอร์มองตามไปก็รู้ว่าอีกฝ่ายถึงอะไร ‘คงจะว่าเขาหลวมสินะ คนอย่างมันนี่น่าโมโหจริงๆ หยาบคายชะมัด’ แต่ก็ได้แค่คิดในใจไม่กล้าต่อว่าออกไป
“พี่ก็คงเบื่อแย่แล้วแหละ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวไป บางทีถ้าพี่เบื่อติวเตอร์เร็วมันก็คงจบเร็วไปด้วย ส่วนเรื่องธุรกิจของพ่อๆก็ปล่อยให้เขาไปเคลียร์กันเอาเองอีกทีละกันโดยไม่มีเรื่องของเราไปเกี่ยวอีก เงื่อนไขทั้งหมดตามนี้ถ้าไม่ตกลง พี่ไม่ช่วย”
“ได้ฮะ ตามนั้น”
“แต่ว่านะ กฎมันเยอะเกินไป บางทีข้อ2อาจจะต้องตัดทิ้งไปเลยนะ ถ้าน้องติวเตอร์อยากให้พี่รู้สึกว่าเราเป็นแฟนจริงๆละก็คงต้องยอมเปลืองตัวกันหน่อย”
ว่าจบทามก็หันหลังเดินนำไปก่อน มือล้วงกระเป๋าด้วยท่าทีสบายๆ อีกข้างยกขึ้นหยิบแว่นตาสีชามาสวม
“เท่ห์ตายแหละ บู่”
ติวเตอร์ทำปากจู๋ยื่นออกไปให้คนที่เดินนำไปก่อนอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เอาล่ะ ฮึบ สู้ๆติวเตอร์ ละครฉากใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว”
มือบางกำยกขึ้นสูงระดับหน้าอก ให้กำลังใจตนเอง แล้วจึงวิ่งตามไปจนทัน สองมือบางของติวเตอร์คว้าหมับเข้าที่แขนแข็งแกร่งของทามแล้วเดินนวยนาดออกไปด้วยกัน
.
.
.
‘แตงโม นั่นพี่ทามของเธอรึเปล่า ไหนว่าคั่วกันอยู่ไง ทำไมมากับคนอื่นซะล่ะ’
‘นั่นสิยะ แล้วเด็กนั่นก็หน้าตาน่ารักซะด้วยสิ ถึงจะเป็นเด็กผู้ชายก็เถอะ’
‘ว่าไงนะ! พวกเธอพูดบ้าอะไร ทามกับฉันรักกันหวานชื่นจะตาย เมื่อวานนะเราทั้งคู่ยังขึ้นสวรรค์กันอยู่เลย’
‘นู้นไง/หันไปดูสิยะ’
กรี๊ดดดด
[Tuter part]
ตอนนี้เราทั้งคู่มาอยู่กันที่หน้าโรงภาพยนตร์แล้วครับ ผมก็เดินเกาะแขนไอ้พี่ทามมาตามเงื่อนไขทาสนั่น บทละครบทนี้ผมคงเหนื่อยเอามากๆแต่ก็คงได้แค่ทนรอให้มันจบๆไป ถ้าทำได้ดีแล้วพี่มันตกลง ผมก็ทนไปอีก3เดือน พ่อของผมก็คงจะมีความสุขมากกว่านี้ ท่านเหนื่อยเพราะผมมาเยอะแล้ว เพราะฉะนั้น แค่นี้ผมทำได้ แค่ทำตัวให้สบายไม่ต้องคิดมาก เฉยไปซะพี่มันก็ไม่ค่อยแกล้งผมเท่าไหร่ คงแค่อยากเอาชนะมากกว่า
“อยากดูเรื่องอะไรครับติวเตอร์”
“พี่มีแนะนำไหม ผมไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่ช่วงนี้”
“หนังผีไหมครับ”
“ทำไมต้องหนังผี พี่ชอบดูหรอ”
“ก็เปล่า แค่เวลามากับสาวๆพวกเธอชอบดูหนังผี เพราะเวลาตกใจก็ชอบมาซบไหล่พี่ สนใจไหมล่ะ พูดกันทั้งนั้นว่ามันอบอุ่นมาก”
“เชิญมโนไปคนเดียวเถอะฮะ ถ้าพี่ไม่เลือกผมเลือกที่ชอบนะ”
“เรื่องอะไรครับ”
“The Jungle Book 2016 ฮะ”
“เมาคลี?”
“ฮะ ทำไม ไม่ชอบหรอ”
“เปล่า พี่แค่แปลกใจ แต่ก็เหมาะดี”
นั่นเป็นอีกบทสนทนาที่ผมกับไอพี่ทามคุยกันอย่างปกติมากที่สุด พี่มันก็กวนประสาทผมไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือหน้าตาท่าทาง ไม่รู้ว่ามีความสุขมากนักรึไงก็ไม่รู้ ผมต้องทำตัวสบายเข้าไว้ เล่นละครให้สมบทบาทๆ
“พี่ทามฮะ รู้จักผู้หญิงคนนั้นรึเปล่า”
จู่ๆได้ยินเสียงคนกรีดร้องแว่วๆผมจึงหันไปมอง แต่ดันเจอผู้หญิงแต่งตัวเปรี้ยวหน้าตาสวยคนหนึ่ง เธอเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าไม่พอใจผมอย่างแรง เพราะอะไรน่ะหรอ ก็คงเพราะไอคนข้างตัวผมละมั้งเห็นพูดบ่อยๆว่าตัวเองกิ๊กเยอะ ให้ผมจัดการเอาเอง เหอะ ตาโตๆที่กรีดมาสคร่ามาซะเข้มของเธอจิกมาที่ผม ถ้าสายตาเธอเป็นมีดผมคงโดนเธอแทงเป็นรูพรุนไปทั้งร่างกายแล้วแหละ
“ไหนครับ อ่อ...คู่นอนคนล่าสุดของพี่เองครับ”
ไอพี่ทามพูดไปยิ้มไปหลังจากหันไปมองหน้าเธอคนนั้นแล้วหันกลับมาหาผม ถ้าไม่บีบให้ต้องขอร้อง ผมล่ะอยากกระทืบพี่มันตรงนี้จริงๆ แต่ผมก็ได้แค่คิดแหละ
“ทามคะ แตงโม กำลังจะโทรฯหาทามพอดีเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่ บังเอิญจัง เมื่อคืนแตงโมมีความสุขมากเลยนะคะ แล้ว..คืนนี้แตงโมว่างอีกแล้วนะคะ ถ้าทามสนใจ...”
เธอเดินเข้ามาแล้วคว้าหมับที่แขนไอพี่ทามอีกข้าง พูดไปออเซาะไปเบียดหน้าอกตูมๆสมกับชื่อเข้ากับแขนข้างนั้น ส่งสายตาหวานยาดเยิ้มให้กัน ผมว่าใจจริงเธอคงอยากเบียดผมให้ออกจากไอพี่ทามมากกว่าแต่ก็คงจะดูจงใจเกินไป ผมจึงปล่อยมือออกจากแขนพี่ทาม ทำหน้านิ่งๆเข้าไว้เดี๋ยวรู้กันหมดว่าผมรำคาญ แล้วหันหลังจะเดินหนีไปที่อื่นก่อนสักพัก
“ผมขอตัวสักครู่นะฮะ เชิญคุยกันตามสบาย”
“เดี๋ยวครับน้องติวเตอร์ จะรีบไปไหนครับ จัดการไล่เธอสิในฐานะแฟนของพี่”
พี่ทามคว้าแขนผมไว้ แล้วก้มลงกระซิบเบาๆที่หูในประโยคท้าย เลวจริงๆนั่นเป็นคำพูดที่ผมฟังแล้วถึงกับสะอึก เมื่อผมหมดประโยชน์ก็คงจะต้องโดนแบบเธอคนนี้สินะ
“ให้ผมไล่เธอเนี่ยนะ พี่นี่เลวจริงๆ ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงนะผมไม่ทำหรอก”
“ไม่ทำก็ตามใจ ยังไงพี่ก็ยังไม่ได้ตกลงจะช่วย พี่ไม่เดือดร้อนอยู่เเล้ว”
“หึ่ย! ก็ได้ ผมจะทำ”
“เดี๋ยว ครับ รู้ตัวหรือเปล่าครับว่าหลุดคำหยาบออกมา ไหนจะลืมแทนชื่อตัวเองอีก ไว้ค่อยว่ากันนะ”
ไอพี่ทามกระซิบที่ข้างหูของผม สีหน้ายิ้มแย้มนั่นคืออะไร เหอๆ ผมได้ยินขำกับตัวเองเบาๆ นี่ผมต้องเล่นบทร้ายสินะ แล้วไอพี่ทามก็เงยหน้าขึ้นหันไปยิ้มหวานให้กับเธอคนนั้น น่าหมั่นไส้ซะจริง
“มีอะไรกันรึเปล่าคะ แล้วนี่ใครหรอคะทาม น้องชายหรอ”
เธอทำหน้าสงสัยเอียงคอถามไอพี่ทามอย่างน่ารัก หันมามองทางผมแต่สายตาเสียดแทงซะเจ็บปวด ผมถึงกับสะอึก เอาก็เอา แปปเดียวเดี๋ยวมันก็จบ ผมจะเล่นละครตามที่พี่อยากเองไอพี่ทาม ผมเดินไปเกาะแขนพี่ทามเอาหัวเอนไปซบไหล่กว้างนั่น เอียงคอขึ้นมองพี่ทาม ส่งสายตาเศร้าๆไปบ้าง
“ทำไมกิ๊กพี่เยอะแบบนี้เนี่ย ผมเหนื่อยนะ”
ผมแกล้งทำหน้างอ ยกมือตีไปที่แขนพี่ทามแรงๆแกล้งงอนซะหน่อย ได้เอาคืนให้พี่มันเจ็บตัวก็ดีเหมือนกันนะ ผมยิ้มให้ตัวเองอย่างพอใจ แล้วก็เงยหน้ามองเธอที่ทำหน้าลุ้นซะ แล้วตัดสินใจเล่นบทต่อไป ในใจเธอคงกำลังสาปแช่งไม่ก็กำลังด่าไล่ผมทางสายตาแน่เลย ดุน่ากลัวซะมัดเลย
“ผมไม่ใช่น้องชายพี่ทามหรอกฮะพี่สาว แต่เป็นแฟนต่างหาก แล้วผมก็ไม่พอใจมากที่พี่สาวมาเกาะแกะแฟนผม พี่สาวก็สวยนะฮะ แต่ทำไมต้องมาแย่งของของคนอื่นด้วยล่ะฮะ พี่ทามเป็นของผม พี่สาวควรจะเลิกเข้ามาวุ่นวายได้แล้วนะฮะ ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ เราสองคนรักกันมากนะฮะ แต่ผมก็เข้าใจที่พี่ทามมีกิ๊กเพราะผมบอกเองแหละว่าผมยังไม่พร้อมเรื่องเซ็กส์ คงเข้าใจนะฮะว่าผมหมายถึงอะไร ยังไงผมก็ตัวจริง เข้าใจไว้ด้วยนะฮะ”
ผมพูดออกไปไม่ดังนัก ก็กลัวเธออายเหมือนกัน ยังไงก็ผู้หญิง อย่าหาว่าผมใจร้ายเลยนะ แต่มันต้องม้วนเดียวจบ แค่นี้ผมก็เกร็งจะแย่แล้ว พูดไปมือจิกมือตัวเองไป ถึงจะทำใจกล้า ยืนเผชิญหน้ากับเธอแต่ข้างในมันสั่นไปหมดแล้ว ‘อยากให้รีสพาออกไปจากตรงนี้จัง’
“กรี๊ดดดดด อะไรกันทาม ทำไมไอเด็กนี่พูดจาร้ายกาจเเบบนี้คะ แล้วทำไมมันอ้างว่าเป็นแฟนของทามล่ะคะ เรามีความสุขกันมากนะคะทาม ไอเด็กบ้านี่มันเป็นผู้ชายนะคะ ทามคะ ตอบแตงโมมานะคะ!”
เธอที่ดูช็อกไป ทำตาโตเมื่อฟังผมพูดจบ ริมฝีปากสีแดงจัดกรีดร้องออกมาเสียงดังจนคนละแวกนี้หันมามองกันใหญ่ ปากเธอโวยวายลั่น ตาโตๆที่กรีดมาสคร่าเข้มมองจิกมาที่ผม แขนเธอก็เกาะแขนพี่ทามแน่นพร้อมเขย่าแรงๆไปด้วย หน้าเธอแดงไปด้วยความโกรธและอาย จนผมรู้สึกผิด ผมจึงปล่อยมือจากแขนพี่ทาม ก้มหน้าลงกัดปากล่างตัวเองจนเลือดซิบ
“ทามคะ! อย่าเงียบนะ บอกแตงโมมาเดี๋ยวนี้!”
“อย่างที่แฟนพี่พูดเลยครับแตงโม”
“กรี๊ดดดด ทำไมล่ะคะทาม เด็กบ้านี่มันดีตรงไหนคะ ไหนทามบอกว่าชอบแบบแตงโมไงคะ อกตูมๆแบบนี้สเปคทามไม่ใช่หรอคะ แต่นี่มันเด็กผู้ชายชัดๆนะคะไม่มีแม้แต่หน้าอก ทำไมทามถึงบอกว่าเป็นแฟนได้ ทั้งๆที่ทามไม่เคยคิดจะคบกับใครจริงจังเลยล่ะคะ”
ผมเงยหน้ามองเธออีกครั้ง หน้าเธอดูแดงไปหมดอย่างหน้าสงสาร ผม เล่นแรงไปรึเปล่านะ แต่ ผมถอยไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าใจอ่อนทั้งๆที่เพิ่งเริ่มต้นสิติวเตอร์ ละครเรื่องนี้ยังอีกยาวไกล
“พี่ทามฮะ เตอร์ไม่อยากดูหนังแล้ว”
“อ่า พี่ขอตัวนะครับแตงโม ไปกันเถอะครับน้องติวเตอร์”
ว่าจบผมก็เดินลากแขนไอพี่ทามออกมาจากตรงนั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่ผมไม่ต้องเข้าไปนั่งดูหนังกับไอพี่ทามกันสองคน เธอก็ได้แต่กรีดร้องโวยวายเสียงดังลั่น จนคนรอบข้างหันมามองมากขึ้น ไอ้พี่ทามก็เอาแต่ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูเดินลอยหน้าลอยตาไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร แตกต่างจากผมที่กัดริมฝีปากตัวเองแน่น ต้องจบเร็วๆ ต้องจบเร็วๆ
“เดี๋ยวสิคะทาม เรายังเคลียร์กันไม่จบเลยนะคะ ทามคะ!”
“อ่อ เดี๋ยวฮะพี่ทาม... พี่สาวฮะ เป็นไปได้อย่าติดต่อกับพี่ทามอีกเลยนะฮะ เพราะพี่ทามคงเบื่อพี่แล้ว อีกอย่างพี่ทามมีผมเป็นเเฟนอยู่แล้วคงไม่ต้องการพี่สาวอีก เรารักกันมากฮะ ขอโทษนะฮะพี่สาว”
เธอโวยวายเสียงดััง ทำท่าจะเดินตามมา ผมหยุดเท้าไว้แล้วหันกับไปมองพูดกับเธออีกครั้ง เพราะเรื่องมันต้องจบเร็วๆ กับคำพูดขอโทษในประโยคสุดท้ายที่ผมพูดออกไปจากใจ แต่เธอคงไม่เข้าใจ แล้วผมก็ตัดสินใจเดินควงไอพี่ทามเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ผมคงไม่กล้ามาแถวนี้อีกนานเลย น่าอายชะมัด แถมรู้สึกผิดเอามากๆ
.
.
.
เดินออกมาได้สักพัก ผมก็สะบัดแขนพี่ทามทิ้งถูมือไปมาอย่างรังเกียจ เพราะพี่ทามคนเดียวผมถึงต้องทำร้ายจิตใจคนอื่นแบบนี้ พี่ทามก็หยุดเดินแล้วพูดออกมา หน้าตายิ้มแย้มมีความสุขเว่อร์จนน่าหมั่นไส้ พูดเเขวะผมออกมา
“หึหึ เล่นพี่อึ้งไปเลยนะครับเนี่ยที่น้องติวเตอร์เล่นได้ขนาดนี้ พี่เกือบเชื่อเลยนะครับว่าน้องติวเตอร์รักพี่จริง และหวงพี่มาก แล้วแบบนี้พี่ก็คงอดกินเธออีกเลย แตงโมเธอเด็ดซะด้วย”
“งั้้นหรอฮะ ก็ดี พี่จะได้ตกลงช่วยผมเร็วๆไง แล้วช่วยพูดถึงคนอื่นดีๆหน่อยได้ไหมครับ เธอเป็นผู้หญิงควรให้เกียรติเธอบ้างสิฮะ”
ผมยิ้มหวานส่งไปให้พร้อมคำพูดที่จงใจประชดประชัน
“เดี๋ยว! นี่หยุดนะ! พี่ทามจะลากผมไปไหน”
จู่ๆพี่ทามก็หยุด หันมามองหน้าผมนิ่งๆ แล้วคว้าหมับเข้าที่แขนข้างซ้ายผม ออกแรงกระชากให้ผมเดินตามไปจนเจ็บแขนไปหมด
“พี่ทามฮะ! ปล่อยผมนะ ผมเจ็บ! จะพาผมไปไหน”
“พี่ก็พาเด็กดื้อไปลงโทษไงครับ รู้ตัวรึเปล่าว่าทำผิดอะไรไว้ตั้งเยอะ”
“เดี๋ยวฮะ ผมทำผิดอะไรพี่ก็พูดมาสิ ทำไมต้องลากมาแบบนี้ด้วยเล่า มันเจ็บนะ เดี๋ยวสิ จะผลักผมเข้าไปทำไม!”
ปึง!!
พี่ทามลากผมมาถึงห้องน้ำ มือก็ผลักประตูหาห้องที่ว่าง เมื่อเจอก็เหวี่ยงผมเข้าไปด้านในห้องส้วมอย่างแรง จนตัวผมเซไปนั่งอยู่บนส้วม เจ็บชะมัด
แกร๊ก!!
“พี่จะเข้ามาทำอะไร แล้วทำไมต้องล็อคประตูด้วย ปล่อยผมออกไปนะ ถ้าอยากเข้าห้องน้ำก็เข้าไปคนเดียวสิ หลบ! ผมจะออก!”
เมื่อได้ยินเสียงล็อคประตูผมก็รีบหันไปมอง ดันตัวเองขึ้นก้าวขาจะออกไปด้านนอก มือก็ผลักพี่ทามออกให้พ้นทาง
พี่ทามคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของผมขณะที่ผมกำลังผลักพี่มันออก สายตาเจ้าเล่ห์กับรอยยิ้มแปลกๆนั่น ทำให้ผมทำตัวไม่ถูก ได้แต่ขมวดคิ้วแน่น พี่ทามดันตัวผมให้ชิดผนังห้องน้ำ โดยเอาตัวใหญ่ๆของตัวเองดันตามมาด้วย เพื่อกันให้ผมหลบออกไปได้ ตามด้วยใบหน้าของพี่แกที่ก้มลงมาอย่างจงใจ บดเบียดปากหนาลงกับปากผมอย่างรวดเร็ว ผมได้แต่ตกตะลึงไม่คิดว่าพี่มันจะทำแบบนี้
“อื้อออออ อ่อย อ๋มนะ อ๋มเอ็บ” (ปล่อยผมนะ ผมเจ็บ)
พี่ทามถอนปากออกมองที่ริมฝีปากผม พูดขึ้นเบาๆ แล้วก้มหน้าลงมาใกล้ผมอีกครั้ง จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจ
“เเฮ่ก จะ จูบผมทำไม”
ใบหน้าผมตอนนี้ร้อนไปหมด คงจะแดงมากแน่ๆไม่รู้ว่าเพราะจะหมดอากาศหายใจเพราะโกรธหรือเพราะอายกันแน่ จูบแรกของผม ทำไมต้องเป็นคนแบบนี้นะ
“อ่า ไม่รู้ตัวหรอครับว่าทำผิดอะไร”
พี่ทามยังคงยิ้มแย้มจนหน้าหมั่นไส้เหมือนเดิม ใบหน้านั่นก็ยังคงก้มมาเรื่อยๆทำท่าจะจูบผมอีกครั้ง ผมจึงเบือนหน้าหนีตะโกนต่อว่าออกไป มือก็ผลักพี่ทามออกห่างจากตัว ดันตัวเองให้หลุดจากอ้อมแขนพี่ทาม
“อะไรเล่า! นี่! ปล่อยผมนะ”
“อื้อ อ่อยน้า”
ผลัก!
พี่ทามเบียดตัวเข้าหาผมมากขึ้น จนผมขยับไม่ได้แล้ว ผมจึงรวบรวมแรงแล้วผลักพี่ทามออกห่างจากตัวอีกครั้ง ดันตัวเองออกจากผนังสำเร็จ แต่อยู่คนละด้านกับประตู มือก็ยื่นดันพี่ทามเอาไว้ตลอดเพราะพี่ทามขยับเข้ามาหาผมตลอดเวลา
“พูดสิ บอกผมว่าผิดอะไร ทำไมต้องจูบผมด้วยเล่า”
“หึหึ น่ารักจังนะครับ”
นะ น่ารัก น่ารักอีกแล้ว ผมไม่ชอบคำนี้จริงๆนะ ผมว่าตอนนี้หน้าผมคงแดงขึ้นอีกแน่ๆ แย่ละสิ ต้องโมโห ติวเตอร์ข้อตกลง
“นี่! ข้อตกลงว่ายังไง บอกแล้วใช่ไหมฮะว่าอย่าพูดว่าผมน่ารักน่ะ”
“ครับ ข้อตกลงว่าไง พี่ก็บอกติวเตอร์แล้วใช่ไหม ว่าถ้าไม่เรียก พี่ทาม แทนตัวเองด้วยชื่อ พี่จะทำโทษเราในแบบของพี่ มาให้พี่ทำโทษดีๆดีกว่านะครับ พี่รับปากเลยว่าจะให้คำตอบว่าจะตกลงไหมภายในอาทิตย์นี้”
“ฮึ่ย! พี่พูดแล้วนะ อีก 6 วันผมต้องได้คำตอบ!”
ทำไมผมต้องยอมขนาดนี้นะ เปลืองตัวซะมัด แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องนั้นละก็ ถ้าผมไม่ทำพ่อก็ต้องเดือดร้อน ผมต้องทำ
“อยู่นิ่งๆนะครับ แฟน ของพี่”
“อ้ะ มะ อื้มมมม”
พี่ทามเอื้อมมือขึ้นมาวงทาบไว้ที่แก้มของผม นิ้วโป้ไล้เบาๆที่แผลบนปากของผม ดวงตาเราประสานกันนิ่ง ใจผมเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้นบ้าๆ ใบหน้าพี่ทามก้มลงมาเรื่อยๆ จนจมูกโด่งชิดกับจมูกผมลมหายใจอุ่นร้อนเป่าลดเบาๆ แล้วค่อยๆทาบริมฝีปากหนาของพี่ทามลงที่ริมฝีปากของผมอีกครั้งอย่างช้าๆ ผมได้แต่หลับตาปี๋ เกร็งไปทั้งตัวและหัวใจที่เต้นระรัว พี่ทามไล้ชิมตั้งแต่ริมฝีปากล่าง ไล้วนตรงแผลที่ผมกัดปากตัวเองจนแตกอย่างเบาๆ ไล้ริมฝีปากบน ลิ้นร้อนค่อยๆดุนดันเข้าไปในปากผม ตวัดไล้ชิมทุกส่วนภายในปากผมอย่างเล่าร้อน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างนุ่มนวล หอมหวานเหมือนลูกกวาดรสอร่อย จนมีน้ำใสๆไหลเยิ้มมุมปากอย่างไม่ได้ตั้งใจ สมองผมขาวโพลนไปหมด จูบ...มันเป็นแบบนี้เองสินะ
...
สวัสดีค่า เอาคู่ พี่ทาม น้องติวเตอร์ มาลงให้อ่านกันไปพรางๆ น่ารักกันไหมคะ
จริงๆกลัวคนอ่านลืมTT แง
เม้นๆเค้าด้วยน้า ไว้จะมาอัพให้เรื่อยนะ ให้ผ่านช่วงมรสุมนี้ไปก่อน อย่าทิ้งเค้าน้า
ปลล.เรื่องแก้คำผิดต่างๆเอาไว้หลังๆค่อยแก้นะคะ ตอนแรกๆ
ปลลล.นิยายเรื่องนี้สดนะคะ ถ้ามีไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยค่ะ
แฟนเพจค่า
https://www.facebook.com/AkumaBK/ พล็อตแปลกมากอ่ะค่ะ ตอนนี้รีสเริ่มชอบเฟิร์สแล้วสิ ไม่รู้ดร.จะทำอะไรกับร่างกายของรีสบาง รู้สึกสงสารค่ะ เหมือรีสเป็นหุ่นเชิด
พล็อตอปลกยังไงหรอคะ แล้มมันดีหรือไม่ดี มีอะไรเม้นๆบอกกันได้เลยน้า อ่านพี่ทามน้องติวเตอร์ก่อนน้า ไว้คราวหน้ามาดูคู่หลักกันต่อ
ไรต์เตอร์สู้ๆนะคะ ^^
ขอบคุณนะคะ มีกำลังขึ้นมาเลย เข้ามาอ่านคอมเม้นทีไร ชื่นใจทุกที ต้องขอิภัยในความล่าช้าด้วยนะคะ