นางนก…..สองหัว
ผมกับไอ่โอเดินห่างจากคินไปได้สักระยะ แล้วค่อยวกกลับมาแอบซุ่มดูอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ
จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเจ้าคินที่จะต้องถูกพาเข้าไปในสมาคมนั้น เป็นคนเปิดทางให้พวกผมเข้าไป
ตอนนี้พวกผมกำลังรอเวลา
“นั่นใครน่ะ”
เสียงแว่วมาไกลๆของเหล่าบรรดาทหารลอยข้ามแม่น้ำมา ผมเห็นกระบอกปืนทั้ง 5 ตั้งตรงมายังนางนกต่อ
เราทั้งสองเหงื่อซึมออกมามาก ด้วยความร้อนกับความกลัวที่อะไรจะผิดแผน เกิดเป็นเรื่องที่ร้ายแรงเกินไป
ใจเย็นไว้ๆ
สักพักทหารนายหนึ่งก็เดินเข้าไปใกล้คินมากขึ้น เขาหยุดแล้ว…..
ปลายกระบอกปืนกลจ่อเข้าที่หัวน้อยๆนั่น
พึ่บ
เกิดการเคลื่อนไหวข้างๆผม…..ไอ่โอกำลังจะเคลื่อนย้ายไปแล้ว
“อย่า โอ….” ผมกระชากข้อมือมันกลับมาถึงแม่ว่าจะสู้แรงมันไม่ได้ก็เหอะ แต่มันก็หยุด
ไอ่โอมองกลับมา…มันขมวดคิ้ว พลางมองไปทางคิน
“เราต้องไว้ใจคิน….คินมันเก่งในเรื่องปรับตัวเชื่อสิ”
คิ้วที่มัดเป็นปมของโอกลับแน่นเข้าไปอีก นี่จะบอกกูว่าไม่เชื่อใช่มั้ยนี่
“ถึงแกไปตอนนี้ ทุกอย่างอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้…..ไว้ใจคินมันหน่อย”
แขนที่ผมจับไว้นั้น สัมผัสได้ถึงแรงที่ผ่อนลง แล้วมันก็ยอมนั่งลงข้างๆผมอีกรอบ
“ฟู่….เอาล่ะเริ่มไปได้ด้วยดี”
ภาพที่เห็นตอนนี้คือ คินซึ่งถูกทหาร 2 นายช่วยกันแบกหัว 1 และหางเอ้ยขาอีก1 หายเข้าไปในป่าทึบ
แค่นี้แผนA ก็ผ่านไป 1 จุดละ ที่เหลือก็รอเวลา
“เอาล่ะโอ มาทบทวนแผนการกันอีกรอบ”
ผมกางกระดาษแผนออกแบกับพื้น
“ตอนนี้เราต้องให้เวลาคิน ที่จะต้องปล่อยตัวรับสัญญาณของนายให้ตกอยู่ภายในสมาคม”
“แล้วต่อไปพอถึงเวลานัดหมาย โอ แกก็เคลื่อนย้ายเราทั้งคู่ไปยังตัวรับของคิน”
ไอ่โอพยักหน้ารับรู้
“จากนั้นเราสองคน รีบ บุกเข้าไปยังใจกลางของสาคมเพื่อไปเอาข้อมูลในนั้น”
“จำไว้นะโอ ไม่ว่าอะไรจะเกิด จุดประสงค์ที่1 คือเราต้องเอาข้อมูลมาให้ได้”
ผมเงยหน้ามองไปทางไอ่โอ
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น…..แกต้องกลับไปพร้อม้อมูลนั้น เข้าใจไหม”
“แต่….” เสียงต่ำๆ เป็นเอกลักษณ์ ของมันเอ่ยขึ้นมา เล่นเอาผมชงักไป นี่มันพูดอีกแล้ว…..เดี๋ยวนี้ชักบ่อย
“ไม่มีแต่โอ….นั่นคือหน้าที่….เอาล่ะได้เวลาแล้ว ไปกันได้”
แต่โอมันยังไม่ยอมเคลื่อนไหว สายตาที่มองมาแสดงความไม่พอใจ
“เอาน่าไอ่โอ แกก็รู้ฉันหมายถึงเราต้องกลับไปด้วยกันนั่นล่ะ อ้อ แล้วก็คินด้วย” อิอิ เกือบลืมมันไว้ละ
“สัญญา….” เง้อ วันนี้เป็นไรของมันวะพูดเยอะชิบ
“อ่าๆ สัญญาก็สัญญา ไปได้ยัง”
ไอ่โอยิ้มเล็กๆ ก่อนจะเดินเข้ามาจับมือผมไว้
พรึ่บ
สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป จากป่ากลายเป็นห้องสีขาวโพลน
แต่ยังไม่ทัมที่ผมจะได้สติ หรือมองสำรวจไปทางใดเสียงต้อนรับก็ดังขึ้น
“มากันได้สักที”
“คิน”
“โห แกนี่เองตกใจหมดนึกว่าพวกมัน” ผมเดินไปหาคิน
แต่มือใหญ่ของไอ่โอกลับกระชากตัวผมมาไม่ให้ไปต่อ
“ไรวะ ไอ่โอ”
ตอนนี้สายตาของโอจับจ้องไปยังคินอย่างครุ่นคิด……ผมได้แต่มองไปทางมันที ทางคินที
“แปลก” โอว่า
“แปลกไงวะไอ่โอ” ผมหันไปทางคินพลางคิด
คิน….คีน่า…..แรด…..กรี้ดกร้าด……อร้าย……..แอร้ย……..
แต่นี่
คิน…..เงียบ…..ขรึม…….สงบ…..
“แกเป็นใคร” ผมกลับมาตั้งท่าเตรียมพร้อม โซ่ที่พันไว้รอบเอวตอนนี้มันอยู่ในมือเรียบร้อย พร้อมกับการใช้งาน
“อะไรจ้ะ จำเพื่อนไม่ได้รึไง” คินเดินมาช้าๆ รอยยิ้มเย็นยะเยือกแผ่ความหนาวเย็นเข้ามาจับใจ
“หยุดอยู่นั่นเลยมึง”
ทว่าคินยังเดินเข้ามาต่อ
ผมพุ่งเข้าไปด้วยความเร็ว ดูท่าคินเองก็ตกใจไม่ใช่น้อยที่อยู่ๆผมก็ตรงเข้าไปหา
ผนึก
โซ่ทั้ง 2 เส้นเข้ารัดร่างของคินทันที แม่กุญแจอีก 2 อันถูกผมกดเข้าเพื่อยึดตรึงการเคลื่อนไหวของคินไว้
สำเร็จ
“เรียบร้อย”
“คริๆ” แต่คินมันกลับหัวเราะออกมา
หมอกสีม่วงฟุ้งกระจายอยู่บริเวณพื้น……เทพแห่งความตาย
มันกำลังอยู่ข้างหลังโอ มือที่มีแต่กระดูกโอบอ้อมคอมายังหน้าอกด้านหน้า
“โอ หนีไป”
“คริๆ ไม่ทันหรอกจ้ะ กว่าจะเคลื่อนย้ายไปต้องใช้เวลาสัก 1-2 วินาที เวลาแค่นั้นก็พอแล้วสำหรับการสัมผัส คริๆ”
คิน หัวเราะอย่างสนุกสนาน ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข เหมือนกับได้แกล้งคน
“คิน ขอร้องล่ะ”
“ปลดผนึกฉันออก ก่อน”
ผมไม่มีตัวเลือกอื่น เทพแห่งความตาย เป็นความสามารถที่อันตรายหากแค่สัมผัสโดนตัวเท่านั้นล่ะสามารถฆ่าคนได้ง่ายๆ
ปลด
โซ่ตรวนทั้งหมดถูกทิ้งลงพื้น….คินยังยิ้ม
“เป็นเด็กดีจริงๆ กาย” คินยังยิ้ม
มือกระดูกของเทพแห่งความตายค่อยอ้าออกจากโอ…….
“แต่นายซื่อเกินไป”
สิ้นเสียงคิน มือของเทพแห่งความตาย ก็จ้วงลงกลางอกของโอทันที
“ไอ่โอ” ผมตะโกนลั่น
โอยืนนิ่งตาเปิดค้างด้วยความตกใจ
“ตายซะนะจ้ะ พ่อหนุ่ม”
ร่างของโอทรุดลงกับพื้นในทันทีที่คินพูดจบ
ผมเข้าไปหาโอทันที แต่ทว่ายังไม่ทันที่จะไปถึง………ร่างกระดูกสีม่วงนั้นก็โผล่ออกมาจากกลุ่มควันขวางผมไว้
“ไม่ต้องรีบนะจ้ะ…..เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว คริๆๆๆ”
มือนั้นสวนเข้ามา มันล้วงผ่านทะลุเข้าไปในท้องของผม
“บ้าย บาย กาย….”
………………………………………………